45 ใจความที่ระดบั ดมี าก ขณะท่ีมคี วามพึงพอใจต่อการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้โดยทดลองใชแ้ บบฝึกทักษะการอ่าน จับใจความทร่ี ะดับดมี าก และมคี วามพึงพอใชเ้ ฉพาะตอ่ การใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจบั ใจความท่ีระดับดมี าก จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวข้อ 1 -3 สรุปว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยทดลองใช้หนังสือ เรียนภาษาพาทีชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 นน้ั นักเรียนระดับชั้นระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนบ้านเด่นเหล็ก อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์มีระดับผลการเรียนรู้ด้านทักษะเรื่องการอ่านจับใจความ ต่ำกว่าเกณฑ์ตั้งแต่ ระดับ ดี ของ สพฐ.อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 หรือที่ระดับความเชื่อมั่น 95% มีความพึงพอใจโดย ภาพรวมทุกด้านท่ีระดับดีมากและมคี วามพึงพอใชเ้ ฉพาะตอ่ การใช้แบบฝึกทกั ษะการอา่ นจับใจความที่ระดบั ดี มาก ขณะที่การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องเดียวกันแต่ทดลองใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความนักเรียนมี ระดับผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้สูงกว่าเกณฑ์ตั้งแต่ระดับ ดี ของ สพฐ. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 หรือท่ี ระดับความเชื่อมั่น 95% มีความพึงพอใจโดยภาพรวมทุกด้านที่ระดับดีมาก และมีความพึงพอใช้เฉพาะต่อ การใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความที่ระดับดีมาก ดังนั้น การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการอ่านจับ ใจความ โดยทดลองใช้หนังสือเรยี นภาษาพาทีชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ไม่สอดคล้องกบั สมมติฐานการวจิ ยั อภปิ รายผลการวิจยั จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวในบทที่ 4 ประเด็นที่จะหยิบยกขึ้นมาสู่การอภิปรายผลการวิจัย ประกอบด้วย ผลการพัฒนาการเรียนรู้ด้านทักษะของนักเรียน และระดับความพึงพอใจของนักเรียน แต่ละ ประเดน็ ดงั กลา่ ว นำมาอภิปราย ดงั น้ี 1. ผลการพัฒนาการเรียนรู้ด้านทักษะของนักเรียน จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลในบทที่ 4 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการทดลองใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ จัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการ อ่านจับใจความ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ที่ระดับมากที่สุด ทั้งนี้เป็นเพราะว่า ช่วยพัฒนาทักษะการอ่านจับ ใจความของนักเรียนโดยการให้นักเรียนฝึกอ่านเรื่อง วิเคราะห์ และสามารถจับใจความสำคัญของเนื้อเรื่องได้ อย่างถูกต้องสมบูรณ์ ซึ่งผลดังกล่าวสอดคล้องกับเทคนิคเค ดับเบิ้ลยู แอล (K W L) สอดคล้องกับงานวิจัยของ สุวรรณา ดวงสวัสดิ์ (2555: 102) ที่กล่าวว่า เทคนิค KWL เป็นกลวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ทำให้ ผู้เรียนมีกรอบ และแนวทางในการทำความเข้าใจเนือ้ หาอย่างเป็นลำดับขัน้ ตอน ฝึกการแสวงหา คำตอบจากเรื่องทีอ่ ่าน และ ยงั ฝึกการจดั ระบบข้อมูลความรู้และความคิดเชือ่ มโยงความสมั พันธข์ อง ขอ้ มูลที่ได้จากการอา่ น ทำให้นักเรียน เกดิ ความคดิ รวบยอดในการเรียนรู้ ท้ังยังเป็นการจัดการ เรียนรู้ทส่ี ามารถทำให้ท้ังเด็กเกง่ ปานกลาง และอ่อน บรรลุเป้าหมายได้เหมือนกัน ซึ่งสอดคล้องกับ สุวิทย์ คำมูล และอรทัย คำมูล (2545: 75) ที่กล่าวไว้ในทำนอง เดียวกันว่า เทคนิค KWL เป็นกระบวนการ เรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการอ่านและทักษะ กระบวนการคิดอย่างรู้ตัวว่าตนเองคิด อะไร มีวิธีคิดอย่างไร สามารถตรวจสอบความคิดของตนเองได้ และ สามารถปรับเปลี่ยนกลวิธีการ คิดของตนเอง โดยผู้เรียนจะได้รับการฝึกให้ตระหนักในกระบวนการทำความ เข้าใจ มีการ จัดระบบข้อมูลเพื่อการดึงมาใช้ภายหลังอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยของ พิจิตร
46 สนุ ทร (2552: 97) พบวา่ นักเรยี นที่ไดร้ ับการจัดการเรียนรูด้ ้วยเทคนคิ KWL จะมีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนหลัง เรียนสงู กว่าก่อนเรียนอยา่ งมีนัยสำคญั ทางสถติ ทิ ่ี .01 จากการอภิปรายผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวข้างตน้ จึงลงข้อสรุปว่า การจัดกิจกรรมการ เรียนรเู้ ร่อื งการอ่านจับใจความ การทดลองใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความมีผลต่อผลการพัฒนาการเรียนรู้ ด้านทักษะของนักเรียน ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานการวิจัยที่กำหนดขึ้นคือผลจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการอ่านจับใจความ กับผู้เรียนในระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านเดน่ เหล็ก ด้วยวิธีและเทคนิค การสอนวิธีเดิมพบปัญหาคือ ผู้เรียนส่วนใหญ่มีผลการเรียนรู้ด้านทักษะเฉลี่ยต่ำกว่าระดับดี ซึ่งกำหนดเป็น เกณฑ์มาตรฐานผา่ นการประเมนิ จงึ มีแนวคิดทจ่ี ะพฒั นาผลการเรียนรู้ดา้ นทักษะของผเู้ รยี นให้สงู ขนึ้ ตามเกณฑ์ มาตรฐานผ่านการประเมนิ 2. ระดับความพึงพอใจของนักเรียน จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลในบทที่ 4 พบว่า ระดับความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อการจัด การเรียนรู้การอ่านจับใจความด้วยเทคนิค KWL ร่วมกับแบบฝึกทักษะการอ่านจับ ใจความ ในภาพรวมนักเรียนเห็นด้วยมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่านักเรียนเห็นด้วยมากคือ ด้าน ประโยชนท์ ่ีได้รับเป็นอนั ดับที่ 1 ดา้ น การจดั กิจกรรมการเรียนรู้เปน็ อันดับที่ 2 และดา้ นบรรยากาศการเรียนรู้ เป็นอันดับสุดท้าย อาจเป็น เพราะว่าการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWL ร่วมกับแบบฝึกทักษะการอ่านจับ ใจความ เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ส่งเสริมให้ ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการอ่าน ควบคู่กับทักษะการคิดในทุกตอน ของการจัดการเรียนรู้ตามลำดับ ขั้นตอนของเทคนิค KWL นักเรียนจึงมีกรอบการคิดที่เป็นลำดับต่อเนื่องไม่ สับสน นอกจากน้ี นักเรยี นยงั ได้ฝึกการตง้ั คำถาม และคน้ หาคำตอบจากเร่ืองท่ีอ่านดว้ ยตนเอง ชว่ ยให้นักเรียน มี จุดม่งุ หมายในการอา่ น ซ่ึงมีความสอดคล้องกบั วัชรา เลา่ เรยี นดี (2547: 150) ทีก่ ล่าววา่ สิง่ สำคัญในการนำ เทคนิค KWLไปจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความสามารถในการอ่านให้กับนักเรียน คือ การใช้คำถามของครูใน การกระตนุ้ ใหน้ ักเรียนคิด ในทกุ ชั้นคอนของกจิ กรรมการเรียนรู้ เพื่อยืนยนั หรอื เปล่ียนแปลงความคิดเม่ือเห็นมี มีหลักฐานหรือเหตุผลเพียงพอ ก่อนที่จะใช้วิจารณญาณของตนเอง ในการหาข้อสรุป การแสดงความคิดเห็น ด้านประโยชน์ท่ีได้รับเป็นอนั ดับที่ 1 นัน้ นักเรยี นมีความ คดิ เห็นว่า การจัดการเรียนรู้การอ่านจับใจความด้วย เทคนิคKWL ร่วมกับแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ ช่วยให้นักเรียนสามารถนำกระบวนการเรียนรู้ไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นวิชาอน่ื ๆ และในชีวิตประจำวันได้ และช่วยสง่ เสรมิ พัฒนาความสามารถด้านการอ่านจับใจความ ของนักเรียนได้ดีขึ้น รองลงมาด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้นักเรียนมีความคิดเห็นว่า กิจกรรมเทคนิค KWL ร่วมกับแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ เป็นกิจกรรมที่พัฒนาทักษะการอ่านจับใจความไปพร้อม ๆ กับการ คิด ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนตั้งคำถาม และค้นหา 74 สิ่งที่อยากรู้ อันดับสุดท้ายคือ ด้านบรรยากาศการเรียนรู้ ซงึ นักเรียนมคี วามคิดเหน็ ว่า นกั เรียนมี สว่ นร่วมในการจดั กิจกรรม ครเู ปน็ กันเองกับนักเรียน และช่วยส่งเสริม ให้นักเรียนแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม บรรยากาศการเรียนขณะเรียนเป็นกันเอง นักเรียน สนกุ สนาน ในการปฏิบัตกิ ิจกรรมทกุ ขน้ั ตอน
47 ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะการใช้ประโยชน์ผลการวจิ ยั 1.1 สามารถนำไปใชก้ บั นักเรียนระดับชั้นอน่ื ในระดับประถมศกึ ษาทตี่ ้องการพฒั นาทกั ษะการอ่าน จบั ใจความ ทั้งนี้เพราะ นวัตกรรมมีความน่าสนใจ และสามารถนำไปใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรรู้ ว่ มกบั เทคนคิ KWL เพื่อใหน้ กั เรยี นเกดิ ทกั ษะการอ่านจับใจความได้จรงิ 2. ขอ้ เสนอแนะการศึกษาเพิ่มเติมหรอื ทำวิจัยตอ่ ยอด 2.1 ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยโดยใช้แบบฝึกการอ่านจับใจความโดยใช้ เทคนิค KWL กับทักษะอื่นในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เช่น ทักษะการเขียนสรุปใจความ ทั้งนี้เพราะ เทคนิค KWL สามารถนำไปใช้กจิ กรรมการเรียนรไู้ ด้หลายสาระและหลายทกั ษะ
บรรณานกุ รม กระทรวงศกึ ษาธิการ. กรมวิชาการ. ( 2551). หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ: องค์การรบั สง่ สนิ ค้าและพสั ดุภัณฑ(์ ร.ส.พ.) จริ าภรณ์ บุญณรงค.์ ( 2554). “การเปรียบเทยี บผลสัมฤทธก์ิ ารอา่ นจับใจความของนักเรียน ช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 6 ท่ีได้รับการสอนด้วยเทคนิค KWL กับการสอนแบบปกติ.” วิทยานิพนธ์ปรญิ ญา ศกึ ษาศาสตร มหาบัณฑติ สาขาวิชาการสอนภาษาไทย บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร. ฉววี รรณ คหู าภนิ ันท.์ (2542). เทคนิคการอา่ น. กรงุ เทพฯ: ศลิ ปากรบรรณาคาร. ฐิติกมณฑ์ จนั ทโกศล. (2551). การพฒั นาทกั ษะการอ่านจับใจความด้วยเทคนิคเค ดบั เบิล้ ยู แอล (K W L). กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานชิ ผกาศรเี ย็นบตุ ร. (2542). การอ่าน. กรุงเทพฯ: ภาควิชาภาษาไทยและภาคตะวันออก คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ ประสานมิตร. พชั รนิ ทร์ แจ่มจ ารูญ. ( 2547). “การเปรียบทียบผลสัมฤทธิท์ างการอ่านจับใจความของนกั เรยี น ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ทไ่ี ดร้ บั การสอนอ่านแบบปฏิสัมพนั ธ์ดว้ ยวิธี KWL Plus กบั วธิ กี ารสอนอา่ น แบบปกต.ิ ” วทิ ยานิพนธป์ รญิ ญาศกึ ษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชา การสอนภาษาไทย บัณฑิต วิทยาลยั มหาวิทยาลัยศิลปากร. รังษิมา สรุ ยิ ารงั สรรค.์ (2555). “การพัฒนาแบบฝกึ การอา่ นจบั ใจความของนกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษา ปีท่ี1 โดยใชข้ ้อมลู ท้องถ่ินจังหวัดเพชรบรุ ี.” วิทยานิพนธป์ ริญญาศึกษาศาสตร มหาบัณฑติ สาขาวิชาการ สอนภาษาไทย บัณฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลัยศิลปากร. รตั นาภรณค์ ลอ่ งแคล่ว. (2548). “การพฒั นาทกั ษะการอ่านจบั ใจความวิชาภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 โดยใชแ้ บบฝึก.” วิทยานิพนธป์ ริญญาศึกษาศาสตร มหาบัณฑติ สาขาวชิ าหลกั สูตรและการนเิ ทศ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร. วารณุ ี อุดมธาดา. ( 2537). “ผลของการสอนอ่านโดยการผสมผสานกจิ กรรมการอ่าน KWL กบั การสอน โครงสรา้ งความรียง ทมี่ ตี ่อความสามารถในการอา่ นจบั ใจความ ภาษาไทย ของนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6.” วทิ ยานิพนธ์ปรญิ ญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาประถมศึกษา บณั ฑิตวทิ ยาลัย จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . แววมยรุ า เหมอื นนลิ . ( 2541). การอา่ นจบั ใจความ. พมิ พ์ครั้งท2่ี . กรุงเทพฯ: สวุ รี ิยาสาสน.์ ศศิกญั ชณฐั เสง็ เส. (2554). “การพัฒนาชดุ ฝกึ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความวิชาภาษาไทยสำหรับ นกั เรยี นช้ัน ประถมศกึ ษาปีท่ี 6.” วิทยานิพนธ์ปรญิ ญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขา การจัดการหลกั สูตรและการ
เรียนรู้ มหาวทิ ยาลัยราชภฎั นครสวรรค์. สรุ ยี ์มาศ บุญฤทธริ์ ุง่ โรจน์. (2544). “การพฒั นาแบบฝึกการอา่ นจับใจความสำคัญสำหรับ นกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3.” วทิ ยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาหลักสตู รและการนิเทศ บัณฑิตวทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร.
ภาคผนวก ก (แบบฝกึ ทกั ษะการอ่านจบั ใจความ)
ป.3 ชอื่ ……………………………………........... นามสกลุ ……………………………………. เลขท…ี่ …………….ชน้ั ……………..........
ตอนที่ 1 ฉลากสินคา้
แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นจับใจความ คำชี้แจง ให้นกั เรียนอ่านจบั ใจความของเรอื่ ง แลว้ เขยี นเครอ่ื งหมาย √ หน้าข้อที่ถูก และ เขยี น เคร่อื งหมาย × หนา้ ข้อที่ผิด ๑. ………. ขอ้ มลู ที่ปรากฏอยูบ่ นภาพ เป็นข้อมูลของ ฉลากอาหาร ๒. ……….. นำ้ พรกิ ปลาสลิด ตราแมศ่ รตี รัง เป็นช่อื ของสินค้า ๓. ……….. ควรเก็บนำ้ พริกปลาสลิด ให้พ้นจากแสงแดด ไม่ควรอยใู่ นท่ีรอ้ นจัด ๔. ……….. นำ้ พริกปลาสลดิ ผลติ และจัดจำหน่ายโดย บรษิ ัท แม่ศรีตรังเอ็นเตอรไ์ พรส์ จำกดั ๕. …........ ส่วนประกอบของน้ำพริกปลาสลิด มีนำ้ ปลา ๒.๕ %
ตอนที่ 2 วรรณคดี
แบบฝึกทักษะการอา่ นจบั ใจความ คำชี้แจง ให้นกั เรียนอ่านจับใจความของกลอนต่อไปนี้ แลว้ จับคขู่ อ้ ความทก่ี ำหนดใหเ้ ตมิ ลงใน ชอ่ งว่างให้เหมาะสม ปลูกเอย๋ ปลูกผัก ไม่ยากนกั สอนลูกใหป้ ลูกงา่ ย สารอาหารของดีมีมากมาย ช่วยขับถ่ายให้ปลอดโปร่งโล่งอุรา จะกินผักต้องลา้ งใหส้ ะอาด มฉิ ะน้นั โรคพยาธจิ ะถามหา ขอเชิญเด็กเลก็ เลก็ และคนชรา จงต้ังหนา้ กินผักเถิดประเสริฐเอย ชวนกนิ ผัก ให้สารอาหารมากมาย โรคพยาธิ เดก็ เลก็ และคนชรา ลา้ งทำความสะอาด ๑. จุดมงุ่ หมายของคำกลอนน้ีคอื อะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๒. เพราะเหตุใดจงึ ควรกินผัก.........……………………………………………………………………………………………..……… ๓. ถา้ สมปองจะนำผกั มาประกอบอาหาร ส่ิงแรกท่สี มปองควรทำคืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๔. วยั อะไรบา้ งที่ควรกินผกั ………………………………………………………………………………………………………………….. ๕. ถา้ มะปราง ไม่ล้างทำความสะอาดผักก่อนรบั ประทาน จะเส่ียงต่อการเกิด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ตอนที่ 3 เรอื่ งเล่าส้นั ๆ ในท้องถิ่น
แบบฝึกทกั ษะการอา่ นจบั ใจความ คำชี้แจง: ใหน้ กั เรียนอา่ นจับใจความแลว้ เติมคำท่กี ำหนดไว้ในชอ่ งวา่ ง กำเนิดตน้ ข้าว ในสมัยกอ่ นเมล็ดข้าวเกิดขึน้ เองไมต่ ้องปลูก และมขี นาดใหญ่มาก ใหญ่กวา่ กำปั้นของมนุษย์ ๕ เท่า เมลด็ ขา้ วมสี ีเงินและมกี ล่ินหอม มนษุ ย์กไ็ ด้ใชห้ ุงกนิ ต่อมามหี ญิงหมา้ ยคนหนึง่ สร้างยุง้ ฉางให้ข้าวมาเกิดในยงุ้ ฉาง แมห่ ม้ายเปน็ คนหยาบชา้ ตีข้าวเมล็ดใหญ่ดว้ ยไม้ เมลด็ ข้าวแตกหักและปลวิ ไป ที่ปลวิ ไปตกในป่ากลายเป็นข้าว ดอย ที่ปลิวไปตกในน้ำเป็นข้าวนาดำมชี อ่ื ว่านางพระโพสพ นางพระโพสพอาศัยอยกู่ ับปลาในหนองน้ำ นาง พระโพสพโกรธมนุษย์จึงไม่กลบั ไปอกี มนษุ ย์กอ็ ดอยากไม่มขี ้าวกนิ ไปถึงพนั ปี ต่อมามีลูกชายเศรษฐไี ปเที่ยวป่า แล้วหลงทางมาถงึ หนองนำ้ ก็นง่ั รอ้ งไห้ ปลากั้งสงสารจึงขอใหน้ างพระโพสพบอกทางใหแ้ ละกลบั ไปอยกู่ ับ มนษุ ย์ นางพระโพสพเล่าถงึ ความใจร้ายของแม่หม้าย ลูกชายเศรษฐีอ้อนวอนให้นางพระโพสพกลับไป แตน่ าง ก็ไมย่ อม เทวดาจงึ แปลงตวั เปน็ ปลากับนกแก้วมาอ้อนวอนให้นางไปดูแลมนษุ ย์และพระศาสนา เพราะ พระพทุ ธเจ้าจะไปเกิดอีก นางพระโพสพจึงยอมกลบั ไปแต่ขา้ วจะเล็กลง และต้องทำการเพาะปลูก ถา้ จะตำขา้ ว จะตอ้ งทำพิธขี ออนุญาตนางพระโพสพ และเมื่อเกี่ยวขา้ วเสร็จแล้วตอ้ งทำพธิ สี ู่ขวัญข้าว พันปี พิธี เงิน นกแกว้ เพาะปลูก ปลา กำปั้น สขู่ วัญขา้ ว อดอยาก เลก็ ลง ๑. ในสมยั ก่อนเมลด็ ข้าว มีขนาดใหญ่มาก ใหญ่กวา่ ……………………..ของมนุษย์ ๕ เทา่ มีส…ี ………….และกลนิ่ หอม ๒. นางพระโพสพโกรธมนุษยจ์ ึงไมก่ ลับไปอกี จึงทำให้พวกมนษุ ย์….………….ไม่มีขา้ วกินไปถงึ …………. ๓. เทวดาจึงแปลงตวั เป็น………….กบั …………..มาอ้อนวอนใหน้ างไปดแู ลมนษุ ย์และพระศาสนา ๔. พระแม่โพสพยอมกลับไปแต่จะทำใหข้ า้ ว……………และต้องทำการ……………..ถา้ จะตำข้าวจะต้องทำ……..ขอ อนุญาตนางพระโพสพ ๕. เมอ่ื เก่ยี วข้าวเสรจ็ แล้วต้องทำพธิ ี………………………….
ตอนที่ 4 เหตกุ ารณใ์ น ชีวติ ประจำวนั
แบบฝึกทักษะการอ่าน จบั ใจความ คำชแี้ จง นกั เรียนอ่านจบั ใจความข้อความดงั กล่าวแล้ว ใหน้ กั เรยี น X ทบั ข้อที่ถูกต้องทสี่ ุดเพยี งขอ้ เดยี ว ชีวติ ประจำวนั ของหนนู ดิ วนั จนั ทรถ์ งึ วนั ศุกร์ เปน็ วนั ทหี่ นนู ิดตอ้ งตนื่ มาเรียน หนนู ดิ เรมิ่ ตน้ จากการตนื่ นอนตอน 0๖.00 น. ออกจากบา้ นประมาณ 0๗.00 น. จะมาถงึ โรงเรยี น 0๗.๓0 น. พอ 0๘.๓0 น. ก็ เรม่ิ เรยี นแลว้ เรยี นจนไปถงึ 16.30 น. แลว้ กก็ ลบั บา้ น พอมาถงึ บา้ นหลงั จากเกบ็ กระเปา๋ แลว้ หนนู ิดกอ็ าบนำ้ กอ่ นเลย แลว้ คอ่ ยมากนิ อาหารเยน็ กับครอบครวั พอกนิ เสรจ็ หนนู ดิ กเ็ ดนิ เลน่ แถวบา้ น ถา้ มกี ารบา้ นทต่ี อ้ งทำหนนู ดิ กจ็ ะเรมิ่ ทำประมาณ ๑๙.30 น. แลว้ หนนู ดิ กจ็ ะเปดิ ไฟดู ละครหลงั ขา่ ว ดูการต์ นู แลว้ ก็เข้านอน ประมาณ ๒๑.00 น. ๑. วนั จนั ทร์ถงึ วนั ศกุ ร์ เปน็ วนั ทหี่ นนู ดิ ตอ้ งทำอะไร ก. ไปโรงเรียน ข. ช่วยแม่ทำกบั ข้าว ค. ชว่ ยพ่อรดน้ำตน้ ไม้ ง. ไปบา้ นคุณยาย ๒. หนนู ดิ ตน่ื นอนตอนกโ่ี มง ก. 0๗.00 น. ข. 0๘.๓0 น. ค. 0๖.00 น. ง. 16.30 น. 3. หนนู ดิ เลิกเรยี นกโี่ มง ก. 0๗.00 น. ข. 0๘.๓0 น. ค. 0๖.00 น. ง. 16.30 น. ๔. กอ่ นทหี่ นนู ดิ จะมากินขา้ วกบั ครอบครวั หนนู ดิ ทำอะไร ก. ล้างจาน ข. ทำการบา้ น ค. เดนิ เล่น ง. อาบน้ำ ๕. ถา้ หนนู ดิ มกี ารบา้ นทตี่ อ้ งทำ หนนู ดิ กจ็ ะเรมิ่ ทำประมาณกโี่ มง ก. ๑๙.30 น. ข. ๒๑.00 น. ค. 0๖.00 น. ง. 16.30 น. ######################################
ตอนที่ 5 นทิ าน
แบบฝกึ ทกั ษะการอา่ นจบั ใจความ คำชแี้ จง : ใหน้ กั เรยี นอา่ นขอ้ ความตอ่ ไปน้ี แลว้ ตอบคำถามดา้ นลา่ ง นิทานเรอื่ ง หมาป่ากบั หมาบา้ น ครงั้ หนง่ึ หมาปา่ กลา่ วกบั ฝงู หมาบ้านวา่ \"พวกทา่ นกม็ หี นา้ ตาเหมือนๆ กบั พวกข้า เหตุใดจงึ ไมม่ าอยรู่ ่วมฝูงกันหละ่ พวกเราทั้งสองไม่มีอะไรแตกต่างกนั เลยน่ีนา ยกเว้นแนวคิด เท่าน้ัน พวกเราอยู่อย่างอิสระ แตพ่ วกทา่ นยอมรับใช้มนุษย์เยี่ยงทาส ปล่อยให้พวกเขาทุบตี และเอาปลอกคอมาใส่ นอกจากนั้นก็ยงั ใช้ใหเ้ ฝ้าฝงู สตั ว์อกี ดว้ ย เมอื่ พวกเขากินอาหารกัน พวกท่านก็ได้กนิ แค่เศษกระดูกท่ีเขาโยนมาให้ จงเชื่อพวกเราเถอะ ส่งฝูงแกะมาใหพ้ วกเรา ซะดกี วา่ แลว้ เราจะได้แบ่งกนั กินยงั ไงหล่ะ\" หมาบ้านตกลงตามข้อเสนอดงั กลา่ ว แต่ทนั ทีที่ ฝงู หมาปา่ เขา้ มาในคอกแกะ มันก็เรม่ิ ด้วยการฆา่ หมาบา้ นท้งั หมดเสยี ก่อน 1. จากนทิ านขา้ งตน้ มสี ตั วอ์ ะไรบา้ ง ........................................................................... ................................................................................................. ........ 2. สตั วช์ นดิ ใดมหี นา้ ตาคลา้ ยหมาปา่ ................................................................................................................................................................... ......... ........ 3. หมาปา่ ทำอยา่ งไรเพอื่ ให้ไดฝ้ งู แกะ ............................................................................................................................. ............................................... ........ 4. หมาปา่ ใชเ้ หตผุ ลใด ในการหลอกหมาบา้ น ............................................................................................................................. ............................................... ........ 5. หมาบา้ นไดร้ บั อะไรหลงั จากตอบตกลงกบั หมาปา่ ............................................................................................................................. ............................................... .................................................................................... ........................................................................................
เฉลยแบบฝึกทักษะ (ตอนที่ 1 – 5)
เฉลยแบบฝึกทกั ษะการอ่านจบั ใจความ คำชแี้ จง ให้นกั เรียนอา่ นจับใจความของเรื่อง แลว้ เขียนเครอ่ื งหมาย √ หน้าข้อทีถ่ กู และ เขยี น เครือ่ งหมาย × หน้าขอ้ ทผ่ี ิด ๑ . √ ข้อมูลที่ปรากฏอยู่บนภาพ เป็นข้อมลู ของ ฉลากอาหาร ๒. × น้ำพรกิ ปลาสลิด ตราแม่ศรีตรัง เป็นชื่อของสินคา้ (ชอ่ื ของสินคา้ คือ นำ้ พริกปลาสลิด ตรา วังวรา) ๓. √ ควรเก็บน้ำพริกปลาสลิด ใหพ้ ้นจากแสงแดด ไมค่ วรอยู่ในที่ร้อนจดั ๔. × นำ้ พรกิ ปลาสลดิ ผลติ และจัดจำหนา่ ยโดย บรษิ ทั แมศ่ รีตรังเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกดั (น้ำพริกปลา สลดิ ผลติ โดย บริษัท วังวราเอน็ เตอร์ไพรส์ จำกดั ) ๕. × ส่วนประกอบของน้ำพริกปลาสลดิ มีน้ำปลา ๒.๕ % (ไมม่ สี ว่ นประกอบของน้ำปลา)
แบบฝึกทักษะการอา่ นจบั ใจความ คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนอ่านจับใจความของกลอนตอ่ ไปน้ี แลว้ จับคขู่ ้อความทกี่ ำหนดให้เตมิ ลงใน ช่องวา่ งให้เหมาะสม ปลูกเอย๋ ปลกู ผัก ไม่ยากนกั สอนลูกให้ปลกู งา่ ย สารอาหารของดีมีมากมาย ชว่ ยขับถ่ายให้ปลอดโปร่งโล่งอุรา จะกินผกั ต้องล้างใหส้ ะอาด มิฉะนั้นโรคพยาธิจะถามหา ขอเชิญเด็กเล็กเลก็ และคนชรา จงต้งั หนา้ กินผักเถดิ ประเสรฐิ เอย ชวนกนิ ผกั ใหส้ ารอาหารมากมาย โรคพยาธิ เด็กเล็กและคนชรา ลา้ งทำความสะอาด ๑. จดุ มงุ่ หมายของคำกลอนนี้คอื อะไร ชวนกินผกั ๒. เพราะเหตุใดจึงควรกนิ ผัก ใหส้ ารอาหารมากมาย ๓. ถ้าสมปองจะนำผักมาประกอบอาหาร ส่งิ แรกทส่ี มปองควรทำคืออะไร ลา้ งทำความสะอาด ๔. วยั อะไรบา้ งที่ควรกินผัก เดก็ เลก็ และคนชรา ๕. ถ้ามะปราง ไม่ลา้ งทำความสะอาดผักก่อนรับประทาน จะเส่ียงต่อการเกิด โรคพยาธิ
เฉลย แบบฝึกทกั ษะการอ่านจบั ใจความ คำช้ีแจง: ใหน้ ักเรยี นอา่ นจับใจความแล้วเตมิ คำทกี่ ำหนดไว้ในช่องวา่ ง กาเนดิ ตน้ ขา้ ว ในสมยั กอ่ นเมล็ดข้าวเกดิ ข้นึ เองไม่ตอ้ งปลูก และมขี นาดใหญม่ าก ใหญก่ วา่ กําปันของมนษุ ย์ ๕ เทา่ เมล็ดขา้ วมี สเี งินและมกี ล่นิ หอม มนษุ ยก์ ไ็ ดใ้ ช้หงุ กิน ตอ่ มามหี ญงิ หม้ายคนหนึ่ง สร้างยุ้งฉางใหข้ า้ วมาเกิดในยุ้งฉาง แม่หม้าย เป็นคนหยาบชา้ ตขี า้ วเมล็ดใหญ่ด้วยไม้ เมลด็ ขา้ วแตกหักและปลิวไป ทป่ี ลวิ ไปตกในป่ากลายเป็นขา้ วดอย ทป่ี ลวิ ไป ตกในนํ้าเป็นขา้ วนาดาํ มีช่อื วา่ นางพระโพสพ นางพระโพสพอาศัยอยู่กับปลาในหนองนา้ํ นางพระโพสพโกรธมนุษย์ จึงไม่กลบั ไปอีก มนุษยก์ ็อดอยากไมม่ ขี ้าวกนิ ไปถึงพนั ปี ตอ่ มามลี ูกชายเศรษฐไี ปเทย่ี วป่าแล้วหลงทางมาถงึ หนองน้ํา ก็นั่งรอ้ งไห้ ปลาก้ังสงสารจึงขอให้นางพระโพสพบอกทางให้และกลับไปอยู่กับมนษุ ย์ นางพระโพสพเล่าถึงความใจ ร้ายของแมห่ ม้าย ลูกชายเศรษฐีออ้ นวอนใหน้ างพระโพสพกลบั ไป แต่นางก็ไม่ยอม เทวดาจงึ แปลงตวั เป็นปลากบั นกแก้วมาออ้ นวอนใหน้ างไปดแู ลมนษุ ยแ์ ละพระศาสนา เพราะพระพทุ ธเจา้ จะไปเกิดอีก นางพระโพสพจึงยอม กลบั ไปแตข่ า้ วจะเลก็ ลง และต้องทาํ การเพาะปลกู ถา้ จะตาํ ข้าวจะตอ้ งทาํ พธิ ขี ออนุญาตนางพระโพสพ และเม่ือ เกี่ยวขา้ วเสรจ็ แลว้ ต้องทําพิธสี ขู่ วญั ขา้ ว พนั ปี พธิ ี เงนิ นกแก้ว เพาะปลูก ปลา กำปนั้ สขู่ วญั ขา้ ว อดอยาก เลก็ ลง ๑. ในสมยั ก่อนเมลด็ ข้าว มีขนาดใหญ่มาก ใหญก่ วา่ …กำป้ัน……ของมนษุ ย์ ๕ เท่า มสี …ี เงิน...และกลิ่นหอม ๒. นางพระโพสพโกรธมนุษย์จึงไม่กลับไปอกี จึงทำให้พวกมนษุ ย์…อดอยาก...ไม่มขี า้ วกนิ ไปถึง…พนั ปี…. ๓. เทวดาจึงแปลงตวั เปน็ …ปลา...กบั …นกแก้ว...มาอ้อนวอนให้นางไปดแู ลมนษุ ยแ์ ละพระศาสนา ๔. พระแม่โพสพยอมกลบั ไปแต่จะทำใหข้ า้ ว…เล็กลง……และตอ้ งทำการ…เพาะปลกู …ถ้าจะตำขา้ วจะต้อง ทำ…พธิ ี…..ขออนญุ าตนางพระโพสพ ๕. เมื่อเก่ียวข้าวเสร็จแล้วตอ้ งทำพธิ ี……ส่ขู วัญขา้ ว……
เฉลยแบบฝึกทกั ษะการอา่ น จับใจความ คำชแี้ จง นกั เรยี นอ่านจบั ใจความขอ้ ความดังกลา่ วแล้ว ให้นกั เรยี น X ทับขอ้ ทีถ่ ูกตอ้ งที่สุดเพียงขอ้ เดียว ชวี ติ ประจำวนั ของหนูนดิ วนั จนั ทรถ์ ึงวนั ศกุ ร์ เปน็ วนั ทห่ี นนู ิดตอ้ งตนื่ มาเรียน หนนู ดิ เริ่มตน้ จากการตน่ื นอนตอน 0๖.00 น. ออกจากบา้ นประมาณ 0๗.00 น. จะมาถงึ โรงเรยี น 0๗.๓0 น. พอ 0๘.๓0 น. ก็ เริม่ เรยี นแลว้ เรยี นจนไปถงึ 16.30 น. แลว้ กก็ ลบั บา้ น พอมาถงึ บา้ นหลงั จากเกบ็ กระเปา๋ แลว้ หนนู ิดกอ็ าบนำ้ กอ่ นเลย แลว้ คอ่ ยมากนิ อาหารเยน็ กบั ครอบครวั พอกนิ เสรจ็ หนนู ิดกเ็ ดนิ เลน่ แถวบา้ น ถา้ มกี ารบา้ นทตี่ อ้ งทำหนนู ดิ กจ็ ะเริม่ ทำประมาณ ๑๙.30 น. แลว้ หนนู ดิ กจ็ ะเปดิ ไฟดู ละครหลังขา่ ว ดกู ารต์ นู แลว้ กเ็ ข้านอน ประมาณ ๒๑.00 น. ๑. วนั จนั ทร์ถงึ วนั ศกุ ร์ เปน็ วนั ทห่ี นนู ดิ ตอ้ งทำอะไร ก. ไปโรงเรยี น ข. ช่วยแมท่ ำกับขา้ ว ค. ชว่ ยพ่อรดนำ้ ตน้ ไม้ ง. ไปบา้ นคุณยาย ๒. หนนู ดิ ตน่ื นอนตอนกโี่ มง ก. 0๗.00 น. ข. 0๘.๓0 น. ค. 0๖.00 น. ง. 16.30 น. 3. หนนู ดิ เลกิ เรยี นกโี่ มง ก. 0๗.00 น. ข. 0๘.๓0 น. ค. 0๖.00 น. ง. 16.30 น. ๔. กอ่ นทห่ี นนู ดิ จะมากินขา้ วกบั ครอบครวั หนนู ดิ ทำอะไร ก. ล้างจาน ข. ทำการบ้าน ค. เดินเลน่ ง. อาบนำ้ ๕. ถา้ หนนู ดิ มกี ารบา้ นทตี่ อ้ งทำ หนนู ดิ กจ็ ะเรมิ่ ทำประมาณกโ่ี มง ก. ๑๙.30 น. ข. ๒๑.00 น. ค. 0๖.00 น. ง. 16.30 น. ########################################
เฉลยแบบฝกึ ทกั ษะการอ่านจับใจความ คำชแี้ จง : ใหน้ กั เรยี นอา่ นขอ้ ความตอ่ ไปนี้ แลว้ ตอบคำถามดา้ นลา่ ง นิทานเรอื่ ง หมาปา่ กบั หมาบ้าน คร้ังหน่ึงหมาปา่ กลา่ วกับฝงู หมาบ้านวา่ \"พวกทา่ นกม็ ีหน้าตาเหมือนๆ กับพวกขา้ เหตุใดจงึ ไม่มาอยู่รว่ มฝงู กนั หละ่ พวกเราทั้งสองไมม่ ีอะไรแตกตา่ งกันเลยน่ีนา ยกเว้นแนวคดิ เท่าน้ัน พวกเราอยู่อย่างอิสระ แตพ่ วกทา่ นยอมรับใช้มนษุ ย์เยย่ี งทาส ปล่อยใหพ้ วกเขาทุบตี และเอาปลอกคอมาใส่ นอกจากนนั้ ก็ยังใช้ให้เฝ้าฝูงสัตว์อกี ด้วย เม่อื พวกเขากนิ อาหารกัน พวกท่านกไ็ ด้กนิ แค่เศษกระดูกทเ่ี ขาโยนมาให้ จงเช่ือพวกเราเถอะ สง่ ฝูงแกะมาให้พวกเรา ซะดกี วา่ แล้วเราจะได้แบ่งกันกินยงั ไงหล่ะ\" หมาบ้านตกลงตามข้อเสนอดงั กล่าว แต่ทันทีท่ี ฝงู หมาปา่ เขา้ มาในคอกแกะ มนั กเ็ ร่ิมดว้ ยการฆ่าหมาบา้ นทงั้ หมดเสยี ก่อน 1. จากนทิ านขา้ งตน้ มสี ตั วอ์ ะไรบา้ ง .....ฝ...งู .ห...ม...า.ป...า่..,..ฝ...งู ..ห..ม...า..บ..้า..น...,..ฝ..ูง..แ...ก..ะ....................................................................................................................... ........ 2. สตั วช์ นดิ ใดมหี นา้ ตาคลา้ ยหมาปา่ ....ห...ม...า..บ..า้..น................................................................................................................................................... ......... ........ 3. หมาปา่ ทำอยา่ งไรเพอื่ ใหไ้ ดฝ้ ูงแกะ ....ห...ล..อ...ก..ใ.ห...ห้...ม..า..บ...้า..น..ม...า..เ.ป...น็ ..พ...ว..ก..เ..ด..ีย..ว..ก...ับ..ห...ม...า.ป...่า.................................................... ............................................... ........ 4. หมาปา่ ใชเ้ หตผุ ลใด ในการหลอกหมาบ้าน ....ใ..ช..เ้.ห...ต..ุผ...ล..ว..า่..ห...น..า้..ต...า..ข..อ..ง..ห...ม..า..บ...้า..น..เ..ห..ม...ือ..น...ก..ัน...ก..บั...ห..ม...า..ป..า่....แ..ล..ะ...ถ..้า..ห..ม...า..บ..า้..น...อ..ย...ูก่ ..บั...ม.น...ุษ...ย..์ก..็จ...ะ..ต..้อ...ง.อ...ย..เู่.ย...่ยี ..ง..ท..า..ส........ ........ 5. หมาบา้ นไดร้ บั อะไรหลงั จากตอบตกลงกบั หมาปา่ ....ไ..ม..ค่...ว..ร..ห..ล...ง..เ.ช..อื่...ค..ำ..พ...ูด..ข..อ...ง..ใ.ค...ร..ง.่า..ย...ๆ...ค...ว..ร..ค..ดิ...พ..จิ...า..ร..ณ...า..ไ.ต...ร..ต่ ..ร..อ...ง...แ..ล..ะ...ค..ิด..ใ..ห...ร้ ..อ..บ...ค.อ...บ..ใ..ห..ด้...ีเ.ส..ยี...ก..่อ..น......................... ....โ..ด..ย...เ.ฉ..พ...า..ะ..อ..ย...่า..ง.ย...ิ่ง...ค..น...แ..ป...ล..ก...ห..น...้า..ท..่ีเ..ร..า..ไ.ม...่ร..้จู ..ัก....ไ.ม...่ค..ว..ร..เ.ช...อื่ ..เ.ข...า..ง.า่..ย...ๆ.................... ...............................................
ภาคผนวก ข (แผนการจดั การเรยี นรู้)
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง การอ่านจบั ใจความ รหัสวชิ า (ท 13101) วนั ทีส่ อน เวลา 1 ช่วั โมง ผสู้ อน นางสาวเบญจวรรณ สอนโต ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 นางสาวจุฑารตั น์ แกว้ ประเสริฐ รหัสนักศึกษา 62031280164 นางสาวปยิ ะฉตั ร แสนทอง รหัสนกั ศกึ ษา 62031280169 นางสาวศยามล พลศักดิ์ รหสั นักศกึ ษา 62031280178 รหสั นักศกึ ษา 62031280182 มาตรฐานการเรยี นรู้ ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคิดเพ่ือนำไปใชต้ ดั สนิ ใจแก้ปญั หาในการดำเนินชีวิต และมีนิสยั รักการอ่าน ตัวชว้ี ัด ป 3/3 ตั้งคำถามและตอบคำถามเชงิ เหตผุ ลเก่ียวกบั เร่ืองท่ีอ่าน จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สรปุ สาระสำคญั จากเร่ืองที่อ่านได้ (K) 2. อา่ นจบั ใจความสำคญั ได้ถูกต้อง (P) 3. มุง่ มนั่ ในการทำงาน (A) สาระสำคัญ การอา่ นจบั ใจความของเรื่องทอี่ า่ น เป็นการอา่ นทำความเข้าใจความหมายของคำ ตลอดจนจดั ลำดบั เหตกุ ารณใ์ นเรื่องที่อ่าน สรุปสาระสำคัญของเรื่องนั้นๆ ตอบคาํ ถามเชงิ เหตุผล และสรุปขอ้ คิดจากเร่ืองที่อา่ นได้ สาระการเรยี นรู้ - การอ่านจับใจความสำคัญจากเรือ่ งส้นั - การอา่ นจับใจความสำคัญจากนิทาน - การอา่ นจบั ใจความสำคัญจากเหตกุ ารณ์ในชวี ติ ประจำวัน - การอา่ นจับใจความสำคัญจากฉลากสินค้า - การอ่านจบั ใจความสำคัญจากวรรณคดี
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มงุ่ มั่นในการทำงาน กจิ กรรมการเรียนรู้ (จดั กจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบ K W L) ขนั้ ที่ 1 ข้ันรู้ K=Know (10 นาที) 1. ครแู ละนักเรียนกลา่ วทักทายกนั 2. นกั เรียนรบั แบบทดสอบก่อนเรียน เรอ่ื ง การอ่านจบั ใจความ คนละ 1 ชุด 3. ครูอธิบายคำช้แี จงแบบทดสอบก่อนเรยี น 4. นักเรียนลงมือทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เร่ือง การอ่านจับใจความ (5 นาที) 5. อภปิ รายและสนทนาร่วมกัน เกี่ยวกบั ความสำคัญของการอ่าน และองคป์ ระกอบของแบบฝึกทักษะ การอา่ นจับใจความ 6. ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ และส่งิ ทนี่ กั เรยี นจะต้องทราบหลงั จากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ใน ครง้ั นี้ ขั้นท่ี 2 ข้ันต้องการเรียน W=Want (10 นาท)ี 1. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียน บอกความตอ้ งการในประเดน็ ต่างๆ ท่ีอยากจะทราบหรือเรียนรเู้ พิม่ เติม เก่ยี วกับการอา่ นจับใจความ 2. ครูบันทกึ ความตอ้ งการของนกั เรยี น และสอดแทรกประเด็นต่างๆ ในเนื้อหาทีเ่ ตรยี มไว้ 3. ครูอธบิ ายหลักการ และวธิ ีการอา่ นจบั ใจความที่ถูกต้อง 4. นักเรียนสอบถามข้อสงสัยตา่ งๆ ก่อนท่ีจะเริ่มทำแบบฝึกทักษะการอา่ นจบั ใจความ ข้ันที่ 3 ขน้ั เรียนรู้แลว้ L=Learned (40 นาที) 1. นกั เรียนรบั แบบฝกึ ทักษะการอา่ นจบั ใจความ คนละ 1 ชุด 2. ครูอธิบายคำช้แี จงในแบบฝึกทกั ษะการอ่านจับใจความ 3. นักเรยี นลงมือทำแบบฝึกทักษะ ฝึกอา่ นเน้ือเรื่อง สรุปใจความสำคญั ของเร่ือง และตอบคำถาม 4. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายและสรุปเน้อื เรื่องในแบบฝึกทักษะ 5. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความ 6. ครขู อบใจนักเรียนทุกคนที่ตั้งใจเรียนและต้ังใจปฏิบัตกิ จิ กรรม สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น เร่ือง การอ่านจับใจความ 2. แบบฝกึ ทักษะการอา่ นจบั ใจความ 3. แบบทดสอบหลงั เรยี น เรอื่ ง การอ่านจบั ใจความ
การวดั และการประเมนิ ผล วธิ ีการวัด เครือ่ งมือวดั ผล เกณฑก์ ารผา่ น การวดั ผล จดุ ประสงค์ จดุ ประสงค์ ไดค้ ะแนน คณุ ภาพระดับ ด้านความรู้ความเขา้ ใจ (K) แบบฝึกทกั ษะการอา่ น แบบประเมนิ แบบฝึก สรปุ สาระสำคัญจากเรื่องทีอ่ า่ นได้ จับใจความ ทักษะการอา่ นจบั 2 ข้นึ ไป ใจความ ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) การตอบคำถาม แบบประเมนิ การตอบ อ่านจบั ใจความสำคัญไดถ้ ูกต้อง คำถาม ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) การสังเกต แบบประเมนิ การสงั เกต มุ่งม่ันในการทำงาน พฤติกรรม เกณฑ์การผ่านระดับคณุ ภาพตงั้ แต่ 2 ขึ้นไป
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล(Rubric) เกณฑก์ ารใหร้ ะดับคะแนน น้ำหนัก รวม คะแนน คะแนน ประเดน็ การประเมิน ระดบั 4 ระดบั 3 ระดับ 2 ระดับ 1 (ดีมาก) (ปรบั ปรุง) ดา้ นความรคู้ วาม ทำแบบฝึกทักษะ (ด)ี (พอใช)้ เข้าใจ (K) การอา่ นจับ สรปุ สาระสำคญั จาก ใจความได้ ทำแบบฝึกทักษะ ทำแบบฝึกทักษะ ทำแบบฝึก เรือ่ งท่ีอ่านได้ ถกู ต้อง 30 ข้อ การอา่ นจบั การอา่ นจบั ทักษะการอ่าน ด้านทักษะ ตอบคำถามได้ กระบวนการ (P) ถกู ต้อง ครบถว้ น ใจความได้ถกู ต้อง ใจความได้ถูกต้อง จบั ใจความได้ 3 12 อา่ นจบั ใจความสำคัญ และยกตวั อยา่ ง ได้ถูกตอ้ ง ประกอบได้ 25-29 ข้อ 24-28 ข้อ ถูกต้องนอ้ ยกวา่ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั มีความม่งุ มนั่ พงึ ประสงค์ (A) ตง้ั ใจปฏบิ ตั ิงาน 23 ข้อ ม่งุ มนั่ ในการทำงาน ด้วยความ กระตือรอื รน้ ตอบคำถามได้ ตอบคำถามได้ ตอบคำถามได้ รวม และมคี วาม ถกู ต้อง ครบถว้ น ถกู ต้อง รบั ผดิ ชอบ แต่ไม่ถกู ต้อง 3 12 มคี วามม่งุ ม่นั ตง้ั ใจ มีความมุ่งมน่ั ตอ้ งคอย 3 12 ปฏบิ ตั ิงานด้วย ต้งั ใจปฏบิ ัติงาน ตกั เตอื นให้ ความ ปฏบิ ตั ิงาน กระตือรอื รน้ 36 ระดับคุณภาพ 4 หมายถงึ ดมี าก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรับปรุง
บนั ทึกผลหลงั สอน 1. จุดประสงค์การเรยี นรู้ที่ 1 สรปุ สาระสำคัญจากเรื่องทอี่ ่านได้ (K) นักเรียนมผี ลการเรียนระดับ 4 (ดมี าก) คดิ เปน็ ร้อยละ…………………… นักเรียนมีผลการเรยี นระดบั 3 (ดี) คิดเปน็ ร้อยละ…………………… นักเรยี นมีผลการเรียนระดบั 2 (พอใช้) คิดเปน็ รอ้ ยละ…………………… นกั เรียนมผี ลการเรียนระดบั 1 (ควรปรับปรุง) คิดเปน็ รอ้ ยละ…………………… 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ท่ี 2 อา่ นจับใจความสำคญั ไดถ้ ูกต้อง (P) นักเรียนมผี ลการเรียนระดบั 4 (ดมี าก) คดิ เป็นรอ้ ยละ…………………… นกั เรยี นมผี ลการเรยี นระดบั 3 (ด)ี คิดเป็นร้อยละ…………………… นกั เรยี นมผี ลการเรียนระดับ 2 (พอใช้) คิดเป็นรอ้ ยละ…………………… นกั เรยี นมผี ลการเรยี นระดับ 1 (ควรปรบั ปรุง) คดิ เป็นร้อยละ…………………… 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ท่ี 3 มุ่งมน่ั ในการทำงาน (A) นกั เรยี นมีผลการเรียนระดบั 4 (ดีมาก) คดิ เป็นร้อยละ…………………… นกั เรยี นมีผลการเรียนระดับ 3 (ด)ี คิดเป็นรอ้ ยละ…………………… นกั เรยี นมผี ลการเรยี นระดับ 2 (พอใช)้ คิดเป็นรอ้ ยละ…………………… นักเรียนมีผลการเรียนระดบั 1 (ควรปรับปรงุ ) คิดเป็นร้อยละ…………………… ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ...................................................ผสู้ อน ()
ภาคผนวก ค (แบบวดั ระดบั ความพงึ พอใจ)
แบบวดั ระดบั ความพึงพอใจ คำชแ้ี จง 1. แบบวัดระดับความพึงพอใจมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดระดับความพึงพอใจของนักเรียนระดับช้ัน ประถมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรยี นบ้านเด่นเหลก็ อำเภอน้ำปาด จงั หวัดอตุ รดติ ถ์ ที่มีต่อการจดั กิจกรรมเพือ่ พฒั นาผล การเรยี นรู้ด้านทกั ษะการอา่ นจับใจความ โดยการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ 2. ความพึงพอใจแต่ละด้านที่วัด ประกอบด้วยข้อคำถามย่อย ๆ แต่ละข้อคำถามแบ่งความพึงพอใจ เปน็ 5 ระดบั จากมากสุด-น้อยสุด ดังน้ี 5 หมายถงึ มีความพึงพอใจมากท่สี ุด 4 หมายถึง มคี วามพงึ พอใจค่อนข้างมาก 3 หมายถงึ มีความพงึ พอใจปานกลาง 2 หมายถงึ มีความพงึ พอใจค่อนข้างนอ้ ย 1 หมายถงึ มคี วามพึงพอใจนอ้ ยทส่ี ดุ 3. ให้นักเรียนอ่านข้อคำถามของแตล่ ะดา้ นท่ีวัดความพึงพอใจ แลว้ ทำเครือ่ งหมาย ลงในช่องแสดง ระดับความพงึ พอใจใหต้ รงกบั ความคิดเหน็ ของตนเองมากทส่ี ดุ ตาราง: แสดงระดับความพึงพอใจแต่ละด้านที่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านเด่นเหล็ก อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่มีต่อการทดลองใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ จัดกิจกรรมเพื่อพัฒนา ผลการเรียนรู้ดา้ นทักษะการอา่ นจบั ใจความ ดา้ นความ รายการที่วัดความพงึ พอใจ ระดับความพึงพอใจ พงึ พอใจ 54321 ความถูกตอ้ งของเนอื้ หา เหมาะสมกบั นักเรยี น เน้ือหา การเรยี งลำดับเนื้อหาเปน็ ขั้นตอน มคี วามทนั สมัย เข้าใจง่าย และชดั เจน น่าสนใจ
ตาราง: แสดงระดับความพึงพอใจแต่ละด้านที่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านเด่นเหล็ก อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่มีต่อการทดลองใช้แบบฝกึ ทักษะการอ่านจับใจความ จัดกิจกรรมเพื่อพัฒนา ผลการเรยี นรูด้ ้านทกั ษะการอ่านจบั ใจความ (ต่อ) ด้านความ รายการที่วดั ความพึงพอใจ ระดบั ความพึงพอใจ พงึ พอใจ 54321 มกี ารทบทวนกอ่ นเรยี น การจดั กจิ กรรม นกั เรยี นมคี วามสนุกสนานในการทำกิจกรรม การเรยี นรู้แบบ เปดิ โอกาสให้นักเรียนซักถามขอ้ สงสัย ระยะเวลาในการจัดการเรยี นรู้มีความเหมาะสม KWL ส่งเสริมให้นักเรียนพัฒนาความสามารถด้านการ อา่ นจับใจความ มคี วามรูค้ วามเข้าใจในเนอื้ หาที่สอนเปน็ อยา่ งดี รับฟังความคิดเหน็ ของนักเรียน ความพงึ พอใจ มีบุคลกิ ภาพดี แต่งกายเรยี บร้อย ตอ่ ผูส้ อน สามารถถ่ายทอดความรู้ได้อย่างชัดเจน และ เขา้ ใจไดง้ ่าย พดู จาไพเราะ มีจำนวนกจิ กรรมทีเ่ หมาะสม สอ่ื การจดั การ ตกแต่งสวยงาม เรียนรู้ ภาพประกอบสอดคลอ้ งกับเนอ้ื หา คำชี้แจงมคี วามชดั เจน เขา้ ใจงา่ ย คำถามอา่ นเขา้ ใจง่าย ขอขอบใจนักเรียนทุกคนทีร่ ว่ มแสดงความพงึ พอใจตอ่ กจิ กรรมการเรยี นครัง้ น้ี
ภาคผนวก ง (แบบประเมนิ ตา่ งๆ)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126