วช.9 แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 10 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 ฟังกช์ ันกำลงั สอง เรื่อง การนำความรเู้ กีย่ วกบั ฟังก์ชันกำลังสองไปใช้ในการแก้ปัญหา กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รายวชิ า คณิตศาสตร์พื้นฐาน 5 รหัสวิชา ค23111 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เวลา 4 ช่ัวโมง ครผู ู้สอน นายคุณาสนิ ชตุ นิ นั ท์ โรงเรียนวิมตุ ยารามพทิ ยากร 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั ค 1.2 ม.3/2 เข้าใจและใชค้ วามรเู้ กย่ี วกับฟงั กช์ ันกำลงั สองในการแกป้ ญั หาคณติ ศาสตร์ 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2.1 อธบิ ายการนำความรู้เกีย่ วกับฟังกช์ ันกำลังสองไปใช้ในการแกป้ ัญหาได้ (K) 2.2 เขยี นแสดงวธิ ีทำเพื่อหาคำตอบโดยใชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาฟงั ก็ชันกำลงั สองได้อย่างถกู ต้อง (P) 2.3 นกั เรียนเห็นคุณคา่ ในภาษาไทย ใช้ส่ือสารอยา่ งถูกต้องและเหมาะสม (A) 3. สาระสำคญั 3.1 การแกโ้ จทยป์ ญั หาฟงั กช์ ันกำลังสองมขี นั้ ตอนคลา้ ยกบั การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั เรื่องอ่ืน ๆ แต่ ใช้ความรู้เก่ียวกบั ฟงั กช์ ันกำลังสองเช่น การเคลอ่ื นที่ของวัตถุ การหาความสัมพันธข์ องจำนวน มีขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 วเิ คราะหโ์ จทยปญหาเพอื่ พิจารณาวา โจทยกำหนดอะไรมาให และตองการหาอะไร ขั้นท่ี 2 กำหนดตวั แปรแทนส่ิงทโ่ี จทยตองการใหหาหรือแทนส่ิงที่สัมพนั ธกบั สิ่งที่โจทยตองการใหหา ขน้ั ที่ 3 พจิ ารณาเง่ือนไขท่ีแสดงการไม่เทากันตามท่โี จทยกำหนด แลวนำมาเขยี นเปน็ สมการ ข้ันที่ 4 แกสมการเพื่อหาคําตอบของส่ิงทีโ่ จทยตองการ ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบทไี่ ด้กบั เง่ือนไขท่ีโจทยกำหนด 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 5.1 รกั ความเป็นไทย 6. ภาระงาน /ชิ้นงาน 6.1 แบบฝกึ หดั ท่ี 10 เรื่องโจทยป์ ญั หาฟงั กช์ ันกำลงั สอง 6.2 บบทดสอบท้ายบท หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 ฟังก์ชนั กำลังสอง
วช.9 7. การวดั ผลและประเมินผลการเรยี นร/ู้ ภาระงาน การประเมนิ ระหว่างเรยี น - ปฏิสมั พันธ์ระหว่างครผู ้สู อนกับนกั เรียนขณะขั้นสอน - การตอบคำถามและความร่วมมอื ของนักเรียนท่ีมตี ่อตวั อย่างและคำถามทค่ี รผู ู้สอนกล่าว เปา้ หมาย หลกั ฐาน วิธวี ดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารวัด ตัวช้ีวดั (วิชาพ้ืนฐาน) - นกั เรียนทำ แบบฝึกหัดและ เขา้ ใจและใช้ความรู้เกีย่ วกับ - แบบฝึกหัดที่ 10 - ครูผู้สอนตรวจ - แบบฝึกหดั ท่ี 10 แบบทดสอบได้ ฟังกช์ นั กำลังสองในการ เรื่องโจทย์ปญั หา ถกู ต้องไม่นอ้ ยกวา่ แก้ปญั หาคณติ ศาสตร์ ฟังก์ชันกำลังสอง แบบฝึกหดั และ เร่อื งโจทยป์ ญั หา รอ้ ยละ 50 - แบบทดสอบทา้ ย ฟงั กช์ นั กำลังสอง แบบทดสอบทา้ ยบท - แบบทดสอบท้าย - นกั เรียนทำ แบบฝกึ หดั และ บท หน่วยการ บท หนว่ ยการ แบบทดสอบได้ ถกู ต้องไมน่ อ้ ยกวา่ เรียนรู้ที่ 3 ฟงั กช์ ัน เรยี นรทู้ ่ี 3 ฟังก์ชนั ร้อยละ 50 กำลังสอง กำลงั สอง - เม่ือแปลผล คณุ ภาพของ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ พฤติกรรมของ นักเรียนไมน่ ้อยกวา่ - อธิบายการนำความรู้ - แบบฝึกหดั ที่ 10 - ครูผูส้ อนตรวจ - แบบฝกึ หดั ท่ี 10 ระดับท่ี 2 ผ่าน เกณฑ์ เก่ยี วกับฟังกช์ นั กำลงั สองไป เรื่องโจทย์ปญั หา แบบฝกึ หัดและ เรือ่ งโจทยป์ ญั หา ใชใ้ นการแก้ปญั หาได้ (K) ฟังกช์ ันกำลงั สอง แบบทดสอบท้ายบท ฟงั ก์ชนั กำลงั สอง - แบบทดสอบทา้ ย - เขียนแสดงวิธีทำเพื่อหา - แบบทดสอบท้าย คำตอบโดยใช้กระบวนการ บท หนว่ ยการ บท หนว่ ยการ แก้ปญั หาฟังก็ชันกำลังสองได้ เรยี นรทู้ ่ี 3 ฟงั กช์ ัน เรียนรู้ที่ 3 ฟงั กช์ ัน อยา่ งถูกต้อง (P) กำลงั สอง กำลงั สอง - นกั เรียนเห็นคณุ ค่าใน ภาษาไทย ใช้สื่อสารอย่าง ถกู ต้องและเหมาะสม (A) สมรรถนะสำคญั - ความสามารถในการ - แบบสงั เกตุ - ครูผ้สู อนสังเกตุ - แบบสงั เกตุ พฤติกรรมและ พฤติกรรม สื่อสาร พฤติกรรม ความสามารถในการ สอ่ื สารของนักเรยี น
วช.9 เปา้ หมาย หลักฐาน วธิ วี ดั เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ ารวัด คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - รกั ความเปน็ ไทย - แบบสงั เกตุ - ครูผสู้ อนสงั เกตุ - แบบสังเกตุ - เมอ่ื แปลผล พฤติกรรม พฤติกรรมและ พฤติกรรม คณุ ภาพของ ความสามารถในการ พฤติกรรมของ ส่ือสารของนักเรียน นกั เรียนไมน่ ้อยกว่า ระดับท่ี 2 ผ่าน เกณฑ์ การประเมินมื้อส้ินสุดกิจกรรมการเรียนรู้ - ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 10 เร่อื งโจทย์ปญั หาฟังกช์ นั กำลังสอง - ตรวจแบบทดสอบท้ายบท หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 ฟังก์ชนั กำลงั สอง 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ คาบที่ 1 ชนั้ นำเข้าส่บู ทเรียน 8.1 ครทู บทวนรปู กราฟพาราโบลาของฟังกช์ นั คือ y = a(x – h)2 + k 8.2 ครูผูส้ อนทบทวนเก่ยี วกบั การจัดรปู ฟังกช์ ันกำลงั สองให้เป็นรูปท่ีบอกสว่ นประกอบของกราฟ พาราโบลาผ่านการทำตัวอย่าง ตัวอย่างท่ี 1 1) y = x2 - 2x -1 y = x2 - 2x -1 y = x2 – 2(x)(1) + 12 - 12 -1 y = (x - 1)2 – 2 1) กราฟพาราโบลาหงาย 2) จุดตำ่ สดุ คือ (1,-2) 3) ค่าสูงสุดคือ -2 4) แกนสมมาตรคือ x = 1 ขนั้ สอน 8.3 ครูผู้สอนสอนเกย่ี วกับการแก้โจทย์ปญั หาท่ีเกย่ี วกับการเคล่อื นท่ีโดยอธิบายถงึ ขน้ั ตอนการ แกป้ ัญหาดังนี้ และทำตวั อยา่ งให้นกั เรยี นเรียนรู้ ขัน้ ท่ี 1 วเิ คราะหโ์ จทยปญหาเพื่อพจิ ารณาวา โจทยกำหนดอะไรมาให และตองการหาอะไร ข้ันที่ 2 กำหนดตวั แปรแทนสิ่งที่โจทยตองการใหหาหรือแทนสง่ิ ทส่ี ัมพันธกับสิง่ ที่โจทยตองการใหหา
วช.9 ข้ันท่ี 3 พิจารณาเงื่อนไขทแี่ สดงการไมเ่ ทากันตามที่โจทยกำหนด แลวนำมาเขียนเปน็ สมการ ข้นั ท่ี 4 แกสมการเพื่อหาคําตอบของสง่ิ ทโ่ี จทยตองการ ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบทไ่ี ด้กับเง่ือนไขทโ่ี จทยกำหนด ตัวอย่างท่ี 2 1) ครูถงั เตะบอลจากพ้ืนขึ้นไปบนอากาศเป็นเสน้ โค้งพาราโบลา จากการสังเกตมีการเคลือ่ นทข่ี องลกู บอลมี ความสัมพันธด์ ังน้ี h = -t2 + 8t โดย h คือความสูง(ฟตุ ) และ t คือ เวลาท่บี อลลอยบนอากาศ(วินาที) จงหา 1) เวลาในขณะทล่ี กู ฟตุ บอลลอยอยู่ทีจ่ ุดสงู สดุ จากพื้นดนิ 2) เวลาทลี่ ูกฟุตบอลตกพื้นดิน หลังจากเตะลกู ฟตุ บอลขนึ้ ไป จะไดเ้ ขยี นฟงั กช์ นั h = -t2 + 8t ใหอ้ ยู่ในรปู y = a(x - h)2 + k จาก h = -t2+ 8t h= - (t2 - 8t) = - ((t2 – 2(t)(4) + 42) – 42) = -(t - 4)2 + 16 จากฟงั กช์ ัน -(t - 4)2 + 16เม่อื เทยี บกับฟังก์ชัน y = a(x - h)2 + k จะได้ a = -1, h = 4 และ k = 16 ดงั น้ัน กราฟของฟังกช์ ัน h = -t2+ 8t มลี ักษณะเป็นพาราโบลาควำ่ 1) เวลาในขณะทลี่ กู ฟุตบอลลอยอยู่ทีจ่ ุดสูงสดุ จากพื้นดิน ดังนน้ั ตอ้ งดูคูอ่ นั ดับทค่ี ่าความสูงมากทส่ี ดุ ค่กู บั เวลาเทา่ ใด (h, k) คอื (4, 16) ดังน้นั บอลข้นึ สงู ท่สี ดุ เวลา 4 วนิ าที 2) เวลาทล่ี ูกฟตุ บอลตกพืน้ ดิน หลังจากเตะลูกฟุตบอลขึ้นไป บอลตกคือความสูงเท่ากบั 0 แทน h = 0 h = -t2+ 8t 0 = -t(t- 8) t = 0 หรือ t = 8 0 วินาทีเปน็ เวลาเร่ิม 8 วนิ าทเี ป็นเวลาตก ดงั นั้น บอลจะตกเวลา 8 วินาที ขน้ั สรุป 8.4 ครูผู้สอนสรุปความรูท้ ่ีไดใ้ นคาบเกี่ยวกบั การแกโ้ จทยป์ ัญหาเกย่ี วฟงั ก์ชนั กำลงั สองในเรอื่ งการ เคลื่อนที่ทต่ี ้องประยุกตค์ วามเขา้ ใจในลกั ษณะของกราฟ และเขา้ ใจในการมองโลกความเปน็ จรงิ คาบที่ 2 ชัน้ นำเขา้ สบู่ ทเรียน 8.5 ครทู บทวนรปู กราฟพาราโบลาของฟังก์ชันคือ y = a(x – h)2 + k ลักษณะของกราฟ ดคู ่า a จดุ สงู สุด/ตำ่ สดุ คือ (h, k)
วช.9 คา่ สูงสุด/ตำ่ สุด k แกนสมมาตรคือ x = h ขน้ั สอน 8.6 ครูผูส้ อนให้ภาระงานนักเรียนเป็นแบบฝึกหัดท่ี 10 โจทย์ปญั หาฟังก์ชนั กำลังสอง แบบฝกึ หดั ที่ 10 โจทย์ปัญหาฟังก์ชนั กำลงั สอง 1) การยิงจรวดขวดนำ้ โดยการเคลื่อนทเ่ี ปน็ เส้นโค้งพาราโบลา สามารถเขียนเป็นฟังก์ชนั การเคลือ่ นที่ได้ดงั น้ี h = − 3 t2 + 12 t h = ความสูง(ฟุต) t = เวลา(วนิ าที) จงหา 25 5 1) เวลาที่จรวดขึ้นสงู ทส่ี ุดจากพืน้ 2) เวลาที่จรวดนัน้ ตกพ้นื หลงั จากยงิ จาก h = − 3 t2 + 12 t 25 5 h = − 3 (t2 − 20t) 25 h = − 3 (t2 − 2(t)(10) +102 −102 ) 25 h = − 3 ((t −10)2 −102 ) 25 h = − 3 ((t −10)2 +12 25 1) เวลาทจ่ี รวดขน้ึ สูงสุดจากพื้นคอื ดจู ุดสงู สดุ เพราะเป็นพาราโบลาควำ่ คือจดุ (10,12) ดงั น้ันเวลาทขี่ ึ้นสงู สุดคอื 10 วินาที 2) เวลาทีจ่ รวดตก เราตอ้ งแทน h = 0 h = − 3 t(t − 20) 25 0 = − 3 t(t − 20) 25 จะได้วา่ t = 0 หรือ t = 20 ดงั นนั้ เวลาท่ีจรวดตกคือ 20 วนิ าที ข้ันสรปุ 8.6 ครูผู้สอนสรุปความรทู้ ี่ได้ในคาบเรยี นเก่ียวกบั การแก้โจทยป์ ัญหาฟังกช์ ันกำลังสองเร่ืองการ เคล่ือนท่ีของวัตถุ คาบที่ 3 ชน้ั นำเขา้ ส่บู ทเรียน 8.7 ครผู ู้สอนทบทวนรูปกราฟพาราโบลาของฟงั กช์ นั คือ y = a(x – h)2 + k ลักษณะของกราฟ ดคู ่า a จุดสูงสดุ /ต่ำสุดคอื (h, k) ค่าสูงสดุ /ต่ำสุด k
วช.9 แกนสมมาตรคือ x = h ขั้นสอน 8.8 ครูผูส้ อนสอนเกย่ี วกับการแกโ้ จทยป์ ัญหาฟังกช์ ันกำลงั เรือ่ งความสัมพันธ์ของจำนวนผา่ นการทำ ตวั อยา่ ง ตัวอย่างที่ 3 1) จงหาพน้ื ทีส่ เี่ หลย่ี มมุมฉากทีม่ ีพืน้ ท่ีมากทส่ี ดุ เมื่อมีความยาวรอบรูปเทา่ กบั 120 เซนติเมตร 60 - x xx 60 - x จากข้างต้นใหด้ ้านใดด้านหนงึ่ ยาว x เซนตเิ มตรจะได้วา่ ดา้ นท่เี หลอื ยาว 120 − 2x = 60 − x 2 เราสามารถเขียนฟังกช์ นั กำลังสองได้ดังน้ี A = x(60 − x) d A = −x2 + 60x ก A = −(x2 − 60x) ก A = −(x2 − 2(30)x + 302 − 302 ) ก A = −(x − 30)2 + 900 d จะเหน็ ได้วา่ a = -1 เปน็ พาราโบลาควำ่ จะได้ค่าฟังกช์ ันสูงสุดคือ k = 900 ดงั นน้ั พ้นื ท่ที ่ีมากที่สดุ คือ 900 ตร.ซม. หาความยาวด้านในแต่ละดา้ นให้ A = 900 900 = −x2 + 60x d x2 − 60x + 900 = 0 d (x − 30)(x − 30) = 0 d จะได้วา่ x = 30 ดังน้ัน ความยาวด้านในแต่ละด้านคือ 30 2) จงหาผลคูณที่มากท่สี ดุ ของจำนวนนับ 2 จำนวนท่ผี ลบวกเทา่ กับ 10 ให้ x แทนจำนวนท่ีน้อยกว่า จะไดว้ า่ อีกจำนวนคือ 10 – x
วช.9 y = x(10 - x) จะได้ y = -x2 + 10x = -(x2 + 10x) = -(x2 + 2(x)(5) + 52 -52) = -(x + 5)2 + 52 = -(x + 5)2 + 25 จะได้ a = -1 h = -5 k = 25 จะเหน็ ได้ว่าเป็นกราฟพาราโบลาควำ่ มีจุดสงู สดุ คือ (-5, 25) สามารถตอบค่าสงู สูงคือ 25 ดังนั้น ผลคูณที่มากท่ีสดุ ของจำนวนนับคอื 25 ข้ันสรุป คาบท่ี 4 ชั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน 8.9 ครผู ูส้ อนทบทวนรปู กราฟพาราโบลาของฟงั กช์ ันคือ y = a(x – h)2 + k ลักษณะของกราฟ ดูค่า a จดุ สงู สดุ /ต่ำสุดคอื (h, k) ค่าสงู สุด/ต่ำสุด k แกนสมมาตรคอื x = h ขั้นสอน 8.10 ครูผูส้ อนสอบผ้เู รยี นดว้ ยแบบทดสอบทา้ ยบท หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 ฟังกช์ นั กำลังสอง ขัน้ สรุป 8.11 ครผู สู้ อนชมเชยและให้กำลังใจกบั นักเรียนท่ีทำขอ้ สอบได้และไม่ได้ใหเ้ สรมิ แรงให้เกดิ ความ พยายามและต้งั ใจเรยี น 9. สอ่ื การเรียนรู้/อุปกรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้ 9.1 หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 9.2 แบบฝกึ หัดท่ี 10 เรื่องโจทยป์ ัญหาฟังกช์ ันกำลงั สอง 9.3 แบบทดสอบท้ายบท หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 ฟังกช์ ันกำลังสอง 9.4 ห้องสมุดโรงเรยี นวิมตุ ยารามพิทยากร
วช.9 10. บนั ทกึ หลงั แผนการจัดการเรยี นรู้ 1) ผลการจัดการเรียนรู้ 1.1) ผู้เรียนท่ผี ่านตวั ชว้ี ัด มจี ำนวน ............ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............... 1.2) ผ้เู รยี นท่ไี มผ่ า่ นตวั ชี้วดั มีจำนวน ............. คน คิดเป็นร้อยละ ............... 1. .............................................. สาเหตุ ...................................................................... ........ 2. .............................................. สาเหตุ ...................................................................... ........ แนวทางแกป้ ัญหา ................................................................................................................................. 1.3) นกั เรยี นทมี่ ีความสามารถพเิ ศษได้แก่ ............................................................................................................................. ................................................. แนวทางการพัฒนา / สง่ เสริม ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 1.4) ผเู้ รียนไดร้ ับความรู้ (K) ................................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ................................................. 1.5) ผู้เรยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ (P) ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 1.6) ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม (A) .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 2) ปัญหา /อุปสรรค ……………………………………….…………………………………………………………………...................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………............................................ 3) ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข ……………………………………….…………………………………………………………………...................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………............................................ ลงชื่อ ..............................................ครผู ู้สอน ลงช่อื ..............................................ครพู ่เี ลีย้ ง (นายคุณาสนิ ชุตินันท์) (นางสาวจภิ ทั ร บญุ ครอบ) ครพู ่เี ลย้ี ง นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู
วช.9 ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระ ……………………………………….…………………………………………………………………...................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………............................................ ลงชือ่ .................................................................... ( นางสาวจภิ ทั ร บญุ ครอบ) หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ความคดิ เหน็ ของรองผู้อำนวยการโรงเรยี น ……………………………………….………………………………………………………………………................................................ ………………………………………………………………………………………….......................................................……………… ลงชือ่ ................................................................... (ดร.สปุ ระวีณ์ ทพิ ยโ์ พธ์ิ ) ผชู้ ่วยผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ
วช.9 แบบประเมนิ การจัดการเรียนรูต้ ามจุดประสงค์การเรียนรดู้ ้านพุทธพิ ิสยั และดา้ นทักษะ การจดั การเรยี นรู้เรือ่ งการนำความร้เู ก่ยี วกับฟังก์ชันกำลงั สองไปใช้แกป้ ัญหา นักเรยี นระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ปีการศกึ ษา 2565/1 วชิ า ค23111 คณิตศาสตร์ 6 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10 คนที่ จำนวนขอ้ สรปุ ผล ตอบถูก ตอบผดิ ผ่าน ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26
วช.9 คนที่ จำนวนข้อ สรุปผล ตอบถูก ตอบผิด ผ่าน ไมผ่ ่าน 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 หมายเหตุ เกณฑก์ ารผา่ น ตอบคำถามถูกตอ้ งมากกว่ารอ้ ยละ 50
วช.9 แบบสงั เกตพฤติกรรมตามจุดประสงค์การเรียนรู้สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน การจดั การเรยี นรเู้ รื่องการนำความรู้เกย่ี วกับฟังก์ชนั กำลังสองไปใช้แกป้ ัญหา นักเรียนระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ปกี ารศกึ ษา 2565/1 วิชา ค23111 คณติ ศาสตร์ 6 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 10 คนท่ี การรบั -สง่ ขอ้ มูล การตดั สนิ ใจกบั ขอ้ มลู สรุปผล ระดบั คุณภาพ ระดับคุณภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ดี พอใช้ ปรับปรุง ผา่ น ไม่ผา่ น (3) (2) (1) (3) (2) (1) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24
วช.9 คนที่ การรบั -ส่งข้อมลู การตัดสนิ ใจกบั ข้อมลู สรปุ ผล ระดบั คุณภาพ ระดับคุณภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ผา่ น ไมผ่ ่าน (3) (2) (1) (3) (2) (1) 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 รวม เฉล่ีย สรุปผล หมายเหตุ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดบั ดี = 3 คะแนน ระดบั พอใช้ = 2 คะแนน ระดับปรบั ปรุง = 1 คะแนน เกณฑ์การผา่ น ระดับคุณภาพของพฤติกรรมต้ังแต่ 2 คะแนนขึน้ ไป (อยู่ในระดับพอใช้) เกณฑ์การแปลผลของคณุ ลกั ษณะระดบั พฤตกิ รรมโดยรวมใชเ้ กณฑด์ งั น้ี ช่วงคะแนน แปลความหมาย 2.01 – 3.00 ระดบั ดี
วช.9 1.01 – 2.00 ระดับพอใช้ 0.00 – 1.00 ระดับปรบั ปรุง เกณฑผ์ า่ น การแปลผลของคุณลักษณะระดับคุณภาพต้งั แต่ 1.00 ข้ึนไป (อยใู่ นระดับพอใช)้ เกณฑ์การให้คะแนนระดับคุณภาพแบบสงั เกตพฤติกรรมตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัยและสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ระดบั คณุ ภาพ ระดับดี ระดับพอใช้ ระดับปรับปรงุ เกณฑ์ การรับ-ส่งขอ้ มูล 1. รับ-ส่งขอ้ มลู ถูกต้อง 1. รับ-ส่งข้อมูลถูกตอ้ ง 1. รบั -สง่ ข้อมูลไม่ถกู ตอ้ ง 2 . ใ ช้ วิ ธี ก า ร ส่ ง -รั บ 2. ใช้วิธีการส่ง-รับไม่ 2. ใช้วิธีก ารส่ง-รับ ไม่ เหมาะสม เหมาะสม เหมาะสม การตดั สินใจกับข้อมลู 1. มีเหตุผลเหมาะสมใน 1. ไม่มีเหตุผลเหมาะสม 1. ไม่มีเหตุผลเหมาะสม การนำข้อมลู มาใช้ ในการนำข้อมลู มาใช้ ในการนำขอ้ มลู มาใช้ 2. มีภูมิคุ้มกนั กับขอ้ มูลท่ี 2 . ไม่ มี ภู มิ คุ้ ม กั น กั บ 2. ไม่มีภูมิคุ้มกันกับข้อมูล ไมน่ ่าเช่ือถอื ขอ้ มลู ทไ่ี ม่น่าเชื่อถอื ทไ่ี มน่ ่าเช่ือถอื
วช.9 แบบสังเกตพฤตกิ รรมรกั ความเปน็ ไทย การจัดการเรียนรเู้ รอ่ื งการนำความรู้เกย่ี วกับฟังกช์ นั กำลงั สองไปใช้ แก้ปญั หาของนกั เรยี นระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ปีการศกึ ษา 2565/1 วิชา ค23111 คณติ ศาสตร์ 6 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 10 คนที่ ระดับคุณภาพ สรุปผล ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ผ่าน ไม่ผา่ น (3) (2) (1) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26
วช.9 คนท่ี ระดับคุณภาพ สรปุ ผล ดี พอใช้ ปรับปรุง ผ่าน ไมผ่ ่าน (3) (2) (1) 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 รวม เฉล่ยี สรปุ ผล หมายเหตุ เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ดี = 3 คะแนน ระดับพอใช้ = 2 คะแนน ระดบั ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน เกณฑก์ ารผ่าน ระดับคุณภาพของพฤติกรรมต้ังแต่ 2 คะแนนขึ้นไป (อยใู่ นระดับพอใช)้ เกณฑก์ ารแปลผลของคณุ ลักษณะระดับพฤติกรรมโดยรวมใช้เกณฑ์ดงั น้ี ช่วงคะแนน แปลความหมาย
วช.9 2.01 – 3.00 ระดับดี 1.01 – 2.00 ระดับพอใช้ 0.00 – 1.00 ระดับปรับปรุง เกณฑผ์ า่ น การแปลผลของคุณลกั ษณะระดบั คุณภาพตง้ั แต่ 1.00 ขึน้ ไป (อยใู่ นระดบั พอใช้) เกณฑ์การใหค้ ะแนนระดับคณุ ภาพแบบสงั เกตพฤติกรรมรักความเป็นไทย ระดับดี ระดับพอใช้ ระดับปรบั ปรงุ 1. สื่อสารดว้ ยภาษาท่ีถูกต้อง 1. ส่อื สารดว้ ยภาษาทถ่ี ูกต้อง 1. สื่อสารดว้ ยภาษาท่ีถูกต้อง 2. รจู้ กั อนุรักษว์ ฒั นธรรมองค์กร 2. รูจ้ กั อนุรักษว์ ัฒนธรรมองค์กร 2. ไมร่ ู้จกั อนรุ ักษว์ ัฒนธรรม 3. นำวฒั นธรรมทม่ี ปี ระยุกต์กับ 3. ไม่นำวัฒนธรรมท่ีมีประยุกต์ องค์กร ความกา้ วหนา้ กบั ความก้าวหนา้ 3. ไม่นำวัฒนธรรมที่มปี ระยุกต์ กับความก้าวหน้า
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: