Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานคอมพิวเตอร์ กลุ่มที่ 1

โครงงานคอมพิวเตอร์ กลุ่มที่ 1

Published by Thitiyaporn Keebsantia, 2019-11-22 01:04:27

Description: โครงงานคอมพิวเตอร์ กลุ่มที่ 1

Search

Read the Text Version

โครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บไซต์ เรือ่ ง สตั ว์ปา่ สงวน กลมุ่ สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี จัดทาโดย 1. นางสาวกมลรตั น์ โสประโคน เลขที่ 13 2. นางสาววิรลั ยา ววิ รรณรมั ย์ เลขท่ี 14 3. นางสาวศคิ รินธร หาญประโคน เลขท่ี 21 4. นายศิวดล เปล่งชัย เลขท่ี 22 5. นางสาวกวนิ ทพิ ย์ ปะสขุ เลขท่ี 24 6. นางสาวอภิญญา เจนประโคน เลขท่ี 38 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6/4 รายวชิ า ง33258 โครงงานคอมพิวเตอร์ ปกี ารศกึ ษา 2562 โรงเรียนประโคนชยั พทิ ยาคม อาเภอประโคนชยั จงั หวดั บรุ ีรมั ย์ สานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 32

โครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บไซต์ เร่ือง สัตวป์ า่ สงวน กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี จดั ทาโดย 1. นางสาวกมลรตั น์ โสประโคน เลขที่ 13 2. นางสาววริ ัลยา ววิ รรณรัมย์ เลขท่ี 14 3. นางสาวศิครนิ ธร หาญประโคน เลขที่ 21 4. นายศิวดล เปล่งชัย เลขท่ี 22 5. นางสาวกวินทพิ ย์ ปะสุข เลขที่ 24 6. นางสาวอภญิ ญา เจนประโคน เลขที่ 38 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6/4 รายวชิ า ง33258 โครงงานคอมพวิ เตอร์ ปกี ารศกึ ษา 2562 โรงเรยี นประโคนชัยพิทยาคม อาเภอประโคนชัย จังหวดั บุรรี มั ย์ สานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 32

ก เกีย่ วกับโครงงาน โครงงานคอมพวิ เตอร์ ชือ่ โครงงาน การพัฒนาเว็บไซต์ เรอ่ื ง สตั ว์ป่าสงวน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ผ้จู ัดทา 1. นางสาวกมลรัตน์ โสประโคน เลขที่ 13 2. นางสาววิรัลยา วิวรรณรมั ย์ เลขที่ 14 3. นางสาวศิครนิ ธร หาญประโคน เลขที่ 21 4. นายศิวดล เปล่งชัย เลขท่ี 22 5. นางสาวกวนิ ทพิ ย์ ปะสขุ เลขท่ี 24 6. นางสาวอภิญญา เจนประโคน เลขที่ 38 ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6/4 ครทู ป่ี รึกษาโครงงาน นางฐติ ิยาภรณ์ ทวี สถานศึกษา โรงเรยี นประโคนชยั พทิ ยาคม อาเภอประโคนชยั จังหวัดบรุ รี มั ย์ สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 32 ปกี ารศึกษา 2562

ข กติ ตกิ รรมประกาศ โครงงานน้สี าเร็จข้ึนได้ดว้ ยความชว่ ยเหลืออยา่ งดีย่ิงของ คุณครูฐติ ยิ าภรณ์ ทวี ครทู ่ีปรกึ ษาโครงงาน ท่ีไดใ้ ห้คาแนะนา และข้อคดิ เห็นต่างๆมาโดยตลอดขอขอบคุณ และขอบใจ เพอื่ น นักเรยี น ตลอดจนผู้ทีเ่ ก่ียวขอ้ งทุกทา่ นทไี่ ม่ได้กล่าวนามไวใ้ น ณ ท่นี ่ี ที่คอยใหก้ าลงั ใจ รวมถงึ มสี ่วน ชว่ ยเหลอื ในการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ และถามไถ่ความเปน็ ไปของโครงงานอย่เู สมอ ทาใหผ้ ้จู ดั ทา โครงงานมกี าลงั ใจทีจ่ ะพัฒนาโครงงานจนสาเร็จได้ ผ้จู ัดทาโครงงานขอขอบพระคุณมา ณ ท่นี ี้ ทา้ ยสดุ นี้คณะผูจ้ ัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งวา่ โครงงานนีจ้ ะเป็นประโยชน์ตอ่ การศึกษาเกย่ี วกับการ พัฒนาเวบ็ ไซต์ เร่ือง สัตว์ป่าสงวนของผู้สนใจต่อไป คณะผู้จดั ทา

ค หวั ข้อโครงงาน : การพฒั นาเวบ็ ไซต์ เร่ือง สตั วป์ ่าสงวน ประเภทของโครงงาน ผจู้ ัดทาโครงงาน : โครงงานพฒั นาสื่อเพ่ือการศกึ ษา : 1. นางสาวกมลรัตน์ โสประโคน เลขท่ี 13 2. นางสาววริ ลั ยา ววิ รรณรมั ย์ เลขท1ี่ 4 3. นางสาวศคิ รินธร หาญประโคน เลขที่ 21 4. นายศิวดล เปลง่ ชยั เลขที่ 22 5. นางสาวกวนิ ทิพย์ ปะสุข เลขท่ี 24 6. นางสาวอภญิ ญา เจนประโคน เลขที่ 38 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6/4 ครทู ่ปี รกึ ษาโครงงาน : นางฐติ ยิ าภรณ์ ทวี ปีการศึกษา : 2562 บทคดั ยอ่ การจัดทาโครงงานในครัง้ นี้มวี ตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ พฒั นาบทเรียนออนไลน์ ศึกษาหาความรู้ เกย่ี วกบั การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ศึกษาหาความรเู้ ก่ยี วกับสตั ว์ปา่ สงวน และศึกษาหาความรู้ เกย่ี วกับวธิ ีการพฒั นาบทเรียนออนไลน์ดว้ ยโปรแกรม google site ผลการศกึ ษาและจัดทาโครงงานพบวา่ การจัดทาโครงงานในครงั้ น้มี วี ตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ พัฒนา บทเรยี นออนไลน์ เรื่องสัตวป์ ่าสงวน ศกึ ษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใชส้ ร้างโครงงานคอมพวิ เตอร์ ศึกษา การทาโครงงานคอมพิวเตอร์เพอ่ื การศึกษาเก่ียวกับเรื่องสัตวป์ ่าสงวน และศกึ ษาวธิ กี ารพัฒนาเว็บไซต์ ด้วยโปรแกรม Google sites จากการศึกษาและพัฒนาพบวา่ ทาให้ผ้ศู ึกษาร้วู ่าบทเรียนออนไลน์ เรือ่ ง สัตวป์ ่าสงวนเป็นบทเรียนท่มี ีประสิทธิภาพสามารถนาไปใช้ในการจดั การเรียนการสอนได้ และเปน็ แหล่งศกึ ษาหาความรู้ให้แกผ่ ู้ท่ีสนใจไดเ้ ป็นอย่างดี โดยสามารถเขา้ ถึงบทเรียนออนไลนผ์ ่านทาง https://bit.ly/2MXTWrW ไดค้ วามเก่ยี วกบั การพฒั นาบทเรยี นออนไลน์ ได้ศกึ ษาและใชโ้ ปรแกรม จากคอมพวิ เตอร์ใหเ้ ป็นประโยชน์ ไดค้ วามรู้เก่ยี วสตั ว์ปา่ สงวน ไดพ้ ัฒนาเว็บไซตด์ ้วยโปรแกรม Google sites

สารบญั ง เรอ่ื ง หนา้ ก เกีย่ วกบั โครงงาน ข กิตตกิ รรมประกาศ ค บทคดั ย่อ ง สารบัญ จ สารบญั ตาราง ฉ สารบัญภาพ บทที่ 1 บทนา 1 1 - ทมี่ าและความสาคัญของโครงงาน 2 - วตั ถุประสงค์ 2 - ขอบเขตการศึกษาค้นควา้ - ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะได้รบั 3 บทที่ 2 เอกสารและโครงงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง 13 - การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ 15 - การพฒั นาเว็บไซต์ 15 - เน้อื หาสัตว์ป่าสงวน 20 - โปรเเกรม google site - โครงงานท่ีเกยี่ วข้อง 21 บทที่ 3 วิธีการจดั ทาโครงงาน 21 - วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ 25 - วธิ ีการจัดทาโครงงาน บทที่ 4 ผลการศกึ ษา 28 บทที่ 5 สรปุ ผล และข้อเสนอแนะ 28 - สรปุ ผลการศึกษา 28 - ประโยชน์ที่ไดจ้ ากโครงงาน 29 - ขอ้ เสนอแนะ 30 บรรณานุกรม 33 ภาคผนวก ขอ้ มูลผูจ้ ัดทา

สารบญั ตาราง จ เรอ่ื ง หน้า ตารางที่ 1 เคา้ โครงของโครงงาน 8

สารบัญภาพ ฉ เร่ือง หน้า ภาพท่ี 1 พฒั นาส่อื เพื่อการศึกษา 4 ภาพท่ี 2 การพฒั นาเครื่องมือ 4 ภาพที่ 3 จาลองทฤษฎี 5 ภาพท่ี 4 การประยุกต์ใช้งาน 6 ภาพที่ 5 พฒั นาเกม 6 ภาพที่ 6 การสมคั รเข้าใช้งานเว็บไซต์ Google sites 16 ภาพท่ี 7 เลอื ก “สรา้ ง” เพ่อื ทาการสรา้ งเว็บไซต์ 16 ภาพที่ 8 เลือกเทมเพลตหรอื รูปแบบเวบ็ ไซต์ต้งั ชื่อเวบ็ ไซต์และเลือกธีม 16 ภาพท่ี 9 กรอกข้อความทีเ่ ห็นในภาพลงไปในชอ่ งวา่ ง 17 ภาพที่ 10 กรอกรายละเอียดข้างต้นลงไปแล้วกเ็ ลอื กสร้างได้เลย 17 ภาพที่ 11 หน้าหลักของเวบ็ ไซต์น้ี 17 ภาพที่ 12 เลอื กหนา้ เวบ็ ใหม่ 18 ภาพท่ี 13 ตั้งช่อื เลือกเทมเพลตตาแหน่งและกดสร้างหนา้ เว็บใหม่ 18 ภาพท่ี 14 ช่อื หวั ขอ้ ความเว็บ 19 ภาพที่ 15 คลิกทร่ี ปู ภาพดนิ สอในกรอบสเ่ี หล่ียมหมายเลข 10 เพ่ือแก้ไข 19 ภาพท่ี 16 เลอื กหัวขอ้ ที่สนใจ 21 ภาพท่ี 17 ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหลง่ ข้อมูล 22 ภาพที่ 18 จัดทาเคา้ โครงของโครงงาน 22 ภาพท่ี 19 ลงมอื ทาโครงงาน 23 ภาพที่ 20 การเขียนรายงาน 23 ภาพที่ 21 การนาเสนอและแสดงโครงงาน 24 ภาพที่ 22 หนา้ หลัก 25 ภาพที่ 23 ชนิดสตั ว์ป่าสงวนของไทย 26 ภาพที่ 24 ข้อควรทราบบ้างประการจากพระราชบญั ญตั ิ 26 ภาพที่ 25 พระราชบัญญตั สิ งวนและคุ้มครองสัตว์ปา่ (ฉบบั ท่ี 2) 27 ภาพที่ 26 แบบทดสอบ 27

บทที่ 1 บทนา ท่มี าและความสาคัญของโครงงาน เพ่อื เปน็ บทเรียนที่คอยเตือนใจใหแ้ ต่ละคนรว่ มมอื หยุดย้ังการลา่ การคา้ สัตว์ปา่ สงวน ใหส้ ัตว์ ป่าสงวนของประเทศไทยได้อยรู่ อดปลอดภยั สามารถสบื เผ่าพันธใุ์ หค้ งอยตู่ ลอดไป และเพื่อเปน็ การให้ ความรู้กับบคุ คลทีส่ นใจจะศกึ ษาหาความรูเ้ กย่ี วกับสัตว์ป่าสงวน บทเรียนออนไลน์ เป็นบทเรียนที่จัดทาขึน้ เปน็ สื่อการสอน ผ่านระบบเครือข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ ประกอบไปด้วยโครงสรา้ งหลักสูตร คาอธบิ ายรายวิชาหน่วยการเรียนรู้ การวางแผนการจัดการเรยี นรู้ เน้ือหา แบบทดสอบ แบบฝึกทกั ษะเพ่ือใหน้ ักเรียนและผู้ท่ีสนใจศึกษา สามารถศึกษาค้นควา้ ความรู้ ได้ ด้วยตนเอง โดยออกแบบไว้ ใหโ้ ตต้ อบกับผเู้ รียนได้ สตั ว์ป่าสงวน หมายถึง สัตว์ป่าทห่ี ายาก กาหนดตามบญั ชีทา้ ยพระราชบัญญตั สิ งวนแลว้ คมุ้ ครองสตั ว์ปา่ พ.ศ. 2503 จานวน 9 ชนดิ เป็นสัตว์ปา่ เล้ียงลูกด้วยนมทงั้ หมด สัตว์ปา่ สงวนเหลา่ นี้หา ยาก หรอื ใกล้จะสูญพนั ธ์ุหรืออาจจะสญู พันธไุ์ ปแล้ว จึงจาเป็นต้องมบี ทบญั ญัติเข้มงวดกวดขนั เพื่อ ป้องกันไมใ่ หเ้ กิดอันตรายแกส่ ตั วป์ า่ ทีย่ งั มชี ีวิตอยู่ จากเหตผุ ลดังกล่าวข้างตน้ คณะผจู้ ัดทาจงึ สนใจท่ีจะศึกษาและพัฒนาเวบ็ ไซต์ เรื่องสัตวป์ ่า สงวน เพื่อเป็นแหลง่ เรียนรู้ให้กบั คนท่ีสนใจ วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อพัฒนาบทเรยี นออนไลน์ เรอื่ ง สตั ว์ปา่ สงวน 2. เพ่อื ศึกษาหาความรเู้ ก่ยี วกับการทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ 3. เพอ่ื ศึกษาหาความรู้เกยี่ วกับสตั วป์ ่าสงวน 4. เพ่ือศึกษาหาความรู้เก่ียวกับวธิ กี ารพัฒนาบทเรยี นออนไลนด์ ว้ ยโปรแกรม google site

2 ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า พัฒนาเว็บไซตด์ ้วยโปรแกรม Google site ซึ่งโปรแกรมนม้ี ีลักษณะเป็นโปรแกรมออนไลน์ท่ี ทาให้การสรา้ งเวบ็ ไซตใ์ หง้ ่ายข้นึ เหมอื นกบั การแก้ไขเอกสารธรรมดาๆดว้ ย Google Sites สามารถ รวบรวมความหลากหลายของข้อมลู ได้ในทเี่ ดียว โดยในเวบ็ ไซต์จะประกอบไปด้วยเน้ือหาเรอื่ งสัตว์ป่า สงวนทปี่ ระกอบไปดว้ ยหวั ข้อ สัตว์ปา่ หายาก 15 ชนิด และพูดถงึ สัตวป์ ่าสงวนตามพระราชบญั ญตั ิ สงวนและคุ้มครองสัตว์ปา่ พ.ศ.2535 หรอื มกี ารทดสอบวดั ความรูก้ ่อนเรยี น หลังเรยี น,ความพึงพอใจ ในการศึกษา ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะไดร้ บั 1. ไดพ้ ฒั นาบทเรียนออนไลน์เรอ่ื งสตั ว์ปา่ สงวน 2. ไดค้ วามรเู้ กี่ยวกับการทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ 3. ได้ความรูเ้ กี่ยวกับสัตวป์ า่ สงวน 4. ไดค้ วามรูเ้ กี่ยวกับวธิ กี ารพัฒนาบทเรยี นออนไลน์ดว้ ยโปรแกรม google site

บทที่ 2 เอกสารและโครงงานทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ในการจดั ทาโครงงานคอมพิวเตอร์ คณะผูจ้ ัดทาไดศ้ ึกษาค้นคว้าเอกสารเเละโครงงานที่ เกีย่ วขอ้ งกบั การพฒั นาเว็บไซต์ เร่อื ง สัตว์ปา่ สงวน ดังรายละเอียดตอ่ ไปนี้ 1. การทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ 2. การพัฒนาเว็บไซต์ 3. เน้อื หาสตั วป์ ่าสงวน 4. โปรเเกรม google site 5. โครงงานทเ่ี กี่ยวข้อง การทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ 1. ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ เปน็ อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ สท์ ีม่ ีการเขยี นคาสั่งใหท้ างานตามท่ีกาหนดไว้เพอื่ อานวยความสะดวก และช่วยแบง่ เบาการทางานของเราให้มีความถูกต้องรวดเร็วและมปี ระสิทธิภาพมากขน้ึ 2. ประเภทโครงงานคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์ เป็นเครอื่ งมอื ท่ีใชใ้ นงานวจิ ยั ในทุก ๆ สาขาวชิ า ดงั น้นั โครงงานคอมพวิ เตอรจ์ ึงมี ความหลากหลายเป็นอย่างมาก ท้ังในลักษณะของเน้ือหา กิจกรรม และลักษณะของประโยชนห์ รอื ผลงานทไี่ ด้ ซึ่งอาจแบง่ เป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คอื 2.1 โครงงานพัฒนาสื่อเพ่ือการศึกษา เปน็ โครงงานที่ใชค้ อมพิวเตอรใ์ นการผลติ ส่ือเพ่ือการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรยี น หรือหน่วยการเรยี น ซ่งึ อาจจะต้องมภี าคแบบฝึกหดั บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผูเ้ รียน สามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลมุ่ การสอนโดยใช้คอมพิวเตอรช์ ว่ ยนี้ ถือวา่ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ เปน็ อุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เปน็ ครูผูส้ อน ซ่ึงอาจเปน็ การพัฒนาบทเรยี นแบบ Online ให้นักเรียนเขา้ มา ศึกษาด้วยตนเองก็ได้

4 ภาพท่ี 1 พฒั นาสื่อเพ่ือการศึกษา 2.2 โครงงานพฒั นาเครอ่ื งมอื เป็นโครงงานเพอ่ื พัฒนาเคร่ืองมือมาใชช้ ่วยสรา้ งงานประยุกตต์ ่าง ๆ ซ่ึงโดยสว่ นใหญจ่ ะเปน็ ในรปู ซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครอ่ื งมือช่วยงาน เชน่ ซอฟต์แวรว์ าดรปู ซอฟต์แวร์พมิ พ์งาน ซอฟต์แวร์ ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เปน็ ต้น สาหรบั ซอฟตแ์ วรเ์ พื่อการพมิ พง์ านน้นั สร้างขน้ึ เปน็ โปรแกรม ประมวลผลภาษา ซงึ่ จะเป็นเคร่อื งมือใหเ้ ราใชง้ านในงานพิมพต์ า่ ง ๆ บนเครื่องคอมพวิ เตอรเ์ ปน็ ไปได้ โดยงา่ ย ซ่งึ รูปทไี่ ด้สามารถนาไปใชง้ านตา่ ง ๆ ไดม้ ากมาย สาหรบั ซอฟต์แวรช์ ่วยในการมองวตั ถุในมมุ ต่าง ๆ ใชส้ าหรับช่วยในการออกแบบสง่ิ ของต่าง ๆ เชน่ โปรแกรมประเภท 3D ภาพที่ 2 การพัฒนาเครื่องมือ

5 2.3 โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี เป็นโครงงานใชค้ อมพวิ เตอร์ในการจาลองการทดลองของสาขาตา่ ง ๆ เปน็ โครงงานท่ีผู้ทา ตอ้ งศึกษารวบรวมความรู้ หลกั การ ข้อเทจ็ จรงิ และแนวความคิดตา่ ง ๆ อยา่ งลึกซง้ึ ในเรื่องทีต่ อ้ งการ ศึกษา แลว้ เสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซ่งึ อาจอยใู่ นรูปของสมการ สตู ร หรอื คาอธิบายก็ได้ พรอ้ มทั้งนาเสนอวิธกี ารจาลองทฤษฎดี ว้ ยคอมพิวเตอร์ การทาโครงงานประเภทนม้ี ีจดุ สาคัญอยู่ที่ผู้ทา ตอ้ งมีความร้เู รือ่ งนัน้ ๆ เป็นอย่างดี ตวั อย่าง เชน่ การทดลองเรือ่ งการไหลของเหลว การทดลองเร่ือง พฤติกรรมของปลาอโรวานา่ ทฤษฎีการแบ่งแยกดเี อน็ เอ เป็นต้น ภาพท่ี 3 จาลองทฤษฎี 2.4 โครงงานประเภทการประยุกตใ์ ช้งาน เปน็ โครงงานท่ีใชค้ อมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพ่ือประยกุ ต์ใช้งานจริงในชวี ิตประจาวนั เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแตง่ อาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับ การระบุคนรา้ ย เป็นตน้ โครงงานงานประเภทนีจ้ ะมีการประดษิ ฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์ หรืออปุ กรณใ์ ช้ สอยต่าง ๆ ซ่งึ อาจจะสรา้ งใหมห่ รือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมทม่ี ีอยู่แลว้ ใหม้ ี ประสทิ ธภิ าพสงู ข้นึ ก็ได้ โครงงานลกั ษณะน้ีจะตอ้ งศึกษาและวิเคราะหค์ วามต้องการของผู้ใชก้ ่อน แลว้ นาข้อมูลที่ไดม้ าใช้ในการ ออกแบบ และพฒั นาส่ิงของนั้น ๆ ต่อจากนัน้ ต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของ ส่ิงประดษิ ฐ์แลว้ ปรับปรงุ แกไ้ ขให้มคี วามสมบรู ณ์ โครงงานประเภทนี้นกั เรยี นต้องใชค้ วามรเู้ ก่ยี วกับ เครื่องคอมพวิ เตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครอ่ื งมือต่าง ๆ ท่เี กยี่ วขอ้ ง รวมท้ังอาจใช้วิธีทางวศิ วกรรม ฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์ในการพฒั นาดว้ ย

6 ภาพท่ี 4 การประยุกต์ใชง้ าน 2.5 โครงงานพัฒนาเกม เป็นโครงงานพฒั นาซอฟต์แวร์เกมเพ่ือความรู้ และ/หรือ ความเพลดิ เพลนิ เช่น เกมหมากรกุ เกมหมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่งเกมท่ีพฒั นาข้นึ นน้ี ่าจะเน้นใหเ้ ป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้ สมองเพื่อฝกึ คิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทน้ีจะมกี ารออกแบบลักษณะและกฎเกณฑก์ ารเลน่ เพือ่ ใหน้ ่าสนใจเกผ่ ู้เลน่ พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปดว้ ย ผูพ้ ัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและ รวบรวมข้อมลู เกย่ี วกับเกมตา่ ง ๆ ทม่ี อี ยู่ทว่ั ไปและนามาปรับปรงุ หรอื พฒั นาขึน้ ใหมเ่ พ่ือใหป้ น็ เกมท่ี แปลกใหม่ และน่าสนใจแกผ่ เู้ ล่นกลมุ่ ต่าง ๆ ภาพท่ี 5 พฒั นาเกม

7 3. ขัน้ ตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ในการจดั ทาโครงงานคอมพิวเตอร์มีข้นั ตอนการทาโครงงานมอี ูย่ 6 ข้นั ตอน ดังนี้ 3.1 คดั เลือกหัวขอ้ โครงงานที่สนใจ โดยท่ัวไปเร่อื งท่จี ะนามาพัฒนาเปน็ โครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปญั หา คาถาม หรือความสนใจในเร่ืองต่างๆ จากการสงั เกตสิ่งตา่ งๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั ระบบคอมพวิ เตอร์ หรือสิง่ ต่างๆ รอบตวั ปัญหาท่ีจะนามาพัฒนาโครงงานคอมพวิ เตอร์ไดจ้ ากแหลง่ ตา่ งๆ กนั ดงั น้ี 1) การอ่านคน้ ควา้ จากหนงั สอื เอกสาร หนงั สือพิมพ์ หรอื วารสารต่างๆ 2) การไปเยี่ยมชมสถานทตี่ า่ งๆ 3) การฟังบรรยายทางวิชาการ รายการวทิ ยแุ ละโทรทัศน์ รวมท้งั การสนทนาอภิปราย แลกเปล่ยี นความคิดเหน็ ระหว่างเพื่อนนักเรียนหรือกบั บุคคลอื่นๆ 4) กิจกรรมการเรยี นการสอนในโรงเรียน 5) งานอดิเรกของนักเรียน 6) การเขา้ ชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพวิ เตอร์ 3.2 ศึกษาค้นควา้ จากเอกสารและแหลง่ ข้อมูล การศึกษาคน้ คว้าจากเอกสารและแหลง่ ข้อมูล ซงึ่ รวมถงึ การขอคาปรึกษาจากผู้ทรงคุณวฒุ ิ จะชว่ ยให้นกั เรยี นได้แนวคดิ ท่ีใช้ในการกาหนดขอบเขตของเร่อื งที่จะศกึ ษาได้เฉพาะเจาะจงมากยงิ่ ขึน้ รวมท้งั ได้ความรู้เพ่ิมเตมิ ในเร่อื งท่จี ะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงาน นั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาจะต้องได้คาตอบว่า 1) จะทา อะไร 2) ทาไมต้องทา 3) ตอ้ งการให้เกิดอะไร 4) ทาอย่างไร 5) ใช้ทรัพยากรอะไร 6) ทากบั ใคร 7) เสนอผลอยา่ งไร

8 3.3 องคป์ ระกอบของเค้าโครงของโครงงาน รายละเอียดท่ตี อ้ งระบุ ตารางที่ 1 เค้าโครงของโครงงาน รายงาน ชอื่ โครงงาน ทาอะไร กบั ใคร เพือ่ อะไร ประเภทโครงงาน วเิ คราะห์จากลักษณะของประโยชน์หรือผลงานทไี่ ด้ ช่ือผูจ้ ดั ทาโครงงาน ผ้รู บั ผดิ ชอบโครงงาน อาจเป็นรายบคุ คล หรอื รายกล่มุ ก็ได้ ครทู ่ีปรึกษาโครงงาน คร-ู อาจารยผ์ ู้ทาหน้าทีเ่ ป็นทีป่ รกึ ษา และควบคมุ การทาโครงงานของนักเรยี น ครทู ี่ปรึกษาร่วม คร-ู อาจารย์ผูท้ าหน้าท่เี ป็นทป่ี รกึ ษาร่วม ใหค้ าแนะนาในการทาโครงงานของ นักเรยี น ระยะเวลาดาเนนิ งาน ระยะเวลาการดาเนนิ งานโครงงาน ตงั้ แต่เรม่ิ ตน้ จนสน้ิ สุด กาหนดเป็นวนั หรอื เดอื นกไ็ ด้ แนวคดิ ทม่ี า และความสาคัญ สภาพปัจจุบันท่ีเปน็ ความต้องการและความคาดหวังทจ่ี ะเกิดผล วตั ถุประสงค์ สิ่งที่ต้องการใหเ้ กิดขนึ้ เมือ่ สน้ิ สุดโครงงานทั้งในเชงิ กระบวนการ และผลผลิต หลักการและทฤษฎี หลักการและทฤษฎีท่ีนามาใช้ในการพฒั นาโครงงาน วธิ ีดาเนินงาน กจิ กรรมหรือข้ันตอนการดาเนินงาน เคร่ืองมือ วสั ดุอุปกรณ์ งบประมาณ และผ้รู ับผิดชอบ ข้ันตอนการปฏบิ ตั ิ วัน เวลา และกจิ กรรมดาเนินการตา่ งๆ ต้งั แตเ่ ริ่มต้นจนสนิ้ สุด ผลทีค่ าดวา่ จะไดร้ ับ สภาพของผลที่ต้องการให้เกิด ทง้ั ทเี่ ป็นผลผลิต กระบวนการ และผลกระทบ เอกสารอ้างอิง สื่อเอกสาร ข้อมลู ที่ไดจ้ ากแหล่งต่างๆ ท่ีนามาใช้ในการดาเนินงาน

9 3.4 การลงมือทาโครงงาน เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรกึ ษาแล้ว กเ็ สมือนวา่ การ จัดทาโครงงานไดผ้ า่ นพน้ ไปแลว้ มากกว่าคร่งึ ขั้นตอนต่อไปจะเปน็ การลงมือพัฒนาตามขั้นตอนท่ี วางแผนไว้ ดงั นี้ 3.4.1 การเตรยี มการ การเตรียมการ ตอ้ งเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟตแ์ วร์ และวัสดุอื่นๆ ท่ีจะใช้ใน การพัฒนาให้พร้อมดว้ ย และควรเตรยี มสมุดบนั ทึกหรือบนั ทกึ เป็นแฟ้มขอ้ ความไวใ้ นระบบ คอมพิวเตอร์ สาหรับบนั ทึกการทากจิ กรรมตา่ งๆ ระหวา่ งทาโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏบิ ตั ิอย่างไร ได้ผล อยา่ งไร มปี ญั หาและแก้ไขได้หรอื ไม่อยา่ งไร รวมทัง้ ข้อสงั เกตตา่ งๆ ท่ีพบ 3.4.2 การลงมือพัฒนา 1) ปฏิบัติตามแผนงานท่ีวางไว้ในเคา้ โครง แตอ่ าจเปล่ียนแปลงหรือเพิ่มเตมิ ได้ถา้ พบว่าจะชว่ ยทาใหผ้ ลงานดีข้ึน 2) จดั ระบบการทางานโดยทาส่วนท่เี ปน็ หลักสาคัญๆ ให้แลว้ เสรจ็ ก่อน จึง ูคอ่ ยทา ส่วนที่เปน็ ส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพ่ือใหโ้ ครงงานมีความสมบรู ณ์มากข้ึน และถ้ามีการแบ่ง งานกนั ทา ให้ตกลงรายละเอียดในการต่อเช่ือมชิน้ งานท่ชี ดั เจนด้วย 3) พฒั นาระบบงานด้วยความละเอยี ดรอบคอบ และบนั ทึกข้อมลู ไวอ้ ย่าง เปน็ ระบบและครบถว้ น 3.4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เป็นความจาเป็นเพ่ือให้แนใ่ จว่าผลงาน ทพ่ี ฒั นาขึน้ ทางานไดถ้ ูกต้องตรงกบั ความต้องการ ทีร่ ะบุไว้ในเป้าหมายและทาดว้ ย ประสิทธิภาพสูงด้วย 3.4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ เมือ่ พฒั นาผลงานเรียบรอ้ ยแล้ว ให้จดั ทาสรุปดว้ ยขอ้ ความท่ีสน้ั กะทัดรัดอย่าง ครอบคลุม เพื่อชว่ ยให้ผูอ้ า่ นไดเ้ ข้าใจถึงสงิ่ ทคี่ ้นพบจากการทาโครงงาน และทาการอภปิ รายผลด้วย เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พรอ้ มกับนา ไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรอื ผลงานทผ่ี ู้อน่ื ได้ศึกษาไว้แลว้ ทงั้ นี้ยงั รวมถึงการนาหลักการ ทฤษฎี หรอื ผลงานของผู้อ่ืนมาใช้ประกอบการอภปิ ราย ผลทีไ่ ด้ด้วย

10 3.4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมอื่ ทาโครงงานเสรจ็ สนิ้ ลงแลว้ นกั เรยี นอาจพบข้อสงั เกต ประเดน็ ท่สี าคัญ หรอื ปัญหา ซ่งึ สามารถเขียนเปน็ ข้อเสนอแนะและสิง่ ที่ควรจะศึกษาและหรอื ใช้ประโยชน์ต่อไปได้ 3.5 การเขยี นรายงาน การเขยี นรายงานเป็นวธิ กี ารสือ่ ความหมายเพ่ือให้ผู้อน่ื ไดเ้ ข้าใจแนวคดิ วธิ ีดาเนนิ การศึกษา คน้ ควา้ ข้อมูลทไี่ ด้ ตลอดจนข้อสรปุ และข้อเสนอแนะต่างๆ เกีย่ วกับโครงงานนัน้ ในการเขยี นรายงาน นกั เรียนควรใช้ภาษาท่ีอ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ใหค้ รอบคลุมหัวข้อตา่ งๆเหลา่ นี้ 3.5.1 สว่ นนา ส่วนนา เป็นการใหข้ ้อมลู เกี่ยวกับโครงงานน้นั ซ่ึงประกอบดว้ ย 1) ช่อื โครงงาน 2) ชอื่ ผ้ทู าโครงงาน 3) ชอื่ อาจารย์ท่ปี รกึ ษา 4) คาขอบคุณ เป็นคากล่าวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงานที่มีสว่ นช่วยทาให้ โครงงานสาเรจ็ 5) ยอ่ บทคัดย่อ อธบิ ายถึงท่ีมา ความสาคญั วัตถปุ ระสงค์ วิธีดาเนนิ การ และผลท่ีได้ โดย 3.5.2 บทนา บทนาเปน็ สว่ นรายละเอยี ดของเนอื้ หาของโครงงานซ่ึงประกอบดว้ ย 1) ท่มี าและความสาคัญของโครงงาน 2) เป้าหมายของการศึกษาคน้ คว้า 3) ขอบเขตของโครงงาน 3.5.3 หลกั การและทฤษฎี หลักการและทฤษฎี เปน็ สว่ นสรุปขอ้ มูลที่ไดจ้ ากการศึกษาหาขอ้ มลู หรือหลกั การ ทฤษฎี หรือวธิ กี ารที่จะนามาใชใ้ นการพฒั นาโครงงาน ซึ่งรวมถงึ การระบผุ ลงานของผู้อ่นื ที่นักเรียน นามาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพ่มิ เติมด้วย 3.5.4 วธิ ีดาเนินการ วิธีดาเนินการ อธบิ ายขั้นตอนการดาเนนิ งานโดยละเอียด พรอ้ มท้ังระบปุ ัญหาหรือ อปุ สรรคท่ีพบพร้อมทัง้ วธิ กี ารท่ใี ชแ้ ก้ไข พร้อมทงั้ ระบวุ ัสดุอุปกรณท์ ตี่ ้องใชใ้ นการทางาน

11 3.5.5 ผลการศึกษา ผลการศกึ ษา นาเสนอข้อมูลหรอื ระบบท่ีพฒั นาไดโ้ ดยอาจแสดงเปน็ ตาราง หรือ กราฟ หรือขอ้ ความ ทั้งนี้ใหค้ านึงถงึ ความเข้าใจของผอู้ า่ นเปน็ หลกั 3.5.6 สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรปุ ทีไ่ ด้จากการทางาน ถา้ มกี ารต้ังสมมตฐิ าน ควร ระบุด้วยว่าขอ้ มลู ทไ่ี ด้สนับสนุนหรือคัดค้านสมมติฐานท่ีตั้งไวห้ รือยังสรปุ ไม่ได้ นอกจากนนั้ ยงั ควร กลา่ วถงึ การนา ผลการทดลองหรือพฒั นาไปใชป้ ระโยชน์ อุปสรรคของการทาโครงงาน หรอื ข้อสังเกตที่ สาคัญ หรอื ข้อผิดพลาดบางประการท่เี กิดขน้ึ จากการทา โครงงานนี้ รวมท้ังข้อเสนอแนะเพือ่ การ ปรบั ปรุงแก้ไขหากจะมีผู้ศึกษาคน้ คว้าในเรื่องทานองน้ีต่อไปในอนาคตด้วย 3.5.7 ประโยชน์ ประโยชนท์ ไ่ี ด้รบั จากโครงงาน ระบุประโยชน์ท่ีนกั เรียนได้รับจากการพฒั นาโครงงาน น้นั และประโยชนท์ ่ีผใู้ ชจ้ ะได้รบั จากการนาผลงานของโครงงานไปใชด้ ้วย 3.5.8 บรรณานกุ รม บรรณานุกรม รวบรวมรายช่ือหนงั สอื วารสาร เอกสาร หรอื เวบ็ ไซดต์ ่างๆ ทผ่ี ้ทู า โครงงานใช้ค้นควา้ หรอื อา่ นเพ่ือศกึ ษาข้อมูลและรายละเอียดตา่ งๆ ทนี่ ามาใชป้ ระโยชนใ์ นการทา โครงงานน้กี ารเขียนเอกสารบรรณานุกรมต้องให้ถูกต้องตามหลกั การเขียนดว้ ย 3.5.9 การจัดทาคู่มือการใช้งาน หาโครงงานทน่ี กั เรยี นจัดทา เปน็ การพัฒนาระบบใหมข่ ึน้ มา ให้นักเรยี นจัดทาคู่มือ อธบิ ายวิธกี ารใชผ้ ลงานนนั้ โดยละเอียด ซึง่ ประกอบดว้ ย 1) ชอื่ ผลงาน 2) ความต้องการของระบบคอมพวิ เตอร์ ระบรุ ายละเอยี ดของคอมพิวเตอร์ที่ต้องมี เพ่อื จะใชผ้ ลงานนัน้ ได้ 3) ความต้องการของซอฟต์แวร์ ระบุรายชอ่ื ซอฟต์แวรท์ ่ตี ้องมีอยู่ในเครื่อง คอมพิวเตอร์ เพ่อื จะใหผ้ ลงานนนั้ ทางานได้อย่างสมบูรณ์ 4) คณุ ลกั ษณะของผลงาน อธิบายวา่ ผลงานนนั้ ทา หน้าที่อะไรบา้ ง รบั อะไรเป็น ขอ้ มลู ขาเขา้ และสว่ นอะไรออกมาเปน็ ข้อมลู ขาออก 5) วธิ ีการใช้งานของแตล่ ะฟงั กช์ นั อธบิ ายว่าจะต้องกดคาส่ังใด หรือกดปุ่มใด เพือ่ ให้ ผลงานทางานในฟงั ก์ชันหน่งึ ๆ

12 3.6 การนาเสนอและแสดงโครงงาน การนาเสนอและการแสดงผลงานเปน็ ขนั้ ตอนทส่ี าคัญอกี ขัน้ ตอนหน่ึงของการทาโครงงาน เพ่อื แสดงออกถงึ ผลติ ผลความคิด ความพยายามในการทางานทผี่ ู้ทาโครงงานได้ทุ่มเท และเปน็ วิธีทาให้ ผอู้ นื่ ไดร้ ับรู้และเข้าใจถงึ ผลงานนั้น การเสนอผลงานอาจทาได้ในหลายรูปแบบต่างๆ กนั เช่น การ แสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบายประกอบการรายงานด้วยคาพดู ในท่ีประชมุ การจัดนทิ รรศการโดย โปสเตอร์และอธบิ ายด้วยคาพูด เปน็ ตน้ โดยผลงานท่ีนามาเสนอหรอื จดั แสดงควรประกอบด้วยสิ่ง ต่อไปน้ี 1) ชื่อโครงงาน 2) ช่ือผ้จู ดั ทาโครงงาน 3) ช่ืออาจารย์ทีป่ รกึ ษา 4) คาอธิบายถงึ ที่มาและความสาคัญของโครงงาน 5) วธิ ีการดาเนนิ การท่ีสาคัญ 6) การสาธิตผลงาน 7) ผลการสงั เกตและข้อสรปุ สาคญั ที่ไดจ้ ากการทาโครงงาน สรปุ การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ เปน็ การศกึ ษาคน้ คว้าเกย่ี วกับความหมายของโครงงาน คอมพวิ เตอร์ โดยคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณอ์ เิ ล็กทรอนิกสท์ ่ีมกี ารเขยี นคาสงั่ ใหท้ างานตามท่กี าหนดไว้ เพื่ออานวยความสะดวกและชว่ ยแบ่งเบาการทางานของเราใหถ้ ูกต้องรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมาก ขน้ึ โดยแบง่ ประเภทของโครงงานคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 5 ประเภท ดังนี้ 1) โครงงานพัฒนาสือ่ เพอ่ื การศึกษา 2) โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 3) โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี 4) โครงงานประเภทการประยกุ ต์ใช้ งานและ 5) โครงงานพฒั นาเกม และแบ่งขั้นตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอรไ์ ดท้ ้ังหมด 6 ขั้นตอน ดงั นี้ 1) คดั เลอื กหัวข้อโครงงานท่สี นใจ โดยทว่ั ไปเร่ืองทีจ่ ะนามาพัฒนาเปน็ โครงงานคอมพวิ เตอร์ มักจะได้มาจากปญั หา คาถาม หรือความสนใจในเร่ืองต่างๆ 2) ศกึ ษาคน้ ควา้ จากเอกสารและ แหล่งขอ้ มูล ซง่ึ รวมถงึ การขอคาปรกึ ษาจากผู้ทรงคณุ วฒุ ิ จะช่วยใหน้ กั เรยี นได้แนวคดิ ทใ่ี ช้ในการ กาหนดขอบเขตของเรอื่ งทจี่ ะศกึ ษาได้เฉพาะเจาะจงมากยง่ิ ขึน้ 3) องค์ประกอบของเคา้ โครงของโครงงาน 4) การลงมือทาโครงงาน 5) การเขยี นรายงาน 6) การนาเสนอและแสดงโครงงาน

13 การพัฒนาเว็บไซต์ 1. ความหมายของเวบ็ ไซต์ หมายถงึ หนา้ เวบ็ เพจหลายหนา้ ซ่งึ เชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอรล์ ิงก์ ส่วนใหญจ่ ัดทาขึน้ เพอื่ นาเสนอข้อมลู ผา่ นคอมพิวเตอร์ โดยถจู ัดเกบ็ ไวใ้ นเวลิ ด์ไวด์เวบ็ ในเวบ็ ไซตน์ ัน้ ซึ่งได้แก่ข้อมูลทาง วิชาการ ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ หรอื ข้อมลู สือ่ ตา่ งๆ ผทู้ าเวบ็ ไซต์มีหลากหลายระดบั ตง้ั แต่สร้าง เวบ็ ไซตส์ ว่ นตัวจนถงึ ระดับเว็บไซต์สาหรับธุรกิจหรือองค์กรตา่ งๆ การเรยี กดูเว็บไซตโ์ ดยทั่วไปนิยม เรียกดูผา่ นซอฟต์แวรใ์ นลักษณะของ เว็บบราวเ์ ซอร์ 2. องคป์ ระกอบของเวบ็ ไซต์ 2.1 ชื่อของเวบ็ ไซต์ หรอื URL ( Uniform Source Locator ) คอื รหัสสบื ค้นแหลง่ ขอ้ มลู ซึ่งเปน็ การเชื่อมโยงขอ้ มลู ในระบบเวิลด์ไวดเ์ ว็บ โดยกาหนดให้ ขึ้นต้อนด้วยคาวา่ “http://” หมายถึงการเชื่อมโยงกบั แหล่งข้อมลู เวิลด์ไวด์เวบ็ โดยมรี ะบบโตต้ อบของ การส่อื สารแบบ HTTP (Hyper Text Transfer Protocol) หรอื การแสดงข้อมลู แบบ Hypertext รปู แบบของ URL ประกอบด้วย http://host/path/text 2.2 โฮมเพจ ( Homepage ) เปน็ ขอ้ มูลหนา้ แรกที่ให้ข้อมูลเกยี่ วกับเว็บไซต์น้ันๆ จงึ จะเป็นจดุ เรม่ิ ต้นของเว็บไซต์ตา่ งๆ โฮมเพจนี้จะทาหน้าที่เหมือนกับประตูหนา้ บ้านของเวบ็ ไซต์แตล่ ะแห่ง ซ่ึงถือว่าเป็นทแี่ รกที่เขา้ ไปเยย่ี ม ชมเว็บไซตจ์ ะต้องผ่าน และยังเป็นท่ีเชอื่ มโยงไปยังเวบ็ เพจตา่ งๆ ต่อไป ไมว่ า่ จะเปน็ การเชื่อมโยงโดยตรง หรือเช่อื มโยงผา่ นเวบ็ อนื่ ๆ 2.3 เวบ็ เพจ (web page) เป็นการนาเสนอข้อมลู ในรปู แบบเวลิ ดไ์ วดเ์ ว็บ ซึง่ เป็นการสอื่ สารเพื่อนาเสนอข้อมลู ได้ หลายรปู แบบ เวบ็ เพจจะมีลักษณะเป็นสือ่ ประสม ทีห่ นา้ เว็บเพจหน่ึงๆ จะมีตั้งแต่ 2-3 หนา้ จนถึง พันๆฟน้า และในหนา้ เอกสารสามารถเชือ่ มโยงไปอีกหน้าหน่งึ ทีม่ ีเน้ือหาเกี่ยวข้องได้โดยการเชอ่ื มขอ้ มูล แบบไฮเปอรเ์ ทก็ การเชอื่ มโยงบนเวบ็ เพจแตล่ ะเพจ จะมีให้เลือกซึ่งอยใู่ นลักษณะท่ีเป็นหัวข้อรูปภาพ ปจั จุบนั นร้ี ปู แบบของคาสัง่ เชื่อมโยงจะอยใู่ นรูปของขอ้ มูลภาพ icon หรอื ปุม่ ตา่ งๆ ซงึ่ สามารถคลกิ ไป บนรปู แบบเหลา่ นี้ เพื่อเชอื่ มโยงข้อมลู หนึ่งไปยังอกี ขอ้ มลู หนง่ึ ท่ีเกีย่ วข้อง โดยรายละเอยี ดของเวบ็ เพจ ประกอบด้วยสว่ นสาคญั ต่างๆ คือ ข้อความ รปู ภาพ ส่ือผสม Scoll bar ตวั นับ Frames ฟอร์ม Image Map และ Link

14 3. รูปแบบของเว็บไซต์ แบ่งไดเ้ ปน็ 2 รูปแบบหลักๆ คอื 3.1 Static Website หมายถงึ เวบ็ ไซต์ที่สร้างดว้ ยภาษา HTML ธรรมดา และบันทึกเปน็ ไฟล์นามสกุล .HTML เนอ้ื หาข้อความ รูปภาพในหน้าเวบ็ เพจนั้นจะเป็นไปตามทเ่ี ราเขียนกาหนดไว้เหมาะกบั ไซตท์ มี่ ีขนาดไม่ ใหญ่ จานวนหนา้ เว็บเพจไม่มากไม่มีการเปล่ียนแปลงข้อมลู บ่อยๆ และไม่มีการตดิ ตอ่ ฐานข้อมลู 3.2 Dynamic Website หมายถงึ เวบ็ ไซต์ท่ีหนา้ เวบ็ เพจสามารถเปลย่ี นแปลงข้อมูลเองได้ โดยไม่ตอ้ งเขียนแต่ละ หน้าเว็บเพจเอง เชน่ กระดานขาว (Web board), ระบบสืบคน้ ขอ้ มลู เวบ็ ไซต์รูปแบบน้จี ะถกู สร้างดว้ ย ภาษา Script แบบ Server Side Script เชน่ PHP , ASP , ASP .Net, JSP และอ่ืนๆ ไฟล์เอกสาร ข้อมลู หรอื นาข้อมูลจากฐานขอ้ มลู ขึ้นมาแสดงผลเปน็ หนา้ เวบ็ เพจ 4. ประโยชน์ของเวบ็ ไซต์ 1. ช่วยสง่ เสริม ศักยภาพด้านการแขง่ ขันด้านธุรกจิ 2. ชว่ ยเผยแพร่ข้อมลู และขา่ วสารตา่ งๆ ใหเ้ ปน็ ทร่ี ู้จักกนั อยา่ งแพร่หลาย 3. ชว่ ยใหเ้ ขา้ ถงึ กลมุ ลูกคา้ หรือกลุ่มผใู้ ชบ้ ริการไดอ้ ยา่ งมากมาย 4. เป็นช่องทางหลักทางการตลาดของบริษทั หรือองศก์ ร ร้านคา้ 5. สามารถใหบ้ ริการต่างๆ ทีส่ ะดวกสบาย ทนั สมัย และรวดเรว็ ทส่ี ุด 6. ชว่ ยสรา้ งภาพลักษณ์ที่ดใี ห้กับองค์ บริษทั และธุรกจิ ต่างๆ 7. ชว่ ยลดค่าใชจ้ ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางธุรกจิ สรุป การพัฒนาเว็บไซต์เป็นการนาเสนอขอ้ มูลผา่ นคอมพวิ เตอร์ ซ่ึงมีระดบั ตง้ั แตส่ ร้างเว็บไซต์ ส่วนตัวจนถงึ ระดบั การสา้ งเว็บไซตส์ าหรบั ธุรกิจหรอื องค์กรต่างๆ ซึง่ องคป์ ระกอบของของเว็บไซต์ ประกอบด้วย 1.ชอื่ เวบ็ ไซตห์ รือURL คือรหสั สบื ค้นแหลง่ ข้อมลู 2.โฮมเพจ (Homepage) เปน็ ขอ้ มลู หน้าแรกที่ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั เว็บไซต์นั้นๆ 3.เว็บไซต์ (Website) เปน็ การนาเสนอข้อมูลในรูปแบบเวลิ ด์ ไซต์ และรูปแบบของเวบ็ ไซต์ มี2รปู แบบ คือ 1.Static Website เปน็ เวบ็ ไซตท์ ี่สามารถสรา้ งดว้ ย HTMLและบนั ทกึ เปน็ ไฟล์นามสกลุ HTML 2.Dynamic Website เปน็ เวบ็ ไซต์ที่สามารถเปล่ียนแปลง ขอ้ มลู เองไดโ้ ดยไมต่ ้องเขียนแตล่ ะหน้าเว็บเพจ ประโยชน์ของเวบ็ ไซต์ ชว่ ยสง่ เสรมิ เผยแพรข่ ้อมลู ทาง ธุรกิจเปน็ ชอ่ งทางการตลาดท่ีทันสมัย สะดวก และรวดเรว็ เป็นการสร้างภาพลกั ษณ์ดีและลดคา่ ใช้จา่ ย ในการโฆษณา

15 เนอ้ื หาสตั วป์ ่าสงวน 1. ความหมายของสัตวป์ า่ สงวน สัตว์ป่าสงวน หมายถงึ สัตวป์ า่ หายากหรอื กาลังจะสูญพนั ธุ์ จงึ หา้ มล่าหรือมไี วใ้ นครอบครอง ทงั้ สตั ว์ทย่ี งั มีชีวิตหรือซากสัตว์ เว้นแต่กระทาเพ่ือการศึกษาวิจยั ทางวิชาการ หรือเพือ่ กิจการ สวนสาธารณะ โดยไดร้ ับอนุญาตจากอธบิ ดีกรมป่าไม้เปน็ กรณีพิเศษ ซึง่ สัตวป์ า่ สงวนมี 19 ชนดิ ตาม พระราชบัญญตั สิ งวนและคุ้มครองสตั ว์ปา่ พ.ศ.2558 2. ชนดิ ของสัตว์ป่าสงวน สตั ว์ปา่ สงวนมี 19 ชนดิ คือ แมวลายหินอ่อน พะยนู เกง้ หม้อ นกกระเรยี น เลียงผา กวางผา ละ องหรือละมง่ั สมัน กูปรี ควายป่า แรด กระซู่ สมเสร็จ นกแตว้ แลว้ ท้องดา และนกเจ้าฟา้ หญิงสริ ินธร วาฬบรูดา้ วาฬโอมรู ะ ฉลามวาฬ เต่ามะเฟือง สรุป สัตวป์ า่ สงวนคอื สัตวท์ ี่หายากหรือกาลงั จะสญู พันธุ์ มพี ระราชบญั ญตั ิคมุ้ ครอง ซง่ึ มี บทลงโทษสาหรับคนที่ล่าหรือมีไวใ้ นครอบครอง โดยผทู้ ี่จะวิจัยหรอื ศึกษาเก่ยี วกบั สัตว์ป่าสงวนจะต้อง ไดร้ บั อนุญาติจากอธิบดกี รมป่าไมเ้ ป็นกรณีพิเศษ ซ่งึ พระราชบญั ญตั ิคุ้มครองสงวนและค้มุ ครองสตั ว์ ปา่ พ.ศ. 2558 มสี ตั วป์ า่ สงวนท้ังหมด 19 ชนดิ โปรแกรม Google site 1. ความหมายของ Google site Google sites คือโปรแกรมของ Google ที่ใหบ้ ริการสรา้ งเวบ็ ไซตฟ์ รี สามรถสร้างเวบ็ ไซตไ์ ด้ งา่ ย ปรับแตง่ รูปลกั ษณ์ได้อย่างอสิ ระ และสามารถรวบรวมความหลากหลายของข้อมูลไว้ในทเ่ี ดยี ว เช่น วิดีโอ ปฏิทนิ เอกสาร อน่ื ๆ สามารถนามาแทรกในหนา้ เว็บเพจได้ เปน็ การเพิ่มลกู เล่น ใช้งานได้ง่าย ทา ให้ชว่ ยอานวยความสะดวกได้เป็นอย่างมาก 2. จุดเดน่ ของ Google site 2.1 ใหบ้ ริการฟรี ไมเ่ สียค่าใช้จา่ ย 2.2 พนื้ ทีจ่ ดั เก็บข้อมลู ไม่จากัด 2.3 มี Gadget มากมาย 2.4 ใชง้ านไดง้ ่าย

16 3. วิธกี ารสรา้ งเว็บไซต์ด้วย Google site สมคั รเปดิ การใชง้ านเว็บไซต์ Google Sites ภาพที่ 6 การสมัครเข้าใช้งานเว็บไซต์ Google sites 1. ไปที่เวบ็ https://sites.google.com กรอกที่อยู่อีเมลแ์ ละรหสั ผา่ นท่ีคณุ สมัครลงไปเม่ือ กรอกเรียบร้อยแลว้ เลอื กลงชื่อเขา้ ใชง้ าน ภาพท่ี 7 เลอื ก \"สร้าง\" เพอ่ื ทาการสรา้ งเว็บไซต์ 2. เลอื ก \"สร้าง\" เพ่อื ทาการสร้างเว็บไซต์ ภาพท่ี 8 เลือกเทมเพลตหรอื รูปแบบเวบ็ ไซต์ ต้ังช่ือเว็บไซต์และเลอื กธีม

17 3. เลือกเทมเพลตหรือรูปแบบเวบ็ ไซต์ของคุณ แนะนาใหเ้ ลือกแม่แบบท่วี ่างเปล่า เนือ่ งจากใน สว่ นน้ีเราจะไมส่ ามารถมาปรับแตง่ แก้ไขตามใจชอบได้ ส่วนทีเ่ ราสามารถแก้ไขได้คือสว่ นทรี่ ะบบ กาหนดมาให้ 4. ตัง้ ชื่อเว็บไซต์เม่ือเรากรอกชอื่ เว็บไซต์ลงไปช่อื เว็บไซต์ที่กรอกกจ็ ะเปน็ ตาแหน่งท่อี ยู่ URL ของเว็บไซตด์ ว้ ย แตถ่ ้าไมช่ อบใจยังไงก็สามารถแก้ไขหรือปรับเปล่ยี นได้ 5. เลือกธีมสามารถเลือกธมี ที่ตอ้ งการไดต้ ามใจชอบเลย เพราะเราสามารถมาแก้ไจส่วนน้ีได้ ตวั เลือกเพิ่มเติม คือ รายละเอยี ดเกยี่ วกบั เว็บไซต์ของคณุ ภาพท่ี 9 กรอกข้อความทเ่ี ห็นในภาพลงไปในชอ่ งวา่ ง 6. กรอกข้อความท่เี ห็นในภาพลงไปในช่องว่าง เพอื่ เปน็ การตรวจสอบว่าคุณเปน็ มนุษย์จรงิ ๆไม่ ใช้โปรแกรมหรอื บอท ภาพที่ 10 กรอกรายละเอียดขา้ งต้นลงไปแลว้ ก็เลือกสร้างได้เลย 7. เมื่อกรอกรายละเอียดขา้ งต้นลงไปแลว้ ก็เลอื กสร้างได้เลย ภาพท่ี 11 หน้าหลักของเวบ็ ไซตน์ ้ี

18 เพยี งเท่านเ้ี รากส็ ามารถสรา้ งเวบ็ ไซต์ได้ง่ายๆแถมยังฟรีอีกดว้ ย วธิ ีสร้างหน้าเวบ็ ใหม่ ภาพท่ี 12 เลอื กหน้าเวบ็ ใหม่ 1. ไปที่หนา้ เว็บไซต์ของคุณ เชน่ sites.google.com/site/phakamatblog เลอื ก \"หน้าเวบ็ ใหม่\" ภาพที่ 13 ต้งั ช่อื เลือกเทมเพลตตาแหนง่ และกดสร้างหนา้ เว็บใหม่ 2. ตั้งชื่อหนา้ เว็บของคุณอาจจะเปน็ หวั ข้อของเนื้อหาในหน้าเว็บ 3. เลอื กเทมเพลตควรเลือกให้เหมาะกบั เน้ือหาในหนา้ เว็บของคุณ 4. ตาแหนง่ การวางของหนา้ เว็บจะใหอ้ ยู่สว่ นไหน 5. เลอื กสร้างเพ่อื ทาการสร้างหน้าเว็บใหม่

19 ภาพที่ 14 ชอ่ื หัวขอ้ ความเวบ็ 6. ชื่อหวั ขอ้ ความเวบ็ 7. ส่วนใสเ่ นอ้ื หาในหน้าเว็บ 8. สามารถใช้เคร่ืองมือปรบั แตง่ แก้ไขข้อความหรือแทรกวิดโี อรูปภาพต่างๆได้ 9. เม่ือเขียนข้อความในหนา้ เวบ็ เรยี บรอ้ ยแล้วเลอื กบันทึกเพอ่ื ดูผลลัพธ์ไดเ้ ลย ภาพที่ 15 คลกิ ท่ีรปู ภาพดนิ สอในกรอบส่เี หลยี่ มหมายเลข 10 เพื่อแก้ไข เพยี งเท่าน้กี ็สามารถสร้างหนา้ เว็บได้แล้ว แต่ถา้ หน้าเวบ็ ยงั ไมถ่ ูกใจก็สามารถคลิกทร่ี ปู ภาพ ดินสอในกรอบสเี่ หล่ยี มหมายเลข 10 เพ่ือแก้ไขได้ดว้ ย สรปุ Google site สามรถสร้างเว็บไซต์ไดง้ ่าย ปรับแต่งรปู ลกั ษณ์ไดอ้ ย่างอิสระ และรวบรวม ความหลากหลายของข้อมลู ใชง้ านง่าย ซ่งึ จุดเด่น คือ ใหบ้ ริการฟรี ไม่เสยี ค่าใช้จา่ ย พืน้ ทีจ่ ดั เกบ็ ข้อมลู ไมจ่ ากัด มี Gadget มากมาย มีวิธีการสรา้ งมี 2 วธิ ี คือ สมคั รเปดิ การใช้งานเว็บไซต์ Google Sites และ วธิ ีสรา้ งหน้าเวบ็ ใหม่

20 โครงงานทีเ่ ก่ยี วข้อง ภาวินี นยิ มศรี (2561)ไดพ้ ฒั นาสื่อเพื่อการศึกษา เรอ่ื ง สตั วป์ า่ สงวน มีวัตถปุ ระสงค์เพ่ือศึกษาและหาแนวทางการอนุรกั ษ์สัตว์ป่าสงวนไม่ใหส้ ญู พนั ธ์ุ โดยได้ศึกษาจาก หนังสือและอนิ เทอรเ์ น็ต ผลการศกึ ษาและจดั ทาโครงงานพบว่า สัตวป์ ่าสงวนเป็นสัตว์ปา่ ท่ีหายากและ ใกลส้ ญู พนั ธุห์ รืออาจสูญพนั ธไ์ุ ปแลว้ จงึ จาเปน็ ตอ้ งมีบทบญั ญตั เิ ข้มงวดเพือ่ ป้องกนั ไมใ่ ห้เกดิ อนั ตรายแก่ สัตวป์ า่ ท่ยี ังมชี วี ิตอยู่หรอื ซากสัตวป์ ่า ปัจจุบนั ทง้ั หมด 19 ชนิด มกี ารใช้ Blogger ในการผลิตสื่อเพื่อ การศึกษาเปน็ เวบ็ ไซต์ทมี่ ีเนอื้ หาหลากหลายมีการแสดงความคิดเหน็ และการเผยแพร่ผลงานในหลาย ด้าน โดยนาเสนอเผยแพร่ผลงานผ่าน fstteamwork.blogspot.com ซง่ึ สามารถเชอื่ มต่อกบั สื่อสังคมในรูปแบบของ Social Media ประเภทเว็บไซต์ facebook และgmail ของผู้จดั ทาที่ชื่อsansanee mongkolmuang ทัง้ นีเ้ ว็บบล็อก สามารถจดั การและเชอ่ื มตอ่ กับเว็บไซต์ อน่ื ๆ ได้เป็นอยา่ งดี โดยทง้ั ครูท่ปี รกึ ษา เพ่ือนๆในห้องเรียนได้เขา้ ไปมีสว่ นรว่ มในการจัดการเรียนรู้ โดย แสดงความเหน็ ในเนื้อหาและรูปแบบของการนาเสนออย่างหลากหลาย ลดั ดาวรรณ ศรฉี มิ (2559) ไดพ้ ฒั นาบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บผา่ นโปรแกรม Google Site ซึง่ เปน็ รปู แบบหนง่ึ ในการจดั การเรยี นการสอนที่กระตุน้ ใหเ้ กดิ กระบวนการเรียนรอู้ ยา่ ง มีเปา้ หมายและมปี ระสิทธภิ าพ โปรแกรมGoogle Siteเป็นโปรแกรมออนไลน์ทช่ี ่วยในการเรยี นการ สอนของครโู ดยสามารถเชื่อมโยงเนอื้ หา แหล่งข้อมูลต่างๆ ไมว่ า่ จะเปน็ รปู แบบไฟล์ เสียง วดี ิโอ ที่ นกั เรียนสามารถเข้าถึงแหลง่ ข้อมูลได้งา่ ย และไมว่ ่าจะอยู่ที่ไหนเวลาใด ก็สามารถเกดิ การเรียนรู้ด้วย ตนเองได้ ผศู้ ึกษาจึงสนใจทจ่ี ะพฒั นาบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ ด้วยโปรแกรมGoogle Site โดย นาทฤษฎสี ร้างสรรค์ความรู้มาช่วยในการพฒั นาบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเวบ็ เร่ือง หลกั การทา โครงงานคอมพวิ เตอร์ โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจงกับนักเรียน

บทท่ี 3 วิธกี ารจดั ทาโครงงาน วัสดุและอุปกรณ์ วสั ดุและอุปการณท์ ี่ใช้ในการจัดทาโครงงานไดแ้ ก่ 1. ฮารด์ แวร์ 1.1 คอมพวิ เตอร์ 1.2 โทรศพั ท์ 2. ซอรฟ์ แวร์ 2.1 Google site 2.2 Microsoft word 2.3 Google form วธิ ีการจดั ทาโครงงาน 1. คัดเลอื กหวั ข้อโครงงานที่สนใจ คณะผู้จัดทาได้ปรกึ ษา พูดคุยศึกษาข้อมูลและสรปุ ได้ว่าคณะผจู้ ัดทามีความสนใจเรื่องสตั ว์ ปา่ สงวน ภาพท่ี 16 เลอื กหัวขอ้ ที่สนใจ

22 2. ศกึ ษาคน้ ควา้ จากเอกสารและแหลง่ ข้อมลู คณะผจู้ ัดทาได้ศึกษาค้นคว้าหาข้อมลู จากแหล่งข้อมลู ผานทางเครือข่ายอนิ เทอร์เนต็ ภาพที่ 17 ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมลู 3. จัดทาเคา้ โครงของโครงงาน คณะผู้จดั ทาได้ตกลงแบ่งหน้าที่กัน เพื่อให้ทกุ คนมีส่วนรว่ มในการทางาน ภาพท่ี 18 จดั ทาเคา้ โครงของโครงงาน

23 4. การลงมอื ทาโครงงาน คณะผู้จดั ทาได้แบง่ งานให้สมาชกิ ในกลมุ่ และเรมิ่ ปฎิบัติ ตามขั้นตอนการดาเนินงานตาม กจิ กรรมที่ได้กาหนดไว้ ตั้งแต่เร่ิมลงมือทาจนสาเรจ็ ตามวัตถุประสงค์ ภาพที่ 19 ลงมอื ทาโครงงาน 5. การเขยี นรายงาน คณะผู้จัดทาได้ทาการนาขอ้ มูลทั้งหมดมาจัดเรียบเรียงใหอ้ ยู่ในรูปแบบรายงานเป็นรูปเลม่ โครงงานฉบับสมบูรณ์ ภาพที่ 20 การเขยี นรายงาน

24 6. การนาเสนอและแสดงโครงงาน การนาเสนอและแสดงโครงงานเป็นการแสดงของงาน ความคิด และความพยายาม ทง้ั หมดท่ีคณะผ้จู ัดทาโครงงานลงมือทา และเป็นวธิ กี ารท่ีจะทาใหผ้ ู้อ่ืนได้รบั รู้และเข้าใจถึงผลงาน ภาพท่ี 21 การนาเสนอและแสดงโครงงาน

บทที่ 4 ผลการศกึ ษา จากการศึกษาการสร้างบทเรียนออนไลน์ เร่อื ง สตั วป์ ่าสงวน ในการจัดทาโครงงานครงั้ นี้ ผู้จดั ทาได้ออกแบบและพัฒนาเวบ็ ไซต์ เพ่ือเปน็ แหล่งเรียนรใู้ หก้ บั ผู้ทีส่ นใจในเร่ืองของสัตว์ป่าสงวน โดยสามารถเข้าศึกษาแหลง่ เรียนรู้ผา่ นทางเว็บไซต์ https://sites.google.com/s/1kabaKogAl9aPOMfAfyvQG0QoIfw9sdIF/p/1zfirIUTYIm57bZU A0XH43KX_FgqUQPcB/edit ตัวอยา่ งส่ือดงั ต่อไปน้ี ภาพที่ 22 หน้าหลกั

26 ภาพที่ 23 ชนดิ สตั ว์ปา่ สงวนของไทย ภาพที่ 24 ข้อควรทราบบางประการจากพระราชบัญญตั ิ

27 ภาพที่ 25 พระราชบัญญตั สิ งวนและคุม้ ครองสตั วป์ า่ (ฉบบั ท่ี 2) ภาพท่ี 26 แบบทดสอบ

บทท่ี 5 สรุปผลและขอ้ เสนอแนะ จากการศึกษาและพฒั นาบทเรียนออนไลน์ เรือ่ ง สตั ว์ป่าสงวน สมารถสรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการได้ดังน้ี สรุปผลการศกึ ษา จากการจดั ทาโครงงานในครง้ั น้มี ีวัตถปุ ระสงค์ เพื่อพฒั นาบทเรยี นออนไลน์ เรอ่ื ง สัตว์ปา่ สงวน ศึกษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทใ่ี ช้สร้างการทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ ศึกษาการทาโครงงาน คอมพวิ เตอร์เพื่อการศึกษาเก่ียวกับเรื่อง สตั ว์ปา่ สงวน และศกึ ษาวิธีการพฒั นาเว็บไซต์ด้วยโปรแกรม Google sites จากการศกึ ษาและพฒั นาพบวา่ ทาให้ผู้ศกึ ษารู้ว่าบทเรยี นออนไลน์ เรื่อง สัตว์ปา่ สงวน เป็นบทเรียนที่มีประสิทธภิ าพสามารถนาไปใชใ้ นการจัดการเรียนการสอนได้ และเปน็ แหลง่ ศกึ ษาหา ความร้ใู หแ้ กผ่ ู้ท่ีสนใจได้เป็นอยา่ งดี โดยสามารถเข้าถงึ บทเรียนออนไลน์ผา่ นทาง https://bit.ly/2MXTWrW ได้ความรับรเู้ กย่ี วกบั การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ ได้ศกึ ษาและใช้ โปรแกรมจากคอมพวิ เตอรใ์ ห้เป็นประโยชน์ ได้ความร้เู ก่ียวสัตว์ป่าสงวน และได้พัฒนาเว็บไซตด์ ้วย โปรแกรม Google sites ปญั หาและอปุ สรรค 1. แหลง่ ขอ้ มลู ท่ีใชใ้ นการศึกษาเพื่อเป็นแนวทางในการจดั ทารายงานมีความแตกต่างกนั 2. เคร่อื งคอมพวิ เตอรช์ า้ และบางครง้ั อินเทอร์เน็ตมปี ญั หาเขา้ พร้อมกันจะทาให้ชา้ วธิ กี ารแก้ปญั หา 1.แหลง่ ขอ้ มลู มีความแตกต่างกนั ตอ้ งศกึ ษาจากหลายๆแหล่งเพ่ือความถูกต้องของข้อมลู 2.ต้องตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนใช้งานเพ่ือป้องกันไม่ให้ข้อมูลขาดหายเมื่อ คอมพิวเตอร์ทางานช้าหรืเมื่ออนิ เทอร์เน็ตมีปัญหา ขอ้ เสนอแนะ 1.เนือ้ หาบทเรยี นออนไลน์ เรอื่ ง สตั ว์ปา่ สงวน สามารถนาไปทาผ่านโปรมแกรมอืน่ ๆได้ หลากหลายไมจ่ าเป็นต้งเปน็ โปรมแกรม Google site 2. ควรทาแบบทดสอบ เรื่อง สัตวป์ ่าสงวนผ่านเว็บไซต์http://gg.gg/eyga8 เพ่ือทดสอบความ เข้าใจเกี่ยวกับเรอื่ งสัตวป์ ่าสงวนที่ผูอ้ า่ นได้ศกึ ษาจากเนื้อหาข้างตน้

29 บรรณานุกรม ความหมายของคอมพิวเตอร์. (2556). (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://guru.sanook.com/4145/. (สืบคน้ เมื่อ 28 พฤษภาคม 2562). ชนิ วฒั น์ สุรศักด์ิ. (ม.ป.ป.). สัตวป์ า่ สงวน หมายถ๊ง. (ออนไลน์). https://sites.google.com/ (สืบค้นเมอื่ 21 พฤษภาคม 2562). ฐติ ิยาภรณ์ ทวี. (2562). ประเภทของโครงงานคอมพวิ เตอร์. (ออนไลน์). https://sites.google.com/site/ocomputerpj6/. (สืบค้นเมื่อ 18 มิถุนายน 2562). ฐิติยาภรณ์ ทวี. (2562).ขน้ั ตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอร์. (ออนไลน์). https://sites.google.com/site/ocomputerpj6/. (สบื ค้นเม่อื 18 มถิ นุ ายน 2562). ณฐั พล ดีช่นื . (2557). การสรา้ งเวบ็ ไซต์ด้วย Google sites. (ออนไลน์). https://sites.google.com/site/. (สืบคน้ เมือ่ 25 มิถุนายน 2562). ภาวนิ ี นิยมศรี. (2561).โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง สัตว์ป่าสงวน. (ออนไลน์). http://fstteanwork.blogspot.com/. (สืบคน้ เมื่อ 20 สงิ หาคม 2562). อาทิตย์ พลสุวรรณ. (2559). Google site คืออะไร. (ออนไลน์). https://sites.google.com/ (สบื ค้นเมือ่ 21 พฤษภาคม 2562). ลัลดาวรรณ ศรีฉิม. (2559). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอรผ์ ่านเว็บ ดว้ ยโปรแกรมGoogle Site. (ออนไลน์). https://www.tci-thaijo.org/. (สบื คน้ เมอ่ื 20 สงิ หาคม 2562).

30 ภาคผนวก เลอื กหวั ข้อท่สี นใจ ศกึ ษาค้นควา้ จากเอกสารและแหลง่ ขอ้ มลู

31 จดั ทาเคา้ โครงของโครงงาน ลงมือทาโครงงาน

32 การเขียนรายงาน นาเสนอและแสดงโครงงาน

33 ขอ้ มูลผูจ้ ดั ทา ช่อื นางสาวกมลรัตน์ นามสกุล โสประโคน อายุ 18 ปี ที่อยู่ 214 ม.8 บ.หนองขอน ต.โคกขมน้ิ อ.พลับพลาชยั จ.บรุ ีรมั ย์ 31250 เบอรโ์ ทรศัพท์ 08-0912-0366 ชื่อ นางสาววริ ัลยา นามสกุล วิวรรณรัมย์ อายุ 17 ปี ที่อยู่ 78/1 ม.8 บ.โคกกลาง ต.โคกมา้ อ.ประโคนชยั จ.บุรรี ัมย์ 31140 เบอร์โทรศัพท์ 06-3010-9335 ชือ่ นางสาวศิครนิ ธร นามสกลุ หาญประโคน อายุ 17 ปี ทอี่ ยู่ 113 ม.1 บ.จระเขม้ าก ต.จระเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บรุ รี ัมย์ 31140 เบอรโ์ ทรศัพท์ 06-2128-2262 ช่ือ นายศิวดล นามสกุล เปล่งชยั อายุ 17 ปี ท่อี ยู่ 26 ม.7 บ.หนองกระตา่ ย ต.ประทัดบุ อ.ประโคนชยั จ.บรุ ีรมั ย์ 31140 เบอรโ์ ทรศัพท์ 06-1040-2493 ชื่อ นางสาวกวินทิพย์ นามสกุล ปะสขุ อายุ 17 ปี ท่อี ยู่ 119 ม.3 บ.ยาง ต.หนองบอน อ.ประโคนชยั จ.บุรีรัมย์ 31140 เบอร์โทรศัพท์ 09-8149-3866 ช่ือ นางสาวอภิญญา นามสกลุ เจนประโคน อายุ 17 ปี ที่อยู่ 114 ม.6 บ.ชยั พัฒนา ต.ตะโกตาพิ อ.ประโคนชยั จ.บุรีรมั ย์ 31140 เบอร์โทรศัพท์ 06-2986-2001


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook