แบบเสนอเพื่อรับรางวัลวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ-คหกรรม - ครูสุลีพร

๑

๒ คำนำ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการรายงานผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ ( Best Practice) มีวตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อเปน็ การค้นคว้าหานวัตกรรมการสอนที่สามารถยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น กลุ่มสาระ การเรยี นรู้การงานอาชพี ของโรงเรียนโมคลานประชาสรรค์ ทีพ่ ัฒนาขนึ้ ทุกปี ซ่ึงได้รายงานถงึ ความเป็นมาของ Best Practice จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน กระบวนการปฏิบัติงานหรอื ขัน้ ตอนการทำงาน ซึ่งประยุกต์ใช้วงจร PDCA อันประกอบด้วย ขั้นเตรียมการ (Plan) ขั้นดำเนินการ (Do) ขั้นตรวจสอบและ ประเมินผลการพัฒนางาน (Check) ขั้นสรุปและรายงาน (Action) รวมทั้งได้รายงานผลการดำเนินงาน ผลสัมฤทธิ์ ประโยชน์ที่ได้รับ ปัจจัยความสำเร็จ บทเรียนที่ได้รับ ข้อเสนอแนะ การเผยแพร่ผลงาน และ ภาคผนวก เพือ่ เปน็ เอกสารประกอบการคัดเลือกผลงานทีป่ ฏบิ ัตเิ ป็นเลศิ ผจู้ ัดทำหวงั เปน็ อย่างยิง่ วา่ เอกสารฉบับนีจ้ ะเปน็ แนวทางในการสอน เพอ่ื ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการ เรยี นไดเ้ ปน็ อย่างดี ขอขอบคณุ นางสิรวิ รรณ มณโี ชติ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนโมคลานประชาสรรค์และขอขอบคุณผู้มีส่วน เกย่ี วข้องทกุ ฝา่ ยทส่ี นับสนนุ ช่วยเหลือ และให้กำลังใจ จนผลงานประสบผลสำเรจ็ ในคร้งั นี้ สลุ พี ร วงศ์สวุ รรณ

สารบญั ๓ เรื่อง ความสำคญั ของผลงาน หน้า จุดประสงค์และเป้าหมาย ๑ กระบวนการผลิตผลงานหรือข้ันตอนในการดำเนนิ งาน ๒ ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธ/ิ์ ประโยชนท์ ่ไี ด้รับ ๓ ปจั จยั ความสำเร็จ ๔ บทเรียนท่ีไดร้ บั เพื่อการปรับปรุงมงุ่ พฒั นา ๖ การเผยแพร/่ การไดร้ ับการยอมรบั /รางวัลทไ่ี ด้รับ ๖ เอกสารอา้ งองิ ๖ ภาคผนวก ๘ ๙

๑ แบบเสนอเพอื่ รับรางวลั วิธีการปฏบิ ตั ทิ เ่ี ป็นเลิศ (Best Practice) ระดับเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา นครศรีธรรมราช ปกี ารศึกษา 2565 ช่ือผูส้ ่งประกวด นางสุลพี ร วงศส์ ุวรรณ ประเภทสถานศึกษา โรงเรยี นขนาดเล็ก ประเภทผลงาน ด้านนวตั กรรมและเทคโนโลยเี พ่อื การเรียนการสอน โรงเรยี น/ศนู ยพ์ ฒั นาวิชา โรงเรียนโมคลานประชาสรรค์ รายละเอียดข้อมูลผสู้ ่งผลงานกำหนดตามประเภทของผลงาน ชอ่ื ผลงาน น้ำพรกิ สมุนไพร กา้ วไกลสู่อาชีพ 1. ความสำคญั ของผลงาน 1.1 ความสำคญั สภาพปญั หา น้ำพริกเป็นอาหารไทย ที่สะท้อนวัฒนธรรมของคนไทย เนื่องจากเป็นอาหารที่ต้อง รับประทานร่วมกัน นั่งล้อมวงกันกินน้ำพริกถ้วยเดียวกัน ซึ่งนอกจากจะให้คุณค่าทางโภชนาการแล้ว ยังมี คุณค่าในการสรา้ งความสัมพันธ์ท่ีดใี นครอบครัวดว้ ย การทำน้ำพรกิ สมุนไพร เป็นการรวมกลุ่มกัน เพื่อให้เกดิ การสรา้ งงาน สร้างรายได้ เกิดความรกั ความสามคั คขี องคนในหมู่คณะในการรวมกันทำน้ำพรกิ สมุนไพรเริ่มต้น จากการทำงานกลุ่มในห้องเรียน ซงึ่ นำ้ พรกิ เปน็ อาหารคู่ชวี ิตของทกุ ภาค เป็นวถิ ชี ีวติ ทีม่ ีมาต้ังแต่สมัยโบราณ เป็นภมู ิปัญญาทไ่ี ด้รับการถา่ ยทอดมาจนถงึ ปัจจุบนั ซ่ึงมสี มนุ ไพรมากมายหลากหลายรสชาติ “ข่า” เป็นเครื่องเทศ คนไทยนิยมใช้มากกว่าขิง อาจเพราะข่าปลูกขึ้นง่าย ทนทานไม่ ตอ้ งการการดูแลอะไรมากนัก มอี ายยุ ืนยาว ไม่มีการลงหัว สามารถนำมากินมาใชไ้ ด้ตลอดปี ดังน้ัน คนไทยจงึ มี การกนิ และใช้ข่าในหลากหลายรปู แบบ ตง้ั แต่เปน็ ทง้ั เคร่อื งเทศดบั กลนิ่ คาว โดยใชห้ ัวข่าใส่ในต้มยำ ต้มข่า ต้ม แซ่บ ใส่ในหม้อก๋วยเตีย๋ ว เครื่องแกง น้ำพริกต่าง ๆ นอกจากน้ี เรายังกินหนอ่ ข่า ดอกข่า เป็นผักแกล้ม ใส่ใน ข้าวยำของคนใต้ โดยใชใ้ บขา่ ซอยใส่ลงไปหรอื คน้ั นำ้ จากใบใสล่ งไปด้วย เปน็ ต้น ในทางยา \"ข่า\" มีรสเผ็ดปร่า มีน้ำมันหอมระเหย มีกลิ่นหอมฉุนแรง คนไทยใช้ข่าเป็นยา รักษาอาการเจ็บป่วยในแทบทุกระบบของร่างกาย อาทิ ระบบทางเดินอาหาร ข่าช่วยย่อย ช่วยขับลม แก้จุก เสียดแน่นท้อง แกล้ มปว่ ง แก้บิด ขับน้ำดี แกส้ ะอึก ดังน้นั ข่าจึงเป็นเครือ่ งเทศหลักคู่ครวั ไทยเปน็ สมุนไพรที่จะ ไปบำรุงไฟธาตุ ซึ่งเปน็ หัวใจสำคัญของความแข็งแรงของรา่ งกาย ในกรณีที่จุกเสียดทอ้ ง ปวดท้อง สามารถนำ ข่ามาทำเป็นยาผง ยาลูกกลอน ยาต้ม ยาชงกินก็ได้ หรือจะนำข่ามาตำ หรือฝนกับเหล้าหรือน้ำปูนใสกินเพื่อ รักษาอาการดังกล่าวก็ได้ผลดียิ่ง ระบบทางเดินหายใจ ข่าช่วยแก้ไอ แก้หวัด ลดน้ำมู ก แก้หอบหืดได้ เช่นเดียวกบั ขิง เน่อื งจากการทม่ี รี สร้อน จงึ เหมาะทีจ่ ะปราบหวดั ท่ีมากับหนา้ หนาวได้เป็นอย่างดี คนสมัยก่อน นิยมนำขา่ มาตม้ นำ้ เป็นยากินเพ่ือแก้หวดั ลดนำ้ มกู ในส่วนของการใช้แกไ้ อ นยิ มฝนขา่ กับน้ำผง้ึ กินเพ่อื กัดเสลด โดยอาจเจือน้ำมะนาวกับเกลือลงไปเล็กน้อย นอกจากนี้ข่ายังชว่ ยขยายหลอดลมได้อีกด้วย ระบบหัวใจและ หลอดเลือด ข่าเป็นยาร้อนทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี มีกำลังวังชา ช่วยขับเลือดเสียในหญิงหลังคลอด ช่วยขับ เหง่อื ซงึ่ ในละแวกบ้านนักเรยี นปลูกเยอะ “ตะไคร้” จัดเป็นพืชล้มลุกตระกูลหญ้า ใบมีลักษณะเรียวยาว ปลายใบมีขนหนาม เป็น

๒ สมุนไพรไทยชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยตะไคร้แบ่งออกเป็น 6 ชนิด ซึ่งได้แก่ ตะไคร้หอม ตะไคร้กอ ตะไคร้ต้น ตะไคร้น้ำ ตะไคร้หางนาค และตะไคร้หางสิงห์ ซึ่งเป็นสมุนไพรไทยที่นิยมปลูกทั่วไปใน บา้ นเรา โดยมีถ่นื กำเนดิ ใน ประเทศอนิ เดยี อนิ โดนเี ซยี พมา่ ศรลี ังกา และไทย ตะไครเ้ ปน็ ทงั้ ยารักษาโรคและ ยังมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุท่ีมีประโยชนต์ ่อรา่ งกายอกี ดว้ ย เช่น วิตามินเอ ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุ เหล็ก ฯลฯ สรรพคุณของตะไคร้ มีส่วนชว่ ยในการขับเหง่ือ ยาบำรุงธาตุไฟให้เจริญ (ต้นตะไคร)้ มีสรรพคณุ เป็นยาบำรงุ ธาตุ ช่วยในการเจริญอาหาร ช่วยแกอ้ าการเบอื่ อาหาร (ต้น) สารสกดั จากตะไคร้มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคเมะ เรง็ ลำไสใ้ หญ่ แกแ้ ละบรรเทาอาการหวัด อาการไอ ช่วยรกั ษาอาการไข้ (ใบสด) ใชเ้ ปน็ ยาแก้ไข้เหนอื (ราก) นำ้ มนั หอมระเหยของใบตะไคร้ สามารถบรรเทาอาการปวดได้ ช่วยแก้อาการปวดศรี ษะ ชว่ ยรักษาโรคความ ดันโลหิตสูง (ใบสด) ใช้เป็นยาแก้อาเจียน หากนำไปใช้ร่วมกับสมนุ ไพรชนิดอื่น ๆ (หัวตะไคร้) ช่วยแก้อาการ กษัยเส้นและแก้ลมใบ (หัวตะไคร้) รักษาโรคหอบหืด ด้วยการใช้ต้นตะไคร้ ช่วยแก้อาการเสียดแน่นแสบ บริเวณหนา้ อก (ราก) มีฤทธิช์ ่วยในการขบั ปสั สาวะ ฯลฯ ดังน้ัน ครูผูส้ อนกล่มุ สาระการงานอาชีพ(คหกรรม) เห็นประโยชน์ของ “ขา่ ” และ “ตะไคร้” ซึ่งที่โรงเรียนปลูกไว้ให้นักเรยี นได้ศึกษา โดยนักเรียนที่เรียนสาระเพิ่มเติมวิชา การปลูกพืชสมุนไพร น่าจะ สร้างสรรค์ผลงานใหม่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และมีคุณค่าทางอาหารมากขึ้น จึงนำแนวคิดนี้ให้นักเรียน ทดลองปฏบิ ตั ิ และนกั เรยี นสามารถทำไดด้ ้วยตนเอง ทำง่าย และเป็นทีส่ นใจของ ครู อาจารย์ จงึ ทำให้เกิด “นำ้ พรกิ สมุนไพร ก้าวไกลสอู่ าชพี ” 1.2 แนวทางแก้ปญั หาและพัฒนา จากบริบทในทอ้ งถน่ิ ชุมชนโมคลานประชาสรรค์เปน็ พืน้ ท่คี า้ ขาย ผู้เรียนสว่ นใหญ่เรยี นเพอื่ ให้ มีความรขู้ น้ั พ้ืนฐานแลว้ ออกมาประกอบอาชีพ ด้วยฐานะทางเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยให้ผู้เรยี นศกึ ษาตอ่ ในขัน้ อุดมศึกษา กลมุ่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพ จึงสง่ เสรมิ และสนบั สนุนให้ผู้เรยี นไดฝ้ ึกอาชีพเพือ่ การมงี านทำ โดยเปดิ วชิ าเรยี นในกล่มุ สาระเพ่ิมเติมเกี่ยวกับงานอาชพี ขึน้ 2. จุดประสงค์และเป้าหมาย ๒.๑ เชิงปริมาณ ๑. ครูผสู้ อนพฒั นาสอ่ื /นวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอน สำหรับนักเรยี นทมี่ คี วาม สนใจ รอ้ ยละ ๑๐๐ ๒. ครูผู้สอนสามารถคัดกรองและประเมนิ ความสามารถพน้ื ฐาน ระดบั ความสามารถและ พฒั นาการของผู้เรียนแต่ละคน ไดร้ อ้ ยละ ๑๐๐ ๓. นกั เรียนไดร้ ับการพัฒนาอยา่ งเต็มตามศกั ยภาพทกุ คน ๒.๒ เชงิ คุณภาพ ๑. โรงเรยี น มสี ่ือหรอื นวตั กรรม ในการจดั การเรียนการสอนสำหรบั การมีงานทำ ๒. ผเู้ รียนไดร้ บั การศกึ ษาอยา่ งมคี ุณภาพทุกคน ทกุ ดา้ นและเรียนอย่างมีความสขุ 3. กระบวนการผลติ ผลงานหรือขัน้ ตอนการดำเนินงาน 3.1 การออกแบบผลงาน/นวตั กรรม

๓ 1. ครู ผู้เรยี น และชุมชน มีส่วนรว่ มในการวางแผนและออกแบบการจัดการเรยี นการสอนท่ี สอดคลอ้ งกบั สภาพ ปัญหา ความต้องการ โดยการประชุมรว่ มกันเพือ่ วางแผนการดำเนินงาน ช้ีแจง วัตถุประสงค์ กับผเู้ รยี นชน้ั มัธยมศึกษาตอนตน้ และมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ทำใหม้ ผี ู้เรยี นสนใจเขา้ เรยี น จำนวน 35 คน 2. ศกึ ษาเอกสารขอ้ มูลเก่ียวกับการจัดการเรียนการสอนและหลกั สูตรอาชพี เพื่อการมงี านทำ จดั เตรียมสื่อ อปุ กรณ์ และวางแผน จัดกิจกรรมการเรยี นรรู้ ว่ มกบั ผู้เรียน และวิทยากร 3. ครูและผู้เรยี นรว่ มกนั กำหนดทศิ ทางการดำเนนิ งาน และทำขอ้ ตกลง คือ ต้องมีการจดั ทำ บญั ชี รายรบั รายจา่ ย ของกลุม่ และกำไรท่ีได้จากการขายสนิ ค้าตอ้ งมีการปันผลใหก้ ับสมาชกิ กลุ่ม และ นำ บางส่วนเปน็ ทนุ หมุนเวยี นในการสง่ เสรมิ อาชีพต่อไป 4. นำขอ้ มูลจากการวิเคราะห์และพจิ ารณาในข้อ 1 – 3 มากำหนดกรอบการดำเนินงานที่ พิจารณาแลว้ ว่าเปน็ แนวปฏิบัตทิ ่ีดี (Best Practice) โดยดำเนนิ การ ดงั นี้ 1. กำหนดวัตถุประสงค์ของการจัดการเรียนการสอน 2. กำหนดตัวชวี้ ดั ความสำเร็จ 3. กำหนดวิธดี ำเนนิ การ 4. กำหนดวิธกี ารประเมินผลและเครอ่ื งมอื การประเมินผล 3.2 การดำเนินงานตามกจิ กรรม (ตามวงจร PDCA) 1. ขน้ั เตรียมการ (Plan) 1.๑. ศึกษาสภาพปญั หา และวเิ คราะห์ข้อมูลของโรงเรียนอย่างมสี ่วนรว่ มของ ครู ผู้เรยี น และชุมชน โดยการจัดเวทปี ระชาคม เพ่อื นำมาวางแผนจัดกจิ กรรมทสี่ อดคล้องกบั สภาพบรบิ ท ศักยภาพของ ชุมชน ปัญหา และความตอ้ งการทแี่ ท้จรงิ ของผูเ้ รยี น 1.๒. วเิ คราะห์งานตามบทบาทหน้าที่ และวิเคราะหค์ วามสอดคลอ้ งทเ่ี ก่ียวข้อง เชน่ จดุ เน้น วสิ ัยทัศน์ พนั ธกจิ ระบบประกัน คณุ ภาพสถานศึกษา ฯลฯ ซึ่งจากการวิเคราะหง์ าน จะเห็นไดว้ า่ เปน็ งานตามบทบาทหนา้ ทข่ี องครทู ่ีจะต้องจดั การเรยี นการสอนรายวิชาอาชีพเพื่อการมงี านทำเพ่อื พัฒนา อาชพี ใหก้ ับนักเรียนในโรงเรยี น โดยต้อง มคี วามสอดคล้องกบั ศักยภาพของผู้เรียน ความตอ้ งการและศักยภาพ ของแต่ละพื้นท่ี 1.3. คน้ หา Best Practice โดยพจิ ารณาประเดน็ ดงั น้ี - เป็นเรอ่ื งที่เกี่ยวข้องกบั ภารกจิ โดยตรง ของบทบาทหน้าท่ี -สนองนโยบายและจุดเน้นการดำเนนิ งานของสำนักงานคณะกรรมการ สถานศึกษา ด้านการจดั การศึกษาอาชพี เพ่ือการมีงานทำ โดยให้ความสำคญั กับการจัดการศกึ ษาอาชพี เพ่ือการ มีงานทำในกลุม่ อาชพี เกษตรกรรม คหกรรม อุตสาหกรรม ความคิดสรา้ งสรรค์และพาณิชย์และการบรกิ าร ท่ี สอดคลอ้ งกบั ศกั ยภาพของผ้เู รยี น ความต้องการและศกั ยภาพของแตล่ ะพ้นื ที่ - มีผลผลิต/ ความสำเร็จเพิ่มขน้ึ

๔ - สามารถนำไปใช้เป็นมาตรฐานการทำงานตอ่ ไปได้ - มีการพัฒนาปรับปรุงตอ่ ไป จากการพิจารณาประเด็นต่างๆ ดังกล่าว เพื่อค้นหา Best Practice ในการจัดกิจกรรมที่ สอดคล้องกับสภาพปัญหา และความต้องการของนักเรียนในโรงเรียนโมคลานประชาสรรค์ ที่เรียนรายวิชา สาระเพิ่มเติม พบว่า นักเรียนมีความสนใจและเล็งเอาความถนัดที่ตนเองสนใจเป็นอาชีพเพื่อความต้องการ และเป็นการดำเนนิ งานที่สนองนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน ดา้ นการจัดการศึกษาอาชีพเพอ่ื การมงี านทำ 2. ขนั้ ดำเนนิ การ (Do) 1. จัดการเรยี นการสอนวิชาอาชพี เพอ่ื การมีงานทำ โดยให้ความรเู้ รื่อง การทำ น้ำพริกสมุนไพร การเลอื กใช้วัตถดุ ิบ การผลิตเพื่อการจำหนา่ ย และการเลอื กบรรจภุ ณั ฑ์ โดยการอธบิ าย จากเอกสารประกอบการเกี่ยวกบั ความเป็นมาในการทำน้ำพริกสมุนไพร การสาธติ การทำ และเนน้ ใหผ้ ูเ้ รียน ได้ฝึกปฏบิ ตั ิจริงจนเข้าใจและชำนาญ เนน้ การผลิตสนิ คา้ ท่มี ีคุณภาพ ความสะอาดของส่วนผสมทใี่ ช้ วัสดุ อปุ กรณ์ต่างๆ เพ่ือให้เกดิ ความปลอดภยั และตรงความต้องการของผซู้ ้อื โดย มีการจำหน่ายในโรงเรยี นและ รบั ส่งั ทำออนไลน์ 2. ให้ความรู้เรือ่ งการจดั ทำบญั ชีรายรับ – รายจ่ายของกลุ่ม โดยมีครเู ปน็ ผูใ้ ห้ คำปรกึ ษา แนะนำ 3. ขัน้ ตรวจสอบและประเมินผลการพฒั นางาน (Check) 1. ประเมินผลงานการทำนำ้ พรกิ สมุนไพร โดยครูประเมิน จากการปฏบิ ัติจริง ความชำนาญ คุณภาพของผลิตภณั ฑ์ และประเมินความรู้ ความเข้าใจจากการ สอบปากเปลา่ 2. โรงเรยี นโมคลานประชาสรรค์ ได้มนี ิเทศติดตามการจัดการเรยี นการสอนวชิ า อาชีพ เพือ่ การมงี านทำ เพ่อื ตดิ ตาม ประเมินการจดั กิจกรรม และครู ได้มกี ารตดิ ตามการดำเนนิ งาน โดย การใช้ แบบติดตามผูเ้ รยี นและการทำเชงิ ประจักษ์ 3. สรปุ ผลการดำเนนิ โครงการท่ีได้จากการติดตามนกั เรียนหลงั เรียนจบวชิ าอาชีพ เพื่อการมีงานทำ เมื่อสิน้ สดุ ปกี ารศกึ ษา นำเสนอผลการจดั กิจกรรม และจุดท่ีควรพัฒนา รวมทงั้ ข้อเสนอแนะ และ จัดทำรายงาน เพ่ือนำเสนอแนวปฏบิ ตั ทิ ี่ดี (Best Practice) วิชาอาชีพเพอื่ การมงี านทำ 4. เผยแพร่ผลงานแนวปฏบิ ัติที่ดี (Best Practice) วชิ าอาชพี เพอ่ื การมีงานทำ โดย การนำเสนอ ผลงาน ปญั หา อุปสรรค ขอ้ เสนอแนะตอ่ ที่ประชุม โรงเรยี นโมคลานประชาสรรค์ เพือ่ ใช้เปน็ ขอ้ มลู ในการวางแผน จัดกิจกรรมครัง้ ตอ่ ไป รวมท้ังนำเสนอ ผลงานในรปู แบบต่างๆ เช่น นำเสนอข้อมลู ในงาน แข่งขันทกั ษะระดบั เขตพื้นทีแ่ ละระดับชาติ การนำเสนอ ผ่าน เวบ็ เพจ โรงเรียนโมคลานประชาสรรค์ และทาง เฟสบ๊คุ ของโรงเรียนโรงเรยี นโมคลานประชาสรรค์ 4. ขนั้ สรปุ และรายงาน (Action) - นำข้อเสนอแนะของนักเรยี น และผู้ท่เี กย่ี วข้อง มาปรบั ปรุงรูปแบบ และวิธกี าร

๕ ดำเนินงานการสอนอาชีพเพอื่ การมงี านทำ เพ่ือเผยแพร่ให้โรงเรียนอื่น ฯ อ่ืนที่มสี ภาพบริบทเหมือนหรอื ใกลเ้ คยี งกนั ได้นำไปปรับใชใ้ นการจัดกิจกรรมสง่ เสรมิ อาชีพตอ่ ไป 3.3 ประสิทธภิ าพของการดำเนนิ งาน ๑. นกั เรียนสามารถนำความรู้และสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ ๒. เพอื่ ใหน้ ักเรียนไดร้ บั ความรู้ทกั ษะและประสบการณ์ในอาชพี ท่ีตนเลอื ก 3. เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นได้รจู้ ักข้ันตอนการวางแผนและการแกไ้ ขปญั หาในการปฏบิ ตั งิ าน 3.4 การใชท้ รัพยากร นวัตกรรมน้ำพริกสมนุ ไพร ก้าวไกลสู่อาชพี 4. ผลการดำเนินการ/ผลสมั ฤทธ/ิ์ ประโยชนท์ ่ไี ด้รับ 4.1 ผลทเ่ี กดิ ตามจดุ ประสงค์ นักเรียนมที กั ษะการทำน้ำพริกสมนุ ไพร การเลอื กใชว้ ตั ถุดบิ การผลติ เพอ่ื การจำหนา่ ย และ การเลอื กบรรจุภณั ฑ์ มีการพัฒนาทด่ี ีขึ้น 4.2 ผลสมั ฤทธขิ์ องงาน - โรงเรยี นมกี ารพัฒนานวัตกรรมทางด้านการจดั การเรียนการสอนเพอื่ การพฒั นา ความสามารถ ดา้ นอาชพี นกั เรียนให้เตม็ ตามศกั ยภาพรอบด้าน - โรงเรียนได้รบั รางวลั ต่าง ๆ จากการแข่งขนั กิจกรรมทางวชิ าการ 4.3 ประโยชน์ทไี่ ดร้ บั นักเรียนได้มีการฝกึ ทกั ษะด้านอาชีพการบรกิ ารอาหารและขนมจนเกดิ ความชำนาญและ สามารถนำ ความร้ทู ีไ่ ด้จากการเรยี นไปประยกุ ต์ใช้ในการเรยี นและการดำรงชวี ติ 5. ปัจจัยความสำเร็จ - ฝ่ายบรหิ ารและคณะครใู หค้ วามสำคัญในการพัฒนาเอกสารประกอบการเรยี นการสอนวชิ า อาชีพ เพอื่ การมีงานทำ(นำ้ พริกสมุนไพร ก้าวไกลสูอ่ าชพี ) - ไดร้ ับความรว่ มมือจากคณะครแู ละนกั เรียนในการดำเนนิ การพฒั นาเอกสารประกอบการเรียน การ สอนวชิ าอาชีพเพ่อื การมงี านทำ(นำ้ พริกสมนุ ไพร กา้ วไกลสูอ่ าชพี ) - ผ้เู ชี่ยวชาญให้คำช้ีแนะ ช่วยเหลือในการพัฒนางาน 6. บทเรยี นทีไ่ ด้รับเพอ่ื การปรบั คณุ ภาพมุง่ พฒั นาต่อไป

๖ 6.1 บทเรียนทีไ่ ดร้ ับ - นกั เรยี นสามารถนำความรแู้ ละสามารถนำไปประกอบอาชพี ได้ - นกั เรยี นได้รับความรู้ ทักษะและประสบการณ์ในอาชพี ทต่ี นเลือก - นักเรยี นได้รจู้ ักขน้ั ตอนการวางแผนและการแกไ้ ขปญั หาในการปฏบิ ัตงิ าน 6.2 การปรบั คุณภาพมงุ่ พัฒนาตอ่ ไป - ควรตอ่ ยอดการจัดกิจกรรมการเรียนรไู้ ปสู่บทเรยี นออนไลนท์ ผ่ี ้เู รียนสามารถเรยี นรไู้ ดด้ ว้ ย ตนเองทกุ ทีต่ ลอดเวลา 6.3 ข้อควรพึงระวัง - นักเรียนและครคู วรแลกเปลีย่ นความคิดและชว่ ยกันออกแบบกจิ กรรม ซง่ึ เป็นการทำให้ นกั เรียนไดม้ ีสว่ นรว่ มในการออกแบบการเรียนรูแ้ ละพฒั นานวัตกรรมตอ่ ไป 7. การเผยแพร่/การได้รบั การยอมรบั /รางวัลที่ได้รบั 7.1 การเผยแพร่ - ประชาสมั พันธ์ทางสือ่ ออนไลน์ ไดแ้ ก่ ไลน์ เฟสบ๊คุ เวป็ ไซตข์ องโรงเรียน ตลาดนัด ป้าย ประชาสัมพันธ์ - นำเสนอผลงานของตนเองและแจกเอกสารแนะนำผู้เข้าร่วมประชุม - เผยแพร่ผลงานให้แกเ่ พื่อนครูในโรงเรยี นและโรงเรียนกลุ่มเครือข่าย และผู้มาศึกษาดงู าน จาก จังหวดั ตา่ ง ๆ 7.2 การได้รับการยอมรับ/รางวัลทีไ่ ดร้ ับ - ไดร้ บั รางวัลเหรยี ญทองการแข่งขันทำอาหาร น้ำพรกิ ผกั สด เครอื่ งเคยี ง ในงาน ศิลปหัตถกรรมนักเรยี น ครั้งที่ 69 - ได้รบั รางวัลเหรียญทองการแขง่ ขันทำอาหาร นำ้ พรกิ ผักสด เครื่องเคียง ในงาน ศลิ ปหัตถกรรมนักเรยี น ครง้ั ที่ 6๘ - ไดร้ ับรางวัลเหรียญทองการแขง่ ขันทำอาหาร น้ำพริก ผกั สด เครือ่ งเคยี ง ในงาน ศิลปหัตถกรรมนกั เรยี น คร้งั ท่ี 6๗

๗ - ไดร้ บั รางวัลเหรยี ญทองการแข่งขันทำอาหาร นำ้ พริก ผกั สด เคร่ืองเคยี ง ในงาน ศิลปหัตถกรรมนกั เรยี น ครงั้ ที่ 6๖ - ได้รบั รางวลั เหรียญทองการแขง่ ขนั ทำอาหาร นำ้ พริก ผกั สด เคร่ืองเคียง ในงาน ศิลปหัตถกรรมนกั เรยี น ครง้ั ท่ี 6๕ ลงชื่อ ผเู้ สนอ (นางสลุ ีพร วงศส์ วุ รรณ) ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ชำนาญการพเิ ศษ โรงเรยี นโมคลานประชาสรรค์ ลงช่ือ ผู้รบั รอง (นางสริ ิวรรณ มณีโชติ) ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนโมคลานประชาสรรค์ เอกสารอา้ งอิง ตะไคร้ สรรพคุณ ประโยชน์ กบั บทพสิ ูจนท์ างวิทยาศาสตร.์ pobpad.com สืบค้นเมอื่ 3 ตุลาคม, 2565. มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล.ขา่ อาหารเปน็ ยาคู่ครวั ไทย.sr.mahid0l.ac.th/hbeo1/สบื ค้นเมอื่ 3 ตุลาคม ,2565.

๘

๙ ภาคผนวก การแข่งขันทักษะทางวชิ าการงานมธั ยมศึกษาระดับชาติ

๑๐ การแข่งขันทักษะทางวชิ าการงานมัธยมศกึ ษาระดับชาติ การจดั การเรียนการสอนรายวิชาสาระเพิ่มเตมิ เพื่องานอาชพี การจัดการเรยี นการสอนรายวชิ าสาระเพ่มิ เตมิ เพื่องานอาชีพ

๑๑ ปฎิบัตงิ านอยา่ งมีความสขุ การ แขง่ ขนั ทกั ษะทางวิชาการในงานศิลปหัตถกรรมภาคใต้

๑๒ เผยแพร่ การเข้ารว่ มกจิ กรรมทักษะทางวชิ าการ เผยแพร่ผลการเข้ารว่ มกจิ กรรมทักษะทางวชิ าการ

๑๓

๑๔