วิชาภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปี ที่๕ เรือ่ ง…ชนดิ ของคาในภาษาไทย๗ชนดิ เสนอ อาจารยป์ ิ ยวรรณ ขอจิตตเ์ มตต์ จดั ทาโดย นางสาวปนดั ดา รอดศรี
คานา หนงั สือเรียนรายวิชา ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปี ที่๕ จัดทาข้ ึนตามตัวช้ ีวดั และ วตั ถุประสงคใ์ ชใ้ นการประกอบการเรียนการสอนใหค้ วามรูค้ วามเขา้ ใจสามารถนาความรูท้ ี่ ไดไ้ ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนน์ าไปสู่ทกั ษะหลายๆดา้ น ในบทเรียนเล่มน้ ีก็จะเป็ นเน้ ือหาสาระ เกี่ยวกบั ชนิดของคาไทย๗ชนิดที่มีเน้ ือหาของบทเรียนและบททดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนที่จะเป็ นเครื่องมือในการพฒั นาต่อยอดความรูใ้ หม้ ีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ สูงสุดในการใชง้ านต่อไป ผูจ้ ดั ทาโดยนางสาวปนดั ดา รอดศรี หวงั เป็ นอย่างยิง่ ว่าหนงั สือเล่มน้ ีจะเป็ นประโยชน์ ต่อการจดั การเรียนรูเ้ พอื่ ประยุกตใ์ ชพ้ ฒั นาการเรียนรูข้ องผูเ้ รียนไดอ้ ย่างดี
สารบญั เรือ่ ง หนา้ แบบฝึ กหดั ก่อนเรียน ๑ คานาม ๔ คาสรรพนาม ๖ คาอุทาน ๘ คาวิเศษณ์ ๙ คาบุพบท ๑๓
สารบญั เรื่อง หนา้ คาสนั ธาน ๑๖ คากิริยา ๑๘ แบบฝึ กหดั หลงั เรียน ๒o คาคม ๒๔ เฉลย ๒๕ อา้ งอิง ๒๖
ชนดิ ของคาในภาษาไทย๗ชนดิ มอี ะไรบา้ งไปเรียนรู้ พรอ้ มๆกนั เลยแต่ก่อนทีจ่ ะไปเรียนเรามาทา แบบทดสอบกนั ก่อนเลย
๑ แบบฝึ กหดั ก่อนเรียน คาช้ ีแจง:ใหน้ กั เรียนทาเครื่องหมายกากบาท(x)ทบั ตวั อกั ษร ก ข ค ง หนา้ คาตอบที่ถูกตอ้ งทีส่ ุดเพยี งคาตอบเดียวลงในกระดาษคาตอบ (๗ คะแนน) ๑. ขอ้ ใดเป็ นความหมายของคานาม ข. เป็ นคาที่ใชแ้ สดงความรูส้ ึกของคน สตั ว์ ก. เป็ นคาที่ทาหนา้ ทีข่ ยายคาต่างๆ ง. เป็ นคาทีใ่ ชเ้ รียกชือ่ คน สตั ว์ สิง่ ของ สถานที่ ค. เป็ นคาที่ใชแ้ ทนชื่อคน สตั ว์ สิง่ ของ ๒.ขอ้ ใดคือความหมายของคาวิเศษณ์ ข. คาทีใ่ ชเ้ ชื่อมคาอื่น ก. คาทีใ่ ชข้ ยายคาอื่น ง. คาทีแ่ สดงขนาดของสิง่ ของ ค. คาทีใ่ ชแ้ สดงความรูส้ ึก
๒ ๓. ขอ้ ใดเป็ นคากริยาทุกคา ข. เขา้ สาย ก. บิน กดั ง. เตะ โอย๊ ค. กิน คุณ ข. เขาลูกน้ ีมนั สูงมาก ๔. “เขา” ขอ้ ใดเป็ นคาสรรพนาม ง. เขาป่ วยเป็ นไขห้ วดั ใหญ่ ก. ลุงแดงทานาที่หลงั เขา ค. อาแกว้ ชอบกฬี าปี นเขา ข. เป็ นคาทีใ่ ชแ้ สดงความรูส้ ึกของคน สตั ว์ ง. เป็ นคาทีใ่ ชเ้ รียกชือ่ คน สตั ว์ สิง่ ของ ๕.ขอ้ ใดเป็ นความหมายของคาสนั ธาน ก. เป็ นคาที่ทาหนา้ ที่ขยายคาต่างๆ ค. เป็ นคาที่ใชเ้ ชือ่ มประโยค
๓ ๖.ขอ้ ใด เป็ นคาอุทานบอกอาการดีใจ ข. อนิจจา ! พุทโธ่ ! โถ! ก. ไชโย! เฮ้ ! ง. โอโ้ ฮ ! โอ ! แหม ! ค. ช่วยดว้ ย! วา้ ย ! ฮา้ ข.ใครกาลงั วิ่งเล่นที่สนาม ๗.ขอ้ ใดมีคาบุพบท ง.ทาไมเธอตอ้ งขยนั ก.พแี่ ละนอ้ งกาลงั วิง่ เล่น ค.เธอขยนั เพราะกลวั สอบตก ต้งั ใจทาขอ้ สอบนะเด็กๆ สูๆ้
๔ คานาม ๑.คานาม คือ คาทีใ่ ชเ้ รียกชือ่ คน สตั ว์ สิง่ ของ สถานที่ รวมท้งั สิง่ ที่มชี ีวิตและไม่มชี ีวิตท้งั ที่เป็ น รูปธรรมและนามธรรม เช่น เด็ก พ่อ แม่ บา้ น ๑.สามมานยนาม คือ คานามทีใ่ ชเ้ รียกชือ่ ทวั่ ไปไม่ช้ ีเฉพาะเจาะจง เช่น พอ่ แม่ นก รถ ขนม ตวั อย่าง - นกั เรียนอ่านหนงั สอื ๒. วิสามานยนาม คือ นามที่เป็ นชื่อเฉพาะของคน สตั ว์ สิง่ ของ สถานที่ เช่น ครูสมศรี ตวั อย่าง -โรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูลต้งั อยู่ในจังหวดั ปัตตานี ๓. ลกั ษณะนาม คือ คานามทีใ่ ชบ้ อกลกั ษณะของนามหรือกริยา เพอื่ บอกขนาด รูปร่างสณั ฐาน ตวั อย่าง - บา้ นหลงั น้ ที าสีสวยมาก
๕ คานาม ๔. สมุหนาม คือ คานามที่บอกหมวดหมู่ของนามทวั่ ไปและนามเฉพาะ เพอื่ บอกถงึ ลกั ษณะที่รวมกนั เป็ นหมู่ เป็ นพวก เช่น ฝูง โขลง กอง กลุ่ม คณะ ตวั อย่าง - กองทหารรกั ษาการณอ์ ยู่ตลอดเวลา ๕. อาการนาม คือ คานามที่บอกกิริยาอาการหรือความปรากฏเป็ นต่าง ซึ่ง มคี า \"การ\" \"ความ\"นาหนา้ ตวั อย่าง - การเดินทางในคร้งั น้ ีปลอดภยั เป็ นอย่างยิง่
๖ คาสรรพนาม ๒.คาสรรพนาม คือ คาที่ใชแ้ ทนคานามที่ผูพ้ ูดหรือผูเ้ ขียนไดก้ ล่าวแลว้ หรือเป็ น ทีเ่ ขา้ ใจกนั ระหว่างผูฟ้ ังและผูพ้ ูด เพอื่ ไม่ตอ้ งกล่าวคานามซ้า ๑. บุรุษสรรพนาม คือ คาสรรพนามทีใ่ ชแ้ ทนในการพูดจา ๒. ประพนั ธสรรพนาม คือ คาสรรพนามทีใ่ ชแ้ ทนคานามหรือคาสรรพนามที่อยู่ ขา้ งหนา้ และประโยค ทาหนา้ ที่เชื่อมประโยค ๒ ประโยคใหม้ คี วามสมั พนั ธก์ นั ตวั อย่าง - ฉนั ชอบคนที่มีมารยาทดี ๓. วิภาคสรรพนาม คือ คาสรรพนามที่ใชแ้ ทนคานามเพอื่ แบง่ พวก หรือรวมพวก ไดแ้ ก่ คา บา้ ง ต่าง กนั ตวั อย่าง - นกั เรียนบา้ งก็เล่นบา้ งก็คุยในช้นั เรียน
๗ คาสรรพนาม ๔. นิยมสรรพนาม คือ คาสรรพนามทีใ่ ชแ้ ทนคานามที่แสดงความช้ ีเฉพาะเจาะจง ตวั อย่าง -นคี่ ือโรงเรียนของฉนั ๕. อนิยมสรรพนาม คือคาสรรพนามที่ใชแ้ ทนคานามที่บอกความไม่เจาะจง ไดแ้ ก่ คา ใคร อะไร ไหน อย่างไร ตวั อย่าง - เขาชอบพูดโกหกจนไม่มีใครเชื่อเขาอีกแลว้ ๖. ปฤจฉาสรรพนาม คือ คาสรรพนามที่ใชแ้ ทนคานามทีม่ คี วามหมายเป็ นคาถาม ไดแ้ ก่ คา อะไร ใคร อย่างไร ทาไม ผูใ้ ด ตวั อย่าง - เธอชอบเรียนอะไรมากที่สุด
๘ คาอทุ าน ๓.คาอุทาน คือคาทีเ่ ปล่งออกมาเพอื่ แสดงอารมณ์ ความรูส้ ึกของผูพ้ ูด ซึ่งอาจเปล่งออกมาใน ขณะทีต่ กใจ ดีใจ เสียใจ ประหลาดใจ คาอุทานส่วนมากไม่มคี วามหมายตรงตามถอ้ ยคา แต่จะมี ความหมายเนน้ ความรูส้ ึก และอารมณข์ องผูพ้ ูดเป็ นสาคญั คาอุทานแบ่งออกเป็ น ๒ จาพวก ดงั น้ ี ๑. อุทานบอกอาการ เช่น โอย๊ อา้ ว วา๊ ย โอย โอย๊ ตายจริง คุณพระช่วย โอโ้ ฮ ตวั อย่าง - โอย๊ ! เจ็บเหลือเกนิ ๒. อทุ านเสริมบท เช่น อาบน้า อาบท่า, ไปวดั ไปวา, ผา้ ผอ่ น, เส้ ือแสง ตวั อย่าง - เด็ก ๆ สกปรกมอมแมม รีบไปอาบน้าอาบท่าใหเ้ รียบรอ้ ย
๙ คาวิเศษณ์ ๔.คาวิเศษณ์ คือ คาที่ใชข้ ยายคานาม คาสรรพนาม คากริยา และคาวิเศษณ์ เพอื่ ใหไ้ ดค้ วาม ชดั เจนยงิ่ ข้ ึน คาวิเศษณแ์ บ่งเป็ น ๑๐ ชนิด ดงั น้ ี ๑. ลกั ษณวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณบ์ อกลกั ษณะ ชนิด สี ขนาด สณั ฐาน รส กลนิ่ เสียง ความรูส้ ึก ไดแ้ ก่ คา ใหญ่ เล็ก เร็ว ชา้ ตวั อย่าง - บา้ นเล็กในป่ าใหญ่ ๒. กาลวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณท์ ีบ่ อกเวลาในอดีต ปัจจุบนั อนาคต เชา้ สาย บา่ ย เยน็ ตวั อย่าง - เขาไปทางานเชา้ ๓. สถานวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณท์ ี่บอกสถานที่ ระยะทาง ไดแ้ ก่ คา ใกล้ ไกล บน ตวั อย่าง - พเี่ ดินหนา้ นอ้ งเดินหลงั
๑o คาวิเศษณ์ ๔.ประมาณวิเศษณค์ ือ คาวิเศษณท์ ี่บอกจานวนหรือปริมาณ ไดแ้ ก่ คา มาก นอ้ ย หนึง่ สอง หลาย ท้งั หมด ตวั อย่าง - เขาไปเทีย่ วหลายวนั ๕. นยิ มวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณท์ ีบ่ อกความช้ ีเฉพาะ ชอก กาหนดแน่นอน ไดแ้ ก่ คา นี่ นนั่ โน่น น้นั โนน้ เหล่าน้ ี เฉพาะ แน่นอน จริง ฯลฯ
๑๑ ๖.อนิยมสรรพนาม คือ คาวิเศษณท์ ี่แสดงความไม่ช้ ีเฉพาะไมแ่ นน่ อน ไดแ้ ก่ คา อะไร ทาไม อย่างไร ไย เช่นไร ฉนั ใด กี่ ตวั อย่าง - เขาจะไปไหนก็ช่างเขาเถอะ • ๗.ปฤจฉาวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณท์ ีบ่ อกเน้ อื ความเป็ นคาถามหรือความ สงสยั ไดแ้ ก่ คา อะไร ไหน ทาไม อยา่ งไร • ตวั อยา่ ง • - นอ้ งทาอะไร ๘.ประติชญาวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณท์ ีใ่ ชใ้ นการเรียกขานและโตต้ อบกนั ไดแ้ ก่ คา คะ ขา ครบั ขอรบั จ๋า จ๊ะ พระพุทธเจา้ ขา้ ตวั อย่าง - หนูจ๋ามาหาครูหน่อยซิจ๊ะ
๑๒ คาวิเศษณ์ ๙. ประติเษธวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณท์ ี่บอกความปฏิเสธ ไดแ้ ก่ คา ไม่ ไม่ใช่ ไม่ได้ หามไิ ด้ ตวั อย่าง - เขาไม่ทาการบา้ นส่งครู ๑๐. ประพนั ธวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณท์ ีป่ ระกอบคากริยาหรือคาวิเศษณ์ เพอื่ ทาหนา้ ที่ เชื่อมประโยค ใหม้ คี วามเกีย่ วขอ้ งกนั ไดแ้ ก่ คาที่ ซึ่ง อนั อย่างที่ ชนิดที่ ที่ว่า ว่า ตวั อย่าง - เขาฉลาดอย่างทีไ่ ม่เคยเห็นมาก่อน
๑๓ คาบุพบท ๕.คาบุพบท คือ คาที่ทาหนา้ ที่เชื่อมโยงคาหนึง่ หรือกลุ่มคาหนึง่ ใหส้ มั พนั ธก์ บั คาอื่น หรือกล่มุ คาอื่น เพอื่ แสดงความหมายต่างๆ ๑. คาบุพบทที่เชือ่ มโยงกบั บทอื่น ๑.๑ บุพบทนาหนา้ กรรม ไดแ้ ก่ คา แก่ ซึ่ง ตวั อย่าง - อย่าเห็นแก่ตวั ๑.๒ บุพบทนาหนา้ คาทีเ่ ป็ นเจา้ ของ ไดแ้ ก่ คา แห่ง ของ ตวั อย่าง - สถานวี ิทยกุ ระจายเสียงแห่งประเทศไทย
๑๔ ๑.๓ บุพบทนาหนา้ คาบอกลกั ษณะ ไดแ้ ก่ คา ดว้ ย กบั แก่ ต่อ ตวั อย่าง - ยายกินขา้ วดว้ ยมือ ๑.๔ บุพบทนาหนา้ คาบอกเวลา ไดแ้ ก่ คา เมอื่ ต้งั แต่ กระทงั่ จน ตวั อย่าง - เขามาถงึ บา้ นเมอื่ เชา้ น้ ี ๑.๕ บุพบทนาหนา้ คาบอกสถานที่ ไดแ้ ก่ คา ที่ ใน เหนอื ใกล้ จาก แต่ ตวั อย่าง - เขามาแต่บา้ น
๑๕ ๑.๖ บุพบทนาหนา้ คาบอกประมาณ ไดแ้ ก่ คา ตลอด เกือบ ท้งั ราว ตวั อย่าง - ฝนตกหนกั ตลอดปี ๒. คาบุพบทที่ไม่เชื่อมโยงกบั บทอื่น ส่วนมากจะอยู่ตน้ ประโยค ใชเ้ ป็ น การทกั ทาย มกั ใชใ้ นคาประพนั ธ์ ตวั อย่าง - ดูกร ภิกษุท้งั หลาย การปฏิบตั ิธรรมเป็ นหลกั สาคญั ทางศาสนา
๑๖ คาสนั ธาน ๖.คาสนั ธาน คือ คาทีท่ าหนา้ ทีเ่ ชือ่ มคากบั คา ประโยคกบั ประโยคขอ้ ความกบั ขอ้ ความ หรือ ความใหส้ ละสลวย ไดแ้ ก่ คา และ หรือ แต่ เพราะ ๑. คาสนั ธานเชื่อมใจความทีค่ ลอ้ ยตามกนั ไดแ้ ก่ คา กบั , และ, ท้งั ...และ, ท้งั ...ก็, คร้นั ...ก็, คร้นั ...จึง, พอ...ก็ ตวั อย่าง - พอ่ และแม่รกั ฉนั มาก ๒. คาสนั ธานเชื่อมใจความที่ขดั แยง้ กนั ไดแ้ ก่ คา แต่, แต่ทว่า, ถงึ ...ก็, กว่า...ก็ ตวั อย่าง - นอ้ งอ่านหนงั สือแต่พฟี่ ังเพลง
๑๗ คาสนั ธาน ๓. คาสนั ธานเชื่อมใจความที่ใหเ้ ลือกเอาอย่างใดอย่างหนงึ่ ไดแ้ ก่ คา หรือ, หรือไม่ก็, มฉิ ะน้นั , ไม่เช่นน้นั , ไม่...ก็ ตวั อย่าง - เธอจะอ่านหนงั สือหรือฟังเพลง ๔. คาสนั ธานเชือ่ มใจความที่เป็ นเหตุเป็ นผลกนั ไดแ้ ก่ จึง, เพราะ, เพราะว่า, เพราะ.....จึง, ฉะน้นั ...จึง ตวั อย่าง - นกั เรียนไม่ต้งั ใจเรียนจึงสอบไม่ผ่าน
๑๘ คากริ ิยา ๗.คากริยา คือ คาที่แสดงอาการ สภาพ หรือการกระทาของคานาม และคาสรรพนามในประโยค คากริยาบางคาอาจมีความหมายสมบูรณใ์ นตวั เอง ๑.สกรรมกริยา คือคากริยาที่ตอ้ งมีกรรมมารองรบั จึงจะไดใ้ จความสมบูรณ์ ตวั อย่าง - แม่คา้ ขายผลไม้ ๒.อกรรมกริยา คือคากริยาที่ไม่ตอ้ งมีกรรมมารบั ก็ไดค้ วามหมายสมบูรณ์ ชดั เจนในตวั เอง ตวั อย่าง -ครูยนื
๑๙ คากิริยา ๓. วิกตรรถกริยา คือคากริยาที่ไม่มีความหมายในตวั เอง ใช้ตาม ลาพงั แลว้ ไม่ไดค้ วาม ตอ้ งมคี าอื่นมาประกอบจึงจะไดค้ วาม คาที่มา รบั น้นั ไม่ใช่กรรมแต่เป็ นส่วนเติมเต็มหรือมาช่วยขยายความหมาย ใหส้ มบูรณ์ ตวั อย่าง -ผม เป็ น นกั เรียน ๔.กริยาอนุเคราะห์ หรือ กริยาช่วย เป็ นคาที่เติมหนา้ คากริยาหลกั ในประโยคเพอื่ ช่วยขยายความหมายของคากริยาสาคญั เป็ นกริยาที่ ไม่มีความหมายในตวั เอง ทาหนา้ ที่ช่วยคากริยาใหม้ ีความหมาย ชดั เจนข้ ึน ตวั อย่าง -นายแดง จะไป โรงเรียน
๒o แบบฝึ กหดั หลงั เรียน คาช้ ีแจง:ใหน้ กั เรียนทาเครื่องหมายกากบาท(x)ทบั ตวั อกั ษร ก ข ค ง หนา้ คาตอบ ทีถ่ ูกตอ้ งที่สุดเพยี งคาตอบเดียวลงในกระดาษคาตอบ (๗คะแนน) ๑.ขอ้ ใดใชล้ กั ษณะนามผิด ข.ศาลเจา้ 2 หลงั ก. เลือ่ ย 2 ป้ ื น ง.หนงั สือ 2 เล่ม ค.พระภิกษุ 2 องค์ ๒.คากริยามีกีช่ นดิ ข.3 ชนิด ก.2 ชนิด ง.5 ชนดิ ค.4 ชนิด
๒๑ ๓. ขอ้ ใดมคี าบุพบททีแ่ สดงความสมั พนั ธบ์ อกเวลา ก.เวลาในขวดแกว้ ข. วนั ที่ตามปฏิทินคืออะไร ค. วนั น้นั เต็มไปดว้ ยความวุ่นวาย ง. เขากลบั มาถงึ เมืองไทยเมอื่ เชา้ น้ ี ๔. “เขา” ขอ้ ใดเป็ นคาสรรพนาม ข. เขาลูกน้ ีมนั สูงมาก ก. ลุงแดงทานาทีห่ ลงั เขา ง. เขาป่ วยเป็ นไขห้ วดั ใหญ่ ค. อาแกว้ ชอบกฬี าปี นเขา
๒๒ ๕.ขอ้ ใดเป็ นความหมายของคาสนั ธาน ก. เป็ นคาที่ทาหนา้ ทีข่ ยายคาต่างๆ ข. เป็ นคาทีใ่ ชแ้ สดงความรูส้ ึกของคน สตั ว์ ค. เป็ นคาที่ใชเ้ ชือ่ มประโยค ง. เป็ นคาที่ใชเ้ รียกชื่อคน สตั ว์ สิง่ ของ ๖.ขอ้ ใดมีคาวิเศษณบ์ อกอาการ ข.ขล่ยุ เลาน้ ีเป่ าเพราะมาก ก.มดี เล่มน้ หี กั แลว้ ง.หมากทะลายน้ ีมผี ลดก ค.นกั กีฬาคนน้ ีวิง่ เหยาะๆ
๒๓ ๗.ขอ้ ใด เป็ นคาอุทานบอกอาการดีใจ ข. อนิจจา ! พุทโธ่ ! โถ! ก. ไชโย! เฮ้ ! ง. โอโ้ ฮ ! โอ ! แหม ! ค. ช่วยดว้ ย! วา้ ย ! ฮา้ ต้งั ใจทาขอ้ สอบนะเด็กๆ สูๆ้
๒๔ ชยั ชนะ มไี วใ้ หค้ นทีต่ ้งั ใจเรียนรูแ้ ละ พฒั นาตวั เอง
๒๕ เฉลยแบบฝึ กหดั แบบฝึ กหดั ก่อนเรียน แบบฝึ กหดั หลงั เรียน ข้อ เฉลย ข้อ เฉลย ๑ก ๑ค ๒ง ๒ค ๓ก ๓ง ๔ง ๔ง ๕ค ๕ค ๖ก ๖ค ๗ค ๗ก
๒๖ อา้ งอิง ฝ่ ายวิชาการ. แบบฝึ กหลกั ภาษาไทย ป.๖ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ : โฟกสั , ๙๖ หนา้ . วิลาวลั ย์ วิษณุเวคิน. คู่มือวิชาภาษาไทย ป.๖ ช่วงช้นั ที่ ๒. กรุงเทพฯ : เดอะบุคส,์ ๒๕๕๓. โสภน ปิ่ นทอง. คู่มือช่วยสอนภาษาไทยประถมปลาย เตรียมสอบ ป.๖ เขา้ ม.๑. กรุงเทพฯ : SCIENCE CENTER, ๒๔๒ หนา้ .
หมากรุกจะเดินยงั ตอ้ งคิด หมากชีวิตจะเดินโดยไม่คิดไดอ้ ย่างไร
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: