Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 5.การพัฒนาบุคคล

5.การพัฒนาบุคคล

Published by นงเยาว์ บุญริน, 2020-12-12 21:13:23

Description: 5.การพัฒนาบุคคล

Search

Read the Text Version

การพฒั นาบคุ คลและการฝกึ อบรม 1. ความหมายและองคป์ ระกอบ 2. การวางแผนการดาเนินกิจกรรมการฝึกอบรม 3. รูปแบบการจัดโครงการฝึกอบรม

ความหมายและองค์ประกอบ การพัฒนาทรัพยากรบคุ คลหรอื การพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์ (Human Resource Development) หมายถึง การทาให้บุคลากรขององค์กรอยู่ในสภาวะที่ดี ขึ้น ท้ังในแง่ของสภาพจิตใจและผลการปฏบิ ัติงาน องค์ประกอบหลกั ของการพัฒนาทรพั ยากรบคุ คล มดี ังน้ี 1. การฝึกอบรมและพฒั นา (Training and Development) 2. การพัฒนาสายอาชีพ (Career Development) 3. การพัฒนาองค์กร (Organization Development)

ความหมายและองคป์ ระกอบ 1. การฝึกอบรมและพัฒนา (Training and Development) คือ กระบวนการใน การส่งเสริมให้พนักงานได้ปรับปรุงและพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถ พฤติกรรม หรือทัศนคติต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการทางาน เพื่อให้พนักงานสามารถปฏิบัติงาน ได้ดี ย่ิงขน้ึ 2. การพัฒนาสายอาชีพ (Career Development) เปน็ การดาเนนิ การเพ่ือให้ บุคลากรทม่ี ีความรู้ ความสามารถและพรอ้ มที่จะได้รบั การเล่อื นตาแหน่ง ให้มาปฏิบัติ หน้าท่ีในตาแหนง่ งานทีส่ งู ขึ้นและมีความสาคญั เพ่ิมขึ้น ภายในระยะเวลาทีก่ าหนด ทาให้ การดาเนนิ งานขององคก์ รไมห่ ยดุ ชะงกั สามารถรักษาพนกั งานทม่ี ีความรู้ ความสามารถ และช่วยลดอตั ราการลาออกจากองคก์ ร

ความหมายและองค์ประกอบ 3. การพฒั นาองคก์ ร (Organization Development) หมายถงึ กระบวนการท่เี ปน็ ระบบในการประยกุ ตใ์ ช้ความรจู้ ากหลากหลายศาสตร์ เพอ่ื การปรบั ปรุงและพัฒนา ประสิทธิภาพพนกั งานภายในองค์กร เพ่อื พฒั นาองคก์ รให้มคี วามพรอ้ มกบั เหตกุ ารณใ์ น ปจั จบุ นั และสถานการณท์ อ่ี าจเกดิ ขน้ึ ในอนาคต

การวางแผนการดาเนินกิจกรรมการฝกึ อบรม ประกอบด้วย 10 ขัน้ ตอน ดงั นี้ 1. การกาหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ เปา้ หมาย จะถกู กาหนดขน้ึ ก่อนว่าโครงการอบรมจัดทาขนึ้ เพ่ืออะไร วัตถปุ ระสงค์ จะตอ้ งสอดคล้องกบั เป้าหมาย แต่มลี กั ษณะเฉพาะเจาะจง คอื ระบุรายละเอียดพฤตกิ รรมท่ีผูเ้ ข้ารับการอบรมสามารถปฏบิ ัติได้ หรือ ผเู้ ข้ารบั การอบรมมคี วามสามารถเพ่มิ ข้ึนระดบั ใด

การวางแผนการดาเนินกจิ กรรมการฝกึ อบรม 2. การกาหนดรปู แบบการฝกึ อบรม เช่น บรรยาย กรณศี ึกษา ฯลฯ ต้องเหมาะสม สามารถตอบสนองต่อวตั ถุประสงค์ของโครงการ 3. การกาหนดกลมุ่ เป้าหมาย จะอบรมใหก้ ับใคร ได้จากการประเมนิ ความจาเป็นในการ พฒั นาทรัพยากรบคุ คล 4. การพัฒนาแผนการเรียนรทู้ ่เี หมาะสมสาหรับโครงการฝึกอบรม คือการกาหนด เนอื้ หาสาระและกจิ กรรมของโครงการฝกึ อบรมและพฒั นา 5. การคัดเลอื กผู้ให้การอบรม เลือกวทิ ยากรทม่ี ีความรู้ ความสามารถในเรอื่ งนัน้ และมี ความสามารถในการถ่ายทอด

การวางแผนการดาเนินกิจกรรมการฝึกอบรม 6. จดั เตรยี มความพร้อมด้านอปุ กรณ์ สถานที่ และส่ิงอานวยความสะดวก 7. การวางแผนการประเมินผล การฝกึ อบรมและพฒั นา 8. ดาเนนิ การฝึกอบรมและพฒั นาตามแผนท่วี างไว้ 9. การประเมินผลโครงการฝึกอบรมและพัฒนา 10. นาขอ้ มูลที่ได้จากการประเมินผล เป็นแนวทางในการจัดฝกึ อบรมครั้งตอ่ ไป

ตวั อย่าง หวั ขอ้ การฝกึ อบรม : การฝึกอบรมทางเทคโนโลยกี ารใชอ้ นิ เตอรเ์ น็ต กลุ่มเปา้ หมาย : นักศึกษาระดับปรญิ ญาตรี สาขาวชิ าการบัญชี จานวน 17 คน เปา้ หมาย : เพ่ือเตรียมความพร้อมนักศกึ ษาระดบั ปริญญาตรี สาขาวิชา การบัญชี ใหส้ ามารถใช้เทคโนโลยกี ารใชอ้ นิ เตอร์เนต็ ในการ ประชมุ และติดตอ่ สอ่ื สารได้ วัตถุประสงค์ : ผ้เู ขา้ รับการฝึกอบรมสามารถประยุกต์ใช้โปรแกรม Meet ในการ จดั การประชุมและการติดต่อสือ่ สารได้ ระยะเวลาดาเนินการ : 3 ชว่ั โมง

ตวั อยา่ ง ตารางการอบรม วันที่ เวลา หวั ขอ้ การอบรม วทิ ยากร 6 ธนั วาคม 2563 13.00 – 13.20 น. บรรยายความรู้เก่ียวกับโปรแกรม สมพร บญุ รนิ Meet 13.20 - 15.20 น. ปฏิบัติการใชโ้ ปรแกรม Meet ในการ สมพร บญุ รนิ ประชมุ 15.20 – 16.00 น. บทบาทสมมติ การใช้โปรแกรม Meet สมพร บุญริน

รูปแบบการจดั โครงการฝกึ อบรม 1. การบรรยาย (Lecture) คือการทว่ี ทิ ยากรอธิบายเน้อื หาสาระแก่ผเู้ ข้ารับการ ฝึกอบรม ตน้ ทุนต่า เปน็ การสอ่ื สารทางเดียว รองรับผเู้ ขา้ รบั การอบรมได้ ผู้เข้ารบั การอบรมเบ่อื หน่าย จานวนมาก ผ้เู ข้ารับการอบรมไมม่ ีสว่ น รว่ ม สามารถถา่ ยทอดเนอื้ หาไดใ้ น ปรมิ าณมาก ไม่มโี อกาสรับการประเมิน ความรู้

รูปแบบการจดั โครงการฝกึ อบรม 2. การใชก้ รณีศึกษา (Case Study) คือ การใหผ้ เู้ ข้ารบั การอบรมศึกษาข้อมลู ใน กรณศี กึ ษา แลว้ จงึ พิจารณาตัดสินใจแก้ปัญหา กรณศี กึ ษามักเก่ียวข้องกับเหตกุ ารณ์ท่นี ่าสนใจหรือปัญหาจรงิ ขององค์กร กรณีศึกษา ชว่ ยฝกึ ฝนระดับความคดิ และทกั ษะการตดั สนิ ใจ ♀ ♀ กรณศี ึกษา ♀ ♀

รปู แบบการจัดโครงการฝึกอบรม 3. การใช้เกมส์ธรุ กิจ (Business Games) คอื การแบ่งกลุ่มให้ผเู้ ข้ารับการอบรม และ สมมตใิ ห้แต่ละคนดารงตาแหนง่ บรหิ ารภายในองคก์ ร บริหารธุรกจิ ของตนเองแขง่ ขันกบั กล่มุ อนื่ ภายใตส้ ถานการณท์ ่วี ิทยากรกาหนด ประธาน ♀ หัวหนา้ ผจก. ♀ สถานการณ์ ♀ ♀พนักงาน

รูปแบบการจัดโครงการฝกึ อบรม 4. การแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) คอื การใหผ้ ู้เข้ารับการอบรมสวมบทบาทต่าง ๆ เพือ่ ฝึกปฏบิ ตั วิ ิธกี ารตอบสนองทีแ่ ตกตา่ งกนั มกั ใชเ้ พอ่ื การพฒั นาความสมั พันธก์ บั บุคคลอ่นื วทิ ยากรจะอธิบายเหตุการณ์ แล้วกาหนดบทบาทท่แี ตกตา่ งกัน ให้ผู้เขา้ รบั การอบรม ออกมาแสดงพฤตกิ รรม 5. การใช้เหตุการณจ์ าลอง (Simulations) คือการจาลองเหตุการณ์จรงิ ท่เี หน็ ได้ในการ ปฏบิ ัติงาน มาไว้ในหอ้ งฝึกอบรมและใหผ้ เู้ ขา้ รบั การฝกึ อบรมไดป้ ฏบิ ตั ิจรงิ เปน็ วธิ กี ารฝกึ อบรมที่ใช้ได้กบั งานที่ต้องอาศัยการปฏบิ ตั ิ ความชานาญ และงานท่ตี อ้ ง อาศยั การตัดสนิ ใจ เชน่ การจาลองสภาพสายการผลติ หรอื การจาลองหอ้ งนักบนิ

รปู แบบการจดั โครงการฝกึ อบรม 6. การใช้ตวั อย่างพฤตกิ รรม (Behavior Modeling) คอื วิทยากรจะเสนอตัวอยา่ ง พฤตกิ รรมให้แกผ่ ูเ้ ขา้ รบั การอบรมเพือ่ ใหผ้ เู้ ขา้ รับการอบรมได้เรยี นร้พู ฤตกิ รรมท่ี เหมาะสมในสถานการณต์ ่าง ๆ จากนัน้ ผู้เขา้ รับการอบรมฝกึ ปฏิบัตจิ รงิ ภายใต้คาแนะนาของผเู้ ชยี่ วชาญ การฝกึ อบรมนม้ี กั ใช้กบั การฝึกอบรมท่ีม่งุ เนน้ ทักษะการสร้างความสัมพนั ธ์กับ บุคคลอ่นื หรือการอบรมเกี่ยวกับทกั ษะการใช้คอมพิวเตอร์หรอื อุปกรณอ์ ื่น ๆ

รปู แบบการจดั โครงการฝึกอบรม 7. การจดั ลาดับความสาคัญของงาน (In-basket Training) คือการอบรมโดยการส่ง งานทุกอย่างให้ผู้เขา้ รับการอบรมในเวลาใกล้เคียงกนั และไม่ระบุว่างานใดทาก่อนหรอื ทา หลัง ผูเ้ ข้ารบั การอรมต้องพิจารณาความสาคญั และความเรง่ ดว่ นของงานเอง วิทยากรจะทาหน้าทส่ี งั เกตและใหข้ ้อมลู สะท้อนกลับเมือ่ ทางานเสรจ็ แลว้ ♀ ♀ ♀ งานง2านงา3น 1 ♀

รปู แบบการจัดโครงการฝกึ อบรม 8. การฝกึ อบรมระหวา่ งปฏบิ ัตงิ าน (On-The-Job Training: OJT) เป็นการ ฝึกอบรมแบบไมเ่ ป็นทางการ ท่ใี ห้พนกั งานไดเ้ รียนรู้ผ่านการลงมอื ปฏิบัติจรงิ ระหวา่ งการ ทางานปกติ อาจเรยี กว่า “การสอนงาน” โดย พนกั งานท่มี ีอาวุโสหรอื เชีย่ วชาญในงาน หรือหวั หนา้ งาน เปน็ ผู้สอน ผูส้ อนตอ้ งทาหน้าท่ขี องตน พนกั งานมีแรงจงู ใจในการ ด้วยสอนดว้ ย เรียนร้มู ากข้ึน ปญั หาความสามารถในการ ถ่ายทอด สอนตามความเคยชนิ

รปู แบบการจดั โครงการฝึกอบรม 9. การหมุนเวียนงาน (Job Rotation) คือ การโยกย้ายให้พนกั งานไปปฏิบัตหิ น้าท่ีอน่ื เพ่อื ให้เรียนรู้การทางานทีแ่ ตกตา่ งออกไปจากเดมิ เป็นการเพมิ่ ประสบการณข์ อง พนักงาน การหมนุ เวยี นงาน ทาให้พนกั งานได้รบั รู้ภาพรวมของธรุ กิจมากยิ่งขนึ้ ทาให้เกดิ ความคิดเชงิ กลยุทธ์ และสามารถตดั สินใจไดด้ ียง่ิ ขึ้น เหมาะกับการพัฒนาพนักงานที่มีศักยภาพสูง ใหส้ ามารถหมุนเวียนไปเรยี นรู้งาน อื่นๆ เพอ่ื พัฒนาตนเองและเตรียมความพรอ้ มตอ่ การก้าวหนา้ ในสายอาชีพให้เร็วข้นึ

รูปแบบการจัดโครงการฝึกอบรม 10. การฝึกอบรมทีใ่ ชเ้ ทคโนโลยเี ปน็ พ้นื ฐาน คอื การฝึกอบรมท่ีใชป้ ระโยชนจ์ าก เทคโนโลยี มาช่วยอานวยความสะดวก เชน่ การฝึกอบรมบนคอมพิวเตอร์ หรือการเรียนรู้ ผ่านอินเทอร์เนต็ หรอื อินทราเน็ต ชว่ ยขจัดปัญหาความหา่ งไกล หรอื ความไม่สะดวกในสถานทจี่ ัดอบรม หรอื เวลา ไม่ตรงกัน เพราะผเู้ ข้ารับการอบรมสามารถเรยี นรู้ได้ตลอดเวลา แตต่ อ้ งคานึงถึงความคุ้นเคยท่แี ตกต่างกนั ของพนักงานทีม่ ชี ว่ งอายแุ ตกต่างกนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook