สงครามโลกครังที1,2 WORLD WAR I,II นําเสนอโดย WaorrldI,IIนักเรยี นมธั ยมศกึ ษา ชนั ปท6ี /3
คํานาํ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) นี จัดทําขนึ เพือ ประกอบการเรียนการสอนในรายวชิ า กาประวัตศิ สตร์ มเี นอื หากยี วกบั ซงึ เปนสงครามโลกครงั ที1,2(WORLD WAR I,II)สยคุ สําคัญยคุ หนึงของโลกเปดยุคทีศิลปะมคี วามร่งุ เรืองและมนี ักวทิ ยาศาสตร์ดงั มากมายใน ยุคนี ผู้จดั ทําหวังเบินอย่งยิงวจ่ ะเปนประโยชน์แก่ นักเรียน และผสู้ นใจได้ไมม่ ากก็ น้อย
สงครามโลกครงั ที 1 เรมใน ค.ศ. 1914 สินสุดใน ค.ศ.1918 เปนความขดั แยง้ ระหวา่ งมหาอํานาจ 2 คา่ ย คอื ประกอบด้วย เยอรมนี ออสเตรย – ฮงั การ และอติ าลี (ผนู้ ําสาํ คัญ คอื บิสมาร์ค แหง่ เยอรมนี) กบั ฝาย ประกอบดว้ ย Triple Entente ไดแ้ กบ่ รเตนใหญ่ (องั กฤษ) ฝรังเศส และรัสเซยี การรบเรมขนึ หลังการลอบสังหาร มกฎุ ราชกมุ ารแหง่ ออสเตรย – ฮงั การ และสินสดุ ลงดว้ ยความพา่ ยแพข้ อง มหาอํานาจกลาง หรอ Triple Alliance มกี ารทาํ สนธิสญั ญาแวร์ซายส์ บงั คบั ให้ เยอรมนีและพนั ธมติ รเสียค่าปฏิกรรมสงครามชดใช้จํานวนมหาศาลและเสียดินแดน ทีเปนอาณานิคมให้แก่ฝาย Triple Entente
สาเหตสุ งครามโลกครงั ที 1 ลัทธิชาตนิ ยิ ม การเกดิ ลทั ธิชาตนิ ยิ มจากครสตศ์ ตวรรษที 15 เปนต้นมา ทาํ ให้เกิดระบบรวมรัฐชาติ สร้างระบบรวมอาํ นาจเขา้ สสู่ ่วนกลาง รัฐชาติในประเทศยโุ รปตา่ งแสวงหาความเปน มหาอํานาจ ทังทางทหารและเศรษฐกิจ รัฐชาตหิ มายถึง รัฐหรอประเทศทปี ระชาชนมี ความรู้สกึ ผกู พนั กัน มคี วามสามัคคี ภาคภูมิใจในความเปนชาติ จงรักภักดตี ่อพระมหา กษัตรย์ ความรักชาตทิ ีรุนแรงจนเปนลัทธิชาตินิยม ทาํ ใหเ้ ชอื วา่ ชาตติ นเหนือกว่าชาติ อืน ผลกั ดนั ชาตขิ องตนได้เปรยบชาตอิ ืนไมว่ า่ ดา้ นเศรษฐกจิ หรอการทหาร นาํ ไปสู่ การแขง่ ขันอํานาจกัน จนกลายเปนสงคราม เชน่ สงครามการรวมอิตาลี การรวม เยอรมนี จนถึงสงครามโลกครังทีหนงึ
สาเหตสุ งครามโลกครงั ที 1 ลทั ธจิ ักรวรรดินยิ ม ลทั ธิชาตนิ ิยมนาํ ไปสู่ลทั ธจิ ักรวรรดนิ ยิ ม ลทั ธิจกั รวรรดินิยม หมายถงึ ประเทศที พัฒนา แล้วประสบความสําเร็จด้านเศรษฐกิจ การทหาร และวทยาศาสตร์ เขา้ ครอบ ครอง ทีดอ้ ยพัฒนากวา่ ลัทธจิ กั รวรรดินยิ มเรมจากปลายครสต์ศตวรรษที 19 เมอื มี การปฏิวตั อิ ุตสาหกรรม ทาํ ให้ต้องการวตั ถุดบิ และตลาด มหาอาํ นาจยโุ รป เชน่ อังกฤษ ฝรังเศส ปรัสเซีย ( เยอรมน)ี เนเธอร์แลนด์ ต่างแข่งขันกนั ขยายอาํ นาจใน การครอบครองดินแดนในทวปเอเชียอเมรกากลางและอฟั รกาโดยครอบงาํ ทา วฒั นธรรม และวถชี วี ต เปนแหลง่ เกบ็ เกยี วผลประโยชนใ์ หเ้ มอื งแม่
สาเหตสุ งครามโลกครงั ที 1 การแบ่งกลุ่มพนั ธมิตรยุโรป นโยบายการรวมกล่มุ ทีมีผลประโยชน์ตรงกนั เรมตน้ ใน ค.ศ. 1907 เมอื เยอรมัน และออสเตรย-ฮงั การลงนามในสนธิสญั ญาพนั ธมติ รไตรมติ ร (Triple Alliance )ประจนั หน้ากบั รุสเซีย เนอื งจากเยอรมนี ต้องการไมใ่ หร้ ัสเซยี เปนใหญ่ในชนเผ่าสลาฟ แหลมสมุทรบอลขา่ น ตอ่ มามีอติ าลีมาร่วมประเทศ เพราะไมพ่ อใจฝรังเศสทีแย่งครอบ ครองตูนิเซีย ในฐานะรัฐในอารักขา ฝายออสเตรย – ฮงั การซงึ ตอ้ งการเปนใหญ่ใน แหลมบอลขา่ นเช่นกัน โดยไดร้ ับการสนับสนุนจากเยอรมนี องั กฤษ ฝรังเศส และ รัสเซียลงนามในสนธสิ ัญญาสันธไมตรไตรมติ ร (Triple Entente ) ค.ศ. 1907และ เปนพันธมิตรกับญปี นุ ดว้ ย
สาเหตสุ งครามโลกครงั ที 1 ความขัดแยง้ เรองแหลมบอลขา่ น สาเหตสุ าํ คญั เกิดจากการทีออสเตรย – ฮงั การขัดแย้งกบั เซอร์เบีย เรองการสร้างเขต อิทธิพลในแหลมบอลขา่ น เยอรมนสี นับสนุนออสเตรย – ฮังการ ขณะทรี ัสเซีย สนับสนนุ เซอร์เบีย ความขัดแยง้ ขยายความรุนแรงเปนสงครามระหวา่ งรัฐในแหลม บอลข่าน มหาอํานาจจงึ มโี อกาสแทรกแซงและตงั กลมุ่ พนั ธมิตร จดุ ระเบิดของสงครามโลกครังที 1 มกุฎราชกมุ ารแห่งออสเตรย-ฮงั การคือ อาร์ค ฟ รานซิส เฟอร์ดนิ านด์ กบั พระชายาโซเฟย ถูกลอบปลงพระชนม์ในวันที 28 มิถนุ ายน ค.ศ.1914ทีเมืองซาราเจโว ขณะเสด็จเยอื นเมืองหลวงของบอสเนยี โดยคนร้ายชอื กา ฟรโล ปรนซิพ นกั ศกึ ษาชาวบอสเนยี สญั ชาตเิ ซอร์เบีย ออสเตรยเรยกร้องใหเ้ ซอร์เบีย ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ เรยกร้อง เซอร์เบยี ปฏิเสธออสเตรย-ฮงั การจงึ ประกาศสงครามกบั เซ อร์เบีย 28 กรกฎาคม 1914 รัสเซียแสดงตนวา่ เปนผพู้ ทิ ักษ์เผ่าสลาฟจึงระดมพล เยอรมนปี ระกาศสงครามกับฝรังเศสและรัสเซยี ตอ่ มาองั กฤษเขา้ สสู่ งครามเมอื เยอรมนีบุกเบลเยยี ม และญีปนุ ไดป้ ระกาศสงครามตอ่ เยอรมนี เพราะม่งุ หวงั ใน อาณานิคมของเยอรมนใี นจีน
สาเหตสุ งครามโลกครงั ที 1 1. การสถาปนาองค์การสันนบิ าตชาติ แต่มีจุดอ่อนในการรักษาสนั ติภาพ เพราะรัสเซีย ถอนตวั และสหรัฐอเมรกาไม่เข้าเปนสมาชกิ ทังยงั ไมม่ กี องทหารรักษาสันติภาพดว้ ย 2. เกดิ สนธิสญั ญาสนั ติภาพทีประเทศผู้ชนะร่างขึนมี 5 ฉบบั - สนธสิ ัญญาแวร์ซายส์ทาํ กับเยอรมนี เยอรมนีตอ้ งเสียค่าปฏกิ รรมสงครามจํานวน มหาศาลและเสยี ดินแดนหลายแห่ง ทาํ ให้เกิดวกฤติเศรษฐกิจทัวโลก ราคาสินค้าตกตํา ในเยอรมนไี ม่สามารถใช้หนสี งครามได้และมองสนธิสัญญานวี า่ ไมเ่ ปนธรรม จนฮติ เลอ ร์นาํ มาประณามเมือเรมมีอํานาจ - สนธสิ ัญญาแซงต์ แยร์แมงทํากบั ออสเตรย - สนธิสญั ญาเนยยี ทํากบั บลั แกเรย - สนธิสญั ญาตรอานองทํากับฮงั การ - สนธิสญั ญาแซฟสท์ ํากับตุรกี ต่อมาเกดิ การปฏิวตั ใิ นตุรกจี งึ มีการทําสนธิสัญญาใหม่ เรยกวา่ สนธสิ ัญญาโลซานน์
สาเหตสุ งครามโลกครงั ที 1 3. ความเหลือมลาํ ทางชนชัน และความยากจนต่อเนืองจากก่อนสงคราม นาํ ไปสู่การทเี ลนิน ปฏวิ ตั ิเปลยี นประเทศ รัสเซียเปนคอมมิวนิสตใ์ นช่วงปลายสงครามโลกครังที 1 4. เกดิ ประเทศใหม่ 7 ประเทศเนอื งมาจากการแยกดินแดนไดแ้ ก่ ฮงั การ ยูโกสลาเวย โปแลนด์ เชคโกสโลวา เกีย ลิทัวเนยี แลตเวย แอสโตเนยี
สาเหตสุ งครามโลกครงั ที 1 5. ในยุโรปมรี ูปแบบของรัฐเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จ ระหวา่ งสงครามโลกครังที 1 ไดแ้ กร่ ัสเซีย เลนนิ ปฏวิ ตั นิ ําระบบคอมมวิ นิสต์มาปก ครองรัสเซียใน ค.ศ. 1917 และในค.ศ. 1924 -1953 สตาลินได้ใชร้ ะบบเผดจ็ การที เน้นการปราบศัตรูทางการเมืองและการผกู ขาดอาํ นาจด้วยความรุนแรงมากขนึ สว่ น ในเยอรมนี ฮติ เลอร์ไดเ้ ปนผนู้ าํ ใชร้ ะบบเผด็จการโดยอํานาจพรรคนาซี ตงั แต่ ค.ศ.1933 และในอติ าลี มสุ โสลนิ ีได้ตังพรรคฟาสซิสตข์ ึนในเวลาตอ่ มา
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: