Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พฤกษาศาสตร์โรงเรียนโคกสำโรงวิทยา

พฤกษาศาสตร์โรงเรียนโคกสำโรงวิทยา

Published by Krulek456, 2022-11-09 05:56:24

Description: พฤกษาศาสตร์โรงเรียนโคกสำโรงวิทยา

Search

Read the Text Version

ข้อมลู โรงเรียน โรงเรียนโคกสำโรงวทิ ยำ ก่อตงั้ ขนึ ้ เม่ือวนั ท่ี 27 พฤษภำคม พ.ศ. 2500 เดมิ ชื่อ “โรงเรียนมธั ยม วสิ ำมญั โคกสำโรง”ในระยะแรกอำศยั สถำนท่ีเรียนและครูของโรงเรียนโคกสำโรง ซง่ึ เป็ นโรงเรียน ประถมศกึ ษำดำเนนิ กำรเรียนกำรสอน โดยเปิดสอนชนั้ มธั ยมปี ท่ี 4 ถึง ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ท่ี 6 มีนกั เรียน เริ่มแรกจำนวน 16 คน มีนำยถนอม ดวงแก้ว เป็นผ้รู ักษำกำรในตำแหนง่ ครูใหญ่คนแรก ปี กำรศกึ ษำ 2502 ได้รับควำมอนเุ ครำะห์จำก คณุ สงวน บญุ รักษ์ อนญุ ำตให้ใช้ท่ีดนิ จำนวน 10 ไร่ ท่ี ถนนพหลโยธิน ตำบลโคกสำโรง เป็นสถำนท่ีก่อสร้ำงอำคำรเรียนและปี กำรศกึ ษำ 2503 ได้เปลี่ยนช่ือ โรงเรียนใหมเ่ ป็ น “โรงเรียนโคกสำโรงวิทยำ” เปิ ดทำกำรสอนตงั้ แตช่ นั้ มธั ยมศกึ ษำปี ท่ี 1 ถึงชนั้ มธั ยมศกึ ษำ ปี ท่ี 3 แบบสหศกึ ษำ ปี กำรศกึ ษำ 2514 นำยชวลิต แสงคล้อย ซง่ึ เป็นครูใหญ่ในขณะนนั้ เห็นวำ่ สถำนท่ีเรียนเดมิ คบั แคบ ประกอบกบั นกั เรียนเดมิ มีจำนวนเพมิ่ ขนึ ้ จงึ ได้ติดตอ่ กบั พอ่ ค้ำ คหบดี ผ้ปู กครองนกั เรียน ได้รับบริจำคเงิน ซือ้ ท่ีดนิ ตำบลคลองเกตตุ ิดถนนสรุ ะนำรำยณ์ หมู่ 9 จำนวน 46 ไร่ 98 ตำรำงวำ และนำยสงั วำลย์ หนิ เกิด ได้รับบริจำคท่ีดนิ เพ่ิมอีก 6 ไร่ 82 ตำรำงวำ รวมเป็ นเนือ้ ท่ี ทงั้ หมด 52 ไร่ 1 งำน 60 ตำรำงวำ ซงึ่ เป็นท่ีตงั้ ของโรงเรียนในปัจจบุ นั ได้ดำเนินกำรก่อสร้ำงอำคำรเรียนและทยอยย้ำย นกั เรียน มำเรียนสถำนที่ใหม่ ตงั้ แตป่ ี กำรศกึ ษำ 2516 จนถงึ ปี กำรศกึ ษำ 2520 ได้ย้ำยนกั เรียนทงั้ หมดมำเรียนสถำนที่เรียนใหมต่ งั้ แตน่ นั้ มำ โดยมีนำยอดุ ม เกตวุ วิ ฒั น์ ดำรงตำแหนง่ อำจำรย์ใหญ่คนแรก ปัจจบุ นั นำยสำรวย วฒั นวงศ์ ผ้อู ำนวยกำรโรงเรียนโคกสำโรงวิทยำ วิทยฐำนะชำนำญกำรพิเศษ (คศ. ๓) มีนโยบำยในกำรบริหำรจดั กำรศกึ ษำให้เป็น โรงเรียนท่ีพฒั นำผ้เู รียนทงั้ ทำงด้ำนร่ำงกำย สตปิ ัญญำ อำรมณ์ และกำรปฏิบตั เิ พื่อเข้ำสสู่ งั คม ตลอดจนจดั หลกั สตู รที่จดั กำรเรียนรู้แบบบรู ณำกำรตำมจดุ เน้นของ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขนั้ พืน้ ฐำน (สพฐ.) และขบั เคลื่อนนโยบำยตำมแนวทำงของสำนกั งำน เขตพืน้ ที่กำรศกึ ษำมธั ยมศกึ ษำเขต ๕ ซงึ่ กำรกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่เน้นกระบวนกำรคิดเชงิ รุก (Active Learning) ฝึกทกั ษะกระบวนกำรแก้ปัญหำ (STEM Education) และกำรจดั กำรเรียนกำรสอน Coding และ Computing Science

การดาเนินงานสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรียน จำกปรัชญำกำรสร้ำงนกั อนรุ ักษ์ ตำมแนวทำงกำรดำเนินงำน ของโครงกำรอนรุ ักษ์พนั ธุกรรมพืชอนั เนื่องมำจำกพระรำชดำริ สมเดจ็ พระเทพรัตนรำชสดุ ำ ฯ สยำมบรมรำชกมุ ำรี ควำมว่ำ “กา ทำให้ผ้บู ริหำรและคณะครูโรงเรียนโคกสำโรงวิทยำเกิดแนวคดิ ท่ีจะสนองพระรำชดำริ และเข้ำร่วม เป็นสมำชิกสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียน ตงั้ แตป่ ี กำรศกึ ษำ ๒๕๕๐ โดยมงุ่ หวงั ให้นกั เรียนได้เรียนรู้โดยกำร สมั ผสั ของจริงจนรู้ทกุ สงิ่ ทกุ อย่ำง สำมำรถสร้ำงจนิ ตนำกำร เกิดควำมคดิ สร้ำงสรรค์ เกิดควำมรักควำม ผกู พนั มีสนุ ทรียภำพ ควำมเอือ้ อำทรจนตระหนกั ในควำมรับผิดชอบตอ่ ชีวิตทกุ ชีวิต เหน็ ควำมสำคญั ของ กำรอนรุ ักษ์ พนั ธกุ รรมพืช เรียนรู้ทรัพยำกรใกล้ตวั อยำ่ งถ่องแท้ จริงจงั เพ่ือให้เกิด จติ สำนกึ รัก หวงแหน และ อยรู่ ่วมกนั กบั ธรรมชำติอยำ่ งพงึ่ พำอำศยั กนั และกนั กำรดำเนนิ งำนสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียนของโรงเรียนโคกสำโรงวทิ ยำได้กำหนดแนวทำงกำร ปฏิบตั ไิ ว้ ๔ ประกำร ประกอบด้วย ๑) เน้นให้นกั เรียนเรียนรู้โดยกำรปฏิบตั จิ ริง มีสว่ นร่วมทกุ ขนั้ ตอน ๒) จดั กระบวนกำรเรียนรู้โดยใช้งำนสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียนเป็นส่ือกำรเรียนรู้ ๓) จดั กำรเรียนกำรสอนโดย บรู ณำกำรงำนสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียนเข้ำ กบั ทกุ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ของหลกั สตู รแกนกลำง และ ๔) ให้ ครูเป็น พี่เลีย้ งคอยให้คำแนะนำ กระต้นุ ให้นกั เรียนทำกิจกรรมให้ครบสมบรู ณ์ ตำมแผนรให้

การเตรียมการด้านการบริหารและการจัดการ ผ้บู ริหำรโรงเรียนได้ชีแ้ จงสร้ำงควำมเข้ำใจแกค่ ณะครู และนำ แนวทำงกำรบริหำรจดั กำร สถำนศกึ ษำตำมพระรำชบญั ญตั กิ ำรศกึ ษำแหง่ ชำติ ทงั้ ๔ ภำรกิจ คือ ด้ำนวชิ ำกำร ด้ำนงบประมำณ ด้ำน บริหำรบคุ คล และด้ำนบริหำรทว่ั ไปมำประยกุ ต์ใช้เพื่อเสริมกำรบริหำรจดั กำรงำน สวนพฤกษศำสตร์ โรงเรียน โดยมอบหมำยให้คณะผ้บู ริหำร ซงึ่ ประกอบด้วย รองผ้อู ำนวยกำร ผ้ชู ว่ ยผ้อู ำนวยกำรในแตล่ ะด้ำน มีหน้ำที่กำกบั ดแู ล และ ให้กำรสนบั สนนุ กำรดำเนินงำนสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียน พร้อมทงั้ กำหนด ให้ บรรจงุ ำนสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียนไว้ในแผนปฏิบตั กิ ำรประจำปี ของ โรงเรียน แตง่ ตงั้ คณะกรรมกำรในแต่ ละองคป์ ระกอบและสำระกำรเรียนรู้ ของงำนสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียน แตง่ ตงั้ คณะกรรมกำรฝ่ ำยวชิ ำกำร เป็น แกนกลำงในกำรขบั เคลื่อนภำรกิจด้ำนกำรจดั กำรเรียนรู้แกน่ กั เรียน และ แตง่ ตงั้ ให้คณะครูจำกกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์เป็นผ้ปู ระสำนงำน งำนสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียน คณะกรรมกำรฝ่ ำยวิชำกำร คณะผ้ปู ระสำนงำนโครงกำรได้ร่วมกบั ฝ่ ำยอำคำรสถำนท่ีของโรงเรียนทำกำรสำรวจพืน้ ท่ี พืชศกึ ษำ และ พรรณไม้ ตำ่ ง ๆ ในโรงเรียนที่มีอยเู่ ดมิ แล้ววำงแผนกำรใช้พืน้ ที่ กำหนดเขตพืน้ ที่ ศกึ ษำ พฒั นำสภำพ บรรยำกำศและสิง่ แวดล้อมให้เอือ้ อำนวยตอ่ กำร จดั กำรเรียนรู้ จดั หำวสั ดอุ ปุ กรณ์ที่จำเป็นตอ่ กำรจดั กำร เรียนรู้ และนำพืชท่ี กำหนดเป็นศกึ ษำมำปลกู เพม่ิ เตมิ เพื่อให้มีจำนวนเพียงพอสำหรับกำรศกึ ษำ ของ นกั เรียน และเหมำะสม สอดคล้องกบั กำรศกึ ษำแตล่ ะสว่ นประกอบยอ่ ย 35 การมอบหมายหน้าท่ีรับผิดชอบแก่คณะครูและการพัฒนาครู โรงเรียนได้มอบหมำยให้คณะครูรับผิดชอบงำนเป็นทีมเพื่อ ขบั เคลื่อนภำรกิจกำรบรู ณำกำรงำน สวนพฤกษศำสตร์โรงเรียนเข้ำสกู่ ำรจดั กำรเรียนรู้ตำมองค์ประกอบ ๕ องค์ประกอบ (กำรจดั ทำป้ ำยชื่อ พรรณไม้ กำรรวบรวมพรรณไม้เข้ำปลกู ในโรงเรียน กำรศกึ ษำข้อมลู ด้ำนตำ่ ง ๆ กำรรำยงำนผลกำรเรียนรู้ กำรนำไปใช้ประโยชน์ทำงกำรศกึ ษำ) และ ๓ สำระกำรเรียนรู้ (ธรรมชำตแิ หง่ ชีวิต สรรพสิ่งล้วนพนั เก่ียว ประโยชน์แท้ แก่มหำชน) คณะกรรมกำร คณะทำงำนด้ำนตำ่ ง ๆ ทงั้ ด้ำนกำรบริหำรและ กำรจดั กำร ด้ำน กำรดำเนนิ งำน ด้ำนผลกำรดำเนนิ งำน ด้ำนควำมถกู ต้อง ทำงวชิ ำกำร หวั หน้ำสำยชนั้ และหวั หน้ำกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้หลกั สตู ร แกนกลำงได้ประชมุ ปรึกษำหำรือ ประสำนงำนและวำงแผนกำรขบั เคล่ือนงำน ร่วมกนั

ในชว่ งเริ่มต้น ผ้บู ริหำรและคณะครูจำนวนหนงึ่ ท่ีเกี่ยวข้องในแตล่ ะ องค์ประกอบ/สำระกำรเรียนรู้ ได้เข้ำอบรมแนวทำงกำรจดั กำรเรียนรู้ตำม องค์ประกอบและสำระกำรเรียนรู้ของงำนสวนพฤกษศำสตร์ โรงเรียน หลกั สตู รกำรอบรม ๑ วนั โดยวิทยำกรจำกโครงกำรอนรุ ักษ์พนั ธกุ รรมพืช อนั เนื่องมำจำกพระรำชดำริ ฯ เป็นผ้ใู ห้กำรอบรม จำกนนั้ ได้กลบั มำประชมุ ชีแ้ จงแนวทำงกำร ปฏิบตั แิ กค่ ณะครูทงั้ โรงเรียน ตอ่ มำผ้แู ทนคณะครู ท่ีรับผดิ ชอบแตล่ ะองคป์ ระกอบได้ไปประชมุ และเข้ำ อบรมเพม่ิ เตมิ เกี่ยวกบั กำรจดั กำรเรียนรู้ในองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องตำมฐำนอบรมโรงเรียนเครือขำ่ ย สวน พฤกษศำสตร์โรงเรียนพืน้ ที่กรุงเทพมหำนครท่ีโครงกำรอนรุ ักษ์ พนั ธกุ รรมพืชอนั เนื่องมำจำกพระรำชดำริ ฯ จดั กำรประชมุ และอบรม (จดั กำรประชมุ อบรม ประมำณครัง้ ละ ๒ วนั ) แล้วกลบั มำขยำยผล แกค่ ณะครูทกุ คนทงั้ ครูที่รับผิดชอบองค์ประกอบเดยี วกนั และครูที่รับผิดชอบ องคป์ ระกอบอื่น เพื่อให้บรรลเุ ป้ ำหมำยกำร พฒั นำ

“ให้ครูทกุ คนรู้ลกึ รู้จริง (ชำนำญในกำรปฏบิ ัติ) ในองค์ประกอบ ท่รี ับผิดชอบ และเข้ำใจภำพรวม ปฏิบัตไิ ด้ตำมองค์ประกอบท้งั หมด” เป็ น คณะครูและนกั เรียนบำงสว่ นได้เข้ำร่วมงำนกำรประชมุ วิชำกำร และนิทรรศกำรสวนพฤกษศำสตร์ โรงเรียนและฐำนทรัพยำกรท้องถ่ินระดบั ภมู ิภำค ขณะที่คณะครูผ้ปู ระสำนงำนโครงกำรงำนสวน พฤกษศำสตร์ โรงเรียนได้เข้ำร่วมกำรประชมุ กลมุ่ ท่ีจดั ขนึ ้ เป็นระยะ ๆ ทำให้ทรำบ ข้อมลู แนวทำงกำร ดำเนินงำน และข้อมลู ใหม่ ๆ จำกโครงกำรอนรุ ักษ์ พนั ธุกรรมพืช ฯ และประสบกำรณ์จำกโรงเรียนเครือขำ่ ย ท่ีสำมำรถนำมำพฒั นำงำนได้ง การบูรณาการการเรียนรู้งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนกับ หลักสูตรแกนกลาง ในระยะเตรียมกำร ฝ่ ำยวชิ ำกำร โดยคณะครูจำกกลมุ่ สำระ กำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ หลกั สตู ร แกนกลำง (หลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำ ขนั้ พืน้ ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑) ร่วมกบั คณะครูที่รับผิดชอบใน แตล่ ะ องค์ประกอบของงำนสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียนได้ร่วมกนั วิเครำะห์ ควำมสอดคล้องระหวำ่ งตวั ชีว้ ดั และสำระกำรเรียนรู้ ๘ กลมุ่ สำระในแตล่ ะ ระดบั ชนั้ ของหลกั สตู รแกนกลำงกบั สำระกำรเรียนรู้ องคป์ ระกอบและ ลำดบั กำรเรียนรู้ของแตล่ ะองค์ประกอบของงำนสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียน แล้วจดั ทำผงั มโนทศั น์แนวทำงกำรบรู ณำกำร จดั ทำแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ ใบควำมรู้ ใบงำน โดยร่วมกนั ทำไป พฒั นำไป ทีละกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ทงั้ นี ้มีทงั้ ท่ีได้พฒั นำแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ พฒั นำสื่อ ใบควำมรู้ ใบงำนขนึ ้ มำ ใหม่ และมีบำงสว่ นที่ได้ปรับ ประยกุ ต์ใช้แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ ใบควำมรู้ ใบงำนที่โรงเรียนอ่ืนนำมำใช้หรือ ดำเนินกำรมำก่อน ทำให้ได้แผนกำร จดั กำรเรียนรู้ท่ีเป็นแผนบรู ณำกำรงำนสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียนที่ แสดงให้เห็น วิธีกำรจดั กำรเรียนรู้อยำ่ งชดั เจนในทกุ ระดบั ชนั้ และทกุ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ จำกนนั้ ได้ประชมุ ชีแ้ จงทำควำมเข้ำใจแก่คณะครูทงั้ โรงเรียนถงึ แนวทำง กำรจดั กำรเรียนกำรสอนตำมแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กำรใช้ส่ือ ใบควำมรู้ ใบงำน และวสั ดอุ ปุ กรณ์ท่ีเกี่ยวข้อง แล้วให้คณะครูนำไปใช้ในกำรจดั กำรเรียนกำร สอนตอ่ ไปคว การจัดการเรียนร้ ูตามองค์ ประกอบงานสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรียน โรงเรียนโคกสำโรงวิทยำ ได้แบง่ พืน้ ที่ภำยในโรงเรียน เป็นพืน้ ท่ีศกึ ษำพรรณไม้ของนกั เรียน ออกเป็ น ๖ พืน้ ที่ ในกำรลงไปศกึ ษำ เรียนรู้พรรณไม้นกั เรียนในพืน้ ท่ีศกึ ษำนนั้ นกั เรียนจะหมนุ เวียนกนั ลงไป สำรวจ ศกึ ษำ เรียนรู้พรรณไม้ในพืน้ ท่ีศกึ ษำที่ได้รับมอบหมำย และศกึ ษำ พืชศกึ ษำของโรงเรียนอยำ่ งละเอียด โดย ใช้เวลำตำมคำบเวลำเรียนปกติ และเวลำในชว่ ง “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลารู้” ตำมท่ีครูผ้สู อนในระดบั ชนั้ แตล่ ะกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้มอบหมำย ในแตล่ ะพืน้ ท่ีศกึ ษำพรรณไม้นนั้ ประกอบด้วยพรรณไม้หลำกหลำย ชนดิ ทงั้ ไม้ต้น ไม้พมุ่ ไม้ล้มลกุ ไม้เลือ้ ย ไม้ดอก พืชสมนุ ไพร พืชอำหำร และอื่น ๆ ในแตล่ ะพืน้ ท่ีศกึ ษำจะมี นกั เรียน หลำยระดบั ชนั้ เข้ำศกึ ษำ คณะครูจะเป็ นผ้เู ตรียมกำรสอน แนะนำกำรเรียน รู้แก่นกั เรียนและมอบ

แนวทำงกำรเข้ำศกึ ษำ โดยให้ “พี่ชว่ ยน้อง เพื่อนชว่ ย เพ่ือน” นกั เรียนทกุ คนจะได้รับสมดุ บนั ทกึ ข้อมลู “กำรศกึ ษำพรรณไม้ใน สวนพฤกษศำสตร์โรงเรียน” ตำมระดบั ชนั้ ท่ีตนเองกำลงั ศกึ ษำอยู่ สมดุ บนั ทกึ ข้อมลู ดงั กลำ่ วมี ๒ เลม่ คอื ๑) สมดุ บนั ทกึ ข้อมลู กำรศกึ ษำพรรณไม้ในสวนพฤกษศำสตร์ โรงเรียน ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ที่ ๑ -๓ ๒) สมดุ บนั ทกึ ข้อมลู กำรศกึ ษำพรรณไม้ในสวนพฤกษศำสตร์ โรงเรียน ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปี ที่ ๔ –๖ สมดุ บนั ทึกแตล่ ะเลม่ มีเนือ้ หำสำระและกิจกรรมที่กำหนดให้ปฏิบตั ิ โดยบรู ณำกำรระหวำ่ งสำระ กำรเรียนรู้ตำมหลกั สตู รแกนกลำงขนั้ พืน้ ฐำนกบั าสำระกำรเรียนรู้และองคป์ ระกอบของงำนสวน พฤกษศำสตร์โรงเรียน ซงึ่ รำยละเอียดของเนือ้ หำและกิจกรรมมีควำมยำกงำ่ ยแตกตำ่ งกนั ไป มอ นกั เรียนจะศกึ ษำโดยกำรสงั เกต ดู สมั ผสั พืชพรรณในพืน้ ท่ีศกึ ษำ แล้วจดบนั ทกึ ลงในสมดุ บนั ทกึ ข้อมลู ของ ตน และสง่ งำนตำมท่ีกำหนด กิจกรรมที่มอบหมำยให้นกั เรียนปฏิบตั เิ ป็นไปตำมขอบขำ่ ยและลำดบั กำร เรียนรู้ท่ีกำหนดไว้ และได้บรู ณำกำรระหวำ่ งสำระกำรเรียนรู้ตำม หลกั สตู รแกนกลำงแล้ว ประกอบด้วย ๑. จัดทาป้ ายช่ือพรรณไม้ โดยแบง่ พืน้ ที่ภำยในโรงเรียนเป็น พืน้ ที่ศกึ ษำพรรณไม้ของนกั เรียน ออกเป็น ๖ พืน้ ท่ี สำรวจพรรณไม้ในพืน้ ที่ ศกึ ษำ จดั ทำผงั พรรณไม้ ศกึ ษำพรรณไม้ในโรงเรียน ถำ่ ยภำพ และวำดภำพ พรรณไม้ เก็บตวั อยำ่ งพรรณไม้แบบแห้ง สงั เกตและจดบนั ทกึ ชนิดพรรณไม้ ท่ีออกดอกออก ผล บนั ทกึ ข้อมลู ลงในฐำนข้อมลู ทะเบียนพรรณไม้ ของโรงเรียน ออกแบบและทำร่ำงป้ ำยชื่อพรรณไม้ สมบรู ณ์ ตรวจสอบ ควำมถกู ต้องของข้อมลู ทำงพฤกษศำสตร์ ทำทะเบยี นพรรณไม้ ทำป้ ำยช่ือ พรรณไม้สมบรู ณ์ และติดแสดงในพืน้ ที่ศกึ ษำ ๒. รวบรวมพรรณไม้เข้าปลูกในโรงเรียน โดยศกึ ษำข้อมลู ด้ำนตำ่ ง ๆ ทงั้ ด้ำนข้อมลู พรรณไม้ ข้อมลู ด้ำนพฤกษศำสตร์ สภำพดนิ นำ้ ทศิ ทำงลม แสง และปัจจยั ทำงกำยภำพอ่ืน ๆ ในพืน้ ท่ีศกึ ษำท่ีกำหนด ไว้ เพ่ือนำพรรณไม้มำเข้ำปลกู ในบริเวณท่ีมีลกั ษณะทำงกำยภำพที่เหมำะสม ตำมท่ีนกั เรียนได้ศกึ ษำไว้ ๓. ศึกษาข้อมูลด้านต่าง ๆ โดยศกึ ษำพรรณไม้ในสวนพฤกษศำสตร์ โรงเรียนท่ีเป็ นพืน้ ที่ศกึ ษำ ของตน ศกึ ษำพืชศกึ ษำ ๒ ชนิด คอื อญั ชนั และลกู ใต้ใบ โดยศกึ ษำวงจรชีวิต แล้วบนั ทกึ ลงในสมดุ บนั ทกึ

เชน่ ตอบแบบสอบถำม เขียนแผนผงั ภำพวำด บนั ทกึ เป็ นข้อควำม เขียนสรุปผล ผลกำรเรียนรู้ เขียนควำม ประทบั ใจท่ีได้เรียนรู้ บนั ทกึ ควำมรู้สกึ ท่ีได้สนอง พระรำชดำริ ฯ เป็นต้น ๔. รายงานผลการเรียนรู้ จำกกำรศกึ ษำพรรณไม้และพืชศกึ ษำ โดยจดั ทำรำยงำน นำเสนอ ผลงำนในรูปแบบตำ่ ง ๆ ซง่ึ สง่ ผลให้นกั เรียน กล้ำคดิ กล้ำแสดงออกอยำ่ งถกู ทำง สำมำรถเรียบเรียงสำระท่ี เกิดจำก กำรเรียนรู้จดั ทำเป็ นเอกสำร รำยงำนตำ่ ง ๆ โดยมีคณะครูคอยให้คำแนะนำ เพื่อให้นกั เรียนมี ควำมสำมำรถในเชิงวิชำกำร ทงั้ ทกั ษะภำษำ ศลิ ปะ และ วทิ ยำศำสตร์ ๕. นาไปใช้ประโยชน์ทางการศกึ ษา โดยให้นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น และมธั ยมศกึ ษำ ตอนปลำยเสนอแนวคิดเพื่อนำคณุ สมบตั ิ และศกั ยภำพของพืชศกึ ษำมำใช้ประโยชน์ และแนวทำงกำรทำ เป็นชิน้ งำน การเรียนรู้พืชศกึ ษา โรงเรียนโคกสำโรงวิทยำได้เลือกพืชศกึ ษำ ๒ ชนดิ คอื อัญชัน และลูกใต้ใบ “อญั ชนั ” เป็นไม้เถำ เลือ้ ย มีถ่ินกำเนิดอย่ใู นอเมริกำใต้ เป็นพืชสมนุ ไพร ท่ีนำมำรับประทำนได้ อดุ มไปด้วยสรรพคณุ ทำงยำ เป็น สมนุ ไพรที่ให้ ประโยชน์ได้ตงั้ แตร่ ำกจนถงึ ดอก สว่ น “ลกู ใต้ใบ” เป็นสมนุ ไพรชนิดหนงึ่ ที่พบทวั่ ทกุ ภำคของ เมืองไทย และในประเทศเขตร้อน มีสรรพคณุ ทำงยำ นกั เรียนได้ศกึ ษำวงจรชีวิตของอญั ชนั และลกู ใต้ใบ โดยสงั เกต และบนั ทกึ ควำมเปลี่ยนแปลงลกั ษณะรูปร่ำง รูปทรง สี ผิว เนือ้ ขนำดของ รำก ลำต้น ใบ ดอก ผล และเมล็ดของอญั ชนั และลกู ใต้ใบท่ีเปล่ียนแปลงไป ในแตล่ ะชว่ งเวลำ รวมทงั้ ศกึ ษำระบบนเิ วศ ชีวภำพ และกำยภำพท่ีเก่ียวข้อง กบั กำรเจริญเตบิ โต วธิ ีกำรปลกู กำรขยำยพนั ธ์ุ และให้กลมุ่ นกั เรียนท่ีมี ควำมสนใจ ท่ีจะศกึ ษำข้อมลู โดยละเอียดตอ่ เนื่องทำกำรสืบค้นข้อมลู ควำมรู้ ท่ีเกี่ยวข้องกบั พืชศกึ ษำตำมควำมสนใจ จำกแหลง่ ข้อมลู ตำ่ ง ๆ เชน่ โรงเรียนได้จดั กิจกรรมคำ่ ยปฏิบตั กิ ำรงำนสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียน เพื่อสงั เกต และถำ่ ยภำพพืชศกึ ษำ รวมทงั้ ชีวภำพท่ีมำเกี่ยวข้องกบั พืชศกึ ษำ กำรประกวดวำดภำพ เป็นต้น และได้ วิเครำะห์ศกั ยภำพและสรรพคณุ แล้ว พบวำ่ มีสำรท่ีเป็นสรรพคณุ ชว่ ยขบั สำรพิษจำกร่ำงกำย จงึ ทดลองนำ ดอกอญั ชนั มำทำผลิตภณั ฑ์เพื่อขจดั ส่ิงสกปรกที่สำมำรถใช้ในชีวติ ประจำวนั หลำยชนิด เชน่ เจลล้ำงมือ นำ้ ยำซกั ผ้ำ นำ้ ยำถพู ืน้ นำ้ ยำเช็ดกระจกนอกเหนือจำกกำรจดั กำรเรียนกำรสอนแบบบรู ณำกำรระหวำ่ ง กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ๘ กลมุ่ สำระตำมหลกั สตู รแกนกลำงกบั องคป์ ระกอบ และสำระกำรเรียนรู้ของงำนสวน พฤกษศำสตร์โรงเรียนที่กลำ่ วมำแล้ว โรงเรียนโคกสำโรงวิทยำยงั ได้จดั กิจกรรมเพื่อเสริมสร้ำงกำรเรียนรู้ใน ลกั ษณะอื่น ๆ เชน่ กำรจดั คำ่ ยปฏิบตั กิ ำรงำนสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียน กำรจดั นิทรรศกำรแสดงผลงำน ทำงวชิ ำกำรเกี่ยวกบั กิจกรรมสวนพฤกษศำสตร์ โรงเรียนในงำนสปั ดำห์วิทยำศำสตร์ กำรนำนกั เรียนไป ศกึ ษำข้อมลู ชมุ ชน เป็นต้น รวมทงั้ ได้นำคณะครูและนกั เรียนไปเข้ำร่วมกำรประชมุ วชิ ำกำร จดั แสดง นำเสนอผลงำน/ประสบกำรณ์ในงำนประชมุ วชิ ำกำรและ นิทรรศกำรสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียนระดบั

ภมู ภิ ำค เพื่อสร้ำงเสริม ประสบกำรณ์และควำมภำคภมู ใิ จที่ได้มีสว่ นร่วมในกำรอนรุ ักษ์พนั ธกุ รรมพืช และ ได้ศกึ ษำเรียนรู้จนเข้ำใจพืช รวมทงั้ ปัจจยั ชีวภำพและกำยภำพ ที่เก่ียวพนั กบั พืชพรรณอยำ่ งถ่องแท้ การมีส่ วนร่ วมของผ้ ูปกครองและชุมชน โรงเรียนโคกสำโรงวทิ ยำได้รับกำรสนบั สนนุ เป็นอยำ่ งดีจำก ในด้ำนงบประมำณเพ่ือจดั หำวสั ดุ อปุ กรณ์ในกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้งำนสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียนของนกั เรียนและคณะครู รวมทงั้ ได้รับ กำรสนบั สนนุ จำกคณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำคณะกรรมกำร เครือขำ่ ยผ้ปู กครอง คณะกรรมกำรมลู นิธิ เมตตำเยำวชนโรงเรียนโคกสำโรงวทิ ยำ สมำคมผ้ปู กครองและครู และชมรมศษิ ย์เกำ่ ในกำรมีสว่ นร่วม พฒั นำคณุ ภำพกำรจดั กำรศกึ ษำ โรงเรียนได้แจ้งผลกำรดำเนินงำนสวนพฤกษศำสตร์ โรงเรียนในกำร ประชมุ ผ้ปู กครอง กำรประชมุ สมำคมผ้ปู กครองและครู กำรประชมุ คณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำเป็นประจำ รวมทงั้ ได้ให้บริกำร ด้ำนอำคำรสถำนที่ และเข้ำร่วมกิจกรรมที่ชมุ ชนจดั อยำ่ งสม่ำเสมอ ในขณะท่ี ผ้นู ำชมุ ชน และภมู ปิ ัญญำท้องถ่ินในชมุ ชนก็มีสว่ นสำคญั ในกำรให้ข้อมลู ควำมรู้ ให้กำรสนบั สนนุ คณะครูและนกั เรียน ในกำรสำรวจและจดั ทำฐำนทรัพยำกรท้องถิ่นซง่ึ เป็นกำรเก็บรวบรวมข้อมลู ทำงด้ำนกำยภำพ ชีวภำพ รวมทงั้ วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญำท้องถิ่นของชมุ ชนโดยรอบตงั้ แต่ อดีตถงึ ปัจจบุ นั เพื่อนำมำวเิ ครำะห์จดั ทำ เป็นระบบฐำนข้อมลู ตอ่ ไป า ผลท่เี กดิ ขึน้ ๑. ด้านวิชาการ โรงเรียนมีกำร พฒั นำหลกั สตู รกำรจดั กำรศกึ ษำแบบ บรู ณำกำรสำระกำรเรียนรู้ ทงั้ ๘ กลมุ่ สำระ ฯ และจดั กิจกรรมเพ่ือกำรเรียนรู้ตลอดชีวติ ในลกั ษณะตำ่ ง ๆ เชน่ กำรจดั คำ่ ยปฏิบตั กิ ำร กำรจดั นิทรรศกำรแสดงผลงำนทำงวชิ ำกำร ฯลฯ นกั เรียนและครูมีกำรออกแบบภมู ิทศั น์และสภำพแวดล้อม ของโรงเรียนให้มีควำมสะอำด เป็นระเบยี บ ร่มร่ืน นำ่ อยู่ นำ่ ศกึ ษำเรียนรู้ โรงเรียนมีแหลง่ เรียนรู้ภำยใน สถำนศกึ ษำเพม่ิ ขนึ ้ หลำยแหง่ เชน่ สวนสมนุ ไพร สวนไม้ดอกไม้ประดบั สวนพืชผกั สวนครัว มีห้องสวน พฤกษศำสตร์โรงเรียน มีคอมพวิ เตอร์ที่จดั เก็บข้อมลู และสืบค้นข้อมลู เป็นต้น และยงั เป็น แบบอยำ่ งในกำรดำเนินงำนสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียนแก่โรงเรียนอ่ืน ๒. ด้านภูมิปัญญา นกั เรียนรู้จกั วธิ ีกำรถ่ำยทอดควำมรู้ มีองค์ ควำมรู้ใหม่ และสร้ำงนวตั กรรม โดย นำพืชศกึ ษำมำทำเป็นผลติ ภณั ฑ์ขจดั สิ่งสกปรกที่สำมำรถนำมำใช้ในชีวิตประจำวนั เชน่ เจลล้ำงมือ นำ้ ยำ ซกั ผ้ำ นำ้ ยำถพู ืน้ นำ้ ยำเชด็ กระจก นอกจำกนีโ้ รงเรียนยงั ได้สง่ เสริมกำรมีสว่ นร่วม ของผ้ปู กครองและชมุ ชน โดยเชิญปรำชญ์ภมู ปิ ัญญำท้องถิ่นมำเป็ นวทิ ยำกร ถำ่ ยทอดองค์ควำมรู้ในกำรทำ “ธงตะขำบ” ซงึ่ เป็น สญั ลกั ษณ์และมีควำม สำคญั ท่ีเกี่ยวข้องกบั ประเพณีแห่หงส์ - ธงตะขำบที่คนในพืน้ ที่สืบสำนมำ จนถึง ปัจจบุ นั กำรทำธงตะขำบยงั ทำให้นกั เรียนได้เรียนรู้และมีจิตสำนกึ ด้ำนกำรรอนรุ ักษ์พนั ธกุ รรมพืช ทงั้ ตระหนกั ในคณุ คำ่ และใช้ประโยชน์ ทรัพยำกรกำยภำพ ชีวภำพ วฒั นธรรมและภมู ิปัญญำอยำ่ งครบถ้วน

๓. ด้านคุณธรรมและจริยธรรม ผลท่ีเกิดกบั นกั เรียนนนั้ พบวำ่ จำกกำรท่ีนกั เรียนได้ใกล้ชิดกบั พรรณไม้ สง่ ผลให้นกั เรียนมีควำมรักและ เห็นคณุ คำ่ ของพืชพรรณ เข้ำใจกระบวนกำรศกึ ษำค้นคว้ำ เก่ียวกบั พืชพรรณไม้ ตำ่ ง ๆ จนนบั วำ่ เป็นผ้เู ช่ียวชำญระดบั ท้องถิ่นในเร่ืองพรรณไม้ ซงึ่ จะนำไปสู่ กำรเกิด จิตสำนกึ รัก อนรุ ักษ์พืชพรรณและสิง่ แวดล้อม นอกจำกนีน้ กั เรียน ยงั ได้ศกึ ษำเรียนรู้ด้วยควำมเบกิ บำน มี ชีวิตชีวำ มีควำมรับผิดชอบในกำรดแู ล รักษำเขตพืน้ ท่ีศกึ ษำของตน ทำงำนด้วยควำมอดทนตอ่ สภำพดนิ ฟ้ ำ อำกำศ อดทนรอคอยศกึ ษำกำรเจริญเตบิ โตของพืช มีควำมเพียรรอคอยท่ี จะศกึ ษำและบนั ทกึ ผลกำร เรียนรู้ให้ครบทกุ สว่ นประกอบของพืช สำมำรถ ทำงำนร่วมกนั เป็นทีม ให้ควำมชว่ ยเหลือเอือ้ อำทรเพ่ือน นกั เรียนและ นกั เรียนรุ่นน้อง คณะครูมีกำรทำงำนเป็นทีม มีควำมเอือ้ อำทร มีกำรแลกเปล่ียน เรียนรู้กนั อยำ่ งสม่ำเสมอ มีควำม ชำนำญในกำรพฒั นำหลกั สตู รและกำรจดั กระบวนกำรเรียนกำรสอนแบบบรู ณำกำร และพฒั นำกำรจดั กิจกรรมกำร เรียนกำรสอนอยำ่ งตอ่ เนื่อง บทสรุปความสาเร็จ โรงเรียนได้ขอเข้ำรับกำรประเมินจำก โครงกำรอนรุ ักษ์พนั ธกุ รรมพืชอนั เนื่องมำจำกพระรำชดำริฯ จำกกำรท่ี โรงเรียนมีผลกำรดำเนนิ งำนเป็นที่ประจกั ษ์ มีควำมมงุ่ มน่ั จงึ สง่ ผลให้ ผำ่ น กำรประเมนิ และได้เข้ำรับพระรำชทำนเกียรตบิ ตั รงำนสวนพฤกษศำสตร์ โรงเรียน ขนั้ ท่ี ๑ “เกียรติบตั ร แห่งความม่งุ มน่ั อนรุ กั ษ์สรรพสิ่ง สรรพชีวิต ดว้ ยไวพจน์แห่งจิตสานึกของเยาวชน ในงำน ประชมุ วชิ ำกำร และนิทรรศกำรสวนพฤกษศำสตร์โรงเรียนระดบั ภมู ภิ ำค การุณย์ สรรพชีวิต สรรพส่งิ ”


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook