Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปผลเจล

สรุปผลเจล

Published by suphatchaya0909155946, 2021-08-22 11:51:24

Description: สรุปผลเจล

Search

Read the Text Version

บทท่ี 1 บทนำ ควำมเปน็ มำและควำมสำคญั จำกสถำนกำรณเ์ ศรษฐกจิ และควำมเหล่ือมลำทมี่ ีอยใู่ นสังคมปัจจบุ นั แสดงถึงฐำนเศรษฐกิจของ ประเทศ ทย่ี งั ไม่เขม้ แข็งประชำชนระดบั ฐำนรำกยังมีรำยได้นอ้ ย ส่วนใหญม่ อี ำชพี ภำคกำรเกษตร จึงไมม่ ี โอกำสทจ่ี ะเตบิ โตเป็นชนชันกลำง กำรขำดโอกำสและควำมรู้เกย่ี วกับทกั ษะดำ้ นอำชพี ทำให้เกิดปญั หำในกำร ประกอบอำชพี เพ่อื สร้ำงรำยไดจ้ ำกผลผลิตของตนเอง จำกสภำวะกำรดงั กล่ำว รัฐบำลจงึ ได้ใหค้ วำมสำคญั ตอ่ กำรพัฒนำประเทศด้ำนเศรษฐกจิ พนื ฐำนของประชำชนกลุ่มดงั กลำ่ ว โดยพยำยำมทจ่ี ะสง่ เสรมิ อำชพี เพอ่ื สรำ้ ง งำนและผลผลติ ทมี่ คี ุณภำพใหแ้ ก่ประชำชนอยำ่ งท่วั ถึงและทกุ ระดบั ชัน ซึง่ กำรพฒั นำประเทศจะตอ้ งพัฒนำ ทรพั ยำกรมนษุ ย์ ของประเทศ ดังนนั กำรจดั กำรศกึ ษำจงึ เป็นปัจจยั สำคัญอันจะนำไปสู่กำรบรรลเุ ป้ำหมำยใน กำรพัฒนำประเทศอย่ำงมคี ุณภำพและยั่งยืน เพ่อื ตอบสนองยทุ ธศำสตร์ชำติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ด้ำน กำรสร้ำงโอกำส และ ควำมเสมอภำคทำงสังคมเพื่อ เรง่ กระจำยโอกำสกำรพัฒนำใหท้ ่ัวถึง ลดควำมเหลอ่ื มลำ ไปสสู่ งั คมเสมอภำค และเปน็ ธรรม สำนักงำน กศน. ซ่ึงเปน็ หนว่ ยงำนทำงกำรศกึ ษำที่มีสถำนศึกษำตงั อยู่ใน ระดบั อำเภอ/เขต จำนวน 928 แหง่ และ กศน. ตำบล จำนวน 7,424 แห่ง ไดข้ ับเคลอื่ นโครงกำรศนู ย์ฝกึ อำชีพ ชุมชน เพ่อื พฒั นำควำมรูแ้ ละฝกึ อำชพี แก่ประชำชน โดยกำรจดั กิจกรรมฝึกอำชพี ภำยใต้ 5 หลักสตู รกลมุ่ อำชีพ ได้แก่ กลุ่มอำชพี ดำ้ นเกษตรกรรม กลุ่มอำชพี ดำ้ นอุตสำหกรรมหรือหัตถกรรม กลุ่มอำชพี ดำ้ นพำณิชยกรรม และบริกำร กล่มุ อำชพี ดำ้ นควำมคดิ สร้ำงสรรค์ และกลุ่มอำชพี เฉพำะทำง เชน่ ชำ่ งไฟฟ้ำ ช่ำงซอ่ มแอร์ ฯลฯ โดยมงุ่ หวงั ใหป้ ระชำชน ทเี่ ขำ้ รับกำรฝึกอำชีพสำมำรถนำควำมรู้ไปใช้ประกอบอำชีพได้ มกี ำรพฒั นำต่อยอด ผลติ ภณั ฑ/์ บริกำร ให้มีคุณภำพ เปน็ กำรสรำ้ งมลู ค่ำเพมิ่ มสี ่งเสริมกำรขำยและขยำยชอ่ งทำงกำรจำหนำ่ ย สนิ ค้ำไปยังผบู้ รโิ ภคทหี่ ลำกหลำย ภำยใต้ Brand กศน. ในอนำคต กศน.ตำบลดงมะไฟ สังกัดศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอ สุวรรณคูหำ ไดส้ ำรวจควำมตอ้ งกำรดำ้ นอำชพี ของชุมชนตำบลดงมะไฟเรยี บรอ้ ยแล้ว จึงไดด้ ำเนินงำนตำม โครงกำรขึน วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงกำร 1.เพือ่ ให้ประชำชนมคี วำมรู้และทกั ษะในกำรประกอบอำชพี สำมำรถสรำ้ งรำยได้ที่ม่ันคง ม่งั คั่ง 2.เพ่ือใช้ในกำรตัดสนิ ใจประกอบอำชพี ให้สอดคลอ้ งกับศกั ยภำพของตนเอง ชมุ ชน สงั คม และ ส่งิ แวดลอ้ มอย่ำงมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 3.เพื่อใหป้ ระชำชนมโี ครงกำรประกอบอำชีพเพื่อใชเ้ ป็นแนวทำงในกำรพัฒนำอำชพี ของตนเอง

ขอบเขตของโครงกำร 1. ดำ้ นเนอื หำ โครงกำรนมี ่งุ ให้ผเู้ รยี นกลุม่ เป้ำหมำยทีเ่ ข้ำรับกำรอบรมสำมำรถนำ ควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณก์ ำรเรียนร้ตู ำ่ งๆ ไปใช้ในกำรประกอบอำชพี ที่เปน็ กำรเข้ำสอู่ ำชีพ สรำ้ งงำน สรำ้ งรำยได้ หรือพฒั นำอำชีพ หรือต่อยอดอำชีพเดมิ 2. ดำ้ นระยะเวลำ ระยะเวลำในกำรดำเนินงำน วนั ท่ี 15 มถิ ุนำยน 2564 ณ ศำลำ ประชำคม หมทู่ ่ี 9 ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคหู ำ จงั หวดั หนองบวั ลำภู 3. ด้ำนประชำกรและกลมุ่ ตวั อยำ่ ง ประชำชนตำบลดงมะไฟ จำนวน 7 คน และครู กศน.ตำบลดงมะไฟ จำนวน 3 คน ประโยชนท์ ค่ี ำดว่ำจะได้รับ - ประชำชนตำบลดงมะไฟกลุ่มเป้ำหมำยมีอำชีพใหม่มีกำรพัฒนำต่อยอดอำชีพเดมิ เพิ่มทกั ษะกำรเป็น ผปู้ ระกอบกำร มีรำยได้ มีงำนทำ มีควำมมน่ั คง ยงั่ ยนื - เพื่อให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมสำมำรถนำควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ต่ำงๆ ไปใช้ในกำร ประกอบอำชีพทเ่ี ปน็ กำรเขำ้ สอู่ ำชพี สรำ้ งงำน สร้ำงรำยได้ หรือพัฒนำอำชีพ หรือต่อยอดอำชีพเดมิ ตัวชีวัด ตวั ชวี ัดผลผลิต ร้อยละ ๘๐ ของประชำชน ตำบลดงมะไฟ ท่เี ขำ้ ร่วมโครงกำรมีอำชพี มีงำนทำ มรี ำยได้ท่ีม่ันคงยิ่งขึน ตวั ชวี ัดผลลพั ธ์ ประชำชนตำบลดงมะไฟ ที่เขำ้ ร่วมโครงกำรมีควำมรู้ ทกั ษะ และประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ตำ่ งๆ ไปใช้ ในกำรประกอบอำชพี ทเ่ี ปน็ กำรเข้ำสอู่ ำชีพ สรำ้ งงำน สร้ำงรำยได้ หรือพัฒนำอำชพี หรอื ตอ่ ยอดอำชีพเดมิ

บทที่ 2 เอกสำรทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ควำมหมำยและควำมสำคัญของกำรพฒั นำอำชีพ โดยทว่ั ไป อำชพี (Career) หมำยถึง ส่งิ ทบ่ี ุคลำกรทำเพ่ือกำรดำรงชีวติ โดยใช้ ควำมรู้ ทักษะ และควำมสำมำรถของตนท่ีได้รับจำกกำรศกึ ษำและฝกึ อบรม เชน่ อำชีพ แพทย์ พยำบำล นักวทิ ยำศำสตร์ ช่ำงไฟฟ้ำ ชำ่ งไม้ เป็นตน้ แต่ในท่นี ีจะใหค้ วำมหมำยของคำวำ่ อำชพี คือ “ลำดบั ของตำแหนง่ ซงึ่ บคุ คลดำรงอยภู่ ำยในชว่ งชวี ติ ของเขำ” (De Cenzo & Robbins, 1994) ดงั นนั บคุ ลำกรทกุ คนท่ที ำงำนโดยได้รับหรอื ไม่ได้รบั ค่ำตอบแทน จะถอื ว่ำเป็นบคุ คลท่มี อี ำชพี ทังสิน กำรพฒั นำอำชีพ (Career development) จงึ หมำยถึง กระบวนกำรซง่ึ องคก์ ำรจัดขนึ เพอื่ ชว่ ยเหลอื บุคลำกรในกำรจดั กำรกบั อำชีพของตนเอง (De Cenzo & Robbins, 1994) ซ่ึงอำจจะไดแ้ กก่ ำร ประเมินศักยภำพของบุคคล กำหนดเส้นทำงอำชีพทีเ่ หมำะสม วำงแผน และฝกึ อบรม เพ่อื ส่งเสรมิ ให้ บคุ ลำกรมกี รพฒั นำและควำมก้ำวหนำ้ ในงำน ประโยชนข์ องกำรพฒั นำอำชีพ กำรพฒั นำอำชีพของบุคลำกร มคี วำมสำคัญและก่อใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ ก่องคก์ ำรหลำยประกำร ดังต่อไปนคี ือ - ชว่ ยรบั ประกนั วำ่ บุคลำกรทม่ี คี วำมสำมำรถจะอยกู่ ับองคก์ ำรต่อไป บุคลำกรทม่ี ี ควำมสำมำรถและประสบกำรณ์ ยอ่ มเปน็ ทต่ี อ้ งกำรขององคก์ ำรทุกแหง่ และบุคคลเหลำ่ นสี ำมำรถท่จี ะหำงำน ใหมไ่ ดอ้ ย่ำงรวดเรว็ และง่ำยดำย หำกพวกเขำร้สู กึ วำ่ องคก์ ำรไม่ได้ใหค้ วำมสำคัญแก่พวกเขำ และไม่ได้รับ นโยบำยหรือมำตรกำรใด ๆ ท่จี ะส่งเสริมควำมกำ้ วหน้ำในอำชพี แก่พวกเขำแลว้ โอกำสท่พี วกเขำจะลำออก จำกงำนกม็ สี ูงยงิ่ ขึน ดงั นนั โครงกำรดำ้ นกำรพัฒนำอำชีพจะเปน็ สง่ิ เหนย่ี วรังมใิ หบ้ คุ ลำกรทีม่ ีควำมสำมำรถ เหลำ่ นอี อกจำกองค์กำรไป - ช่วยให้องค์กำรสำมำรถดงึ บุคลำกรทม่ี คี วำมสำมำรถสงู เขำ้ มำทำงำนไดม้ ำกขนึ บคุ คลท่ีมี ควำมสำมำรถสงู มักจะพิจำรณำเลือกทำงำนกบั องค์กำร ซึ่งให้ควำมสำคญั ตอ่ อนำคตและควำมก้ำวหนำ้ ของ บคุ ลำกร ดงั นนั หำกองคก์ ำรใดทม่ี ีโครงกำรดำ้ นกำรพฒั นำอำชพี ก็ยอ่ มจะมีควำมไดเ้ ปรยี บในกำรดงึ ดดู บคุ ลำกรเหลำ่ นันใหเ้ ขำ้ มำทำงำนกบั ตนเอ - ชว่ ยสร้ำงภำพลกั ษณท์ ่ีดใี หก้ บั องคก์ ำร องค์กำรทใี่ หค้ วำมสำคญั และควำมสนใจแก่อนำคต และควำมกำ้ วหนำ้ ของบุคลำกร ยอ่ มจะทำให้ทังบุคลำกรภำยในองค์กำรและบุคลำกรภำยนอกองคก์ ำรนัน ดว้ ยควำมร้สู ึกท่ดี ี ซง่ึ จะช่วยสง่ เสรมิ ภำพลกั ษณแ์ ละชอื่ เสยี งใหอ้ งคก์ ำรเปน็ อยำ่ งดี - ชว่ ยให้บุคลำกรมกี ำรพฒั นำตนเองและลดควำมลำ้ สมยั กำรทำงำนในตำแหน่งหน่ึง ๆ อนั อำจจะทำใหบ้ คุ ลำกรล้ำหลงั ต่อควำมเปลย่ี นแปลงต่ำง ๆ ดงั นนั กำรพฒั นำอำชพี จะชว่ ยให้บุคลำกรมกี ำร พัฒนำตนเองอยู่ตลอดเวลำ ทงั นีเพรำะบคุ ลำกรเหล่ำนนั จำเปน็ ตอ้ งเพ่ิมพูนควำมรูแ้ ละควำมสำมำรถต่ำง ๆที่ จำเปน็ ก่อนท่จี ะสำมำรถกำ้ วขนึ สูต่ ำแหน่งอืน่ ๆ

ควำมหมำยและควำมสำคญั ของอำชพี อำชีพ หมำยถึง กำรทำงำนซง่ึ มผี ลตอบแทนออกมำในรูปของรำยได้เพื่อบุคคลนำไปดำรงชพี ทังของตนและครอบครวั ง นันต้องเป็นงำนทส่ี ุจรติ กอ่ ใหเ้ กิดประโยชน์แกส่ ังคมโดยส่วนรวม โดยไม่ทำใหต้ นเอง และผูอ้ น่ื เดือดร้อน ควำมสำคัญของกำรประกอบอำชีพ 1. ทำใหม้ ีรำยไดป้ ระจำเลยี งตนเองและครอบครวั โดยซอื หรอื จัดหำส่ิงจำเปน็ สำหรบั กำรดำรงชีวิต 2.ทำใหม้ โี อกำสใชค้ วำมรูค้ วำมสำมำรถทมี่ ีอยทู่ ำงำนให้เป็นประโยชน์ต่อสงั คมและประเทศชำติ 3.ทำใหม้ โี อกำสสร้ำงชื่อเสียงให้แกต่ นเองและวงศ์ตระกลู เปน็ ท่ยี อมรบั ของบุคคลในสังคม 4.ทำใหม้ หี ลกั ฐำนม่นั คง เปน็ ท่ีเคำรพนับถือของบุคคลอ่นื ๆ 5.ทำใหร้ จู้ ักใช้เวลำว่ำให้เป็นประโยชน์ จะไดไ้ ม่ประพฤตติ นไร้สำระ 6.ทำให้บคุ คลเกดิ ควำมภำคภมู ิใจในตนเอง ทส่ี ำมำรถพงึ่ ตนเองได้ และยงั ทำประโยชน์แกส่ งั คมโดยสว่ นรว่ มด้วย เรอื่ ง ควำมสำคัญและควำมจำเป็นในกำรพฒั นำอำชพี ควำมสำคัญและควำมจำเปน็ ของกำรพฒั นำอำชพี วิเครำะห์ลักษณะขอบขำ่ ยกำรงำนอำชพี กระบวนกำรทำงำน กำรบริหำรจดั กำรของอำชพี ต่ำง ๆ ในชุมชน สังคม ประเทศ และโลก เพอ่ื กำรพัฒนำ อำชพี จำกกำรงำนอำชพี ต่ำงๆ กำรพัฒนำอำชีพ หมำยถึง กำรพัฒนำอำชพี ท่ีดำเนนิ อย่ใู ห้เหมำะสมกับควำมต้องกำรของตลำด กำรพฒั นำ อำชีพทม่ี ปี ระสิทธิภำพจะตอ้ งพฒั นำควำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรวำงแผนกำหนดยุทธศำสตรต์ ่ำงๆ ทังด้วย ตนเองและกระบวนกำรกลุม่ โดยเฉพำะผูป้ ระกอบอำชพี เดยี วกัน เพอ่ื แลกเปลีย่ นเรียนรู้ซ่ึงกันและกนั แลว้ นำไปตัดสินใจเพ่อื นำไปสูก่ ำรปฏบิ ตั ิ นอกจำกนีควรมกี ำรบริหำรจัดกำรแบบองคร์ วมบูรณำกำรปจั จยั ต่ำงๆ ให้ เปน็ หนง่ึ เดียว สำมำรถเกอื หนนุ ซงึ่ กนั และกนั ได้ เชน่ ทนุ ทำงสังคม ทรพั ยำกรต่ำงๆ ไดแ้ ก่ ควำมรู้ ควำมสำมำรถในกระบวนกำรผลติ และกระบวนกำรกำรตลำด กำรพัฒนำอำชีพมคี วำมสำคญั และจำเป็น ดังนี 1. ดำ้ นเศรษฐกิจ จำกกำรแขง่ ขนั ทำงธรุ กิจทีม่ ีกำรแข่งขันทำงกำรตลำดสงู จึงเกิดกำร รวมกลุ่มกำรคำ้ ต่ำงๆ เช่น เขตกำรค้ำเสรีอำเซียน เขตเศรษฐกิจยุโรป ดงั นันกำรพฒั นำอำชีพจึงจำเป็นต้องมี กำรพฒั นำสินค้ำใหส้ ำมำรถเข้ำสู่ตลำดกำรแข่งขัน และเปน็ ท่ยี อมรับของตำ่ งประเทศ 2. ดำ้ นสังคม ประเทศท่มี ีเศรษฐกิจดจี ะส่งผลใหส้ ภำพของสงั คมดขี นึ เช่น ปรำศจำกโจร ผรู้ ้ำย 3. ด้ำนกำรศึกษำ ครอบครวั ท่ีมีเศรษฐกจิ ดจี ะสำมำรถส่งบตุ รหลำนเข้ำรบั กำรศึกษำได้ตำม ควำมตอ้ งกำร และในอนำคตเยำวชนเหลำ่ นกี ็จะเปน็ ประชำกรทีม่ คี ณุ ภำพ มคี วำมสำมำรถในกำรประกอบ อำชพี ส่งผลต่อเศรษฐกจิ สงั คมใหม้ คี วำมเจริญก้ำวหน้ำตอ่ ไป ควำมสำคญั ในกำรพฒั นำอำชีพ กำรพัฒนำอำชีพเป็นส่ิงทสี่ ำคัญในวถิ ีชวี ิตและกำรดำรงชพี ในปจั จบุ ันเพรำะอำชพี เป็นกำรสร้ำงรำยได้ เพอื่ เลยี งชีพตนเองและครอบครัว อำชพี ก่อให้เกิดผลผลติ และกำรบริกำร ซ่ึงสนองตอบต่อควำมตอ้ งกำรของ ผูบ้ รโิ ภค และท่ีสำคญั คอื กำรพฒั นำอำชีพมคี วำมสำคัญตอ่ เศรษฐกจิ ของประเทศชำติ ควำมสำคัญจงึ เปน็ ฟนั เฟอื งในกำรพัฒนำคุณภำพชวี ิต เศรษฐกจิ ชุมชน ส่งผลถึงควำมเจรญิ ก้ำวหนำ้ ของประเทศชำติ

อำชพี กับกำรพฒั นำอำชพี เรื่องรำวของอำชพี อำชพี กค็ อื กำรหำเลยี งชวี ติ ให้มกี ินมอี ยู่ กำรเข้ำรบั ศึกษำของทุกคน ๆ กเ็ พอื่ นำไป ประกอบอำชพี แตใ่ นยุคปจั จบุ นั อำชพี มมี ำกมำย และอำชพี ใหม่กน็ ่ำสนใจมำกขึน ในกำรพฒั นำอำชีพของแต่ ละอำชีพนันมแี นวทำงท่ีต่ำงกันไปตำมสำยงำน แต่ทกุ อำชีพสำมำรถพัฒนำไดท้ ังหมด นกั เรียนนักศึกษำจบ ใหม่ๆ บำงคนอำจมีแนวคดิ แปลกๆ ท่ีไมเ่ หมือนคนอน่ื เชน่ อยำกทำอำชพี อิสระ ซ่งึ คนปัจจบุ ันคดิ แบบนมี ำก ขนึ เพรำะเหตุที่ว่ำอำชีพในยุคปจั จุบันไมถ่ กู ตีกรอบแคบๆ อีกต่อไป อำชีพนนั ไม่วำ่ จะเป็นอำชีพอะไรกต็ ำม ทงั อำชีพท่ีใชแ้ รงกำย อำชีพทใ่ี ช้แรงสมอง สำมำรถพฒั นำไดท้ ังนัน ทศิ ทำงกำรพฒั นำอำชพี 1. ต้องรจู้ ักอำชพี ของตนเองให้ดพี อ 2. รู้ทิศทำงของอำชีพของตน 3. รูโ้ ลกที่เปลย่ี นแปลงตลอดเวลำ 4. วำงแผนชวี ิตและกำรทำงำน 5. กำหนดนโยบำยกำรพฒั นำอำชพี ของตนเอง (มวี สิ ยั ทัศน์) 6. ตงั เป้ำหมำย แบง่ ระยะใหเ้ หน็ เป็นรปู ธรรม 7. วำงกลยุทธพัฒนำอำชีพ 8. ลงมือปฏบิ ัติ 9. ประเมนิ ผลใหเ้ ป็น 10. ปรบั ปรงุ 11. พัฒนำ แนวทำงกำรพฒั นำอำชพี ทกี่ ลำ่ วมำทจี่ ริงแลว้ กค็ ือหลักพนื ฐำนท่วั ไป ซงึ่ คนประกอบอำชพี นันๆ ควรรู้ เชน่ อำชพี แม่บ้ำน สำมำรถพัฒนำไดจ้ นถงึ ขนั สูง และเปน็ อำชพี ที่ทรงคณุ คำ่ ได้ เรียกว่ำ แมบ่ ้ำนมือ อำชีพ อำชพี แมบ่ ้ำนสมยั กอ่ น คือ อำชีพคนรบั ใช้ แตใ่ นยคุ ปัจจบุ นั อำชพี คนรับใชห้ รอื คนทำควำม สะอำดภำยในบำ้ นไมใ่ ชอ่ ำชีพที่ต้อยตำ่ อกี ต่อไป เพรำะปจั จุบันมบี รษิ ทั เปิดให้บรกิ ำรสำหรับลกู คำ้ ทตี่ ้องกำร แมบ่ ำ้ นแบบมอื อำชพี ไป ชว่ ยเหลอื ในกำรจดั กำรภำยในบ้ำนหรืออำคำรตำ่ ง ๆ ตลอดจนถงึ โรงแรม ซ่งึ กำรเพิ่ม มูลคำ่ และคุณค่ำคอื กำรพัฒนำอำชีพของตนเอง กำรยกระดับแมบ่ ำ้ นสู่กำรเป็นแม่บำ้ นมืออำชพี อย่ำงเชน่ กำรจดั โต๊ะ กำรวำงช้อน กำรวำงผำ้ สำหรับ โต๊ะรบั ประทำนอำหำร มีแนวปฏิบตั ทิ เ่ี ป็นแบบแผนสำกล กำรมีควำมรูใ้ นดำ้ นนจี งึ มคี วำมจำเปน็ และในเร่ือง อ่ืนๆ อีกอยำ่ งเชน่ กำรปผู ้ำปเู ตยี งใหต้ ึงกม็ ีเทคนิค กำรทำควำมสะอำดเคร่ืองใช้ตำ่ งๆ อยำ่ งเชน่ เสือผำ้ ไหม สทู หรอื เสือผ้ำที่ทำจำกขนสตั ว์ก็มเี ทคนิคกำรดแู ลพเิ ศษกวำ่ ผำ้ ชนดิ อืน่ ๆ นีคือแนวทำงกำรพัฒนำอำชีพใหเ้ ปน็ แบบ มืออำชีพ แมบ่ ำ้ นมอื อำชีพสมยั นตี อ้ งชำนำญในเร่ืองท่ีกลำ่ วมำ และมูลค่ำของคำ่ จ้ำงจึงสูงกวำ่ แม่บ้ำนแบบ ธรรมดำ เพรำะมคี วำมรู้ควำมชำนำญพเิ ศษ ค่ำแรงจึงสูงตำมไปด้วย เหน็ ดว้ ยหรอื ไมว่ ำ่ อำชพี ทีธ่ รรมดำแตไ่ ม่ ธรรมดำมลู คำ่ กเ็ พิ่มขนึ ได้ เขำเรียกวำ่ กำรพฒั นำสำยงำนของตนเอง

ฉะนันทุกสำยอำชพี สำมำรถพัฒนำไดห้ มด มีควำมก้ำวหนำ้ ไดท้ ุกหนทุกแห่ง อย่ำไดน้ ้อยใจว่ำ อำชีพของเรำไมม่ คี ำ่ ไมม่ รี ำคำ ถ้ำเรำใสค่ วำมรู้ ใส่ควำมรกั กบั งำน งำนที่เรำทำกจ็ ะชว่ ยพฒั นำคุณภำพชีวิต และเจรญิ ก้ำวหน้ำได้ตลอดอำชีพทกุ อำชีพมีหนทำงพัฒนำในแบบของตน ควำมจำเปน็ ในกำรพฒั นำอำชพี ควำมจำเป็นในกำรพฒั นำอำชีพในชุมชน สังคม ประเทศ และโลก ทเี่ หมำะสมกับตนเอง วเิ ครำะห์ ควำมเปน็ ไปได้ต่ำง ๆ ได้แก่ กำรลงทนุ กำรตลำด กระบวนกำรผลติ กำรขนส่ง กำรบรรจหุ บี หอ่ กำรแปรรูป และผลกระทบตอ่ ชมุ ชน และสงิ่ แวดล้อม ควำมรคู้ วำมสำมำรถของตนเองต่อสง่ิ ท่ตี อ้ งกำรพฒั นำ กำรลำดบั ควำมสำคัญของกำรพัฒนำท่มี ีควำมเปน็ ไปได้ เพอ่ื นำข้อมูลทวี่ ิเครำะห์ไว้นำไปปรึกษำผ้รู ู้ กำรตดั สินใจเลอื ก พัฒนำอำชีพที่เหมำะสมกับตนเอง โดยวเิ ครำะหค์ วำมพร้อมของตนเอง ควำมตอ้ งกำรของตลำด เทคนคิ ควำมรู้ ทกั ษะในอำชีพ และควำมรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม ทรพั ยำกรธรรมชำติ และสิ่งแวดล้อม ประโยชนใ์ นกำรพัฒนำอำชีพ 1. มกี ำรใชท้ นุ ทำงสังคมอยำ่ งคุม้ ค่ำ เน่อื งจำกสำมำรถใชว้ ัสดทุ ดแทน ใชว้ ัสดุท้องถ่นิ ลดกำร ขนส่งและทุนบำงชนดิ สำมำรถใช้ร่วมกนั ได้ เชน่ เครื่องมือทำงกำรเกษตรสำมำรถใชใ้ นกจิ กรรมกำรเกษตร ด้วยกนั เป็นต้น 2. มกี ำรเพิ่มผลผลติ เนอื่ งจำกมกี ำรพฒั นำสินคำ้ ท่ีตรงควำมต้องกำรของลกู ค้ำทำให้ยอด จำหนำ่ ยมำกขึน 3. มกี ำรขยำยตลำด สำมำรถขยำยเครอื ขำ่ ยดำ้ นกำรตลำดใหก้ ว้ำงขึน โดยผผู้ ลติ จะต้องมกี ำร ประชำสัมพันธ์อยำ่ งต่อเน่ือง 4. พฒั นำรปู แบบผลติ ภัณฑเ์ พอื่ บรรจุหบี หอ่ ต้องพัฒนำรูปแบบอยตู่ ลอดเวลำทำใหส้ ินคำ้ มี กำรพฒั นำรปู แบบผลติ ภัณฑห์ รอื บรรจภุ ัณฑอ์ ยู่เสมอ 5. เกดิ เศรษฐกิจชุมชน จำกกำรท่ีมกี ำรพัฒนำผลิตภณั ฑ์สนิ คำ้ ทงั ดำ้ นคุณภำพและปริมำณ ทำใหต้ ลำดกว้ำงขวำงขึนเศรษฐกิจชมุ ชนเจรญิ เตบิ โต 6. ชมุ ชนเขม้ แข็ง เมอ่ื ชุมชนมีเศรษฐกิจดขี ึน ส่งผลตอ่ กำรพัฒนำคุณภำพชวี ิตดีขึน ครอบครัว อบอนุ่ ลูกหลำนได้เรียนหนังสือ ปรำศจำกโจรผู้ร้ำยและยำเสพติด 7. มีอำชีพมั่นคง เน่ืองจำกผูป้ ระกอบอำชพี มกี ำรพฒั นำอำชพี อยู่ตลอดเวลำในดำ้ นกำรใช้ทุน พฒั นำรูปแบบ จัดหำตลำดให้กว้ำงขวำง ทำให้มีอำชพี ม่นั คง ประเภทของภูมิปัญญำ 1. ภูมปิ ัญญำพนื บ้ำน เปน็ องค์ควำมรู้ ควำมสำมำรถและประสบกำรณท์ ีส่ ง่ั สมและสบื ทอดกนั มำ เปน็ ควำมสำมำรถและศักยภำพในเชิงกำรแกป้ ญั หำ กำรปรบั ตวั เรียนร้แู ละสบื ทอดไปส่คู นรุน่ ตอ่ ไปเพ่ือ กำรดำรงอยูข่ องเผ่ำพนั ธุ์ จึงเปน็ มรดกทำงวัฒนธรรมชำติ ของเผำ่ พันธุห์ รอื เป็นวถิ ีชีวติ ของชำวบ้ำน 2. ภูมิปัญญำชำวบำ้ น เปน็ วิธกี ำรปฏิบัตขิ องชำวบำ้ น ซึง่ ได้มำจำกประสบกำรณ์ แนวทำงแกป้ ญั หำแต่ ละเรื่องแตล่ ะประสบกำรณ์ แตล่ ะสภำพแวดลอ้ มซึง่ จะมีเงื่อนไขปจั จัยเฉพำะแตกต่ำงกนั ไปนำมำใชแ้ กไ้ ข ปญั หำโดยอำศยั ศกั ยภำพท่มี อี ย่โู ดยชำวบำ้ นคิดเองเปน็ ควำมรู้ท่สี ร้ำงสรรค์และมีสว่ นเสริมสร้ำงกำรผลิต หรอื เป็นควำมรขู้ องชำวบ้ำนทผี่ ำ่ นกำรปฏบิ ัติมำแล้วอย่ำงโชกโชน เปน็ ส่วนหน่ึงของมรดกทำงวฒั นธรรม เป็น

ควำมร้ทู ปี่ ฏิบัติไดม้ ีพลังและสำคญั ยิ่ง ช่วยให้ชำวบ้ำนมีชีวิตรอดสรำ้ งสรรคก์ ำรผลิตและชว่ ยในดำ้ นกำรทำงำน เป็นโครงสร้ำงควำมรู้ทมี หี ลักกำร มเี หตุ มผี ลในตวั เอง 3. ภมู ปิ ํญญำทอ้ งถนิ่ เป็นควำมรู้ที่เกดิ จำกประสบกำรณ์ในชวี ิตของคน ผำ่ นกระบวนกำรศกึ ษำสงั เกต คดิ ว่ำวิเครำะหจ์ นเกดิ ปัญญำและตกผลกึ เปน็ องคค์ วำมรูท้ ีป่ ระกอบกันขึนมำจำกควำมรเู้ ฉพำะหลำยๆเรอ่ื งจด วำ่ เป็น พืนฐำนขององคค์ วำมร้สู มยั ใหมท่ ่ีจะชว่ ยในกำรเรยี นรู้ กำรแก้ปญั หำจัดกำรและกำรปรับตัวในกำร ดำเนินชีวิตของเรำ ภมู ปิ ัญญำท้องถ่ินเปน็ ควำมรู้ทมี่ ีอยูท่ ั่วไปในสังคมชุมชนและในตัวผูร้ ู้เองจงึ ควรมกี ำรสืบคน้ รวบรวม ศึกษำถำ่ ยทอดพัฒนำและนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้อยำ่ งกวำ้ งขวำง 4.ภูมปิ ัญญำไทย หมำยถึง องค์ควำมรู้ควำมสำมำรถ ทักษะของคนไทยท่เี กดิ จำกกำรสง่ เสรมิ ประสบกำรณ์ท่ผี ำ่ นกระบวนกำร กำรเลือกสรร เรยี นรู้ปรงุ แต่ง และถำ่ ยทอดสบื ตอ่ กันมำ เพอ่ื ใชแ้ ก้ไขปญั หำและพัฒนำวถิ ีชีวิตของคนไทยใหส้ มดุลกบั สภำพแวดล้อมและ เหมำะสมกับยคุ สมัย ลกั ษณะของภูมปิ ญั ญำทอ้ งถิ่น ลักษณะสำคญั ของภมู ิปญั ญำทอ้ งถ่ิน พอสรปุ ได้ดงั นี 1.เปน็ เร่ืองรำวของกำรใชค้ วำมรู้ ทกั ษะ ควำมเชื่อและพฤตกิ รรม 2. แสดงถึงควำมสมั พันธ์ระหว่ำง คนกับคน คนกบั ธรรมชำติ คนกับสง่ิ เหนือธรรมชำติ 3. เป็นองคร์ วมหรือกิจกรรมทุกอย่ำงใรวถิ ชี ีวิต 4. เป็นเรอื่ งของกำรแก้ไขปญั หำ กำรจดั กำร กำรปรบั ตวั กำรเรียนร้เู พอ่ื ควำมอยู่รอดของบคุ คลชมุ ชน และสงั คม 5.เป็นแกนหลกั หรือกระบวนทัศนใ์ นกำรมองชีวติ เป็นพืนควำมรใู้ นเรือ่ งต่ำงๆ

กำรจัดทำโครงงำนอำชีพ บทนำ โครงงำนอำชพี เปน็ กำรจดั กำรเรยี นรู้งำนอำชีพทใ่ี ห้ผูเ้ รยี นได้ลงมือปฏิบัติจริงอยำ่ งครบวงจร ตงั แต่ กำร วิเครำะห์ กำรวำงแผน กำรปฏิบตั งิ ำน กำรจัดกำรกับผลผลิต กำรจำหนำ่ ย กำรบริกำร รวมทงั รำยได้จำกกำร จำหนำ่ ยผลผลติ หรอื บริกำร โดยเนน้ กำรผลติ กำรบริกำร กำรบรหิ ำรจัดกำร กำรตลำด และกำรใชเ้ ทคโนโลยี ในกำรปฏบิ ตั ิงำน ลกั ษณะของงำนอำชีพตำมโครงงำนทป่ี ฏิบตั ิตอ้ งเป็นงำนอำชีพสุจรติ ท่มี อี ยูใ่ นท้องถนิ่ หรือ งำนอำชีพท่ีเป็นควำมต้องกำรของผเู้ รยี น เป็นงำนอำชพี ท่ีมีลักษณะเปน็ งำนผลติ และหรอื งำนบริกำร กำร ปฏบิ ตั งิ ำนอำชีพ ผ้เู รยี น ตอ้ งเป็นผ้ปู ฏิบตั ิเองทงั หมด ตงั เริ่มตน้ จนสินสดุ กำรปฏบิ ตั ิงำน โดยมีครู อำจำรยท์ ำ หนำ้ ที่เปน็ ทป่ี รึกษำและกำรปฏบิ ตั โิ ครงงำนอำชีพใหป้ ฏิบัตริ วมกนั เป็นกลุ่ม 3 - 5 คน โดยใช้ บำ้ น สถำน ประกอบกำร สถำนประกอบอำชพี รวมทังสถำนศกึ ษำ เป็นสถำนท่ปี ฏิบัติงำนและในกำรจดั ทำโครงงำนอำชีพ ของผู้เรียน ควรมีผทู้ รงคณุ วฒุ ิหรอื ผ้ปู ระสบควำมสำเรจ็ ในสำขำอำชีพท่ีมีอยใู่ นท้องถนิ่ รว่ มวำงแผนและให้ คำปรกึ ษำในกำรปฏบิ ัติงำนอำชพี ของผเู้ รียนดว้ ย ควำมเปน็ มำ ในกำรสอนโครงกำรหรอื โครงงำนในสถำนศึกษำ นกั กำรศกึ ษำปฐมวยั สว่ นมำกกล่ำวถงึ กำรใชโ้ ครงกำรกบั เด็ก บำงคนแนะนำวำ่ กำรสอนแบบโครงกำรเป็นวธิ กี ำรหนงึ่ ในหลำยวิธที ีส่ ำมำรถส่งเสรมิ ใหเ้ ด็กร้จู กั ตัดสินใจ เหน็ ผลกำรกระทำท่ชี ดั เจนเป็นรูปธรรม และเดก็ จะมปี ระสบกำรณ์จำกกำรปฏิสัมพันธ์กบั บุคคล วตั ถสุ ่ิงของและ ส่ิงแวดลอ้ มกำรสอนแบบโครงกำรมีมำนำนแล้วมใิ ชเ่ ป็นเรอื่ งใหมใ่ นกำรศกึ ษำ แตก่ ลับมำได้รบั ควำมสนใจอยำ่ งมำกในประเทศสหรฐั อเมรกิ ำและอีกหลำยประเทศ ทังนีเนอื่ งมำจำกผลกำรวิจัยท่ีทำใหเ้ ขำ้ ใจ ยง่ิ ขนึ วำ่ เดก็ เรยี นรูอ้ ยำ่ งไร และควำมจำเปน็ ทจ่ี ะตอ้ งพัฒนำทกั ษะกำรคดิ แก้ปัญหำของเดก็ เพ่ือให้ทันกบั ควำม เปลี่ยนแปลงทที่ ้ำทำยของสงั คม เทคโนโลยี โครงกำร หมำยถงึ กำรวำงแผนดำเนนิ งำนหรือกิจกรรมลว่ งหนำ้ โดยมกี ำรกำหนดวัตถุประสงค์ ขนั ตอนกำร ดำเนนิ งำนอย่ำงชัดเจน กำหนดกำรใชท้ รพั ยำกรอย่ำงคมุ้ คำ่ เพื่อนำไปสู่เป้ำหมำยท่ีตอ้ งกำร อำชพี หมำยถงึ งำนทที่ ำเป็นประจำ เพือ่ ใหม้ ีรำยได้ในกำรเลยี งชพี แบง่ เป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. อำชพี อสิ ระ หมำยถึง อำชีพที่ผปู้ ระกอบอำชีพเปน็ เจ้ำของกจิ กำร มกี ำรวำงแผน มีกำรจัดกำร และ ดำเนินกำรด้วยตนเอง แบง่ เป็น 2 ลักษณะของกำรประกอบอำชพี คอื อำชพี ผผู้ ลิต เปน็ อำชีพที่ผู้ดำเนิน กิจกำร/ผู้ประกอบอำชีพ ผลิตชินงำนเพ่อื จำหน่ำย อำชพี บริกำร เปน็ อำชีพท่ีผู้ดำเนินกำรอำนวยควำม สะดวก หรอื ให้บรกิ ำรแกผ่ ูบ้ ริโภค เช่น ชำ่ งตดั ผม ช่ำง ซ่อมวิทยุโทรทศั น์ บรกิ ร ฯลฯ 2. อำชพี รับจำ้ ง หมำยถึง อำชีพท่ผี ปู้ ระกอบอำชีพ ไม่ได้เป็นเจำ้ ของกจิ กำร แต่ทำงำนภำยใตร้ ะบบ หรือ ขอ้ กำหนดของหน่วยงำน หรอื นำยจำ้ งท่ตี นสังกัด หลักกำรประกอบอำชีพอสิ ระ 1. เปน็ กำรจดั กำรศกึ ษำเพ่ือชวี ิต ชุมชน และสังคม 2. สง่ เสรมิ กำรพ่งึ ตนเอง และควำมมอี ิสระแก่ตนเอง 3. สง่ เสริมให้มคี วำมสำมำรถในกำรจดั กำร กำรนำควำมรู้ และประสบกำรณม์ ำประยกุ ตใ์ ช้ใน ชวี ติ ประจำวนั 4. ส่งเสรมิ ให้มกี ำรเรียนรจู้ ำกสภำพปญั หำ สงิ่ แวดล้อม และกำรปฏิบตั ิจรงิ

5. ส่งเสรมิ ให้มกี ำรตดั สินใจในกำรเลอื กอำชีพท่ีสอดคล้องควำมสภำพท้องถิน่ ควำมสนใจ ควำมถนดั และ ควำมสำมำรถของตนเอง กำรส่งเสริมให้นักเรยี นไดส้ มั ผสั กบอำชีพดว้ ยกำรทำโครงงำนอำชพี จะพัฒนำ นกั เรยี นใหเ้ จรญิ เตบิ โต เปน็ พลเมอื งดี มีคณุ ภำพ สำมำรถปรับตวั ใหด้ ำรงชวี ติ อยู่อยำ่ งมีควำมสขุ ในภำวะท่ี สงั คมและเศรษฐกจิ ทีเ่ ปล่ยี นแปลงไปอยำ่ งรวดเร็ว ประโยชน์ตอ่ นกั เรียน 1. ไดป้ ระสบกำรณ์กำรทำงำน 2. รู้จักกำรทำงำนเป็นกลุ่ม 3. มองเหน็ ชอ่ งทำงประกอบอำชพี 4. ไดน้ ำควำมรู้ที่ไดร้ บั มำใช้ในกำรประกอบอำชพี 5. มีกำรวำงแผนและปฏบิ ัตงิ ำนอย่ำงเปน็ ระบบ 6. ไดเ้ รยี นรูค้ ุณธรรม จริยธรรมจำกกำรปฏบิ ัตจิ ริง 7. ไดร้ บั กำรพัฒนำให้เกิดกระบวนกำรคิดเปน็ ทำเปน็ แก้ปญั หำเปน็ โครงงำนอำชีพ จะส่งเสริมใหน้ กั เรยี นดำเนินกำร นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ จะประกอบอำชีพหลำกหลำยต่ำงกนั ตำมควำมถนัด และควำมสนใจ นกั เรยี นจะไดร้ ับผลกำรเรียนเหมอื นรำยวิชำ อื่น ๆ และใน 1 รำยวิชำ จะมี อำจำรย์ทีป่ รึกษำหลำยคน ตำมกล่มุ อำชพี ที่นักเรียนสนใจปฏบิ ตั ิ สำหรับเร่ือง ท่ีควรจะใหน้ กั เรียนไดเ้ รียนรู้ เช่น 1. อำชีพตำ่ ง ๆ ทีม่ ใี นปัจจุบนั 2. คุณธรรม จรยิ ธรรมของผปู้ ระกอบอำชพี 3. กำรเลอื กอำชพี ท่สี อดคล้องกบควำมต้องกำรของผบู้ รโิ ภค และควำมถนัดของตนเอง 4. กระบวนกำรดำเนินงำนของอำชพี ที่สนใจเลือก 5. กำรจดั กำรกจิ กำรธุรกิจอำชพี ให้ประสบควำมสำเรจ็ 6. กำรทำงำนกลมุ่ / กำรทำงำนร่วมกนั / กำรบรหิ ำรบุคคล 7. เทคนิคกำรเพมิ่ ประสิทธภิ ำพของกำรประกอบอำชพี 8. กำรจดั กำรผลผลิต 9. เทคนคิ กำรสือ่ สำร (พูด ฯลฯ) กบั ผบู้ ริโภค (ลูกค้ำ) 10. กำรคิดต้นทนุ กำรกำหนดรำคำจำหนำ่ ย / คำ่ บริกำร 11. ระบบบญั ชีอยำ่ งง่ำยสำหรับกิจกำรขนำดเล็ก 12. เทคนคิ กำรโฆษณำ ประชำสัมพนั ธอ์ ำชีพของตนสูผ่ ้บู ริโภค 13. กำรนำผลผลติ สู่ผู้บรโิ ภค และกำรบรกิ ำรหลังขำย

ควำมสำคญั ของโครงงำนอำชพี โครงงำนมวี ตั ถุประสงคห์ ลำกหลำยประกำร เชน่ ต้องกำรให้นกั เรียนมคี วำมรพู้ นื ฐำนท่จี ำเปน็ เก่ียวกับควำม เป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน สำมำรถปฏิบตั งิ ำนได้ถูกตอ้ งตำมกระบวนกำร ประหยัด ปลอดภัย และได้ประโยชน์ โดยรู้จักวิเครำะหแ์ ละวำงแผนกำรทำงำน สำมำรถปรับปรุงและพฒั นำงำนมวี ิสนั ทัศน์ท่ีกวำ้ งไกล รักกำรทำงำน ซ่ึงเป็นรำกฐำนของกำรดำรงชีพ สำมำรถพง่ึ พำตนเองได้รวมทังมีคุณธรรมในกำรทำงำน สำมำรถทำงำนร่วมกบั ผอู้ น่ื ได้ เป็นตน้ นักเรียนจะต้องศกึ ษำและฝึกปฏิบตั จิ รงิ เพ่ิมเติม โดยอำศัยควำมรู้พืนฐำนจำกรำยวชิ ำอื่น ๆ ใน หมวดวิชำกำรงำนและอำชีพ นักเรยี นมสี ทิ ธเิ สรีภำพอย่ำงเต็มท่ีในกำรตัดสินใจเลือกอยำ่ งฉลำด ทีจ่ ะ ดำเนินงำนตำมควำมถนดั และควำมสนใจของตน ในส่วนท่เี ก่ียวกบั โรงเรียนและครอู ำจำรย์นัน จะได้ประโยชน์ อย่ำงยง่ิ จำกกำรเปิดโอกำสใหน้ กั เรยี นไดฝ้ ึกปฏิบัติจริงตำมจุด หมำยของหลกั สตู รและกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียน กำรสอน ทงั ในหอ้ งเรยี นและนอกหอ้ งเรยี น ซงึ่ จะก่อใหเ้ กดิ กำรประสำนสัมพันธ์อย่ำงแน่นเหนยี ว ระหว่ำง นกั เรยี นและครอู ำจำรยป์ ระจำวชิ ำตำ่ ง ๆ รวมทงั กำรใชเ้ คร่ืองมอื และวสั ดอุ ปุ กรณต์ ำ่ ง ๆ ใหเ้ ปน็ ประโยชน์ อยำ่ งคมุ้ ค่ำ นอกจำกนใี นสง่ิ ที่เกย่ี วกบั ทอ้ งถ่ินและชมุ ชนยอ่ มจะไดป้ ระโยชน์อยำ่ งมำกมำย ในแง่ของกำรให้ นกั เรยี นไดม้ ีโอกำสรว่ มพฒั นำอำชพี ต่ำง ๆ ในทอ้ งถน่ิ ซึง่ เปน็ ผลพลอยไดท้ ต่ี ำมมำกค็ อื ทำใหน้ กั เรียนเกดิ ควำม รกั ควำมภำคภูมิใจในท้องถ่นิ ของตนเองด้วย ในสว่ นของกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนและกำรจัดกจิ กรรมตำมหลักสูตรขนั พืนฐำน พทุ ธศกั รำช 2544 ดงั นี คือ 1. ด้ำนผเู้ รยี น ก่อให้เกิดคณุ คำ่ ต่ำง ๆ ไดแ้ ก่ ชว่ ยสรำ้ งควำมหวังใหม่ในกำรริเร่ิมงำน สรำ้ งเสริม ประสบกำรณ์จำกกำรปฏิบตั จิ รงิ ได้มโี อกำสทดสอบควำมถนัดของตนเอง กอ่ ให้เกดิ ควำมรักควำมเข้ำใจและ ควำมสมั พันธอ์ ันดีภำยในกลุ่ม พร้อมทงั เกดิ ควำมรทู้ ำงวิชำกำรทีก่ ว้ำงขวำงขนึ และเกดิ ควำมภำคภมู ิใจในควำม สำเรจ็ ของงำน 2. ดำ้ นสถำบนั และครอู ำจำรย์ทปี่ รกึ ษำกลมุ่ กอ่ ใหเ้ กิดคณุ ค่ำทำงกำรประสำนงำน โดยเกิดควำม เข้ำใจทต่ี รงกนั ว่ำกำรเรียนกำรสอนในปจั จบุ นั ขึนอย่กู ับกำร ปฏบิ ตั ิจรงิ ในโครงงำนของผู้เรียนมำกกวำ่ ท่ีจะ เรยี นอยูใ่ นหอ้ งเรยี นเทำ่ นนั 3. ด้ำนชุมชน / ทอ้ งถิน่ กอ่ ใหเ้ กดิ คุณคำ่ ทำงกำรเผยแพรแ่ ละประชำสมั พันธ์ชุมชน อีกทงั ชมุ ชน ได้มสี ว่ นรว่ มในกำรขยำยผลทำงควำมรูค้ วำมสำมำรถท่ีมอี ยู่ ให้แกผ่ เู้ รียนรนุ่ ต่อไป โดยสรำ้ งนิสัยรกั กำรทำงำน เกดิ งำนอำชพี ทีห่ ลำกหลำยและมกี ำรพฒั นำอำชพี ในชุมชนดว้ ย

วธิ กี ำรทำเจลแอลกอฮอรล์ ้ำงมอื สูตรที่ 1 สูตรเจลล้ำงมอื แอลกอฮอลจ์ ำกกรมวิทยำศำสตรก์ ำรแพทย์ โดยสูตรนจี ะไดเ้ จลล้ำงมอื ปรมิ ำณ 500 กรัม ส่วนผสมและวธิ ีทำ ดังนี อปุ กรณ์ 1. เอทิลแอลกอฮอล์ 95% ประมำณ 2 ใน 3 สว่ น หรือ 370 มลิ ลลิ ติ ร 2. นำตม้ สกุ 1 ใน 3 ส่วน หรือประมำณ 125.5 มิลลลิ ติ ร 3. กลเี ซอรีน 2.5 มิลลิลิตร 4. คำร์โบพอล 940 ประมำณ 1 กรมั 5. ไตรเอทำโนลำมนี 1 กรมั วิธที ำ 1. ละลำยผงคำร์โบพอลในนำตม้ สกุ คนจนเขำ้ กนั ดี จำกนนั ตงั พกั ไว้ ใหส้ ำรพองตวั เต็มท่ี 2. ค่อย ๆ เตมิ สว่ นประกอบทเ่ี หลือ โดยเริม่ จำกแอลกอฮอลก์ ่อน แลว้ คนทุกอยำ่ งให้เขำ้ กันดี 3. นำเจลลำ้ งมอื บรรจลุ งในภำชนะท่สี ะอำด แหง้ จำกนนั ปิดฝำใหส้ นิท ทงั นี คนทหี่ ำซอื เคมภี ณั ฑไ์ มไ่ ด้ สำมำรถใช้เอทิลแอลกอฮอล์ 95% ประมำณ 2 ใน 3 สว่ น ผสมกับนำ ตม้ สุก 1 ใน 3 สว่ น ใหเ้ ข้ำกัน แล้วใชเ้ ป็นนำยำฆำ่ เชือสำหรับทำควำมสะอำดมือก็ไดเ้ ชน่ กัน สตู รที่ 2 องค์กำรเภสชั กรรม กไ็ ด้แจกสตู รเจลลำ้ งมือแอลกอฮอล์ขนำด 100 กรัม สำหรบั ประชำชนทว่ั ไป โดยมี รำยละเอยี ด ดงั นี อุปกรณ์ 1. เอทลิ แอลกอฮอล์ 95% ปริมำณ 68 กรมั 2. นำสะอำด 28 กรมั 3. กลีเซอรนี 4 กรมั 4. คำรโ์ บพอล 0.4 กรมั 5. ด่ำงไตรเอทำโนลำมนี ปริมำณ 2 หยด

วิธที ำ 1. เทนำสะอำดลงในภำชนะผสม แล้วค่อย ๆ โรยผงคำร์โบพอลลงไปละลำยในนำทีละนอ้ ย จนหมด 2. เทกลีเซอรนี ลงไปผสม คนใหเ้ ข้ำกัน 3. เตมิ แอลกอฮอลล์ งไปผสมจนเปน็ เนอื เดียวกัน 4. เติมด่ำงไตรเอทำโนลำมีนเพือ่ ปรับควำมหนืดของเนอื เจล โดยคอ่ ย ๆ คนสว่ นผสมทกุ อยำ่ งอย่ำงชำ้ ๆ จนเข้ำกันดี 5. บรรจุแอลกอฮอลเ์ จลลงในภำชนะท่มี ีฝำปิดสนทิ แล้วนำไปใชไ้ ด้ทนั ที สตู รท่ี 3 อกี หน่ึงสูตรทำเจลล้ำงมือแอลกอฮอลจ์ ำกกรมควบคมุ โรค สำหรบั ประชำชนท่วั ไป ทำง่ำย ๆ ตำมนี อปุ กรณ์ 1. เอทิลแอลกอฮอล์ 95% ปริมำณ 340 กรมั 2. นำสะอำด 140 กรมั 3. โพรไพลีน ไกลคอล 20 กรมั 4. คำร์โบพอล 2 กรมั 5. ดำ่ งไตรเอทำโนลำมนี ปริมำณ 10 หยด วธิ ีทำ 1. เทนำสะอำดลงในภำชนะผสม 2. เติมผงคำรโ์ บพอล 2 กรมั ลงไป 3. เตมิ โพรไพลีน ไกลคอลลงไป ผสมใหเ้ ป็นเนอื เดยี วกนั 4. เทแอลกอฮอล์ลงไปผสม คนให้เปน็ เนอื เดียวกัน 5. เตมิ ไตรเอทำโนลำมนี 10 หยด เพอื่ ปรบั ควำมหนืดของเจล จำกนนั คนใหท้ กุ อย่ำงเขำ้ กนั ดี จนได้ เนอื เจล 6. บรรจุเจลลำ้ งมือแอลกอฮอล์ลงในขวดท่ีเตรยี มไว้ ปดิ ฝำให้สนทิ แล้วใชไ้ ดท้ นั ที

สูตรท่ี 4 เจลแอลกอฮอล์สูตรนเี ป็นสตู รที่องคก์ ำรอำหำรและยำ (อย.) แนะนำมำ โดยดดั แปลงจำกสตู รเจลลำ้ ง มือขององค์กำรอนำมยั โลก อปุ กรณ์ 1. เอทิลแอลกอฮอล์ 95% ปริมำณ 833.3 มลิ ลิลิตร 2. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ควำมเขม้ ขน้ 3% ปริมำณ 41.7 มิลลิลิตร 3. กลีเซอรีน 14.5 มิลลลิ ติ ร 4. นำตม้ สกุ 5. ภำชนะควำมจุ 1,000 มิลลลิ ิตร วธิ ีทำ 1. เทเอทิลแอลกอฮอลล์ งในภำชนะบรรจุ 1,000 มลิ ลิลิตร 2. เทไฮโดรเจนเปอร์ออกไซดต์ ำมลงไป 3. เตมิ กลีเซอรีนลงไป 4. เทนำต้มสกุ ท่เี ย็นแล้วตำมลงไป จนเต็มปรมิ ำณ 1,000 มิลลิลติ ร 5. คนส่วนผสมทกุ อย่ำงให้เข้ำกันดี 6. บรรจลุ งในบรรจภุ ัณฑ์ทีเ่ ตรยี มไว้ สูตรที่ 5 สูตรนีมำจำกองค์กำรอนำมยั โลกเช่นเดียวกนั กบั สตู รข้ำงบน เปน็ สูตรสำหรบั คนท่ีหำเอทิลแอลกอฮอล์ ไมไ่ ด้ โดยสูตรนีทำเสร็จแลว้ จะไดเ้ จลแอลกอฮอล์ประมำณ 500 กรมั อปุ กรณ์ 1. ไอโซโพรพลิ แอลกอฮอล์ 75% ปรมิ ำณ 751.5 มิลลลิ ิตร 2. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ควำมเขม้ ข้น 3% ปรมิ ำณ 41.7 มลิ ลิลติ ร 3. กลีเซอรนี 14.5 มิลลิลิตร 4. นำตม้ สุก 5. ภำชนะควำมจุ 1,000 มิลลิลิตร วิธีทำ 1. เทแอลกอฮอล์ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ และกลีเซอรนี ลงในภำชนะบรรจุ 1,000 มิลลิลติ ร

2. เติมนำต้มสุกทเี่ ยน็ แล้วตำมลงไปจนเตม็ ปรมิ ำณ 1,000 มิลลลิ ติ ร 3. คนทุกอยำ่ งใหเ้ ข้ำกนั ดี 4. บรรจลุ งในบรรจภุ ัณฑท์ ีเ่ ตรยี มไว้ *ขอ้ ควรระวงั หลงั จำกทำเจลลำ้ งมือเสรจ็ แลว้ ให้ถมู อื ไป-มำจนกวำ่ แอลกอฮอล์จะแห้งไปจนหมด พยำยำมหลีกเลี่ยง ประกำยไฟในกรณีทแ่ี อลกอฮอลต์ ำมตัวยังระเหยไมห่ มด และอย่ำเปำ่ มือท่ยี ังมีแอลกอฮอลบ์ นผิวกบั เครื่อง Hand Dryer ในหอ้ งนำเด็ดขำด เพรำะแอลกอฮอลอ์ ำจเปน็ เชอื เพลิงท่ีก่อประกำยไฟได้นะคะ นอกจำกนีก็ควรใช้เจลล้ำงมอื แอลกอฮอลภ์ ำยใน 30 วัน นับจำกวนั ทที่ ำ เพรำะหลงั จำก 30 วัน ประสทิ ธิภำพในกำรฆำ่ เชือของแอลกอฮอล์อำจจะลดลง จนทำให้ประสิทธิภำพในกำรฆ่ำเชอื โรคลดนอ้ ยลงไป ด้วย

บทท่ี 3 วธิ กี ำรดำเนนิ กำร ในกำรดำเนินงำนจัดโครงกำร ศนู ยฝ์ ึกอำชีพชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนำอำชพี วิชำกำรทำเจลแอลกอฮอลำ้ งมอื กศน.ตำบลดงมะไฟ มรี ำยละเอยี ดดงั ต่อไปนี ขนั ตอนกำรวำงแผน (plan) ขันตอนกำรลงมือทำ (Do) ขันตอนกำรตรวจสอบ (Check) ขันตอนกำรปรับปรุงแก้ไข (Act) ขนั ตอนกำรวำงแผน (plan) 1. ดำเนนิ กำรประชำคมกลุ่มผสู้ นใจพฒั นำอำชพี 2. ได้กลมุ่ เปำ้ หมำย 3. เตรียมหลักสูตร เสนอโครงกำรเพ่อื ขออนุมตั ิ 4. แต่งตงั คณะทำงำนภำยในตำบล คณะกรรมกำรนิเทศกิจกรรม 5. ประสำนวทิ ยำกร ขนั ตอนกำรลงมอื ทำ (Do) 1. ดำเนนิ กำรประสำนงำนผู้ที่เกย่ี วข้อง ครู กศน.ตำบล ครู ศรช. ผนู้ ำชมุ ชน คณะกรรมกำรหมบู่ ำ้ นและชำวบ้ำนจัดเตรียม สถำนท่ี 2. นำประชำชนทีส่ นใจมำเข้ำรว่ มกจิ กรรม 3. ประเมนิ ผลโครงกำรโดยให้ผเู้ ขำ้ รว่ มโครงกำรออกแบบประเมินควำมพึงพอใจในกำรเขำ้ ร่วม โครงกำร 4. รวบรวมข้อมลู จำกแบบประเมนิ 5. สรุปผลควำมพึงพอใจของผ้เู ขำ้ ร่วมโครงกำร ขันตอนกำรตรวจสอบ (Check) 1.เครอื่ งมอื ทีใ่ ช้ในกำรตรวจสอบ แบบประเมนิ ควำมพงึ พอใจของผู้เขำ้ ร่วมโครงกำร 2. กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู กศน.ตำบลดงมะไฟ ได้ดำเนนิ กำรเก็บรวบรวมข้อมลู จำกผู้เข้ำรว่ มโครงกำร - ประชำชนกลมุ่ เปำ้ หมำย จำนวน 7 คน

3.กำรวิเครำะหข์ อ้ มลู กำรประเมนิ ผลกำรดำเนนิ งำนของโครงกำร ศูนยฝ์ ึกอำชพี ชุมชน หลกั สตู ร พัฒนำอำชีพ กำรทำเจลแอลกอฮอรล์ ้ำงมอื กศน.ตำบลดงมะไฟ ดำเนินกำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูล ดงั นี 3.1 แบบประเมินตอนท่ี 1 ขอ้ มูลทั่วไป วิเครำะห์หำค่ำรอ้ ยละ 3.2 แบบประเมนิ ตอนที่ 2 ควำมพงึ พอใจตัวบ่งชขี องโครงกำร 3.2.1 ใหค้ ะแนนตำมนำหนกั แบบประเมนิ ฉบบั สมบรู ณ์ ตำมเกณฑ์ มำตรฐำนของ สมศ. โดยมเี กณฑ์ให้คะแนน ดังนี ระดับ 5 หมำยถงึ ดำเนินงำนได้ตำมเกณฑข์ องตวั บง่ ชีดีมำก ระดับ 4 หมำยถึง ดำเนินงำนไดต้ ำมเกณฑ์ของตัวบ่งชดี ี ระดับ 3 หมำยถึง ดำเนินงำนไดต้ ำมเกณฑ์ของตัวบง่ ชีพอใช้ ระดบั 2 หมำยถงึ ดำเนินงำนได้ตำมเกณฑข์ องตัวบ่งชปี รบั ปรุง ระดับ 1 หมำยถึง ดำเนนิ งำนได้ตำมเกณฑข์ องตวั บง่ ชตี อ้ งปรับปรุง 3.2.2 วเิ ครำะห์ข้อมูลโดยกำรหำคำ่ เฉลยี่ ร้อยละควำมพงึ พอใจ 3.3 แบบประเมนิ ตอนที่ 3 ข้อคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ วิเครำะห์ดว้ ยเนอื หำ (Content analysis)

บทที่ 4 ผลกำรดำเนนิ งำน กำรจดั กจิ กรรมโครงกำรศูนย์ฝกึ อำชพี ชมุ ชนหลกั สูตรพฒั นำอำชพี วชิ ำกำรทำเจลแอลกอฮอรล์ ้ำงมอื ณ ศำลำประชำคม หมู่ 9 ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหำ จงั หวัดหนองบัวลำภู สรปุ ผลกำรดำเนนิ งำนไดด้ ังนี ชอ่ื โครงกำร วันที่ดำเนินกำร เปำ้ ที่ได้รับจดั สรร ผล คดิ เปน็ รอ้ ยละ โครงกำร ศูนย์ฝกึ 15 มถิ นุ ำยน 6 7 100 อำชพี ชุมชน 2564 หลกั สูตรพัฒนำ อำชพี หลกั สูตร กำรทำเจลแอลกอ ฮอร์ลำ้ งมือ กำรประเมินควำมพึงพอใจในกำรดำเนินงำนตำมโครงกำรศูนย์ฝกึ อำชีพชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นำอำชพี วชิ ำ กำรทำเจลแอลกอฮอรล์ ำ้ งมอื กศน.ตำบลดงมะไฟ ของผู้รบั บรกิ ำรทเี่ ข้ำรว่ มโครงกำร โดยเสนอ รำยละเอียดตำมลำดบั คอื สญั ลกั ษณ์ท่ใี ช้ในกำรวิเครำะห์ขอ้ มลู ลำดบั ขนั ตอนในกำรวิเครำะหข์ อ้ มลู ผลกำร วิเครำะหข์ อ้ มลู และกำรแปลควำมหมำยขอ้ มลู ดังต่อไปนี สัญลกั ษณ์ทใ่ี ช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมลู กำรเสนอผลกำรประเมินครงั นีไดก้ ำหนดสญั ลกั ษณท์ ใ่ี ช้ในกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู ดังนี N แทน ขนำดของกลุ่มผู้ประเมนิ กำรใชค้ ู่มอื (Sample size) % แทน คำ่ ร้อยละ (Percentage) ลำดบั ขันตอนในกำรวเิ ครำะห์ข้อมลู กำรวเิ ครำะหข์ อ้ มูล ผู้ประเมนิ ไดเ้ สนอผลกำรวิเครำะห์ขอ้ มูลเป็นตอนๆ เรียงลำดับดังนี ตอนที่ 1 กำรวเิ ครำะห์ขอ้ มลู เก่ยี วกบั ข้อมูลทั่วไป ตอนที่ 2 กำรวิเครำะห์ขอ้ มลู ดำ้ นควำมพงึ พอใจของผูร้ ับบริกำร ตอนที่ 3 กำรวิเครำะห์ข้อมูล ขอ้ คดิ เห็นและข้อเสนอแนะอืน่ ๆ

ในกำรสรปุ ผลกำรดำเนนิ งำนโครงกำร ศนู ยฝ์ ึกอำชีพชุมชน หลกั สูตรพฒั นำอำชีพ วิชำ กำรทำเจล แอลกอฮอร์ลำ้ งมอื ณ ศำลำประชำคม ม.9 บำ้ นวงั หนิ ซำ ตำบลดงมะไฟ อำเภอสวุ รรณคุหำ จังหวัด หนองบวั ลำภู ได้จัดทำเครื่องมอื เปน็ แบบสอบถำม วดั ระดบั ควำมคิดเหน็ และควำมพงึ พอใจในกำรดำเนนิ กำร พัฒนำซ่ึงแบ่งออกเปน็ 3 ส่วนคือ สว่ นแรกเปน็ คำถำมปลำยเปิด มำตรำส่วนประมำณคำ่ (Rating scales) ส่วนที่ 2 มำตรำสว่ นประมำณค่ำของ ลเิ คริ ์ท likert’s Scales 5 ระดบั ส่วนท่ีสำมเป็นคำถำมปลำยเปิด ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ สว่ นที่สำมเป็นคำถำมปลำยเปิดเนอื หำสำระท่ีตอ้ งกำรพฒั นำในครงั ต่อไป ซ่งึ ในกำรเก็บ รวบรวมนนั ไดแ้ จกแบบสอบถำมแกผ่ ู้เขำ้ ร่วมโครงกำรศนู ยฝ์ ึกอำชพี ชุมชน หลกั สูตรพัฒนำอำชีพ วชิ ำ กำร ทำเจลแอลกอฮอรล์ ำ้ งมอื จำนวน 7 คน ได้แบบสอบถำมคืนจำนวน 7 ฉบับ จำกผู้เขำ้ รว่ มโครงกำร คิด เปน็ ร้อยละ 100 กระทำกำรวเิ ครำะหข์ ้อมูลตำมประเภทและลกั ษณะของข้อมลู โดยหำค่ำเฉลย่ี เป็นคำ่ รอ้ ย ละ ซึ่งไดว้ ัดระดบั ควำมคดิ เหน็ และควำมพงึ พอใจท่มี ตี อ่ โครงกำรจะปรำกฏดงั นี สรุปผลกำรวิเครำะห์ขอ้ มูลควำมพึงพอใจ โครงกำร ศนู ย์ฝกึ อำชพี ชมุ ชน หลกั สูตรพฒั นำอำชพี วิชำ กำรทำเจลแอลกอฮอรล์ ำ้ งมือ ตอนท่ี 1 ข้อมลู ท่วั ไป รำยกำรข้อมลู พนื ฐำน จำนวน ร้อยละ (ƒ) (%) 1.เพศ 1.1 ชำย 00 1.2 หญงิ 7 100 รวม 7 100.00 2.อำยุ 2.1 ต่ำกว่ำ 15 ปี 00 2.2 อำยุ 15 – 39 ปี 00 2.3 อำยุ 40 – 59 ปี 7 100 2.4 อำยุ 60 ปีขึนไป 00 รวม 7 100.00 3.ระดับกำรศกึ ษำ 00 3.1 ป.4 5 71.43 3.2 ป.6 00 3.3 ม.ตน้ 2 28.57 3.4 ม.ปลำย 3.5 ปวช. 00 3.6 ปวส. 00 3.7 ปรญิ ญำตรี 00 3.8 อืน่ ๆ

รวม 7 100.00 4.อำชพี 00 4.1 ผู้นำทอ้ งถ่ิน 00 4.2 อบต/เทศบำล 00 4.3 พนกั งำนรฐั วิสำหกจิ 00 4.4 ทหำรกองประจำกำร 7 100 4.5 เกษตรกร 00 4.6 รับรำชกำร 00 4.7 คำ้ ขำย 00 4.8 รบั จ้ำง 00 4.9 อสม. 00 4.10 แรงงำนตำ่ งด้ำว 00 4.11 ว่ำงงำน 00 4.12 อนื่ ๆ 7 100.00 รวม จำกตำรำง ผลกำรวิเครำะหข์ อ้ มูลควำมพึงพอใจของผ้เู ขำ้ รว่ มโครงกำรศนู ยฝ์ กึ อำชพี ชุมชน หลกั สตู รพัฒนำ อำชพี วิชำ กำรทำเจลแอลกอฮอรล์ ้ำงมอื ผลกำรวเิ ครำะห์ปรำกฏวำ่ ผเู้ ขำ้ รว่ มโครงกำร 7 คน เปน็ เพศ หญิง จำนวน 7 คน คดิ เป็นร้อยละ 100 ด้ำนอำยุ อำยุ 40-59 ปี จำนวน 7 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 ระดบั กำรศกึ ษำ ป.6 จำนวน 5 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 71.43 ม.ปลำย จำนวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 28.57 ตำมลำดบั ด้ำนอำชีพ เกษตรกร จำนวน 7 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100

สรปุ ผลกำรวเิ ครำะหข์ ้อมลู ควำมพงึ พอใจ โครงกำร ศนู ยฝ์ กึ อำชพี ชุมชน หลักสูตรพฒั นำอำชีพ วิชำ กำรทำ เจลแอลกอฮอรล์ ำ้ งมอื ตอนท่ี 2 ควำมพงึ พอใจในกำรใหบ้ ริกำร ตำรำงที่ 2.1 จุดมงุ่ หมำย/เนอื หำหลกั สูตร ข้อ รำยกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจ ระดับควำมพึงพอใจ/จำนวน หมำย มำก มำก ปำน นอ้ ย น้อย เหตุ ตอนที่ ๑ ควำมพงึ พอใจดำ้ นเนอื หำ ทส่ี ดุ กลำง ทีส่ ุด 1 เนอื หำตรงตำมควำมตอ้ งกำร 2 เนือหำเพียงพอตอ่ ควำมตอ้ งกำร 61 3 เนือหำปัจจบุ ันทนั สมยั 52 4 เนือหำมปี ระโยชนต์ ่อกำรนำไปใชใ้ นกำรพฒั นำคณุ ภำพชีวติ 7 ตอนที่ ๒ ควำมพึงพอใจด้ำนกระบวนกำรจดั กจิ กรรมกำรอบรม 7 5 กำรเตรยี มควำมพรอ้ มก่อนอบรม 6 กำรออกแบบกิจกรรมเหมำะสมกบั วตั ถปุ ระสงค์ 7 7 กำรจัดกจิ กรรมเหมำะสมกบั เวลำ 7 8 กำรจดั กจิ กรรมเหมำะสมกบั กลมุ่ เป้ำหมำย 7 9 วธิ กี ำรวดั ผล/ประเมนิ ผลเหมำะสมกับวตั ถุประสงค์ 7 ตอนท่ี ๓ ควำมพงึ พอใจตอ่ วทิ ยำกร 7 10 วทิ ยำกรมคี วำมรู้ควำมสำมำรถในเร่อื งท่ีถำ่ ยทอด 11 วทิ ยำกรมีเทคนิคกำรถ่ำยทอดใช้สื่อเหมำะสม 7 12 วทิ ยำกรเปดิ โอกำสให้มสี ว่ นร่วมและซักถำม 61 ตอนที่ ๔ ควำมพงึ พอใจด้ำนกำรอำนวยควำมสะดวก 7 13 สถำนที่ วสั ดุ อุปกรณแ์ ละสง่ิ อำนวยควำมสะดวก 14 กำรสอื่ สำร กำรสรำ้ งบรรยำกำศเพือ่ ใหเ้ กดิ กำรเรยี นรู้ 7 15 กำรบรกิ ำร กำรช่วยเหลอื และกำรแกป้ ัญหำ 61 7

สรปุ ควำมคดิ เห็นและควำมพงึ พอใจของผรู้ ับบริกำร โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชพี ชมุ ชน หลกั สูตรพฒั นำอำชีพ วชิ ำ กำรทำเจลแอลกอฮอรล์ ำ้ งมือ สรุปไดด้ ังนี ตอนที่ 1 ควำมพงึ พอใจดำ้ นเนือหำ ผู้ตอบแบบสอบถำมมีควำมพึงพอใจด้ำนเนอื หำ ดังนี เนอื หำมปี ระโยชนต์ อ่ กำรนำไปใช้ในกำรพฒั นำ คุณภำพชีวติ ตอบดมี ำกร้อยละ 100 เนอื หำทนั สมัย ตอบดมี ำกรอ้ ยละ 100 เนิอหำตรงตำมควำม ตอ้ งกำร ตอบดีมำกร้อยละ 87.71 และตอบดี รอ้ ยละ 12.29 มีเนือหำเพียงพอต่อควำมต้องกำร ตอบ มำกท่สี ุด คดิ เปน็ ร้อยละ 71.43 ตอบมำก คดิ เปน็ ร้อยละ 28.57 ตำมลำดบั ตอนท่ี 2 ควำมพึงพอใจด้ำนกำรจัดกจิ กรรมกำรอบรม ผูต้ อบแบบสอบถำมมีควำมพึงพอใจด้ำนกำรเตรียมควำมพร้อมกอ่ นกำรอบรม ตอบมำกทส่ี ุดรอ้ ยละ 100 กำรจดั กจิ กรรมเหมำะสมกับกลมุ่ เป้ำหมำย ตอบดมี ำกร้อยละ 100 กำรจดั กจิ กรรมเหมำะสมกบั เวลำ ตอบดีมำกร้อยละ 100 ประเมนิ ผลเหมำะสมกับวตั ถปุ ระสงค์ ตอบดีมำกรอ้ ยละ 100 และกำรออกแบบ กจิ กรรมเหมำะสมกบั วัตถุประสงค์ ตอบดมี ำกรอ้ ย100 ตอนท่ี 3 ควำมพงึ พอใจตอ่ วทิ ยำกร ผู้ตอบแบบสอบถำมมีควำมพึงพอใจด้ำนวทิ ยำกรมีควำมรู้ควำมสำมำรถในเรอ่ื งท่ีถำ่ ยทอด ตอบดมี ำก ร้อยละ 100 วทิ ยำกรเปดิ โอกำสใหม้ ีสว่ นร่วมและซักถำม ตอบดมี ำกรอ้ ยละ 100 วทิ ยำกรมเี ทคนิคกำร ถ่ำยทอดใชส้ ่อื ที่เหมำะสม ตอบดีมำกร้อยละ 87.71 และตอบดรี ้อยละ 12.29 ตอนที่ 4 ควำมพงึ พอใจด้ำนกำรอำนวยควำมสะดวก ผู้ตอบแบบสอบถำมมีควำมพงึ พอใจดำ้ นกำรบรกิ ำร ดำ้ นสถำนที่ วสั ดุ อุปกรณแ์ ละสง่ิ อำนวยควำม สะดวก ตอบดีมำกร้อยละ 100 กำรช่วยเหลอื และกำรแก้ปญั หำ ตอบมำกทสี่ ุด รอ้ ยละ 100 ด้ำนกำร ส่อื สำร กำรสรำ้ งบรรยำกำศเพื่อใหเ้ กิดกำรเรยี นรู้ ตอบมำกทสี่ ดุ ร้อยละ 85.71ตอบดีร้อยละ 12.29 ตำมลำดบั

บทที่ 5 สรุปผลและขอ้ เสนอแนะ กำรดำเนินงำนโครงกำร ศูนย์ฝึกอำชีพชมุ ชน หลักสตู รพฒั นำอำชีพ กลมุ่ สนใจ วชิ ำ กำรทำเจล แอลกอฮอรล์ ้ำงมอื สรุปผลกำรดำเนินงำนไดด้ งั นี วัตถุประสงคข์ องโครงกำร 1.เพ่ือใหป้ ระชำชนมคี วำมรูแ้ ละทกั ษะในกำรประกอบอำชีพ สำมำรถสร้ำงรำยได้ท่ีมน่ั คง ม่งั คั่ง 2.เพือ่ ใช้ในกำรตัดสนิ ใจประกอบอำชีพให้สอดคล้องกับศกั ยภำพของตนเอง ชมุ ชน สงั คม และ สิ่งแวดล้อมอย่ำงมีคุณธรรมจรยิ ธรรม 3.เพือ่ ใหป้ ระชำชนมโี ครงกำรประกอบอำชีพเพอื่ ใชเ้ ปน็ แนวทำงในกำรพัฒนำอำชีพของตนเอง ขอบเขตของโครงกำร 1. ดำ้ นเนอื หำ โครงกำรนมี ่งุ ให้ผ้เู รียนกล่มุ เปำ้ หมำยทีเ่ ข้ำรับกำรอบรมสำมำรถนำ ควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณ์กำรเรียนรตู้ ่ำงๆ ไปใช้ในกำรประกอบอำชพี ที่เปน็ กำร เข้ำสอู่ ำชีพ สรำ้ งงำน สรำ้ งรำยได้ หรอื พฒั นำอำชพี หรอื ตอ่ ยอดอำชีพเดิม 2. ด้ำนระยะเวลำ ระยะเวลำในกำรดำเนนิ งำน วนั ท่ี 15 มิถนุ ำยน 2564 ณ ศำลำ ประชำคม หมทู่ ี่ 9 ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหำ จังหวดั หนองบัวลำภู 3. ด้ำนประชำกรและกลมุ่ ตัวอย่ำง ประชำชนตำบลดงมะไฟ จำนวน 7 คน ประโยชนท์ ค่ี ำดว่ำจะไดร้ บั - ประชำชนตำบลดงมะไฟกลมุ่ เป้ำหมำยมีอำชพี ใหมม่ ีกำรพัฒนำตอ่ ยอดอำชีพเดิม เพ่มิ ทักษะกำรเปน็ ผู้ประกอบกำร มรี ำยได้ มงี ำนทำ มคี วำมมั่นคง ย่ังยนื - เพื่อให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมสำมำรถนำควำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ต่ำงๆ ไปใช้ในกำร ประกอบอำชพี ทีเ่ ป็นกำรเข้ำสอู่ ำชพี สรำ้ งงำน สร้ำงรำยได้ หรอื พัฒนำอำชีพ หรอื ตอ่ ยอดอำชีพเดมิ ตวั ชีวัด ตวั ชวี ัดผลผลิต รอ้ ยละ 80 ของประชำชน ตำบลดงมะไฟ ท่เี ข้ำรว่ มโครงกำรมอี ำชพี มีงำนทำ มีรำยได้ทมี่ ั่นคงยิง่ ขึน ตวั ชีวัดผลลัพธ์ ประชำชนตำบลดงมะไฟ ทเี่ ข้ำร่วมโครงกำรมคี วำมรู้ ทักษะ และประสบกำรณก์ ำรเรียนรูต้ ่ำงๆ ไปใช้ ในกำรประกอบอำชพี ทเ่ี ป็นกำรเขำ้ ส่อู ำชีพ สร้ำงงำน สร้ำงรำยได้ หรือพัฒนำอำชพี หรอื ตอ่ ยอดอำชีพเดมิ

ผลกำรดำเนนิ โครงกำร ประชำชนตำบลดงมะไฟ ท่ีเขำ้ รว่ มโครงกำร ศูนยฝ์ ึกอำชีพชุมชน หลักสตู รพฒั นำอำชพี กำรกำร กำรทำเจลแอลกอฮอรล์ ำ้ งมือ มีควำมพอใจในกำรจดั กจิ กรรมในระดับดขี นึ ไป รอ้ ยละ 100 และประชำชน ที่เข้ำร่วมกิจกรรมสำมำรถนำควำมรทู้ ่ไี ดไ้ ปใช้ในชวี ติ ประจำวัน และนำไปเพมิ่ รำยไดล้ ดคำ่ ช้ำจำ่ ยในครอบครัว ของตนเองได้ ปัญหำ-อุปสรรค - กำรจดั กจิ กรรมในชว่ งโควดิ 19 ทำใหต้ อ้ งมกี ำรระวงั ระยะหำ่ งเพ่ิมมำกขึน แนวทำงแก้ไขปัญหำ - เวน้ ระยะห่ำง ลำ้ งมอื ให้สะอำดบ่อยๆ ขอ้ เสนอแนะ เมอ่ื ผูเ้ รียนไดเ้ รยี นจบหลกั สตู รไปแลว้ สำมำรถนำควำมรูท้ ไ่ี ด้ไปลดรำยจำ่ ยภำยในครอบครวั ได้

ภำคผนวก

ภำพประกอบกจิ กรรมโครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชพี ชุมชน หลกั สูตรพฒั นำอำชีพ กำรทำเจลแอลกอฮอรล์ ำ้ งมือ ดำเนินกำร15 มิถนุ ำยน 2564 ณ ศำลำประชำคม หมู่ 9 ตำบลดงมะไฟ อำเภอสวุ รรณคหู ำ ดูวิดโิ อ เก่ียวกบั กำรป้องกนั เชอื ไวรัสโควดิ 19

วทิ ยำกรอธิบำยส่วนผสม

สว่ นผสมตอ้ งเข้ำกนั และมกี ำรพกั ทงิ ไวเ้ พื่อใหเ้ จลจบั ตวั

ขนั ตอนกำรใสส่ ่วนผสม

วทิ ยำกรบรรยำยพรอ้ มฝกึ ปฏบิ ตั ิ

ผ้เู รียนลงมือฝึกปฏิบตั แิ ละมกี ารจดบนั ทกึ

ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิ

บรรจุใสข่ วดพรอ้ มใชง้ ำน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook