ภูมปิ ัญญาในทอ้ งถ่ินการทำไขเ่ คม็ ดนิ สอพอง นางสาว ณัฐณิชา ผู้จัดทำ นางสาว ปุณยนชุ ทองเงนิ รหสั 63302010089 นางสาว สภุ าวดี บุรีเรอื ง รหัส 63302010098 นางสาว อรณชิ ทองประยรู รหัส 63302010117 นางสาว อำนวย มพี ระจนั ทร์ รหัส 63302010119 กองเมอื ง รหสั 63302010120 เอกสารฉบบั นี้เป็นส่วนหน่งึ ของการศึกษาคน้ ควา้ ประกอบการเรียนรายวชิ าชีวติ กบั สังคมไทย วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563
ภมู ิปญั ญาในท้องถิ่นการทำไขเ่ คม็ ดนิ สอพอง นางสาว ณัฐณิชา ผจู้ ัดทำ นางสาว ปณุ ยนุช ทองเงนิ รหสั 63302010089 นางสาว สภุ าวดี บรุ ีเรอื ง รหัส 63302010098 นางสาว อรณชิ ทองประยรู รหัส 63302010117 นางสาว อำนวย มีพระจนั ทร์ รหัส 63302010119 กองเมือง รหัส 63302010120 เอกสารฉบับนี้เป็นส่วนหน่ึงของการศกึ ษาคน้ ควา้ ประกอบการเรยี นรายวชิ าชีวติ กบั สังคมไทย วทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบรุ ี สังกัดสำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษาภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2563
ก ช่ือเรื่อง ภมู ปิ ัญญาท้องถิ่นการทำไข่เค็มดนิ สอพอง ผ้จู ัดทำ นางสาว ณฐั ณิชา ทองเงนิ นางสาว ปณุ ยนุช บรุ เี รอื ง นางสาว สภุ าวดี ทองประยรู นางสาว อรณิช มีพระจันทร์ นางสาว อำนวย กองเมือง ทป่ี รึกษา อาจารย์ศริ ิโสภา วิศิษฏ์วฒั นะ ปีการศึกษา 2563 บทคดั ย่อ เรอ่ื ง ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ การทำไขเ่ ค็มดนิ สอพอง ทางผจู้ ัดทำจงึ ได้ศึกษาวธิ ถี นอมอาหาร โดยการนำไข่เป็ดมาทำเป็นไข่เค็มแต่เนื่องจากในชุมชนและท้องตลาด มีวิธีการทำไข่เค็มแบบธรรมดา ทางผู้จัดทำจึงได้มีแนวคิดที่จะพัฒนาไข่เค็มโดยการนำดินสอพองซึ่งเป็นสมุนไพรที่อยู่คู่เมืองลพบุรีมา ช้านานจัดอยู่ในสมุนไพรจำพวกแร่ธาตุหรือเรียกว่าเครื่องยาธาตุวัตถุ สืบค้นไปก็จะพบว่าดินสอพอง เป็นยาสมุนไพรตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชจากตำราพระโอสถพระนารายณ์นำมาเพ่ิม สรรพคุณให้แก่ไข่เค็มจุดเด่นของไข่เค็มดินสอพองไข่เค็มจะไม่เค็มไข่ขาวนิ่มไข่แดงมันเพิ่มรสชาติมัน มันและสามารถนำมาเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพได้และเพื่อเป็นการศึกษาหลักการทาง วทิ ยาศาสตรว์ า่ จะมคี วามแตกต่างมากนอ้ ยเพยี งใดกบั ไข่เค็มทม่ี ีอยู่ตามท้องตลาดในการทำโครงงานไข่ เค็มดินสอพองซึ่งมีแนวคิดใหม่ในการพัฒนาให้มีไข่เค็มโดยการนำดินสอพองมาเพิ่มคุณค่าสรรพคุณ ให้แกไ่ ข่เคม็ มีจดุ ประสงคเ์ พ่อื 1. เพื่อศกึ ษาการถนอมอาหารโดยนำมาพอกกบั ดินสอพองผสมกบั เกลอื 2. เพื่อพัฒนารสชาตแิ ละกล่ินของไขเ่ คม็ ให้มคี ณุ ภาพมากขน้ึ 3. เพ่อื เพิ่มคุณคา่ ให้กับไขเ่ คม็ 4. เพื่อเปน็ แนวทางในการประกอบอาชพี ใหก้ บั ชมุ ชน 5. เพอ่ื ใหค้ นในชมุ ชนไดใ้ ช้เวลาว่างในการทำกจิ กรรมร่วมกันและสร้างความสามคั คีในชมุ ชน
ข กติ ตกิ รรมประกาศ โครงการสำเร็จลลุ ่วงได้ด้วยความกรุณจากอาจารย์ศิริโสภา วิศิษฏ์วัฒนะ อาจารย์ที่ปรึกษา โครงงานที่ได้ให้คำเสนอแนะ แนวคิด ตลอดจนแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ มาโดยตลอด จนโครงงานเล่ม นเี้ สรจ็ สมบรู ณ์ ผศู้ กึ ษาจงึ ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ขอบคุณเพื่อนในกลุ่มทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือ ตลอดจนคำแนะนำที่เป็น ประโยชน์ในการ ทำโครงงาน ท้ายที่สุด ขอกราบขอบพระคุณพ่อและแม่ที่เป็นผู้ให้กำลังใจและเป็นผู้แนะนำให้คำปรึกษา ต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์ คณะผู้จัดทําโครงงานขอขอบพระคุณทุกท่านอย่างสูงที่ให้การสนับสนุน เอือ้ เฟ้อื และให้ความอนเุ คราะห์ชว่ ยเหลือ จนกระทงั่ โครงงานสาํ เร็จลลุ ่วงได้ด้วยดี คณะผจู้ ดั ทำ นางสาว ณัฐณชิ า ทองเงนิ นางสาว ปุณยนชุ บรุ เี รือง นางสาว สภุ าวดี ทองประยรู นางสาว อรณชิ มีพระจันทร์ นางสาว อำนวย กองเมอื ง
ค สารบญั เรือ่ ง หนา้ บทคัดย่อ ก กิตตกิ รรมประกาศ ข สารบัญ ค สารบญั (ตอ่ ) ง บทที่ ๑ บทนำ 1 1.1 ความเปน็ มา 2 1.2 วตั ุประสงค์ 2-3 1.3 ขอบเขต 3 1.4 ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั 3 บทที่ ๒ ทฤษฏีทีเ่ กี่ยวขอ้ ง 3-4 ๒.๑ ทฤษฎีหรือแนวความคิดในการจดั ทำโครงการ ๒.๒ ประโยชน์ของไข่ 5 5 บทท่ี ๓ วธิ ีดำเนินงาน ๓.๑ สว่ นผสมของวัตถุดิบและวธิ ีการทำ 6 ๓.๒ วธิ ีการทำไขเ่ คม็ บทท่ี ๔ ผลการศึกษาคน้ ควา้ ๔.๑ ผลทไ่ี ด้จากการศึกษาคน้ ควา้
ง 7 7 สารบญั (ตอ่ ) 7 บทท่ี ๕ สรปุ ผลและอภปิ รายผล 8 9-11 ๕.๑ สรุปผล 12 ๕.๒ ปญั หาและอปุ สรรคในการศกึ ษาคน้ ควา้ ๕.๓ ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการพฒั นา บรรณานกุ รม ภาคผนวก ก. ประวตั ิผศู้ กึ ษา
1 บทที่ 1 บทนำ 1. ความเปน็ มา สมัยโบราณผ้คู นส่วนใหญ่ทำอาชพี ทำนากนั เกอื บทุกบา้ นมักจะเลย้ี งเปด็ และไก่ไว้กนิ ไข่ ซ่งึ จะ เล้ียงบ้านละ 10-20 ตวั การเล้ียงเป็ดสว่ นใหญจ่ ะเลีย้ งแบบปลอ่ ยทุ่ง เปด็ จะหาอาหารตามทุง่ นากนิ และและชาวบ้านจะใหอ้ าหารเสริมแกเ่ ปด็ ดว้ ยข้าวเปลือก จึงทำใหไ้ ขเ่ ปด็ ไม่มกี ล่นิ คาวจากน้ันเม่อื เป็ด ออกไขค่ นก็จะนำมาทำเปน็ อาหารในครัวเรอื น เนื่องจากชาวบา้ นเลีย้ งเป็ดเกอื บทุกหลงั คาเรือน ทำ ให้ไขเ่ ป็ดเหลอื ใช้จงึ มกี ารคดิ ถนอมอาหารโดยการนำไข่เป็ดมาดองกลายมาเปน็ ไข่เคม็ เพราะไข่เค็มเปน็ การถนอมอาหารชนดิ หนงึ่ เพอ่ื เก็บไว้กินไดน้ านๆ 2. วัตุประสงค์ ๑. เพอ่ื ศกึ ษาการถนอมอาหารโดยนำมาพอกกบั ดนิ สอพองผสมกับเกลือ ๒. เพอื่ พัฒนารสชาตแิ ละกลน่ิ ของไข่เค็มใหม้ ีคุณภาพมากขึน้ ๓. เพอ่ื เพมิ่ คณุ ค่าให้กบั ไข่เค็ม ๔. เพอื่ เป็นแนวทางในการประกอบอาชพี ให้กบั ชุมชน ๕. เพอ่ื เปน็ การอนุรักษ์ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ินใหค้ งอยู่ 3. ขอบเขต (ระบุขอบเขตของงานท่ที ำ) 3.1 สถานท่ี หมู่ 1 บา้ นหินสองกอ้ น ถนนศรอี นิ ทราทิตย์ ตำบลถนนใหญ่ อำเภอเมอื ง จงั หวัด ลพบุรี 15000 3.2 ระยะเวลา เรม่ิ วันท่ี 3 มกราคม 2564 ถงึ วนั ท่ี 1 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 3.3 ตวั แปรหรือประชากรและกล่มุ ตัวอยา่ ง (เลอื กตามวธิ ีการศึกษาค้นคว้า) 3.3.1 ตวั แปรต้น คือ ไขเ่ ปด็ ท่ีนำมาหมัก 3.3.2 ตวั แปรตาม คือ รสชาตแิ ละกล่ินของไข่เค็ม 3.3.3 ตวั แปรควบคมุ คือ ดินสอพองและเกลอื ระยะเวลาในการดองไข่ สถานท่ี อุณหภูมิ 3.4 ประชากร คือ ประชากรในชุมชน หมู่ 1 บ้านหินสองก้อน ถนนศรอี นิ ทราทิตย์ ตำบล ถนนใหญ่ อำเภอเมือง จงั หวัดลพบุรี 15000
2 3.5 กลุ่มตวั อยา่ ง คอื กลุ่มไข่เค็มดินสอพอง ศรีสกุล 216 หมู่ 1 บา้ นหินสองกอ้ น ถนนศรอี ินทราทติ ย์ ตำบลถนนใหญ่ อำเภอเมือง จงั หวดั ลพบุรี 15000 4. ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับ 4.1 เป็นการยดื อายขุ องไขเ่ คม็ 4.2 เปน็ การเพมิ่ คุณค่าให้กบั ไข่เคม็ 4.3 สามารถเพ่มิ รายไดใ้ หก้ บั ชมุ ชนได้ 4.4 ได้ศกึ ษาการทำไขเ่ คม็ ดนิ สอพอง 4.5 ไขส่ ามารถทำให้เส้นผมและเลบ็ สขุ ภาพดี
3 บทท่ี 2 ทฤษฏที ีเ่ ก่ียวข้อง 2.1 ทฤษฎหี รือแนวความคดิ ในการจัดทำโครงการ อาหารเปน็ ปจั จัยหน่ึงทีม่ คี วามจำเป็นตอ่ การดำรงชวี ิตของมนุษย์ ในปัจจบุ นั ด้วยจำนวน ประชากรและทรพั ยากรด้านอาหาร ทม่ี ีปริมาณเพ่มิ ขึ้นจำนวนมาก และรวมถึงพฤตกิ รรมการบรโิ ภค อาหารที่มีการเปล่ียนแปลงไปหลากหลาย จงึ จำเปน็ ต้องมกี ารเก็บรักษาอาหารใหไ้ ว้ได้นานทีส่ ุด การถนอมอาหาร คอื กรรมวธิ ีการปฏิบตั ทิ ี่มวี ัตถุประสงค์ ไม่ให้อาหารเส่ือมสภาพเรว็ เกนิ ไป และเพอ่ื ยืดอายุการเก็บรกั ษาอาหาร ชะลอสภาพการเน่าเสยี ของอาหารจากหลายๆสาเหตุ ทัง้ ด้านจุลิ นทรี ,สารเคมี และทางกายภาพของอาหารชนดิ ตา่ งๆ โดยจะคงรกั ษาไว้ ซึง่ คุณภาพ รสชาติ และ คุณคา่ ของสารอาหาร แนวทางในการถนอมอาหาร ในสมยั อดตี ทผ่ี า่ นมา มีกรรมวธิ ีการทำหลายอยา่ ง อาทิ เช่น การถนอมอาหารด้วยแสงอาทติ ย์ เช่น ปลาแห้ง , เน้ือแห้ง , กลว้ ยตาก, ใบชาแหง้ การถนอมอาหารดว้ ยควันไฟ เชน่ ปลารมควัน จะนำปลาแห้งมารมดว้ ยควันไฟ เพ่อื กนั มอดและ แมลง จะทำใหเ้ กบ็ ไว้บรโิ ภคได้นานๆ และมกี ล่นิ หอมเปน็ เอกลักษณ์ของอาหารชนิดน้ันๆ การถนอมอาหารดว้ ยความเค็มของเกลอื เชน่ เนือ้ เคม็ , ปลาเคม็ , ผกั กาดเค็ม และไขเ่ คม็ กเ็ ชน่ เดียวกนั ในท่นี ่ีเราจะมาทำการถนอมอาหารประเภท ไข่ โดยการนำไขม่ าพอกกบั ดนิ สอพองและ เกลือ 2.2 ประโยชนข์ องไข่ ประโยชนข์ องไข่เคม็ นน้ั มมี ากมายอยา่ งน่าอศั จรรยเ์ ลยทเี ดยี วคะ่ แตถ่ า้ จะได้ ประโยชน์ของไข่ อย่างสงู สดุ ก็ควรท่จี ะมีการบรโิ ภคหรือการกินไข่ทเ่ี หมาะสมตามวยั กันอีกด้วยค่ะ เพือ่ ที่จะได้รบั ประโยชน์ของไข่ อยา่ งเต็มทใ่ี หก้ บั รา่ งกาย และวนั นเี้ รากน็ ำเกรด็ ความรเู้ ร่ืองประโยชน์ของไขแ่ ละการ บรโิ ภคไข่ท่ีเหมาะสมมาฝาก เพอ่ื ใหท้ ุกคนไดร้ บั ความรแู้ ละปฏิบตั ิตามกนั อย่างควบคู่กนั ไปเพือ่ สขุ ภาพ ที่ดคี ะ่ โดยปกติคนส่วนใหญ่ก็มักจะเลอื กรบั ประทานไขเ่ ป็นอาหารหลกั กนั อยแู่ ล้วไมใ่ ช่แตเ่ ฉพาะคน ไทยเท่านั้นต่างชาติหลายๆ ประเทศก็มกั จะนิยมบรโิ ภคไข่เปน็ อาหารหลกั ดว้ ยกนั ท้งั นนั้ ประโยชนไ์ ข่เค็มได้แก่ 1. ไข่อุดมไปด้วยโปรตนี โดย 1 ฟองจะมีโปรตีนคณุ ภาพดี 6 กรมั และกรดอะมิโนสำคญั อกี 9 ชนิด 2. ผลจากการทำวิจัยโดยมหาวิทยาลัยแพทยฮ์ ารว์ าร์ดพบว่า ไมม่ คี วามเชอ่ื มโยงทสี่ ำคญั ระหวา่ งการบริโภคไข่กับการเกดิ โรคหวั ใจ แถมยงั มผี ลการวจิ ัยอกี ชน้ิ หน่งึ ทพ่ี บวา่ การบริโภคไข่เปน็ ประจำยังช่วยป้องกนั เลอื ดจบั ตวั เปน็ ก้อนเส้นเลอื ดอุดตนั ในสมองและภาวะกลา้ มเนอื้ หวั ใจตาย เฉียบพลัน
4 3. ไข่เปน็ แหล่งโคลนี ท่ดี ี โดยโคลีนอยู่ในกลมุ่ ของวิตามินบีจดั เป็นสารอาหารสำคัญที่ชว่ ยในการ ควบคุมการทำงานของสมอง ระบบประสาท และระบบไหลเวยี นของเลอื ด โดยไข่ 1 ฟองจะมีโคลนี มากถึง 300 ไมโครกรมั 4. ไข่อาจจะชว่ ยปอ้ งกนั มะเร็งเต้านม โดยผลการศึกษาชนิ้ หนึ่งพบว่า ผู้หญงิ ที่รบั ประทานไข่ 6 ฟองตอ่ สัปดาหช์ ่วยลดความเส่ยี งทีจ่ ะเป็นมะเรง็ เต้านมลงรอ้ ยละ 44 5. ไขท่ ำให้เสน้ ผมและเล็บมีสขุ ภาพดี เพราะวา่ ไข่มซี ัลเฟอรส์ ูงรวมถึงยงั มีวติ ามนิ และแรธ่ าตอุ ีก หลายชนิด หลายคนจงึ พบว่าผมยาวเรว็ ข้นึ หลังจากท่เี พิม่ ไข่เขา้ ไปในอาหารท่ีรบั ประทาน โดยเฉพาะ อยา่ งยิง่ ในคนทเ่ี คยขาดอาหารทมี่ ีซลั เฟอร์หรอื วิตามนิ บี 12 มากอ่ น
5 บทที่ 3 วธิ ีดำเนนิ งาน 3.1 สว่ นผสมของวัตถดุ ิบและวิธีการทำ มีดังนี้ 1. ดินสอพอง 1 กโิ ลกรมั 2. เกลือ ครง่ึ กิโลกรัม 3. น้ำ 350 กรมั 4. สารส้ม 50 กรมั 5. ไขเ่ ปด็ 60 ฟอง 3.2 วิธีการทำไข่เคม็ 1. ลา้ งไขเ่ ปด็ ให้สะอาด 2. นำมาจมุ่ หรอื ชบุ ในโคลนเหนยี วสีเทาอมขาวทีท่ ำจากดนิ สอพองผสมเกลือทะเลปน่ และนำ้ 3. นำไปคลงึ กลบดว้ ยขี้เถ้าแกลบจนทวั่ ฟอง แล้วบรรจุในถุงพลาสติกเพือ่ รักษาความชื้นหมกั ทิง้ ไวป้ ระมาณ 3-7 วัน 4. พอกหมกั มาถงึ 7 วนั แลว้ ใหแ้ กะดนิ สอพองทพ่ี อกออก แล้วแชต่ ้เู ยน็ จะไดไ้ ม่เค็มเกินไป ซง่ึ อายุ 7-20 วนั เหมาะสำหรบั ทำไขเ่ คม็ ตม้ สุก ไขแ่ ดงหอมมนั เย้มิ ๆ
6 บทท่ี 4 ผลการศกึ ษาค้นคว้า 4.1 ผลท่ีได้จากการศึกษาคน้ ควา้ 4.1.1. ได้ศึกษาการถนอมอาหารโดยนำมาพอกกับดนิ สอพองผสมกบั เกลือและหมักใหไ้ ดท้ ี่ 4.1.2. ได้ทราบการพฒั นารสชาติ กลน่ิ ของไขเ่ คม็ ใหม้ ีคุณภาพมากข้นึ 4.1.3. สามารถนำไปเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพให้กบั ครอบครวั 4.1.4. ไดเ้ รียนร้กู ารอนรุ ักษ์ภูมปิ ัญญาท้องถิ่นใหค้ งอยู่และสามารถายทอดความร้ใู ห้กบั ผอู้ ่ืนได้
7 บทท่ี 5 สรปุ อภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ 5.1 สรุปผล 5.1.1. การรบั ประทานไข่เคม็ มปี ระโยชน์ตอ่ รา่ งกาย 5.1.2. รสชาตไิ ข่เคม็ มีความกลมกล่อมรสชาตดิ ี 5.1.3. การรับประทานไข่เคม็ มผี ลตอ่ รา่ งกายมาก 5.1.4. คนสว่ นใหญร่ ับประทานไข่เคม็ มาก 5.1.5. คดิ วา่ ไข่เคม็ ทำยาก 5.2 ปัญหาและอปุ สรรคในการศกึ ษาคน้ ควา้ 5.2.1. เกิดสถานการณโ์ ควดิ -19 ทำให้ไมส่ ามารถสำรวจตามพืน้ ทไี่ ด้ 5.2.2. ไดข้ ้อมลู ในการศกึ ษาไม่มากพอ 5.3 ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา 5.3.1. ผลการศึกษาพบว่า ควรจะมกี ารใช้วัตถุดิบหรือส่วนผสมทีม่ ากขน้ึ มีการนำสมนุ ไพร ชนดิ อ่ืนมาใช้ทำในการพฒั นาผลิตภณั ฑ์และควรพฒั นาต่อยอดโครงงานใหส้ ามารถเปน็ ผลิตภัณฑ์ทส่ี มบูรณ์ 5.3.2. เพ่มิ การกระจายรายไดจ้ ากการขายหน้าร้าน โดยจัดจำหน่ายทางออนไลน์
8 บรรณานุกรม เวบ็ ไซตท์ ี่ศกึ ษาคน้ ควา้ ประวตั คิ วามเปน็ มาของไข่เคม็ https://druckky.blogspot.com/2013/06/blog-post_8669.html?fbclid (ศกึ ษาวนั ท่ี 13 มกราคม 2564) ประโยชน์ของไขเ่ ค็ม http://www.snc.lib.su.ac.th/kmblog/?p=1377&fbclid (ศกึ ษาวันที่ 13 มกราคม 2564) วธิ ีการทำไขเ่ ค็มดินสอพอง http://www.coolism.net/eatout_detail.php/787/smart_network/?fbclid (ศึกษาวนั ท่ี 15 มกราคม 2564)
9 ภาคผนวก ส่วนผสมของวตั ถุดบิ และวธิ กี ารทำ มีดังนี้ 1. ดนิ สอพอง 1 กโิ ลกรมั 2. เกลอื ครงึ่ กโิ ลกรมั 3. นำ้ 350 กรมั
10 4. ไข่เปด็ 60 ฟอง วธิ กี ารทำไข่เคม็ 1. ลา้ งไขเ่ ป็ดให้สะอาด 2. นำมาจุ่มหรอื ชุบในโคลนเหนียวสเี ทาอมขาวท่ที ำจากดนิ สอพองผสมเกลือทะเลปน่ และนำ้
11 3. นำไปคลงึ กลบด้วยขเ้ี ถ้าแกลบจนท่วั ฟอง แลว้ บรรจุในถงุ พลาสติกเพื่อรักษาความช้นื หมกั ทิง้ ไวป้ ระมาณ 3-7 วัน 4. พอกหมกั มาถงึ 7 วนั แล้ว ใหแ้ กะดินสอพองท่ีพอกออก แลว้ แช่ตู้เยน็ จะได้ไม่เคม็ เกินไป ซ่งึ อายุ 7-20 วนั เหมาะสำหรบั ทำไข่เค็มตม้ สุก ไข่แดงหอมมนั เยิ้มๆ
12 ประวตั ผิ ู้จดั ทำ ชอ่ื เร่อื ง ไขเ่ คม็ ดนิ สอพอง 1. นางสาว ณฐั ณิชา ทองเงิน ประวตั ิส่วนตวั เกดิ วนั ที่ 18 เดือน มกราคม พ.ศ. 2545 ทอ่ี ยู่ 9 ม.9 ต.ทา่ ว้งุ อ.ท่าวงุ้ จ.ลพบุรี 15000 ประวตั ิการศกึ ษา ปี พ.ศ. 2557 จบระดับชั้นประถมศกึ ษา โรงเรียน บา้ นแพะ ปี พ.ศ. 2560 จบระดบั ช้ันมธั ยมศึกษา โรงเรียน วนิ ิตศึกษาฯ ปี พ.ศ. 2563 จบระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ (ปวช.) วทิ ยาลยั เทคนิคลพบรุ ี ปี พ.ศ. 2563-ปจั จบุ นั กำลงั ศกึ ษาอยู่ในระดบั ชน้ั ปวส. วทิ ยาลัยเทคนิคลพบุรี 2. นางสาว ปณุ ยนชุ บุรีเรือง ประวัติส่วนตวั เกิดวันท่ี 9 เดอื น ตลุ าคม พ.ศ. 2544 ทีอ่ ยู่ 37/1 ม.5 ต.ถลุงเหลก็ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี 15120 ประวตั กิ ารศึกษา ปี พ.ศ. 2557 จบระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษา โรงเรยี นบ้านถลุงเหล็ก ปี พ.ศ. 2560 จบระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษา โรงเรียนบ้านถลงุ เหล็ก ปี พ.ศ. 2563 จบระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ (ปวช.) วทิ ยาลยั เทคนิคลพบรุ ี ปี พ.ศ. 2563-ปจั จุบัน กำลังศึกษาอยู่ในระดบั ช้นั ปวส. วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี
13 3. นางสาว สภุ าวดี ทองประยรู ประวตั ิสว่ นตวั เกดิ วนั ที่ 22 เดอื น มนี าคม พ.ศ. 2545 ที่อยู่ 49 ม.7 ต.นคิ มสรา้ งตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี 15000 ประวัตกิ ารศกึ ษา ปี พ.ศ. 2557 จบระดับชน้ั ประถมศึกษา โรงเรียน บ้านหนองถำ้ ปี พ.ศ. 2560 จบระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษา โรงเรยี น พระนารายณ์ ปี พ.ศ. 2563 จบระดับประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวช.) วิทยาลยั เทคนคิ ลพบรุ ี ปี พ.ศ. 2563-ปจั จุบนั กำลังศึกษาอยใู่ นระดับชัน้ ปวส. วทิ ยาลัยเทคนิคลพบุรี 4. นางสาว อรณชิ มีพระจันทร์ ประวัติส่วนตวั เกิดวนั ที่ 12 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2544 ที่อยู่ 78 ม.6 ต.บ้านเบกิ อ.ท่าวงุ้ จ.ลพบุรี 15150 ประวตั ิการศึกษา ปี พ.ศ. 2557 จบระดับชั้นประถมศึกษา โรงเรยี นบ้านโคกส้นั ปี พ.ศ. 2560 จบระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษา โรงเรยี นซอย ๓ สาย ๔ ซา้ ย ปี พ.ศ. 2563 จบระดับประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวช.) วิทยาลยั เทคนิคลพบรุ ี ปี พ.ศ. 2563-ปจั จุบัน กำลงั ศึกษาอยูใ่ นระดับชนั้ ปวส. วิทยาลัยเทคนคิ ลพบรุ ี
14 5. นางสาว อำนวย กองเมือง ประวตั ิส่วนตวั เกิดวนั ท่ี 8 เดอื น ตลุ าคม พ.ศ. 2544 ที่อยู่ 95/7 ม.1 ต.กกโก อ.เมอื ง จ.ลพบรุ ี 15000 ประวตั ิการศึกษา ปี พ.ศ. 2557 จบระดับชัน้ ประถมศึกษา โรงเรียนไทยรฐั วิทยา1 (บ้านหัวช้าง) ปี พ.ศ. 2560 จบระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษา โรงเรยี นเมืองใหมฯ่ ปี พ.ศ. 2563 จบระดับประกาศนยี บัตรวิชาชพี (ปวช.) วทิ ยาลยั เทคนิคลพบรุ ี ปี พ.ศ. 2563-ปัจจบุ นั กำลงั ศึกษาอยู่ในระดับชั้น ปวส. วิทยาลยั เทคนิคลพบุรี
15
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: