Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โรคมือเท้าปาก

โรคมือเท้าปาก

Published by 600bookchonlibrary, 2022-06-10 07:27:50

Description: โรคมือเท้าปาก

Search

Read the Text Version

ผศ.พญ.ศรญั ญา ศรจี นั ทท์ องศิริ โรคมือเท้าปาก (Hand-Foot-and-Mouth-Disease) \"โรคมือ เท้า ปาก\" เป็นหนึ่งในกลุ่มอาการที่เกิดจากเชื้อ ENTEROVIRUS มีลักษณะเฉพาะ คือ มีตุ่มน้าใสท่ี ปาก มือ และเท้า เชื้อทพี่ บเป็นสาเหตุบอ่ ยที่สดุ โดยท่ัวไป คือ COXSACKIE A16 , ENTEROVIRUS 71 ส่วนใน รายที่พบประปราย พบสาเหตุจากเช้ือหลายชนิด ได้แก่ COXSACKIE VIRUS A4-10, B2 และ B5 และ ECHOVIRUS ในประเทศไทยพบสาเหตุจาก EV71 ประมาณร้อยละ 15-30 ซ่ึงเช้ือ EV71 นั้นมีโอกาส กอ่ ใหเ้ กดิ อาการรนุ แรงและท้าใหเ้ สยี ชวี ิตได้ ประวัติความเปน็ มา ระบาดวิทยา พ.ศ. 2500 มีรายงานการระบาดของกลุ่มอาการไข้ โรค มือ เท้า ปาก มีการระบาดแตกต่างกันในแต่ละ ซ่งึ พบร่วมกับตุม่ นา้ ใสในช่องปาก มือและเท้าในผู้ปว่ ย พ้ืนที่ ในประเทศเขตหนาว มักพบในช่วงฤดูร้อน และ เดก็ ที่เมอื งโตรอนโต ประเทศแคนาดา โดยพบสาเหตุ ต้นฤดูใบไม้ ร่วง ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือน จากเช้ือ Coxsackie virus A16 (Cox A16) พ.ศ. ตุลาคม แต่ในเขตร้อนชื้นรวมท้ังประเทศไทยพบได้ 2502 พบการระบาดของกลุ่มอาการเช่นเดียวกันใน ตลอดท้ังปี แต่จะชุกในช่วงฤดูฝนและช่วงที่มีอากาศ เมือง Bermingham ประเทศอังกฤษ และได้มีการ รอ้ นชน้ื เช้ือท่ีพบเปน็ สาเหตขุ องโรคมอื เท้า ปาก เรีย ก กลุ่ ม อาการนี้ ว่า Hand-Foot-and Mouth Disease (HFMD) หลังจากน้ันมีรายงานการระบาด จากประเทศต่างๆ ท่ัวโลก

การตดิ ต่อ โรคมอื เท้า ปาก ติดต่อกันได้งา่ ย โดยการสมั ผัสโดยตรงกับสารคัดหลง่ั จากจมูก, ล้าคอ และน้า จากในตุ่มใส (respiratory route) อุจจาระของผู้ป่วยซ่ึงมีเชื้อไวรัสอยู่ (fecal - oral route) ช่วง ท่ีแพร่กระจายมากท่ีสุด คือ ในสัปดาห์แรกท่ีผู้ป่วยมีอาการ และจะยังแพร่เชื้อได้จนกว่ารอยโรค จะหายไป แต่ก็ยังพบเช้ือในอุจจาระผู้ป่วยต่อได้อีกประมาณ 2-3 สัปดาห์ เชื้อเอนเทอโรไวรัส สามารถทนสภาวะกรดในทางเดินอาหารมนุษย์ได้ และมีชีวิตอยู่ในอุณหภูมิห้องได้ 2-3 วัน อาจ พบเช้อื ในอจุ จาระได้นานถงึ 6-12 สปั ดาห์ อาการและอาการแสดง อาการเริ่มต้น คือ มักเป็นไข้ทีไ่ ม่มีอาการอะไรในชว่ งแรก โดยจะมีระยะฟักตัว ประมาณ 3-6 วัน มักจะเร่ิมจากการมีไข้ 38-39 องศา และมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว ระยะน้ีจะมีระยะเวลาประมาณ 1-2 วนั จากน้ันจะเริ่มมีอาการเจ็บปาก ตรวจร่างกายจะ พบมีรอยโรคในบริเวณปาก มือ และเท้าตามมา อาการแสดงที่พบมักจะมีอาการแสดงใน หลายระบบ เชน่ 1) ระบบทางเดินหายใจ อาจมีอาการเหมอื นไขห้ วัด ไอ มนี ้ามูกใส เจบ็ คอ 2) ทางผวิ หนงั 3) ทางระบบประสาท เช่น สมอง เยอื่ หุ้มสมอง หรอื เนอ้ื สมองอักเสบ 4) ทางระบบทางเดินอาหาร เชน่ อาการทอ้ งเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้าเลก็ น้อย ปวดหวั อาเจียน 5) ทางตา มกั พบเย่อื บุตาอกั เสบ (chemosis and conjuntivitis) และ 6) ทางหวั ใจ เช่นสามารถทา้ ใหเ้ กิดกลา้ มเน้อื หรอื เยือ่ ห้มุ หัวใจอักเสบได้ ซง่ึ จะเหน็ ได้ว่า อาการอาจมีตง้ั แต่อาการเล็กนอ้ ยไปจนถึงอาการหรือภาวะแทรกซอ้ นทร่ี ุนแรง แตใ่ นทน่ี ้จี ะ ขอกล่าวถงึ อาการทีพ่ บบ่อยเชน่

รอยโรคบริเวณปาก พบในผู้ป่วยท้ังหมด ทุกบริเวณในปากแต่ท่ีพบได้บ่อย คือ เพดานปาก ลิ้น และเย่ือบุ กระพุ้งแก้ม รอยโรคระยะเร่ิมต้น ลักษณะเป็นรอยสีแดง อาจนูนเล็กน้อย ขนาด 2-8 มิลลิเมตร จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นตุ่มนํ้าสีเทาขนาดเล็กขอบแดง ช่วงที่รอยโรคเป็นตุ่มนํ้าจะ สั้น จึงมักตรวจไม่พบ รอยโรคในระยะนี้ แต่ก็มักพบลักษณะเป็นแผลต้ืนๆ สีเหลืองถึงเทา ของแดง ซง่ึ อาจจะมารวมกันเป็นรอยโรคใหญ่ได้ รอยโรคท่ผี วิ หนัง อาจเกดิ ข้ึนพร้อมรอยโรคที่ปาก หรือหลังจากนั้นเลก็ น้อย พบท่มี อื บ่อยกว่าเทา้ ลกั ษณะเปน็ รอยแดงๆ อาจนูนเลก็ นอ้ ยขนาด 2-10 มิลลเิ มตร ตรงกลางสเี ทา บางรอย โรคมี ลักษณะเป็นต่มุ นา้ ใสขอบแดง มกี ระจายขนานไปกับแนวของผิวหนงั อาจเจ็บหรือไม่ ก็ได้ หลงั จากน้นั 2-3 วัน จะค่อยๆเร่มิ ตกสะเกด็ และค่อยๆ หายไปภายใน 7-10 วัน บรเิ วณอนื่ ๆ ท่อี าจพบรอยโรคได้ เช่นกัน คอื ก้น แขน ขา และอวยั วะสบื พนั ธ์ุ ในเดก็ ทารกอาจพบกระจายทัว่ ตัวได้

ภาวะแทรกซอ้ นท่ีพบบอ่ ย โดยทั่วไปโรคมือ เท้า ปาก จัดว่ามีอาการน้อย โดยมากมักมีเพียงไข้ คร่ันเนื้อ ครั่นตัว และเจ็บปาก แต่ ในผู้ป่วยบางรายอาจพบภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะ จากการตดิ เช้ือ enterovirus 71 ภาวะแทรกซ้อนทร่ี ุนแรง แบ่งเปน็ ภาวะแทรกซอ้ นทางระบบประสาท ก้านสมองอักเสบ (brainstem encephalitis), สมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (meningoencephalitis), เยือ่ หุ้มสมองอักเสบทีไ่ มใ่ ช้การติดเชอ้ื แบคทีเรีย (aseptic meningitis), กลา้ มเนอ้ื ออ่ นแรงคล้ายโปลิโอ (poliomyelitis like paralysis) ภาวะแทรกซ้อนระบบหัวใจ และหลอดเลอื ด เช่น กล้ามเน้ือหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ โดยผู้ป่วยจะมีไข้นํามาก่อนประมาณ 3-6 วัน โดย มักไข้สูง หัวใจเต้นเร็ว และมักมีอาการทางระบบประสาทนํามาก่อน ตอ่ มามอี าการหายใจ ลม้ เหลวอยา่ งรวดเรว็ และมีปอดบวมนํา้ (pulmonary edema) การวนิ จิ ฉัย โดยทั่วไปใช้อาการและอาการแสดงเป็นสา้ คัญ (Clinical diagnosis) การส่ง ตรวจรอยโรคท่ผี วิ หนงั โดยวิธที างพยาธิวทิ ยาจะพบเม็ดเลอื ดขาวชนดิ neutrophil และ lymphocyte เพ่ิมขึน้ แต่ จะไม่พบ multinucleated giant cell หรอื inclusion body ส่วนการส่งตรวจอืน่ ทีส่ ง่ ไดค้ ือ  การสง่ เพาะเชอื้ จาก throat swab หรอื ตรวจวธิ ี PCR โดยสง่ ที่ กรมวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข  การเก็บอุจจาระ (stool) สง่ ตรวจที่กรมวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวง สาธารณสุข เชน่ เดยี วกนั เพอื่ ตรวจดว้ ยการเพาะเชอื้ หรอื PCR  การส่งน้าไขสนั หลัง (CSF) ดว้ ยวธิ ี PCR technique

การรกั ษา โรคมือ เท้า และปาก หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน เป็นโรคท่ีสามารถหายได้เอง โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 7 วัน การรักษาจึงเป็นเพียงการประคับประคองและบรรเทา อาการ โดยเฉพาะการลดไข้ และลดอาการเจ็บปวด จากแผลในปาก โดยอาจใชย้ าชาป้าย บริเวณท่ีเป็นแผลก่อนรับประทานอาหาร ในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อนให้รักษาตามอาการ เป็นส่วนใหญ่ หลังจากการติดเช้ือผู้ป่วยจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสท่ีก่อโรค แต่อาจเกิดโรค มือ เท้า ปาก ซ้ําได้จาก enterovirus ตัวอื่นๆ ควรแนะนําผู้ปกครองสังเกตอาการที่อาจมี ภาวะแทรกซ้อนรนุ แรง เชน่ ไขส้ งู ซึม ชัก เกรง็ กระตุก อาเจยี นบอ่ ยๆ ไมย่ อมรบั ประทาน อาหารและนํ้า ซึ่งควรพาบุตรหลานมาพบแพทย์ ในรายท่ีรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อน อาจพิจารณาให้ IVIG การป้องกนั ท่ีสาํ คญั ที่สุดคอื การแยกผู้ปว่ ยที่เป็นโรคออกจากกลุ่มเพ่อื นในโรงเรียน สถานเลยี้ งเด็ก โดยเน้น Contact isolation เป็นหลัก ดังน้ี  แยกเด็กป่วยไมใ่ ห้ร่วมกิจกรรมกับเดก็ อนื่ เช่น ไปโรงเรียน วา่ ยนา้ํ เป็นเวลา 1 สัปดาห์  ผดู้ แู ลเดก็ หม่นั ลา้ งมอื บอ่ ยๆ ดว้ ยน้าํ สบู่ โดยเฉพาะหลงั เปล่ยี นผา้ อ้อม หรือ สัมผสั กับนํา้ มกู และน้าํ ลายของเด็ก  ทาํ ความสะอาดพ้นื หอ้ งนํ้า เครอื่ งใช้ ของเลน่ สนามเด็กเล่น ตลอดจน เสื้อผา้ ทอี่ าจปนเป้ือนเชอื้ ดว้ ยนํา้ ยาฆ่าเช้ือทีใ่ ช้ทว่ั ไปภายในบา้ น  แจ้งครปู ระจาํ ชน้ั หรือศนู ยด์ ูแลเดก็ เลก็ ให้ทราบวา่ มเี ดก็ ป่วยเพอื่ เฝ้าระวังการ ระบาด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook