48 สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพต้นสังกัดไปยังสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพอื่น และดาเนินการยื่นคาขอดังกล่าว พร้อมดูแลผลประโยชน์อ่ืนใดให้กับนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ กิจกรรมท่ีดาเนินการโดยผู้จัดการสิทธิประโยชน์ นักกีฬา (Activities of Sports Agents) ก็ต้องไม่ขัดหรือแย้งกับหลักการภายใต้กฎหมายสหภาพยุโรป ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเกี่ยวกับสภาพจริยธรรมในแวดวงอุตสาหกรรมกีฬา (เช่น อาชญากรรม ทางเศรษฐกิจ (Financial Crime) และการแสวงหาประโยชน์จากนักกีฬาฟุตบอลอาชีพเยาวชน (นักกีฬา เด็ก) (Exploitation of Young Players) เป็นต้น) กล่าวโดยสรุปได้ว่าเอกสาร Communication on Sports 2011 ได้กล่าวซ้าในหลักการภายใต้ เอกสาร White Paper on Sport 2007 คณะกรรมาธิการยุโรปเป็นกังวลและพยายามแก้ไขปัญหาธรร มาภิบาล พร้อมนาเสนอข้อวิตกกังวลทางกฎหมายเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานอย่างเสรีของนักกีฬา ฟุตบอลอาชีพและการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพข้ามสโมสร บรรดาเหล่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใน อุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอลก็อาจอาศัยช่องทางในการเอารัดเอาเปรียบแก่นักกีฬาฟุตบอลอาชีพทั้งในฐานะ ที่เป็นนักกีฬาอาชีพในชนิดกีฬาฟุตบอลและเป็นแรงงานในอุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอล ในขณะเดียวกัน เอกสารฉบับนี้ก็พยายามชี้ให้เห็นถึงแนวทางการอุดช่องว่างและข้อเรียกร้องให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในแวด วงกีฬาฟุตบอลในภูมิภาคยุโรปปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของสนธิสัญญา TFEU มาตรา 18 มาตรา 21 มาตรา 45 และมาตรา 165 3.5 เอกสาร Council Resolution on an EU Work Plan for Sport 2017-202089 เอกสาร Council Resolution on an EU Work Plan for Sport 2017-2020 ได้แก่ ข้อมติของ สภาสหภาพยุโรปว่าด้วยแผนการดาเนินงานด้านกีฬาสหภาพยุโรป แสดงถึงเจตนารมณ์ของสภาสหภาพ ยุโรปและผู้แทนรัฐบาลของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปในรูปแบบลายลักษณ์อักษร ข้อมติเช่นว่านี้เป็น บ่อเกิดของแนวทางการดาเนินงานด้านการกีฬาร่วมกัน อันมีเป้าหมายในการพัฒนาด้านกีฬา ในภูมิภาค ยุโรปให้สอดคล้องและบูรณาการอันจะก่อให้เกิดความร่วมมือทางการกีฬาไปในแนวทางอันมีเป้าหมาย ร่วมกันตามระยะเวลาที่กาหนดเอาไว้ในแผนการทางานดังกล่าว โดยกาหนดระยะเวลาของการ ดาเนินงานภายใต้แผนดังกล่าวเอาไว้เป็นระยะเวลา 4 ปี เอกสารฉบับนี้ไม่ได้กล่าวถึงประเด็นการโอนย้าย นักกีฬาฟุตบอลอาชีพภายใต้นโยบายและกฎหมายสหภาพยุโรปแต่อย่างใด แต่เอกสารดังกล่าวได้หยิบยก ประเด็นสาคัญ (Key Topics) เชิญชวนให้ประเทศสมาชิกดาเนินงานในประเด็นสาคัญตามแผนการ ดาเนินงานด้านกีฬาเป็นระยะเวลา 4 ปี เช่น การควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา (Anti-doping) 89 Council of the European Union. (2017). Resolution of the Council and of the Representatives of the Governments of the Member States, meeting within the Council, on the European Union Work Plan for Sport (1 July 2017 - 31 December 2020) - Council Resolution (23 May 2017). Brussels: Council of the European Union.
49 ธรรมาภิบาลที่ดี (Good Governance) การคุ้มครองนักกีฬาเด็ก (Safe-guarding of minors) และ ความจาเพาะของกีฬา (Specificity of Sport) เป็นต้น ในส่วนที่เกี่ยวกับธรรมาภิบาลที่ดีนั้น ธรรมาภิบาลเป็นหลักการที่สามารถนาเอามาประยุกต์กับการ บริหารองค์กรกีฬาหรือการกากับกิจการองค์กรกีฬาอย่างแพร่หลาย ช่วยให้การดาเนินงานในองค์กรกีฬา เป็นไปอย่างโปร่งใส เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ ภายใต้การดาเนินงานตามกรอบกติกาหรือหลักเกณฑ์ จริยธรรมท่ีส่งเสริมความยุติธรรมในแวดวงกีฬาหรืออุตสาหกรรมกีฬา เช่นน้ีธรรมาภิบาลท่ีถูกนาเอามาใช้ กับการดาเนินงานขององค์กรกีฬาและการดาเนินกิจกรรมทางการกีฬาอาจถูกเรียกเป็นคาเฉพาะว่า ธรรมาภิบาลกีฬา (Sport Governance) กล่าวอีกนัยหนึ่งธรรมาภิบาลกีฬาเป็นหลักการที่นามาใช้ บริหารงานขององค์กรกีฬาและใช้กากับสโมสรกีฬาและสมาคมกีฬาที่อยู่ภายใต้สังกัด (อยู่ภายใต้ การ บริหาร) โดยอาศัยกลไกบริหารและกรอบกติกาเป็นเคร่ืองมือดาเนินการบริหารงานและกากับดูแลให้โปร่ง ใส่ สามารถตรวจสอบหรือเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ มีความรับผิดชอบต่อสังคมและมีกรอบจริยธรรมในการ ดาเนินงาน รวมไปถึงมีกลไกและกระบวนการจัดการความขัดแย้งระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวข้องกับ องค์กรกีฬา 3.6 อภิปรายนโยบายและกฎหมายสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ในบริบทสิทธิมนุษยชน จะเห็นได้ว่าแม้สภาสหภาพยุโรปจะได้มีการออกแผนการดาเนินงานด้านกีฬาสหภาพยุโรป คือ เอกสาร Council Resolution on an EU Work Plan for Sport 2017-2020 มาแล้วก็ตาม แต่ประเด็น ปัญหาอันเนื่องมาจากการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานอย่างเสรีของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพและการโอนย้ายนักกีฬา ฟุตบอลอาชีพข้ามสโมสรกลับไม่ได้ถูกระบุเอาไว้ให้เป็นประเด็นสาคัญในเอกสารดังกล่าว ในขณะที่ปัญหา ดังกล่าวสิทธิมนุษยชนเกี่ยวเนื่องกับการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานอย่างเสรีของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพก็ยังมีอยู่ เสมอก็ตาม เอกสารดังกล่าวไม่ได้กาหนดกรอบแนวทางเฉพาะในการดาเนินงานส่งเสริมและพัฒนาสิทธิ มนุษยชนเกี่ยวเนื่องกับการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานอย่างเสรีของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพที่เป็นประโยชน์ต่อ องค์กรกีฬาและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในภูมิภาคยุโรปแล้ว องค์กรกีฬาและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก็ไม่อาจที่จะ นาไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อส่งผลให้เกิดหลักเ กณฑ์และกลไกที่ส่งผลให้เกิดการคุ้มครองสิทธิและ เสรีภาพขั้นพื้นฐานท่ีนักกีฬาฟุตบอลอาชีพพึงได้รับ พร้อมสร้างความเป็นเอกภาพในการส่งเสริมสิทธิและ เสรีภาพในประเด็นดังกล่าวในอนาคต ทางออกสาหรับความจาเป็นในข้อนี้ที่พอจะทาได้และนอกจากจะ ไม่สร้างภาระให้กับองค์กรกีฬาและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในภูมิภาคยุโรป น้ันก็คือจะต้องให้เอกสาร Council Resolution on an EU Work Plan for Sport 2017-2020 ระบุกรอบแนวทางในการดาเนินงาน ส่งเสริมและพัฒนาสิทธิมนุษยชนเกี่ยวเนื่องกับการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานอย่างเสรีของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ
50 อย่างชัดเจนให้เป็นประเด็นสาคัญอย่างเอกเทศ เพื่อที่จะได้มีหนทางในการทางานเพื่อส่งเสริมสิทธิและ เสรีภาพในประเด็นดังกล่าวที่ถูกต้องและมีกรอบการทางานพ้ืนฐานในการแก้ไขปัญหาต่อไป อนึ่ง เอกสาร Council Resolution on an EU Work Plan for Sport 2017-2020 ไม่ได้กาหนด กรอบแนวทางเฉพาะในการดาเนินงานส่งเสริมและพัฒนาสิทธิมนุษยชนเกี่ยวเนื่องกับการเคลื่อนย้ายถิ่น ฐานอย่างเสรีของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพก็ใช่ว่าจะไร้หนทางการทางานเพื่อส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพใน ประเด็นดังกล่าวเสียทีเดียว หากแต่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและองค์กรกีฬาในภูมิภาคยุโรปอาจ นาเอาหลักการธรรมาภิบาลที่ดี (ธรรมาภิบาลกีฬา) ที่ถูกระบุเอาไว้ในเอกสารดังกล่าวมาตีความถ้อยคา หรือเนื้อความในประเด็นหลักการธรรมาภิบาลที่ดีให้เข้าข่ายที่สามารถนาเอามาประยุกต์กับการบริหาร จัดการการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพให้เป็นไปตามนโยบายและไม่ขัดต่อกฎหมายสหภาพยุโรป ใน ขณะเดียวกันกติกาและกฎระเบียบว่าด้วยการบริหารจัดการการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพก็ต้องเป็น ธรรม เป็นที่ยอมรับขององค์กรกีฬาและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย สอดคล้องกับสถานการณ์ใน อุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอล สอดรับกับการดาเนินธุรกิจกีฬาฟุตบอล ได้รับความเห็นชอบจากประเทศ สมาชิก องค์กรกากับกีฬาฟุตบอลและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในแวดวงกีฬาฟุตบอล แต่ในขณะเดียวกันก็ต้อง เคารพหลักการในภฎหมายสหภาพยุโรปและกฎหมายสิทธิมนุษยชนของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป จากที่กล่าวมาในข้างต้น นโยบายและกฎหมายสหภาพยุโรปว่าด้วยการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอล อาชีพ มีวัตถุประสงค์บางประการเพ่ือสนับสนุนให้เกิดการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพอันไม่กระทบต่อ สิทธิเสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในตลาดอุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอลในสหภาพยุโรป เนื่องจากตาม แนวคิดและทฤษฏีเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนทางการกีฬาที่ว่าการปฏิบัติตามสิทธิขององค์กรกีฬา (องค์กร กากับกีฬาฟุตบอลอาชีพ) ที่อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายสหภาพยุโรป โดยไม่กระทบสิทธิในการเล่นกีฬา ฟุตบอลอาชีพหรือสิทธิในการทางานของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพแล้ว ย่อมได้ชื่อว่าองค์กรกีฬานั้นเป็นผู้มี ส่วนนาพาวงการกีฬาฟุตบอลยุโรปให้มีธรรมาภิบาลและให้ความเป็นธรรมต่อนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ใน ขณะเดียวกันการวิเคราะห์ประเด็นเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพเองนั้น ก็ต้องมีการจาแนกแยกแยะว่าสิทธิของ นักกีฬาฟุตบอลอาชีพ (Rights of Professional Football Players) กับเสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอล อาชีพ (Freedom of Professional Football Players) โดยสิทธิของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพถือเป็น อานาจที่กฎหมายสหภาพยุโรปรับรองหรือคุ้มครองให้แก่นักกีฬาฟุตบอลอาชีพในอันที่จะกระทาการ บางอย่างเกี่ยวข้องกับการแข่งขันกีฬาฟุตบอลหรือการประกอบกิจกรรมอื่นๆ เกี่ยวกับการแข่งขันกีฬา ฟุตบอลอาชีพ รวมไปถึงเรียกร้องให้สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพกระทาการหรืองดเว้นกระทาการอย่างหนึ่ง อย่างใด ท่ีอาจกระทบต่อสิทธิของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพท่ีกฎหมายสหภาพยุโรปรับรองหรือคุ้มครองเอาไว้ อีกทั้งนักกีฬาฟุตบอลอาจใช้สิทธิเรียกร้องที่จะไม่ให้สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพหรือองค์กรกากับกี ฬา ฟุตบอลใช้อานาจเข้าแทรกแซงหรือกระทาการล่วงละเมิดสิทธิขึ้นพื้นฐานของตนตามกฎหมายสหภาพ ยุโรป ด้วยเหตุนี้สิทธิของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพจึงเป็นสิทธิที่ผูกพันให้องค์กรกากับกีฬาฟุตบอลอาชีพใน ภูมิภาคยุโรปต้องเคารพและคุ้มครองสิทธิตามกฎหมายสหภาพยุโรปเพื่อให้สิทธิดังกล่าว มีผลในทางปฏิบัติ
51 ได้ (เช่น สิทธิในการเคลื่อนย้าย (Mobility Rights) และสิทธิที่จะทางาน (Right to Work) เป็นต้น) ใน ทานองเดียวกันเมื่อพูดถึงเสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ เสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพถือเป็น อิสรภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในการที่จะกระทาการอย่างหนึ่ง อย่างใดตามความประสงค์หรือความ ต้องการของตน เสรีภาพก็เป็นอานาจในการเลือกกระทาการหรืองดเว้นกระทาการอย่างหน่ึงอย่างใดก็ได้ ตามอิสระที่ใจของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในแวดวงกีฬาฟุตบอล อาชีพเองก็ดีหรือองค์กรกากับกีฬาฟุตบอลก็ตาม ต่างก็ต้องเคารพต่อเสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ เมื่อนักกีฬาฟุตบอลอาชีพถูกกระทาการอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นการรบกวนต่อเสรีภาพของนักกีฬา ฟุตบอลแล้ว ก็สามารถใช้สิทธิเรียกร้องให้หยุดกระทาการดังกล่าวได้ตามกฎหมายสหภาพยุโรปรับรอง หรือคุ้มครองเอาไว้ (เช่น เสรีภาพในการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานสาหรับแรงงานและเสรีภาพในการเข้าร่วม สมาคมของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ เป็นต้น) อย่างไรก็ดีเมื่อวิพากษ์ประเด็นการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอล อาชีพภายใต้นโยบายและกฎหมายสหภาพยุโรปที่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้น อาจกล่าวได้ว่าสิทธิมนุษยชน ของการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพถือเป็นสิทธิของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพที่ละเล่นกีฬาฟุตบอลหรือ ทางานเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ พึงถูกปฏิบัติอย่างเท่าเทียมด้วยการคานึงถึงศักดิ์ศรีของความเป็น นักกีฬาอาชีพ (Dignity of Professional Sportspeople) ภายใต้สิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาคที่ กฎหมายสหภาพยุโรปได้รับรองหรือคุมครองเอาไว้ นโยบายและกฎหมายสหภาพยุโรปที่ถูกหยิบยกมา พิจารณาในข้างต้นทาให้ทราบถึงบริบทในทางสิทธิมนุษยชนของการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลหรือถ้อยคา หรือข้อความแวดล้อมที่ช่วยให้เข้าใจความหมายของคาสิทธิมนุษยชนของการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลให้ กระจ่างมากข้ึน นโยบายและกฎหมายสหภาพยุโรปอันมีเนื้อหาเป็นบริบทในทางสิทธิมนุษยชนของการโอนย้าย นักกีฬาฟุตบอลอาชีพมีความสาคัญอย่างไรและเกี่ยวข้องกับใครบ้าง ผู้วิจัยมองว่านโยบายและกฎหมาย สหภาพยุโรปมีความสาคัญอย่างมากทั้งต่อประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและสหภาพยุโรป ซึ่งทาให้ทราบ ว่านโยบายและกฎหมายสหภาพยุโรปที่ได้กล่าวมาแล้วในข้างต้นถูกใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมการ โอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพให้เป็นธรรมและไม่ขัดกับแนวนโยบายและกฎหมายสหภาพยุโรป การ ค้นพบบริบทในทางสิทธิมนุษยชนของการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ทาให้ทราบได้ว่านโยบายและ กฎหมายสหภาพยุโรปที่เกี่ยวข้องมีความสาคัญต่อสหภาพยุโรป ประเทศสมาชิก องค์กรกากับกีฬา ฟุตบอล สมาคมกีฬาฟุตบอลอาชีพและนักกีฬาฟุตบอลอาชีพอย่างไรบ้าง หากสหภาพยุโรปบัญญัติ กฎหมายสหภาพยุโรปและกาหนดนโยบายเกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ย่อมจะทาให้ องค์กรกากับกีฬาฟุตบอลและสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพตระหนัก ยอมรับและปฏิบัติตาม ตลอดจนถึง กาหนดกฎระเบียบ ข้อบังคับและกติกาของตนให้สอดคล้องและสอดรับกับนโยบายและกฎหมายสหภาพ ยุโรปเกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ด้วยกระแสธุรกิจอุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอลที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาอย่างต่อเนื่องและ พัฒนาการกฎหมายสิทธิมนุษยชนด้านกีฬาที่ก้าวไปคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพและ
52 ผู้คนในแวดวงกีฬาฟุตบอลยุโรป ทาให้นโยบายและกฎหมายสหภาพยุโรปอันมีเนื้อหาเป็นบริบทในทาง สิทธิมนุษยชนของการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพอาจถูกปรับเปลี่ยนหรือตีความให้ครอบคลุมการ คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพมากยิ่งขึ้น กลายเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพอาจได้รับ ประโยชน์จากการตีความไปในเชิงคุ้มครองสิทธิเสรีภาพเกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพอย่างดี ยิ่งขึ้นในอนาคต แต่ในขณะเดียวกันระบบ Transfer System อาจเปิดช่องให้มีการสร้างปัญหาด้านสิทธิ มนุษยชนและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามระเบียบ แบบแผนและกติกาภายใต้ระบบ Transfer System ดังกล่าว เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการโอนย้าย นักกีฬาฟุตบอลอาชีพในบริบทของสิทธิมนุษยชนให้ทันท่วงที ก็จาต้องมีการศึกษาวิเครา ะห์ปัญหาทาง กฎหมายสิทธิมนุษยชนสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ (ดังจะกล่าวต่อไปในบทที่ 4)
53 บทท่ี 4 วิเคราะห์ปัญหาทางกฎหมายสิทธิมนุษยชนสหภาพยุโรปเก่ียวกับ การโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ บทที่ 4 มุ่งศึกษาวิเคราะห์ปัญหาทางกฎหมายสิทธิมนุษยชนสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการโอนย้าย นักกีฬาฟุตบอลอาชีพ โดยเฉพาะกรณีของปัญหาทางกฎหมายที่เกิดข้ึนจากการบังคับใช้และช่องว่างของ กฎ ระเบียบและข้อบังคับที่บัญญัติข้ึนโดยองค์กรกากับกีฬาฟุตบอลอาชีพในภูมิภาคยุโรป แม้กฎ ระเบียบ และข้อบังคับดังกล่าวจะสามารถทาให้การโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพมีมาตรฐาน (Standardisation) ในระดับภูมิภาคยุโรปและระดับนานาชาติผ่านกลไกกากับจากนโยบายและกฎหมายสหภาพยุโรปและ สถาบันทางการเมืองยุโรป แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าระบบ Transfer System ที่บังคับใช้อยู่ปราศจาก ช่องว่างทางกฎหมาย (Loopholes) โดยเฉพาะหากพิจารณาในแง่ที่นักกีฬาฟุตบอลอาชีพสวมหมวกสอง ใบทั้งในฐานะที่เป็นทั้งแรงงานและนักกีฬาอาชีพในคนเดียวกันแล้ว ก็อาจเล็งเห็นได้ถึงปัญหาเกี่ยวกับ สิทธิมนุษยชนของกฎ ระเบียบและกติกาว่าด้วยการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ เพราะเมื่ออานาจตามกฎ ระเบียบและข้อบังคับว่าด้วยการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพรับรอง หรือคุ้มครองแก่นักกีฬาฟุตบอลอาชีพในอันที่จะเลือกตัดสินใจโอนย้ายตนเองจากสโมสรกีฬาฟุตบอลต้น สังกัดเดิมไปยังสโมสรกีฬาฟุตบอลต้นสังกัดใหม่ นักกีฬาฟุตบอลอาชีพย่อมได้รับอานาจก่อให้เกิดสิทธิ เรียกร้องที่จะไม่ให้สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพเข้าแทรกแซงในสิทธิตามกฎหมายสหภาพยุโรปในฐานะที่ เป็นพลเมืองสหภาพยุโรปของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียกร้องต่อองค์กรกากับกีฬาฟุตบอลอาชีพและ สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพไม่ให้แทรกแซงในสิทธิขั้น พ้ืนฐานที่กฎหมายสหภาพยุโรปได้ให้หลักประกันสิ ทธิ เสรีภาพเอาไว้ ในทางกลับกันนักกีฬาฟุตบอลอาชีพอาจเผชิญกับภาวะหรือสถานการณ์ที่ตนเองตกอยู่ ภายใต้การครอบงาของผู้อื่น ไม่ว่าผู้อื่นนั้นจะเป็นองค์กรกากับกีฬาฟุตบอลก็ดีหรือสโมสรกีฬาฟุตบอลก็ ตาม นักกีฬาฟุตบอลอาชีพอาจปราศจากอิสระในการที่จะกระทาการอย่างหนึ่งอย่างใดหรืองดเว้นกระทา การอย่างหนึ่งอย่างใดตามความประสงค์ของตน การปราศจากอิสระหรือไร้อานาจกาหนดตนเองโดย อิสระเช่นว่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นการปราศจากเสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพทั้งหมดทั้งสิ้น อีกทั้ง นักกีฬาฟุตบอลอาชีพอาจถูกล่วงละเมิดสิทธิได้ หากนักกีฬาฟุตบอลอาชีพถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมหรือ ถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม รวมไปถึงอาจถูกกระทาการอย่างหน่ึงอย่างใดในลักษณะที่ไปกระทบต่อ สิทธิส่วนบุคคล ทั้งในสิทธิที่เป็นสิทธิของนักกีฬาในอุตสาหกรรมกีฬายุโรปและสิทธิของการเป็นแรงงาน ในตลาดแรงงานยุโรป
54 นอกจากนี้ บทที่ 4 ยังประสงค์ที่จะอธิบายและวิเคราะห์เพิ่มเติมประเด็นสถานการณ์สิทธิมนุษยชน เก่ียวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในภูมิภาคยุโรปที่จะทาให้ทราบถึงสถานการณ์ดังกล่าวมีบริบท และแนวโน้มอย่างไรบ้าง โดยการวิเคราะห์สถานการณ์เช่นว่านี้ ผู้วิจัยจะอ้างอิงและวิเคราะห์ข้อมูล ทุติยภูมิที่มีผู้วิเคราะห์ไว้แล้ว โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนของนักกีฬาภายใต้ ระบบ Transfer System ในภูมิภาคยุโรป ซึ่งการวิเคราะห์ในทานองนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา ทิศทางป้องกันการล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพและเป็นประโยชน์ต่อการวางกรอบ ทิศทางการปฏิรูปกฎ ระเบียบ และข้อบังคับว่าด้วยการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในภูมิภาคยุโรปใน อนาคต สาหรับในประเด็นสาคัญเกี่ยวเนื่องกับประเด็นปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับการโอนย้าย นักกีฬาฟุตบอลอาชีพในภูมิภาคยุโรป ที่ส่งผลกระทบในด้านลบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิและ เสรีภาพขั้นพื้นฐานที่มีอยู่ในตัวนักกีฬาฟุตบอลอาชีพและส่งผลให้เกิดการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เสมอภาค เพียงด้วยเหตุแห่งเชื้อชาติหรือสถานะทางสัญชาติอื่นใดของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ มีการแบ่งแยก วิเคราะห์ใน 2 ประเด็นสาคัญ อาทิ (1) ประเด็น EU Free Movement และ Fair Competition (2) ประเด็น Children's Rights และ Human Trafficking of Players 4.1 ประเด็น EU Free Movement และ Fair Competition การแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในแวดวงกีฬาฟุตบอล (Unfair Competition in Football) เป็นการแข่งขันในทานองที่สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพขนาดใหญ่ในฐานะที่เป็นเอกชนรายหนึ่งมีอานาจ ผูกขาดตลาดเหนือเอกชนรายอื่นแล้วไปจากัดการแข่งขันของภาคเอกชนด้วยกันหรือสโมสรกีฬาฟุตบอล อาชีพขนาดใหญ่ในฐานะที่เป็นเอกชนรายหนึ่งรายใดมีพฤติกรรมไปในลักษณะผูกขาดการแข่งขันใน ท้องตลาดอุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอล90 การแข่งขันที่ปราศจากเสรีและไม่เป็นธรรมในอุตสาหกรรมกีฬา ฟุตบอลย่อมมีการกีดกันหรือการเลือกปฏิบัติแฝงเอาไว้ ทั้งในตัวภาคเอกชนที่มีอานาจทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง91 เหนือสิ่งอื่นใดไม่ว่าจะเป็นสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพขนาดใหญ่ที่มีอานาจดังกล่าว ต่างก็อาจใช้อานาจที่ตนมีอยู่ผูกขาดตลาดในทานองที่ไปเอาเปรียบหรือกลั่นแกล้งสโมสรกีฬาฟุตบอล อาชีพขนาดเล็กที่ไม่มีต้นทุนหรือศักยภาพทางเศรษฐกิจเทียบเท่าสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพขนาดใหญ่ หลายกรณีกลับปราศจากกติกาควบคุมหรือมาตรการกากับสโมสรกีฬาฟุตบอลขนาดใหญ่ไม่ให้แสดง พฤติกรรมท่ีเป็นการกล่ันแกล้งสโมสรกีฬาฟุตบอลขนาดเล็กท่ีแน่ชัด หากปราศจากการป้องกันพฤติกรรม การผูกขาดทางการค้าหรือการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในตลาดอุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอลแล้ว ก็ 90 KEA European Affairs & Centre de Droit et d'Économie du Sport. (2013). The Economic and Legal Aspects of Transfers of Players. Retrieved August 20, 2019, https://ec.europa.eu/assets/eac/sport/library/documents/cons- study-transfers-final-rpt.pdf 91 Pearson, G. (2014). Sporting Justifications under EU Free Movement and Competition Law: The Case of the Football ‘Transfer System’. European Law Journal, 21(2), 220-238.
55 จะเกิดผลเสียในการแข่งขันทางธุรกิจระหว่างสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพ แล้วสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพ ขนาดเล็กอาจถูกเอารัดเอาเปรียบจากสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพขนาดใหญ่ อันเป็นผลเสียต่อการแข่งขัน กีฬาฟุตบอลที่ต้องเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม92 ซึ่งในเวลาต่อมาองค์กรกากับกีฬาในภูมิภาคยุโรปใน ฐานะที่เป็นผู้จัดการแข่งขันระบบลีกยุโรปอย่างเช่น สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (Union of European Football Associations หรือยูฟ่า (UEFA)) ได้ออกมาตรการเครื่องมือบางอย่างมาตรวจสอบและ ควบคุมไม่ให้สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพขนาดใหญ่มีลู่ทางหรือใช้ช่องทางนาการปฏิบัติบางอย่างไปสู่การ ผูกขาดในตลาดอุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอล93 จากประสบการณ์และบทเรียนที่ผ่านมาในภูมิภาคยุโรป (ดังที่กล่าวไว้ในบทที่ 2) ภายใต้ระบบ Transfer System ที่เคยบังคับใช้ในภูมิภาคยุโรป แม้นักกีฬาฟุตบอลอาชีพได้หมดสัญญากับต้นสังกัดเดิม ไปแล้วก็ตาม แต่หากนักกีฬาฟุตบอลอาชีพประสงค์ท่ีจะโอนย้ายไปสังกัดยังสโมสรกีฬาฟุตบอลอื่น ก็ต้อง ให้สโมสรกีฬาฟุตบอลที่ประสงค์จะรับโอนนักกีฬาฟุตบอลอาชีพนั้น จ่ายค่าธรรมเนียมการโอนย้ายแก่ สโมสรกีฬาฟุตบอลต้นสังกัดเดิมเสียก่อน94 แม้ว่าสัญญาจ้างระหว่างสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพต้นสังกัด เดิมกับนักกีฬาฟุตบอลอาชีพจะได้หมดอายุลงไปแล้วก็ตาม มีการกล่าวอ้างอย่างแพร่หลายว่าระบบ Transfer System แบบดั่งเดิมสามารถป้องกันไม่ให้สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพขนาดใหญ่ที่มีสถานะทาง เศรษฐกิจดีกว่า อาศัยข้อได้เปรียบทางการเงินของตนทาการฉกตัวนักกีฬาฟุตบอลอาชีพจากสโมสรกีฬา ฟุตบอลอาชีพขนาดเล็กท่ีมีสถานะทางเศรษฐกิจด้อยกว่า ในขณะที่สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพขนาดเล็กที่มี สถานะทางเศรษฐกิจด้อยกว่าอาจได้เคยลงทุนสาหรับฝึกฝนนักกีฬาฟุตบอลอาชีพรุ่นเยาว์ที่มีศักยภาพ หรือนักกีฬาฟุตบอลอาชีพที่มีพรสวรรค์ หากปล่อยให้มีการอาศัยความได้เปรียบในสถานะทางเศรษฐกิจ ดีกว่าของสโมสรฟุตบอลอาชีพขนาดใหญ่ที่มีฐานะรา่ รวยกว่ามาเอาเปรียบสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพขนาด เล็กแล้ว ก็อาจจะดูไม่เป็นธรรมต่อสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพขนาดเล็กที่มีฐานะด้อยกว่าที่เคยลงทุนใช้ ทรัพยากรท่ีตนมีทุ่มเทลงทุนฝึกฝนนักกีฬาฟุตบอลอาชีพให้กลายเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพที่มีศักยภาพสูง พร้อมกับอาจทาให้สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพขนาดใหญ่มีโอกาสผูกขาดชัยชนะ ระบบ Transfer System แบบดั่งเดิมมีส่วนสร้างให้สโมสรฟุตบอลอาชีพขนาดใหญ่กลายเป็นสโมสรกีฬาฟุตบอลผูกขาดชัยชนะ (Monopoly Football Clubs) ซึ่งก็จะทาให้สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมกีฬา 92 Kaplan, V. (2015). UEFA Financial Fairplay Regulations and European Union Antitrust Law Complications. Emory International Law Review, 4 (29), 799-857. 93 Vöpel, H. (2013). Is Financial Fair Play Really Justified? An Economic and Legal Assessment of UEFA’s Financial Fair Play Rules. Hamburg: Hamburgisches WeltWirtschaftsInstitut. 94 Taormina, G. (2019). UEFA’s Financial Fair Play: Purpose, Effect, and Future. Fordham International Law Journal, 4 (42), 1269-1324.
56 ฟุตบอลยุโรปมีอานาจการผูกขาด (Monopoly Power)95 สามารถผูกขาดชัยชนะการแข่งขันในระบบ การแข่งขันแบบลีกหรือผูกขาดกีดกันไม่ให้สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพขนาดเล็กเข้ามาแข่งขันแย่งชิง ครอบครองนักกีฬาฟุตบอลอาชีพรุ่นเยาว์ท่ีมีศักยภาพหรือนักกีฬาฟุตบอลอาชีพที่มีพรสวรรค์ ระบบ Transfer System แบบด่ังเดิมได้สร้างสภาพความสัมพันธ์ในเชิงผูกขาดระหว่างสโมสรกีฬา ฟุตบอลด้วยกัน (Monopolistic Relationship with the Football Clubs) ในลักษณะที่เกิดความ แตกต่างของอานาจต่อรองระหว่างสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพด้วยกัน สโมสรกีฬาฟุตบอลขนาดใหญ่มี อานาจต่อรองเหนือกว่าหรืออาจเป็นผู้สร้างเงื่อนไขในการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพระหว่างสโมสร กีฬาฟุตบอลในลักษณะที่ไม่เป็นธรรมกับสโมสรกีฬาฟุตบอลขนาดเล็กได้ อีกท้ังยังอาจสร้างเงื่อนไขนาไปสู่ การเลือกปฏิบัติต่อนักกีฬาฟุตบอลอาชีพรายหนึ่งรายใดเป็นการเฉพาะ96 เงื่อนไขเช่นว่านี้พบได้ในกรณี สโมสรกีฬาฟุตบอลขนาดใหญ่พยายามประวิงหรือเหนี่ยวรั้งไม่ยอมให้นักกีฬาฟุตบอลอาชีพย้ายไปยัง สโมสรกีฬาฟุตบอลอ่ืน โดยการกาหนดค่าธรรมเนียมโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในราคาที่แพง อันเป็น การสร้างต้นทุนการรับโอนย้ายให้สโมสรกีฬาฟุตบอลขนาดเล็กหรือขนาดกลางในราคาที่สูงมากไปใน คราวเดียวกัน เมื่อต้นทุนสูงมากทาให้สโมสรกีฬาฟุตบอลขนาดเล็กหรือขนาดกลางไม่อาจรับโอนนักกีฬา ฟุตบอลอาชีพได้ โอกาสท่ีจะครอบครองผู้เล่นท่ีมีประสิทธิภาพและพรสวรรค์ก็ลดลง พร้อมกับโอกาสที่จะ ได้รับชัยชนะจากการแข่งขันก็ไม่อาจไปแข่งขันกับสโมสรกีฬาฟุตบอลขนาดใหญ่ได้อย่างทัดเทียม เท่ากับ ว่ากลุ่มสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพขนาดใหญ่สามารถผูกขาดชัยชนะในเกมการแข่งขันกีฬาฟุตบอลแต่ฝ่าย เดียว ในสภาพการณ์ดังกล่าว ยูฟ่าในฐานะที่เป็นองค์กรกากับกีฬาฟุตบอลและผู้จัดการแข่งขันระบบลีก ในภูมิภาคยุโรป ได้ออกกฎเกณฑ์มาเพื่อให้มีการเปิดเสรีภารแข่งขันที่เป็นธรรมมากขึ้น พร้อม กับเปิด โอกาสให้สโมสรกีฬาฟุตบอลขนาดเล็กสามารถมีโอกาสครอบครองผู้เล่นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพที่มีทักษะ สูงและมีพรสววรค์ได้เช่นเดียวกันกับสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพขนาดใหญ่ อีกทั้งยังทาให้นักกีฬาฟุตบอล อาชีพได้รับการคุ้มครองสิทธิของตนโดยไม่ถูกกีดกันหรือเลือกปฏิบัติจากสโมสร กีฬาฟุตบอลขนาดใหญ่ท่ีมี อานาจต่อรองและมีอานาจครอบงา กฎเกณฑ์เช่นว่านี้คือ กฎ UEFA Financial Fair Play (กฎ FFP)97 กฎ Financial Fair Play ได้แก่ กฎควบคุมตรวจสอบวินัยทางการเงินการคลังของสโมสรกีฬา ฟุตบอลที่เป็นสมาชิกการแข่งขันระบบลีกยูฟ่า โดยสร้างการกาหนดควบคุมรายจ่ายของสโมสรกีฬา ฟุตบอลให้มีวินัยทางงบประมาณและการเงิน นาไปสู่การลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางการเงิน 95 Bret, A. (2016). Analysis of the legal arguments in FIFPro’s challenge to FIFA's football transfer system. Retrieved August 21, 2019, https://www.lawinsport.com/content/sports/item/analysis-of-the-legal-arguments-in- fifpro-s-challenge-to-fifa-s-football-transfer-system 96 Preuss, H., Haugen, K. K., Schubert, M. (2014). UEFA financial fair play: the curse of regulation. European Journal of Sport Studies. Retrieved August 21, 2019, http://www.ejss-journal.com/index.php/uefa-financial-fair-play-the- curse-of-regulation 97 Budzinski, O. (2014). The Competition Economics of Financial Fair Play. Ilmenau Economics Discussion Papers, 19 (85), 1-27.
57 (Financial Problems) ของสโมสรกีฬาฟุตบอลที่อาจเกิดขึ้นมาจากการขาดวินัยการใช้จ่ายเงินอย่าง สุรุ่ยสุร่ายหรือการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เหมาะสมของสโมสรกีฬาฟุตบอล พร้อมกับสร้างสมดุลเกมการ แข่งขันกีฬาฟุตบอลอาชีพเพื่อนาไปสู่การแข่งขันอย่างยุติธรรม ไม่ทาให้สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพสโมสร หนึ่งสโมสรใดอาศัยศักยภาพทางการเงินของตนเพื่อขจัดคู่แข่งขันในอุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอลยุโรปและ อาศัยศักยภาพทางการเงินของตนผูกขาดชัยชนะทางธุรกิจกีฬาฟุ ตบอลแต่ฝ่ายเดียว98 การควบคุม ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณหรือการควบคุมการบัญชีของสโมสรกีฬาฟุตบอลดังกล่าว ทาให้ สโมสรกีฬาฟุตบอลทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็กอยู่รอดทางการเงินได้ในระยะยาว ( Long- Term Financial Survival) ในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างกฎ Financial Fair Play กับการโอนย้ายนักกีฬา ฟุตบอลอาชีพ กล่าวคือกฎนี้ถูกตั้งขึ้นมาผ่อนคลายความกดดันในประเด็นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการ โอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ (Transfer Fees) เพราะบางสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพใช้จ่ายงบประมาณ มากกว่ารายรับ ซึ่งการใช้จ่ายงบประมาณเช่นว่านี้ย่อมนาไปสู่การเกิดผลกระทบทางการเงินต่อสโมสร กีฬาฟุตบอล กฎดังกล่าวจึงห้ามไม่ให้สโมสรกีฬาฟุตบอลใช้จ่ายมากกว่ารายรับ ( Preventing Clubs From Spending Beyond Their Means) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจ่ายเงินเพื่อลงทุนในการซื้อตัว นักกีฬาฟุตบอลอาชีพหรือการใช้จ่ายเงินสาหรับรับโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลจากต่างสโมสร (รับซื้อ) มา สังกัดสโมสรกีฬาฟุตบอลของตน (Transfer Expenditure) อีกด้วย กฎ Financial Fair Play มีปรัชญา ที่จะให้สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพรายหนึ่งรายใดมีอานาจเหนืออุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอลในลักษณะท่ีเป็น การผูกขาด (Oligopoly) หากสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพกระทาการฝ่าฝืนกฎดังกล่าวแล้ว ก็จะต้องรับโทษ (Punishments) ตามที่ยูฟ่าได้บัญญัติเอาไว้99 (เช่น โทษปรับ (Fines) การหักเงินรางวัล (Withholding Prize Money) การห้ามการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลข้ามสโมสร (Transfer Bans) การตัดแต้ม (Points Deductions) การห้ามรับนักกีฬาฟุตบอลหน้าใหม่เข้ามาเล่นในสโมสร (Ban on Registration of New Players) และการจากัดจานวนนักกีฬาฟุตบอล (Restriction on the Number of Players) เป็นต้น)100 ดังนั้น กฎ Financial Fair Play จากัดไม่ทาให้สโมสรกีฬาฟุตบอลขนาดใหญ่กลายเป็นผู้มีอานาจเหนื่อต ลาดอุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอลภายใต้การจากัดการแข่งขันหรือใช้อิทธิพลทางการเงินจากการใช้จ่าย งบประมาณมาผูกขาดตลาดอุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอล ในทางกลับกันสโมสรกีฬาฟุตบอลขนาดเล็กก็ต้อง ประมาณตนเองในการใช้จ่าย ไม่ใช้จ่ายเกินศักยภาพทางการเงินของตนหรือใช้จ่ายตามศักยภาพทาง 98 Birkhäuser, S., Kaserer, C. & Urban, D. (2019). Did UEFA’s financial fair play harm competition in European football leagues?. Review of Managerial Science, 13 (1), 113-145. 99 Petit, N. (2014). 'Financial Fair Play' or 'Oligopoleague' of Football Clubs?: A Preliminary Review Under European Union Competition. A Preliminary Review Under European Union Competition. Retrieved August 21, 2019, https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=2450719 100 Morrow, S. (2014). Financial Fair Play: Implications for Football Club Financial Reporting. Edinburgh: The Institute of Chartered Accountants of Scotland.
58 เศรษฐกิจเท่าท่ีตนมี เท่ากับว่ากฎดังกล่าวต่อต้านการผูกขาดและควบคุมการใช้อานาจในตลาดของสโมสร กีฬาฟุตบอลขนาดใหญ่ จากที่กล่าวมาในข้างต้น อาจมีคาถามตามมาว่ากฎ Financial Fair Play ไปสัมพันธ์อย่างไรกับ ปัญหาทางกฎหมายสิทธิมนุษยชนสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ อย่างที่ทราบ กันดีหากมีสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพสนใจที่จะรับโอนนักกีฬาฟุตบอลอาชีพรายหน่ึงรายใดเข้ามาสังกัดใน สโมสรของตนหรือมีนักกีฬาฟุตบอลอาชีพรายหน่ึงรายใดสนใจโอนย้ายต้นเองไปสังกัดสโมสรกีฬาฟุตบอล สโมสรหนึ่งสโมสรใดแล้ว แต่เมื่อกฎ Financial Fair Play มีข้อห้ามบางประการจากัดสิทธิเสรีภาพใน การเคลื่อนย้ายถิ่นฐานสาหรับแรงงานและสิทธิเสรีภาพในการเข้าร่วมสมาคมของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ได้แก่ (1) การห้ามการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลข้ามสโมสรและ (2) การห้ามรับนักกีฬาฟุตบอลหน้าใหม่ เข้ามาเล่นในสโมสร แม้โดยสภาพแล้วกฎดังกล่าวเป็นกฎที่จัดตั้งขึ้นเพื่อควบคุมให้สโมสรกีฬาฟุตบอล อาชีพต้องรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ฐานะทางการเงินการคลังของสโมสรกีฬา ฟุตบอลอาชีพภายใต้ระบบลีกที่ยูฟ่าจัดการและกากับดูแลอยู่ มีเสถียรภาพและมั่นคงอย่างยั่งยืนตาม กฎเกณฑ์ดังกล่าวและจัดระบบการใช้จ่ายให้เกิดความเป็นธรรมแก่สังคมต่อสโมสรกีฬาฟุตบอลในทุก สโมสร แต่ทว่ากฎดังกล่าวอาจกระทบต่อสิทธิเสรีภาพต่อนักกีฬาฟุตบอลอาชีพทั้งที่สังกัดอยู่ในสโมสร กีฬาฟุตบอลขนาดใหญ่และสังกัดอยู่ในสโมสรกีฬาฟุตบอลขนาดเล็ก เท่ากับว่าหากสโมสรหนึ่งสโมสรใด ไม่ว่าจะขนาดใหญ่ก็ดีหรือขนาดเล็กก็ตามได้กระทาผิดกฎดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างย่ิงในส่วนประเด็นการ ใช้จ่ายค่าธรรมเนียมการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพที่สุรุ่ยสุร่ายและมากเกินความจาเป็นเพื่อซื้อตัว นักกีฬาฟุตบอลอาชีพที่มีพรสวรรค์และมีทักษะการเล่นสูง เกินจานวนเงินที่ยูฟ่าได้กาหน ดภายใต้กรอบ ระยะเวลาใดระยะเวลาหนึ่ง บทลงโทษของยูฟ่าที่กล่าวมาย่อมทาให้กระทบต่อนักกีฬาฟุตบอลที่ต้องการ โยกย้ายตนเองข้ามสโมสรเพื่อไปสังกัดยังสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพต้นสังกัดใหม่ที่ให้ผลตอบแทนทาง เศรษฐกิจ เช่น ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวันหยุด ค่าล่วงเวลาในวันหยุด เงินชดเชยและสวัสดิการ ต่างๆ มากไปกว่าสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพต้นสังกัดปัจจุบันหรือนักกีฬาฟุตบอลที่ต้องการโยกย้ายตนเอง ข้ามสโมสรเพื่อไปสังกัดยังสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพต้นสังกัดใหม่ที่มีรูปแบบการเล่น วิธีการฝึกฝน อุดมการณ์ ค่านิยมของสโมสรถูกต้องตรงกับจริตของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ เพราะหากสโมสรกีฬา ฟุตบอลอาชีพต้นสังกัดปัจจุบันหรือต้นสังกัดท่ีประสงค์จะรับโอนไม่อาจทาตามกฎดังกล่าวขอยูฟ่าในเรื่อง วินัยการเงินการคลังได้แล้วนั้น เท่ากับว่านักกีฬาฟุตบอลอาชีพไม่อาจโอนย้ายไปสังกัดสโมสรอื่นได้เลย โดยปริยาย ในขณะที่นักกีฬาฟุตบอลอาชีพอาจแสดงให้สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพที่ตนสังกัดอยู่หรือ สาธารณะชนได้ทราบว่าตนมีเจตนาโดยตรงหรือกิริยาอาการอย่างอื่น ที่ทาให้สาธารณะชนเข้าใจว่า แท้จริงแล้วนักกีฬาฟุตบอลอาชีพดังกล่าวนั้นต้องการโยกย้ายตนเองข้ามสโมสรเพ่ือไปสังกัดยังสโมสรกีฬา ฟุตบอลอาชีพต้นสังกัดใหม่ก็ตามที อาจมีการตั้งคาถามต่อไปว่าการบังคับใช้กฎ Financial Fair Play จะไปขัดหรือแย้งกับสิทธิ เสรีภาพในการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานสาหรับแรงงานและสิทธิเสรีภาพในการเข้าร่วมสมาคมของนักกีฬา
59 ฟุตบอลอาชีพที่กฎหมายสหภาพยุโรปได้รับรองหรือคุ้มครองเอาไว้หรือไม่ แน่นอนว่าเมื่อกฎห มายหลัก ของสหภาพยุโรป (EU Primary Law) (บางตาราเรียกว่ากฎหมายพื้นฐานของสหภาพยุโรปหรือ EU Basic Law) เป็นกฎหมายระดับภูมิภาคที่กาหนดสาระสาคัญประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชนและ กาหนดกลไกกับความสัมพันธ์ของสถาบันทางการเมืองเอาไว้ กฎหมายหลักของสหภาพยุโรปจึงมุ่ง คุ้มครองสิทธิเสรีภาพนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในฐานะท่ีเป็นพลเมืองสหภาพยุโรปหรือในฐานะที่เป็นผู้เข้ามา เกี่ยวข้องสัมพันธ์ในสหภาพยุโรป ในขณะเดียวกันกฎหมายรองของสหภาพยุโรป (Secondary Law) ก็ จะขัดหรือแย้งกับกฎหมายสหภาพยุโรปลาดับศักดิ์ที่สูงกว่าไม่ได้ กฎหมายรองของสหภาพยุโรปเองก็ถูก ใช้เป็นเครื่องมืออันมีข้อผูกพันทางกฎหมายให้ประเทศสมาชิก องค์กรกากับกีฬาฟุตบอล สโมสรกีฬา ฟุตบอลอาชีพและนักกีฬาฟุตบอลอาชีพปฏิบัติตาม ในทานองเดียวกันยูฟ่าในฐานะท่ีเป็นท้ังองค์กรกากับ กีฬาฟุตบอลอาชีพและผู้จัดระบบลีกการแข่งขันกีฬาฟุตบอลอาชีพก็ต้องบัญญัติกฎ หรือสร้างหลักเกณฑ์ ขึ้นมาขัดกับกฎหมายหลักของสหภาพยุโรปและกฎหมายรองของสหภาพยุโรป เหตุนี้เองจึงต้องมาทาการ วิเคราะห์กันว่ากฎ Financial Fair Play ขัดหรือแย้งกับกฎหมายสหภาพยุโรปหรือไม่ โดยเฉพาะใน (1) ประเด็นของการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรม (Fair Competition) และ (2) เสรีภาพในการเคลื่อนย้าย ถิ่นฐานสาหรับแรงงาน (Freedom of Movement) ประเด็นแรก สนธิสัญญา TFEU มาตรา 101 และ 102 (การแข่งขันทางการค้า) ได้วางหลักเกณฑ์ ไว้ว่าการกระทาอันเป็นลักษณะต้องห้ามภายในตลาดสหภาพยุโรป ไม่ว่าจะเป็นการสร้างข้อตกลงทาง ธุรกิจ (Agreement) ระหว่างองค์กรทางธุรกิจที่อยู่ภายในตลาดสหภาพยุโรป การตัดสินใจ (Decision) ขององค์กรทางธุรกิจ และการกระทาอย่างหนึ่งอย่างใด (Concreted Practice) อันไปกระทบต่อการค้า ของประเทศสมาชิก รวมไปถึงการกระทาอื่นใดเพื่อป้องกัน จากัดและบิดเบือนการแข่งขันทางการค้า ภายในตลาดสหภาพยุโรปที่นาไปสู่การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม (เช่น การตกลงร่วมกันกาหนดราคาซื้อขาย ในตลาดตายตัว (Price Fixing) และการใช้เงื่อนไขทางการค้าที่แตกต่างกัน (Dissimilar Conditions) กับการทาธุรกรรมอย่างเดียวกันกับคู่ค้ารายอื่น ทาให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบทางการแข่งขันทางการ ค้าซึ่งกันและกัน เป็นต้น) ซึ่งหากข้อตกลงใดฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ดังกล่าวก็จะตกเป็นโมฆะโดยทันที (Automatically Void)101 น้ันหมายความว่าองค์กรกากับกีฬาอย่างเช่นยูฟ่าไม่อาจกระทาการในลักษณะ ต่อต้านการค้าที่เป็นธรรมและในทานองที่ไม่ส่งเสริมการแข่งขันอย่างเสรี รวมไปถึงไม่อาจกากับดูแล สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพในทานองที่ไปส่งผลให้เกิดการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมได้ ดังนี้ยูฟ่าเอง ย่อมอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลาบาก เพราะกฎ Financial Fair Play จากัดเพดานการใช้จ่ายเงิน งบประมาณของสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพ แล้วสโมสรกีฬาฟุตบอลใช้จ่ายงบประมาณได้เท่าที่กฎ Financial Fair Play กาหนดกรอบวินัยการเงินการคลังได้เพียงเท่าน้ัน หากสโมสรกีฬาฟุตบอลไม่ยอมทา ตามก็ย่อมไปอาจถูกลงโทษด้วยการห้ามการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลข้ามสโมสรหรือการห้ามรับนักกีฬา 101 Long, C. R. (2012). Promoting Competition or Preventing It? A Competition Law Analysis of UEFA’s Financial Fair Play Rules. Marquette Sports Law Review, 1 (23), 75-101.
60 ฟุตบอลหน้าใหม่เข้ามาเล่นในสโมสรของสโมสรหนึ่งสโมสรใด นี้เท่ากับว่าสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพที่ สังกัดอยู่ภายใต้ยูฟ่าปราศจากเสรีทางการค้า (Free Trade) อย่างแท้จริง กฎ Financial Fair Play สร้าง เงื่อนไขปิดกันทางตรงในการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเสรีในธุรกิจการค้ากีฬาฟุตบอลเพื่อดึงดูดตัวผู้เล่น นักกีฬาฟุตบอลอาชีพศักยภาพสูง รวมไปถึงปิดกันทางอ้อมไม่ให้มีการเคล่ือนย้ายแรงงานและทุนข้ามชาติ ประเทศสมาชิกโดยเสรี ประเด็นที่สอง สนธิสัญญา TFEU มาตรา 45 (เสรีภาพในการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานสาหรับแรงงาน) และ 165 (การกีฬายุโรป) ได้วางหลักเกณฑ์ไว้ว่าสหภาพยุโรปต้องพึงปกป้องคุ้มครอง (Secure) เสรีภาพ ในการเคล่ือนย้ายถิ่นฐานสาหรับแรงงาน เพราะการเคล่ือนย้ายถ่ินฐานข้ามพรมแดนของแรงงานระหว่าง ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปก็ดีหรือการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานข้ามพรมแดนของแรงงานภายในประเทศ สมาชิกสหภาพยุโรปก็ตาม โดยปราศจากการกีดกันหรือเลือกปฏิบัติเพียงเพราะความแตกต่างในสัญชาติ ของพลเมือง (Discrimination Based on Nationality) เพื่อมาเลือกปฏิบัติในเรื่องของการจ้างแรงงาน (Employment) การจ่ายค่าจ้าง (Remuneration) และเงื่อนไขการทางานหรือการจ้างงานในลักษณะ อื่นๆ (Other Conditions of Work and Employment)102 กล่าวอีกนัยหนึ่งนักกีฬาฟุตบอลอาชีพใน ฐานะที่เป็นแรงงานในภูมิภาคยุโรปก็พึงได้รับการปกป้องคุ้มครองจากสนธิสัญญา TFEU มาตรา 45 เฉก เช่นเดียวกันแรงงานประเภทอื่นๆ โดยไม่ว่าการเคลื่อนย้ายของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพจะเป็นการ เคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนประเทศสมาชิกเพื่อโอนย้ายข้ามสโมสรระหว่างประเทศก็ดีหรือเป็นการ เคลื่อนย้ายในพรมแดนประเทศสมาชิกเพื่อโอนย้ายข้ามสโมสรภายในประเทศก็ตาม เช่นว่านี้แล้ว หลักการภายใต้มาตราดังกล่าวก็จะปกป้องคุ้มครองทั้งหมดทั้งสิ้น โดยสถาบันทางการเมืองของสหภาพ ยุโรปหรือองค์กรกากับกีฬาในภูมิภาคยุโรปจะออกกฎใดๆ ขึ้นมาขัดหรือแย้งกับหลักเกณฑ์ในมาตรา ดังกล่าวไม่ได้ โดยเฉพาะในกฎที่ออกมาสาหรับกีดกันหรือเลือกปฏิบัติเพียงเพราะความแตกต่างใน สัญชาติของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในฐานะที่เป็นแรงงานในตลาดแรงงานยุโรป อย่างไรก็ตามกฎ Financial Fair Play เป็นกฎยูฟ่าที่บัญญัติขึ้นชัดเจนเพียงพอที่จะให้สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพและ นักกีฬาฟุตบอลอาชีพในฐานะที่เป็นฝ่ายองค์กรนายจ้างและฝ่ายลูกจ้างในอุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอลยุโรป ปฏิบัติตามจนสามารถบรรลุผลตามเจตนารมณ์ของกฎดังกล่าวที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อประโยชน์สาธารณะ ทางการกีฬา (General Interest) และกฎ Financial Fair Play ดังกล่าวสัมพันธ์ได้สัดส่วนที่เหมาะสม ตามหลักความได้สัดส่วน (Proportionality) เป็นหลักกฎหมายแรงงานสหภาพยุโรป ในลักษณะที่ได้ สัดส่วนระหว่างกฎจากัดการเงินงบประมาณและบทลงโทษจากการฝ่าฝืนกฎ สร้างภาวะสมดุลระหว่าง ความเสียหายที่จากบทลงโทษที่สโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพจะได้รับกับประโยชน์สาธารณะในความเท่า 102 Downward, P., Parrish, R., Pearson, G. & Semens, A. (2014). An assessment of the compatibility of UEFA's home grown player rule with article 45 TFEU. European Law Review. Retrieved August 21, 2019, https://www.escholar.manchester.ac.uk/api/datastream?publicationPid=uk-ac-man- scw:259350&datastreamId=POST-PEER-REVIEW-NON-PUBLISHERS.PDF
61 เทียมทางการใช้จ่ายอันนามาซึ่งโอกาสที่จะได้มาซึ่งชัยชนะจะพึงได้รับจากการปฏิบัติจากสโมสรกีฬา ฟุตบอลท้ังหลายท่ีมาร่วมการแข่งขัน หากพิจารณาเฉพาะประเด็นการบังคับใช้กฎ Financial Fair Play กับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพนั้น ก็จะพบว่าในปัจจุบันยังไม่มีคาพิพากษาหรือคาวินิจฉัยจากศาล ยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป (The Court of Justice of the European Union หรือ CJEU) ทั้งนี้ศาล ยุติธรรมยุโรป (European Court of Justice หรือ ECJ) ศาลชั้นต้นยุโรป (European General Court หรือ EGC) และศาลปกครองยุโรป (European Civil Service Tribunal) ก็ยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดวาง หลักเกณฑ์ในประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงในแวดวงวิชาการทางกฎหมายสหภาพยุโรป กล่าวอีกนัยหนึ่งคา วินิจฉัยเท่าที่มีอยู่ของศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรปก็ไม่เคยสร้ างบรรทัดฐานใหม่ที่เป็นบ่อเกิดของหลัก เสรีภาพในการเคล่ือนย้ายถิ่นฐานสาหรับแรงงานในอุตสาหกรรมกีฬาภายใต้กฎ Financial Fair Play ซ่ึง อาจมีผลกระทบต่อระบบกฎหมายสหภาพยุโรปและระบบกฎหมายของประเทศสมาชิก อย่างไรก็ตาม ศาลชั้นต้นแห่งบรัสเซลล์ (Brussels Court of First Instance หรือ Tribunal de première instance de Bruxelles หรือ BCFI) ราชอาณาจักรเบลเยียม (ประเทศเบลเยียม) ได้เคยร้อง ขอให้ศาลยุติธรรมยุโรปหรือ ECJ วินิจฉัยในประเด็นทางกฎหมายเกี่ยวกับการกระทาที่ฝ่าฝืนไม่อาจ ยอมรับได้อย่างประจักษ์หรือ “Manifestly Inadmissible”103 อันเป็นการวางหลักการในเบื้องต้น เกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของกฎ Financial Fair Play (Preliminary ruling on the legality of financial fair play) เ อ า ไ ว ้ ใ น ค ด ี Daniele Striani and Others v Union européenne des Sociétés de Football Association (UEFA) and Union Royale Belge des Sociétés de Football - Association (URBSFA) (Case C-299/15) (หรือคดี Striani)104 โดยคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อนาย Striani เป็นชาวอิตาเลียนที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้จัดการสิทธิประโยชน์นักกีฬาฟุตบอลอาชีพ (players’ agents) ในประเทศเบลเยียม ได้อ้างว่ากฎ Financial Fair Play จากัดเสรีภาพในการทางานและ เสรีภาพในการให้บริการกับราชสมาคมฟุตบอลเบลเยียม (สมาคมฟุตบอลในประเทศเบลเยียม) นาย Striani กล่าวอ้างว่ากฎ Financial Fair Play ห้ามสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพใช้จ่ายเงินงบประมาณมาก ไปกว่ารายรับในฤดูกาลก่อนหน้านี้ เหตุนี้เองสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพจึงไม่อาจใช้งบประมาณของตนเอง ลงทุนไปอย่างเต็มที่ในตลาดการซ้ือขายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ อีกทั้งกฎ Financial Fair Play ยังลดทอน รายได้และประโยชน์ของผู้จัดการสิทธิประโยชน์นักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ซึ่งกฎ Financial Fair Play เป็น 103 Union of European Football Associations. (2015). UEFA welcomes European Court of Justice ruling on financial fair play. Retrieved August 21, 2019, https://www.uefa.com/insideuefa/protecting-the-game/club- licensing-and-financial-fair-play/news/newsid=2267061.html?redirectFromOrg=true 104 EUR-Lex. (2015). Case C-299/15: Request for a preliminary ruling from the Tribunal de première instance de Bruxelles (Belgium) lodged on 19 June 2015 — Daniele Striani and Others, RFC Sérésien ASBL v Union Européenne des Sociétés de Football Association (UEFA), Union Royale Belge des Sociétés de Football — Association (URBSFA). Retrieved August 21, 2019, https://eur-lex.europa.eu/legal- content/EN/TXT/?uri=CELEX%3A62015CN0299
62 อุปสรรคต่อเสรีภาพในการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพและทั้งยังเป็นกฎที่สร้างการผูกขาดทางการค้า ไปในตัว ซึ่งต้องรอดูต่อไปว่าศาลยุติธรรมยุโรปหรือ ECJ จะวินิจฉัยชี้ขาดคดีดังกล่าวไปในแนวทางใดใน อนาคต 4.2 ประเด็นสิทธิเด็กและการค้ามนุษย์กับการโอนย้ายนักเตะเยาวชน ระบบ Transfer System เป็นระบบการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพที่เปิดช่องให้มีการโอนย้าย ข้ามสโมสรในภูมิภาคยุโรปด้วยกันหรือเปิดช่องให้มีการโอนย้ายข้ามสโมสรจากสโมสรนอกภูมิภาคยุโรป (เช่น ภูมิภาคเอเชียตะวันออก ภูมิภาคอเมริกาใต้และภูมิภาคแอฟริกา) มายังสโมสรในภูมิภาคยุโรป การ เปิดช่องให้มีการโอนย้ายข้ามประเทศก็ดีหรือการโอนย้ายข้ามภูมิภาคก็ตาม ล้วนแล้วแต่เป็นช่องทาง ประการหนึ่งที่นาไปสู่การลิดรอนสิทธิเสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก ที่มี ความใฝ่ฝันจะมีโอกาสเข้าไปเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลอาชีพระบบลีกภูมิ ภาค ยุโรป เพราะนักกีฬาฟุตบอลผู้เยาว์ (ผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะย่อมมีวิจารณญาณในการตัดสินใจน้อย กว่าบุคคลที่เป็นผู้ใหญ่) และครอบครัวของนักกีฬาฟุตบอลผู้เยาว์ อาจตกเป็นเหยื่อจากการฉ้อฉลของ มิจฉาชีพหรือการล่อลวงของผู้จัดการสิทธิประโยชน์นักกีฬาฟุตบอล (ตัวแทนนักกีฬาฟุตบอล) ที่คอยแต่ เอาเปรียบฉกฉวยประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากความใฝ่ฝันของนักกีฬาฟุตบอลผู้เยาว์ที่มาจากหลากหลาย ภูมิภาคต่างๆ ของโลกที่อยากก้าวเข้าไปสังกัดสโมสรกีฬาฟุตบอลที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคยุโรป อันเป็น หนทางนาไปสู่การเป็นแรงงานในอุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอลยุโรป สามารถแสวงหารายได้เลี้ยงปากเลี้ยง ท้องตนเองและสมาชิกในครอบครัว หากมิจฉาชีพช่ัวร้ายหรือผู้จัดการสิทธิประโยชน์นักกีฬาฟุตบอลท่ีไร้จรรยาบรรณ คอยจัดหาและส่ง ต่อนักกีฬาฟุตบอลผู้เยาว์ด้วยการหลอกลวงครอบครัวนักกีฬาฟุตบอลผู้เยาว์ เรียกรับเงินหรือ ผลประโยชน์ทางการเงินจากบิดา มารดาหรือผู้แทนโดยชอบธรรมของนักกีฬาฟุตบอลผู้เยาว์ แอบอ้างว่า สามารถนาพานักกีฬาฟุตบอลผู้เยาว์เข้าไปสังกัดในสโมสรกีฬาฟุตบอลอาชีพไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เมื่อส่ง ต่อนักกีฬาฟุตบอลผู้เยาว์ข้ามจากประเทศของผู้เยาว์ไปยังประเทศหนึ่งประเทศใดในภูมิภาคยุโรปแล้ว ก็ กลับไม่ปฏิบัติตามคาแอบอ้าง แต่กลับควบคุมนักกีฬาฟุตบอลผู้เยาว์เพื่อความประสงค์ในการแสวง ประโยชน์เพิ่มเติมจากบิดา มารดาหรือผู้แทนโดยชอบธรรมของนักกีฬาฟุตบอลผู้เยาว์ เช่นว่านี้ก็อาจถือ ได้ว่าเป็นการค้ามนุษย์ผ่านธุรกิจกีฬาฟุตบอล (human trafficking through football) ประการหนึ่ง ในหัวข้อที่ 4.2 นี้จะกล่าวถึงสภาพปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ผ่านธุรกิจกีฬา โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการค้ามนุษย์ที่เยาวชนตกเป็นเหยื่อในธุรกิจกีฬาฟุตบอล รวมไปถึงนาเสนอกฎหมายสิทธิ มนุษยชนระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนถึงแนวคาวินิจฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการทางการกีฬา หรือ Court of Arbitration for Sport (หรือศาล CAS) ท่ีได้เคยวินิจฉัยในประเด็นเก่ียวกับการค้ามนุษย์
63 ผ่านธุรกิจกีฬา อันเป็นการบรรยายถึงขอบเขตและลักษณะของปัญหาการค้ามนุษย์ผ่านการศึกษาคา วินิจฉัยของศาล CAS ไปอีกทางหนึ่ง (1) สภาพปัญหาที่เก่ียวข้อง ใน แซ็ง-เดอนี หนึ่งในย่านชานเมืองกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซีโมน อายุ 18 ปี เป็นผู้อพยพชาว แคเมอรูนที่ผิดกฎหมาย เมื่อ ค.ศ. 2008 ซีโมนเดินทางจากแคเมอรูนมาถึงกรุงปารีสด้วยการใช้วีซ่า 30 วัน มาพร้อมกับความฝันที่จะเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพให้กับสโมสรฟุตบอลปารีสแซงต์เชแมง สโมสรที่ เขาประทับใจ โดยการออกจากครอบครัวของเขา เพื่อทาตามความฝันของเขาที่จะเป็นนักกีฬาฟุตบอล ระดับนานาชาติที่โด่งดัง แต่เหตุการณ์ไม่เป็นไปดังฝัน ซีโมนไม่ได้รับการเซนท์สัญญาในการลงเ ล่นให้กับ สโมสรฟุตบอลหลังจากที่ได้ทดสอบฝีเท้า ทาให้เขาละอายใจเกินกว่าจะบ้านไปหาครอบครัวของเขาได้ จึง ทาให้เขาอยู่ในกรุงปารีสในฐานะที่ผิดกฎหมายและอาศัยอยู่ในย่านชุมชนแออัดที่เต็มไปด้วยผู้ติดยาเสพ ติด โดยเขาพยายามใช้ชีวิตรอดได้ด้วยการประกอบอาชีพขายผลไม้ข้างถนน105 ข้อความข้างต้นเป็นตัวอย่างของชีวิตนักเตะเยาวชนหน่ึงในหลายๆ กรณีที่ไม่ประสบความสาเร็จใน การทดสอบฝีเท้าโดยข้ามน้าข้ามทะเลมาจากต่างประเทศ ต่างทวีป แล้วกลายเป็นคนเข้าเมืองผิด กฎหมายและใช้ชีวิตอย่างลาบากยากเข็น ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ความต้องการนักเตะเยาวชน ที่มี ความสามารถสูงและมีราคาถูกเพ่ิมมากขึ้น ทาให้นักเตะเยาวชนจานวนมากต้องย้ายออกจากบ้าน เพื่อไป ประกอบอาชีพนักฟุตบอล ในปี 2015 มีจานวนนักเตะเยาวชนที่ขึ้นทะเบียนกับสโมสรฟุตบอลทั่วโลก 2,323 คน ในปี 2016 มีคาร้องขอขึ้นทะเบียนนักเตะเยาวชนทาสถิติใหม่สูงถึง 2,648 คน อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนย้ายนักเตะเยาวชนในอุตสาหกรรมฟุตบอลมีจานวนมากขึ้น ทาให้เกิดคาถามถึงสิทธิและ สวัสดิการของนักเตะเยาวชนมากตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการบันทึกว่ามีนักเตะเยาวชนที่อายุน้อย ได้รับอันตรายต่อร่างกาย จิตใจ และโดนเอารัดเอาเปรียบทางการเงิน รวมถึงการค้ามนุษย์อีกด้วย106 ใน บันทึกดังกล่าว ส่วนมากจะเป็นการโอนย้ายนักเตะเยาวชนจากภูมิภาคแอฟริกา และภูมิภาคอเมริกาใต้ ซึ่งมีนักเตะเยาวชนฝีเท้าดี และราคาถูกจานวนมาก มาสู่ภูมิภาคยุโรป ซึ่งมีสโมสรฟุตบอลชื่อดังและมี สถานะทางการเงินสูง โดยจะมีตัวแทนที่ใช้โอกาสนี้เดินทางไปแอฟริกา และอเมริกาใต้เพื่อจัดหานักเตะ เยาวชนในภูมิภาคดังกล่าว ไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรฟุตบอลในยุโรป และมีการเรียกเก็บเงินกับ ครอบครัวของนักเตะเยาวชนเพื่อใช้ในการดาเนินการต่าง ๆ แต่ส่วนใหญ่เมื่อนักเตะเยาวชนมาถึงยุโรป 105 Alex C. Najarian, (2015), The Lost Boys: FIFA's Insufficient Efforts to Stop Trafficking of Youth Footballers, Sports Law. J. 22: 152. 106 Serhat Yilmaz, (2018), Protection of minors: lessons about the FIFA RSTP from the recent Spanish cases at the Court of Arbitration for Sport, The International Sports Law Journal 18, 15.
64 แล้ว ตัวแทนจะหายไปและไม่มีการทดสอบฝีเท้าขึ้น ทาให้ความฝันของนักเตะเยาวชนต่าง ๆ จบลงและ ส่งผลกระทบท้ังต่อตัวนักเตะเยาวชนเองและครอบครัวของเขาอีกด้วย 107 ปัญหาต่าง ๆ ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติก็รับทราบ และพยายามแก้ไขปัญหาโดยมีการกาหนด ระเบียบที่เกี่ยวกับการคุ้มครองนักเตะเยาวชนไว้ใน ระเบียบปฏิบัติว่าด้วยสถานภาพและการโอนย้าย นักกีฬาฟุตบอล (Regulations on the Status and Transfer of Players) เร่ิมกาหนดในปี ค.ศ. 2001 และมีการแก้ไขเพิ่มเติมเรื่องมีอีกหลายครั้ง โดยมีข้อกาหนดเช่น ห้ามนักเตะเยาวชนที่อายุไม่ถึง 18 ปี โอนย้ายระหว่างประเทศ การโอนย้ายนักเตะเยาวชนต้องผ่านการพิจารณาโดยคณะอนุกรรมการเฉพาะ เรื่อง การให้ค่าตอบแทนการฝึกอบรม การเข้าไปกากับศูนย์ฝึกฟุตบอลประจาสโมสร ทั้งการให้แจ้งข้อมูล และกาหนดมาตรฐานการบริหารจัดการ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงมีกรณีต่าง ๆ ที่สหพันธ์ฟุตบอล นานาชาติ ตรวจพบและดาเนินการทางวินัยในหลายต่อหลายกรณี บางกรณีต้องขึ้นสู่ศาล อนุญาโตตุลาการทางกีฬา (2) กฎหมายระหว่างประเทศที่เก่ียวข้อง กฎหมายท่ีดาเนินการโดยสหภาพยุโรป ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์กรณีนักเตะเยาวชนได้ ดีครบถ้วน เนื่องจากการค้ามนุษย์กรณีดังกล่าวสัมพันธ์เกี่ยวข้องในระดับระหว่างประเทศ หลากหลาย ภูมิภาค หลากหลายประเทศ ดังนั้นกฎหมายระหว่างประเทศต่างๆ จึงมีความสาคัญในการแก้ไขปัญหา การค้ามนุษย์กรณีนักเตะเยาวชน รวมถึงการคุ้มครองสิทธิเด็กในหลายๆ ด้าน108 สหประชาชาติ องค์กรระหว่างประเทศ และรัฐต่างๆ ทั่วโลกได้ตระหนักถึงความสาคัญของสิทธิเด็ก มายาวนาน โดยองค์กรต่างๆ ได้กาหนดหลักการทางกฎหมายข้ึนมาหลายต่อหลายคร้ัง ผ่านการประกาศ เป็นมติที่ประชุม หรืออนุสัญญาที่ออกมาเพื่อปกป้องและคุ้มครองเยาวชนในการกีฬา ในระดับระหว่าง ประเทศ มีเอกสารระหว่างประเทศที่สาคัญ 4 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองเยาวชนในการกีฬา กล่าวคือ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และ วัฒนธรรม (International Covenant on Economic, Social and Cultural Rights, ย่อ: ICESCR) อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิเด็ก อนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อการต่อต้านอาชญากรรมข้ามช าติ109 สาหรับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ได้รับการรับรองโดยมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เมื่อวันท่ี 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 โดยสรุปว่าปฏิญญาดังกล่าว เป็นเอกสารจาเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎ 107 Simons, Rob, (2010), Trafficking in Football Are current regulations sufficient in the protection of minors in football?, Retrieved August 21, 2019, http://arno.uvt.nl/show.cgi?fid=106148 108 Alex C. Najarian, (2015), The Lost Boys: FIFA's Insufficient Efforts to Stop Trafficking of Youth Footballers, Sports Law. J. 22: 160. 109 Alex C. Najarian, (2015), The Lost Boys: FIFA's Insufficient Efforts to Stop Trafficking of Youth Footballers, Sports Law. J. 22: 160.
65 บัตรสหประชาชาติ เพื่อเป็นแนวทางในการรับรองสิทธิมนุษยชนทั่วโลก แต่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เนื้อหาในนั้น ประกอบไปด้วยชุดของหลักการเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน และเป็นมาตรฐานที่ กาหนดไว้ในเอกสารทางกฎหมายอ่ืน ๆ เช่น กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และ วัฒนธรรม หากพิจารณาปฏิญญาในภาพกว้างถือว่าเป็นเป็นกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศที่ สร้างความผูกพันทางกฎหมายสาหรับรัฐต่าง ๆ ละเว้นการกระทาท่ีละเมิดบทบทบัญญัติในปฏิญญา110 กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เป็นอนุสัญญาระหว่าง ประเทศทางด้านสิทธิมนุษยชนที่นาปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนมาบัญญัติใ ห้มีผลงานกฎหมาย โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 มกราคม ค.ศ.1976 ซึ่งกติการะหว่างประเทศดังกล่าว มีหลักการที่เกี่ยวข้อง กับการคุ้มครองนักเตะเยาวชน 6 ข้อ คือ สิทธิที่จะไม่ถูกเลือกปฏิบัติ การคุ้มครองทางกฎหมายอย่างเท่า เทียมกัน การห้ามค้ามนุษย์ การคุ้มครองการจ้างงาน สิทธิในสภาพความเป็นอยู่ที่เพียงพอ และสิทธิใน การศึกษา111 อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิเด็ก เป็นเอกสารระหว่างประเทศด้านสิทธิเด็กที่สาคัญและ ครอบคลุมมากที่สุด โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันท่ี 2 กันยายน ค.ศ. 1990 ซึ่งประเทศสมาชิกสหประชาชาติ เกือบทุกประเทศได้ลงนามรับรอง ยกเว้นประเทศโซมาเลีย กับ ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากน้ียังเป็น เอกสารระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันทางกฎหมายรัฐสมาชิกที่ลงนาม รัฐที่ให้สัตยาบันหรือรัฐที่ลงนาม รับรองมีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องและรับรองสิทธิเด็กตามที่กาหนดไว้ในสนธิสัญญา ส่วนบทบัญญัติที่ เก่ียวข้องกับการคุ้มครองนักเตะเยาวชนน้ัน มีอยู่ 3 ด้าน 112 คือ ด้านการค้ามนุษย์ ปรากฏใน ข้อ 11 (1) รัฐภาคีจะดาเนินมาตรการต่าง ๆ ท่ีจะหยุดย้ังการโยกย้ายเด็ก และการไม่ส่งเด็กกลับคืนจากต่างประเทศ ที่มิชอบด้วยกฎหมาย ข้อ 32 (1) รัฐภาคียอมรับสิทธิของเด็กที่จะได้รับการคุ้มครองจากการแสวง ประโยชน์ ทางเศรษฐกิจและจากการทางานใดที่น่าจะเป็นการเสี่ยงอันตราย หรือที่ขัดขวาง การศึกษา ของเด็ก หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หรือการพัฒนาทางร่างกาย สมอง จิตใจ ศีลธรรม และสังคมของ เด็ก (2) รัฐภาคีจะดาเนินมาตรการทางนิติบัญญัติ บริหาร สังคม และการศึกษา เพื่อประกันให้มีการ ดาเนินการตามข้อนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวและโดยคานึงถึง บทบัญญัติที่เกี่ยวข้องในตราสารระหว่าง ประเทศอื่น ๆ รัฐภาคีจะ (ก) กาหนดอายุข้ันตา่ สาหรับการรับเข้าทางาน (ข) กาหนดกฎเกณฑ์ท่ีเหมาะสม เก่ียวกับจานวนช่ัวโมงและสภาพการจ้างงาน (ค) กาหนดบทลงโทษ หรือวิธีการลงโทษอื่น ๆ ท่ีเหมาะสม เพื่อประกันให้ข้อนี้มีผลใช้บังคับจริงจัง ข้อ 35 รัฐภาคีจะดาเนินมาตรการที่เหมาะสมทั้งปวง ทั้งใน 110 Alex C. Najarian, (2015), The Lost Boys: FIFA's Insufficient Efforts to Stop Trafficking of Youth Footballers, Sports Law. J. 22: 160. 111 Alex C. Najarian, (2015), The Lost Boys: FIFA's Insufficient Efforts to Stop Trafficking of Youth Footballers, Sports Law. J. 22: 160. 112 Alex C. Najarian, (2015), The Lost Boys: FIFA's Insufficient Efforts to Stop Trafficking of Youth Footballers, Sports Law. J. 22: 160.
66 ระดับประเทศ ระดับทวิภาคี และพหุภาคี เพื่อป้องกันการลักพา การขาย หรือการลักลอบค้าเด็ก ไม่ว่า ด้วยวัตถุประสงค์ใดหรือในรูปแบบใด113 ด้านสิทธิเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม ปรากฏใน ข้อ 29 (1) รัฐภาคีตกลงว่า การศึกษาของเด็กจะมุ่งไปสู่ (ก) การพัฒนาบุคลิกภาพ ความสามารถพิเศษ และความสามารถทางด้าน ร่างกายและจิตใจของเด็กให้เต็มศักยภาพของเด็กแต่ละคน (ข) การพัฒนาความเคารพต่อสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพขั้นพื้นฐาน และต่อหลักการที่วางไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ (ค)การพัฒนาความเคารพต่อ บิดามารดาของเด็ก เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ภาษาและค่านิยมของเด็กนั้นเอง และต่อค่านิยมของชาติที่ เด็กนั้นอาศัยอยู่ และต่อค่านิยมของชาติถ่ินกาเนิดของเขา และต่ออารยธรรมอ่ืน ๆ ที่แตกต่างไปจากของ เขาเอง (ง) การเตรียมเด็กให้มีชีวิตที่มีความรับผิดชอบในสังคมที่เสรีด้วยจิตสานึกแห่งความเข้าใจกัน สันติภาพ ความอดกลั้น ความเสมอภาคทางเพศ และมิตรภาพในหมู่มวลมนุษย์ทุกกลุ่มชาติพันธ์ุ กลุ่มคน ชาติ กลุ่มศาสนา ตลอดจนในหมู่คนพื้นเมืองดั้งเดิม (จ) การพัฒนาความเคารพต่อสิ่งแวดล้อมทาง ธรรมชาติ114 ด้านมาตรฐานในการดารงชีวิต ปรากฏในข้อ ข้อ 27 (1) รัฐภาคียอมรับสิทธิของเด็กทุกคน ในอันท่ี จะได้รับมาตรฐานของการดารงชีวิตที่เพียงพอสาหรับการพัฒนาด้านร่างกาย สมอง จิตใจ ศีลธรรม และ สังคมของเด็ก ... (4) รัฐภาคีจะดาเนินมาตรการที่เหมาะสมทั้งปวง ที่จะได้รับชดใช้ค่าเล้ียงดูเด็กคื นจาก บิดามารดาหรือผู้อื่นที่มีความรับผิดชอบทางการเงินต่อเด็ก ทั้งที่อยู่ใน รัฐภาคีเองและรัฐอื่น ข้อ 28 (1) รัฐภาคียอมรับสิทธิของเด็กที่จะได้รับการศึกษา และเพื่อที่จะให้สิทธินี้บังเกิดผลตามลาดับ และบน พื้นฐานของโอกาสท่ีเท่าเทียมกัน115 อนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร (United Nations Convention against Transnational Organized Crime – UNTOC) เป็นอนุสัญญาที่มีผล บังคับใช้เมื่อ 29 กันยายน ค.ศ. 2003 นอกจากตัวอนุสัญญาแล้วยังมีพิธีสารประกอบอีก 3 ฉบับ โดย 2 ใน 3 ฉบับดังกล่าว มีบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์กรณีนักเตะเยาวชน กล่าวคือ พิธีสารเพ่ือป้องกันปราบปราม และลงโทษการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็ก116 113 สานกั งานส่งเสรมิ สวสั ดภิ าพและพิทักษ์ เด็ก เยาวชน ผดู้ อ้ ยโอกาส และผู้สูงอายุ, (2562) อนุสญั ญาว่าดว้ ยสิทธิเดก็ และพิธสี าร เลอื กรบั ของอนสุ ญั ญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เข้าถึงเมือ่ 18 สิงหาคม 2562, http://humanrights.mfa.go.th/upload/pdf/crc.pdf 114 สานักงานส่งเสรมิ สวสั ดิภาพและพทิ ักษ์ เด็ก เยาวชน ผดู้ ้อยโอกาส และผู้สูงอายุ, (2562) อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเดก็ และพธิ ีสาร เลือกรับของอนสุ ญั ญาว่าดว้ ยสิทธิเดก็ เข้าถึงเมอ่ื 18 สิงหาคม 2562, http://humanrights.mfa.go.th/upload/pdf/crc.pdf 115 สานักงานสง่ เสรมิ สวัสดภิ าพและพิทักษ์ เดก็ เยาวชน ผ้ดู ้อยโอกาส และผู้สูงอายุ, (2562) อนสุ ญั ญาว่าด้วยสิทธิเด็กและพิธสี าร เลือกรบั ของอนสุ ญั ญาว่าดว้ ยสิทธิเดก็ เข้าถึงเมื่อ 18 สิงหาคม 2562, http://humanrights.mfa.go.th/upload/pdf/crc.pdf 116 ศนู ยส์ ิทธิมนุษยชน กรมคุ้มครองสทิ ธิและเสรีภาพ, (2562), พธิ ีสารเพ่อื ปอ้ งกนั ปราบปราม และลงโทษการค้ามนุษย์โดยเฉพาะ สตรีและเดก็ เขา้ ถึงเม่ือ 18 สิงหาคม 2562, humanrightscenter.go.th/HRK/พิธีสารเพ่อื ปอ้ งกัน%20ปราบปราม%20และลงโทษ การค้ามนษุ ย์%20โดยเฉพาะสตรีและเดก็ ฯ.pdf
67 (ก) ให้ “การค้ามนุษย์” หมายถึง การจัดหา การขนส่ง การส่งต่อ การจัดให้อยู่อาศัย หรือการรับ ไว้ซึ่งบุคคลด้วยวิธีการขู่เข็น หรือด้วยการใช้กาลัง หรือด้วยการบีบบังคับในรูปแบบอื่นใด ด้วยการลักพาตัว ด้วยการฉ้อโกง ด้วยการหลอกลวง ด้วยการใช้อานาจโดยมิชอบ หรือด้วย การใช้สถานะความเสียงภัยจากการค้ามนุษย์โดยมิชอบ หรือมีการให้ หรือรับเงิน หรือ ผลประโยชน์เพื่อให้ได้มาซึ่งความยินยอมของบุคคลผู้มีอานาจ ควบคุมบุคคลอื่นเพื่อความุ่ง ประสงค์ในการแสวงหาประโยชน์ การแสวงหาประโยชน์อย่างน้อยที่สุดให้รวมถึงการ แสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีของบุคคลอื่นหรือการแสวงหาประโยชน์ทางเพศใน รูปแบบอ่ืน การบังคับใช้แรงงานหรือบริการ การเอาคนลงเป็นทาสหรือการกระทาอื่นเสมือน การเอาคนลงเป็นทาส การทาให้ตกอยู่ใต้บังคับหรือการตัดอวัยวะออกจากร่างกาย” (ข) ให้ถือว่าไม่สามารถยกความยินยอมของผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่ให้กับการแสวงหา ประโยชน์โดยเจตนาดังท่ีระบุไว้ในวรรค (ก) ของข้อน้ี มาเป็นข้ออ้างในกรณีที่มีการใช้วิธีการ ใด ๆ ท่ีระบุไว้ในวรรค (ก) (ค) ให้ถือว่าการจัดหา การขนส่ง การส่งต่อ การจัดให้อยู่อาศัย หรือการรับไว้ซ่ึงเด็กเพ่ือความมุ่ง ประสงค์ในการแสวงประโยชน์ เป็น “การค้ามนุษย์” แม้ว่าจะไม่มีวิธีการใด ๆ ที่ระบุไว้ใน วรรค (ก) ของข้อน้ี (ง) เด็ก หมายถึงบุคคลใดที่มีอายุตา่ กว่า 18 ปี พิธีสารว่าด้วยการต่อต้านการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐานโดยทางบก ทะเล และอากาศ (Protocol Against the Smuggling of Migrants by Land, Sea and Air) 117 ในข้อ 3 “การลักลอบ ขนผู้อพยพ” หมายถึง การจัดหา เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ทางการเงินหรือวัตถุอย่างอ่ืน ทั้งทางตรงและ ทางอ้อมจากบุคคลท่ีเข้าเมืองผิดกฎหมายไปยังรัฐภาคี ซึ่งบุคคลน้ันมิใช่คนชาติ หรือ คนท่ีมีถิ่นท่ีอยู่ถาวร สถานการณ์การโอนย้ายนักเตะเยาวชนจากภูมิภาคแอฟริกา หรือภูมิภาคอเมริกาใต้ เป็นการค้า มนุษย์ และการลักลอบขนผู้อพยพ ภายใต้พิธีสารดังท่ีกล่าวมาข้างต้น โดยนักเตะเยาวชนจานวนมากเดิน ทางเข้าสู่ยุโรปหรือประเทศปลายทางด้วยวีซ่าท่องเที่ยวอย่างถูกต้องโดยการจัดการของตัวแทนหรือคน กลาง อย่างไรก็ตาม การเดินทางในลักษณะดังกล่าวเป็นผลมาจากากรฉ้อโกง หรือการหลอกลวงโดย ตัวแทนหรือคนกลาง และได้ผลกาไร ซ่ึงถือว่าผิดพิธีสารข้างต้นท้ัง 2 มาตรา (3) สหภาพยุโรปกับสิทธิเด็กและการค้ามนุษย์ สหภาพยุโรปตระหนักถึงปัญหารการเข้าเมืองผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ และการใช้แรงงานเด็ก ในพื้นที่ของสหภาพยุโรป โดยในปี 2005 สภายุโรป (Council of Europe) ได้ออกโครงการกรุงเฮก ว่า 117 ศูนย์สิทธิมนุษยชน กรมคมุ้ ครองสิทธแิ ละเสรภี าพ, (2562), พธิ ีสารเพื่อป้องกันปราบปราม และลงโทษการค้ามนษุ ย์โดยเฉพาะ สตรีและเด็ก เขา้ ถงึ เมอ่ื 18 สงิ หาคม 2562, humanrightscenter.go.th/HRK/พิธสี ารเพ่อื ป้องกนั %20ปราบปราม%20และลงโทษ การคา้ มนุษย%์ 20โดยเฉพาะสตรีและเดก็ ฯ.pdf
68 ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งของเสรีภาพ ความมั่นคง และความยุติธรรมในสหภาพยุโรป ( the hague programme: strengthening freedom, security and justice in the european union) โ ด ย มี วัตถุประสงค์ปรับปรุงขีดความสามารถร่วมของสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิกในการประกันสิทธิขั้นพื้นฐาน และมาตรการขั้นต่าในการพิทักษ์กระบวนการยุติธรรม และการเข้าถึงความยุติธรรม ตามอนุสัญญาเจนี วาว่าด้วยผู้ลี้ภัยและสิทธิสัญญาระหว่างประเทศอื่นๆ เพื่อควบคุมกระแสการย้าย ถิ่นและ และควบคุม อาชญากรข้ามชาติ118 นอกจากน้ีสหภาพยุโรป ได้กาหนดสนธิสัญญาว่าด้วยการดาเนินงานของสหภาพยุโรป (treaty on the functioning of the european) ในข้อที่ 79 ว่า สหภาพยุโรปจะต้องพัฒนานโยบายการย้ายถิ่นที่สร้าง ความมั่นใจในทุกๆ ขั้นตอน รวมถึงการจัดการกระแสการยา้ ยถิ่นทีม่ ีประสิทธิภาพ การดูแลผู้เข้าเมืองอย่างถูก กฎหมายที่มาจากประเทศที่สามอย่างเป็นธรรม และการป้องกันและการปรับปรุงมาตรการในการต่อสู่กบั การ เข้าเมืองผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์ด้วย และยังระบุด้วยว่า รัฐสภายุโรปและสภายุโรปจะต้องดาเนินการ ตามหลักกฎหมายทั่วไป และจะต้องใช้มาตรการในการต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงและ เด็ก119 อีกทั้งกฎบัตรสิทธิขั้นพื้นฐานของสหภาพยุโรป ( Charter of Fundamental Rights of the European Union) เป็นกฎหมายทีเ่ กย่ี วข้องกับสิทธิทางการเมือง เศรษฐกจิ และสังคมของประชาชนชาวยุโรป ซึ่งกาหนด ที่มีผลทางกฎหมายในปี 2009 ได้กาหนดว่าการค้ามนุษย์เป็นสิ่งต้องห้าม ใน ข้อ 5 โดยกฎบัตร ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อรับรองว่ากฎ ระเบียบ และคาสั่งของสหภาพยุโรปจะไม่ขัดหรือแย้งกับ อนุสัญญา ยุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (European Convention on Human Rights/ EUCHR) ด้วย นอกจากนี้กฎบัตร ยังคุ้มครองเกี่ยวกับสทิ ธิเด็กอีกหลายด้านด้วย เช่น ข้อ 32 ที่ระบุถึงการห้ามมิใหม้ ีการใช้แรงงานเด็ก และการ คมุ้ ครองเยาวชนในที่ทางานดว้ ย โดยอายุขนั้ ต่าในการทางานต้องไม่น้อยกว่าอายุขนั้ ต่าในการออกจากโรงเรียน ข้อ 24 ระบุถึงสิทธิเด็กว่า ในการดาเนินการที่เกี่ยวกับเด็กทั้งหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานภาคเอกชน จะต้องคานึงถึงผลประโยชนท์ ดี่ ที ่สี ุดของเด็กต้องมากอ่ น 120 118 Official Journal of the European Union “the hague programme: strengthening freedom, security and justice in the european union” (2005/C 53/01) 119 EUR-Lex Access to European Union Law, (2012), Consolidated version of the Treaty on the Functioning of the European Union, Retrieved August 21, 2019, https://eur-lex.europa.eu/legal- content/EN/TXT/?uri=celex%3A12012E%2FTXT 120 European Parliament, (2000), Charter on Fundamental Rights of the European Union (2000/C 364/01), Retrieved August 21, 2019, https://www.europarl.europa.eu/charter/pdf/text_en.pdf
69 (4) คดีที่เกี่ยวข้องที่ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (Court of Arbitration for Sport หรือ CAS) ได้เคยวินิจฉัยเอาไว้ - คดี Cádiz (CAS 2005/A/955) เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005 นักเตะเยาวชนชาวปารากวัย คารอส จาเวียร์ อาคูเนีย คา เบลเลโร่ (Carlos Javier Acuña Caballero) ผู้มีอายุ 16 ปี ได้เซนท์สัญญากับสโมสรฟุตบอลคาดิซ ใน ประเทศสเปน ในวันเดียวกันนั้น ก็มีข้อตกลงการโอนย้ายระหว่างสโมสรฟุตบอลโอลิมเปีย ประเทศ ปารากวัย สังกัดเดิมของ คารอส จาเวียร์ อาคูเนีย คาเบลเลโร่ กับ สโมสรฟุตบอลคาดิซ ประเทศสเปน ภายหลังจากนั้น 1 สัปดาห์ แม่ของ คารอส จาเวียร์ อาคูเนีย คาเบลเลโร่ ได้รับสัญญาจ้างงงานที่ ร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศสเปน ด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 22 One judge มิถุนายน ค.ศ. 2005 สมาคมฟุตบอลปารากวัยได้ปฏิเสธที่จะออกใบรับรองการโอนย้ายระหว่างประเทศ (ITC) ให้ Carlos Javier Acuña Caballero ด้วยเหตุผลของอายุที่ยังไม่ถึง 18 ปี ต่อมา เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 2005 สมาคมฟุตบอลปารากวัยและสมาคมฟุตบอลสเปนได้รับแจ้งจาก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ว่า ใบรับรองการโอนย้ายระหว่างประเทศ (ITC) ไม่สามารถออกไว้ตามเงื่อนไข ข้อ 12 ใน ระเบียบปฏิบัติว่า ด้วยสถานภาพและการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอล (Regulations on the Status and Transfer of Players) ฉบับปี 2001 และข้อ 19 ของฉบับปี 2005 ต่อมาสโมสรฟุตบอลได้ติดสินใจยื่นเรื่องไปยัง คณะกรรมการสถานภาพนักกีฬาฟุตบอลแห่งสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (the FIFA Players’ Status Committee) แต่ก็ได้รับคาปฏิเสธคาขอของสมาคมฟุตบอลสเปนที่จะขึ้นทะเบียน คารอส จาเวียร์ อาคู เนีย คาเบลเลโร่ เนื่องจากขาดหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเข้าประเทศสเปนมาเพื่อกิจกรรมอย่างอื่นที่ นอกเหนือจากกีฬาฟุตบอล โดยในเอกสารที่ส่งมาไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะมาศึกษาต่อใน โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาอื่นใด นอกจากนี้แทนที่เขาจะติดตามแม่ของเขามาอันเป็นผลจากการ โยกย้ายภูมิลาเนาด้วยเหตุผลท่ีไม่เก่ียวกับฟุตบอล ซึ่งจะเป็นข้อยกเว้นที่ถูกต้องตามระเบียบปฏิบัติว่าด้วย สถานภาพและการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอล (Regulations on the Status and Transfer of Players) ข้อ 19 แต่กลับกลายเป็นแม่ของเขาติดตามมาหลังจากสโมสรฟุตบอลในสเปนได้แสดงความสนใจในตัว คารอส จาเวียร์ อาคูเนีย คาเบลเลโร่121 ต่อมาเมื่อ 8 กันยายน ค.ศ. 2005 สโมสรฟุตบอลคาดิซและคารอส จาเวียร์ อาคูเนีย คาเบลเลโร่ ได้ยื่นคาอุทธรณ์ต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) โดยมีข้อโต้แย้ง 2 ประเด็น คือ 1) ความถูกต้อง เหมาะสมของระเบียบของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติที่เกี่ยวกับการคุ้มครองนักเตะเยาวชน 2) ระเบียบ ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติที่เกี่ยวกับการคุ้มครองนักเตะเยาวชนถือเป็นโมฆะ เนื่องจากเป็นระเบียบ 121 Simons, Rob, (2010), Trafficking in Football Are current regulations sufficient in the protection of minors in football?, Retrieved August 21, 2019, http://arno.uvt.nl/show.cgi?fid=106148
70 เอกชนของสมาคมที่ขัดแย้งกับหลักนโยบายสาธารณะของบทบัญญัติที่จาเป็น ที่ไม่สามารถจากัดได้ด้วย ภาคเอกชน122 คณะอนุญาโตตุลาการได้ทาการตรวจสอบระเบียบของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติที่จากัดการ โอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลที่อายุต่ากว่า 18 ปี พบกว่าระเบียบเหล่านี้ ไม่ได้ละเมิดต่อหลักการบังคับของ นโยบายสาธารณะ กฎหมายระดับชาติ หรือกฎหมายระหว่างประเทศ ตราบเท่าที่ 1) ได้ดาเนินการตาม วัตถุประสงค์ที่ถูกต้องในการคุ้มครองนักเตะเยาวชนจากการโอนย้ายที่อาจะทาลายชีวิตของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการประกอบอาชีพนักฟุตบอลล้มเหลวหลายครั้งหรือไม่ประสบความเสร็จในอาชีพ เท่าที่ครบ 2) และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของข้อยกเว้นตามสมควร กล่าวอีกนัยยะหนึ่งคือ คณะ อนุญาโตตุลาการระบุว่าระเบียบของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติท่ีเก่ียวกับการคุ้มครองนักเตะเยาวชนชอบ ด้วยกฎหมายและได้สัดส่วน นอกจากนี้ คณะอนุญาโตตุลาการ ยังเห็นด้วยกับ คณะกรรมการสถานภาพ นักกีฬาฟุตบอลแห่งสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ที่สรุปว่า การตัดสินใจของนักเตะเยาวชนที่ย้ายไปเล่น ฟุตบอลที่ประเทศสเปนนั้น ถูกกาหนดมาก่อนการตัดสินใจของแม่ที่ย้ายไปทางานในร้านอาหารประเทศ สเปน ซ่ึงถือว่าเช่ือมโยงโดยตรงกับการเซนท์สัญญาระหว่างนักเตะเยาวชนและสโมสรฟุตบอล ดังน้ันกา ร อุทธรณ์ดังกล่าวจึงถูกยกคาอุทธรณ์123 - คดี FC Midtjylland A/S (CAS 2008/A/1485) สโมสรฟุตบอลมิดทิลแลนด์ ในลีกประเทศเดนมาร์ก ได้จัดทาความร่วมมือกับสโมสรฟุตบอล เอะเบเดย์ (F.C. Ebedei) ในลีกไนจีเรีย โดยข้อตกลงประกอบไปด้วยการที่ สโมสรฟุตบอลมิดทิลแลนด์ สามารถซื้อนักกีฬาฟุตบอลทักษะสูงของสโมสรฟุตบอลเอะเบเดย์ได้ รวมถึงความเป็นไปได้ในการนานัก เตะเยาวชนมาขึ้นทะเบียนในอะเคเดมี่ในประเทศเดนมาร์ก ต่อมาในวันที่ 6 มิถุนายน 2006 สโมสร ฟุตบอลมิดทิลแลนด์ขึ้นทะเบียนนักเตะเยาวชนชาวไนจีเรีย จานวน 3 คน เป็นแบบนักกีฬาสมัครเล่นของ สมาคมฟุตบอลเดนมาร์ก โดยก่อนหน้านี้ข้ึนทะเบียนกับสโมสรฟุตบอลในประเทศไนจีเรีย สาหรับนักเตะ เยาวชนชาวไนจีเรียทั้ง 3 คนนั้น เข้าเมืองมาด้วยใบอนุญาตให้เรียนหนังสือเท่านั้น ไม่มีสิทธิที่จะทางาน และได้เข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในเดนมาร์ก124 ต่อมา เดือนกุมภาพันธ์ 2007 สมาพันธ์นักกีฬาฟุตบอลอาชีพนานาชาติ Fédération Internationale des Association de Footballeurs Professionels ได้แจ้งสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ว่า สโมสรฟุตบอลมิดทิลแลนด์ ละเมิดระเบียบปฏิบัติว่าด้วยสถานภาพและการโอนย้ายนักกีฬาฟุ ตบอล 122 Simons, Rob, (2010), Trafficking in Football Are current regulations sufficient in the protection of minors in football?, Retrieved August 21, 2019, http://arno.uvt.nl/show.cgi?fid=106148 123 Simons, Rob, (2010), Trafficking in Football Are current regulations sufficient in the protection of minors in football?, Retrieved August 21, 2019, http://arno.uvt.nl/show.cgi?fid=106148 124 Simons, Rob, (2010), Trafficking in Football Are current regulations sufficient in the protection of minors in football?, Retrieved August 21, 2019, http://arno.uvt.nl/show.cgi?fid=106148
71 ข้อที่ 19 โดยการโอนนักเตะเยาวชนชาวไนจีเรียอย่างเป็นระบบ หลังจากนั้น ทางคณะกรรมการ สถานภาพนักกีฬาฟุตบอลแห่งสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (the FIFA Players’ Status Committee) ได้ ตรวจสอบและเห็นด้วยกับสมาพันธ์นักกีฬาฟุตบอลอาชีพนานาชาติ และมีคาตัดสินต่อสโมสรฟุตบอล มิดทิลแลนด์และสมาคมฟุตบอลเดนมาร์ก โดยระบุว่า ข้อที่ 19 ในระเบียนดังกล่าวใช้กับการข้ึนทะเบียน นักกีฬาฟุตบอลสมัครเล่นและนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ และยังระบุอีกว่าการคุ้มครองนักเตะเยาวชนตามข้อ ที่ 19 ในระเบียบดังกล่าวเป็นหนึ่งในข้อสรุปร่วมระหว่างสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ สหภาพยุโรป และ คณะกรรมาธิการยุโรป ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2001125 เพื่อเป็นการปกป้องการละเมิดและปกป้องการกระทาท่ีไม่เหมาะสมต่อนักเตะเยาวชนจาเป็นต้อง มีการปฏิบัติตามข้อที่ 19 อย่างเข้มงวดและเป็นระบบ โดยความเป็นจริงท่ีว่านักเตะเยาวชนท่ีเข้าประเทศ มาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการศึกษาอย่างเดียว จะไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับใช้ข้อที่ 19 และสมาคม ฟุตบอลเดนมาร์กก็ไม่มีสิทธิยกเว้นกรณีอ่ืนๆ ที่นอกเหนือไปกว่าที่กาหนดไว้ในข้อท่ี 19126 ต่อมา 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 สโมสรฟุตบอลมิดทิลแลนด์ ยื่นคาอุทธรณ์คาตัดสินของ คณะกรรมการสถานภาพนักกีฬาฟุตบอลแห่งสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติต่อศาลอนุญาโตตุลาการด้านกีฬา โดยได้อ้างถึงข้อตกลงหุ้นส่วน ระหว่างสหภาพยุโรกับหลายประเทศในภูมิภาคแอฟริกา ซ่ึงรวมถึงประเทศ ไนจีเรียด้วย โดยเรียกว่า ข้อตกลงโคโตนู (Cotonou Agreement) โดยสโมสรฟุตบอลมิดทิลแลนด์ ระบุ ว่าชาวไนจีเรียท่ีมีถ่ินท่ีอยู่ในประเทศเดนมาร์ก สามารถใช้ข้อ 13.3 ของข้อตกลงโคโตนูเพ่ือรับการปฏิบัติ อย่างเท่าเทียมอย่างเช่นพลเมืองเดนมาร์ก นอกจากนี้ สโมสรฟุตบอลมิดทิลแลนด์ ยังอ้างถึงคดี Simutenkov case ก่อนจะมีศาลยุติธรรมยุโรป มีความเห็นว่าข้อยกเว้นในข้อ 19 วรรค 2 (b) ของ ระเบียบสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาตินั้น ควรตีความว่าให้เป็นประโยชน์ต่อพลเมืองจากประเทศท่ีสาม ซึ่งได้ ทาข้อตกลงทวิภาคีกับสหภาพยุโรปเพื่อป้องป้องพลเมืองของประเทศที่สามจากการเลือกปฏิบัติอันเกิด จากสัญชาติในแง่ของสภาพการทางาน สโมสรฟุตบอลมิดทิลแลนด์ ยังอ้างอีกว่า การปรับใช้ข้อที่ 19 ของ ระเบียบดังกล่าวนั้น สาหรับกรณีนักเรียนชาวไนจีเรียที่อายุต่ากว่า 18 ปี และยังได้รับใบอนุญาตทาง กฎหมายให้อยู่ในประเทศเดนมาร์ก เพื่อการศึกษาและการพักผ่อนโดยการเล่นฟุตบอลสมัครเล่น ปรับใช้ เกินกว่าเนื้อหาของบทบัญญัติและไกลกว่าเจตนารมย์ของบทบัญญัติอีกด้วย เนื่องจากข้อที่ 19 ถูก นามาใช้เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบและการละเมิดของนักเตะเยาวชน แต่ทางสโมสรยืนยันว่ากรณี นักเตะเยาวชนชาวไนจีเรียนี้ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบและการทารุณกรรม และยังได้รับโอกาสในการ พัฒนาทั้งในทางส่วนตัว ทางสังคม วัฒนธรรม และในด้านการศึกษา นอกจากนี้ สโมสรฟุตบอลมิดทิล แลนด์ ระบุว่าข้อท่ี 19 ควรใช้กับนักกีฬาฟุตบอลอาชีพมากกว่านักกีฬาสมัครเล่น สุดท้าย สโมสรฟุตบอล 125 Simons, Rob, (2010), Trafficking in Football Are current regulations sufficient in the protection of minors in football?, Retrieved August 21, 2019, http://arno.uvt.nl/show.cgi?fid=106148 126 Simons, Rob, (2010), Trafficking in Football Are current regulations sufficient in the protection of minors in football?, Retrieved August 21, 2019, http://arno.uvt.nl/show.cgi?fid=106148
72 มิดทิลแลนด์ เสนอว่าข้อที่ 19 ไม่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนของนักเรียนชาวไนจีเรีย รวมถึงสิทธิ ของเสรีภาพในการชุมนุม เสรีภาพในการสมาคม และการป้องกันการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุของสัญชาติ127 สาหรับ ศาลอนุญาโตตุลาการด้านกีฬา ได้ยืนยันตามข้อสรุปของคณะกรรมการสถานภาพนักกีฬา ฟุตบอลแห่งสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ว่าระเบียบของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติบังคับใช้กับนักกีฬา ฟุตบอลอาชีพและนักกีฬาฟุตบอลสมัครเล่น ส่วนท่ีเก่ียวกับข้อตกลงโคโตนูน้ัน ศาลอนุญาโตตุลาการด้าน กีฬา ระบุว่านักกีฬาฟุตบอลไนจีเรียไม่สามารถได้รับประโยชนจากข้อตกลงดังกล่าว เร่ืองจากบทบัญญัติท่ี เกี่ยวข้องกับการห้ามเลือกปฏิบัติบทพื้นฐานของสัญชาตินั้น มีผลใช้บังคับกันคนงานเท่านั้น ไม่สามารถ นามาปรับใช้กับนักเรียนหรือบุคคลอ่ืนที่ต้องการเข้าสู่ตลาดการจ้างงานในประเทศสมาชิกประชาคมยุโรป ได้ นอกจากนี้ ศาลอนุญาโตตุลาการด้านกีฬา ยังอธิบายถึงข้อโต้แย้งเรื่องเสรีภาพในการชุมนุมของ นักกีฬาฟุตบอล หรือเสรีภาพในการสมาคมนั้นถูกปฏิเสธ เนื่องจากกฎบัตรสหประชาชาติว่าด้วยสิ ทธิ มนุษยชน ที่ใช่อ้างนั้น มิใช้เอกสารทางกฎหมายที่มีผลผูกพัน และไม่มีสิทธิใช้บังคับตามกฎหมายได้ และ ยังสรุปอีกว่า การขึ้นทะเบียนนักเตะเยาวชนกับสโมสรฟุตบอลไม่ได้รับการคุ้มครองเรื่องเสรีภาพในการ ชุมนุมโดยสงบและเสรีภาพในการสมาคม เนื่องจากไม่มีนักกีฬาฟุตบอลคนใดถูกกีดกันไม่ให้เล่นฟุตบอล หรือเข้าร่วมกับคนอื่นๆ เพื่อเล่นฟุตบอล และเป็นที่ยอมรับกันว่าการจากัดสิทธิขั้นพื้นฐานสามารถทาได้ หากดาเนินการตามวัตถุประสงค์ท่ีชอบด้วยกฎหมายและเป็นไปตามสัดส่วน 128 127 Simons, Rob, (2010), Trafficking in Football Are current regulations sufficient in the protection of minors in football?, Retrieved August 21, 2019, http://arno.uvt.nl/show.cgi?fid=106148 128 Simons, Rob, (2010), Trafficking in Football Are current regulations sufficient in the protection of minors in football?, Retrieved August 21, 2019, http://arno.uvt.nl/show.cgi?fid=106148
73 บทท่ี 5 บทสรุป ในขณะท่ีพัฒนาการของหลักเกณฑ์การโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพข้ามสโมสรในประเทศอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นในช่วงที่มีการพัฒนาอย่างทีละเล็กละน้อยของระบบ Retain and Transfer System ระหว่างช่วงปลายคริสตศตวรรษที่ 19 จนถึงช่วงต้นคริสต์ศตวรรษท่ี 20 ในประเทศอังกฤษ อีกทั้งในช่ว ง ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 ก็มีการวางหมุดหมายสาคัญของกระบวนการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ข้ามสโมสรเป็นรูปแบบเดียวกันทั่วทั้งภูมิภาคยุโรปหรือกระบวนการ Europeanization of the Football Transfer ผ่านวางบรรทัดฐานของศาลยุติธรรมสหภาพยุโรปในคดี Union Royale Belge des Sociétés de Football Association ASBL v Jean-Marc Bosman (1995) C-415/93 (หรือคดี Bosman Ruling) ที่วางบรรทัดฐานเอาไว้ในทานองส่งเสริมเสรีภาพในการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานสาหรับ แรงงานและสนับสนุนเสรีภาพในการเข้าร่วมสมาคมของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ตลอดจนการวางบรรทัด ฐานของศาลยุติธรรมยุโรปเช่นว่านี้เองได้มีส่วนก่อร่างสร้างกฎเกณฑ์เฉพาะหลากหลายรูปแบบในระบบ Modern Transfer System ของลีกการแข่งขันกีฬาฟุตบอลในภูมิภาคยุโรปท่ีเป็นสมัยใหม่ขึ้นมา (ในบท ที่ 2) ซึ่งสถาบันทางการเมืองของสหภาพยุโรปสร้างกฏเกณฑ์และสะท้อนออกมาในลักษณะของการ พัฒนานโยบายและกฎหมายสหภาพยุโรปที่เกี่ยวข้องกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ได้แก่ สนธิสัญญา Treaty on the Functioning of the European Union 2007 เอกสาร White Paper on Sport 2007 เอกสาร Communication on Sports 2011 และเอกสาร Council Resolution on an EU Work Plan for Sport 2017-2020 อย่างไรก็ดีนโยบายและกฎหมายสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการ โอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพข้ามสโมสรสมัยใหม่หรือ Modern Transfer System อาจเปิดช่องว่างทาง กฎหมายที่สร้างปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนและผลกระทบที่ในด้านลบท่ีเกิดข้ึนจากการปฏิบัติตามระเบียบ แบบแผนและกติกาภายใต้ระบบ Modern Transfer System หลักเกณฑ์การโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพข้ามสโมสรในยุโรปที่มีความเป็นสมัยใหม่ (Modernity) นั้น ไม่เพียงจะต้องพิจารณาว่าหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นไปตามกฎที่องค์กรกากับกีฬา ฟุตบอลในภูมิภาคยุโรปหรือ European FGBs และหน่วยงานด้านการกีฬาในภูมิภาคยุโรปได้บัญญัติ
74 เอาไว้ ในขณะเดียวกันก็จะต้องพิจารณาว่าหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนสหภาพ ยุโรปเกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ รวมไปถึงบรรทัดฐานที่ศาลยุติธรรมยุโรปได้วางเอาไว้ เกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพข้ามสโมสรในยุโรปสมัยใหม่ จากการสารวจนโยบายและ กฎหมายสหภาพยุโรปที่เกี่ยวข้องกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ (ในบทที่ 3) ก็พบว่านโยบายและ กฎหมายสหภาพยุโรปเหล่านี้มีความสอดคล้องกันและเป็นไปในทางเดียวกัน นั้นก็คือสถาบันทาง การเมืองสหภาพยุโรป (และสถาบันทางการกีฬาฟุตบอลยุโรป) พยายามตีความนโยบายและกฎหมาย สหภาพยุโรปที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุมการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักกีฬาฟุตบอลอาชีพย่อมได้รับประโยชน์จากการตีความหรือการปรับใช้กฎหมาย สหภาพยุโรปไปในเชิงคุ้มครองสิทธิเสรีภาพเกี่ยวกับก ารโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพอย่างดียิ่งขึ้นใน อนาคต อีกประการหน่ึงส่ิงท่ีสะท้อนออกมาจากการตัดสินใจของสถาบันทางการเมืองของสหภาพยุโรปใน การเลือกการกระทาการออกนโยบายสาธารณะใหม่ๆ และปรับใช้กฎหมายสหภาพยุโรปท่ีเกี่ยวข้อง ย่อม มีเป้าประสงค์ชัดเจนให้ครอบคลุมกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวข้องกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ โดยมี การก่อร่างสร้างเอกสารสาคัญหลายฉบับ มาอธิบายการตีความปรับใช้กฎหมายสหภาพยุโรปที่เกี่ยวข้อง จนดูเหมือนว่าเป็นการกล่าวซ้าไปซา้ มาในประเด็นดังกล่าวในเอกสารของสหภาพยุโรปหลายฉบับ แต่นี้ก็ เป็นเครื่องยืนยันว่าสหภาพยุโรปและสถาบันทางการเมืองสหภาพยุโรปยอมรับและให้ความสาคัญกับการ นานโยบายและกฎหมายสหภาพยุโรปที่เกี่ยวข้องมาใช้แก้ปัญหาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนสหภาพยุโรป เกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ดูเหมือนว่าสถาบันทางการเมืองสหภาพยุโรปได้เลือกการตีความปรับใช้กฎหมายสหภาพยุโ รปและ เลือกแนวนโยบายที่เหมาะสมที่สุด (ในบทที่ 3) ที่นาไปสู่การบรรลุเป้าหมายในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ เกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ แต่ทว่าเมื่องานวิจัยฉบับนี้วิเคราะห์ปัญหาทางกฎหมายสิทธิ มนุษยชนสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ (ในบทที่ 4) กลับพบว่าการเลือกตีความ ปรับใช้กฎหมายสหภาพยุโรปที่เกี่ยวข้องก็ดีหรือการเลือกแนวนโยบายที่เหมาะสมที่สุด เพื่อนาไปสู่การ บรรลุเป้าหมายของบรรลุเป้าหมายในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพเกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ก็ตาม ล้วนแล้วแต่มุ่งไปลดผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในภูมิภาคยุโรป (หรือ ภูมิภาคอื่นที่มาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับภูมิภาคยุโรป) หลักการพื้นฐานด้านสิทธิเสรีภาพเกี่ยวข้องกับการ โอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในภูมิภาคยุโรปเป็นรากฐานสาคัญที่ทาให้สหภาพยุโรปได้ตัดสินใจเลือก หยิบยกกฎหมายสหภาพยุโรปและพัฒนานโยบายมาปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในประเด็นดังกล่าว ในทางตรงกันข้ามงานวิจัยฉบับนี้กลับพบว่ามีการอธิบายปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นจากการล่วงละเมิดสิทธิ เสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นสถานการณ์สิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับการ โอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในภูมิภาคยุโรป ซึ่งแบ่งศึกษาออกเป็น 4 ประเด็นย่อยดังที่ได้กล่าวไว้แล้ว
75 (ในบทที่ 4) เช่น ประเด็น EU Free Movement และ Fair Competition ประเด็น Children's Rights ประเด็น Human Trafficking of Players และประเด็น Abusive Terms of Employment พร้อมกับ หยิบยกคาวินิจฉัยที่วางบรรทัดฐานของสถาบันตุลาการสหภาพยุโรปและสถาบันตุลาการทางการกีฬาใน ภูมิภาคยุโรป เพื่อชี้ให้เห็นปัญหาทางกฎหมายที่เกิดขึ้นผ่านการบรรยายปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นอัน เนื่องมาจากการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพและข้อสรุปท่ีชัดเจนท่ีช่วยชี้ความสาคัญในการนากฎหมาย สหภาพยุโรปท่ีเกี่ยวข้องมาอุดช่องว่างทางกฎหมายที่เกิดขึ้นจากการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในมิติ ต่างๆ พร้อมกับสร้างเหตุผลใหม่ๆ ในการพัฒนากฎหมายและนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนสหภาพยุโรปใน อนาคต ปรากฎการณ์จากพลวัตอุตสาหกรรมและธุรกิจกีฬาฟุตบอลในภูมิภาคยุโรปทาให้เกิดกฎเกณ ฑ์ ระเบียบ และข้อบังคับในแวดวงกีฬาฟุตบอลยุโรปที่แปลกใหม่ สร้างความสนใจใคร่รู้ให้กับผู้ชมการ แข่งขันกีฬาฟุตบอลอาชีพและผู้สนใจวิชาการด้านธุรกิจกีฬาฟุตบอล จนถึงกับมีการตั้งข้อสังเกตต่อการ ดารงอยู่หรือประโยชน์ของกฎเกณฑ์ ระเบียบ และข้อบังคับเหล่านี้ ในทางกลับกันกฎเกณฑ์ ระเบียบ และข้อบังคับในแวดวงกีฬาฟุตบอลยุโรป รวมไปถึงวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับธุรกิจกีฬาฟุตบอลบางประการ อาจ ไม่ได้ช่วยเสริมสร้างกลไกสนับสนุนสิทธิเสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพให้มีผลเป็นรูปธรรม ซ้ายังเปิด ช่องให้มีการละเมิดสิทธิเสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพหรือ เปิดช่องให้มีการจากัดสิทธิเสรีภาพบาง ประการของปัจเจกบุคคลที่ประสงค์จะกลายมาเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในภูมิภาคยุโรป ซึ่งกฎเกณฑ์ ระเบียบ และข้อบังคับในแวดวงกีฬาฟุตบอลยุโรปเหล่านี้เองกลับกลายเป็นอุปสรรคที่ไม่ก่อให้เกิดการ โอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพอย่างเสรี ในทานองเดียวกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนของนักกีฬาภายใต้ ระบบ Transfer System ในภูมิภาคยุโรปส่วนหนึ่งมีที่มาจากการไร้ทิศทางป้องกันการล่วงละเมิดสิทธิ เสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพและการปราศจากกรอบทิศทางการปฏิรูปกฎ ระเบียบ และข้อบังคับว่า ด้วยการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในภูมิภาคยุโรป อีกส่วนหนึ่งมาจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในแวดวง กีฬาบางส่วนไม่ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้หรือตระหนักเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพเกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬา ฟุตบอลอาชีพ พร้อมทั้งทากิจกรรมหรือปฏิบัติการบางอย่างที่นาไปสู่การกีดกัน การเลือกปฏิบัติ และการ ล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ แม้ว่ากิจกรรมหรือปฏิบัติการบางอย่างเช่นว่านี้จะ นาไปสู่หนทางของความสาเร็จในแวดวงอุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอลอาชีพหรือการเปิดโอกาสให้ตนเองได้ เข้ามามีส่วนร่วมกันการแข่งขันกีฬาฟุตบอลอาชีพในภูมิภาคยุโรปก็ตาม ในอีกด้านหนึ่งการสารวจ ศึกษาและทบทวนการดารงอยู่ของกฎหมายสิทธิมนุษยชนสหภาพยุโรป เช่น สนธิสัญญา TFEU สนธิสัญญา EC Treaty และสนธิสัญญาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้สะท้อนถึงการเอาใส่ ใจของสถาบันทางการเมืองสหภาพยุโรปที่วางหลักเกณฑ์การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนมา
76 บัญญัติไว้หลายครั้งหลายครา แล้วถูกนามาทบทวนโดยเอกสารกาหนดนโยบายสาธารณะด้านการกีฬา ยุโรป (ในบทที่ 3) แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียท่ีเข้ามาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับการโอนย้าย นักกีฬาฟุตบอลอาชีพในภูมิภาคยุโรป ไม่ว่าจะเป็นองค์กรกากับกีฬาฟุตบอล สมาคมกีฬาฟุตบอล สโมสร กีฬา ผู้ฝึกสอนกีฬา ผู้จัดการสิทธิประโยชน์นักกีฬา หรือแม้กระทั้งตัวนักกีฬาฟุตบอลอาชีพเอง จะ คานึงถึงการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของตัวนักกีฬาฟุตบอลอาชีพอย่างเคร่งครัด ไปมากกว่ามอง ผลประโยชน์ที่ตนเองพึงมีพึงได้จากการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในอุตสากรรมและธุรกิจกีฬา ฟุตบอล (อิทธิพลของกลุ่มผลประโยชน์เช่นว่านี้อาจมีผลต่อการกาหนดนโยบายกีฬาฟุตบอลยุโรป) ร้ายไป กว่านั้นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเหล่านี้เองอาจใช้นักกีฬาฟุตบอลอาชีพ (หรือนักกีฬารุ่นเยาว์ผู้ประสงค์จะเป็น นักกีฬาฟุตบอลอาชีพในอนาคต) มาเป็นเคร่ืองมือแสวงหาประโยชน์ทางการเงินและธุรกิจ โดยไม่สนใจว่า จะมีการละเมิดสิทธิเสรีภาพข้ันพื้นฐานของนักกีฬาฟุตบอลอาชีพหรือไม่ เพราะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเหล่านี้ อาจไม่ได้มองว่าสิทธิเสรีภาพเกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพมีความสลักสาคัญแต่อย่างใด อีก ทั้งงานวิจัยฉบับนี้มีการหยิบยกตัวอย่างในหลายคดี (ในบทที่ 4) ท่ี สถาบันตุลาการของสหภาพยุโรปและ สถาบันระงับข้อพิพาทด้านกีฬาในระดับนานาชาติ (เช่น ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS)) ต่างก็ตัดสิน วางบรรทัดฐานในหลายประเด็นเก่ียวกับความขัดแย้งระหว่างคู่กรณีที่เกิดจากการล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพ เกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพเอาไว้ ท้ายที่สุดกฎหมายสิทธิมนุษยชนสหภาพยุโรปถือเป็นหมุดหมายสาคัญให้สถาบันทางการเมือง สหภาพยุโรปและองค์กรกากับกีฬาฟุตบอลยุโรปปฏิบัติตาม อีกทั้งองค์กรกากับกีฬาฟุตบอลยุโรปก็พึงต้อง ออกกฎ ระเบียบ และข้อบังคับว่าด้วยการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในภูมิภาคยุโรปในลักษณะที่ไม่ให้ ขัดหรือแย้งต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนสหภาพยุโรป ควบคู่ไปกับกฎ ระเบียบ และข้อบังคับเช่นว่านี้เองก็ พึงสร้างความตระหนักหรือมีกลไกควบคุมไม่ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เข้ามาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับการ โอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพในภูมิภาคยุโรปกระทาการฝ่าฝืนทั้งกฎหมายสิทธิมนุษยชนสหภาพยุโรป และกฎเกณฑ์ขององค์กรกากับกีฬาฟุตบอลยุโรป พร้อมกับพึงปลูกฝังให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเห ล่านี้ ตระหนักถึงสิทธิเสรีภาพเกี่ยวกับการโอนย้ายนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ
77 บรรณานกุ รม Alex C. Najarian, (2015), The Lost Boys: FIFA's Insufficient Efforts to Stop Trafficking of Youth Footballers, Sports Law. J. 22: 152-160. Analysis of the New Transfer System for European Soccer. Scandinavian Journal Of Economics,1 (105), 139-154. Binder, J. & Findlay, M. ( 2016). The Effects of the Bosman Ruling on National and Club Teams in Europe. Journal of Sports Economics, 13 (2), 107-129. Binder, J. J. & Findlay, M. (2008). The Effects of the Bosman Ruling on National and Club Teams in Europe. Journal of Sports Economics, 13 (2), 107-129. Birkhäuser, S., Kaserer, C. & Urban, D. (2019). Did UEFA’s financial fair play harm competition in European football leagues?. Review of Managerial Science, 13 (1), 113-145. Blackshaw, I. (2007). The 'specificity of sport' and the EU White Paper on sport: some comments. The International Sports Law Journal, no. 3-4, 87. Bret, A. (2016). Analysis of the legal arguments in FIFPro’s challenge to FIFA's football transfer system. Retrieved August 21, 2019, https://www.lawinsport.com/content/sports/item/analysis- of-the-legal-arguments-in-fifpro-s-challenge-to-fifa-s-football-transfer-system Budzinski, O. (2014). The Competition Economics of Financial Fair Play. Ilmenau Economics Discussion Papers, 19 (85), 1-27. Carmichael, F., McHale, I., & Thomas, D. (2011). Maintaining Market Position: Team Performance, Revenue and Wage Expenditure in the English Premier League. Bulletin of Economic Research, 4 (63), 464-479. Christiaens, J. & Nuytiens, A. (2009). Transfer of Juvenile Offenders to Adult Court in Belgium: Critical Reflections on the Reform of a Moderate Practice. Youth Justice, 9(2), 131-142. Commission of the European Communities. (2007). White Paper on Sport. Retrieved August 17, 2019, https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:52007DC0391&from=EN Compaire, D., Planas R. A. G. & Wildemann, S. (2009). Contractual Stability in Professional Football: Recommendations for Clubs in a Context of International Mobility. Retrieved August 1, 2019, from http://www.lawinsport.com/pdf/ContStabinProfFoot.pdf
78 Council of the European Union. (2017). Resolution of the Council and of the Representatives of the Governments of the Member States, meeting within the Council, on the European Union Work Plan for Sport (1 July 2017 - 31 December 2020) - Council Resolution (23 May 2017). Brussels: Council of the European Union. Downward, P., Parrish, R., Pearson, G. & Semens, A. (2014). An assessment of the compatibility of UEFA's home grown player rule with article 45 TFEU. European Law Review. Retrieved August 21, 2019, https://www.escholar.manchester.ac.uk/api/datastream?publicationPid=uk-ac-man- scw:259350&datastreamId=POST-PEER-REVIEW-NON-PUBLISHERS.PDF English Football League. (2016). Fifty-five years to the day: £20 maximum wage cap abolished by Football League clubs. Retrieved August 3, 2019, from https://www.efl.com/news/2016/january/fifty-five-years-to-the-day-20-maximum-wage-cap- abolished-by-football-league-clubs/ EUR-Lex. (2015). Case C-299/15: Request for a preliminary ruling from the Tribunal de première instance de Bruxelles (Belgium) lodged on 19 June 2015 — Daniele Striani and Others, RFC Sérésien ASBL v Union Européenne des Sociétés de Football Association (UEFA), Union Royale Belge des Sociétés de Football — Association (URBSFA). Retrieved August 21, 2019, https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/?uri=CELEX%3A62015CN0299 EUR-Lex. (2016). Consolidated version of the Treaty on the Functioning of the European Union. Retrieved August 15, 2019, https://eur-lex.europa.eu/legal- content/EN/TXT/?uri=celex%3A12012E%2FTXT EUR-Lex. (2016). Free movement of sportspeople in the EU. Retrieved August 16, 2019, https://eur- lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/?uri=LEGISSUM%3Al35002 EUR-Lex. (2017). Summary of White Paper on Sport (COM (2007) 391 final). Retrieved August 18, 2019, https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/?uri=LEGISSUM%3Al35010 EUR-Lex. (2017). White Paper on sport. Retrieved August 18, 2019, https://eur-lex.europa.eu/legal- content/EN/TXT/?uri=LEGISSUM%3Al35010 EUR-Lex. (2018). European dimension in sport. Retrieved August 15, 2019, https://eur- lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/?uri=LEGISSUM%3Aef0025 EUR-Lex. (2019). Judgment of the Court of 15 December 1995. Union royale belge des sociétés de football association ASBL v Jean-Marc Bosman, Royal club liégeois SA v Jean-Marc Bosman and others and Union des associations européennes de football (UEFA) v Jean-
79 Marc Bosman (Document 61993CJ0415). Retrieved August 7, 2019, https://eur- lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/?uri=CELEX%3A61993CJ0415 European Club Association. (2013). Study on the Transfer System in Europe. Nyon: European Club Association. European Commission. (2008). UEFA rule on ‘home-grown players’: compatibility with the principle of free movement of persons. Retrieved August 19, 2019, https://europa.eu/rapid/press- release_IP-08-807_en.htm European Commission. (2010). Reaffirming the free movement of workers: rights and major developments. Brussels: European Commission. European Commission. (2011). Commission staff working document—sport and free movement— accompanying document to the Communication from the Commission to the European Parliament, the Council, the European Economic and Social Committee and the Committee of the Regions. Brussels: European Commission. European Commission. (2011). Communication from the Commission to the European Parliament, the Council, the European Economic and Social Committee and the Committee of the Regions. Brussels: European Commission. European Olympic Committees EU Office. (2011). Guide to EU Sport Policy. Brussels: European Olympic Committees EU Office. European Parliament. (2019). Sport. Retrieved August 1, 2019, from http://www.europarl.europa.eu/factsheets/en/sheet/143/sport Feess, E. & Muehlheusser, G. (2003). The Impact of Transfer Fees on Professional Sports: An FIFA. (2018). regulations on the status and transfer of players 2018. Frick, B. (2007). The Football Players' Labor Market: Empirical Evidence from the Major European Leagues. Scottish Journal of Political Economy, 3 (54), 422-446. García, B. (2006). Playing ball: EU regulation of professional football since the Bosman ruling. Retrieved August 7, 2019, https://www.files.ethz.ch/isn/27196/PB_June06_Football.pdf García, B. (2007). UEFA and the European Union: From Confrontation to Cooperation. Journal of Contemporary European Research, 3 (3), 202-223. Garcia, B. (2016). `He was not alone: Bosman in context'. IN Duval, A. and Van Rompuy, B. (eds.) The Legacy of Bosman. The Hague: TMC ASSER Press.
80 Geeraert, A., Bruyninckx, H. & Scheerder, J. (2012). The governance network of European football: Introducing new governance approaches to steer football at the EU level. International Journal of Sport Policy, 5(1), 1-20. Gernon, A. (2018). The Transfer Market: The Inside Stories. London: Pitch Publishing. Independent. (2003). David Conn: Hall and Notts dispute 'under the table' deal for player. Retrieved August 5, 2019, https://www.independent.co.uk/sport/football/news-and- comment/david-conn-hall-and-notts-dispute-under-the-table-deal-for-player-82372.html Irving, J. G. (2002). Red Card: The Battle over European Football's Transfer System. University of Miami Law Review, 56, 667-752. Iskra, K. A. (2019). Fact Sheets on the European Union: Sport. Retrieved August 15, 2019, from http://www.europarl.europa.eu/factsheets/en/sheet/143/sport Kaplan, V. (2015). UEFA Financial Fairplay Regulations and European Union Antitrust Law Complications. Emory International Law Review, 4 (29), 799-857. KEA European Affairs & Centre de Droit et d'Économie du Sport. (2013). The Economic and Legal Aspects of Transfers of Players. Retrieved August 20, 2019, https://ec.europa.eu/assets/eac/sport/library/documents/cons-study-transfers-final-rpt.pdf KEA European Affairs & Centre for the Law and Economics of Sport. (2013). KEA – CDES: Study on the economic and legal aspects of transfers of players. Limoges: Centre for the Law and Economics of Sport. Lee, A. L. (1995). The Bosman Case: Protecting Freedom of Movement in European Football. Fordham International Law Journal, 3 (19), 1255-1316. Lembo, Christina, (2011) “FIFA Transfer Regulations and UEFA Player Eligibility Rules: Major Changes in European Football and the Negative Effect on Minors” Emory International Law Review 25(1), 541-542. Liu, X. F., Liu, Y. L., Lu, X. H.., Wang, Q. & Wang, T. W. (2016). The Anatomy of the Global Football Player Transfer Network: Club Functionalities versus Network Properties. PLoS ONE, 11(6), e0156504. Long, C. R. (2012). Promoting Competition or Preventing It? A Competition Law Analysis of UEFA’s Financial Fair Play Rules. Marquette Sports Law Review, 1 (23), 75-101. Magee, J. & Sugden, J. (2002). ‘“The World at their Feet” Professional Football and International Labor Migration. Journal of Sport and Social Issues, 4 (26), 421-437. Malcolm, D. (2008). The SAGE Dictionary of Sports Studies. London: SAGE Publishing.
81 McArdle, D. (2000). From boot money to Bosman : football, society, and the law. London: Cavendish Publishing. Morrow, S. (2014). Financial Fair Play: Implications for Football Club Financial Reporting. Edinburgh: The Institute of Chartered Accountants of Scotland. Oxford Universiry Press. (2019). OVERVIEW retain and transfer system. Retrieved August 2, 2019, from https://oxfordindex.oup.com/view/10.1093/oi/authority.20110803100416487 Parrish, et al. (2010). Study on the Equal Treatment of Non-Nationals in Individual Sports Competitions (TENDER NO. EAC/19/2009). Retrieved August 19, 2019, https://ec.europa.eu/assets/eac/sport/library/studies/study_equal_treatment_non_nationals_fin al_rpt_dec_2010_en.pdf Parrish, R. (2003). Sports law and policy in the European Union. Manchester: Manchester University Press. Parrish, R., García, B. & Siekmann, R. (2010). The Lisbon Treaty and EU Sports Policy. Brussels: European Parliament's Policy Department Structural and Cohesion Policies. Pearson, G. (2015). Sporting justifications under EU free movement and competition law: the case of the football ‘transfer system’. European Law Journal, 21 (2), 220-238. Petit, N. (2014). 'Financial Fair Play' or 'Oligopoleague' of Football Clubs?: A Preliminary Review Under European Union Competition. A Preliminary Review Under European Union Competition. Retrieved August 21, 2019, https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=2450719 Poli, R., Besson, R. & Ravenel, L. (2018). Football Analytics The CIES Football Observatory 2017/18 season. Neuchâtel: CIES Football Observatory. Poli, R., Besson, R., & Ravenel, L. (2017). Transfer market analysis: tracking the money (2010-2017). (No. 27). Neuchâtel: CIES Football Observatory. Premier League, Premier League Rules in Premier League Handbook Season 2019/20. Preuss, H., Haugen, K. K., Schubert, M. (2014). UEFA financial fair play: the curse of regulation. European Journal of Sport Studies. Retrieved August 21, 2019, http://www.ejss- journal.com/index.php/uefa-financial-fair-play-the-curse-of-regulation Publications Office of the European Union. (2011). Communication on sport (2011) Developing the European dimension in sport. Retrieved August 19, 2019, https://publications.europa.eu/en/publication-detail/-/publication/db29f162-d754-49bc-b07c- 786ded813f71
82 Rossi, G. and Tessari, A. (2014). The professionalisation of the sport agents: Cartels, networks and enterprises within the football industry, 1950s - 2010. The 2014 World Business History Conference, Frankfurt, Germany. Retrieved August 1, 2019, from http://www.worldbhc.org/files/full%20program/A6_B6_ATESSARIGROSSI_WBHCpaper.pdf Serhat Yilmaz, (2018), Protection of minors: lessons about the FIFA RSTP from the recent Spanish cases at the Court of Arbitration for Sport, The International Sports Law Journal 18, 15. Siekmann, D. R. (2006). Labour Law, the Provision of Services, Transfer Rights and Social Dialogue in Professional Football In Europe. The Entertainment and Sports Law Journal, 4(1), 5. Simons, Rob, (2010), Trafficking in Football Are current regulations sufficient in the protection of minors in football?, Retrieved August 21, 2019, http://arno.uvt.nl/show.cgi?fid=106148 Spartacus Educational. (2016). Transfer System. Retrieved August 2, 2019, from https://spartacus- educational.com/Ftransfer.htm Stewart, G. (1986), \"The Retain and Transfer System: An Alternative Perspective\", Managerial Finance, 1 (12), 25-29. Taormina, G. (2019). UEFA’s Financial Fair Play: Purpose, Effect, and Future. Fordham International Law Journal, 4 (42), 1269-1324. The Telegraph. (2011). How footballers wages have changed over the years: in numbers. Retrieved August 5, 2019, from https://www.telegraph.co.uk/sport/football/competitions/premier- league/8265851/How-footballers-wages-have-changed-over-the-years-in-numbers.html The Telegraph. (2015). How the Bosman revolution changed football for ever. Retrieved August 6, 2019, https://www.telegraph.co.uk/sport/football/competitions/premier-league/12047806/How- the-Bosman-revolution-changed-football-for-ever.html UEFA, (2019) about UEFA, Retrieved August 1, 2019, from https://www.uefa.com/insideuefa/about- uefa/ UEFA, Regulations of the UEFA Champions League 2018-21 Cycle 2019/20 Season. Union of European Football Associations. (2015). UEFA welcomes European Court of Justice ruling on financial fair play. Retrieved August 21, 2019, https://www.uefa.com/insideuefa/protecting- the-game/club-licensing-and-financial-fair- play/news/newsid=2267061.html?redirectFromOrg=true Vöpel, H. (2013). Is Financial Fair Play Really Justified? An Economic and Legal Assessment of UEFA’s Financial Fair Play Rules. Hamburg: Hamburgisches WeltWirtschaftsInstitut.
83 Walters, G. & Rossi, G. (2009). Labour Market Migration in European Football: Key Issues and Challenges. Birkbeck Sport Business Centre Research Paper, 2 (2), 1-163. ศูนย์สทิ ธมิ นุษยชน กรมคุ้มครองสทิ ธแิ ละเสรภี าพ, (2562), พธิ สี ารเพ่ือป้องกันปราบปราม และลงโทษการคา้ มนษุ ย์ โดยเฉพาะสตรแี ละเดก็ เข้าถงึ เมอ่ื 18 สงิ หาคม 2562, humanrightscenter.go.th/HRK/พธิ สี ารเพ่ือป้องกนั % 20ปราบปราม%20และลงโทษการคา้ มนุษย์%20โดยเฉพาะสตรีและเด็กฯ.pdf สานกั งานส่งเสริมสวสั ดิภาพและพิทกั ษ์ เดก็ เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผูส้ ูงอาย,ุ (2562) อนสุ ัญญาวา่ ดว้ ยสทิ ธเิ ดก็ และ พิธสี ารเลือกรับของอนสุ ัญญาว่าดว้ ยสิทธิเดก็ เขา้ ถึงเม่ือ 18 สิงหาคม 2562, http://humanrights.mfa.go.th/upload/pdf/crc.pdf
84 ประวัตผิ ้วู ิจัยที่ 1 ชอื่ -นามสกลุ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปดี ิเทพ อยู่ยนื ยง วัน-เดอื น-ปี เกิด วนั ที่ 14 สงิ หาคม 2524 สถานทอี่ ยู่ปัจจุบนั บ้านเลขท่ี 22 หมู่ 1 ถนนลาดปลาเค้า ตาบลจระเขบ้ วั อาเภอ ลาดพรา้ ว จงั หวัดกรงุ เทพมหานคร ตาแหน่งหน้าท่ีการงาน รหสั ไปรษณีย์ 10230 สถานทท่ี างานปัจจุบนั พนกั งานมหาวิทยาลัยสายวิชาการ คณะนิติศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ อีเมล์ อาเภอเมือง จงั หวัดเชยี งใหม่ เบอร์โทรศัพท์ (มือถือ) รหัสไปรษณีย์ 50200 ประวัตกิ ารศึกษา [email protected] 0844154256 พ.ศ. 2559 Doctor of Philosophy พ.ศ. 2551 Environmental and Planning Law De Montfort University, UK พ.ศ. 2546 Master of Laws International Business Law De Montfort University, UK นิติศาสตรบณั ฑติ สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
85 ประวตั ิผู้วจิ ยั ที่ 2 ช่ือ-นามสกลุ ทนิ กฤต นุตวงษ์ วนั -เดอื น-ปี เกิด วันท่ี 26 พฤศจิกายน 2525 สถานทอ่ี ยู่ปจั จบุ ัน บ้านเลขที่ 243/19 หมทู่ ี่ 7 บ้านสันผกั หวานน้อย ตาบลสันผักหวาน อาเภอหางดง จงั หวัดเชียงใหม่ ตาแหนง่ หนา้ ท่ีการงาน รหสั ไปรษณีย์ 50230 สถานที่ทางานปัจจบุ ัน พนกั งานปฏิบตั ิงาน (บริหารงานวิจัย) คณะนิติศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ อีเมล์ อาเภอเมือง จงั หวดั เชียงใหม่ เบอร์โทรศัพท์ (มือถือ) รหสั ไปรษณีย์ 50200 ประวตั กิ ารศึกษา [email protected] 0923949289 พ.ศ. 2554 นิติศาสตรมหาบณั ฑิต พ.ศ. 2548 สาขานติ ิศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ นติ ิศาสตรบณั ฑิต สาขานติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่
Search