Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2.โครงสร้างองค์กร

2.โครงสร้างองค์กร

Published by นงเยาว์ บุญริน, 2020-11-15 07:04:58

Description: 2.โครงสร้างองค์กร

Search

Read the Text Version

โครงสร้ำงองคก์ ำร องคป์ ระกอบ (Organization Structure) รปู แบบ หนว่ ยงำนสำคัญ อำนำจกำรบงั คบั บญั ชำ แผนภูมอิ งคก์ ำร กำรจัดแผนกงำนหรือกลุม่ งำน

โดยทั่วไปองคก์ ารมอี งคป์ ระกอบทสี่ าคัญ 6 ประการ ได้แก่ 1. คน (Man) เปน็ องคป์ ระกอบที่สาคญั ท่สี ดุ 2. เป้ำหมำย (Goals) คอื ส่ิงที่สมาชกิ ขององคก์ ารรว่ มกนั จดั ทาหรอื กาหนดข้นึ เปน็ กรอบแนวคดิ สาหรับกาหนดแผนการปฏบิ ัตงิ านขององคก์ าร 3. โครงสร้ำง (Structure) 4. ขอ้ มลู ขำ่ วสำรควำมรู้ (Data Message and Knowledge) หมายถึง ข้อเท็จจริง รวมถงึ สารสนเทศ ความรคู้ วามเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ 5. เทคโนโลยี (Technology) หมายถงึ วิทยาการทท่ี นั สมยั ต่าง ๆ สาหรับสนบั สนนุ การบรหิ าร จดั การองคก์ าร 6. ส่ิงแวดล้อม (Environment) หมายถงึ แรงผลักดันต่าง ๆ ท่ีสง่ ผลกระทบตอ่ การบริหาร จัดการองค์การ

องค์ประกอบโครงสรำ้ งขององค์กำร โครงสร้ำงขององค์กำร หมำยถึง ภาพรวมของหน่วยงานย่อย และความสัมพันธ์ ของหน่วยงานยอ่ ยในองค์การ (สมคิด บางโม, 2560) โดยทัว่ ไปแล้วโครงสร้างขององคก์ าร ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ทสี่ าคัญ ดังต่อไปนี้ ภำรกจิ หน้ำที่ (Function) หมำยถงึ สิง่ ทอ่ี งคก์ ำรจะตอ้ งปฏบิ ตั ิให้สำเรจ็ ลลุ ่วง เช่น ภารกิจของมหาวิทยาลัย ไดแ้ ก่ การผลติ บัณฑติ การวจิ ยั การบรกิ ารวชิ าการ การสง่ เสริมศลิ ปวฒั นธรรม เป็นต้น

กำรแบง่ งำน (division of work) หมำยถึง กำรแบ่งงำนหรอื กจิ กรรม ออกเป็นส่วนๆ ให้แกส่ มำชิกหลำย ๆ คน ช่วยกันทำ เพ่อื เป็นการกระจายชิ้นงาน แล้วมอบให้แต่ละคนหรอื แตล่ ะหนว่ ยงานรับผิดชอบ อย่างเป็นกจิ จะลักษณะ โดย จัดให้มีการประสานงานกันอย่างมีระบบ

ผูจ้ ดั กำรใหญ่ กำรผลิต กำรตลำด บคุ คล กำรเงนิ ขำย บรกิ ำร วิจยั ตลำด

สำยกำรบงั คับบัญชำ (Hierarchy) หม ำ ย ถึ ง ค ว ำ ม สั ม พั นธ์ ต ำ ม ล ำ ดั บ ชั้ น ร ะ ห ว่ ำ ง ผู้ บั ง คั บ บั ญ ช ำ กั บ ผู้ใต้บังคบั บัญชำ เพื่อแสดงใหท้ ราบว่าบคุ คลใดมีอานาจมากกว่ากนั ผจู้ ัดกำรใหญ่ ผจู้ ดั กำรฝำ่ ยกำรตลำด หวั หนำ้ แผนกขำย พนกั งำน

ขนำดของกำรควบคมุ (Span of Control) หมายถึง ขอบเขตอานาจหน้าท่ีและความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาคนหน่ึง มี ผู้ใต้บงั คับบญั ชากคี่ น หน่วยงานทอี่ ยใู่ นความรับผิดชอบก่หี น่วย ผจู้ ดั กำร ฝำ่ ยผลิต ฝ่ำยกำรตลำด ฝ่ำยบคุ คล ฝ่ำยกำรเงนิ พนักงำน 3 พนักงำน 4 พนักงำน 3 พนักงำน 2

หลกั กำรมผี บู้ งั คบั บัญชำเพยี งคนเดยี ว (Unity of Command) หมายถึง การควบคุม การอานวยการและการสั่งการ ตอ้ งมผี ู้บงั คบั บญั ชาเพียง ผู้จดั กำร ฝ่ำยผลติ ฝำ่ ยกำรตลำด ฝ่ำยบคุ คล ฝ่ำยกำรเงิน พนักงำน 3 พนักงำน 4 พนักงำน 3 พนกั งำน 2

รปู แบบโครงสรำ้ งองคก์ ำร โครงสร้ำงองค์กำรแบบงำนหลกั แบง่ หน่วยงานยอ่ ย ออกตามลกั ษณะของภารกจิ หลกั ขององคก์ าร บังคบั บญั ชา ตามสายงานโดยตรง ไมซ่ ับซ้อน ไมม่ หี น่วยงานทีป่ รึกษาหรอื คณะกรรมการ หากมีปญั หา จะปรกึ ษาเฉพาะสายงาน เป็นโครงสร้างองค์การของกิจการขนาดเลก็

ผู้จดั กำร ฝำ่ ยผลิต ฝำ่ ยกำรตลำด ฝำ่ ยบุคคล ฝ่ำยกำรเงนิ พนกั งำน พนกั งำน พนักงำน พนักงำน

รปู แบบโครงสรำ้ งองคก์ ำร โครงสรำ้ งองค์กำรแบบงำนหลกั และงำนทปี่ รึกษำ เป็นการจัดโครงสรา้ งองค์การแบบงานหลัก และมหี น่วยงานทปี่ รึกษาซึ่งเปน็ ผเู้ ช่ียวชาญเฉพาะงานเพิม่ เข้ามา ช่วยแนะนาปรึกษาและแกป้ ญั หา ทาใหก้ ารทางานมี ประสทิ ธภิ าพมากขึ้น อาจเกิดความขัดแย้งระหว่างหนว่ ยงานหลักและหน่วยงานทปี่ รกึ ษา

ผ้จู ดั กำร หน่วยงำนที่ปรึกษำ ฝำ่ ยผลติ ฝ่ำยกำรตลำด ฝ่ำยบคุ คล ฝำ่ ยกำรเงนิ พนกั งำน พนกั งำน พนักงำน พนักงำน

รปู แบบโครงสร้ำงองคก์ ำร โครงสร้ำงองคก์ ำรแบบหน้ำทกี่ ำรงำนเฉพำะ แยกงานเฉพาะออกไปตามประเภทของงาน แตล่ ะหนว่ ยงานมีอานาจหน้าท่ี เดด็ ขาด มหี น่วยงานที่ปรึกษาของตนเองและมีอานาจสง่ั การได้ เหมาะสาหรบั บรษิ ัท ขนาดกลาง

ผจู้ ดั กำรใหญ่ หน่วยงำนท่ีปรกึ ษำ หน่วยงำนทป่ี รึกษำ หนว่ ยงำนทป่ี รกึ ษำ ฝำ่ ยผลติ ฝำ่ ยกำรตลำด ฝำ่ ยบคุ คล ฝำ่ ยกำรเงนิ พนักงำน พนักงำน พนักงำน พนกั งำน

รปู แบบโครงสรำ้ งองคก์ ำร โครงสรำ้ งองคก์ ำรแบบเมทรกิ ซ์ เปน็ โครงสร้างองคก์ ารแบบเฉพาะกจิ แต่ละโครงการ เมอื่ มโี ครงการเฉพาะขน้ึ จะมีการรวบรวมสมาชิกจากแผนกต่าง ๆ มาอยู่ภายใต้การอานวยการของ ผูบ้ ริหาร โครงการ เมอ่ื โครงการเสร็จสิ้น สมาชิกทกุ คนจะกลับคนื สูห่ น่วยงานเดิม

ท่มี า : http://mbaramadvanceprogram.blogspot.com/2016/09/bus-6011-8-international-business.html

หน่วยงำนสำคัญขององคก์ ำร หนว่ ยงำนหลัก หมำยถงึ หน่วยงานทีท่ าหน้าท่โี ดยตรงกบั วตั ถุประสงคข์ ององคก์ าร ทกุ องค์การตอ้ งมีหน่วยงานหลกั เพราะเปน็ หนว่ ยงานทปี่ ฏบิ ัติงานเพือ่ ผลประโยชน์โดยตรงตอ่ ความสาเร็จขององคก์ าร เช่น บริษทั ผู้ผลติ หน่วยงานหลกั คือฝ่ายผลติ ห้างสรรพสินคา้ หน่วยงานหลักคือฝา่ ย ขาย

หน่วยงำนสำคญั ขององค์กำร หน่วยงำนท่ีปรึกษำ หมำยถงึ หน่วยงานทช่ี ่วยใหห้ น่วยงานหลักปฏบิ ตั ิงานไดด้ ยี ่งิ ขน้ึ เป็นลักษณะผู้เชย่ี วชาญเฉพาะงาน หรือเป็นรูปคณะกรรมการท่ปี รึกษา เชน่ คณะกรรมการบรหิ าร ฝ่ายวจิ ยั วางแผน ฝา่ ยตรวจสอบ หน่วยงำนอนกุ ร หมำยถงึ หนว่ ยงานทช่ี ว่ ยบรกิ ารหนว่ ยงานหลกั และหนว่ ยงานที่ ปรกึ ษา เป็นงานธรุ การและงานอานวยความสะดวก ไม่ไดบ้ ริการลูกคา้ โดยตรง

อำนำจกำรบังคบั บญั ชำ กำรรวมอำนำจ (centralization) หมำยถงึ ระบบการบรหิ ารทร่ี วมศูนย์ อานาจทผี่ ู้บงั คบั บัญชาหรือหน่วยงานระดับสูงเพยี งจดุ เดียว ทาให้งานล่าชา้ ผูบ้ รหิ ารระดับล่างไมต่ ้องรับผิดชอบ ทาให้ไม่มีความคดิ ริเร่มิ พัฒนางานเท่าทค่ี วร กำรกระจำยอำนำจ (decentralization) หมำยถงึ ระบบการบริหารที่ กระจายอานาจให้ผ้บู ริหารระดบั ลา่ งเป็นผู้ตดั สนิ ใจในการปฏบิ ตั ิงาน

แผนภูมิองคก์ ำร (organization chart) เป็นเครอ่ื งมอื อย่างหนงึ่ ท่จี ะช่วยใหเ้ ข้าใจโครงสร้างขององคก์ าร อานาจหน้าท่ี ความรบั ผิดชอบ ตลอดจนสายบงั คบั บญั ชาในองคก์ ารนั้น ๆ เปน็ สว่ นย่อแสดงให้ทราบถึงหนว่ ยงานย่อยและความสมั พันธ์ระหวา่ งหน่วยงาน จาแนกได้เปน็ 3 ประเภท ดงั นี้

1. แผนภมู ิโครงสรำ้ งหลัก (skeleton chart) แสดงโครงสรา้ งองคก์ ารเปน็ หน่วยงาน ย่อย แสดงความสมั พนั ธข์ องหนว่ ยงาน แสดงสายการบังคบั บัญชาทช่ี ดั เจน โดยใช้ สีเ่ หล่ียม แทนหนว่ ยงานยอ่ ย เสน้ ทึบ แทนสายการบงั คบั บัญชา เส้นประ แทนสายงานทป่ี รึกษาหรือสายประสานงาน แผนภมู ิประเภทน้ีเปน็ ทีน่ ิยมใช้

ตวั อยำ่ งแผนภมู ิโครงสร้ำงหลกั

2. แผนภูมิแสดงตวั บุคคล (personnel chart) แสดงตาแหน่งและหน่วยงานย่อย คล้ายแผนภูมโิ ครงสร้างหลัก แตร่ ะบชุ ือ่ บุคคลไวด้ ว้ ย บางแห่งตดิ รูปอกี ดว้ ย คณะกรรมกำรบริหำรสถำนศึกษำ ผอู้ ำนวยกำรวทิ ยำลยั คณะกรรมกำรวทิ ยำลยั นำยเรวชั ศรีแสงอ่อน รองผ้อู ำนวยกำรฝ่ำยบริหำรทรพั ยำกร รองผูอ้ ำนวยกำรฝำ่ ยแผนงำนและควำมรว่ มมือ รองผ้อู ำนวยกำรฝำ่ ยพฒั นำกจิ กำร รองผอู้ ำนวยกำรฝำ่ ยวิชำกำร นำยกริช เตยี นพลกรงั นำยณรงค์ องศำกจิ บริบรู ณ์ นักเรียนนักศึกษำ นำงสำวอนงคล์ กั ษณ์ อำจมังกร นำยมนตรี สุวรรณภกั ดจี ติ ร

3. แผนภูมแิ สดงหน้ำท่ีกำรงำน (function chart) แสดงตาแหนง่ และหน่วยงานยอ่ ย คลา้ ยแผนภูมโิ ครงสรา้ งหลกั แตร่ ะบุหนา้ ทีย่ ่อของแตล่ ะตาแหน่งดว้ ย แผนภูมปิ ระเภทนี้ ไม่เปน็ ทน่ี ิยมใช้ ที่มา : http://www.yamjard.ac.th/datashow_14063

คณะกรรมกำรบริหำรสถำนศกึ ษำ ผู้อำนวยกำรวิทยำลัย คณะกรรมกำรวทิ ยำลัย รองผูอ้ ำนวยกำรฝำ่ ยบริหำรทรพั ยำกร รองผู้อำนวยกำรฝำ่ ยแผนงำนและควำมรว่ มมือ รองผูอ้ ำนวยกำรฝำ่ ยพัฒนำกิจกำร รองผู้อำนวยกำรฝำ่ ยวชิ ำกำร นักเรยี นนักศกึ ษำ แผนกวชิ ำ งำนบรหิ ำรงำนทวั่ ไป งำนควำมรว่ มมอื งำนกิจกรรมนกั เรียนนักศึกษำ - ควบคมุ ดแู ล สง่ เสรมิ กากบั ตดิ ตาม - ปฏิบัตงิ านตามระเบยี บสานกั การจดั การเรยี นการสอน แกป้ ัญหา นายกรัฐมนตรีว่าดว้ ยงานสารบรรณ - ประสานาความรว่ มมอื และดาเนิน - ส่งเสริมและสนับสนุนการจดั ตัง้ เกี่ยวกบั การเรยี นการสอน การฝึกงาน กิจกรรมต่าง ๆ ของสถานศกึ ษา กจิ กรรมชมรมตา่ ง ๆ ขนึ้ ภายใน การวดั ผลประเมินผลและการวจิ ัยใน - จดั ทารา่ ง หนังสอื ราชการ สถานศกึ ษา แผนกวิชาให้เปน็ ไปตามหลกั สตู รและ ประกาศ คาสั่ง ตรวจสอบความถูก - ประสานความรว่ มมือกับ ระเบยี บแบบแผนของทางราชการ ต้องของเอกสาร จัดลาดับ ตา่ งประเทศและความชว่ ยเหลอื จาก - ดาเนินการจดั ต้งั และควบคมุ ดแู ล ความสาคญั ของเอกสาร ฯลฯ ภายนอกในการร่วมลงทุนเพ่อื องคก์ ารวชิ าชีพตา่ ง ๆ ข้นึ ใน การศึกษา สถานศกึ ษา

กำรจดั แผนกงำนหรือกลุ่มงำน กำรจดั แผนกงำน คือ การรวมกลมุ่ กจิ กรรมทค่ี ลา้ ยกัน และเหมาะสมท่จี ะนามาปฏิบัติ ในกลุ่มเดยี วกันเข้าไวด้ ว้ ยกนั เป็นกลุ่ม แผนก หรอื หนว่ ยงาน หลกั เกณฑ์พ้ืนฐำนท่จี ะใช้สาหรับการจัดแผนกงาน มีดงั นี้ กำรจดั แผนกงำนตำมหนำ้ ท่ี เป็นการจดั แผนกงานตามหน้าท่หี ลัก เช่น ฝ่ายผลิต ฝ่ายการเงิน ฝ่ายบคุ คล ฝา่ ย การตลาด เปน็ ทีน่ ิยม

ผจู้ ัดกำร กำรผลิต กำรตลำด บุคคล กำรเงนิ ขำย บรกิ ำร วิจยั ตลำด

กำรจัดแผนกงำนตำมประเภทผลิตภัณฑ์ การจัดแผนกแบบน้ีมักจะใช้ในการจัดแผนกงานขององค์การธุรกิจขนาดใหญ่มี กระบวนการในการปฏบิ ัติงานซับซอ้ น องค์การธรุ กิจผลิตสินค้าหลายอย่าง ถ้าจะใช้การ จัดแผนกงานตามหน้าที่ก็จะทาให้แต่ละแผนกมีงานมากเกินไป การดูแลผลิตภัณฑ์แต่ ละอย่างอาจดูแลไม่ท่ัวถึง การขยายงานกจ็ ะมีปัญหาอย่างมาก ทาให้องค์การธุรกจิ ขาด ความคล่องตัวในการดาเนินงานและเสียโอกาสในการแสวงหาผลประโยชน์กับองค์การ ได้

ผูจ้ ัดกำร ฝำ่ ยผลิตภัณฑ์เสำเข็ม ฝ่ำยผลติ ภัณฑ์ ฝำ่ ยผลติ ภณั ฑ์ ฝ่ำยผลิตภัณฑ์ กระเบ้อื งมงุ หลงั คำ ใช้กนั้ ฝ้ำและฝำผนงั เครื่องสขุ ภณั ฑ์

กำรจัดแผนกงำนตำมพืน้ ที่ทำงภูมศิ ำสตร์ การจัดแผนกโดยแบ่งตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์หรืออาณาเขต โดยคานึงถึงสภาพ ทางภมู ิศาสตร์หรือทาเลที่ต้ังท่ีกิจการจะต้องเข้าไปดาเนินการในพ้ืนท่ีน้ัน ๆ เป็นสาคัญ และจะถูกนามาใช้จัดแผนกงานสาหรับองค์การธุรกิจ ที่อาณาเขตการขายกว้างขวาง และธุรกจิ อยใู่ นสภาวะทมี่ กี ารแขง่ ขันสูง

ผู้จัดกำร กำรผลติ กำรตลำด บคุ คล กำรเงิน ภำคเหนือ ภำคกลำง ภำค ภำคใต้ ตะวนั ออก

กำรจัดแผนกงำนตำมกระบวนกำรผลติ การแบ่งกิจกรรมออกเป็นกลุ่มตามข้ันตอน กระบวนการผลิต หรือกระแสการ ไหลของงาน เช่น กิจการหนังสือพิมพเ์ ชียงใหม่นิวส์อาจจะมีการจัดแผนกศิลป์ทาหน้าที่ ออกแบบรูปเล่ม แบบหน้าโฆษณา แบบตัวอักษร แผนกพิมพ์ แผนกสต๊อก แผนกจัดส่ง สินคา้ ฯลฯ

ผ้จู ัดกำร แผนกศิลป์ แผนกพิมพ์ แผนกสตอ็ ก แผนกจดั ส่งสนิ คำ้

กำรจดั แผนกงำนตำมลกู คำ้ เปน็ วิธีจัดแผนกงานทใี่ หค้ วามสาคญั แกก่ ลมุ่ ลกู ค้า เพราะสินคา้ ทอ่ี งค์การผลิต ออกมาน้นั อาจตอบสนองความตอ้ งการของผบู้ ริโภคแตกต่างกัน เนอื่ งจากพฤตกิ รรม ของกลุ่มลกู ค้าท่ีจะซื้อสนิ คา้ นัน้ แตกต่างกัน

หวั หนำ้ แผนกขำย ผู้จดั กำรฝำ่ ยขำย หวั หน้ำแผนกขำย ลูกค้ำท่ีบรษิ ัท หน่วยรำชกำร หัวหนำ้ แผนกขำย เอกชน

กำรจดั แผนกงำนแบบผสม ในทางปฏิบัติ องคก์ ารธุรกิจขนาดใหญท่ ่มี ีความซับซ้อนและครอบคลุมอาณา เขตกว้างขวาง มักจะจัดแผนกงานโดยใช้หลกั เกณฑ์ท้งั 5 แบผสมผสานกนั ตามความจา เปน็ ขององค์การนนั้ ๆ การจดั แผนกงานไม่มีกฎเกณฑ์ตายตวั ท่แี น่นอนว่าการจัดแบบใดดีทสี่ ุด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook