ประเพณีีวััฒธรรมไทย 4ภาค
ประàพณีีตักับาตร ดอกäม้ 1 ภาคกลาง ประเพณีีตัักบาตรดอกไมเป นประเพณีีสํําคััญท่ี่อยููคููก ัับวััดพระพุุทธบาท ราชวรมหาวิิหารมาชานาน พ่ี่นองประชาชนชาวพระพุุทธบาทและใกล เคีียง จะถืือเอาวัันเขาพรรษาของทุุกป ( ตรงกัับแรม 1 ค่ํ่า เดืือน 8) เปนว ัันตัักบาตรดอกไม และต้ั้งแตป 2544 เปนต นมา จัังหวััดสระบุุรีี ไดเพ่ิ่มจํํานวนวัันตัักบาตรดอกไม จาก 1 วััน เปน 3 วััน มีีพิิธีีตัักบาตร ดอกไมวัันละ 2 รอบ คืือ รอบเชาเ วลา 10.00 น. รอบบาย เวลา 15.00 น. ปน้ี้ประเพณีีตัักบาตรดอกไมตร งกัับวัันท่ี่ 20-22 กรกฎาคม 2548
2 ประàพณีีรับบัว ประเพณีีรัับบััว หรืือโยนบััว เปนประเพณีีเกาแ ก ท่ี่สืืบทอดกัันมานาน โดยท่ี่ในปน้ี้ม ีีชาวบานและนัักทอง เท่ี่ยวมากกวาท ุุกปท่ี่ผาน มา โดยการ โยนดอกบััวลงไปในเรืือท่ี่องคหล วงพอโ ตประดิิษฐานอยูู มีีความเช่ื่อกััน วาห ากสามารถโยนดอกบััวลงไปในเรืือท่ี่องคหลวงพอโตประดิิษฐานอ ยูู แลว อธิิษฐานส่ิ่งใดไวก็็จะประสบความสํําเร็็จดัังหวััง สํําหรัับงาน ประเพณีีรัั บ บััว กํํา หนดจััด ข้ึ้น ทุุก ปใ นชว งวััน ออกพรรษา
3 พิิธีี ทําํขวัญัข้้าว พิิธีีทํําขวััญขาว เปนพ ิิธีีกรรมท่ี่ส่ื่อความหมายใหเห ็็น คุุณลัักษณะของ คนไทย ท่ี่มีีความออน โยน ละเอีียดออน ออน นอม ถอมตนตอผ ููมีีพ ระคุุณ และหาโอกาสท่ี่จะแสดงออกถึึงความ สํํานึึกกัับผููท่ี่ม ีีพระคุุณ เพราะ ชาวนาเช่ื่อวาผลผลิิตท่ี่ไดรัับน้ั้น นอกจากแรงงานและความเพีียรของ ตนเองแลว สวน หน่ึ่งเกิิด จากการดลบัันดาลและการดููแลของแมโพ สพ ดวย
4 ตักบาตรàทâว ตัักบาตรเทโว หมายถึึง การทํําบุุญตัักบาตรในวัันท่ี่พระพุุทธเจาเสด็็จลง จากเทวโลกใน วัันมหาปวารณา คืือ วัันข้ึ้น 15 ค่ํ่า เดืือน 11 หรืือ วััน ออกพรรษา คํําวา \"เทโว\" เรีียกมาจากคํําวา เทโวโรหณะ (เทว+โอ โรหณ) ซ่ึ่งแปลวา การลงจากเทวโลก
\"กำฟ้้ า\" 5 \"กํําฟา\" เปนประเพณีีของชาวไทยพวนในจัังหวััดตาง ท่ี่มีีชาวพวนอาศััยอยููไดยึึด ถืือปฏิิบััติิตอกัันมา ต้ั้ง แตค ร้ั้ง โบราณ “กํํา” ในภาษาไทยพวน หมายถึึง การนัับถืือและสัักการะบููชา ดัังน้ั้น กํําฟา จึึงหมายถึึง ประเพณีีนัับถืือ สัักการะบููชาฟา เน่ื่องจากชาวพวนเปนก ลุุมช นท่ี่ประกอบอาชีีพทางการเกษตร โดย เฉพาะการทํํานา ในสมััยด้ั้งเดิิมการทํํานาตอง อาศััยน้ํ้าฝนจากธรรมชาติิ ชาวนาในสมััยน้ั้นจึึงมีีการเกรง กลััวฟาม าก ไมกลาท่ี่จะทํําอะไรใหฟาพิิโรธ ถาฟาพ ิิโรธยอมหมายถึึง ความแหงแ ลง อดยาก หรืือฟา อาจผาคนตาย ประชาชนกลััวจะไดรัับ ความทุุกขยา กอัันเปนภ ััยจากฟา จึึงมีีการเซนสรวง สัักการะบููชา ผีีฟา ท้ั้งน้ี้ เพ่ื่อเปนก ารเอาใจ มิิใหฟาพิิโรธ หรืืออีีกนััยหน่ึ่ง ชาวบานท่ี่ประกอบอาชีีพทางดาน เกษตรกรรมน้ั้น รููสึึกสํํานึึกในบุุญคุุณของผีีฟาท่ี่ไดใหน้ํ้า ฝน อัันหมายถึึงความชุุมช้ื้น ความอุุดมสมบููรณ มีีชีีวิิตของคน สััตว และพืืชพรรณตาง ๆ จึึงไดเก ิิดประเพณีีกํําฟาข้ึ้น เพ่ื่อเปนก ารประจบผีีฟาไ มใหพิิโ รธ
6 ประàพณีีอุุ้้ มพระดําน้ำ ภาคเหนือ ประเพณีีอุุมพ ระดํําน้ํ้า เปนป ระเพณีีท่ี่ชาวจัังหวััดเพชรบููรณ ไ ดรวม มืือกัันจััดข้ึ้นในวัันแรมสิิบหาค่ํ่า เดืือนสิิบ ซ่ึ่งประวััติิความเปนมาของประเพณีีอุุมพระดํําน้ํ้าก็็คืือ เม่ื่อประมาณ 400 ปท่ี่ผ านมามีีชาว บาน กลุุมห น่ึ่งมีีอาชีีพหาปลาขาย และไดไปหาปลาท่ี่แมน้ํ้า ปาสัักเปนประจํําทุุกวััน อยููมา วัันหน่ึ่งก็็ได เกิิดเร่ื่องท่ี่ไมมีีใ ครใหคํําตอบไดวา เกิิดอะไรข้ึ้นเพราะวัันน้ั้น ไมมีีใครจัับปลาไดสัักตััว จากน้ั้นก็็เกิิด เหตุุการณปร ะหลาดข้ึ้นตรงบริิเวณ วัังมะขามแฟบ (ไมระกํํา) ซ่ึ่งปกติิบริิเวณน้ี้น้ํ้าจะไหลเช่ี่ยวมาก จูู ๆ น้ํ้าก็็หยุุดไหล และมีีพรายน้ํ้าผุุดข้ึ้นมาพรอมกัับพระพุุทธรููป ชาวบานจึึงอััญเชิิญพระพุุทธรููปองคดััง กลาว ข้ึ้นจากน้ํ้าและนํําไปประดิิษฐานไวท่ี่วััดไตรภููมิิ เปนพ ระพุุทธรููปคููบา น คููเมืืองของจัังหวััด เพชรบููรณ
7 ประàพณีีการฟ้้ อนผีีปูู่่ ย่่า ประเพณีีการฟอน ผีีปููยา หรืืออีีกนััยหน่ึ่งคืือการเล้ี้ยงผีีบรรพบุุรุุษ โดยมีีดนตรีีมาประโคมใหผีีห รืือเจาไ ด ฟอน รํําของชาวลํําปาง ซ่ึ่งมีีท้ั้งผีีมด ผีีเม็็ง โดยมีีชวง เวลาในการประกอบพิิธีีกรรมต้ั้งแตเด ืือน ๕ เหนืือ (เดืือน ๓) หรืือประมาณเดืือนกุุมภาพัันธ ไ ปจนถึึงยาง เขาฤ ดููฝนน้ั้น เปนศ าสนาเช่ื่อของชาวลํําปาง อยางหน่ึ่งท่ี่มีีลัักษณะเฉพาะตน นอกจากจะเปนประเพณีีท่ี่แปลกแลวพ ิิธีีกรรมความเช่ื่อแบบน้ี้ สามารถ กลาวไดวา มีีแพรหลายชุุกชุุมจนนัับเปนเอกลัักษณอยางหน่ึ่งของชาวลํําปางก็็วาได ยัังไมทราบวา ประเพณีีฟอน ผีีมีีความเปนม าต้ั้งแตยุุคใด สัันนิิษฐานจากพฤติิกรรมตลอดจน พิิธีีกรรมอัันเปนภ าพรวมของประเพณีี น้ี้แลว พอเปนเ คาไ ดวา เปนประเพณีีท่ี่มาจาก ศาสนาความเช่ื่อแบบด้ั้งเดิิม กอนท่ี่พุุทธศาสนาจะเผยแพรเขาม าในดิินแดนในแถบน้ี้
ประàพณีีความàชื่อ การ 8 ปลููกàรือนãนล้้านนา ประเพณีีความเช่ื่อการปลููกเรืือนในลานนา ชาวลาน นาโบราณจะใหคว ามสํําคััญกัับการ เลืือกบริิเวณท่ี่ดิิน การเลืือกไมทํํา เสาเรืือน การหาฤกษยา มในการลงเสาเอกหรืือเสามงคล การขุุดหลุุมเสาซ่ึ่งมีีหลายรููปแบบ ทุุกข้ั้นตอนมีีตํําราท่ี่คนลาน นาสมััยโบราณไดต้ั้ง กฎเกณฑ และบัันทึึกไวใน ใบลานและพัับสา ส่ิ่งเหลาน้ี้มีีสวนสััมพัันธกัับความเช่ื่อท่ี่วาหากทํําใหถููก ตอง
9 ประàพณีียี่àป็็ ง ประเพณีีย่ี่เปง เปนป ระเพณีีของชาวลาน นา จะจััดข้ึ้นอยาง ย่ิ่งใหญทุุก ๆ ปท่ี่จัังหวััด เชีียงใหม ท่ี่มาของช่ื่อมาจากภาษาลาน นา โดยคํําวา “ย่ี่” หมายถึึง เดืือนท่ี่สองของคนลาน นา สวน คํําวา “เปง” หมายถึึง พระจัันทรใน คืืนวัันเพ็็ญ เน่ื่องจากประเพณีีน้ี้จะจััดข้ึ้นในวััน เพ็็ญเดืือนสองของชาวลาน นา ซ่ึ่งตรงกัับเดืือนสิิบสองตามปฏิิทิินจัันทรคติิไทย กิิจกรรมท่ี่ จะมีีข้ึ้นในชวงประเพณีีตลอด 4 วััน มีีดวย กัันหลากหลาย เชน การแสดงประติิมากรรมโคม ไฟสีีสัันย่ี่เปง การประกวดหนููนอยย่ี่เปง พิิธีีบวงสรวงขอขมาแมน้ํ้า ปง การเขาว ััดทํําบุุญ เปน ตน
10 ประàพณีี ผีี ตาâขน มีีความเช่ื่ออีีกวา ประเพณีีผีีตาโขน เปนการละเลนเพ่ื่อบวงสรวงบููชาดวงวิิญญาณบรรพ ชนท่ี่เสีียชีีวิิตไปแลว ซ่ึ่งจะกลายเปนส่ิ่งศัักด์ิ์สิิทธ์ิ์คุุมค รองบานเมืือง ดลบัันดาลใหเกิิดความ อุุดมสมบููรณ หรืือความหายนะก็็ได ดัังน้ั้นเพ่ื่อใหดว งวิิญญาณบรรพชนพอใจ ชาวบาน จึึง จััด ใหมีี ก ารละเลน ผีีต าโขนข้ึ้น
การก่่อพระàจดีย์ทราย 11 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การกอพ ระเจดีียทรายเปนประเพณีีท่ี่ชาวไผดํํา อํําเภอบางน้ํ้าเปร้ี้ยว ไดกร ะทํําสืืบทอดกััน มาแตอด ีีตกาล วััตถุุประสงคเพ่ื่อนํําเอาทรายมาใชทํําสาธารณประโยชนในวััด สวน การกอ พระทรายขาว เปลืือก เปนการทํําบุุญอยาง หน่ึ่งของชาวไผดํํา ท่ี่นํําเอาผลผลิิตจากอาชีีพ การทํํานา คืือ ขาว เปลืือก มากอเ ปนเ จดีียแท นทราย
12 ประàพณีีตีีช้้ างนา นอง ประเพณีีตีีชางน้ํ้านอง ในงานแขงเรืือประเพณีีออกพรรษาของ จัังหวััดมุุกดาหาร เปนพ ิิธีีท่ี่ถืือปฏิิบััติิสืืบตอก ัันมาเปนเ วลาชานาน โดยเรืือท่ี่เขาแ ขงขัันจะไปรวมตััวกััน ณ จุุดปลอยตััวกลางลํําน้ํ้าโขง เพ่ื่อเดิินขบวนตามเรืืออััญเชิิญถวย พระราชทาน โดยทุุกฝพายจะโห รอง ตีีกลองใหจัังหวะพายเสีียงดััง ประกอบกัับภาพการจวง -ยกไม พายจนน้ํ ้าแตกกระเซ็็น
13 บุุญบัง้äฟ บุุญบ้ั้งไฟ เปนประเพณีีหน่ึ่งของภาคอีีสานของประเทศไทย ตลอด จนประเทศลาว โดยมีีท่ี่มาจากนิิทานพ้ื้นบาน เร่ื่องพญาคัันคาก เร่ื่อง ผาแดงนางไอ ซ่ึ่งในนิิทานพ้ื้นบานดัังกลาวไดกล าวถึึง การท่ี่ชาว บาน ไดจััด งานบุุญบ้ั้งไฟข้ึ้นเพ่ื่อเปนก ารบููชา พญาแถน หรืือเทพวััส สกาลเทพบุุตร ซ่ึ่ง ชาวบานมีีความเช่ื่อวา พระยาแถนมีีหนาท่ี่คอย ดููแ ลใหฝ นตกถููก ตอ งตามฤดููก าล
14 งานประàพณีีáห่่ àทียีน พรรษา งานประเพณีีแหเท ีียนพรรษา ประเพณีีแหงเ ทีียนพรรษาน้ั้น เน่ื่องจากสมััยกอน พระภิิกษุุสงฆไมมีี ไฟฟาใช ชาวบานจึึงหลอเ ทีียนตนใหญข้ึ้น เพ่ื่อถวายพระภิิกษุุสงฆ จุุดใหแส งสวางในการปฏิิบััติิกิิจวััตรตาง ๆ เปนพ ุุทธบููชาตลอดเวลา 3 เดืือน การนํําเทีียนไปถวายชาวบานมัักจััดขบวนแหกัันอยาง เอิิกเกริิกสนุุกสนานและปฏิิบััติิสืืบทอดกัันมาจนกลายเปนประเพณีี
15 ประàพณีีชักพระ ประเพณีีชัักพระ ประเพณีีลากพระ หรืือ ประเพณีีแหพระ เปนประเพณีีทาง พระพุุทธศาสนาซ่ึ่งพบมากในภาคใตขอ งประเทศไทย เปนป ระเพณีีท่ี่มีีการอััญเชิิญ พระพุุทธรููปออกแหรอ บเมืืองในวัันหลัังวัันออกพรรษา ถืือเปนการจํําลอง เหตุุการณคร้ั้งท่ี่พระพุุทธเจาเ สด็็จกลัับจากสวรรคช้ั้น ดาวดึึงส โ ดยการอััญเชิิญ พระพุุทธรููป ข้ึ้นประดิิษฐานบนเรืือพระแลวชัักลากไปในพ้ื้นท่ี่ตาง ๆ ใหชา วบานได รวม ทํําบุุญ มีีการแหเร ืือพระ ซ่ึ่งมีีอยูู 2 ประเภท คืือ เรืือพระบก สํําหรัับแหทา งบก และเรืือพระน้ํ้า สํําหรัับแหทางน้ํ้า โดยเรืือจะมีีการประดัับตกแตงอ ยางสวยงาม
16 ประàพณีี áห่่ ผ้้าข้ึึ้นธาตุุ ภาคใต้ ประเพณีีแหผา ข้ึ้นธาตุุ หมายถึึง การนํําผาผืืนยาวข้ึ้นไปหมองคพระบรมธาตุุเจดีียใน วัันสํําคััญทางศาสนา ชาวนครไดรวมมืือรวมใจกัันบริิจาคเงิินตามกํําลัังศรััทธานํําเงิินท่ี่ ไดไปซ้ื้อผาม าเย็็บตอกัันเปนแ ถวยาวนัับพัันหลา แลวจ ััดเปนข บวนแหผาข้ึ้นหม พระบรมธาตุุเจดีีย ผาท่ี่ข้ึ้นไปหมอ งคพร ะบรมธาตุุเจดีียเร ีียกวา “ผาพ ระบฎ” (หรืือ พระบต) นิิยมใชสีีข าว สีีเหลืือง สีีแดง สํําหรัับผาสีีขาวนิิยมเขีียนภาพเน้ื้อหาเก่ี่ยวกัับ พุุทธประวััติิต้ั้งแตประสููติิ เสด็็จออกบรรพชา ตรััสรูู ปฐมเทศนา และปริินิิพพาน ประเพณีีแหผา ข้ึ้นธาตุุเปนเอกลัักษณปร ะจํําเมืืองนครศรีีธรรมราช แกนแทอยููท่ี่ก าร บููชาพระพุุทธเจาอยาง ใกลชิิด โดยใชอง คพระบรมธาตุุเจดีียเปนตััวแทน
17 ประàพณีี ãห้้ ทานäฟ ประเพณีีใหทา นไฟ คืือการทํําบุุญถวายอาหารเชาแดภิิกษุุสงฆในฤดููหนาว เพ่ื่อใหพระ ภิิกษุุสงฆเกิิดความอบอุุนในระหวางการฉัันภััตตาหารดวย วิิธีีกอกองไฟแลวป รุุงอาหาร และขนมถวายพระ
18 พิิธีี áห่่ นางดาน พิิธีีแหนางดาน คํําวานางดาน หรืือนางกระดาน หมายถึึงแผนไมกระดานขนาดกวาง หน่ึ่งศอกสููงส่ี่ศอก ท่ี่วาดหรืือแกะสลัักรููปเทพบริิวารในคติิพราหมณ จํํานวน 3 องค แผนแรก คืือ พระอาทิิตย พระจัันทร แ ผนท่ี่สองคืือแมพร ะธรณีี แผนท่ี่สามคืือพระแม คงคา เพ่ื่อใชในขบวนแหเพ่ื่อรอรัับเสด็็จพระอิิศวรท่ี่เสด็็จมาเย่ี่ยมมนุุษยโลก ณ เสา ชิิงชา
19 ประàพณีีตักับาตรธููปàทียีน ประเพณีีตัักบาตรธููปเทีียนเปนป ระเพณีีท่ี่ถืือปฏิิบััติิสืืบทอดมายาวนาน และเปนห น่ึ่ง ในประเพณีีท่ี่เปนเอกลัักษณของเมืืองนคร ซ่ึ่งจะกระทํําในโอกาสวัันเขาพรรษาของทุุก ป ห รืือในวัันแรม 1 ค่ํ่า เดืือน 8 ท้ั้งน้ี้เพ่ื่อใหพร ะภิิกษุุสามเณร ไดใช ธููปและเทีียนดััง กลาว เพ่ื่อการประกอบศาสนกิิจตลอดการจํําพรรษา ซ่ึ่งในแตละปจะมีีพุุทธศาสนิิกชน เขาร วม พิิธีีพรอมนํําดอกไม ธ ููปและเทีียนขนาดและลัักษณะตาง ๆ มารวม ในพิิธีีเปน จํํานวนมาก และหลัังเสร็็จพิิธีีจะมีีดอกไมซ่ึ่ง เปนดอกไมสด
20 ประàพณีี áห่่ นางáมว ประเพณีีแหนา งแมว เปนพิิธีีออนวอนขอฝนอีีกวิิธีีหน่ึ่ง ซ่ึ่งจะจััดใหมีีประเพณีีน้ี้ใน ขณะท่ี่เกิิด ความแหงแ ลง ฝนไมตก ตอง ตามฤดููกาล สาเหตุุท่ี่ฝนไมตก ทาน ผููรููก ลาวไว วา น้ํ้าฝนน้ั้น เปนน้ํ้าของเทวดา ดัังมีีศััพทภาษาบาลีีวา “เทโว” ซ่ึ่งแปลวา “น้ํ้าฝน” เปนเ อกลัักษณขอ งความดีี ความบริิสุุทธ์ิ์ ส่ิ่งแวดลอม เปนพ ิิษมาก ๆ ควััน และละออง เขมา น้ํ้า มััน
จัดทํา โดย นางสาว กนกลักษณ จุลปะ นางสาวธัญลักษณ นามนาค
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: