แบบนิเทศ-ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา 2564 (ใช้งาน)

แบบนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจดั การศึกษา ประจำปงี บประมาณ 2564 1 แบบนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา ประจำปงี บประมาณ 2564 สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษานครศรธี รรมราช คำช้ีแจง 1. เครื่องมือนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา ฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยมีวัตถปุ ระสงค์เพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพการศึกษา 2. เครอ่ื งมอื นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา ประกอบด้วย 3 ตอน ดังน้ี ตอนท่ี 1 ข้อมลู พนื้ ฐาน ตอนที่ 2 การนิเทศ ตดิ ตามการดำเนนิ งานพัฒนาคณุ ภาพการจัดการศึกษาของสถานศกึ ษา 1. การพัฒนาระบบประกนั คุณภาพภายในสถานศกึ ษา 2. การพัฒนาหลกั สตู รสถานศึกษา 3. งานวัดและประเมินผลการจดั การศกึ ษา 4. สอ่ื และเทคโนโลยีเพอ่ื การจัดการเรยี นการสอน 5. การนเิ ทศภายในสถานศึกษา ตอนท่ี 3 การดำเนนิ งานตามนโยบาย กลยุทธ์ จุดเน้น ของสพฐ./สพม.นศ 1. การน้อมนำศาสตรส์ องพระราชาส่สู ถานศึกษาเพื่อพฒั นาอยา่ งย่งั ยนื 2. การศึกษาเพอ่ื การมีงานทำ 3. โรงเรยี นคุณธรรม 4. ความสามารถดา้ นการใชภ้ าษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร 5. โรงเรียนคณุ ภาพประจำตำบล 6. การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน .............................................................................................................................................................................. ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู พ้ืนฐาน โรงเรียน โมคลานประชาสรรค์ สหวิทยาเขต ทา่ ศาลา – นบพติ ำ - พรหมครี ี จำนวนผบู้ ริหาร .........1................ คน ครู ..............13.................คน นักเรียน ..........238.................. คน ชอ่ื ผู้บริหาร .............นางสิริวรรณ มณีโชติ...................... หมายเลขโทรศพั ท์ ............089-7262537............. ******************************************************* ตอนที่ 2 การนเิ ทศ ติดตามการดำเนนิ งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศกึ ษาของสถานศกึ ษา 1. การพฒั นาระบบประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา 1) การพัฒนาระบบการประกันการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ทั้ง 3 มาตรฐาน (รูปแบบ/ กระบวนการ/โครงการ/กจิ กรรม) โรงเรียนโมคลานประชาสรรค์พัฒนาระบบประกันคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษาทั้ง 3 มาตรฐาน โดยกระบวนการ PDCA (P) Plan – การวางแผน: หมายถึง การตั้งเป้าหมายจากปัญหาหรือโอกาสต่างๆ และสร้างแผนการ ทำงานหรอื กระบวนการเพือ่ ทำให้เปา้ หมายน้ีประสบความสำเร็จ

แบบนเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา ประจำปงี บประมาณ 2564 2 (D) Do – ปฏิบัติ/การทดสอบ: หมายถึง ขน้ั ตอนการทดสอบ เป็นการลงมอื ทำและเก็บข้อมูลเพ่ือหา จุดออ่ นหรอื จดุ ทส่ี ามารถพัฒนามากขึน้ ได้ รวมถงึ การแก้ปญั หาเฉพาะหน้าตา่ งๆด้วย (C) Check – การตรวจสอบ: หมายถงึ ข้นั ตอนการตรวจสอบ เปน็ ขนั้ ตอนหาชอ่ งทางและวิธีพัฒนา กระบวนการต่างๆให้เร็วขึ้นหรือมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญของโอกาสและ อปุ สรรคต่างๆในกระบวนการ (A) Action – การดำเนินการ/ปรับปรุงแก้ไข: หมายถึง การดำเนินการเพื่อปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ กระบวนการขัน้ ตอนตา่ งๆเร็วข้นึ ดขี ึน้ หรือมีค่าใช้จา่ ยน้อยกว่าเดมิ กระบวนการ PDCA จากกระบวนการดงั กล่าวนำมาสกู่ ารดำเนินงานอย่างเป็นลำดับขั้นตอน ดังนี้ 1. ขน้ั วางแผนการดำเนินงาน (Plan) 1.1 แต่งตั้งคณะทำงาน พัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อศึกษาแนวคิด รูปแบบ และ วธิ กี ารประกันคุณภาพการศกึ ษาตามรูปแบบทส่ี ถานศกึ ษาสามารถปฏบิ ตั ิได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ 1.2. ให้ความรู้แก่ครูและบุคลากรทีเ่ กี่ยวข้อง เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และเห็นความสำคัญของ การประกันคุณภาพการศึกษา ตลอดจนช่วยกันสร้างแนวคิดการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา กำหนดรูปแบบการ ดำเนินงานท่เี หมาะสมกบั สถานศึกษา 1.3. ตั้งคณะทำงานฝ่ายต่าง ๆ เพื่อกำหนดบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบงานต่าง ๆ ที่สถานศึกษา ตอ้ งจดั ทำเพ่ือการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา 2. ข้นั ปฏิบตั ิตามแผนการดำเนนิ งาน (Do) 2.1 กำหนดมาตรฐานคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษาซึ่งกำหนดจากมาตรฐานการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และมาตรฐานการศึกษาของหนว่ ยงานตน้ สังกัด มขี ้ันตอน ดังน้ี 1) ตงั้ คณะทำงานยกร่างมาตรฐานคุณภาพการศกึ ษาของสถานศึกษา 2) ประชุมพิจารณาความเหมาะสมของร่างมาตรฐานคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา 3) ปรับปรุง และจัดทำเป็นมาตรฐานคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา เพื่อนำไปเป็นแนว ทำงานในการพัฒนาสถานศึกษาใหส้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานท่วี างไว้

แบบนิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 3 2.2 จัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงานต่าง ๆ ของสถานศึกษา เพื่อให้ผู้รับผิดชอบงานคุณภาพต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานและตัว ช้ี วัดได้ปฏิบัติงานอย่างมีคุณภาพ สม่ำเสมอ ตลอด เว ล า มขี ัน้ ตอน ดังน้ี 1) ตั้งคณะทำงานยกร่างมาตรฐานการปฏิบัติงาน สำหรับงานต่าง ๆ ที่วิเคราะห์มาจาก มาตรฐาน คณุ ภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา 2) พจิ ารณาทบทวน และรับรองมาตรฐานการปฏิบัตงิ านท่ีเขียนขนึ้ พรอ้ มกับปรบั ปรงุ แก้ไข ใหเ้ หมาะสมกบั การปฏบิ ัติงานในสถานศึกษา 3) จัดทำเปน็ มาตรฐานการปฏิบัตงิ านของสถานศึกษาและประกาศให้ทกุ คนนำไปปฏิบัติ 2.3 สร้างเครื่องมือประเมินคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานคุณภาพการศึกษาของ สถานศึกษา เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษามาจัดทำเป็นข้อมูลพื้นฐานของ สถานศกึ ษาที่จะใชใ้ นการหาจดุ ท่ีจะพฒั นาสถานศกึ ษาต่อไป โดยมขี นั้ ตอนดงั น้ี 1) ตั้งกรรมการสร้างเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษาตามมาตรฐาน คณุ ภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา 2) ดำเนินสร้างเครื่องมือการเก็บรวบรวมข้อมูลตามมาตรฐานคุณภาพการศึกษาของ สถานศกึ ษา 3) ตรวจสอบคุณภาพของเครือ่ งมือเกบ็ รวบรวมข้อมลู 2.4 ประเมินสภาพปัจจุบัน หรอื เก็บขอ้ มูลสภาพปจั จุบันของสถานศกึ ษา มขี ั้นตอน ดงั นี้ 1) วางแผนกำหนดการประเมินคณุ ภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา 2) แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา โดยกำหนดให้มีการ ประเมนิ ขา้ มฝา่ ย 3) เตรียมเครื่องมือประเมิน โดยรวบรวมเครื่องมือประเมินที่เกี่ยวกับนักเรียน ครู และ ผ้ปู กครอง ให้เป็นฉบับเดยี วกันสำหรบั แต่ละกลุม่ เพ่ือใชก้ ารประเมนิ เพียงครั้งเดยี ว 4) ดำเนนิ การประเมิน และสรปุ ผลการประเมนิ ตามมาตรฐาน และตวั ช้ีวดั 2.5 จัดทำสารสนเทศหรือขอ้ มูลพ้นื ฐานสภาพปัจจบุ ันของสถานศกึ ษา โดยนำผลการประเมินคุณภาพ การศกึ ษาของสถานศึกษามาจดั ทำข้อมลู พน้ื ฐานแสดงผลการปฏิบัตงิ านของสถานศึกษา 2.6. จดั ทำแผนกลยทุ ธ์ของสถานศึกษา หรอื แผนพัฒนาสถานศึกษา มีขั้นตอน ดังน้ี 1) ต้ังคณะทำงานร่างแผนกลยุทธห์ รอื แผนพัฒนาสถานศกึ ษา 2) สำรวจความต้องการของผู้ปกครอง ชุมชน นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน และผลการประเมินคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาสำหรบั มาตรฐาน และตัวชว้ี ัดคณุ ภาพทย่ี ังตอ้ งปรับปรุง มาเปน็ ขอ้ มลู หน่ึงในการจัดทำแผนพฒั นาสถานศึกษา จัดทำ แผนปฏิบัติ การประจำปี ตามแผนกลยทุ ธ์ของสถานศกึ ษา 3) รา่ งแผนกลยทุ ธส์ ถานศึกษาระยะ 4 ปี 4) ประชุมคณะกรรมกรสถานศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พิจารณาให้ขอ้ เสนอแนะ 5) ปรับปรุงรา่ งแผนกลยุทธ์ สถานศกึ ษา 6) ผ้บู ริหารเห็นชอบและลงนาม 7) ประกาศใช้เป็นแผนพฒั นาสถานศึกษาต่อไป

แบบนิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจดั การศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 4 2.7 จัดทำแผนปฏิบัติการตามแผนกลยุทธ์ของสถานศึกษา โดยการนำกลยุทธ์และกิจกรรมใน แต่ละปีการศึกษาที่กำหนดไว้ในกลยุทธ์สถานศึกษาไปวางแผนการปฏิบัติการประจำปีตามขั้นตอนการ ดำเนนิ งาน ตอ่ ไปนี้ 1) ต้ังคณะทำงาน ยกรา่ งกำหนดกรอบแผนงาน โครงการของสถานศึกษา 2) ประชุมพจิ ารณากรอบแผนงาน โครงการ และงบประมาณ 3) กลมุ่ สาระการเรยี นรู/้ กลมุ่ งาน ร่วมกนั วางแผนปฏิบตั กิ าร 4) ประชุมชแ้ี จง พจิ ารณารา่ งแผนปฏบิ ัตกิ าร 5) ปรับปรงุ และจัดทำแผนปฏบิ ตั กิ ารทีส่ มบูรณ์ 6) ขอความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน 7) จดั ทำเป็นแผนปฏิบัติการประจำปีของสถานศกึ ษา 2.8 การดำเนินการประกันคณุ ภาพการศกึ ษา มขี นั้ ตอนการดำเนนิ การ ดังน้ี 1) ทบทวนการประกันคุณภาพการศึกษา โดยทบทวนงานต่าง ๆ ที่สถานศึกษาได้ทำการ วางแผนไว้ให้ทกุ คนเขา้ ใจและนำไปปฏิบัติ 2) ปฏิบัติงานตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของสถานศึกษา และตามแผนปฏิบัติการของ สถานศึกษา โดยดำเนินการดงั น้ี - ให้ผู้เกี่ยวข้องและผู้รับผิดชอบปฏิบัติงานตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของ สถานศกึ ษาทร่ี ับผิดชอบ และปฏิบตั ิงานตามแผน/โครงการ - ติดตามการปฏิบัติงานตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน และติดตามการทำงานตาม โครงการท่ี ไดร้ บั มอบหมาย - แกไ้ ข ปรับปรงุ ขอ้ บกพร่องทพี่ บจากการตดิ ตามการปฏบิ ตั ิงาน 3) นเิ ทศ กำกบั ตดิ ตามผลการดำเนินงานตามมาตรฐานคุณภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษา 3. ขั้นตรวจสอบการปฏบิ ตั ติ ามแผน (Check) 3.1 แต่งต้ังคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพการศกึ ษาของถานศึกษา 3.2 กำหนดระยะเวลาและแนวทางการตรวจสอบ พร้อมกับวางแผนการตรวจสอบตามมาตรฐาน คณุ ภาพการศกึ ษา (มาตรฐานและตวั ช้วี ดั ) 3.3 ดำเนินการตรวจสอบตามแผนทว่ี างไว้ 4. ขนั้ เรยี นรู้และการปรบั ปรุงแกไ้ ข (Action) 4.1 ปรับปรุง แก้ไขการปฏิบัติงานที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน และมาตรฐานคุณภาพ การศกึ ษาของสถานศกึ ษา 4.2 ติดตาม ตรวจสอบแก้ไขปรับปรุงการปฏิบัติงานที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานและ มาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษา 4.3 สรุปผลการตรวจสอบ และรายงานผลการตรวจสอบการประกันคุณภาพก ารศึกษาของ สถานศึกษา โดยการจัดทำรายงานผลการประเมนิ ตนเอง (SAR) 4.4 สำหรับงานท่ีมีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานท่ีกำหนดไว้ ให้พัฒนาการปฏบิ ตั ิงานให้มปี ระสทิ ธภิ าพ ให้ดขี น้ึ

แบบนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 5 2) ผลการดำเนินงานการพฒั นาระบบการประกันคณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามประเด็น พิจารณา ตามมาตรฐานการศึกษา ทั้ง 3 มาตรฐาน มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพผเู้ รียน ผู้เรียนมีคุณธรรม มีความสุภาพ มีพัฒนาการด้านร่างกายตามวัย ดำรงตนบนหลักความพอเพียง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เทิดทูนสถาบัน สืบสานงานพระราชดำริ มีความรู้ ความสามารถ ตามหลักสูตรสถานศึกษากำหนด มีความรู้ ความสามารถด้านการสื่อสาร การแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์ การคิดค้นนวัตกรรม มีเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในระดับดีขึ้นไปตามที่ สถานศึกษา กำหนด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในระดับ 3 ขึ้นไป ร้อยละ 61.63 ของคะแนนเฉลี่ย รายวิชาตามหลักสูตร สถานศึกษาโดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นปีการศึกษา 2562 มีค่าเฉลี่ย 2.95 และปีการศึกษา 2561 มีค่าเฉล่ีย 2.70 ซ่ึงมคี า่ เฉลีย่ สูงกว่า 0.25 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ได้ระดับ ดี และดเี ยยี่ ม รอ้ ยละ 100 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปีการศึกษา 2562 ตำ่ กวา่ ปกี ารศกึ ษา 2561 ร้อยละ 4.54 เเละ 11.12 ตามลำดบั ผลการดำเนินงานด้านคณุ ภาพของผู้เรียนดังค่าเฉลี่ยดังกล่าว พบว่า นักเรียนมีความรู้ความสามารถ ในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณตามเกณฑ์ในแตล่ ะระดบั ชัน้ มีความสามารถในการคดิ วเิ คราะหแ์ ละคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ อภปิ ราย แลกเปลีย่ นความคิดเหน็ และการแกป้ ญั หา มคี วามสามารถใน การใช้เทคโนโลยีและการสื่อสาร มคี วามก้าวหนา้ ทางการเรียนตามหลักสตู ร รจู้ กั ทำงานรว่ มกับผูอ้ นื่ มีความ เปน็ ประชาธิปไตย กลา้ แสดงออก มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ สามารถสบื ค้นข้อมูลจากสื่อเทคโนโลยไี ด้ด้วยตนเอง มีความสามารถในการตัดสินใจในการทำงานหรือการศึกษาต่อ มีคณุ ลกั ษณะและคา่ นิยมที่ดีตามหลักสูตรและ ตามที่สถานศึกษากำหนดมีความภาคภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย มีสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจที่ดี เหมาะสมกบั วยั ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนใน ระดบั ดขี ้นึ ไป ตามท่สี ถานศึกษากำหนด มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและการจดั การของผู้บริหารสถานศกึ ษา กระบวนการบรหิ ารและการจัดการการศึกษาของโรงเรียนโมคลานประชาสรรค์ ไดก้ ำหนด เป้าหมาย วิสัยทัศน์และพันธกิจอย่างชัดเจนสอดคล้องกับความต้องการของชุมชนท้องถิ่น ตามบริบท ของสถานศึกษา ตามวัตถุประสงค์ของแผนการศึกษาชาติ นโยบายของรัฐบาลและต้นสังกัด โรงเรียนโม คลานประชาสรรค์ บริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา 3 ด้าน ไดแ้ ก่ ด้านการบริหารสถานศกึ ษา ดา้ นการจดั การเรียนการสอน และด้านคุณภาพผู้เรียน โดยการบริหารสถานศึกษาจะใช้กระบวนการ บริหารวงจรคุณภาพ (PDCA) ประกอบด้วย 1) การวางแผนการดำเนินงาน (Plan) 2) การปฏิบัติตาม แผนการดำเนินงาน (Do) 3) การ ตรวจสอบการปฏิบัติตามแผน (Check) และ 4) การเรียนรู้และการปรับปรุงแก้ไข (Action) ด้านคุณภาพ

แบบนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา ประจำปงี บประมาณ 2564 6 ผู้เรียนมีการใชก้ ระบวนพัฒนาและส่งเสริมศกั ยภาพผูเ้ รียนทางด้านวิชาการควบคู่กบั การจัดระบบระบบดูแล ช่วยเหลือนักเรียนทีเ่ ข้มแข็ง เพื่อให้ผู้เรียน เก่ง ดี มีสุข และด้านการจัดการเรียนการสอน มีการใช้ระบบการ นิเทศภายในและการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นบ้านมะยิง โดยใช้กลยุทธ์ “MOKKALAN MODEL” ในการ ยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การเรียนรู้และการปรับปรุงแก้ไขพัฒนา คุณภาพตามแผนการดำเนินงานที่ได้วางไว้อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง โดยใช้กระบวนการบริหารงานแบบมี ส่วนร่วมทุกขั้นตอน (Participation Management) ตามแนวทางศาสตร์พระราชา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธผิ ลสงู สดุ ต่อสถานศึกษา นอกจากน้ีผบู้ ริหารสถานศึกษายังส่งเสรมิ การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี นทกุ กลุ่มรวมทั้งกลมุ่ เรียนรว่ ม สง่ เสริม สนบั สนนุ จดั ให้มีการพัฒนา ทางวชิ าชพี ของชมุ ชนการเรยี นรู้ทางวชิ าชพี ครู PLC ในสถานศกึ ษา เปิดโอกาสใหบ้ ุคลากรได้แลกเปลย่ี น เรยี นรใู้ นทางวชิ าชีพเพื่อนำมาพฒั นางานและพัฒนาผู้เรยี น รวมท้งั จัดสภาพแวดลอ้ ม ใหเ้ ออ้ื ตอ่ การจัดการเรยี นรู้ของผูเ้ รียน ใหม้ ีความปลอดภัยและนา่ อยู่ นา่ เรยี นท้งั ภายใน ภายนอกห้องเรียน จดั ระบบข้อมูล สารสนเทศ เทคโนโลยมี าสนับสนุนในการจดั การเรยี นรูใ้ นสถานศกึ ษา กลยุทธ์ “MOKKALAN MODEL” มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนที่เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ กระบวนการจัดการเรียนการสอนตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของสถานศึกษา ให้โอกาสผู้เรียนมีส่วน ร่วมในการเรียนรู้ ผ่านกระบวนการวัดและปฏบิ ัติจริง มีการจัดการเรียนเชงิ บวก โดยมุ่งเน้น พัฒนาผูเ้ รียนให้ สอดคล้องกบั วสิ ัยทัศนข์ องโรงเรียนทว่ี ่า “จัดการศกึ ษาเพือ่ พฒั นาผูเ้ รยี นให้มคี ุณภาพ ตามมาตรฐานการศึกษา ขั้นพื้นฐาน โดยชมุ ชนมสี ่วนร่วมตามแนวทางศาสตรพ์ ระราชา ส่งผลใหก้ ระบวนการจัดการเรยี นการสอนที่เน้น ผูเ้ รียนเปน็ สำคญั อยู่ในระดบั ดเี ลศิ โดยสง่ เสรมิ ครใู หจ้ ัดกจิ กรรม การเรยี นรูท้ ่เี น้นผเู้ รียนเป็นสำคญั แบบ Active Learning ครรู ักเด็ก เด็กรกั ครู และครสู อนให้เด็กมนี ้ำใจกับเพอื่ นไม่แขง่ ขนั กัน ผู้เรยี นมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีและครู รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ตลอดจน ตรวจสอบ และประเมินผลผู้เรียนอย่างเป็นระบบและนำผลมาพัฒนา ผูเ้ รียน นำมาปรับปรุงแก้ไข หาแนวทางพฒั นา ผูเ้ รียน โดยใชก้ ระบวนการ PLC ในการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ และ สืบคน้ องค์ความรเู้ พ่ือพฒั นางาน พัฒนา ผู้เรียนและพัฒนาวิชาชพี

แบบนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 7 การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนท่ีเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ กระบวนการ PLC ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 3) สรปุ ผลการประเมนิ คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาในภาพรวมและท้ัง 3 มาตรฐาน มาตรฐานการศึกษา ระดับคุณภาพ มาตรฐานการศกึ ษาในภาพรวม ระดับดเี ลศิ มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพผ้เู รยี น (ปีการศึกษา 2562) ระดับดีเลศิ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ ระดบั ยอดเยีย่ ม มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจดั การเรยี นการสอนที่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคญั ระดบั ดเี ลศิ

แบบนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา ประจำปงี บประมาณ 2564 8 4) ปญั หา/อปุ สรรค/ข้อเสนอแนะ ไม่มี 2. การพัฒนาหลักสตู รสถานศึกษา 1) การพัฒนาหลกั สตู รสถานศกึ ษาทต่ี อบสนองความตอ้ งการของผเู้ รียน ชุมชนและทอ้ งถิน่ 1.1) กระบวนการ/รปู แบบ/แนวทางการดำเนินการ 1) ศกึ ษาและวเิ คราะหข์ อ้ มูลพน้ื ฐานในด้านตา่ งๆ ได้แก่ - ข้อมูลเก่ียวกบั สภาพและความตอ้ งการของชมุ ชน - การวเิ คราะห์ศักยภาพของโรงเรียน - การวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลาง 2) การรา่ งหลกั สูตร - การกำหนดจุดประสงค์ของหลกั สูตร - การกำหนดเนอื้ หาสาระ - การจัดการเรียนการสอน กิจกรรมและสือ่ ตา่ งๆ - การกำหนดวธิ ีการวัดและประเมินผลผูเ้ รียน 3) การตรวจสอบคณุ หลักสูตร 4) การนำหลักสตู รไปใช้ 5) การประเมินผลหลักสูตร หลักสูตรสถานศึกษาที่ตอบสนองความต้องการของผ้เู รียน ชมุ ชนและท้องถน่ิ 1.2) ผลการดำเนินงาน 1) ผลท่ีเกิดขนึ้ กับผ้เู รียน ไดแ้ ก่ ความรู้ ทักษะ เจตคติ และคา่ นยิ มตา่ งๆ มีการประเมนิ เปน็ 2 ระยะ คอื - ประเมินระหว่างการจัดการเรียนการสอน เป็นการประเมนิ ตามมาตรฐานตัวชี้วดั ที่กำหนดไวใ้ นแต่ละคาบของการจัดการเรียนการสอน - ประเมินเมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอน ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตร ว่านักเรียนมี ผลสัมฤทธ์ิเป็นไปตามมาตรฐานตัวช้วี ดั ทก่ี ำหนดไว้หรือไม่

แบบนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจดั การศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 9 2) ผลทเี่ กดิ กบั การจัดการเรยี นการสอน เน้อื หาสาระท่ใี ช้จัดการเรียนการสอน เหมาะสมและ สอดคล้องกบั พัฒนาการของผเู้ รียน กจิ กรรมการเรียนการสอน ชดั เจน เขา้ ใจงา่ ย และดึงดดู ความ สนใจของผู้เรียน ผู้เรียนเรียนรตู้ ามลำดบั จากง่ายไปยาก 1.3) ปญั หา/อุปสรรค/ข้อเสนอแนะ 1) ขาดบุคลากร 2) ครไู มป่ รับวิธเี รียนเปล่ียนวิชาสอน แผนการสอนหน้าเดียวในแตล่ ะกลุม่ รายวิชา 2) สถานศึกษาจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ให้ผเู้ รยี นมสี มรรถนะตามหลักสูตร ผ่านกจิ กรรมการเรียนรู้ด้วย วิธีการเรียนรู้ที่หลากหลาย เน้นการปฏิบัติจริง (Active Learning) และการเรียนรู้เชิงบูรณาการแบบ สหวทิ ยาการ (STEM) 1. กระบวนการ/รปู แบบ/แนวทางการดำเนินการ การจัดการเรียนการสอนใน โรงเรียนโมคลานประชาสรรค์ มีการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ซ่ึงสามารถสร้างให้เกิดข้ึนได้ท้ังในห้องเรียนและนอกห้องเรียน รวมท้งั สามารถใชไ้ ด้กับนักเรียนทุก ระดับ ทั้งการเรียนรู้เป็นรายบุคคล การเรียนรู้แบบกลุ่มเล็ก และการเรียนรูแ้ บบกลุ่มใหญ่ ซึ่งมีรูปแบบและ แนวทางในการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังน้ี 1. การเรียนรแู้ บบรว่ มมอื (Collaborative learning group) คอื การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี ให้ผู้เรียนได้ทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยจัดเป็นกลุ่มๆ ละ 3-5 คน เพื่ออภิปรายและร่วมกันผลิตชิ้นงานที่ได้รับ มอบหมาย 2. การเรียนรู้แบบใช้เกม (Games) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้สอนนำเกมเข้าบูรณา การในการเรยี นการสอน ซึ่งใช้ไดท้ ัง้ ในขั้นการนำเข้าสู่บทเรยี น การสอน การมอบหมายงาน และหรือขั้นการ ประเมนิ ผล

แบบนิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา ประจำปงี บประมาณ 2564 10 3. การเรียนรู้แบบใช้เพลง (Song) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้สอนนำเพลงเข้าบูรณา การในการเรียนการสอน ซึ่งใช้ไดท้ ัง้ ในขั้นการนำเข้าสู่บทเรยี น การสอน การมอบหมายงาน และหรือขัน้ การ ประเมินผล 4. การเรียนรูแ้ บบวิเคราะห์วีดีโอ (Analysis or reactions to videos) คือ การจัดกิจกรรม การเรยี นรู้ท่ีให้ผู้เรียนไดด้ ูวีดีโอ 5-20 นาที แลว้ ใหผ้ ู้เรยี นแสดงความคิดเห็น หรอื สะท้อนความคิดเก่ียวกับส่ิงท่ี ได้ดู โดยวิธีการพดู โตต้ อบกัน การเขยี น หรอื การรว่ มกนั สรปุ เปน็ รายกลุม่ 5. การเรียนรู้แบบโตว้ าที (Student debates) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรูท้ ี่จัดให้ผูเ้ รยี น ได้นำเสนอขอ้ มูลทีไ่ ดจ้ ากประสบการณ์และการเรยี นรู้ เพอ่ื ยืนยันแนวคดิ ของตนเองหรือกลุ่ม 6. การเรยี นรแู้ บบแผนผงั ความคิด (Concept mapping) คอื การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ท่ีให้ ผเู้ รยี นออกแบบแผนผงั ความคิด เพ่อื นำเสนอความคิดรวบยอด และความเชอื่ มโยงกนั ของกรอบความคิด โดย การใช้เส้นเป็นตวั เช่ือมโยง อาจจัดทำเป็นรายบุคคลหรืองานกลุ่ม แล้วนำเสนอผลงานต่อผู้เรียนอื่นๆ จากน้นั เปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รยี นคนอ่ืนได้ซกั ถามและแสดงความคดิ เหน็ เพ่ิมเติม 2. ผลการดำเนนิ งาน จากการจัดการเรยี นร้แู บบ Active Learning ทำใหเ้ กิดผลกบั ผเู้ รยี น ดังนี้ 1. ผู้เรยี นมสี ่วนรว่ มในการเรยี นการสอนท้ังในดา้ นการสร้างองค์ความรู้ การสร้างปฏิสัมพันธ์ รว่ มกัน รว่ มมอื กันมากกว่าการแขง่ ขัน 2. ผู้เรียนเรยี นรู้ความรับผิดชอบร่วมกนั การมีวินัยในการทำงาน และการแบ่งหน้าที่ความ รบั ผดิ ชอบ 3. ผเู้ รียนมคี วามรู้ ความเข้าใจในเนือ้ หาทส่ี อนมากกวา่ การสอนท่คี รเู ป็นผบู้ รรยายอยา่ งเดยี ว

แบบนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 11 3. ปัญหา/อุปสรรค/ข้อเสนอแนะ ปัญหาของการจดั การเรียนร้แู บบ Active Learning 1. การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ต้องใช้เวลานาน ทำให้ผู้สอนไม่สามารถจัดการ เวลาทมี่ ีอยกู่ ับจำนวนเนือ้ หาของหลกั สูตรทม่ี ากได้ 2. การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ต้องใช้เวลาในการเตรียมการ ดังนั้น หาก ครูผู้สอนมีภาระในงานสอนที่มาก จะไมส่ ามารถใช้กบั การเรยี นรูแ้ บบ Active Learning ได้ 3. การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ในห้องเรียนที่มขี นาดใหญ่จำนวนนักเรียนมาก อาจจะเปน็ อุปสรรคการควบคุมใหผ้ เู้ รยี นดำเนินกจิ กรรมไปในทิศทางท่ผี ู้สอนวางแผนไดย้ าก 4. ความต้องการวัสดุอุปกรณ์จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสอนแบบ Active Learning ใน ห้องเรยี นตอ้ งมคี วามพร้อมในเร่อื งวัสดอุ ุปกรณ์ การเรียนรเู้ ชงิ บรู ณาการแบบสหวิทยาการ (STEM)

แบบนเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 12

แบบนเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 13

แบบนเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา ประจำปงี บประมาณ 2564 14 3) สถานศึกษาจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ให้ผเู้ รียนมที ักษะและคณุ ลักษณะการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 (3R8C) 3.1) กระบวนการ/รปู แบบ/แนวทางการดำเนินการ สถานศกึ ษามีการจัดกจิ กรรมตามโครงการท้ัง 20 โครงการซ่ึงโครงการและกิจกรรมเหลา่ น้ี ครอบคลมุ คณุ ลักษณะการเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21 (3R8C) คือ 3R คอื ทกั ษะดา้ นความรู้ (Hard Skills) • Reading : อา่ นออก อ่านจบั ใจความได้ มีนสิ ัยรกั การอา่ น โครงการพฒั นางานวิชาการ กิจกรรมการพัฒนาการเรยี นการสอนภาษาไทย กิจกรรมการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ • (W)Riting : เขยี นได้ สามารถส่ือสารใหค้ นอน่ื เข้าใจ ยอ่ ความเป็น สรปุ ในความสำคญั ได้ รู้ วิธีการเขียนหลาย ๆ แบบ โครงการพัฒนางานวชิ าการ กิจกรรมการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาไทย กิจกรรมการพฒั นาการเรยี นการสอนภาษาต่างประเทศ โครงการยกระดบั คุณภาพการจัดการเรียนรู้ กจิ กรรมส่งเสริมความเป็นเลิศทางวชิ าการ กิจกรรมการติว O-Net กิจกรรม “สุต จนิ ตนา ปุจฉา ลิขติ • (A)Rithemetics : คดิ เลขเปน็ มีทกั ษะในการคดิ แบบนามธรรม โครงการพัฒนางานวชิ าการ กจิ กรรมการพฒั นาการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ 8C คือ ทกั ษะทางอารมณ์ (Soft Skills) • Critical Thinking and Problem Solving : ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ และ ทกั ษะในการแก้ปญั หา โครงการพัฒนางานวชิ าการ กิจกรรมการพฒั นาการเรยี นการสอนวิทยาศาสตร์ โครงการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมสง่ เสริมความเป็นเลิศทางวิชาการ กิจกรรมการตวิ O-Net • Creativity and Innovation : ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม โครงการยกระดับคุณภาพการจัดการเรยี นรู้ กจิ กรรม Waterrocket Home Center กิจกรรมชวนน้องปงั้ ดนิ กิจกรรมพฒั นาการเรยี นการสอนศลิ ปะ • Cross-cultural Understanding : ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวน ทัศน์ เนือ่ งจากโรงเรียนโรงเรยี นโมคลานประชาสรรค์ รับนักเรียนทกุ คนทีเ่ ขา้ มาสมคั รเรียน ดังนั่นเรา จะมีนักเรียนท่นี ับถอื ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ทำกจิ กรรมต่างๆรวมกัน และในชว่ งวนั หยุด ฮารี รายอ ครแู ละนักเรียนท่ีนบั ถอื ศาสนาอิสลามไดห้ ยุดตามประเพณี

แบบนิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจดั การศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 15 • Collaboration, Teamwork and Leadership : ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผนู้ ำ โครงการยกระดบั คุณภาพการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมสง่ เสริมความเปน็ เลิศทางวชิ าการ กจิ กรรมการติว Open- House • Communications, Information, and Media Literacy : ทกั ษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศ และรูเ้ ท่าทนั ส่อื โครงการยกระดับคณุ ภาพการจัดการเรยี นรู้ กิจกรรมการบริการสบื ค้นขอ้ มลู ทางอนิ เตอรเ์ น็ต • Computing and ICT Literacy : ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร รายวิชาเพ่มิ เตมิ ทเี่ ปิดสอนในปีการศึกษา 2563 วิชาเพม่ิ เติม ( ช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น) ลำดับที่ รหสั วชิ า ชื่อวิชา หน่วยกิต (ช.ม./สปั ดาห)์ 1 ว21201 เทคโนโลยี(การออกแบบและเทคโนโลยี ๑.๐(๒) 2 ว2120๓ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๑ ๑.๐(๒) 3 ว22201 เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ๑.๐(๒) 4 ว22202 วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๒ ๑.๐(๒) • Career and Learning Skills : ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ - กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี นชุมนมุ คหกรรม ไดแ้ ก่ ซ่งึ กจิ กรรมดังกลา่ วไดบ้ รรลตุ ามจุดประสงค์ ทำใหน้ กั เรยี นเกดิ ทกั ษะการนักเรียนมรี ายได้ระหว่างเรยี น - กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โครงงานอาชพี ได้แก่ การประดิษฐ์ช้ินงานในรูปแบบ ตา่ งๆ การทำอาหารว่าง การปลกู พืชผกั สวนครัว • Compassion : มคี วามเมตตากรุณา มีคุณธรรม และระเบียบวินัย - กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น ได้แก่ ลกู เสือ สาธารณประโยชน์ - กจิ กรรมคา่ นยิ ม 12 ประการ - กิจกรรมทำบญุ ใหท้ านไฟ 3.2) ผลการดำเนนิ งาน - การจัดกิจกรรม/โครงการ ตา่ งๆบรรลุวตั ถปุ ระสงคท์ ี่ต้งั ไว้ - นกั เรียนเรยี นรู้จากการฝึกฝนอย่างตอ่ เนื่องผ่านการลงมอื ปฏบิ ัติจริง ด้วยวธิ กี ารท่ี หลากหลาย นักเรยี นเกิดการเรียนรู้อยา่ งมีความสขุ - โรงเรียน ครู นักเรยี นได้รบั การยอมรบั จากบคุ คลภายนอก 3.3) ปญั หา/อปุ สรรค/ขอ้ เสนอแนะ - ขาดบุคลากรบางกล่มุ สาระ

แบบนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 16 กิจกรรมการเรียนร้ใู ห้ผู้เรียนมีทกั ษะและคุณลกั ษณะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3R8C) 4) สถานศกึ ษาจดั บรรยากาศ ส่งิ แวดลอ้ มและกิจกรรมการเรียนรู้ใหผ้ เู้ รยี นแสดงออกถึงความรักใน สถาบันหลักของชาติ ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมี ทัศนะคตทิ ดี่ ีต่อบา้ นเมอื ง มหี ลักคิดที่ถูกตอ้ ง เปน็ พลเมืองดขี องชาติ มีคณุ ธรรม จริยธรรม 4.1) กระบวนการ/รปู แบบ/แนวทางการดำเนนิ การ 1. โรงเรยี นดำเนินการจัดกิจกรรมคา่ นยิ ม ๑๒ ประการในรายวิชาหน้าที่พลเมอื ง 2. การจดั กิจกรรมเลือกตง้ั สภานกั เรียนในการสง่ เสรมิ ประชาธิปไตยในโรงเรียน 3. การประดับธงชาตบิ นอาคารเรียน 4. การจัดมมุ เฉลิมพระเกยี รติแสดงออกถงึ ความรกั ในสถาบันหลกั ของชาติ 4.2) ผลการดำเนนิ งาน 1.นกั เรียนทุกคนได้เข้ารว่ มกิจกรรมคา่ นยิ ม ๑๒ ประการในรายวิชาหนา้ ทพ่ี ลเมือง 2.โรงเรยี นโมคลานประชาสรรค์มีสภานกั เรยี น ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓ ซ่งึ มาจากการ เลอื กต้งั ของคณะครู บุคลากรทางการศกึ ษาและนักเรยี นโรงเรียนโมคลานประชาสรรค์ 3.อาคารเรียนประดับธงชาติ 4.นกั เรยี นมีมุมความรู้และมมุ ท่ไี ดแ้ สดงออกถงึ ความจงรกั ภักดีต่อสถาบนั พระมหากษตั ริย์ 4.3) ปญั หา/อปุ สรรค/ขอ้ เสนอแนะ ไม่มี

แบบนิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 17 3. งานวัดและประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา 1) การวดั และประเมินผลการจดั การศึกษา 1.1) กระบวนการวดั และประเมินผล ผู้สอนทำการวัดและประเมินผลการเรียนรผู้ ู้เรยี นเป็นรายวิชาตามตัวชี้วัดในรายวิชา พื้นฐาน และตามผลการเรยี นรู้ในรายวิชาเพ่มิ เตมิ ตามที่กำหนดในหนว่ ยการเรียนรู้ ผสู้ อนใช้วิธกี าร ที่หลากหลายจาก แหลง่ ข้อมลู หลาย ๆ แห่ง เพือ่ ใหไ้ ดผ้ ลการประเมินท่ีสะท้อนความรู้ความสามารถ คุณภาพผู้เรียน มาตรฐาน/ ตัวชี้วัด การเรียนรู้ ใน 8 กลุ่มสาระ 8 กลุ่มสาระ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และสมรรถนะของผู้เรียน โดยวัดและประเมินผลการเรยี นรู้อย่างตอ่ เนื่องไปพรอ้ มกบั การจัดการเรียน การสอน โดยสังเกตพฒั นาการและความประพฤติของผเู้ รยี น สังเกตพฤติกรรมการเรียน การ ร่วม กิจกรรม เน้นการประเมินสภาพจริง เช่น การประเมินการปฏิบัติงาน การประเมินจากแฟ้มสะสม งาน ฯลฯ ควบคไู่ ปกบั การใช้แบบทดสอบแบบต่างๆ ตอ้ งให้ความสำคัญกับการประเมนิ ระหวา่ งเรียน มากกว่าการ ประเมินปลายภาค และใช้เป็นข้อมูลเพื่อการประเมินการเลื่อนชั้นเรียนและการจบ การศึกษาระดับชั้น มธั ยมศกึ ษาตอนต้น หรือมธั ยมศึกษาตอนปลาย การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1.2) ผลการดำเนินงาน - ผู้เรยี นได้รบั ผลการเรียน 8 ระดบั - ผเู้ รยี นตอ้ งมีเวลาเรียนไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 - ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัดในรายวิชาพื้นฐาน และได้รับการ ประเมินทุกผล การเรียนรู้ในรายวิชาเพมิ่ เติม และได้คะแนนอย่างน้อยรอ้ ยละ 50 ของคะแนนตัวชี้วัด หรอื ผลการเรยี นรูน้ ั้น ๆ - ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ บั การตดั สนิ ผลการเรียนทกุ รายวิชา - ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมีผลการประเมินอย่างน้อย ระดับ “ผ่าน” ในประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์และกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น การตัดสินผลการเรียน ตัดสินเป็นรายวชิ า โดยใช้ผลการประเมนิ ระหวา่ งภาคและปลายภาคเรียน ตามท่ีโรงเรียนกำหนด ทุกรายวชิ า ต้องได้รับการตัดสินและให้ระดับผลการเรยี นท้ังนี้ผู้เรียนต้องผา่ น ทุกรายวชิ าพืน้ ฐาน กิจกรรมเพือ่ สังคมและ สาธารณประโยชน์ กจิ กรรมแนะแนว กิจกรรมนกั เรยี น - ลูกเสอื เนตรนารี - ชุมนมุ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น 1.3) ปญั หา/อปุ สรรค/ขอ้ เสนอแนะ -ผู้เรียนขาดความพร้อมด้านงบประมาณ

แบบนิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา ประจำปงี บประมาณ 2564 18 2) การพฒั นานักเรียนเพื่อเตรยี มรับการประเมนิ ตามแนว PISA 2022 2.1) กระบวนการในการพัฒนานกั เรยี นเพอ่ื เตรยี มรบั การประเมินตามแนว PISA 2022 ให้นักเรียนฝึกตอบคำถาม แสดงความคิดเห็นจากการอ่านบทความ สารคดีสั้นๆ ก่อนเรียน ทกุ ชวั่ โมง 2.2) ผลการดำเนินการ นกั เรยี นตอบคำถามได้ถกู ต้อง และแสดงความคดิ เห็นไดต้ รงประเด็นมากขนึ้ 2.3) ปญั หา/อุปสรรค/ขอ้ เสนอแนะ นักเรยี นบางคนอ่านไม่ออกอ่านชา้ และจบั ประเดน็ ไมไ่ ด้ 3) การลด 0 ร มส. ของสถานศกึ ษา 3.1) กระบวนการดำเนนิ การ เนื่องจากในแต่และภาคเรียนมีนกั เรียนที่ติด 0, ร, มส จำนวนมาก โรงเรียนได้แก้ปัญหาลด 0 ร มส โดยวชิ าการให้คุณครปู ระจำวชิ าสง่ รายชอ่ื นักเรียนทีม่ ีความเสย่ี ง ตดิ 0 ร มส ก่อนสอบกลางภาค มา วชิ าการ ๆ ทำบนั ทกึ แจง้ ผู้บรหิ ารโรงเรยี น และเชญิ ผปู้ กครองร่วมกันแก้ปัญหา หลงั จาก โรงเรียน ครู และ ผปู้ กครอง รว่ มกนั แก้ปัญหา ทำให้นกั เรยี นที่ติด 0 ร มส ลดลง แต่ยงั มบี างสว่ นไม่สนใจท่ีจะมาดำเนินการ ทางฝ่ายงานวัดผลประเมินผลติดตามจี้งานนักเรียนเป็นรายบุคคล และโทรแจ้งผู้ปกครองเป็นระยะๆ การ ดำเนินการในสว่ นนี้ได้จัดทำตามโครงการปลอด 0 ร มส บรรจุไวใ้ นแผนปฎิบัตกิ ารของทุกปี 3.2) ผลการดำเนนิ การ จากการจดั ทำโครงการปลอด 0 ร มส ผลปรากฏว่า นักเรยี นที่ติด 0 ร มส ลดลงมาก มี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสงู ขึ้นในเกือบทุกรายวิชา ดูได้จากภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ไม่มีนักเรยี น ติด 0 ร มส. เลย 3.3) ปัญหา/อปุ สรรค/ข้อเสนอแนะ นกั เรยี นสว่ นใหญข่ าดความรบั ผิดชอบตอ้ งคอยกระตุ้นอยตู่ ลอดเวลา

แบบนิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 19 4. ส่อื และเทคโนโลยีเพ่ือการจดั การเรยี นการสอน 4.1) การใช้ส่ือและเทคโนโลยีเพ่อื การจดั การเรยี นการสอน 4.1.1) ความพร้อมของโครงสรา้ งพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (อุปกรณ์ เครือข่ายสัญญาณ อินเทอรเ์ นต็ ) โรงเรียนโมคลานประชาสรร ค์ไ ด้รับการ จัดสรรงบประมาณให้ ดำเนินก ารเ ช่าเครือข่ายสัญ ญ า ณ อินเตอร์เน็ตจำนวนเงิน 2,000 บาท ต่อเดือน ทางโรงเรียนได้ดำเนินการเช่ามาทั้งส้ิน 2 วงจร พร้อมอุปกรณ์ กระจ่ายสัญญาณ กับทาง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) - CAT Telecom ได้แก่ บรอดแบนด์ ความเร็ว 150/150 แม็กบิต และความเร็ว 300/300 แม็กบิต ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานของบุคลากรภายใน โรงเรียน 4.1.2) วธิ ีการดำเนนิ งาน/การส่งเสรมิ สนับสนุนครแู ละบคุ ลากร/ผลการดำเนินงาน ทางโรงเรียนได้มีนโยบายในการสนับสนุนเครื่องมือที่ใช้ในการสอนของครูผู้สอนไม่ว่าจะเป็น ระบบ เครือข่ายอนิ เตอร์เน็ต เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ และโนต้ บคุ ยังไดม้ ีการจดั อบรมให้ความรู้ในการใช้เทคโนโลยี เพ่ือ ใช้ในการจัดการเรียนการสอน อาทิเชน่ การใช้งานเฟสบ๊คุ การใชแ้ อปฟรเิ คชั่นไลน์ การใช้กเู กินแอป เป็นตน้

แบบนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจดั การศึกษา ประจำปงี บประมาณ 2564 20 ท้ังน้ใี นส่วนของตัวผเู้ รียนไดจ้ ัดหอ้ งปฏิบตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ เพ่อื ใชเ้ ปน็ ห้องเรียน และสืบค้นข้อมูล 4.1.3) การใช้เทคโนโลยีดิจิตอลแพลตฟอร์มสนับสนุนการจัดการเรียนการเรียนรู้ และการ บรหิ ารงาน 4 ฝา่ ย ทางโรงเรยี นโมคลานประชาสรรค์ มีการนำเทคโนโลยีดิตอลแพลตฟอร์มมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ใน กลุ่มสาระตา่ งๆ ไม่วา่ จะเป็นการสง่ เสรมิ ใหน้ ักเรียนใช้ Gmail Google Drive การเรียนออนไลน์ผ่าน Google Meet การสรา้ งใบงานหรอื แบบทดสอบกบั Google From และการเรยี นรจู้ าก YouTube ในด้านการบริหารงานทั้ง 4 ฝ่ายนั้น ทางโรงเรียนได้มีการส่งเสริมการใช้ดจิ ิตอลแพลตฟอร์ม ในการ บริหารจัดการงานในแต่ละฝ่าย และการประสานงานร่วมกันผ่านทาง Google For education ยังได้มีการ สร้างเมล์ของโรงเรียนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรทั้ง 4 ฝ่ายในการจัดการงาน ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ บ่อยครั้ง อาทิเช่น Gmail , Google Drive ในการส่ง และเก็บข้อมูลของแต่ละฝา่ ย เพื่อสะดวกในการเรียกใช้ งาน การใช้ Google Meet ในการประชุมชแ้ี จงงานต่างๆ แกบ่ คุ ลากร และยงั ใช้ Google From ในการสำรวจ ข้อมลู ของแตล่ ะฝา่ ยอกี ดว้ ย 4.1.4) การใช้เทคโนโลยีการศึกษาทางไกล DLIT/DLTV/NEWDLTV ในการจดั การเรียนของทางโรงเรียนโมคลานประชาสรรค์ ไดน้ ำอุปกรณ์ในโครงการ DLIT มาใช้ในการ จดั การเรียนการสอน และใชส้ ื่อ DLIT มาเปน็ สื่อการสอนเสรมิ จากส่ือหลกั เพื่อให้ผู้เรยี นเข้าใจมากยง่ิ ขึ้น การใช้สอ่ื และเทคโนโลยเี พอ่ื การจดั การเรยี นการสอน

แบบนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศึกษา ประจำปงี บประมาณ 2564 21 5. การนเิ ทศภายในสถานศกึ ษา 5.1) การนเิ ทศภายในสถานศึกษา ครอบคลุมภารกิจ 4 งานหลัก คอื งานวชิ าการ งานงบประมาณ งานบริหารบุคคล และงานบริหารทั่วไป (รูปแบบ/กระบวนการ/วิธีการนิเทศภายในของสถานศึกษา แนบ รอ่ งรอยหลักฐาน) ▪ ผูอ้ ำนวยการมีการแต่งตัง้ คำส่งั การปฏิบัติงานหน้าทอ่ี ่นื ๆนอกเหนือจากการสอนครอบคลุม ภารกจิ 4 งานหลกั คอื งานวิชาการ งานงบประมาณ งานบรหิ ารบุคคล และงานบรหิ าร ท่ัวไป ▪ หวั หน้ากลุ่มงานปฏบิ ัตหิ นา้ ทท่ี ี่ไดร้ ับมอบหมาย ซึ่งแต่ละฝ่ายกจ็ ะมที ีมทำงาน ▪ การทำงานของกลุ่มงาน ผู้อำนวยการมอบหมายให้หัวหนา้ กลุ่มงาน หวั หน้ากลุ่มงาน มอบหมายให้ผรู้ ับผดิ ชอบงานต่อไป ▪ การรายงานผลการปฏบิ ตั ิงาน ผ้รู ับผดิ ชอบรายงานตอ่ หวั หน้ากลุ่มงาน และเสนอ ผ้อู ำนวยการต่อไป ▪ เนื่องจากโรงเรยี นโมคลานประชาสรรค์ มบี คุ ลากรนอ้ ย ดังน้นั การนเิ ทศการนเิ ทศภายใน สถานศกึ ษา ทา่ นผูอ้ ำนวยการจะเป็นผู้นเิ ทศโดยตรง และเป็นการนเิ ทศแบบไมเ่ ป็นทางการ 5.2) ผลการนเิ ทศภายในมาใช้ในการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา ▪ โรงเรียนมกี ารกำกับ ควบคุม ตดิ ตามผลการปฏิบัตงิ านของครูอย่างต่อเน่ือง ▪ ส่งเสริมความคิดริเร่มิ สรา้ งสรรคแ์ ละการทำงานรว่ มกับของบคุ ลากรในโรงเรียน ▪ ครูผูส้ อนมาสามารถปรับปรงุ ตนเองในการปฏิบตั ิงานและการเรียนการสอน 5.3) ปญั หา/อปุ สรรค/ขอ้ เสนอแนะ ไมม่ ี การนิเทศภายในสถานศึกษา ครอบคลมุ ภารกจิ 4 งานหลัก คอื งานวชิ าการ งานงบประมาณ งานบริหารบคุ คล และงานบริหารทวั่ ไป ตอนที่ 3 การดำเนินงานตามนโยบาย กลยทุ ธ์ จดุ เนน้ ของสพฐ./สพม.นศ. 1) การน้อมนำศาสตร์สองพระราชาสู่สถานศึกษาเพ่อื การพฒั นาอย่างย่ังยนื 1.1) การน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ของพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดี ศรสี ินทรมหาวชริ าลงกรณ์พระวชิรเกล้าเจา้ อย่หู วั ไปใช้ในการพฒั นาผู้เรียนใหม้ ีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ตามที่กำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน มีทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมือง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคณุ ธรรม มีงานทำมอี าชพี เปน็ พลเมอื งดี (วธิ ีการ/กระบวนการ/ผลการดำเนินงาน/ปัญหาอุปสรรค)

แบบนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศึกษา ประจำปงี บประมาณ 2564 22 (1) วธิ กี าร/กระบวนการ โรงเรียนโมคลานประชาสรรค์ น้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ การศกึ ษาต้องมุง่ สร้างพน้ื ฐานให้แก่ผ้เู รียน ๔ ด้าน - มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ข้อนี้มีคำขยายว่า ต้องมีความรู้ความเข้าใจที่มีต่อชาติ บ้านเมือง ยึดมั่นในศาสนา มั่นคงในสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีความเอื้ออาทรต่อ ครอบครัวและชุมชนของตน (โรงเรียนจัดการเรียนการสอนในรายวิชา หน้าที่พลเมือง เป็นวชิ าสาระเพ่ิมเติมซ่ึงบงั คบั ใหน้ กั เรียนเรยี นทุกระดับชั้น ) - มพี ้นื ฐานชีวติ ที่ม่ันคง มีคณุ ธรรม ขอ้ นี้มคี ำขยายวา่ ให้รูจ้ ักแยกแยะสิง่ ที่ผิด-ท่ีถูก ส่ิงช่ัว- สิง่ ดี เพอ่ื ปฏบิ ัตแิ ตส่ ง่ิ ที่ชอบท่ดี งี าม ปฏเิ สธส่ิงที่ผิดทช่ี วั่ เพอ่ื สร้างคนดใี หแ้ กบ่ ้านเมอื ง (โรงเรียนจดั การเรียนการสอนในรายวิชา หนา้ ท่ีพลเมอื ง เป็นวิชาสาระเพ่ิมเติมซึ่งบังคับ ใหน้ ักเรียนเรียนทุกระดบั ชน้ั ) - มีงานทำ มีอาชีพ ข้อนี้มีคำขยายว่า ต้องให้เด็กรกั งาน สู้งาน ทำงานจนสำเร็จ อบรมให้ เรียนรู้การทำงาน ให้สามารถเลี้ยงตัวและเลี้ยงครอบครัวได้ (โรงเรียนจัดการเรียนการ สอนในรายวิชาอาชีพในทุกระดบั ชั้น และโรงเรียนได้ทำ MOU กับวิทยาลัยการอาชพี สง่ นักเรยี นทม่ี คี วามสนใจในอาชีพลงเรียนวิชาชพี อยา่ งต่อเน่ือง) เป็นพลเมืองดี ข้อนี้มีคำขยายว่า การเป็นพลเมืองดีเป็นหน้าที่ของทุกคน สถานศึกษา และสถานประกอบการต้องส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสทำหน้าที่พลเมืองดี การเป็น พลเมืองดีหมายถึงการมีน้ำใจ มีความเอื้ออาทร ต้องทำงานอาสาสมัคร งานบำเพ็ญ ประโยชน์ “เห็นอะไรที่จะทำเพือ่ บ้านเมืองได้ก็ต้องทำ” (โรงเรียนจัดการเรียนการสอน ในรายวชิ า หน้าทีพ่ ลเมือง เป็นวิชาสาระเพ่มิ เติมซ่งึ บงั คบั ใหน้ ักเรยี นเรยี นทกุ ระดับช้นั ) พระบรมราโชบายทง้ั หมดนี้ ผบู้ รหิ ารได้เนน้ ย้ำให้ครไู ด้สง่ั สอนศิษย์ ตงั้ ใจสร้างศษิ ย์ให้ได้ผลตามพระ บรมราโชบายทั้ง ๔ ข้อนี้ก็จะทำให้ชาติบ้านเมอื งเจริญ ไม่มีคนที่นิ่งดูดายปล่อยให้เกิดความชั่ว ความไม่ดีใน บา้ นเมือง ทสี่ ำคญั ประการหน่งึ คือ การรู้จักแยกแยะสิ่งที่ถูกที่ผิด สิ่งที่ดที ช่ี ่ัว และเลอื กรับเลือกทำแต่ทางท่ีถูก ที่ดี เดก็ ไทยควรรจู้ กั ใชว้ ิจารณญาณของตน ไม่ตามแฟชั่นตามสังคมโดยไร้สต.ิ อีกประการหนง่ึ ท่คี วรน้อมนำมา ใส่เกลา้ ฯ คือ พระบรมราโชบายที่วา่ คนไทยเหน็ อะไรทค่ี วรทำเพอ่ื บา้ นเมอื งก็ตอ้ งลงมอื ทำ ไมป่ ล่อยให้ผ่านไป ดว้ ยความคดิ วา่ “ธุระไม่ใช่” (2) ผลการดำเนินการ ผเู้ รียนสามารถแยกแยะส่งิ ที่ถูกผิด สง่ิ ทีด่ ีและสิ่งทีช่ ่ัวร้ายได้ (3) ปญั หา อุปสรรค ผู้เรียนบางสว่ นขาดความตระหนกั 1.2) การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะ อันพึงประสงคต์ ามทก่ี ำหนดได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ (วิธกี าร/กระบวนการ/ผลการดำเนินงาน/ปญั หาอุปสรรค) (1) วิธีการ/กระบวนการ โรงเรยี นโดยกลุม่ บริหารวิชาการได้กำหนดให้กลุ่มสาระการเรียนรู้ไดส้ อดแทรกการ จัดการเรียนการสอนโดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเข้าบูรณาการในรายวิชาที่สอนวชิ าละ 1 แผน ในสว่ นของกลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมจัดการการเรียนตามปกติ

แบบนิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา ประจำปงี บประมาณ 2564 23 การสอดแทรกการจดั การเรยี นการสอนโดยน้อมนำ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เขา้ บูรณาการในรายวิชาทสี่ อนวชิ าละ 1 แผนการสอน (2) ผลการดำเนนิ งาน ผ้เู รยี นมีคุณธรรม จรยิ ธรรมมากขึน้ มวี ินัย มีสว่ นรว่ มในการเรียนรู้ทำงานเป็นกลุ่ม รักในหมคู่ ณะ สามารถพ่งึ ตนเอง เรียนรูก้ ารช่วยเหลือตนเองและผอู้ ืน่ อยา่ งเต็มกำลัง (3) ปัญหาอุปสรรค ผู้เรยี นสว่ นหน่งึ ขาดความตระหนักในการเรยี นรู้ 1.3) การขับเคลื่อนสถานศึกษาพอเพียงเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน ด้านบุคลากร ด้านการจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพ ด้านความสัมพันธ์กับ หน่วยงานภายนอก (วธิ ีการ/กระบวนการ/ผลการดำเนินงาน/ปญั หาอปุ สรรค) โรงเรียนโดยกลุ่มบริหารวิชาการได้กำหนดให้กลุ่มสาระการเรียนรู้ได้สอดแทรกการจัดการ เรยี นการสอนโดยนอ้ มนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเขา้ บรู ณาการในรายวชิ าทส่ี อนวชิ าละ 1 แผน ใน ส่วนของกลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรมจัดการการเรยี นตามปกติ 2) การศกึ ษาต่อเพอ่ื การมงี านทำ 2.1) โรงเรยี นจัดหลักสูตร/กิจกรรมการเรยี นรเู้ พื่อพัฒนาผู้เรยี นใหม้ ที ักษะอาชพี เพื่อการมงี านทำ โรงเรียนจัดหลักสูตรท้องถิ่นงานปั้นพื้นบ้านสืบสานมรดกท้องถิ่นบ้านมะยิง เพื่อเป็นการ อนุรักษ์ไว้ซึ่งอาชีพของท้องถิ่น เป็นการปลูกฝังให้นักเรียนในชุมชน รักษ์และหวงแหนมรดกภูมิปัญญาใน ท้องถิ่นของตนเอง และกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพได้เปดิ รายวิชาสาระเพิ่มเติมในงานอาชีพ เพื่อให้ ผู้เรยี นไดม้ ที ักษะทางอาชีพ สามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ 2.2) การสง่ เสริม/สนบั สนุนการจดั การศึกษาสูอ่ าชีพเพอื่ การมงี านทำ ส่งเสริมให้นักเรียนหารายได้ระหว่างเรียนด้วยการหางานทำหรือทำงานส่วนตัวกับสถานท่ี ตา่ ง ๆ ในวันหยุดปดิ ภาเรียน หรือวันเสาร์ อาทติ ย์ 2.3) การจดั กจิ กรรมการวางแผนอาชีพ การศกึ ษาต่อเพอื่ การมงี านทำให้แก่นักเรียน โรงเรียนโดยกลุ่มสาระการเรียนการงานอาชีพได้กิจกรรมนำเสนอโครงงานอาชีพให้กับ นกั เรียน ในสว่ นของหน่วยงานนอกสถานที่ เข้ามาแนะแนวการศึกษาตอ่ อย่างต่อเนอื่ ง

แบบนิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา ประจำปงี บประมาณ 2564 24 จัดหลักสตู ร ท้องถ่ินงานปนั้ พ้ืนบา้ นสบื สานมรดกทอ้ งถิ่นบ้านมะยิง เพือ่ เป็นการอนรุ กั ษไ์ ว้ซง่ึ อาชีพของท้องถ่นิ 4) ความสามารถด้านการใชภ้ าษาองั กฤษเพ่อื การสอ่ื สาร 4.1 กระบวนการสง่ เสรมิ ความสามารถดา้ นการใช้ภาษาอังกฤษเพ่อื การส่อื สาร 4.1.1 กระบวนการส่งเสรมิ ความสามารถด้านการใช้ภาษาอังกฤษเพอื่ การส่อื สาร การจดั การเรียนการสอนในกลมุ่ สาระภาษาต่างประเทศ โรงเรียนโมคลานประชาสรรค์ มีกระบวนการ ส่งเสรมิ ความสามารถดา้ นการใช้ภาษาองั กฤษเพ่อื การสื่อสาร ดงั น้ี 1.ขั้นนำเสนอ (Presentation) หมายถึง ครูนำเสนอเนื้อหาภาษาให้ผู้เรียน เข้าใจรูปแบบและ ความหมาย การนำเสนอภาษาจะนำสถานการณท์ ี่ผู้เรยี นสนใจมาช่วยให้ผู้เรยี นเขา้ ใจความหมายของหัวข้อทาง ภาษาหรือรูปแบบภาษาที่ตอ้ งการสอนในแต่ละบท มีการใช้คำถามนำเพื่อใหผ้ ู้เรียนเขา้ สู่หัวข้อทางภาษา เช่น การซักถามข้อมูลและรูปแบบภาษาที่จะสอน เป็นต้น จากนั้นครูจะเป็นผู้ชี้แนะให้ผู้เรียนสังเกตจากตัวอย่าง เน้นใหเ้ ห็นจดุ สำคญั ของรูปแบบประโยคเพ่อื ช่วยให้ผู้เรียนเขา้ ใจความหมายของการใช้รปู แบบไวยากรณ์นั้น ๆ ไดช้ ดั เจนและถกู ต้องยิง่ ขน้ึ 2. ขั้นฝึก (Practice) หมายถึง ครูให้ผู้เรียนฝึกภาษาที่เสนอในขั้นที่ 1 ใน กิจกรรมที่ครูเป็นผู้ให้ แนวทางหรือควบคุมอยู่ การฝึกอาจอยู่ในรูปของสถานการณจ์ ำลองที่ครูสร้างขึ้น เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นได้มโี อกาสฝึกใช้ รูปแบบภาษาที่นำเสนอ อาจเป็นการฝึกทั้งชั้นหรือในรูปกิจกรรมที่ผู้เรียนกระทำร่วมกันโดยครูเป็นเพียงผู้ ควบคุมให้กิจกรรมดำเนนิ ไปด้วยดีเท่านัน้ กิจกรรมดงั กล่าวมักเป็นกิจกรรมกลุ่มเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ฝึก รูปแบบภาษาที่เรยี นมาอย่างทั่วถึง การฝึกโดยใช้กิจกรรมจะช่วยใหผ้ ู้เรียนเพลิดเพลิน และขณะเดียวกันได้มี โอกาสใช้ภาษาท่เี รียนมาเพอ่ื ส่อื สารจริง ๆ ซงึ่ จะชว่ ยใหก้ ารฝึกมคี วามหมาย 3.ขัน้ ใชภ้ าษาเพ่ือการส่อื สาร (Production) หมายถงึ ครูใหผ้ ้เู รียนใชภ้ าษาทีฝ่ ึกมาบ้างแลว้ จากข้ันท่ี 2 ในกจิ กรรมกลุ่มหรอื กิจกรรมคู่ในทักษะต่าง ๆ โดยใหผ้ เู้ รียนใชภ้ าษาทีไ่ ด้ฝกึ มาในรปู กิจกรรมทห่ี ลากหลาย ซึ่ง เออื้ ตอ่ การใชภ้ าษาท่ีสมจรงิ ในขนั้ ใช้ ผูเ้ รียนจะมีโอกาสใช้ภาษามากข้นึ เนื่องจากกจิ กรรมส่วนใหญ่จะอยู่ในรูป กิจกรรมกล่มุ หรือกจิ กรรมคู่

แบบนเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 25 4.1.2. ผลการดำเนินงาน 1. ผู้เรยี นสามารถสื่อสารไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั สถานการณใ์ นชีวติ จรงิ 2. ผู้เรียนมีโอกาสฝึกฝนภาษาเพื่อสื่อความหมายในสถานการณต์ ่างๆ ฝึกใช้ความคิด และ ความกล้าในการใชภ้ าษา ทำให้ผ้เู รยี นมปี ระสบการณใ์ นการใชภ้ าษา 3.ผ้เู รยี นได้เรียนรกู้ ารทำงานรว่ มกับผอู้ น่ื เป็นคู่ และเป็นกลมุ่ รูจ้ กั ช่วยเหลือซ่งึ กนั และกัน มี วินัย และความรับผิดชอบ 4.1.3. ปัญหา อปุ สรรค และข้อเสนอแนะ 1. กระบวนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เป็นการจัดการเรียนรู้ที่เน้น ความสามารถในการส่ือสารมากกว่าความรู้ความสามารถในรูปแบบ ของภาษา ดังน้นั การวัดและประเมนิ ผลจะ เน้นทักษะสัมพันธ์ และต้องวัดตลอดทั้งเทอม จึงจะพัฒนาการสื่อสารของผู้เรียน ครูจึงจะต้องวัดผลอยู่ ตลอดเวลา และต้องมคี วามรู้ทักษะในการวัดผลแบบต่าง ๆ และนำมาใช้อย่างถูกต้อง จึงจะทำให้ประเมินผล อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 4.2) มที กั ษะการใชภ้ าษาท่ีสามอย่างนอ้ ย 1 ภาษา 4.2.1) กระบวนการท่สี ่งเสรมิ ความสามารถการใชภ้ าษาที่สาม การจัดการเรยี นการสอนในกจิ กรรมชุมนมุ อนิ โดนเี ซยี หรรษา โรงเรียนโมคลานประชาสรรค์ เน้นกระบวนการส่งเสริมทางปัญญา (กระบวนการคิด) ควบคู่กับกระบวนการทางสังคม (กระบวนการกลุ่ม) เพื่อให้ผ้เู รยี นมีปฏิสัมพันธ์และมีส่วนร่วมในการเรียน สามารถนำความรไู้ ปประยุกต์ใชไ้ ด้ โดยผู้สอนมีบทบาท เป็นผู้อำนวยความสะดวก จัดประสบการณ์การเรียนรู้ใหผ้ ู้เรียน โดยดำเนินการตามกระบวนการจัดการเรียน การสอนตามรปู แบบ MACRO model (ดิเรก วรรณเศียร , 2560) ซึ่งได้บูรณาการแนวคิดทีเ่ กี่ยวข้องกบั การ จัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 โดยมรี ายละเอยี ดดังน้ี การจดั การเรยี นการสอนในกิจกรรม ชุมนมุ อนิ โดนเี ซียหรรษา

แบบนิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 26 องค์ประกอบของ MACRO Model M motivation การสร้างแรงจูงใจ แรงบันดาลใจ ความสนใจและความต้องการในการ เรยี นรู้ A active learning การเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้มีโอกาสได้ความรู้โดยตรงจากการลงมือกระท้า ดว้ ยตนเอง ดว้ ยวิธกี ารเรยี นรู้ทห่ี ลากหลายจากแหลง่ เรยี นรตู้ ่างๆท่ีหลากหลายเปน็ การเรียนรทู้ ี่เน้นผู้เรียนเป็น สำคญั C conclusion ผู้เรียนสรุปองค์ความรู้หรือสังเคราะห์สิ่งที่ได้เรยี นรู้ตามความคิดและภาษา ของตนเอง R reporting ผู้เรียนสื่อสารและนำเสนอผลการเรียนรู้ด้วยภาษาวิธีการและเทคโนโลยี สารสนเทศท่เี หมาะสม O obtain ผู้เรียนนำผลการเรียนรูท้ ีไ่ ด้รับไปใช้ประโยชน์เผยแพรค่ วามรู้สู่ครอบครัว ชุมชน และสังคม ด้วยวิธีการ สือ่ หรือเทคโนโลยีที่เหมาะสม แนวการจดั การเรยี นรู้ตามรูปแบบ MACRO แบง่ เป็น 5 ขัน้ ตอนดงั นี้ 1. ขั้นสร้างแรงจงู ใจ (Motivation) ครผู สู้ อนร่วมมือกับผเู้ รียนในการกำหนดหรอื ต้ังประเด็นความรู้ หรือหวั ข้อเก่ียวกับการเรียนรู้ ตามแผนที่ยึดโยงกับหลักสูตร ขั้นนี้ผู้เรียนจะรับรู้ถึงจุดหมายและมีแรงจูงใจในการเรียนรู้บทเรียน ผู้สอน สามารถเลือกใช้กิจกรรมต่าง ๆ ในการนำเข้าสู่บทเรียนและการเรียนรู้ เช่น การเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ผู้เรียน ซักถาม หรือตั้งคำถาม การฉายภาพนิ่งให้ผู้เรียนชมและติดตามการชวนสนทนา เพื่อให้ผู้เรียนตั้งประเด็นที่ ตอ้ งการรู้ 2. ขน้ั การเรียนรโู้ ดยตรง (Active Learning) ในการสอนคร้งั แรก ครคู วรใหค้ วามรพู้ ้ืนฐานเกย่ี วกับการสร้างองค์ความรู้ 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนท่ี 1 แนวทางการสืบค้นความรู้เพือ่ ใหไ้ ด้ความรทู้ ี่ตอ้ งการ ส่วนท่ี 2 ศาสตร์ สาขา แขนงความรู้และแหลง่ ความรู้ทเ่ี ก่ยี วข้อง ส่วนที่ 3 การเรยี บเรียงขอ้ มลู ขอ้ คน้ พบ ความคดิ ความคดิ เหน็ จากน้ันครูผสู้ อนจดั ให้ผู้เรียน มีการอภิปรายกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและระดมพลังความคิด โดยเน้นกระบวนการคิดซึง่ เป็นหัวใจ ของขั้นตอนการเรียนรู้ ผู้เรียนจะศึกษาค้นคว้าตามประเด็นความรู้หรือหัวข้อที่ตกลงกัน ครูผู้สอนกระตุ้นให้ ผ้เู รยี นดำเนินกจิ กรรมเพื่อสืบคน้ ขอ้ มลู จากแหล่งเรยี นรตู้ ่าง ๆ 3. ขั้นสรุปองคค์ วามรู้ (Conclusion) ผู้เรยี นนำผลการอภปิ รายและสาธติ ท่ีเปน็ ผลจากการแลกเปล่ียนเรียนรู้ระหว่างกันมากำหนด เป็นความคิดใหม่หรือความรู้ใหม่ โดยใช้วิธีการนำเสนอในรูปแบบสมุดรวบรวมข้อมูลซึ่งสมาชิกภายในกลุ่ม รว่ มกันประดษิ ฐข์ ึน้ 4. ขัน้ รายงานและนำเสนอ (Reporting) ผ้เู รยี นแสดงผลงานการสร้างความรูข้ องตนให้ผู้อนื่ รับรูห้ นา้ ช้นั เรยี น เป็นการช่วยให้ผู้เรียนได้ ตรวจสอบความเขา้ ใจของตนเอง 5. ข้ันการเผยแพร่ความรู้ (Obtain) ขั้นนี้จะส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนการนำความรู้ความเข้าใจของตนไปประยุกต์ใช้ใน สถานการณต์ า่ ง ๆ ท่ีหลากหลาย โดยเนน้ สื่อออนไลนท์ นี่ กั เรียนมคี วามคนุ้ เคยคือ Facebook

แบบนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 27 4.2.2) ผลการดำเนินงาน (แนบรอ่ งรอยหลักฐาน) ดงั ชิน้ งานทีไ่ ดแ้ นบทา้ ยมา 4.2.3) ปญั หา อปุ สรรค ขอ้ แสนอแนะ นักเรียนยังไม่คุ้นชินกับภาษาและวัฒนธรรมอินโดนีเซีย ทำให้นักเรียนใช้เวลาค่อนข้างใช้ เวลานานพอสมควรในการ 6) การยกระดบั ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น / การทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติ (O-NET) 6.1) กระบวนการในการยกระดับผลสัมฤทธิท์ างการเรียน / การทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติ (O-NET) (วธิ กี าร/ขนั้ ตอน/กจิ กรรม) - กลุ่มบริหารวิชาการจัดตารางสอนในวันจันทร์ วันพธุ ในช่วงคาบที่ 8 - 9 โดยให้กลุ่มสาระ การเรียนรู้หมุนเวียนเข้าติวนักเรียน จนครบทุกกลุ่มสาระ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ส่วนชั้นมัธยมศึกษาปี 6 ก็เช่นเดียวกันและได้สมัครติวออนไลน์กับโรงเรียนสตรีนนทบุรี ในโครงการ “สตรีนนท์สร้างฝัน ปันน้ำใจ ติวออนไลน์ O-NET” การยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น / การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ (O-NET) 6.2) ผลการพฒั นายกระดับผลสัมฤทธิ์ / การทดสอบระดบั ทางการศกึ ษา (O-NET) ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนดขี ้ึน 6.3) ปญั หา/อปุ สรรค/ขอ้ เสนอแนะ นกั เรยี นขาดความตระหนกั ในการเรยี น เนอ่ื งจากนกั เรยี นบางส่วนมที เี่ รยี นแล้ว ลงช่ือ................................................ผู้นเิ ทศ (...................................................)