Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 1 ความรู้และเจตคติเกี่ยวกับการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี

หน่วยที่ 1 ความรู้และเจตคติเกี่ยวกับการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี

Published by supaneeprachan, 2019-07-24 04:56:18

Description: หลักสูตรครูนิเทศก์

Search

Read the Text Version

ใบเนือ้ หา ๑.๑ แนวคดิ และหลกั การจดั การอาชีวศกึ ษาระบบทวภิ าคี การจดั การอาชีวศึกษาระบบทวภิ าคี การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวภิ าคี คือ การจัดการศึกษาวิชาชีพที่เกิดจากข้อตกลงระหว่างสถานศึกษา หรือสถาบันกับสถาน ประกอบการในเรอื่ ง - การจดั หลักสตู ร - การจัดการเรียนการสอน - การจัดการฝกึ อาชีพ - การวดั ผลและการประเมนิ ผล โดยผเู้ รยี นใช้เวลาสว่ นหน่งึ - เรยี นในสถานศึกษาหรือสถาบัน - เรียนภาคปฏบิ ัติในสถานประกอบการ คมู่ ือหลักสตู รครนู เิ ทศเพื่อการจดั การเรียนการสอน สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หน้า 3

พฒั นาการของการศึกษาระบบทวภิ าคี การพัฒนา การจัดอาชีวศึกษาโดยความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาและสถานประกอบการ ได้เร่ิมต้นดาเนินการต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๒๗ จนถึงปัจจุบัน มีพัฒนาการและเปล่ียนแปลงตามบริบทที่ เปลีย่ นแปลง แบง่ เป็น ๔ ชว่ งเวลาดงั นี้ ๑. โครงการโรงเรียน-โรงงาน (Dual System) พ.ศ. ๒๕๒๗ – ๒๕๓๗ ๒. โครงการอาชีวศึกษาระบบทวภิ าคี (Dual Vocational System) พ.ศ. ๒๕๓๘ – ๒๕๔๑ ๓. การฝึกงานคร่ึงหลกั สตู ร พ.ศ. ๒๕๔๒ – ๒๕๕๐ ๔. การศกึ ษาระบบทวภิ าคี พ.ศ. ๒๕๕๑ – ปัจจบุ ัน ระยะท่ี ๑ โครงการโรงเรยี น-โรงงาน (Dual System) พ.ศ. ๒๕๒๗ – ๒๕๓๗ วัตถุประสงค์ เพื่อฝึกช่างฝีมือท่ีมีคุณภาพตรงตามความต้องการของสถาน ประกอบการและประหยัดงบประมาณของรัฐบาล พ.ศ. ๒๕๒๗ กรมอาชีวศึกษาได้รับความช่วยเหลือทางวิชาการจากรัฐบาลสหพันธ์ สาธารณรัฐเยอรมนี ได้เร่ิมดาเนินการอย่างเป็นระบบ โดยบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จากัด ได้มอบ โรงเรียนซีเมนต์ไทยอุปถัมภ์ ให้กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการจัดต้ังวิทยาลัยเทคนิคท่าหลวง ซเี มนต์ไทยอนสุ รณ์ เพอื่ เป็นวทิ ยาลัยตน้ แบบทดลองจดั อาชีวศกึ ษาระบบโรงเรียน – โรงงานโดยได้รับ ความเห็นชอบและความชว่ ยเหลอื ทางวชิ าการ จากรฐั บาลสหพันธ์สาธารณรฐั เยอรมนี พ.ศ. ๒๕๓๒ กระทรวงศึกษาธิการอนุมัติให้ทดลองใช้หลักสูตรช่างชานาญงาน สาขาช่างซ่อมบารุงโรงงานอุตสาหกรรม ภายใต้ความช่วยเหลือ ด้านการจัดระบบและรูปแบบ การฝึกหัดจากองค์การ GTZ (Deutsche Gesell schaftFuer Teche Zusammenarbeit) สหพันธ์ สาธารณรัฐเยอรมนี พ.ศ. ๒๕๓๔ สถานศึกษาจัดการอาชีวศึกษาระบบโรงเรียน – โรงงานเพ่ิมขึ้นอีก ๓ แหง่ คอื วทิ ยาลัยเทคนิคมนี บุรี วทิ ยาลยั เทคนิคสมทุ รสงคราม และวทิ ยาลัยเทคนคิ ระยอง ปกี ารศกึ ษา ๒๕๓๕ ไดเ้ ปลยี่ นชอ่ื การจัดการศึกษาระบบโรงเรียน – โรงงานเป็นการจัด การศกึ ษาระบบทวภิ าคี (Dual Vocational Training : DVT) เมื่อสาเร็จการศึกษาได้รับประกาศนียบัตรช่างชานาญงาน สามารถทางานให้กับ สถานประกอบการได้ และส่วนมากจะได้เงินเดือนสูงกว่า ผู้สาเร็จระดับ ปวช. แต่ถ้าจะศึกษาต่อ ระดับ ปวส. จะตอ้ งเรยี นเพ่ิมให้ไดค้ รบตามโครงสรา้ งหลกั สตู ร ปวช. ขณะน้ัน ระยะท่ี ๒ โครงการอาชวี ศึกษาระบบทวิภาคี (Dual Vocational System) พ.ศ.๒๕๓๘ – ๒๕๔๑ รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีให้ความช่วยเหลือ เน้นด้านการประชาสัมพันธ์ สรา้ งความเขา้ ใจการพัฒนาครู อาจารย์ ครฝู กึ ของสถานประกอบการและผ้เู ชี่ยวชาญ พ.ศ. ๒๕๓๘ กรมอาชีวศึกษาได้จัดทาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช ๒๕๓๘ และได้รับอนุมัติตามคาสั่งกระทรวงศึกษาธิการให้ใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๓๘ เป็นต้นไปในหลักสูตรมีความหลากหลายวิธีการจัดการเรียนการสอนได้แก่ระบบปกติ ระบบทวิภาคี ระบบสะสมหน่วยกิต / เทยี บโอนและระบบทางไกล สืบเนือ่ งจากการประกาศใช้ พระราชบญั ญัติการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๒๐ การอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพให้จัดในสถานศึกษาของรัฐสถานศึกษาของเอกชนสถาน ประกอบการหรือโดยความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับสถานประกอบการทั้งน้ีให้เป็ นไปตาม กฎหมายว่าดว้ ยการอาชีวศกึ ษาและกฎหมายท่ีเกย่ี วข้อง คูม่ อื หลักสูตรครนู เิ ทศเพ่ือการจัดการเรียนการสอน สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา หน้า 4

รัฐ บ า ล ส ห พัน ธ์ส า ธ า ร ณ รัฐ เ ย อร ม นีใ ห้คว า ม ช่ว ย เ ห ลือเ น้น ด้า น กา ร ป ร ะช า สัมพัน ธ์ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จึงได้ดาเนินการพัฒนาหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพพุทธศักราช ๒๕๔๕ (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๔๖) และหลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชพี ช้ันสูงพทุ ธศักราช ๒๕๔๖ เพ่อื ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๖ การจัดการศึกษาในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพพุทธศักราช ๒๕๔๕ (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๔๖) และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูงพุทธศักราช ๒๕๔๖ เป็นการจัดอาชีวศึกษา โดยความร่วมมือกับสถานประกอบการกาหนดให้จัดการเรียนการสอนเน้นการปฏิบัติจริงสามารถนา รายวิชาชีพไปจัดฝึกในสถานประกอบการไม่น้อยกว่า ๑ ภาคเรียนเพื่อให้เกิดความรู้จริงจากการ ปฏบิ ัติงาน (On the job training) สถานศึกษาจัดแผนการเรยี นโดยนารายวชิ าชีพหรือบูรณาการราย วิชาชีพร่วมกับสถานประกอบการนาไปฝึกงานในสถานประกอบการ โดยการฝึกงานคร่ึงหลักสูตร (ในหลักสูตรไม่ใช้คาว่า ระบบทวิภาคี แต่เรียกว่าการฝึกงานครึ่งหลักสูตร) ให้สถานศึกษานารายวิชา ในหมวดวชิ าชพี ไปจดั ฝึกในสถานประกอบการอยา่ งตอ่ เน่ืองมีระยะเวลาฝึกงานอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของ ระยะเวลาเรียนตลอดหลักสูตร ระยะท่ี ๓ การศกึ ษาระบบทวภิ าคี พ.ศ. ๒๕๕๑ – ปจั จบุ นั สืบเนื่องจากพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๘ การจัดการ อาชีวศกึ ษาและการฝึกอบรมวิชาชีพให้จัดได้ ๓ รูปแบบคอื ๑) การศกึ ษาในระบบ ๒) การศกึ ษานอกระบบ ๓) การศึกษาระบบทวิภาคีเป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพที่เกิดจากข้อตกลงระหว่าง สถานศึกษาหรือสถาบันกับสถานประกอบการรัฐวิสาหกิจหรือหน่วย งานของรัฐในเรื่องการจัด หลักสูตรการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล โดยผู้เรียนใช้เวลาส่วนหน่ึงในสถานศึกษา อาชีวศึกษาหรือสถาบนั และเรียนภาคปฏบิ ตั ใิ นสถานประกอบการรฐั วิสาหกิจ หรือหนว่ ยงานของรัฐ เพื่อประโยชน์ในการผลิตและพัฒนากาลังคนสามารถจัดการศึกษาได้หลายรูปแบบ รวมกนั ทัง้ นีต้ อ้ งมงุ่ เนน้ การจัดการศึกษาระบบทวภิ าคเี ปน็ สาคัญ องคป์ ระกอบสาคญั ในการจัดการอาชวี ศกึ ษาระบบทวิภาคี การจดั การศกึ ษาระบบทวิภาคี มีองค์ประกอบทสี่ าคัญ ๖ ประการ ดงั นี้ ๑. มีบันทึกความร่วมมือ MOU (Memorandum of Understanding) ระหว่าง สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา / สถาบนั / สถานศึกษากบั สถานประกอบการ ๒. มสี ัญญาฝกึ อาชพี ระหวา่ งสถานประกอบการกับผ้เู รียน ๓. มีแผนการฝึกอาชีพในสถานประกอบการ ตลอดระยะเวลาการฝึกอาชีพที่กาหนดใน แผนการเรยี นตลอดหลกั สูตร ๔. มกี ารประเมินมาตรฐานการฝกึ อาชีพตามข้อตกลง และตามแผนการฝึกอาชีพที่จัดทา ร่วมกนั ระหว่างสถานประกอบการ และสถานศกึ ษาหรือสถาบนั คมู่ ือหลักสูตรครูนิเทศเพ่ือการจัดการเรยี นการสอน สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา หน้า 5

๕. มีใบรับรองการผ่านงานของสถานประกอบการ เม่ือส้ินสุดการฝึกอาชีพลงนาม โดยสถานประกอบการ ๖. มีวุฒิบัตรการศึกษาระบบทวิภาคีลงนามร่วมกัน ๒ ฝ่าย คือ สถานประกอบการ และสถานศกึ ษา/สถาบัน การเรมิ่ ตน้ การจดั การอาชีวศกึ ษาระบบทวิภาคี การจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี เป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพโดยความร่วมมือของ ๒ ฝ่าย คือ สถานประกอบการและสถานศกึ ษา ซึง่ ต้องมคี วามพร้อมท้งั ๒ ฝา่ ย การเรม่ิ ต้นจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี จะเร่ิมจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็ได้ โดยเร่ิมติดต่อกับ หนว่ ยงานท่เี กี่ยวขอ้ งของแตล่ ะฝ่ายพรอ้ มนาเสนอข้อมูลเบือ้ งต้น จดุ เริม่ ต้น สถานประกอบการ ตดิ ตอ่ สถานศกึ ษาเพอื่ แจ้ง สถานศกึ ษา/สถาบนั - ความประสงค์ / ความต้องการ  เจ้าของกิจการ - ระดบั ปวช. / ปวส./ปรญิ ญาตรี  ผอู้ านวยการ  ผู้จัดการ - สาขางาน  รองผูอ้ านวยการ ฝ่ายวชิ าการ - ลักษณะงานของสถานประกอบการ - หวั หน้าแผนกวิชา  ฝา่ ยบุคคล เสนอสถานประกอบการ - หวั หนา้ งานอาชวี ศกึ ษาระบบทวภิ าคี  ฝา่ ยฝกึ อบรม - แนวทางการจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี  รองผู้อานวยการ ฝ่ายแผนงานฯ  ฝา่ ยพัฒนาทรัพยากร - ประโยชน์ท่ีไดร้ บั ของทุกฝา่ ย - หัวหนา้ งานความร่วมมอื  ผทู้ สี่ ถานศกึ ษา/สถาบันมอบหมาย - ระดบั ปวช. / ปวส./ปรญิ ญาตรี - สาขางาน - ความพรอ้ มของสถานศึกษา สนใจท่ีจะดาเนนิ การจัดอาชีวศกึ ษาระบบทวิภาคี รว่ มกัน ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องมาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี พ.ศ. ๒๕๕๗ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเร่ือง มาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีอนุสนธิ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ืองกรอบมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖ ลงวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๖ ข้อ ๖ ให้คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ใช้กรอบมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษา แห่งชาตินี้เป็นหลักในการกาหนดมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแต่ละระดับ และให้ทาเป็นประกาศ กระทรวงศึกษาธิการเพ่ือให้สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและสถานศึกษานาไปเป็น แนวทางในการพัฒนาหรือปรับปรุงหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน และการพัฒนาคุณภาพ การจดั การอาชีวศกึ ษานั้น โดยที่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศกาหนดมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษา ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพ ระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชพี ชัน้ สงู และระดบั ปริญญาตรีสายเทคโนโลยี คมู่ อื หลักสูตรครนู ิเทศเพ่ือการจัดการเรยี นการสอน สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หน้า 6

หรือสายปฏิบัติการไว้แล้ว ดังนั้นจึงกาหนดมาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ให้สอดคล้องกับกรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติและมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแต่ละระดับ เพ่ือเป็นหลักและแนวทางในการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีแต่ละระดับ ให้มีคุณภาพและ ประสิทธภิ าพยิ่งข้ึน อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๘ และมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร ราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยคาแนะนาของ คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในการประชุมครั้งท่ี ๑๐/๒๕๕๗ เมื่อวันท่ี ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ จงึ ประกาศกาหนดมาตรฐานการจดั การอาชวี ศึกษาระบบทวภิ าคีไว้ ดงั ต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศน้ใี หใ้ ช้บังคับต้งั แต่วันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นต้นไป ข้อ ๒ การจดั การอาชวี ศึกษาระบบทวิภาคตี ้องมีมาตรฐานไม่ตา่ กว่า “กรอบมาตรฐานคุณวุฒิ อาชีวศึกษาแห่งชาติ และมาตรฐานคุณวฒุ ิอาชีวศกึ ษาแต่ละระดบั ” ข้อ ๓ การจัดการอาชีวศกึ ษาระบบทวิภาคี ต้องมุ่งให้เกิดมาตรฐานผลการเรียนรู้ของผู้สาเร็จ การศึกษาในแต่ละระดับ โดยมีแนวทางการจัดการเรียนการสอนและองค์ประกอบอื่น ๆ ตามมาตรฐานการจดั การอาชีวศกึ ษาระบบทวภิ าคที แี่ นบท้ายประกาศนี้ ข้อ ๔ ให้สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจัดให้มีการประเมินเพื่อพัฒนามาตรฐาน การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีในสถานศึกษาท้ังของรัฐและเอกชนท่ีจัดการอาชีวศึกษาระบบ ทวภิ าคอี ย่างตอ่ เนอื่ งอยา่ งน้อยทุก ๕ ปี ข้อ ๕ ในกรณีท่ีมีความจาเป็นต้องวินิจฉัยรายละเอียดจากมาตรฐานที่กาหนดไว้ในแนบท้าย ประกาศนใ้ี ห้อย่ใู นดลุ พนิ จิ ของสานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษาทีจ่ ะพิจารณาวินิจฉัยและให้ถือ ว่าคาวนิ จิ ฉัยของสานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษานั้นเป็นที่สุด ๑. หลักการและวัตถุประสงค์การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีตามพระราชบัญญัติการ อาชีวศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๘ กลา่ วไววา การศึกษาระบบทวิภาคีเป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพท่ี เกิดจากข้อตกลงระหว่างสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันกับสถานประกอบการรัฐวิสาหกิจ หรือ หน่วยงานของรัฐ ในเรื่องการจัดหลักสูตร การเรียนการสอน การวัดและประเมินผล โดยผู้เรียนใช้ เวลาสวนหนึ่งในสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบัน และเรียนภาคปฏิบัติในสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจหรือหนวยงานของรัฐโดยมีการจัดแผนการเรียน แผนการฝึกอาชีพ การฝึกทางาน การวัดผลและการประเมินผลเพื่อมุ่งเน้นผลิตผู้สาเร็จการศึกษาในระดับฝมือ ระดับเทคนิคและระดับ เทคโนโลยีใหเปนผูมีความรูความเขาใจมีทกั ษะมีคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพและกิจนิสัย ท่ีเหมาะสม ปฏิบัติงานไดจริง ปฏิบัติงานท่ีใชเทคนิคในการทางาน สรางและพัฒนางาน วางแผน จัดการพัฒนาตนเองและทางานรวมกับผูอื่นไดอยางมีความสุขใหมีความกาวหนาทางวิชาการและ วิชาชีพ มีสมรรถนะนาไปปฏิบัติงานหรือประกอบอาชีพอิสระไดตามมาตรฐานการศึกษาวิชาชีพและ มาตรฐานสมรรถนะของสาขาวิชานั้นๆ โดยสอดคลองกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติและ แผนการศึกษาแหงชาติ คมู่ อื หลักสตู รครนู เิ ทศเพื่อการจดั การเรยี นการสอน สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หน้า 7

๒. คุณภาพของผูสาเร็จการศึกษาทุกระดับคุณวุฒิ ประเภทวิชาและสาขาวิชาในการจัดการ อาชีวศึกษาระบบทวิภาคีตองครอบคลุมอยางนอย 3 ดาน ทั้งด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค ดานสมรรถนะหลัก ดา้ นสมรรถนะท่วั ไป และดานสมรรถนะวิชาชีพตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ิอาชีวศึกษาแหงชาติท่ีกาหนดและมีคุณลักษณะพเิ ศษ ดงั น้ี ๒.๑ สามารถปฏิบัติงานในสาขาวิชาที่ฝกอาชพี ไดทันที ๒.๒ มีสมรรถนะเปนไปตามมาตรฐานคุณวฒุ ิอาชีวศกึ ษาแตละสาขาในแตละระดบั ๓. โครงสรางหลกั สูตร จานวนหนวยกติ การคิดหนวยกติ ตอภาคเรยี น และการจดั การ ๓.๑ โครงสรางหลักสูตร จานวนหนวยกิตและการคิดหนวยกิตใหเปนไปตามประกาศ กระทรวงศกึ ษาธิการเร่ือง มาตรฐานคณุ วุฒอิ าชีวศกึ ษาแตละระดับ ๓.๒ การฝกอาชีพในสถานประกอบการโดยมีระยะเวลาไมนอยกวากึ่งหนึ่งของการจัด การศึกษาแตละระดบั ๔. ผูสอนและบุคลากรสนบั สนุนการจดั การอาชีวศกึ ษาระบบทวภิ าคี ๔.๑ คุณสมบัติผูสอนใหเปนไปตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรฐานคุณวุฒิ อาชวี ศึกษาแตละระดบั ๔.๒ ครูผูสอนวิชาชีพในสาขาวิชาของสถานศึกษาที่จัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีไม่ นอยกวารอยละ ๒๐ ตองไดรับการพัฒนาวิชาชีพที่สอนไมนอยกวา 40 ชั่วโมงตอคนตอปการศึกษา จากสถานประกอบการทีร่ วมจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ๔.๓ สถานศึกษาจัดใหมีผูมีประสบการณ มีความชานาญ มีความเช่ียวชาญดานวิชาชีพ มาถายทอดทักษะประสบการณและความรูแกผูเรียน ผูสอนไมนอยกวา ๒ คร้ังๆ ละ ไมต่า ๒ ชั่วโมง ตอสาขาวชิ าตอภาคเรียน ๕. ทรพั ยากรการเรยี นการสอนและการจัดการ ๕.๑ สถานศึกษาและสถานประกอบการตองมีวัสดุ ครุภัณฑ พื้นท่ีและอุปกรณการศึกษา สาหรบั ผูเรียนเพียงพอตอการจดั การเรยี นการสอนและการฝกอาชีพ ๕.๒ สถานศึกษาตองมีครูนเิ ทศวิชาชีพสาขาน้ันๆ ๕.๓ สถานประกอบการตองมีบุคลากรผูประสานงาน และครูฝก ๖. สถานศึกษาท่จี ดั การอาชวี ศึกษาระบบทวิภาคี ๖.๑ ผูบริหารและบุคลากรในสถานศึกษาตองสงเสริมสนับสนุนการจัดการอาชีวศึกษา ระบบทวิภาคีอยางเปนระบบและตอเนอ่ื ง ๖.๒ จัดการเรียนในสาขาวิชาตรงความตองการสถานประกอบการ ๖.๓ ทาบนั ทกึ ขอตกลงความรวมมือระหวางสถานศึกษาและสถานประกอบการ ๖.๔ ใหผูเรยี นทาสญั ญาการฝกอาชีพกับสถานประกอบการ ๖.๕ ทาแผนการเรียน แผนการฝกอาชีพและแผนการนิเทศรวมกับสถานประกอบการ ตลอดหลักสูตร ๖.๖ ปฐมนิเทศกอนการฝกอาชีพและปจฉมิ นิเทศหลังเสร็จส้นิ การฝกอาชพี ๖.๗ เตรียมความพรอมผูเรียนกอนการฝกอาชพี ๖.๘ มีครูนิเทศการฝกอาชีพในสถานประกอบการ ๖.๙ การกากบั ติดตามและประเมินผลการฝกอาชีพรวมกับสถานประกอบการ คู่มือหลักสูตรครูนเิ ทศเพื่อการจัดการเรียนการสอน สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา หน้า 8

๖.๑๐ ประชาสัมพันธการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีใหกับสถานประกอบการ ผูเรียนและผูปกครองทราบ ๗. สถานประกอบการที่จัดการอาชีวศึกษาระบบทวภิ าคี ๗.๑ สงเสริม สนบั สนนุ การจัดกิจกรรมพฒั นาเพอ่ื ใหผูเรียนมีคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค ๗.๒ ลกั ษณะงานที่ฝกอาชีพตองสอดคลองกบั การเรียนรูในสาขาวชิ าทผี่ ูเรียนกาลงั ศึกษา ๗.๓ ทาบันทึกขอตกลงความรวมมือระหวางสถานประกอบการกบั สถานศึกษา ๗.๔ ทาสัญญาการฝกอาชพี ระหวางผูเรียนกบั สถานประกอบการ ๗.๕ ทาแผนการเรียน แผนการฝกอาชีพและแผนการนิเทศรวมกับสถานศึกษาตลอด หลักสูตร ๗.๖ ประเมนิ การฝกอาชพี รวมกบั สถานศึกษา ๗.๗ มีครฝู กในสถานประกอบการ ๗.๘ มผี ูควบคุมการฝกอาชพี ๗.๙ มีผูประสานงานการจดั การอาชีวศึกษาระบบทวภิ าคีของสถานประกอบการ ๗.๑๐ ประชาสัมพันธการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีใหกับผูเรียน ผูปกครองและ ชมุ ชน ๗.๑๑ มีสวัสดิการและคาตอบแทนท่ีเหมาะสมใหกับผูเรียนตามขอตกลงระหวางสถาน ประกอบการและสถานศึกษา ๘. ครฝู กในสถานประกอบการ ๘.๑ มคี ณุ สมบตั ิตามกฎหมายวาดวยการอาชวี ศกึ ษา ๘.๒ การฝกอาชีพระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพและประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ตองมี ครูฝกหน่งึ คนตอผูเรียนไมเกนิ 10 คน ระดบั ปรญิ ญาตรตี องมคี รูฝก 1 คน ตอผูเรียนไมเกนิ 8 คน ๘.๓ ไดรบั การแตงต้งั ใหเปนครูฝกตามหลกั เกณฑ ที่คณะกรรมการการอาชวี ศึกษากาหนด ๙. คณุ สมบัติของผู้เรยี น ๙.๑ เปน็ ไปตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วย การจดั การศึกษาและการประเมนิ ผลการศึกษา ๙.๒ เป็นผู้ไดร้ บั การคัดเลือกจากสถานศึกษาและสถานประกอบการ ๑๐. การจัดการเรียนการสอนและการฝกึ อาชพี ของสถานประกอบการ ๑๐.๑ การจัดการเรียนการสอนและการฝึกอาชีพต้องเป็นไปตามจุดประสงค์สาขาวิชา และมาตรฐานคณุ วุฒอิ าชวี ศึกษาแต่ละสาขาในแตล่ ะระดบั ๑๐.๒ ผเู้ รยี นมกี ารบนั ทึกการฝึกอาชีพ แฟ้มสะสมผลงาน บันทึกคุณธรรมจริยธรรมและ จิตอาสาใหเ้ ปน็ ไปตามแบบที่สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษากาหนด ๑๑. ข้อกาหนดในการนเิ ทศ ๑๑.๑ การไปนิเทศผ้เู รียนในสถานประกอบการตามแผนการฝึกโดยแบ่งเป็นสองกรณีคือ ๑๑.๑.๑ การนิเทศในประเทศ ให้ครูนิเทศไปนิเทศในสถานประกอบการ แห่งละ ไม่นอ้ ยกว่า 3 ครง้ั ต่อภาคเรียน คมู่ อื หลักสตู รครนู ิเทศเพื่อการจัดการเรียนการสอน สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หน้า 9

๑๑.๑.๒ กรณีร่วมมือจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีกับต่างประเทศ การนิเทศ อาจแบง่ ออกเป็นสามวิธี ดังน้ี (๑) ให้ครนู เิ ทศไปนิเทศอย่างนอ้ ยหนึ่งครง้ั ตอ่ ภาคเรียน (๒) ให้ภาคีเครือขา่ ยในตา่ งประเทศเป็นผูน้ ิเทศแทนต่อภาคเรยี น (๓) ให้ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการนิเทศตา่ งประเทศอยา่ งสมา่ เสมอ ๑๑.๒ การไปนิเทศการฝึกอาชีพให้เป็นไปตามแผนการฝึกท่ีจัดทาข้ึน หากการฝึกอาชีพ ไมค่ รบถว้ นสถานศึกษาตอ้ งจดั การฝึกอาชีพให้เปน็ ไปตามจดุ ประสงค์สาขาวิชา ๑๑.๓ ครูนิเทศต้องผ่านการอบรมการนิเทศการฝึกอาชีพจากสานักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษาหรอื ผู้ไดร้ บั มอบหมาย ๑๑.๔ ชั่วโมงนิเทศการฝึกอาชีพในสถานประกอบการให้คิดเป็นเวลาช่ัวโมงสอนปกติ หากชั่วโมงสอนเกินภาระงานท่ีกาหนดสามารถเบิกค่าสอนเกินภาระงานได้ตามระเบียบของทาง ราชการ ๑๑.๕ การเดินทางไปนิเทศให้เบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการได้ตามระเบียบ ของกระทรวงการคลงั ๑๒. การวัดผลและประเมินผลการเรยี นและการสาเร็จการศึกษา ๑๒.๑ ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษาและ ประเมินผลการเรียนตามหลกั สูตรแตล่ ะระดบั ๑๒.๒ การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ ให้ดาเนินการอย่างเป็นระบบและใช้วิธีการ ประเมนิ อยา่ งหลากหลายตามสภาพจรงิ สอดคลอ้ งกบั จุดมุ่งหมายของหลักสูตรและกิจกรรมการเรียน การสอน การฝึกอาชพี โดยคานึงถงึ พฒั นาการของผเู้ รียนและสมรรถนะที่ตอ้ งการ ๑๓. การประกันคุณภาพ ๑๓.๑ การประกันคุณภาพหลักสูตร ๑๓.๑.๑ ให้ทุกหลักสูตรต้องกาหนดระบบการประกันคุณภาพไว้ให้ชัดเจน ครอบคลุมท้ังคุณภาพผู้สาเร็จการศึกษา การบริหารหลักสูตรทรัพยากรการจัดการอาชีวศึกษา ความตอ้ งการกาลังคนของตลาดแรงงาน ๑๓.๑.๒ กาหนดสมรรถนะรายวิชา โดยปรับปรุงรายวชิ าเดิมหรอื พฒั นารายวิชา ใหมใหสอดคลองกบั ความตองการของสถานประกอบการ ๑๓.๒ การประกนั คณุ ภาพผูสาเรจ็ การศกึ ษา ๑๓.๒.๑ มีคุณวุฒิตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง มาตรฐานคุณวุฒิ อาชวี ศกึ ษาแตละระดบั ๑๓.๒.๒ มีทักษะและความสามารถในการกากับดูแล มีความเช่ียวชาญในการ แกไขปญหาการปฏิบัติงาน ๑๓.๒.๓ สถานประกอบการมคี วามพงึ พอใจในศักยภาพผูสาเร็จการศึกษา ๑๓.๒.๔ มีใบรบั รองการฝกอาชีพจากสถานประกอบการองคกรเอกชน สมาคม องคกรวิชาการหรอื องคกรวิชาชพี ค่มู ือหลักสตู รครูนิเทศเพ่ือการจดั การเรยี นการสอน สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา หน้า 10

ใบเน้อื หา เรอ่ื ง กฎหมาย แผน นโยบาย และยุทธศาสตร์ในส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับการผลิตและพัฒนากาลังคน ๑. กฎหมายการศกึ ษา ๑.๑ พระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และ ทเ่ี ก่ยี วข้อง พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่ให้ความสาคัญกับการปฏิรูป การศึกษาทั้งด้านการบริหารและการจัดการเรียนการสอนเพ่ือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง รวมทั้งการปฏิรูปการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและภาคอุตสาหกรรม มาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ กาหนดให้การอาชีวศึกษา การฝกึ อบรมวิชาชีพ ให้จัดในสถานศึกษาของรัฐ สถานศึกษาของเอกชนสถานประกอบการ หรือ โดยความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับสถานประกอบการ ทั้งน้ีให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการ อาชีวศึกษาและกฎหมายที่เก่ียวขอ้ ง ๑.๒ พระราชบญั ญตั กิ ารอาชวี ศกึ ษาพ.ศ. ๒๕๔๑ พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๘ ได้กาหนดรูปแบบการจัดการ อาชีวศกึ ษาและการฝกึ อบรมวชิ าชพี ไว้ ๓ รูปแบบ ได้แก่ ๑) การศึกษาในระบบ เป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพท่ีเน้นการศึกษาในสถานศึกษา อาชีวศึกษาหรือสถาบันเป็นหลักโดยมีการกาหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลา การวัดและการประเมนิ ผลที่เปน็ เงื่อนไขของการสาเร็จการศึกษาทแี่ นน่ อน ๒) การศึกษานอกระบบ เป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพท่ีมีความยืดหยุ่นในการกาหนด จดุ มงุ่ หมาย รูปแบบ วิธีการศึกษา ระยะเวลา การวัดและการประเมินผลท่ีเป็นเงื่อนไขของการสาเร็จ การศึกษา โดยเนอื้ หาแตล่ ะกล่มุ ๓) การศึกษา ระบบทวิภาคีเป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพที่เกิดจากข้อตกลงระหว่าง สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันกับสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐในเรื่อง การจัดหลักสูตรการเรียนการสอนการวัดและการประเมินผล โดยผู้เรียนใช้เวลาส่วนหน่ึงใน สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันและเรียนภาคปฏิบัติในสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือ หน่วยงานของรัฐทั้งน้ีเพื่อประโยชน์ในการผลิตและพัฒนากาลังคน สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือ สถาบันสามารถจัดการศึกษาตามวรรคหนึ่งในหลายรูปแบบรวมกันก็ได้ท้ังน้ีสถานศึกษาอาชีวศึกษา หรือสถาบันนั้นต้องมุ่งเน้นการจัดการศึกษาระบบทวิภาคีเป็นสาคัญสานักงานคณะกรรมการการ อาชีวศึกษาซ่ึงเป็นหน่วยงานหลักในการผลิตและพัฒนากาลังคนสายอาชีพจึงได้ผลักดันนโยบาย การจัดการศึกษาระบบทวิภาคี มุ่งให้การจัดการเรียนการสอนได้คุณภาพมาตรฐานร่วมกับสถาน ประกอบการ โดยกระบวนการที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงและสามารถ พฒั นาขีดความสามารถในการแขง่ ขันทงั้ ดา้ นการผลติ และบริการของประเทศ คมู่ ือหลักสตู รครนู ิเทศเพ่ือการจดั การเรยี นการสอน สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา หน้า 17

๑.๓ มาตรฐานการจัดการอาชวี ศกึ ษาระบบทวิภาคี พ.ศ. ๒๕๕๗ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเร่ือง มาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี อนุสนธิประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กรอบมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖ ลงวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๖ ข้อ ๖ ให้คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ใช้กรอบมาตรฐานคุณวุฒิ อาชีวศึกษาแห่งชาตินี้เป็นหลักในการกาหนดมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแต่ละระดับ และให้ทาเป็น ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเพ่ือให้สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและสถานศึกษานาไป เป็นแนวทางในการพัฒนาหรือปรับปรุงหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน และการพัฒนาคุณภาพ การจดั การอาชีวศกึ ษานั้น โดยท่ีกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศกาหนดมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษา ระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชั้นสูงและระดบั ปริญญาตรีสายเทคโนโลยี หรือสายปฏิบัติการไว้แล้วดังน้ัน จึงกาหนดมาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ให้สอดคล้องกับกรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติและมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแต่ละระดับ เพื่อเป็นหลักและแนวทางในการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีแต่ละระดับ ให้มีคุณภาพและ ประสิทธภิ าพยิง่ ขน้ึ คู่มอื หลักสูตรครูนเิ ทศเพื่อการจัดการเรียนการสอน สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หน้า 18

ใบเนอ้ื หา 1.3/1 หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชัน้ สงู พุทธศกั ราช 2557 หลกั การของหลกั สตู ร 1. เป็นหลกั สูตรระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพช้ันสูง เพื่อพัฒนากาลังคนระดับเทคนิคให้มีสมรรถนะมี คุณธรรม จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ สามารถประกอบอาชีพได้ตรงตามความต้องการของ ตลาดแรงงานและประกอบอาชีพอิสระ สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและ แผนการศกึ ษาแห่งชาตทิ ง้ั ในระดบั ชมุ ชน ระดบั ทอ้ งถ่ินและระดบั ชาติ 2. เป็นหลักสูตรท่ีเปิดโอกาสให้เลือกเรียนได้อย่างกว้างขวาง เน้นสมรรถนะด้วยการปฏิบัติจริง สามารถเลือกวิธีการเรียนตามศักยภาพและโอกาสของผู้เรียน เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเทียบ โอนผลการเรียนสะสมผลการเรียน เทียบความรู้และประสบการณ์จากแหล่งวิทยาการ สถาน ประกอบการและสถานประกอบอาชพี อสิ ระ 3. เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นให้ผู้สาเร็จการศึกษามีสมรรถนะในการประกอบอาชีพ มีความรู้เต็มภูมิ ปฏบิ ตั ิไดจ้ รงิ มีความเป็นผนู้ าและสามารถทางานเป็นหมคู่ ณะได้ดี 4. เป็นหลักสูตรที่สนับสนุนการประสานความร่วมมือในการจัดการศึกษาร่วมกันระหว่างหน่วยงาน และองคก์ รที่เก่ยี วขอ้ ง ทง้ั ภาครัฐและเอกชน 5. เป็นหลักสูตร ท่ีเปิดโอกาสให้สถานศึกษา ชุมชนและท้องถิ่น มีส่วนในการพัฒนาหลักสูตรให้ตรง ตามความต้องการและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของภูมิภาค เพ่ือเพิ่มขีดความสามารถในการ แขง่ ขันของประเทศ คู่มอื หลักสตู รครูนิเทศเพื่อการจดั การเรียนการสอน สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา หน้า 25

จดุ หมายของหลักสตู ร 1. เพื่อให้มีความรู้และทักษะพื้นฐานในการดารงชีวิต สามารถศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมหรือศึกษาต่อใน ระดบั ทส่ี งู ขึ้น 2. เพื่อใหม้ ีทักษะและสมรรถนะในงานอาชีพตามมาตรฐานวิชาชีพ 3. เพ่ือให้สามารถบูรณาการความรู้ ทักษะจากการศาสตร์ต่างๆ ประยุกต์ใช้ในงานอาชีพ สอดคล้อง กบั การเปลีย่ นแปลงทางเทคโนโลยี 4. เพ่ือให้มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพ มีความม่ังใจและภาคภูมิใจในงานอาชีพ รักงาน รักองค์กร สามารถ ทางานเปน็ หมูคณะได้ดี และมีความภาคภมู ใิ จในตนเองต่อการเรยี นวชิ าชพี 5. เพื่อให้ปัญญา ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถในการจัดการ การตัดสินใจและ การแก้ปัญหา รู้จักแสวงหาแนวทางใหม่ๆ มาพัฒนาตนเอง ประยุกต์ใช้ความรู้ในการสร้างงานให้ สอดคล้องกบั วชิ าชพี และการพฒั นางานอาชีพอยา่ งต่อเนอ่ื ง 6. เพื่อให้บุคลิกภาพท่ีดี มีคุณธรรม จริยธรรม ซ่ือสัตย์ มีวินัย มีสุขภาพสมบรูณ์แข็งแรงท้ังร่างการ และจติ ใจ เหมาะสมกับการปฏบิ ตั ิในอาชีพนั้นๆ 7. เพอ่ื ให้เป็นผู้มพี ฤตกิ รมทางสงั คมท่ดี ีงาม ตอ่ ตา้ นความรุนแรงและสารเสพติด ท้ังในการทางานการ อยู่ร่วมกัน มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว องค์กร ท้องถิ่นและประเทศชาติอุทิศตนเพื่อสังคม เขา้ ใจและเห็นคุณคา่ ของศิลปวัฒนธรรมไทย ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ตระหนกั ในปญั หาและความสาคัญ ของส่ิงแวดล้อม 8. เพ่ือให้ตระหนักและมีส่วนร่วมในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ โดยเป็นกาลัง สาคัญในด้านการผลติ และใหบ้ ริการ 9. เพื่อให้เห็นคุณค่าและดารงไว้ซึงสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตนในฐาน พลเมอื งดี ตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมขุ คูม่ ือหลักสูตรครนู ิเทศเพื่อการจัดการเรยี นการสอน สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หน้า 26

หลกั เกณฑ์การใช้หลกั สูตร ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชั้นสูง พทุ ธศักราช 2557 1. การเรยี นการสอน 1.1 การเรยี นการสอนตามหลกั สตู รนี้ ผูเ้ รียนสามารถลงทะเบยี นเรยี นได้ทุกวิธีเรยี นท่ีกาหนด และนาผลการเรียนแต่ละวิธีมาประเมินผลร่วมกันได้ สามมารถเทียบโอนผลกาเรียน และของเทียบ ความรู้และประสบการณไ์ ด้ 1.2 การจัดการเรยี นการสอนเน้นการปฏบิ ัตจิ ริง สามารถจดั การเรียนการสอนได้หลากหลาย รูปแบบ เพื่อให้ผู้เรียนสามมารถประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะในวิชาการท่ีสัมพันธ์กับวิชาชีพในการ วางแผนแก้ปัญญาและจัดการทรัพยากรในการดาเนินงานได้อย่างเหมาะสม มีส่วนร่วมในการพัฒนา วิชาการ ริเร่ิมสิ่งใหม่มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้อ่ืนและหมู่คณะ เป็นอิสระในการปฏิบัติงานท่ี ซับซ้อนหรือจัดการงานผู้อ่ืนมีส่วนร่วมท่ีเก่ียวกับการวางแผน การประสานงานและการประเมินผล รวมทง้ั มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี เจตคตแิ ละกิจนิสัยทเี่ หมาะสมในการทางาน 2. การจดั การศกึ ษาและเวลาเรยี น 2.1 การจดั การศึกษาในระบบปกตสิ าหรับผเู้ ข้าเรียนท่ีสาเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่าในประเภทวิชาและสาขาวิชาตามที่หลักสูตรกาหนด ใช้ระยะเวลา 2 ปี การศึกษาส่วนผู้เข้าเรียนที่สาเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า และผู้เข้าเรียน เทา่ สาเรจ็ การศึกษาระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชพี (ปวช.) หรอื เทยี บเท่าต่างประเภทวิชาและสาขาวิชา ทีก่ าหนด ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ปีการศึกษา 2.2 การจัดเวลาเรียนให้ดาเนินการ ดงั นี้ 2.2.1 ในปีการศึกษาหนึ่งๆ ให้แบ่งภาคเรียนออกเป็น 2 ภาคเรียนปกติหรือระบบ ทวิภาค ภาคเรยี นละ 18 สปั ดาห์ โดยมเี วลาเรยี นและจานวนหนว่ ยกติ ตามที่กาหนด และสถานศึกษา อาชีวศกึ ษาหรอื สถาบันอาจเปิดสอนภาคเรยี นฤดรู อ้ นไดอ้ ีกตามท่เี หน็ สมควร 2.2.2 การเรียนในระบบชั้นเรียน ให้สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันเปิดทาการ สอน ไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 5 วันๆละไม่เกิน 7 ชั่วโมง โดยกาหนดให้จัดการเรียนการสอนคาบละ 60 นาที 3. หนว่ ยกิต ใหม้ ีจานวนหน่วยกิตตลอกหลักสตู ร ระหวา่ ง 83-90 หน่วยกติ การคิดหน่วยกิตถือเกณฑด์ งั น้ี 3.1 รายวิชาทฤษฎีท่ใี ช้เวลาบรรยายหรืออภปิ ราย ไมน่ อ้ ยกวา่ 18 ชว่ั โมง เทา่ กบั 1 หนว่ ยกติ 3.2 รายวิชาปฏิบัติท่ีใช้เวลาในการฝึกปฏิบัติท่ีใช้เวลาในการทด ลองหรือฝึกปฏิบัติใน หอ้ งปฏบิ ัติการ ไมน่ อ้ ยกวา่ 36 ชั่วโมง เท่ากับ 1 หน่วยกติ 3.3 รายวิชาปฏิบัติท่ีใช้เวลาในการฝึกปฏิบัติในโรงฝึกงานหรือภาคสนาม ไม่น้อยกว่า 54 ชวั่ โมง เท่ากับ 1 หน่วยกิต 3.4 รายวชิ าทใี่ ชใ้ นการศึกษาระบบทวิภาคี ไม่น้อยกว่า 54 ชัว่ โมง เทา่ กบั 1 หนว่ ยกติ 3.5 การฝึกประสบการณ์ทักษะวิชาชีพในสถนประกอบการหรือแหล่งวิทยาการ ไม่น้อยกว่า 320ชว่ั โมงเท่ากบั 4 หน่วยกิต 3.6 การทาโครงการพฒั นาทักษะวชิ าชีพ ไม่น้อยกวา่ 54 ช่ัวโมง เท่ากับ 1 หนว่ ยกติ คูม่ ือหลักสูตรครนู ิเทศเพื่อการจัดการเรยี นการสอน สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา หน้า 27

4. โครงสร้าง โครงสรา้ งของหลักสตู รประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง พุทธศักราช 2557 แบ่งเป็น 3 หมวด วชิ าและกิจกรรมเสรมิ หลกั สูตร ดงั นี้ 4.1 หมวดวชิ าทกั ษะชวี ติ 4.1.1 กลุ่มทกั ษะภาษาและการส่ือสาร 1) กลมุ่ วชิ าภาษาไทย 2) กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ 4.1.2 กลมุ่ ทักษะการคดิ และการแก้ปัญหา 1) กลมุ่ วชิ าวิทยาศาสตร์ 2) กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ 4.2 หมวดวชิ าทักษะวิชาชีพ 4.2.1 กลุ่มทกั ษะวิชาชพี พ้นื ฐาน 4.2.2 กลมุ่ ทักษะวชิ าชีพเฉพาะ 4.2.3 กลมุ่ ทกั ษะวชิ าชพี เลอื ก 4.2.4 ฝกึ ประสบการณ์ทกั ษะวิชาชีพ 4.2.5 โครงการพัฒนาทักษะวิชาชพี 4.3 หมวดวิชาเลือกเสรี 4.4 กจิ กรรมเสรมิ หลกั สตู ร จานวนหน่วยกิตของแต่ละหมวดวิชาตลอดหลักสูตร ให้เป็นไปตามที่กาหนดไว้ในโครงสร้าง ของแต่ละประเภทวิชาและสาขาวิชา รายวิชาแต่ละหมวดวิชา สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบัน สามารถจัดตามที่กาหนดไวใ้ นหลักสูตร และหรือพัฒนาได้ตามความเหมาะสมตามสมตามยุทธศาสตร์ ของภูมิภาค เพื่อเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศท้ังนี้ สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือ สถาบันต้องกาหนดรหัสวชิ าจานวนหนว่ ยกติ และจานวนชวั่ โมงเรยี นตามทีก่ าหนดไว้ในหลักสตู ร 5. การฝึกประสบการณท์ ักษะวชิ าชีพ เป็นการจัดกระบวนการเรยี นรโู้ ดยความร่วมมอื ระหว่างสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถานบัน กับภาคการผลิตและหรอื ภาคบรกิ าร หลงั จากทเ่ี รียนได้เรียนรู้ภาคทฤษฎีและการฝึกหัดหรือฝึกปฏิบัติ เบื้องต้นในสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันแล้วระยะเวลาหนึ่ง ท้ังน้ีเพ่ือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ เรยี นรจู้ ากประสบการณจ์ ริง ได้สัมผัสกับการปฏิบัติงานอาชีพ เครื่องมือเคร่ืองจักร อุปกรณ์ท่ีทันสมัย และบรรยากาศการทางานร่วมกันส่งเสริมการฝึกทักษะการจัดการ การเผชิญสถานการณ์ ซ่ึงจะช่วย ให้ผู้เรียนคิดได้ ทาเป็น และเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเน่ือง ตลอดจนเกิดความม่ันใจและเจตคติท่ีดีใน ทางานและการประกอบอาชพี อิสระโดยการจดั ฝกึ ประสบการณท์ ักษะวิชาชพี ต้องดาเนนิ การ ดงั น้ี คู่มือหลักสตู รครูนเิ ทศเพ่ือการจัดการเรยี นการสอน สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หน้า 28

5.1 สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันต้องจัดให้มีการฝึกประสบการณ์ทักษะวิชาชีพในรูป ของการฝึกงานในสถานประกอบการ แหล่งวิทยากร รฐั วสิ าหกจิ หรอื หนว่ ยงานของรฐั โดยใช้เวลารวม ไม่น้อยกว่า 320 ช่ัวโมง กาหนดให้มีค่าเท่ากับ 4 หน่วยกิต โดยให้นารายวิชาในหนวดวิชาทักษะ วิชาชีพที่ตรงหรือสัมพันธ์กับลักษณะงานไปเรียนหรือฝึกในสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจหรือ หน่วยงานของรฐั ได้โดยใชเ้ วลาร่วมกับการฝกึ ประสบการณ์ทกั ษะวชิ าชีพ ไม่น้อยกว่า 1 ภาคเรยี น 5.2 การตัดสินผลการเรยี นและให้ระดับผลการเรียน ใหป้ ฏิบตั เิ ชน่ เดียวกบั รายวิชาอนื่ 6. โครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชพี เป็นรายวิชาท่ีเปิดโอกาสให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้า บูรณาการความรู้ ทักษะและประสบการณ์ จากสง่ิ ท่ไี ดเ้ รียนรู้ ลงมือปฏิบัตดิ ว้ ยตนเองตามความถนัดและความสนใจในลักษณะงานวิจัย ตั้งแต่การ เลือกหัวข้อหรือเรื่องท่ีจะศึกษาค้นคว้า การวางแผน การกาหนดข้ันตอนการดาเนินการ การ ดาเนินงาน การประเมินผลและการจัดทารายงาน ซ่ึงอาจทาเป็นรายบุคคลหรือกลุ่มก็ได้ ข้ึนอยู่กับ ลกั ษณะของโครงการน้นั ๆโดยการจดั ทาโครงการดงั กลา่ วตอ้ งดาเนนิ การดังนี้ 6.1 สถานศกึ ษาอาชีวศกึ ษาหรอื สถาบันต้องจัดให้ผู้เรียนจัดทาโครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ ในภาคเรียนท่ี 3 และหรือภาคภาคเรียนที่ 4 รวมจานวน 4 หน่วยกิต ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 216 ช่ัวโมง ท้ังนี้สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันต้องจัดให้มีชั่วโมงเรียน 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ กรณีท่ีมี รายวชิ าเดียว หากจัดให้มีโครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ 2 รายวิชา คือ โครงการ 1 และโครงการ 2ให้ สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันจัดให้มีชั่วโมงเรียนต่อสัปดาห์ท่ีเทียบเคียงกับเกณฑ์ดังกล่าว ขา้ งตน้ 6.2 การตัดสินคา้ ผลการเรยี นและใหร้ ะดบั ผลการเรยี น ใหป้ ฏิบตั ิเช่นเดียวกบั รายวชิ าอ่นื 7. การศึกษาระบบวิภาคี การศึกษาระบบทวิภาคีเป็นรูปแบบการจัดการศึกษาท่ีเกิดจากข้อตกลงร่วมกันระหว่าง สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันกับสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ โดยผู้เรียนใช้เวลาส่วนหน่ึงในสถานศึกษาอาชีวศึกษาสถาบัน และการเรียนภาคปฏิบัติในสถาน ประกอบการ รัฐวิสาหกจิ หรือหนว่ ยงานของรัฐ เพ่ือให้การจัดการศึกษาระบบทวิภาคีสามารถเพ่ิมขีด ความสมมารถดา้ นการผลิตและพฒั นากาลงั คนที่ตรงความต้องการของผู้ใช้ตามจุดหมายของหลักสูตร สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันต้องนารายวิชาทวิภาคีในกลุ่มทักษะวิชาชีพเลือก ไปร่วมกาหนด รายละเอยี นของรายวิชาไดแ้ ก่ จุกประสงคร์ ายวิชา สมรรถนะรายวิชา คาอธิบายรายวิชา เวลาที่ใช้ฝึก และจานวนหน่วยกิตให้สอดคล้องกับลักษณะงานของสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงาน ของรฐั รวมท้งั สมรรถนะวิชาชีพของสาขางานพร้อมจัดทาแผนฝึกอาชีพ การวัดและประเมินผลในแต่ ละรายวชิ าทัง้ นอ้ี าจนารายวิชาชีพอนื่ ในหมวดวิชาทกั ษะวชิ าชพี ไปจัดรว่ มดว้ ยกไ็ ด้ จานวนหน่วยกิตและจานวนช่ัวโมงท่ีใช้ฝึกอาชีพของแต่ละรายวิชาวิภาคีให้เป็นไปตามท่ี หลักสตู รกาหนด และให้รายงานการพัฒนารายวชิ าให้สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาทราบ คมู่ ือหลักสตู รครูนเิ ทศเพื่อการจดั การเรียนการสอน สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หน้า 29

8. การเข้าเรียน ผูเ้ ขา้ เรยี นตอ้ งมพี นื้ ความรูแ้ ละคณุ สมบตั ิ ดงั นี้ 8.1 พ้นื ความรู้ สาเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า และผู้สาเร็จการศึกษาระดับ มัธยมศึกษาตอนปลายหรอื เทยี บเท่า ผู้เข้าเรียนท่ีสาเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า และผู้สาเร็จ การศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพต่างประเภทวิชาและสาขาวิชาท่ีกาหนด ต้องเรียนรายวิชา ปรบั พืน้ ฐานวชิ าชพี ให้ครบตามทีร่ ะบุไว้ในหลกั สูตรแต่ละประเภทวิชาและสาขาวิชา การเรียนรายวิชาปรบั พืน้ ฐานวิชาชีพ ใหเ้ ป็นไปตามข้อกาหนดท่ีระบุไว้ในหลักสูตร สาขาวิชา และการตัดสินผลการเรียนให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการจัดการศึกษาและ การประเมนิ ผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้นั สงู พุทธศกั ราช 2557 พ.ศ.2558 8.2 คุณสมบตั ิ คณุ สมบตั ขิ องผเู้ ข้าเรียน ให้เปน็ ไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการจัดการศึกษา และการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง พุทธศักราช 2557 พ.ศ. 2558 9. การประเมินผลการเรยี น เน้นการประเมินสภาพจริง ท้ังน้ีให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัด การศึกษาและการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2557 พ.ศ.2558 10. กจิ กรรมเสรมิ หลกั สตู ร 10.1 สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันต้องจัดให้มีกิจกรรมเสริมหลักสูตรไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ทุกภาคเรียน เพ่ือพัฒนาวิชาการและวิชาชีพ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ระเบียบวนิ ัยของตนเอง การต่อต้านความรนุ แรงและสารเสพติด ส่งเสริมการคิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์ การทางาน ปลูกฝังจิตสานึกและเสริมสร้างการเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ใช้กระบวนการกลุ่มใน การทาประโยชน์ต่อชุมชนและท้องถ่ิน รวมท้ังการทะนุบารุงขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม โดย การวางแผน ลงมอื ปฏิบัติประเมินผลและปรับปรุงการทางาน ท้ังนี้ สาหรับนักเรียนอาชีวศึกษาระบบ ทวภิ าคี ให้เข้ารว่ มกิจกรรมท่สี ถานประกอบการจัดข้นึ 10.2 การประเมินผลกิจกรรมเสริมหลักสูตร ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่า ด้วยการจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้น สูง พทุ ธศักราช 2557 พ.ศ. 2558 คู่มือหลักสตู รครูนิเทศเพื่อการจัดการเรียนการสอน สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา หน้า 30

11. การจัดแผนการเรียน การจัดทาแผนการเรยี น เป็นการกาหนดรายวิชาตามโครงสร้างหลักสูตรท่ีจะดาเนินการสอน ในแต่ละภาคเรียน โดยจัดอัตราส่วนการเรียนรู้ภาคทฤษฎีต่อภาคต่อภาคปฏิบัติในหมวดวิชาทักษะ วชิ าชพี ประมาณ 40:60 ท้งั น้ี ขน้ึ อยู่กับลักษณะหรือกระบวนการจัดการเรียนรู้ของแต่ละสาขาวิชา ซ่ึงมีข้อเสนอแนะดงั น้ี 11.1 จัดรายวิชาในแต่ละภาคเรียน โดยคานึงถึงรายวิชาที่ต้องเรียนตามลาดับก่อน-หลัง ความง่าย-ยากของรายวิชา ความต่อเน่ืองและเช่ือมโยงสัมพันธ์กันของรายวิชา รวมทั้งรายวิชาท่ี สามารถบูรณาการจัดการศกึ ษารว่ มกนั เพอื่ เรียนเปลย่ี นงานและหรือชิน้ งานในแต่ละภาคเรยี น 11.2 จัดให้ผู้เรียนได้เลือกเรียนรายวิชาเลือกและวิชาเสรี ตามความถนัด ความสนใจเพ่ือ สนับสนุนการประกอบอาชพี หรอื ศึกษาต่อ 11.3 รายวิชาทวิภาคี หรือการนารายวิชาไปเรียนและไปฝึกในสถานประกอบการ/แหล่ง วิทยาการให้ประสานงานร่วมกับสถานประกอบการ/แหล่งวิทยาการ เพื่อพิจารณากาหนดรายวิชา หรือกลมุ่ วชิ าทีต่ รงกบั ลักษณะงานของสถานประกอบการแหล่งวทิ ยาการนั้นๆ 11.4 รายวิชาโครงการ สามารถจัดให้นักศึกษาลงทะเบียนเรียนในภาคการศึกษาท่ี 3 หรือ 4 ครั้งเดยี ว จานวน 4 หน่วยกิต หรือจัดให้ลงทะเบียนเรียนเป็น 2 ครั้ง คือ ภาคการศึกษาท่ี 3 และ ภาคการศกึ ษาที่ 4 รวม 4 หนว่ ยกิต ตามเงือ่ นไขของหลกั สตู รนน้ั ๆ 11.5 กิจกรรมหลกั สูตร ให้กาหนดกิจกรรมเสริมหลักสูตรไว้ในแต่ละภาคเรียน โดยนักศึกษา ตอ้ งเข้าร่วมกจิ กรรมเสรมิ หลกั สตู ร ไมน่ อ้ ยกวา่ 2 ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ 11.6 จานวนหนว่ ยกิตรวมในแตล่ ะภาคเรียน ในแต่ละภาคเรียนปกติสาหรับการลงทะเบียน เต็มเวลาให้ลงทะเบียนเรียนได้ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต และไม่เกิน 22 หน่วยกิต ส่วนการ ลงทะเบียนเรียนในภาคฤดูร้อนให้ลงทะเบียนเรียนได้ไม่เกิน 12 หน่วยกิต ท้ังน้ี เวลาในการจัดการ เรียนการสอนโดยเฉลี่ย ไม่ควรเกนิ 35 ชั่วโมงต่อสปั ดาห์ 12. การสาเร็จการศกึ ษาตามหลักสตู ร 12.1 ไดร้ ายวิชาและจานวนหน่วยกิตสะสมในหมวดวิชาทักษะชีวิต หมวดวิชาทักษะวิชาชีพ และหมวกวิชาเลือกเสรี ครบถ้วยตามท่ีกาหนดไว้ในหลักสูตรแต่ละประเภทวิชาและสาขาวิชา และ ตามแผนการเรียนท่สี ถานศกึ ษากาหนด 12.2 ไดค้ า่ ระดับคะแนนเฉลยี่ สะสมไมต่ ่ากวา่ 2.00 12.3 ผา่ นเกณฑป์ ระเมินมาตรฐานวชิ าชีพ 12.4 ได้เข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมหลักสูตรและ “ผ่าน” ทุกภาคเรียน ตามแผนการเรียนท่ี สถานศกึ ษากาหนด 13. การพฒั นารายวชิ าในหลกั สตู ร 13.1 หมวดวิชาทักษะชีวิต สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถานบันสามารถพัฒนารายวิชา เพิม่ เตมิ ในแต่ละกลุ่มวิชาของหมวดวิชาทักษะชีวิต ในลักษณะจาแนกเป็นรายวิชาหรือลักษณะบูรณา การใดๆก็ได้โดยผสมผสานเน้ือหาวิชาที่ครอบคลุมสาระของกลุ่มวิชาภาษาไทย กลุ่มวิชา คมู่ ือหลักสูตรครนู ิเทศเพื่อการจดั การเรียนการสอน สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา หน้า 31

ภาษาต่างประเทศ กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ กลุ่มวิชาสังคมศาสตร์ กลุ่มวิชา มนุษยศาสตร์ ในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากมาตรฐานการเรียนรู้ของกลุ่มวิชาน้ันๆ เพอ่ื ให้บรรลจุ ุดประสงค์ของหมวดวชิ าทักษะชวี ิต 13.2 หมวดวิชาทักษะวิชาชีพ สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถานบันสามารถปรับปรุง รายละเอยี ดของรายวชิ าในกลมุ่ ทักษะวชิ าชีพเฉพาะในแผนการจัดการเรียนรู้ และหรือพัฒนารายวิชา เพ่ิมเติมในกลุ่มทักษะวิชาชีพเลือกได้ โดยพิจารณาจากจุดประสงค์สาขาวิชาและมาตรฐานการศึกษา วชิ าชพี สาขาวิชา ตลอดจนความชานาญเฉพาะด้านของสถานประกอบการหรือสภาพยุทธศาสตร์ของ ภมู ภิ าคเพ่ือเพ่มิ ขีดความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ 13.3 หมวดวิชาเลือกเสรี สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถานบันสามารถพัฒนารายวิชา เพม่ิ เติมได้ตามความชานาญเฉพาะด้านของสถานประกอบการ ชุมชน ท้องถิ่น หรือสภาพยุทธศาสตร์ ของภมู ภิ าคเพ่อื เพิ่มขดี ความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ และหรอื เพอื่ การศกึ ษาตอ่ ทั้งนี้ การกาหนดรหสั วิชา จานวนหนว่ ยกิตและจานวนช่ัวโมงให้เปน็ ไปตามทห่ี ลกั สตู รกาหนด 14. การปรับปรุงแก้ไข พัฒนารายวชิ า กลุ่มวชิ าและอนมุ ัตหิ ลักสูตร 14.1 การพัฒนาหลักสูตรหรือการปรับปรุงสาระสาคัญของหลักสูตรตามมาตรฐานคุณวุฒิ อาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง ให้เป็นหน้าท่ีของสานักงานคณะกรรมการการ อาชีวศึกษา สถาบันการอาชีวศึกษา หรือสถานศึกษา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการ อาชีวศึกษา 14.2 การอนุมัตหิ ลักสตู ร ให้เปน็ หนา้ ทขี่ องสานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา 14.3 การประกาศใช้หลักสูตรให้ทาเป็นประกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร 14.4 การพัฒนารายวิชาหรือกลุ่มรายวิชาเพิ่มเติม สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถานบัน สามารถดาเนนิ การไดโ้ ดยต้องรายงานให้สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาทราบ 15. การประกนั คุณภาพหลักสูตร ให้ทุกหลักสูตรกาหนดระบบประกันคุณภาพไว้ให้ชัดเจนอย่างน้อยประกอบด้วย 4 ประเด็น คือ 15.1 คณุ ภาพของผู้สาเรจ็ การศึกษา 15.2 การบริหารหลกั สตู ร 15.3 ทรพั ยากรการจดั การอาชวี ศึกษา 15.4 ความต้องการกาลงั คนของตลาดแรงงาน ใหส้ านกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา สถาบันการอาชีวศึกษาและสถานศึกษาให้ มีการประเมนิ เพ่อื พัฒนาหลักสูตรท่ีอยู่ในความรบั ผิดชอบอย่างต่อเนอื่ งอยา่ งน้อยทุก 5 ปี คูม่ ือหลักสูตรครนู ิเทศเพ่ือการจัดการเรียนการสอน สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา หน้า 32

3 กก ก ก 2562 กก 1. ก ก $ 1.1 ก ก ! ก \" #$ ! % & '($ ก )ก* ( + * # ก + , ! ! # , !ก '($ ! %- . # ก + - . / ! $ + ก 0'1 ($ 1.2 ก 2(ก ก $ ก 3 2 & ! %2(ก ก '($ ก + 4) 5 $#$ !/ ! $ / ! -$ 525 กก ก + ก (* & ! ก6 ก 3 & !+ +# 5 - - * /7+ , &8 ) ! 1ก 9:)& , 5 7, ; & 2* 5 $/* + * \"4 < ) $ &5 $5 ก ( 52 &+# + +ก$'- =7 .( '!, ,> 5 $ก / /!5 & 4) & ! % ก 51 $/ ! $ ก6 & /. . + ก 4) 5 ก +ก$ =7 + ก 3 & 5 5 !, ! \"& #( , & + #$ )4 (2 !/0 ! 2 ! 2 0 2 / + ก2 ) ! !5 ก * & 2. ก %&ก ก' ( ) ก 2(ก ก: 6 5 ก 5$ 3 ก? ก: 6 ก 2( 5 $(* ก (& \" > /> / 18 ( 1 2.1 5 ?ก :ก6 ):&85 $+ ,&> / ก ; 2> / ก 4 :ก6 :ก6 4 % ! ก (# .( ! + 2* , ก ! )ก* ( + % A( * ก '!, $ ก , 60 2 A( > / B( $ '($ ก ! ) C !/ 2.2 ก 5 \" 5 $ % :ก6 :ก6 4 % ( 1 5 8 '!, ก 7 ) .!& .( ก* (5 $2(ก ก / 3. ก +& , ก 5 $!2* , ก ( ก '!, $ ก , 103 - 110 , ก ก /( , ก %4 ก0G(1 & \" 3.1 B6H )5 $ 5 ก 4 > 1 ) .!& , ( 1 4 18 ) .!& , > / ! ก (# !/, , ก 1 , ก 3.2 3 )5 $ 5 ก ( & 4 IJก 3 5 $ & 3 ก 2 ) .!& , ( 1 4 36 ) .!& , > / ! ก (# !/, , ก 1 , ก 3.3 3 )5 $ 5 ก IJก 3 5 . &IกJ & 4 > / ! 3 ) .!& , ( 1 4 54 ) .!& , > / ! ก (# !/, , ก 1 , ก กก ก 2562

4 3.4 ก 7Jก\" * ก ก! : . &* # 1 % #\" ก % 54 & 3 %\": . ก ,/ .% % ก 1 % ก * 5 ก\" ก *& # 1 % #\" ก % 54 & 3 %\": . 3.5 ก 7กJ ก 2; 5 ก ,/ .% % ก 1 % ก &* # 1 % #\" ก % 54 & 3 %\": . ก ,/ 3.6 ก 6 3. ' 5 .% % ก 1 % ก 4. :& \" + \" ก 3. # (\" ก ก ก 2562 - % 3 , - 1 % #\" ก % 22 % ก ก+ก ก , ) 1 % \"# ก % 71 % ก 4.1 , 5 -ก ก 1 % \"# ก % 10 % ก 4.1.1 ก % : ! 1 - %ก 4.1.2 ก % : ! % 4.1.3 ก % ; 4.1.4 ก % .2 ; 4.1.5 ก % . ก! 4.1.6 ก % ( ก! - ก! 4.2 , 5 4.2.1 ก % 5 )$ 0 4.2.2 ก % 5 > 4.2.3 ก % 5 \"$ ก 4.2.4 7Jก ก 2; 5 4.2.5 3. ' 5 4.3 , $\"ก 4.4 ก+ก ก (2 & 3 / , ); 1) +6 % ก (\" - % , - ก % * ก * # 1 &ก6 ,1 # * 3. # (\" - % : - ( 2) ก ' * ก % 5 $) 0 - ก % 5 >+ . & #\" . ( 0 ก ก! ,# 5 (\" ( ?& ,3 ก 0 \" + \"# ' ก % * #. +6 % ก &ก6 , - /# \"# ก 3) 5 ก! \" ก! $\" 5 5+, &ก6 ,1 #* ก - $\" ' & . \"# ก > ,# (\" 5 ก\" ก $\" ;: : . \"&$ & (,. 5* ก -(% ( (\" ) ) \"# 1 $&\" 1(- 0 ก ก! & : ( - ( ก6 , กก ก 2562







8 10. ก + #\" 6 =+ก ก! 1 % &6 ก % , ก! 8 & 3 $\" % - .2 6 ก .2 ก ก ก \" ก! % ,# ก +,ก ก! - ก /ก /# (# ก 1 ก 11. ก 1 ก # ก : + ) )* # 1 6 ก .2 ก ก ก \" ก! ก % ,# ก +,ก ก! - ก /ก ก 12. ก % 2# ก (ก) ก 12.1 /% *, 5 -ก ก , 5- 0 , \"$ ก ก& 6 ,1 *# ก 12.2 1,#+6 % ก . 3. # (\" ก 12.3 1,.# % , . - > & 1 % &6 ก % 2.00 - /% ก2C;ก 12.4 (# % ก+ก - /% ก: . 13. ก > .ก 13.1 , 5 -ก ก 5 ก! \" ก! \"$ 5 5' & * - % ก % \"$& $\"ก \"ก \"$ + ก &ก6 ,* # . 1,# 3, 5 ' $\" ก!2 2 ก / / )$\" &. \" . (\" ก % : ! 1 ก % : ! % ก % ; ก % .2 ; ก % . ก! ก % ( ก! - ก! * , % & 3, + 2 + ก 0 ก (# \" ก % ) < \"$& * # +, .;(\" , 5 -ก ก 13.2 , 5 5 ก! \" ก! $\" 5 5& \", (\" * - % ก % * ก +, 6 -/ ก +,ก #- 5' & *ก% 5 $\"ก1,# . #\" ก (\" 5 ก\" ก $\" ;(\" : : . $&\" & (,. 5* ก -(% ( (\" ) ) #\" + 2 * # \",. #\" ก +, .; ( -5 ( ,# 13.3 , $\"ก 5 ก! \" ก! $\" 5 5' & 1,# . #\" ก (\" 5 ก\" ก #\" 5& $\" ;(\" : : . &$\" & (,. 5 * ก -(% ( (\" - $\" \"&$ ก ก! %\" ) ) ก ก6 , +6 % ก - +6 & 3 * # 1 & ก ก6 , กก ก 2562