Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 10.การค้าระหว่างประเทศ

10.การค้าระหว่างประเทศ

Published by นงเยาว์ บุญริน, 2020-10-18 12:38:01

Description: 10.การค้าระหว่างประเทศ

Search

Read the Text Version

การค้าระหวา่ งประเทศ 1. ทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศ 2. นโยบายการค้าระหวา่ งประเทศ 3. อตั ราแลกเปลย่ี นเงินตราต่างประเทศ 4. ดุลการชาระเงนิ 5. การแกป้ ญั หาดุลการชาระเงิน

ทฤษฎีการคา้ ระหว่างประเทศ การค้าระหว่างประเทศ เกิดจากการที่แต่ละประเทศไม่สามารถผลิตสินค้าหรือ บริการทุกอย่างที่คนในประเทศต้องการได้ อันเนื่องมาจากความแตกต่างของต้นทุนการ ผลติ สภาพดนิ ฟ้าอากาศ ทรัพยากรธรรมชาติ หรือความชานาญของแรงงาน ดังนั้น แต่ละประเทศจะผลิตสินค้าหรือบริการท่ีตนเองมีความสามารถในการ ผลิตได้ แล้วนามาแลกเปล่ียนกัน ตราบใดท่ีประชาชนในแต่ละประเทศได้รับประโยชน์ สงู ข้นึ ใกลเ้ คยี งกัน การค้าระหวา่ งประเทศก็จะเกดิ ขน้ึ อย่างต่อเนื่อง นักเศรษฐศาสตร์ได้อธิบายถึงสาเหตุท่ีทาให้เกิดการค้าระหว่างประเทศ ซ่ึง เรียกว่า ทฤษฎกี ารค้าระหวา่ งประเทศ

1. ทฤษฎีความไดเ้ ปรยี บโดยเด็ดขาด ทฤษฎนี ้ีเสนอโดย Adam Smith แนวคิดทฤษฎนี ี้เกดิ จาก การผลิตท่ีใช้จานวน ชว่ั โมงแรงงานน้อยกว่า ที่มา : http://e-book.ru.ac.th/ebook_files/EC103/mobile/index.html#p=333

จากตาราง จะเห็นว่า ในการผลิตข้าว 1 ตัน ประเทศไทยใช้แรงงาน 80 ช่ัวโมง ประเทศญี่ปุ่นใช้แรงงาน 120 ช่ัวโมง แสดงว่าประเทศไทยมีความได้เปรียบเด็ดขาดใน การผลติ ขา้ ว และในการผลิตผ้า 1,000 หลา ประเทศไทยใช้แรงงาน 100 ชั่วโมง ประเทศ ญป่ี ุ่นใช้ 90 ชวั่ โมง แสดงวา่ ประเทศญ่ีป่นุ มีความไดเ้ ปรยี บเด็ดขาดในการผลิตผ้า เมื่อประเทศไทยผลิตข้าวและประเทศญปี่ ุ่นผลิตผ้า ตามที่แรงงานแต่ละประเทศ ถนัด ทาให้ประสิทธิภาพในการผลิตสูงหรือสินค้ามีราคาถูกลง แล้วนามาแลกเปลี่ยนกัน ทาใหเ้ กดิ การค้าระหวา่ งประเทศทั้งสองขนึ้

2. ทฤษฎคี วามได้เปรียบโดยเปรียบเทยี บ ทฤษฎีนี้เสนอโดย David Ricardo แนวคิดนีเ้ ปน็ การเปรยี บเทียบตน้ ทุนหรือ จานวนชวั่ โมงแรงงานที่ใชใ้ นการผลติ สินคา้ 2 ชนิดของแต่ละประเทศ แลว้ นามาวดั ความ ไดเ้ ปรยี บของประเทศท้งั สอง ทม่ี า : http://e-book.ru.ac.th/ebook_files/EC103/mobile/index.html#p=333

จากตาราง จะเห็นว่า ประเทศไทยมีต้นทุนเปรียบเทียบในการผลิตข้าวเป็น 0.8 เท่าของการผลิตผ้า และมีต้นทุนเปรียบเทียบในการผลิตผ้าเป็น 1.25 เท่าของการผลิต ขา้ ว แสดงว่าประเทศไทยมคี วามไดเ้ ปรียบโดยเปรียบเทียบในการผลิตข้าว ประเทศญี่ปุ่นมีต้นทุนเปรียบเทียบในการผลิตข้าวเป็น 1.33 เท่าของการผลิตผ้า และมตี น้ ทุนเปรียบเทียบในการผลิตผ้าเป็น 0.75 เท่าของการผลิตข้าว แสดงว่าประเทศ ญ่ีปุน่ มคี วามไดเ้ ปรียบโดยเปรียบเทียบในการผลติ ผ้า ทฤษฎีนี้มีประโยชน์มากกว่าเมื่อประเทศใดประเทศหนึ่งมีความเสียเปรียบโดย เด็ดขาดในการผลติ สนิ ค้าทั้ง 2 ชนดิ ตามทฤษฎีความได้เปรียบโดยเดด็ ขาดจะไม่มีการค้า ระหว่างประเทศเกิดขึ้น แต่ถ้าพิจารณาตามทฤษฎีความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบแล้ว ประเทศทงั้ สองสามารถทาการค้าระหวา่ งกันได้

ท่มี า : http://e-book.ru.ac.th/ebook_files/EC103/mobile/index.html#p=334 จากตารางจะเหน็ ว่า ประเทศญ่ีปุ่นมีความเสียเปรียบโดยเด็ดขาดในการผลิตข้าว และผลติ ผา้ ตามทฤษฎีความได้เปรยี บโดยเดด็ ขาดจะไมม่ เี กิดการคา้ ระหวา่ งประเทศข้นึ

ที่มา : http://e-book.ru.ac.th/ebook_files/EC103/mobile/index.html#p=334 แม้ว่าประเทศญ่ีปุ่นจะมีความเสียเปรียบโดยเด็ดขาดในการผลิตข้าวและผลิตผ้า แต่จาก ตารางจะเหน็ วา่ ประเทศญ่ีปนุ่ จะมคี วามได้เปรียบโดยเปรียบเทียบในการผลิตผา้ และประเทศไทยมี ความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบในการผลิตข้าว เมื่อประเทศไทยผลิตข้าวและประเทศญี่ปุ่นผลิตผ้า แล้วนามาแลกเปลย่ี นกัน จงึ ทาให้เกดิ การค้าระหว่างประเทศขึ้น

นโยบายการค้าระหว่างประเทศ 1. นโยบายการคา้ เสรี เป็นนโยบายที่ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แต่ละประเทศเน้นผลิตสินค้าที่ ตนเองมีความได้เปรียบไม่ว่าจะเป็นด้านแรงงาน ทรัพยากร และสภาพดินฟ้าอากาศ ทา ให้ประสิทธิภาพในการผลิตสูง มีการเก็บภาษีศุลกากรก่อนต่าเพื่อเป็นรายได้ของรัฐบาล เทา่ นนั้ และไม่มขี ้อจากดั ทางการค้า 2. นโยบายการค้าแบบคมุ้ กัน เป็นนโยบายการค้าท่ีจากดั ขอบเขตการค้ากับต่างประเทศ ทาให้ผู้บริโภคต้องซื้อ สนิ คา้ ในราคาแพงข้ึนและเกิดการขาดแคลนบางชว่ ง แตท่ ุกประเทศก็เลือกใช้นโยบายคุ้ม กนั ดว้ ยเหตผุ ล 3 ประการ คือ

1) เพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมเกิดใหม่ในประเทศ ที่รัฐบาลเห็นว่าจาเป็นต้องมี ซึ่งยังไม่ สามารถแข่งขนั กับสินค้านาเข้าจากตา่ งประเทศได้ 2) เพือ่ แก้ปัญหาการขาดดุลการชาระเงิน ประเทศที่ขาดดุลการชาระเงินเป็นเวลานาน จะใชว้ ธิ กี ีดกันสนิ คา้ นาเข้าเพ่ือลดการขาดดลุ การค้าและดุลการชาระเงนิ 3) เพ่ือแก้ปัญหาการว่างงานในประเทศ ด้วยการกีดกันสินค้านาเข้าจากต่างประเทศ ทาให้ประชาชนใช้สินค้าภายในประเทศ เป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมภายในประเทศ เปน็ การเพ่ิมการจ้างงานภายในประเทศ มาตรการในการดาเนินนโยบายการคา้ แบบคมุ้ กัน  การตั้งกาแพงภาษี โดยกาหนดอัตราภาษีศุลกากรในอัตราสูง ทาให้สินค้านาเข้ามี ราคาสูง ความต้องการซือ้ กล็ ดลง สนิ ค้าทีผ่ ลติ ในประเทศจะสามารถแข่งขนั ได้

 การควบคุมปริมาณการนาเข้า ทาใหม้ ูลคา่ การนาเขา้ ลดลง  การควบคมุ การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยธนาคารกลางจะไม่อนุญาตให้ ธนาคารพาณิชยฺขายเงินตราต่างประเทศให้ผู้นาเข้าสินค้าบางประเภท ทาให้ผู้นาเข้าไม่ สามารถนาสินคา้ เหลา่ นนั้ เข้ามาได้  การให้เงนิ อุดหนุนผูส้ ง่ ออก เพื่อส่งเสริมการสง่ ออก  การทุ่มตลาด เป็นการขายสินค้าในตลาดต่างประเทศด้วยราคาต่ากว่าราคาขายใน ประเทศหรือต่ากว่าต้นทุนการผลิตเพอ่ื ทาลายคู่แข่งในตลาดต่างประเทศท่ีผูกขาดสินค้า เพอ่ื รักษามูลคา่ การสง่ ออกระยะยาว  การทาขอ้ ตกลงทางการค้ากับบางประทศ เชน่ ข้อตกลงเขตการค้าเสรี ทาให้สินค้า นาเข้าจากประเทศคสู่ ญั ญาราคาตา่ กว่าประเทศนอกขอ้ ตกลง

อตั ราแลกเปล่ียนเงนิ ตราตา่ งประเทศ อตั ราแลกเปลีย่ นเงนิ ตราต่างประเทศ หมายถึง ราคาของเงินสกลุ หนึ่งท่ีคิดเทียบกบั เงิน สกลุ อืน่ มี 2 ประเภท คือ 1. อัตราแลกเปลย่ี นแบบคงที่ เป็นอตั ราแลกเปลยี่ นที่เปล่ียนแปลงในช่วงแคบ ใกล้เคียง กับอัตราที่กาหนดไว้ เป็นอัตราท่ีเกิดขึ้นในระบบการเงินท่ีใช้มาตราทองคา และระบบ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ มีข้อดีคือ มีความเสี่ยงต่าจึงไม่มีค่าใช้จ่ายในการบริหาร ความเสีย่ งของอัตราแลกเปลยี่ น 2. อตั ราแลกเปลยี่ นแบบลอยตวั เปน็ อตั ราแลกเปล่ยี นท่ีเปลีย่ นแปลงอยตู่ ลอดเวลาตาม การเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทานต่อเงินตราต่างประเทศ ข้อเสียคือ ทาให้ความ เส่ยี งของอตั ราแลกเปลยี่ นสูง สามารถลดความเสีย่ งโดยทาสัญญาซือ้ ขายลว่ งหน้า

รัฐบาลประเทศต่าง ๆ จึงใช้อัตราแลกเปล่ียนลอยตัวแบบมีการจัดการ โดยให้ ธนาคารกลางเข้าแทรกแซง เมื่ออัตราแลกเปล่ียนลดลงมากหรือเพิ่มขึ้นมาก ติดต่อกัน หลายวัน อุปสงค์ต่อเงนิ ตราต่างประเทศ คอื ปรมิ าณความตอ้ งการเงนิ ตราต่างประเทศ อปุ ทานตอ่ เงนิ ตราตา่ งประเทศ คือ ปรมิ าณเงินตราต่างประเทศทม่ี อี ยู่ อุปสงค์และอุปทานต่อเงินตราต่างประเทศ เกิดจากการค้าและการลงทุนกับ ตา่ งประเทศ ซ่ึงต้องใช้เงินสกลุ ท่ีผู้รับยินดีรับ จึงต้องมีการแลกเปลี่ยนหรือซื้อขายเพื่อให้ ไดเ้ งินสกลุ ทต่ี อ้ งการ

ดลุ การชาระเงนิ ดุลการชาระเงิน เป็นการบันทึกจานวนเงินตราต่างประเทศท่ีประเทศได้รับและจ่ายใน ชว่ งเวลาหนึ่ง ประกอบดว้ ยบญั ชใี หญ่ 3 บัญชี คอื 1. บัญชีเดินสะพัด เป็นบัญชีท่ีแสดงถึงรายได้และรายจ่ายของประเทศ ประกอบด้วย บัญชยี อ่ ย 3 บัญชี คือ 1) ดุลการค้าและดุลบริการ แสดงจานวนเงินท่ีได้รับจากการขายสินค้าและบริการ ให้ชาวต่างประเทศ และจานวนเงินที่จ่ายสาหรับการซ้ือสินค้าและบริการจาก ต่างประเทศ ผลตา่ งของรายได้และค่าใชจ้ ่าย เรยี กวา่ ยอดดุล 2) บัญชเี งินบรจิ าค แสดงจานวนเงนิ โอนและเงินบรจิ าคระหวา่ งประเทศ

3) บัญชีรายได้สุทธิจากต่างประเทศ เป็นรายได้จากการไปทางานในต่างประเทศ และส่งรายได้เหล่าน้ันกลับมาให้พ่ีน้องในประเทศของตน เม่ือนารายได้ของคนท้ัง ประเทศหักด้วยรายได้ของชาวต่างประเทศที่ส่งกลับไปประเทศของเขาจะได้เป็นรายได้ สทุ ธิจากต่างประเทศ 2. บัญชีเงินทุนเคลื่อนย้าย เป็นบัญชีที่แสดงถึงจานวนเงินลงทุน เงินกู้ยืม และเงินฝาก ของชาวต่างประเทศท่ีเข้ามาลงทุนในประเทศ และเงินลงทุนที่คนของประเทศส่งไป ตา่ งประเทศ รวมทงั้ เงนิ ทนุ ทีช่ าวต่างประเทศนากลับไปลงทุนในประเทศอนื่ 3. บัญชีเงินทุนสารองระหว่างประเทศ เป็นทรัพย์สินที่สามารถใช้ชาระหน้ีระหว่าง ประเทศได้ ไดแ้ ก่ ทองคา เงนิ ตราต่างประเทศ และสทิ ธิพิเศษในการถอนเงิน ประเทศต่าง ๆ จะมีทุนสารองระหว่างประเทศเพ่ือรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน ของประเทศ

มูลค่าทุนสารองระหว่างประเทศ จะเปลี่ยนแปลงตามผลการเปล่ียนแปลงของ บญั ชีเดินสะพดั และบญั ชเี งนิ ทนุ เคล่อื นย้าย ถ้าจานวนเงินท่ีได้รับจากบัญชีเดินสะพัดและบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายสูงกว่า จานวนเงนิ ท่จี า่ ย เรียกวา่ ดุลการชาระเงนิ เกนิ ดุล ทนุ สารองระหวา่ งประเทศจะเพิ่มข้ึน ถ้าจานวนเงินที่ได้รับจากบัญชีเดินสะพัดและบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายต่ากว่า จานวนเงนิ ทจ่ี า่ ย เรียกวา่ ดลุ การชาระเงินขาดดลุ ทุนสารองระหว่างประเทศจะลดลง

การแกป้ ญั หาดลุ การชาระเงิน ดลุ การชาระเงินที่มปี ญั หาแบง่ ได้ 2 ลักษณะ คือ 1. ดุลการชาระเงินเกินดุล กรณีน้ีจานวนเงินที่รับมากกว่าจ่าย จะทาให้ค่าเงินของ ประเทศสูงขึ้น ทาให้ส่งออกสินค้าได้น้อยลง แก้ปัญหาโดยส่งเสริมให้คนในประเทศไป ลงทุนในต่างประเทศ 2. ดุลการชาระเงินขาดดุล กรณีนี้จานวนเงินท่ีจ่ายมากกว่ารับ จะทาให้ค่าเงินของ ประเทศต่าลง ทุนสารองระหว่างประเทศลดลง ทาให้ชาวต่างชาติขาดความเชื่อม่ันต่อ คา่ เงิน สินค้านาเขา้ จะราคาแพงขน้ึ ประเทศท่ีใช้ระบบอัตราแลกเปล่ียนแบบลอยตัวแบบมีการจัดการ ซ่ึงปัจจุบัน ประเทศไทยใชร้ ะบบนี้ ปัญหาการขาดดุลการชาระเงินจะหมดไปดว้ ยวธิ กี าร 2 วธิ ี คอื

1. การปรบั ตัวท่ีเกิดข้ึนเองจากการเส่ือมค่าของเงิน เช่น เดิมอัตราแลกเปล่ียนอยู่ท่ี 35บาทต่อ 1 ดอลลาร์ เมอื่ ดุลการชาระเงนิ ขาดดุล อัตราแลกเปลย่ี น เปลยี่ นเป็น 37 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ จะ ทาให้มูลค่าการส่งออกเพิ่มข้ึน เพราะสินค้าส่งออกราคาถูกลงและมูลค่าการนาเข้าลดลง เพราะ สินค้านาเข้าราคาแพงขึ้น ทาให้ดุลการค้าท่ีขาดดุลจะหายไปและอาจเกินดุล ดุลการชาระเงินท่ี เคยขาดดุลกก็ ลบั ส่สู ภาวะสมดลุ ได้ 2. การใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบเขม้ งวด อาจใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวด หรือนโยบายการ คลังแบบเข้มงวด หรือทง้ั 2 อย่าง การใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวด ด้วยการลดปริมาณเงิน ลดความสามารถในการให้ สินเช่ือของสถาบันการเงิน หรือเพ่ิมอัตราดอกเบี้ย ทาให้อุปสงค์รวมลดลง การส่ังสินค้าเข้าจะ ลดลง การขาดดุลการคา้ และดุลการชาระเงินลดลง การใช้นโยบายการคลังแบบเข้มงวด ด้วยการลดรายจ่ายของรัฐบาล หรือเพิ่มการเก็บ ภาษี หรอื ใชง้ บประมาณเกนิ ดุล การสง่ั สนิ คา้ เข้าจะลดลง การขาดดุลการคา้ และดุลการชาระเงิน จะลดลง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook