รายงานโครงการ-การจัดทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็น - อ.ชาตรี

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณเ์ พอ่ื รบั ฟังความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรบั โครงการยดื อายุลาไยสง่ ออกเพอื่ แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดด้วยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี  จัดประชุมออกแบบการประชาพิจารณ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาล ตัวแทนจังหวัด ผู้นําชุมชน และสถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ประเทศไทย (วว.)  จัดประชุมสรุปรูปแบบการรับฟังความคิดเห็นประชาชนร่วมกับเจ้าหน้าท่ีเทศบาล ตัวแทน จังหวดั ผู้นาํ ชมุ ชน และสถาบันวจิ ัยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ประเทศไทย (วว.)  จัดเยย่ี มชมโรงงานตัวอยา่ ง ให้แกต่ ัวแทนชุมชนอยา่ งน้อย ๒๐ คน ซึ่งประกอบด้วย ผู้นําชุมชน และประชาชนผไู้ ด้รบั ผลกระทบ ข้ันที่ ๓ประชาสัมพนั ธแ์ ละให้ข้อมลู โครงการตอ่ ประชาชน โดยดาํ เนนิ การดังน้ี  ประกาศเผยแพรข่ ้อมูลโครงการใหป้ ระชาชนท่ัวไป ณ สถานที่ทีก่ ําหนด  ประชุมปฐมนเิ ทศชแ้ี จงโครงการให้แกผ่ ทู้ เ่ี กี่ยวขอ้ งอย่างน้อย ๒๐๐ คน  แจกแผ่นพับอยา่ งนอ้ ย ๒,๕๐๐แผ่นใหแ้ ก่ประชาชนในชมุ ชน  ติดตั้งปาู ยประกาศอย่างน้อย ๓ แห่ง ในพื้นท่ี  ประกาศในเว็บไซตส์ ํานกั นายกรัฐมนตรีและเว็บไซตอ์ ืน่ ๆ ทีก่ าํ หนด  จัดต้งั ตัง้ ศนู ย์รบั ฟังข้อมลู และความเห็นจากคนในชมุ ชน  ประชาสมั พนั ธผ์ า่ นส่อื ท้องถ่ิน (เชน่ วทิ ยุชุมชน เสียงตามสาย หรืออน่ื ๆ) ขั้นท่ี ๔ประชุมกลุ่มย่อยเพอ่ื ช้ีแจงโครงการและผลการศึกษา โดยดําเนินการดังนี้  จดั ประชมุ ร่วมกบั ผนู้ ําชมุ ชน และตวั แทนหนว่ ยงานราชการอยา่ งนอ้ ย ๒๐ คน  จดั ประชมุ รว่ มกับผ้ปู ระกอบการโรงรมลาํ ไยและพ่อค้าคนกลางผู้รบั ซ้ือลาํ ไยอยา่ งน้อย ๒๐ คน  จดั ประชุมร่วมกบั เกษตรกรผปู้ ลกู ลําไยอยา่ งน้อย ๓๐ คน  จดั ประชุมร่วมกบั ประชาชนทวั่ ไปที่อยใู่ นพนื้ ท่ซี งึ่ อาจไดร้ บั ผลกระทบอยา่ งน้อย ๓๐ คน ขน้ั ที่ ๕ จดั ทําประชาพจิ ารณ์ จากผ้ทู ี่เก่ียวข้องอย่างนอ้ ย๓๐๐ คน ขัน้ ท่ี ๖ ประกาศผลการจัดทําประชาพิจารณ์ ณ สถานที่ท่ีกําหนด ภายใน ๑๕ วัน หลังการจัดทําประชา พจิ ารณ์ ขน้ั ท่ี ๗ สรุปผลการดําเนินการและจดั ทํารายงาน การดาเนินการตามขั้นตอนโครงการ จากข้ันตอนขา้ งตน้ ทางคณะไดด้ ําเนินการตามข้ันตอนโดยมกี ารเตรยี มเอกสารและข้อมูลท่เี ก่ยี วข้อง รวม ไปถงึ การขอความร่วมมือกับเจา้ หน้าทีจ่ ากทางสถาบันวจิ ยั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ให้ มาร่วมใหข้ อ้ มลู แก่ประชนในพืน้ ท่ี โดยทางคณะไดม้ กี ารจดั ประชุมตามตารางดา้ นล่าง ๑๐๐

โครงการจัดทาประชาพจิ ารณ์เพ่ือรบั ฟงั ความคดิ เห็นของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยส่งออกเพ่อื แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ประชมุ ออกแบบการประชาพิจารณก์ บั ผู้ที่เกยี่ วขอ้ ง วันอังคาร ๒๙ เมษายน ๒๕๕๗ ปฐมนิเทศเปิดตวั โครงการประชาพิจารณ์ให้กบั ประชาชนทราบ ถงึ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ วนั องั คาร ๒๐พฤษภาคม ๒๕๕๗ ประชุมกลุ่มยอ่ ยกับประชาชนผู้ไดร้ บั ผลกระทบ ระหวา่ ง ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ประชุมกลมุ่ ยอ่ ยกับผปู้ ระกอบการโรงรมลาํ ไย ประชมุ กลุ่มยอ่ ยกบั เกษตรกรผ้ปู ลูกลาํ ไย ถึง ประชาสมั พันธ์ใหป้ ระชาชนทราบขอ้ มลู โครงการ ๒๑ มถิ ุนายน ๒๕๕๗ การแจกแผ่นพบั การติดต้งั ปูายประกาศในพ้นื ที่ วันศุกร์๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ การประกาศใน website ๒๔ มิถนุ ายน ๒๕๕๗ ต้งั ศูนยร์ ับฟงั ข้อมลู และความคดิ เห็นของประชาชน ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ประชาสมั พันธ์ผา่ นเสียงตามสายในหมบู่ ้าน ประชุมประชาพจิ ารณเ์ พอ่ื รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของประชาชน ประชุมสรปุ ผลการประชาพจิ ารณเ์ พอื่ เผยแพร่ข้อมูล เผยแพรข่ ้อมลู การสรปุ ผลการประชาพิจารณ์ ๑๐๑

โครงการจดั ทาประชาพิจารณเ์ พ่อื รบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายลุ าไยสง่ ออกเพ่ือแกไ้ ขลาไยล้นตลาดด้วยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาพประกอบการประชมุ ปฐมนิเทศ และ การประชุมประชาพจิ ารณ์ การประชมุ ปฐมนิเทศ ๑๐๒

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณ์เพอื่ รบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยส่งออกเพ่อื แก้ไขลาไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี การประชุมประชาพจิ ารณ์ ๑๐๓

โครงการจดั ทาประชาพิจารณ์เพอ่ื รับฟังความคดิ เหน็ ของประชาชนสาหรบั โครงการยดื อายุลาไยส่งออกเพื่อแก้ไขลาไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สรุปผลการประชาพิจารณท์ ไ่ี ดร้ ับการเห็นชอบของคณะกรรมการประชาพิจารณ์ เมอื่ วันท่ี ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ ณ ห้องประชมุ เทศบาลตาบลวงั ผาง ผลการรบั ฟังความเห็นประชาชนในเขตเทศบาลวังผางต่อการดาํ เนินการโครงการฯดังนค้ี ือ ๑. ผลการสารวจความเห็นจากแบบสอบถาม ภาพรวมของความเห็นของคนในชมุ ชนต่อการจัดทําโครงการ  รอ้ ยละ ๕๑.๙๗ เห็นด้วยต่อการจัดทําโครงการ เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ปลูก ลาํ ไยและคนในพืน้ ท่ี และเหน็ ว่าเป็นโรงรมกาํ มะถันที่มมี าตรฐานที่เป็นต้นแบบของ โรงรมอื่นๆได้ ร้อยละ ๑๖.๓๒ ไม่แน่ใจต่อการจัดทําโครงการ เนื่องจากไม่ทราบ ข้อมลู ท่ชี ัดเจน ไม่แน่ใจวา่ จะเกดิ ผลกระทบหรอื ไม่ และไมแ่ นใ่ จว่าจะเกิดประโยชน์ กบั คนในชุมชน  ร้อยละ ๒๙.๒๒ ไม่เห็นด้วย เนื่องจากคิดว่าไม่เกิดประโยชน์กับคนในพื้นท่ี ไม่ สามารถบริหารจัดการทก่ี ่อใหเ้ กดิ ประโยชนก์ ับชมุ ชนได้ และกังวลด้านสิ่งแวดล้อม ตารางสรปุ ผลการสอบถามความเหน็ ตอ่ การดาเนินการโครงการของแต่ละหมู่บ้าน หม่บู า้ น สร้างได้ ไมแ่ นใ่ จ ไมค่ วรสร้าง รอ้ ยละ รอ้ ยละ ร้อยละ ๑. เหล่าแมว ๐.๒๓ ๐.๔๖ ๙๐.๘๓ ๒. เหล่าปงเสอื ๗๗.๗๓ ๑๔.๘๕ ๖.๙๙ ๓. ทา่ ล่ี ๒.๔๔ ๙.๗๖ ๗๖.๘๓ ๔. วงั ผาง ๘๙.๓๙ ๗.๕๘ ๓.๐๓ ๕. ดงหลวง ๕๔.๒๓ ๑๒.๙๖ ๗.๙๔ ๖. เวยี งหนองลอ่ ง ๖๓.๘๑ ๒๗.๔๕ ๘.๐๒ ๗. วังหมุ้น ๙๑.๖๗ ๑.๓๙ ๐ ๘. ดงเหนอื ๕๓.๐๖ ๑๐.๒ ๓๖.๐๕ ๙. กลางทุ่ง ๖๑.๐๗ ๒๒.๙ ๑๒.๒๑ ๑๐.ดงเจรญิ ๑๐.๑๖ ๔๙.๒ ๓๖.๙ ๑๐๔

โครงการจัดทาประชาพิจารณ์เพอ่ื รบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยส่งออกเพ่อื แก้ไขลาไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒. ความเหน็ ของผูป้ ลกู ลาไย ผูป้ ลูกลาํ ไยเห็นว่าการมโี รงรมที่ไดม้ าตรฐานจะช่วยใหล้ าํ ไยที่ขายเป็นที่ยอมรบั ของลกู ค้า การมีโรงรม ทไ่ี ด้มาตรฐานของชมุ ชนจะช่วยให้ทาํ การค้าแขง่ ขันกับผ้ปู ระกอบการต่างชาติได้ โดยผู้ปลูกลําไยสามารถร่วม กาํ หนดราคาขายเพราะปจั จุบนั ราคาขึ้นอยกู่ ับผปู้ ระกอบการและผ้ซู อ้ื ซ่ึงหากผู้ประกอบการขายได้ในราคาท่ี สูงข้นึ จะทําให้ราคาลําไยทส่ี วนสูงขึ้นดว้ ย ๓. ความเหน็ ของผู้ประกอบการลาไย  โรงรมลาํ ไยทจี่ ะมาสรา้ งไดม้ าตรฐาน ทําให้ม่นั ใจว่าลาํ ไยสดผ่านมาตรฐานที่กําหนดและไม่มี ปญั หาในการขายท่ตี ลาดปลายทาง  การมีโรงรมที่ได้มาตรฐานจะช่วยให้สามารถรับซ้ือลําไยจากสวนในราคาที่สูงข้ึนได้เพราะ สินค้าเป็นท่ียอมรับของผู้ซ้ือปลายทาง และต้นทุนความเสียหายของผู้ประกอบการโรงรม ลดลง  สามารถเพิ่มราคารับซ้ือจากสวนได้ ช่วยให้ขยายตลาดไปต่างประเทศได้มากขึ้น เช่นยุโรป ออสเตรเลีย ฮ่องกง เพราะประเทศเหล่าน้ีมีค่ามาตรฐานกํามะถันตํ่ากว่าจีน และต้องการ มาตรฐานระดบั โลก ซง่ึ โรงรมใหม่นมี้ ีมาตรฐานท่ีตอ้ งการ  สามารถซ้อื และขายลาํ ไยได้ตลอดทงั้ ปีเนอื่ งจากตลาดกวา้ งขน้ึ  มนั่ ใจว่ามีผมู้ าจ้างรมลําไยแนน่ อนท้งั จากในลาํ พนู และจากต่างจังหวัดเนื่องจากเป็นโรงรมที่ ได้รับการยืนยันมาตรฐานจากหน่วยงานทีเ่ กยี่ วขอ้ ง ๔. ความเหน็ ของคนในชุมชน หมู่ ๑ จากการประชุมในหมู่บา้ น คนในชมุ ชนหมู่ ๑ ไมเ่ ห็นด้วยต่อการสร้างโครงการในหมู่ ๑ แต่หากจะมีการสร้างในหมู่อื่น ให้ข้ึนอยู่ กับคนในชมุ ชนนั้น ๕. ผลการรับฟังความเห็นในวันที่มีการเปิดเวทีรับฟังความเห็นในวันประชาพิจารณ์ (วันศุกร์ที่ ๒๐ มิถนุ ายน ๒๕๕๗) ผู้มาเขา้ รว่ มแสดงความเหน็ ในท่ีประชุม บางส่วนเห็นด้วยกับประชาชนหมู่ ๑ ว่าไม่ควรสร้าง ในพื้นที่ แต่มีประชาชนจากหมู่ ๔ และหมู่ ๖ เห็นความสําคัญของโครงการ และมีความประสงค์ท่ีจะให้ สถาบันวจิ ัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยย้ายพื้นท่ีการดําเนินโครงการไปในพ้ืนที่หมู่ ๔ หรือ หมู่ ๖ และหากไมส่ ามารถดําเนนิ การไดใ้ นปงี บประมาณนี้ ขอให้สถาบนั ฯ พจิ ารณาจัดสรรงบเพ่อื ดาํ เนินการใน ปตี อ่ ไป ๑๐๕

โครงการจดั ทาประชาพิจารณ์เพอื่ รับฟังความคดิ เหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยส่งออกเพ่อื แก้ไขลาไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติม ข้อเสนอความเหน็ เพ่ิมเตมิ ของคณะนิติศาสตรเ์ หน็ ว่าจากบรรยากาศของการประชมุ รับฟงั ความเห็นของคนใน ชมุ ชน หมู่ ๑ ท่อี อกมารอ้ งคัดค้านเป็นส่วนใหญ่ก็ดี การเปิดเวทีรับฟังความเห็นในวันประชาพิจารณ์ วันศุกร์ท่ี ๒๐ มถิ ุนายน ๒๕๕๗ ท่ีประชาชนหมู่ ๑ ออกมาแสดงความเหน็ คดั คา้ นกด็ ี รวมทัง้ ผลการตอบแบบสอบถามคนในชุมชน หมู่ ท่ี ๑ และหมู่ที่ ๓มีความไม่เห็นด้วยต่อการดําเนินการโครงการ และหากพิจารณาด้านปัญหาความขัดแย้งระหว่าง ชุมชนประกอบกบั การแสดงออกซ่ึงการตอ่ ตา้ นของคนในชุมชน หมู่ ๑ แล้ว สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แหง่ ประเทศไทย (วว.)น่าที่จะพิจารณาในทางที่จะย้ายสถานท่ีการดําเนินโครงการไปพื้นที่อ่ืนหรืออาจจะพิจารณา ดาํ เนินโครงการในพื้นท่หี มู่ ๔ และหมู่ ๖ ในอนาคตหากไดม้ ีการสรา้ งความเข้าใจของคนในชุมชนถงึ ประโยชน์ท่ีได้จาก การดาํ เนนิ โครงการน้อี ย่างท่วั ถงึ ต่อไปในอนาคต ทั้งนีใ้ นการประชุมหลายครงั้ พบว่ามขี อ้ หว่ งใยของประชาชนในพื้นท่ี ในด้าน การจราจรหากมีโรงรมลาํ ไยเกิดขนึ้ ด้านการบริหารจัดการโรงรมเม่อื สร้างเสรจ็ ด้านสงิ แวดลอ้ มในชุมชน ขอ้ เสนอมาตรการเพ่ือลดผลกระทบโครงการ คณะนิติศาสตร์มขี อ้ เสนอแนะมาตรการเพือ่ ลดผลกระทบโครงการหากจะได้มีการดาํ เนินการในครั้งนี้หรือใน อนาคต ดังน้ี ๑. ดา้ นการจราจร หากมีโรงรมลาไยเกดิ ขึน้ ทางคณะนติ ศิ าสตร์ เสนอวา่ หากมีการดําเนินการโครงการในชุมชนเทศบาลตําบลวังผาง ควรมีการ ประสานงานกับหน่วยงานภาครฐั ต่างๆ ในการจัดการสร้างถนนเส้นใหม่ท่ีสามารถออกสู่ทางหลวงหมายเลข ๑๐๑๐ เพ่ือไมใ่ ห้มผี ลกระทบตอ่ การจราจรที่ตอ้ งผา่ นชมุ ชนหมทู่ ่ี ๑ ๒. ดา้ นการบรหิ ารจดั การโรงรมเม่อื สรา้ งเสร็จ ในด้านการบรหิ ารจดั การโรงรมเมอ่ื สรา้ งเสรจ็ ประชาชนในพื้นท่ตี ้องการทจี่ ะทราบถงึ วิธีการบริหารโรง รมอย่างเป็นรูปธรรม ในการนี้ทางคณะนิติศาสตร์จึงเสนอให้ มีการจัดทําการศึกษาและเตรียมแผนงานการ บริหารโครงการแนวทางการจัดต้ังองค์กรเพื่อบรหิ ารโครงการ แผนดา้ นการเงนิ แผนด้านการค้าและการตลาด แล้วต้องทําความเข้าใจกับชุมชนโดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการศึกษาแนวทางการค้าดังกล่าว ตั้งแต่เริ่มต้น โครงการ ๓. ดา้ นสิง่ แวดลอ้ มในชมุ ชน ในดา้ นสิ่งแวดลอ้ มในชุมชนน้ันประชาชนมีข้อกงั วลตอ่ ผลกระทบดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม อาจเกดิ จากแกนนํา ชมุ ชนที่ตอ่ ต้านได้ใหข้ ้อมลู ผลกระทบของซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์จากโรงไฟฟูาแม่เมาะในอดตี ทําให้เกิดความกลวั ของคนในชุมชนหมู่ที่ ๑ ดังน้ันการให้ข้อมูลที่แท้จริงท่ีแสดงให้เห็นว่าโรงรมท่ีจะจัดสร้างน้ีไม่ได้ก่อให้เกิด ผลกระทบดา้ นสิ่งแวดลอ้ มต่อชมุ ชนอย่างรา้ ยแรงจงึ เปน็ ไปดว้ ยความยากลําบาก ในการน้ีทางคณะนิติศาสตร์ จึงเสนอวา่ ควรมกี ารประสานกบั ภาคส่วนต่างในพื้นท่ี ในการท่ีจะให้ข้อมูลด้านสิงแวดล้อมต่อประชาชนอย่าง ทวั่ ถึงและตอ่ เนื่อง ตลอดจนการใหป้ ระชาชนเขา้ ใจผลประโยชน์ที่จะตกแก่ชุมชนที่มากกว่า เมื่อเปรียบเทียบ กบั ความเสย่ี งเล็กน้อยทอี่ าจเกิดผลกระทบขนึ้ มาได้ ๑๐๖

โครงการจดั ทาประชาพิจารณ์เพอื่ รบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยส่งออกเพอื่ แก้ไขลาไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผลของการประชาพิจารณ์ครัง้ นต้ี ามหลักการตามระเบียบสํานักนายกรฐั มนตรวี า่ ด้วยการรับฟังความ คดิ เห็นของประชาชน พ.ศ. ๒๕๔๘แลว้ แมว้ ่าผลการสํารวจความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่จํานวน ร้อย ละ ๕๑.๙๗ เหน็ ดว้ ยต่อการจัดทาํ โครงการ เพราะจะเป็นประโยชนต์ อ่ ผปู้ ลกู ลาํ ไยและคนในพื้นท่ี และเห็นว่า เปน็ โรงรมกํามะถันท่ีมีมาตรฐานที่เป็นต้นแบบของโรงรมอื่นๆได้ แต่อย่างไรก็ตาม สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ก็ไม่ได้มีข้อผูกพันท่ีจะต้องดําเนินการก่อสร้างโรงรมตามโครงการ สถาบนั วิจยั วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.). มีอํานาจใช้ดุลพินิจในทางที่จะไม่ดําเนินการ ก่อสร้างในพน้ื ทห่ี ม่ทู ่ี ๑ได้ ท้งั นกี้ ็เพอ่ื ไมใ่ หเ้ กิดการปญั หาความขัดแยง้ ระหว่างชุมชนหรอื การตอ่ ต้านของคนใน ชมุ ชน หมู่ ๑ อาจเกิดปัญหาในการก่อสร้างไม่สามารถสําเร็จไดต้ ามวัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ ดังนั้น สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) จะพิจารณาในทางที่จะไม่ ดาํ เนนิ การก่อสร้างในพ้ืนทหี่ มู่ ๑ หรือจะย้ายสถานที่โครงการไปพื้นท่ีอื่น ก็ย่อมทําได้ โดยไม่ขัดต่อหลักการ ของกฎหมายแต่อย่างใด และยังสอดคล้องกบั ระเบียบสาํ นกั นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของ ประชาชน พ.ศ. ๒๕๔๘ทุกประการ ๑๐๗