เ´ç¡µิ´เ¡Á ¡ÒÃÊÃÒ⧤gเÃoÇo§çºg§lÒe¹site ¨Ñ´·Óâ´Â ¹Ò§ÊÒǡѳ°·Í§ÁÒ¹·Í§เÅ¢·ี่3 ¹Ò§ÊÒÇÍÀิªÞÒ¡Ó»ÃÐ⤹เÅ¢·ี่6 ¹ÒÂÂÊิ¹·Ãเ¢çÁ»ÃÐ⤹ เÅ¢·ี่16 ¹ÒÂÈุÀ³Ñ°¾ิÃิÂÇÒ³ิªÂ เÅ¢·ี่29 ¹ÒÂเÍ¡¾§É¡Í§·Í§ เÅ¢·ี่30
โครงงานคอมพวิ เตอร์ การพฒั นาบทเรยี นออนไลน์ เรือ่ งพัฒนาเว็บไซตเ์ ด็กติดเกม กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี จัดทาโดย 1. นางสาวกัณฐ์ทอง ม่านทอง เลขท่ี 3 2. นางสาวอภชิ ญา กาประโคน เลขที่ 6 3. นายยสินทร เข็มประโคน เลขท่ี 16 4. นายศภุ ณัฐ พริ ยิ วาณชิ ย์ เลขที่ 29 5. นายเอกพงษ์ กองทอง เลขที่ 30 ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 6/4 รายวชิ า ง33258 โครงงานคอมพวิ เตอร์ ปกี ารศึกษา 2562 โรงเรยี นประโคนชยั พิทยาคม อาเภอประโคนชบั จังหวัดบรุ ีรรมั ย์ สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษาบรุ ีรมั ย์ เขต 32
ก เกยี่ วกับโครงงาน โครงงานคอมพิวเตอร์ ช่ือโครงงาน การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ เรอ่ื งพัฒนาเวบ็ ไซต์เดก็ ติดเกม กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ผจู้ ดั ทา 1. นางสาวกณั ฐท์ อง มา่ นทอง เลขท่ี 3 2. นางสาวอภิชญา กาประโคน เลขท่ี 6 3. นายยสินทร เข็มประโคน เลขที่ 16 4. นายศภุ ณฐั พิรยิ วาณิชย์ เลขท่ี 29 5. นายเอกพงษ์ กองทอง เลขที่ 30 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6/4 ครทู ป่ี รึกษาโครงงงาน นางฐิตยิ าภรณ์ ทวี ครทู ี่ปรกู ษาโครงงานรว่ ม - สถานศกึ ษา โรงเรยี นประโคนชัยพทิ ยาคม อาเภอประโคนชัย จ.บรุ รี มั ย์ สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษาบุรีรัมย์ เขต32 ปกี ารศกึ ษา2562
ข กติ ตกิ รรมประกาศ โครงงานนี้สาเรจ็ ขึน้ ได้ดว้ ยความกรณุ าของ นางฐิติยาภรณ์ ทวี ครทู ี่ใหค้ าปรึกษาโครงงาน ใหค้ าเสนอแนะ แนวคดิ ตลอดจนแกไ้ ขข้อบกพรอ่ งตา่ งๆ จนโครงงานเลม่ นเี้ สรจ็ สมบรู ณ์ ผศู้ ึกษาจึงขอขอบพระคณุ เปน็ อย่างสูง ขอขอบคุณเพ่ือนๆ ทช่ี ่วยใหค้ าแนะนาและแลกเปลยี่ นเรยี นรูเ้ กย่ี วกบั การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ในคร้ังน้ี ทา้ ยสดุ นค้ี ณะผ้จู ัดทาหวงั เปน็ อย่างยง่ิ ว่า โครงงานน้จี ะเปน็ ประโยชน์ต่อการศึกษา การพฒั นาบทเรยี นออนไลน์ เรือ่ งพัฒนาเว็บไซต์เด็กติดเกม ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่6 คณะผจู้ ัดทา
ค หัวข้อโครงน : การพฒั นาบทเรียนออนไลน์ เรื่องพัฒนาเวบ็ ไซตเ์ ด็กติดเกม ประเภทของโครงงาน : โครงงานคอมพวิ เตอร์ ผูจ้ ัดทาโครงงาน : 1. นางสาวกณั ฐ์ทอง มา่ นทอง เลขที่ 3 2. นางสาวอภชิ ญา กาประโคน เลขที่ 6 3. นายยสนิ ทร เขม็ ประโคน เลขท1ี่ 6 4. นายศุภณัฐ พริ ยิ วาณชิ ย์ เลขท่ี29 5. นายเอกพงษ์ กองทอง เลขท3ี่ 0 ครูที่ปรึกษาโครงงาน : นางฐิตายาภรณ์ ทวี ปีการศกึ ษา : 2562 บทคดั ย่อ การจัดทาโครงงานในครัง้ น้ีมีวตั ถุประสงค์ (1) เพื่อพฒั นาเว็บไซตเ์ รื่องเดก็ ติดเกมส์ (2) เพื่อศึกษาหาความรเู้ กยี่ วกับการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ (3) เพื่อศึกษาหาความรูเ้ กยี่ วกบั เรอื่ งปัญหาเดก็ ตดิ เกมส์ (4) เพ่ือศึกษาหาความรเู้ กยี่ วกับวธิ กี ารพัฒนาเว็บไซต์ด้วยโปรมแกรม Google site ผลการศกึ ษาและจัดทาโครงงานพบวา่ การจัดทาโครงงานในคัง้ นีม้ ีวัตถปุ ระสงค์ เพื่อพฒั นาเวบ็ ไซต์ เรือ่ งเด็กติดเกมส์ได้ศึกษาหาความรเู้ กีย่ วกบั การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ศึกษาหาความรู้เก่ียวกบั เรื่องปญั หาเดก็ ติดเกมส์ และศึกษาหาความรู้เก่ียวกบั วิธกี ารพฒั นาเวบ็ ไซตด์ ้วยโปรมแกรม Google site จากการศึกษาและพัฒนาพบว่า เวบ็ ไซต์ เร่อื ง เด็กติดเกมส์ เป็นเว็บไซต์ที่พฒั นาดว้ ยโปรแกรม Google Site โดยสามารถเข้าศึกษาผา่ นเวบ็ ไซต์ www.gg.gg/kiddangers ในเว็บไซต์ไดน้ าเสนอเน้ือหาเกี่ยวกบั เด็กติดเกมส์ การแก้ไขปัญหาเด็กติดเกมส์ และในการจดั ทาโครงงานครง้ั น้ีคณะผูจ้ ดั ทายงั ไดร้ ับความรู้ความเข้าใจในการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ และการทาเว็บไซต์ดว้ ยโปรแกรม Google Site ทีม่ ีเนอิ้ หาเกย่ี วกบั เด็กติดเกมส์ การแกไ้ ขปัญหา ไดอ้ ยา่ งครบถ้วน ง
สารบญั หนา้ ก เรื่อง ข เกย่ี วกับโครงงาน ค กติ ตกิ รรมประกาศ ง บทคัดย่อ จ สารบญั ฉ สารบัญตาราง 1 สารบญั ภาพ 1 บทที่ 1 บทนา 2 2 -ทม่ี าและความสาคญั ของโครงงาน 2 - วัตถุประสงค์ 3 - ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า 3 - ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั 12 บทท่ี 2 เอกสารและโครงงานที่เก่ียวข้อง 14 - การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ 17 - การพัฒนาบทเรยี นออนไลน์ 32 - พฒั นาเว็บไซตเ์ ด็กติดเกมส์ 34 - โปรแกรมgoogle site 34 - โครงงาน่ทเ่ี กี่ยวข้อง 34 บทท่ี 3 วธิ กี ารจัดทาโครงงาน 38 - วสั ดแุ ละอุปกรณ์ 40 - วธิ กี ารจดั ทาโครงงาน 40 บทท่ี 4 ผลการศกึ ษา 40 บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ 40 - สรุปผลการศกึ ษา 41 - ประโยชนท์ ่ีไดจ้ ากโครงงาน 42 - ข้อเสนอแนะ 45 บรรณานกุ รม ภาคผนวก ขอ้ มูลผู้จดั ทา
สารบญั ตาราง จ ตางรางท่ี หน้า 1.ตารางการจดั ทาเครา้ โครง 7
ฉ สารบัญภาพ ภาพท่ี หน้า 1.ไปท่ี google.co.th คลกิ ลงช่อื เขา้ สูร่ ะบบ 17 2.คลิกทปี่ ุม่ แล้วคลกิ ท่ี Sites 18 3.คลิกที่ New Google Sites 18 4.คลิกท่ี เพ่อื สรา้ ง Sites 19 5.ตงั้ ช่อื Sites ทีส่ รา้ ง 19 6.คลกิ ท่ี THEMES 20 7.คลกิ เลือก theme ท่ีต้องการ 20 8.คลกิ ที่ Add Logo 21 9.คลิกท่ี UPLOAD 21 10.เลือกไฟล์ Logo แล้วคลกิ Open 21 11.เลอื ก Background เป็น Transparent 22 12.จะได้ Logo ตามภาพ 22 13.คลกิ ที่กล่องข้อความ 22 14.ใสข่ อ้ ความทตี่ ้องการลงไป สามารถปรับขนาดตัวอักษร และกล่องข้อความได้ 23 15.คลกิ ที่ Header Type 23 16.เลอื กประเภทของ Header 23 17.คลิกที่ Text box 24 18.สามารถปรบั ตวั อักษร และกล่องข้อความได้ ถา้ ต้องการ ลบกลอ่ งขอ้ ความให้คลิกไอคอนถงั ขยะด้านหนา้ 24 19.คลิกที่ Upload แลว้ เลอื กรปู ภาพทตี่ อ้ งการใส่ แตถ่ า้ ต้องการใส่รูปจากเวบ็ หรือ google drive ใหค้ ลิกที่ Image 25 20.สามารถต้องการปรับขนาด ปรับตาแหนง่ การวางรปู ภาพได้ 25 21.ไปทเ่ี มนู PAGES คลิกท่ี่ป่ม + ด้านล่าง เลือก New page 26 22.ตั้งชือ่ เพจ แล้วคลิก DONE 26
23.ไปท่เี มนู Insert คลิกท่ี YouTube แลว้ คน้ หาวดิ โี อ 27 เลอื กวิดโี อท่ตี อ้ งการแลว้ คลกิ Select 27 28 24.สามารถปรับขนาดวิดโี อได้ 28 25.ไปที่เมนู Insert คลกิ ที่ From Drive 29 26.เลือก folder แล้วคลิก INSERT 29 27.ใสข่ ้อความบอกรายละเอียด โดยใชก้ ลอ่ งข้อความ 30 28.คลิกทีป่ ุ่ม PUBLISH ต้ังช่ือไซต์ จากนนั้ คลิกที่ MANAGE 30 29.เลอื ก Anyone can find and view the published version 31 30.เลือก Anyone can find and view the published version 34 31.คลิกป่มุ publish 35 32.คดั เลอื กหัวขอ้ ที่สนใจ 35 33.ศึกษาคน้ ควา้ จากเอกสารและแหล่งข้อมลู 36 34.จดั ทาเค้าโครงของโครงงาน 37 35.การลงมือทาโครงงาน 37 36.การเขยี นรายงาน 36 37 การนาเสนอและแสดงโครงงาน 37 38.หนา้ หลกั 37 39.การตดิ เกมมีข้อเสียอยา่ งไร? 38 40.เดี๋ยวนมี้ เี ด็กตดิ เกมเยอะไหม? 38 41.รักษาไดห้ รอื เปล่า? 39 42.สาเหตขุ องเด็กตดิ เกม 39 43.การแกป้ ัญหาเด็กตดิ เกม 44.แบบสอบถาม
บทท่ี 1 บทนา ทมี่ าและความสาคัญของโครงงาน เน่อื งจากปจั จุบันมีเด็กทสี่ ร้างปัญหาต่างๆมากมาย เช่น ขโมย ว่ิงราวทรพั ท์ ทาร้ายรางกาย สาเหตอุ าจจะมาจากเด็กตดิ เกม จงึ ทาให้เกิดพฤตกิ รรมต่างๆตามมาเชน่ หนีเรยี น ขโมยเงินเพื่อไปเลน่ เกม คณะผู้จัดทาจงึ สนใจและศกึ ษาเรื่อง เด็กติดเกม บทเรยี นออนไลน์ หมายถึงบทเรยี นท่ีจดั ทาข้ึนเป็นสอ่ื การสอน ผา่ นระบบเครือข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ ประกอบไปด้วยโครงสร้างหลักสูตร คาอธิบายรายวชิ า หนว่ ยการเรียนรู้ การวางแผนการจัดการเรียนรู้ เนื้อหาแบบทดสอบ แบบฝึกทักษะเพ่ือให้นักเรยี นและผทู้ ี่สนใจศึกษา สามารถศึกษาค้นคว้าความรู้ได้ดว้ ยตนเองโดยออกแบบไว้ให้โตต้ อบกับผเู้ รยี นได้ เดก็ ติดเกม คือ การเล่นเกมตดิ ต่อกันนานหลานวนั หรอื หลายเดือน จนไม่สามารถควบคุมตนเองได้หากถูกบังคับให้เลิกหรือหยุดเล่นจะต่อต้าน หรือมปี ฏกิ ริยาหงุดหงดิ ไมพ่ อใจอย่างรนุ แรง บางคนถงึ ขน้ั กา้ วรา้ วการเล่นของเด็กมผี ลกระทบต่อหน้าที่ความรบั ผดิ ชอบของเด็ก เชน่ เดก็ ไม่สนใจการเรยี น ไมส่ นใจท่จี ะทาการบ้าน หนเี รยี นหรอื แอบหนีออกจากบ้านเพ่อื จะไปเลน่ เกม การเรียนตกลงอยา่ งมาก ละเลยการเข้าสังคม หรือทากิจกรรมร่วมกับครอบครวั บางรายอาจมีปัญหาพฤติกรรมอ่ืนๆร่วมดว้ ย เชน่ โกหก ลกั ขโมย (เพ่ือนาเงนิ ไปเลน่ เกม) ด้ือต่อตา้ นแยกตัว เกบ็ ตัว ฯลฯ จากผลดังกล่าวขา้ งตน้ คณะผจู้ ัดทาจึงสนใจทจี่ ะศกึ ษาเเละพัฒนาเว็บไซต์เด็กตดิ เกม เพ่ือเป็นเเหลง่ ข้อมูลหรือเเหล่งเรยี นรู้ให้ผูท้ สี่ นใจมาศึกษาข้อมูลในการแก้ไขปัญหาหรือป้องกนั ตนเอง จากการเล่นเกมส์
2 วัตถุประสงค์ 1) เพ่ือพัฒนาเวบ็ ไซต์เร่ืองเด็กติดเกมส์ 2) เพ่ือศึกษาหาความรูเ้ กยี่ วกับการทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ 3) เพ่ือศึกษาหาความรู้เก่ียวกับเร่ืองปัญหาเด็กติดเกมส์ 4) เพื่อศึกษาหาความร้เู ก่ียวกับวิธีการพฒั นาเวบ็ ไซตด์ ว้ ย โปรมแกรม Google site ขอบเขตของการศกึ ษาค้นคว้า พัฒนาเวบ็ ไซต์ด้วยโปรเเกรมGoogle site ซึ่งโปรเเกรมน้ีมีคุณลกั ษณะคือโปรแกรมของ Google ทีใ่ ห้บรกิ ารสรา้ งเวบ็ ไซต์ฟรี สามารถสรา้ งเว็บไซต์ได้งา่ ย ปรับแตง่ รูปลักษณ์ได้อยา่ งอสิ ระ และสามารถรวบรวมความหลากหลายของข้อมูลไว้ในทเ่ี ดยี ว เชน่ วดิ โี อ, ปฏทิ ิน, เอกสาร อืน่ ๆ สามารถนามาแทรกในหนา้ เว็บเพจได้ เป็นการเพ่มิ ลูกเล่น ใช้งานได้ง่าย ทาให้ชว่ ยอานวยความสะดวกไดเ้ ป็นอย่างมาก โดยในเวบ็ ไซต์จะประกอบไปด้วยเน้ือหาเร่อื งเด็กติดเกมทเ่ี ปน็ ปัญหาเเละสาเหตขุ องการตดิ เกม การปอ้ งกันการติดเกมเเละมีการทดสอบความพึงพอใจในการศึกษา ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ 1) ไดเ้ ว็บไซต์เร่อื งเดก็ ติดเกมส์ 2) ไดค้ วามรู้เก่ียวกับการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ 3) ได้ความรเู้ กี่ยวกบั เรื่องปญั หาเดก็ ติดเกมส์ 4) ได้ความรู้เกยี่ วกบั วธิ ีการพัฒนาเวบ็ ไซตด์ ้วยโปรมแกรม Google site
บทที่ 2 เอกสารและโครงงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ในการจัดทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ คณะผจู้ ดั ทาได้ศึกษาคน้ คว้าเอกสารและโครงงานท่ีเกี่ยวข้องกับการพฒั นาบทเรียนออนไลน์ เร่อื งพัฒนาเวบ็ ไซตเ์ ด็กติดเกม ดงั รายละเอียดต่อไปน้ี 1. การทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ 2. การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ 3. พัฒนาเวบ็ ไซตเ์ ด็กติดเกมส์ 4. โปรแกรมgoogle site 5. โครงงานท่เ่ี กยี่ วข้อง การทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ 1. ความหมายของโครงงานคอมพวิ เตอร์ หมายถงึ กจิ กรรมการเรยี นท่ีนักเรยี นมีอสิ ระในการเลอื กศึกษาปัญหาท่ีตนเองสนใจ โดยจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศกึ ษา พัฒนาโปรแกรม โดยใชค้ วามรทู้ างกระบวนการวศิ วกรรมซอฟตแ์ วร์ เครื่องคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพ้นื ฐานในการพัฒนาโครงงาน เร่ืองทนี่ ักเรียนสนใจและคดิ จะทาโครงงาน 2. ประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์ ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์มีประเภทของคอมพวิ เตอร์ 5 ประเภท ดังน้ี 2.1 โครงงานพฒั นาสอื่ เพื่อการศกึ ษา (Educational Media) เปน็ โครงงานท่ีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลติ สอ่ื เพ่ือการศกึ ษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรยี น หรือหนว่ ยการเรยี น ซ่ึงอาจจะต้องมภี าคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรยี นแบบรายบุคคลหรือรายกล่มุ การสอนโดยใช้คอมพวิ เตอร์ช่วยน้ี ถือวา่ เครอื่ งคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณก์ ารสอน ไม่ใช่เป็นครูผสู้ อน ซง่ึ อาจเป็นการพัฒนาบทเรยี นแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนสี้ ามารถพฒั นาขน้ึ เพ่ือใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไมว่ า่ จะเป็นสาขาคอมพวิ เตอร์ วิชาคณิตศาสตร์
4 วชิ าวิทยาศาสตร์ วชิ าสงั คม วิชาชีพอนื่ ๆ ฯลฯ โดยนกั เรียนอาจคดั เลือกหวั ข้อทนี่ กั เรียนทัว่ ไปท่ีทาความเข้าใจยาก มาเปน็ หวั ขอ้ ในการพฒั นาโปรแกรมบทเรยี น ตัวอย่างเชน่ โปรแกรมสอนวธิ ีการใช้งาน ระบบสรุ ยิ ะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวชิ าต่างๆ 2.2 โครงงานพฒั นาเครื่องมือ (Tools Development) เป็นโครงงานเพอื่ พัฒนาเครื่องมือมาใช้ชว่ ยสรา้ งงานประยุกต์ตา่ ง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตวั อยา่ งของเคร่ืองมือช่วยงาน เช่น ซอฟตแ์ วรว์ าดรูป ซอฟตแ์ วรพ์ มิ พ์งาน ซอฟตแ์ วรช์ ่วยการมองวัตถใุ นมุมตา่ ง ๆ เปน็ ตน้ สาหรับซอฟต์แวรเ์ พื่อการพมิ พง์ านน้ันสรา้ งข้ึนเป็น โปรแกรมประมวลผลภาษา ซ่ึงจะเป็นเครื่องมือให้เราใชง้ านในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ ป็นไปได้โดยง่าย ซ่ึงรปู ที่ไดส้ ามารถนาไปใช้งานตา่ ง ๆ ได้มากมาย สาหรับซอฟต์แวร์ชว่ ยในการมองวตั ถุในมุมต่าง ๆ ใชส้ าหรับช่วยในการออกแบบส่งิ ของต่าง ๆ เชน่ โปรแกรมประเภท 3D 2.3 โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี (Theory Experiment) เปน็ โครงงานใชค้ อมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสาขาต่าง ๆ เปน็ โครงงานทผี่ ูท้ าต้องศกึ ษารวบรวมความรู้ หลกั การ ข้อเท็จจรงิ และแนวความคดิ ต่าง ๆ อยา่ งลึกซ้ึงในเร่อื งท่ีต้องการศึกษา แล้วเสนอเปน็ แนวคิด แบบจาลอง หลกั การ ซง่ึ อาจอยใู่ นรปู ของสมการ สตู ร หรือคาอธบิ ายก็ได้ พร้อมทง้ั นาเสนอวิธีการจาลองทฤษฎดี ้วยคอมพิวเตอร์ การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคญั อยู่ทผ่ี ูท้ าต้องมีความรู้เรอื่ งนั้น ๆ เป็นอย่างดี ตวั อย่าง เช่น การทดลองเรอ่ื งการไหลของเหลว การทดลองเรือ่ งพฤติกรรมของปลาอโรวานา่ ทฤษฎีการแบ่งแยกดเี อ็นเอ เป็นตน้ 2.4 โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application) เปน็ โครงงานที่ใชค้ อมพวิ เตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกตใ์ ชง้ านจรงิ ในชวี ิตประจาวัน เช่น ซอฟตแ์ วร์สาหรบั การออกแบบและตกแตง่ อาคาร ซอฟตแ์ วรส์ าหรบั การผสมสี ซอฟตแ์ วร์สาหรบั การระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนจี้ ะมีการประดษิ ฐ์ฮารด์ แวร์ ซอฟตแ์ วร์ หรืออปุ กรณ์ใชส้ อยต่าง ๆ ซึง่ อาจจะสรา้ งใหมห่ รอื ปรับปรงุ ดดั แปลงของเดมิ ทมี่ อี ยู่แล้วใหม้ ี ประสิทธิภาพสงู ข้นึ ก็ได้ โครงงานลักษณะนี้จะตอ้ งศึกษาและ
5 วเิ คราะหค์ วามต้องการของผใู้ ช้กอ่ น แล้วนาข้อมูลทีไ่ ด้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของน้นั ๆ ตอ่ จากนัน้ ต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐแ์ ลว้ ปรบั ปรุงแก้ไขใหม้ ีคว ามสมบรู ณ์ โครงงานประเภทนี้นกั เรียนต้องใช้ความรูเ้ กี่ยวกับเครื่องคอมพวิ เตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ท่ีเกย่ี วข้อง รวมท้งั อาจใชว้ ิธีทางวิศวกรรมฮารด์ แวรแ์ ละซอฟต์แวร์ในการพฒั นาด้วย 2.5 โครงงานพัฒนาเกม (Game Development) เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพอ่ื ความรู้ และ/หรือ ความเพลิดเพลนิ เช่น เกมหมากรกุ เกมหมากฮอส เกมการคานวณเลข ซ่ึงเกมท่ีพัฒนาขึน้ นน้ี า่ จะเน้นให้เปน็ เกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลกั การ โครงงานประเภทน้ีจะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเลน่ เพอ่ื ให้น่าสนใจเกผ่ เู้ ล่น พร้อมทัง้ ให้ความรสู้ อดแทรกไปดว้ ย ผ้พู ัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมลู เก่ียวกบั เกมต่าง ๆ ท่มี ีอยู่ท่วั ไปและนามาปรับปรุงหรอื พฒั นาขึ้นใหมเ่ พื่อใหป้ ็นเกมทแ่ี ปลกใหม่ และนา่ สนใจแก่ผ้เู ล่นกลมุ่ ต่าง ๆ 3. ข้นั ตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ในการจัดทาโครงงานคอมพวิ เตอร์มีขน้ั ตอนการทาโครงงงานคอมพิวเตอรม์ ี 6 ขั้นตอน ดงั นี้ 3.1 คดั เลือกหัวขอ้ โครงงานทีส่ นใจ โดยทั่วไปเรือ่ งที่จะนามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปญั หา คาถาม หรือความสนใจในเร่ืองต่างๆ จากการสงั เกตส่ิงต่างๆ ทเี่ กีย่ วข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ รอบตวั ปัญหาทีจ่ ะนามาพฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์ได้จากแหลง่ ต่างๆ กัน ดงั น้ี 1) การอ่านคน้ ควา้ จากหนงั สือ เอกสาร หนังสือพิมพ์ หรือวารสารตา่ งๆ 2) การไปเย่ียมชมสถานทต่ี ่างๆ 3) การฟังบรรยายทางวชิ าการ รายการวิทยแุ ละโทรทัศน์ รวมทง้ั การสนทนาอภิปรายแลกเปลยี่ นความคิดเหน็ ระหว่างเพือ่ นนักเรียนหรอื กับบุคคลอ่นื ๆ 4) กจิ กรรมการเรียนการสอนในโรงเรยี น 5) งานอดเิ รกของนักเรียน 6) การเขา้ ชมงานนทิ รรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพวิ เตอร์
6 3.2 ศกึ ษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมลู การศึกษาค้นควา้ จากเอกสารและแหล่งข้อมลู ซึง่ รวมถึงการขอคาปรึกษาจากผทู้ รงคุณวุฒิ จะชว่ ยให้นักเรียนได้แนวคดิ ท่ีใชใ้ นการกาหนดขอบเขตของเรื่องท่ีจะศกึ ษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิง่ ขน้ึ รวมท้ังได้ความรู้เพิ่มเติมในเร่ืองที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงาน นน้ั ได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาจะตอ้ งได้คาตอบว่า 1) จะทา อะไร 2) ทาไมต้องทา 3) ต้องการให้เกิดอะไร 4) ทาอยา่ งไร 5) ใช้ทรพั ยากรอะไร 6) ทากับใคร 7) เสนอผลอย่างไร
7 3.3 จดั ทาเคา้ โครงของโครงงาน รายละเอยี ดท่ตี อ้ งระบุ ตารางที่ 1 ตารางการจดั ทาเคร้าโครง รายงาน ชอ่ื โครงงาน ทาอะไร กบั ใคร เพอื่ อะไร ประเภทโครงงาน วเิ คราะห์จากลักษณะของประโยชนห์ รอื ผลงานทไี่ ด้ ชือ่ ผจู้ ดั ทาโครงงาน ผรู้ บั ผิดชอบโครงงาน อาจเป็นรายบุคคล หรอื รายกลุม่ ก็ได้ ครูที่ปรึกษาโครงงาน คร-ู อาจารยผ์ ้ทู าหนา้ ทเ่ี ปน็ ที่ปรึกษา และควบคมุ การทาโครงงานของนกั เรยี น ครทู ี่ปรกึ ษาร่วม คร-ู อาจารย์ผทู้ าหน้าท่ีเปน็ ทป่ี รกึ ษารว่ ม ให้คาแนะนาในการทาโครงงานของนักเรยี น ระยะเวลาดาเนินงาน ระยะเวลาการดาเนินงานโครงงาน ตง้ั แต่เร่ิมตน้ จนสิ้นสุด กาหนดเปน็ วัน หรือเดอื นก็ได้ แนวคดิ ที่มา และความสาคัญ สภาพปจั จุบันทีเ่ ป็นความต้องการและความคาดหวังทจ่ี ะเกิดผล วตั ถุประสงค์ สิ่งท่ตี ้องการให้เกิดข้นึ เมือ่ สน้ิ สุดโครงงานท้งั ในเชิงกระบวนการ และผลผลติ หลักการและทฤษฎี หลกั การและทฤษฎที ่ีนามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน วธิ ดี าเนินงาน กจิ กรรมหรือขั้นตอนการดาเนินงาน เครื่องมอื วสั ดุอุปกรณ์ งบประมาณ และผรู้ ับผดิ ชอบ ขนั้ ตอนการปฏิบัติ วัน เวลา และกิจกรรมดาเนินการต่างๆ ตงั้ แต่เรม่ิ ตน้ จนสิ้นสดุ ผลท่ีคาดว่าจะได้รบั สภาพของผลท่ีต้องการใหเ้ กิด ทง้ั ทเ่ี ปน็ ผลผลิต กระบวนการ และผลกระทบ เอกสารอ้างองิ สื่อเอกสาร ขอ้ มูลที่ได้จากแหล่งต่างๆ ทนี่ ามาใชใ้ นการดาเนนิ งาน
8 3.4 การลงมอื ทาโครงงาน เมอ่ื เคา้ โครงของโครงงานได้รบั ความเห็นชอบจากอาจารยท์ ่ปี รึกษาแล้ว ก็เสมือนว่าการจดั ทาโครงงานได้ผา่ นพ้นไปแล้วมากกว่าครึ่ง ข้นั ตอนต่อไปจะเป็นการลงมือพัฒนาตามข้นั ตอนทวี่ างแผนไว้ ดังน้ี 3.4.1 การเตรียมการ การเตรียมการ ตอ้ งเตรยี มเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ ซอฟต์แวร์ และวสั ดุอื่นๆ ที่จะใชใ้ นการพฒั นาใหพ้ ร้อมด้วย และควรเตรยี มสมดุ บันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สาหรบั บนั ทกึ การทากิจกรรมต่างๆ ระหว่างทาโครงงาน ได้แก่ ไดป้ ฏิบตั ิอยา่ งไร ไดผ้ ลอย่างไร มีปญั หาและแก้ไขได้หรอื ไม่อยา่ งไร รวมทั้งข้อสงั เกตตา่ งๆ ทพ่ี บ 3.4.2 การลงมือพฒั นา 1) ปฏิบัตติ ามแผนงานทว่ี างไวใ้ นเคา้ โครง แต่อาจเปล่ยี นแปลงหรือเพมิ่ เตมิ ได้ถ้าพบวา่ จะช่วยทาใหผ้ ลงานดขี น้ึ 2) จัดระบบการทางานโดยทาสว่ นทีเ่ ป็นหลกั สาคญั ๆ ให้แล้วเสรจ็ กอ่ น จงึ ่คอ่ ยทา ส่วนทีเ่ ปน็ ส่วนประกอบหรือส่วนเสรมิ เพอ่ื ให้โครงงานมีความสมบรู ณ์มากข้นึ และถ้ามีการแบ่งงานกนั ทา ให้ตกลงรายละเอียดในการต่อเชื่อมช้ินงานทช่ี ดั เจนด้วย 3) พัฒนาระบบงานดว้ ยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเปน็ ระบบและครบถ้วน 3.4.3 การทดสอบผลงานและแกไ้ ข การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เป็นความจาเป็นเพ่ือให้แน่ใจว่าผลงานทพ่ี ัฒนาข้นึ ทางานไดถ้ กู ต้องตรงกับความต้องการ ทรี่ ะบไุ วใ้ นเปา้ หมายและทาด้วยประสทิ ธิภาพสงู ดว้ ย 3.4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ เมื่อพฒั นาผลงานเรยี บร้อยแล้ว ใหจ้ ัดทาสรุปด้วยขอ้ ความท่สี ้ันกะทัดรัดอย่างครอบคลมุ เพอ่ื ชว่ ยใหผ้ ู้อ่านไดเ้ ข้าใจถงึ สิ่งทคี่ ้นพบจากการทาโครงงาน และทาการอภปิ รายผลดว้ ย เพ่ือพจิ ารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนา ไปหาความสมั พนั ธก์ บั หลกั การ ทฤษฎี หรอื ผลงานทผ่ี อู้ ืน่ ไดศ้ ึกษาไว้แลว้ ทั้งนีย้ งั รวมถึง
9 การนาหลกั การ ทฤษฎี หรอื ผลงานของผู้อน่ื มาใช้ประกอบการอภปิ รายผลที่ได้ดว้ ย 3.4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทาโครงงานเสรจ็ สนิ้ ลงแล้ว นักเรยี นอาจพบข้อสงั เกต ประเด็นทส่ี าคัญ หรอื ปญั หา ซ่ึงสามารถเขยี นเป็นขอ้ เสนอแนะและสิ่งท่ีควรจะศกึ ษาและหรอื ใชป้ ระโยชน์ตอ่ ไปได้ 3.5 การเขียนรายงาน การเขียนรายงานเปน็ วิธกี ารส่อื ความหมายเพ่ือใหผ้ ู้อืน่ ได้เข้าใจแนวคดิ วิธีดาเนนิ การศกึ ษาค้นควา้ ข้อมลู ที่ได้ ตลอดจนข้อสรปุ และข้อเสนอแนะตา่ งๆ เกย่ี วกบั โครงงานนั้น ในการเขยี นรายงานนักเรียนควรใชภ้ าษาท่อี ่านง่าย ชัดเจน กระชบั และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลมุ หัวขอ้ ตา่ งๆเหล่าน้ี 3.5.1 ส่วนนา สว่ นนา เปน็ การให้ขอ้ มลู เกยี่ วกับโครงงานน้ันซึ่งประกอบด้วย 1) ชอ่ื โครงงาน 2) ช่ือผู้ทาโครงงาน 3) ชอื่ อาจารย์ท่ปี รึกษา 4)คาขอบคุณเปน็ คากลา่ วขอบคุณบุคคลหรอื หน่วยงาน ทีม่ สี ่วนชว่ ยทาใหโ้ ครงงานสาเร็จ 5) บทคัดยอ่ อธบิ ายถึงท่มี า ความสาคัญ วัตถุประสงค์ วธิ ดี าเนินการ และผลท่ีไดโ้ ดยย่อ 3.5.2 บทนา บทนาเปน็ สว่ นรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานซงึ่ ประกอบดว้ ย 1) ทีม่ าและความสาคัญของโครงงาน 2) เปา้ หมายของการศึกษาค้นคว้า 3) ขอบเขตของโครงงาน 3.5.3 หลกั การและทฤษฎี หลกั การและทฤษฎี เป็นสว่ นสรปุ ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการ ทฤษฎี หรอื วิธกี ารทจ่ี ะนามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซ่ึงรวมถึงการระบุผลงานของผอู้ น่ื ท่ีนกั เรยี นนามาเปรียบเทียบหรอื พฒั นาเพิ่มเติมดว้ ย
10 3.5.4 วิธดี าเนนิ การ วธิ ดี าเนนิ การ อธิบายข้ันตอนการดาเนินงานโดยละเอียด พร้อมทัง้ ระบุปญั หาหรืออปุ สรรคที่พบพร้อมทงั้ วธิ กี ารทใี่ ชแ้ ก้ไข พร้อมทัง้ ระบุวสั ดอุ ุปกรณท์ ่ีต้องใชใ้ นการทางาน 3.5.5 ผลการศกึ ษา ผลการศึกษา นาเสนอข้อมูลหรือระบบท่พี ัฒนาได้ โดยอาจแสดงเปน็ ตาราง หรอื กราฟ หรือข้อความ ท้งั นี้ใหค้ านงึ ถึงความเขา้ ใจของผอู้ ่านเปน็ หลกั 3.5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปทีไ่ ดจ้ ากการทางาน ถ้ามกี ารต้งั สมมติฐานควรระบุดว้ ยว่าขอ้ มลู ที่ได้สนับสนุนหรือคัดคา้ นสมมตฐิ านที่ตงั้ ไวห้ รือยงั สรปุ ไม่ไ ด้ นอกจากนนั้ ยังควรกลา่ วถึงการนา ผลการทดลองหรือพัฒนาไปใช้ประโยชน์ อปุ สรรคของการทาโครงงาน หรอื ข้อสงั เกตท่ีสาคัญ หรือข้อผดิ พลาดบางประการที่เกดิ ข้ึนจากการทา โครงงานน้ี รวมทงั้ ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื การปรับปรุงแก้ไขหากมีผศู้ ึกษาคน้ ควา้ ในเรอ่ื งทานองนต้ี ่อไปในอนาคตด้วย 3.5.7 ประโยชน์ ประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ทน่ี กั เรียนไดร้ บั จากการพฒั นาโครงงานน้ัน และประโยชนท์ ผ่ี ใู้ ชจ้ ะได้รบั จากการนาผลงานของโครงงานไปใชด้ ว้ ย 3.5.8 บรรณานุกรม บรรณานกุ รม รวบรวมรายช่อื หนังสือ วารสาร เอกสาร หรอื เว็บไซด์ต่างๆ ทผี่ ้ทู า โครงงานใช้ค้นคว้า หรอื อ่านเพอ่ื ศกึ ษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ท่นี ามาใชป้ ระโยชนใ์ นการทา โครงงานนก้ี ารเขียนเอกสารบรรณานุกรมต้องให้ถกู ต้องตามหลกั การเขยี นดว้ ย 3.5.9 การจัดทาคู่มอื การใช้งาน หาโครงงานทนี่ ักเรียนจดั ทา เปน็ การพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา ให้นกั เรียนจดั ทาคู่มืออธบิ ายวิธกี ารใช้ผลงานน้ันโดยละเอยี ด ซ่งึ ประกอบดว้ ย 1) ช่อื ผลงาน 2) ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์ ระบรุ ายละเอยี ดของคอมพวิ เตอร์ท่ีต้องมเี พื่อจะใช้ผลงานน้ันได้ 3) ความต้องการของซอฟตแ์ วร์ ระบรุ ายช่อื ซอฟต์แวรท์ ่ตี ้องมีอยู่ในเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ เพื่อจะให้ผลงานน้นั ทางานได้อยา่ งสมบูรณ์
11 4) คณุ ลักษณะของผลงาน อธบิ ายว่าผลงานน้นั ทา หน้าท่ีอะไรบ้าง รับอะไรเป็นข้อมลู ขาเข้าและสว่ นอะไรออกมาเป็นขอ้ มูลขาออก 5) วิธีการใชง้ านของแตล่ ะฟงั ก์ชนั อธิบายว่าจะตอ้ งกดคาส่ังใด หรือกดปุม่ ใด เพือ่ ให้ผลงานทางานในฟงั ก์ชันหนึง่ ๆ 3.6 การนาเสนอและแสดงโครงงาน การนาเสนอและการแสดงผลงานเป็นขัน้ ตอนท่สี าคญั อีกขัน้ ตอนหน่งึ ของการทาโครงงาน เพอ่ื แสดงออกถึงผลติ ผลความคิด ความพยายามในการทางานทผี่ ทู้ าโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธี ทาใหผ้ ูอ้ ืน่ ไดร้ บั รู้และเข้าใจถึงผลงานน้ัน การเสนอผลงานอาจทาไดใ้ นหลายรปู แบบตา่ งๆ กัน เชน่ การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธบิ ายประกอบการรายงานด้วยคาพดู ในทป่ี ระชุม การจดั นทิ รรศการโดยโปสเตอร์และอธิบายด้วยคาพดู เป็นต้น โดยผลงานที่นามาเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบดว้ ยสิ่งต่อไปน้ี 1) ชือ่ โครงงาน 2) ชือ่ ผ้จู ัดทาโครงงาน 3) ชอ่ื อาจารยท์ ปี่ รึกษา 4) คาอธบิ ายถงึ ทมี่ าและความสาคญั ของโครงงาน 5) วิธกี ารดาเนนิ การท่ีสาคญั 6) การสาธติ ผลงาน 7) ผลการสังเกตและข้อสรปุ สาคัญทีไ่ ด้จากการทาโครงงาน สรุปการทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ เป็นการศกึ ษาคน้ ควา้ พัฒนากิจกรรมการเรียนที่นักเรียน มีอสิ ระในการเลือกศึกษาปัญหาท่ตี นเองสนใจโดยจะตอ้ งวางแผนการดาเนินงานเเละใช้ความรู้ทางกร ะบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครอื่ งคอมพิวเตอร์และอปุ กรณท์ ่เี กี่ยวขอ้ ง โครงงานคอมพิวเตอร์ มีประเภทของ คอมพิวเตอร์ 5 ประเภท ได้แก1่ ) โครงงานพัฒนาสือ่ เพ่ือการศกึ ษา 2) โครงงานพัฒนาเครอ่ื งมือ 3) โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี 4) โครงงานประเภทการประยกุ ตใ์ ช้งาน และ5) โครงงานพัฒนาเกม ในการทาโครงงานคอมพิวเตอร์มขี น้ั ตอนการทาโครงงงานคอมพิวเตอรม์ ี 6 ขน้ั ตอน ได้แก่ 1) คดั เลือกหวั ข้อโครงงานท่ีสนใจ 2) ศึกษาคน้ คว้าจากเอกสารและแหลง่ ข้อมูล 3) จัดทาเค้าโครงของโครงงาน 4) การลงมือทาโครงงาน 5) การเขยี นรายงานและ 6) การนาเสนอและแสดงโครงงาน
12 การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ 1. ความหมายของบทเรยี นออนไลน์ บทเรียนออนไลน์ หมายถงึ บทเรียนท่จี ัดทาขึ้นเป็นสื่อการสอน ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ประกอบไปด้วยโครงสร้างหลกั สูตร คาอธบิ ายรายวชิ า หน่วยการเรยี นรู้ การวางแผนการจดั การเรียนรู้ เนื้อหา แบบทดสอบ แบบฝึกทกั ษะเพื่อใหน้ กั เรียน และผทู้ ส่ี นใจศึกษา สามารถศึกษาคน้ ควา้ ความรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง โดยออกแบบไว้ ให้โต้ตอบกบั ผเู้ รียนได้ 2. ประเภทของบทเรียนออนไลน์ แบ่งออกเปน็ 3ประเภท 2.1 สือ่ เสรมิ (Supplementary) เป็นส่อื ทใี่ ชป้ ระกอบในการเรียนการสอนปกติ ผูเ้ รียนเรยี นแบบปกติ เป็นเพียงส่ือประกอบบทเรยี นบา้ ง เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นศึกษาเพ่ิมเตมิ ทผ่ี เู้ รยี นอาจจะใชห้ รือไม่ใชก้ ็ได้ หรือเป็นการที่ครูคดั ลอกเน้ือหาจากแบบเรยี นไปบรรจไุ วใ้ นอนิ เตอรเ์ น็ต แลว้ แนะนาให้ผูเ้ รยี นไปเปดิ ดู 2.2 ส่อื เพ่มิ เตมิ (Complementary) เปน็ สอื่ ท่ใี ชใ้ นการเรียนการสอนปกติ ผเู้ รียนเรียนแบบปกติ แตม่ ีการกาหนดเน้ือหาให้ศึกษา สืบค้นจากส่ืออิเลคทรอนิกส์ หรอื Website เป็นบางเนอ้ื หา 2.3 สอื่ หลกั (Comprehensive Replacement) เป็นสื่อใชท้ ดแทนการเรียนการสอน / การบรรยายในช้ันเรียน โดยทเี่ น้อื หาท้ังหมดมีความสมบรู ณ์แบบในตวั เองครบกระบวนการเรียนรู้ หรือ เปน็ เนือ้ หาOnline โดยมีการออกแบบให้ใกล้เคียงกับครผู ู้สอนมากทีส่ ดุ เพ่อื ใชท้ ดแทนการสอนของครูโดยตรง 3. ชนิดของบทเรียนออนไลน์ จาแนกตามลักษณะวิธกี ารสือ่ สาร ได้ 2 ชนิด คือ 3.1 ชนดิ ส่ือสารทางเดียว (One-way Communication) คอื การสอ่ื สารในลักษณะท่ผี ูใ้ หส้ ารไมเ่ ปดิ โอกาสให้ผรู้ บั การสื่อสารได้เปน็ ฝ่ายใหส้ ารและไมส่ นใจตอ่ ป ฏกิ ิริยาตอบกลับของอีกฝ่ายหนง่ึ ส่ือชนิดนี้ ไดแ้ ก่ ส่ือชนดิ e-Books ภาพน่งิ ภาพเคลอ่ื นไหว ท่เี นน้ การให้ข้อมลู ถงึ แมจ้ ะให้ผ้เู รียนมีโอกาสสรา้ ง ปฏิสมั พันธ์กบั สือ่ แต่ก็เป็นไปเพ่ือการเลือกศึกษาเน้ือหา ไม่ได้เป็นการโต้ตอบกลบั 3.2 ชนดิ สื่อสารสองทาง (Two-way Communication) คอื การสื่อสารทีม่ ีท้งั ให้และรับขา่ วสารระหว่างกัน โดยทีแ่ ตล่ ะฝ่ายเป็นทัง้ ผู้สง่ สารและผ้รู บั สาร มีการโต้ตอบ ให้ข้อมลู ยอ้ นกลับไปมาสื่อชนดิ น้ีไดแ้ กบ่ ทเรียน CAI ชนดิ ทม่ี ีปฏสิ ัมพันธ์ หรอื ระบบจัดการบทเรยี น (LMS)
13 4. ประโยชนข์ องบทเรยี นออนไลน์ 4.1 ยืดหยุน่ ในการเปล่ยี นเนอ้ื หา และ สะดวกในการเรียน การเรียนการสอนผ่านระบบ e-Learning น้ันงา่ ยต่อการแก้ไขเน้ือหา และกระทาได้ตลอดเวลา เพราะสามารถกระทาได้ตามใจของ่ผู้สอน เนื่องจากระบบการผลิตจะใช้ คอมพวิ เตอรเ์ ป็นองค์ประกอบหลัก นอกจากน้ีผเู้ รียนกส็ ามารถเรยี นโดยไม่จากดั เวลา และสถานท่ี 4.2 เข้าถึงไดง้ ่าย ผู้เรียน และผ้สู อนสามารถเข้าถงึ e-learning ได้งา่ ย โดยมากจะใช้ web browser ของค่ายใดก็ได้ (แตท่ ั้งนีต้ ้องข้นึ อยู่กบั ผู้ผลิตบทเรยี น อาจจะแนะนาให้ใช้ web browser แบบใดทเี่ หมาะกบั สือ่ การเรียนการสอนนน้ั ๆ) ผู้เรยี นสามารถเรยี นจากเคร่ืองคอมพิวเตอร์ทีใ่ ดก็ได้ และในปจั จบุ นั น้ี การเขา้ ถึงเครือข่ายอินเตอรเ์ น็ตกระทาได้ง่ายขนึ้ มาก และยงั มีค่าเชอื่ มต่ออนิ เตอร์เน็ตที่มีราคาต่าลงมากวา่ แต่ก่อนอกี ดว้ ย 4.3 ปรับปรุงขอ้ มูลให้ทนั สมัยกระทาไดง้ า่ ย เน่ืองจากผู้สอน หรือผู้สร้างสรรคง์ าน e-Learning จะสามารถเข้าถึง server ได้จากทใี่ ดกไ็ ด้ การแก้ไขข้อมูล และการปรบั ปรุงข้อมลู จงึ ทาได้ทนั เวลาดว้ ยความรวดเร็ว 4.4 ประหยดั เวลา และคา่ เดินทาง ผู้เรยี นสามารถเรยี นโดยใช้เคร่อื งคอมพิวเตอรเ์ คร่อื งใดก็ได้ โดยจาเป็นตอ้ งไปโรงเรยี น หรอื ท่ที างาน รวมท้งั ไม่จาเปน็ ตอ้ งใช้เครือ่ งคอมพวิ เตอรเ์ ครื่องประจากไ็ ด้ ซ่ึงเป็นการประหยัดเวลามาก การเรียน การสอน หรอื การฝึกอบรมดว้ ยระบบ e-Learning น้ี จะสามารถประหยัดเวลาถงึ 50% ของเวลาทใี่ ช้ครสู อน หรืออบรม สรปุ การพัฒนาบทเรยี นออนไลน์ บทเรยี นทจ่ี ดั ทาขนึ้ เป็นส่ือการสอน ผ่านระบบเครือขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ สามารถศึกษาค้นคว้าความรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง โดยออกแบบไว้ ใหโ้ ตต้ อบกับผู้เรียนได้ โดยบทเรียนออนไลน์แบง่ ประเภทของการพัฒนาบทเรียนออนไลนไ์ ด้ 3 ประเภท ได้แก่ 1) ส่ือเสรมิ 2) ส่ือเพ่ิมเติม 3) ่สื่อหลัก ชนดิ ของบทเรียนออนไลนม์ ี 2 ชนดิ ไดแ้ ก่ 1) ชนิดสือ่ สารทางเดียว 2) ชนดิ สอ่ื สาร2ทาง และประโยชน์ของบทเรียนออนไลน์ ไดแ้ ก่ 1) ยื่ดยนุ่ เวลาในการปรบั เปลี่ยนเน้อื หา 2) เขา้ ถึงได้งา่ ย 3) ปรับปรงุ ขอ้ มูลใหท้ ันสมยั กระทางา่ ย 4) ประหยัดเวลาและค่าเดนิ ทาง
15 การพัฒนาเว็บไซต์เด็กตดิ เกมส์ 1. ความหมายของเว็บไซต์ หมายถึง หนา้ เว็บเพจหลายหนา้ ซึ่งเชอ่ื มโยงกนั ผ่านทางไฮเปอร์ลงิ ก์ ส่วนใหญจ่ ัดทาขึน้ เพอ่ื นาเสนอข้อมลู ผ่านคอมพิวเตอร์ โดยถกู จัดเก็บไวใ้ นเวิลดไ์ วด์เวบ็ ในเวบ็ ไซต์น้ัน ซ่งึ ไดแ้ ก่ข้อมูลทางวิชาการ ข้อมลู ตลาดหลกั ทรพั ย์ หรอื ขอ้ มูลสือ่ ตา่ ง ๆ ผู้ทาเวบ็ ไซตม์ ีหลากหลายระดับ ตั้งแต่สรา้ งเว็บไซตส์ ว่ นตวั จนถงึ ระดบั เว็บไซต์สาหรับธุรกจิ หรือองค์กรตา่ ง ๆ การเรยี กดเู ว็บไซตโ์ ดยทว่ั ไปนิยมเรยี กดผู ่านซอฟต์แวรใ์ นลักษณะของ เวบ็ เบราว์เซอร์ 2. องคป์ ระกอบของเวบ็ ไซต์ 2.1 ช่ือของเวบ็ ไซต์ หรอื URL (Uniform Source Locator) คอื รหสั สืบค้นแหล่งข้อมูล ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลในระบบเวิลด์ไวดเ์ วบ็ โดยกาหนดให้ขึ้นต้นด้วยคาวา่ “ http:// ” หมายถึงการเชอ่ื มโยงกับแหล่งขอ้ มลู เวิลดไ์ วดเ์ วบ็ โดยมรี ะบบโต้ตอบของการส่ือสารแบบ HTTP (Hyper Text Transfer Protocol) หรือการแสดงขอ้ มลู แบบ Hypertext รปู แบบของ URL ประกอบด้วย http://host/path/text 2.2 โฮมเพจ ( Homepage) เปน็ ข้อมลู หน้าแรกที่ใหข้ ้อมูลเกย่ี วกบั เวบ็ ไซต์นัน้ ๆ จงึ จะเปน็ จดุ เริ่มตน้ ของเว็บไซต์ต่างๆ โฮมเพจน้ีจะทาหนา้ ทีเ่ หมือนกบั ประตหู น้าบ้านของเว็บไซต์แต่ละแห่ง ซงึ่ ถอื วา่ เป็นที่แรกทเี่ ขา้ ไปเยยี่ มชมเวบ็ ไซตจ์ ะต้องผ่าน และยงั เปน็ ทเ่ี ชอื่ มโยงไปยงั เว็บเพจต่างๆ ตอ่ ไป ไมว่ า่ จะเปน็ การเชอื่ มโยงโดยตรง หรือเช่ือมโยงผ่านเว็บอืน่ ๆ 2.3 เว็บเพจ (web page) เป็นการนาเสนอข้อมูลในรปู แบบเวลิ ด์ไวด์เวบ็ ซงึ่ เป็นการสื่อสารเพื่อนาเสนอข้อมลู ได้หลายรปู แบบ เวบ็ เพจจะมีลักษณะเป็นสื่อประสม ที่หนา้ เว็บเพจหนึ่งๆ จะมตี ง้ั แต่ 2 – 3 หน้า จนถงึ พนั ๆ หนา้ และในหน้าเอกสารสามารถเช่ือมโยงไปอีกหน้าหนงึ่ ท่มี เี นื้อหาเก่ียวขอ้ งไดโ้ ดยการเชื่อมข้อมูลแบบไฮเ ปอร์เทก็ การเชือ่ มโยงบนเว็บเพจแต่ละเพจ จะมีให้เลือกซ่ึงอยใู่ นลักษณะทเี่ ปน็ หวั ข้อรูปภาพ ปัจจุบันน้รี ปู แบบของคาสัง่ เชื่อมโยงจะอยใู่ นรปู ของข้อมลู ภาพ icon หรอื ปุม่ ต่างๆ ซง่ึ สามารถคลกิ ไปบนรปู แบบเหลา่ น้ี เพอ่ื เชอื่ มโยงขอ้ มูลหนง่ึ ไปยังอีกข้อมูลหนึง่ ท่ีเกี่ยวข้อง โดยรายละเอียดของเว็บเพจประกอบด้วยสว่ นสาคัญตา่ งๆ คือ ข้อความ รปู ภาพ ส่ือผสม Scoll bar ตัวนบั Frames ฟอร์ม Image Map และ Link
16 3. รปู แบบของเวบ็ ไซต์ แบ่งไดเ้ ปน็ 2 รปู แบบหลกั ๆ คือ 3.1 Static Website หมายถงึ เวบ็ ไซต์ทส่ี ร้างด้วยภาษา HTML ธรรมดา และบันทึกเปน็ ไฟล์นามสกลุ .HTML เนอ้ื หาข้อความ รูปภาพในหนา้ เวบ็ เพจน้นั จะเปน็ ไปตามท่ีเราเขยี นกาหนดไวเ้ หมาะกับเว็บไซตท์ ี่มขี นาดไมใ่ หญ่ จานวนหนา้ เวบ็ เพจไมม่ ากไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลบอ่ ยๆ และไม่มีการติดต่อฐานขอ้ มูล 3.2 Dynamic Website หมายถึง เวบ็ ไซตท์ ่ีหน้าเว็บเพจสามารถเปลย่ี นแปลงข้อมูลเองได้ โดยไม่ตอ้ งเขยี นแตล่ ะหนา้ เว็บเพจเอง เช่น กระดานข่าว (Web board), ระบบสืบค้นข้อมูลเว็บไซตร์ ูปแบบนจ้ี ะถูกสรา้ ง ด้วยภาษา Script แบบ Server Side Script เชน่ PHP, ASP, ASP.Net, JSP และอ่นื ๆ ไฟลเ์ อกสารที่ไดจ้ ะมีนามสกุล .php, .asp เปน็ ตน้ และมักจะมีการติดต่อกับฐานข้อมูลเพ่อื บันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมลู หรอื นาข้อมลู จากฐานขอ้ มลู ขึ้นมาแสดงผลเป็นหนา้ เว็บเพจ 4. ประโยชนข์ องเวบ็ ไซต์ 1) ชว่ ยส่งเสรมิ ศกั ยภาพดา้ นการแข่งขนั ด้านธรุ กจิ 2) ชว่ ยเผยแพรข่ ้อมลู และข่าวสารตา่ งๆ ใหเ้ ป็นทีร่ จู้ กั รกนั อยา่ งแพร่หลาย 3) ช่วยใหเ้ ข้าถงึ กลุม่ ลูกค้า หรอื กลุม่ ผูใ้ ชบ้ ริการได้อยา่ งได้มากหลาย 4) เป็นชอ่ งทางหลกั ทางการตลาดของบริษทั หรอื องคก์ ร ร้านคา้ 5) สามารถใหบ้ ริการตา่ งๆ ที่สะดวกสบาย ทนั สมยั และรวดเร็วท่ีสดุ 6) ช่วยสร้างภาพลักษณ์ท่ีดีให้กับองค์กร บริษัท และธรุ กจิ ต่างๆ 7) ชว่ ยลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพนั ธท์ างธรุ กิจสรปุ การพัฒนาเวบ็ ไซต์ เป็นการศึกษาค้นคว้าเก่ียวกับเดก็ ติดเกมส์โดยเวบ็ ไซต์ หมายถงึ หนา้ เว็บเพจหลายหนา้ ซงึ่ เชอ่ื มโยงกันผ่านทางไฮเปอรล์ งิ ก์ ส่วนใหญ่จัดทาขน้ึ เพ่อื นาเสนอข้อมลู ผ่านคอมพวิ เตอร์ องคป์ ระกอบของเวบ็ ไซต์ ได้แก่ 1) ชือ่ ของเว็บไซต์ 2) โฮมเพจ 3) เว็บเพจ รูปแบบของเวบ็ ไซต์ แบ่งได้เปน็ 2 รปู แบบหลกั ๆ คือ 1) Static Website 2) Dynamic Website และ ประโยชนข์ องเว็บไซต์ 1) ชว่ ยสง่ เสริม ศกั ยภาพด้านการแข่งขนั ด้านธุรกิจ 2) ชว่ ยเผยแพร่ขอ้ มูลและขา่ วสารต่างๆ 3) ช่วยให้เขา้ ถงึ กลุม่ ลูกค้า 4)เป็นช่องทางหลักทางการตลาด5) สามารถให้บริการต่างๆ ท่สี ะดวกสบาย 6) ชว่ ยสร้างภาพลักษณ์ท่ดี ใี ห้กบั องคก์ ร 7. ช่วยลด ค่าใชจ้ ่าย
17 โปรแกรม Google Site 1. ความหมายของ Google Site Google Sites คือโปรแกรมของ Google ทีใ่ หบ้ ริการสร้างเว็บไซต์ สามารถสรา้ งเว็บไซต์ไดง้ ่าย ปรับปรุงแต่งรปู ลกั ษไ์ ด้อยา่ งอิสระ และสามารถรวบรวมความหลากหลายของข้อมลู ไว้ในที่เดียว เชน่ วดี โี อ ปฏิทนิ เอกสาน อื่นๆ สามารถนามาแทรกในหนา้ เวบ็ เพจได้ เปน็ การเพ่ิมลูกเล่น ใชง้ านไดง้ า่ ย ทาใหช้ ว่ ยอานวยความสะดวกได้เปน็ อย่างมาก 2. จดุ เด่นของ Google Sites 2.1 ใหพ้ ื้นทบ่ี ริการฟรี ไม่เสียคา่ ใช้จ่าย 2.2 พื้นทจี่ ัดเก็บข้อมลู ไม่จากัด 2.3 มี Gadget มากมาย 2.4 ใชง้ านไดง้ า่ ย 3. วธิ ีการสร้างเว็บไซต์ด้วย Google site 1) การ login เข้าใช้งาน google ภาพท่1ี ไปท่ี google.co.th คลิกลงชอื่ เข้าส่รู ะบบ
18 ภาพท่ี2 คลิกท่ีปมุ่ แล้วคลิกท่ี Sites 2) การสรา้ งไซต์ ภาพที่3 คลิกที่ New Google Sites
19 ภาพท4่ี คลกิ ที่ เพอ่ื สรา้ ง Sites ภาพท5่ี ตั้งชื่อ Sites ที่สรา้ ง
20 3) การเลือก Theme ภาพท่6ี คลิกที่ THEMES ภาพท7่ี คลกิ เลอื ก theme ที่ตอ้ งการ
21 4) การใส่ Logo ภาพท8ี่ คลกิ ที่ Add Logo ภาพท9ี่ คลิกท่ี UPLOAD ภาพท1ี่ 0 เลอื กไฟล์ Logo แลว้ คลกิ Open
22 ภาพท1ี 1 เลือก Background เป็น Transparent ภาพท1ี่ 2 จะได้ Logo ตามภาพ 5) การใส่ Page Title ภาพท่ี13 คลิกท่ีกลอ่ งข้อความ
23 ภาพท1ี่ 4 ใส่ขอ้ ความที่ต้องการลงไป สามารถปรบั ขนาดตัวอกั ษร และกล่องข้อความได้ 6) การปรับ Header Type ภาพท1่ี 5 คลิกท่ี Header Type ภาพท่ี16 เลอื กประเภทของ Header
24 7) การใส่ข้อความ ภาพท1่ี 7 คลิกที่ Text box ภาพท่1ี 8 สามารถปรบั ตวั อักษร และกล่องข้อความได้ ถ้า ตอ้ งการลบกล่องข้อความใหค้ ลกิ ไอคอนถงั ขยะดา้ นหนา้
25 8) การใส่รูปภาพ ภาพท่1ี 9 คลิกท่ี Upload แล้วเลือกรปู ภาพทีต่ ้องการใส่ แต่ ถ้าตอ้ งการใสร่ ูปจากเว็บ หรอื google drive ใหค้ ลิกที่ Image ภาพท่ี 20 สามารถต้องการปรบั ขนาด ปรบั ตาแหนง่ การวางรปู ภาพได้
26 9)การเพมิ่ หนา้ ภาพท2ี่ 1 ไปทเ่ี มนู PAGES คลิกท่ปี่ ม่ + ด้านลา่ ง เลอื ก New page ภาพที่22 ต้งั ชื่อเพจ แลว้ คลิก DONE
27 10) การใส่วิดีโอ ภาพที่23 ไปทเี่ มนู Insert คลกิ ท่ี YouTube แล้วค้นหาวดิ ีโอ เลือกวิดโี อที่ตอ้ งการแลว้ คลกิ Select ภาพท่ี24 สามารถปรับขนาดวิดโี อได้
28 11) การแนบ Folder จาก Google Drive ภาพท2ี่ 5 ไปทีเ่ มนู Insert คลิกที่ From Drive ภาพท่ี26 เลอื ก folder แลว้ คลิก INSERT
29 ภาพที2่ 7 ใส่ขอ้ ความบอกรายละเอียด โดยใช้กล่องข้อความ 12) การ Publish ภาพท2่ี 8 คลิกที่ปุ่ม PUBLISH ตั้งชอ่ื ไซต์ จากนัน้ คลิกท่ี MANAGE
30 ภาพท่ี29 คลิกที่ Change ภาพท่3ี 0 เลือกAnyone can find and view the published version
31 ภาพที3่ 1 คลิกปมุ่ publish 4. ประโยชนข์ อง Google Site 4.1 สามารถทาหนา้ เวบ็ เพจของตวั เองอะไรก็ได้ขึ้นมา โดยเนน้ ทคี่ วามงา่ ย มี app. ให้ใช้อย่างสะดวกโดยไม่จาเป็นตอ้ งรูเ้ รือ่ ง html 4.2 สามารถเผยแพร่ขอ้ มลู ทเ่ี ป็นประโยชน์ และเปน็ ความรู้ หรือบทเรียน อะไรอีกหลายๆอย่างได้ในSITE ได้ 4.3 มพี ืน้ ที่ให้บริการเยอะเลย 100 เมกะไบต์ ตอ่ site 4.4 มี Gadget เยอะแยะมากมาย และสามารถทาในรูปแบบท่ีเราต้องการได้ 4.5 รปู แบบไซต์ ดูเป็นแบบมาตรฐานของเวบ็ ไซต์ทัว่ ไป 4.6 พฒั นาได้ง่าย ปรับปรงุ รปู แบบ ปรับแต่งข้อมลู แบบออนไลน์ 4.7 สามารถทจ่ี ะเกบ็ ไฟลภ์ าพ หรอื ไฟลช์ นิดตา่ งๆ ไว้ในไซต์ของเราได้ 4.8 ทา link ภายในและภายนอกของไซต์ได้ 4.9 การต้ังค่าสาหรบั การเขา้ ถงึ และใชข้ ้อมูลรว่ มกนั 4.10 เป็นทรี่ วมเข้ากับเคร่ืองมืออ่ืน ๆ ของ Google เพ่อื ให้คณุ สามารถแบ่งปนั วิดีโอภาพถ่ายงานนาเสนอและปฏทิ นิ สรปุ โปรแกรม Google Sites คอื โปรแกรมของ Google ท่ีใหบ้ รกิ ารสรา้ งเวบ็ ไซต์ สามารถสรา้ งเว็บไซตไ์ ด้ง่าย
32 ปรับปรุงแตง่ รูปลกั ษไ์ ด้อยา่ งอิสระ จดุ เด่นของ Google Sites ใหพ้ ื้นท่บี รกิ ารฟรี ไมเ่ สยี ค่าใชจ้ า่ ย พ้ืนทีจ่ ัดเกบ็ ข้อมูลไม่จากดั มี Gadget มากมาย ใช้งานได้งา่ ย ประโยชน์ของ Google Site สามารถทาหนา้ เวบ็ เพจของตัวเอง โดยเนน้ ทค่ี วามงา่ ย มี app. ใหใ้ ช้อย่างสะดวกโดย สามารถเผยแพรข่ ้อมลู ที่เป็นประโยชน์ และเป็นความรู้ หรอื บทเรียน มพี ืน้ ที่ให้บรกิ าร และสามารถทาในรูปแบบที่เราต้องการได้รูปแบบไซต์ ดูเป็นแบบมาตรฐานของเวบ็ ไซต์ทั่วไป พัฒนาได้ง่าย สามารถที่จะเก็บไฟล์ภาพ หรือไฟล์ชนิดต่างๆ ไว้ในไซต์ของเราได้ การตั้งค่าสาหรบั การเข้าถึงและใชข้ ้อมูลร่วมกนั เปน็ ทร่ี วมเขา้ กบั เคร่ืองมอื อน่ื ๆ ของ Google และเพื่อให้คุณสามารถแบง่ ปันวดิ โี อภาพถ่าย 3. วธิ กี ารสร้างเวบ็ ไซต์ดว้ ย Google site โครงงานท่เี กย่ี วข้อง รัชศิลป์ ภูมิชอ่ (2557) ไดศ้ ึกษาโครงงานคอมพวิ เตอรเ์ ร่ืองปญั หาเด็กติดเกม มีวตั ถุประสงค์เพื่อเเก้ไขปัญหาเดก็ ตดิ เกม,เพื่อทาใหร้ ้ถู งึ สาเหตกุ ารตดิ เกม,เพื่อเปน็ สอื่ ในการศกึ ษาหา ความรเู้ เละประโยชน์เเกผ่ ู้ท่ีสนใจ ผลจาการศึกษาพบว่าสามารถเปน็ สอ่ื การเรยี นของปัญหาเด็กติดเกมได้เเละเยาวชนหรอื บุคคลต่างๆรู้ถึ งสาเหตุ ผลกระทบ วธิ ปี อ้ งกัน ปญั หาเด็กติดเกมได้ ณฐั ดนบั เเดงน้อย (2556) ได้ศึกษาโครงงานคอมพวิ เตอร์เร่ืองปญั หาการตดิ เกมในหมูว่ ัยรนุ่ มวี ตั ถุประสงคเ์ พ่ือศึกษาความรูเ้ กีย่ วกับปัญหาการติดเกมในหมวู่ ยั รุน่ วธิ กี ารเลกิ ติดเกมเเละการทากจิ กรรมในเวลาวา่ งเเทนการเลน่ เกม ผลจาการศึกษาพบวา่ สาเหตุการเกิดปัญหาการติดเกมเกดิ ข้ึนจาการเลี้ยงดใู นครอบครัวมักจะพบเด็กติ ดเกมไดบ้ อ่ ยในครอบครวั ที่เล้ียงเดก็ โดยไม่เคยฝกึ ให้เด็กมวี ินัยในตัวเอง ขาดกฎระเบียบ กตกิ าในบา้ น ในครอบครวั ตา่ งคนตา่ งอยู่ไม่มกี ิจกรรมสนุกสนานใหเ้ ดท็ า ทาใหเ้ ดก็ เกิดความเหงา ความเบื่อหนา่ ยเด็กจึงต้องกากจิ กรรมอ่นื ซ่ึงหนีไม่พน้ การเล่นเกมจาดสาเหตุเหล่านีท้ าให้มกี ารวจิ ยั ทส่ี ามรถทาใหเ้ ดก็ ไม่เกิดปัญหาการตดิ เกมส่งผลให้เด็กมเี วลาให้ประโยชน์ได้มากขึ้น
33 อรรพล ดีคา (2557) ได้ศึกษาโครงงานคอมพิวเตอรเ์ รอื่ งปัญหาเด็กติดเกมมีวัตถุประสงคเ์ พ่อื ศกึ ษาและวิเคราะหว์ ่านักเรยี น เล่นเกมวนั ละก่ีชัว่ โมงและอยใู่ นข้ันตดิ เกมหรือไม่,เพื่อศึกษาวา่ นกั เรียนชว่ งอายุเทา่ ไรตดิ เกมมากที่สดุ ผลจาการศกึ ษาพบวา่ จะทราบวา่ นกั เรียนสว่ นใหญ่ใชเ้ วลาในเล่นเกมวันละกีช่ ั่วโมงและอยู่ในขน้ั ตดิ เก มหรือไม่,ทราบวา่ นกั เรยี นช่วงอายเุ ทา่ ไรติดเกมมากทส่ี ดุ
บทท่ี 3 วิธกี ารจัดทาโครงงาน วัสดุและอุปกรณ์ วสั ดแุ ละอปุ การณ์ท่ใี ชใ้ นการจัดทาโครงงานได้แก่ 1. ฮาร์ดแวร์ 1) คอมพวิ เตอร์ 2) โทรศัพท์มอื ถือ 2. ซอฟตแ์ วร์ 1) โปรแกรม Google site 2) Microsoft Word วิธกี ารจดั ทาโครงงาน 1) คัดเลือกหัวขอ้ โครงงานทส่ี นใจ คณะผจู้ ัดทาไดป้ รึกษา พดู คยุ ศึกษาข้อมูล และสรุปไดว้ ่าคณะผู้จดั ทามีความสนใจเรอื่ งพฒั นาเว็บไซต์เดก็ ตดิ เกม ภาพที่ 32 คดั เลือกหัวข้อที่สนใจ
35 2) ศกึ ษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล คณะผจู้ ัดทาได้ศึกษาค้นควา้ หาขอ้ มลู จากแหล่งข้อมูลผา่ นทางเครือข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ หอ้ งสมุด และผูเ้ ชีย่ วชาญ ภาพที่ 33 ศึกษาคน้ ควา้ จากเอกสารและแหลง่ ข้อมลู 3) จดั ทาเคา้ โครงของโครงงาน คณะผู้จดั ทาไดต้ กลงแบง่ หน้าทีก่ ัน เพอ่ื ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการทางาน และช่วยกาหนดทิศทางงานได้ถูกต้อง ภาพที่ 34 จัดทาเค้าโครงของโครงงาน
36 4) การลงมือทาโครงงาน คณะผูจ้ ดั ทาไดแ้ บง่ งานให้สมาชกิ ในกลุม่ และเริ่มปฏิบตั ิงาน ตามขน้ั ตอนการดาเนินงานตามกิจกรรมทไ่ี ด้กาหนกไว้ ตัง้ แตเ่ ร่อื งลงมือทาจนสาเรจ็ ตามวตั ถปุ ระสงค์ ภาพที่ 35 การลงมอื ทาโครงงาน
37 5) การเขียนรายงาน คณะผูจ้ ดั ทาได้ทาการนาข้อมูลทั้งหมดมาจัดเรยี บเรียงให้อยใู่ นรูปรายงานเป็นรปู เล่มโครงงาน ฉบบั สมบูรณ์ ภาพท่ี 36 การเขียนรายงาน 6) การนาเสนอและแสดงโครงงาน การนาเสนอและแสดงโครงานเปน็ การแสดงของงาน ความคดิ และความพยายามทัง้ หมดทค่ี ณะผทู้ าโครงงานลงมือทา ปละเปน็ วธิ กี ารทจี่ ะทาใหผ้ ู้อื่นไดร้ ับรู้และเขา้ ใจถงึ ผลงาน ภาพที่ 37 การนาเสนอและแสดงโครงงาน
บทที่ 4 ผลการศกึ ษา จากการศึกษาและพฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์การพฒั นาเวบ็ ไซ์ เรอื่ ง เด็กตดิ เกม ในการจดั ทาโครงงานครั้งนี้ คณะผ้จู ัดทาได้ออกแบบและพัฒนาเวบ็ ไซต์ เพื่อเปน็ แหล่งเรียนรใู้ หก้ บั ผู้ที่สนใจในเรอื่ ง เด้กตดิ เกม โดยสามารถเข้าศกึ ษาแหล่งเรียนรผู้ ่านทางเวบ็ ไซต์ https://sites.google.com/s/1uR_MerVlgAZWJAbeHsmouWQpnr- wGfxv/p/1YdSJrTYVSNoV8sMvU3n0LgKAQwsNdwJz/edit ตวั อยา่ งสอื่ ดังน้ี ภาพที่ 38 หนา้ หลัก
39 ภาพท่ี 39 การติดเกมมขี ้อเสียอย่างไร? ภาพที่ 40 เดี๋ยวนี้มีเด็กติดเกมเยอะไหม?
38 ภาพที่ 41 รักษาได้หรอื เปล่า? ภาพท่ี 42 สาเหตขุ องเด็กตดิ เกม
39 ภาพที่ 43 การแก้ปัญหาเด็กติดเกม ภาพที่ 44 แบบสอบถาม
บทที่ 5 สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ จากการศึกษาและพฒั นาเวบ็ ไวต์ เรื่องเด็กตดิ เกมสท์ ่ีคณุ อาจไมร่ ู้จกั สามารถสรุปผลการดาเนินงานโครงงานไดด้ งั น้ี สรุปผลการศึกษา การจดั ทาโครงงานในคั้งน้ีมวี ตั ถุประสงค์ เพื่อพฒั นาเวบ็ ไซต์ เรือ่ งเด็กตดิ เกมส์ ไดศ้ ึกษาหาความร้เู กยี่ วกับการทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกบั เรื่องปญั หาเด็กตดิ เกมส์ และศึกษาหาความรเู้ ก่ียวกับวิธกี ารพฒั นาเวบ็ ไซตด์ ้วยโปรมแกรม Google site จากการศึกษาและพัฒนาพบว่า เว็บไซต์ เรอื่ ง เด็กติดเกมส์ เปน็ เวบ็ ไซตท์ ่ีพฒั นาดว้ ยโปรแกรม Google Site โดยสามารถเข้าศกึ ษาผา่ นเวบ็ ไซต์ www.gg.gg/kiddangers ในเวบ็ ไซต์ไดน้ าเสนอเน้ือหาเกย่ี วกบั เดก็ ติดเกมส์ การแก้ไขปญั หาเด็กติดเกมส์ และในการจัดทาโครงงานครง้ั นีค้ ณะผูจ้ ดั ทายังไดร้ ับความรู้ความเข้าใจในการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ และการทาเว็บไซต์ด้วยโปรแกรม Google Site ทม่ี เี นอิ้ หาเกยี่ วกบั เดก็ ตดิ เกมส์ การแก้ไขปัญหา ไดอ้ ย่างครบถว้ น ปัญหาและอปุ สรรค ในการจดั ทาข้อมลู เร่ืองเด็กติดเกมส์มีขอ้ มูลจากหลายๆแหลง่ ซึ่งไม่สามารถบอกได้วา่ ข้อมลู น้ี ถกู ต้องหรือไม่ จงึ ต้องใชเ้ วลาในการตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง ข้อเสนอแนะ 1. ควรมกี ารจดั ทาโคงงานใหห้ ลายหลากหลายขน้ึ 2. ควรมวี ดี ีโอในเวบ็ ไซต์หรือนาเสนอในรปู แบบอน่ื ๆ
Search