พืชไร้ดอก พืชมดี อก
วตั ถุประสงค์ เน้ือหา/ระดบั ช้นั จดั ทาํ โดยกิจกรรมการเรียนการสอน
วตั ถุประสงศ์หลงั จากนกั เรียนศกึ ษาเรื่องพืชไร้ดอก พืชมีดอกแล้วนกั เรียนสามารถ 1.สามารถบอกชนิดของพืชไร้ ดอกได้ 2.สามารถบอกชนิดของพืชมีดอกได้ 3. สามารถบอกความแตกตา่ งระหวา่ งพืชไร้ดอก พืชมีดอกได้
เน้ือหา/ระดบั ช้นัพืชไร้ดอก พืชมีดอก กลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์ ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 พืชไร้ดอก พืชมีดอก ความแตกตา่ งระหวา่ งพืชไร้ดอก พืชมีดอก
จดั ทาํ โดย นาย โอฬาริก จงรุ่งสาํ ราญ รหสั 6021156024 สาขาเทคโนโลยแี ละส่ือสารการศึกษา คณะครุศาสตร์มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั บา้ นสมเดจ็ เจา้ พระยา
กิจกรรมการเรียนการสอน1.ข้นั นาํ เขา้ สู่บทเรียน 2.ขนั้ ดําเนินการสอน3. ข้นั วเิ คราะห์และฝึกปฏิบตั ิ 4.ข้นั สรุป 5. ข้นั วดั และประเมินผล
จงทายวา่ “ภาพนีเ้ป็นพืชไร้ดอกหรือพืชมีดอก” พืชมีดอก เฉลย
ข้นั ดาํ เนินการสอน พชื ไร้ดอก พืชมีดอก ความแตกต่างระหวา่ ง พชื ไร้ดอก พืชมีดอก
พืชไร้ดอก พืชไร้ดอกตวั อย่าง พชื ไร้ดอก หมายถึง พืชที่มีส่วนประกอบต่างๆไม่ครบ โดยเฉพาะจะไม่มีดอกจดั เป็นพืชช้นั ต่าํ พืชไร้ดอกบางชนิดมีสีเขียว ไดแ้ ก่ เฟิ ร์น มอส ตะไคร่น้าํ สาหร่ายบางชนิดไม่มีสีเขียว ไดแ้ ก่ เห็ด รา ยสี ต์ แบคทีเรีย และพืชไร้ดอกแต่ละชนิดจะมีลกั ษณะแตกต่างกนั ดว้ ย พืชไร้ดอกแบ่งออกเป็ น 2 ประเภทคือ 1. พืชไร้ดอกทมี่ คี ลอโรฟิ ลล์ (สารสีเขยี ว) เป็นพืชท่ีสามารถสร้างอาหารไดเ้ อง เช่น เฟิ ร์น มอส ตะไคร่น้าํ สาหร่าย 2. พชื ไร้ดอกท่ไี ม่มีคลอโรฟิ ลล์ เป็นพชื ท่ีไม่สามารถสร้างอาหารไดเ้ อง ตอ้ งอาศยั อาหารจากสิ่ง การสืบพนั ธุ์ของพืชไร้ดอก เป็นการสืบพนั ธุ์แบบไม่อาศยั เพศ เพราะเป็นพืช ช้นั ต่าํ ไม่มีดอก มีอวยั วะต่างๆไม่ครบ การสืบพนั ธุ์แบบไม่อาศยั เพศของพชื ไร้ดอก มีวธิ ีการต่างๆ เช่น การแตก หน่อ, การสร้าง เช่น เห็ด รา ยสี ต์ แบคทีเรีย
พืชไร้ดอกทมี่ คี ลอโรฟิ ลล์ (สารสีเขยี ว) มอสเฟิ ร์น เฟิ ร์น สืบพนั ธุโ์ ดยการสร้างสปอร์ สปอร์จะอยู่ มอส เป็นพชื ขนาดเลก็ , พมุ่ สูงประมาณ 1–10 เซนติเมตร แต่อาจมีบางภายในอบั สปอร์ท่ีอยใู่ ตใ้ บ หรือที่กา้ นใบ เม่ือแก่เตม็ ท่ี ชนิดที่มีขนาดใหญ่กวา่ มาก ปกติจะเจริญเติบโตในหมู่ตน้ ไมห้ รือบริเวณที่อบั สปอร์ซ่ึงเป็นถุงเลก็ ๆ จะแตกออกและปลิวไปตาม เปี ยกช้ืนใตร้ ่มเงาไมใ้ หญ่ ไม่มีดอกและเมลด็ โดยทวั่ ไปใบท่ีปกคลุมลาํ ตน้ จะลม เมื่อตกในที่เหมาะกจ็ ะงอกเป็นตน้ ใหม่ บางเลก็ คลา้ ยลวด มอสแพร่พนั ธุ์ดว้ ยสปอร์ ซ่ึงสร้างข้ึนที่จะงอยปลายกา้ น เลก็ ๆ คลา้ ยแคปซูล
ตะไคร่น้าํ สาหร่าย ตะไคร่นํา้ คือ สาหร่ายเซลลเ์ ดียวซ่ึงเกาะยดึ ในพ้นื ที่ที่มีน้าํ สาหร่าย สาหร่ายเซลลเ์ ดียวสืบพนั ธุ์โดยการแบ่งตวัไหล เพราะน้าํ ที่ไหลมีท้งั ออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ และ สาหร่ายหลายเซลล์ สืบพนั ธุโ์ ดยการสร้างสปอร์หรือสารอาหารไหลเวยี นดี แสงดี สาหร่ายพวกน้ีจะมายดึ เกาะ ผสมระหวา่ งเซลลต์ วั ผแู้ ละเซลลต์ วั เมียกลายเป็นผนื เขียว ๆตะไคร่น้าํ ยงั ประกอบไปดว้ ยสาหร่ายชนิดต่าง ๆ รวมท้งั พวกไซยาโนแบคทีเรียมาเกาะกลุ่มอยรู่ วมตวั กนับางกลุ่มเกาะยดึ ในบริเวณท่ีเปี ยกช้ืน บางกลุ่มอยใู่ นน้าํ
พืชไร้ดอกทไ่ี ม่มคี ลอโรฟิ ลล์ รายสี ต์ ยสี ต์ มีการสืบพนั ธุส์ องแบบ เมื่อมีอาหารบริบูรณ์ รา สืบพนั ธุโ์ ดยการสร้างสปอร์ มีลาํ ตน้ เป็นเสน้ ใยจะแตกหน่อเกิดตน้ ใหม่ เมื่อมีอาหารฝืดเคืองจะ รามีหลายสี เช่น สีสม้ , สีดาํ , สีเหลือง, สีเขียวสืบพนั ธุโ์ ดยการสร้างสปอร์
เห็ด แบคทีเรีย เห็ด สืบพนั ธุ์โดยการสร้างสปอร์ สปอร์จะอยภู่ ายในริ้วหรือ แบคทเี รีย เป็นประเภทของสง่ิ มีชีวติ ประเภทใหญ่ครีบใตส้ ่วนหวั ที่คลา้ ยหมวก ส่วนท่ีเราเรียกดอกเห็ดน้นั เป็น ประเภทหนง่ึ มีขนาดเลก็ มองด้วยตาเปลา่ ไมเ่ ห็นส่วนหน่ึงของตน้ เห็ด ทาํ หนา้ ที่สร้าง สปอร์ ตน้ เห็ดจริง ๆ เป็น สว่ นใหญ่มีเซลล์เดียว และมีโครงสร้างเซลล์ที่ไม่เสน้ สายสีขาว ๆ อยใู่ นส่ิงท่ีมนั อาศยั อยู่ สปอร์เม่ือแก่กจ็ ะ ปลิว ซบั ซ้อนมากไปยงั ท่ีต่างๆ เมื่อมีความชุ่มช้ืน อาหาร แสงแดดพอเหมาะกจ็ ะงอกเป็นตน้ เห็ด
พืชมดี อก พืชมดี อก พืชดอก คือ พืชท่ีเม่ือเจริญเติบโตเตม็ ที่แลว้ จะมีดอกใหเ้ ห็น พืชดอกจดั เป็นพืชตวั อย่าง ช้นั สูงท่ีมีอวยั วะต่างๆ ครบสมบูรณ์ คือ ราก ลาํ ตน้ ใบ ตา ดอกและเมลด็ มีไวเ้ พอื่ สาํ หรับการขยายพนั ธุ์ พืชดอกมอี ยู่ทวั่ ไปหลายชนิด มที ้งั ทอี่ ยู่บนบกและในนํา้ คือ 1. พืชดอกที่อยบู่ นบก ไดแ้ ก่ ชบา กหุ ลาบ มะมะม่วง มะลิ ขาม มะพร้าว ฟักทอง มะละกอ มะกอก 2. พชื ดอกท่ีอยใู่ นน้าํ ไดแ้ ก่ บวั ผกั ตบชวา ผกั กระเฉด แหน จอก สนั ตะวา
พืชดอกทอ่ี ยู่บนบกชบา กหุ ลาบ ชบา ดอกชบาเป็นดอกสมบรู ณ์ที่ออกเป็นดอก กหุ ลาบ เป็นพรรณไมย้ นื ตน้ เป็นพมุ่ ขนาดเลก็ ลาํเด่ียวๆ บริเวณซอกใบที่ปลายกิ่ง เป็นไม้พมุ่ ขนาดกลาง มี ตน้ มีความยาวประมาณ 30-200เซนติเมตร ลาํ ตน้ เต้ีย และสูง มีหนามหรือไม่มีแลว้ แต่ชนิดพนั ธุล์ าํ ตน้ สีเขียวลาํ ต้นสงู ประมาณ 1-3 เมตร ลาํ ต้นแตกก่ิงตงั้ ระดบั ลา่ ง ลาํ ต้น เม่ือแก่จะเป็นสีน้าํ ตาลแตกกิ่งกา้ นมารอบตน้ ใบแตกก่ิงปานกลาง แตใ่ บมีขนาดใหญ่ และดก
มะม่วง มะลิ มะม่วง เป็นไมย้ นื ตน้ ขนาดใหญ่ ตน้ เป็นทรงพมุ่ ทึบ มะลิ เป็นไม้พมุ่ หรือไม้เถาในวงศ์มีประมาณ 200ผล มีลกั ษณะรูปทรงรี ผวิ เปลือกบาง ผลอ่อนมีสีเขียว มี ชนิด มีถิ่นกําเนิดในพืน้ ท่ีเขตร้อนและกง่ึ เขตร้อนในแถบรสชาติเปร้ียว ผลสุกมีสีเหลือง เน้ือสุกมีสีเหลือง มีเน้ือ ทวีปยโุ รป เอเชีย และแอฟริกา ลกั ษณะดอกและกลน่ิ มีแน่นนุ่มฉ่าํ น้าํ มีกลิ่นหอม มีถิ่นกาํ เนิดในประเทศอินเดีย ความแตกตา่ งกนั ไปตามแตล่ ะชนิดหรือพนั ธ์ุมีการปลูกในหลายประเทศท่ีมีอากาศร้อน
พืชดอกทอี่ ยู่ในนํา้บวั ผกั ตบชวา บวั ได้รับการขนานนามให้เป็น \"ราชินีแห่งไม้นํา้ \" เป็นพืช ผกั ตบชวา เป็นพืชน้าํ ลม้ ลุกอายหุ ลายฤดู สามารถนํา้ ล้มลกุ ท่ีมีทงั้ ลกั ษณะลาํ ต้นที่เป็นหวั เหง้า หรือไหล ใบเป็น อยไู่ ดท้ ุกสภาพน้าํ มีดอก สีม่วงอ่อน คลา้ ยช่อดอกใบเดี่ยวเจริญขนึ ้ จากลาํ ต้นโดยมีก้านใบสง่ ขนึ ้ มาเจริญท่ีใต้นํา้ กลว้ ยไม้ และแพร่พนั ธุไ์ ดอ้ ยา่ งรวดเร็วจนกลายเป็นผิวนํา้ หรือเหนือนํา้ รูปร่างของใบสว่ นใหญ่กลมมีหลายแบบ วชั พืชท่ีร้ายแรงในแหล่งน้าํบางชนิดมีก้านใบบวั
ผกั กระเฉด แหน กระเฉด เป็นพืชลม้ ลุก เป็นพืชที่เกิดตามผวิ น้าํ แหน (Duckweed) เป็นพชื ลอยน้าํ ขนาดเลก็ลาํ ตน้ ลอยน้าํ หรือเล้ือยแผใ่ กลฝ้ ั่ง ลาํ ตน้ เป็นเถากลม เจริญเติบโตและแพร่พนั ธุ์ไดด้ ีในน้าํ นิ่ง เช่น หนอง บึง หรือเน้ือนิ่ม ใบประกอบคลา้ ยใบกระถิน ใบจะหุบลงใน สระน้าํ ทว่ั ไป ที่มีธาตุอาหารและอินทรียวตั ถุอุดมสมบูรณ์เป็นเวลากลางคืน จึงเรียกวา่ \"ผกั รู้นอน\" ระหวา่ งขอ้ มี พชื ท่ีไม่มีราก ลาํ ตน้ และใบที่แทจ้ ริง ใบมีรูปรีเป็นเกลด็ เลก็ปลอ้ งเป็นฟองสีขาวหุม้ ลาํ ตน้ ช่วยพยงุ ใหก้ ระเฉด ประมาณ 0.2 ซม. อยเู่ ดี่ยวๆ หรือเช่ือมติดกนั เป็น กระจุกลอยน้าํ ไดแ้ ละช่วยดึง 2 - 4 ใบ ใต้ ใบมีรากฝอยเลก็ ๆ ดอกออกเป็นช่อ
ความแตกต่างระหว่างพืชไม่มดี อก และ พืชมดี อกตวั อย่าง พืชมมี ากมายหลายชนิด พืชแต่ละชนิดมลี กั ษณะแตกต่างกนั หลาย ประการถงึ แม้พืชแต่ละชนิดจะมลี กั ษณะแตกต่างกนั แต่พืชเหล่านีก้ ม็ ี ลกั ษณะบางประการทเี่ หมือนกนั ด้วย ดงั น้ันจงึ สามารถใช้ลกั ษณะที่ เหมือนกนั ของพืชเป็ นเกณฑ์ในการจาํ แนกพืช เพื่อทาํ ให้ง่ายต่อการศึกษา เกย่ี วกบั การดาํ รงชีวติ ของพืช เราสามารถจาํ แนกพืชออกเป็ น 2 พวกใหญ่ ได้ดงั นี้
พืชไร้ดอก พืชไม่มีดอก หรือพชื ไร้ดอก คือ พชื ท่ีไม่มีดอกเลย ตลอดการดาํ รงชีวติ ไม่วา่ จะเจริญเติบโตเตม็ ที่แลว้ กต็ าม พชื จาํ พวกน้ีจึงไม่มีดอกสาํ หรับใชใ้ นการผสมพนั ธุ์ แต่จะสืบพนั ธุ์โดยการสร้างสปอร์ซ่ึงจะงอกเป็นตน้ ใหม่ได้ เช่น เฟิ ร์น เห็ด สน ปรง ผกั กดู
พืชมดี อก พชื มีดอก คือ พืชท่ีเจริญเติบโตเตม็ ท่ีแลว้ มีส่วนของดอกสาํ หรับใชใ้ นการผสมพนั ธุ์ เพ่อื ให้เกิดเป็นพชื ตน้ ใหม่ พชื มีดอกจดั เป็นพืชช้นั สูง เพราะมีส่วนประกอบสาํ คญั ๆ คือ ราก ลาํ ตน้ ใบดอก ผล และเมลด็ เช่น กหุ ลาบ กลว้ ยไม้ ชบา ทานตะวนั มะม่วง ชมพู่
ข้นั วเิ คราะห์และฝึ กปฏิบัติให้นักเรียนนําคาํ ทก่ี าํ หนดให้ ใส่ใต้ภาพด้านล่างให้ถูกต้องพืชดอกท่ีอยบู่ นบก พืชดอกที่อยใู่ นน้าํ พชื ที่สูงประมาณ มีการสืบพนั ธุ์ 2 แบบ 1-10 ซม.
สรุป ใหน้ กั เรียนสรุปความรู้เกี่วกบั พืชไร้ดอก พืชมีดอกตวั อย่างเช่น พืชไม่มดี อก หรือพืชไร้ดอก คือ พืชท่ีไม่มีดอกเลย ตลอดการดาํ รงชีวติ ไม่วา่ จะเจริญเติบโตเตม็ ที่แลว้ กต็ าม พืชจาํ พวกน้ีจึงไม่มีดอกสาํ หรับใชใ้ นการผสมพนั ธุ์ แต่จะสืบพนั ธุโ์ ดยการสร้างสปอร์ซ่ึงจะงอกเป็นตน้ ใหม่ได้ เช่น เฟิ ร์น เห็ด สน ปรง ผกั กดู พืชมดี อก คือ พืชท่ีเจริญเติบโตเตม็ ที่แลว้ มีส่วนของดอกสาํ หรับใชใ้ นการผสมพนั ธุ์ เพ่ือใหเ้ กิดเป็นพชื ตน้ ใหม่ พชื มีดอกจดั เป็นพืชช้นั สูง เพราะมีส่วนประกอบสาํ คญั ๆ คือ ราก ลาํ ตน้ ใบ ดอก ผล และเมลด็ เช่น กหุ ลาบ กลว้ ยไม้ ชบา ทานตะวนั มะม่วง ชมพู่
ข้นั วดั และประเมนิ ผลจงตอบคาํ ถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง1. มอสเป็นพืชขนาดเลก็ ท่ีมีพมุ่ สูงประมาณก่ีเซนติเมตรก. 2-12 เซนติเมตร ข. 5-15 เซนติเมตรค. 1-10 เซนติเมตร ง. 2-10 เซนติเมตร
2. พืชไร้ดอกประเภทใดไม่สามารถสร้างอาหารเองได้ก. พืชไร้ดอกท่ีมีคลอโรฟิ ลล์ ข. พืชไร้ดอกท่ีไม่มีคลอโรฟิ ลล์ค. พชื มีดอกบนบก ง. พืชมีดอกในน้าํ
3. พืชมีดอกชนิดใดเป็นประเภทที่อยบู่ นบกก. เฟิ ร์น ข. จอกค. บวั ง. กหุ ลาบ
4. พชื มีดอกชนิดใดเป็นปนะเภทท่ีอยนู่ ้าํก. ผกั ตบชวา ข. กหุ ลาบค. ดอกทานตะวนั ง. ดอกเขม็
5. พชื นิดใดไดร้ ับการขนานนามใหเ้ ป็น \"ราชินีแห่งไม้นํา้ \"ก. กหุ ลาบ ข. ผกั ตบชวาค. ดอกชบา ง. บวั
จบแล้วจ้า.
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: