Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ATR tourism

ATR tourism

Published by teay_apw, 2019-07-24 03:21:46

Description: กราฟฟิตี้และสตรีตอาร์ต เป็นสองค�ำที่ใช้ควบคู่หรือใช้แทนกันมาโดยตลอด จนเกิดเป็นความเข้าใจของ
คนส่วนใหญ่ว่า ค�ำสองค�ำนี้มีความหมายเดียวกัน นั่นคือ การใช้สีชนิดต่าง ๆ ท�ำให้เกิดร่องรอย ตัวอักษร หรือ
ภาพวาดบนผนัง หรือพื้นที่สาธารณะตามสองข้างถนน ทว่าความเป็นจริงแล้วนั้น ทั้งสองค�ำนี้ หมายถึง งานศิลปะ
คนละประเภท อันแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในแง่ของรูปแบบหรือเทคนิคที่ใช้ในการสร้างงาน เจตนารมย์
ในการสร้างงาน และกลุ่มผู้ชมผลงานที่เป็นเป้าประสงค์ของผลงาน

Search

Read the Text Version

ว ศลิาประสสาตรรวีตชิอาารกต์ ากรบั กาม รหปทีทา่อวง่ี 3เิทท9่ียยวาฉลบัยบั ทหี่อ1กเาดรอื คน้ามไกทรยาคมนมษุ -ยศมานี สาตครม์แล2ะส5ัง6ค2มศาสตร์ Tuangtong Soraprasert1,* S treet Arts in Tourism Received: June 8, 2018 Revised: August 28, 2018 Accepted: September 27, 2018 Abstract Street art once stood in an ambiguous position, as creating art or destroying public properties, because it was created on building walls, fences, poles, and public spaces. However, at present the status of street art has been changed since it has been used as part of the creative economy for commercial purposes in various industries including fashion, music, and product design. Tourism is another arena beneficial from unique characteristics of street art that uses visual communication as it was easily understood even though it is cross-cultural and cross-language communication. Art space located along the roads helps to improve and beautify community landscape. Ease of sharing photos of street arts through social media by individuals further promotes tourism. Objectives of this article are to present how street art appears in tourism areas in major cities of the world as well as potentiality and feasibility to apply street art as a tool to make Thailand’s tourism more attractive. Keywords: tourism, street art, graffiti 1 Communication Arts Department, Faculty of Humanities and Social Sciences, Burapha University * Corresponding author. E-mail: [email protected] 178 วารสารวชิ าการ มหาวทิ ยาลัยหอการค้าไทย มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

ตวงทอง สรประเสรฐิ ศิ ลปะสตรีตอารต์ กับการทอ่ งเทยี่ ว ตวงทอง สรประเสริฐ1,* วนั รับบทความ: June 8, 2018 วันแกไ้ ขบทความ: August 28, 2018 วนั ตอบรบั บทความ: September 27, 2018 บทคดั ยอ่ สตรตี อารต์ ในอดตี เปน็ สงิ่ ทเ่ี คยยนื อยบู่ นพน้ื ทอี่ นั กำ�้ กงึ่ ระหวา่ งการทำ� งานศลิ ปะและการทำ� ลายทรพั ยส์ นิ สาธารณะ เน่อื งดว้ ยพื้นที่ในการสร้างงานน้ันอยบู่ นผนังอาคาร ร้ัว เสา กำ� แพงและพนื้ ท่สี าธารณะสองข้างถนน ทวา่ ในปจั จบุ นั สตรตี อารต์ ไดเ้ ปลยี่ นสถานภาพไปจากเดมิ มากแลว้ จากการถกู หยบิ ยกมาใชใ้ นบทบาทของดา้ นของ เศรษฐกจิ เชิงสรา้ งสรรคเ์ พอ่ื การพาณิชย์ในแวดวงตา่ ง ๆ ท้ังแฟชนั่ อุตสาหกรรมดนตรี การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ อตุ สาหกรรมการทอ่ งเทย่ี วกเ็ ปน็ อกี พนื้ ทหี่ นงึ่ ทไี่ ดม้ กี ารใชป้ ระโยชนจ์ ากคณุ ลกั ษณะเฉพาะตวั ของสตรตี อารต์ ไม่ วา่ จะเป็นการส่อื สารด้วยภาพซง่ึ เขา้ ถงึ และเข้าใจไดง้ า่ ยแม้จะเป็นการสอ่ื สารขา้ มภาษาและวฒั นธรรม พื้นทก่ี าร สรา้ งงานทอี่ ยบู่ นถนนภายนอกซงึ่ ชว่ ยสง่ ผลตอ่ การปรบั ปรงุ ภมู ทิ ศั นข์ องชมุ ชนใหส้ วยงามนา่ เยยี่ มชม และความ งา่ ยตอ่ การนำ� ไปเผยแพรแ่ บง่ ปนั ผา่ นสอื่ โซเชยี ลมเี ดยี โดยปจั เจกบคุ คล อนั ยง่ิ ชว่ ยสง่ เสรมิ ศกั ยภาพในการดงึ ดดู ด้านการท่องเที่ยวของสตรีตอาร์ตให้มีมหาศาลเพิ่มขึ้น บทความนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะน�ำเสนอให้เห็นการใช้ สตรตี อารต์ ในพนื้ ทกี่ ารทอ่ งเทยี่ วของเมอื งสำ� คญั ตา่ ง ๆ ทวั่ โลก รวมถงึ ศกั ยภาพและความเปน็ ไปไดใ้ นการนำ� มาใช้ เปน็ เครอื่ งมอื เพอื่ สรา้ งพลังดงึ ดูดทางการทอ่ งเท่ียวของประเทศไทย คำ� สำ� คญั : ทอ่ งเท่ียว สตรตี อารต์ กราฟฟิตี้ 1 ภาควิชานเิ ทศศาสตร์ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา 179 * Corresponding author. E-mail: [email protected] ปีท่ี 39 ฉบบั ที่ 1 เดอื นมกราคม - มนี าคม 2562

ศิลปะสตรีตอารต์ กับการทอ่ งเท่ียว บทน�ำ กราฟฟติ แี้ ละสตรตี อารต์ เปน็ สองคำ� ทใี่ ชค้ วบคหู่ รอื ใชแ้ ทนกนั มาโดยตลอด จนเกดิ เปน็ ความเขา้ ใจของ คนส่วนใหญว่ า่ คำ� สองคำ� น้ีมคี วามหมายเดียวกัน นนั่ คอื การใชส้ ีชนิดต่าง ๆ ทำ� ใหเ้ กิดร่องรอย ตวั อกั ษร หรอื ภาพวาดบนผนงั หรอื พนื้ ทส่ี าธารณะตามสองขา้ งถนน ทวา่ ความเปน็ จรงิ แลว้ นนั้ ทงั้ สองคำ� นี้ หมายถงึ งานศลิ ปะ คนละประเภท อันแตกต่างกันอยา่ งเหน็ ไดช้ ัด ทง้ั ในแงข่ องรูปแบบหรือเทคนคิ ท่ีใช้ในการสรา้ งงาน เจตนารมย์ ในการสรา้ งงาน และกลุ่มผ้ชู มผลงานที่เปน็ เปา้ ประสงคข์ องผลงาน Riggle (2010) นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ผู้สนใจศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างศิลปะกับ วถิ ชี ีวิต ไดใ้ หค้ �ำนิยามถึงความแตกต่างของสตรีตอารต์ และกราฟฟิตี้เอาไวใ้ นงานเขียนเรอื่ ง Street art: The transfiguration of the common place ของเขาเอาไวว้ ่า กราฟฟติ ้ี นัน้ คือลักษณะงานท่ีมุ่งเน้นถงึ ตัวอักษรเปน็ พ้ืนฐาน (text-based) ซ่ึงหมายความรวมถงึ การเขยี นช่ือของใคร หรือส่งิ หนง่ึ ส่ิงใดท่ีมคี วามส�ำคญั ต่อตัวศิลปนิ ลงบนพนื้ ผวิ ในทส่ี าธารณะ สอดคล้องกันกับที่ Jill C. Weisberg (2012) ศิลปินนักสร้างผลงานสตรีตอาร์ต ได้ให้คุณลักษณะ ของกราฟฟติ เ้ี อาไว้คลา้ ยคลงึ กนั วา่ กราฟฟติ ีเ้ ป็นงานทม่ี ีพื้นฐานมาจากการเขียนตวั หนงั สอื หรือถอ้ ยคำ� (word- based) กราฟฟติ เี้ ปน็ งานศลิ ปะทม่ี งุ่ เนน้ การแสดงออกถงึ ตวั ตน มากกวา่ จะใหค้ วามสำ� คญั วา่ สาธารณชนเขา้ ใจใน ส่ิงที่ศิลปินเขียนขึ้นหรือไม่ กล่าวได้ว่ากราฟฟิตี้เป็นการสื่อสารระหว่างศิลปินกราฟฟิต้ีคนหน่ึง ไปถึงศิลปิน กราฟฟติ ้คี นอน่ื ๆ มากกว่า จงึ ทำ� ใหเ้ ปน็ เรอ่ื งธรรมดา หากบุคคลทัว่ ไปท่ีพบเหน็ ภาพกราฟฟติ จี้ ะไมเ่ ขา้ ใจความ หมาย หรอื ดไู ม่ออกว่าผู้วาดต้องการสื่อสารถึงอะไร ในขณะทส่ี ตรีตอาร์ต นน้ั Riggle (2010) ให้นยิ ามเอาไวต้ รง กันข้ามว่า เป็นงานที่ไม่มุ่งเน้นความโดดเด่นของตัวหนังสือมากนัก แต่จะให้ความส�ำคัญกับการน�ำเสนอด้วย ภาพ และเปน็ ลกั ษณะงานทใี่ ชพ้ นื้ ทใ่ี นการสรา้ งมากกวา่ และวสั ดอุ ปุ กรณใ์ นการสรา้ งงานกม็ หี ลายอยา่ ง แตกตา่ ง จากกราฟฟิต้ีท่ีใช้เพียงสเปรย์กระป๋องเป็นอุปกรณ์หลัก การสร้างผลงานสตรีตอาร์ตยังอาจใช้วิธีการติดตั้งวัสดุ หรอื สงิ่ ของตา่ ง ๆ เพอื่ ชว่ ยในการจดั แสดงผลงานรว่ มดว้ ย นบั เปน็ ลกั ษณะงานศลิ ปนิ ทใ่ี กลเ้ คยี งกบั ศลิ ปสาธารณะ (public art) จนบางคร้งั กส็ ร้างความสบั สนในการจ�ำแนกประเภทอยู่มาก Lu (2018) ยงั ขยายความความแตกตา่ งในเจตนารมณข์ องศลิ ปนิ กราฟฟติ แ้ี ละสตรตี อารต์ ออกไปอกี วา่ ในงานสตรีตอาร์ตนั้น ศิลปินผู้สร้างผลงานไม่เพียงแต่จะต้องการให้สาธารณชนได้เห็นงานของตัวเองแต่เพียง เท่าน้นั แต่ยงั ตอ้ งการให้เกดิ ปฏิสัมพนั ธ์ ความเขา้ ใจในส่ิงท่ีเหน็ และอารมณ์หรอื ความร้สู กึ ตอบสนองต่อช้ินงาน น้ันด้วย การวาดภาพสตรีตอาร์ตเป็นงานท่ีมักจะสร้างโดยศิลปินท่ีได้รับการฝึกฝนหรือมีความรู้ในเชิงศิลปะการ วาดภาพ และด้วยความท่ีต้องใช้ระยะเวลาในการท�ำงานนานกว่ากราฟฟิตี้ งานสตรีตอาร์ตจึงมักจะสร้างขึ้นใน พน้ื ที่ท่ไี ดร้ ับการอนญุ าตหรอื ได้รบั การสนับสนุนให้สรา้ งงานขึ้นเปน็ ส่วนมาก การเขา้ สมู่ หานครนวิ ยอรก์ ทำ� ใหส้ ตรตี อารต์ เตบิ โตอยา่ งรวดเรว็ ศลิ ปะจากสองขา้ งถนนทงั้ กราฟฟติ แี้ ละ สตรีตอาร์ต ได้พาตัวเองไต่ระดับจากกลุ่มวัฒนธรรมย่อยมาสู่ความเป็นศิลปะกระแสหลัก เม่ือถูกน�ำมาใช้งาน อยา่ งแพร่หลายผา่ นส่ือต่าง ๆ ไมว่ า่ จะเป็นในภาพยนตร์ งานโฆษณา ปกอลั บม้ั เพลง และโลกแฟชน่ั ตราสินค้า 180 วารสารวิชาการ มหาวิทยาลยั หอการค้าไทย มนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์

ตวงทอง สรประเสริฐ เครอื่ งหนงั หรหู รา อย่างหลุยสว์ ติ ตองและมาร์ก จาคอ็ บส์ กเ็ คยผลิตกระเปา๋ ถือที่ใช้ tag หรือการเขยี นตวั อักษร ในรูปแบบกราฟฟิต้ี ในการสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบมาแล้ว และการท่ีพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใน ลอสแองเจลสิ ไดจ้ ดั แสดงผลงาน Art in the Streets ของ Retna (นามแฝง) ซงึ่ นบั เปน็ ครงั้ แรกในประวตั ศิ าสตร์ ของแวดวงสตรีตอาร์ต ท่ีได้มีการจัดแสดงผลงานในพิพิธภัณฑ์ใหญ่ของประเทศ จึงเป็นเคร่ืองเน้นย้�ำให้เห็น ถึงความเฟื่องฟูถึงขีดสุดของงานศิลปะที่เคยถูกตีตราว่าเป็นอาชญากรรมทางสังคมเมื่อ 50 กว่าปีก่อนได้ อย่างชัดเจน (DeNotto, 2014) สตรตี อาร์ตกบั พ้นื ที่การท่องเที่ยว ในช่วงเวลาหลายปีท่ีผ่านมา มีการน�ำสตรีตอาร์ตมาใช้เพ่ือการท่องเท่ียว มีการจัดเส้นทางท่องเท่ียว เพอื่ ชมงานสตรตี อารต์ ทป่ี รากฏอยตู่ ามผนงั กำ� แพง และพนื้ ทตี่ า่ ง ๆ ของเมอื งเกดิ ขนึ้ ในหลายเมอื งสำ� คญั ทวั่ โลก ไม่ว่าจะเปน็ เบอร์ลนิ ปารสี นิวยอร์ก เมลเบริ น์ ฯลฯ โดยเปน็ รูปแบบการจดั การการทอ่ งเทยี่ วทถ่ี กู เรยี กดว้ ย ชอ่ื ทแ่ี ตกต่างกัน ไมว่ ่าจะเป็น graffiti excursion, street art sightseeing หรือ mural journeying ตวั อย่างเมืองท่ีมีความโดดเดน่ ในการใชส้ ตรตี อาร์ตเปน็ พลงั ในการขับเคลอื่ นการท่องเทยี่ ว คือ เมือง เมลเบริ น์ ซ่งึ เป็นเมืองทอ่ งเทย่ี วช่ือดงั เมอื งหนึ่งของประเทศออสเตรเลยี ถนนเฮาเชอร์ (Hosier Lane) อันเป็น ศูนย์กลางของภาพวาดสตรีตอาร์ตของเมือง ผนังอาคารแทบทุกตารางนิ้วของถนนสายนี้ถูกระบายไปด้วยภาพ สตรีตอาร์ตสีสันสดใสจากหลากหลายเทคนิคการสร้างสรรค์ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวส�ำคัญที่ดึงดูด นักท่องเที่ยวทั้งชาวออสเตรเลียและต่างชาติ ให้เดินทางมาถ่ายภาพคู่กับงานศิลปะบนผนัง ความโด่งดังและ ความนยิ มในการเดนิ เทีย่ วชมภาพสตรีตอาร์ตในย่านน้ี ส่งผลใหเ้ กดิ การจดั บรกิ ารพาเทีย่ วชมภาพตามจดุ ตา่ ง ๆ ทเี่ หลา่ ศลิ ปนิ สตรตี อารต์ เปน็ ผจู้ ดั ขนึ้ เนอ่ื งจากเปน็ ผทู้ ม่ี คี วามรเู้ กยี่ วกบั ศลิ ปนิ ผสู้ รา้ งภาพแตล่ ะภาพและเสน้ ทาง บนถนนสายนีเ้ ป็นอยา่ งดี นอกจากน�ำจะชมภาพวาดแลว้ ผู้นำ� ชมเหล่านย้ี งั ให้ความรูเ้ กยี่ วกบั ประวตั ิศาสตร์และ เรื่องราวต่าง ๆ เก่ยี วกับชมุ ชนใหแ้ ก่นักทอ่ งเทย่ี วไปพรอ้ มกัน เมืองไครเชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นอีกเมืองหน่ึง ท่ีแม้ว่าจะมีช่ือเสียงโด่งดังด้านการท่องเท่ียว ดว้ ยทรพั ยากรธรรมชาตอิ ันงดงาม สวนดอกไมเ้ ล่อื งชื่อ และอาคารประวัตศิ าสตร์อันเก่าแก่หลายแหง่ แตไ่ คร เชิร์ชก็ได้มีวิธีการที่จะใช้ภาพสตรีตอาร์ตที่มีอยู่จ�ำนวนไม่น้อยท่ัวเมือง มาสร้างประโยชน์ในเชิงการท่องเที่ยว ดว้ ยการนำ� เสนอโครงการ Watch This Space: Christchurch Street Art ซึง่ มีวตั ถุประสงคห์ ลักในการสร้าง แผนทเ่ี ชงิ โตต้ อบ (interactive map) เพอื่ แสดงใหผ้ ใู้ ชง้ านไดม้ องเหน็ ตำ� แหนง่ ของภาพวาดสตรตี อารต์ ทซี่ กุ ซอ่ น อยู่ตามจุดต่าง ๆ ของเมือง รวมถึงการจัดท�ำแอปพลิเคชัน Watch This Space ขึ้นเพ่ือให้ทุกคนสามารถ ช่วยกันเพิม่ เตมิ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ภาพสตรีตอารต์ ใหม่ ๆ ท่ีถูกค้นพบเขา้ ไปในฐานข้อมลู ได้ และใหน้ กั ท่องเที่ยวท่ีมา เยือนสามารถใช้เป็นเครื่องมือน�ำทางการเย่ียมชมงานศิลปะที่มีอยู่ทั่วเมืองด้วยตัวเองได้ ปัจจุบันมีการเพิ่มเติม ภาพเขา้ ไปในแอปพลิเคชนั แล้วกวา่ 100 ภาพ (Tourism New Zealand, 2016) สว่ นความแพรห่ ลายของสตรตี อารต์ ในประเทศไทยนนั้ เรมิ่ ตน้ จากการเผยแพรเ่ ขา้ สเู่ อเชยี ในชว่ งราวปี พ.ศ. 2549 ดว้ ยอทิ ธิพลจากส่ืออินเทอรเ์ น็ตและนักท่องเท่ยี วจากโลกตะวันตก ทน่ี �ำเอาวฒั นธรรมน้มี าสู่หลาย ๆ ปีท่ี 39 ฉบบั ที่ 1 เดือนมกราคม - มีนาคม 2562 181

ศลิ ปะสตรตี อารต์ กบั การท่องเท่ียว เมอื งในทวปี เอเซยี แมง้ านสตรตี อารต์ จะยงั เพง่ิ เขา้ มาไมน่ านและยงั ไมเ่ ปน็ ทรี่ จู้ กั กวา้ งขวางมากนกั หากเทยี บกบั ศลิ ปะแขนงอน่ื แตใ่ นประเทศไทยกน็ ำ� งานสตรตี อารต์ มาเปน็ ตน้ ทนุ ตอ่ ยอดสเู่ ศรษฐกจิ สรา้ งสรรคใ์ นหลากหลายรปู แบบ ทน่ี า่ สนใจคอื เรมิ่ มกี ารนำ� สตรตี อารต์ มาใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื ในการปรบั ภมู ทิ ศั นช์ มุ ชนตา่ ง ๆ ในกรงุ เทพมหานคร เพ่อื พลิกฟ้ืนภาพของชุมชนใหม้ คี วามสวยงาม พ้นจากภาพของความทรดุ โทรม เชน่ ถนนเลียบคลองแสนแสบ และท่ไี ดร้ บั ความสนใจอยา่ งมากคอื สตรีตอารต์ ในยา่ นถนนเจริญกรงุ บางรกั และถนนทรงวาด ซ่งึ เปน็ พื้นท่ีเก่า แกใ่ จกลางเมอื งทเ่ี ตม็ ไปดว้ ยอาคารสมยั เกา่ ทมี่ คี วามทรดุ โทรม ผนงั ตกึ และกำ� แพงสว่ นใหญม่ คี ราบสกปรกตา่ ง ๆ อนั เกิดจากกาลเวลา จนไดม้ ีการจดั ทำ� เทศกาลศลิ ปะขา้ งถนน บกุ รุก 2 (BUKRUK II Urban Arts Festival) ขนึ้ เม่ือตน้ ปี พ.ศ. 2559 มกี ารรวมตัวของศิลปินสตรตี อารต์ จากประเทศต่าง ๆ มารว่ มวาดภาพสตรตี อาร์ตตาม แบบฉบับของตัวเอง ซง่ึ นอกจากจะช่วยชุบชวี ติ ย่านเก่าให้เต็มไปดว้ ยสสี ันแลว้ ยงั สง่ ผลทางด้านการทอ่ งเทยี่ ว อกี ด้วย เมอ่ื ภาพวาดเหล่านั้นกลายเปน็ สิง่ ดงึ ดูดใหน้ ักทอ่ งเท่ียวเดนิ ทางมาค้นหา และถา่ ยรปู ภาพท่ซี ุกซ่อนอยู่ ตามตรอกซอกซอยเหลา่ นั้น ในประเทศไทยมีหลาย ๆ พื้นที่ที่เริ่มหันมาสนใจการใช้ภาพสตรีตอาร์ตเพ่ือสร้างแรงดึงดูดด้าน การท่องเทีย่ ว และส่ือสารอตั ลกั ษณข์ องชมุ ชนไปพร้อมกนั ที่เปน็ รปู เปน็ รา่ งมากทสี่ ดุ คอื สตรตี อารต์ ในเขตเมือง เก่า จงั หวัดสงขลา ทเี่ ป็นการร่วมมอื กันระหว่างภาครฐั และเอกชน ท่ีจัดทำ� ข้ึนภายใตแ้ นวคิด “เมืองเกา่ วิถีเดิม เสริมการท่องเทย่ี ว (Livable old-town tourism) โดยมเี ปา้ หมายทจ่ี ะใชภ้ าพสตรตี อาร์ตและความเกา่ แก่ของ อาคารสถาปตั ยกรรมชโิ น-โปรตกุ สี ในเขตเมอื งเกา่ เปน็ สว่ นชว่ ยเสรมิ กนั ทำ� หนา้ ทสี่ รา้ งการทอ่ งเทย่ี วเชงิ วฒั นธรรม สะท้อนวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ และประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสถานที่ต่าง ๆ ในชุมชน ผ่านออกมาทาง ภาพวาดบนผนังอาคารเกา่ แก่สมัยสงครามโลก ภาพสตรตี อารต์ ท่ปี รากฏจงึ เปน็ ภาพผคู้ นในชุดพื้นเมอื ง วถิ ีชวี ิต และกิจวตั รประจ�ำวัน และเหตุการณ์ในอดีต แนวทางการใช้สตรีตอาร์ตเพือ่ สร้างแรงดึงดูดด้านการทอ่ งเท่ียวในประเทศไทย จากการศึกษารวบรวมงานวิจัย กรณีศึกษา ซึ่งมีความเก่ียวข้องกับศิลปะสตรีตอาร์ต ท่ีถูกน�ำมาใช้ใน พนื้ ทที่ อ่ งเที่ยวในประเทศตา่ ง ๆ ผูเ้ ขยี นจะขอน�ำประเดน็ ส�ำคัญท่คี วรคำ� นงึ ถึง ท้งั ในแงม่ ุมของความส�ำเรจ็ และ อปุ สรรคปญั หาทพ่ี งึ พจิ ารณาขนึ้ มาเสนอแนะและอภปิ ราย โดยหวงั วา่ จะสามารถนำ� มาพฒั นาเปน็ แนวทางสำ� หรบั ชุมชนหรือท้องถิ่นในประเทศไทย ท่ีมีความสนใจในการสร้างหรือน�ำศิลปะประเภทสตรีตอาร์ตมาใช้ในการสร้าง แรงดึงดูดดา้ นการทอ่ งเที่ยว ดังนี้ 1. การสร้างเรื่องราวใหก้ บั สตรตี อารต์ MacCannell (1999) นกั วิชาการผูเ้ ขียนหนังสอื The Tourist: A new Theory of the Leisure Class ได้เสนอมุมมองเก่ียวกับการท่องเที่ยวของชนชั้นกลางเอาไว้ว่า ส�ำหรับการท่องเที่ยวของชนชั้นกลางแล้วนั้น สง่ิ ท่นี กั ท่องเทีย่ วกลมุ่ นตี้ อ้ งการจากการท่องเท่ียวมากท่สี ุด ก็คือ การได้ออกไปค้นพบสงิ่ ที่ชว่ ยตอบสนองความ อยากร้อู ยากเห็น (curiosity) การทอ่ งเที่ยวจะต้องเป็นการออกไปแสวงหาสถานท่ีแปลกใหม่ ส่ิงแปลกใหมท่ ่ไี ม่ 182 วารสารวิชาการ มหาวิทยาลยั หอการคา้ ไทย มนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์

ตวงทอง สรประเสริฐ อาจหาไดใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั และการท�ำงานอันซำ�้ ซากจ�ำเจ เสน่หข์ องพื้นทกี่ ารทอ่ งเทีย่ วสำ� หรับชนช้นั กลาง ก็คือ จุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวนั้นจะต้องมี “เร่ืองราว” ท่ีช่วยตอบสนองความต้องการท่ีจะหนีพ้นไปจาก เรอ่ื งเดมิ ๆ อนั นา่ เบอื่ ของชวี ติ การนำ� สตรตี อารต์ มาใชใ้ นดา้ นการทอ่ งเทยี่ ว ผสู้ รา้ งจงึ ควรใหค้ วามสำ� คญั กบั การ “สวม” เร่ืองเล่าท่ีจะน�ำเสนอออกมาในภาพสตรีตอาร์ตเหล่านั้น ว่าก�ำลังจะบอกเล่าให้นักท่องเท่ียวได้รับรู้ถึง เรอ่ื งราวเก่ียวกับอะไร จากงานวจิ ยั เก่ียวกับสตรตี อารต์ ในประเทศไทย พบว่า เรือ่ งราวที่ถูกสรา้ งขึน้ โดยสตรีตอาร์ตมากทีส่ ดุ ในปจั จบุ นั นี้ คอื เรอ่ื งราวเกยี่ วกบั วฒั นธรรม วถิ ชี วี ติ ความเปน็ อยขู่ องชมุ ชน ซง่ึ นา่ สนใจทวี่ า่ สตรตี อารต์ สามารถ ท�ำหน้าท่ีในการส่ือสารคุณค่าทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของชุมชนได้อย่างชัดเจนและเข้าใจได้ง่ายในหมู่ นักท่องเที่ยวยุคใหม่ เน่ืองจากคุณสมบัติของการเป็นส่ือภาพ ท�ำให้มีความสามารถในการจับความสนใจของ ผู้คนในฐานะประสบการณ์ที่เข้าใกล้ได้ สัมผัสได้ และเข้าถึงได้ง่ายกว่าโบราณวัตถุหรือสถาปัตยกรรม เช่น งานวจิ ยั ของ กฤษณ์ ทองเลศิ (2560) พบวา่ ภาพสตรตี อารต์ ในเขตเมอื งเกา่ ปนี งั และสงขลานนั้ สามารถสะทอ้ น ให้เห็นมุมมองต่างวัฒนธรรมท่ีมีต่อสัตว์เล้ียง ภาพวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนในชุมชน ภาพความแตกต่างของ กลุ่มชาติพันธุ์ และภาพการละเล่นศิลปะพื้นบ้าน ผ่านภาพวาดรถเข็นขายบะหมี่โบราณ การท�ำข้าวเกรียบ การท�ำน�้ำบูดู และร้านน้�ำชา ซ่ึงสะท้อนวัฒนธรรมอาหารและการกินอยู่ของชุมชน ภาพการเชิดสิงโตอันเป็น วัฒนธรรมจีน ภาพคนพายเรือชาวอินเดีย ฯลฯ ชว่ ยให้ผมู้ าเยอื นไดเ้ ข้าใจถงึ ความเป็นชมุ ชนที่อาศยั อยรู่ วมกัน ของชาวมาเลย์เช้ือสายจีนและมสุ ลิมในเมืองปีนังได้เป็นอย่างดี (กฤษณ์ ทองเลศิ , 2560) งานวจิ ัยของกฤษณ์ ทองเลศิ ไดศ้ ึกษาในประเด็นของพน้ื ท่ที อ่ งเท่ยี วเอาไวว้ า่ จดุ หมายปลายทางของ การทอ่ งเที่ยวนน้ั เป็นทงั้ ประสบการณ์ ความทรงจ�ำและภาพตัวแทนส�ำหรบั นกั ท่องเที่ยว เรอ่ื งราวทน่ี ำ� เสนอใน สตรตี อาร์ต จงึ เปน็ ปจั จยั สำ� คัญท่ีจะก�ำหนดว่า จะสามารถดึงดดู นักท่องเที่ยวกลุ่มใดเขา้ มาในพื้นที่ นกั ทอ่ งเทีย่ ว ท่ีมีความสนใจในเรื่องราววัฒนธรรมความเป็นอยู่ นักท่องเท่ียวท่ีสนใจในวิถีชีวิตท่ีแตกต่างจากความเป็น เมืองใหญ่ หรือนักทอ่ งเทยี่ วท่ีโหยหาความเป็นอดตี อันสงบสุขงดงาม ดงั นั้น ขอ้ ท่ีควรให้ความสำ� คัญเปน็ อนั ดบั แรกในการสรา้ งสตรตี อารต์ คอื หากชมุ ชนตอ้ งการนำ� เสนอวถิ ชี วี ติ วฒั นธรรมของตวั เองใหผ้ มู้ าเยอื นไดร้ จู้ กั แลว้ นัน้ เรอ่ื งราวแบบใดทจ่ี ะสามารถสือ่ สารสิง่ เหลา่ นัน้ ออกไปได้ดีที่สุด 2. อำ� นาจในการเข้ารหัสสารของภาพสตรตี อาร์ตเป็นของผ้ใู ด การเข้ารหสั เป็นกระบวนการสำ� คญั ของการสื่อสารอันมวี ัตถุประสงคท์ ส่ี ำ� คัญ คอื การถา่ ยทอดขอ้ มูล ขา่ วสาร ทัศนคติ ความเขา้ ใจ ฯลฯ ออกไปในรูปของสัญลักษณแ์ สดงความหมาย (symbolic form) โดยมีจดุ มุ่งหมายเพ่ือให้ผู้รับสารถอดรหัสหรือเข้าใจความหมายสอดคล้องตรงกันกับผู้ส่งสาร สตรีตอาร์ตในพื้นท่ี การท่องเท่ียวนอกจากจะอยู่ในบทบาทของทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวแล้ว ยังอยู่ในบทบาทของ “สื่อ” การท่องเที่ยวด้วย เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือในการน�ำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับชุมชนหรือพ้ืนท่ีการท่องเที่ยว นั้น ๆ ผ่านสื่อภาพแล้ว ยังช่วยในการส่ือสารอัตลักษณ์ท่ีต้องการน�ำเสนอให้นักท่องเที่ยวรับรู้ไปพร้อมกัน การก�ำหนดรูปแบบและเรื่องราวที่น�ำเล่าในภาพสตรีตอาร์ตซึ่งเป็นขั้นตอนของกระบวนการเข้ารหัสสารน้ัน ปที ี่ 39 ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม - มนี าคม 2562 183

ศลิ ปะสตรีตอารต์ กับการทอ่ งเทีย่ ว จงึ เป็นการก�ำหนดการรบั รูค้ วามหมายทางการท่องเท่ยี วของพ้นื ทีช่ มุ ชนใหก้ ับผ้รู บั สารหรอื นกั ทอ่ งเทย่ี ว วา่ ควร จะมองพน้ื ท่ีการท่องเท่ียวนี้ด้วยทัศนะหรือมุมมองแบบใด (สมสุข หินวิมาน, 2554) อย่างไรก็ดี เนื่องจากการสร้างผลงานสตรีตอาร์ตเป็นกระบวนการท่ีต้องอาศัยความร่วมมือจากหลาย ฝา่ ย ทัง้ ในดา้ นทนุ เศรษฐกิจทใี่ ช้ในการจดั ซ้อื สี อุปกรณ์ เคร่ืองมือในการสรา้ งผลงาน เวลาและทักษะของศิลปนิ ที่เป็นผู้สร้างผลงาน ซ่ึงศิลปินย่อมมีแนวคิดและตัวตนของตัวเองที่ต้องการน�ำเสนอผ่านผลงานศิลปะออกไป ดังท่ีงานวิจัยของแมนฤทธิ์ เต็งยะ (2559) พบว่า ศิลปินสตรีตอาร์ตในประเทศไทยน้ัน ท�ำงานในลักษณะที่ คอ่ นขา้ งแตกตา่ งจากศลิ ปนิ ในตา่ งประเทศ โดยมกี ารเปดิ เผยตวั ตน และสว่ นมากจะสรา้ งผลงานโดยพฒั นาเรอื่ ง ราวและเน้ือหาท่ีเป็นการผสมผสานระหว่างกระแสของยุคสมัยและประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง ท�ำให้ผลงาน ท่ีปรากฏออกมามีอัตลักษณ์ของตัวศิลปินปรากฏให้เห็นอยู่อย่างชัดเจน ผู้พบเห็นผลงานสามารถบอกได้ทันทีว่า น่เี ป็นผลงานสตรีตอารต์ ของศิลปนิ คนใด ในขณะท่ีสตรีตอาร์ตที่เกิดข้ึนจากการจัดท�ำโครงการของภาครัฐที่ต้องการสร้างพ้ืนที่การท่องเที่ยวขึ้น ในชุมชนนัน้ ทำ� ให้ต้องมีนโยบายและอดุ มการณจ์ ากภาครัฐเขา้ มากำ� กับควบคมุ ในการสร้างผลงาน การเขา้ มามี อำ� นาจในการกำ� หนดความหมาย และสงิ่ ทตี่ อ้ งการสอื่ สารผา่ นภาพสตรตี อารต์ ออกไปของผมู้ สี ว่ นรว่ มในหลาย ๆ ฝ่ายนี้ อาจท�ำให้ชุมชนและคนท้องถ่ินซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ไม่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างความหมายในภาพ สตรีตอาร์ตอย่างแท้จริง และอาจทำ� ใหอ้ ัตลักษณ์ของชมุ ชนที่ต้องการบอกเลา่ ผ่านสตรีตอารต์ น้นั ถูกบิดเบอื นไป และงานวจิ ยั ของไชยสิทธิ์ ชาญอาวธุ (2560) แสดงใหเ้ ห็นวา่ พืน้ ทีส่ รา้ งสรรคง์ านสตรีตอารต์ นัน้ เป็นพน้ื ท่ที าง ความคดิ อดุ มการณ์ และวฒั นธรรม ทมี่ นี ยั ยะตอ่ การจดั ความสมั พนั ธเ์ ชงิ อำ� นาจในสงั คม และชว่ งชงิ ความหมาย ตา่ ง ๆ ในกระบวนการปรับเปลีย่ นความสัมพนั ธใ์ หม่ให้เกดิ ขนึ้ ในสังคม ในประเดน็ นเี้ ม่ือน�ำแนวคดิ เรือ่ งอำ� นาจของ Michel Faucault มาพิจารณาแล้ว การใชภ้ าพสตรตี อารต์ เพือ่ การท่องเทีย่ ว จึงพึงใหค้ วามสำ� คัญอย่างยิ่งวา่ ชุมชนอยใู่ นฐานะอะไรในพน้ื ทีก่ ารทอ่ งเท่ียวน้ี และชุมชนได้ มีอ�ำนาจและบทบาทในสัดส่วนท่ีเหมาะสมพอแล้วหรือไม่ ในการเข้ารหัสสารต่าง ๆ ที่ต้องการส่ือสารผ่านภาพ สตรีตอาร์ตออกไปสู่นักท่องเที่ยวท่ีเข้ามาเย่ียมชม ดังที่หลายพ้ืนท่ีในประเทศไทยท่ีมีการใช้สตรีตอาร์ตเข้าไป เปลีย่ นแปลงภมู ิทัศน์ และหวงั ให้เกดิ ผลพลอยไดด้ ้านการท่องเท่ยี ว แตก่ ็ก่อให้เกิดข้อกงั ขาไปพรอ้ มกนั ว่า ภาพ สตรตี อารต์ ทเ่ี ปน็ ตวั การต์ นู หรอื ศลิ ปะแบบวฒั นธรรมประชานยิ มสสี นั สดใสตา่ ง ๆ อนั เปน็ เอกลกั ษณเ์ ฉพาะตวั ของ ศลิ ปนิ ผวู้ าด ทป่ี รากฏอยตู่ ามกำ� แพงและถนนหนทางนน้ั จะชว่ ยเชอื่ มโยงหรอื สอ่ื สารใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี วรจู้ กั อตั ลกั ษณ์ ของชมุ ชนท่พี วกเขาเข้ามาเยอื นได้อย่างไร 3. นักทอ่ งเทีย่ วมีบทบาทในการเปน็ ผู้รบั สารและผู้สง่ สารไปพร้อมกนั คณุ ลกั ษณะสำ� คญั ประการหนง่ึ ทท่ี ำ� ใหห้ ลายเมอื งทวั่ โลกหนั มาสนใจในการใชส้ ตรตี อารต์ เพอ่ื อตุ สาหกรรม การทอ่ งเทย่ี ว คอื สตรตี อารต์ เปน็ สอ่ื ดา้ นภาพทน่ี กั ทอ่ งเทยี่ วสามารถเขา้ ใกลไ้ ด้ มปี ฏสิ มั พนั ธด์ ว้ ยได้ เชน่ การยนื ท�ำท่าเป็นลูกค้ารอซ้ืออาหารจากภาพวาดรถเข็น หรือการซ้อนรถจักรยานยนต์ที่จัดวางเอาไว้เคียงข้างกับภาพ สตรีตอาร์ตท่ีเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย แตกต่างจากทรัพยากรการท่องเท่ียวอื่นท่ีนักท่องเท่ียวอาจถูกจ�ำกัด 184 วารสารวิชาการ มหาวิทยาลยั หอการคา้ ไทย มนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์

ตวงทอง สรประเสริฐ การเขา้ ถงึ การสรา้ งปฏสิ มั พนั ธก์ บั ศลิ ปะสตรตี อารต์ จงึ เกดิ ขนึ้ ควบคกู่ บั การถา่ ยภาพของตวั นกั ทอ่ งเทย่ี วเองและ ภาพสตรตี อารต์ ตา่ ง ๆ และการเผยแพรผ่ ่านสอื่ สังคมออนไลน์ อันเปน็ กระบวนการของการสร้างอตั ลักษณผ์ ่าน การทอ่ งเทย่ี วของนกั ท่องเท่ียวยคุ ใหม่ สถิติที่เป็นเคร่ืองยืนยันถึงพลังของการน�ำเสนอภาพการท่องเท่ียวเพ่ือชมสตรีตอาร์ตผ่านสื่อสังคม ออนไลนไ์ ดเ้ ปน็ อยา่ งดี คอื ตวั เลขภาพถา่ ยสตรตี อารต์ จากยา่ นถนนเฮาเชอร์ เมอื งเมลเบริ น์ ประเทศออสเตรเลยี ท่ถี ูกโพสต์พร้อมตดิ แฮชแท็กในแอปพลเิ คชนั อนิ สตาแกรม (instagram) มีมากถงึ 96,000 ภาพในปี พ.ศ. 2560 และมมี ากกว่าภาพถ่ายจากยา่ นท่องเที่ยวที่โด่งดงั อื่น ๆ ของเมลเ์ บริ น์ อย่างสวนสตั ว์เมลเ์ บิร์น (85,000 ภาพ) จตั ุรสั เฟเดอรัล (49,000 ภาพ) หรอื หอคอยยเู รกา้ (27,000 ภาพ) (Honig, 2017) งานวิจัยของกฤษณ์ ทองเลิศ (2560) ได้อธิบายถึงลักษณะส�ำคัญของปรากฏการณ์การแบ่งปันภาพ สตรตี อาร์ตผ่านสอื่ สังคมออนไลน์ เอาไว้ว่า การแบง่ ปันภาพสสู่ ังคมออนไลนม์ ักมีการ check in สถานที่ตัง้ ของ ภาพ ท�ำให้ผู้ดูภาพท่ีเป็นเพื่อน รวมถึงผู้ที่เข้าถึงภาพสามารถทราบถึงต�ำแหน่งรวมท้ังแผนที่อันเป็นท่ีต้ังของ ภาพถ่ายดังกล่าวได้อย่างชัดเจน ซึ่งมีประโยชน์กับนักท่องเท่ียวในการวางแผนการเดินทางเข้าสู่พ้ืนท่ีดังกล่าว การเปดิ โอกาสให้นกั ท่องเท่ียวไดเ้ ขยี นขอ้ ความบรรยายภาพด้วยตัวเอง สรา้ งความหลากหลายของมุมมอง และ ความคิดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลายกลุ่ม นอกจากนี้ แอปพลิเคชันอย่าง อินสตาแกรม ซ่ึงมุ่งเน้น การนำ� เสนอภาพมากกว่าถ้อยคำ� และมีขน้ั ตอนการตกแตง่ ภาพใหส้ วยงาม ยังสามารถโนม้ นา้ วความน่าเท่ียวชม ให้กับผู้ท่ีได้เห็นภาพได้เป็นอย่างดี โดยปรากฏการณ์ดังกล่าว ทำ� ให้ส่ือออนไลน์ช่วยท�ำหน้าที่ในการเผยแพร่ ความงามหรอื สนุ ทรยี ภาพทางการสอื่ สาร (poetic function) ตามแนวคดิ ของ Jakobson (1987) และคณุ สมบตั ิ นเ้ี องทท่ี ำ� ใหภ้ าพสตรตี อารต์ เปน็ สอื่ ทยี่ ง่ิ ทรงพลงั ในการสรา้ งแรงดงึ ดดู ทางการทอ่ งเทย่ี ว (กฤษณ์ ทองเลศิ , 2560) การจัดท�ำสตรีตอาร์ตในพ้ืนท่ีชุมชนนั้น ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจึงพึงค�ำนึงถึงความง่ายในการเข้าใกล้ ตัวผลงาน ความหลากหลายของความคิดสร้างสรรค์ในการจัดวางองค์ประกอบภาพ และวัสดุอุปกรณ์ที่เป็น ส่วนหนึ่งของงานสตรีตอาร์ต เพ่ือให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้จินตนาการในการเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับผลงานได้ อย่างอิสระและสนุกสนาน เช่น การวาดภาพเด็กในชุมชนก�ำลังเล่นชิงช้า โดยมีชิงช้าของจริงวางขนาบอยู่ ขา้ งภาพวาด การจดั วางเช่นน้ีท�ำให้นักทอ่ งเที่ยวสามารถเข้าไปมีปฏิสมั พันธ์กับชงิ ชา้ ของจริงได้ ไมว่ ่าจะเป็นนัง่ โหน แกวง่ หรอื แสดงท่าทางอืน่ ๆ ในขณะถ่ายรปู ได้ ดึงดดู ให้มกี ารถา่ ยภาพและแบ่งปนั ภาพออกไปในสื่อสงั คม ตา่ ง ๆ ซง่ึ เป็นการประชาสมั พนั ธ์การท่องเที่ยวอนั ทรงประสทิ ธภิ าพในโลกออนไลนใ์ นปจั จบุ นั นี้ 4. พน้ื ท่สี ตรตี อาร์ตตอ้ งประกอบด้วยปจั จยั ทางการท่องเท่ยี ว แม้ว่าสตรีตอาร์ตจะมีความสวยงาม ชวนให้แสวงหาและน่าสนใจเพียงไร หากไม่มีปัจจัยด้าน การทอ่ งเทย่ี วทชี่ ว่ ยสนบั สนนุ ใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี วสามารถเขา้ ถงึ ในฐานะพนื้ ทก่ี ารทอ่ งเทย่ี วได้ การสรา้ งผลงานนน้ั ขนึ้ อาจไมเ่ กิดประโยชนท์ างการท่องเทย่ี วอยา่ งเต็มเมด็ เตม็ หนว่ ย ปัจจัยการท่องเท่ียวส�ำคัญท่ีจะสามารถช่วยให้เกิดธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ขึ้นได้ พึงประกอบด้วย การคมนาคมขนส่ง หรือเส้นทางท่ีอ�ำนวยให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าสู่พื้นท่ีได้อย่างสะดวกสบาย ปีที่ 39 ฉบบั ที่ 1 เดือนมกราคม - มนี าคม 2562 185

ศลิ ปะสตรีตอาร์ตกับการทอ่ งเท่ยี ว รา้ นอาหารทใ่ี หบ้ รกิ าร สถานทพี่ กั แรมทม่ี มี าตรฐาน การนำ� เทย่ี วและมคั คเุ ทศก์ และประการสำ� คญั ทสี่ ดุ คอื ความ ปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยวในพ้ืนท่ี ซ่ึงเม่ือพิจารณาจากความส�ำเร็จของโครงการสตรีตอาร์ตของเมือง จอรจ์ ทาวน์ รฐั ปนี งั ประเทศมาเลเซีย ซ่ึงเปน็ เมืองทใ่ี ช้สตรตี อารต์ มาสร้างแรงดงึ ดูดดา้ นการท่องเทยี่ วท่ไี ด้รบั ความนยิ มมากทสี่ ดุ เมอื งหนง่ึ ของโลก โดยจดั ใหม้ กี ารจดั ทำ� งานศลิ ปะสตรตี อารต์ วางแทรกอยทู่ ว่ั พนื้ ทขี่ องเมอื ง ท่ีได้รับการข้ึนทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างเป็นทางการ เนื่องจากมีภูมิสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมท่ีโดดเด่น และนักท่องเท่ียวสามารถเดินทางมายังเมืองแห่งนี้ได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งสายการบินที่มีให้บริการหลายสาย การบนิ และเทย่ี วบนิ หรอื การโดยสารขนสง่ มวลชนภาคพน้ื ดนิ จากประเทศใกลเ้ คยี งอยา่ งประเทศไทยและสงิ คโปร์ จากตัวเลขสถิติการทอ่ งเทยี่ วรัฐปีนงั ระบวุ ่า ตวั เลขนกั ท่องเที่ยวในปี พ.ศ. 2560 นน้ั เพ่มิ สงู ขนึ้ กว่าร้อยละแปด จากปที ผ่ี า่ นมา และมนี กั ทอ่ งเทยี่ วทเี่ ดนิ ทางมายงั ปนี งั ดว้ ยเรอื สำ� ราญเพม่ิ ขนึ้ จาก 114,230 คน เปน็ 172,438 คน นอกจากน้ี พื้นที่เมืองเกา่ ทม่ี ีการจดั วางสตรตี อาร์ตน้ี ยงั มีลกั ษณะเปน็ มิตรกบั คนเดนิ เทา้ (pedestrian friendly) คอื จดั ใหเ้ ปน็ พนื้ ทปี่ ลอดรถยนตใ์ นบางสว่ น (car-free zone) ทำ� ใหน้ กั ทอ่ งเทยี่ วสามารถใชว้ ธิ กี างแผนที่ เดินเท่ียวด้วยตัวเอง หรือปั่นจักรยานชมเมืองได้อย่างสนุกสนานและปลอดภัย ควบคู่ไปกับการมีโรงแรมและ ร้านอาหารพ้ืนเมืองเปิดให้บริการอยู่โดยรอบ สามารถตอบสนองความต้องการในทุกด้านของนักท่องเท่ียวได้ ครบถว้ นในพื้นทแี่ หง่ เดียว ทำ� ให้การทอ่ งเทีย่ วปีนงั เตบิ โตอยา่ งตอ่ เน่ืองในทุก ๆ ปี ชมุ ชนทสี่ นใจการใชง้ านสตรตี อารต์ เพอ่ื การทอ่ งเทยี่ ว จงึ ตอ้ งมกี ารรว่ มมอื กนั กำ� หนดและประชาสมั พนั ธ์ เส้นทางการคมนาคมที่จะเข้าถึงท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักส�ำหรับนักท่องเที่ยว ตลอดจนเลือกสรรผู้ประกอบการใน ทอ้ งถน่ิ ทจ่ี ะสามารถจดั หาและใหบ้ รกิ ารปจั จยั ดา้ นการทอ่ งเทยี่ วตา่ ง ๆ ทงั้ รา้ นอาหาร ทพี่ กั แรม บรกิ ารเชา่ พาหนะ มคั คุเทศก์ ทีจ่ ะอำ� นวยความสะดวกแก่ผู้มาเยอื นได้อยา่ งเพียงพอ 5. ต้องค�ำนงึ ถงึ ท้งั ปัจจัยดา้ นบวกและด้านลบไปพรอ้ มกนั แมว้ ่าการท่องเท่ยี วโดยใชส้ ตรีตอารต์ เปน็ สิง่ ดึงดดู รายไดจ้ าก “สินค้าออกทม่ี องไมเ่ หน็ ตัว” (invisible export) เขา้ มาสชู่ มุ ชนมากมาย เพราะนกั ทอ่ งเทย่ี วนำ� เงนิ มาใชจ้ า่ ยในรปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ การใชบ้ รกิ ารเครอื่ งบนิ รถยนต์ รถไฟ การเขา้ ชมสถานทตี่ า่ ง ๆ การใชบ้ ริการโรงแรม การซ้ือสินค้า อาหารเคร่ืองดมื่ (สมลกั ษณ์ โตสกุล, 2516) แตก่ ารทจ่ี ะเปลยี่ นแปลงภมู ทิ ศั นข์ องเมอื งดว้ ยสตรตี อารต์ เพอ่ื ใหก้ ลายเปน็ พนื้ ทที่ อ่ งเทย่ี วกค็ วรทจ่ี ะมกี าร ไตร่ตรองถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชุมชนให้ครบถ้วนรอบด้าน เพราะแม้ว่าการท่องเท่ียวจะมีส่วนช่วยในการ เผยแพร่วัฒนธรรมท้องถ่ิน ท�ำให้เกิดการพัฒนาเส้นทาง ยานพาหนะ และเทคโนโลยีการสื่อสารท่ีใช้ในการ ตอบสนองความต้องการของนักท่องเท่ียว ให้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในพื้นที่ชุมชน แต่ผลกระทบด้านลบ จากการท่องเที่ยวท่ีตามมา เช่น ค่าครองชีพท่ีสูงขึ้น ปัญหาการกระจายรายได้ที่ไม่ทั่วถึง ผลประโยชน์จาก การทอ่ งเทย่ี วมไิ ดไ้ ปถงึ คนในชุมชนอยา่ งแท้จรงิ หรือไปถงึ เพยี งบางสว่ น อนั เปน็ ประเด็นปัญหาที่เกดิ ข้ึนมาแล้ว ในการท่องเทย่ี วระดบั ชมุ ชนหลายแห่งของประเทศไทย (ศรัญญา วรากลุ วิทย์, 2558) ตลอดจนการเจรจาตกลง กับเจ้าของพ้ืนที่ที่จะใช้สร้างงานหากไม่ใช่พื้นท่ีสาธารณะ เพ่ือไม่ให้เส่ียงกับการบุกรุกและท�ำลายทรัพย์สินส่วน 186 วารสารวิชาการ มหาวทิ ยาลยั หอการค้าไทย มนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์

ตวงทอง สรประเสรฐิ บคุ คล เป็นตน้ การมนี กั ทอ่ งเทยี่ วหลงั่ ไหลเขา้ มาในชมุ ชนเพอื่ ชมภาพสตรตี อารต์ ยอ่ มสง่ ผลกระทบตอ่ วถิ ชี วี ติ ความเปน็ อยดู่ ้งั เดิม จนอาจเกิดความขัดแย้งและกระทบกระทง่ั ระหว่างประชาชนในชมุ ชนและนกั ท่องเท่ียวตามมาได้ ดงั เชน่ ทเ่ี กิดข้ึนในหมบู่ ้านบันไดดอกไม้ (Ihwa Mural Village) กรงุ โซล ในประเทศเกาหลี ท่มี ีนกั ทอ่ งเท่ยี วพากัน เข้ามาเดินชมและถ่ายรูปกับภาพสตรีตอาร์ตจนเกิดเสียงดังรบกวนประชาชนท่ีพักอาศัยอยู่ในย่านน้ันเกือบจะ ทงั้ วนั ทง้ั คนื จนทำ� ใหม้ ชี าวบา้ นออกไปลบภาพวาดบางสว่ นทง้ิ เสยี เพอื่ ปอ้ งกนั การรบกวนจากนกั ทอ่ งเทยี่ วในทส่ี ดุ และเนอ่ื งจากพน้ื ทใี่ นการสรา้ งผลงานโดยมากนน้ั เปน็ พน้ื ทสี่ าธารณะสว่ นรวมหรอื อาจเปน็ พนื้ ทสี่ ว่ นตวั ทใี่ ครคนหนง่ึ คนใดเปน็ เจา้ ของ ปญั หาหนง่ึ ทพี่ บมากในการสรา้ งงานสตรตี อารต์ กค็ อื ประเดน็ การโตแ้ ยง้ ถงึ ความ เป็นเจ้าของลิขสิทธ์ิของผลงานจนก่อให้เกิดการฟ้องร้องทางกฎหมายข้ึนในหลายประเทศ และมีการถกเถียง อภปิ รายอย่ใู นงานวิจยั ของ Mulcahy และ Flessas (2015) วา่ ปัญหาสำ� คญั ของผลงานสตรีตอารต์ คือเร่ืองของ ลิขสิทธ์ิ และกฎหมายจะตีความอย่างไรว่าใครควรจะได้ถือสิทธ์ิในการครอบครองระหว่างบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของ ก�ำแพงหรอื ศลิ ปนิ ซงึ่ เป็นผสู้ ร้างผลงาน สรุป สตรีตอารต์ เปน็ รูปแบบศิลปะท่มี คี วามเปน็ สากลสูงและไดร้ ับการยอมรบั ในวงกว้างในยุคปจั จบุ ันน้ี อกี ทั้งยังมีจุดเด่นท่ีเหมาะจะน�ำมาใช้ประโยชน์ด้านการท่องเท่ียว น่ันก็คือ การเป็นสื่อท่ีน�ำมาใช้ในการสื่อสารข้าม วฒั นธรรมไดง้ า่ ยกวา่ สอื่ ประเภทอนื่ เนอ่ื งดว้ ยเปน็ การสอ่ื สารผา่ นภาพซง่ึ ไมต่ อ้ งอาศยั ความเขา้ ใจดา้ นภาษา ทำ� ให้ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงและเข้าใจพื้นท่ีการท่องเที่ยวที่ตนเองไปเยือนได้ง่ายขึ้น ท้ังในแง่วัฒนธรรม ความ เป็นอยู่ วิถชี ีวติ และประวตั ศิ าสตร์ความเปน็ มา การถา่ ยและเผยแพร่ภาพสตรีตอารต์ ของนักทอ่ งเท่ียวผ่านสื่อ สังคมออนไลน์ ยังเป็นเครอ่ื งมือสำ� คญั ในการสง่ เสริมการประชาสัมพนั ธ์พนื้ ทก่ี ารท่องเทีย่ วแหง่ น้ัน ๆ โดยอาศยั เนือ้ หาทนี่ กั ทอ่ งเทยี่ วเปน็ ผ้ผู ลิตขน้ึ ผา่ นมมุ มอง ความรสู้ กึ และประสบการณ์ส่วนบุคคล ซึง่ เปน็ เน้อื หาทส่ี ง่ ผลต่อ พฤตกิ รรมการตดั สนิ ใจเลอื กเดนิ ทางทสี่ ำ� คญั ทส่ี ดุ ปจั จยั หนง่ึ ของนกั ทอ่ งเทย่ี วในยคุ ปจั จบุ นั น้ี ไทยซงึ่ เปน็ ประเทศ ท่ีมีการท่องเท่ียวเป็นอุตสาหกรรมท�ำรายได้อันดับหน่ึงของประเทศ จึงน่าจะหันมาให้ความสนใจศึกษาและ สร้างรูปแบบการด�ำเนินการในการใช้สตรีตอาร์ตเป็นเครื่องมือสร้างแรงดึงดูดด้านการท่องเที่ยว เพ่ือประโยชน์ ทางด้านเศรษฐกิจและการสื่อสารอตั ลักษณ์ความเปน็ ชมุ ชนในพน้ื ที่ตา่ ง ๆ ของไทยสู่นานาชาติ ใหป้ ระสบความ สำ� เรจ็ ไดอ้ ย่างทัดเทยี มเมืองท่องเท่ียวแห่งอนื่ ๆ ของโลก ข้อเสนอแนะ การใช้สตรีตอาร์ตเป็นเคร่ืองมือในการสื่อสารและสร้างแรงดึงดูดทางการท่องเที่ยว ยังขาดการศึกษา วิจัยเก่ียวกับการบริหารจัดการและปัญหาท่ีเกิดขึ้นกับการดูแลรักษาภาพสตรีตอาร์ตให้คงอยู่ เนื่องจากเป็น ผลงานศิลปะท่ีเป็นของอายุส้ัน (ephemeral) และมักจะถูกก�ำจัดทิ้ง (eradicate) จึงควรมีการศึกษาเพิ่มเติม ในประเด็นน้ตี ่อไป ปีท่ี 39 ฉบับท่ี 1 เดือนมกราคม - มนี าคม 2562 187

ศลิ ปะสตรตี อาร์ตกับการท่องเทย่ี ว บรรณานุกรม กฤษณ์ ทองเลศิ . (2560). ภาพสตรตี อารต์ เพอื่ การสอื่ สารการทอ่ งเทย่ี วในเขตพน้ื ที่ ยา่ นเมอื งเกา่ ปนี งั และสงขลา. วารสารนิเทศศาสตร์ปรทิ ศั น์, 21(1), 49-62. ไชยสิทธ์ิ ชาญอาวุธ. (2560). การศึกษาคุณค่าด้านอัตลักษณ์ของศิลปะข้างถนนเพ่ือสร้างมูลค่าสู่เศรษฐกิจ สร้างสรรค์. วารสารวิชาการมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั บรู พา, 25(49), 247-267. แมนฤทธิ์ เต็งยะ. (2559). จากวัฒนธรรมกราฟฟิตีสู่งานสตรีตอาร์ตในประเทศไทย. มนุษยศาสตร์สังคมและ ศิลปะ มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร, 9(2), 2424-2432. ศรัญญา วรากุลวิทย์. (2558). อุตสาหกรรมการทอ่ งเที่ยว. กรงุ เทพฯ: ศนู ย์หนงั สอื จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย. สมลกั ษณ์ โตสกุล. (2516). อตุ สาหกรรมโรงแรมในประเทศไทย. วารสารเศรษฐกิจ, 5, 357-363. สมสุข หินวิมาน. (2554). รายการท่องเท่ียวทางโทรทัศน์: เที่ยวไปตามตะวัน บุกบั่นไปตามลมสนุกสุขสม ในจอโทรทศั น.์ วารสารศาสตร,์ 4(2), 29-55. DeNotto, M. (2014). Street art and graffiti: Resources for online study. College & Research Libraries News, 75(4), 208-211. Honig, C. (2017). Some rough sleepers are attracting tourists with their street art. Retrieved February 8, 2018, from http://theconversation.com/some-rough-sleepers-are-attracting-tourists- with-theirx-street-art-71983 Jakobson, R. (1987). Language in literature. London, UK: Belknap Press of Harvard University Press. Lu, S. (2018). The struggle between graffiti and street art. Retrieved January 27, 2018, from http://www.columbia.edu/~sl3731/graffitiART/# MacCannell, D. (1999). The tourist: A new theory of the leisure class. Berkeley, CA: University of California Press. Mulcahy, L., & Flessas, T. (2015). Limiting law: Art in the street and street in the art. Law, Culture and Humanities. Retrieved February 5, 2018, from http://journals.sagepub.com/doi/pdf/ 10.1177/1743872115625951 Riggle, N. (2010). Street art: The transfiguration of the common place. The Journal of Aesthetics and Art Criticism, 68(3), 243-257. Rojo J., & Harrington, S. (2017). Exploring Lisbon as a street art tourist. Retrieved January 31, 2018, from https://www.huffingtonpost.com/jaime-rojo-steven-harrington/lisbon-street-art_ b_5611789.html Tourism New Zealand. (2016). Putting Christchurch street art on the map. Retrieved February 5, 2018, from http://media.newzealand.com/en/news/putting-christchurch-street-art-on-the- map/ 188 วารสารวชิ าการ มหาวิทยาลยั หอการคา้ ไทย มนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์

ตวงทอง สรประเสรฐิ Tristan, M. (2002). Stencil Graffiti. New York: Thames & Hudson. Urry, J. (1990). The tourist gaze: Leisure and travel in contemporary societies. London, UK: Sage. Weisberg, J. C. (2012). The difference between street art and graffiti. Retrieved January 25, 2018, from http://schriftfarbe.com/the-difference-between-street-art-and-graffiti ปที ่ี 39 ฉบบั ที่ 1 เดือนมกราคม - มนี าคม 2562 189


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook