HE L LO ความสาํ คญั แนวทางการพฒั นา ตนเองเรอื งภาษา
ภาษาเกาหลี
ทาํ ไมถึงตอ้ งเปน ภาษาเกาหลี เปนเพราะวา่ ในบางครังทดี ิฉันเหงาหรออยากหาอะไรดูคลาย เครยดก็เลยชอบหาซีรเกาหลีดู และดฉิ ันชืนชอบในเรองของ อาหาร สภาพแวดล้อม วฒั นธรรมต่างๆ ทีน่าสนใจและอกี หนึง เหตุผลนันกค็ อื วา่ ดฉิ นั อยากไปทาํ งานทีเกาหลเี นืองจากดิฉนั ตดิ ตามคนไทยทไี ดใ้ ชช้ วี ตทํางานทีเกาหลกี อ่ นหน้านพี ีเคา้ ไม่ สามารถทีจะสือสารหรอฟงออกแต่ในปจจบุ นั พเี ค้าก็พอทีจะ สามารถสือสารและฟงบางคาํ ออกซึงเปนเรองทดี ีมากๆ และพี เค้าก็มกั จะนําประสบการณต์ ่างๆมาแชร์หรอเลา่ ใหฟ้ ง ซึงก็ ทาํ ให้ดิฉันอยากพฒั นาตนเองเพอื จะนําไปตอ่ ยอดในอนาคต
การฟง ซงึ ดิฉนั คดิ วา่ ทักษะการฟงมีบทบาท สําคัญไมว่ า่ เราจะเรยนภาษาใดกต็ าม การ ฟงอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพจะช่วยให้เราเขา้ ใจ และยงั ทําใหเ้ ราพูดเกง่ ขึนอกี ด้วย ซงึ เราจะ พฒั นาทกั ษะการฟงได้นัน เรากต็ อ้ งลองฟง อยา่ งตงั ใจ ไม่ใช่แคฟ่ งวา่ พูดวา่ อะไร แต่ให้ ฟงวา่ พูดอย่างไร
ฟงเพลง เรมจากฟงเพลงจากศลิ ปนทเี ราชนื ชอบ หรอแนวเพลงทีเราชอบฟงน่า จะทาํ ให้เรามคี วามสนใจมากยงิ ขนึ และตังใจฟงเนือร้อง ยิงเราฟง บอ่ ยๆ และพยายามอา่ นเนือเพลงไป ด้วยก็จะยงิ ใหเ้ ราเขา้ ใจความหมาย ของเพลงมากขึน
ฟงภาพยนต์ เลือกภาพยนต์หรอซีรทเี ปนภาษา เกาหลีเรมจาก ดแู ละฟงพร้อมซับไต เติลจากนันเมือรู้สึกคุ้นเคยแล้ว ให้ ปดซับไตเติล และกด็ ูซาํ ๆบ่อยๆ ทาํ ใหเ้ ราไดฟ้ งสาํ เนยี งการพดู จากตัว นักแสดง
การพดู จะเปนทกั ษะทียากทีสดุ ในบรรดาทัง4ทักษะเพราะ วา่ การทีเราจะพดู เราต้องมคี วามกลา้ ทจี ะแสดงออก และบางทีบรบททางสงั คมทีเราอยู่ก็ไม่เออื ต่อการ พูด ดังนนั เราก็สามารถทีจะฝกการพดู ด้วยตนเอ งบ่อยๆ หรออาจจะตอ้ งเอาตวั เองไปอยูใ่ นทที ีเรา สามารถทจี ะพูดได้แตท่ นั ทที เี ราเรมพูดภาษาเกาหลี ได้สักเล็กน้อยแล้ว จะมอี กี หลายวธีทจี ะชว่ ยให้เรา เก่งภาษาไดเ้ ร็วขึนและสนุกมากขึนและเราจะรู้สกึ มี ความสุขทกุ ครังทเี ราสามารถพดู ได้
ลองโทรแชท. เทคโนโลยสี มยั นีพฒั นาไปไกลมากโดย เฉพาะสอื โซเชยี ลเนต็ เวร์ค และมแี อปพลิ เคชนั ตา่ งๆทจี ะชว่ ยส่งเสรมในการ สือสารอกี ด้วย พดู และอัดเสียงตัวเองไว้ ซงึ การพดู และอัดเสยี งไวน้ นั จะ เปนการชว่ ยให้เราเหมอื นได้พดู ใหใ้ ครสกั คนฟงและเรายังสามารถฟงเสยี งของ เรอย่างซาํ ๆได้อกี ด้วย
การอ่าน อาจจะเรมจากการอา่ นประโยคทงี ่ายๆ หรอวลี คําคมตา่ งๆโดยทีเราตอ้ งพยามเขา้ ใจความ หมายของคําศพั ทอ์ าจจะใช้เทคนคิ อนื ๆเพือให้ จําความหมายได้ดขี ึน โครงสร้างของรูปแบบ ประโยคในบทความสันๆ เพือให้เราเกิดความ เขา้ ใจ
การเขียน เปนสงิ ทีเราตอ้ งมีวนยั และมคี วาม ตังใจเรยนทจี ะเขียนโดยทเี ราต้อง ตงั เปาหมายไวอ้ ยา่ งชดั เจน โดย อาจจะเรมจากการเขยี นงา่ ยๆ เชน่ พยญั ชนะ สระ ตวั เลข
จดศพั ทห์ รอสาํ นวน เรมจากจดคาํ ศพั ทท์ ตี อ้ งใช้ในชวี ต ประจาํ วนั แล้วต่อไปกค็ อ่ ยๆจาํ เปน ประโยคทตี อ้ งใชจ้ รงๆ เช่น ซงึ ถ้าเราสามารถเขียนจนเปนประโยคได้ แล้ว เราก็นํามาทาํ เปนไดอารเขียนเลา่ เรองราวของเราในแตล่ ะวนั เหมือน เปนการฝกเขยี นในทุกๆวนั
แอปพลิเคชัน ในการพฒั นา ด้านภาษา
ระบบการศึกษา ของประเทศไทย กับประทศ ฟนแลนด์
ระบบการศกึ ษาของ ประเทศไทศไทย ประเทศไทยใหค้ วามสาํ คัญกับลดความเหลือมล้าและ สรา้ งความเสมอภาคโดยจดั การศึกษาขนั พนื ฐาน แบบใหเ้ ปล่าเปนเวลา12ปจดั การศึกษาภาคบงั คับ 9 ป ตังแต่อายุ 7 – 15ปการเรยี นมธั ยมศึกษาตอนปลาย ไมบ่ งั คับเปนประเทศทีมผี ลการทดสอบผลสมั ฤทธิ ทางการศึกษาขององค์การเพอื ความรว่ มมอื ทาง เศรษฐกิจและการพฒั นา (OECD - PISA) ตํากวา่ ค่า เฉลียและสภาเศรษฐกิจโลกจดั ใหค้ ณุ ภาพการศึกษา ของไทยเปนอันดบั ที 8 ของประเทศอาเซยี นที พจิ ารณา
รบบการศึกษาของ ประเทศฟนแลนด์ ฟนแลนดใ์ หค้ วามสาํ คัญกับความเสมอภาคโดยไมเ่ ก็บค่า เล่าเรยี นจดั การศึกษาภาคบงั คับ 9 ปตังแต่อายุ 7 -16 ป โรงเรยี นทกุ แหง่ จะบรกิ ารอาหารกลางวนั ฟรกี ารเรยี น มธั ยมศึกษาตอนปลายไมบ่ งั คับมกี ารจดั เตรยี มอุดมศึกษา ในสายสามญั และอาชวี ศึกษาและในระดบั อุดมศึกษาจะมี มหาวทิ ยาลัยและวทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาขนั สงู เปนประเทศทีมี ผลการทดสอบผลสมั ฤทธทิ างการศึกษาขององค์การเพอื ความรว่ มมอื ทางเศรษฐกิจและการพฒั นา (OECD - PISA) สงู และเวลิ ์ดอีโคโนมกิ ฟอรมั จดั อันดบั การศึกษาระดบั อุดมศึกษาใหเ้ ปนอันดบั 1 ของโลก
รบบการศึกษาของ ประเทศฟนแลนด์ ประชากรทีอายุเกิน 15 ปอ่านออกเขยี นได้ 100 เปอรเ์ ซน็ ต์และจานวนผเู้ รยี นการศึกษานอกระบบ และตามอัธยาศัยมจี านวน 1.5 ล้านคนหรอื คิดเปน รอ้ ยละ 45 ของประชากรฟนแลนดเ์ นน้ 1.การดแู ลหลักสตู รโดยสว่ นกลาง 2.การศึกษาภาคบงั คับแบบใหเ้ ปล่า 3.การศึกษาเปนรายบุคคล 4.การควบคมุ มาตรฐานการผลิตและพฒั นาครู 5.การควบคมุ มาตรฐานทีเขม้ ขน้ และ 6.การศึกษาตลอดชวี ติ
เปรยี บเทียบระบบการศึกษา ประเทศไทย ประเทศฟนแลนด์ เรมเรยนอายุ 6-7 ขวบ เรมเรยนอายุ 2 ขวบ เรยนวันละ 5 ชัวโมง มีชัวโมงเรยน เรยนวันละ 7- 8 ชวั โมง เพียง 40 นาที พัก 20 นาที (เด็กบางคนเรยนพเิ ศษตอ่ ) เดก็ ในหอ้ งเรยนมเี พยี งหอ้ งละ เด็กในหอ้ งเรยนมจี าํ นวนมาก 12 คนไมเ่ กิน 20 คน 30-50 คนตอ่ 1 หอ้ ง
เปรยี บเทียบระบบการศกึ ษา ประเทศไทย ประเทศฟนแลนด์ ไม่ใช้ขอ้ สอบกลางในการ ใชข้ ้อสอบกลางในการวดั ผล วดั ผล ไมม่ ีเกรดเฉลีย มีเกรดเฉลยี ในทุกๆ เทอม การบ้านเยอะ เพราะเชือว่า การบ้านนอ้ ยมาก เพราะ เปนการเสรอมทักษะใหเ้ ด็ก เน้นความเขา้ ใจมากกวา่ มกี ารแบ่งชนชนั ทางการ ไมม่ ีการแบ่งชนชนั ทางการ ศกึ ษา เกิดความเหลือมลํา ศกึ ษาทุกคนมสี ิทธทิ างการ ศกึ ษาเทา่ เทียมกนั
เปรียบเทยี บระบบการศกึ ษา ประเทศไทย ประเทศฟนแลนด์ ครูไมท่ ําหลายหนา้ ที ครูต้องทําหลายหน้าที จาํ นวนครูดแู ลเด็กได้อย่าง จํานวนครูนอ้ ยดูแลเดก็ ไม่ทวั ทวั ถงึ ถึง ครู 1 คน สอนหลายวชา การเรยนคอื การเลน่ นกั เรยน ยัดเยยี ดความรู้จนไมเ่ กดิ ได้เรยนรู้ในเนือหาต่างๆ อยา่ ง ความเขา้ ใจไมส่ ามารถนาํ ไปใช้ในชีวตประจาํ วนั ได้ เขา้ ใจดว้ ยตนเอง
เปรยี บเทียบระบบการศึกษา ประเทศไทย ประเทศฟนแลนด์ บรรยากาศในห้องเรยน เนน้ ผู้ บรรยากาศในหอ้ งเรยน เรยนเปนสําคญั เปดกว้าง ทุก เน้นการบรรยายและเนน้ ให้ คนไม่แข่งขนั กันเอง แต่ได้ความ แข็งขนั กบั ตวั เอง เน้นลงมือ จาํ ทฤษฎี เดก็ ไมก่ ลา้ ปฏบิ ัติ เรยนรู้นอกห้องเรยน แสดงออกทางความคดิ เพราะเมือใดทเี หน็ ต่างจาก ครูคือผดิ มีการแข่งขันสูง
บรรยากาศห้องเรียน ประเทศฟนแลนด์
บรรยากาศห้องเรียน ประเทศไทย
สงิ ทปี ระเทศไทยสามารถนาํ มาเปนแนวคิดและพฒั นา จะเหน็ ไดว้ า่ ระบบการศกึ ษาของประเทศฟนแลนด์นัน รากฐานหลักสตู รการศกึ ษาของฟนแลนดจ์ ึงถูกพฒั นาขนึ ภายใตก้ รอบคิด 4 ดา้ นคือ หนึง-ความเสมอภาค สอง-การ สนับสนนุ เงนิ สาม-การประเมนิ ผลนกั เรยน และส-ี การเรยน รู้ตลอดชวี ต โดยหลักสูตรนีประกอบดว้ ย 7 สมรรถนะ เพอื พัฒนาผ้เู รยนในหลากหลายด้าน ประกอบด้วย
สงิ ทปี ระเทศไทยสามารถนํา มาเปนแนวคิดและพัฒนา 1) Thinking and learningto learn มที ักษะในการคิดและการ เรยนรู้ สร้างให้เดก็ รู้จักการตังคาํ ถาม ใชว้ ธีการทดลองมากขนึ และเน้น การมีสว่ นร่วม ซึงทักษะนจี ะส่งเสรมให้เดก็ ไดเ้ รยนรู้ไปพร้อมกบั ครู 2) Cultural competence, Interaction, and self- expression เพราะ 1 ใน 5 ของนักเรยนในโรงเรยนไมใ่ ช่คนฟนแลนด์ ดังนัน ครูตอ้ งคาํ นงึ วา่ เด็กจะเรยนร่วมกนั อย่างไรในความหลากหลาย ขณะเดียวกัน นักเรยนจะไดต้ ระหนักถึงทมี าทีไปในวฒั นธรรมของเขา ซึงครูตอ้ งสอนนกั เรยนวา่ ความหลากหลายเปนส่วนหนงึ ในชวี ตทพี วก เขาสามารถเรยนรู้ และอยูด่ ว้ ยกันเปนกลุ่มได้
สิงทีประเทศไทยสามารถนํา มาเปนแนวคดิ และพัฒนา 3) Taking care of oneself and others ; managing daily life ส่วนใหญแ่ ลว้ มักมคี าํ ถามจากนกั เรยนวา่ เขาจะไปโรงเรยนอย่างไร หรอถาม ถงึ วธกี ารเขา้ ห้องนํา ตลอดจนเรองอนื ๆ ซงึ อาจดูเหมอื นเปนคาํ ถาม ธรรมดา แตค่ าํ ถามทเี กยี วกบั ชวี ตประจําวนั เหล่านีมีความสาํ คญั กบั ครู 4) Multiliteracy เนน้ ความสามารถในการอ่านและเขยี นไดห้ ลายภาษา ซึงทกั ษะนีจะทาํ ใหเ้ ด็กเขา้ ใจแหล่งขอ้ มูล และตคี วามข้อมลู เหลา่ นนั ได้ โดย ครูจะช่วยให้นกั เรยนเขา้ ใจวา่ พวกเขามขี อ้ มูลสารสนเทศหลากหลายอยรู่ อบ ตวั ดังนนั จะต้องทําความเขา้ ใจต่อข้อมลู ตา่ ง ๆ วา่ เปนอยา่ งไร แล้วอะไร เปนเรองสาํ คัญ
สิงทปี ระเทศไทยสามารถนาํ มาเปนแนวคิดและพัฒนา 5) Competence in Information and Communication Technology (ICT) โรงเรยนจะบูรณาการไอซีทีเข้าไปในสาขาวชาต่าง ๆ ยกตัวอย่างเรองจรยธรรมในการใช้ไอซที ี การโต้ตอบ และการสร้าง ปฏสิ มั พันธ์ โดยไอซที ียงั เปนเครองมอื สําคญั ในการเรยนรู้ของเด็กทงั การ เรยนเดียวและการเรยนเปนกลมุ่ 6) Working life competence and entrepreneurship นักเรยน ได้เรยนรู้วา่ วชาตา่ ง ๆ มบี ทบาทอย่างไรในการทํางาน ทงั ยังมกี ารกําหนด ให้นักเรยนบางระดับชนั ไปร่วมทํางานกับผใู้ หญ่ดว้ ย ซึงการใหข้ อ้ มลู และ การเปดโอกาสใหเ้ ดก็ สัมผัสกบั ประสบการณ์จรง จะทาํ ใหเ้ ขารู้วา่ เสน้ ทางการทํางาน และทางเลือกของชวี ตจะเปนอย่างไร
สิงทีประเทศไทยสามารถนํา มาเปนแนวคดิ และพฒั นา 7) Participation, Involvement and building a sustainable future ครูจะส่งเสรมใหเ้ ดก็ เขา้ มามสี ่วนร่วมใน การสร้างความยังยนื ทงั เรองทเี กยี วกับตนเอง และผูอ้ ืน รวมถงึ การใหค้ วามสาํ คัญกบั การดูแลสังคมและสงิ แวดล้อม และการศกึ ษาของประเทศฟนแลนด์จะเปยรูปแบบ นกั เรยน > ครู > กระทรวง มากกวา่ กระทนวง > ครู นกั เรยน
19 ป กบั การศกึ ษาไทย ในประเทศไทยการศกึ ษาสําหรับดฉิ นั คิดว่ามีความเหลือม ลาํ อยู่เสมอ เชน่ โรงเรยนทีอยู่ในเมอื งและโรงเรยนทอี ยู่ ตา่ งจังหวัด อปุ กรณ์เทคโนโลยีตา่ งๆ ทังทีการศกึ ษาควร จะมีความเท่าเทียม ไมว่ ่าจะอยู่ทไี หนของประเทศ การ เรยนทีผา่ นมา จะเรยนแคเ่ พือนําไปสอบ เนน้ การท่องจาํ ทฤษฎี ถูกตีกรอบความคดิ เนือหาทเี รยนยากและเยอะ การบ้านทีเยอะ เวลาเรยนเยอะแตไ่ ร้ประสิทธิภาพ ทาํ ให้ เด็กเกดิ ภาวะเครยด มกี ารแขง็ ขนั สงู เดก็ มีเวลาไปทําใน สงิ ทอี ยากทาํ น้อยลง
การสEอIนSแบบ Teacher Ember's Class
หลกั การบรู ณาการภาษา อังกฤษในหลักสตู ร EIS การให้ผู้เรยนเรยนรู้ภาษาทีสองจากภาษาแม่ สัญลกั ษณ์ต่างๆ หรอเรยนรู้จากสงิ แวดล้อมใกล้ตวั โดยใช้การเรยนรูปแบบ SSF ซงึ S มาจากคําวา่ Short คอื การใชป้ ระโยคสันๆ S ยอ่ มาจาก Simple คอื การใชป้ ระโยคงา่ ยๆ และ F มาจากคําวา่ Familiar คอื การใชป้ ระโยคจนคนุ้ เคย การให้คณุ ครูผ้สู อนและนักเรยนมีปฏสิ มั พนั ธ์โดยการใช้ภาษา องั กฤษในหอ้ งเรยน (Classroom English) จะส่งเสรมใหต้ วั นกั เรยนเองมีการคดิ เปนภาษาอังกฤษและสามารถใชภ้ าษาไดเ้ ร็วขนึ
หลกั การบรู ณาการภาษา องั กฤษในหลักสตู ร EIS การให้นกั เรยนได้ฝกฝนทกั ษะและใช้วธีการทาง คณิตศาสตร์ทีเหมาะสมในการวเคราะหแ์ ละแกโ้ จทย์ทาง คณิตศาสตร์ทีเปนภาษาอังกฤษ จะสง่ เสรมใหเ้ รยนรู้และเข้าใจ ภาษาอังกฤษงา่ ยและเร็วขนึ การใหน้ ักเรยนไดฝ้ กฝนทกั ษะการอา่ นและการเขียนภาษา องั กฤษ โดยใชก้ ระบวนการเรยนรู้แบบวทยาศาสตร์ คอื การ สงั เกต การเปรยบเทียบ การจําแนกกลุ่ม การเชอื มโยงความรู้ และการสรุปผลแบบอ้างอิง จะสง่ เสรมให้ผู้เรยนอา่ น เขียนและ เข้าใจภาษาองั กฤษทีอา่ นไดเ้ ร็วขึน
สอนแบบ EIS วชาวทยาศาสตร์ ครู จฑุ ากาญจน์ สทิ ธกิ าร โรงเรยนประสาทรัฐประชากิจ จงั หวดั ราชบรุ
การนําเข้าสบู่ ทเรียน ครูมกี ารกลา่ ว ทักทายนกั เรียน นักเรยี น : Good afthenoon teaehe ครู : Good afthenoon student ครู : How are you today นักเรยี น : I'm fine thank you and you ครู : I'm fine sitdown
เข้าสู้บทเรยี น ครู : Today I'm befor start this class I will open this video and you watch video ok less watch video ครอู ธบิ ายถงึ เรอื งที จะเรียนสลบั กบั ภาษาไทย
การสรปุ บทเรียน ครูให้นกั เรยนทาํ ใบงาน ครูไดเ้ ดินดู การทําใบงานของนกั เรยนและอธิบาย ในสิงทีนักเรยนไม่เขา้ ใจ
สงิ ทไี ดจ้ ากการศกึ ษาในครงั นี จากการทีไดศ้ กึ ษาครังนี ในการพัฒนาตนเองทจี ะนาํ ไป ต่อยอดต่อวชาชีพครูในอนาคตซงึ การทีเราพัฒนาตนเอง ไมว่ า่ จะเรองภาษาทีจะนําไปบูรณาการกับการเรยนการ สอนเพอื ทเี ราจะนําไปส่งเสรมนักเรยนของเราใหม้ ีความ กลา้ ใช้ภาษามากยงิ ขึน และการทีเราจะให้ความสาํ คัญกับ ตวั ผเู้ รยนเปนหลกั หากจิ กรรมทจี ะสง่ เสรมการเรยนรู้ของ นักเรยน การสอนทไี ม่ใช่แคเ่ พือสอน แต่สอนเพือใหเ้ ดก็ เกดิ ความเข้าใจและนําไปใชไ้ ดใ้ นชวี ตจรง
จดั ทําโดย 61413847 นางสาว สดุ ารตั น์ สศู่ ิริ คณะศึกษาศษสตร์ สาขาชวี วทิ ยา
Search
Read the Text Version
- 1 - 37
Pages: