วชิ า อินเทอรเ์ น็ตและพาณิชยอ์ เิ ล็กเทอรน์ ิกสพ์ นื้ ฐาน นาย ธนชล หมอยาดี รหสั นักศกึ ษา 4631071141107 ออกแบบภายในปี 3 นาย นิตภิ มู ิ ศรอี ุดร รหสั นักศึกษา 4631071141122 ออกแบบภายในปี 3 แบบฝึ กหัด 7 เรื่อง ประเภทของเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 1. จงบอกประเภทของเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ใช้ขนาดกายภาพทางภูมิศาสตร์ของเครือข่ายเป็ น เกณฑ์ แบ่งออกได้เป็ น 3 ประเภทดงั นี้ ตอบ 1. เครือขา่ ยทอ้ งถ่ิน (LAN: Local Area Network) 2. เครือข่ายในเขตเมือง (MAN: Metropolitan Area Network) 3. เครือขา่ ยบริเวณกวา้ ง (WAN: Wide Area Network)ใชล้ กั ษณะ หนา้ ท่ีการทาํ งานของคอมพิวเตอร์ในเครือขา่ ยเป็นเกณฑ์ สามารถแบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภทดงั น้ี -1. เครือข่ายแบบเท่าเทียม (Pccr-to-Peer Network) -2. เครือขา่ ยแบบผใู้ ชบ้ ริการและผใู้ หบ้ ริการ (Client-Server Network) ใชร้ ะดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มูลเป็นเกณฑส์ ามารถแบ่งไหค้ งั น้ี คือ 1. เครือข่ายสาธารณะ (Intemet) 2. เครือข่ายส่วนบุคคล (Intranet) 3.เครือข่ายร่วม (Extranct) 2. ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์สามารถจาํ แนกได้กป่ี ระเภทอะไรบ้าง ตอบ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์สามารถจาํ แนกได้ 3 ประเภท คือ -1.ประเภทของเครือข่ายคอมพวิ เตอร์แบ่งตามขนาดกายภาพทางภูมิศาสตร์ -2.ประเภทของเครือข่ายคอมพวิ เตอร์แบ่งตามหนา้ ท่ีของคอมพวิ เตอร์ -3.ประเภทของเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบ่งตามระดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มูล 3.ประเภทเคร่ือข่ายท่ีใช้ขนาดทางกายภาพของเครือข่ายเป็ นกณฑ์แบ่งเป็ นกป่ี ระเภท อะไรบ้างจงอธิบาย
ตอบ ใชข้ นาดทางกายภาพของเครือข่ายเป็นเกณฑ์ แบ่งออกไดเ้ ป็น 3 ประเภท ดงั น้ี 1.LAN (Local Area Network) : ระบบเครือข่ายระดบั ทอ้ งถิ่นเป็ นระบบ เครือข่ายท่ีใชง้ านอยใู่ นบริเวณท่ีไม่กวา้ งนกั าจใชอ้ ยภู่ ายในอาคารเดียวกนั หรืออาคารท่ีอยใู่ กลก้ นั เช่น ภายในมหาวทิ ยาลยั อาคารสาํ นกั งาน คลงั สินคา้ หรือโรงงาน เป็นตน้ การส่งขอ้ มูลสามารถทาํ ไดด้ ว้ ยความเร็วสูง และมีขอ้ ผดิ พลาดนอ้ ย ระบบเครือชาํ ยระดบั ทอ้ งถิ่นจึงถูกออกแบบมาให้ ช่วยลดตน้ ทุนและเพื่อเพิม่ ประสิทธิภาพในการทาํ งาน และใชง้ านอุปกรณ์ ต่าง ๆ ร่วมกนั 2.MAN (Metropolitan Area Network) : ระบบเครือขา่ ยระดบั เมือง เป็นระบบเครือขา่ ยที่มีขนาดอยรู่ ะหวา่ ง Lan และ Wan เป็นระบบ เครือขา่ ยที่ใชภ้ ายในเมืองหรือจงั หวดั เท่าน้นั การเชื่อมโยงจะลอ้ งอาศยั ระบบบริการเครือข่ายสาธารณะ จึงเป็นเครือข่ายท่ี ใชก้ บั องคก์ ารที่มีสาขา ห่างไกลและตอ้ งการเช่ือมสาขาหลาํ น้นั เขา้ ดว้ ยกนั เช่น ธนาคาร เครือขา่ ย แวนเช่ือมไขงระยะไกลมาก จึงมีความเร็วในการส่ือสารไม่สูง เนื่องจากมี สญั ญาณรบกวนในสาย เทคโนโลยที ่ีใชก้ บั เครือขา่ ยแวนมีความ หลากหลาย มีการเชื่อมโยงระหวา่ งประเทศดว้ ยช่องสญั ญาณดาวเทียม เสน้ ใยนาํ แสง คลื่นไมโครเวฟ คล่ืนวิทยสุ ายเคเบิล 3.WAN (Wide Area Network) : ระบบเครือข่ายระดบั ประเทศ หรือ เครือข่ายบริเวณกวา้ งเป็นระบบเครือขา่ ยที่ติดต้งั ใชง้ านอยใู่ นบริเวณกวา้ ง เช่น ระบบเครือข่ายที่ติดต้งั ใชง้ านทวั่ โลก เป็นเครือขา่ ยท่ีเช่ือมต่อ คอมพวิ เตอร์หรืออุปกรณ์ท่ีอยหู่ ่างไกลกนั เขา้ ดว้ ยกนั อาจจะตอ้ งเป็นการ ติดต่อสื่อสารกนั ในระดบั ประเทศ ขา้ มทวปี หรือทวั่ โลกกใ็ ด้ ในการเช่ือม
การติคต่อน้นั จะตอ้ งมีการต่อเขา้ กบั ระบบสื่อสารขององคก์ ารโทรศพั ท์ หรือการส่ือสารแห่งประเทศไทยเสียก่อน เพราะจะเป็นการส่งขอ้ มูลผา่ น สายโทรศพั ทใ์ นการติดต่อส่ือสารกนั โดยปกติมีอตั ราการส่งขอ้ มูลที่ต่าํ และ มีโอกาสเกิดขอ้ ผดิ พลาด การส่งขอ้ มูลอาจใชอ้ ุปกรณ์ใน การส่ือสาร เช่น โบเตม็ (Modem) มาช่วย 4.ประเภทครือข่ายที่ใช้ลกั ษณะหน้าที่การทาํ งานของคอมพวิ เตอร์ในเครือข่ายเป็ นเกณฑ์ สามารถแบ่งได้กป่ี ระเภท อะไรบ้างจงอธิบายใช้ลกั ษณะหน้าท่กี ารทํางานของ คอมพวิ เตอร์ในเครือข่ายเป็ นเกณฑ์ สามารถแบ่งได้เป็ น 2 ประเภทดงั นี้ ตอบ 1. Pecer-to-Peer Network หรือเครือข่ายแบบเท่าเทียม เป็นการเช่ือมต่อเคร่ืองคอมพวิ เตอร์เขา้ ดว้ ยกนั โดยเคร่ืองคอมพิวเตอร์ แต่ ละเครื่อง จะสามารถแบ่งทรัพยากรต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นไฟลห์ รือเครื่องพิมพ์ ซ่ึงกนั และกนั ภายในเครือข่ายได้ เครื่องแต่ละเครื่องจะทาํ งานในลกั ษณะที่ ทดั เทียมกนั ไม่มีเครื่องใดเครื่องเครื่องหน่ึงเป็นเคร่ืองหลกั เหมือนแบบ Client/ Server แต่กย็ งั คงคุณสมบตั ิพ้ืนฐานของระบบเครือขา่ ยไว้ เหมือนเดิม การเช่ือมต่อแบบน้ีมกั ทาํ ในระบบที่มีขนาคเลก็ ๆ เช่น หน่วยงานขนาคเลก็ ที่มีเคร่ืองใชไ้ ม่เกิน 10 เคร่ือง การเช่ือมต่อแบบน้ีมี จุดออ่ นในเร่ืองของระบบรักษาความปลอดภยั แต่ถา้ เป็นเครือขา่ ยขนาดเลก็ และเป็นงานที่ไม่มีขอ้ มูลที่เป็นความลบั มากนกั เครือข่ายแบบน้ี กเ็ ป็น รูปแบบท่ีน่าเลือกนาํ มาใชไ้ ดเ้ ป็นอยา่ งดี 2. Cient-Server Netwonk หรือเครือข่ายแบบผใู้ ชบ้ ริการและผู้ ใหบ้ ริการเป็นระบบที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องมีฐานะการทาํ งานที่ เหมือน ๆ กนั เท่าเทียมกนั ภายในระบบเครือข่าย แต่จะมีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ เคร่ืองหน่ึง ที่ทาํ หนา้ ท่ีเป็นเครื่อง Scrver ท่ีทาํ หนทั ่ีใหบ้ ริการทรัพยากร
ต่างๆ ใหก้ บั เครื่อง Clien หรือเคร่ืองที่ขอใชบ้ ริการ ซ่ึงอาาจจะตอ้ งเป็น เคร่ืองที่มีประสิทธิภาพที่ก่อนขา้ งสูง ถึงจะทาํ ใหก้ ารใหบ้ ริการมี ประสิทธิภาพตามไปดว้ ย ขอ้ ดีของระบบเครือข่าย Client - Server เป็นระบบที่มีการรักษาความปลอดภยั สูงกวา่ ระบบแบบ Per To Poer เพราะวา่ การจดั การในคา้ นรักษาความปลอดภยั น้นั จะทาํ กนั บน เครื่อง Server เพยี งเคร่ืองเดียว ทาํ ใหด้ ูแลรักมาง่าย และสะควก มีการ กาํ หนดสิทธิการเขา้ ใชท้ รัพยากรต่าง ๆใหก้ บั เครื่องผขู้ อใชบ้ ริการ หรือ เคร่ืองClient 5. ประเภทครือข่ายที่ใช้ระดบั ความปลอดภัยของข้อมูลเป็ นเกณฑ์มีอะไรบ้างจงอธิบาย ใช้ระดบั ความปลอดภยั ของข้อมูลเป็ นเกณฑ์สามารถแบ่งออกได้เป็ น 3 ประเภท ตอบ 1. อินเทอร์เน็ต (Intemet) เครือขา่ ยสาธารณะ เป็นเครือขา่ ยที่ครอบคลุมทวั่ โลก ซ่ึงมีคอมพวิ เตอร์เป็นลา้ นๆเครื่องเชื่อมต่อ เขา้ กบั ระบบและยงั ขยายตวั ข้ึนเร่ือย ๆ ทุกปี อินเทอร์เน็ตมีผใู้ ชท้ วั่ โลกหลายร้อยลา้ นคน และผใู้ ชเ้ หล่าน้ี สามารถแล ลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร กนั ไดอ้ ยา่ งอิสระ โดยที่ระยะทางและเวลาไม่เป็นอุปสรรค นอกจากน้ีผใู้ ช้ ยงั สามารถเขา้ ดูขอ้ มูลต่าง ๆ ที่ถูก ดีพิมพใ์ นอินเทอร์เน็ตได้ อินเทอร์เน็ตเชื่อมแหล่งขอ้ มลู ต่าง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั ไม่ วา่ จะเป็นองคก์ รธุรกิจ มหาวทิ ยาลยั หน่วยงานของรัฐบาล หรือแมก้ ระทงั่ แหล่งขอ้ มูลบุคคล องคก์ รธุรกิจหลาย องคก์ รไดใ้ ชอ้ ินเทอร์เน็ตช่วยในการ ทาํ การคา้ เช่น การติดต่อซ้ือขายผา่ นอินเทอร์เน็ตหรืออีคอมเมิรัช (E- Com erce) ซ่ึงเป็นอีกช่องทางหน่ึงสาํ หรับ
การทาํ ธุรกิจท่ีกาํ ลงั เป็นท่ีนิยม เน่ืองจากมีตน้ ทุนท่ีถูกกวา่ และมีฐานลูกคท้ ี่ ใหญ่มาก ส่วนขอ้ เสียของอินเทอร์เน็ตคือ ความปลอดภยั ของขอ้ มูล เน่ืองจากทุกคนสามารถเขา้ ถึงขอ้ มูลทุกอยา่ งท่ีแลกเปล่ียนผา่ น อินเทอร์เน็ตไดอ้ ินเทอร์เน็ตใชโ้ ปรโตคอลที่รียกวา่ \"TCPIP (Transport Connection Protoco/Internet Protocoly\" ในการส่ือสารขอ้ มูลผา่ นเครือข่าย ซ่ึงโปรโตคอลน้ีเป็นผล จากโดรงการหน่ึงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โครงการน้ีมีช่ือวา่ ARPANET (Advanced Research Projccts Agemcy Network) ในปี ค.ศ.1975 จุดประสงคข์ องโครงการน้ีเพอ่ื เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ท่ีอยหู่ ่างไกลกนั และภายหลงั จึงไดก้ าํ หนดใหเ้ ป็น โปรโตคอลมาตรฐานในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในปัจจุบนั อินเทอร์เน็ตได้ กลายเป็นเครือข่ายสาธารณะ ซ่ึงไม่มีผใู้ คหรือองคก์ รใดองคก์ รหน่ึงเป็น เจา้ ของอยา่ งแทจ้ ริง การเช่ือมต่อเขา้ กบั อินเทอร์เน็ตตอ้ งเช่ือมต่อผา่ นองคก์ ร ท่ีเรียกวา่ \"ISP (Intemet Service Provider)\" ซ่ึง จะทาํ หนา้ ท่ีใหบ้ ริการในการเชื่อมต่อเขา้ กบั อินเทอร์เน็ต นนั่ คือ ขอ้ มูลทุก อยา่ งที่ส่งผา่ นเครือขา่ ย ทุกคนสามารถดูได้ นอกเสียจากจะมีการเขา้ รหสั ลบั ซ่ึงผใู้ ชต้ อ้ งทาํ เอง 2. อินทราเน็ต (Intranct) หรือเครือขา่ ยส่วนบุคคลเป็นเครือข่ายส่วน บุคคลท่ีใชเ้ ทคในโลยอี ินเทอร์เน็ต เช่น เวบ็ , อืเมล, FIP เป็นตน้ อินทราเน็ตใชโ้ ปรโตคอล TCPIP สาํ หรับการรับส่งขอ้ มูลเช่นเดียวกบั อินเทอร์เน็ต ซ่ึงโปรโตคอลน้ีสามารถใชไ้ ดก้ บั ฮาร์ดแวร์หลายประเภท และ สายสญั ญาณหลายประเภท ฮาร์ดแวร์ท่ีใชส้ ร้างเครือข่ายไม่ใช่ปัจจยั หลกั ของอินทราเน็ต แต่เป็นซอฟตแ์ วร์ที่ทาํ ใหอ้ ินทราเน็ตทาํ งานไว้ อินทราเน็ต เป็นเครือข่ายที่องคก์ รสร้างข้ึนสาํ หรับใหพ้ นกั งานขององคก์ รใชเ้ ท่าน้นั การ
แชร์ขอ้ มูลจะอยเู่ ฉพาะในอินทร ราเน็ตเท่าน้นั หรือถา้ มีการแลกเปลี่ยน ขอ้ มูลกบั โลกภายนอกหรืออินเทอร์เน็ต องคก์ รน้นั สามารถท่ีจะกาํ หน นคน โยบายได้ ในขณะที่การแชร์ขอ้ มูลอินเทอร์เน็ตน้นั ยงั ไม่มีองคก์ รใดท่ี สามารถควบคุมการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลได้ เม่ือเชื่อมต่อเขา้ กบั อินเทอร์เน็ต พนกั งานบริษทั ของบริษทั สามารถติดต่อส่ือสารกบั โลกภายนอกเพื่อการ คน้ หาขอ้ มูลหรือทาํ ธุรกิจต่าง ๆ การใชโ้ ปรโตคอล TCPIPทาํ ใหผ้ ใู้ ช้ สามารถเขา้ ใชเ้ ครือข่ายจากท่ีห่างไกลได้ (Remote Access) เช่น จากที่บา้ น หรือในเวลาที่ตอ้ งเดินทางเพือ่ ติดต่อธุรกิจ การเช่ือมต่อเขา้ กบั อินทราเน็ต โดยการใชโ้ มเคม็ และสายโทรศพั ท์ กเ็ หมือนกบั การเช่ือมต่อเขา้ กบั อินเทอร์เน็ต แต่แตกต่างกนั ที่เป็นการเช่ือมต่อเขา้ กบั เครือข่ายส่วนบุคคล แทนท่ีจะเป็นเครือขา่ ยสาธารณะอยา่ งเช่นอินเทอร์เน็ต การเชื่อมต่อกนั ได้ ระหวา่ งอินทราเน็ตกบั อินเทอร์เน็ตถือเป็นประ โยชน์ที่สาํ คญั อยา่ งหน่ึง ระบบการรักษาความปลอดภยั เป็นสิ่งท่ีแยกอินทราเน็ตออกจากอินเทอร์เน็ต เครือขา่ ยอินทราเน็ตขององคก์ รจะถูกปกป้องโดยไฟร์วอลล์ (Ficwall) ซ่ึงอาจจะเป็นไดท้ ้งั ฮาร์ดแวร์และซอฟดแ์ วร์ที่ทาํ หนทั ่ีกรองขอ้ มูลที่ แลกเปล่ียนกนั ระหวา่ งอินทราเน็ตและอินเทอร์เน็ตเมื่อท้งั สองระบบมีการ เช่ือมต่อกนั ดงั น้นั องคก์ รสามารถกาํ หนดนโขบายเพื่อควบคุมการเขา้ ใช้ งานอินทราเน็ตไดอ้ ินทราเน็ตสามารถสนองความตอ้ งการของผใู้ ชใ้ น องคก์ ร ไดห้ ลายอยา่ ง ความง่ายในการตีพิมพบ์ นเวบ็ ทาํ ใหเ้ ป็นที่นิยมในการ ประกาศขา่ วสารขององคก์ ร เช่น ขา่ วภายในองคก์ รกฎ ระเบียบ และ มาตรฐาน การปฏิบตั ิงานต่าง ๆ เป็นตน้ หรือแมก้ ระทงั่ การเขา้ ถึงฐานขอ้ มูล ขององคก์ รกง็ ่ายเช่นกนั ผใู้ ชส้ ามารถทาํ งานร่วมกนั ไดง้ ่ายและมี ประสิทธิภาพมากข้ึน
3. เอก็ ส์ทราเน็ต (Extranet) หรือเครือข่ายร่วม ตอบ เป็นเครือข่ายก่ึงอินเทอร์เน็ตก่ึงอินทราเน็ต กล่าวคือ เอก็ ส์ทราเน็ตคือ เครือขา่ ยท่ีเช่ือมต่อระหวา่ งอินทราเน็ตของสององคก์ ร ดงั น้นั จะมีบางส่วน ของเครือข่ายที่เป็นเขา้ ของร่วมกนั ระหวา่ งสององคก์ รหรือบริษทั รงนโยบาย ท่ีเกี่ยวกบั การรักษาความปลอดภยั ของ การสร้างอินทราเน็ตจะไม่จาํ กดั ดว้ ย เทคโนโลยี แต่จะยากตรงขอ้ มูลที่ท้งั สององคก์ รจะตอ้ งตกลงกนั เช่น องคก์ รหน่ึงอาจจะอนุญาตใหผ้ ใู้ ชข้ องอีกองคก์ รหน่ึงลอ็ กอินเขา้ ระบบ อินทราเน็ตของตวั เองหรือไม่ เป็นตน้ การสร้างเอก็ ส์ทราเน็ตจะเนน้ ท่ีระบบ การรักษาความปลอดภยั ขอ้ มูลรวมถึงการติดต้งั ไฟร์วอลลห์ รือระหวา่ ง อินทราเน็ตและการเขา้ รหสั ขอ้ มูลและสิ่งที่สาํ คญั ท่ีสุดกค็ ือ นโยบายการ รักษาความปลอดภยั ขอ้ มูลและการบงั กบั ใช้
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: