Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 สมการกำลังสองตัวแปรเดียว

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 สมการกำลังสองตัวแปรเดียว

Published by Kunasin Chutinun, 2022-07-26 09:23:15

Description: ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้ สามารถนำไปอ้างอิงสร้างแผนการจัดการเรีนรู้ได้แต่ควรปรับให้เหมาะแก่ผู้เรียนของตนเอง และหากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้
นายคุณาสิน ชุตินันท์ ผู้จัดทำ

Keywords: Maths,Quardratic Equation

Search

Read the Text Version

วช.9 แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 5 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 สมการกำลงั สองตัวแปรเดียว เรอื่ ง สมการกำลังสองตวั แปรเดยี ว กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รายวชิ า คณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน 5 รหัสวิชา ค23111 ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 เวลา 2 ช่ัวโมง ครผู ้สู อน นายคณุ าสิน ชตุ ินนั ท์ โรงเรยี นวมิ ตุ ยารามพทิ ยากร 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด ค 1.3 ม.3/2 ประยกุ ตใ์ ช้สมการกำลงั สองตัวแปรเดียวในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของสมการกำลังสองตวั แปรเดยี วได้ (K) 2.2 นกั เรียนสามารถเขยี นสมการท่โี จทย์กำหนดให้อยู่ในรูปทวั่ ไปของสมการกำลงั สองตวั แปรเดยี ว ดังต่อไปน้ี ax2+ bx + c = 0 ได้ (P) 2.3 นกั เรียนปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ของห้องเรียนขณะจัดกิจกรรมการเรยี น (A) 3. สาระสำคัญ 3.1 พหุนามดีกรีสองตวั แปรเดยี ว คอื พหนุ ามทเ่ี ขียนไดใ้ นรูป ax2 + bx + c เมื่อ a, b, c เปน็ ค่าคงตัว ที่ a ≠ 0 และ x เป็นตัวแปร 3.2 สมการกำลังสองตวั แปรเดียว คอื สมการทม่ี ี x เปน็ ตัวแปรและมีรูปทว่ั ไปเปน็ ax2 + bx + c = 0 เมื่อ a, b และ c เป็นค่าคงตวั โดยที่ a ≠ 0 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.1 มีวนิ ยั 6. ภาระงาน /ชิ้นงาน 6.1 แบบฝึกหัดท่ี 5 สมการพหนุ ามดีกรสี องตัวแปรเดียว

วช.9 7. การวดั ผลและประเมินผลการเรียนรู้/ภาระงาน การประเมนิ ระหว่างเรียน - ปฏสิ มั พันธ์ระหว่างครผู ู้สอนกับนักเรียนขณะขั้นสอน - การตอบคำถามและความร่วมมือของนักเรยี นท่ีมีต่อตวั อย่างและคำถามท่ีครูผู้สอนกล่าว เป้าหมาย หลักฐาน วธิ ีวัด เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารวดั ตวั ช้ีวัด (วิชาพน้ื ฐาน) ประยกุ ตใ์ ช้สมการกำลังสอง - แบบฝึกหัดที่ 5 - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัดที่ 5 - นกั เรยี นทำ สมการพหุนามดีกรี แบบฝึกหดั ถูกตอ้ ง ตวั แปรเดยี วในการแก้ปัญหา สมการพหุนามดีกรี สองตัวแปรเดียว มำกกว่ำรอ้ ยละ 50 คณิตศาสตร์ สองตวั แปรเดียว ผ่ำนเกณฑ์ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - นักเรยี นสามารถอธบิ าย - แบบฝึกหัดที่ 5 - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัดที่ 5 - นกั เรยี นทำ ความหมายของสมการกำลัง สมการพหุนามดีกรี สมการพหุนามดีกรี แบบฝึกหดั ถกู ตอ้ ง สองตัวแปรเดยี วได้ (K) สองตวั แปรเดยี ว สองตวั แปรเดยี ว มำกกว่ำรอ้ ยละ 50 - นักเรียนสามารถเขยี น ผ่ำนเกณฑ์ สมการทีโ่ จทย์กำหนดให้อยู่ ในรปู ทว่ั ไปของสมการกำลัง สองตัวแปรเดียวดังต่อไปน้ี ax2+ bx + c = 0 ได้ (P) คณุ ลักษณะ - นักเรียนปฏบิ ตั ิตาม - กำรสงั เกต - สังเกตพฤติกรรม - แ บ บ สั ง เ ก ต - ระดบั คณุ ภำพ ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ของ พฤตกิ รรมของ การตอบสนองของ พฤตกิ รรม พฤตกิ รรมตงั้ แต่ หอ้ งเรียนขณะจัดกิจกรรม ผเู้ รยี นขณะกำร ผเู้ รียนและกำร ระดบั ท่ี 2 ขน้ึ ไป การเรียน จดั กำรเรยี นรู้ ตอบสนองตอ่ ผ่ำนเกณฑ์ (A) คำถำมของ นกั เรยี นในขนั้ สอน สมรรถนะสำคญั - นักเรียนมีความสามารถใน - แบบสังเกต - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกต - ระดับคณุ ภาพของ พฤตกิ รรม พฤติกรรมตงั้ แต่ 2 การคดิ (สมรรถนะ) พฤติกรรม การตอบสนองของ

เปา้ หมาย หลักฐาน วธิ วี ัด เคร่อื งมอื วดั วช.9 ผเู้ รยี นและกำร เกณฑก์ ารวดั ตอบสนองตอ่ คะแนนขึ้นไป (อยู่ คำถำมของ ในระดบั พอใช)้ นกั เรยี นในขนั้ สอน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ - แบบสังเกต - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกต - ระดบั คณุ ภำพ - นักเรียนปฏิบตั ติ าม พฤติกรรม การตอบสนองของ พฤตกิ รรม พฤตกิ รรมตงั้ แต่ ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ของ ผเู้ รียนและกำร ระดบั ท่ี 2 ขน้ึ ไป ห้องเรยี นขณะจัดกจิ กรรม ตอบสนองต่อ ผ่ำนเกณฑ์ การเรียน คำถำมของ นกั เรยี นในขนั้ สอน การประเมินเม่ือสน้ิ สุดกจิ กรรมการเรียนรู้ - ตรวจแบบฝกึ หดั ท่ี 5 สมการพหนุ ามดีกรสี องตวั แปรเดยี ว 8. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ คาบท่ี 1 ช้ันนำเข้าสบู่ ทเรียน 8.1 ครผู ู้สอนทบทวนความรเู้ กี่ยวกบั พหุนามดีกรีสองตวั แปรเดียวว่ามรี ูปเป็นอยา่ งไรโดยจะดูความ เขา้ ใจเก่ียวกับการแยกแยะวา่ พหุนามท่ีกำหนดนน้ั เปน็ พหนุ ามดีกรีสองตวั แปรเดยี วหรอื ไม่ผา่ นการยกตัวอยา่ ง และการถามตอบ พร้อมสรุปร่วมกันว่าพหนุ ามทเ่ี ขยี นได้ในรูป ax2 + bx + c เมอื่ a, b, c เปน็ ค่าคงตัว ที่ a ≠ 0 และ x เปน็ ตัวแปร ตวั อย่างท่ี 1 1) x2 + 2x −1 (เปน็ พหุนามดีกรสี องตวั แปรเดียว) 2) x2 − y + 0 (ไมเ่ ปน็ พหนุ ามดีกรสี องตัวแปรเดยี วเพราะมีตวั แปร 2 ชนิดคือ x และy) 3) y2 + 3 (เปน็ พหุนามดกี รีสองตวั แปรเดียว) ครูผสู้ อนกอ่ นจะจะถามถงึ ว่า เป็นพหนุ าม 4) (z + 3)(z −1) ดีกรีสองตวั แปรเดยี วหรือไม่ ควรเนน้ ถึง z2 − z + 3z − 3 c ตวั แปร และสมั ประสทิ ธิ์ ของตวั แปร และการ z2 + 2z − 3 (เป็นพหุนามดีกรีสองตัวแปรเดียว) จดั รูปก่อนการตอบเพ่อื ใหเ้ กิดขอ้ สงั เกตตา่ ง ๆ ข้ันสอน

วช.9 8.2 ครูผ้สู อนเช่ือมโยงจากพหุนามดีกรีสองตวั แปรเดียวมาสู่สมการพหุนามดกี รสี องตวั แปรเดยี วโดย เริ่มจากเข้าใจว่าสมการคอื การเขยี นความสมั พนั ธ์โดยใชเ้ คร่ืองหมายเทา่ กับในรปู ทวั่ ไปเป็น ax2 + bx + c = 0 เมอื่ a, b และ c เปน็ ค่าคงตัว โดยท่ี a ≠ 0 และให้นกั เรียนแยกแยะว่าสมการที่กำหนดให้ เปน็ สมการพหุนาม ดกี รสี องตัวแปรเดียวหรือไม่ทั้งทสี่ ามารถตอบไดเ้ ลยและต้องจัดรปู ผา่ นการยกตัวอย่าง ตวั อย่างที่ 2 1) x2 + 2x +1 = 0 จะเห็นไดว้ า่ สมการข้างต้นตรงกบั รปู ท่ัวไปของสมการกำลงั สองตวั แปรเดยี ว ดังน้ัน สมการนีเ้ ป็นสมการกำลงั สองตวั แปรเดยี วโดยท่ี ครูผสู้ อนกอ่ นจะจะถามเกี่ยวกบั สมั ประสทิ ธิ์ a = 1, b = 2 และ c= 1 ของแต่ละตวั คืออะไรและจะทาอย่างไร 2) y2 −1 = 10 เพ่อื ท่จี ะไดร้ ูปท่วั ไปดงั นี้ ax2 + bx + c = 0 y2 −1−10 =10 −10 จดั รปู ใช้สมบตั เิ ท่ากันในการบวกเม่ือ a, b และ c เป็นคา่ คงตัว โดยที่ a ≠ y2 −11 = 0 d 0 จะเห็นไดว้ า่ สมการขา้ งตน้ ตรงกับรูปทวั่ ไปของสมการกำลังสองตัวแปรเดียว ดังนน้ั สมการน้ีเปน็ สมการกำลังสองตวั แปรเดียวโดยท่ี a = 1, b = 0 และ c= -11 3) x2 + x = x2 +10 x2 + x − x2 −10 = x2 +10 − x2 −10 d x −10 = 0 d จะเห็นได้วา่ สมการข้างต้นไม่ตรงกบั รูปทั่วไปของสมการกำลงั สองตัวแปรเดียว ดังน้นั สมการนเ้ี ปน็ สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 4) (z + 2)(2z − 2) = 3 2z2 − 2z + 4z − 4 = 3d 2z2 + 2z − 4 = 3d 2z2 + 2z − 4−3 = 3−3d 2z2 + 2z −7 = 0 d จะเห็นไดว้ า่ สมการข้างต้นตรงกบั รปู ท่ัวไปของสมการกำลังสองตวั แปรเดยี ว ดังน้ัน สมการนี้เป็นสมการกำลังสองตัวแปรเดียวโดยที่ a = 2, b = 2 และ c= -7 8.3 ครูใหภ้ าระงานนักเรียนเปน็ แบบฝกึ หดั ท่ี 5 สมการพหุนามดีกรีสองตัวแปรเดยี ว ให้เวลานกั เรียน นำตัวเองในการทำแบบฝกึ หัดครผู ้สู อนสนบั สนุนและให้คำแนะนำแกน่ ักเรียนที่ยังไม่เข้าใจ แบบฝึกหัดท่ี 5 สมการพหุนามดกี รสี องตัวแปรเดยี ว

วช.9 คำช้แี จง ให้นักเรยี นจัดรปู สมการท่กี ำหนดใหต้ อ่ ไปนี้ ใหอ้ ยู่ในรปู ท่วั ไป ax2 + bx + c = 0 เม่ือ x เป็น ตัวแปร a, b และ c เปน็ คา่ คงตวั และพิจารณาวา่ สมการท่ีกำหนดให้ในแต่ละข้อ เป็นสมการกำลังสองตัวแปร เดียวหรือไม่ 1) x2 + x = 3x +1 x2 + x − 3x −1 = 3x +1− 3x −1 x2 + x − 3x −1 = 0 x2 − 2x −1 = 0 จดั รปู ทั่วไปได้เปน็ x2 − 2x −1 = 0 ดังน้ัน สมการท่กี ำหนดใหเ้ ป็นสมการกำลังสองตัวแปรเดยี ว a = 1 b = -2 และ c = -1 2) x2 − 2x +1 = ( x + 1)2 x2 − 2x +1 = ( x + 1)( x + 1) x2 − 2x +1 = x2 + 2x +1 x2 − 2x +1− x2 − 2x −1 = x2 + 2x +1− x2 − 2x −1 −4x = 0 จัดรูปทั่วไปได้เปน็ −4x = 0 หรอื x = 0 ดังน้ัน สมการทก่ี ำหนดให้ไมเ่ ปน็ สมการกำลังสองตัวแปรเดียว 3) (2x +1)(2x + 3) = 2x2 + 3 4x2 + 6x + 2x + 3 = 2x2 + 3x 4x2 + 6x + 2x + 3− 2x2 −3 = 2x2 + 3− 2x2 −3 x 2x2 +8x = 0x จัดรูปทั่วไปไดเ้ ป็น 2x2 + 8x = 0 ดังนั้น สมการท่ีกำหนดใหเ้ ปน็ สมการกำลงั สองตัวแปรเดียว a = 2 b = 8 และ c = 0 4) x (4x − 3) = (5 − 2x)2 4x2 − 3x = (5 − 2x)(5 − 2x) d 4x2 − 3x = 25 −10x −10x + 4x2 d 4x2 − 3x − 4x2 + 3x = 25 −10x −10x + 4x2 − 4x2 + 3x d 0 = 25 −17x d จัดรูปทั่วไปไดเ้ ป็น 0 = 25 −17x หรอื − 25 = x 17 ดงั นั้น สมการทก่ี ำหนดให้ไมเ่ ปน็ สมการกำลงั สองตวั แปรเดยี ว

วช.9 5) x2 (4x − 3) = −6x 4x3 − 3x2 = −6x d 4x3 − 3x2 + 6x = −6x + 6x d 4x3 − 3x2 + 6x = 0 ก จดั รูปทั่วไปไดเ้ ป็น 4x3 − 3x2 + 6x = 0 ดงั น้ัน สมการท่ีกำหนดให้ไมเ่ ป็นสมการกำลงั สองตวั แปรเดยี ว ขน้ั สรุป 8.4 ครผู ู้สอนและนักเรียนอภิปรายรว่ มกันเก่ียวกบั การจดั รูปของสมการให้เปน็ สมการพหุนามดกี รสี อง ตวั แปรเดียวเพ่ือแยกแยะวา่ เปน็ สมการพหุนามดกี รสี องหรือไม่ ผา่ นการดวู ่าตรงกับรูปทั่วไปของสมการกำลัง สองตัวแปรเดยี วหรือไม่ (ax2 + bx + c = 0 เมือ่ x เป็น ตวั แปร a, b และ c เป็นคา่ คงตัว) คาบที่ 1 ชน้ั นำเขา้ สู่บทเรียน 8.5 ครผู สู้ อนทบทวนเกี่บวกบั ความหมายของสมการกำลังสองตวั แปรเดียวจากตัวอยา่ ง สมการที่อยู่ ในรปู ax2 + bx + c = 0 เมือ่ a, b และ c เปน็ ค่าคงตัว โดยท่ี a ≠ 0 สมการกำลงั สองตัวแปรเดียว ตวั อย่างท่ี 3 1) x2 + 2x +1 = 2x x2 +1 = 0 ดังนัน้ เปน็ สมการกำลงั สองตัวแปรเดยี วโดยที่ a = 1 b = 0 และ c = 1 2) (x + 1)2 + 1 = -10 (x2 + 2x + 1) + 1 = -10 x2 + 2x + 2 = -10 x2 + 2x + 12 = 0 ดงั น้นั เปน็ สมการกำลังสองตวั แปรเดียวโดยที่ a = 1 b = 2 และ c = 12 ช้นั สอน 8.6 ครูผู้สอนทบทวนเก่ียวกบั การแยกตัวประกอบพหุนามผ่านตัวอย่าง ตวั อย่างที่ 4 1) 2x2 + 2x 2x2 + 2x = 2x(x + 1) 2) x2 + 5x + 4 x2 + 5x + 4 = (x + 4)(x + 1) 3) 2x2 – 5x + 3

วช.9 2x2 – 5x + 3 = (2x – 3)(x - 1) ขั้นสรปุ 8.7 ครผู ูส้ อนเกรน่ิ นำเกี่ยวกับการแก้สมการกำลังสองตวั แปรเดยี วว่าจะตอ้ งใช้การแยกตัวประกอบพหุ นามช่วยในการแก้สมการดังกลา่ ว 9. ส่ือการเรยี นรู้/อุปกรณ์/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 หนังสือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 เลม่ 1 9.2 แบบฝกึ หดั ที่ 5 เรื่องสมการพหนุ ามดีกรีสองตัวแปรเดียว 9.3 หอ้ งสมุดโรงเรยี นวมิ ุตยำรำมพทิ ยำกร

วช.9 10. บันทึกหลงั แผนการจัดการเรียนรู้ 1) ผลการจัดการเรียนรู้ 1.1) ผู้เรยี นท่ผี ่านตวั ชี้วดั มจี ำนวน ............ คน คิดเป็นร้อยละ ............... 1.2) ผู้เรยี นท่ีไมผ่ ่านตวั ชวี้ ัด มีจำนวน ............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............... 1. .............................................. สาเหตุ .............................................................................. 2. .............................................. สาเหตุ ...................................................................... ........ แนวทางแกป้ ัญหา ................................................................................................................................. 1.3) นักเรียนท่มี ีความสามารถพเิ ศษได้แก่ ............................................................................................................................. ................................................. แนวทางการพฒั นา / ส่งเสริม ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 1.4) ผู้เรียนได้รบั ความรู้ (K) ............................................................................................................................................................... ............... ................................................................................................................... ........................................................... 1.5) ผู้เรยี นเกิดทักษะกระบวนการ (P) ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 1.6) ผเู้ รยี นมคี ุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม (A) ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 2) ปัญหา /อุปสรรค ……………………………………….…………………………………………………………………...................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………............................................ 3) ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข ……………………………………….…………………………………………………………………...................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………............................................

ลงช่ือ ..............................................ครผู ้สู อน วช.9 (นายคณุ าสนิ ชุตินันท์) ลงชอ่ื ..............................................ครพู ่เี ลี้ยง นักศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู (นางสาวจภิ ทั ร บญุ ครอบ) ครูพเี่ ล้ยี ง ความคดิ เห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระ ……………………………………….…………………………………………………………………...................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………............................................ ลงชือ่ .................................................................... ( นางสาวจภิ ทั ร บญุ ครอบ) หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ความคดิ เหน็ ของรองผู้อำนวยการโรงเรยี น ……………………………………….………………………………………………………………………................................................ ………………………………………………………………………………………….......................................................……………… ลงชือ่ ................................................................... (ดร.สปุ ระวีณ์ ทิพยโ์ พธ์ิ ) ผชู้ ่วยผู้อำนวยการกลมุ่ บรหิ ารวิชาการ

วช.9 แบบประเมนิ การจัดการเรยี นรู้ตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ดา้ นพทุ ธิพสิ ยั และด้านกระบวนการ การจดั การเรยี นรู้เรื่องสมการกำลังสองตวั แปรเดียว นักเรยี นระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ปีการศกึ ษา 2565/1 วชิ า ค23111 คณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน 5แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 คนท่ี จำนวนขอ้ สรุปผล ตอบถูก ตอบผดิ ผ่าน ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27

วช.9 คนที่ จำนวนข้อ สรุปผล ตอบถูก ตอบผิด ผ่าน ไมผ่ ่าน 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 หมายเหตุ เกณฑก์ ารผา่ น ตอบคำถามถูกตอ้ งมำกกว่ำรอ้ ยละ 50

วช.9 แบบสงั เกตพฤติกรรมตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น การจัดการเรียนรูเ้ รอ่ื งสมการกำลงั สองตัวแปรเดียว นกั เรียนระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ปีการศึกษา 2565/1 วิชา ค23111 คณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐาน 5แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 5 คนท่ี ความสมเหตุผลและความ การคดิ วเิ คราะห์ สรุปผล ถกู ต้องของผลลพั ธ์ สว่ นประกอบของสมการ ระดับคุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดี พอใช้ ปรับปรงุ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ผา่ น ไมผ่ า่ น (3) (2) (1) (3) (2) (1) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24

วช.9 คนท่ี ความสมเหตผุ ลและความ การคิดวเิ คราะห์ สรุปผล ผ่าน ไมผ่ า่ น ถกู ต้องของผลลพั ธ์ สว่ นประกอบของสมการ ระดบั คุณภาพ ระดับคุณภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ดี พอใช้ ปรบั ปรุง (3) (2) (1) (3) (2) (1) 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 รวม เฉลีย่ สรุปผล หมายเหตุ เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดับดี = 3 คะแนน ระดับพอใช้ = 2 คะแนน ระดบั ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน

วช.9 เกณฑ์การผา่ น ระดบั คุณภาพของพฤตกิ รรมตงั้ แต่ 2 คะแนนขนึ้ ไป (อยู่ในระดบั พอใช)้ เกณฑก์ ารแปลผลของคณุ ลกั ษณะระดับพฤตกิ รรมโดยรวมใช้เกณฑ์ดงั น้ี ช่วงคะแนน แปลความหมาย 2.01 – 3.00 ระดับดี 1.01 – 2.00 ระดบั พอใช้ 0.00 – 1.00 ระดบั ปรับปรุง เกณฑ์ผ่าน การแปลผลของคุณลกั ษณะระดบั คุณภาพต้ังแต่ 1.00 ขน้ึ ไป (อยู่ในระดับพอใช)้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนระดับคุณภาพแบบสงั เกตพฤตกิ รรมตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นพุทธิพสิ ยั และสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ระดับคณุ ภาพ ระดับดี ระดบั พอใช้ ระดบั ปรับปรุง เกณฑ์ ความสมเหตุผลและ 1. ผลลัพธ์ที่ได้จากการ 1. ผลลัพธ์ที่ได้จากการ 1. ผลลัพธ์ที่ได้จากการ ความถกู ต้องของ แกป้ ัญหาถกู ตอ้ ง แกป้ ญั หาถูกตอ้ ง แกป้ ญั หาไม่ถูกต้อง ผลลัพธ์แก้ปัญหา 2. มีการตรวจสอบความ 2. ไม่มีการตรวจสอบ 2. ไม่มีการตรวจสอบ ส ม เ ห ต ุ ส ม ผ ล ข อ ง ความสมเหตุสมผล ความสมเหตุสมผลของ ผลลัพธ์ที่ได้จากการ ของผลลัพธ์ที่ได้จาก ผลลัพธ์ที่ได้จากการ แกป้ ญั หา การแกป้ ัญหา แก้ปญั หา การคิดวเิ คราะห์ 1. สามารถระบุสว่ น 1. สามารถระบสุ ่วน 1. สามารถระบุส่วน ส่วนประกอบของ -ประกอบต่าง ๆ ของ -ประกอบต่าง ๆ ของ -ประกอบต่าง ๆ ของ สมการ สมการได้ถกู ตอ้ ง สมการไดถ้ ูกต้อง สมการไมถ่ กู ต้อง 2. สามารถระบสุ ่วน 2. สามารถระบุส่วน 2. สามารถระบุสว่ น -ประกอบต่าง ๆ ของ -ประกอบต่าง ๆ ของ -ประกอบต่าง ๆ ของ สมการได้ครบถ้วน สมการไมค่ รบถว้ น สมการไมค่ รบถว้ น

วช.9 แบบสงั เกตพฤติกรรมความซ่ือสัตย์ การจัดการเรียนรู้เรื่องการแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว ของนักเรยี นระดับช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ปกี ารศกึ ษา 2565/1 วชิ า ค23111 คณติ ศาสตรพ์ ้นื ฐาน 5แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 คนที่ ระดับคุณภาพ สรปุ ผล ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ผ่าน ไมผ่ ่าน (3) (2) (1) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26

วช.9 คนที่ ระดับคุณภาพ สรุปผล ดี พอใช้ ปรับปรุง ผ่าน ไม่ผา่ น (3) (2) (1) 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 รวม เฉลย่ี สรปุ ผล หมายเหตุ เกณฑ์การให้คะแนน ระดับดี = 3 คะแนน ระดับพอใช้ = 2 คะแนน ระดบั ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน เกณฑก์ ารผา่ น ระดับคุณภาพของพฤติกรรมต้งั แต่ 2 คะแนนขึ้นไป (อย่ใู นระดับพอใช้)

วช.9 เกณฑ์การแปลผลของคณุ ลักษณะระดับพฤตกิ รรมโดยรวมใชเ้ กณฑด์ ังนี้ ช่วงคะแนน แปลความหมาย 2.01 – 3.00 ระดบั ดี 1.01 – 2.00 ระดับพอใช้ 0.00 – 1.00 ระดบั ปรบั ปรุง เกณฑผ์ ่าน การแปลผลของคุณลกั ษณะระดับคุณภาพตงั้ แต่ 1.00 ข้นึ ไป (อยู่ในระดบั พอใช)้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนระดับคณุ ภาพแบบสงั เกตพฤตกิ รรมความมุ่งมัน่ ในการทำงาน ระดบั ดี ระดบั พอใช้ ระดบั ปรับปรงุ 1. มคี วามซื่อตรงในการสือ่ สาร 1. มคี วามซ่ือตรงในการสื่อสาร 1. ไมม่ คี วามซือ่ ตรงในการสื่อสาร และการมีปฏิสัมพันธก์ บั ผู้อนื่ และการมปี ฏสิ มั พันธ์กับผู้อ่ืน และการมีปฏสิ มั พันธ์กบั ผู้อ่นื 2. มคี วามซอ่ื สัตย์ในการทำงาน 2. ไมม่ ีความซือ่ สตั ยใ์ นการ 2. ไม่มีความซ่อื สตั ย์ในการทำงาน และการสอบ ทำงานและการสอบ และการสอบ