๔๘ โครงสรา้ งรายหนว่ ยการเรยี นรู้ รายวิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชพี ๒ รหสั วชิ า ว๒๓๒๐๔ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ ชื่อหน่วย การใช้งานโปรแกรมนำเสนอเพ่ือการนำเสนอผลงานในงานอาชีพ เวลา ๘ ชว่ั โมง นำ้ หนักคะแนน ๒๐ คะแนน ผลการเรียนรู้ เวลาเรียน/ สาระการเรียนรู้ ช่วั โมง ๑. ใช้โปรแกรมนำเสนอผลงาน (Microsoft - ความรู้เบือ้ งตน้ เกี่ยวกับโปรแกรม PowerPoint) หรือใชโ้ ปรแกรมอื่น เพ่ือการ ๘ Microsoft PowerPoint นำเสนอผลงานในงานอาชีพ (๑-๗-0) - การเรยี กใชแ้ ละการปดิ โปรแกรม Microsoft PowerPoint - การสร้างงานนำเสนอโดยใช้ตัวชว่ ย สร้างเนอ้ื หาอัตโนมัติ (Templates) - การคดั ลอกข้อมูล (Copy) - การตัดข้อมูล (Cut) - การสรา้ งเส้นขอบตาราง (Border) - การผสานเซลลแ์ ละจัดกึ่งกลาง (Merge Cell) - การแทรกรูปภาพ (Insert Picture) - การทำพนื้ หลัง (Background) - การสร้างงานนำเสนอโดยใช้ธมี (Themes) - การเพิม่ สไลด์ใหม่ (New Slide) - การจดั พมิ พง์ านนำเสนอ (Print) การวัดผลประเมนิ ผลหนว่ ยท่ี ๑ กอ่ นสอบกลางภาค = ๑๖ คะแนน คะแนน สอบกลางภาค =๔ คะแนน คะแนน หลงั สอบกลางภาค = - สอบปลายภาค =- โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒
๔๙ โครงสรา้ งรายหน่วยการเรยี นรู้ รายวิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ ๒ รหัสวิชา ว๒๓๒๐๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๒ ช่ือหนว่ ย การประยุกต์ใช้งานโปรแกรมนำเสนอ เวลา ๑๐ ชวั่ โมง นำ้ หนักคะแนน ๒๐ คะแนน ผลการเรยี นรู้ เวลาเรียน/ สาระการเรียนรู้ ชั่วโมง ๑. ใชโ้ ปรแกรมนำเสนอผลงาน (Microsoft - การเพม่ิ ข้อความในสไลดโ์ ดยใชก้ ลอ่ ง PowerPoint) หรือใชโ้ ปรแกรมอ่ืน เพ่ือการ ๑๐ ข้อความ (Text Box) นำเสนอผลงานในงานอาชีพ (๐-1๐-0) - การกำหนดสตี ัวอักษร (Font Color) - การทำสัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อย (Bullets) - การแทรกอักษรศลิ ป์ (WordArt) - การทำพนื้ หลงั ของสไลด์ (BackgroundStyles) - การวาดวัตถโุ ดยการใชเ้ คร่ืองมอื รูปรา่ ง อตั โนมัติ (Shapes) - การแทรกรูปภาพ (Picture) - การแทรกแผนภูมิ (Chart) - การใส่เอฟเฟ็กตต์ อนเปลยี่ นสไลด์ (Slide Transition) - การทำให้ข้อความและวตั ถุเคลื่อนไหว - การกำหนดการเปลี่ยน (Transition) ให้สไลด์ - การกำหนดความเรว็ ในการฉายแสดง สไลด์ (Duration) - การเพมิ่ เสยี ง เสยี งคำบรรยาย และ ภาพยนตร์ไว้ในสไลด์ (Audio and Video) การวัดผลประเมินผลหนว่ ยที่ ก่อนสอบกลางภาค = ๑๖ คะแนน สอบกลางภาค = ๔ คะแนน หลงั สอบกลางภาค = - คะแนน สอบปลายภาค = - คะแนน โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒
๕๐ โครงสร้างรายหน่วยการเรียนรู้ รายวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชพี ๒ รหสั วิชา ว๒๓๒๐๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ ช่ือหน่วย การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ สืบคน้ ข้อมูลเพ่ืองานอาชพี และการสื่อสารข้อมูลสารสนเทศ เวลา ๖ ชว่ั โมง น้ำหนักคะแนน ๑๕ คะแนน ผลการเรยี นรู้ เวลาเรียน/ สาระการเรยี นรู้ ชว่ั โมง ๒. สืบคน้ ข้อมลู สารสนเทศในงานอาชพี โดยใช้ - ความเป็นมาของอนิ เทอร์เน็ต อินเทอรเ์ น็ต ๖ - ความสามารถของอนิ เทอร์เนต็ ๓. ส่อื สารขอ้ มลู สารสนเทศโดยใช้อนิ เทอรเ์ น็ต (๔-๒-0) - การเข้าเว็บไซต์ - การเช่ือมต่อ Wireless โดย Windows 10 - การเช่ือมต่อเขา้ สู่ระบบอนิ เทอรเ์ น็ต (www) - ทำความรู้จักกบั Mozilla Firefox - จดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) - หนา้ ที่และรูปแบบของโปรแกรมรับ–สง่ อ-ี เมล - เครือข่ายสงั คมออนไลน์ (Social Network) - ทำความรู้จกั กบั Facebook - ทวติ เตอร์ (Twitter) - การใช้งาน Microsoft Outlook - การเปิดใชง้ านโปรแกรม Microsoft Outlook - การสง่ จดหมาย (Send e−Mail) การวัดผลประเมนิ ผลหน่วยที่ กอ่ นสอบกลางภาค = ๘ คะแนน ๒ คะแนน สอบกลางภาค = ๓ คะแนน ๒ คะแนน หลงั สอบกลางภาค = สอบปลายภาค = โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒
๕๑ โครงสร้างรายหนว่ ยการเรียนรู้ รายวิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี ๒ รหสั วิชา ว๒๓๒๐๔ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๔ ช่ือหน่วย การสร้างเว็บเพจ เวลา ๑๒ ชวั่ โมง นำ้ หนักคะแนน ๓๐ คะแนน ผลการเรียนรู้ เวลาเรียน/ สาระการเรยี นรู้ ช่ัวโมง ๔. สร้างเว็บเพจผ่านโปรแกรมสร้างเว็บ - กระบวนการออกแบบและสรา้ งเว็บไซต์ (Dreamweaver) หรอื ใชโ้ ปรแกรมอื่น เพื่อการ ๑๒ - กระบวนการพฒั นาและเผยแพร่ นำเสนอข้อมูลผา่ นอินเตอร์เน็ต (๒-1๐-0) เว็บไซต์ - ภาษาและเคร่ืองมือท่ีใช้ในการสรา้ ง เว็บไซต์ - โปรแกรมที่ใชใ้ นการสร้างเว็บไซต์ - การใชภ้ าษา HTML เบ้ืองต้น - แนะนำโปรแกรม Adobe Dreamweaver - ความสามารถของโปรแกรม Adobe Dreamweaver - ส่วนประกอบต่าง ๆ ของ Adobe Dreamweaver - การสร้างเว็บไซตข์ ัน้ พน้ื ฐาน - การสรา้ ง บันทกึ และเปิดไฟลเ์ วบ็ เพจ - การเลือก Workspace ในการทำงาน และมุมมองการทำงาน - การแทรกขอ้ ความและจดั รูปแบบลงใน เวบ็ เพจ - การแทรกภาพ เสียงภาพเคล่อื นไหว ไฟลว์ ดิ ีโอ - การสร้างการเชอ่ื มโยง - การจัดเลยเ์ อาทด์ ว้ ยเฟรม - ประโยชน์ของการใชเ้ ฟรม - การสร้างเฟรมและการบันทึกเฟรม - การจดั การกบั เฟรม - การจดั เลยเ์ อาท์ด้วยตาราง โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒
๕๒ ผลการเรียนรู้ เวลาเรยี น/ สาระการเรยี นรู้ ชว่ั โมง - การตรวจสอบการเช่ือมโยงของเวบ็ เพจ การวัดผลประเมนิ ผลหน่วยที่ ก่อนสอบกลางภาค = - คะแนน สอบกลางภาค = - คะแนน หลังสอบกลางภาค = ๒๕ คะแนน สอบปลายภาค = ๕ คะแนน โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒
๕๓ โครงสร้างรายหนว่ ยการเรียนรู้ รายวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี ๒ รหสั วิชา ว๒๓๒๐๔ กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๕ ชื่อหนว่ ย ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีจรยิ ธรรมและความรบั ผดิ ชอบ ในการใช้คอมพิวเตอร์กบั ระบบสารสนเทศและงานอาชีพ เวลา ๔ ชว่ั โมง น้ำหนักคะแนน ๑๕ คะแนน ผลการเรียนรู้ เวลาเรียน/ สาระการเรียนรู้ ชวั่ โมง ๕. เข้าใจถึงผลกระทบของการใชเ้ ทคโนโลยี - การละเมิดสทิ ธิในทรัพย์สินทางปญั ญา สารสนเทศ ๔ ทเี่ ผยแพร่ทางอนิ เทอร์เน็ต ๖. มจี ริยธรรมและความรับผดิ ชอบในการใช้ (๔-๐-0) - อาชญากรรมคอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศในงานอาชพี - ประเภทของการกระทำความผิด - กฎหมายปกป้องสิทธผิ ลงานบน อนิ เทอร์เน็ต - การใช้กฎหมายในเว็บไซต์ - สถานภาพทางกฎหมายของลายมือชอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ - กฎหมายการธนาคารและการชำระเงิน อิเล็กทรอนกิ ส์ - พระราชบญั ญัตวิ ่าด้วยการกระทำ ความผดิ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 การวัดผลประเมินผลหน่วยที่ ก่อนสอบกลางภาค = - คะแนน สอบกลางภาค = - คะแนน หลงั สอบกลางภาค = ๑๒ คะแนน สอบปลายภาค = ๓ คะแนน โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒
๕๔ การออกแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้ แนวทางการจดั การเรียนรูท้ ี่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้เปล่ียนแปลงบทบาทของครูจากการเป็นผู้ชี้นำ ผถู้ ่ายทอดความรู้ไปเป็นผชู้ ่วยเหลือ อำนวยความสะดวกและส่งเสริมสนับสนุนนักเรียนโดยใช้วธิ ีการต่าง ๆ อย่างหลากหลายรูปแบบเพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการสร้างสรรค์ความรู้ และนำความรู้ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงไดน้ ำเสนอทฤษฎีและเทคนิควธิ กี ารเรียนการสอนตา่ ง ๆ มาเป็นแนวทางในการจดั การเรียนรู้ เชน่ การจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain Based Learning - BBL) ที่เป็นวิธีการจัดการ เรียนรูท้ ี่อิงผลวิจยั ทางประสาทวิทยา ซง่ึ ได้เสนอแนะไวว้ า่ ไดต้ ามธรรมชาติน้นั สมองเรียนรู้ไดอ้ ย่างไร โดยได้ กล่าวถึงสร้างที่แท้จริงของสมองและการทำงานของสมองมนุษย์ที่มีการปรับเปล่ียนไปตามขั้นตอนของการ พัฒนา ซงึ่ สามารถนำมาใชเ้ ป็นกรอบคดิ ของการสร้างสรรคก์ ารจดั การเรยี นรไู้ ด้อย่างมปี ระสิทธิภาพ การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem Based Learning - PBL) เป็นวิธีการ จัดการเรียนรู้ที่ใช้ปัญหาท่ีเกิดขึ้นเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ โดยให้ นักเรียนร่วมกันแก้ปัญหาภายใต้การแนะนำของผู้สอน ให้นักเรียนช่วยกันตั้งคำถามและช่วยกันค้นหา คำตอบ โดยอาจใช้ความรู้เดิมมาแก้ปัญหา หรือศึกษาค้นคว้าเพ่ิมเติมสำหรับการแก้ปัญหา นำข้อมูลท่ีได้ จากการค้นคว้ามาสรุปเป็นข้อมูลในการเก็บปัญหา แล้วช่วยกันประเมินการแก้ปัญหาเพ่ือใช้ในการเก็บ ปญั หาครัง้ ต่อไป สำหรับขนั้ ตอนการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้แบบพหุปัญญา (Multiple Intelligences) เป็นการพัฒนาองค์รวมของ นักเรียนท้ังสมองด้านซ้ายและสมองด้านขวา บนพ้ืนฐานความสามารถและสติปัญญาท่ีแตกต่างกันของแต่ ละบุคคล มุ่งหมายจะให้นักเรียนสามารถแก้ปัญหาหรือสร้างสรรค์ส่ิงต่าง ๆ ภายใต้ความหลากหลายของ วัฒนธรรมหรอื สภาพแวดลอ้ ม การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ(Cooperative learning) เป็นจากการจัดสถานการณ์และ บรรยากาศให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ร่วมกันฝึกให้นักเรียนท่ีมีลักษณะทางสติปัญญาและความร่วมมือกัน ทำงานเป็นกลุ่มรว่ มกันศึกษาคน้ คว้า การจัดการเรียนรู้แบบใช้หมวกความคิด 6 ใบ (Six thinking Hats) ให้นักเรียนฝึกต้ังคำถาม และตอบคำถามท่ีใช้ความคิดในลักษณะต่าง ๆ โดยสามารถอธิบายเหตุผลประกอบหรอื วิเคราะห์วจิ ารณ์ได้ การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการแก้ปัญหา(Problem Solving ) เป็นการฝึกให้นักเรียน เรียนรู้จากการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยการทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา ดำเนินการแก้ปัญหา และตรวจสอบหรอื มองยอ้ นหลงั การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Work) ซ่ึงเป็นวิธีการจัดการเรียนรู้รูปแบบหนึ่งที่ ส่งเสรมิ ใหน้ กั เรยี นเรียนรู้ด้วยตนเองจากการลงมอื ปฏิบตั ิ โดยใชก้ ระบวนการแสวงหาความรู้หรือคน้ ควา้ หา คำตอบในสงิ่ ที่ผเู้ รยี นอยากรูห้ รือสงสัยด้วยวธิ กี ารต่างกันอย่างหลากหลาย โรงเรยี นบ้านทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒
๕๕ การจัดการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติ (Active learning) ให้นักเรียนได้ทดลองทำด้วยตนเอง เพ่ือ จะได้เรยี นรู้ข้ันตอนของงาน รจู้ กั วธิ แี ก้ปัญหาในการทำงาน การจัดการเรียนรู้แบบสรา้ งผังความคดิ (Concept Mapping) เป็นการสอนดว้ ยวิธีการจดั กลุ่ม ความคดิ รวบยอด เพือ่ ให้เหน็ ความสัมพนั ธก์ นั ระหว่างความคิดหลักและความคดิ รองลงไป โดยนำเสนอเป็น ภาพหรอื เปน็ ผัง การจัดการเรียนรู้จากประสบการณ์ (Experience learning) เป็นการจัดกิจกรรมหรือจัด ประสบการณ์ให้นักเรียนเกิดการเรยี นรู้จากการปฏิบัติ เรียกกระตุ้นให้นักเรียนพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เจตคติ ใหม่ ๆ หรอื วิธกี ารคิดใหม่ ๆ การเรียนรู้โดยการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) เป็นการจัดกิจกรรมท่ีให้นักเรียนได้ แสดงบทบาทในสถานการณ์ท่ีสมมติขึ้น โดยอาจกำหนดให้แสดงบทบาทสมมติที่เป็นพฤติกรรมของบุคคล อน่ื หรือแสดงพฤติกรรมในบทบาทของตนเองในสถานการณ์ตา่ ง ๆ การจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมสะเต็มศึกษา (STEM Education) เป็นการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ที่บูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์เข้าด้วยกัน เพื่อให้นักเรียน ได้วางตัวเองคิดค้น วิเคราะห์ ออกแบบ สร้างชิ้นงานและปรับปรุงแก้ไข เพ่ือให้เกิดการเรียนรู้แบบบูรณา การ นำความรไู้ ปประยุกตใ์ ชใ้ นการแกป้ ญั หา และการสร้างชน้ิ งานทเ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ การดำรงชวี ติ โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒
๕๖ การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม วิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ือ งานอาชพี กลมุ่ สาระวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ให้นกั เรยี นถือปฏบิ ัติดังนี้ 1. แจ้งใหน้ ักเรยี นทราบผลการเรียนรู้ วิธีการวัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารผ่านผลการเรียนรู้มี ดังน้ี รายวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ ๑ รหสั วชิ า ว๒๓๒๐๓ กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยการ ผลการเรยี นรู้ วธิ ีการและเครอื่ งมือ คะแนน เกณฑก์ าร เรียนรู้ ประเมนิ เตม็ ผา่ น 1 ๑. มีความร้คู วามเขา้ ใจเกีย่ วกับ 1. แบบประเมนิ ๘ ได้คะแนน ๕ หลกั การและกระบวนการใช้ (ใบงาน/ใบกิจกรรม/ผลงาน) คะแนนขน้ึ ไป คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ ไดค้ ะแนน ๑ คะแนนขึ้นไป ๒. ประยุกตใ์ ช้คอมพวิ เตอร์และ 2. แบบวัดผลกลางภาคเรยี น ๒ ระบบสารสนเทศเพื่องานอาชพี 2 ๓.ใช้ระบบปฏิบตั ิการในการจัด 1. แบบประเมิน ๑๓ ไดค้ ะแนน ๘ สภาพแวดลอ้ มและจัดสรรทรัพยากร (ใบงาน/ใบกิจกรรม/ผลงาน) คะแนนขน้ึ ไป ต่าง ๆ บนเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์และบน 2. แบบวดั ผลกลางภาคเรยี น ๒ ไดค้ ะแนน ๑ คะแนนขึน้ ไป โทรศพั ท์มือถอื 3 ๔. ใช้โปรแกรมประมวลผลคำ 1. แบบประเมนิ ๑๒ ไดค้ ะแนน ๗ คะแนนขึ้นไป (Microsoft Word) หรอื ใช้โปรแกรม (ใบงาน/ใบกิจกรรม/ผลงาน) อืน่ เพ่ือจดั ทำเอกสารในงานอาชีพ ๓ ไดค้ ะแนน ๔ 2. แบบวัดผลกลางภาคเรียน คะแนนขึ้นไป 4 ๔. ใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำ 1. แบบประเมิน ๑๔ ไดค้ ะแนน ๘ คะแนนขน้ึ ไป (Microsoft Word) หรอื ใชโ้ ปรแกรม (ใบงาน/ใบกจิ กรรม/ผลงาน) อ่ืน เพื่อจัดทำเอกสารในงานอาชพี ๓ ได้คะแนน ๒ ๒. แบบวัดผลกลางภาคเรียน คะแนนขึ้นไป ๓. แบบวัดผลปลายภาค ๓ ไดค้ ะแนน ๒ เรียน คะแนนข้ึนไป 5 ๕.ใช้โปรแกรมตารางงาน 1. แบบประเมิน ๑๗ ได้คะแนน ๑๐ คะแนนขนึ้ ไป (Microsoft Excel) หรือใช้โปรแกรม (ใบงาน/ใบกิจกรรม/ผลงาน) อ่ืน เพ่ือการคำนวณในงานอาชพี 2. แบบวัดผลปลายภาค ๓ ได้คะแนน ๒ โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒
๕๗ หน่วยการ ผลการเรยี นรู้ วิธกี ารและเครอื่ งมือ คะแนน เกณฑ์การ เรียนรู้ ประเมนิ เตม็ ผ่าน เรยี น คะแนนขน้ึ ไป ๖ ๕.ใชโ้ ปรแกรมตารางงาน 1. แบบประเมนิ ๑๖ ไดค้ ะแนน ๑๐ คะแนนขน้ึ ไป (Microsoft Excel) หรอื ใชโ้ ปรแกรม (ใบงาน/ใบกจิ กรรม/ผลงาน) อ่นื เพ่ือการคำนวณในงานอาชีพ 2. แบบวดั ผลลางภาคเรยี น ๔ ไดค้ ะแนน 3 คะแนนขนึ้ ไป รวม 100 รายวชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี ๒ รหสั วิชา ว๒๓๒๐๔ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยการ ผลการเรียนรู้ วิธีการและเครอ่ื งมือ คะแนน เกณฑก์ ารผา่ น เรียนรู้ ประเมิน เต็ม 1 ๑. ใช้โปรแกรมนำเสนอผลงาน 1. แบบประเมิน ๑๖ ได้คะแนน ๑๐ (Microsoft PowerPoint) หรือใช้ (ใบงาน/ใบกจิ กรรม/ผลงาน) คะแนนขน้ึ ไป โปรแกรมอื่น เพือ่ การนำเสนอผลงาน 2. แบบวัดผลกลางภาคเรียน ๔ ได้คะแนน ๒ คะแนนขึ้นไป ในงานอาชีพ 2 ๑. ใชโ้ ปรแกรมนำเสนอผลงาน 1. แบบประเมนิ ๑๖ ได้คะแนน ๑๐ (Microsoft PowerPoint) หรือใช้ (ใบงาน/ใบกิจกรรม/ผลงาน) คะแนนขนึ้ ไป โปรแกรมอื่น เพอื่ การนำเสนอผลงาน 2. แบบวัดผลกลางภาคเรียน ๔ ไดค้ ะแนน ๒ คะแนนขึ้นไป ในงานอาชีพ 3 ๒. สืบค้นข้อมูลสารสนเทศในงาน 1. แบบประเมิน ๑๑ ได้คะแนน ๗ อาชีพโดยใช้อินเทอรเ์ น็ต (ใบงาน/ใบกิจกรรม/ผลงาน) คะแนนขึน้ ไป ๓. สื่อสารขอ้ มูลสารสนเทศโดยใช้ 2. แบบวัดผลกลางภาคเรียน ๒ ได้คะแนน ๑ อินเทอรเ์ นต็ คะแนนข้นึ ไป ๓. แบบวัดผลปลายภาคเรียน ๒ ไดค้ ะแนน ๑ คะแนนขนึ้ ไป 4 ๔. สร้างเว็บเพจผา่ นโปรแกรมสรา้ งเว็บ 1. แบบประเมนิ ๒๕ ได้คะแนน ๑๕ (Dreamweaver) หรอื ใชโ้ ปรแกรมอื่น (ใบงาน/ใบกิจกรรม/ผลงาน) คะแนนข้นึ ไป โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒
๕๘ หนว่ ยการ ผลการเรยี นรู้ วิธีการและเครือ่ งมือ คะแนน เกณฑ์การผ่าน เรยี นรู้ ประเมิน เต็ม เพ่อื การนำเสนอข้อมูลผ่านอินเตอรเ์ น็ต ๒. แบบวดั ผลปลายภาคเรียน ๕ ไดค้ ะแนน ๓ คะแนนขึน้ ไป 5 ๕. เขา้ ใจถงึ ผลกระทบของการใช้ 1. แบบประเมนิ ๑๒ ไดค้ ะแนน ๗ เทคโนโลยสี ารสนเทศ (ใบงาน/ใบกจิ กรรม/ผลงาน) คะแนนขึ้นไป ๖. มีจรยิ ธรรมและความรบั ผดิ ชอบใน ไดค้ ะแนน ๒ การใช้คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศใน 2. แบบวดั ผลปลายภาคเรียน ๓ คะแนนข้นึ ไป งานอาชีพ รวม 100 2. แจ้งให้นักเรียนทราบคุณลักษณะพึงประสงค์ของโรงเรียน วิธีการประเมินผลและเกณฑ์การ ตัดสิน โดยนักเรียนมีพฤติกรรมในแต่ละคุณลักษณะอันพึ่งประสงค์ท่ีกำหนด และผ่านการประเมินอย่าง ต่อเนื่องท้ังในและนอกหอ้ งเรียนและมีผลการประเมินในระดบั “ดีเย่ยี ม” “ด”ี และ “ผา่ น” ดงั น้ี ดีเยย่ี ม หมายถงึ ผู้เรยี นมีคณุ ลักษณะในการปฏิบตั ิจนเป็นนิสัย และนำไปใชใ้ น ชีวิตประจำวันเพ่ือประโยชนส์ ุขของตนเองและชมุ ชน ดี หมายถึง ผู้เรยี นมคี ุณลักษณะในการปฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑ์เพื่อให้เป็นที่ ยอมรับของสงั คม ผา่ น หมายถึง ผู้เรียนรบั รู้และปฏบิ ัติตามกฎเกณฑ์เงือ่ นไขทกี่ ำหนด 3. แจ้งให้นักเรียนทราบมาตรฐานการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน วธิ ีการประเมินและเกณฑ์การ ตัดสินโดยนักเรียนมีมาตรฐานการอ่านคิดวิเคราะห์ผ่านการประเมินอย่างต่อเน่ือง และหรือ การประเมิน ปลายปี/ภาค และมผี ลการประเมิน ในระดบั “ดีเย่ยี ม” “ดี” และ “ผา่ น” ดงั น้ี ดเี ยี่ยม หมายถงึ มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และ เขียน ที่ มคี ุณภาพดเี ลิศอยเู่ สมอ ดี หมายถงึ มผี ลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และ เขยี น ที่ มคี ุณภาพเป็นที่ยอมรับ ผา่ น หมายถงึ มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และ เขียน ท่ี มขี ้อบกพร่องบางประการ 4. ก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ครูผู้สอนจะต้องประเมินผลก่อนเรียน เพ่ือตรวจสอบ ความรู้พื้ นฐ านแล ะทักษะเบื้องต้นของผู้เรียนโดยก่อนจัดกิจกรรมการเรียนการส อนค รูผู้ ส อนจะต้ อง ตรวจสอบความร้ทู ักษะและความรู้ต่าง ๆ ของผู้เรียนทเี่ ป็นพน้ื ฐานของเร่ืองใหม่ๆ ด้วยวิธกี ารทห่ี ลากหลาย และเหมาะสม โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒
๕๙ 5. ระหว่างจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ให้ผู้สอนประเมินผลการเรียนของนักเรียนเป็นระยะ ๆ เพ่ือตรวจสอบพัฒนาการของนักเรียนว่าบรรลุผลมาตรฐาน / ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ ตามท่ีกำหนดไว้ใน แผนการจัดการเรียนรู้ เมื่อมีนักเรียนไม่ผ่านการประเมินให้ครูจัดกิจกรรมสอนซ่อมเสริมหรือพัฒนาอย่าง ตอ่ เน่ืองและประเมนิ จนกวา่ จะผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ตามท่ีโรงเรยี นกำหนด 6. ใช้ตัวเลขแสดงผลการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ โดยนำผลการประเมินระหว่างเรียนรวมกับคะแนน ประเมินปลายปี/ภาค ตามสัดส่วนที่โรงเรียนกำหนด แล้วนำมาเปล่ียนเป็นระดับผลการเรียนโดยใช้ตัวเลข แสดงระดบั ผลการเรียน 8 ระดับคือ “4” “3.5” “3” “2.5” “2” “1.5” “1” “0” ดงั น้ี ระดับผลการเรยี น ความหมาย ช่วงคะแนน 4 ดเี ยย่ี ม 80 - 100 3.5 ดมี าก 75 - 79 3 70 – 74 2.5 ดี 65 - 69 2 ค่อนข้างดี 60 – 64 1.5 ปานกลาง 55 - 59 1 50 – 54 0 พอใช้ 0 - 49 ผ่านเกณฑ์ขน้ั ต่ำ ต่ำกว่าเกณฑ์ 7. ให้ใช้คำวา่ “ดเี ยีย่ ม” “ด”ี และ “ผ่าน” ในการประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ และ การประเมินความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น สำหรบั การประเมินในแตล่ ะรายวชิ า โรงเรยี นบ้านทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต ๒
๖๐ ส่ือและแหลง่ เรียนรู้ ในการจัดการเรียนรู้ทุกรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้สอนและ ผเู้ รียนสามารถศึกษาหาความรู้ หรอื เรยี นรู้จากแหลง่ เรียนรดู้ ังนี้ ๑. หอ้ งสมุดโรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด ๒. หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด ๓. ศูนยบ์ ริการ USO-NET ๔. วิทยากรหนว่ ยงานภาครฐั และภาคเอกชน ๕. ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ปราชญ์ชาวบ้านท่ีมีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ ประสบ ความสำเรจ็ ในงาน อาชีพทมี่ ีอยใู่ นชุมชนทอ้ งถิน่ ผูน้ ำชมุ ชน ฯลฯ ๖. สถานประกอบการต่าง ๆ สถานประกอบการวิชาชีพอิสระ โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม หน่วยงานวิจัยในท้องถิ่น ร้านค้า ศูนย์บริการต่างๆ ซึ่งให้บริการความรู้ ฝึกอบรมเก่ียวกับงานและวิชาชีพ ท่มี อี ยใู่ นชุมชนท้องถน่ิ ๗. ส่อื สง่ิ พิมพต์ ่าง ๆ เช่น แผ่นพับ วารสาร หนังสอื อ้างอิง หนงั สือพมิ พ์ ๘. ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เช่น อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พิพิธภัณฑ์ สวนพฤกษศาสตร์ ๙. ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ แอปพลิเคชัน หนังสือ อเิ ล็กทรอนิกส์ โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒
๖๑ ภาคผนวก โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒
๖๒ คณะผู้จดั ทำ หลักสูตรรายวชิ าเพิ่มเตมิ คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชพี กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด อำเภอสวี จังหวดั ชุมพร ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ 1. นางสาวมยรุ ี เดชธานี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทงุ่ คาโตนด 2. นางสาวสุจริ า ศรปี าน หวั หน้างานบรหิ ารวิชาการ 3. นางสาวกนกอร คงแก้ว หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4. นายสรชาย โชตจติ ตะ ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5. นางสาวสภุ าพร เทพพทิ ักษ์ ครู กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 6. นางสาววรรณา อ่ำศรี ครู กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 7. ว่าที่ร้อยตรหี ญงิ ชนิกา ประเสรฐิ กุล ครู กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒
โรงเรยี นบา้ นทุง่ คาโตนด สานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
Search