Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความยืดหยุ่นของอุปสงค์

ความยืดหยุ่นของอุปสงค์

Published by นงเยาว์ บุญริน, 2020-07-22 05:02:49

Description: ความยืดหยุ่นของอุปสงค์

Search

Read the Text Version

ความยดื หย่นุ ของอปุ สงค์ ความยืดหย่นุ ของอุปสงค์ตอ่ ราคา ความยืดหยุ่นของอปุ สงค์ตอ่ รายได้ ความยืดหยนุ่ ของอปุ สงค์ไขว้

ความยืดหยุ่นของอปุ สงค์ (Elasticity of demand) หมายถงึ เปอร์เซ็นต์หรอื อัตราการเปล่ียนแปลงของปริมาณการเสนอซ้ือในขณะใด ขณะหนงึ่ เมอ่ื ตวั แปรที่เปน็ ปจั จัยกาหนดปริมาณเสนอซอ้ื นัน้ เปลี่ยนแปลงไปหนึง่ เปอร์เซน็ ต์ แยกพจิ ารณาตามลักษณะของอุปสงคไ์ ด้ ดังนี้ 1. ความยืดหยุ่นของอปุ สงคต์ ่อราคา (Price elasticity of demand) 2. ความยดื หย่นุ ของอปุ สงค์ตอ่ รายได้ (Income elasticity of demand) 3. ความยดื หยุ่นของอปุ สงคไ์ ขว้ (Cross elasticity of demand)

1. ความยดื หยนุ่ ของอปุ สงคต์ อ่ ราคา หมายถึง เปอรเ์ ซน็ ตห์ รืออัตราการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการเสนอซ้อื ในขณะใด ขณะหนึ่ง เม่ือราคาสินค้าเปล่ยี นแปลงไปหนง่ึ เปอรเ์ ซน็ ต์ โดยกาหนดใหป้ จั จยั อน่ื ๆ คงที่ เขยี นในรูปสมการไดว้ า่ Ed = เปอร์เซ็นต์การเปลย่ี นแปลงปริมาณเสนอซื้อ เปอรเ์ ซน็ ต์การเปล่ียนแปลงราคาเสนอซอ้ื = Q . P P Q

ก. ความยืดหยุ่นของอปุ สงคแ์ บบจุด (Point elasticity of demand) Ed = Q x P หรอื Q2 – Q1 P1 P Q P2 – P1 xQ1 เปน็ การหาคา่ ความยืดหยนุ่ ณ จดุ ใดจุด หนึง่ บนเสน้ อุปสงค์ เช่น การหาคา่ ความ ยืดหยนุ่ ณ จดุ A หรือจดุ B จุดใดจดุ หน่งึ เพยี งจุดเดยี ว

ตวั อยา่ งท่ี 1 ณ จุด A สินคา้ ราคาชิน้ ละ 40 บาท มีคนซ้อื 10 ชิน้ แตถ่ า้ สนิ คา้ ลดราคา เหลอื ช้ินละ 30 บาท มีคนซ้อื 20 ช้ิน ค่าความยืดหย่นุ คือ Ed = 20 – 10 40 30 – 40 x 10 = -4 ค่าความยดื หยุ่น = - 4 หมายความว่า ถา้ ราคาเปลี่ยนไป 1% ปริมาณความต้องการซ้ือ จะเปลีย่ นไป 4% เครื่องหมาย ลบ แสดงว่า ราคาและปริมาณ เปล่ียนไปในทิศทาง ตรงกันขา้ ม

ตวั อย่างท่ี 2 ณ จุด B สินค้าราคาชิ้นละ 30 บาท มคี นซ้ือ 20 ช้ิน แต่ถา้ สนิ ค้าขนึ้ ราคา เปน็ ชน้ิ ละ 40 บาท มคี นซอื้ 10 ช้ิน คา่ ความยดื หยุ่น คอื Ed = 10 – 20 30 40 – 30 x 20 = -3 คา่ ความยดื หยนุ่ = - 3 หมายความว่า ถ้าราคาเปล่ียนไป 1% ปรมิ าณความตอ้ งการซื้อ จะเปล่ยี นไป 3% ในทิศทางตรงกันขา้ ม

จะเห็นวา่ ค่าความยืดหยนุ่ ณ จุด A = -4 จดุ B = -3 ไดค้ า่ ไมเ่ ท่ากัน ท้งั ๆ ที่ การ เปล่ียนแปลงของปรมิ าณการซอ้ื และราคามีค่าเท่ากนั เพียงแต่การใชร้ าคาและ ปริมาณเร่ิมแรกทแ่ี ตกตา่ งกัน ดงั นั้นเพอื่ แกป้ ญั หาว่า จะใชค้ ่าใดเป็นค่าเร่มิ แรก การ คานวณค่าความยืดหยนุ่ จงึ มอี ีกสตู ร คอื

ข. ความยดื หยุน่ ของอุปสงค์แบบช่วง (Arc elasticity of demand) เป็นการหาคา่ ความยืดหย่นุ ณ ชว่ งใดชว่ งหนึง่ บนเสน้ อปุ สงค์ เช่น ชว่ ง AB หรือชว่ ง BC สตู รทใ่ี ช้ใน การคานวณหาคา่ ความยดื หยุ่นแบบชว่ ง คือ Ed = Q2 – Q1 x P2 + P1 Q2 + Q1 P2 – P1 โดยที่ Ed P1 = ความยดื หยุ่นของอุปสงค์ตอ่ ราคา P2 = ราคาสินค้ากอ่ นการเปลยี่ นแปลง Q1 = ราคาสินค้าหลังการเปล่ยี นแปลง Q2 = ปริมาณสนิ ค้าก่อนการเปลยี่ นแปลง = ปรมิ าณสนิ คา้ หลงั การเปลี่ยนแปลง

ตวั อย่างที่ 3 สนิ คา้ ก. ราคาชิ้นละ 30 บาท ผ้บู ริโภคซือ้ 20 ช้นิ ตอ่ มาสนิ ค้าขึน้ ราคาเป็นชิน้ ละ 40 บาท ผูบ้ ริโภคซ้อื 10 ชนิ้ เราสามารถคานวณหาคา่ ความม ยดื หยุน่ ของอปุ สงค์ชว่ งราคา 30 – 40 บาท ไดด้ งั นี้ Ed = Q2 – Q1 x P2 + P1 = Q2 + Q1 P2 – P1 = 10 – 20 40 + 30 10 + 20 x 40 - 30 -2.33

ค่าความยดื หยุ่นของอปุ สงค์ต่อราคา = -2.33 หมายความว่า ในชว่ งราคา 30-40 บาท โดยเฉลย่ี เม่อื ราคาสินค้า ก.เปลยี่ นแปลงรอ้ ยละ 1 จะมผี ลทาใหป้ รมิ าณ ความตอ้ งการซอ้ื สนิ ค้า ก. เปล่ียนแปลงไปในทศิ ทางตรงกันข้ามเทา่ กบั ร้อยละ 2.33 เม่ือกาหนดให้ตวั แปรอื่น ๆ คงที่ เครอื่ งหมายลบ บอกให้ทราบว่าปริมาณความต้องการซ้ือสินคา้ ก. เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงกันข้ามกับราคา

ค่าความยดื หยนุ่ ของอุปสงคต์ อ่ ราคาและลักษณะของเสน้ อปุ สงค์ โดยปกตคิ ่าความยืดหย่นุ ของอุปสงคต์ อ่ ราคาจะมีคา่ เปน็ ลบ เพราะราคากับปรมิ าณ ซื้อจะผนั แปรไปในทางตรงกนั ขา้ มตามกฎของอุปสงค์ 1. อปุ สงค์มคี วามยดื หย่นุ มาก (Relatively elastic) Ed>1 หมายความว่า เปอรเ์ ซ็นต์ การเปล่ียนแปลงของปรมิ าณเสนอซื้อ มากกว่าเปอร์เซ็นตก์ ารเปลีย่ นแปลงของราคา สินค้า สนิ ค้าประเภทนไี้ ดแ้ กส่ ินคา้ ฟุม่ เฟือย หรอื สินคา้ ทีท่ ดแทนสนิ ค้าอืน่ ไดง้ ่าย เสน้ อุป สงคจ์ ะมีลกั ษณะคอ่ นข้างลาด ดังรปู

2. อุปสงคม์ คี วามยืดหยุ่นนอ้ ย (Relatively inelastic) Ed<1 หมายความวา่ เปอรเ์ ซ็นต์ การเปลย่ี นแปลงของปรมิ าณเสนอซอ้ื น้อย กว่าเปอรเ์ ซน็ ตก์ ารเปลย่ี นแปลงของราคา สนิ คา้ ไดแ้ ก่ สินคา้ ทม่ี ีความจาเป็นต่อการ ดารงชีวติ เช่น ข้าวสาร อาหาร เป็นตน้ เส้น อุปสงคจ์ ะมีลักษณะค่อนขา้ งชนั ดงั รปู

3. เสน้ อปุ สงคม์ คี วามยืดหยนุ่ เท่ากบั หนึง่ (Unitary elastic) Ed=1 หมายความว่า เปอรเ์ ซน็ ตก์ ารเปลย่ี นแปลงของปริมาณ เสนอซ้อื เท่ากับเปอร์เซ็นตก์ ารเปลยี่ นแปลง ของราคาสนิ ค้า อาจเกดิ ได้กบั สนิ ค้าท่ัวไป ถ้าผู้ซอื้ สามารถควบคมุ งบประมาณในการ ซื้อได้คงท่ี เสน้ อุปสงค์จะมลี ักษณะเปน็ เสน้ โค้ง ดังรูป

4. อุปสงคไ์ มม่ ีความยืดหยนุ่ เลยหรือไม่ ยืดหยุ่นอยา่ งสมบรู ณ์ (Perfectly inelastic) Ed=0 หมายความว่า ปรมิ าณ เสนอซื้อไมเ่ ปลย่ี นแปลงเลยแมว้ า่ ราคาจะ เปลี่ยนแปลงไปก็ตาม จะเกดิ ข้ึนกับสนิ คา้ ท่ี ซื้อตามความจาเป็น เชน่ โลงศพ กรณนี ้เี ส้น อปุ สงคจ์ ะเป็นเสน้ ตรงตั้งฉากกบั แกน ปริมาณ ทุกๆ จุด บนเสน้ อปุ สงคจ์ ะมีค่า ความยืดหยุน่ ต่อราคาเท่ากบั ศนู ย์ ดงั รปู

5. อุปสงคม์ คี วามยืดหยนุ่ อย่างสมบรู ณ์ (Perfectly elastic) Ed=∞ หมายความ ว่า ณ ระดบั ราคานน้ั ๆ ผบู้ ริโภคจะซ้อื สินค้า ไม่จากัดจานวน แตถ่ ้าราคาสงู ข้ึนเพยี ง เล็กน้อยจะไม่ซื้อเลย เส้นอุปสงค์จะเป็น เสน้ ตรงตงั้ ฉากกับแกนราคา ทุกๆ จุด บน เส้นอุปสงคจ์ ะมีคา่ ความยดื หยนุ่ ตอ่ ราคา เทา่ กบั ∞ ตลอดท้งั เสน้ ดงั รปู

ความยืดหยุน่ ของอปุ สงค์ต่อราคากับรายรบั รวมของผผู้ ลิต การเปล่ยี นแปลงราคาสินคา้ นอกจากกระทบปรมิ าณการขายแลว้ ยงั กระทบกบั รายรบั รวมของผผู้ ลิตดว้ ย จะกระทบมากน้อยเพยี งใด ขนึ้ อยู่กบั คา่ ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ ตอ่ ราคา ดงั น้ี ราคาสินค้า Ed = 1 Ed < 1 Ed > 1 สงู ข้ึน รายรบั รวม คงที่ รายรบั รวม เพ่ิมขน้ึ รายรบั รวม ลดลง ลดลง รายรบั รวม คงที่ รายรบั รวม ลดลง รายรับรวม เพม่ิ ขึ้น

1. ถ้าเสน้ อปุ สงค์มีคา่ ความยืดหยนุ่ เทา่ กับหนึ่ง Ed=1 ไม่ว่าราคาสินค้าจะ สงู ข้ึนหรือลดลง รายรบั รวมจะคงท่ี เชน่ ณ ระดบั ราคาสนิ ค้าหน่วย ละ 10 บาท ปรมิ าณการขาย 9 หนว่ ย รายรบั รวม 90 บาท เมื่อราคาสินค้า สงู ขน้ึ เปน็ ชิน้ ละ 15 บาท ปรมิ าณการ ขายจะลดลงเหลือ 6 หน่วย รายรับรวม 90 บาท

2. ถ้าเส้นอุปสงค์มีค่าความยดื หยุ่น มาก Ed<1 เม่อื สนิ คา้ ราคาสูงขึ้น รายรบั รวมจะเพม่ิ ข้นึ เมอ่ื สินคา้ ราคา ลดลง รายรบั รวมจะลดลง เชน่ ณ ระดบั ราคาสินคา้ หนว่ ย ละ 5 บาท ปริมาณการขาย 9 หน่วย รายรับรวม 45 บาท เมื่อราคาสนิ ค้า สูงขึ้นเป็นช้นิ ละ 15 บาท ปรมิ าณการ ขายจะลดลงเหลือ 6 หน่วย รายรับรวม 90 บาท

3. ถ้าเสน้ อุปสงคม์ ีค่าความยืดหยุ่น มาก Ed>1 เมอื่ สนิ คา้ ราคาสงู ขึ้น รายรบั รวมจะลดลง เมือ่ สนิ คา้ ราคา ลดลง รายรบั รวมจะสูงข้ึน เชน่ ณ ระดับราคาสนิ ค้าหน่วย ละ 10 บาท ปริมาณการขาย 12 หน่วย รายรับรวม 120 บาท เมื่อราคาสนิ คา้ สูงขึ้นเป็นช้นิ ละ 15 บาท ปรมิ าณการ ขายจะลดลงเหลอื 6 หนว่ ย รายรับรวม 90 บาท

2. ความยืดหย่นุ ของอุปสงค์ต่อรายได้ (Income elasticity of demand) หมายถงึ เปอรเ์ ซ็นต์การเปล่ยี นแปลงของปริมาณสินคา้ ท่มี ผี ู้ต้องการซื้อ ณ ขณะใด ขณะหนง่ึ เมอ่ื รายได้ของผบู้ ริโภคเปลยี่ นแปลงไปหนึง่ เปอร์เซ็นต์ โดยกาหนดให้สงิ่ อ่นื ๆ คงท่ี ก. ค่าความยืดหยนุ่ ของอุปสงค์ตอ่ รายไดแ้ บบจุด Ey = เปอร์เซน็ ตก์ ารเปลี่ยนแปลงปริมาณเสนอซอ้ื เปอรเ์ ซ็นต์การเปลย่ี นแปลงของรายได้ = Q . Y Y Q

ข. ค่าความยืดหย่นุ ของอุปสงคต์ อ่ รายไดแ้ บบช่วง Ey = Q2 – Q1 x Y2 + Y1 Q2 + Q1 Y2 – Y1 โดยที่ Ey = ค่าความยืดหย่นุ ของอุปสงค์ต่อรายได้ Q1 = ปรมิ าณเสนอซอ้ื ก่อนท่จี ะมกี ารเปล่ียนแปลงรายได้ Q2 = ปริมาณเสนอซอื้ หลงั จากมกี ารเปล่ยี นแปลงรายได้ Y1 = รายได้กอ่ นการเปล่ียนแปลง Y2 = รายไดห้ ลังการเปลี่ยนแปลง

ตัวอย่างท่ี 4 เมอื่ ผู้บริโภคมรี ายได้เฉลีย่ เดือนละ 50,000 บาท จะซื้อสินค้า ก. 6,000 ชิ้น แตเ่ ม่ือรายไดเ้ ฉลย่ี ของผูบ้ รโิ ภคเดอื นละ 70,000 บาท จะซื้อสินคา้ ก. 10,000 ชนิ้ สามารถหาค่าความยดื หย่นุ ของอปุ สงค์ต่อรายได้ ดังนี้ Ey = 10,000 – 6,000 70,000 + 50,000 10,000 + 6,000 x 70,000 - 50,000 = 1.5 ค่าความยดื หยุ่นของอปุ สงค์ตอ่ รายได้ เทา่ กับ 1.5 หมายความวา่ เมื่อรายได้ของ ผบู้ ริโภคเปลี่ยนแปลงไปรอ้ ยละ 1 จะมีผลทาให้อปุ สงค์ของผบู้ รโิ ภคทีม่ ีตอ่ สินคา้ ก. เปลย่ี นไปร้อยละ 1.5 และเนื่องจากค่าความยืดหยนุ่ มีค่าเป็นบวก แสดงว่าสนิ คา้ ก. เป็นสนิ คา้ ปกติ

คา่ ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ตอ่ รายได้ อาจมคี ่าเปน็ บวกหรือลบกไ็ ด้ ข้ึนอยู่ กับชนดิ ของสินคา้ ถ้าเป็นสนิ คา้ ปกติจะมีคา่ เป็นบวก คือ เมื่อรายไดส้ ูงข้นึ ผู้บริโภค จะบรโิ ภคสนิ คา้ ชนดิ นัน้ มากข้ึน แต่ถา้ เครือ่ งหมายเปน็ ลบ แสดงวา่ สินค้าน้นั เป็น สนิ ค้าด้อยคณุ ภาพ คอื เม่ือรายได้สงู ข้ึน ผูบ้ รโิ ภคจะบรโิ ภคสนิ คา้ ชนดิ นั้นลดลง ค่าความยืดหยุ่นของอปุ สงคต์ ่อรายได้ มลี ักษณะเช่นเดียวกบั คา่ ความ ยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา คือ กรณี มคี า่ มากกวา่ 1 แสดงว่า อุปสงค์ตอ่ รายได้มีความยืดหยนุ่ มาก กรณี มคี า้ นอ้ ยกวา่ 1 แสดงวา่ อุปสงค์ตอ่ รายไดม้ คี วามยดื หยนุ่ น้อย โดยทัว่ ไปสินคา้ ฟุ่มเฟอื ยจะมีค่าความยืดหยนุ่ มาก สินค้าจาเปน็ จะมคี ่าความ ยดื หยนุ่ นอ้ ย

3. ความยดื หยนุ่ ของอปุ สงค์ตอ่ ราคาสินคา้ ชนิดอืน่ หรอื ความยดื หยนุ่ ไขว้ (Cross elasticity of demand) หมายถึง เปอรเ์ ซน็ ตก์ ารเปลย่ี นแปลงของปริมาณสนิ ค้าที่มผี ู้ตอ้ งการซื้อ ณ ขณะใด ขณะหน่งึ เมือ่ ราคาสนิ คา้ ชนดิ อื่นท่ีเกยี่ วข้องเปลยี่ นแปลงไปหนง่ึ เปอร์เซ็นต์ โดย กาหนดให้ปัจจยั อืน่ ๆ คงที่ (เปอร์เซน็ ตก์ ารเปลยี่ นแปลงของปริมาณสินคา้ X เมอ่ื ราคาสนิ คา้ Y เปลย่ี นแปลงไปหน่ึงเปอรเ์ ซน็ ต์) ก. ค่าความยืดหยุน่ ไขวแ้ บบจุด Exy = Qx Py Py x Qx

ข. ค่าความยดื หยนุ่ ไขวแ้ บบชว่ ง Exy = Qx2 – Qx1 x Py2 + Py1 Qx2 + Qx1 Py2 – Py1 โดยที่ Exy = คา่ ความยืดหยุ่นของอปุ สงคใ์ นสนิ คา้ x ต่อราคาสนิ ค้า y Py1 = ราคาสินคา้ y กอ่ นเปลี่ยนแปลง Py2 = ราคาสนิ ค้า y หลงั เปล่ยี นแปลง Qx1 = ปรมิ าณความตอ้ งการซือ้ สนิ ค้า x ก่อนเปล่ยี นแปลง Qx2 = ปริมาณความต้องการซ้อื สนิ คา้ x หลังเปลี่ยนแปลง

ตัวอย่างท่ี 5 บรษิ ัทแห่งหน่งึ เป็นผู้ผลิตไม้แบดมนิ ตันและลูกขนไก่ พบวา่ เมอ่ื ตง้ั ราคา ขายไมแ้ บดมนิ ตันราคา 500 บาท จะขายลูกขนไก่ได้ 1,000 ลกู แตเ่ มอ่ื ขายไม้ แบดมนิ ตันราคา 600 บาท จะขายลูกขนไก่ได้ 800 ลูก โดยปจั จยั อน่ื ๆ คงที่ Exy = 800 – 1,000 600 + 500 800 + 1,000 x 600 - 500 = - 1.22 คา่ ความยืดหยุน่ ของอุปสงค์ต่อราคาสนิ ค้าชนิดอืน่ มีค่าเท่ากบั -1.22 หมายความวา่ เมือ่ ราคาไม้แบดมินตันสงู ขนึ้ 1% ทาใหป้ ริมาณความตอ้ งการซือ้ ลกู ขนไกล่ ดลง 1.22% และเนอ่ื งจากค่าความยืดหยุน่ เปน็ ลบ แสดงว่าไม้แบดมินตันกบั ลกู ขนไกเ่ ป็นสินค้าท่ีใชป้ ระกอบกัน

ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคาสินค้าชนิดอื่น อาจมีเคร่ืองหมายบวกหรือ ลบกไ็ ด้ ถ้าสินค้า x และ สินค้า y เป็นสินค้าที่ใช้ทดแทนกัน จะมีเครื่องหมายเป็น บวก คือ เมื่อราคาสินค้า y เพ่ิมข้ึน ผู้บริโภคจะลดการซ้ือสินค้า y และหันไปซื้อ สินคา้ x แทน ทาให้ปริมาณความต้องการซ้ือสินค้า x เพ่มิ ขนึ้ ถ้าสินค้า x และสินค้า y เป็นสินค้าท่ีใช้ประกอบกัน จะมีเคร่ืองหมายเป็น ลบ คือ เมื่อราคาสินค้า y เพ่ิมขึ้น ผู้บริโภคจะลดการซื้อสินค้า y ทาให้ปริมาณ ความต้องการซ้ือสินค้า x ซึ่งเป็นสินค้าท่ีใช้ประกอบกันลดลงด้วย เช่นเดียวกับไม้ แบดมินตันและลูกขนไก่ ตามตวั อยา่ ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook