การเลี้ยงกบ 1

การให้อาหารกบ การเปล่ียนน้า รอบรเู้ รื่องกบ การเล้ียงลูกกบไปจนถึงการจบั ขาย นิยมใช้ เพ่ือใหก้ บที่เล้ียงมีสุขภาพความเป็นอยู่ กศน.อาเภอเมืองพงั งา อาหารสาเร็จรูปอดั เมด็ ใหอ้ าหารวนั ละ 2 เวลา ใน ทีด่ ี กินอาหารไดม้ ากอตั ราการเจริญเติบโตถึง โทร 076 481038 ตอนเชา้ และเยน็ หรือจะใหก้ ินแคเ่ วลาเดียวในตอนเยน็ ขนาดส่งขายไดร้ วดเร็ว ควนถ่ายน้าทกุ วนั เชา้ - กไ็ ด้ การใหอ้ าหารกบจะมากหรือนอ้ ยข้นึ อยกู่ บั ปัจจยั เยน็ หรือวนั ละคร้ัง ข้ึนอยกู่ บั สภาพน้า หลายอยา่ งเช่น จานวน ขนาดและน้าหนกั ตวั การดแู ลรักษา ของกบ อุณหภมู ิของ น้าภายในบ่อและ 1. ควรถ่ายน้าและหมนั่ เก็บเศษอาหารที่ อากาศภายนอก เลียงดงั รบกวนและสิ่งท่เี ขา้ ไป หมกั หมม และเกบ็ กบท่ีตายตกคา้ งออกอยเู่ พื่อ รบกวนใหก้ บหวาดระแวง การเปลี่ยนถ่ายน้าในบ่อ เป็นการกาจดั ตน้ เหตุของน้าเน่าเสีย กบ การใหอ้ าหารกบนบั วา่ สาคญั มาก หากเปลี่ยน ชนิดและขนาดของเมด็ อาหาร ควรเลือกใหม้ ีขนาด 2. ควรคดั ขนาดกบในบ่อเล้ียงใหม้ ี เลก็ กวา่ ปากของกบ เพอื่ ใหก้ บสามารถกินอาหารได้ ขนาดโตไล่เลี่ยกนั สะดวก ซ่ึงในสภาพปกติกบจะกินอาหารไดป้ ระมาณ 4 - 5 เปอร์เซ็นตข์ องน้าหนกั ตวั สงั เกตไดจ้ ากปริมาณ 3.หมน่ั ดูแลสงั เกตกบในบ่อเล้ียง เพื่อ การกินอาหารของกบในแต่ละคร้ังโดยอาหารทใี่ หก้ ิน ป้ องกนั โรคท่ีอาจเกิดข้ึนกบั กบ น้นั กบสามารถกินไดห้ มดภายใน 2 ชวั่ โมงถือวา่ พอดี

รอบร้เู รอื่ งกบ กลา้ มเน้ือที่มีความแข็งแรง คอยประคองและค้า การเลีย้ งกบในบ่อซีเมนต์ จุนให้กบสามารถกระโดดไปดา้ นหนา้ ไดอ้ ยา่ ง ช่อื ไทย : กบ รวดเร็ว มีขอ้ เทา้ ขนาดยาวช่วยในการกระโดด การเร่ิมเลี้ยงลกู กบ ช่อื องั กฤษ : Frog ระหวา่ งน้ิวเทา้ ท้งั ห้าของขาคู่หนา้ และหลงั มี ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Rana Rugulosa หนงั บางๆ เป็นแผน่ ๆ ยดึ ติดใชส้ าหรับว่ายน้า การเลอื กซอ้ื ลกู พนั ธุก์ บจากฟารม์ เพาะเลย้ี งเป็นทางเลอื กทด่ี ี แมว้ า่ ตน้ ทุนจะสงู ไป ลกั ษณะทว่ั ไปของกบ กบเป็นสตั วค์ ร่ึงบกคร่ึงน้า อาศยั อยใู่ นบริเวณ บา้ งแตถ่ อื เป็นทางเลอื กทค่ี มุ้ คา่ เน่อื งจากกบจะ แหล่งน้าต้ืนๆ หรือแอง่ น้าเล็กๆ มีหวั ลกั ษณะ มคี วามเชอ่ื ง ไมต่ กใจงา่ ยเม่อื นาไปเลย้ี งดู กบ เป็ นสตั วส์ ่ีเทา้ จาพวกสะเทนิ น้าสะเทินบก หรือ คลา้ ยรูปทรงสามเหลี่ยม มีสณั ฐานค่อนขา้ งแบน สามารถกนิ อาหารสาเรจ็ รปู ไดด้ ี โตเรว็ และ เรียกไดอ้ ีกชื่อหน่ึงวา่ สตั วค์ ร่ึงบกคร่ึงน้ากบจดั อยใู่ น เรียบ ปากกวา้ ง นยั น์ตากลมโตและโปนโดย ทนทานตอ่ โรคพยาธริ บกวนเป็นอยา่ งดี วงศร์ านิดี (Ranidae) สกลุ รานา (Rana) ผวิ หนงั บริเวณหนงั ตามีแผน่ เน้ือเย่อื บางๆ ซ่ึงจะทา ขรุขระ ไม่มีขนและเกลด็ ทบี่ ริเวณผวิ หนงั ของกบจะ หนา้ ทีเ่ ปิ ดและปิ ดนยั น์ตาดาของกบ มีหูอยู่ การปลอ่ ยกบลงบอ่ เลี้ยง มีต่อมเมือกและน้าใสๆ เพอ่ื ช่วยให้ผวิ หนงั ของกบน้นั บริเวณดา้ นหลงั ของนยั น์ตาที่มีลกั ษณะเป็น แอ่ง มีความชุ่มชื่นอยเู่ สมอ กบไมม่ ีคอและหางซ่ึงเป็น กลมๆ ทาหนา้ ทเ่ี หมือนกบั แกว้ หูของมนุษย์ มีรู คดั กบใหม้ ขี นาดไล่เลย่ี กนั เพอ่ื ป้องกนั มิ ประโยชนต์ อ่ การวา่ ยน้า มีขา 2 คู่ ขาดา้ นหนา้ มขี นาด จมกู สองรูอยดู่ า้ นหนา้ ของนยั น์ตา ภายในปากมี ใหก้ บกนิ กนั เอง อตั ราการปล่อยกบเลย้ี ง เล็กและส้นั มีนิ้วเทา้ สี่นิ้วท่ีสามารถมองเห็นไดอ้ ยา่ ง ฟันขนาดไล่เลี่ยกนั คลา้ ยกบั ซ่ีเลื่อย ลิ้นมีปลาย ประมาณตารางเมตรละ 100 ตวั ชดั เจน โดยนิ้วทีห่ น่ึงหรือน้ิวหวั แม่มือ มีลกั ษณะเป็น แยกออกเป็นสองแฉก ใชส้ าหรับจบั แมลงและ สัตวอ์ นื่ เป็นอาหาร หายใจโดยใชป้ อดและ สามารถหายใจไดท้ างผวิ หนงั มีการพบกบบาง ชนิดในอินโดนีเซียไม่มีปอด หายใจโดยผวิ หนงั