การเลี้ยงสุกร หน่วยที่ 1

กจิ กรรมที่ ๔ สรา้ ง พัฒนามอดลู เอกสารประกอบการเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพ บูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง วชิ า การเลย้ี งสกุ ร Swine Raising (20501-2304) หลกั สตู รประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562 ประเภทวชิ าเกษตรกรรม จดั ทาโดย นายณปภชั พวงลาใย

ก คานา เอกสารประกอบการเรียนรู้ รายวิชา การเล้ียงสุกร Swine Raising (20501-2304) เป็นเอกสาร ประกอบการเรยี นท่มี ุ่งเนน้ สมรรถนะอาชีพการเล้ียงสุกร มุ่งเน้นให้นักเรียนปฏิบัติงานจริง ลงมือเล้ียงสุกรมีการหา ข้อมลู การจดั การเลีย้ งสกุ รใหป้ ระสบผลสาเรจ็ และมีบรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เอกสารประกอบการเรียนรู้น้ีจะประสบผลสาเร็จผู้เรียนต้องมีความใส่ใจและกระตุ้นความสาคัญของการ รกั การอ่านใหเ้ กิดการเรียนร้ดู ้วยตนเอง และเกดิ ความรับผิดชอบในการเรียนรู้ นายณปภัช พวงลาใย วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกาแพงเพชร 5

สารบัญ คานา หน้า สารบัญ ก คาอธิบายรายวิชา ข จดุ ประสงค์ แบบทดสอบก่อนเรยี น 1-2 ใบงานความรู้หนว่ ยท่ี 1 3 แบบทดสอบหลังเรียน เกณฑ์การประเมิน 4-5 6-19 20-21 22 6

คาช้แี จงในการใช้มอดูลสาหรบั นกั เรียน กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมนกั ศึกษา กิจกรรมครู การสอนครง้ั ที่ 1 เรือ่ ง ความสาคญั การตลาดและ สภาวการณ์ของการเลี้ยงสกุ ร( 1 คาบ) ข้ันนา (ใชเ้ วลา 10 นาท)ี 1. ครใู หน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบก่อนการเรียนเรื่อง 1. นกั ศกึ ษาทาแบบทดสอบก่อนการเรยี น ความสาคัญ การตลาดและสภาวการณ์ของการเล้ียง สุกร 2. นกั ศึกษาคิดและตอบคาถาม 2. ครตู ง้ั คาถามกบั นกั ศกึ ษาถงึ เร่ือง การเล้ียงสกุ รมี ความสาคัญต่อประเทศไทยอย่างไร ? 3. นักศึกษารับใบความรู้ที่ 1 และทราบจดุ ประสงค์ 3. ครูแจกใบความรู้ที่ 1 และอธบิ ายหัวข้อเนื้อหา การเรียนรู้ และจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ข้นั สอน (ใช้เวลา 40 นาท)ี 1. ครอู ธบิ ายหวั ข้อและเนื้อหาเรื่อง ความสาคัญ 1. นักศึกษาฟังครอู ธบิ ายเนื้อหา การตลาดและสภาวการณ์ของการเลีย้ งสกุ ร 2. ครใู ห้นกั ศกึ ษาศึกษาอา่ นทบทวนเรื่อง การตลาด 2. นักศกึ ษาอา่ นทบทวนเนอ้ื หา และสภาวการณ์ของการเลีย้ งสกุ รพันธ์ุ จากใบความรทู้ ี่ 1 3. ครูและนักศึกษาชว่ ยกนั สรปุ เนือ้ หาเรื่อง ความสาคญั 3. นักศกึ ษาชว่ ยกันสรปุ เนอื้ หา การตลาดและสภาวการณข์ องการเลี้ยงสุกร ขน้ั ประเมินผล (ใช้เวลา 10 นาท)ี 1. ครซู ักถามคาถามเก่ียวกบั ความสาคญั การตลาด 1. นกั ศกึ ษาช่วยกันตอบคาถาม และสภาวการณข์ องการเลยี้ งสกุ ร 2. ครูอบรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและคุณลักษณะที่ 2. นักศกึ ษาฟงั ครอู บรมคุณธรรมจรยิ ธรรม พงึ ประสงคข์ องนักศกึ ษา 7

4 กิจกรรมครู กิจกรรมนกั ศึกษา การสอนคร้งั ท่ี 2 เร่อื ง ปฏบิ ัติการการตลาดและ สภาวการณ์ของการเล้ียงสกุ ร( 3 คาบ) ขัน้ นา (ใช้เวลา 20 นาท)ี 1. ครูซักถามถึงความสาคัญ การตลาดและสภาวการณ์ 1. นกั ศกึ ษาตอบคาถาม ของการเลี้ยงสุกรพันธเ์ุ พื่อทบทวนความรู้ 2. ครูแจกใบงานที่ 1 เร่อื ง การตลาดและสภาวการณ์ 2. นักศึกษาได้รบั ใบงาน ของการเล้ยี งสกุ รพันธ์ุ 3. ครูอธิบายจดุ ประสงค์การเรยี นรแู้ ละเกณฑข์ อง 3. นกั ศึกษารบั ทราบจดุ ประสงค์การเรยี นรูแ้ ละเกณฑ์ การประเมิน การประเมนิ ขั้นสอน (ใช้เวลา 140 นาท)ี 1. ครใู ห้นกั ศึกษาทุกคนศึกษาใบงานท่ี 1 โดยใช้ 1. นกั ศึกษาศึกษาใบงานและซกั ถามข้อสงสยั เวลา 10 นาที และซักถามขอ้ สงสยั 2. ครอู ธิบายข้ันตอนการปฏิบัตงิ านและการบนั ทึก 2. นักศึกษาฟังครูอธิบายขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิงานและ ผลในแบบบนั ทกึ ผลปฏิบัตงิ าน การบนั ทกึ ผล 3. ครใู ห้นักศกึ ษาปฏิบตั งิ านตามใบงานท่ี 1 และ 3. นักศึกษาปฏิบตั ิงานและส่งแบบบันทึกผลปฏบิ ัติงาน บันทกึ ผลในแบบบนั ทึกผลปฏิบตั ิงานสง่ ครทู า้ ยช่ัวโมง ทา้ ยช่วั โมง 4. ครูและนักศึกษาช่วยกนั สรปุ ผลการปฏบิ ตั ิงาน 4. นักศึกษาชว่ ยกนั สรุปผลการปฏิบัตงิ าน และใหน้ กั ศึกษาซักถาม ขั้นประเมนิ ผล (ใชเ้ วลา 20 นาท)ี 1. ครูให้นกั ศกึ ษาทาแบบทดสอบหลังการเรียน 1. นกั ศึกษาทาแบบทดสอบหลังการเรียน 2. ครแู ละนักศึกษาชว่ ยกนั เฉลยคาตอบแบบทดสอบ 2. นักศึกษาช่วยกนั เฉลยคาตอบแบบทดสอบ หลังการเรยี นร่วมกนั 3. ครูอบรมคณุ ธรรมจริยธรรมและคุณลกั ษณะท่ี 3. นักศกึ ษาฟังครอู บรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม พงึ ประสงค์ของนักศกึ ษา 8

1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ .1 เพอื่ ใหม้ ีความรูเ้ กี่ยวกับความสาคัญของการเลีย้ งสกุ ร .2 เพ่ือให้มีความรู้เกีย่ วกบั การตลาดและสภาวการณข์ องการเล้ียงสกุ ร .3 เพอื่ ใหม้ ีกิจนิสยั ทม่ี ีความรับผดิ ชอบ รอบคอบ ขยัน อดทน และสามารถทางานรว่ มกับผู้อื่น 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 2.1 บอกความสาคญั ของการเล้ียงสกุ ร 2.2 บอกการตลาดและสภาวการณข์ องการเลี้ยงสุกร 2.3 ปฏบิ ัตงิ านด้วยความรับผิดชอบ รอบคอบ ขยนั อดทน และสามารถทางานร่วมกับผู้อื่นได้ 9

แบบทดสอบก่อนเรียน 1.ประเทศใดเลยี้ งสุกรมากทสี่ ุดในโลก…………………… 2.สุกรสายพนั ธ์ใดทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานให้เลยี้ ง ......................... 3.ในการเลยี้ งสุกรเพื่อการเลยี้ งสุกรพนั ธ์ุจาหน่ายเพื่อเป็ นพ่อและแม่พนั ธ์ุสุกรทเี่ ลยี้ งส่วน ใหญ่เป็ นพนั ธ์ุจากต่างประเทศคือสายพนั ธ์ุใด....................................................... 4.ความสาคญั ของการเลยี้ งสุกรมอี ะไรบ้างจงอธิบายพอ สังเขป…………………………………….. 5.ปัจจยั ทที่ าให้การเลยี้ งสุกรประสบความสาเร็จ ประกอบด้วยอะไรบ้าง .................................................. 10

เฉลย 1.ประเทศใดเลย้ี งสุกรมากท่ีสุดในโลก………จีน…………… 2.สกุ รสายพันธใ์ ดที่พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั ทรงพระราชทานใหเ้ ลยี้ ง ....พนั ธ์ลุ ารจ์ แบลค็ (Large black) และพันธเุ์ อสเสค (Essex)................... 3.ในการเลยี้ งสกุ รเพอื่ การเล้ียงสุกรพันธจ์ุ าหน่ายเพ่อื เปน็ พ่อและแม่พันธุส์ กุ รทเี่ ลี้ยงสว่ นใหญเ่ ป็นพันธ์จุ าก ต่างประเทศคือสายพันธใุ์ ด .........พันธลุ์ ารจ์ ไวท์ แลนดเ์ รซ และดูรอค.............................................. 4.ความสาคญั ของการเลยี้ งสุกรมีอะไรบา้ งจงอธิบายพอสงั เขป 1. สุกรสามารถเล้ยี งไดใ้ นจานวนน้อยตวั เปน็ ฟารม์ เล็ก ๆ 2. การเลี้ยงสุกรต้องการพื้นท่ีเพียงเล็กน้อย สามารถใชพ้ ื้นทที่ ่ไี ม่เหมาะสมกบั การทาการเกษตรอย่างอน่ื ให้เป็นประโยชน์ เช่น พ้นื ท่ดี ินเลวไมส่ ามารถปลูกพชื ได้ 3. การเลยี้ งสกุ รใช้แรงงานน้อยและเลยี้ งง่าย 4. เล้ียงผลหรือผลพลอยไดท้ างการเกษตรหรอื อุตสาหกรรมสามารถนามาเปน็ อาหารสกุ รได้ ทาให้ ประหยัดรายจา่ ย เพ่มิ คุณค่า และทาใหร้ าคาสงู ข้นึ 5. สกุ รใหล้ กู ดก ขยายพนั ธไ์ุ ดเ้ ร็ว 6. เพ่ิมรายได้และทาใหเ้ ศรษฐกจิ ของครอบครวั ดีขึ้น สามารถใหพ้ ยงุ ฐานะเม่ือผลเล้ียงอื่นตกตา่ หรอื เสยี หายจากภยั ธรรมชาติ 7. เป็นการใชเ้ วลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ เป็นการฝกึ หดั ใหเ้ ยาวชนรจู้ กั การทางานและรกั สตั ว์เลี้ยง 8. ทาให้สมาชกิ ในครอบครวั ไดอ้ อกกาลังกายและมสี ุขภาพอนามยั สมบูรณ์ 9. มลู สุกรใช้เปน็ ป๋ยุ อยา่ งดี ช่วยรกั ษาความอุดมสมบูรณ์ของดนิ ในการปลกู พืชหรอื ใชเ้ ล้ียงปลาช่วยลด ตน้ ทุนการเลย้ี ง เช่น มลู สกุ รใช้เลย้ี งปลาดกุ ปลาสวาย และปลานิล เปน็ ต้น 10. การเลย้ี งสกุ รให้ผลกาไรดี สามารถคนื ทนุ ได้ภายในเวลา 6 เดือน 5.ปจั จัยท่ีทาให้การเลีย้ งสุกรประสบความสาเรจ็ ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง 1. สกุ รพนั ธด์ุ ี เปน็ สุกรทไี่ ด้รบั การคัดเลือกและผสมพนั ธ์ใุ ห้มกี ารเจรญิ เตบิ โตสงู อัตราการเปล่ยี นอาหาร ดี และใหผ้ ลเล้ียงสูง 2. อาหารดี มีคณุ ค่าทางอาหารครบถว้ นทงั้ คุณภาพและปริมาณตามความต้องการของสุกรในแต่ละ ระยะ 3. การจัดการดี ต้งั แต่การวางผงั ฟาร์ม การก่อสร้างโรงเรือน การจดั การแบง่ พนื้ ที่ได้อยา่ งเหมาะสม การจดั การวตั ถุดิบและการให้อาหารดี การเลีย้ งดดู ี การสุขาภิบาลดี และการตลาดดี 11

ใบงานท่ี 1 บทท่ี 1 ความรเู้ บอ้ื งต้นเกยี่ วกับการเลี้ยงสกุ ร 1.1 ประวัตแิ ละถน่ิ กาเนดิ ของสุกร ยคุ Neolithesage สุกรทพี่ บมีตน้ กาเนดิ จากสุกรปาุ แถบยุโรปและสุกรปุาแถบเอเชยี ชาติแรกที่มีการ เล้ยี งสกุ รคือ ประเทศจีนไดเ้ ร่ิมเลีย้ งสุกรเปน็ เวลากวา่ 6,000 ปี ประเทศอังกฤษมีการเล้ียงสกุ รมาแล้วกวา่ 2,700 ปี และ ค.ศ. 1539 แพรห่ ลายไปในเขตอเมริกาโดยโคลัมบัส (ปที ่พี บดนิ แดนใหม)่ ส่วนประเทศไทยเริ่ม เลยี้ งโดยชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทย โดยเลย้ี งเพ่ือเป็นอาหารและอาชีพเสริม เปน็ สุกรพันธพ์ุ นื้ เมือง เชน่ พันธุ์ ไหหลา เปน็ ตน้ ประเทศจนี มีการเล้ยี งสุกรมากท่ีสดุ ในโลก แต่สว่ นมากใช้บรโิ ภคภายในประเทศสว่ นประเทศทีม่ ีการเลีย้ ง สุกรสง่ เปน็ สินคา้ ออกสู่ตลาดโลก ได้แก่ เดนมาร์ค องั กฤษ เนเธอรแ์ ลนด์ และสหรัฐอเมรกิ า สกุ รพนั ธุ์ ตา่ งประเทศ เชน่ ลาร์จไวท์ (Large white) แลนด์เรซ (Landrace) ดรู อค (Duroc) เปน็ ตน้ ที่นิยมเลย้ี งใน ปัจจบุ นั ได้รบั การปรับปรุงพันธุม์ าจากบรรพบุรุษที่เปน็ สกุ รปาุ แถบยโุ รป และสุกรปาุ แถบเอเชยี ก. สกุ รปาุ แถบยโุ รป (Sus scrofe) ถน่ิ กาเนดิ เปน็ สกุ รปุาของยุโรป แอฟริกา เอเชยี ซง่ึ มีหลายชนิดด้วยกนั ลกั ษณะท่ัวไป แข็งแรง ว่องไว ทนทาน ดรุ ้าย หัวยาวใหญ่ จมกู ยาว ขายาว ไหล่กวา้ ง สะโพก และเอวเล็ก มีสีนา้ ตาลหม่นหรือเทาปนแดง มีลายดา เม่ือเลก็ มสี ีออ่ น ลายเสือ เม่ือโตขึน้ ลายเสอื จะหายไป ผิวหยาบ ขนยงุ่ ไขมนั น้อย โตเปน็ หน่มุ เปน็ สาวชา้ ทนทานตอ่ โรคได้ดี ข. สกุ รปุาแถบเอเชยี (Sus indica หรือ Sus vittatus บางคร้งั เรยี ก East indica pig) ถ่นิ กาเนดิ เป็นสกุ รท่ไี ด้มาจากประเทศจีน ญปี่ นุ เอเชียตะวนั ออก และไทย ลักษณะทวั่ ไป เลยี้ งงา่ ย ไม่ดุรา้ ย รูปรา่ งสเี่ หลีย่ ม หวั สน้ั กระดูกเล็ก ตัวเลก็ มีสีดาหรือขาวปน กนั ผิวหนงั เรียบ มีไขมันมาก เจริญเตบิ โตเป็นหนุม่ สาวเรว็ ลูกไมด่ ก ค. สกุ รบา้ น (Sus domesticus) เป็นสกุ รท่ไี ดร้ บั การปรบั ปรงุ พันธ์ุแลว้ นามาเลี้ยงกนั ทว่ั ไปในส่วนต่าง ๆ ของโลก พันธุ์ท่ีสาคญั คือ ลารจ์ ไวท์ แลนด์เรซ ดรู อค เป็นตน้ ถิ่นกาเนดิ ไดจ้ ากการปรบั ปรุงพันธุ์โดยใชส้ ุกรพนั ธใ์ุ น Sus scrofe และ Sus indica แลว้ คัดเลอื ก จนเปน็ พันธ์ุแท้ ลกั ษณะทั่วไป เป็นสุกรที่ปรับปรุงให้มลี ักษณะทางเศรษฐกจิ ทีด่ ี เชน่ หัวเลก็ เนอ้ื มาก มนั นอ้ ย โตเรว็ ลกู ดก เล้ียงง่าย อัตราการเปลีย่ นอาหารดี แขง็ แรง และทนทานต่อโรค 1.2 ประวตั กิ ารนาสุกรเขา้ มาเลย้ี งในประเทศไทย สมัยพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ไดม้ ผี นู้ าสุกรจากประเทศองั กฤษเขา้ มาเลย้ี งในประเทศ ไทยจานวน 2 พนั ธุ์ ได้แก่ พนั ธุ์ ไดแ้ ก่ พนั ธลุ์ ารจ์ แบล็ค (Large black) และพันธเ์ุ อสเสค (Essex) ตอ่ มา พ.ศ. 2461 สกุ รท้ัง 2 พันธุ์นี้ไดถ้ ูกนาไปเลยี้ งทโ่ี รงเรยี นเกษตรกรรมนครปฐมและได้สญู พันธ์ุไปในที่สุด 12

พ.ศ. 2482 สกุ รได้ถกู นาเข้ามาจากประเทศออสเตรเลยี โดยพระนรราชจานง และคณะทูตสนั ถวไมตรี สกุ รดงั กล่าวได้ถกู นาไปเลยี้ งท่สี ถานกี สิกรรมแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ พันธเ์ุ บอร์กเชียร์ (Berkshire) ลาร์จ ไวท์ มิดเดิลไวท์ (Middle White) และแทมเวอร์ท (Tam Worth) หลังจากนนั้ พ.ศ. 2484 สกุ รดงั กล่าวไดถ้ ูก แบ่งมาเลี้ยงทส่ี ถานเี กษตรกรรมกลางบางเขนและได้สญู พันธไ์ุ ปเน่อื งจากสงครามมหาเอเชยี บูรพา (สงครามโลก ครงั้ ที่ 2) พ.ศ. 2492 กองสัตวบาล กรมปศุสตั ว์ ได้ส่ังซื้อสุกรท้ัง 4 พนั ธุ์ดงั ที่กล่าวมาแลว้ จากประเทศ ออสเตรเลยี มาอีกจานวน 86 ตัว พ.ศ. 2497 กรมปศุสัตว์โดยความชว่ ยเหลอื ขององคก์ ารยูซ่อมสง่ เจ้าหน้าที่คือ นายประยูร สทิ ธิชยั นายยอด วฒั นสนิ ธ์ุ และนายจอมวิลเลียม ไปซอื้ สุกรจากประเทศสหรัฐอเมรกิ า ไดแ้ ก่ พันธุ์ดรู อคเจอร์ซี่ เบอร์กเชียร์ และแฮมเชียร์ (Hamshire) พ.ศ. 2500 โดยการชว่ ยเหลอื ของแผนการโคลมั โบ ได้จดั ซื้อสุกรพันธล์ุ ารจ์ ไวท์จากฟาร์มท่มี ชี อ่ื เสียงของประเทศองั กฤษจานวน 25 ตวั เปน็ สกุ รทม่ี ีลักษณะการให้ เน้อื ดี ลาตัวยาว เต้านมมากกวา่ สุกรท่ีมีการเล้ยี งอยเู่ ดิม พ.ศ. 2504 กรมปศุสตั ว์ให้นายอิสระ กรชี าพล เป็นเจา้ หน้าทจ่ี ัดซื้อสุกรพนั ธลุ์ าร์จไวทเ์ พม่ิ อกี จานวน 15 ตัว พ.ศ. 2505 กรมปศสุ ตั ว์ใหน้ ายสมจติ ร ยอดเศรณีและนายศริ ิพงษ์ สคุ นธสรรพ์ เป็นเจา้ หน้าท่จี ดั ซอื้ สุกรพันธุด์ ุรอคเจอรซ์ เ่ี พื่อเปล่ียนสายเลอื ดอีกจานวน 5 ตัว ต่อมามบี รษิ ทั เอกชนนาเขา้ สุกรอีกเป็นจานวนมาก จนกระท่งั ปจั จบุ ันสกุ รทีน่ าเขา้ ส่วนใหญ่มี 3 พนั ธ์ุ คอื พันธุล์ าร์จไวท์ แลนดเ์ รซ และดรู อค 1.3 ประเภทของการเลีย้ งสุกร การเลย้ี งสุกรในประเทศไทยขึ้นอยู่กับความพร้อมของผูเ้ ลย้ี งทงั้ ในดา้ นความรูฐ้ านะความเปน็ อยู่ และ อาชพี หลักของผู้เล้ียง การเล้ยี งสกุ รแบง่ เปน็ 3 ประเภท คอื ก. การเล้ียงสุกรเปน็ การเล้ียงสกุ รพนั ธจ์ุ าหนา่ ยเพื่อเป็นพ่อและแม่พนั ธุส์ กุ รท่ีเล้ยี งสว่ นใหญเ่ ปน็ พันธ์ุจาก ตา่ งประเทศ ได้แก่ พนั ธลุ์ าร์จไวท์ แลนด์เรซ และดูรอค ข. การเล้ยี งสกุ รขนุ เป็นการเลีย้ งสกุ รขนุ จาหน่ายเพ่อื ส่งโรงฆา่ สัตว์ สุกรที่เล้ยี งสว่ นใหญเ่ ปน็ สุกรลกู ผสม 2 หรือ 3 หรอื 4 สายพันธุ์ ค. การเล้ียงสกุ รแบบหลังบ้าน เป็นการเลี้ยงสกุ รเป็นงานอดิเรกหรืออาชีพรองผเู้ ล้ียงส่วนใหญม่ ีอาชีพ หลกั อยู่แลว้ แบง่ การเลี้ยงตามอาชพี หลักของผเู้ ลยี้ งได้ 3 ประเภท คอื 1. ผเู้ ลีย้ งเปน็ เจา้ ของโรงสีใช้ปลายข้าวและราข้าวเล้ยี งสกุ ร 2. ผเู้ ลย้ี งทาสวนผกั ใช้ผกั ท่ีไม่เหมาะสมแก่การบริโภคของมนุษยม์ าใหส้ ุกรกินและจะใช้มูลสกุ รทาปยุ๋ 3. ผู้เล้ียงทาไรห่ รอื ทานา เล้ียงสุกรไวห้ ลงั บ้าน อาหารท่ีใชเ้ ลย้ี งสุกรส่วนใหญเ่ ปน็ ราละเอียด ผกั ตบชวา ตน้ กล้วย กากมะพรา้ ว เป็นต้น 13

1.4 ความสาคัญของการเล้ียงสุกร สุกรเป็นสตั ว์เศรษฐกจิ ชนดิ หนง่ึ ท่สี าคัญ เน่อื งจาก 1. สกุ รสามารถเลี้ยงไดใ้ นจานวนนอ้ ยตวั เป็นฟาร์มเล็ก ๆ 2. การเลีย้ งสุกรตอ้ งการพืน้ ที่เพยี งเล็กนอ้ ย สามารถใช้พ้ืนทท่ี ่ไี มเ่ หมาะสมกับการทาการเกษตรอยา่ งอน่ื ให้เป็นประโยชน์ เชน่ พ้ืนที่ดนิ เลวไม่สามารถปลูกพืชได้ 3. การเลยี้ งสุกรใชแ้ รงงานน้อยและเลีย้ งง่าย 4. เลี้ยงผลหรอื ผลพลอยได้ทางการเกษตรหรืออตุ สาหกรรมสามารถนามาเป็นอาหารสกุ รได้ ทาให้ ประหยดั รายจ่าย เพม่ิ คุณค่า และทาใหร้ าคาสงู ขน้ึ 5. สกุ รใหล้ กู ดก ขยายพนั ธ์ุไดเ้ รว็ 6. เพม่ิ รายได้และทาใหเ้ ศรษฐกจิ ของครอบครวั ดีข้ึน สามารถใหพ้ ยงุ ฐานะเมื่อผลเล้ยี งอ่ืนตกต่าหรอื เสียหายจากภยั ธรรมชาติ 7. เป็นการใช้เวลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ เป็นการฝกึ หัดใหเ้ ยาวชนรจู้ กั การทางานและรักสตั วเ์ ลีย้ ง 8. ทาใหส้ มาชกิ ในครอบครวั ได้ออกกาลงั กายและมีสขุ ภาพอนามยั สมบรู ณ์ 9. มูลสกุ รใช้เป็นปุ๋ยอยา่ งดี ชว่ ยรกั ษาความอุดมสมบูรณ์ของดนิ ในการปลูกพชื หรอื ใช้เลี้ยงปลาชว่ ยลด ต้นทนุ การเลีย้ ง เชน่ มูลสกุ รใชเ้ ล้ยี งปลาดุก ปลาสวาย และปลานลิ เป็นต้น 10. การเลย้ี งสุกรให้ผลกาไรดี สามารถคนื ทุนไดภ้ ายในเวลา 6 เดือน 1.8 ปจั จัยท่ีทาให้การเลย้ี งสกุ ประสบความสาเร็จ ปจั จัยทีท่ าให้การเลี้ยงสุกรประสบความสาเรจ็ ประกอบดว้ ย 1. สุกรพนั ธดุ์ ี เป็นสุกรท่ไี ดร้ ับการคัดเลือกและผสมพันธุ์ให้มีการเจรญิ เตบิ โตสูงอัตราการเปลย่ี นอาหารดี และให้ผลเล้ยี งสูง 2. อาหารดี มีคุณค่าทางอาหารครบถว้ นทัง้ คุณภาพและปรมิ าณตามความต้องการของสกุ รในแตล่ ะ ระยะ 3. การจัดการดี ตัง้ แต่การวางผังฟาร์ม การก่อสรา้ งโรงเรือน การจดั การแบ่งพน้ื ทไี่ ด้อยา่ งเหมาะสม การจดั การวัตถุดิบและการให้อาหารดี การเล้ียงดูดี การสุขาภบิ าลดี และการตลาดดี 1.9 ปัญหาและการแก้ปญั หาในการเลี้ยงสุกร ปัญหาและการเล้ียงสกุ รในประเทศไทย นับวา่ เป็นปัญหาระดับชาติ ซ่ึงเกิดขึน้ โดยตลอด แมร้ ฐั บาลจะ สนับสนนุ ใหม้ สี หกรณผ์ ู้เลย้ี งสกุ รข้นึ ตามอาเภอหรือจังหวัดก็ยงั มปี ญั หา การดาเนินงานของสหกรณ์ประสบ ความสาเรจ็ เพยี งไม่กีแ่ หง่ เนื่องจากเกษตรกรยงั ขาดความรู้ และความเขา้ ใจระบบสหกรณ์ จงึ ทาใหเ้ กดิ ปัญหา ต่าง ๆ ดังน้ี 1. ปญั หาดา้ นการตลาด การตลาดสุกรสว่ นใหญ่ตกอยู่ในมือของพ่อคา้ คนกลาง จงึ ทาให้ผู้เลี้ยงไมม่ ีโอกาสได้กาหนดราคาสกุ รมี ชวี ิตได้เอง แมว้ า่ จะมรี ะบบสหกรณ์แตย่ ังไม่สามารถทางานใหไ้ ด้ผลดี จงึ ทาให้เกดิ ความไมส่ มดลุ กนั ระหว่างราคา สกุ รเปน็ และสกุ รชาแหละ 14

การแกป้ ญั หาดา้ นการตลาด ส่งเสริมการเลี้ยงสกุ รในรูปองคก์ ร เชน่ สหกรณ์ ชมรม และกลมุ่ เกษตรกรโดยรัฐบาลควรเข้าไปให้ ความรู้และกระตุ้นให้ผู้เล้ียงสกุ รเห็นความสาคัญของการรวมกล่มุ เพื่อให้มีอานาจในการต่อรองราคาขาย และ กาหนดปรมิ าณการเลย้ี งใหส้ อดคลอ้ งกบั ความต้องการของตลาดภายในประเทศและสง่ ออก 2. ปัญหาดา้ นการจดั การ 2.1 เกษตรกรผู้เล้ยี งขาดความรู้ความชานาญในการเล้ียงสุกร จึงทาให้สกุ รที่เลยี้ งออกมานนั้ มตี ้นทนุ ในการเลย้ี งสูง 2.2 เกษตรกรมกั ขาดทุนทรัพย์ต้องกู้ยืมเงนิ นอกระบบ ซง่ึ มีอัตราดอกเบ้ียสูงมาใชใ้ นการเลี้ยงสุกร จึงทาใหค้ า่ ใช้จ่ายสงู ข้นึ 2.3 เกษตรกรรายย่อยมีโรงเรอื นท่ีไมเ่ หมาะสมในการเล้ยี งสกุ ร จึงทาใหเ้ กิดความเส่ียงในเร่อื งโรค และพยาธิ 2.4 การจัดซอ้ื วัตถุดิบในการนามาผสมอาหารต้องผ่านพอ่ ค้าคนกลาง จงึ ทาให้มรี าคาแพงและมี ปัญหาเรอื่ งสิง่ ปลอมปน ตลอดจนการซอื้ ในระบบเงนิ เชอ่ื ทาใหร้ าคาแพงขึ้นอีก เนอื่ งจากพ่อค้าจะบวกดอกเบยี้ เขา้ ไปดว้ ย การแก้ปญั หาด้านการจดั การ 1. การให้ความรู้แก่เกษตรกร ควรจะเปน็ การร่วมมือกนั ระหว่างภาครัฐบาล และเอกชน และความ กระตือรอื ร้นของเกษตรกรเอง เพ่อื ใหป้ ระสบผลสาเรจ็ ในการนาความรู้มาใช้ในการประกอบอาชพี การเลยี้ งสกุ ร ตอ่ ไป 2. รัฐบาลควรจดั ใหม้ แี หล่งสนิ เชือ่ แกเ่ กษตรกรผเู้ ลี้ยงสุกร โดยปล่อยสินเชอ่ื ในอตั ราดอกเบยี้ ต่าและ ระยะยาว 3. เกษตรกรควรศึกษาหาความรูใ้ นเรื่องการจัดการ ตง้ั แต่การสรา้ งโรงเรือนให้ถกู สุขลักษณะ การ จัดการการกับสกุ รในระยะต่าง ๆ การให้อาหาร และการปอู งกันโรค เปน็ ตน้ 4. เกษตรกรควรจดั ซ้ือวตั ถดุ ิบโดยตรงจากแหล่งเลีย้ ง และควรรวมกันเปน็ กลมุ่ ในการจัดซ้อื วัตถุดบิ เพื่อจะไดว้ ัตถดุ บิ ท่ีมคี ุณภาพดี ไมม่ สี ิ่งปลอมปน และราคาถกู มาใช้ในการเล้ยี งอาหารท่ีดีมคี ุณภาพให้แกส่ กุ ร 3. ปัญหาดา้ นพันธส์ุ กุ รที่นามาเลย้ี ง เกษตรกรมพี นั ธสุ์ ุกรคุณภาพต่า โดยเฉพาะเกษตรกรรายยอ่ ยไมส่ ามารถเลี้ยงลูกสุกรขึน้ มาเลยี้ งเอง จาเปน็ ต้องซื้อจากผู้เลยี้ งอน่ื ถา้ ซอ้ื สุกรคณุ ภาพดีกจ็ ะมรี าคาแพงมาก จึงทาให้เกษตรกรผ้ขู าดความร้เู ลอื กซื้อสุกร ราคาถกู มาเล้ียง ทาให้การเจริญเติบโตช้าและมปี ระสทิ ธภิ าพการใชอ้ าหารไม่ดี การแกป้ ัญหาด้านพันธส์ุ กุ ร 1. เกษตรกรควรศึกษาหาแหลง่ พันธุ์สกุ รทด่ี มี าเลีย้ ง 2. ควรพัฒนาพันธ์สุ ุกรใหม้ ปี ริมาณมากพอกับความต้องการภายในประเทศ โดยความรว่ มมอื กันระหวา่ ง มหาวิทยาลยั ตา่ ง ๆ ศนู ย์วิจัยปรบั ปรงุ พนั ธ์สุ กุ ร กองบารุงพันธ์สุ ัตว์ และบริษัทเอกชน ทาการวจิ ัยปรับปรงุ พันธุ์ และเพ่ิมผลเลีย้ งปูอนให้เกษตรกรเพ่ือลดปริมาณการนาเข้าสุกรพ่อแม่พันธุจ์ ากตา่ งประเทศ 15

4. ปญั หาด้านอาหาร ตน้ ทนุ การเล้ียงสกุ รส่วนใหญเ่ ปน็ คา่ อาหาร 70-75 เปอรเ์ ซ็นต์ ทาให้เกดิ ปญั หาดังนี้ 4.1 เกษตรกรไม่มีความรู้เรื่องอาหารและความต้องการอาหารของสุกร จึงไม่สามารถทีจ่ ะเลอื ก ได้ว่าอะไรเป็นอาหารที่ดีและราคาถูกสาหรบั สกุ ร 4.2 เกษตรกรใชว้ ัตถดุ ิบทมี่ ีคุณภาพตา่ ในการเลย้ี งสกุ ร จึงทาใหไ้ ดส้ ุกรคณุ ภาพต่าและใช้เวลา เล้ียงนาน การแกป้ ัญหาดา้ นอาหาร 1. รฐั บาลควรจัดใหม้ ีการอบรมเกย่ี วกับเรื่องอาหารแกเ่ กษตรกร เพ่อื ให้เกษตรกรสามารถเลอื กซ้ือ วตั ถดุ ิบที่มีคุณภาพดีมาเล้ียงอาหาร ทราบข้นั ตอนในการผสมอาหารและให้อาหารแกส่ ุกรในระยะต่าง ๆ อยา่ ง ถูกต้อง และหม่ันไปตรวจเยย่ี มใหค้ าแนะนาแก่เกษตรกรผ้เู ลี้ยงสกุ รอย่เู สมอ 2. รัฐบาลควรส่งเสริมให้มกี ารเลี้ยงวตั ถดุ บิ อาหารสัตว์ เช่น ถว่ั เหลือง ปลาปุน เปน็ ตน้ ใหเ้ พยี งพอกับ ความต้องการเลีย้ งอาหารสัตว์ และทาการศกึ ษาวจิ ยั หาแหล่งวตั ถุดบิ อาหารสัตวช์ นิดอ่นื ท่มี ีคณุ ภาพดมี าทดแทน วัตถุดิบท่ีขาดแคลน เพ่ือลดต้นทุนในการเลย้ี งและไม่ต้องนาเขา้ จากต่างประเทศ 5. ปญั หาดา้ นโรคและพยาธิ เกษตรกรไม่ค่อยมคี วามรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั การสุขาภิบาล การปอู งกนั โรคและพยาธิทีเ่ ป็นอันตราย ตอ่ สกุ ร จงึ ทาให้เกิดโรคระบาดและพยาธทิ ส่ี าคญั มาทาอนั ตรายตอ่ สกุ รอย่เู สมอ ซึง่ เป็นการทาลายเศรษฐกจิ ของ ประเทศอย่างมาก การแกป้ ัญหาดา้ นโรคและพยาธิ 1. เกษตรกรควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการสขุ าภบิ าลและการปูองกนั โรคเพ่ือจะไดเ้ ตรยี มปอู งกนั โรค และพยาธติ า่ ง ๆ ทจี่ ะเกดิ ข้นึ 2. รัฐบาลควรณรงคใ์ นการปูองกันและกาจดั โรคสุกรอย่างจริงจัง และประชาสัมพันธเ์ กี่ยวกบั การควบคุม โรคและพยาธิให้แก่ผเู้ ลย้ี งสกุ รทราบอยา่ งทว่ั ถงึ 3. สร้างโรงฆ่าสกุ รทีไ่ ด้มาตรฐานและกวนขันในดา้ นการตรวจซาก 1.10 ปัญหาและการแก้ไขในการสง่ ออกสุกร ปญั หาและการแก้ไขการสง่ ออกสุกร มีดังน้ี 1. ปญั หาโรคระบาดในสุกร ปญั หาโรคระบาดในสกุ ร ได้แก่ โรคปากและเทา้ เปื่อย โรคอหวิ าตส์ ุกร เปน็ ต้น โรคระบาดท่สี าคัญ ที่ทาความเสียหายแก่ธรุ กจิ การเล้ยี งสุกรและเป็นอปุ สรรค ต่อการพัฒนาการเล้ยี ง การตลาด และการสง่ ออกสกุ ร และเลย้ี งภณั ฑ์ไปจาหนา่ ยต่างประเทศคือ โรคปากและเท้าเปอ่ื ย ซึ่งเกิดจากการเลยี้ งสกุ รแบบล้าหลังขาดการ ควบคมุ ปูองกันโรค 16

การแก้ปัญหาโรคระบาดในสกุ ร 1. ระยะส้ันรัฐบาลควรลดภาษเี วชภัณฑส์ ัตว์ โดยเฉพาะวัคซนี ปอู งกันและยารักษาโรคสัตว์ ระยะยาวควร สง่ เสริมให้เอกชนสรา้ งโรงงานเลย้ี งวัคซีนปูองกนั และรักษาโรคสตั ว์ราคาถกู เพือ่ สามารถเลย้ี งวคั ซนี ไดเ้ พียงพอ สาหรบั ประเทศไทย เชน่ วคั ซนี ปอู งกันโรคปากเท้าเปือ่ ย 2. กาจัดโรคปากเทา้ เปื่อยให้หมดจากประเทศไทย 2. ปญั หาวฏั จักรสกุ ร ปัญหาวฎั จักรหรอื ปัญหาปริมาณการเลยี้ งสุกรไม่แนน่ อน เกดิ จากสาเหตุ 1) คุณลกั ษณะของ สุกรเอง ซ่ึงมีการเจรญิ เติบโตข้นึ อยู่กับการเลย้ี งและฤดูกาลเปน็ สาคัญ ถา้ อากาศร้อนจะเจรญิ เติบโตช้า เพราะกนิ อาหารน้อยลง อตั ราการเปลี่ยนอาหารเลวลง และอัตราการตายสูง 2) ราคาสุกรมชี ีวติ เกษตรกรผเู้ ล้ียงอาศัย ราคาสกุ รในตลาดท่ผี า่ นมาเป็นตวั กาหนดและตัดสนิ ใจท่ีจะเพม่ิ หรือลดขนาดการเลีย้ ง โดยเขา้ มาเลยี้ งสุกรและ ขยายการเลีย้ งสุกรเมอื่ ราคาสุกรในตลาดสูง และลดการเลี้ยงหรอื หยุดการเลี้ยงเมื่อราคาสกุ รในตลาดตกต่า ทาให้ ปริมาณสกุ รในตลาดมปี ริมาณไม่แนน่ อน และไม่สามารถวางแผนการเล้ยี งได้สอดคลอ้ งกับปรมิ าณความต้องการ บรโิ ภคในตลาดได้ จงึ ส่งผลให้ผู้เลยี้ งและผบู้ รโิ ภคได้รับความเดอื นร้อน การแก้ปญั หาวัฎจกั รสุกร รฐั บาลควรให้ข่าวสารแกเ่ กษตรกรอยา่ งสมา่ เสมอ เพ่ือชว่ ยให้วางแผนการเลยี้ งไดอ้ ยา่ งถูกต้อง และอาจ เสริมดว้ ยมาตรการประกันราคาสกุ รขน้ั ตา่ ใหแ้ กผ่ ู้ทจ่ี ดทะเบียนกับกลุ่มผเู้ ลี้ยงสกุ รเพื่อให้ทราบปริมาณการเลยี้ งสุกร 3. ปญั หาต้นทนุ การเลี้ยงสูง การขยายตัวของการเลีย้ งปศุสัตว์และสัตวน์ ้ามีมากข้ึน ความต้องการใชอ้ าหารสัตวจ์ งึ มีมากข้ึน แต่ วัตถุดบิ ทางการเกษตรทนี่ ามาใช้เล้ียงอาหารสตั ว์มจี านวนไม่เพียงพอ ทาใหร้ าคาวัตถุดิบอาหารสตั ว์สูงขน้ึ และต้อง สง่ั ซอ้ื วัตถดุ ิบจากตา่ งประเทศเขา้ มาต้นทุนค่าอาหารสัตว์จึงสูง การแกป้ ญั หาตน้ ทุนการเล้ียงสงู รัฐบาลควรเรง่ ส่งเสริมเกษตรกรให้มีการเลยี้ งวัตถุดบิ อาหารสัตว์อย่างมปี ระสิทธภิ าพ รวมถงึ การวิจยั เทคโนโลยีการเลย้ี งอาหารสตั ว์ด้วยวิธกี ารใหม่ ๆ 4. ปญั หาการขาดแคลนโรงฆ่าและชาแหละสุกรทีไ่ ด้มาตรฐาน โรงฆ่าและชาแหละสุกรท่ไี ด้มาตรฐานและทันสมยั ยังมไี มท่ ั่วถึง จึงมกี ารลักลอบทาการฆ่าและชาแหละ สกุ รในโรงฆา่ สตั ว์เถื่อนโดยไม่ได้มาตรฐาน ทาให้ไดเ้ นื้อสุกรคุณภาพไมด่ ี การแกป้ ัญหาการขาดแคลนโรงฆา่ และชาแหละสกุ รที่ไดม้ าตรฐาน 4.1 พฒั นาโรงชาแหละของรัฐบาลทีเ่ ก่าและล้าสมัยใหไ้ ด้มาตรฐานสากล 4.2 สง่ เสรมิ สนบั สนุนโรงฆา่ สัตว์เถอื่ นใหม้ ีการปรับปรงุ ให้ไดม้ าตรฐาน 4.3 ลดอัตราภาษี คา่ อาชญาบตั ร และค่าธรรมเนยี ม เพ่ือให้การชาแหละมีตน้ ทนุ ตา่ รวมทง้ั เร่งรัดการ ออกประกาศกระทรวงวา่ ดว้ ยระเบยี บการอนญุ าตตง้ั โรงฆ่าสตั ว์ เพอ่ื ใหภ้ าคเอกชนมีความม่นั ใจในการลงทนุ สรา้ ง โรงฆ่าสัตว์ที่ไดม้ าตรฐาน 17

5. ปญั หาสารตกค้างในเนื้อสุกร การใช้สารเรง่ เน้ือแดง (สารเบต้าอะโกนิสต์) เชน่ เคลนบเู ทรอลและซัลบูตามอล เปน็ สารปรับซากผสม ในอาหารสุกร ทาใหส้ ารตกค้างอยู่ในเน้ือสุกร ซง่ึ เปน็ อตั รายตอ่ ผูบ้ รโิ ภคหากไดร้ ับสารตกค้างปริมาณมากอาจเกดิ อาการหวั ใจเตน้ ผิดปกติ นอนไมห่ ลบั คลนื่ ไสอ้ าเจียน และมปี ญั หาในการส่งออกสุกร การแกป้ ัญหาสารตกคา้ งในเนอื้ สกุ ร รฐั บาลควรเขม้ งวดในการตรวจการใช้สารเคมีกับสุกรอย่างจริงจัง รวมทัง้ ปูองกนั และปราบปรามการ ลกั ลอบนาเข้าอยา่ งต่อเนื่อง 18

แบบทดสอบหลงั เรยี น 1.ประเทศใดเลย้ี งสกุ รมากท่ีสดุ ในโลก…………………… 2.สกุ รสายพนั ธ์ใดท่พี ระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยู่หวั ทรงพระราชทานใหเ้ ลย้ี ง ......................... 3.ในการเลีย้ งสกุ รเพอื่ การเล้ียงสุกรพันธจุ์ าหนา่ ยเพ่ือเป็นพ่อและแม่พนั ธ์ุสุกรทเ่ี ลีย้ งส่วนใหญ่เปน็ พันธุ์ จากตา่ งประเทศคอื สายพันธใุ์ ด....................................................... 4.ความสาคญั ของการเลย้ี งสกุ รมอี ะไรบ้างจงอธบิ ายพอสงั เขป…………………………………….. 5.ปจั จยั ท่ที าใหก้ ารเล้ียงสุกรประสบความสาเรจ็ ประกอบดว้ ยอะไรบ้าง .................................................. 19

เฉลย 1.ประเทศใดเลี้ยงสุกรมากทสี่ ุดในโลก………จนี …………… 2.สกุ รสายพันธ์ใดที่พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อยู่หัวทรงพระราชทานให้เล้ยี ง ....พนั ธล์ุ าร์จแบลค็ (Large black) และพันธุ์เอสเสค (Essex)................... 3.ในการเลี้ยงสุกรเพอ่ื การเล้ียงสกุ รพันธุ์จาหน่ายเพือ่ เปน็ พ่อและแมพ่ ันธส์ุ กุ รท่ีเลี้ยงสว่ นใหญเ่ ปน็ พนั ธจ์ุ าก ต่างประเทศคือสายพันธุ์ใด .........พันธลุ์ ารจ์ ไวท์ แลนด์เรซ และดูรอค.............................................. 4.ความสาคัญของการเลีย้ งสุกรมอี ะไรบา้ งจงอธิบายพอสังเขป 1. สุกรสามารถเลย้ี งไดใ้ นจานวนน้อยตวั เป็นฟารม์ เลก็ ๆ 2. การเล้ยี งสกุ รตอ้ งการพืน้ ท่ีเพยี งเล็กนอ้ ย สามารถใช้พ้ืนทีท่ ่ีไม่เหมาะสมกบั การทาการเกษตร อยา่ งอ่ืนใหเ้ ป็นประโยชน์ เชน่ พน้ื ทีด่ นิ เลวไมส่ ามารถปลูกพชื ได้ 3. การเลีย้ งสุกรใช้แรงงานน้อยและเลี้ยงงา่ ย 4. เลีย้ งผลหรอื ผลพลอยได้ทางการเกษตรหรืออุตสาหกรรมสามารถนามาเปน็ อาหารสกุ รได้ ทา ใหป้ ระหยัดรายจา่ ย เพ่ิมคณุ ค่า และทาให้ราคาสูงข้นึ 5. สกุ รใหล้ ูกดก ขยายพนั ธไ์ุ ด้เร็ว 6. เพ่มิ รายไดแ้ ละทาให้เศรษฐกจิ ของครอบครวั ดขี ้ึน สามารถให้พยงุ ฐานะเมื่อผลเลี้ยงอ่ืนตกตา่ หรอื เสียหายจากภยั ธรรมชาติ 7. เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เปน็ การฝึกหดั ใหเ้ ยาวชนรจู้ ักการทางานและรักสตั ว์ เล้ียง 8. ทาใหส้ มาชกิ ในครอบครวั ไดอ้ อกกาลงั กายและมีสขุ ภาพอนามยั สมบรู ณ์ 9. มูลสกุ รใชเ้ ป็นปยุ๋ อย่างดี ชว่ ยรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดนิ ในการปลกู พืชหรือใชเ้ ล้ียงปลา ชว่ ยลดต้นทุนการเลีย้ ง เช่น มลู สกุ รใช้เล้ียงปลาดุก ปลาสวาย และปลานลิ เป็นตน้ 10. การเล้ยี งสุกรใหผ้ ลกาไรดี สามารถคืนทนุ ไดภ้ ายในเวลา 6 เดอื น 5.ปจั จัยทท่ี าใหก้ ารเลยี้ งสุกรประสบความสาเร็จ ประกอบดว้ ยอะไรบ้าง 1. สุกรพันธ์ุดี เป็นสกุ รท่ไี ดร้ ับการคัดเลือกและผสมพันธใุ์ หม้ กี ารเจรญิ เตบิ โตสงู อตั ราการ เปลีย่ นอาหารดี และให้ผลเลี้ยงสงู 2. อาหารดี มคี ณุ คา่ ทางอาหารครบถว้ นทงั้ คุณภาพและปรมิ าณตามความต้องการของสุกรใน แตล่ ะระยะ 3. การจดั การดี ต้งั แต่การวางผังฟารม์ การก่อสรา้ งโรงเรอื น การจดั การแบง่ พืน้ ทไ่ี ด้อย่าง เหมาะสม การจดั การวัตถดุ ิบและการให้อาหารดี การเลี้ยงดดู ี การสุขาภบิ าลดี และการตลาดดี 20

การวดั ผล/ประเมนิ ผล 1.วดั จากการทดสอบทา้ ยบทเรียน 2.สงั เกตพฤติกรรมของผูเ้ รียน มีการซกั ถามความเขา้ ใจเบ้ืองตน้ มีการสังเกตความในใจ กระตือรือร้นของผูเ้ รียน เกณฑ์การประเมินจากแบบทดสอบท้ายบท - ความรู้ความจาและนาไปใช(้ คะแนนทดสอบหลงั เรียนหน่วยท1ี่ ) 1 = บอกความสาคญั เบ้ืองตน้ เบ้ืองตน้ เก่ียวการเล้ียงสุกรได้ 2 = บอกความสาคญั ในสายพนั ธุ์สุกรตา่ งๆในประเทศไทยไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 3 = บอกความสาคญั ของปัจจยั ในการเล้ียงสุกรได้ 4 = สามารถวเิ คราะห์ปัญหาในการเล้ียงสุกรเบ้ืองตน้ ได้ หมายเหตุ 1, 2, 3, 4, = คะแนน 21

22

23

24