การจดั โครงการผ้าขาวมา้ หรรษาภูมปิ ญั ญาไทย ระหวา่ งวันท่ี ๔ กันยายน - ๔ ธันวาคม ๒๕๖๔ เสนอ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จัดสรรงบประมาณ ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๔
สารบญั ลาดับ รายการ หนา้ ๑ ๑ แบบรายงานผลการจัดโครงการ/กิจกรรม ๗ ๒ โครงการผา้ ขาวมา้ หรรษาภูมิปัญญาไทย ๑๑ ๓ ภาคผนวก ๑๒ หนังสืออนุมตั โิ ครงการ แผน่ พับประชาสมั พันธก์ ารจดั งาน ๑๓ ๑๖ ๓.๑ ภาพพธิ เี ปดิ งาน ๑๘ ความเปน็ มาของผา้ ขาวมา้ และแนวคิดของ อาเภอตา่ ง ๆ ใน จ.นครสวรรค์ ๒๑ ๓.๒ อาเภอบรรพตพิสยั รางวลั ชนะเลิศ ๒๔ ๓.๓ อาเภอพยหุ ะคีรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ ๒๗ ๓.๔ อาเภอเมอื งนครสวรรค์ รางวลั รองชนะเลศิ อนั ดบั ๒ ๓๐ ๓.๕ อาเภอลาดยาว รางวัลชมเชย ๓.๖ อาเภอ เกา้ เลยี้ ว รางวัลชมเชย ๓.๗ อาเภอ ชมุ แสง รางวัลชมเชย ๓.๘ อาเภอตาคลี รางวลั ชมเชย
๑ แบบรายงานผลการจดั โครงการ/กิจกรรม ๑. ชื่อโครงการ ผา้ ขาวม้าหรรษาภมู ิปัญญาไทย ๒. หน่วยงานผู้ดาเนินงานหลัก 2.1 สภาวฒั นธรรมจงั หวัดนครสวรรค์และสภาวัฒนธรรมอาเภอ 2.2 สานักงานวัฒนธรรมจงั หวดั นครสวรรค์ 2.3 องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัดนครสวรรค์ 2.4 องค์การบรหิ ารส่วนตาบล 128 แห่ง 2.5 สานกั งานเทศบาล จานวน 18 แหง่ ๓. หน่วยงานผู้ร่วมดาเนนิ งาน สภาวัฒนธรรมอาเภอ ๑๕ อาเภอ ในจังหวัดนครสวรรค์และเปน็ เครือขา่ ยทางวฒั นธรรม ๔. งบประมาณ ๔.๑ งบประมาณรวม เปน็ เงิน ๑๓๓,๖๐๐.บาท งบประมาณจากหน่วยงานอื่นทสี่ นบั สนุน เปน็ เงิน ๓๓,๖๐๐.- บาท ๔.๑.๑ โรงเรียนนครสวรรค์ (ค่าจัดสถานท่ี เครอื่ งเสียง) ๒๐,๐๐๐.-บาท ๔.๑.๒ วดั เกา้ เลีย้ ว (อาหารกลางวนั ) ๖,๐๐๐.-บาท ๔.๑.๓ คา่ ตกแต่งเวที (คณุ สรสทิ ธ์ิ อนิ ทร กรรมการสภาฯ ) ๗,๖๐๐.- บาท รวมจ่าย เปน็ เงนิ ๓๓,๖๐๐.- บาท ๔.๒ งบประมาณสมทบจาก กรมสง่ เสริมวฒั นธรรม เปน็ เงิน ๑๐๐,๐๐๐.บาท ๔.๒.๑ รางวัลการประกวด ท้งั ระดับอาเภอและระดับจงั หวัด เป็นเงนิ 56,350.- บาท ๔.๒.๒ ค่าตอบแทนคณะกรรมการตดั สิน เป็นเงิน 26,800- บาท ๔.๒.๓ ค่าใช้จา่ ยในการจดั การประกวด ระดับอาเภอและระดบั จงั หวดั 7,600.-บาท ๔.๒.๔ ค่าประชาสมั พนั ธแ์ ละถา่ ยภาพวิดที ศั น์ เปน็ เงิน 9,250.- บาท รวมจา่ ย เป็นเงิน 1๐๐,๐๐๐.- บาท รวมจ่ายทงั้ ส้นิ ๑๓๓,๖๐๐.- บาท
๒ ๕. รูปแบบและวธิ ีดาเนินโครงการ รวมทั้ง วนั เวลา และสถานท่ีจัดโครงการ การจดั กิจกรรม มี ๒ ระดับ คอื ระดับอาเภอ และ ระดบั จงั หวัด ๕.๑ รูปแบบและวธิ ดี าเนินโครงการ ระดับอาเภอ สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ ร่วมกับสภาวัฒนธรรมอาเภอ จานวน ๑๕ อาเภอ ของจังหวัดนครสวรรค์ ร่วมดาเนินงานส่งเสริมมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรม จัดทาโครงการผา้ ขาวมา้ หรรษาภมู ปิ ญั ญาไทย เพอ่ื ส่งเสริมอนุรกั ษ์ และ สืบสานผา้ ขาวม้าของท้องถ่ิน ให้เกดิ การเรียนรวู้ ฒั นธรรมของแต่ละท้องถิ่น มกี ารสรา้ งงานและรายได้ให้คนใน ชุมชน เพื่อความม่ังค่ังทางเศรษฐกิจ ความม่ันคงทางสังคม เพื่อบรรเทาผลกระทบท่ีเกิดจากสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา-๑๙ และความคงอยู่อย่างย่ังยืนของมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรมอันดีงามของ จังหวดั นครสวรรค์ สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ ร่วมกับสภาวัฒนธรรมแตล่ ะอาเภอ ดาเนินการจดั การประกวดวัฒนธรรม การแต่งกายด้วยผ้าขาวม้า ตัดสินและมีรางวัลให้ ๓ อันดับ ตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดไว้ (ทุกทีมท่ีประกวดต้องส่ง ประวัตคิ วามเป็นมาของผา้ ขาวม้าและแนวคิดทนี่ ามาตัดเย็บใช้แตง่ กาย) (ระดบั อาเภอไมน่ ้อยกว่าอาเภอละ ๓ ทมี ) แลว้ คัดเลือก ๑ ทมี ส่งประกวดระดับจังหวัด ระดับจังหวดั จะมีทมี เข้าประกวด ๑๕ ทีม (๑๕ อาเภอ) ตดั สนิ และมี รางวัลให้ ๓ อนั ดบั คือ รางวลั ที่ ๑ (ชนะเลศิ ) รางวัลที่สอง ๒ (รองฃนะเลิศ อนั ดับ ๑) และ รางวลั ที่ ๓ (รองชนะเลิศอันดับ ๒) ผสู้ ่งผลงานได้รบั เกียรติบตั รทุกทมี การจัดประชุม การจัดการประกวด ใช้วิธี online ประชุมด้วย google meet การติดต่อประสาน ทาง โทรศัพท์ และทางไลน์ และ on site ปฏิบัติตามมาตรการ การป้องกันและควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (CODVID-19) ของกรมควบคมุ โรคกระทรวงสาธารณสุขอยา่ งเครง่ ครดั ๕.๑ ระดับอาเภอ วนั เวลา สถานที่ การดาเนนิ โครงการ และผลการดาเนนิ งาน 1) อาเภอเกา้ เลยี้ ว จดั กิจกรรมการประกวดการออกแบบและตดั เย็บเครื่องแต่งกายดว้ ยผ้าขาวม้า เมอ่ื วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 มีกลุ่มสนใจเข้าประกวด จานวน ๘ ทีม และทีมที่ได้อับดับ ๑ เป็นตัวแทนอาเภอเข้า ประกวดระดับจงั หวดั คอื ชมรมกานันและผ้ใู หญ่บา้ นตาบลเก้าเล้ยี ว ช่อื ชือ่ ชดุ หวานใจวัยหวาน ๒) อาเภอชุมแสง จัดกิจกรรมการประกวดการออกแบบและตัดเย็บเคร่ืองแต่งกายด้วยผ้าขาวม้า เม่ือวนั ท่ี 19 พฤศจิกายน 2564 มีกลุ่มสนใจเข้าประกวด จานวน 5 ทีม และทีมท่ีได้อับดับ ๑ เป็นตัวแทนอาเภอเข้า ประกวดระดบั จังหวดั คอื กลมุ่ วสิ าหกจิ ชมุ ชนแม่บา้ นเกษตร ตัดเยบ็ เสื้อผ้าสาเรจ็ รปู ตาบลท่าไม้ 3) อาเภอตาคลี จัดกิจกรรมการประกวดการออกแบบและตัดเย็บเครื่องแต่งกายด้วยผ้าขาวม้า เมื่อวันท่ี 17 พฤศจิกายน 2564 มีกลุ่มสนใจเข้าประกวด จานวน 3 ทีม และทีมท่ีได้อับดับ ๑ เป็นตัวแทนอาเภอเข้า ประกวดระดับจังหวัด คอื นายสุรินทร์ บัวคลี่ 4) อาเภอบรรพตพิสยั จัดกิจกรรมการประกวดการออกแบบและตัดเยบ็ เครื่องแตง่ กายด้วยผ้าขาวม้า เมื่อ วนั ท่ี 9 พฤศจิกายน 2564 มีกล่มุ สนใจเข้าประกวด จานวน 5 ทีม และทีมทไี่ ด้อบั ดบั ๑ เปน็ ตวั แทนอาเภอเข้า ประกวดระดบั จังหวดั คอื กลมุ่ ทอผ้าบา้ นโปรง่ เขนง ชือ่ ชอ่ื ชดุ ผา้ ขาวมา้ แปลงกาย
3 5) อาเภอพยุหะคีรี จัดกิจกรรมการประกวดการออกแบบและตัดเย็บเครื่องแต่งกายด้วยผ้าขาวม้า เมื่อ วันท่ี 22 พฤศจิกายน 2564 มีกลุ่มสนใจเข้าประกวด จานวน 5 ทีม และทีมที่ได้อบั ดับ ๑ เป็นตัวแทนอาเภอ เขา้ ประกวดระดับจงั หวดั คอื นายสหรตั น์ พันธเสมา 6) อาเภอเมอื งนครสวรรค์ จดั กจิ กรรมการประกวดการออกแบบและตัดเย็บเครื่องแต่งกายด้วยผา้ ขาวม้า เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 มีกลุ่มสนใจเข้าประกวด จานวน 4 ทีม และทีมท่ีได้อับดับ ๑ เป็นตัวแทน อาเภอเข้าประกวดระดบั จังหวัด คือ นายเจษฎากรณ์ มังกร 7) อาเภอลาดยาว จดั กิจกรรมการประกวดการออกแบบและตดั เย็บเครือ่ งแต่งกายด้วยผ้าขาวม้า เมอื่ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 มีกลุ่มสนใจเข้าประกวด จานวน 1 ทีม และทีมที่ได้อับดับ ๑ เป็นตัวแทนอาเภอเข้า ประกวดระดับจงั หวดั คอื กลมุ่ ทอผา้ บา้ นหนองกระดกู เนอื้ 5.2 ระดบั จังหวัด วนั เวลา สถานท่ี การดาเนนิ โครงการ และผลการดาเนินงาน สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ ได้กาหนดการประกวด วันท่ี ๔ ธันวาคม ๒๕๖๔ ตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐- ๐๓.๐๐ น. สถานที่ ณ หอประชุมโรงเรียนนครสวรรค์ โดยขออนุญาตจัดงานท่ีมีผู้เข้าร่วมไม่เกิน ๒๐๐ คน ตาม มาตรการการป้องกันโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา (Covid 2019) จากที่ว่าการอาเภอเมืองนครสวรรค์ และจัดงานการ ประกวดสืบสานวัฒนธรรมอาหารถิ่นไทย สภู้ ัยโควิด ตามโครงการสืบสานวัฒนธรรมอาหารถ่นิ และการประกวดการ ออบและตัดเย็บเครือ่ งแต่งกายด้วยผ้าขาวมา้ ตามโครงการผ้าชาวมา้ หรรษาภูมปิ ญั ญาไทย การจัดการประกวดการออกแบบและตัดเยบ็ เคร่ืองแตง่ กายดว้ ยผ้าขาวม้า ตามโครงการผ้าขาวมา้ หรรษาภูมิ ปัญญาไทย มีอาเภอตา่ ง ๆ ๗ อาเภอ สง่ เข้าประกวด ได้แก่ 1. อาเภอเกา้ เล้ียว ๒.อาเภอชุมแสง 3. อาเภอตาคลี 4. อาเภอบรรพตพิสัย 5. อาเภอพยุหะคีรี 6. อาเภอเมอื งนครสวรรค์ 7. อาเภอลาดยาว ๖. กลุ่มเป้าหมาย ๑) เครอื ข่ายทางวัฒนธรรมในแต่ละอาเภอ ( ๑๕ อาเภอ) นาเสนอผลงานการแตง่ กายด้วยผ้าขาวม้า เข้าประกวดระดับอาเภอ ไม่นอ้ ยกว่าอาเภอละ ๓ ทมี รวม ๔๕ ทีม ๒) เครือข่ายตัวแทนจาก ๑๕ อาเภอ (อาเภอละ ๑ ทีม) นาเสนอผลงานการแต่งกายด้วยผ้าขาวมา้ เข้า ประกวดระดบั จังหวัด ๗. จานวนผู้เข้าร่วมกจิ กรรม ๑) เครอื ขา่ ยทางวัฒนธรรมในแต่ละอาเภอ 7 อาเภอ นาเสนอผลงานการแตง่ กายด้วยผ้าขาวมา้ เขา้ ประกวดระดบั อาเภอ รวม 3๑ ทมี ๒) เครือข่ายตัวแทนจาก 7 อาเภอ (อาเภอละ ๑ ทีม) นาเสนอผลงานการแต่งกายด้วยผ้าขาวม้า เข้า ประกวดระดบั จังหวัด
๔ ๘. ผลการจัดโครงการ สภาวัฒนธรรมแต่ละอาเภอรบั ดาเนนิ การจัดการ จดั กจิ กรรมการประกวดการออกแบบและตัดเย็บเคร่ือง แต่งกายด้วยผ้าขาวม้า โดยประชาสัมพันธ์ ไปยัง นายกองค์การบริหารส่วนตาบลทุกตาบล และองค์การบริหาร เทศบาลตาบล ส่งหนังสือ ใบสมัคร และประชาสัมพันธ์ ให้มาสมัคร กาหนดวัน เวลา และสถานที่ และดาเนินการ ประกวด ตัดสนิ และมรี างวัลให้ อันดับ ๑, ๒, ๓ ตามหลักเกณฑท์ ก่ี าหนดไว้ (ทุกทีมที่เข้าประกวดตอ้ งส่งแนวคิดใน การตัดเย็บพรอ้ มประวตั ิ ) แลว้ เลอื กอันดบั ที่ ๑ ของแต่ละอาเภอ ๑ ทมี รวมทีมระดับอาเภอจานวน ๓๐ ทมี ระดบั จังหวัดจะมที มี เขา้ แข่งขัน 7 ทีม (7 อาเภอ) ตดั สินและมีรางวลั ให้ ๓ อันดบั คือ รางวัลที่ ๑ (ชนะเลิศ) รางวลั ทส่ี อง ๒ (รองฃนะเลศิ อนั ดับ ๑) และ รางวลั ที่ ๓ (รองชนะเลิศอนั ดบั ๒ ) และรางวัลชมเชย ๘.๑ ระดับอาเภอ วนั เวลา สถานท่ี การดาเนินโครงการ และผลการดาเนินงาน 1) อาเภอเกา้ เลีย้ ว จัดกจิ กรรมการประกวดการออกแบบและตัดเยบ็ เคร่ืองแตง่ กายดว้ ยผา้ ขาวมา้ เม่ือวันท่ี 19 พฤศจิกายน 2564 มีกลุ่มสนใจเข้าประกวด จานวน ๘ ทีม และทีมท่ีได้อับดับ ๑ เป็นตัวแทนอาเภอเข้า ประกวดระดับจังหวดั คือ ชมรมกานนั และผใู้ หญบ่ า้ นตาบลเก้าเลย้ี ว ชือ่ ชอื่ ชดุ หวานใจวัยหวาน ๒) อาเภอชุมแสง จัดกิจกรรมการประกวดการออกแบบและตัดเย็บเครื่องแต่งกายด้วยผ้าขาวมา้ เมื่อวนั ที่ 19 พฤศจิกายน 2564 มีกลุ่มสนใจเข้าประกวด จานวน 5 ทีม และทีมท่ีได้อับดับ ๑ เป็นตัวแทนอาเภอเข้า ประกวดระดับจงั หวดั คือ กลุ่มวสิ าหกิจชมุ ชนแม่บา้ นเกษตร ตัดเยบ็ เสื้อผา้ สาเรจ็ รูปตาบลท่าไม้ 3) อาเภอตาคลี จัดกิจกรรมการประกวดการออกแบบและตัดเย็บเคร่ืองแต่งกายด้วยผ้าขาวมา้ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 มีกลุ่มสนใจเข้าประกวด จานวน 3 ทีม และทีมท่ีได้อับดับ ๑ เป็นตัวแทนอาเภอเข้า ประกวดระดบั จงั หวดั คอื นายสรุ ินทร์ บวั คลี่ 4) อาเภอบรรพตพิสัย จดั กจิ กรรมการประกวดการออกแบบและตัดเย็บเครื่องแต่งกายดว้ ยผ้าขาวมา้ เมอ่ื วันท่ี 9 พฤศจิกายน 2564 มีกลุ่มสนใจเขา้ ประกวด จานวน 5 ทีม และทมี ท่ีไดอ้ ับดบั ๑ เป็นตวั แทนอาเภอเข้า ประกวดระดบั จงั หวัด คอื กลมุ่ ทอผา้ บา้ นโปรง่ เขนง ช่ือชอ่ื ชุด ผ้าขาวมา้ แปลงกาย 5) อาเภอพยุหะคีรี จัดกิจกรรมการประกวดการออกแบบและตัดเย็บเคร่ืองแต่งกายด้วยผ้าขาวม้า เมื่อ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 มีกลุ่มสนใจเข้าประกวด จานวน 5 ทีม และทีมที่ได้อบั ดับ ๑ เป็นตัวแทนอาเภอ เขา้ ประกวดระดับจังหวดั คอื นายสหรตั น์ พันธเสมา 6) อาเภอเมอื งนครสวรรค์ จัดกจิ กรรมการประกวดการออกแบบและตัดเย็บเครือ่ งแตง่ กายดว้ ยผา้ ขาวม้า เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 มีกลุ่มสนใจเข้าประกวด จานวน 4 ทีม และทีมท่ีได้อับดับ ๑ เป็นตัวแทน อาเภอเข้าประกวดระดับจังหวดั คือ นายเจษฎากรณ์ มังกร 7) อาเภอลาดยาว จัดกิจกรรมการประกวดการออกแบบและตดั เย็บเครือ่ งแต่งกายด้วยผา้ ขาวม้า เมือ่ วนั ท่ี 17 พฤศจิกายน 2564 มีกลุ่มสนใจเข้าประกวด จานวน 5 ทีม และทีมที่ได้อับดับ ๑ เป็นตัวแทนอาเภอเข้า ประกวดระดับจงั หวดั คือกลุม่ ทอผา้ บ้านหนองกระดูกเนือ้ ช่ือชอ่ื
๕ ๘.2 ระดับจังหวัด วนั เวลา สถานท่ี การดาเนนิ โครงการ และผลการดาเนินงาน สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ ได้กาหนดการประกวด วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๔ ต้ังแต่เวลา ๐๗.๐๐- ๐๓.๐๐ น. สถานท่ี ณ หอประชุมโรงเรียนนครสวรรค์ โดยขออนุญาตจัดงานท่ีมีผู้เข้าร่วมไม่เกิน ๒๐๐ คน ตาม มาตรการการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid 2019) จากท่ีว่าการอาเภอเมืองนครสวรรค์ และจัดงานการ ประกวดสบื สานวัฒนธรรมอาหารถนิ่ ไทย ส้ภู ัยโควิด ตามโครงการสืบสานวัฒนธรรมอาหารถ่นิ และการประกวดการ ออบและตดั เย็บเครือ่ งแต่งกายดว้ ยผ้าขาวมา้ ตามโครงการผ้าชาวมา้ หรรษาภมู ิปัญญาไทย การจดั การประกวดการออกแบบและตัดเย็บเครือ่ งแต่งกายด้วยผา้ ขาวม้า ตามโครงการผ้าขาวมา้ หรรษาภูมิ ปญั ญาไทย มีอาเภอตา่ ง ๆ ๗ อาเภอ ส่งเข้าประกวด ได้แก่ 1. อาเภอเกา้ เลี้ยว ๒.อาเภอชุมแสง 3. อาเภอตาคลี 4. อาเภอบรรพตพิสยั 5. อาเภอพยุหะคีรี 6. อาเภอเมอื งนครสวรรค์ 7. อาเภอลาดยาว ๙. การจาหน่ายสนิ ค้าทางวฒั นธรรม จานวน ๕ รายการ จานวนเงนิ ๖๕,๐๐๐ บาท (หกหมน่ื หา้ พนั บาทถว้ น) 9.1 กลุ่มทอผา้ บ้านโปรง่ เขนง จานวนเงิน ๑๕,๐๐๐.- บาท 9.๒ กลมุ่ ทอผา้ หนองตางู จานวนเงนิ ๑๐,๐๐๐.- บาท 9.๓ กลมุ่ ผ้าตน้ มอื ด่านชา้ ง จานวนเงนิ ๑๕,๐๐๐.- บาท 9.๔ กลุ่มทอผา้ ด้านช้าง จานวนเงิน ๑๐,๐๐๐.- บาท 9.๕ กลุ่มทอผ้าบา้ นหนองกระดกู เน้ือ จานวนเงนิ ๑๕,๐๐๐.- บาท ๑๐. จานวนรายได้ที่เกดิ ขึน้ ท้ังหมดในภาพรวมจาการดาเนนิ โครงการ/งาน จานวนเงิน ๖๕,๐๐๐.- บาท ๑๑ ผลลัพธ์ทไ่ี ดจ้ ากการจัดโครงการ ๑๑.๑ เครือขา่ ยทางวฒั นธรรมในแตล่ ะอาเภอ 7 อาเภอ นาเสนอผลงานการแตง่ กายดว้ ยผ้าขาวม้า เข้า ประกวดระดับอาเภอ ไม่นอ้ ยกว่าอาเภอละ ๓ ทีม รวม 30 ทีม ๑๑.๒ เครือข่ายตัวแทนจาก 7 อาเภอ (อาเภอละ ๑ ทีม) นาเสนอผลงานการแต่งกายด้วยผ้าขาวมา้ เข้า ประกวดระดับจังหวดั ๑๑.3 เยาวชนทีเ่ ป็นตัวแทนของแตล่ ะอาเภอ ได้สืบคน้ อาหารถ่ิน และมารว่ มประกวดในระดบั จังหวัด ๑๒. ปญั หาอปุ สรรค องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาลบางแหง่ ในแตล่ ะอาเภอไม่สามารถประชาสัมพันธ์ใหก้ ลมุ่ สนใจเขา้ ประกวดได้ อยใู่ นระหว่างการเลือกตง้ั นายกและสมาชิก อบต. ซ่งึ เกรงวา่ จะผิดกฎหมายการเลือกต้ัง คงมีแต่ ประธานสภาตาบลทีไ่ ม่ไดเ้ กี่ยวกบั นายก อบต.ท่ีสามารถสนบั สนุนและจดั การประกวดและคัดเลือกระดับตาบลได้ ๑๓.ขอ้ สังเกต ข้อเสนอแนะ การจัดดาเนินงานการประกวด การออกแบบและตัดเย็บเครอ่ื งแต่งกายดว้ ยผา้ ขาวม้า เปน็ การสืบสานวัฒนธรรมดา้ นอาภรณ์ โดยในแต่ละตาบลของแตล่ ะอาเภอมีกลุ่มทอผ้า และกลุ่มสนใจตดั เย็บเส้ือผ้า อยู่แลว้ การจดั กจิ กรรมครั้งตอ่ เสนอแนะวา่ ให้เปิดกว้าง ในการสบื สาน สง่ เสริม อนุรักษ์พัฒนา ต่อยอด ผา้ ทอของ ท้องถิ่น (ไมเ่ นน้ ผ้าขาวมา้ อย่างเดียว) และขยายไปยงั สถานศกึ ษาเพ่อื ให้คณุ ครูนาไปปลูกฝงั ไว้ที่เดก็ สบื สาน อนรุ กั ษ์ เผยแพร่ วัฒนธรรมผา้ ของทอ้ งถ่ิน โดยนาไปทอเป็นอาชีพ หรือตดั เย็บสวมใส่ เพื่อประชาสัมพันธ์ และเพื่อจาหน่าย สืบต่อไป
๖ รายละเอยี ดค่าใช้จ่ายของโครงการผา้ ขาวม้าหรรษาภมู ปิ ญั ญาไทย ( ๔.๒ งบประมาณจากกรมสง่ เสริม เปน็ เงนิ ๑๐๐,๐๐๐.- บาท ) รายการ งบประมาณ จ่ายจรงิ ๑.คา่ ใช้จ่ายจัดการประชมุ คณะทางาน 3,๐๐๐.- 3,๐๐๐.- 5,๐๐๐.- 5,๐๐๐.- ๒.ประชุมจดั ทาหลกั เกณฑก์ ารประกวด กรรมการ 5 คน 8,000.- 8,000.- 6,000.- 6,000.- ๓.รางวัลชนะเลศิ การประกวดระดบั จงั หวัด 4000.- 4000.- 4,000.- 4,000.- 4.รางวัลรองชนะเลิศอันดบั 1 การประกวดระดบั จังหวดั 14,000.- 14,000.- 6,000.- 6,000.- 5. รางวัลรองชนะเลศิ อันดับ 2 การประกวดระดบั จงั หวดั 6,000.- 6,000.- 6.รางวัลชมเชย ผูเ้ ขา้ ประกวด (ระดับจังหวดั ) ๔ ทมี 7,200.- 7,200.- 7.รางวัลชนะเลศิ การประกวดระดับอาเภอ ( 7 อาเภอ) 16,800.- 16,800.- 8.รางวลั รองชนะเลิศอนั ดบั 1 การประกวดระดบั อาเภอ อาเภอละ 700 5,000.- 5,000.- บาท 7,600.- 7,600.- 9. รางวัลรองชนะเลศิ อนั ดับ 2 การประกวดระดับอาเภอๆละ 500 บาท 1,150.- 1,150.- 3,000.- 3,000.- รวม ๑๒ ทีม 10. โล่ สาหรบั ชนะเลิศ ทกุ ระดบั (7 อาเภอ+๑ จงั หวดั ) 3,250.- 3,250.- 11. กรรมการตดั สนิ ระดบั อาเภอ ๆ ละ 2,4๐๐.-บาท (3 คน ) จานวน 7 อาเภอ 12.กรรมการตดั สินระดบั จังหวดั 5 ท่าน ๆ ๑,๐๐๐.-บาท 13. ค่าใช้จ่ายในการบรหิ ารจัดการประกวด ระดบั อาเภอ 14.เกยี รตบิ ัตรผู้เขา้ ประกวดทุกคน (กรอบ) 15.จัดทารปู เล่มประวัตผิ ้าขาวมา้ ของแต่ละอาเภอในจังหวัดนครสวรรค์ และจัดทา E. Book ( ลิงก์ QR Code ) 16. ค่าใช้จา่ ยเบ็ดเตล็ด ค่าติดตอ่ ประสานงานระบบ IT และระบบอ่ืน ๆ ทุกระดับ (หนึ่งแสนบาทถว้ น) รวม 100,000.- 100,000.-
๗ แบบขอ้ เสนอโครงการ เพ่อื รับการสนบั สนนุ งบประมาณ ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ๑. ชือ่ โครงการ ผ้าขาวม้าหรรษาภูมิปัญญาไทย ๒. หน่วยงานผดู้ าเนนิ งานหลัก 1. สภาวฒั นธรรมจังหวดั นครสวรรค์และสภาวัฒนธรรมอาเภอ 2. สานักงานวฒั นธรรมจงั หวัดนครสวรรค์ 3. องค์การบริหารส่วนจังหวดั นครสวรรค์ 4. องค์การบริหารสว่ นตาบล 128 แหง่ 5. สานกั งานเทศบาล จานวน 18 แหง่ ๓. หนว่ ยงานผู้ร่วมดาเนินงาน สภาวฒั นธรรมอาเภอ ๑๕ อาเภอในจงั หวัดนครสวรรค์ ๔. หลกั การและเหตุผล ตามท่ีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้กาหนดดาเนินโครงการเงินอุดหนุน ส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาการ ดาเนินงานของเครือข่ายทางวัฒนธรรมท้ังในประเทศและต่างประเทศ ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๔ โดยมี วัตถุประสงค์เพอ่ื ให้สภาวัฒนธรรมท่ีจัดตั้งตามพระราชบัญญัติวฒั นธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๓ และกฎกระทรวงท่ี เกยี่ วขอ้ ง ไดด้ าเนินโครงการ/กจิ กรรมทางวฒั นธรรมท่เี ก่ียวกบั การสง่ เสริมมรดกูมปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม (อาหารและ อาภรณ์) ตลอดจนเพ่ือบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) โดยบูรณาการร่วมกับเครือข่ายวัฒนธรรมและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ซ่ึงมีความสอดคล้องกับการ ขับเคล่ือนงานวัฒนธรรมตามประกาศสานักนายกรัฐมนตรี เร่ือง การประกาศแผนแม่บทเฉพาะกิจ ภายใต้ ยุทธศาสตร์ชาติอันเป็นผลมาจากสถานการณ์ โควิด-19 พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕ และจุดเน้นการขับเคลื่อนงาน วฒั นธรรมของกรมสง่ เสรมิ วัฒนธรรม กระทรวงวฒั นธรรม สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ ร่วมกับสภาวฒั นธรรมอาเภอ จานวน ๑๕ อาเภอ ของจังหวัดนครสวรรค์ ร่วม ดาเนินงานส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จัดทาโครงการผ้าขาวม้าหรรษาภิปัญญาไทย เพ่ือส่งเสริมอนุรักษ์และ สบื สานผา้ ขาวม้าของทอ้ งถิน่ ให้เกดิ การเรียนรู้วัฒนธรรมของแตล่ ะท้องถ่นิ มกี ารสรา้ งงานและรายไดใ้ ห้คนในชุมชน เพอื่ ความม่ังค่งั ทางเศรษฐกิจ ความมัน่ คงทางสงั คม เพ่ือบรรเทาผลกระทบที่เกดิ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-๑๙ และความคงอยู่อย่างย่ังยืนของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอันดีงามของจังหวัด นครสวรรค์ ๕.วัตถุประสงค์ ๒.๑ เพื่อสง่ เสรมิ สบื ทอดมรดกภูมิปญั ญาทางวฒั นธรรมผา้ ขาวม้า ของจงั หวัดนครสวรรค์ ๒.๒ เพือ่ สืบสาน อนรุ ักษ์ วัฒนธรรมการใชผ้ า้ ขาวม้าของทอ้ งถิ่น 2.3 เพื่อรวบรวมมรดกภมู ิปญั ญาทางวฒั นธรรม ประวัตคิ วามเปน็ มาของผ้าขาวมา้ ของแตล่ ะอาเภอใน จงั หวัดนครสวรรค์ จดั ทาเปน็ รูปเล่มหนงั สือ และในรูปแบบหนงั สอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ( E. Book )
๘ ๖. กรอบแนวคดิ ในการดาเนนิ งาน สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ ร่วมกับสภาวัฒนธรรมแต่ละอาเภอ ดาเนินการจัดการประกวดวัฒนธรรม การแต่งกายด้วยผ้าขาวม้า ตัดสินและมีรางวัลให้ ๓ อันดับ ตามหลักเกณฑ์ท่ีกาหนดไว้ (ทุกทีมท่ีประกวดต้องส่ง ประวตั คิ วามเป็นมาของผ้าขาวม้าและแนวคิดท่ีนามาตัดเย็บใช้แตง่ กาย) (ระดบั อาเภอไม่น้อยกว่าอาเภอละ ๓ ทีม) แล้วคัดเลือก ๑ ทีม ส่งประกวดระดับจังหวัด ระดับจังหวัดจะมีทีมเข้าประกวด ๑๕ ทีม (๑๕ อาเภอ) ตัดสินและ มีรางวลั ให้ ๓ อนั ดับ คอื รางวัลท่ี ๑ (ชนะเลศิ ) รางวลั ที่สอง ๒ (รองฃนะเลศิ อนั ดับ ๑) และ รางวัลท่ี ๓ (รองชนะเลศิ อันดับ ๒) ผสู้ ง่ ผลงานได้รับเกียรติบตั รทกุ ทมี การจัดประชุม การจัดการประกวด ใช้วิธี online ประชุมด้วย google meet การติดต่อประสาน ทาง โทรศัพท์ และทางไลน์ และ on site ปฏิบัติตามมาตรการ การป้องกันและควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (CODVID-19) ของกรมควบคมุ โรคกระทรวงสาธารณสุขอยา่ งเคร่งครดั ๗. ขอบเขตการดาเนนิ โครงการ ๗.๑ ระยะเวลาดาเนินโครงการ (๑ ก.ย. - ๓๐ พ.ย. ๒๕๖๔) ท่ี กจิ กรรม ว.ด.ป. ผรู้ ับผิดชอบ หมายเหตุ ๑ จัดประชุมคณะกรรมการท่แี ตง่ ตงั้ เพอ่ื วนั พฤหสั บดที ่ี ฝ่ายสง่ เสริมและ สภา วธ.จ.นว. ดาเนนิ การตามกจิ กรรม ๒ ก.ย. ๒๕๖๔ เผยแพร่วัฒนธรรม ๒ จดั ทาหลักเกณฑ์ในการประกวด วนั อังคารที่ ฝ่ายส่งเสรมิ และ สภา วธ.จ.นว. ๗ ก.ย. ๒๕๖๔ เผยแพรว่ ฒั นธรรม ๓ ดาเนนิ การแจ้งสภาวฒั นธรรมอาเภอ/ วันพฤหสั บดีที่ ฝ่ายสง่ เสริมและ สภา วธ.จ.นว. ประชาสมั พนั ธ์ ๙ ก.ย. ๒๕๖๔ เผยแพรว่ ฒั นธรรม ๔ ระดบั อาเภอ(จัดการประกวด) เพื่อคัดเลือก ๑๕ - ๓๐ ต.ค. กรรมการประจา สภา วธ.จ.นว. สง่ ระดับจังหวดั ๒๕๖๔ อาเภอ ๕ ระดับจังหวัด (ระดับอาเภอ ๑๕ ทีม) วันอาทิตย์ที่ กรรมการประจา สภา วธ.จ.นว. ๒๑ พ.ย. ๒๕๖๔ จงั หวัด เข้าประกวด ๕ ประเมินผลการดาเนินงานสรปุ และรายงาน วันพฤหัสบดที ่ี ฝ่ายสง่ เสรมิ และ สภา วธ.จ.นว. การดาเนินงานจัดทารูปเลม่ ส่งกรมส่งเสรมิ ๒๙ พ.ย. ๒๕๖๔ เผยแพร่วฒั นธรรม ๗.๒ กลุ่มเป้าหมาย ๑) เครือขา่ ยทางวัฒนธรรมในแตล่ ะอาเภอ ( ๑๕ อาเภอ) นาเสนอผลงานการแต่งกายด้วยผ้าขาวมา้ เข้าประกวดระดับอาเภอ ไมน่ อ้ ยกว่าอาเภอละ ๓ ทีม รวม ๔๕ ทีม ๒) เครอื ขา่ ยตวั แทนจาก ๑๕ อาเภอ (อาเภอละ ๑ ทมี ) นาเสนอผลงานการแต่งกายด้วยผ้าขาวม้า เข้า ประกวดระดับจงั หวัด
๙ ๘. รูปแบบและวธิ กี ารดาเนนิ โครงการ การประกวดการแต่งกายด้วยผ้าขาวม้า แบ่งเป็น ๒ ระดบั ๘.๑ ระดับอาเภอ (มี ๑๕ อาเภอ) ประกวดรางวัล ๓ อันดับ คัดเลอื ก ๑ ทีม ส่งเข้าประกวดระดบั จังหวดั ๘.๒ ระดับจังหวดั ตัวแทนระดับอาเภอ ๑ ทมี เขา้ ประกวด (รวม ๑๕ อาเภอ/ทมี ) ๙. งบประมาณ ขอรับการสนับสนนุ จากกรมสง่ เสรมิ วัฒนธรรม 138,๐๐๐.-บาท (หนึง่ แสนสามหม่ืนแปดพันบาท ถ้วน) ๙.๑ รายละเอียดค่าใช้จา่ ยของโครงการผา้ ขาวมา้ หรรษาภูมิปญั ญาไทย รายการ จานวน จานวนเงนิ / รวม ๑.ค่าใช้จ่ายจัดการประชมุ คณะทางาน หนว่ ย 3,๐๐๐.- 3 ครงั้ 1,0๐๐.- ๒.ประชมุ จัดทาหลกั เกณฑก์ ารประกวด กรรมการ 5 คน 5 คน ๑,๐๐๐.- 5,๐๐๐.- ๓.รางวัลชนะเลศิ การประกวดระดบั จังหวัด ๑ รางวลั 5,๐00.- 5,000.- 4.รางวัลรองชนะเลศิ อนั ดบั 1 การประกวดระดบั จงั หวดั 1 รางวลั 3,000.- 3,000.- 5. รางวลั รองชนะเลศิ อันดับ 2 การประกวดระดบั จงั หวัด 1 รางวลั 2,000.- 2000.- 6.รางวัลชมเชย ผ้เู ข้าประกวด (ระดับจงั หวดั ) 12 รางวัล 1,000.- 12,000.- 7.รางวัลชนะเลศิ การประกวดระดบั อาเภอ (15 อาเภอ) 15 รางวัล 1,000.- 15,000.- 8.รางวัลรองชนะเลศิ อนั ดบั 1 การประกวดระดบั อาเภอ 13 รางวัล 700.- 9,100.- อาเภอละ 700 บาท 13 รางวัล 500.- 6,500.- 900.- 14,400.- 9. รางวลั รองชนะเลิศอันดบั 2 การประกวดระดบั อาเภอ 16 โล่ อาเภอละ 500 บาท 10. โล่ สาหรบั ชนะเลศิ ทุกระดับ (๑๕ อาเภอ+๑ จงั หวดั ) 11. กรรมการตดั สินระดบั อาเภอ ๆ ละ 2,4๐๐.-บาท ๑๕ อาเภอ 2,4๐๐.- 36,000.- (3 คน ) จานวน ๑๕ อาเภอ 5 คน ๑,๐๐๐.- 5,000.- 12.กรรมการตดั สินระดบั จงั หวัด 5 ท่าน ๆ ๑,๐๐๐.-บาท 13. คา่ ใช้จา่ ยในการบริหารจดั การประกวด ระดบั อาเภอ 1 ครง้ั 1,000.- 15,000.- 14.เกียรตบิ ัตรผเู้ ข้าประกวดทกุ คน 150 ฉบับ 5.- 750.- 15.จดั ทารปู เลม่ ประวัติผา้ ขาวมา้ ของแตล่ ะอาเภอในจังหวัด 20 เลม่ 150.- 3,000.- นครสวรรค์ และจดั ทา E. Book ( ลงิ ก์ QR Code ) 3,250.- 3,250.- 16. คา่ ใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด ค่าตดิ ตอ่ ประสานงานระบบ IT รวม ๑38,000.- และระบบอน่ื ๆ ทุกระดับ (หนง่ึ แสนสามหม่ืนแปดพนั บาทถว้ น) จานวนเงินท้ังสิน้ หน่ึงแสนสามหมนื่ แปดพนั บาทถว้ น (ถั่วเฉล่ยี จา่ ยทุกรายการ)
๑๐ ๑๐. ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ ับ 10.๑ เครอื ขา่ ยและผเู้ ข้ารว่ มกจิ กรรมไดร้ ่วมส่งเสริม อนุรักษ์ สืบทอดวัฒนธรรมผา้ ขาวมา้ ถ่ิน 10.๒ เครือข่ายและผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรมไดเ้ รยี นรู้ รว่ มเผยแพร่ และแสดงผลงานวฒั นธรรมการแต่งกายดว้ ย ผา้ ขาวม้าของท้องถ่ิน มีความภาคภมู ิใจเห็นคุณค่าความสาคญั ของมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรมของตน 10.๓ รวบรวมประวตั ิความเป็นมาของผา้ ขาวม้า ของแตล่ ะทอ้ งถ่นิ ทเ่ี ปน็ มรดกภูมปิ ญั ญาของแต่ละอาเภอ และการนามาตัดเย็บใช้แต่งกาย ดดั แปลงทาเป็นของใช้ ของตกแต่ง ของเลน่ ต่าง ๆ ๑๑. การประเมินโครงการ ตัวชี้วัดความสาเร็จ ๑๑.๑ เครือข่ายและผูเ้ ข้าร่วมกจิ กรรม ไมน่ ้อยกว่า ๔๕ ทมี จาก ๑๕ อาเภอ ร่วมสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรม อนรุ กั ษ์ และสืบสานมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรมผา้ ขาวม้า ๑๑.๒ เครือข่ายและผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้ และแสดงผลงานวัฒนธรรมการแต่งกายด้วยผ้าขาวม้าของ ทอ้ งถน่ิ 1๑.๓ สภาวัฒนธรรมจังหวัดได้รวบรวมผลงาน ประวัติความเป็นมาของผ้าขาวม้า ของแต่ละท้องถิ่นท่ีเป็น มรดกภมู ิปญั ญาของแต่ละอาเภอ และการนามาตัดเย็บใช้แตง่ กาย ดัดแปลงทาเป็นของใช้ ของตกแต่ง ของเลน่ ตา่ ง ๆ การวัดและประเมนิ -ระหว่างจดั กจิ กรรมการประกวด -รายงานการจดั โครงการสบื สานวัฒนธรรมการแตง่ กายด้วยผ้าขาวม้า ลงช่ือ ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ ( นายนทั ธี พคุ ยาภรณ์ ) ประธานสภาวฒั นธรรมจังหวัดนครสวรรค์
๑๑ ภาคผนวก หนงั สอื อนุมัตโิ ครงการ แผ่นพันประชาสัมพันธก์ ารประกวด ความเป็นมาและแนวคดิ ของการนาผา้ ขาวม้ามาตดั เยบ็ อาเภอบรรพตพิสัย รางวัลชนะเลศิ อาเภอพยุหะครี ี รางวลั รองชนะเลิศอนั ดับ ๑ อาเภอเมืองนครสวรรค์ รางวลั รองชนะเลศิ อนั ดบั ๒ อาเภอเก้าเลีย้ ว รางวลั ชมเชย อาเภอชุมแสง รางวลั ชมเชย อาเภอตาคลี รางวลั ชมเชย อาเภอลาดยาว รางวลั ชมเชย
โครงการผา้ ขาวมา้ หรรษา ภมู ปิ ัญญาไทย ๔ ธนั วาคม ๒๕๖๔ ณ หอประชุมโรงเรยี นนครสวรรค์
ดร.ชลุ ีพร เสชัง รองผู้ว่าราชการจงั หวัดนครสวรรค์ ประธานพิธเี ปิด นายนทั ธี พุคยาภรณ์ ประธานทีป่ รกึ ษา สภาวฒั นธรรมจงั หวัดนครสวรรค์ นายพันศกั ด์ิ ศรีทอง ประธานสภา วธ.จ.นว. นางสาวรชั นี เชาวป์ รชี า รองประธานสภา วธ.จ.นว. มอบโล่ ให้ตัวแทนกลุ่มสนใจ รางวลั ผา้ ขาวม้าหรรษาภมู ิปญั ญาไทย
อาเภอบรรพตพิสัย ๑๓ ๑ ประวตั ิความเป็นมาผ้าขาวม้าบา้ นโปรง่ เขน กลุ่มทอผ้าบ้านโปร่งเขนงก่อต้ังมาประมาณ ปี พ.ศ.2485 โดยมีชนกลุ่มหน่ึง ชาติ พันธ์ลาวคร่ังอพยพมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี มาก่อตั้งบ้านเรือนบริเวณชายป่าโปร่งซึ่งจะมีสัตว์ป่า ออกมากินหญา้ เป็นประจาเวลาต้นฤดูฝน และพบเขนงซ่งึ อปุ กรณ์สาหรบั ลา่ สตั วโ์ ดยพรานป่าหลงลืมไว้ จึงใช้เป็นสัญลักษณว์ า่ บ้านโปร่งเขนง ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมทานาทาไร่ โดยชาติพันธล์ าวคร่ังจะมีฝีมือในการ ทอผ้าฝ้ายเพื่อใช้เป็นเคร่ีองนุ่งห่มพื้นที่ส่วนหนึ่งจะปลูกฝ้าย และตันคราม หัวหน้าครอบครัวจะทา เครือ่ งอุปกรณใ์ นการทอผ้า เช่น กง หลา อิว้ กระสวย ตลอดจนกี่กระตุก ใชป้ ระจาครวั เรือน เมื่อถงึ ฤดู เก็บเก่ียวดอกฝ้าย ก็จะเริ่มลงมือทาต้ังแต่การแยกเมล็ดฝ้าย การทาใยฝ้ายให้เป็นเส้น จนไปสู่ กระบวนการย้อมและการทอ เม่ือทุกหลังคาเรือนต่างก็ทอผ้าไวใช้จนเหลือก็จะนาไปขาย หรือแลกของกินของใช้ จนเป็น เอกลักษณ์ของหมู่บ้านในการทอผ้า ในสมัยนั้นคุณย่าทวดพี โพธิ์ยอด ซึ่งเป็นผู้นาเรื่องการทอผ้า บุตรหลานก็จะเริ่มเรียนรู้จากพ่อแม่ โดยมีวัฒนธรรมการครองเรือนหากฝ่ายหญิงทอผ้าไม่เป็นก็จะ ถูกเดียดฉันท์จากฝ่ายชาย และฝ่ายชายก็ต้องสร้างอุปกรณ์ต่าง ๆเป็นจึงจะมีคู่ครองได้ ซึ่งก็ถือว่า เป็นวัฒนธรรมอันดีสืบทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลานมาจนถึงปัจจุบัน
๑๔ แนวคิด/แรงบนั ดาลใจ บา้ นโปร่งเขนงปกติจะทอผา้ ขาวม้าอยู่แล้วน้ัน ซ่งึ ใน ปัจจบุ ันนี้ความนยิ มของผา้ ขาวม้าลดลง ทางกลมุ่ บา้ นโปรง่ เขนงตอ้ งการแสดงให้เหน็ ถึงคณุ คา่ ของผา้ ขาวม้าไทยท่คี วรอนรุ ักษ์ไว้ จงึ ได้มีการประยกุ ตอ์ อกแบบ“ผ้าขาวม้าแปลงรา่ งบา้ นโปรง่ เขนง” ของกลุม่ สตรี หม่บู ้านโปรง่ เขนง เพ่อื ต่อยอดเพ่ิมมลู ค่าและยงั คงรกั ษาวฒั นธรรมเคร่ืองนงุ่ จากผลติ ภณั ฑ์ของไทย “ความพยายามอยทู่ ไี่ หน ความสาเร็จไม่อยู่ ท่นี ่ันหากความพยายามนนั้ ไม่พฒั นาตวั เองอยเู่ สมอ” รางวัลท่ี ๑ ระดับอาเภอ
๑๕ อ.พยหุ ะครี ี รางวัลท่ี ๑ ระดบั จงั หวัด
๑๖ อาเภอพยุหะคีรี ๒ ประวตั คิ วามเปน็ มา คนไทยรูจ้ ักผ้าขาวม้ามาตั้งแต่สมยั พุทธศตวรรษที่ ๑๖ ราวยุคสมัย เชียงแสนโดยได้รบั อทิ ธพลมาจากไทยใหญท่ ่ใี ชผ้ า้ ขาวมา้ โพกศรีษะ ชายไทยใช้เคียนเอว และยงั ประยกุ ตใ์ ชป้ ระดยชนไ์ พดห้ ลากหลาย เชน่ ใชห้ อ่ ของ ปนู อน นุง่ อาบน้า เชด็ ตวั ฯลฯ รางวัลท่ี ๑ ระดบั อาเภอ
๑๗ แรงบันดาลใจ แรงบันดาลใจในการออกแบบตดั เยบ็ เส้ือผา้ ผา้ ไทย เชน่ ผ้าไหม ผ้าฝา้ ย มีชอื่ เสยี งดงั ไปทั่วโลก โดยเฉพาะลายผา้ ขาวม้าไทย เมือ่ นามาประยกุ ตเ์ ขา้ กบั เคร่ืองประดบั ทาให้ดูหรูหรา สวยงามสง่ามาก จงึ คดิ ว่าถ้านาผา้ ขาวมา้ มาตัดเย็บเปน็ ชุดประจาชาติ ชดุ ราตรี หรือชุดใส่ใน ชวี ิตประจาวัน จะดสู วยงามดี และเป็นการช่วยอนรุ ักษ์ศิลปะวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาของชาติ อกี ทัง้ ยงั เพม่ิ มูลคา่ ใหก้ บั ผา้ ขาวม้าไทยอกี ดว้ ย รางวัลที่ ๒ ระดบั จงั หวัด
๑๘ อาเภอเมืองนครสวรรค์ ๓ ประวัติความเปน็ มาผา้ ขาวม้ากลุ่มสตรที อผา้ จันเสน กลมุ่ สตรที อผา้ ขาวม้าจันเสน อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ทต่ี งั้ กลุ่มทอผ้า และจาหนา่ ยท่วั ไป จึงไดน้ าผ้าของกลมุ่ สตรีจันเสนมาออกแบบ ตดั เยบ็ แรงบนั ดาลใจ ได้แรงบันดาลใจมาจาก สสี นั ในงานตรษุ จีนปากน้าโพธิ์ จังหวดั นครสวรรค์ ซง้ึ ทกุ ปจี ะไดย้ ินการจุดประทัดไหวเ้ จ้าในความเชือ่ ถือ เปน็ การไลส่ ่ิงไม่ดใี ห้ออก จากบา้ นเรอื น เราจึงนาแรงบันดาลจมาใสบ่ นตัวชุด เพือ่ ใหเ้ ห็นถึงการสบื สาน วัฒนธรรมของชาวไทย เชื้อสายจนี โดยการนาปล้องข้ออ้อยมาปัก เดินเส้นกระจายเป็นดอก ยงั สอื่ ใหเ้ หน็ ถึง ประทัดที่แตก
๑๙ ชดุ นเ้ี ป็นการเอาผา้ ขาวม้ามาเป็นวัสดหุ ลัก ในการออกแบบและตดั เยบ็ ซง่ึ มองถงึ การใชท้ รัพยากรจากทอ้ งถิ่นมาออกแบบ พฒั นารูปแบบ มาพฒั นาเปน็ ชุดออกงานหรอื สวมใสใ่ นโอกาสพเิ ศษได้ โดยลกั ษณะตวั ชุดเป็น เดรส กระโปรงทรงบาน หนา้ ส้ัน หลงั ยาว โดย การนาผ้าไหมอิตาลสี ดี ามาตกแต่ง เพ่อื ให้ตวั ผ้าขาวมา้ มคี วามโดดเด่นข้นึ มกี ารเย็บไสไ้ ก่ และลายไขวเ่ ปน็ ตาขา่ ย ตกแต่งบริเวณด้านหน้า ของตัวชุดและเก็บปลายด้วยการจบั ผูกเป็น ดอกเพื่อความสงา่ งามด้วยการปกั ปล้อง ขอ้ ออ้ ยเดนิ เป็นกระเน้นกระจาย ปลายดอก เปรียบเสมอื น แสงทก่ี าลังแตกของประทดั
๒๐ รางวัลที่ ๓ รางวัลที่ ๑ ระดบั จังหวัด ระดบั อาเภอ
๒๑ อาเภอลาดยาว ชมเชย ประวตั คิ วามเปน็ มากลมุ่ ทอผ้าบ้านหนองกระดูกเน้อื หากเอย่ ถงึ เอกลกั ษณอ์ ยา่ งหนง่ึ ของความเป็นไทย ผ้าขาวม้าคอื หน่ึงในความภาคภูมิใจทีอ่ ย่กู ับเรามาชา้ นาน หลายยุกต์ หลายสมยั เกือบทกุ ทอ้ งถ่นิ ตอ้ งมไี ว้ใช้ จนกลายเป็นผ้าประจากาย ท้งั ชาย หญงิ ขน้ึ อย่กู ับประโยชน์ทใี่ ชง้ าน ผ้าขาวม้าบ้านหนองกระดูกเนื้อ จากผืนผ้าที่ธรรมดาของผ้าขาวมา้ น้ันทอจากฝมี ือของสมาชกิ ในชมุ ชน ออกมาเปน็ ผา้ ขาวม้าที่แสนจะไมธ่ รรมดา รวมถึงมีการพฒั นาตอ่ ยอดจากอดีต จนถงึ ปัจจบุ นั ทค่ี วร อนุรกั ษ์ สืบสาน พัฒนาใหก้ ับลูกหลานต่อไป
๒๒ แรงบันดาลใจ ชดุ เสน่ห์วัฒนธรรมแหง่ ขันธ์ ห้า บ้านหนองกระดูกเน้อื ต.หนองนมวัว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ซ้ึงเป็นสินคา้ OTOP นวตั วิถชี มุ ชน ลาวครั่ง โดยได้รับแรงบันดาลใจจากบรรพบุรุษของเรา ทีไ่ ดอ้ บพยพจากหลวงพระบาง และได้เดนิ ทางมานครชยั ศรี จ.นครปฐม สุพรรบุรี ชยั นาท อทุ ยั ธานี และชาวบา้ นหนองกระดกู เนอ้ื อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ จนถึง จ. กาแพงเพชร ซงึ้ บรรพบรุ ุษของเรา ได้นาวถิ ี ชวี ิตในการทอผ้ามาดาเนินชีวติ โดยนาหลกั ธรรม เบญจขนั ธ์หา้ ( ๕ สี ) ใสล่ งไป ในผนื ผ้า ทาให้เกิดเอกลักษ์ ภูมปิ ญั ญาท้องถ่นิ ของผา้ ขาวมา้ ๕ สี และผ้าจกลาวครั่ง จึคงเกิดความภาคภูมใิ จของชมุ ชน
๒๓ รางวัลที่ ๑ ระดับอาเภอ รางวัลชมเชย ระดับจังหวัด
๒๔ อาเภอเก้าเลีย้ ว ชมเชย ประวัตคิ วามเป็นมา ผ้าขาวม้าเป็นเอกลกั ษณอ์ ยา่ งหน่งึ ของความเปน็ ไทย จากอดตี จนถงึ ปัจจบุ นั ที่นา่ ท่ึงอย่างยิ่ง เร่มิ จากช่ือของ ผ้าขาวม้า จริงๆ แล้วไมใ่ ช่ภาษาไทย แต่มาจากเปอรเ์ ซยี คาวา่ ‘กามาร์ บนั ด์’ (Kamar Band) ซ่ึง ‘กามาร์’ น้นั หมายถึง เอว หรอื ทอ่ นลา่ งของรา่ งกาย ‘บันด์’ หมายถงึ การพัน รัด หรือ คาด เม่ือนาท้ังสองคามารวมกนั จึงหมายถงึ เขม็ ขัด ผ้าพัน หรือ คาดสะเอว มงี านวิจยั เสนอว่า ‘ผ้าขาวมา้ ’ เปน็ คาท่เี พ้ยี นมา จากคาวา่ ‘กามา’ (Kamar) ซึง่ เป็นภาษาอิหรา่ นท่ใี ชก้ นั อยใู่ นประเทศ สเปน เพราะในประวตั ศิ าสตร์ ประเทศทั้งสองมีการติดตอ่ กันมา ช้านาน ต่อมาประเทศไทยไดร้ ับอทิ ธิพลทางภาษามาด้วย
๒๕ จนกระท่งั มกี ารนาผา้ ขาวม้ามาเปน็ ชดุ ไทยพระราชทาน ชุดคาดเอว ถอื เป็นจุดสาคัญทผี่ ้าขาวม้าไดก้ ลายเปน็ หน่ึงใน เอกลักษณ์ไทย ด้วยความคดิ สรา้ งสรรคข์ องคนไทย สู่การทอ ย้อมสี ประดิษฐ์ลวดลาย ‘ผ้าขาวม้า’ อนั มีเอกลักษณ์ประจาแต่ละท้องถิน่ เปน็ ของดปี ระจาจังหวัด สร้างอาชีพและรายได้ใหช้ ุมชนอย่างยั่งยืน
๒๖ แรงบนั ดาลใจ ทมี ขวัญใจ วยั หวาน มคี วามสนใจลวดลายของผา้ ขาวมา้ ซ้ึงคิดวา่ ผา้ ขาวม้าน่าจะเปน็ ที่สนใจของวัยรนุ่ เพราะ มสี ีสนั สดใส จึงเกดิ แรงบันดาลใจในการจะ อนรุ ักษ์ และสืบทอดลวดลายของ ผ้าขาวม้าเพ่ือเยาวชนรุ่นตอ่ ๆไป รางวัลที่ ๑ ระดับอาเภอ รางวัลชมเชย ระดบั จังหวัด
๒๗ อาเภอชุมแสง ชมเชย ประวัตคิ วามเปน็ มา การทอผ้าถอื เปน็ งานฝีมอื อย่างหนงึ่ ท่ีมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ การทอผ้าเปน็ การเชอ่ื มโยงถงึ ศลิ ปวัฒนธรรม ประเพณแี ละวถิ ีการ ดารงชีวิตของคนในชมุ ชน แตล่ ะยุคสมยั เป็นงานฝมี ือทีม่ ีความ ละเอียดออ่ น ทหี่ ลอ่ หลอมศิลปวัฒนธรรม ประเพณแี ละวิถกี ารดารงชีวิตของคน ในชุมชนให้เหมาะสมกับสภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคม ก่อให้เกิดเปน็ เอกลกั ษณ์ ของชมุ ชน ภมู ปิ ญั ญาเหล่าน้สี รา้ งขึ้นด้วยฝีมือเชิงศิลปะเพือ่ ถ่ายทอดและสะท้อนถึง คุณค่าของชุมชนท่ีเป็นอยูล่ งในเน้ืองาน ที่แสดงออกมาอย่างประณตี สวยงาม และลงตวั ท้ังทักษะในงานฝีมือนี้ไดม้ ีการสบื ทอดจากรุน่ ส่รู นุ่ จงึ ทาให้งานศิลปหตั ถกรรม การทอผา้ เป็นสงิ่ บอกเล่าความเป็นมาของชมุ ชนนั้นได้เป็นอยา่ งดี ผ้าขาวมา้ เป็นผา้ ทอ่ี านวยความสะดวกให้กับคนไทยมาหลายศตวรรษ โดยไม่มที ที ่าว่าจะสูญหายไปงา่ ยๆ เน่ืองด้วยประโยชน์ของผา้ มีมากมายนานปั การ
๒๘ แรงบนั ดาลใจ ทมี ผ้าขาวมา้ ประยกุ ต์ ได้แรงบันดาลใจมาจากการนา ผา้ ขาวม้ามาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ สารพัด เช่นผูกเอว คาดหัว เช็ดตัว หอ่ ของ ทาไมเราจงึ ไม่นาผา้ ขาวม้าทม่ี ีลายสวยงามเปน็ เอกลักษณ์ โดยเพิม่ มูลค่า ดว้ ยการตัดเยบ็ เป็นเสอ้ื ผ้าท่ีใชใ้ นชวี ติ ประจาวันบ้าง
๒๙ รางวัลที่ ๑ ระดับอาเภอ รางวัลชมเชย ระดบั จังหวัด
๓๐ อาเภอตาคลี ชมเชย ประวัติความเปน็ มา ผ้าขาวมา้ เปน็ ผ้าสารพัดประโยชน์ทค่ี นไทย ใชม้ าแต่โบราณ สว่ นใหญผ่ ู้ใชจ้ ะเปน็ เพศชาย สามารถใช้น่งุ เชด็ ตัว คลมุ หัวกนั แดด หรือทาเปลกไ็ ด้ เน่อื งจากคนอีสานชอบประดษิ ฐ์ เครอ่ื งมือเครอ่ื งใช้ จึงคิดประดิษฐล์ ายผ้าขาวม้า สแี ละลายผา้ ขาวม้าจะมี ลวดลายของผา้ จะแตกต่าง ตามความนยิ มของทอ้ งถิ่น เมือ่ ชาวอีสาน ยา้ ย ถิน่ ฐานไปอยทู่ ใ่ี ดก็จะ ทีม่ ีการสบื ทอดการทอผา้ ขาวม้ามาจากร่นุ สู่ร่นุ ซ่ึงใน อดีต การทอไว้ใช้ในครวั เรือนและได้มกี ารพัฒนา เพือ่ การจาหนา่ ยในปัจจบุ นั แต่ยงั ขาดการพฒั นา การสร้างเอกลกั ษณ์ความแตกต่างของผ้าขาวม้าใหม้ ีความแตกต่างจากที่อ่นื และเมอื่ มีประโยชนจ์ งึ ทาให้คนไทยทกุ กลุม่ ชนใชต้ ามกนั มาจนถงึ ทกุ วนั นี้
๓๑ แรงบันดาลใจ ขา้ พเจา้ มีแรงบันดาลใจจากการท่ีเห็นว่า ผ้าขาวม้า ชว่ ยสืบสานวฒั นธรรม ประเพณี และเป็นภูมิปัญญาท่ีทรงคุณค่าเพ่ิมมูลค่าให้กบั ผ้าขาวม้า และสามารถ สร้างราย ไดใ้ ห้แก่ชุมชน อกี ทั้งยงั เปน็ เอกลักษณ์ ของแตล่ ะชุมชนด้วย รางวัลที่ ๑ ระดบั อาเภอ
๓๒ รางวัลชมเชย ระดบั จงั หวัด
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: