Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 5

บทที่ 5

Published by Nort hh, 2022-08-10 19:18:32

Description: นาย ธนชล หมอยาดี รหัสนักศึกษา 4631071141107 ออกแบบภายในปี 3
นาย นิติภูมิ ศรีอุดร รหัสนักศึกษา 4631071141122 ออกแบบภายในปี 3

Search

Read the Text Version

วิชา อนิ เทอรเ์ น็ตและพาณิชยอ์ เิ ล็กเทอรน์ ิกสพ์ นื้ ฐาน นาย ธนชล หมอยาดี รหสั นักศึกษา 4631071141107 ออกแบบภายในปี 3 นาย นิตภิ มู ิ ศรอี ุดร รหสั นักศกึ ษา 4631071141122 ออกแบบภายในปี 3 บทที่ 5 องคป์ ระกอบพนื้ ฐานของระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอรอ์ ภปิ รายและตอบคาํ ถาม ในหวั ขอ้ ดังต่อไปนี้ 1. องคป์ ระกอบพนื้ ฐานของระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอรม์ อี ะไรบ้าง จงอธบิ ายองคป์ ระกอบพนื้ ฐาน ของระบบคอมพวิ เตอร์ มดี งั นี้ ตอบ 1.คอมพิวเตอร์ อย่างนอ้ ย 2 เคร่อื งเช่ือมตอ่ กนั โดยมีคอมพิวเตอรแ์ ม่ขา่ ย ท่ที าํ หนา้ ท่เี ป็นผู้ ใหบ้ รกิ ารทรพั ยากร (Resources) ตา่ ง ๆ ซง่ึ ไดแ้ ก่ หน่วยประมวลผล หนว่ ยความจาํ หนว่ ยความจาํ สาํ รอง ฐานขอ้ มลู และโปรแกรมตา่ ง ๆ เป็นตน้ ในระบบเครอื ขา่ ยทอ้ งถ่ิน (LAN) มกั เรยี กวา่ คอมพิวเตอรแ์ มข่ า่ ย ในระบบเครอื ขา่ ยระยะไกล ท่ีใชเ้ มนเฟรมคอมพวิ เตอร์ หรอื มนิ ิคอมพิวเตอรเ์ ป็นศนู ยก์ ลางของเครอื ขา่ ย เรานิยมเรยี กวา่ Host Computer และเรยี ก เครอ่ื งท่ีรอรบั บรกิ ารวา่ ลกู ข่ายหรอื สถานีงาน 2. เน็ตเวริ ค์ การด์ หรอื NIC (Network Interface Card) เป็นการด์ ท่ี เสียบเขา้ กบั ชอ่ งบน เมนบอรด์ ของคอมพวิ เตอร์ ซง่ึ เป็นชดุ เช่ือมตอ่ ระหวา่ งคอมพวิ เตอร์ และเครอื ข่าย 3. ส่ือกลางและอปุ กรณส์ าํ หรบั การรบั สง่ ขอ้ มลู เช่น สายสญั ญาณ สายสญั ญาณท่นี ยิ มใชใ้ น ระบบเครอื ขา่ ย เชน่ สายโคแอก็ เชียล สายคบู่ ิดเกลยี ว และสายใยแกว้ นาํ แสง เป็นตน้ สว่ น อปุ กรณเ์ ครอื ขา่ ย เชน่ ฮบั สวิตซ์ เราทเ์ ตอร์ เกตเวย์ เป็นตน้ 4 . โปรโตคอล (Protocol โปรโตคอลเป็นภาษาท่ีตอมพวิ เตอรใ์ ช้ ส่อื สารกนั ผ่านเครอื ข่าย คอมพวิ เตอรท์ ่สี ามารถส่ือสารกนั ไดน้ นั้ จาํ เป็นตอ้ งใชภ้ าษา หรอื โปรโตคอลเดียวกนั เชน่ OSI TCP/IP IPX/SPX เป็นตน้ 5.ชอฟตแ์ วรร์ ะบบปฏิบตั ิการเครอื ข่าย หมายถงึ ชอฟตแ์ วรท์ ่ีทาํ หนา้ ท่ี จดั การระบบเครอื ข่าย ของคอมพิวเตอร์ เพ่ือใหค้ อมพวิ เตอร์ ท่ีเช่อื มตอ่ อยกู่ บั เครอื ข่าย สามารถติดตอ่ ส่อื สาร แลกเปล่ียนขอ้ มลู กนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และมีประสิทธิภาพ ทาํ หนา้ ท่ีจดั การตา้ นการรกั ษาความ

ปลอดภยั ของระบบเครอื ข่าย และยงั มหี นา้ ท่ีควบคมุ การนาํ โปรแกรมประยกุ ต์ ดา้ นการ ตดิ ตอ่ ส่ือสาร มาทาํ งานในระบบเครอื ข่ายอีกดว้ ย นบั วา่ ซอฟตแ์ วรร์ ะบบปฏบิ ตั ิการเครอื ข่าย มีความสาํ คญั ตอ่ เครอื ข่ายคอมพวิ เตอรอ์ ยา่ งยง่ิ ตวั อย่าง ชอฟตแ์ วรป์ ระเภทนีใ้ ตแ้ ก่ ระบบปฏบิ ตั ิการ Windows NT , Linux , Novell Netware , Windows XP ,Windows 2000 , Solaris , Unixเป็นตน้ 2.ลักษณะการทาํ งานของคอมพวิ เตอรท์ เี่ ชื่อมตอ่ ในการทาํ งานระบบเครือข่าย คอมพวิ เตอรจ์ ะแบง่ เคร่ืองคอมพวิ เตอรเ์ ป็ น 2 ประเภท คือประเภทใดบา้ ง ตอบ คอมพิวเตอรจ์ ะแบง่ เครอ่ื งคอมพวิ เตอรเ์ ป็น 2 ประเภท คอื 1.ประเภทท่ีใชเ้ ป็นเซริ ฟ์ เวอรข์ องเครอื ข่าย (Server Computer) หรอื เรยี กวา่ คอมพวิ เตอรแ์ ม่ ข่ายคอื คอมพวิ เตอรท์ ่ีทาํ หนา้ ท่ีเป็นผใู้ หบ้ รกิ ารทรพั ยากร (resources)ตา่ ง ๆ ซง่ึ ไดแ้ ก่ หนว่ ย ประมวลผลหน่วยความจาํ หลกั หน่วยความจาํ สาํ รอง ฐานขอ้ มลู และโปรแกรมตา่ ง ( เป็นตน้ ในระบบเครอื ข่ายทอ้ งถ่นิ หรอื เครอื ข่ายแลน (LAN) มกั เรยี กวา่ คอมพิวเตอรแ์ มข่ ่ายวา่ เซริ ฟ์ เวอร์ (server) ในระบบเครอื ข่ายระยะไกล ท่ีใชเ้ มนเฟรมคอมพวิ เตอร์ (mainframe computer) หรอื มินิคอมพวิ เตอร์ (mini computer) เป็นศนู ยก์ ลางของเครอื ขา่ ย นิยมเรยี ก คอมพิวเตอรแ์ ม่ข่ายวา่ โฮสตค์ อมพิวเตอร(์ host computer) 2.ประเภทท่ีใชเ้ ป็นเคร่อื งลกู ขา่ ย (Cient) คอมพิวเตอรล์ กู ขา่ ย หมายถงึ เคร่อื ง ไมโครคอมพิวเตอรท์ ่ีเช่ือมตอ่ กบั เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ ท่หนา้ ท่ีเป็นสถานปี ลายทางหรอื สถานี งาน ท่ีไดร้ บั การบรกิ ารจากคอมพวิ เตอรแ์ มข่ ่าย เรยี กวา่ เป็นคอมพวิ เตอรล์ กู ข่าย ในระบบ เครอื ขา่ ยทอ้ งถ่ินมกั มีหนว่ ยประมวลผลหรอื ชีพีย(ู CentralProcessing Unit : CPU) ของ ตนเอง ในระบบท่ี ใชเ้ มนเฟรมคอมพิวเตอรเ์ ป็นศนู ยก์ ลาง เรยี กสถานีปลายทางวา่ เครอ่ื ง ปลายทาง (terminal) ประกอบดว้ ยจอภาพและแปน้ พมิ พเ์ ทา่ นนั้ ไมม่ ีหนว่ ยประมวลกลาง ของตวั เอง ตอ้ งใชห้ นว่ ยประมวลผลของเมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ 3. ใหน้ กั ศกึ ษาอธิบายหนา้ ท่ีของอปุ กรณเ์ หลา่ นี้ -3.1 แลนการด์ ทาํ หนา้ ท่ีอะไร

แลนการด์ (LAN Card) หรอื เนต็ เวริ ค์ การด์ เป็นจดุ เช่ือมตอ่ ระหวา่ งคอมพวิ เตอรแ์ ละระบบ เครอื ข่ายสว่ นใหญ่จะ เรยี กวา่ NIC (Network Interface Card) อปุ กรณน์ ีจ้ ะทาํ หนา้ ท่ีแปลง ขอ้ มลู เป็นสญั ญาณท่ีสามารถสง่ ไปตามสายสญั ญาณหรอื ส่อื แบบอ่นื ได้ ปัจจบุ นั นีม้ ีการด์ หลายประเภท ซง่ึ ถกู ออกแบบใหใ้ ชก้ บั เครอื ขา่ ยประเภทตา่ งๆ เชน่ อีเธอรเ์ น็ตการด์ โทเคนรงิ การด์ เป็นตน้ การด์ แตล่ ะประเภทอาจใชไ้ ดก้ บั สายสญั ญาณบางชนดิ เท่านนั้ หรอื อาจจะใชใ้ ด้ กบั สญั ญาณหลายชนิด 3.2 ฮบั (Hup) ทาํ หนา้ ท่ีอะไร -ฮบั (Hub) ทาํ หนา้ ท่ีเป็นศนู ยก์ ลางในการกระจายขอ้ มลู ไปยงั เครอ่ื งอ่นื ๆ ในระบบเครอื ข่าย สญั ญาณท่ีสง่ มาจากฮบั จะกระจายไปยงั ทกุ เครอ่ื งท่ีตอ่ อยกู่ บั ยบั ซง่ึ แตล่ ะเครอ่ื งจะเลือกรบั เฉพาะขอ้ มลู ท่ีสง่ มาถงึ ตนเองเทา่ นนั้ ในการกระจายขอ้ มลู ไปยงั เครอ่ื งอ่นื ๆ เป็นการเช่ือมตอ่ ของเครอื ข่ายแบบตาว (Star โดยปกติใชเ้ ป็นจดุ รวมการเช่ือมตอ่ สายสญั ญาณระหวา่ ง File Server กบั Workstation ตา่ ง ๆ ความเรว็ ของฮบั มีหน่วยเป็นMegabit persecond (Mbps) โดยเรม่ิ ตน้ ท่ี 10 Mbps จนถึงความเรว็ 100 Mbps 3.3 รพี ีตเตอร์ (Repeater) ทาํ หนา้ ท่ีอะไร -เคร่อื งทวนสญั ญาณ (repeater) เป็นอปุ กรณท์ ่ีทาํ หนา้ ท่ีรบั สญั ญาณดิจิทลั แลว้ สง่ ตอ่ ออกไปยงั อปุ กรณต์ อ่ อ่ืน เหตทุ ่ีตอ้ งใชอ้ ปุ กรณท์ วนสญั ญาณ เน่ืองจากการสง่ สญั ญาณไปใน ตวั กลางท่ีเป็นสายสญั ญาณนนั้ เม่ือระยะทางมากขนึ้ แรงดนั ของสญั ญาณจะลดลงเรอ่ื ย 1 ทาํ ใหไ้ มส่ ามารถสง่ สญั ญาณในระยะทางไกลๆ ได้ ดงั นนั้ การใชอ้ ปุ กรณท์ วนสญั ญาณจะทาํ ให้ สามารถสง่ สญั ญาณไปใดใ้ กลขนึ้ โดยสญั ญาณไมส่ ญู หาย 3.4 บรดิ จ์ (Bridge) ทาํ หนา้ ท่ีอะไร - บรดิ จ์ (bridge) ใชใ้ นการเช่ือมตอ่ เครอื ข่ายหลายเครอื ข่ายเขา้ ดว้ ยกนั โยจะตอ้ งเป็น เครอื ข่ายท่ีใชโ้ พรโทคอลเดยี วกนั ซง่ึ มีความสามารถมากกวา่ ฮบั และอปุ กรณท์ วนสญั ญาณ คอื สามารถกรองขอ้ มลู ท่ีสง่ ตอ่ ไดโ้ ดยการตรวจสอบวา่ ขอ้ มลู ท่ีสง่ นนั้ ปลายทางอยทู่ ่ีใต หาก เครอ่ื งปลายทางอยกู่ ายในเครอื ข่ายเดียวกนั กบั เคร่อื งสง่ ก็จะสง่ ขอ้ มลู นนั้ ไปในเครอื ขา่ ย เดียวกนั เทา่ นนั้ ไม่สง่ ไปยงั เครอื ขา่ ยอ่นื

3.5 เราตเ์ ตอร์ (Router) ทาํ หนา้ ท่ีอะไร - เราเตอร์ (Router) เป็นอปุ กรณใ์ นระบบเครอื ข่ายท่ีทาํ หนา้ ท่เี ป็นตวั เช่ือมโยงใหเ้ ครอื ข่ายท่ีมี ขนาดหรอื มาตรฐานในการสง่ ขอ้ มลู ตา่ งกนั สามารถตดิ ตอ่ แลกเปล่ียนขอ้ มลู ระหวา่ งกนั ได้ เรา เตอรจ์ ะทาํ งานอย่ใู นชนั้ Network หนา้ ท่ขี องเราเตอรก์ ็คือ ปรบั โปรโตคอล ( Protocol ) (โปรโตคอล เป็นมาตรฐานในการส่อื สารขอ้ มลู บนเครอื ข่ายตอมพวิ เตอร)์ ท่ีตง่ กนั ใหส้ ามารถ ส่อื สารกนั ได้ 3.6 เกตเวย์ (Gateway) ทาํ หนา้ ท่ีอะไร - เกตเวย์ (ateway) เป็นอปุ กรณท์ ่ีทาํ หนา้ ท่ีเช่ือมตอ่ เครอื ข่ายตง่ ๆ เขา้ ดว้ ยกนั ไมว่ า่ เครอื ขา่ ย นนั้ จะใชโ้ พรโทคอลตวั ใตก็ตาม เน่ืองจากเกตเวยส์ ามารถแปลงรูปแบบแพค็ เก็ตของโพรโท คอลหนง่ึ ไปเป็นรูปแบบของอีกโพรโทคอลหนง่ึ ได้ เพ่ือใหเ้ หมาะสมกบั การใชง้ านในเครอื ข่าย 4. สายสัญญาณทใี่ ช้เป็ นมาตรฐานในระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอรม์ ีกี่ประเภท อะไรบา้ ง ตอบ สายสญั ญาณท่ีใชเ้ ป็นมาตรฐานในระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอรม์ ี 3 ประเภท ดงั นี้ 1. สายโคแอกเซียล (coaxiao) สายโคแอกเชียลเป็นตวั กลางเช่ือมโยงท่ีมีลกั ษณะเชน่ เตยี วกบั สายทีวที ่ีมีการใชง้ านกนั มาก ไม่วา่ ในระบบเครอื ขา่ ยเฉพาะท่ี ในการสง่ ขอ้ มลู ระยะไกล ระหวา่ งชมุ สายโทรศพั ทห์ รอื การสง่ ขอ้ มลู สญั ญาณวดิ ิทศั นส์ ายโคแอกเซียลท่ีใชท้ ่วั ไปมี 2 ชนิด คือ 50 โอหม์ ซง่ึ ใชส้ ง่ ขอ้ มลู แบบดิจิทลั และชนิด 75โอหม์ ซง่ึ ใชส้ ง่ ขอ้ มลู สญั ญาณแอ นะลอ็ ก สายโคแอกเชียลจะมีฉนวนหมุ้ ปอ้ งกนั การรบกวนของคล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าและ สญั ญาณรบกวนอ่นื ๆ ซง่ึ เป็นสว่ นหนง่ึ ท่ีทาํ ใหส้ ายแบบนีม้ ีชว่ งความถ่ีท่ีสญั ญาณไฟฟา้ สามารถผา่ นไดก้ วา้ งถงึ 500 Mhz จงึ สามารถสง่ ขอ้ มลู ดว้ ยอตั ราสง่ สงู 2.สายคบู่ ิดเกลยี ว (twisted pair) สายคบู่ ิดเกลียว แตล่ ะคสู่ ายทองแดงจะถกู พนั กนั ตามมาตรฐานเพ่ือลดการ รบกวนจากคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟา้ จากคสู่ ายขา้ งเคยี งภายในเคเบิลเดยี วกนั หรอื จากภายนอก สาํ หรบั อตั ราการสง่ ขอ้ มลู ผ่านสายคบู่ ิดเกลยี วจะขนึ้ อยกู่ บั ความหนาของสายตวั ย กลา่ วคือ สายทองแดงท่มี ีเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางกวา้ งจะสามารถสง่ สญั ญาณฟฟา้ กาํ ลงั แรงไตแ้ ละ สามารถชส้ ง่ ขอ้ มลู ไตห้ ลายเมกะบติ ตอ่ วนิ าที ในระยะทางไดไ้ กลหลายกิโลเมตรซง่ึ มี 2 ชนิด คอื

-2. 1. สายคบู่ ดิ เกลยี วชนิดหมุ้ ฉนวน (Shielded Twisted Pair : STP)สายคบู่ ดิ เกลยี วชนิดหมุ้ ฉนวนเป็นสายคบู ิดเกลยี วท่ีหมุ้ ดว้ ยฉนวนชนั้ นอกท่ีหนาเพ่ือปอ้ งกนั การรบกวนของคล่ืน แม่เหลก็ ไฟฟา้ -2.2. สายคบู่ ิดเกลยี วชนิดไมห่ มุ้ ฉนวน (Unshielded Twisted Pair :UTP)สายคบู่ ดิ เกลียว ชนิดไมห่ มุ้ ฉนวนเป็นสายคบู่ ิดเกลียวท่ีหมุ้ ดว้ ยฉนวนชนั้ นอกท่ีบางทาํ ใหส้ ะดวกในการโคง้ งอ แตส่ ามารถปอ้ งกนั การรบกวนของคลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ไดน้ อ้ ยกวา่ ชนิดแรก 3.สายใยแกว้ นาํ แสง (Fiber Optic) เป็นสายท่ีใชแ้ สงเป็นสญั ญาณ และแกว้ หรอื พลาสติกใส เป็นส่อื นาํ สญั ญาณ ในขณะท่ีสายคเู่ กลียวบดิ และสายโคแกเซยี ลใช้ สญั ญาณฟฟา้ และโลหะ เป็นส่อื ขอ้ เสยี ของสายสญั ญาณประเภทโลหะ คือ จะถกู รบกวนจากแหลง่ คล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า ตา่ งๆ ไตง้ า่ ย เชน่ ฟ้าผา่ มอเตอรไ์ ฟฟา้ เป็นตนั แตส่ ายใยแกว้ นาํ แสงใชส้ ญั ญาณแสง ดงั นนั้ จงึ ไม่ถกู รบกวนโดยคล่นื แม่เหลก็ ไฟฟา้ จงึ ทาํ ใหส้ ายใยแกว้ นาํ แสงสามารถสง่ ขอ้ มลู ไดใ้ นอตั ราสงู และระยะไกลกวา่ แตก่ ารผลิต การตดิ ตงั้ และดแู ลรกั ษาจะยงุ่ ยาก และราคาแพงกวา่ สายท่ี เป็นโลหะ ดงั นนั้ สายใยแกว้ นาํ แสงจงึ เหมาะสาํ หรบั สงิ คท์ ่ีตอ้ งการแบรนดว์ ิธสงู และมีความ เช่ือถือไดส้ งู เหมาะสาํ หรบั การสง่ ขอ้ มลู ระยะไกล เชน่ ลิงคห์ ลกั (Backbone) ของระบบ เครอื ข่ายเสน้ ใยนาํ แสง เป็นการใชแ้ สงเคล่อื นท่ีไปในท่อแกว้ ซง่ึ สามารถสง่ ขอ้ มลู ตวั ยอตั รา ความหนาแนน่ ของสญั ญาณขอ้ มลู สงู มาก ปัจจบุ นั ถา้ ใชเ้ สน้ ใยนาํ แสงกบั ระบบอเี ธอรเ์ น็จะ ใชไ้ ดด้ ว้ ยความเรว็ 10 เมกะบิต ถา้ ใชก้ บั FDDI จะใชไ้ ดด้ ว้ ยความเรว็ สงู ถึง 100 เมกะบติ 5. โปรโตคอล (Protocol) หมายถงึ อะไร ปัจจุบันโปรโตคอลใดทนี่ ิยมใช้ทสี่ ุด ตอบ โปรโตคอล (Protocol) หมายถึง ขอ้ กาํ หนดหรอื ขอ้ ตกลงในการส่อื สารระหวา่ งคอมพวิ เตอร์ หรอื ภาษาส่อื สารท่ีใชเ้ ป็น ภาษา กลางในการส่ือสารระหวา่ งคอมพวิ เตอรด์ ว้ ยกนั การท่ีเคร่อื ง คอมพิวเตอรท์ ่ถี กู เช่ือมโยงกนั ไวใ้ นระบบจะสามารถติดตอ่ ส่อื สารกนั ไดน้ นั้ จาํ เป็นจะตอ้ งมี การส่อื สารท่เี รยี กวา่ โปรโตคอล ( Protocolเช่นเดียวกบั คนเราท่ีตอ้ งมีภาษาพดู เพ่ือใหส้ ่ือสาร เขา้ ใจกนั ได้ โปรโตคอลชว่ ยใหร้ ะบบคอมพิวเตอรส์ องระบบ ท่ีแตกตา่ งกนั สามารถส่อื สารกนั อยา่ งเขา้ ใจได้ คือขอ้ ตกลงท่กี าํ หนดเก่ียว กบั การส่ือสารระหวา่ งเคร่อื งคอมพิวเตอรต์ า่ งๆ ทงั้ วธิ ีการสง่ และรบั ขอ้ มลู วิธีการตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดของการสง่ และรบั ขอ้ มลู การแสดงผล

ขอ้ มลู เม่ือสง่ และรบั กนั ระหวา่ งเคร่อื งสองเครอ่ื ง ตงั นนั้ จะเหน็ ไดว้ า่ โปรโตคอลมีความสาํ คญั มากในการส่อื สารบนเครอื ขา่ ย หากไม่มีโปรโตคอลแลว้ การส่ือสารบนเครอื ขา่ ยจะไมส่ ามารถ เกิดขนึ้ ไดป้ ระเภทของ Network Protocols มีดงั นี้ 1.Communication Protoca (โปรโตคอลตา้ นการส่ือสาร) : ใชใ้ นการแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ขนั้ พืน้ ฐาน เชน่ TCP/IP และ HTTP 2.Management Protoco (โปรโตคอลตา้ นการจดั การ) : มีหนา้ ท่ีดแู ลรกั ษา และบรหิ าร เครอื ข่ายผา่ นโปรโตคอล เช่น ICMP และ SNMP 3.Security Protoco (โปรโตคอลตา้ นความปลอดภยั ) : ช่วยปกปอ้ งขอ้ มลู จากการถกู โจมตี จากอาชญากรไชเบอร์ เช่น HTTPS, SFTP และ SSLปัจจบุ นั โปรโตคอลท่ีนิยมใชม้ ากท่ีสดุ คอื โปรโตคอล TCPIP (Transmission ControV InternetProtocol ซง่ึ เป็นโปรโตคอลท่ใี ชใ้ น ระบบอนิ เทอรเ์ นต็ ซง่ึ เป็นระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอรท์ ่ีใหญ่ท่ีสดุ ในโลกนอกจากโปรโตคอลนี้ แลว้ ยงั มีโปรโตคอลอ่ืนๆ ท่ีนิยมใชก้ นั อยู่ เชน่ โปรโตคอล IPX/SPX (Internet Packet) Exchange/ Sequenced Packet Exchange) ซง่ึ เป็นโปรโตคอลท่ี พฒั นาโดยบรษิ ัทโนเวลล์ สาํ หรบั ใชก้ บั ระบบปฏิบตั ิการเน็ตแวร์ (Netware) โปรโตคอล TCP/P เป็นช่ือเรยี กของซตุ โปรโตคอลท่ีสาํ คญั มีการใชง้ านกนั อย่างแพรห่ ลายตามการขยายตวั ของอนิ เทอรเ์ นพ/ อินทรานท ความจรงิ แลว้ โปรโตคอล TCP/IP เป็นกลมุ่ ของโปรโตคอล หลายตวั ท่ีประกอบกนั เป็นชดุ ใหใ้ ชง้ านโดยมีคาํ เตม็ วา่ Transmission Control Protocol /InternetProtacol ซง่ึ จะ เห็นตว้ า่ มโี ปรโตคอลประกอบกนั ทาํ งาน 2 ตวั คือ TCP และ IP ตวั อย่างของกลมุ่ โปโตคอลใน ชดุ ของ TCP/P ท่ีเราพบและใชง้ านบอ่ ยๆ ( สว่ นใหญ่จะไมไ่ ดใ้ ชง้ านโดยตรง แตจ่ ะใชง้ านผา่ น แอพพลเิ คช่นั ตา่ งๆหรอื ทาํ งานโดยออ้ ม เชน่ Internet Protocol, Address Resolution Protocol(ARP) ,Internet ControlMessage Protocol (ICMP) ,User Datagram Protocol (UDP) ,Transport Control Protocol (TCP) และSimple Mail Transfer Protocol SMTP) โปรโตคอลท่ีมีบทบาทสาํ คญั ในการทาํ งานในเครอื ขา่ ยอินเทอรเ์ นทคอื Internet Protocol (โปรโตคอล IP) เน่ืองจากเม่ือโปรโตคอลอ่นื ๆตอ้ งการสง่ ผา่ นขอ้ มลู ขา้ ม เครอื ขา่ ยในอนิ เทอรเ์ นทนนั้ จะตอ้ งอาศยั การผนกึ ขอ้ มลู ไปกบั โปรโตคอล IP ท่ีมีกลไกการระบุ เสน้ ทาง ผา่ น Gateway หรอื Routerเพ่ือนาํ ขอ้ มลู ไปยงั เครอื ข่ายและเคร่อื งปลายทางท่ี

ถกู ตอ้ ง เน่ืองจากกลไกการระบเุ สน้ ทางจะทาํ งานท่ีโปรโตคอล IPเท่านนั้ และตวั ยเหตนุ ีเ้ ราจงึ เรยี ก วา่ เป็นโปรโตคอลท่ีมีความสามารถในการระบเุ สน้ ทางการสง่ ผา่ นของขอ้ มลู ได(้ Routable) การท่เี คร่อื งคอมหวิ เตอรจ์ ะสามารถส่อื สารกนั ไตจ้ าํ ตอ้ งมีกรระบแุ อดเดรสท่ีไม่ ชา้ํ กนั เพราะไมเ่ ชน่ นนั้ ขอ้ มลู ท่ีสง่ อาจจะไม่ถงึ ปลายทางได้ ซง่ึ แอดเตรสจะมีขอ้ กาํ หนด มาตรฐาน ซง่ึ ในการใชง้ านโปรโตคอลTCP/IP ท่ีเช่ือมโยงเครอื ข่ายนี้ จะเรยี กวา่ IP Address ( Internet Protocol Address)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook