44 บทเรียนออนไลนท์ ส่ี ร้ำงด้วย google sites
45 แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิทำงกำรเรยี น
46 นักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 2/5 เรยี นบทเรยี นออนไลน์
47 แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น รายวิชา ว20112 วิทยาการคานวณ ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2562 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 โรงเรยี นประโคนชยั พทิ ยาคม อาเภอประโคนชยั จังหวัดบรุ ีรมั ย์ คะแนนเตม็ 20 คะแนน เวลา 30 นาที คาชีแ้ จง ให้ทำเคร่อื งหมำย X ทบั ตัวอกั ษรหน้ำคำตอบทีถ่ กู ที่สดุ เพียงขอ้ เดียว 1. ขอ้ ใดหมายถึงแนวคดิ เชิงคานวณ ก. Computer Thinking ข. Computational Thinking ค. Complete Thinking ง. Calculator Thinking 2. ข้อใด ไม่ใช่ องคป์ ระกอบของแนวคิดเชิงคานวณ ก. แนวคดิ เชงิ นำมธรรม ข. แนวคดิ กำรแยกยอ่ ย ค. แนวคดิ กำรหำรปู แบบ ง. แนวคดิ เชงิ รปู ธรรม 3. แนวคดิ เชิงคานวณท่ีแตกปญั หาใหญ่ออกเปน็ ปญั หาย่อยหมายถงึ คือข้อใด ก. แนวคิดเชงิ นำมธรรม ข. แนวคดิ กำรแยกย่อย ค. แนวคดิ กำรหำรปู แบบ ง. แนวคิดเชิงรูปธรรม 4. เม่อื ครสู งั่ ให้เขา้ แถวตามลาดบั ความสูงของนักเรยี นใหเ้ ร็วที่สดุ ส่งิ แรกทีค่ วรทาคอื ขอ้ ใด ก. เรยี งลำดบั ตำมควำมสูงจำกนอ้ ยไปหำมำก ข. เรียงลำดบั ตำมควำมสงู จำกมำกไปหำน้อย ค. กำหนดนกั เรยี นคนแรกให้เปน็ นักเรียนตำแหนง่ หลัก ง. แบง่ กลุ่มออกเปน็ 2 กลุ่มโดยกำหนดเง่ือนไขให้ละเอยี ด 5. ขอ้ ใดคอื ประโยชน์ของการแก้ปัญหาโดยใช้แนวคดิ เชงิ คานวณ ก. สำมำรถแกป้ ัญหำได้อยำ่ งรวดเรว็ ข. สำมำรถบนั ทกึ แนวทำงกำรแก้ปญั หำได้ ค. สำมำรถแกป้ ัญหำได้อย่ำงเปน็ ระบบ ง. สำมำรถแกป้ ัญหำโดยใช้กำรคำนวณจำกคอมพิวเตอร์
48 6. แนวคดิ การแยกยอ่ ยเปน็ องคป์ ระกอบของแนวคิดใด ก. แนวคดิ เชงิ คำนวณ ข. แนวคดิ เชงิ ตรรกะ ค. แนวคิดเชงิ รวบยอด ง. แนวคดิ เชงิ นำมธรรม 7. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ แนวคิดเชงิ คานวณได้ถูกตอ้ ง ก. เป็นกำรแกป้ ัญหำจำกใหญไ่ ปยอ่ ย ข. เปน็ ทกั ษะกำรแก้ปญั หำที่ซับซอ้ น ค. เปน็ ทักษะทใี่ ชใ้ นกำรประดิษฐห์ ุ่นยนต์ ง. เป็นทกั ษะสำคัญท่ีนกั พฒั นำซอฟตแ์ วรค์ วรมี 8. เม่ือพบกองเสอื้ ผา้ ทปี่ ะปนกนั อยู่เปน็ จานวนมากจะเลอื กแนวทางในการแก้ปญั หาอย่างไรจงึ จะถูกตอ้ ง ก. จดั เรยี งเสือ้ ผ้ำตำมกลุ่ม / แบ่งกลมุ่ เส้อื ผำ่ / จัดเข้ำตเู้ ส้อื ผำ้ ข. แบ่งกลุม่ เสอ้ื ผำ้ / จดั เรยี งเสอ้ื ผำ้ ตำมกลุม่ / จัดเข้ำตเู้ สอื้ ผำ้ ค. แบ่งกลุ่มเส้อื ผำ้ / แยกสีเสอื้ ผ้ำ / แยกประเภทเสอื้ ผ้ำ / จัดเข้ำตู้เสอ้ื ผ้ำ ง. หำวตั ถปุ ระสงคห์ ลกั ในกำรคน้ หำเสอ้ื ผ้ำ / แบ่งกลมุ่ เส้อื ผ้ำตำมวตั ถปุ ระสงคห์ ลกั / จัดเรียงเสอื้ ผำ้ ตำมกลุ่ม 9. เมอ่ื ตอ้ งการแก้ปัญหาตามแนวคิดเชงิ คานวณ ควรทาองคป์ ระกอบใดเปน็ ขนั้ ตอนแรก ก. ทำปญั หำน้ันใหม้ ีขนำดเลก็ ลง เพ่อื ให้สำมำรถจัดกำรปัญหำแต่ละส่วนไดง้ ่ำยขึน้ ข. เปล่ียนรปู แบบปญั หำให้แกไ้ ขปญั หำไดง้ ่ำยข้นึ ค. กำหนดหลักกำรในกำรแกป้ ญั หำ ง. ออกแบบข้ันตอนวธิ ีในกำรแกป้ ญั หำ 10. แนวคดิ ในขอ้ ใดใช้สัญลกั ษณ์ Flowchart แสดงลาดับข้นั ตอนในการแกป้ ญั หา ก. แนวคดิ เชิงนำมธรรม ข. แนวคดิ กำรแยกยอ่ ย ค. แนวคิดกำรออกแบบข้ันตอนวธิ ี ง. แนวคดิ กำรหำรปู แบบ 11. ข้อใดเป็นอปุ กรณ์ที่ทาหน้าที่ในการรบั ขอ้ มลู ก. ปรินตเ์ ตอร์ ข. แปน้ พิมพ์ ค. จอภำพ ง. ลำโพง 12. ข้อใดเป็นอุปกรณ์ประเภทหนว่ ยความจาสารอง ก. แรม ข. รอม ค. ซพี ยี ู ง. ฮำรด์ ดสิ ก์ 13. ข้อใดเป็นอุปกรณท์ ที่ าหนา้ ทใี่ นการแสดงผลขอ้ มูล ก. แฟลชไดรฟ์ ข. จอภำพ ค. แผน่ ซดี ี ง. เมำส์
49 14. ข้อใดคือซอฟตแ์ วร์จดั การฐานขอ้ มลู ก. Microsoft Word ข. Microsoft Excel ค. Microsoft Access ง. Microsoft PowerPoint 15. ข้อใดคอื หน้าที่ของ Input Unit ก. นำขอ้ มลู ทร่ี บั มำเก็บไวใ้ นหน่วยควำมจำเพอ่ื ประมวลผล ข. จดั เก็บขอ้ มูล ค. รับข้อมูลและคำสัง่ จำกผู้ใชเ้ ขำ้ สู่เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ง. แสดงผลลัพธท์ ีป่ ระมวลผลเรยี บร้อยแล้ว 16. ข้อใดไมใ่ ชอ่ งค์ประกอบของการสอื่ สารข้อมูล ก. ผ้ตู รวจสอบสำร ข. ข้อมูลข่ำวสำร ค. ผู้ส่งสำร ง. สอื่ กลำง 17. การถ่ายทอดรายการทีวี เปน็ การสอื่ สารรปู แบบใด ก. กึ่งสองทศิ ทำง ข. สองทศิ ทำง ค. ทิศทำงครงึ่ ง. ทิศทำงเดียว 18. ขอ้ ใดไมใ่ ชส่ ื่อกลางประเภทไรส้ าย ก. อนิ ฟรำเรด ข. ไมโครเวฟ ค. คล่ืนวิทยุ ง. ไฟเบอรอ์ อปติก 19. การเชื่อมต่อระหว่างทวีปเอเชยี กบั ทวีปอเมริกา ควรใช้การเชือ่ มต่อประเภทใด ก. เครือข่ำยระดับประเทศ ข. เครือขำ่ ยส่วนบคุ คล ค. เครือข่ำยท้องถิน่ ง. เครือขำ่ ยระดบั เมือง 20. คอมพิวเตอรป์ ระเภทใดทม่ี ีขนาดใหญท่ ี่สุด และมรี าคาแพงทสี่ ดุ ก. Personal Computer ข. Mainframe Computer ค. Super Computer ง. Workstation Computer
50 แบบประเมินการทางานร่วมกนั ของนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2/5 โรงเรียนประโคนชยั พทิ ยาคม อาเภอประโคนชยั จงั หวดั บรุ ีรมั ย์ ******************** คาชี้แจง ให้ทำเคร่อื งหมำย ลงในช่องระดับคะแนนตำมหวั ขอ้ กำรประเมินกำรทำงำนร่วมกนั โดยใชเ้ กณฑ์กำรใหค้ ะแนน ดงั น้ี ระดบั คะแนน ผลการประเมิน 5 หมำยถงึ ดมี ำก 4 หมำยถงึ ดี 3 หมำยถึง ปำนกลำง 2 หมำยถึง น้อย 1 หมำยถึง น้อยท่สี ดุ กลมุ่ ท.ี่ ................... สมำชิกในกลุ่ม 1. .......................................................................... ตำแหนง่ หวั หนำ้ กล่มุ 2. .......................................................................... ตำแหน่ง สมำชิก 3. .......................................................................... ตำแหนง่ สมำชิก 4. .......................................................................... ตำแหนง่ สมำชิก 5. .......................................................................... ตำแหน่ง เลขำนุกำร หวั ขอ้ การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 543 2 1 1. สมำชกิ ในกลุ่มมีสว่ นร่วมในกำรกำหนดเปำ้ หมำยในกำรทำงำนร่วมกัน 2. มีกำรแบง่ หน้ำท่กี ำรทำงำนเหมำะสมและตรงควำมสำมำรถของสมำชิก 3. สมำชิกในกลุม่ มีกำรทำงำนรว่ มกันอย่ำงเปน็ ขน้ั ตอน 4. สมำชิกในกลุ่มมคี วำมรบั ผิดชอบในหน้ำท่ที ่ไี ดร้ ับมอบหมำย 5. สมำชกิ ในกล่มุ ไดใ้ ช้ทักษะควำมสำมำรถในกำรทำงำนไดอ้ ยำ่ งเต็มท่ี 6. สมำชิกทุกคนในกลุม่ สำมำรถปฏิบัติงำนไดส้ ำเร็จตำมเป้ำหมำย 7. สมำชิกในกลมุ่ มกี ำรแลกเปลย่ี นเรยี นรู้รว่ มกัน 8. สมำชกิ ในกลมุ่ มกี ำรปฏิสัมพนั ธอ์ ย่ำงเปน็ กันเอง 9. สมำชิกในกล่มุ ยอมรบั ฟังควำมคดิ เห็นซึ่งกนั และกนั 10. สมำชกิ ในกลุม่ ยอมรับควำมผิดพลำดของเพอื่ นรว่ มทีม
หัวขอ้ การประเมนิ 51 รวมคะแนน ระดับคุณภาพ รวมทั้งหมด 543 2 1 คะแนนเฉลยี่ สรปุ ผลการประเมิน สรปุ ผลการประเมนิ ค่าเฉลยี่ 4.50 - 5.00 ผลการประเมิน 3.50 - 4.49 มีกำรทำงำนเป็นทมี ดมี ำก 2.50 - 3.49 มกี ำรทำงำนเป็นทีมดี 1.50 - 2.49 มกี ำรทำงำนเปน็ ทีมปำนกลำง 1.00 - 1.49 มกี ำรทำงำนเปน็ ทมี น้อย มกี ำรทำงำนเปน็ ทีมนอ้ ยที่สดุ
52 แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการการเรยี นด้วยบทเรยี นออนไลน์ วชิ า วิทยาการคานวณ สาหรับนักเรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2/5 โรงเรียนประโคนชยั พทิ ยาคม อาเภอประโคนชยั จังหวัดบรุ ีรมั ย์ ตอนท่ี 1 ข้อมูลสว่ นตวั ของแบบสอบถาม คาชแ้ี จง กรุณาทาเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั สภาพที่เป็นจริง 1. เพศ ชาย หญงิ ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจต่อการเรยี นด้วย คาชีแ้ จง โปรดกาหนดระดับความพงึ พอใจตอ่ การการเรียนด้วยบทเรยี นออนไลน์ วิชา วิทยาการคานวณ สาหรับนักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2/5 โดยทาเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ความคิดเห็นของนกั เรียน (5 = มากที่สุด, 4 = มาก, 3 = ปานกลาง, 2 = น้อย, 1 = นอ้ ยทสี่ ดุ ) ลาดับ รายการประเมิน ระดบั ความคดิ เห็น 54321 1 ดา้ นเนื้อหาและการดาเนนิ เร่ือง 1.1 ปริมาณของเนอื้ หาเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 1.2 ความชัดเจนในการอธบิ ายเนอ้ื หา 1.3 ความนา่ สนใจในการดาเนนิ เรือ่ ง 2 ดา้ นรปู ภาพ และภาษา 2.1 ขนาดของภาพทีใ่ ช้ประกอบบทเรียน 2.2 รปู ภาพทีใ่ ช้ประกอบบทเรยี น 2.3 ภาพเคลอื่ นไหวทีใ่ ชป้ ระกอบบทเรียน 2.4 ภาพกราฟิกทใ่ี ชป้ ระกอบบทเรียน 2.5 ความเข้าใจเก่ียวกับภาษาที่ใช้ในบทเรยี น 3 ด้านตัวอกั ษร และสี 3.1 รูปแบบของตวั อกั ษรทใี่ ช้ 3.2 ขนาดของตวั อกั ษร และพ้นื หลังของบทเรียน 4 ด้านแบบทดสอบ 4.1 แบบทดสอบมีความสอดคล้องกับบทเรียน 4.2 ความเหมาะสมของจานวนแบบทดสอบ 4.3 ความเหมาะสมของคาถามต่อเน้ือหา 4.4 ความรวดเร็วในการรายงานผลคะแนน
53 ลาดับ รายการประเมิน 5 ระดับความคดิ เห็น 1 432 5 ด้านการจดั การบทเรยี น 5.1 การใช้งานของบทเรียน งา่ ย และสะดวก 5.2 บทเรยี นมคี วามนา่ สนใจ 5.3 หลังจากศกึ ษาจบบทเรยี นแลว้ ผู้เรียนมีความร้เู พมิ่ ขึน้ 5.4 นาความรูท้ ไ่ี ด้ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั ข้อเสนอแนะ………………………………………………………………………………….............................................................. ……………………………………………………………………………………………….…………………………………..…………………… …………..………………………………………………………………………….............................................................................
Search