1
ก คำนำ เอกสารฉบับน้ีจัดทาข้ึนเพื่อเป็ นส่วนหน่ึงในการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาประวตั ิศาตร์และวฒั นธรรมจีนโดยในเอกสารเล่มน้ีจะมีการถ่ายทอดเน้ือหาที่เกี่ยวกบั ปรัชญาต้งั เดิมของจีน คุณธรรมอนั ดีงามของจีน โบราณวตั ถุ โบราณสถานของจีน จิตรกรรมและหตั กรรมจีน ซ่ึงเน้ือหารายวิชาน้ีถือเป็ นส่วนหน่ึงที่สาคญั ที่ควรจะศึกษาและเรียนรู้ในรายวชิ าประวตั ิศาสตร์และศิลปะวฒั นธรรมจีน จดั ทาโดย นางสาวสกลุ รัตน์ อธั ยาศรัย
ข จุดประสงค์ เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ทางวิชาการในด้านประวตั ิศาสตร์จีน ให้ผูเ้ รียนได้รับความรู้เกี่ยวกับประวตั ิศาสตร์จีน ศิลปะ วฒั นธรรม และเหตุการณ์ท่ีสาคญั ของประเทศจีน อีกท้งั ยงั สร้างทกั ษะดา้ นต่างๆให้ผเู้ รียนไดพ้ ฒั นาทกั ษะการฟัง พูด อ่าน การเขียนภาษาจีน มีความเป็ นผนู้ า กลา้ แสดงออก มีมนุษยส์ ัมพนั ธ์บุคลิกภาพ และจริยธรรมที่เหมาะสม
สำรบญั ค1. ปรัชญาด้งั เดิมของจีน 中国传统思想 2 - ขงจ้ือ 孔子 3 - เหล่าจวงกบั ปรัชญาลทั ธิเต๋า 老庄与道家思想 52. คุณธรรมอนั ดีงามของจีน 中国传统美德 6 - กตญั ญูต่อบิดามารดา 老敬父母 - เคารพผอู้ าวโุ สและรักเมตตาเดก็ 尊老爱幼 8 93. โบราณวตั ถุของจีน 中国文物 10 - ตวั อกั ษร “เจ๋ียก่เู หวนิ ” 甲骨文 - “ติ่ง”รูปสี่เหลี่ยมซือหมู่วู่ 司母戊方鼎 12 - หุ่นทหารและมา้ ดินป้ันสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ 秦始皇陵兵马俑 13 144. โบราณสถานของจีน 中国古代建筑 15 - พระราชวงั 宫廷 - วดั วาอาราม 寺庙 17 - สวนไมด้ อก 园林 18 - สะพาน 桥梁 19 205. จิตรกรรมและหตั ถกรรมจีน 中国工艺美术 21 - ถงั ซานฉ่าย 唐三彩 - เครื่องเคลือบ 瓷器 - พดั 扇子 - โคมสี 灯彩 - งานฝีมือกระดาษ 剪纸
แบบฝึ ดหดั ท้ำยบท ง- แบบฝึกหดั ทา้ ยบทท่ี 1 23- แบบฝึกหดั ทา้ ยบทที่ 2 24- แบบฝึกหดั ทา้ ยบทท่ี 3 25- แบบฝึกหดั ทา้ ยบทท่ี 4 26- แบบฝึกหดั ทา้ ยบทท่ี 5 27
1บทที่ 1 ปรัชญาดั้งเดมิ ของจนี中国传统思想
2ขงจื้อ 孔子 รูปภาพท่ี1.1 ขงจ๊ือ ขงจ๊ือ(ก่อน ค.ศ.551-479) ชื่อ ชิว 丘 สมญญานาม จ้งหนี 仲尼 เป็ นคนรัฐหลู่ 鲁国 อยูใ่ นยุคชุนชิว 春秋 เป็นนักปรัชญำ 思想家 นักกำรศึกษำ 教育家 ที่ยง่ิ ใหญ่ของจีน และเป็นผูก้ ่อต้งั สานกัปรัชญาขงจ๊ือ (หรูเจีย)儒家 ขงจื๊อถนดั ในการศึกษาเรียนรู้ขอ้ ดีของคนอื่น ดงั ท่ีไดก้ ล่าวไวว้ ่ำ “สำมคนร่วมเดิน จักต้องมีอำจำรย์ของเรำเป็ นแน่ จงเลือกที่ดีเพ่ือเอำอย่ำง ส่วนทไี่ ม่ดีก็จงนำมำแก้ไขปรับปรุงตน” (三人行,必有一师焉。择其善者而从之,其不善者而改之。)และยงั เห็นว่า “ผู้มีควำมรู้ต้องพร้อมด้วยวรยุทธ์ ผุ้มีวรยุทธ์ต้องพร้อมด้วยควำมรู้” (有文事者必有武备,有武事者必有文备)ซ่ึงกต็ อ้ งเป็ นผรุ้ อบรู้นนั่ เอง ความขยนั หมนั่ เพียรศึกษาเล่าเรียนต้งั แต่เยาวว์ ยั เป็ นการส่ังสมความรู้ความสามารถสาหรับการสร้างระบบแนวคิด และปูพ้ืนฐานที่มนั่ คงในการถ่ายทอดความรู้แก่ลูกศินย์ ทาใหข้ งจ๊ือเป็นผรู้ อบรู้ในยคุ สมยั น้นั และมีผมู้ าฝากตวั เป็นศินยเ์ พิ่มข้ึนเรื่อยๆ ปรัชญาแนวคิดหลายอยา่ งของขงจื๊อมีคุณค่าสาหรับคนในยคุ ปัจจุบนั เป็ นอยา่ งมาก เช่น คาสอนของขงจ๊ือจะแทรกความรู้ในเรื่อง “เหริน 仁”(หลักคุณธรรม) อยู่ ขงจื๊อเห็นว่าการท่ีจะบรรลุให้ถึงหลักคุณธรรมน้นั ตอ้ งรู้จกั เอาใจใส่ผอู้ ื่น อะไรท่ีตนไมอ่ ยากทาก็ไมต่ อ้ งไปผลกั ใหผ้ อู้ ื่นทารูปภาพที่1.2 ประตูกลางในศาลเจา้ ขงจื๊อที่ชวฝี ่ ซู านตง รูปภาพที่1.3 ขงจ๊ือ
3เหล่ำจวงกบั ปรัชญำลทั ธิเต๋ำ 老庄与道家思想 เหล่ำจื๊อ 老子 คือผูก้ ่อต้งั ลทั ธิเต๋าของจีนในช่วงปลายยุคชุนชิว เหล่าจ๊ือ แซ่หล่ี ช่ือเอ๋อร์ เคยรับราชการเป็นขนุ นางดูแลหอสมุด 藏书 ของรำชวงศ์โจว 周代 ผลงานของเหล่าจื๊อ\"เต้ำเต๋อจิง\" “道德经” ถึงแมเ้ น้ือหาจะมีเพียงแคห่ า้ พนั กวา่ ตวั อกั ษร แต่กลบั มีอิทธิพล ต่อคนในยุคปัจจุบนั เป็ นอยา่ งย่งิ เหล่าจ๊ือใชห้ ลกั \"เต๋ำ 道\"(คุณธรรม)ในการอธิบายการเกิดและการเปล่ียนแปลงของทุกสรรพสิ่งในจกั รวาล เขามกั จะสั่งสอนผูค้ นให้ยึดหลกั และจุดเด่นของ \"เต๋า\" ในการคิดและประพฤติตน ในขณะเดียวกนั ก็ใชห้ ลกัความอ่อนแอสยบความแขง็ แกร่ง เนื่องจากบางส่ิงภายนอกดูออ่ นแอบางคร้ังกลบั เขม้ แขง็ กวา่ ต่อมาจวงจื๊อไดส้ ืบทอดและเผยแพร่หลกั ปรัชญาของเหล่าจื๊อ จวงจ๊ือ 庄子 ชื่อโจว 周 เคยรับราชการในรัฐซ่ง ผลงานไดแ้ ก่ตารา \"จวงจื๊อ\" ซ่ึงไดส้ ืบทอดและพฒั นาจากหลกั แนวคิดในเรื่องของเหล่าจ๊ือคือเนน้ ในหลกั สรรพส่ิงตา่ งๆ กบั ตวั ตนของเราใหเ้ กิดความสมดุลซ่ึงกนั และกนั จวงจื๊อแสวงหาการหลุดพน้และเป็นอิสระของจิตวิญญาณ เนื่องจากแนวคิดปรัชญาของเหล่าจ๊ือและจวงจื๊อมีส่วนคลา้ ยกนั มาก จึงทาให้คนรุ่นหลงั เรียกท้งั สองรวมกนั วา่ \"เหล่ำจวง\"老庄รูปภาพท่ี1.1 เหลา่ จื๊อ รูปภาพท่ี1.2 เหลา่ จ๊ือ รูปภาพท่ี1.3 จวงจ๊ือ
4 บทที่ 2 คุณธรรมอันดีงามของจีน中国传统美德
5กตญั ญูต่อบดิ ำมำรดำ 孝敬父母 รูปภาพท่ี1.1 ชิมยาดว้ ยตนเอง การปรนนิบตั ิเล้ียงดูพอ่ แมห่ รือญาติอาวุโสสาหรับชาวจีนแลว้ เป็นหนา้ ที่ท่ีจะละเลยมิได้ ชาวจีนเช่ือวา่ ผทู้ ่ีใหก้ ารดูแลเอาใจใส่บิดามารดาและคนในครอบครัวของตนจึงจะถือวา่ เป็นคนท่ีมีความซ่ือสัตยส์ ุจริตและรู้บุญคุณกบั ผูอ้ ื่น ในสังคมจีนมีนิทานโบราณท่ีมีเน้ือหาเกี่ยวกบั การกตญั ญูรู้คุณท่ีถ่ายทอดสืบต่อกนั มาเป็นจานวนมาก เป็นตน้ วา่ เรื่อง \"ชินฉำงทำงเย่ำ 亲尝汤药\"(ชิมยำด้วยตนเอง) \"หวำยจวเ๋ี ว่ยชิน 怀橘遗亲\"(ซ่อนส้มให้มำรดำ) ฯลฯ \"ชินฉางทางเยา่ \" (ชิมยาดว้ ยตนเอง) กล่าวกนั วา่ หลวิ เหงิ 刘恒 จักรพรรดฮิ ่ันเหวนิ ตี้ 汉文帝เป็นผู้ ที่มีช่ือเสียงระดบั โลกในดา้ นความกตญั ญูรู้คุณ ขณะท่ีพระมารดาประชวรอยบู่ นเตียงเป็นระยะเวลาสามปี น้นั พระองคท์ รงอยเู่ ฝ้าพระอาการประชวร โดยส่วนใหญ่ จะไม่บรรทมเลยท้งั คืน พระโอสถที่จะนาถวายพระมารดาน้นั ฮนั่ เหวนิ ต้ีจะตอ้ งชิมดว้ ยพระองคเ์ องก่อนทุกคร้ัง จึงจะวางพระทยั ใหพ้ ระมารดาเสวยในช่วงครองราชย์ ระยะเวลายส่ี ิบสี่ปี น้นั ทรงยดึ หลกั คุณธรรมในการปกครอง ส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณี ให้ความสาคญั ในการพฒั นาการเกษตร ทาให้ราชวงศฮ์ น่ั ตะวนั ตกมีความมน่ั คง จานวนประชากรเพ่ิมมากข้ึนในสมยั การปกครองของพระองคส์ ภาพเศรษฐกิจไดร้ ับการฟ้ื นฟูและพฒั นาเป็ นอยา่ งมาก สมยั จกั รพรรดิฮนั่เหวนิ ต้ี และสมยั จกั รพรรดิฮน่ั จ่ิงต้ีจึงไดร้ ับการยกยอ่ งวา่ \"เหวนิ จิ่งจือจื้อ 文景之治\"กำรปกครองระบอบจักรพรรดิฮ่ันเหวินตีแ้ ละฮั่นจิ่งตี้ \"หวายจวเ๋ี วย่ ชิน\"(ซ่อนส้มให้มารดา) กล่าววา่ ในสมยั สำมก๊ก 三国 มีชายคนหน่ึงชื่อหล้จู ี้ 陆绩ตอนที่เขาอายไุ ดห้ กขวบน้นั ไดต้ ิดตามบิดาหล้คู ำง 陆康 ไปเมืองจิ่วเจียง 九江 เพือ่ เยยี่ มคารวะหยวนซู่ 袁术 หยวนซู่ไดน้ าส้มมาตอ้ นรับแขก หลูจ้ ้ีแอบหยบิ ส้มสองลูกซ่อนไวใ้ นอก ตอนใกลจ้ ะกลบั ส้มสองลูกที่ซ่อนอยไู่ ดร้ ่วงลงบนพ้ืน หยวนซู่หวั เราะแลว้ กล่าววา่ \"เจา้ มาเป็นแขกบา้ นฉนั ตอนกลบั ยงั จะซ่อนส้มของเจา้ บา้ นไวท้ ี่อกอีกหรือ\" หลูจ้ ้ีตอบวา่ \"มารดาของผมชอบทานส้ม ผมอยากจะนากลบั ไปใหแ้ ม่ลองชิมดู\"หยวนซู่รู้สึกประหลาดใจมาก เพราะเห็นวา่ หลูจ้ ้ีถึงแมจ้ ะเยาวว์ ยั แตร่ ู้จกั กตญั ญูต่อมารดา รูปภาพที่1.2 ตวั อกั ษร “กตญั ญู”
6เคำรพผ้อู ำวุโสและรักเมตตำเดก็ 尊老爱幼 การเคารพผอู้ าวุโสและรักเมตตาเด็กเป็ นขนบธรรมเนียมประเพณีอนั ดีงามของคนจีน เม่ือหลายพนัปี มาน้ีผคู้ นไดป้ ฏิบตั ิตนเคารพผอู้ าวโุ สจนเป็ นมาตรฐานทางสังคม ในยุคจ้ำนก๋ัว 战国 เม่ิงจื๊อ 孟子 ได้กล่าวไวว้ า่ \"ตอ้ งเคารพผูอ้ าวุโสของผูอ้ ื่นเสมอเหมือนผูอ้ าวุโสของตน ตอ้ งรักและดูแลลูกหลานของผูอ้ ื่นเสมอเหมือนลูกหลานของตน\" ในประเทศจีนผทู้ ี่ละเลยคุณธรรมขอ้ น้ี ไม่เพียงแต่จะไดร้ ับการตาหนิท่ีรุนแรงท่ีสุดจากสังคม ยงั อาจจะไดร้ ับการลงโทษตามกฏหมายอีกดว้ ย ในสมยั รำชวงศ์ฮ่ัน 汉朝 ราชสานกั ไดอ้ อกประกาศบ่อยคร้ัง ส่งเสริมและให้รางวลั ผูท้ ี่มีความประพฤติดีเด่นในดา้ นกตญั ญูและเคารพผอู้ าวโุ ส ในสมยั น้นั ราชสานกั ไดแ้ จกไม้เท้ำพิเศษ 拐杖 ให้กบั ผทู้ ี่มีอายตุ ้งั แตเ่ จด็ สิบปี ข้ึนไป ถา้ ผสู้ ูงอายคุ นไหนถือไมเ้ ทา้ ชนิดน้ีจะไดร้ ับการดูแลจากสังคมเป็ นกรณีพิเศษ พอถึงสมัยรำชวงศ์ชิง 清朝 ช่วงรัชสมยั ของจักรพรรดิคังซี 康熙 และจักรพรรดิเฉียนหลง 乾隆 ไดม้ ีการจดั กิจกรรมเพอื่ แสดงการเคารพผอู้ าวุโสอยา่ งย่ิงใหญ่ จกั รพรรดิจะเชิญผอู้ าวุโสท่ีมีอายตุ ้งั แต่หกสิบห้าปีข้ึนไปมาร่วมงานเล้ียงในวงั ทุกคร้ังที่จดั งานมีผมู้ าร่วมงานมากนบั พนั คน การแสดงความรักและเมตตาต่อเด็กของคนจีนคือ ในความรักตอ้ งแฝงดว้ ยคาสั่งสอน ในความเมตตาตอ้ งแฝงดว้ ยความเขม้ งวด รวมไปถึงการเน้นในเรื่องคุณธรรมและความรับผิดชอบ มรดกที่คนรุ่นก่อนหลงเหลือไวใ้ ห้ ได้แก่บทประพนั ธ์ที่ใช้สั่งสอนลูกหลานชายหญิงเช่น \"เจี้ยะจ่ือซู 诫子书\"(หนังสือสอนลูก) \"เจียซวนิ่ 家训\" (คำส่ังสอนของครอบครัว) ฯลฯ นบั วา่ เป็นคาสัง่ สอนในเร่ืองคุณธรรมอนั ล้าคา่ ของชนชาติจีน ขนบธรรมเนียมประเพณีในการเคารพผูอ้ าวุโสและรักเมตตาเด็กไดร้ ับการถ่ายทอดและเผยแพร่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบนั สมยั น้ีไดม้ ีการกาหนดวนั สาคญั ของผูส้ ูงอายุและเด็กไดแ้ ก่ \"วันเคำรพผู้อำวุโส 敬老节\" และ \"วันเด็ก 儿童节\" รัฐบาลเองก็ไดอ้ อกมาตรการทางกฏหมายเพ่ือคุม้ ครองเด็กและสตรี มีขอ้ กฏหมายกาหนดวา่ ประชาชนมีหนา้ ที่ในการเล้ียงดูบิดามารดา และบุตรธิดาของตน ขนบธรรมเนียมประเพณีอนั ดีงามในการเคารพผูอ้ าวุโส รักและเมตตาเด็กเป็ นการแสดงถึงความอบอุน่ ในครอบครัวและความสงบในสังคม และยงั เป็นการพฒั นาความมน่ั คงพ้นื ฐานทางสังคมของชาวจีน รูปภาพที่1.1 เคารพผอู้ าวโุ ส
7 บทที่ 3 โบราณวัตถุของจนี中国文物
8 ตวั อกั ษร “เจย๋ี ก่เู หวนิ ” 甲骨文 ในเมืองอนั หยำง 安阳 มณฑลเหอหนำน 河南 ทางภาคกลางของประเทศจีน มีซากปรักหกั พงั เน้ือที่ประมาณ 24 ตารางกิโลเมตร เรียกวา่ “อนิ ทรี” 殷墟 ซ่ึงเป็นช่ือท่ี จะไดร้ ับการจดบนั ทึกไวใ้ นประวตั ศิ ำสตร์อำรยธรรมโลก 世界文明史册 รูปภาพที่1.1 เศษชิ้นส่วนของเจ๋ียก่เู หวนิ ตามการบนั ทึก ในช่วงศตวรรษที่ 14 ก่อนคริสตศ์ กั ราช ผานเกิงกษตั ริยแ์ ห่งรำชวงศ์ซำง 商朝 ไดย้ า้ ยเมืองหลวงมาท่ีน่ีหลงั จากน้นั เกือบ 300 ปี ท่ีน่ีก็ไดก้ ลายเป็ นศูนยก์ ลางทางด้ำนกำรเมืองกำรปกครอง 政治 วฒั นธรรม 文化 เศรษฐกิจ 经济 ในสมยั ราชวงศซ์ าง การคน้ พบและการขุดคน้ “อินทวู” น้นั เป็นการคน้ พบทางโบราณคดีท่ีล้าค่ามากท่ีสุดในประเทศจีนในศตวรรษท่ี 20 ต้งั แต่มีการขุดพบเป็ นคร้ังแรก ในปี ค.ศ. 1928 เป็ นตน้ มา วตั ถุโบราณที่ถูกขุดพบ ณ แห่งน้ีมีท้งั กระดูกสัตวแ์ ละเคร่ืองทองสัมฤทธ์ิเป็ น จานวนมาก ในบรรดาส่ิงที่ถูกพบขดุ พบน้นั “เจี๋ยก่เู หวนิ ” ถือเป็นส่ิงที่สาคญั ในทางประวตั ิศาสตร์อารยธรรม โลกอยา่ งมากชิ้นหน่ึง “เจี๋ยกู่เหวิน”เป็ นตวั อกั ษรโบราณที่แกะสลกั บนกระดองเต่าและกระดูกสัตว์ ผูป้ กครองในสมยั ราชวงศซ์ างมีความเชื่อในเทพเจา้ และภูตผีปี ศาจืก่อนท่ีจะทาอะไรก็ตามตอ้ งมีการเส่ียงทายก่อนโดยการใช้ กระดองเต่าหรือกระดูกสัตวใ์ นการเสี่ยงทายหลงั จากน้นั ก็จะเอาคาทานายมาบนั ทึกไวใ้ นกระดองเต่าหรือ กระดูกสัตว์ ตวั อกั ษรเหล่าน้ีเรียกว่า “เจี๋ยกู่เหวิน”หลงั จากท่ีไดท้ าการเส่ียงทายแลว้ กระดองหรือกระดูก เหล่าน้ีก็จะกลายเป็นขอ้ มูลที่ทางราชการจะเก็บรักษาไว้ ตอนแรกเริ่มน้นั ไม่มีใครรู้จกั “เจ๋ียก่เู หวนิ ” ผคู้ นเชื่อกนั วา่ กระดอง และกระดูกท่ีมีตวั อกั ษรสลกั ไวเ้ หล่าน้ีเป็ นกระดูกมงั กร จึงได้นามาใช้เป็ นยารักษาโรค จนกระทงั่ เม่ือปี ค.ศ. 1899 มีพ่อคา้ คนหน่ึงช่ือหวางอ้ีหรง ไดพ้ บว่าเป็ นตวั อกั ษรโบราณ ชนิดหน่ึง ต้งั แต่น้นั มาก็เป็นที่ไดร้ ับความสนใจจากนกั โบราณคดีและนกั ภาษาศาสตร์ พวก เขาจึงไดเ้ ริ่มทาการวจิ ยั ทางดา้ นน้ี ปัจจุบนั น้ีกระดองและกระดูกท่ีแกะสลกั ตวั อกั ษร “เจี๋ยกู่ เหวิน”ไดข้ ุดพบมากกว่า 150,000 ชิ้นตวั อกั ษรเดี่ยวท่ีคนพบมี 4500 ตวั ตวั อกั ษรท่ีทราบ ความหมายแล้วมีประมาณหน่ึงพนั กว่า ตวั อกั ษรเหล่าน้ีถือว่าเป็ นตวั อักษรที่ค่อนข้าง สมบูรณ์แลว้รูปภาพที่1.2 ตวั อกั ษรเจี๋ยก่เู หวนิ
9“ตงิ่ ”รูปส่ีเหลยี่ มซือหมู่วู่ 司母戊方鼎 “ติ่ง 鼎” เป็ นสัญลักษณ์ของอานาจกษตั ริย์ในสมัยโบราณในภาษาจีนน้ันจะมีคาบางคาท่ีมีความสัมพนั ธ์กบั “ติ่ง” และแสดงถึงความหมายน้ีดว้ ย เช่น “问鼎”(กำรกระทำเกี่ยวข้องติ่ง) หมายถึงการช่วงชิงอานาจทางการเมือง “一言九鼎”(หนึ่งคำพูดเท่ำกับเก้ำต่ิง) หมายถึงคาวิจารณ์ที่มีผลในการตดั สิน เป็นตน้ “ต่ิง” รูปสี่เหล่ียมซือหมู่วู่ เป็ นโบราณวตั ถุอนั ล้าค่าชิ้นหน่ึง ซ่ึงคน้ พบที่อาเภออันหยำง 安阳มณฑลเหอหนำน 河南 เม่ือปี ค.ศ. 1937 เป็ นโบราณวตั ถุในปลายสมยั ราชวงศ์ซาง มีอายุ 3000 กว่าปี“ต่ิง” อนั น้ีเป็ น“ต่ิง” ทางสัมฤทธ์ิท่ีใหญ่ที่สุดท่ีมีการคน้ พบในโลก ปัจจุบนั น้ีไดเ้ ก็บรักษาไวท้ ่ีพิพิธภณั ฑ์ประวตั ิศาสตร์แห่งประเทศจีน ในสมยั ดึกดาบรรพ์ “ติ่ง” ใชเ้ ป็นเครื่องหุงหาอาหาร ซ่ึงในสมยั น้นั ใชด้ ินป้ันในการทา ต่อมาในสมยัราชวงศซ์ างและราชวงศโ์ จว เทคนิคการทาทองสัมฤทธ์ิของจีนไดพ้ ฒั นาข้ึนมาจนอยูใ่ นระดบั ท่ีสูงมากแลว้ผูค้ นจึงใชท้ องสัมฤทธ์ิในการหล่อ“ต่ิง” “ต่ิง” ในขณะน้นั ไม่ใช่ของใชโ้ ดยทวั่ ไปของชาวบา้ นอีกต่อไปแลว้แต่กลายเป็ นเครื่องภาชนะที่ใช้สาหรับบวงสรวงชนิดหน่ึงเป็ นการแสดงถึงสถานภาพอันสูงส่ง เป็ นสญั ลกั ษณ์อานาจของกษตั ริย์รูปภาพที่1.1 “ต่ิง” รูปส่ีเหล่ียมซือหมวู่ ู่
10หุ่นทหำรและม้ำดนิ ป้ันสุสำนจนิ๋ ซีฮ่องเต้ 秦始皇陵兵马俑 บริเวณห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตรทางตะวนั ออกของเมืองซีอัน 西安 มณฑลส่ำนซี 陕西มีกองทพั ใตด้ ินอนั ใหญ่โตอยูก่ องทพั หน่ึง ซ่ึงก็คือหุ่นทหำรและม้ำดินป้ันสุสำนจิ๋นซีฮ่องเต้ 秦始皇陵兵马俑 อนั เป็นสิ่งมหศั จรรยอ์ นั ดบั แปดของโลก 世界 จ๋ินซีฮ่องเต้ 秦始皇 เป็ นกษตั ริยผ์ ูม้ ีความสามารถในประวตั ิศาสตร์จีนพระองค์หน่ึง ก่อนพระองคจ์ ะสิ้นพระชนมน์ ้นั และไดใ้ ชก้ าลงั คนและกาลงั ทรัพยเ์ ป็ นจานวนมากในการสร้างสุสานหุ่นทหารและมา้ ดินป้ันเป็นส่ิงที่ใชใ้ นการฝังไปพร้อมกนั กบั กษตั ริยพ์ ระองคน์ ้ีหลุมฝังหุ่นทหารและมา้ ดินป้ันสุสานจิ๋นซีฮ่องเตน้ ้ีไดค้ น้ พบเมื่อปี ค.ศ. 1974 หลุมฝังศพท้งั สามหลุมกินเน้ือท่ีท้งั หมดประมาณ 20,000 กวา่ ตารางเมตรมีหุ่นทหารและหุ่นมา้ ดินป้ันขนาดเท่ากบั คนจริงและมาสจริงมากกวา่ 8,000 ตวั ต้งั เรียงกนั อยา่ งเป็นระเบียบ ซ่ึงแสดงใหเ้ ห็นถึงกองทหารที่มีพละกาลงัในยคุ ของการรวมประเทศจีนใหเ้ ป็นหน่ึงเดียวของจ๋ินซีฮอ่ งเตอ้ ีกดว้ ย รูปภาพท่ี1.1 หลมุ่ ฝังหุ่นทหารและมา้ ดินป้ัน รูปภาพที่1.2 หุ่นทหารและมา้ ดินป้ัน
11 บทท่ี 4 โบราณสถานของจีน中国古代建筑
12พระรำชวงั 宫廷 รูปภาพที่1.1 พระราชวงั โบราณ พระรำชวงั 宫廷 พูดง่ายๆ กค็ ือบา้ นของกษตั ริย์ นนั่ เอง เพอ่ื แสดงให้เห็นถึงฐานะและอานาจของกษตั ริยท์ ี่หาท่ีเปรียบมิได้ การออกแบบของพระราชวงั หรือส่ิงก่อสร้างในพระราชวงั สมัยโบรำณ 古代ของจีน น้นั มกั จะสร้างใหด้ ูยง่ิ ใหญ่โออ่ า่ ดูแขง็ แรงมน่ั คงและสวยงามสูงส่ง การออกแบบพระราชวงั โบราณน้นั โดยทวั่ ไปจะแบ่งเป็ น 2 ส่วน คือ ส่วนหนา้ และส่วนหลงั ส่วนหน้าคือส่วนท่ีกษตั ริย์ปฏิบตั ิภารกิจบ้านเมือง ส่วนหลังเป็ นส่วนที่ประทับของกษตั ริย์และสนมกานัลส่ิงก่อสร้างพระราชตาหนกั น้นั วางโครงท่ีไดส้ ัดส่วนสมดุลกนั ส่ิงก่อสร้างท้งั สองฝ่ังจะเป็นระเบียบและเป็ นสัดส่วนที่เท่ากนั ลานบ้านซ้อนกันเป็ นช้ันๆ และมีพระราชตาหนักเป็ นจานวนมาก แต่ฝั่งซ้ายขวาตอ้ งเหมือนกนั ทาใหเ้ กิดความสง่างามน่าเกรงขามและความใหญโ่ ตมโหฬารของพระราชวงั การใชไ้ มเ้ พ่ือสร้างบา้ นเป็ นลกั ษณะพ้ืนฐานเฉพาะของสารปัตยกรรมจีนในสมยั โบราณ เสาคานประตูหนา้ ตา่ งของพระราชวงั จะใชไ้ มใ้ นการก่อสร้างท้งั หมด แลว้ ยงั ทาดว้ ยสีแดงเขม้ อนั เป็ นสัญลกั ษณ์ของความน่าปิ ติยนิ ดี และความมง่ั มี มีบา้ งที่วาดภาพสีเป็ นรูปมงั กร หงส์ ทะเล เมฆ และดอกไมใ้ บหญา้ เป็ นตน้สีที่สดใสน้ันไม่เพียงแต่แสดงถึงความโอ่อ่าร่ารวยของพระราชวงั ของกษตั ริยห์ ากยงั มีประโยชน์ในการป้องกนั ความช้ืน ป้องกนั หมอ้ แปลงตา่ งๆอีกดว้ ย ปัจจุบนั น้ีพระราชวงั โบราณที่มีการรักษาไวไ้ ด้สมบูรณ์ที่สุดคือพิพิธภณั ฑ์ “ กู้กง 故宫 ”(พระรำชวงั โบรำณ) ท่ีต้งั อยู่ ณ ใจกลางกรุงปักกิ่ง “ กูก้ ง ” (พระราชวงั โบราณ) น้ี มีช่ือเรียกอีกชื่อหน่ึงวา่“ จ่ือจิน้ เฉิง 紫禁城 ” เป็นพระราชวงั ในสมยั รำชวงศ์หมิงและชิง 明清朝 สองราชวงศ์ พระราชวงั โบราณเป็ นทะเลแห่งตาหนกั ที่โอ่อ่าหรูหราสวยงาม และยงั เป็ นพิพิธพณั ฑ์แห่งศิลปะการก่อสร้างแห่งหน่ึงดว้ ย รูปภาพท่ี1.2 พระราชวงั โบราณ
13วดั วำอำรำม 寺庙 ประเทศจีนเป็ นประเทศที่มีศำสนำ 宗教 หลายศาสนา มีท้งั ลัทธิเต๋ำ 道教 ท่ีถือกาเนิดและพฒั นาข้ึนในประเทศจีน ศำสนำพุทธ 佛教 ศำสนำอสิ ลำม 伊斯兰教 และศำสนำคริสต์ 基督教ที่ไดร้ ับการแพร่มาจากต่างประเทศ เป็ นตน้ สิ่งก่อสร้างของลทั ธิเต๋าเรียกวา่ “ กง 宫” หรือ “ กว้ำน 观”ศาสนาอิสลามมีมัสยิด 清真寺 ศาสนาคริสต์มีโบสถ์ 教堂 สิ่งก่อสร้างอนั ย่งิ ใหญ่ท้งั สามของศาสนาพทุ ธคือ วดั 寺庙 เจดีย์ 佛塔 และถำ้ หิน 石窟则 ศาสนาพุทธไดร้ ับการเผยแพร่มาจากประเทศอินเดีย 印度 แต่วา่ สถาปัตยกรรมทางศาสนาพุทธของจีนน้นั ลว้ นแตเ่ ป็นแบบจีน การวางโครงสร้างของลานวดั ในสมยั โบราณของประเทศจีนน้นั เป็ นดงั น้ี คือดา้ นหนา้ ทางเดินตรงกลางเป็ นประตู เมื่อเขา้ ประตูแล้ว ทางซ้ายและขวาจะมีหอระฆงั และหอกลอง เป็ นตาหนกั เทพเจา้ แห่งฟ้า ดา้ นหลงั เป็นตาหนกั พระพุทธเจา้ ดา้ นหลงั ออกไปอีกเป็ นหอพระคมั ภีร์ ทางซา้ ยขวาของทางตรงกลางมีกุฏิและโรงเจเป็ นตน้ วดั ของศาสนาพุทธส่วนใหญ่น้นั จะสร้างในเขตกลางภูเขาห่างไกลจากความวุ่นวายในเมือง ภูเขาศาสนาพุทธท่ีมีช่ือเสียงท้งั 4 แห่งของจีน ไดแ้ ก่ อู่ไถซำน 五台山 เอ๋อเหมยซำน 峨眉山 จ่ิวหัวซำน九华山 และผู่ไท่ซำน 普陀山 ท้งั ยงั เป็ นท่ีรวมของวดั ที่มีช่ือเสียงของประเทศจีนในแต่ละสมยั ดว้ ยเช่น วดั หนำนฉำน 南禅寺 และวดั ฝอกวงั 佛光寺 ทภ่ี ูเขำอ่ไู ถซำน รูปภาพท่ี1.1 วดั วา่ นเหนียนซื่อบนภูเขาเอ๋อเหมยซานในเสฉวน
14สวนไม้ดอก 园林 สวนไม้ดอกแบบโบราณในแต่ละพ้ืนที่ของจีนน้ัน ล้วนมีทศั นียภาพอนั สวยงาม มีส่ิงก่อสร้างรูปแบบต่างๆ เป็ นสถานที่ท่องเที่ยวที่สาคญั ท่ีมีนกั ท่องเท่ียวท้งั ชาวจีนและชาวต่างประเทศลว้ นปรารถนาใฝ่ ฝันท่ีจะไดไ้ ปเยอื น ลกั ษณะเด่นท่ีสุดของสวนไมด้ อกแบบโบราณคือความพิถีพิถนั ดา้ นความเป็ นธรรมชาติ ในขณะท่ีทาการก่อสร้างน้นั นกั ออกแบบสวนไมด้ อกในสมยั โบราณจะนาเอาความสวยงามท่ีมีอยเู่ ดิมของธรรมชาติผสมผสานเขา้ กบั การก่อสร้างตกแต่งสวนไมด้ อกโดยคนทาให้ ผคู้ นสามารถชื่นชมยอดเขาที่แปลก กอ้ นหินท่ีประหลาด น้าไหล ดอกไมใ้ บหญา้ ของธรรมชาติไดโ้ ดยรู้สึกเหมือนไดท้ ่องเท่ียวอยใู่ นรูปภาพ สวนไมด้ อกแบบโบราณของจีนน้นั สามารถแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท คือ สวนไมด้ อกของราชสานกัท่ีอยทู่ างภาคเหนือและสวนไมด้ อกส่วนบุคคลท่ีอยทู่ างภาคใต้ สวนไมด้ อกของราชสานกั ทางภาคเหนือน้นัมกั จะใช้ภูเขาและน้าของจริง และยงั นาเอาส่วนเด่นของสิ่งก่อสร้างในแต่ละพ้ืนท่ีมารวมเขา้ ไวด้ ้วยกันนอกจากน้ีหลงั คาปูกระเบ้ืองเคลือบสีเหลืองเสาระเบียงสีแดงเขม้ ราวใชห้ ยก 玉石 แกะสลกั ขาวสะอาดภาพบนคานและการแกะสลกั บนไมแ้ ปรน้นั ลว้ นแต่มีสีสันสดใส 色彩 สวยงาม โอ่อ่าหรูหรา สมกบั เป็ นสวนของราชสานกั สวนไมด้ อกของราชสานกั ท่ีมีชื่อเสียงที่ไดร้ ักษามาจนถึงปัจจุบนั น้ีคือ พระรำชวังฤดูร้อน 颐和园 และเป๋ ยไห่ 北海 ของกรุงปักก่ิง 北京 สวนไมด้ อกส่วนบุคคลน้นั ส่วนใหญ่อยูแ่ ถบซูโจว 苏州 หนำนจิง 南京 หำงโจว 杭州 และหยำงโจว 扬州รูปภาพท่ี1.1 เจดียข์ าวในสวนเป๋ ยไห่กรุงปักก่ิง รูปภาพที่1.2 ป้ี สู่ซานจวงเมืองเฉิงเต๋อมณฑลเหอเป่ ย
15สะพำน 桥梁 ในบรรดาสิ่งก่อสร้ำง 建筑 สมยั โบราณของจีน สะพานก็เป็ นส่วนหน่ึงที่สาคญั หลายพนั ปี มาน้ีชาวจีนท่ีฉลาดหลกั แหลมและขยนั หมน่ั เพียร ไดใ้ ชเ้ ทคนิควิธีต่างๆนานาในการสร้างสะพานท่ีมีความโออ่าสวยงาม แปลกตาและประณีต สะพานเหล่าน้ีไดเ้ ชื่อมขา้ มระหวา่ งภูเขาและสายน้า ทาให้การเดินทางสะดวกตกแต่งประดบั ประดาใหก้ บั พ้ืนปฐพี กลายเป็ นหน่ึงในบรรดาสัญลักษณ์ 标志 ทางอำรยธรรม 文明โบราณของประเทศจีน สะพำนป้ำเฉียว 灞桥 ของเมืองซีอนั 西安 เป็ นสะพานท่ีมีฐานเป็ นเสำหิน 石柱墩桥 แก่ที่สุดของประเทศจีน สร้างในสมัยรำชวงศ์ฮั่น 汉代 มีความยาวท้งั หมด 386 เมตร มีช่องใตส้ ะพานจานวน64 ช่อง เป็นทางเช่ือมระหวา่ งเมืองเก่าฉำงอนั 长安 กบั เขตเน้ือที่กวา้ งทางตะวนั ออกของเมืองฉางอนั เป็ นสะพานหินโคง้ ที่มีช่องใตส้ ะพานมากที่สุด เก่าแก่ท่ีสุด ขนาดใหญท่ ่ีสุด และยาวที่สุดเท่าท่ีพบในปัจจุบนั น้ีรูปภาพที่1.1 ปาหล่ีเฉียว รูปภาพที่1.2 สะพานหลูโกวเฉียว
16 บทท่ี 5 จติ รกรรมและหตั กรรมจนี中国工艺美术
17ถงั ซำนฉ่ำย 唐三彩 รูปภาพที่1.1 ถงั ซานฉ่าย ถังซำนฉ่ำย 唐三彩 เป็ นชื่อเรียกรวมของเครื่องป้ันดินเผำ 陶器 ประเภทหน่ึง มีสีเคลือบอยู่มากมายหลายสี เจริญรุ่งเรืองในสมยั ราชวงศถ์ งั สีเคลือบเหล่าน้ีมีหลายประเภท เช่น สีเขียว 绿 สีน้ำเงิน蓝 สีเหลือง 黄 สีขำว 白 สีเลือดหมู 赭 สีน้ำตำล 褐 เป็ นตน้ โดยทว่ั ไปมกั จะใช้ 3 สี คือ สีเหลือง สีเขียว และสีเลือดหมู ดงั น้นั จึงเรียกวา่ ถงั ซานฉ่าย ในสมยั โบราณน้นั มีถงั ซานฉ่ายจานวนน้อยมากที่จะถูกใชเ้ ป็ นเครื่องใชใ้ นชีวิตประจาวนั หรือใช้เป็นของตกแตง่ บา้ น ส่วนใหญจ่ ะใชเ้ ป็นของที่ฝังไปพร้อมกบั คนตาย โดยจะผลิตและนิยมกนั ในเขตพ้ืนราบภาคกลางของประเทศจีน เป็นเคร่ืองใชข้ องขนุ นางใหญ่นอ้ ยในเขตน้ี โครงสร้างศิลปะของถงั ซานฉ่ายไดส้ ะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงโฉมหนา้ ของสงั คมและสัญลกั ษณ์ของยคุ สมยัน้นั หุ่นนกั รบและหุ่นเทพเจา้ ที่ดูแขง็ แกร่งท่าทางสง่างาม และมา้ อูฐที่อว้ นพีแข็งแรง ลว้ นแต่แสดงใหเ้ ห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองในสมยั ตน้ รำชวงศ์ถัง 唐朝 นอกจากน้ีหากสังเกตจากหุ่นป้ันของผูห้ ญิงซ่ึงมีใบหนา้ ที่อว้ นเล็กน้อย ร่างกายค่อนขา้ งอวบอ่ิม ทาให้สามารถเห็นไดว้ า่ คนในสมยั ราชวงศถ์ งั มองผูห้ ญิงอวบเป็ นผหู้ ญิงท่ีสวย ถงั ซานฉ่ายท่ีมีรูปร่างลกั ษณะที่แตกต่างกนั สีสนั สวยงามวจิ ิตรตระการตา เป็นส่ิงล้าคา่ ทางศิลปะท่ีมีลกั ษณะโดดเด่น 独特 ของประเทศจีน รูปภาพที่1.2 ถงั ซานฉ่าย
18เคร่ืองเคลือบ 瓷器 รูปภาพท่ี1.1 เคร่ืองเคลือบต่างๆ คาภาษาองั กฤษ “ China ” น้ี มีสองความหมาย คือแหมายถึง ประเทศจีน และหมายถึง เคร่ืองเคลือบเน่ืองจากชาวจีนเป็ นผคู้ ิดคน้ เทคนิคการทาเครื่องเคลือบน้ี ดงั น้นั ประเทศทางตะวนั ตกจึงนาเอาประเทศจีนและเคร่ืองเคลือบเชื่อมโยงเขา้ ดว้ ยกนั มาเน่ินนานแลว้ เคร่ืองเคลือบน้ีไดม้ ีการพฒั นามาจากเคร่ืองป้ันดินเผาหากนบั ต้งั แต่สมยั รำชวงศ์ซำง 商代 ซ่ึงเป็ นตน้ กาเนิดเคร่ืองเคลือบแลว้ เครื่องเคลือบของประเทศจีนก็มีประวตั ิศาสตร์ยาวนานมากกวา่ 3,000 ปี เคร่ืองเคลือบของจีนไม่เพียงแต่เป็ นของใช้ประจำวนั 日用品 ท่ีมีความสวยงามประณีตเท่าน้นัยงั เป็นผลงำนทำงศิลปะ 艺术品 ท่ีทรงคุณค่าดว้ ยเช่นกนั ต้งั แต่สมยั ราชวงศฮ์ นั่ และถงั เป็ นตน้ มา เคร่ืองเคลือบของประเทศจีนได้ขายสู่ไปต่างประเทศเป็ นจานวนมาก เทคนิคการทาเครื่อเคลือบของจีนก็ไดค้ ่อยๆเผยแพร่ 传遍 ไปทวั่ โลกรูปภาพท่ี1.2 ไหที่ทาจากเครื่องเคลือบสีเขียวลวดลายดอกไม้ รูปภาพท่ี1.3 แจกนั เคร่ืองเคลือบสีเขียวลายดอกไม้
19พดั 扇子 พดั เป็นอุปกรณ์ท่ีใชค้ ายความร้อนเพิ่มความเยน็ ใหก้ บั ผคู้ น ในฤดูร้อน 夏季 ที่อากาศร้อนอบอา้ วพดั สามารถพดั พาเอาความเยน็ มาได้เรื่อยๆ นับต้งั แต่โบราณกาลมา พดั ของจีนได้มีลกั ษณะงานฝี มืออนัสวยงาม มีเอกลกั ษณ์เด่นของชนชำติ 民族 อยดู่ ว้ ย เม่ือประมาณ 3,000 กวา่ ปี ที่แลว้ ในสมยั รำชวงศ์ซำงและโจว 商周时代 น้นั ประเทศจีนไดม้ ีพดัเกิดข้ึนแลว้ ประเภทของพดั จีนมีจานวนมาก เช่น พัดกระดำษ 纸扇 พัดผ้ำทอ 绢扇 พัดใบปำล์ม 葵扇 พัดขนนก 羽毛扇 พัดไม้ไผ่ 竹编扇 เป็ นต้น รูปร่างของพดั จะมีท้ังรูปเหล่ียมและรูปกลมนอกจากน้ียงั มีรูปดอกเหมย 梅花 รูปผลไม้ไห่ถำง 海棠 รูปดอกทำนตะวนั 葵花 เป็นตน้ ภาพหรือกลอนที่อยบู่ นพดั เป็ นลกั ษณะเด่นอยา่ งหน่ึงของพดั จีน นกั พู่กนั และจิตรกรจีนที่มีชื่อเสียงหลายท่านลว้ นแต่ชอบ “ เขียนตวั อกั ษรบนพดั ” และ “ วาดรูปบนพดั ” สร้างผลงานยอดเยี่ยมท่ีมีความประณีตงดงามจานวนมากฝากไวใ้ หช้ นรุ่นหลงัรูปภาพท่ี1.1 พดั ท่ีมีรูปภาพและตวั อกั ษร รูปภาพท่ี1.2 พดั ท่ีมีรูปภาพและตวั อกั ษร
20โคมสี 灯彩โคมสี 灯彩 ภาษาพ้ืนบา้ นเรียกอีกอยา่ งวา่ รูปภาพท่ี1.1 เทศกาลโคมไฟ“ ฮวำเตงิ 花灯 ” (โคมดอกไม)้ ในวนั เทศกำลตรุษจีน 春节 และเทศกำลหยวนเซียว 元宵节ในแต่ละปี น้นั ประเทศจีนท้งั บริเวณในเมืองและบริเวณชนบท 乡村 ทุกครัวเรือนจะแขวนโคมสีเอาไว้ โคมสีของจีนน้นั ใชไ้ ม้ไผ่ 竹 ไม้ 木 หรือโลหะ 金属 ในการทาโครง แลว้ จึงเอากระดาษ ผา้ ทอหรือผา้ แพรติดลงไป โคมบางโคมน้นั จะมีการวาดรูปนิทานโบราณ และนิทานปัจจุบนั ท่ีมีสีสันลงไป หรือบางคร้ังกจ็ ะใชภ้ าพกระดาษตดั แปะประดบั โคม รูปภาพท่ี1.2 โคมสี
21งำนฝี มือกำรกระดำษ 剪纸 ชำวต่ำงชำติ 外国人 จานวนมากนิยมชมชอบงำนฝี มือกำรตัดกระดำษ 剪纸 ของจีน เพราะดว้ ยความประณีตงดงาม มีเสน่ห์ที่เป็ นเอกลกั ษณ์แบบตะวนั ออก สามารถทาให้ผูค้ นรู้ซ้ึงถึงกลิ่นอายของชีวติ ความเป็นอยแู่ ละบรรยากาศอนั แสนเบิกบานได้ งานฝีมือการตดั กระดาษ กค็ ือการใชก้ รรไกรสิ่ว มาตดั และแกะลงบนกระดาษสีแดง หรือกระดาษสีอ่ืนๆ เป็ นรู ปภาพ หรื อรู ปดอกไม้เพ่ือใช้ประดับตกแต่ง ศิลปะงานฝี มือการตัดกระดาษของจีนมีประวตั ิศาสตร์มายาวนานประมาณ 2,000 กวา่ ปี ซ่ึงเป็ นงำนฝี มือ 工艺品 พื้นเมือง 民间 ที่พบเห็นได้บอ่ ยๆของจีน งานฝี มือการตดั กระดาษของจีนน้นั ส่วนใหญ่ประดิษฐ์ดว้ ยมือของหญิงชาวตามชนบท พวกเธอตดัและแกะออกมาเป็นรูปดอกไมห้ ลากหลายแบบ ส่วนใหญ่จะเป็นภาพและลวดลายที่เกษตรกรใหค้ วามสนใจ ปัจจุบนั ศิลปะงานฝี มือการตดั กระดาษของจีนจดั วา่ เป็ นมรดกทำงวัฒนธรรมโลก 世界文化遗产รูปภาพที่1.1 งานฝี มือการตดั กระดาษ รูปภาพท่ี1.2 งานฝี มือการตดั กระดาษ
22แบบฝึ กหัดท้ำยบท
23 แบบฝึ ดหดั ท้ำยบทที่ 1 1. ขงจ๊ือ(孔子) ก่อต้งั สานกั ใด_____________________________________________________________________________________ 2. ใครคือผกู้ ่อต้งั ลกั ธิเต๋า(道家)_____________________________________________________________________________________ 3. เหล่าจวง(老庄)คือช่ือเรียกใคร_____________________________________________________________________________________
24 แบบฝึ กหดั ท้ำยบทที่ 2 1. จากบทเรียนเร่ือง “ ชินฉางทางเยา่ 亲尝汤药 ” นกั เรียนไดข้ อ้ คิดในดา้ นใดบา้ ง_______________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ 2. จากบทเรียนเรื่อง “ หวายจวเ๋ี วย่ ชิน 怀橘遗亲 ” นกั เรียนมีความคิดเห็นอยา่ งไร_______________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ 3. 敬老节 คือเทศกาลใด_____________________________________________________________________________________ 4. 儿童节 คือเทศกาลใด_____________________________________________________________________________________
25 แบบฝึ กหัดบทท่ี 3 1. เจ๋ียกู่เหวนิ (甲骨文) คืออะไร_____________________________________________________________________________________ 2. ต่ิงรูปส่ีเหลี่ยมซือหมู่ว(ู่ 司母戊方鼎) ถูกคน้ พบในช่วงราชวงศใ์ ด_____________________________________________________________________________________ 3. ใครคือผสู้ ร้างหุ่นทหารและมา้ ดินป้ันสุสานจ๋ินซีฮ่องเต(้ 秦始皇陵兵马俑)_____________________________________________________________________________________
26 แบบฝึ กหดั บทที่ 4 1. เพราะเหตุใดการออกแบบของพระราชวงั หรือส่ิงก่อสร้างในพระราชวงั สมยั โบราณของจีนน้ัน มกั จะสร้างใหด้ ูยง่ิ ใหญโ่ ออ่ า่_______________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ 2. การวางโครงสร้างของลานวดั ในสมยั โบราณจีนน้นั มีลกั ษณะอยา่ งไร_______________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ 3. ลกั ษณะเด่นของสวนไมด้ อกแบบโบราณจีนคืออะไร_______________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ 4. เพราะเหตุใดส่ิงก่อสร้างท่ีเป็ นสะพานถึงไดก้ ลายเป็ นหน่ึงในบรรดาสัญลกั ษณ์ ทางอารยธรรม โบราณของประเทศจีน_______________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________
27 แบบฝึ กหัดบทท่ี 5 1. ถงั ซานฉ่าย(唐三彩) เป็นชื่อเรียกรวมของส่ิงใด_____________________________________________________________________________________ 2. คาวา่ “China” มีความหมายวา่ อยา่ งไร_____________________________________________________________________________________ 3. จงบอกประเภทของพดั จีน(扇子)มาโดยสังเขป__________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ 4. โคมสี (灯彩) มกั ใชใ้ นเทศกาลใด_____________________________________________________________________________________ 5. ปัจจุบนั ศิลปะงานฝีมือการกระดาษ(中国剪纸)ถูกจดั ใหเ้ ป็นมรดกแขนงใด_____________________________________________________________________________________
28 กจิ กรรมกำรเรียนรู้บทที่ 1 - แบบฝึกหดั ทา้ ยบท - ให้ผูเ้ รียน แบ่งกลุ่ม 3 กลุ่ม ทามายแม๊พลงในกระดาษชาร์ท เรื่อง ปรัชญาด้งั เดิมของจีน ตาม หวั ขอ้ ที่ไดร้ ับ จากน้นั กใ็ หต้ วั แทนกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียนบทท่ี 2 - แบบฝึกหดั ทา้ ยบท - ให้ผูเ้ รียน แบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม ทามายแม๊พลงในกระดาษชาร์ท เรื่อง คุณธรรมอนั ดีงามของจีน จากน้นั กใ็ หต้ วั แทนกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียนบทที่ 3 - แบบฝึกหดั ทา้ ยบท - ใหผ้ เู้ รียน แบง่ กลุ่ม 3 กลุ่ม ทามายแมพ๊ ลงในกระดาษชาร์ท เร่ือง วตั ถุโบราณของจีน ตามหวั ขอ้ ที่ไดร้ ับ จากน้นั ก็ใหต้ วั แทนกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียนบทที่ 4 - แบบฝึกหดั ทา้ ยบท - ให้ผูเ้ รียน แบ่งกลุ่ม 4 กลุ่ม นาเสนอเรื่องโบราณสถานของจีนโดยใช้สื่อพาเวอร์พอยด์ ตาม หวั ขอ้ ที่ไดร้ ับ จากน้นั กใ็ หต้ วั แทนกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียนบทท่ี 5 - แบบฝึกหดั ทา้ ยบท - ใหผ้ เู้ รียนทาพดั จีน ทาโคมจีน และตดั กระดาษแบบจีน
29 บรรณำนุกรมความรู้ทวั่ ไปเก่ียวกบั วฒั นธรรมประเทศจีน/วทิ ยาลยั ภาษาจีนปักก่ิง, มหาวทิ ยาลยั ครูหนานจิง, มหาวทิ ยาลยัครูฮนั ฮุย. - - กรุงเทพฯ : สุขภาพใจ, 2550.
30
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: