ช่อื เรอื่ งวิจยั พฤตกิ รรมทสี่ ง่ ผลต่อการแสดงความคดิ เหน็ ในชนั้ เรียน วตั ถุประสงคใ์ นการวิจยั 1. เพ่อื สำรวจปัจจยั ท่มี ีผลตอ่ กำรแสดงควำมคิดเห็นในชนั้ เรยี น โดยใชว้ ธิ ีกำรทำแบบสอบถำม ของนกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 1 โรงเรยี น รวมชยั วิทยำ จำนวน 240 คน 2. เพ่อื สงั เครำะหป์ ัญหำท่สี ง่ ผลต่อกำรแสดงควำมคิดเห็นในชนั้ เรยี นของนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 1 โรงเรียนรวมชยั วทิ ยำ ตวั แปรในการวจิ ัย ตวั แปรตน้ (Independent Variable) กำรทำแบบสอบถำมพฤตกิ รรมท่สี ง่ ผลต่อกำรแสดงควำมคิดเหน็ ในชนั้ เรียน ตวั แปรตำม (Dependent Variable) พฤติกรรมกำรกลำ้ แสดงควำมคดิ เห็นในชน้ั เรยี น ตวั แปรควบคมุ (Controlled Variable) ระดบั ชนั้ ท่สี ำรวจ จำนวนผทู้ ำแบบสอบถำม กลุ่มเป้าหมายในการวิจยั นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 1 โรงเรยี นรวมชยั วิทยำ จำนวนหอ้ งเรียน 6 หอ้ ง หอ้ งละ 40 คน รวม 240 คน ทม่ี าและความสาคญั ของงานวิจยั พฤติกรรมกลา้ แสดงออกเป็นพฤติกรรมท่ีแสดงถึงความกล้าพดู กลา้ คดิ กลา้ กระทำในส่งิ ท่ีถูกต้องและกล้า แสดงออกตามความร้สู กึ ทีแ่ ท้จริงของตนโดยไม่ละเมดิ สิทธิของผู้อ่ืน โดยมีวธิ ีการแสดงออกที่สอดคล้องกับ สถานการณ์ ซ่ึงแสดงถึงการมีความเคารพนับถือ ยอมรับและเหน็ คณุ คา่ ของบุคคลอ่นื และ ของตนเองด้วย พฤติกรรมการแสดงออกเปน็ ส่งิ ทีส่ ำคญั อย่างยิง่ สำหรบั ผเู้ รียนทีจ่ ะต้องนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวันและ ทางดา้ นสงั คม รวมถงึ การทำงานและการประกอบอาชพี ในอนาคต ซ่ึงจะทำให้ผูเ้ รียนเกิดความมั่นใจในการ แสดงออกมากข้นึ อยา่ งเหมาะสมตามสถานการณท์ ่ีเกดิ ขึ้นจริงในทางตรงกนั ขา้ มหากผ้เู รียนขาดความกล้า แสดงออกกจ็ ะสง่ ผลให้ผเู้ รยี นขาดความเช่ือมน่ั และอาจจะตอ้ งเผชญิ กบั ปัญหาทางด้านการตดิ ต่อสื่อสารหรือการมี ปฏสิ มั พนั ธ์กับบุคคลอ่ืนดว้ ย ซง่ึ จะทำใหเ้ กดิ ความยากลำบากในการใช้ชีวิตและในการเรียนรู้ อยา่ งไรก็ตาม พฤติกรรมความกล้าแสดงออกของบุคลคลสามารถท่จี ะฝึกฝนและสามารถพัฒนาใหเ้ กดิ ขนึ้ ได้ เพือ่ ใหเ้ กดิ ความกล้า
แสดงออกและการแสดงออกอยา่ งเหมาะสมตามสถานการณ์ต่างๆ และทำให้สามารถมปี ฏิสัมพนั ธก์ บั ผอู้ ืน่ ได้อย่าง มปี ระสิทธภิ าพ Bower & Bower, 1976 ให้ความหมายวา่ พฤตกิ รรมท่เี หมาะสมในการแสดงออก คือ ความสามารถในการที่จะ แสดงความร้สู กึ ท่จี ะเลือกวาควรปฏิบัติอย่างไรท่จี ะแสดงสทิ ธเิ มอื่ มีความเหมาะสม ที่จะเพิ่มความรู้สกึ เหน็ คุณค่า ในตนเอง ท่จี ะช่วยพัฒนาความมนั ใจในตนเองให้เกิดขึ้น ทจ่ี ะแสดงความไม่ เหน็ ดว้ ยเม่ือคิดวา่ มีความสำคญั มาก พอ และความสามารถในการทจี่ ะดำเนินการเพ่ือปรบั พฤติกรรมของตนเองและขอรอ้ งให้ผอู้ ่ืนเปล่ียนแปลง พฤติกรรมการต่อตา้ นเขา้ ด้วย พระราชบัญญัติการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ให้ความหมายของการศึกษาคือ กระบวนการเรียนรเู้ พ่ือความ งอกงามของบุคคลโดยถา่ ยทอดความร้กู ารอบรม การสบิ สาน ทางวัฒนธรรม สร้างองค์ความรู้ท่เี กิดจาก สภาพแวดลอ้ ม สังคม การเรียนรู้ ใหบ้ ุคคลเรียนรู้ ตลอดชวี ิต การศกึ ษาต้องเปน็ ไปเพ่ือพัฒนาคนไทยใหส้ มบูรณ์ ทงั้ รา่ งกาย จิตใจ สตปิ ัญญา ความรู้ คุณธรรม จริยธรรม วฒั นธรรมการด ารงชวี ิตสามารถอยู่กบั ผู้อนื่ อย่างมี ความสุข มุ่ง พฒั นาบคุ คลใหม้ คี ุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ จากการศึกษาตัวอย่างพฤติกรรมของผ้เู รยี นในปจั จบุ นั พบว่า ผู้เรยี นขาดความกล้าแสดงออกและไม่มสี ว่ นรว่ ม ในการตอบคำถามในชนั้ เรียนเท่าทีค่ วร ปญั หาการขาดความกล้าแสดงออกในชนั้ เรยี นดังกล่าว จะสง่ ผลใหผ้ เู้ รียน ขาดความคิด ความม่นั ใจในการเรียนรู้ เมือ่ สงสัยในเน้ือหา ผู้เรยี นจะไม่กลา้ ซกั ถามครผู ้สู อน ทำใหผ้ เู้ รยี นไมเ่ ขา้ ใจ ในเนอ้ื หาน้ันๆเทา่ ท่ีควร จึงควรได้รับการช่วยเหลอื เพ่ือจะได้พัฒนาบุคลิกภาพของตนให้เรียนรไู้ ด้ดยี ิง่ ขึน้ จากการศึกษางานวิจยั ของ นายธศี ิษฏ์ กมิ อ่อน กล่าวว่า พบเจอปญั หาจากการสังเกตพฤตกิ รรมของนักศึกษา โรงเรียนพายพั เทคโนโลยแี ละบริหารธรุ กจิ ระดับ ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ ช้ันปที ี่ 3กล่มุ สาขาชา่ งยนต์ หอ้ ง AU 301ขณะสอนผู้เรียนไม่ กล้าที่จะแสดงออกและขณะเดียวกันผเู้ รยี นไม่กล้าท่จี ะตัดสนิ ใจด้วยตนเองวา่ งานนัน้ จะ เปน็ งานงา่ ย ๆ เช่น การออกรายงานหน้าชนั้ เรียนการแนะนำตัวภายในหอ้ งเรยี น ผู้วจิ ัยจงึ สนใจศึกษาวิธีการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกล้าแสดงออกของนักศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชนั้ ปที ่ี 3กลมุ่ สาขาช่างยนต์ จากการศึกษางานวจิ ัยของหลาย ๆ ทา่ น คณะผ้จู ดั ทำไดเ้ ล็งเหน็ วา่ ปญั หาท่เี กดิ ขน้ึ ในช้ันเรียนคอื ปญั หาการ ขาดความม่ันใจในการแสดงความคดิ เห็น จะทำใหผ้ เู้ รียนเกิดการเรยี นรทู้ ี่ลา่ ชา้ ไม่เกิดการแลกเปล่ยี นเรียนรู้ ระหว่างผสู้ อนและผูเ้ รียน ผูเ้ รียนไม่สามารถไขข้อสงสยั ท่ตี นสงสัยเพราะไมก่ ล้าซกั ถามหรือแสดงความคิดเหน็ ไมเ่ กิดการเรียนรูใ้ หม่ๆ ซ่งึ ผู้จัดทำจะดำเนนิ การแกไ้ ขปัญหาในขั้นต้น โดยวิธีการแบบสำรวจปญั หาที่ทำให้ผู้เรียนไม่ กลา้ แสดงความคดิ เหน็ ในชัน้ เรียน ของนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 โรงเรียนรวมชัยวิทยา จำนวนผ้เู รียน 240 คน
ภายในแบบสอบถามท่ีจัดทำข้ึนนนั้ ผจู้ ัดทำจะตง้ั คำถามเก่ียวกบั สาเหตทุ ี่ผู้เรยี นไม่กล้าแสดงความคิดเหน็ ในชั้น เรยี น โดยรวบรวมสาเหตุจากงานวิจยั ต่างๆมาจัดทำเป็นแบบสอบถาม เพือ่ ใหท้ ราบถึงปัญหาท่ผี ู้เรียนไม่กล้าแสดง ความคิดเห็นในช้นั เรยี นมากท่ีสุด จากน้นั จะนำปัญหาที่ได้มาแกป้ ัญหาในขนั้ ตอนต่อไป ในการทำวิจยั ครัง้ น้ี จะทำให้ผ้จู ดั ทำทราบถึงปัญหาท่ีผเู้ รยี นพบ วา่ สาเหตใุ ดท่ีทำให้ผู้เรียนไม่กล้าแสดงความ คิดเหน็ ในชัน้ เรยี น และสามารถทจี่ ะนำสาเหตนุ ั้นมาแกป้ ัญหาได้อยา่ งตรงจุด และง่ายต่อการแก้ปัญหาในชนั้ เรยี น ซ่ึงการแกป้ ญั หาในคร้ังนี้ คณะผู้จัดทำหวังวา่ จะช่วยใหผ้ เู้ รยี นมีความกลา้ แสดงความคิดเห็นในชน้ั เรยี นมากย่ิงขน้ึ ผู้เรยี นจะเกิดการเรียนรูท้ ี่ใหม่ๆ สามารถไขข้อสงสยั ทต่ี นสงสยั มีความกล้าแสดงออก มีมนุษย์สมั พนั ธท์ ดี่ รี ะหว่าง กันในชน้ั เรยี น ผเู้ รียนสามารถทีจ่ ะนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ และสามารถพัฒนาตนเองในดา้ นตา่ งๆได้ดีต่อไป
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: