สวดมนต์ วดั สทุ ัศนเทพวราราม 227 เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทฬั ๎เหนะ นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมห๎ ิ เต ปตั ติปัตตา อะมะตงั วิคัย๎หะ ลทั ธา มุธา นิพพุตงิ ภุญชะมานา อิทัมปิ สงั เฆ ระตะนงั ปะณตี ัง เอเตนะ สัจเจนะ สวุ ตั ถิ โหตุ ขีณงั ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง วริ ัตตะจิตตายะตเิ ก ภะวสั ๎มงิ เต ขณี ะพีชา อะวิรุฬ๎หฉิ นั ทา นิพพนั ติ ธรี า ยะถายมั ปะทโี ป อิทมั ปิ สงั เฆ ระตะนัง ปะณตี ัง เอเตนะ สจั เจนะ สวุ ัตถิ โหตุ สัพพะโรคะวนิ ิมตุ โต สัพพะสนั ตาปะวชั ชิโต สพั พะเวระมะติกกันโต ยะถาทีโป จะ นิพพโุ ต ฯ
228 สวดมนต์ วัดสุทศั นเทพวราราม ค�ำอาราธนาปาติโมกข์ บพุ กรณแ์ ละบพุ กิจ แบบ ๒ รปู (ผู้อาราธนาวา่ ) นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา- สัมพุทธสั สะ (ว่า ๓ หน) สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ, ยะทิ สังฆัสสะ ปตั ตะกลั ลงั , อะหงั (อายสั ม๎ นั ตงั อติ ถนั นามงั ) วนิ ะยงั ปจุ เฉยยัง (ผ้แู สดงว่า) นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา- สมั พุทธสั สะ (ว่า ๓ หน) สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ, ยะทิ สังฆัสสะ ปตั ตะกัลลงั , อะหงั (อิตถนั นาเมนะ) วนิ ะยงั ปุฏโฐ วสิ สัชเชยยัง ค�ำวา่ ภันเต น้ี ถา้ ผแู้ สดงแกพ่ รรษากวา่ ภกิ ษทุ ง้ั หมดแลว้ ตอ้ งวา่ อาวโุ ส แทน ภนั เต ค�ำว่า อายสั ๎มันตัง อติ ถนั นามงั นี้ ถ้าภิกษุผู้อาราธนาอ่อนพรรษากว่าผู้แสดงก็ให้ว่า อายัส๎มันตัง แล้วใส่ฉายาของผู้แสดงลงแทน อิตถันนามัง ถ้าภิกษุผู้อาราธนาแก่พรรษากว่าผู้แสดงให้ยก อายัส๎มันตัง ออกเสยี วา่ แตฉ่ ายาของผู้แสดงเท่านนั้
สวดมนต์ วดั สทุ ัศนเทพวราราม 229 ค�ำวา่ อิตถนั นาเมนะ นี้ ถา้ ผแู้ สดงแกพ่ รรษากวา่ กใ็ หใ้ สฉ่ ายาผอู้ าราธนาลงแทน ถา้ ออ่ นพรรษากวา่ ใส่ อายสั ม๎ ะตา ลงหนา้ ฉายาผอู้ าราธนาดว้ ย (ผูอ้ าราธนา) สมั มชั ชะนีปะทโี ปจะ,อทุ ะกงั อาสะเนนะจะ, อุโปสะถัสสะ เอตานิ, ปุพพะกะระณันติ วุจจะติ, อกุ าสะ สัมมชั ชะนี (ผู้แสดง) สัมมชั ชะนะกะระณญั จะ (ผอู้ าราธนา) ปะทโี ป จะ (ผู้แสดง) ปะทปี ะอชุ ชะละนญั จะ (อทิ านิ สรุ ยิ าโลกสั สะ อัตถิตายะ ปะทปี ะกจิ จงั นัตถิ) (ในวงเล็บข้างบนน้ี ใช้แต่กลางวัน ถ้าเป็น กลางคืนให้ยกเสยี ) (ผอู้ าราธนา) อุทะกงั อาสะเนนะ จะ (ผ้แู สดง) อาสะเนนะ สะหะ ปานียะปะริโภชะนียะ อุปฏั ฐะปะนัญจะ (ผ้อู าราธนา) อุโปสะถัสสะ เอตานิ, ปุพพะกะระณันติ วจุ จะติ (ผแู้ สดง) เอตานิ จัตตาริ วัตตานิ สัมมัชชะนะ- กะระณาทีนิ สังฆะสันนิปาตะโต ปะฐะมัง กตั ตพั พตั ตา อโุ ปสะถสั สะ อโุ ปสะถะกมั มสั สะ ปพุ พะกะระณนั ติ วจุ จะติ ปพุ พะกะระณานตี ิ อกั ขาตานิ
230 สวดมนต์ วัดสทุ ศั นเทพวราราม (ผอู้ าราธนา) ฉันทะปาริสุทธิ อุตุกขานัง, ภิกขุคะณะนา จะ โอวาโท อุโปสะถัสสะ เอตานิ, ปุพพะ- กิจจนั ติ วุจจะติ ฉันทะปาริสทุ ธิ (ผู้แสดง) ฉันทาระหานัง ภิกขูนัง ฉันทะปาริสุทธิ- อาหะระณัง (ตัญจะ อธิ ะ นตั ถิ) (ในวงเล็บน้ี ถา้ เปน็ สมี ารอบวดั มภี กิ ษนุ �ำฉนั ทะปารสิ ทุ ธมิ า กใ็ ห้ยกเสียถ้าไมม่ ไี มต่ ้องยก) (ผู้อาราธนา) อตุ กุ ขานัง (ผู้แสดง) เหมันตาทีนัง ติณณัง อุตูนัง เอตตะกัง อะติกกันตัง เอตตะกัง อะวะสิฏฐันติ เอวัง อุตุอาจิกขะนัง อุตูนีธะ ปะนะ สาสะเน เหมันตะคิมหะวัสสานานัง วะเสนะ ตีณิ โหนติ อะยัง (คิมหะอุตุ) อิมัส๎มิญจะ อุตุมหิ (อัฏฐะ อุโปสะถา) อิมินา ปักเขนะ เอโก อโุ ปสะโถ สมั ปตั โต (เอโก) อโุ ปสะโถ อะติกกันโต (ฉะ) อุโปสะถา อะวะสิฏฐา ในวงเล็บนั้นให้เปล่ียนตามฤดูและอุโบสถท่ี ล่วงไป, เหลืออยู่ในฤดูน้ัน วงเล็บว่า อัฏฐะ อุโปสะถา ถ้าเป็นฤดูที่มี อธิกมาส มี ๑๐ อุโบสถ ตอ้ งวา่ อะธกิ ะมาสะวะเสนะ ทะสะ อโุ ปสะถา (ผอู้ าราธนา) ภกิ ขุคะณะนา จะ
สวดมนต์ วัดสุทศั นเทพวราราม 231 (ผู้แสดง) อิมัส๎มิง อุโปสะถัคเค เอตตะกา ภิกขู สันนิปะติตาติ ภิกขูนัง คะณะนา อิมัส๎มิง ปะนะ อุโปสะถัคเค (เอตตะกา) ภิกขู สันนปิ ะตติ า โหนติ (ในวงเลบ็ เอตตะกา นนั้ ใหใ้ สส่ งั ขยาตามจ�ำนวนพระทล่ี งอโุ บสถแทน) (ผู้อาราธนา) โอวาโท (ผ้แู สดง) ภิกขุนีนัง โอวาโท ทาตัพโพ, อิทานิ ปะนะ ตาสงั นัตถติ ายะ โส จะ โอวาโท อธิ ะ นัตถิ (ผูอ้ าราธนา) อุโปสะถสั สะ เอตานิ ปุพพะกิจจันติ วจุ จะติ (ผ้แู สดง) เอตานิ ปัญจะ กัมมานิ ฉันทาหะระณาทีนิ ปาฏิโมกขุทเทสะโต ปะฐะมัง กัตตัพพัตตา อุโปสะถัสสะ อุโปสะถะกัมมัสสะ ปุพพะ- กจิ จันติ วุจจะติ, ปพุ พะกจิ จานตี ิ อักขาตานิ (ผู้อาราธนา) อโุ ปสะโถ ยาวะตกิ า จะ ภกิ ขู กัมมปั ปัตตา สะภาคาปตั ตโิ ย จะ นะ วชิ ชนั ต,ิ วชั ชะนยี า จะ ปุคคะลา ตัส๎มิง นะ โหนติ, ปัตตะกัลลันติ วุจจะติ, อุโปสะโถ (ผแู้ สดง) ตสี ุ อโุ ปสะถะทวิ ะเสสุ จาตทุ ทะสี ปณั ณะระสี สามคั คีสุ โย โกจิ ทวิ ะโส อชั ชะ ปะนุโปสะโถ (ปณั ณะระโส) (ในวงเลบ็ นี้ ถา้ เปน็ วนั ๑๔ คำ�่ ว่า จาตุททะโส ถ้าเป็นอธิกวารให้ว่า อะธกิ ะวาระวะเสนะ ปณั ณะระโส)
232 สวดมนต์ วดั สทุ ศั นเทพวราราม (ผู้อาราธนา) ยาวะตกิ า จะ ภิกขู กัมมัปปัตตา (ผู้แสดง) ยัตตะกา ภิกขู ตัสสะ อุโปสะถะกัมมัสสะ ปัตตา ยุตตา อะนุรูปา สัพพันติเมนะ ปะริจเฉเทนะ จัตตาโร ภิกขู ปะกะตัตตา สังเฆนะ อะนุกขิตตา เต จะ โข หัตถะปาสัง อะวิชะหติ ๎วา เอกะสีมายงั ฐิตา (ผอู้ าราธนา) สะภาคาปัตตโิ ย จะ นะ วชิ ชนั ติ (ผู้แสดง) วิกาละโภชะนาทิวัตถุสะภาคาปัตติโย จะ นะ วิชชันติ (ผู้อาราธนา) วชั ชะนียา จะ ปุคคะลา ตัส๎มิง นะ โหนติ (ผแู้ สดง) คะหฏั ฐะปณั ฑะกาทะโย เอกะวสี ะติ วชั ชะนยี ะ- ปุคคะลา หัตถะปาสะโต พะหิกะระณะ- วะเสนะ วัชเชตพั พา ตสั ๎มิง นะ โหนติ (ผู้อาราธนา) ปตั ตะกัลลนั ติ วุจจะติ (ผูแ้ สดง) สังฆัสสะ อุโปสะถะกัมมัง อิเมหิ จะตูหิ ลกั ขะเณหิ สังคะหิตัง ปัตตะกัลลันติ วจุ จะติ, ปตั ตะกาละวนั ตันติ อกั ขาตัง (ผู้อาราธนา) ปุพพะกะระณะปุพพะกิจจานิ สะมาเปต๎วา อิมัสสะ นิสินนัสสะ ภกิ ขสุ งั ฆสั สะ อะนมุ ตั ตยิ า ปาฏโิ มกขัง อุททิสติ งุ อัชเฌสะนัง กะโรมิ จบคำ� อาราธนาปาติโมกข์
สวดมนต์ วัดสุทัศนเทพวราราม 233 ค�ำอธิษฐานเข้าพรรษา อมิ สั ๎มิง อาวาเส อิมงั เตมาสงั วสั สัง อเุ ปมิ (ว่า ๓ หน) สัพเพ พุทธา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะ ยัง พะลัง อะระหนั ตานญั จะ เตเชนะ รกั ขงั พนั ธามิ สพั พะโส ฯ (วา่ ๓ หน) คำ� ขอขมา (ผู้ขอ) สัพพงั อะปะราธงั ขะมะถะ เม ภันเต, อกุ าสะ ท๎วารตั ตะเยนะ กะตงั , สัพพงั อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต, (ถา้ ผู้ขอหลายรูป เปลยี่ น ขะมะถะ เม เปน็ ขะมะตุ โน) (ผรู้ ับ) อะหงั ขะมามิ ตะยาปิ เม ขะมิตัพพัง (ถ้าผู้ขอหลายรูป เปล่ียน ตะยาปิ เป็น ตุม๎เหหปิ )ิ (ผขู้ อ) ขะมามิ ภนั เต (ถา้ ผขู้ อหลายรปู เปลย่ี น มิ เปน็ มะ) ค�ำปวารณาออกพรรษา สงั ฆมั ภนั เตปะวาเรมิทฏิ เฐนะวาสเุ ตนะวาปะรสิ งั กายะ วา วะทันตุ มงั อายสั ม๎ นั โต อะนกุ มั ปัง อุปาทายะ ปสั สนั โต ปะฏิกกะริสสามิ ฯ ทตุ ยิ มั ปิ ภนั เต สังฆัง ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สเุ ตนะ วา ปะรสิ งั กายะ วา วะทนั ตุ มงั อายสั ม๎ นั โต อะนกุ มั ปงั อปุ าทายะ ปสั สันโต ปะฏกิ กะรสิ สามิ ฯ ตะตยิ มั ปิ ภนั เต สงั ฆงั ปะวาเรมิ ทฏิ เฐนะ วา สเุ ตนะ วา ปะรสิ งั กายะ วา วะทนั ตุ มงั อายสั ม๎ นั โต อะนกุ มั ปงั อปุ าทายะ ปสั สันโต ปะฏกิ กะริสสามิ ฯ
234 สวดมนต์ วดั สุทศั นเทพวราราม คำ� สวดกฐิน แบบกรรมวาจาสวดให้ผ้ากฐนิ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สมั มาสมั พุทธสั สะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธสั สะ นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สมั มาสมั พุทธัสสะ ฯ สณุ าตุ เม ภนั เต สังโฆ, อิทัง สังฆัสสะ กะฐนิ ะทุสสงั อปุ ปนั นงั , ยะทิ สงั ฆสั สะ ปตั ตะกลั ลงั , สงั โฆ อมิ งั กะฐนิ ะทสุ สงั อายสั ม๎ ะโต (อิตถนั นามสั สะ) ทะเทยยะ, กะฐนิ ัง อัตถะรติ งุ , เอสา ญัตติ ฯ สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ, อิทงั สังฆสั สะ กะฐินะทสุ สงั อปุ ปนั นงั , สงั โฆ อมิ งั กะฐนิ ะทสุ สงั อายสั ม๎ ะโต (อติ ถนั นามสั สะ) เทติ, กะฐินัง อัตถะริตุง, ยัสสายัส๎มะโต ขะมะติ, อิมัสสะ กะฐนิ ะทสุ สัสสะ, อายสั ๎มะโต (อิตถนั นามสั สะ) ทานัง, กะฐินงั อตั ถะรติ งุ , โส ตุณ๎หัสสะ, ยัสสะ นักขะมะต,ิ โส ภาเสยยะ ฯ ทินนัง อิทัง สังเฆนะ, กะฐินะทุสสัง อายัส๎มะโต (อิตถันนามัสสะ) กะฐินัง อัตถะริตุง, ขะมะติ สังฆัสสะ, ตัสม๎ า ตณุ ห๎ ี, เอวะเมตงั ธาระยามิ ฯ หมายเหตุ ภายในวงเล็บใหใ้ สฉ่ ายาผู้ครองกฐินแทน
สวดมนต์ วัดสทุ ัศนเทพวราราม 235 วธิ ีแสดงอาบัติ (พรรษาออ่ นวา่ ) สัพพา ตา อาปัตตโิ ย อาโรเจมิ (วา่ ๓ หน) สพั พา คะรลุ ะหกุ า อาปตั ติโย อาโรเจมิ (ว่า ๓ หน) อะหัง ภันเต สัมพะหุลา นานาวัตถุกาโย อาปตั ตโิ ย อาปชั ชงิ ตา ตมุ ห๎ ะมเู ล ปะฏเิ ทเสมิ (พรรษาแกว่ า่ ) ปัสสะสิ อาวโุ ส ตา อาปัตติโย (พรรษาอ่อนวา่ ) อุกาสะ อามะ ภันเต ปสั สามิ (พรรษาแก่วา่ ) อายะติง อาวโุ ส สงั วะเรยยาสิ (พรรษาอ่อนวา่ ) สาธุ สุฏฐุ ภนั เต สงั วะรสิ สามิ ทตุ ิยมั ปิ สาธุ สุฏฐุ ภันเต สังวะริสสามิ ตะตยิ มั ปิ สาธุ สฏุ ฐุ ภนั เต สงั วะรสิ สามิ นะ ปุเนวงั กะริสสามิ นะ ปเุ นวงั ภาสสิ สามิ นะ ปุเนวัง จนิ ตะยสิ สามิ ฯ จบส่วนท่ี ๑
236 สวดมนต์ วัดสุทศั นเทพวราราม (พรรษาแกว่ า่ ) สพั พา ตา อาปัตติโย อาโรเจมิ (ว่า ๓ หน) สัพพา คะรลุ ะหกุ า อาปัตติโย อาโรเจมิ (ว่า ๓ หน) อะหงั อาวโุ ส สัมพะหลุ า นานาวตั ถกุ าโย อาปตั ตโิ ย อาปชั ชงิ ตา ตมุ ห๎ ะมเู ล ปะฏเิ ทเสมิ (พรรษาออ่ นวา่ ) อกุ าสะ ปัสสะถะ ภันเต ตา อาปัตติโย (พรรษาแกว่ ่า) อามะ อาวโุ ส ปัสสามิ (พรรษาออ่ นว่า) อายะติง ภันเต สังวะเรยยาถะ (พรรษาแกว่ ่า) สาธุ สุฏฐุ อาวุโส สังวะริสสามิ ทุติยัมปิ สาธุ สุฏฐุ อาวุโส สงั วะรสิ สามิ ตะตยิ มั ปิ สาธุ สุฏฐุ อาวุโส สงั วะรสิ สามิ นะ ปเุ นวัง กะรสิ สามิ นะ ปเุ นวัง ภาสสิ สามิ นะ ปเุ นวงั จนิ ตะยิสสามิ ฯ จบส่วนท่ี ๒ หมายเหตุ หากภิกษทุ ัง้ ๒ รปู ยังมไิ ดแ้ สดงอาบตั ิ เมือ่ แสดงอาบัติ จบสว่ นที่ ๒ แลว้ ให้รปู ทม่ี ีพรรษาออ่ นกวา่ ย้อนกลับไปแสดงอาบตั ิ จนจบส่วนท่ี ๑ อีกรอบ หากภิกษุรูปใดแสดงอาบัติแล้ว ให้แสดง อาบัตสิ ่วนของตนเพยี งจบเดยี ว
สวดมนต์ วัดสุทศั นเทพวราราม 237 ค�ำประกาศอโุ บสถศลี (ฉบับ นายเวส สุวรรณไตรย)์ เม่ือไหว้พระท�ำวัตรเช้าจบแล้ว บัณฑิตพึงนั่งคุกเข่า ประนมมอื กลา่ วค�ำประกาศองคอ์ โุ บสถ ทงั้ ค�ำบาลแี ละค�ำไทย ดงั ต่อไปน้วี า่ อัชชะ โภนโต ปักขัสสะ (อัฏฐะมี, จาตุททะสี, ปัณณะระสี) ทิวะโส เอวะรูโป โข โภนโต ทิวะโส พุทเธนะ ภะคะวะตา ปญั ญตั ตสั สะ ธมั มสั สะวะนสั สะ เจวะ ตะทตั ถายะ อุปาสะกะอุปาสิกานัง อุโปสะถัสสะ จะ กาโล โหติ หันทะ มะยัง โภนโต สัพเพ อิธะ สะมาคะตา ตัสสะ ภะคะวะโต ธมั มานธุ มั มะปะฏปิ ตั ตยิ า ปชู ะนตั ถายะ อมิ ญั จะ รตั ตงิ อมิ ญั จะ ทิวะสัง อัฏฐังคะสะมนั นาคะตัง อุโปสะถงั อปุ ะวะสสิ สามาติ กาละปะรจิ เฉทงั กตั ว๎ า ตงั ตงั เวระมะณงิ อารมั มะณงั กะรติ ว๎ า อะวกิ ขิตตะจติ ตา หตุ ๎วา สกั กัจจัง อุโปสะถงั สะมาธเิ ยยยามะ อีทิสัง หิ อโุ ปสะถัง สมั ปตั ตานงั อัมหากงั ชวี ิตงั มา นิรตั ถะกงั โหตุ ฯ ขา้ พเจา้ ขอประกาศเรม่ิ เรอื่ งทจี่ ะสมาทานรกั ษาอโุ บสถ อันพร้อมไปด้วยองค์แปดประการ ให้ท่านสาธุชนท่ีได้ต้ังใจ สมาทาน ทราบท่วั กนั กอ่ นแต่จะสมาทาน ณ บัดน้ี ดว้ ยวันนี้ เปน็ วนั อโุ บสถ ขนึ้ (หรอื แรม) คำ่� แหง่ สกุ กะ (หรอื กาฬะ) ปกั ษ์
238 สวดมนต์ วัดสทุ ศั นเทพวราราม มาถึงแล้ว ก็แลวันเช่นน้ีเป็นกาลท่ีสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงบัญญัติแต่งตั้งไว้ให้ประชุมกันฟังธรรม และเป็นกาลท่ีจะ รักษาอุโบสถของอุบาสกอุบาสิกาท้ังหลาย เพ่ือประโยชน์แก่ การฟังธรรมน้ันด้วย บัดน้ีขอกุศลอันยิ่งใหญ่แห่งการรักษา อโุ บสถ จงบงั เกดิ แกท่ า่ นสาธชุ นทงั้ หลาย เชญิ เถดิ เราทง้ั หลาย ทัง้ ปวงทไ่ี ด้มาประชุมพร้อมกัน ณ ที่น้ี พึงก�ำหนดวา่ จะรักษา อุโบสถไว้ด้วยดี โดยมิให้ขาด มิให้ด่างพร้อย มิให้ท�ำลาย ตลอดกาลวันหนึ่งกับคืนหน่ึง ณ เพลาวันนี้ แล้วพึงท�ำความ เวน้ จากโทษนัน้ นน้ั เปน็ อารมณ์ คอื - เว้นจากการฆา่ สตั ว์หน่ึง - เว้นจากการถือเอาส่ิงของท่ีเจ้าของเขาไม่ได้ให้ โดย อาการแหง่ ขโมยหนึง่ - เวน้ จากกรรมอนั เปน็ ข้าศกึ แก่พรหมจรรย์หนงึ่ - เว้นจากการพดู เทจ็ พูดสอ่ เสียดและลอ่ ลวงผอู้ ่นื หนง่ึ - เว้นจากการด่มื น้ำ� เมา คอื สุราและเมรัย อันเป็นเหตุ ทตี่ ัง้ แหง่ ความประมาทหน่ึง - เว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือตั้งแต่ เทีย่ งวนั แล้ว ไปจนถงึ วนั ใหม่หนึ่ง - เวน้ จากการฟอ้ นร�ำ ขบั รอ้ ง และประโคมดนตรตี า่ ง ๆ และดูการละเล่นอนั เปน็ ขา้ ศกึ แก่บุญกศุ ลทง้ั สนิ้ และทดั ทรง
สวดมนต์ วัดสทุ ศั นเทพวราราม 239 ประดบั ตกแตง่ รา่ งกาย ดว้ ยระเบยี บดอกไมข้ องหอม เครอ่ื งยอ้ ม เครอ่ื งทา อันเปน็ เหตทุ ี่ตั้งแห่งความก�ำหนดั ยนิ ดีหนึ่ง - เว้นจากการนั่ง นอน เหนือที่นั่งท่ีนอนอันสูงใหญ่ ภายในมีนุ่นและส�ำลี และเครื่องปูลาดท่ีวิจิตรด้วยเงินและ ทองตา่ ง ๆ หน่งึ ฉะนี้ อย่าให้มีจิตฟุ้งซ่าน ซัดส่ายส่งไปอ่ืน พึงสมาทานเอา องค์แปดประการแห่งอุโบสถโดยเคารพ เพื่อจะได้บูชาองค์ สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าน้ัน ด้วยธัมมานุธัมมปฏิบัติ ตาม ก�ำลังของเราคฤหัสถ์ทั้งหลาย ชีวิตของเราทั้งหลายท่ีได้ด�ำรง มาจนถงึ วันอุโบสถเช่นนี้ จงอย่าได้ลว่ งไปเสยี เปลา่ ปราศจาก ประโยชน์เลย ฯ ขอเชิญท่านทั้งหลายได้เอื้อนเอ่ยเผยวาจา สมาทานศลี พรอ้ มกนั ณ บดั น้เี ทอญ เม่ือบัณฑิตประกาศจบแล้ว พระสงฆ์ผู้แสดงธรรม ข้ึนนั่งบนธรรมาสน์เรียบร้อย อุบาสกอุบาสิกา กล่าวค�ำ อาราธนาอโุ บสถศลี พร้อมกัน ดังน้ี มะยงั ภนั เต ตสิ ะระเณนะ สะหะ อฏั ฐงั คะสะมนั นาคะตงั อุโปสะถัง ยาจามะ ฯ (วา่ ๓ จบ) ต่อนี้ คอยต้ังใจรับสรณคมน์และศีลโดยเคารพ คือ ประนมมอื วา่ ตามทพ่ี ระสงฆ์บอกเปน็ ตอน ๆ ว่า
240 สวดมนต์ วดั สุทศั นเทพวราราม นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสมั พุทธสั สะ ฯ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สมั มาสัมพุทธสั สะ ฯ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สมั มาสมั พุทธัสสะ ฯ พทุ ธงั สะระณงั คจั ฉามิ ธมั มงั สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยมั ปิ พทุ ธัง สะระณัง คจั ฉามิ ทุตยิ มั ปิ ธัมมงั สะระณัง คัจฉามิ ทุตยิ ัมปิ สังฆงั สะระณัง คัจฉามิ ตะติยมั ป ิ พทุ ธัง สะระณงั คจั ฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณงั คัจฉามิ ตะติยัมป ิ สังฆงั สะระณัง คจั ฉามิ เม่ือพระสงฆว์ า่ “ติสะระณะคะมะนงั นิฏฐติ งั ” พึงรับ พร้อมกนั ว่า “อามะ ภนั เต” ๑. ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทยิ ามิ ๒. อะทินนาทานา เวระมะณี สกิ ขาปะทัง สะมาทิยามิ ๓. อะพร๎ หั ม๎ ะจะรยิ า เวระมะณี สกิ ขาปะทงั สะมาทยิ ามิ ๔. มุสาวาทา เวระมะณี สกิ ขาปะทัง สะมาทยิ ามิ ๕. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สกิ ขา- ปะทัง สะมาทยิ ามิ
สวดมนต์ วัดสทุ ศั นเทพวราราม 241 ๖. วิกาละโภชะนา เวระมะณี สกิ ขาปะทัง สะมาทยิ ามิ ๗. นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนามาลาคันธะ- วิเลปะนะธาระณะมัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทงั สะมาทยิ ามิ ๘. อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมณี สิกขาปะทงั สะมาทยิ ามิ อมิ งั อฏั ฐงั คะสะมนั นาคะตงั ,พทุ ธะปญั ญตั ตงั อโุ ปสะถงั , อิมัญจะ รัตติง อิมัญจะ ทิวะสัง, สัมมะเทวะ อะภิรักขิตุง สะมาทยิ ามิ ข้าพเจ้าขอสมาทานอุโบสถ, ที่พระพุทธเจ้าทรง บญั ญตั ไิ ว้, ประกอบไปดว้ ยองคแ์ ปดประการนี,้ เพ่อื จะรักษา ไวด้ ้วยดี มใิ ห้ขาดมใิ ห้ท�ำลาย, ตลอดกาลวันหน่งึ และคนื หน่งึ ณ เวลาวันนี้ (หยุดรบั เพียงเทา่ น)ี้ ตอนนีพ้ ระสงฆจ์ ะวา่ อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ อัชเชกัง รัตตินทิวัง, อุโปสะถะสีละวะเสนะ สาธุกัง กัต๎วา, อัปปะมาเทนะ รักขิตัพพานิ ฯ รับพร้อมกนั ว่า อามะ ภันเต (พระสงฆ์วา่ ต่อ) สเี ลนะ สุคะติง ยันติ, สีเลนะ โภคะสมั ปะทา, สีเลนะ นิพพตุ ิง ยนั ต,ิ ตสั ม๎ า สลี ัง วโิ สธะเย ฯ (รับพร้อมกันวา่ สาธ)ุ
242 สวดมนต์ วดั สุทศั นเทพวราราม ค�ำอาราธนาธรรม พร๎ ัหม๎ า จะ โลกาธปิ ะตี สะหัมปะติ กัตอญั ชะลี อนั ธิวะรงั อะยาจะถะ สนั ตีธะ สัตตาปปะระชกั ขะชาติกา เทเสตุ ธมั มัง อะนกุ มั ปมิ งั ปะชัง ฯ สทั ธัมมะเภรงิ วนิ ะยัญจะ กายงั สตุ ตญั จะ พนั ธัง อะภิธมั มะจัมมงั อาโกฏะยันโต จะตุสัจจะทณั ฑัง ปะโพธะเนยเย ปะรสิ ายะ มชั เฌ ฯ จาตุททะสี ปัณณะระสี ยา จะ ปักขัสสะ อัฏฐะมี กาลา พทุ เธนะ ปญั ญตั ตา สัทธัมมสั สะวะนสั สเิ ม อฏั ฐะมี โข อะยันทานิ สมั ปัตตา อะภิลักขติ า เตนายงั ปะรสิ า ธมั มงั โสตงุ อิธะ สะมาคะตา สาธุ อัยโย ภกิ ขุสังโฆ กะโรตุ ธัมมะเทสะนัง อะยญั จะ ปะริสา สพั พา อฏั ฐกิ ัตว๎ า สุณาตุ ตงั ฯ (ขอ้ ความขดี เสน้ ใตเ้ ปลย่ี นตามวนั ๘, ๑๔, ๑๕ คำ�่ จาตทุ ทะส,ี ปณั ณะระส)ี (ต่อจากนี้ น่ังราบพับเพียบ ประนมมือฟังธรรม เม่ือ จบแลว้ พึงสาธกุ าร และประกาศตนเปน็ พทุ ธมามกะพร้อมกัน บณั ฑิตขึ้น หันทะ มะยงั สาธกุ ารัง กะโรมะ เส รับพรอ้ มกันว่า สาธุ สาธุ สาธุ
สวดมนต์ วดั สุทศั นเทพวราราม 243 อะหัง พทุ ธัญจะ ธัมมัญจะ สงั ฆัญจะ สะระณงั คะโต* อุปาสะกัตตงั ** เทเสสิง ภิกขสุ ังฆัสสะ สัมมุขา เอตัง เม สะระณัง เขมัง เอตัง สะระณะมตุ ตะมัง เอตงั สะระณะมาคัมมะ สัพพะทกุ ขา ปะมุจจะเย ยะถาพะลัง จะเรยยาหัง สัมมาสมั พทุ ธะสาสะนัง ทกุ ขะนสิ สะระณัสเสวะ ภาคี อสั สงั *** อะนาคะเต ฯ (ผู้หญิงว่า คตา*, อุปาสกิ ตั ตงั **, ภาคินสิ สัง***) กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง พุทโธ ปะฏิคคัณหะตุ อจั จะยันตงั กาลนั ตะเร สังวะริตงุ วะ พุทเธ กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา ธัมเม กกุ มั มงั ปะกะตงั มะยา ยัง ธัมโม ปะฏคิ คณั หะตุ อัจจะยันตงั กาลนั ตะเร สังวะรติ ุง วะ ธัมเม กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา สงั เฆ กกุ ัมมัง ปะกะตัง มะยา ยงั สังโฆ ปะฏคิ คณั หะตุ อัจจะยันตัง กาลนั ตะเร สงั วะริตงุ วะ สังเฆ ฯ หันทะทานิ มะยัง ภนั เต อาปจุ ฉามะ พะหกุ ิจจา มะยงั พหกุ ะระณยี า
244 สวดมนต์ วดั สทุ ัศนเทพวราราม พระสงฆ์วา่ ยัสสะทานิ ตุม๎เห กาลงั มัญญะถะ รับพร้อมกนั วา่ สาธุ ภันเต จบแล้วบ�ำเพ็ญจิตภาวนาใช้เวลาพอสมควร พระที่ แสดงธรรมลงจากธรรมาสน์ นั่งบนอาสน์สงฆ์เรียบร้อยแล้ว บัณฑติ น�ำอุบาสกอุบาสิกากล่าวค�ำถวายสังฆทาน ดงั ต่อไปน้ี คำ� ถวายสงั ฆทาน นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสมั พุทธัสสะ ฯ นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สมั มาสัมพุทธัสสะ ฯ นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสมั พุทธัสสะ ฯ อมิ านิ มะยงั ภนั เต ภตั ตานิ สะปะรวิ ารานิ ภกิ ขสุ งั ฆสั สะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสงโฆ อิมานิ ภัตตานิ สะปะริวารานิ ปะฏคิ คัณหาตุ อมั หากญั เจวะ มาตาปิตูนญั จะ ญาตมิ ติ ตานัญจะ ทีฆะรตั ตงั หติ ายะ สุขายะ ขา้ แตพ่ ระสงฆผ์ เู้ จรญิ ขา้ พเจา้ ทง้ั หลาย ขอนอ้ มถวาย ซงึ่ ภตั ตาหารกบั ทง้ั ของอนั เปน็ บรวิ ารทงั้ หลายเหลา่ นี้ แดพ่ ระภกิ ษุ สงฆ์ ขอพระภิกษสุ งฆ์ ได้โปรดรบั ซง่ึ ภัตตาหาร กบั ท้งั ของอนั เปน็ บรวิ ารทงั้ หลายเหลา่ น้ี ของขา้ พเจา้ ทง้ั หลาย เพอ่ื ประโยชน์ และความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย แก่บิดามารดาด้วย แกญ่ าตมิ ิตรทง้ั หลายด้วย ตลอดกาลนาน เทอญ ฯ
สวดมนต์ วัดสุทศั นเทพวราราม 245 เสรจ็ แลว้ ถวายจตปุ จั จยั ไทยธรรมแดพ่ ระสงฆ์ ตอ่ จากนน้ั เปน็ การอปโลกนส์ งั ฆทาน ค�ำอปโลกน์สงั ฆทาน ยัคเฆ ภันเต สงั โฆ ปะฏชิ านาตุ ขอสงฆ์ จงฟงั ค�ำของข้าพเจ้า บัดนี้ อุบาสก อุบาสกิ า ผู้มีจิตศรัทธา ได้น้อมน�ำภัตตาหาร และของบริวารท้ังหลาย เหล่านี้ มาถวายเป็นสังฆทาน อันวา่ สงั ฆทาน มีอานิสงส์มาก สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าจะได้จ�ำเพาะเจาะจงภิกษุรูปหนึ่ง รปู ใดกห็ ามไิ ด้ พระองคใ์ หจ้ ดั แบง่ กนั ตามบรรดาทมี่ าถงึ ฉะนนั้ บดั นี้ ขา้ พเจ้าจะสมมตติ นเปน็ ผูจ้ ัดแบง่ ของสงั ฆทาน พระสงฆ์ ทงั้ ปวง จะเห็นสมควรหรอื ไมส่ มควร ถ้าเห็นว่า ไม่สมควร ขอ จงทกั ทว้ งขน้ึ ในทา่ มกลางสงฆน์ ้ี อยา่ ไดเ้ กรงใจ (หยดุ สกั คร)ู่ ถา้ เห็นว่า สมควร ขอจงเปน็ ผนู้ ่งิ อยู่ (หยดุ สักคร)ู่ บัดน้ี พระสงฆ์ ทัง้ ปวงนิ่งอยู่ ข้าพเจา้ จักร้ไู ดว้ า่ เป็นการสมควรแล้ว จะได้จดั แบ่งของสงั ฆทานสบื ตอ่ ไป ณ กาลบดั นี้ อะยัง ปะฐะมะภาโค มะหาเถรสั สะ ปาปณุ าติ ส่วนที่ ๑ ย่อมถงึ แกพ่ ระมหาเถระ อะวะเสสา ภาคา อัมหากัญจะ สามเณรานัญจะ ปาปุณนั ติ สว่ นทเี่ หลอื ยอ่ มถงึ แกข่ า้ พเจา้ และพระภกิ ษรุ ปู ถดั ๆ ไป ตลอดจนสามเณรทุกรปู ด้วย
246 สวดมนต์ วดั สุทศั นเทพวราราม อะวะเสสา ภาคา อปุ าสะกานญั จะ มะนสุ สานัญจะ สพั พะสัตตานัญจะ ปาปุณนั ติ ส่วนที่เหลือ ย่อมถึงแก่อุบาสก อุบาสิกา และมนุษย์ ท้ังหลาย ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งปวง โดยปราศจากโทษ หากพระสงฆท์ งั้ ปวงเหน็ วา่ สมควร จงใหส้ ทั ทสญั ญาสาธกุ ารขน้ึ พรอ้ มเพรียงกนั เทอญ ฯ พระสงฆ์อนุโมทนา ทายกทายิการับพรจากพระสงฆ์ จบแล้ว อุทิศกุศลเปน็ ภาษาไทย วา่ พร้อมกนั จนจบ กลา่ วค�ำ อ�ำลาพระสงฆ์กลบั บา้ น ดงั น้ี สดุ ท้าย กราบพระรัตนตรัย อะระหงั สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธงั ภะคะวนั ตัง อะภวิ าเทมิ ฯ (กราบ ๑ คร้งั ) สว๎ ากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธมั มงั นะมัสสามิ ฯ (กราบ ๑ คร้ัง) สุปะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สงั ฆงั นะมามิ ฯ (กราบ ๑ ครัง้ ) กเ็ ป็นอันเสรจ็ พธิ ีในการบ�ำเพ็ญกุศลในภาคเช้า
สวดมนต์ วัดสุทัศนเทพวราราม 247 คำ� อาราธนาเบญจศีล มะยัง ภนั เต วสิ ุง วสิ งุ รักขะณัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ ฯ ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ ตสิ ะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สลี านิ ยาจามะ ฯ ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ ตสิ ะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สลี านิ ยาจามะ ฯ คำ� อาราธนาพระปริตร วปิ ัตติปะฏพิ าหายะ สพั พะสมั ปัตติสทิ ธยิ า สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตงั พร๎ ูถะ มงั คะลงั วปิ ัตติปะฏพิ าหายะ สัพพะสมั ปตั ติสิทธยิ า สพั พะภะยะวินาสายะ ปะรติ ตัง พ๎รูถะ มงั คะลัง วิปตั ตปิ ะฏิพาหายะ สพั พะสมั ปตั ตสิ ทิ ธิยา สัพพะโรคะวนิ าสายะ ปะรติ ตงั พร๎ ถู ะ มงั คะลงั ฯ
248 สวดมนต์ วัดสทุ ัศนเทพวราราม ค�ำบชู าในวันมาฆบูชา อชั ชายงั มาฆะปุณณะมี สัมปตั ตา มาฆะนกั ขตั เตนะ ปุณณะจันโท ยุตโต ยัตถะ ตะถาคะโต อะระหัง สัมมา- สมั พทุ โธ จาตุรงั คเิ ก สาวะกะสันนิปาเต โอวาทะปาฏโิ มกขัง อุททิสิ ตะทา หิ อฑั ฒะเตระสานิ ภกิ ขุสะตานิ สพั เพสงั เยวะ ขณี าสะวานงั สพั เพ เต เอหภิ กิ ขกุ า สพั เพปิ เต อะนามนั ตติ าวะ ภะคะวะโต สันติกัง อาคะตา เวฬุวะเน กะลันทะกะนิวาเป มาฆะปุณณะมิยัง วัฑฒะมานะกัจฉายายะ ตัส๎มิญจะ สนั นปิ าเต ภะคะวา วสิ ทุ ธโุ ปสะถงั อะกาสิ โอวาทะปาฏโิ มกขงั อุททิสิ อะยัง อัม๎หากัง ภะคะวะโต เอโกเยวะ สาวะกะ- สันนิปาโต อะโหสิ จาตรุ งั คิโก อัฑฒะเตระสานิ ภกิ ขุสะตานิ สัพเพสังเยวะ ขณี าสะวานัง มะยันทานิ อิมัง มาฆะปุณณะมี นักขัตตะสะมะยัง ตกั กาละสะทสิ งั สมั ปตั ตา สจุ ริ ะปะรนิ พิ พตุ มั ปิ ตงั ภะคะวนั ตงั อะนสุ สะระมานา อิมัส๎มงิ ตัสสะ ภะคะวะโต สักขภิ เู ต วหิ าเร อิเมหิ ทีปะธูปะปุปผาทิสักกาเรหิ ตัง ภะคะวันตัง ตานิ จะ อฑั ฒะเตระสานิ ภิกขสุ ะตานิ อะภิปชู ะยามะ สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สะสาวะกะสงั โฆ สจุ ิระปะริ- นพิ พโุ ต คเุ ณหิ ธะระมาโน อเิ ม สกั กาเร ทคุ คะตะปณั ณาการะ- ภเู ต ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทฆี ะรตั ตัง หิตายะ สุขายะ ฯ
สวดมนต์ วัดสทุ ศั นเทพวราราม 249 ค�ำบูชาในวนั วสิ าขบชู า ยะมมั หะ โข มะยงั ภะคะวันตงั สะระณัง คะตา, โย โน ภะคะวา สัตถา, ยสั สะ จะ มะยัง ภะคะวะโต ธมั มัง โรเจมะ, อะโหสิ โข, โส ภะคะวา, มชั ฌเิ มสุ, ชะนะปะเทส,ุ อะรยิ ะเกส,ุ มะนุสเสสุ, อุปปันโน, ขัตติโย ชาติยา, โคตะโม โคตเตนะ, สัก๎ยะปุตโต สัก๎ยะกุลา, ปัพพะชิโต สะเทวะเก โลเก, สะมาระเก สะพ๎รัห๎มะเก, สัสสะมะณะพ๎ราห๎มะณิยา ปะชายะ, สะเทวะมะนุสสายะ, อะนุตตะรัง, สัมมาสัมโพธิง, อะภสิ มั พทุ โธ, มะยงั โข เอตะระหิ อมิ งั วสิ าขะปณุ ณะมกี าลงั ตสั สะ ภะคะวะโต ชาตสิ ัมโพธนิ พิ พานะกาละสมั มะตงั ปตั ๎วา อมิ งั ฐานงั สมั ปตั ตา, อเิ ม ทปี ะธปู ะปปุ ผาทสิ กั กาเร คะเหตว๎ า อัตตะโน กายัง สกั การปุ ะธานัง กะริตว๎ า ตัสสะ ภะคะวะโต ยะถาภุจเจ คุเณ อะนุสสะรันตา, อิมัง ปะฏิมัง ติกขัตตุง ปะทักขิณัง กะริสสามะ ยะถาคะหิเตหิ สักกาเรหิ ปูชัง กุรุมานา สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ ญาตัพเพหิ คุเณหิ อะตีตารัมมะณะตายะ ปัญญายะมาโน, อิเม อัมเหหิ คะหิเต สักกาเร ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรตั ตัง หิตายะ สุขายะ ฯ
250 สวดมนต์ วดั สทุ ศั นเทพวราราม คำ� บชู าในวนั อัฏฐมบี ชู า ยะมมั หะ โข มะยงั , ภะคะวนั ตงั สะระณงั คะตา, โย โน ภะคะวา สตั ถา, ยสั สะ จะ มะยัง, ภะคะวะโต ธัมมัง โรเจมะ, อะโหสิ โข โส ภะคะวา, มชั ฌเิ มสุ ชะนะปะเทสุ, อะริยะเกสุ มะนุสเสสุ อุปปันโน, ขัตติโย ชาติยา, โคตะโม โคตเตนะ, สกั ย๎ ะปตุ โต สกั ย๎ ะกลุ า ปพั พะชโิ ต, สะเทวะเก โลเก สะมาระเก สะพ๎รหั ๎มะเก, สสั สะมะณะพ๎ราห๎มะณิยา ปะชายะ สะเทวะ- มะนสุ สายะ, อะนตุ ตะรงั สมั มาสมั โพธงิ อะภสิ มั พทุ โธ, มะยงั โข เอตะระห,ิ อมิ ัง วสิ าขะปณุ ณะมโิ ต ปะรัง อัฏฐะมีกาลงั , ตสั สะ ภะคะวะโต สะรีรชั ฌาปะนะกาละสมั มะตัง ปตั ๎วา, อมิ งั ฐานงั สัมปัตตา, อิเม ทัณฑะทีปะธูปะปุปผาทิสักกาเร คะเหต๎วา, อัตตะโน กายงั สกั การปุ ะธานัง กะรติ ว๎ า, ตสั สะ ภะคะวะโต ยะถาภุจเจ คุเณ อะนุสสะรันตา, อิมัง ปะฏิมัง ติกขัตตุง ปะทกั ขณิ งั กะรสิ สามะ, ยะถาคะหเิ ตหิ สกั กาเรหิ ปชู งั กรุ มุ านา สาธุ โน ภนั เต ภะคะวา, สจุ ริ ะปะรนิ พิ พโุ ตป,ิ ญาตพั เพหิ คเุ ณห,ิ อะตีตารมั มะณะตายะ ปญั ญายะมาโน, อเิ ม อมั เหหิ คะหเิ ต, สักกาเร ปะฏิคคัณหาตุ, อัมหากัง, ฑีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะฯ
สวดมนต์ วดั สทุ ศั นเทพวราราม 251 ค�ำบูชาในวนั อาสาฬหบชู า มะยงั โข เอตะระหิ อมิ งั อาสาฬห๎ ะปณุ ณะมกี าลงั ตสั สะ ภะคะวะโต ธัมมะจกั กัปปะวตั ตะนงั กาละสัมมะตงั อะริยะ- สาวะกะสังฆะอุปปัตติกาละสัมมะตัญจะ ระตะนัต๎ตยะ- สมั ปณุ ณะกาละสัมมะตญั จะ ปัต๎วา อิมงั ฐานัง สัมปัตตา อเิ ม สกั กาเรคะเหตว๎ าอตั ตะโนกายงั สกั การปุ ะธานงั กะรติ ว๎ าตสั สะ ภะคะวะโต ยะถาภุจเจ คุเณ อะนุสสะรันตา ยะถาคะหิเตหิ สกั กาเรหิ ตงั ภะคะวนั ตงั อะภิปชู ะยามะ ฯ สาธุ โน ภนั เต ภะคะวา สจุ ริ ะปะรนิ พิ พโุ ตปิ ญาตพั เพหิ คุเณหิ อะตีตารัมมะณะตายะ ปัญญายะมาโน อิเม อัมเหหิ คะหเิ ต สกั กาเร ปะฏิคคณั หาตุ อมั หากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ ฯ แบบท่ี ๒ ยะมัมหะ โข มะยัง, ภะคะวันตัง สะระณัง คะตา, โย โน ภะคะวา สัตถา, ยสั สะ จะ มะยัง, ภะคะวะโต ธัมมงั โรเจมะ, อะโหสิ โข โส ภะคะวา, อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ, สัตเตสุ การุญญัง ปะฏิจจะ กะรุณายะโก หิเตสี อะนุกัมปัง อุปาทายะ อาสาฬ๎หะปุณณะมิยัง พาราณะสิยัง อิสิปะตะเน มิคะทาเย ปญั จะวัคคิยานงั ภกิ ขนู ัง อะนตุ ตะรงั ธมั มะจักกงั ปะฐะมงั ปะวัตเตต๎วา จัตตาริ อะริยะสัจจานิ ปะกาเสสิ ฯ
252 สวดมนต์ วดั สุทัศนเทพวราราม ตสั ม๎ ญิ จะ โข สะมะเย ปญั จะวคั คยิ านงั ภกิ ขนู งั ปะมโุ ข อายสั ม๎ า อัญญาโกณฑญั โญ ภะคะวะโต ธมั มงั สุตว๎ า วิระชงั วตี ะมะลัง ธัมมะจักขงุ ปะฏิละภิต๎วา ยังกญิ จิ สะมทุ ะยะธมั มงั สพั พันตัง นโิ รธะธมั มันติ ภะคะวันตงั อปุ ะสัมปะทงั ยาจติ ว๎ า ภะคะวะโตเยวะ สนั ตกิ า เอหภิ กิ ขอุ ปุ ะสมั ปะทงั ปะฏลิ ะภติ ว๎ า ภะคะวะโต ธมั มะวินะเย อะริยะสาวะกะสังโฆ โลเก ปะฐะมงั อปุ ปนั โน อะโหสิ พทุ ธะระตะนงั ธมั มะระตะนงั สงั ฆะระตะนนั ติ ติระตะนัง สมั ปณุ ณงั อะโหสิ ฯ มะยัง โข เอตะระหิ อิมัง อาสาฬ๎หะปุณณะมีกาลัง ตัสสะ ภะคะวะโต ธัมมะจักกัปปะวัตตะนะกาละสัมมะตัง อะรยิ ะสาวะกะสงั ฆะอปุ ปตั ตกิ าละสมั มะตญั จะ ระตะนตั ต๎ ะยะ- สมั ปณุ ณะกาละสัมมะตัญจะ ปตั ๎วา อิมงั ฐานงั สมั ปัตตา อิเม สักกาเร คะเหต๎วา อัตตะโน กายงั สกั การุปะธานัง กะรติ ๎วา ตสั สะ ภะคะวะโต ยะถาภจุ เจ คเุ ณ อะนสุ สะรนั ตา อมิ งั ปะฏมิ งั ติกขัตตุง ปะทักขิณัง กะริสสามะ ยะถาคะหิเตหิ สักกาเรหิ ปชู งั กรุ ุมานา ฯ สาธุ โน ภนั เต ภะคะวา สจุ ริ ะปะรนิ พิ พโุ ตปิ ญาตพั เพหิ คุเณหิ อะตีตารัมมะณะตายะ ปัญญายะมาโน อิเม อัมเหหิ คะหเิ ต สักกาเร ปะฏิคคณั หาตุ อัมหากงั ทีฆะรัตตัง หติ ายะ สขุ ายะ ฯ
สวดมนต์ วัดสทุ ศั นเทพวราราม 253 ท�ำวัตรเชา้ แปล ค�ำบูชาพระรตั นตรัย โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นพระองค์ใด, เป็นพระอรหันต์, ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์ส้ินเชิง, ตรัสรู้ชอบได้โดย พระองค์เอง สว๎ ากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม พระธรรมเปน็ ธรรมอนั พระผมู้ พี ระภาคเจา้ พระองคใ์ ด, ตรัสไว้ดีแล้ว สปุ ะฏปิ นั โน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด, ปฏิบตั ดิ แี ล้ว ตัมมะยงั ภะคะวันตัง สะธัมมงั สะสงั ฆัง, อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหงั อาโรปเิ ตหิ อะภิปูชะยามะ ขา้ พเจา้ ทงั้ หลาย, ขอบชู าอยา่ งยง่ิ ซง่ึ พระผมู้ พี ระภาคเจา้ พระองค์นั้น, พร้อมท้ังพระธรรมและพระสงฆ์, ด้วยเครื่อง สักการะทงั้ หลายเหล่าน,ี้ อนั ยกข้นึ ตามสมควรแลว้ อยา่ งไร สาธุ โน ภนั เต ภะคะวา สุจิระปะรนิ พิ พุโตปิ ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ , พระผมู้ พี ระภาคเจา้ แมป้ รนิ พิ พาน นานแลว้ , ทรงสรา้ งคณุ อนั ส�ำเรจ็ ประโยชนไ์ วแ้ กข่ า้ พเจา้ ทง้ั หลาย
254 สวดมนต์ วดั สทุ ศั นเทพวราราม ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา ทรงมีพระหฤทัยอนุเคราะห์แก่พวกข้าพเจ้าอันเป็น ชนรุ่นหลัง อเิ ม สักกาเร ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้า จงรับเคร่ืองสักการะอันเป็น บรรณาการของคนยากทง้ั หลายเหลา่ นี้ อัมหากัง ทฆี ะรตั ตงั หิตายะ สุขายะ เพ่ือประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้าท้ังหลายตลอด กาลนานเทอญฯ อะระหงั สัมมาสัมพทุ โธ ภะคะวา พระผ้มู ีพระภาคเจา้ , เปน็ พระอรหนั ต์, ดบั เพลิงกิเลส เพลิงทุกขส์ ้นิ เชงิ , ตรสั รู้ชอบได้โดยพระองค์เอง พุทธงั ภะคะวันตงั อะภวิ าเทมิ ขา้ พเจา้ อภวิ าทพระผมู้ พี ระภาคเจา้ , ผรู้ ู้ ผตู้ น่ื ผเู้ บกิ บาน (กราบ) ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม พระธรรมเปน็ ธรรมทพี่ ระผมู้ พี ระภาคเจา้ , ตรสั ไวด้ แี ลว้ ธมั มงั นะมสั สามิ ข้าพเจ้านมสั การพระธรรม (กราบ)
สวดมนต์ วดั สทุ ศั นเทพวราราม 255 สปุ ะฏปิ ันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆส์ าวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า, ปฏิบัติดีแล้ว สงั ฆงั นะมามิ ข้าพเจา้ นอบน้อมพระสงฆ์ (กราบ) ปุพพะภาคะนะมะการะ (หันทะ มะยงั พุทธสั สะ ภะคะวะโต ปพุ พะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เส ฯ) นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต ขอนอบนอ้ มแดพ่ ระผมู้ ีพระภาคเจา้ พระองค์นั้น อะระหะโต ซง่ึ เป็นผ้ไู กลจากกเิ ลส สัมมาสมั พุทธัสสะ ตรัสรชู้ อบไดโ้ ดยพระองค์เอง (กลา่ ว ๓ หน)
256 สวดมนต์ วดั สุทศั นเทพวราราม พุทธาภิถุติ (หันทะ มะยัง พทุ ธาภถิ ุตงิ กะโรมะ เส ฯ) โย โส ตะถาคะโต พระตถาคตเจา้ นั้น พระองค์ใด อะระหัง เปน็ ผไู้ กลจากกิเลส สัมมาสมั พุทโธ เปน็ ผู้ตรสั ร้ชู อบได้โดยพระองคเ์ อง วิชชาจะระณะสัมปันโน เป็นผถู้ ึงพรอ้ มดว้ ยวิชชาและจรณะ สุคะโต เป็นผไู้ ปแลว้ ด้วยดี โลกะวิทู เป็นผูร้ โู้ ลกอย่างแจม่ แจ้ง อะนุตตะโร ปุรสิ ะทัมมะสาระถิ เปน็ ผสู้ ามารถฝกึ บรุ ษุ ทส่ี มควรฝกึ ไดอ้ ยา่ งไมม่ ใี ครยงิ่ กวา่ สตั ถา เทวะมะนุสสานัง เป็นครูผูส้ อนของเทวดาและมนุษยท์ งั้ หลาย
สวดมนต์ วดั สทุ ศั นเทพวราราม 257 พทุ โธ เปน็ ผูร้ ู้ ผตู้ น่ื ผเู้ บกิ บานดว้ ยธรรม ภะคะวา เป็นผ้มู คี วามจ�ำเริญ จ�ำแนกธรรมสั่งสอนสตั ว์ โย อิมัง โลกัง สะเทวะกัง สะมาระกัง สะพ๎รัห๎มะกัง, สัสสะมะณะพ๎ราห๎มะณิง ปะชัง สะเทวะมะนุสสัง สะยัง อะภญิ ญา สจั ฉกิ ัต๎วา ปะเวเทสิ พระผมู้ พี ระภาคเจา้ พระองคใ์ ด, ไดท้ รงท�ำความดบั ทกุ ข์ ใหแ้ จง้ ดว้ ยพระปญั ญา อนั ดยี งิ่ เองแลว้ , ทรงสอนโลกน้ี พร้อมทั้งเทวดา, มาร, พรหม, และหมู่สัตว์พร้อมทั้ง สมณพราหมณ์, พรอ้ มท้ังเทวดาและมนษุ ย์ให้รตู้ าม โย ธมั มงั เทเสสิ พระผมู้ ีพระภาคเจ้าพระองคใ์ ด, ทรงแสดงธรรมแล้ว อาทกิ ัลย๎ าณงั ไพเราะในเบือ้ งตน้ มัชเฌกัลย๎ าณงั ไพเราะในท่ามกลาง ปะรโิ ยสานะกัล๎ยาณัง ไพเราะในท่ีสุด
258 สวดมนต์ วัดสุทัศนเทพวราราม สาตถัง สะพ๎ยัญชะนัง เกวะละปะริปุณณัง ปะริสุทธัง พร๎ ัห๎มะจะรยิ ัง ปะกาเสสิ ทรงประกาศพรหมจรรย์, คือแบบแห่งการปฏิบัติอัน ประเสริฐบริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง, พร้อมท้ังอรรถะ พรอ้ มทง้ั พยญั ชนะ ตะมะหงั ภะคะวนั ตัง อะภปิ ูชะยามิ ข้าพเจ้าบูชาอย่างยิ่งเฉพาะพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นน้ั ตะมะหงั ภะคะวันตงั สิระสา นะมามิ ข้าพเจ้านอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์น้ัน ด้วยเศียรเกล้า (กราบระลึกถึงพระพุทธคณุ )
สวดมนต์ วัดสุทัศนเทพวราราม 259 ธมั มาภิถุติ (หนั ทะ มะยัง ธมั มาภิถตุ งิ กะโรมะ เส ฯ) โย โส ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธมั โม พระธรรมนนั้ ใด, เปน็ สง่ิ ทพี่ ระผมู้ พี ระภาคเจา้ ไดต้ รสั ไว้ ดีแลว้ สันทิฏฐิโก เปน็ สง่ิ ทผ่ี ศู้ กึ ษาและปฏบิ ตั ิ พึงเหน็ ได้ดว้ ยตนเอง อะกาลโิ ก เป็นสิ่งท่ปี ฏิบตั ไิ ด้ และใหผ้ ลไดไ้ มจ่ �ำกดั กาล เอหปิ ัสสิโก เป็นสง่ิ ท่ีควรกลา่ วกบั ผ้อู ่นื วา่ ท่านจงมาดูเถิด โอปะนะยโิ ก เปน็ ส่ิงทค่ี วรน้อมเขา้ มาใส่ตัว ปจั จตั ตัง เวทติ ัพโพ วิญญหู ิ เป็นสิง่ ทีผ่ ้รู ู้กร็ ูไ้ ด้เฉพาะตน ตะมะหงั ธมั มงั อะภิปูชะยามิ ข้าพเจา้ บชู าอยา่ งยง่ิ เฉพาะพระธรรมน้ัน ตะมะหัง ธัมมงั สริ ะสา นะมามิ ข้าพเจา้ นอบน้อมพระธรรมนน้ั ดว้ ยเศียรเกล้า (กราบระลกึ ถึงพระธรรมคณุ )
260 สวดมนต์ วดั สทุ ศั นเทพวราราม สงั ฆาภถิ ตุ ิ (หันทะ มะยัง สงั ฆาภิถุตงิ กะโรมะ เส) โย โส สุปะฏิปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นหมู่ใด, ปฏิบัติ ดีแลว้ อุชุปะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สงฆส์ าวกของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ หมใู่ ด, ปฏบิ ตั ติ รงแลว้ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด, ปฏิบัติเพ่ือ รู้ธรรมเป็นเคร่อื งออกจากทกุ ขแ์ ลว้ สามีจปิ ะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด, ปฏิบัติ สมควรแลว้ ยะทิทัง ได้แก่บคุ คลเหล่านคี้ ือ จัตตาริ ปรุ ิสะยุคานิ อัฏฐะ ปุรสิ ะปคุ คะลา ค่แู หง่ บุรุษสีค่ ู่ นบั เรยี งตัวบุรษุ ได้แปดบรุ ุษ เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ น่นั แหละสงฆส์ าวกของพระผมู้ พี ระภาคเจา้
สวดมนต์ วดั สทุ ศั นเทพวราราม 261 อาหเุ นยโย เป็นสงฆค์ วรแก่สักการะทเ่ี ขาน�ำมาบชู า ปาหุเนยโย เป็นสงฆค์ วรแก่สกั การะท่เี ขาจัดไวต้ อ้ นรบั ทักขเิ ณยโย เปน็ ผู้ควรรบั ทกั ษณิ าทาน อญั ชะลกี ะระณโี ย เป็นผู้ท่ีบคุ คลทั่วไปควรท�ำอัญชลี อะนุตตะรัง ปญุ ญักเขตตัง โลกสั สะ เปน็ เนอ้ื นาบญุ ของโลก, ไม่มีนาบุญอืน่ ย่ิงกวา่ ตะมะหงั สงั ฆัง อะภปิ ูชะยามิ ข้าพเจา้ บชู าอย่างยงิ่ เฉพาะพระสงฆห์ มู่น้นั ตะมะหงั สังฆัง สิระสา นะมามิ ข้าพเจ้านอบนอ้ มพระสงฆห์ ม่นู ั้นดว้ ยเศียรเกล้า (กราบระลึกถงึ พระสังฆคณุ )
262 สวดมนต์ วัดสุทศั นเทพวราราม ระตะนัตตะยปั ปะณามะคาถา (หันทะ มะยงั ระตะนตั ตะยัปปะณามะคาถาโย เจวะ สังเวคะปะรกิ ิตตะนะปาฐัญจะ ภะณามะ เส) พทุ โธ สุสุทโธ กะรุณามะหณั ณะโว พระพทุ ธเจ้าผู้บรสิ ทุ ธิ์ มพี ระกรณุ าดุจหว้ งมหรรณพ โยจจันตะสทุ ธัพพะระญาณะโลจะโน พระองค์ใด มีตาคือญาณอันประเสริฐหมดจดถงึ ทีส่ ุด โลกสั สะ ปาปปู ะกเิ ลสะฆาตะโก เป็นผู้ฆา่ เสียซ่งึ บาป และอปุ กิเลสของโลก วันทามิ พทุ ธงั อะหะมาทะเรนะ ตงั ขา้ พเจา้ ไหวพ้ ระพทุ ธเจา้ พระองคน์ น้ั โดยใจเคารพเออ้ื เฟอ้ื ธัมโม ปะทีโป วยิ ะ ตัสสะ สตั ถโุ น พระธรรมของพระศาสดา สวา่ งรงุ่ เรอื งเปรยี บดวงประทปี โย มคั คะปากามะตะเภทะภินนะโก จ�ำแนกประเภทคอื มรรค ผล นพิ พาน, สว่ นใด โลกตุ ตะโร โย จะ ตะทตั ถะทีปะโน ซง่ึ เปน็ ตวั โลกตุ ตระ, และสว่ นใดทชี่ แ้ี นวแหง่ โลกตุ ตระนนั้ วนั ทามิ ธมั มัง อะหะมาทะเรนะ ตัง ขา้ พเจ้าไหว้พระธรรมนนั้ โดยใจเคารพเออ้ื เฟ้อื
สวดมนต์ วดั สุทศั นเทพวราราม 263 สังโฆ สเุ ขตตาภ๎ยะตเิ ขตตะสญั ญโิ ต พระสงฆเ์ ปน็ นาบญุ อนั ยงิ่ ใหญก่ วา่ นาบญุ อนั ดที งั้ หลาย โย ทิฏฐะสันโต สคุ ะตานุโพธะโก เป็นผเู้ หน็ พระนพิ พาน, ตรัสรู้ตามพระสุคต, หมู่ใด โลลปั ปะหีโน อะรโิ ย สุเมธะโส เป็นผู้ละกเิ ลสเครอ่ื งโลเล เปน็ พระอรยิ เจา้ มีปัญญาดี วันทามิ สงั ฆัง อะหะมาทะเรนะ ตงั ข้าพเจ้าไหวพ้ ระสงฆห์ มูน่ ัน้ โดยใจเคารพเอือ้ เฟือ้ อิจเจวะเมกันตะภิปูชะเนยยะกัง, วัตถุตตะยัง วันทะยะ- ตาภิสังขะตัง, ปุญญัง มะยา ยัง มะมะ สัพพุปัททะวา, มา โหนตุ เว ตสั สะ ปะภาวะสิทธิยา บญุ ใดทขี่ า้ พเจา้ ผไู้ หวอ้ ยซู่ ง่ึ วตั ถสุ าม, คอื พระรตั นตรยั อนั ควรบชู ายง่ิ โดยสว่ นเดยี ว, ไดก้ ระท�ำแลว้ เปน็ อยา่ งยง่ิ เชน่ น้ี นี้, ขออุปทั วะทง้ั หลาย, จงอยา่ มแี ก่ขา้ พเจ้าเลย, ด้วยอ�ำนาจ ความส�ำเร็จอนั เกิดจากบญุ น้นั
264 สวดมนต์ วัดสุทัศนเทพวราราม อธิ ะ ตะถาคะโต โลเก อุปปันโน พระตถาคตเจ้าเกิดขึน้ แลว้ ในโลกนี้ อะระหัง สมั มาสมั พทุ โธ เป็นผูไ้ กลจากกเิ ลส, ตรัสรชู้ อบไดโ้ ดยพระองค์เอง ธมั โม จะ เทสโิ ต นิยยานิโก และพระธรรมทท่ี รงแสดง เปน็ ธรรมเครอื่ งออกจากทกุ ข์ อปุ ะสะมิโก ปะรินิพพานิโก เปน็ เครื่องสงบกิเลส, เปน็ ไปเพ่ือปรินิพพาน สมั โพธะคามี สคุ ะตปั ปะเวทโิ ต เปน็ ไปเพอ่ื ความรพู้ รอ้ ม, เปน็ ธรรมทพ่ี ระสคุ ตประกาศ มะยนั ตงั ธัมมงั สตุ ว๎ า เอวงั ชานามะ พวกเราเมือ่ ได้ฟังธรรมน้ันแล้ว, จึงได้รอู้ ยา่ งนี้ว่า ชาตปิ ิ ทกุ ขา แมค้ วามเกิดกเ็ ปน็ ทุกข์ ชะราปิ ทุกขา แม้ความแกก่ เ็ ป็นทกุ ข์ มะระณมั ปิ ทุกขงั แม้ความตายกเ็ ป็นทกุ ข์
สวดมนต์ วดั สทุ ัศนเทพวราราม 265 โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนสั สุปายาสาปิ ทกุ ขา แม้ความโศก ความร่�ำไรร�ำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ กเ็ ป็นทกุ ข์ อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข ความประสบกับสงิ่ ไม่เปน็ ทีร่ กั ท่พี อใจ ก็เป็นทุกข์ ปิเยหิ วปิ ปะโยโค ทุกโข ความพลดั พรากจากสง่ิ เป็นที่รักทพ่ี อใจ กเ็ ปน็ ทุกข์ ยมั ปิจฉงั นะ ละภะติ ตัมปิ ทกุ ขงั มีความปรารถนาสิ่งใดไม่ไดส้ ่งิ นั้น กเ็ ปน็ ทกุ ข์ สังขติ เตนะ ปัญจปุ าทานักขนั ธา ทุกขา ว่าโดยย่ออุปาทานขันธ์ทัง้ ห้า เปน็ ตัวทุกข์ เสยยะถที งั ได้แก่ส่ิงเหลา่ นค้ี ือ รปู ูปาทานกั ขนั โธ ขันธอ์ นั เปน็ ท่ตี ง้ั แหง่ ความยึดมั่นคอื รปู เวทะนปู าทานกั ขันโธ ขนั ธอ์ ันเปน็ ทต่ี งั้ แหง่ ความยึดม่นั คือ เวทนา สญั ญปู าทานกั ขันโธ ขันธอ์ นั เปน็ ทต่ี ้ังแหง่ ความยดึ มนั่ คือ สัญญา
266 สวดมนต์ วัดสุทศั นเทพวราราม สงั ขารปู าทานกั ขนั โธ ขนั ธอ์ ันเปน็ ทตี่ ้งั แห่งความยดึ มน่ั คอื สงั ขาร วิญญาณูปาทานกั ขันโธ ขันธ์อันเป็นท่ตี ัง้ แห่งความยึดม่นั คือ วิญญาณ เยสงั ปะรญิ ญายะ เพื่อใหส้ าวกก�ำหนดรอบรูอ้ ุปาทานขนั ธเ์ หล่านี้เอง ธะระมาโน โส ภะคะวา จึงพระผู้มพี ระภาคเจ้านน้ั เมื่อยังทรงพระชนม์อยู่ เอวัง พะหลุ ัง สาวะเก วเิ นติ ย่อมทรงแนะน�ำสาวกทัง้ หลาย เช่นนเ้ี ป็นสว่ นมาก เอวงั ภาคา จะ ปะนสั สะ ภะคะวะโต สาวะเกสุ อะนสุ าสะนี พะหุลา ปะวัตตะติ อนงึ่ ค�ำสงั่ สอนของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ นน้ั , ยอ่ มเปน็ ไป ในสาวกทงั้ หลาย, สว่ นมาก, มสี ว่ นคอื การจ�ำแนกอยา่ งนว้ี า่ รูปัง อะนิจจงั รปู ไมเ่ ทีย่ ง เวทะนา อะนิจจา เวทนาไมเ่ ท่ยี ง
สวดมนต์ วดั สุทศั นเทพวราราม 267 สัญญา อะนจิ จา สัญญาไมเ่ ทย่ี ง สงั ขารา อะนจิ จา สงั ขารไมเ่ ทยี่ ง วิญญาณงั อะนิจจงั วญิ ญาณไมเ่ ทีย่ ง รปู งั อะนัตตา รปู ไม่ใช่ตวั ตน เวทะนา อะนัตตา เวทนาไมใ่ ชต่ ัวตน สัญญา อะนตั ตา สัญญาไม่ใชต่ วั ตน สังขารา อะนัตตา สังขารไมใ่ ช่ตัวตน วญิ ญาณงั อะนตั ตา วิญญาณไม่ใชต่ วั ตน สพั เพ สงั ขารา อะนจิ จา สงั ขารทัง้ หลายทงั้ ปวงไมเ่ ท่ยี ง
268 สวดมนต์ วดั สุทศั นเทพวราราม สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ธรรมทงั้ หลายทง้ั ปวงไม่ใชต่ ัวตนดงั นี้ เต (ตา) มะยัง โอติณณามห๎ ะ พวกเราทัง้ หลาย เปน็ ผู้ถูกครอบง�ำแลว้ ชาตยิ า โดยความเกิด ชะรามะระเณนะ โดยความแก่และความตาย โสเกหิ ปะรเิ ทเวหิ ทกุ เขหิ โทมะนัสเสหิ อปุ ายาเสหิ โดยความโศก ความร�่ำไรร�ำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจทงั้ หลาย ทกุ โขติณณา เปน็ ผถู้ ูกความทุกขห์ ย่ังเอาแลว้ ทุกขะปะเรตา เปน็ ผู้มีความทุกขเ์ ป็นเบ้ืองหนา้ แลว้ อปั เปวะนามิมสั สะ เกวะลสั สะ ทุกขักขนั ธสั สะ อนั ตะกิริยา ปญั ญาเยถาติ ท�ำไฉน การท�ำทส่ี ดุ แหง่ กองทกุ ขท์ งั้ สนิ้ น,ี้ จะพงึ ปรากฏ ชดั แก่เราได้
สวดมนต์ วัดสุทศั นเทพวราราม 269 ส�ำหรับพระภกิ ษุ - สามเณรสวด จิระปะรินิพพุตัมปิ ตัง ภะคะวันตัง อุททิสสะ อะระหันตัง สมั มาสมั พุทธัง เราทงั้ หลายอทุ ศิ เฉพาะพระผมู้ พี ระภาคเจา้ , ผไู้ กลจาก กิเลส, ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง, แม้ปรินิพพาน นานแลว้ พระองคน์ ้ัน สัทธา อะคารสั ๎มา อะนะคาริยัง ปัพพะชติ า เปน็ ผมู้ ศี รทั ธาออกบวชจากเรอื นไมเ่ กย่ี วขอ้ งดว้ ยเรอื นแลว้ ตสั ม๎ งิ ภะคะวะติ พ๎รหม๎ ะจะริยัง จะรามะ ประพฤติอยู่ซ่ึงพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองคน์ ้นั ภิกขนู งั สกิ ขาสาชวี ะสมาปนั นา ถึงพร้อมด้วยสิกขาและธรรมเป็นเครื่องเล้ียงชีวิต ของภิกษทุ ง้ั หลาย ตงั โน พร๎ หั ม๎ ะจะริยงั อมิ สั สะ เกวะลัสสะ ทุกขักขนั ธัสสะ อันตะกิรยิ ายะ สังวตั ตะตุ ขอให้พรหมจรรย์ของเราทั้งหลายนั้น, จงเป็นไปเพื่อ การท�ำทสี่ ดุ แห่งกองทุกข์ทง้ั สิ้นนเ้ี ทอญ ฯ
270 สวดมนต์ วดั สุทัศนเทพวราราม ส�ำหรับอุบาสก, อบุ าสิกาสวด จิระปะรินพิ พุตมั ปิ ตงั ภะคะวันตงั สะระณัง คะตา เราทง้ั หลาย ผู้ถงึ แลว้ ซง่ึ พระผูม้ ีพระภาคเจ้า, แม้ปรนิ ิพพานนานแล้วพระองค์น้นั เปน็ สรณะ ธัมมญั จะ ภิกขสุ ังฆญั จะ ถึงพระธรรมด้วย ถึงพระสงฆ์ด้วย ตสั สะ ภะคะวะโต สาสะนงั ยะถาสะติ ยะถาพะลงั มะนะสิ- กะโรมะ อะนปุ ะฏิปชั ชามะ จักท�ำในใจอยู่ ปฏบิ ัติตามอยู่ ซงึ่ ค�ำสั่งสอนของพระผมู้ ี พระภาคเจา้ นน้ั ตามสติก�ำลงั สา สา โน ปะฏปิ ตั ติ ขอให้ความปฏิบตั ิน้ัน ๆ ของเราทัง้ หลาย อมิ สั สะ เกวะลสั สะ ทกุ ขกั ขนั ธสั สะ อนั ตะกริ ยิ ายะ สงั วตั ตะตุ จงเปน็ ไปเพอื่ การท�ำทสี่ ดุ แหง่ กองทกุ ขท์ ง้ั สนิ้ นี้ เทอญ ฯ จบทำ� วตั รเชา้ แปล
สวดมนต์ วัดสุทัศนเทพวราราม 271 ท�ำวตั รเยน็ แปล คำ� บูชาพระรัตนตรยั โย โส ภะคะวา อะระหงั สมั มาสัมพุทโธ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นพระองค์ใด, เป็นพระอรหันต์, ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง, ตรัสรู้ชอบได้โดย พระองค์เอง สว๎ ากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม พระธรรมเปน็ ธรรมอนั พระผมู้ พี ระภาคเจา้ พระองคใ์ ด, ตรัสไวด้ แี ล้ว สุปะฏปิ ันโน ยสั สะ ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด, ปฏบิ ัตดิ ีแลว้ ตัมมะยัง ภะคะวนั ตงั สะธัมมัง สะสังฆัง, อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหงั อาโรปิเตหิ อะภิปชู ะยามะ ขา้ พเจา้ ทง้ั หลาย, ขอบชู าอยา่ งยงิ่ ซง่ึ พระผมู้ พี ระภาคเจา้ พระองค์น้ัน, พร้อมท้ังพระธรรมและพระสงฆ์, ด้วย เครื่องสักการะท้ังหลายเหล่าน้ี, อันยกข้ึนตามสมควร แล้วอย่างไร
272 สวดมนต์ วัดสทุ ัศนเทพวราราม สาธุ โน ภนั เต ภะคะวา สุจิระปะรินพิ พโุ ตปิ ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ , พระผมู้ พี ระภาคเจา้ แมป้ รนิ พิ พาน นานแล้ว, ทรงสร้างคุณอันส�ำเร็จประโยชน์ไว้แก่ ข้าพเจา้ ท้งั หลาย ปัจฉมิ าชะนะตานุกมั ปะมานะสา ทรงมพี ระหฤทยั อนุเคราะหแ์ กพ่ วกขา้ พเจา้ อนั เปน็ ชน รุน่ หลัง อเิ ม สักกาเร ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏคิ คณั หาตุ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้า จงรับเคร่ืองสักการะอันเป็น บรรณาการของคนยากทั้งหลายเหล่าน้ี อัมหากัง ทฆี ะรัตตงั หติ ายะ สขุ ายะ เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้าท้ังหลาย ตลอดกาลนานเทอญฯ อะระหัง สมั มาสัมพุทโธ ภะคะวา พระผูม้ ีพระภาคเจา้ , เปน็ พระอรหนั ต,์ ดบั เพลงิ กเิ ลส เพลิงทกุ ข์ส้ินเชงิ , ตรัสรชู้ อบไดโ้ ดยพระองค์เอง พทุ ธัง ภะคะวนั ตงั อะภวิ าเทมิ ขา้ พเจา้ อภวิ าทพระผมู้ พี ระภาคเจา้ , ผรู้ ู้ ผตู้ น่ื ผเู้ บกิ บาน (กราบ)
สวดมนต์ วัดสุทศั นเทพวราราม 273 ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธมั โม พระธรรมเปน็ ธรรมทพี่ ระผมู้ พี ระภาคเจา้ , ตรสั ไวด้ แี ลว้ ธัมมัง นะมสั สามิ ขา้ พเจา้ นมัสการพระธรรม (กราบ) สปุ ะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์สาวกของพระผูม้ ีพระภาคเจา้ , ปฏิบตั ดิ แี ลว้ สังฆัง นะมามิ ขา้ พเจ้านอบน้อมพระสงฆ์ (กราบ) ปุพพะภาคะนะมะการ (หนั ทะ มะยงั พทุ ธสั สะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เส ฯ) นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจา้ พระองค์นน้ั อะระหะโต ซ่ึงเปน็ ผ้ไู กลจากกิเลส สัมมาสมั พทุ ธัสสะ ตรัสรชู้ อบได้โดยพระองคเ์ อง (กลา่ ว ๓ หน)
274 สวดมนต์ วัดสุทัศนเทพวราราม พทุ ธานุสสติ (หนั ทะ มะยงั พทุ ธานสุ สะตินะยงั กะโรมะ เส ฯ) ตัง โข ปะนะ ภะคะวันตัง เอวัง กัล๎ยาโณ กิตติสัทโท อัพภคุ คะโต ก็กิตติศัพท์อันงามของพระผู้มีพระภาคเจ้าน้ัน ได้ฟุ้ง ไปแล้วอย่างนีว้ ่า อิตปิ ิ โส ภะคะวา เพราะเหตุอย่างนี้ ๆ พระผมู้ พี ระภาคเจ้านัน้ อะระหงั เปน็ ผู้ไกลจากกเิ ลส สัมมาสมั พทุ โธ เปน็ ผูต้ รัสร้ชู อบได้โดยพระองคเ์ อง วชิ ชาจะระณะสมั ปันโน เปน็ ผถู้ งึ พร้อมด้วยวชิ ชาและจรณะ สุคะโต เป็นผูไ้ ปแล้วดว้ ยดี โลกะวทิ ู เป็นผ้รู ู้โลกอยา่ งแจ่มแจ้ง
สวดมนต์ วดั สุทัศนเทพวราราม 275 อะนตุ ตะโร ปุรสิ ะทมั มะสาระถิ เปน็ ผสู้ ามารถฝกึ บรุ ษุ ทสี่ มควรฝกึ ไดอ้ ยา่ งไมม่ ใี ครยง่ิ กวา่ สัตถา เทวะมะนสุ สานัง เป็นครูผูส้ อน ของเทวดาและมนุษย์ทัง้ หลาย, พทุ โธ เปน็ ผรู้ ู้ ผตู้ ืน่ ผ้เู บิกบานดว้ ยธรรม ภะคะวาติ เปน็ ผู้มคี วามจ�ำเรญิ จ�ำแนกธรรมส่งั สอนสัตว์ ดงั นี้ พุทธาภคิ ตี ิ (หนั ทะ มะยัง พุทธาภคิ ตี ิง กะโรมะ เส ฯ) พทุ ธ๎วาระหันตะวะระตาทคิ ณุ าภิยุตโต พระพุทธเจ้าประกอบด้วยคุณ, มีความประเสริฐแห่ง อรหันตคุณเป็นตน้ สุทธาภิญาณะกะรุณาหิ สะมาคะตัตโต มีพระองคอ์ นั ประกอบด้วยพระญาณ, และพระกรณุ า อนั บรสิ ทุ ธิ์ โพเธสิ โย สชุ ะนะตงั กะมะลงั วะ สูโร พระองค์ใดทรงกระท�ำชนท่ีดีให้เบิกบาน, ดุจอาทิตย์ ท�ำบัวใหบ้ าน
276 สวดมนต์ วดั สทุ ัศนเทพวราราม วนั ทามะหงั ตะมะระณัง สริ ะสา ชิเนนทงั ข้าพเจ้าไหว้พระชินสีห์ ผู้ไม่มีกิเลส พระองค์นั้น ด้วยเศียรเกลา้ พุทโธ โย สพั พะปาณนี งั สะระณงั เขมะมตุ ตะมงั พระพทุ ธเจ้าพระองคใ์ ด เป็นสรณะอนั เกษมสงู สุดของ สัตว์ท้งั หลาย ปะฐะมานสุ สะตฏิ ฐานัง วนั ทามิ ตัง สิเรนะหงั ข้าพเจา้ ไหว้พระพทุ ธเจา้ พระองคน์ ัน้ อนั เปน็ ที่ต้ังแห่ง ความระลกึ องคท์ ี่หนงึ่ ดว้ ยเศียรเกล้า พุทธสั สาหสั ม๎ ิ ทาโสวะ (ทาสีวะ) พทุ โธ เม สามกิ สิ สะโร ขา้ พเจา้ เปน็ ทาสของพระพทุ ธเจา้ , พระพทุ ธเจา้ เปน็ นาย มีอสิ ระเหนือขา้ พเจา้ พทุ โธ ทกุ ขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ หิตัสสะ เม พระพุทธเจ้าเป็นเครื่องก�ำจัดทุกข์, และทรงไว้ซ่ึง ประโยชน์แก่ข้าพเจ้า พุทธสั สาหัง นยิ ยาเทมิ สะรรี ญั ชีวิตัญจทิ งั ข้าพเจา้ มอบกายถวายชีวิตน้แี ด่พระพทุ ธเจ้า วนั ทนั โตหงั (วนั ทนั ตหี งั ) จะริสสามิ พทุ ธสั เสวะ สุโพธิตงั ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่จักประพฤติตาม, ซ่ึงความตรัสรู้ดี ของพระพุทธเจ้า
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332