บทท่ี 1 บทนำ ควำมเปน็ มำและควำมสำคญั ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหำ มีพื้นที่ส่วนใหญ่ทำกำรเกษตรเช่นกำรทำนำทำไร่และปลูกผัก หลังจำกกำรเก็บเกี่ยวผลผลิตทำงกำรเกษตรมีกำรประกอบอำชีพเสริม เพิ่มรำยได้ให้กับคนในชุมชนตำบลดง มะไฟ อำเภอสุวรรณคูหำ เป็นอีกตำบล ท่ีประชำชนใช้เวลำว่ำงหลังจำกกำรเก็บเกี่ยวผลผลิตทำงกำรเกษตร โดยกำรรวมกลุ่มกันประกอบอำชีพเสริม ได้แก่กำรทำแจ่วบองสมุนไพร ที่มีกำรทำอยู่ในชุมชน ที่มีกรรมวิธี กำรผลิตจำกภมู ิปัญญำชำวบำ้ นดงมะไฟ ตำบลดงมะไฟ เป็นกำรสร้ำงมูลค่ำของสินค้ำท่ีมีอยู่ในท้องถ่ิน ให้เกิด มูลค่ำท่ีสูงข้ึน โดยใช้เวลำท่ีพักจำกกำรทำกำรเกษตรมำรวมกลุ่มกันเพื่อสร้ำงรำยได้ ในกำรผลิตต้องใช้เวลำ ควำมอดทนและควำมละเอียดลออ มีกรรมวิธีที่ไม่ยุ่งยำกมำกและผู้ออกแบบต้องมีประสบกำรณ์และพรสวรรค์ใน กำรออกแบบตัดเยบ็ นยิ มนำมำใช้ในบำ้ นเรือนและจำหนว่ ย ซึ่งสร้ำงรำยไดใ้ หก้ บั ชมุ ชนเป็นอย่ำงดี ดงั น้ันเพอื่ เปน็ กำรส่งเสริมสนบั สนุนและตอบสนองกบั ควำมต้องกำรของประชำชนกลุ่มเปำ้ หมำยใน ตำบลดงมะไฟ กศน.ตำบลดงมะไฟ จึงไดจ้ ดั โครงกำรศูนยฝ์ กึ อำชีพชุมชน รูปแบบกลุม่ สนใจ(ไมเ่ กนิ 30 ชวั่ โมง) วชิ ำกำรปลูกผกั ปลอดสำรพษิ จำนวน 8 ชวั่ โมงขน้ึ เพ่ือเปน็ กำรสบื ทอดภมู ิปัญญำท้องถน่ิ ลดรำยจำ่ ยและเพิ่ม รำยไดใ้ นชมุ ชน ตลอดจนใหค้ วำมรู้ ควำมเขำ้ ใจและพฒั นำอำชพี ให้กับประชำชนกล่มุ เปำ้ หมำยและผู้สนใจใน ตำบลใหส้ ำมำรถนำไปประกอบเป็นอำชีพ พฒั นำอำชพี เพ่อื ก่อให้เกดิ รำยได้กบั ตนเองและครอบครัว เป็นกำร สรำ้ งอำชีพใหเ้ กิดควำมมน่ั คงต่อไป วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงกำร เพอื่ ใหป้ ระชำชนกลุ่มเป้ำหมำยที่ว่ำงงำนหรือมีอำชีพอยแู่ ล้วและตอ้ งกำรต่อยอดอำชีพ พฒั นำ อำชพี มีทักษะควำมรู้ ควำมเข้ำใจในกำรปลกู ผกั ปลอดสำรพษิ สำมำรถนำควำมรู้ไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน และ ประกอบอำชีพได้ ขอบเขตของโครงกำร 1. ด้ำนเนอื้ หำ โครงกำรนมี้ งุ่ ให้ผเู้ รียนกลุม่ เป้ำหมำยทเี่ ขำ้ รบั กำรอบรมสำมำรถนำ ควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ต่ำงๆ ไปใชใ้ นกำรประกอบอำชีพที่เปน็ กำรเข้ำสอู่ ำชีพ สรำ้ งงำน สร้ำงรำยได้ หรือพัฒนำอำชีพ หรือตอ่ ยอดอำชพี เดมิ ปลูกผกั ปลอดสำรพษิ 2. ด้ำนระยะเวลำ ระยะเวลำในกำรดำเนนิ งำน วันที่ 17-18 มถิ ุนำยน 2564 ณ ศำลำ ประชำคม หมู่ท่ี 9 ตำบลดงมะไฟ อำเภอสวุ รรณคูหำ จงั หวัดหนองบัวลำภู 3. ด้ำนประชำกรและกลมุ่ ตัวอย่ำง ประชำชนตำบลดงมะไฟ จำนวน 8 คน และครู กศน.ตำบลดงมะไฟ จำนวน 3 คน
ประโยชนท์ ค่ี ำดวำ่ จะไดร้ ับ - ประชำชนตำบลดงมะไฟกล่มุ เปำ้ หมำยมีควำมรูเ้ กี่ยวกับกำรปลกู ผกั ปลอดสำรพิษ - เพ่ือให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมสำมำรถนำควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ต่ำงๆ ไปใช้ใน ชีวิตประจำวัน สำมำรถลดค่ำใช้จ่ำยภำยในครัวเรือน และสำมำรถสร้ำงควำมมั่นคงทำงด้ำนอำหำรให้กับ ตนเองและครอบครัว ตัวชว้ี ดั ตวั ชีว้ ัดผลผลิต รอ้ ยละ ๘๐ ของประชำชน ตำบลดงมะไฟ ทเ่ี ข้ำร่วมโครงกำรมีควำมรู้เก่ียวกบั กำรปลกู ผักปลอสำรพษิ ในสถำนกำรณโ์ ควดิ 19 ตวั ช้วี ัดผลลัพธ์ ประชำชนตำบลดงมะไฟ ทเ่ี ข้ำรว่ มโครงกำรมคี วำมรู้ ทกั ษะ และประสบกำรณ์กำรเรยี นรตู้ ำ่ งๆ ไปใช้ ในชีวติ ประจำวันได้
บทท่ี 2 เอกสำรทเี่ กย่ี วข้อง ควำมหมำยและควำมสำคญั ของกำรปลกู ผกั ปลอดสำรพษิ พืชผกั เป็นพชื อำหำรท่คี นไทยนยิ มนำ มำใช้รับประทำนกันมำกเน่อื งจำกมคี ุณค่ำทำงอำกำรทัง้ วติ ำมินและ แรธ่ ำตุต่ำงๆ ที่เป็นประโยชน์ตอ่ รำ่ งกำยสูง แตค่ ่ำนยิ มในกำรบริโภคผักนนั้ มักจะเลือกบริโภคผกั ทีส่ วยงำมไมม่ ี รอ่ งรอยกำรทำ ลำยของหนอนและแมลงศตั รพู ชื จงึ ทำ ใหเ้ กษตรกรทป่ี ลูกผักจะตอ้ งใช้สำรเคมีปอ้ งกนั และกำ จัดแมลงฉีดพน่ ในปรมิ ำณทมี่ ำก เพ่ือใหไ้ ด้ผกั ทสี่ วยงำมตำมควำมต้องกำรของตลำด เม่อื ผซู้ ือ้ นำ มำบริโภคแล้ว อำจไดร้ ับอันตรำยจำกสำรพิษท่ตี กค้ำงอยใู่ นพืชผักนั้นไดเ้ พ่ือเป็นกำรแกป้ ญั หำดงั กลำ่ ว เกษตรกรจึงควรหันมำ ทำ กำรปลูกผกั ปลอกภัยจำกสำรพษิ โดยนำ เอำวิธีกำรปอ้ งกนั และกำ จัดศัตรพู ชื หลำยวธิ มี ำประยุกตใ์ ช้ รว่ มกัน เป็นกำรทดแทนหรือลดปรมิ ำณกำรใชส้ ำรเคมีให้นอ้ ยลง เพ่อื ควำมปลอดภัยของเกษตรกร ผูบ้ ริโภค และสิ่งแวดลอ้ ม “ผักปลอดสำรพษิ ” หมำยถงึ ผักทมี่ ีกระบวนกำรกำรผลติ ทมี่ กี ำรใชส้ ำรเคมสี ังเครำะห์ เชน่ ธำตุอำหำร ตำ่ ง ๆ ใช้ปยุ๋ เคมีเพ่ือเร่งกำรเจริญเติบโต รวมถงึ กำรใช้ปุย๋ อินทรยี ์ต่ำง ๆ ไม่ไดห้ มำยควำมไม่ใชส้ ำรเคมีหรือเคมี สังเครำะห์เลย เพียงแต่เคมีสังเครำะห์ดังกล่ำวเปน็ เคมสี งั เครำะห์ทไี่ ม่เปน็ อนั ตรำยตอ่ ผู้ใช้, ผ้บู ริโภค และ สิ่งแวดลอ้ ม เมอื่ ถึงเวลำเกบ็ เกยี่ วเคมีสงั เครำะหพ์ วกนจี้ ะไมม่ ีสำรพิษตกค้ำงอยู่เพรำะเคมสี งั เครำะหพ์ วกนี้เป็น กล่มุ ของปุ๋ยเคมี จลุ ธำตตุ ำ่ ง ๆ ซง่ึ มีอยู่ในใบพชื อยู่แล้ว “ผกั ปลอดภยั ” หมำยถึง ผกั ทมี่ กี ระบวนกำรกำรผลิตที่ใชส้ ำรเคมีกำจดั ศัตรพู ชื หรือยำฆ่ำแมลงและเช้ือรำ ต่ำง ๆ นำมำใชใ้ นชว่ งเวลำที่มแี มลงศัตรูพชื ระบำด เพยี งแต่จะต้องมีกำรกำหนดวธิ ีกำรใช้อยำ่ งเขม้ งวด ควรฉดี พน่ ยำฆ่ำแมลงช่วงไหน ช่วงไหนไมค่ วรฉดี ชว่ งนี้เป็นชว่ งเก็บเก่ียวผลผลติ หำกฉดี พ่นจะมีสำรพิษตกคำ้ งถงึ บริโภค ควรเวน้ ระยะเวลำกำรเกบ็ เก่ียวกว่ี นั หลังจำกฉีดสำรเคมปี ้องกนั และกำจัดศตั รพู ืชไปแลว้ แตท่ แ่ี น่ ๆ ผลผลติ ไม่ควรมีสำรพิษตกคำ้ งไมเ่ กนิ มำตรำฐำนทีก่ ระทรวงสำธำรณสขุ กำหนดไว้ ซง่ึ กำรผลิตผักปลอดสำรพิษ ของชมรมฯ จะยึดหลกั กำรนำเอำวิธกี ำรปอ้ งกนั และกำจดั ศัตรูพชื หลำยวธิ มี ำประยกุ ต์ใชร้ ่วมกนั หรอื วธิ ี ผสมผสำนโดยไม่สนับสนุนใหเ้ กษตรกรใชส้ ำรเคมีปอ้ งกนั และกำจัดแมลงในแปลงปลกู ใช้วิธีต่ำง ๆ หลำย ๆ วธิ ี ร่วมกัน ซึ่งกำรปลกู ผกั ปลอดสำรพิษทีท่ ำงชมรมฯ แนะนำใหเ้ กษตรกรคดิ และนำไปปฏิบัติก็คือ “ทำอยำ่ งไรให้ ตน้ พชื ที่เรำปลูกแขง็ แรงและต้ำนทำนโรค แมลง ศัตรูพชื ตำ่ ง ๆ” ครำวนกี้ จ็ ะตอ้ งมำคิดแลว้ ว่ำควรจะเรม่ิ ทใ่ี ด ตรวจคำ่ กรด-ด่ำงของดินและปรับให้เหมำะสมกบั กำรปลูกพชื , ให้ป๋ยุ สมสว่ น หมำยถงึ ไมใ่ ห้ธำตุใดธำตหุ นึง่ มำกเกินควำมจำเปน็ เชน่ ไนโตรเจน (ยูเรีย) เพรำะจะทำใหพ้ ืชอ่อนแอขำดควำมแขง็ แรง, กำรเพ่มิ ซิลกิ ำ้ โดยใช้ ภูไมท์หว่ำนรองพ้นื ก็เปน็ อีกวิธที ี่ทำใหพ้ ืชแขง็ แรง, ใช้สำรสกดั สมนุ ไพรชนิดใดกำจัดโรคและแมลงดหี รือจะใช้ จลุ ินทรยี ์กลมุ่ ต่ำง ๆ ป้องกนั และกำจดั , สภำพแวดลอ้ มเอื้ออำนวยหรอื ไม่ ซ่งึ หลกั กำรดังกล่ำวขำ้ งต้นล้วน สำคญั ทง้ั สิ้นและยงั มอี กี หลำยอย่ำงท่ผี ้คู ิดจะผลติ ผกั ปลอดสำรพิษตอ้ งคำนงึ ถึง ซง่ึ หำกทำได้โดยละเอยี ดวธิ ีกำร ตำ่ ง ๆ เหล่ำนจี้ ะทำให้เกษตรกรผปู้ ลกู ผักปลอดสำรพิษประหยดั ตน้ ทุนกำรผลิตไดอ้ ยำ่ งมำกมำย ซ่ึงบทควำมน้ีผู้เขียนจะขอเริ่มจำกกำรตรวจคำ่ ควำมเปน็ กรด – ด่ำง (ค่ำ PH ) ของดินก่อน โดยค่ำดนิ ท่ี เหมำะสมสำหรับกำรปลูกพชื ควรอยู่ท่ี 5.8-6.5 เมื่อส่มุ ดินตรวจพบวำ่ ถำ้ ดนิ เป็นกรด (ตำ่ กว่ำ 5.8) ใหใ้ ชภ้ ูไมท์
ซลั เฟต (กระสอบสเี หลือง) หรอื วสั ดุปูนต่ำง ๆ (ปนู มำรล์ , โดโลไมท์, ปูนขำว) แตถ่ ำ้ ดนิ ทีเ่ ป็นดำ่ ง หรอื อกี นัย หนึง่ คอื ดนิ ทมี่ ีคำ่ เกนิ 6.5 ให้ใช้ภไู มท์ซัลเฟต (กระสอบสีแดง) ปรับค่ำดินให้ลงมำจนเหมำะสำหรับปลูกพืช ใหใ้ ชต้ ั้งแต่กำรเตรียมดนิ กำรไถพรวนดนิ หำกดนิ แน่นแข็ง ระบบกำรระบำยน้ำไม่ดี ให้ใชส้ ำรละลำยดิน ดำน ALS 29% ในอตั รำ 50 ซซี ี./น้ำ 20 ลติ ร ฉดี พน่ ในพน้ื ท่ี 1 งำน โดยรำดลงไปขณะทีด่ ินเปียกหรือหลงั ฝน ตกหำกฝนไมต่ กใหท้ ำกำรรดน้ำลงไปในแปลงจำกนั้นก็ฉีดพน่ ดว้ ยสำรละลำยดนิ ดำน ALS 29% ตำมไปทนั ที จำกน้นั นำเอำปุ๋ยอนิ ทรยี ์ (ปยุ๋ หมกั , ปุ๋ยคอก) ในอัตรำส่วน 50 ส่วน ภูไมท์ซัลเฟต 20 ส่วน และเช้อื ไตรโคเดอร์ ม่ำ 1 กิโลกรมั คลกุ ผสมร่วมกนั แลว้ หว่ำนลงบนแปลงที่เตรยี มไวจ้ ะชว่ ยป้องกนั และกำจัดโรคเช้อื รำ ทำงดิน ไดด้ ี พอถึงระยะเวลำทจี่ ะตอ้ งปลกู เมลด็ ผักให้ นำเอำภไู มทซ์ ัลเฟตรองกน้ หลุม เพรำะตวั ภไู มทซ์ ลั เฟต มซี ิลกิ ำ้ ทีล่ ะลำยนำ้ ได้ จะเปน็ ตวั ทส่ี ร้ำงใหเ้ ชลลพ์ ชื แขง็ แกร่งตำ้ นทำนศัตรูพืช จะช่วยป้องกนั หนอน เพลี้ย ไร รำ แมลงปำกดูดวัยอ่อน ทีม่ ำดนู ้ำเลี้ยง ใต้ใบพืช จำกนั้นพอครบกำหนดทตี่ อ้ งใส่ปุย๋ ทำงชมรมฯ แนะนำให้ เกษตรกรทำป๋ยุ ละลำยชำ้ โดยกำรเติมธำตุอำหำรต่ำง ๆ ทง้ั ธำตุหลกั ธำตรุ อง ธำตเุ สรมิ และธำตพุ เิ ศษ (ซิลิกำ้ ) ใชเ้ อง ซึง่ วิธกี ำรผสมขนึ้ อยู่กบั ตัวของเกษตรกรเองวำ่ จะใชป้ ุย๋ อินทรีย์หรือปยุ๋ เคมีในกำรใส่ให้กบั พชื ในคร้งั นน้ั ๆ ข้นึ อยู่กับระยะของพชื วำ่ ตอ้ งกำรธำตอุ ำหำรใดเปน็ พเิ ศษ ซง่ึ สูตรท่ีเกษตรกรนยิ มใชก้ นั ในกำรปลกู พืชผกั อำทิ เช่น 16-16-16 ,8-24-24, 25-7-7 ฯลฯ ซงึ่ วธิ ีกำรผสมทแ่ี นะนำหำกเกษตรกรใชป้ ๋ยุ อนิ ทรีย์ (ปุ๋ยหมกั , ป๋ยุ คอก) ให้เกษตรกรใชป้ ๋ยุ อนิ ทรยี ์ 100 กิโลกรมั ซิลิโคเทรซ 1/2 กิโลกรัม ภไู มทซ์ ลั เฟต 20 กโิ ลกรมั คลกุ เคลำ้ ใหเ้ ข้ำ กนั หำกเกษตรกรใช้ปุ๋ยเคมี จะใชป้ ุ๋ยเคมี 50 กิโลกรัม อัตรำสว่ นผสมซลิ ิโคเทรซและภูไมท์ซลั เฟตยังคงไม่ เหมือนเดมิ พรมนำ้ พอช้ืนแล้วคลกุ เคล้ำใหเ้ ข้ำกัน เทำ่ นเ้ี กษตรกรก็จะไดป้ ุ๋ยละลำยชำ้ ท่ีมีธำตุอำหำรครบ ในปัจจุบนั มีหลำยคนที่หันมำใส่ใจและใหค้ วำมสำคญั เกี่ยวกับสุขภำพกนั มำกขึน้ โดยเฉพำะกำรเลือกทำน อำหำรทด่ี ี มปี ระโยชนแ์ ละคำนงึ ถงึ ควำมปลอดภยั โดยเน้นในเร่ืองควำมเปน็ ธรรมชำตแิ ละไรส้ ำรพษิ อย่ำงเชน่ “ผกั ปลอดสำรพษิ ” ก ำ ร ป ลกู ผกั ป ล อ ด ภัย จ ำ ก ส ำ ร พษิ พืชผักเปนพชื อำหำรทคี่ นไทยนยิ มนำมำใชรบั ประทำนกนั มำกเน่อื งจำกมีคณุ คำทำงอำกำรทงั้ วติ ำมนิ และแรธำตุตำงๆ ทีเ่ ปนประโยชนตอรำงกำยสูง แตคำนยิ มในกำร บรโิ ภคผักนน้ั มกั จะเลือก บริโภคผกั ที่สวยงำมไมมรี องรอยกำรทำลำยของหนอนและแมลงศัตรพู ืช จงึ ทำให เกษตรกรทีป่ ลกู ผกั จะตองใชสำรเคมีปองกันและกำจดั แมลงฉีดพนในปรมิ ำณท่ีมำก เพอ่ื ใหไดผกั ท่ีสวยงำม ตำมควำม ตองกำรของตลำด เม่ือผซู ือ้ นำมำบริโภคแลวอำจไดรบั อันตรำยจำกสำรพิษทต่ี กคำงอยใู นพืชผกั นัน้ ได เพอื่ เปนกำรแกปญหำดังกลำว เกษตรกรจงึ ควรหนั มำ ทำกำรปลกู ผักปลอกภยั จำกสำรพิษ โดยนำเอำ วธิ ี กำรปองกนั และกำจดั ศัตรูพชื หลำยวิธีมำประยกุ ตใชรวมกนั เปนกำรทดแทนหรือลดปริมำณกำรใช สำรเคมีให นอยลง เพอ่ื ควำมปลอดภัยของเกษตรกร ผูบรโิ ภคและสิง่ แวดลอม ควำมหมำยของผักปลอดภยั จำกสำรพษิ ผกั ปลอดภยั จำกสำรพษิ หมำยถงึ ผลผลติ พืชผกั ทีไ่ มมสี ำรเคมีปองกันและกำจดั ศตั รพู ชื ตกคำง อยู หรือมีตก คำงอยไู มเกินระดบั มำตรฐำนท่กี ระทรวงสำธำรณสขุ กำหนดไว ในประกำศกระทรวง สำธำรณสุข ฉบบั ที่ 163 พ.ศ. 2538 ลงวนั ที่ 28 เมษำยน 2538 เรือ่ ง อำหำรทม่ี ีสำรพิษตกคำง ขอดขี องกำรปลูกผกั ปลอดภยั จำกสำรพษิ 1. ทำใหไดพชื ผักทม่ี ีคุณภำพ ไมมีสำรพษิ ตกคำง เกิดควำมปลอดภัยแกผบู ริโภค 2. ชวยใหเกษตรกร ผปู ลกู ผกั มีสุขภำพอนำมัยดีขึน้ เน่ืองจำกไมมีกำรฉดี พนสำรเคมีปองกัน และกำจัด ศัตรพู ชื ทำใหเกษตรกรปลอดภยั จำกสำรพิษเหลำน้ดี วย
3. ลดตนทนุ กำรผลิตของเกษตรกรดำนคำใชจำยในกำรซอ้ื สำรเคมีปองกนั และกำจัดศตั รพู ชื 4. ลดปรมิ ำณกำรนำเขำสำรเคมปี องกนั และกำจัดศตั รูพืช 5. เกษตรกรจะมีรำยไดเพิม่ มำกขึน้ เนื่องจำกผลผลิตท่ไี ดมคี ณุ ภำพ ทำใหสำมำรถขำยผลผลิต ไดใน รำคำสงู ขน้ึ 6. ลดปริมำณสำรเคมปี องกนั และกำจัดศัตรูพืชทจี่ ะปนเปอนเขำไปในอำกำศและนำ้ ซึ่งเปน กำร อนรุ ักษทรัพยำกรธรรมชำติและลดมลพิษของส่งิ แวดลอมไดทำงหน่งึ วิธกี ำรผลิตผกั ปลอกภยั จำกสำรพษิ ใน กำรปลกู ผกั ปลอดภยั จำกสำรพษิ น้ัน จะใชหลักกำรปลกู พชื ผกั โดยกำรใชสำรเคมีในกำรผลิต ใหนอยท่สี ดุ หรือ ใชตำมควำมจำเปนและจะใชหลกั “กำรปองกันและกำจัดศตั รูพืชโดยวิธีผสมผสำน หรอื ไอพีเอม็ ” แทนแตกำร ทจ่ี ะปองกนั และกำจดั ศัตรพู ชื ใหไดผลนนั้ จะตองเลอื กวธิ ที ่ีประหยดั เหมำะสม และมีประสทิ ธภิ ำพ ซึ่งผูปลกู จะตองเขำใจเรอื่ งตำงๆ ที่เกีย่ วของ ดังน้ี กำรปลกู ผักปลอดภัยจำกสำรพิษ ❀ 3 1. สำเหตุกำรระบำดของศตั รูพืช 1.1 ศตั รพู ืชเคล่อื นยำยจำกแหลงหนึ่งไปยงั อีกแหลงหนงึ่ ทม่ี ี ควำมเหมำะสมมำกกวำ ทำใหมี กำรขยำยพนั ธุและระบำดทำควำมเสียหำยเพม่ิ ข้ึน 1.2 สภำพแวดลอมและสภำพทำงนิเวศนเปลีย่ นแปลงไปทำใหศัตรูพืชมกี ำรขยำยพนั ธุไดดขี ึ้น เพม่ิ จำนวนมำกข้นึ หรือมีผลตกำรพฒั นำสำยพันธใุ หมคี วำมตำนทำน และมปี ระสทิ ธิภำพในกำรเขำ ทำลำยมำกขน้ึ เชน กำรกำจดั งู ทำใหหนูระบำด กำรใชสำรเคมี ทำใหแมลงท่กี นิ แมลงศตั รพู ืชตำย เปนตน 1.3 สภำพแวดลอมทำงเศรษฐกิจและสงั คมของมนษุ ยที่เปลยี่ นแปลงไป ทำใหควำมตองกำร ผลิตใน กำรบริโภคเปลย่ี นไป ทำใหควำมตองกำรผลผลติ ในกำรบรโิ ภคเปลี่ยนไป ทำใหควำมตองกำรผล ผลิตทแี่ ตกต ำงกนั ไปตำมควำมตองกำรของบรโิ ภค ทำใหบำงคร้งั รองรอยกำรทำลำยของศตั รูพชื เพียงจุด เดยี ว กถ็ อื วำ ผลผลติ ตกเกรดไมไดมำตรฐำน มีกำรระบำดของศัตรพู ืชได 2. กำรควบคุมศัตรูพชื ใหประสบผลสำเร็จ มีหลกั กำรงำยๆ 2.1 ตองปองกันไมใหเกิดโรคในแปลงปลกู เชน กำรใชพันธทุ ่ปี รำศจำกโรคและแมลง กำรไม นำชนิ้ สวนของพชื ทมี่ โี รคแมลงเขำมำในแปลงปลกู เปนตน 2.2 ถำมศี ัตรูพชื เขำมำในแปลงปลกู หรือแสดงอำกำรเปนโรคแลว ตองยับยงั้ กำรแพรระบำด 2.3 และถำมกี ำรระบำดแลวตองกำจดั ใหหมดไป อยำงไรก็ตำมสำเหตุสำคัญทีก่ อใหเกิดกำรระบำด ของศตั รูพชื ในแปลงปลกู คือ ตัวเกษตรกรเอง ท่ลี ะเลยกำรควบคุมดูแลทำใหศัตรพู ชื สะสมในแปลงปลูก จนถงึ ระดบั ท่ไี มสำมำรถควบคุมกำจัดได 3. วธิ ีกำรควบคุมศตั รูพืชอยำงมปี ระสิทธภิ ำพ มขี ้นั ตอนดังนี้ 3.1 ตองศกึ ษำชนดิ ของศตั รูพืชในแปลงปลกู นัน้ ๆ กอน 3.2 สำรวจสถำนกำรณศตั รูพชื ในแปลงปลกู 3.3 พิจำรณำแนวโนมกำรระบำดของศัตรูพืชแลวจงึ หำแนวทำงปองกันและกำจัดตอไป 3.4 เมื่อควบคุมกำรระบำดใหอยใู นระดบั ทไ่ี มกอใหเกดิ ควำมเสียหำยมำกขนึ้ แลวใหเลือกใชวธิ ี กำรท่ี เหมำะสมเพือ่ ลดปริมำณ หรอื รักษำระดับกำรเขำทำลำยใหคงทีห่ รือลดลง 3.5 ในกรณีทีไ่ มสำมำรถควบคมุ สถำนกำรณศตั รูพืชดวยวิธกำรอื่นๆ ไดมคี วำมจำเปนที่จะตอง ใชสำร เคมีใหเลอื กใชสำรเคมีท่ถี ูกตองเหมำะสมกบั ชนิดศัตรูพชื และกำรระบำดตำมคำแนะนำวธิ กี ำรใช ในฉลำก 4. ผลดีของกำรปองกันและกำจดั ศตั รูพืชโดยวธิ ผี สมผสำน
4.1 ลดปรมิ ำณศตั รพู ืชใหตำ่ กวำระดับทจี่ ะกอใหเกิดควำมเสียหำยแกพืช 4.2 ลดปรมิ ำณกำรใชสำรเคมปี องกนั และกำจัดศัตรูพชื 4.3 มคี วำมปลอดภยั ตอสขุ ภำพของเกษตรกรผบู ริโภครวมไปถึงสภำพแวดลอม กำรปลูกผกั ปลอดภยั จำกสำรพิษ ❀ 4 5. วธิ กี ำรผสมผสำนในกำรควบคมุ ศัตรูพชื จะเปนกำรนำเอำวธิ ีกำรปองกนั และกำจัดศัตรู พชื หลำย วธิ ีมำประยกุ ตใชรวมกนั โดยวธิ ีกำรปลกู ผกั ปลอดภัยจำกสำรพิษนมี้ ีขอแนะนำใหเกษตรกร เลอื กใชวิธีกำรปอก กันและกำจัดศตั รพู ืช ทดแทนกำรใชสำรเคมดี ังน้ี 5.1 กำรเตรยี มแปลงปลูก 5.2 กำรเตรยี มเมล็ดพันธุ 5.3 กำรปลูกและกำรดูแล 5.4 กำรใหธำตอุ ำหำรเสริม 5.5 กำรใชกบั กดั กำวเหนยี ว 5.6 กำรใชกับดักแสงไฟ 5.7 กำรใชพลำสตกิ หรือฟำงขำวคลมุ แปลงปลูก 5.8 กำรปลูกผกั ในโรงเรอื นมงุ ตำขำยไนลอน 5.9 กำรควบคมุ โดยชีววิธี 5.10 กำรใชสำรสกัดจำกพืช 5.11 กำรใชสำรเคมปี องกนั และกำจัดศตั รพู ืช (กรณีท่ีใชวิธกี ำรปองกนั และกำจดั ศตั รูพชื ขำง ตนไมไดผล) กำรเตรยี มแปลงปลกู เนอ่ื งจำกเมลด็ พชื ผักสวนใหญมขี นำดเลก็ มีระบบรำกละเอียดออน ถำเกษตรกรเตรยี มดินไมดี กอำจมีผลกระทบตอกำรงอก ของเมลด็ และกำรเจรญิ เติบโตของพชื ผกั ได ดังนนั้ กอนกำรปลูกพชื ควรมี กำรปรบั สภำพดินใหเหมำะสมเสยี กอน โดยเฉพำะในพ้ืนท่ีท่ีเคยมีกำรปลกู ผกั หรอื พชื ชนิดอนื่ โดยกำร ปลอยน้ำใหทวมแปลงแลวสูบออก เพ่อื ให นำ้ ชะลำงสำรเคมแี ละกำจดั แมลงตำงๆ ที่อำศัยอยูในดิน แลว จงึ ทำกำรไถพลิกหนำดนิ ตำกแดดไว เพอ่ื ทำลำย เช้อื โรคและแมลงศตั รทู อี่ ำศัยอยูในดินอกี ครั้ง จำกน้ัน เกษตรกรควรจะปรบั สภำพควำมเปนกรดเปนดำงของ ดินใหอยใู นสภำพทเี่ ปนกลำง โดยใชปนู ขำว ปูนมำรล หรอื แรโดโลไมท อตั รำ 200-300 กิโลกรมั /ไร แลวรดน้ำตำมหลังจำกกำรใสปนู ขำวเพ่ือ ปรับสภำพดินทเ่ี ปนกรดใหเปนกลำงนอกจำกนี้ควรเพมิ่ ควำมอุดมสม บรู ณของดินดวยกำรใสปุยอินทรยี เชน ปยุ คอก ปยุ หมัก ในอตั รำ 1,000-2,000 กิโลกรมั /ไร ซงึ่ จะชวยให ตนพชื ผกั มคี วำมแข็งแรง สำมำรถตำนทำนตอกำรเขำทำลำยของโรคและแมลงได โรยปูนขำวเพือ่ ปรับสภำพ ดนิ กำรปลกู ผกั ปลอดภยั จำกสำรพิษ ❀ 5 กำรเตรยี มเมลด็ พนั ธุ กอนนำเมลด็ พันธุผักไปปลูกในแปลงปลูก หรอื แปลงกลำเกษตรกรควรทำควำมสะอำดเมลด็ พนั ธกุ อน ตำมขน้ั ตอนดังน้ี 1. คัดแยกเมลด็ พันธุ โดยกำรคดั เมลด็ ทีเ่ สยี เมลด็ วัชพืชท่มี อี ยูปะปน และสงิ่ เจอื ปนตำงๆ ออก 2. แชเมลด็ พันธุในน้ำอนุ ท่อี ุณหภูมิ 50-55 องศำเซลเซียสเปนเวลำ 15-30 นำทจี ะชวย ลดปริมำณเชอ้ื โรคท่ีตดิ มำกบั เมล็ดพนั ธแุ ละยังกระตนุ กำรงอกของ เมลด็ อีกดวย 3. ในพ้ืนท่ีทมี่ กี ำรระบำดของโรครำนำ้ คำง และโรคใบจดุ ควรคลุกเมล็ดพนั ธดุ วยสำรเคมี เชน เมทำแล็กซิน 35 เปอรเซ็นต SD (เอพรอน) และไอโปรไดโอน (รอฟรัล) อัตรำ 10 กรัม / เมล็ด พันธุ1 กโิ ลกรมั กำรปลกู และกำรดูแล กำรเลอื กวิธกี ำรปลกู ระยะปลูกเปนเทำใดน้นั จะขนึ้ อยกู บั ชนดิ ของพืชผักท่ีเกษตรกร
เลือกปลูก แตมขี อแนะนำ คอื เกษตรกรควรปลกู ผักใหมีระยะหำงพอสมควร อยำใหแนนจนเกนิ ไป เพอ่ื ใหมี กำร ระบำยอำกำศทดี่ เี ปนกำรปรบั สภำพแวดลอมไมใหเหมำะสมตอกำรระบำดของโรค นอกจำกนค้ี วรหม่ัน ตรวจแปลงอยเู สมอ โดยอำจเลอื กสำรวจเปนจดุ ๆ ประมำณ 10-20 จุด/ไร ถำพบวำมกี ำรระบำดของ โรคและ แมลงในระดบั ทกี่ อใหเกดิ ควำมเสยี หำยแกพืชผกั น้ัน ก็ควรดำเนนิ กำรกำจดั โรคและแมลงท่ีพบ ทนั ที กำรให ธำตอุ ำหำรเสริมแกพืช จะมคี วำมจำเปนตอพืชผกั ในบำงชนิดเทำน้นั ทง้ั นเี้ พื่อสรำงควำมตำนทำนโรคใหแกพืช นน้ั เชน พืชในตระกูลกะหล่ำจะตองกำรธำตโุ บรอนเพ่อื สรำงควำมตำนทำนโรคไสกลวงดำ มะเขอื เทศจะตอง กำร ธำตุแคลเซยี มเพื่อสรำงควำมตำนทำนโรคผลเนำ เปนตน กำรสมุ ตรวจนับโรคและแมลง กำรปลูกผกั ปลอดภยั จำกสำรพิษ ❀ 6 กำรใชกับดักกำวเหนียว กบั ดักกำวเหนยี วนี้มีคณุ สมบตั ิไมมีสไี มมกี ลนิ่ และไมมี พษิ ตอสงิ่ แวดลอม จะใชในกำรควบคมุ ปรมิ ำณตัวเตม็ วยั ของแมลงศตั รูพืชไดหลำยชนิด เชน เพล้ียไฟ แมลงวนั เจำะผล แมลงวันของหนอนชอน ใบ ผีเส้อื กลำงวนั ชนดิ ตำงๆ ทง้ั ของหนอนคบื และหนอนใย เปนตน โดยท่ัวไป มักจะนิยมใชกำวเหนียวมำ ทำบนวัสดุทมี่ ีสีเหลอื ง เชน แผนพลำสติก หรอื กระปองนำ้ มนั เคร่ือง เนอื่ งจำก แมลงมักชอบสเี หลอื งโดย กบั ดักนีจ้ ะใชลอแมลงใหบนิ มำติดกำวเหนยี วทท่ี ำไวสำหรับกำรติดตงั้ น้นั ควรตดิ ตั้ง กับดักในแปลงผกั ให สูงประมำณ 30 เซนติเมตร หรอื สูงกวำยอดตนผกั เมือ่ เจริญเติบโตเต็มทแ่ี ลว โดยจะใชกบั ดกั ประมำณ 60-80 กบั ดกั /พื้นท่ี 1 ไร ในชวงทม่ี ีกำรระบำดมำก (ฤดรู อน, ฤดฝู น) สวนในฤดูหนำวมีกำร ระบำด นอย อำจใชเพียง 15-20 กบั ดกั /ไร วธิ กี ำรทำกำวเหนียว วสั ดทุ ี่ใชประกอบดวย 1. น้ำมันละหงุ 550 ซี ซี 2. น้ำมันยำงสน 380 กรมั 3. ไขคำรนัววำ (Canova wax) 60 กรมั ข้ันแรกเคย่ี วน้ำมันระหุงจนเดอื ดแลวจึง เติมนำ้ มันยำงสนและไขคำรนวั วำลงไป คนชำๆ ใหเขำ กันดแี ลวจึงยกออกจำกเตำ ต้ังท้ิงไวใหเย็นกอนนำไปใช เปนกบั ดักกำวเหนยี วตอไป กำรใชกับดักแสงไฟ เปนกำรใชแสงไฟจำกหลอดฟลอู อรเรสเซนต (หลอดนีออน) หรือหลอดไฟแบลค็ ไลท ลอแมลง ในเวลำกลำงคืน เชน ผเี สื้อ หนอน กระทหู อม หนอนกระทูผัก ใหมำเลนไฟ และตกลงในภำชนะทีบ่ รรจุ นำ้ มันเครอ่ื งหรอื นำ้ ท่รี องรับอยดู ำนลำง กำรติดตั้งกบั ดกั และแสงไฟจะตดิ ตงั้ ประมำณ 2 จดุ /พื้นที่ 1 ไร โดยตดิ ตัง้ ใหสงู จำกพื้นดินประมำณ 150 เซนติเมตร และใหภำชนะที่รองรบั อยหู ำ งจำกหลอดไฟ 30 เซนติเมตรและควรปดสวนอืน่ ๆ ท่ีจะทำใหแสงสวำงกระจำยเปนบรเิ วณกวำงเพอ่ื ลอจบั แมลงเฉพำะ ในบรเิ วณแปลง มิใชลอแมลงจำกทีอ่ น่ื ใหเขำมำในแปลง กบั ดักกำวเหนยี ว กำรปลูกผกั ปลอดภยั จำกสำรพษิ ❀ 7 กำรใชพลำสตกิ หรือฟำงขำวคลุมแปลงปลูก เปนกำรควบคมุ ปริมำณวัชพืชและเก็บรักษำ ควำมช้ืนในดนิ ไวไดนำน ทำใหประหยัดน้ำทใี่ ชรด แปลงผกั กำรใชพลำสติกหรอื ฟำงขำวคลุมแปลงปลูกน้ี ควร ใชกบั พืชผกั ทีม่ ีระยะปลูกแนนอน ในแปลง ที่พบกำรระบำดของโรคทีม่ ีเชอื้ ไวรสั เปนสำเหตุ และมีเพลยี้ ออน หรอื แมลงเปนพำหะ แนะนำใหใช พลำสตกิ ทมี่ สี เี ทำ-ดำ โดยใหดำนท่มี ีสเี ทำอยดู ำนบน เนือ่ งจำกสเี ทำจะทำให เกิดจำกสะทอนแสง จึงชวยไลแมลงพำหนะได กำรปลูกผักในโรงเรือนมุงตำขำยไนลอน พ้นื ทีท่ ่จี ะใชปลูกผกั ใน โรงเรือน ควรเปนพนื้ ท่ีทสี่ ำมำรถปลกู ผกั ไดอยำงตอเน่ือง ไมนอยกวำ 3 ป เพอ่ื จะไดคมุ คำตอกำรสรำงโรงเรือน และกำรใชตำขำยไนลอน โครงสรำงของโรงเรอื นอำจทำดวย เหล็กหรอื ไมกไ็ ดขนึ้ อยกู บั เกษตรกรวำตองกำร จะใชพ้ืนท่นี ปี้ ลูกผักนำนเทำใด สวนตำขำยทใี่ ชน้ันจะใช มงุ ตำขำยไนลอนทีม่ ีขนำด 16 ชองตอควำมยำว 1 นว้ิ โดยมุงสีขำวมคี วำมเหมำะสมกบั กำรปลูกผกั เน่อื งจำกแสงผำนไดเกอื บปกตสิ วนมุงสีฟำไมคอยเหมำะสม เนื่องจำกแสงผำนไดเพยี งรอยละ 70 เทำ นน้ั กำรใชกับดักแสงไฟ กำรใชพลำสติกหรือฟำงขำวคลกุ แปลงปลูก กำรปลกู ผักปลอดภยั จำกสำรพิษ ❀ 8 กำรปลกู ผกั ในโรงเรือนมงุ ตำขำยนี้ จะไมสำมำรถปองกันแมลงศตั รู
พืชผักไดทุกชนดิ มีเพียง หนอนผีเส้อื และดวงหมัดผัก เทำนัน้ ทีส่ ำมำรถปองกันได สวนเพล้ียออน เพล้ียไฟ หนอนแมลงวนั ชอบ ใบแมลงหวี่ขำวและไร ซง่ึ เปนแมลงขนำดเลก็ จะไมสำมำรถปองกนั ไดรอยเปอรเซ็นต ซึง่ ถำ หำกใชมุงไน ลอนที่มคี วำมถ่ีเพม่ิ ขึน้ เปน 24 และ 32 ชองตอนวิ้ แลวจะปองกันไดแตอำจมปี ญหำเรอื่ งอุณหภูมิ และ ควำมชน้ื ภำยในมุง ขอควรระวงั สำหรับกำรปลูกผกั ในโรงเรือนมุงตำขำย ❖ อยำใหมหี นอนผีเสอ้ื หรือ หนอนตำงๆ หลุดเขำไปในโรงเรือนไดเพรำะหนอนตำงๆ เหลำน้ี จะสำมำรถขยำยพนั ธุไดอยำงรวดเร็ว ❖ ใน กำรยำยกลำ จะตองตรวจดูกลำผัก อยำใหมีไขตัวหนอนหรอื ดกั แดติดเขำไปในโรงเรอื น ❖ ควรดูแลอยำใหมุ งตำขำยชำรดุ ฉีดขำด เพรำะอำจทำใหดวงหมัดผกั เลด็ ลอดเขำไปไดอำจจะ มกี ำรรองดวยผำหรอื แผนยำง บรเิ วณทมี่ กี ำรเสียดสรี ะหวำงตำขำยกับโครงสรำงเพื่อปองกันกำรฉดี ขำด ❖ มงุ ตำขำยจะตองปดมดิ ชิด ตลอดเวลำ และควรทำประตูเปนแบบสองช้นั ❖ กำรปลกู ผกั ในโรงเรอื นมงุ ตำขำยไมสำมำรถปองกนั แมลง ขนำดเลก็ ไดดังนั้น จงึ อำจจะตอง ใชวธิ ีกำรกำจดั ศตั รูพชื อื่นๆ รวมดวย ❖ ผกั ที่ปลูกไดในมงุ ตำขำยไนลอน ประเภทกนิ ใบ ไดแก คะนำ ผักกำดขำว กวำงตุง ฮองเตต้ังโอปวยเลง ข้ึนฉำย เปนตน ประเภทกินดอก ไดแก กะหลำ่ ดอก บลอ็ กโคลี่ เปนตน ประเภทกินฝกและผล ไดแก ถัว่ ฝกยำว มะเขือเปรำะ ถว่ั ลันเตำ เปนตน กำรควมคมุ โดยชวี วิธี เปนกำรใชสง่ิ มชี วี ิตควบคมุ ศตั รพู ืช ซึ่งไดแก แมลง ตวั ห้ำ ตัวเบยี น ทท่ี ำลำยแมลงศัตรพู ชื ชนิด อื่น หรอื อำจใชสง่ิ มชี วี ิตเล็กๆ เชน เชื้อบักเตรีเชอ้ื ไวรสั เช้ือรำ ไสเดือนฝอย เปนตน ในกำรควบคมุ ซ่งึ มี รำยละเอยี ด ดังน้ี เชือ้ บกั เตรีทนี่ ยิ มใชในกำรควบคุมแมลง คือ เช้ือบที ี (BT) โดยแมลงทไ่ี ดรบั เช้อื บกั เตรีชนิดน้ี เขำไปแลว น้ำยอยในลำไสของแมลงจะละลำยผลึกของเชื้อบกั เตรี ทำใหเกิดสำรพษิ ทำลำยระบบยอย อำหำร และอวัยวะของแมลง ทำใหขำกรรไกรแข็ง กนิ อำหำรไมไดเคล่อื นไหวชำลง และตำยไปในที่สดุ เช้ือบกั เตรที ่มี ี ขำยเปนกำรคำจะมี 2 กลมุ คอื 1. Kurstaki ไดแก แบคโทรฟนเอชพี ดบั เบลิ้ ยูพ,ี เซ็นทำร่ียูดจี ี มปี ระสทิ ธภิ ำพ ในกำรกำจัด หนอนในผกั หนอนกระทูหอม และหนอนคบื กะหลำ่ 2. Aizawai ไดแก ฟลอรแบค เอชพ,ี ฟลอร แบค เอฟซ,ี ธูรีไซด เอชพีมปี ระสทิ ธิภำพในกำร กำจดั หนอนใยผัก และหนอนคบื กะหล่ำ เทำนัน้ กำรปลกู ผัก ปลอดภยั จำกสำรพษิ ❀ 9 ดงั นั้น กำรทีจ่ ะใชเชอ้ื บักเตรีใหไดผล ควรเลือกชนดิ ของเชอ่ื ใหตรงกบั แมลงศตั รู และควรฉีด พนเมื่อหนอนยังเปนตวั ออนอยู หลกี เล่ยี งแสงในขณะฉีดพน และไมควรใหนำ้ หลงั จำกฉีดพนเชือ้ บักเตรี แลว เช้อื ไวรสั เช้ือไวรสั ท่ีใชในกำรควบคมุ คือ เอ็นพีวี (NPV) โดยใชในกำรกำจัดหนอนหลอดหอมหรือ หนอน หนังเหนียว ซ่งึ เชอื้ ไวรสั ชนิดน้ีจะเขำไปทำลำยระบบตำงๆ ของรำงกำย ทำใหหนอนลดกำรกินอำหำร เคลอ่ื นไหวชำ ลำตัวมสี ซี ดี ลง มจี ุดสีขนุ หรือสม แลวจะใชขำเทยี มเกำะทต่ี นพืชหอยหวั ลงมำตำยในทส่ี ุด เชอ้ื รำ ทใี่ ชในกำรควบคมุ คอื ไตรโครเดอรมำจะควบคมุ เชอ้ื สำเหตขุ องโรครำกเนำ โคนเนำ เนำคอดนิ ของมะเขือเทศ และผกั กำดหัว โดยจะใชเชือ้ รำผสมกบั รำขำวและปุยหมกั ในอัตรำ 1:10:40 แลวใชรอง กนหลมุ หรอื โรยรอบ โคนตน ไสเดอื นฝอย จะชวยควบคมุ ดวงหมัดผัก โดยชอนไชเขำสรู ะบบเลอื ดหรือกระเพำะอำหำร เมื่อเขำไป แลวจะถกู ยอยทำลำย จำกน้นั จะปลดปลอยเชือ้ บักเตรีทีเ่ ปนอันตรำยตอแมลงออกมำ ทำใหแมลงตำยในทสี่ ดุ ใน กำรใชไสเดอื นฝอยนน้ั เกษตรกรควรเก็บรกั ษำไวในท่ีเย็น และใชไสเดอื นฝอยในกำรควบคมุ หลังจำก กำร ใหนำ้ แกตนพืชชวงเวลำเยน็ ๆ เน่ืองจำกไสเดอื นฝอยจะไมทนทำนตอสภำพที่แหงแลง หรือถูกแสง แดด กำรใช สำรสกัดจำกพืช พืชท่นี ิยมนำมำใชสกดั เปนสำรควบคุมโรคและแมลง คอื สะเดำ เนอ่ื งจำกในสะเดำมีสำร อะ ซำดิแรคติน (Azadirachtin) ซงึ่ มคี ุณสมบัติชวยในกำรปองกนั และกำจดั แมลงไดโดย • สำมำรถใชฆำแมลงได บำงชนดิ • ใชเปนสำรไลแมลง • ทำใหแมลงไมกนิ อำหำร • ทำใหกำรเจรญิ เตบิ โตของแมลงผดิ ปกติ • ยบั ย้ังกำร
เจรญิ เตบิ โตของแมลง • ยบั ย้ังกำรวำงไขและกำรลอกครำบของแมลง • เปนพษิ ตอไขของแมลง ทำใหไขไมฟก • ยับยงั้ กำรสรำงเอนไซมในระบบยอยอำหำรของแมลง วธิ กี ำรใชคือ นำเอำผลสะเดำหรือสะเดำทบี่ ดแลว 1 กโิ ลกรมั แชในนำ้ 20 ลติ ร ทง้ิ คำงคนื ไว 1 คืน แตถำเกษตรกรมเี ครื่องกวนสวนผสมดงั กลำว ก็จะลดเวลำเหลือ เพียง 3-4 ชวั่ โมง จำกนนั้ กรอง เอำแตน้ำมำผสมดวยสำรจับใบประมำณ 1 ชอนโตะ แลวนำไปรดพืชผกั ทันทสี วนกำกของสะเดำท่เี หลือ ใหนำไปโรยโคนตนเพื่อปรับปรุงสภำพดิน และกำจดั แมลงในดนิ ไดอกี ดวย กำรปลกู ผกั ปลอดภยั จำกสำรพษิ ❀ 10 ขอควรระวัง พชื บำงชนิดเมอ่ื ไดรบั สำรนแ้ี ลวอำจเกิดอำกำรใบไหมเห่ยี วย นหรือตนแคระ แกรน็ ดังนเ้ี มอื่ พบอำกำรตำงๆ เหลำน้ีกค็ วรจะงดใชสำรสกัดจำกสะเดำทนั ที ชนดิ ของแมลงท่ี สำมำรถกำจดั ไดดวยสะเดำ 1. ชนดิ ทใ่ี ชแลวไดผลดี ไดแก หนอนใยผกั หนอนหนังเหนียว หนอนกระทชู นิดต ำงๆ หนอน กดั กนิ ใบ หนอนเจำะยอด หนอนชอนใบ หนอนมวนใบ หนอนหวั กระโหลก 2. ชนิดทีใ่ ชแลวไดผล ปำนกลำง ไดแก เพล้ยี จักจัน่ หนอนเจำะ สมอฝำย หนอนตนกลำถว่ั แมลงหวีข่ ำว แมลงวนั ทอง เพลีย้ ไกแจ เพลย้ี ออน 3. ชนดิ ทใ่ี ชแลวไดผลนอย ไดแก หนอนเจำะฝกถ่วั เพลี้ยไฟ ไรแดง มวนและดวงชนิดตำงๆ พืชผกั ที่ ใชสำรสกัดจำกสะเดำไดผล ไดแก ผกั คะนำ กวำง ผักกำดหอม กะหล่ำปลีกะหลำ่ ดอก แตงกวำ แตงโม แตง เทศ มะเขอื เทศ มะเขือยำว หนอไมฝรั่ง ขำวโพดออน พรกิ ขี้หนู ตำลงึ มะนำว มะกรูด กำรใชสำรแคมปี องกัน และกำจัดศตั รูพืช จำกขอมูลทีไ่ ดกลำวมำแลวขำงตน ในกำรปฏิบตั จิ ริงของเกษตรกรนน้ั เกษตรกรตองหม่ัน ตรวจ แปลงปลกู พืชของตนอยำงสมำ่ เสมอ เพ่ือเปนกำรพยำกรณสถำนกำรณของศตั รูพืชในแปลงของตน เมื่อ ทรำบสถำนกำรณแลวจึงพิจำรณำเลือกใชวิธีกำรปองกันและกำจัดทเ่ี หมำะสม แตในกรณที ่ไี มสำมำรถ ควบคมุ หรอื ไมมวี ธิ ีกำรควบคมุ ใดที่ใชไดผลแลว เกษตรกรอำจใชสำรเคมใี นกำรควบคมุ ศตั รพู ชื น้นั ๆ ได โดยพิจำรณำ จำก 1. เปนสำรเคมีท่เี หมำะสมกับศัตรพู ืชชนิดนั้น 2. สำรเคมนี ้นั สลำยตัวไดเรว็ 3. ใชในอัตรำทีเ่ หมำะสมตำม คำแนะนำ 4. เวนระยะกำรเกบ็ เก่ยี วผลผลติ ตำมคำแนะนำ ท้ังนีเ้ พ่ือไมกอใหเกิดอันตรำย หรือมสี ำรพษิ ตกคำง ในพชื ผกั นนั้ และมคี วำมปลอดภัยตอ ผบู ริโภคอีกดวย จดั ทำเอกสำรอิเล็กทรอ ผกั ปลอดสำรพษิ คอื อะไร? ผกั ปลอดสำร หรอื ผกั ปลอดสำรพิษ หมำยถงึ ผกั ที่ทำกำรเพำะปลูกในฟำรม์ เปิดหรอื สวนตำมฤดกู ำล โดยจะ หลกี เล่ยี งกำรใช้สำรเคมี หรืออำจจะมกี ำรใชส้ ำรเคมสี งเครำะหใ์ นกำรบำรงุ รกั ษำบำ้ งแต่กใ็ ชใ้ นปริมำณเลก็ นอ้ ย เพอื่ เป็นกำรกระต้นุ ให้ผักมกี ำรเจรญิ เตบิ โต และมีกำรควบคุมไมใ่ ห้มกี ำรตกคำ้ งของสำรเคมเี หล่ำนน้ั ในปริมำณ ทีเ่ กนิ กำหนดในระหว่ำงเก็บเกี่ยวเพอื่ ใหม้ ัน่ ใจได้ว่ำมีควำมปลอดภัยตอ่ ผู้บรโิ ภคอย่ำงสูงสดุ ประโยชนข์ องผกั ปลอดสำรพษิ ทมี่ ตี อ่ สขุ ภำพ 1.กำรบริโภคผักปลอดสำรพิษเปน็ ประจำ จะช่วยทำให้มสี ขุ ภำพร่ำงกำยทด่ี ี มภี ูมติ ้ำนทำนและแข็งแรงขึน้ อกี ทง้ั ยังชว่ ยลดอตั รำเสีย่ งต่อกำรเจ็บปว่ ยและกำรเกิดโรคตำ่ งๆ อันมีผลในระยะยำวมำจำกสำรพษิ หรอื สำรเคมี ตกคำ้ งในร่ำงกำย อยำ่ งเชน่ โรคมะเรง็ เป็นตน้ 2.กำรรับประทำนอำหำรท่ีปรงุ จำกผักปลอดสำรพิษ ทำใหร้ ่ำงกำยได้รับคุณคำ่ ทำงสำรอำหำรสงู กว่ำปกติ สง่ ผลดีต่อสตรีทีก่ ำลงั ตั้งครรภ์ และสตรใี ห้นมบุตรเพรำะปลอดภยั จำกสำรพิษตกคำ้ งท่ีมีอนั ตรำยตอ่ ทำรกใน ครรภแ์ ละบตุ รท่กี นิ นมแม่ 3.ผักปลอดสำรพิษมปี ระโยชน์ต่อผปู้ ่วย และผทู้ อ่ี ยู่ในภำวะรักษำหรอื ควบคุมสขุ ภำพ เนื่องจำกมีคณุ ค่ำของ สำรอำหำรตำมธรรมชำติ และไรส้ ำรพษิ ตกคำ้ งท่อี ำจจะทำให้เกดิ อำกำรแพ้สำร หรอื อำจมปี ฏิกริ ยิ ำตอ่ ยำบำง ตัวท่ใี ช้ในกำรรกั ษำโรคของผู้ปว่ ย
4.ผกั ปลอดสำรพษิ มีรสชำตดิ ีและอร่อย อีกทัง้ ยงั ใหค้ ุณคำ่ ทำงสำรอำหำร อันไดแ้ ก่ วิตำมิน เกลอื แร่ เอนไซม์ และสำรตอ่ ต้ำนอนุมูลอิสระมำกกวำ่ ผกั ท่วั ไปตำมทอ้ งตลำด 5.ชว่ ยควบคุมน้ำหนักและรักษำห่นุ ได้เป็นอย่ำงดี เพรำะอำหำรเพื่อสขุ ภำพส่วนใหญจ่ ะเนน้ หนักในเรอ่ื งผัก ปลอดสำรพษิ เนอ่ื งจำกมีควำมเป็นธรรมชำติและปลอดภยั ด้วยซ่งึ เมนเู พือ่ สุขภำพยอดนิยมทีท่ ำทำนไดง้ ำ่ ยๆ ตำมใจผทู้ ำนและประหยัดเวลำแตม่ ีคุณคำ่ ทำงสำรอำหำรมำกมำยกค็ อื สลัดผักตำ่ งๆ น่นั เองคะ่ ประโยชนท์ ว่ั ไปของผกั ปลอดสำรพิษ 1.มคี วำมปลอดภัยและลดควำมเสี่ยงต่อกำรได้รบั สำรพษิ ตกค้ำงทัง้ ตอ่ ตวั เกษตรกรและผบู้ ริโภค 2.ลดต้นทนุ กำรผลิตและเพมิ่ รำยไดใ้ ห้แกเ่ กษตรกร เนอื่ งจำกมีกำรควบคมุ ปริมำณกำรใช้สำรเคมีใหน้ อ้ ยลงหรอื อำจจะไมใ่ ชเ้ ลย จงึ เป็นกำรลดภำระคำ่ ใช้จ่ำยในสว่ นนี้ไป อีกทั้งรำคำขำยของผลิตผลค่อนขำ้ งดแี ละสงู กวำ่ ผัก ท่ัวไปตำมท้องตลำดด้วย 3.ชว่ ยรกั ษำส่งิ แวดล้อม เนอื่ งจำกมีกำรหลกี เลีย่ งหรือควบคุมกำรใชส้ ำรเคมีใหอ้ ยูใ่ นปรมิ ำณทป่ี ลอดภยั เปน็ ผล ทำใหไ้ ร้สำรพษิ ตกค้ำงในดนิ นำ้ หรืออำกำศนน่ั เอง 4.ช่วยส่งเสริมเกษตรกรทอ่ี ยใู่ นกระบวนกำรผลติ ผักปลอดสำรพษิ ให้ตระหนกั เรยี นรู้ และใหค้ วำมสำคัญในวถิ ี ชีวติ กำรเกษตรแบบด้ังเดมิ ตำมแนวเศรษฐกิจพอเพยี ง ถึงแมจ้ ะไดข้ ึ้นชือ่ วำ่ เปน็ “ผกั ปลอดสำรพิษ” แต่เพอื่ สขุ อนำมัยท่ีดี เรำตอ้ งล้ำงทำควำมสะอำดผกั กอ่ นนำไป ประกอบอำหำรเพ่ือบริโภคทุกครงั้ ถ้ำเปน็ ไปได้กำรปลูกผักสวนครัวเอำไว้ทำนเองนำ่ จะเป็นกำรรับรองควำม ม่ันใจในคุณภำพและควำมปลอดภยั ไดด้ ีทีส่ ุด กำรปลกู พชื ผกั ปลอดสำรพษิ ปลกู พืชผักปลอดสำรพษิ จะชว่ ยลดกำรใชส้ ำรเคมที ำงกำรเกษตรและลดสำรปนเปื้อน จำกกำรตกคำ้ งของ สำรเคมีในผลผลิต ลดตน้ ทนุ กำรผลิต และ ลดปัญหำหนส้ี ินเกษตรกรที่ขำดทุนจำก กำรผลิตท่ีตอ้ งกหู้ นย้ี มื สิน มำซื้อปจั จยั กำรผลิต นบั เป็นองค์ประกอบสำคัญทสี่ ำมำรถลดปัญหำควำม ยำกจนของเกษตรกรได้ จึงเปน็ สำเหตใุ ห้ศนู ยป์ รำชญ์ชำวบ้ำนหลำยศนู ย์ นำองค์ควำมรู้ในเรือ่ งเกษตร ธรรมชำติ เกษตรอินทรยี ซ์ ง่ึ ได้มำจำก กำรเรียนรทู้ ดลองปฏบิ ัติของปรำชญช์ ำวบ้ำน และเกษตรกรอีก หลำยๆ ท่ำนในพน้ื ที่ มำถ่ำยทอดใหเ้ กษตรกรที่ เข้ำรับกำรอบรมโดยทั่วไป ดว้ ยวธิ กี ำรปลูกและดแู ลรกั ษำ ท่งี ่ำย ใช้ปยุ๋ หมักชวี ภำพ นำ้ หมักชวี ภำพ และสำรไล่ แมลงทส่ี ำมำรถผลิตเองท้งั หมด และวัสดทุ หี่ ำไดใ้ น ท้องถ่นิ รำคำไม่แพง ทง้ั น้ี พืชผักปลอดสำรพษิ ท่ไี ดจ้ ะมี สว่ นช่วยในกำรเพมิ่ รำยได้ของผลผลิต และเป็นกำร ใชพ้ ้ืนท่ีวำ่ งเปลำ่ ให้เกิดประโยชน์ เกษตรกรสำมำรถปลกู
รบั ประทำนเองและจำหน่ำยเป็นรำยไดข้ อง ครอบครัว มีสว่ นชว่ ยให้ผูบ้ รโิ ภคมีโอกำสเลอื กพชื ผกั ท่ีปลอดภัยตอ่ กำรบรโิ ภค สง่ ผลให้ร่ำงกำยของ เกษตรกรดี รวมทั้งสุขภำพจติ ดตี ำมมำด้วย โดยมีวัสดุอปุ กรณ์ และข้ันตอน วิธีกำรในกำรผลิต สรปุ ไดด้ งั นี้ วสั ดอุ ุปกรณ์ 1. ปุ๋ยหมกั ชีวภำพ 2. น้ำหมกั ชีวภำพ 3. น้ำหมกั สมนุ ไพร 4. กำกนำ้ ตำล 5. ฟำง 6. ผ้ำมุ่งไนล่อนผสมยวู ี 7. กระดำษกระสอบปุย๋ 8. ขยุ มะพรำ้ ว 9. บวั รดน้ำ 10. จอบ 11. คำด ขน้ั ตอนวิธกี ำร กำรเตรยี มแปลงวธิ ที ี่ 1 1. ขดุ ดินเป็นแปลงผักตำมปกติ 2. ทำรอ่ งตรงกลำงแปลง 3. โรยดว้ ยปุย๋ หมกั ชีวภำพ ตำมด้วยฟำง 4. รดดว้ ยนำ้ ผสมหัวเชอ้ื จุลนิ ทรีย์ และกำกนำ้ ตำล 5. กลบร่อง พรอ้ มเกลยี่ ให้เรยี บ 6. โรยปยุ๋ หมกั ชีวภำพอกี ครั้ง และรดน้ำทผ่ี สมจลุ นิ ทรีย์ T.M. และกำกนำ้ ตำลอกี คร้งั ท้งิ ไว้ 7 วนั จึงปลกู ผัก ได้ กำรเตรยี มแปลงวิธที ี่ 2 1. ขดุ ดินทจี่ ะทำแปลงผกั ลกึ ประมำณ 25 – 30 ซม.กว้ำงประมำณ 1 เมตรยำวตำมต้องกำร โดยเอำดินที่ขดุ ออกไว้ข้ำงแปลง 2. โรยปุ๋ยหมกั ชีวภำพลงในแปลงประมำณ 10 กก. ต่อ ตำรำงเมตร 3. เอำหน้ำดนิ ขดุ ออกลงใส่ คลกุ ใหเ้ ข้ำกับปยุ๋ ใหส้ งู กว่ำระดบั เดิมพอประมำณ 4. นำกำกนำ้ ตำลกับน้ำหมกั ชวี ภำพอย่ำงละ 1 ช้อน ผสมน้ำท่ีเตรยี มไว้ รดแปลงใหช้ ุ่มวนั ละครั้ง ตดิ ตอ่ กัน 7 วนั 5. พรวนดินทแี่ ปลงคำดให้เรยี บ 6. รดน้ำให้ชมุ่ ทุกวนั รดน้ำหมักสมนุ ไพรทกุ 5 วนั และพรวนดินทกุ 3 สัปดำห์ กำรเตรยี มแปลงวิธที ี่ 3
1. ขดุ บอ่ ใหล้ ึกบวกคันดนิ ประมำณ 4 เมตร 2. ควำมกว้ำง 19 เมตร ยำว 29 เมตร 3. คลุมด้วยผำ้ ม่งุ ไนลอ่ นผสมยูวี (บนคันดิน) 4. ปลูกผกั โดยใชก้ ระดำษกระสอบป๋ยุ ปลู งบนร่องผกั ลึก เพอ่ื ไม่ให้ควำมรอ้ นลงไปยงั ดินและเปน็ กำรควบคมุ หญ้ำอกี ทำงหน่งึ หรอื ปลูกผกั โดยใช้ขยุ มะพร้ำวทผ่ี ลิตเองเพ่ือเก็บควำมชื้น กำรใชป้ ระโยชน์ 1. เป็นแปลงผกั ถำวร สำมำรถปลกู ผกั ตดิ ต่อกันได้ตลอดทั้งปีโดยไมใ่ ส่ปุ๋ย 2. แปลงผักมีจลุ ินทรยี ์ ทำใหด้ นิ รว่ มซุย 3. ผักเจริญงอกงำมดี แข็งแรง ตำ้ นทำนต่อโรค มีคุณคำ่ ทำงโภชนำกำรสูง 4. ต้นทนุ ตำ่ ไดผ้ ลผลิตสูง ปลอดภยั
บทที่ 3 วธิ กี ำรดำเนนิ กำร ในกำรดำเนนิ งำนจัดโครงกำร ศนู ย์ฝึกอำชีพชุมชน หลกั สตู รพฒั นำอำชีพ วชิ ำกำรปลูกผักปลอดสำรพิษ กศน.ตำบลดงมะไฟ มีรำยละเอยี ดดงั ตอ่ ไปนี้ ข้นั ตอนกำรวำงแผน (plan) ขนั้ ตอนกำรลงมอื ทำ (Do) ขน้ั ตอนกำรตรวจสอบ (Check) ขัน้ ตอนกำรปรับปรงุ แกไ้ ข (Act) ขน้ั ตอนกำรวำงแผน (plan) 1. ดำเนนิ กำรประชำคมกลมุ่ ผสู้ นใจพฒั นำอำชีพ 2. ได้กลมุ่ เปำ้ หมำย 3. เตรียมหลกั สูตร เสนอโครงกำรเพื่อขออนุมัติ 4. แต่งตงั้ คณะทำงำนภำยในตำบล คณะกรรมกำรนิเทศกจิ กรรม 5. ประสำนวิทยำกร ขนั้ ตอนกำรลงมือทำ (Do) 1. ดำเนินกำรประสำนงำนผูท้ ่ีเกี่ยวข้อง ครู กศน.ตำบล ครู ศรช. ผูน้ ำชมุ ชน คณะกรรมกำรหมูบ่ ำ้ นและชำวบ้ำนจัดเตรียม สถำนที่ 2. นำประชำชนทสี่ นใจมำเขำ้ รว่ มกจิ กรรม 3. ประเมนิ ผลโครงกำรโดยใหผ้ เู้ ขำ้ ร่วมโครงกำรออกแบบประเมนิ ควำมพงึ พอใจในกำรเข้ำร่วม โครงกำร 4. รวบรวมข้อมูลจำกแบบประเมิน 5. สรุปผลควำมพงึ พอใจของผ้เู ขำ้ ร่วมโครงกำร ขั้นตอนกำรตรวจสอบ (Check) 1.เครอื่ งมอื ทีใ่ ช้ในกำรตรวจสอบ แบบประเมนิ ควำมพึงพอใจของผู้เขำ้ รว่ มโครงกำร 2. กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู กศน.ตำบลดงมะไฟ ได้ดำเนนิ กำรเก็บรวบรวมขอ้ มลู จำกผ้เู ข้ำรว่ มโครงกำร - ประชำชนกลมุ่ เปำ้ หมำย จำนวน 8 คน 3.กำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู กำรประเมินผลกำรดำเนินงำนของโครงกำร ศนู ย์ฝึกอำชพี ชุมชน หลักสตู ร พัฒนำอำชีพ กำรปลกู ผักปลอดสำรพิษ กศน.ตำบลดงมะไฟ ดำเนนิ กำรวิเครำะหข์ อ้ มลู ดังน้ี 3.1 แบบประเมินตอนท่ี 1 ขอ้ มลู ทว่ั ไป วิเครำะหห์ ำคำ่ รอ้ ยละ
3.2 แบบประเมนิ ตอนท่ี 2 ควำมพงึ พอใจตวั บ่งชีข้ องโครงกำร 3.2.1 ใหค้ ะแนนตำมน้ำหนกั แบบประเมินฉบบั สมบรู ณ์ ตำมเกณฑ์ มำตรฐำนของ สมศ. โดยมีเกณฑใ์ หค้ ะแนน ดงั นี้ ระดับ 5 หมำยถึง ดำเนินงำนได้ตำมเกณฑข์ องตัวบ่งชี้ดมี ำก ระดบั 4 หมำยถงึ ดำเนนิ งำนได้ตำมเกณฑ์ของตวั บง่ ชด้ี ี ระดับ 3 หมำยถึง ดำเนินงำนไดต้ ำมเกณฑข์ องตัวบ่งชพี้ อใช้ ระดับ 2 หมำยถึง ดำเนินงำนไดต้ ำมเกณฑ์ของตัวบ่งชีป้ รับปรงุ ระดับ 1 หมำยถงึ ดำเนนิ งำนได้ตำมเกณฑ์ของตัวบง่ ชี้ตอ้ งปรบั ปรุง 3.2.2 วเิ ครำะหข์ อ้ มลู โดยกำรหำค่ำเฉลยี่ ร้อยละควำมพงึ พอใจ 3.3 แบบประเมนิ ตอนที่ 3 ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอน่ื ๆ วเิ ครำะห์ดว้ ยเนื้อหำ (Content analysis)
บทท่ี 4 ผลกำรดำเนนิ งำน กำรจัดกจิ กรรมโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชพี ชุมชนหลักสตู รพัฒนำอำชีพ วชิ ำกำรปลูกผักปลอดสำรพษิ ณ ศำลำประชำคม หมู่ 9 ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหำ จังหวัดหนองบัวลำภู สรุปผลกำรดำเนินงำนได้ดังน้ี ชอื่ โครงกำร วันท่ดี ำเนินกำร เป้ำท่ไี ด้รับจดั สรร ผล คดิ เป็นรอ้ ยละ โครงกำร ศนู ยฝ์ ึก 17-18 มถิ ุนำยน 7 8 100 อำชีพชุมชน 2564 หลักสูตรพฒั นำ อำชพี หลกั สูตร กำรปลกู ผักปลอด สำรพิษ กำรประเมินควำมพงึ พอใจในกำรดำเนินงำนตำมโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชพี ชมุ ชน หลักสตู รพัฒนำอำชพี วิชำ กำรปลูกผักปลอดสำรพษิ กศน.ตำบลดงมะไฟ ของผ้รู ับบริกำรท่เี ข้ำร่วมโครงกำร โดยเสนอ รำยละเอียดตำมลำดบั คอื สญั ลกั ษณ์ท่ีใช้ในกำรวิเครำะหข์ ้อมูล ลำดบั ขนั้ ตอนในกำรวเิ ครำะห์ข้อมลู ผลกำร วเิ ครำะห์ข้อมูล และกำรแปลควำมหมำยขอ้ มูลดงั ต่อไปน้ี สญั ลักษณท์ ่ใี ชใ้ นกำรวิเครำะห์ข้อมลู กำรเสนอผลกำรประเมนิ คร้งั น้ีได้กำหนดสัญลักษณ์ท่ีใชใ้ นกำรวิเครำะห์ขอ้ มูล ดังน้ี N แทน ขนำดของกลุม่ ผปู้ ระเมินกำรใชค้ มู่ อื (Sample size) % แทน คำ่ ร้อยละ (Percentage) ลำดบั ขั้นตอนในกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู กำรวิเครำะห์ข้อมลู ผู้ประเมนิ ได้เสนอผลกำรวเิ ครำะหข์ ้อมลู เปน็ ตอนๆ เรยี งลำดบั ดังน้ี ตอนท่ี 1 กำรวิเครำะห์ข้อมลู เกีย่ วกับขอ้ มูลทวั่ ไป ตอนที่ 2 กำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูลดำ้ นควำมพงึ พอใจของผ้รู บั บรกิ ำร ตอนท่ี 3 กำรวเิ ครำะหข์ อ้ มูล ขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะอ่นื ๆ ในกำรสรปุ ผลกำรดำเนินงำนโครงกำร ศูนยฝ์ กึ อำชพี ชุมชน หลกั สูตรพฒั นำอำชพี วิชำ กำรปลูกผกั ปลอดสำรพิษ ณ ศำลำประชำคม ม.9 บำ้ นวังหินซำ ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคุหำ จงั หวัด หนองบวั ลำภู ได้จดั ทำเคร่อื งมอื เป็นแบบสอบถำม วดั ระดบั ควำมคดิ เหน็ และควำมพงึ พอใจในกำรดำเนนิ กำร
พัฒนำซงึ่ แบง่ ออกเปน็ 3 สว่ นคอื ส่วนแรกเป็นคำถำมปลำยเปดิ มำตรำส่วนประมำณคำ่ (Rating scales) ส่วนที่ 2 มำตรำส่วนประมำณคำ่ ของ ลเิ คริ ท์ likert’s Scales 5 ระดบั สว่ นท่สี ำมเปน็ คำถำมปลำยเปิด ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ สว่ นที่สำมเป็นคำถำมปลำยเปิดเนือ้ หำสำระทต่ี อ้ งกำรพฒั นำในคร้งั ตอ่ ไป ซ่ึงในกำรเก็บ รวบรวมนนั้ ไดแ้ จกแบบสอบถำมแกผ่ เู้ ขำ้ ร่วมโครงกำรศูนยฝ์ กึ อำชีพชุมชน หลกั สตู รพัฒนำอำชพี วิชำ กำร ปลูกผักปลอดสำรพิษ จำนวน 8 คน ไดแ้ บบสอบถำมคนื จำนวน 8 ฉบับ จำกผูเ้ ขำ้ รว่ มโครงกำร คิดเป็น ร้อยละ 100 กระทำกำรวิเครำะหข์ อ้ มูลตำมประเภทและลกั ษณะของขอ้ มูล โดยหำคำ่ เฉลีย่ เป็นค่ำร้อยละ ซ่งึ ไดว้ ดั ระดบั ควำมคดิ เหน็ และควำมพงึ พอใจทม่ี ตี อ่ โครงกำรจะปรำกฏดังน้ี สรุปผลกำรวิเครำะห์ขอ้ มูลควำมพงึ พอใจ โครงกำร ศนู ยฝ์ กึ อำชีพชุมชน หลกั สูตรพฒั นำอำชพี วิชำ กำรปลูกผักปลอดสำรพษิ ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู ทวั่ ไป รำยกำรข้อมูลพ้นื ฐำน จำนวน รอ้ ยละ (ƒ) (%) 1.เพศ 1.1 ชำย 1 12.5 1.2 หญิง 7 87.5 รวม 8 100.00 2.อำยุ 2.1 ต่ำกวำ่ 15 ปี 00 2.2 อำยุ 15 – 39 ปี 3 37.5 2.3 อำยุ 40 – 59 ปี 4 50 2.4 อำยุ 60 ปขี ึ้นไป 1 12.5 รวม 8 100.00 3.ระดับกำรศกึ ษำ 1 12.5 3.1 ป.4 2 25 3.2 ป.6 1 12.5 3.3 ม.ต้น 4 50 3.4 ม.ปลำย 3.5 ปวช. 00 3.6 ปวส. 00 3.7 ปรญิ ญำตรี 00 3.8 อนื่ ๆ 8 100.00 รวม 4.อำชพี 00 4.1 ผนู้ ำท้องถ่ิน
4.2 อบต/เทศบำล 00 4.3 พนักงำนรฐั วิสำหกจิ 00 4.4 ทหำรกองประจำกำร 00 4.5 เกษตรกร 8 100 4.6 รบั รำชกำร 00 4.7 คำ้ ขำย 00 4.8 รบั จำ้ ง 00 4.9 อสม. 00 4.10 แรงงำนตำ่ งด้ำว 00 4.11 วำ่ งงำน 00 4.12 อ่ืนๆ 00 รวม 8 100.00 จำกตำรำง ผลกำรวเิ ครำะห์ข้อมูลควำมพงึ พอใจของผ้เู ขำ้ รว่ มโครงกำรศูนย์ฝกึ อำชีพชุมชน หลักสูตรพัฒนำ อำชีพ วชิ ำ กำรปลกู ผักปลอดสำรพษิ ผลกำรวิเครำะห์ปรำกฏวำ่ ผ้เู ข้ำรว่ มโครงกำร 8 คน เป็นเพศหญิง จำนวน 7 คน คดิ เป็นร้อยละ 87.5 เพศชำย จำนวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 12.5 ดำ้ นอำยุ อำยุ 40- 59 ปี จำนวน 4 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 50 อำยุ 15 – 39 จำนวน 3 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 37.5 อำยุ 60 ปี ขึ้นไป จำนวน 1 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 12.5 ระดับกำรศกึ ษำ ม.ปลำย จำนวน 4 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 50 ป.6 จำนวน 2 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 25 ป.4 จำนวน 1 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 12..5 และม.ตน้ จำนวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 12..5 ตำมลำดบั ดำ้ นอำชีพ เกษตรกร จำนวน 7 คน คดิ เป็นร้อยละ 100
สรุปผลกำรวเิ ครำะห์ข้อมลู ควำมพงึ พอใจ โครงกำร ศนู ย์ฝกึ อำชีพชุมชน หลกั สูตรพฒั นำอำชีพ วิชำ กำร ปลกู ผกั ปลอดสำรพิษ ตอนท่ี 2 ควำมพึงพอใจในกำรใหบ้ ริกำร ตำรำงท่ี 2.1 จดุ มุ่งหมำย/เนอื้ หำหลกั สูตร ข้อ รำยกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจ ระดบั ควำมพึงพอใจ/จำนวน หมำย มำก มำก ปำน น้อย นอ้ ย เหตุ ตอนที่ ๑ ควำมพึงพอใจด้ำนเนอ้ื หำ ท่สี ดุ กลำง ท่สี ดุ 1 เนอ้ื หำตรงตำมควำมตอ้ งกำร 2 เนื้อหำเพียงพอต่อควำมตอ้ งกำร 62 3 เน้ือหำปัจจุบนั ทนั สมยั 53 4 เนอ้ื หำมปี ระโยชนต์ อ่ กำรนำไปใช้ในกำรพัฒนำคณุ ภำพชีวิต 71 ตอนที่ ๒ ควำมพงึ พอใจด้ำนกระบวนกำรจดั กจิ กรรมกำรอบรม 71 5 กำรเตรยี มควำมพร้อมกอ่ นอบรม 6 กำรออกแบบกิจกรรมเหมำะสมกบั วัตถุประสงค์ 8 7 กำรจัดกิจกรรมเหมำะสมกบั เวลำ 71 8 กำรจดั กจิ กรรมเหมำะสมกับกลมุ่ เป้ำหมำย 8 9 วิธีกำรวดั ผล/ประเมินผลเหมำะสมกับวัตถปุ ระสงค์ 8 ตอนที่ ๓ ควำมพึงพอใจตอ่ วิทยำกร 71 10 วิทยำกรมคี วำมรูค้ วำมสำมำรถในเรื่องท่ถี ำ่ ยทอด 11 วิทยำกรมเี ทคนิคกำรถำ่ ยทอดใช้สอ่ื เหมำะสม 71 12 วทิ ยำกรเปิดโอกำสให้มสี ่วนร่วมและซกั ถำม 71 ตอนท่ี ๔ ควำมพงึ พอใจดำ้ นกำรอำนวยควำมสะดวก 8 13 สถำนท่ี วัสดุ อปุ กรณแ์ ละสง่ิ อำนวยควำมสะดวก 14 กำรสอ่ื สำร กำรสร้ำงบรรยำกำศเพ่ือให้เกดิ กำรเรยี นรู้ 8 15 กำรบรกิ ำร กำรช่วยเหลอื และกำรแก้ปญั หำ 62 71
สรปุ ควำมคิดเหน็ และควำมพงึ พอใจของผ้รู บั บรกิ ำร โครงกำรศูนย์ฝึกอำชีพชุมชน หลักสูตรพฒั นำอำชพี วชิ ำ กำรปลกู ผกั ปลอดสำรพิษ สรปุ ได้ดังนี้ ตอนท่ี 1 ควำมพงึ พอใจดำ้ นเน้อื หำ ผตู้ อบแบบสอบถำมมคี วำมพึงพอใจด้ำนเนือ้ หำ ดงั น้ี เนอ้ื หำมีประโยชน์ต่อกำรนำไปใช้ในกำรพฒั นำ คุณภำพชวี ิต ตอบดีมำกรอ้ ยละ 87.5 ตอบดีร้อยละ 12.5 เนือ้ หำทนั สมยั ตอบดีมำกรอ้ ยละ 87.5 ตอบดี รอ้ ยละ 12.5 เนอ้ิ หำตรงตำมควำมตอ้ งกำร ตอบดมี ำกรอ้ ยละ 75 และตอบดี ร้อยละ 25 มเี นอ้ื หำ เพยี งพอต่อควำมตอ้ งกำร ตอบมำกทสี่ ดุ คิดเป็นรอ้ ยละ 62.5 ตอบมำก คดิ เปน็ ร้อยละ 37.5 ตำมลำดบั ตอนท่ี 2 ควำมพึงพอใจดำ้ นกำรจัดกจิ กรรมกำรอบรม ผตู้ อบแบบสอบถำมมคี วำมพงึ พอใจด้ำนกำรเตรยี มควำมพรอ้ มกอ่ นกำรอบรม ตอบมำกทีส่ ุดรอ้ ยละ 100 กำรจดั กจิ กรรมเหมำะสมกับกล่มุ เป้ำหมำย ตอบดีมำกร้อยละ 100 กำรจดั กจิ กรรมเหมำะสมกับเวลำ ตอบดีมำกรอ้ ยละ 100 ประเมนิ ผลเหมำะสมกบั วัตถุประสงค์ ตอบดีมำกรอ้ ยละ 87.5 ตอบดีร้อยละ 12.5 และกำรออกแบบกิจกรรมเหมำะสมกบั วัตถปุ ระสงค์ ตอบดีมำกรอ้ ย87.5 ตอบดรี อ้ ยละ 12.5 ตำมลำดบั ตอนที่ 3 ควำมพึงพอใจตอ่ วิทยำกร ผูต้ อบแบบสอบถำมมคี วำมพงึ พอใจด้ำนวิทยำกร วิทยำกรเปดิ โอกำสใหม้ สี ว่ นรว่ มและซักถำม ตอบ ดมี ำกรอ้ ยละ 100 มคี วำมรคู้ วำมสำมำรถในเร่ืองทถ่ี ่ำยทอด ตอบดีมำกรอ้ ยละ 87.5 ตอบดรี อ้ ยละ 12.5 วทิ ยำกรมีเทคนคิ กำรถำ่ ยทอดใช้สือ่ ทเ่ี หมำะสม ตอบดีมำกรอ้ ยละ 87.5 และตอบดีรอ้ ยละ 12.5 ตอนที่ 4 ควำมพงึ พอใจดำ้ นกำรอำนวยควำมสะดวก ผ้ตู อบแบบสอบถำมมีควำมพึงพอใจดำ้ นกำรบรกิ ำร ด้ำนสถำนที่ วัสดุ อุปกรณ์และสง่ิ อำนวยควำม สะดวก ตอบดีมำกรอ้ ยละ 100 กำรช่วยเหลือและกำรแกป้ ญั หำ ตอบมำกท่ีสุด รอ้ ยละ 87.5 ตอบดรี อ้ ยละ 12.5 ด้ำนกำรสอื่ สำร กำรสร้ำงบรรยำกำศเพอื่ ให้เกดิ กำรเรียนรู้ ตอบมำกทีส่ ดุ รอ้ ยละ 75 ตอบดรี อ้ ยละ 25 ตำมลำดบั
บทท่ี 5 สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ กำรดำเนนิ งำนโครงกำร ศนู ย์ฝึกอำชีพชมุ ชน หลักสตู รพฒั นำอำชีพ กลุ่มสนใจ วชิ ำ กำรทำปลกู ผัก ปลอดสำรพิษ สรปุ ผลกำรดำเนินงำนไดด้ งั นี้ วตั ถุประสงคข์ องโครงกำร 1.เพื่อใหป้ ระชำชนมคี วำมรูแ้ ละทักษะในกำรประกอบอำชพี สำมำรถสร้ำงรำยไดท้ ีม่ ัน่ คง ม่งั ค่ัง 2.เพอื่ ใชใ้ นกำรตัดสินใจประกอบอำชพี ใหส้ อดคล้องกับศักยภำพของตนเอง ชุมชน สังคม และ สิ่งแวดล้อมอย่ำงมีคุณธรรมจรยิ ธรรม 3.เพื่อใหป้ ระชำชนมโี ครงกำรประกอบอำชพี เพื่อใช้เป็นแนวทำงในกำรพัฒนำอำชพี ของตนเอง ขอบเขตของโครงกำร 1. ดำ้ นเนอ้ื หำ โครงกำรนี้มงุ่ ให้ผเู้ รยี นกลมุ่ เป้ำหมำยทีเ่ ข้ำรบั กำรอบรมสำมำรถนำ ควำมรู้ ทกั ษะ และประสบกำรณ์กำรเรียนรตู้ ำ่ งๆ ไปใชใ้ นกำรประกอบอำชีพทเ่ี ป็นกำร เขำ้ สอู่ ำชีพ สรำ้ งงำน สร้ำงรำยได้ หรอื พฒั นำอำชพี หรอื ตอ่ ยอดอำชีพเดิม 2. ด้ำนระยะเวลำ ระยะเวลำในกำรดำเนนิ งำน วนั ที่ 17-18 มถิ นุ ำยน 2564 ณ ศำลำประชำคม หมู่ที่ 9 ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคหู ำ จังหวัดหนองบวั ลำภู 3. ดำ้ นประชำกรและกลมุ่ ตวั อย่ำง ประชำชนตำบลดงมะไฟ จำนวน 8 คน ประโยชนท์ คี่ ำดวำ่ จะไดร้ บั - ประชำชนตำบลดงมะไฟกลมุ่ เปำ้ หมำยมีอำชพี ใหม่มีกำรปลกู ผกั ปลอดสำรพษิ ไวร้ ับประทำนเอง เพอ่ื ลดค่ำใช้จ่ำยภำยในครัวเรือน - เพื่อให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมสำมำรถนำควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ต่ำงๆ ไปใช้ ชีวติ ประจำวนั ตวั ช้ีวัด ตวั ชีว้ ัดผลผลิต รอ้ ยละ 80 ของประชำชน ตำบลดงมะไฟ ท่ีเขำ้ รว่ มโครงกำรมีอำชีพ มงี ำนทำ มีรำยได้ท่มี ่ันคงย่งิ ขึน้ ตัวช้ีวัดผลลพั ธ์ ประชำชนตำบลดงมะไฟ ท่ีเขำ้ ร่วมโครงกำรมีควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณ์กำรเรยี นรตู้ ่ำงๆ ไปใช้ ในชีวิตประจำวนั ผลกำรดำเนนิ โครงกำร
ประชำชนตำบลดงมะไฟ ท่ีเขำ้ ร่วมโครงกำร ศูนยฝ์ ึกอำชพี ชมุ ชน หลกั สูตรพัฒนำอำชพี กำรกำร กำรปลูกผกั ปลอดสำรพิษ มคี วำมพอใจในกำรจัดกจิ กรรมในระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 100 และประชำชนที่เขำ้ ร่วมกจิ กรรมสำมำรถนำควำมรทู้ ่ีไดไ้ ปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั และนำไปเพิ่มรำยได้ลดคำ่ ชำ้ จ่ำยในครอบครวั ของ ตนเองได้ ปญั หำ-อปุ สรรค - กำรดำเนินกจิ กรรมอยู่ในชว่ งฤดทู ำนำ แนวทำงแกไ้ ขปญั หำ - ครแู ละวิทยำกรประสำนผเู้ ข้ำอบรมท่ีมีควำมสนใจในกำรเขำ้ อบรมกำรปลกู ผักปลอด สำรพิษ จำนวน 8 ชวั่ โมง ขอ้ เสนอแนะ เม่ือผ้เู รียนไดเ้ รยี นจบหลักสตู รไปแลว้ สำมำรถนำควำมรู้ทไ่ี ดไ้ ปลดรำยจ่ำยภำยในครอบครวั ได้
ภำคผนวก
ภำพประกอบกิจกรรมโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชีพชมุ ชน หลักสูตรพฒั นำอำชีพ กำรปลกู ผักปลอดสำรพษิ ดำเนนิ กำร 17-18 มิถุนำยน 2564 ณ ศำลำประชำคม หมู่ 9 ตำบลดงมะไฟ อำเภอสวุ รรณคหู ำ วทิ ยำกรแนะนำวิธีกำรปลูกผักปลอดสำรพษิ
กำรปลกู กระชำยขำว
ผ้เู รยี นฝกึ ปฏบิ ตั ิ กำรเตรยี มแปลงปลกู
นำยทรงศกั ดิ์ พรชยั ครู กศน.ตำบลทำปำ้ ยติดแปลงสำธติ
ข้นั ตอนกำรปฏบิ ัติ กำรใส่ป๋ยุ หมกั
ผ้เู รียนลงมือฝึกปฏิบตั แิ ละมกี ารจดบนั ทกึ
Search
Read the Text Version
- 1 - 33
Pages: