บุหรี่กับทันตสุขภาพ Dr.Ukrit Ampiphan ทันตสาธารณสุข Dental Public Health
บุหรี่กับสุขภาพช่องปาก ตายเพราะบุหรี่ ปีละ 5 ล้านคน จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกล่าสุด พบว่า แต่ละ ปีมีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ปีละ 5,000,000 คน ปัจจุบันทั่วโลกมีผู้สูบบุหรี่เป็นประจำประมาณ 1,100 ล้านคน เป็นประชากรในประเทศที่พัฒนาแล้ว 300 ล้านคน (ชาย 200 ล้านคน หญิง 100 ล้านคน) และ เป็นประชากรในประเทศที่กำลังพัฒนา 800 ล้านคน (ชาย 700 ล้านคน หญิง 100 ล้านคน) ในอีก 20 ปี ข้างหน้าจะมีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ปีละ 10 ล้าน คน โดยเป็น ประชากรของประเทศพัฒนาแล้ว 3 ล้านคนและ ประเทศกำลังพัฒนา 7 ล้านคน คนไทยสูบบุหรี่มากขึ้นหรือน้อยลง ในปี 2544 ผลการสำรวจ พบว่า ในกลุ่มประชากร อายุ 15 ปีขึ้นไป มีผู้สูบบุหรี่เป็นประจำทุกวัน ประมาณ 10.6 ล้านคน หรือร้อยละ 22.5 ปี 2555 พบ 12 ล้านคนไทยสูบบุหรี่ ตายเฉลี่ยปีละ 4.8 หมื่นราย (ข้อมูลจากคณะกรรมการควบคุมการ บริโภคยาสูบแห่งชาติ)
บุหรี่กับสุขภาพช่องปาก จำนวนอัตราร้อยละของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป จำแนกตามพฤติกรรมการสูบบุหรี่ (จำนวนเป็นพัน) พฤติกรรมการสูบบุหรี่จำนวนร้อยละ สูบบุหรี่เป็นประจำ10,551.222.5 สูบบุหรี่นานๆครั้ง1,412.93.0 ปัจจุบันไม่สูบบุหรี่แต่เคยสูบ2,235.14.8 ไม่สูบบุหรี่ และไม่เคยสูบ32,745.569.7 เริ่มสูบบุหรี่อายุเท่าไร เมื่อพิจารณาอายุที่เริ่มสูบบุหรี่ พบว่า ประมาณครึ่ง หนึ่งของผู้สูบบุหรี่ เริ่มสูบบุหรี่เมื่ออายุระหว่าง 15 – 19 ปี ร้อยละ 58.2 รองลงมาคืออายุ 20 – 24 ปี ร้อย ละ 27.7 และอายุ 10 – 14 ปี ร้อยละ 6.5 ตามลำดับ หรืออายุเฉลี่ยเมื่อเริ่มสูบประมาณ 18.5 ปี
บุหรี่กับสุขภาพช่องปาก ที่มา : การสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของประชากร พ.ศ.2542 สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี และการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราของ ประชากร พ.ศ.2544 สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำนักนายก รัฐมนตรี
บุหรี่กับสุขภาพช่องปาก สูบด้วย ดื่มด้วย เสี่ยงมะเร็งช่องปาก 6-15 เท่า โรคเหงือกอักเสบ เนื้อตายแบบเฉียบพลัน ผู้สูบ บุหรี่ จะมีโอกาสเป็นโรคเหงือกอักเสบเนื้อตายแบบ เฉียบพลันมากกว่าปกติ ทั้งๆ ที่ดูแลช่องปากตาม มาตรฐานปกติ และเมื่อเป็นแล้ว อาการของโรคก็จะ รุนแรงกว่าเช่นกัน น้ำลายบุหรี่ส่งผลให้ปริมาณการไหลของน้ำลายลดลง และน้ำลายมีค่าความเป็นกรดเพิ่มขึ้นนอกจากนั้นยัง พบว่า ความสามารถต้านทานกรดของน้ำลายก็ลดลง ด้วย ฟันผุ ผู้ที่สูบบุหรี่จะมีอัตราการสูญเสียฟันธรรมชาติ สูงกว่าปกติ และในวัยรุ่นที่สูบบุหรี่ ก็มีความสัมพันธ์ กับการมีจำนวนฟันผุสูงขึ้นด้วย การรับรสและกลิ่น การสูบบุหรี่ทำให้ความสามารถ ในการรับรสและกลิ่นเลวลง และยังเป็นสาเหตุ สำคัญของการมีกลิ่นปากอีกด้วย
บุหรี่กับสุขภาพช่องปาก การหายของแผล การสูบบุหรี่ ทำให้แผลในช่องปาก หายช้า รวมถึงการสมานแผลภายหลังการรักษาทาง ทันตกรรม เช่น การถอนฟัน และการเกลารากฟัน เพราะควันบุหรี่ทำให้ปริมาณการไหลเวียนโลหิต และปริมาณสารเคมีที่สำคัญต่างๆ ในเลือดลดลง โรคปริทันต์ การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญอย่างยิ่ง ในการเกิดโรคปริทันต์ โดยผู้สูบบุหรี่มักจะเป็นโรค ปริทันต์รุนแรงที่รากผันด้านเพดานปาก อาจมีหนอง หรือความผิดปกติอื่นๆ ได้มาก แม้จะไม่มีแผ่นครบ จุลินทรีย์หรือหินปูนเลยก็ตาม ปฏิกิริยาต่อภูมิคุ้นกันโรคของร่างกาย บุหรี่ทำให้เม็ด เลือดขาวบางประเภท ซึ่งมีหน้าที่ต่อต้านเชื้อโรคลด ลงและทำให้อัตราการทำลายเชื้อบางชนิดของร่างกาย ลดลงเช่น อัตราการทำลายเชื้อ Staphylococcus autrus ลดลงจาด 3.1 ตัวต่อนาทีเหลือเพียง 1.3 ตัว ต่อนาทีและยังพบปริมาณเชื้อโรคบางชนิดสะสมมาก ขึ้นด้วย
บุหรี่กับสุขภาพช่องปาก มะเร็งช่องปาก ควันบุหรี่เป็นสารก่อมะเร็งโดยตรงผู้ที่สูบบุหรี่แต่ ไม่มีประวัติการดื่มแอลกอฮอล์ จะมีโอกาสเป็นมะเร็งในช่อง ปากมากขึ้น 2-4 เท่า แต่ถ้ามีประวัติสูบบุหรี่ร่วมกับดื่ม แอลกอฮอล์จะมีโอกาสเป็นมะเร็งในช่องปากมากขึ้น ตั้งแต่ 6-15 เท่าของคนทั่วไป ท่านสามารถป้องกันมะเร็งช่องปาก และโรคปริทันต์ได้อย่างไร 1. ปรึกษาทันตแพทย์ของท่านเพื่อให้ตรวจหาลักษณะที่น่าสงสัย ของมะเร็งช่องปาก หรืออาการของโรคปริทันต์ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง 2. อาการที่เป็นสัญญาณเตือนในผู้ที่เป็นโรคปริทันต์ - เหงือกมีเลือดออก - ฟันโยกในผู้ที่เป็นโรคมะเร็งช่องปาก - มีแผลในช่องปาก ใบหน้า และคอ ที่หายช้าเกินกว่า 5 สัปดาห์ - มีตุ่ม หรือก้อนบวมที่ริมฝีปาก เหงือก หรือบริเวณอื่นในช่องปาก - มีปื้นสีขาว แดง หรือเข้มในช่องปาก - ชา รู้สึกหนา หรือเจ็บในบริเวณใดบริเวณหนึ่งของช่องปาก ขา กรรไกร และใบหน้า หากทันตแพทย์ตรวจพบมะเร็งในช่องปากหรือโรคปริทันต์ใน ระยะเริ่มต้น จะทำให้การรักษาง่ายกว่า และการรักษาประสบ ความสำเร็จสูงกว่า ในระยะอย่างมาก
บุหรี่กับสุขภาพช่องปาก ความร้อนและสารเคมีจากการสูบบุหรี่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในช่องปาก เกิดรอยโรคใหม่ หรือทำให้รอยโรคเดิมรุนแรง เพิ่มมากขึ้น ได้แก่ การเกิดกลุ่มเม็ดสีเมลานิน เป็นแผ่นคราบสีน้ำตาลบนเยื่อเมือก พบมากบริเวณเหงือกของฟันหน้าล่างและเยื่อบุกระพุ้งแก้ม การหนาตัวของเยื่อเมือกจากการสูบบุหรี่ เป็นฝ้า จุด หรือแผ่น คราบหนาสีขาว มักพบบริเวณที่มีการสัมผัสกับบุหรี่โดยตรง เช่น ริมฝีปาก หรือเยื่อบุกระพุ้งแก้ม การอักเสบในช่องปากจากสารนิโคติน เพดานปากมีลักษณะเป็น ตุ่มสีขาวหนาตัวขึ้นร่วมกับจุดสีแดงตรงกลาง ลิ้นฝ้าขน เป็นฝ้าคล้ายขนสีขาว เหลืองน้ำตาล หรือดำที่ด้านบน ของลิ้น รอยโรคแผ่นสีขาว รอยโรคสีขาวที่ไม่เรียบมีอัตราความเสี่ยงใน การเกิดเป็นมะเร็งช่องปากค่อนข้างสูง รอยโรคแผ่นสีแดง รอยโรคนี้มีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้สูง มะเร็งในช่องปาก เป็นแผลหรือก้อนเนื้อผิวขรุขระบนเยื่อเมือก ผู้ที่สูบบุหรี่วันละ 1 ซอง ความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในช่องปาก จะเพิ่มขึ้น 24 เท่า
บุหรี่กับสุขภาพช่องปาก นอกจากนี้การสูบบุหรี่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากตามมา มากมาย ดังนี้ บุหรี่กับโรคปริทันต์การสูบบุหรี่ทำให้โรคปริทันต์เกิดการ อักเสบและรุนแรงมากขึ้น มีผลทำให้ฟันโยกและสูญเสียฟัน ตามมา บุหรี่กับคราบเกาะบนฟันคราบสีจากบุหรี่จะเกาะบนตัวฟัน และ ทำให้ฟันเปลี่ยนสี หรือติดสีที่ฟันปลอม บุหรี่กับกลิ่นปากผู้สูบบุหรี่จะมีลมหายใจหรือกลิ่นปากเหม็น เนื่องจากสารประกอบในบุหรี่มีกลิ่นที่รุนแรง บุหรี่กับการหายของแผล การสูบบุหรี่ทำให้การตอบสนองของ ระบบภูมิคุ้มกันลดลง ทำให้แผลในช่องปากหายช้า บุหรี่กับโรคในช่องปากอื่น ๆผู้สูบบุหรี่มี่แนวโน้มที่จะฟันผุ ติด เชื้อราในช่องปาก การรับรสอาหารไม่ดี อีกทั้งทารกที่เกิดจาก มารดาที่สูบบุหรี่จัดขณะตั้งครรภ์ มีโอกาสเกิดปากแหว่งและ เพดานโหว่
บุหรี่กับสุขภาพช่องปาก รอยโรคก่อนเกิดมะเร็งในช่องปาก และมะเร็งในช่องปาก พูดถึง \"มะเร็ง\" ทุกท่านคงทราบดีว่าเป็นโรคที่น่ากลัว เพราะผู้ที่เป็นส่วนมากจะไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อเป็นแล้ว จึง มักลงเอยด้วยการเสียชีวิต แต่โรคมะเร็งใช่ว่าจะรักษาไม่ ได้เสียเลย มะเร็งบางที่ เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้า นม ถ้าตรวจพบตั้งแต่แรกเริ่มเป็น เมื่อผ่าตัดออกก็จะ หายขาดได้ ดังนั้นจึงควรตรวจสุขภาพร่างกาย เป็นประจำ ทุกปี ไม่ควรปล่อยปละละเลย เพราะแพทย์จะได้ตรวจ พบโรคแต่แรกเริ่ม การรักษาจะไม่ยุ่งยาก และมีโอกาส หายขาดจากโรคได้ เมื่อเร็ว ๆ มีรายงานการวิจัยว่า ความเครียดก็ทำให้เกิด โรคมะเร็งได้ และโรคมะเร็งนี้ เกี่ยวกับพันธุกรรมด้วย ดังนั้น ท่านที่เครียดมากควรหาทางผ่อนคลายเครียดลงบ้าง อาจใช้วิธีออกกำลังกาย หรือฝึกสมาธิ ปฏิบัติธรรมก็จะลด ความเครียดลงได้ ส่วนผู้ที่มีพี่น้องพ่อแม่เป็นโรคมะเร็ง ก็ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดมะเร็ง ด้วย เพราะท่านอาจมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งได้มากกว่าผู้ที่ไม่มี คนในครอบครัวเป็นมะเร็ง
บุหรี่กับสุขภาพช่องปาก รอยโรคอีกกลุ่มหนึ่ง คือ รอยโรคก่อนเกิดมะเร็งในช่อง ปาก (Precancerous lesion) โดยทั่วไปมีลักษณะเป็น รอยฝ้าขาว (White lesion) รอยฝ้าแดง (Red patch) ซึ่งทันตแพทย์ทั่วไปอาจตรวจพบได้ในการตรวจช่องปาก ตามปกติ และให้การรักษาเบื้องต้นได้ เพื่อลดความเสี่ยง ในการเกิดมะเร็งช่องปาก มะเร็งในช่องปากมักพบในคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป เป็น ได้ตั้งแต่ริมฝีปาก ลิ้น กระพุ้งแก้ม กระดูกขากรรไกร พื้น ช่องปาก และส่วนบนของลำคอ ลักษณะทางคลินิกของรอย โรคอาจพบเป็น รอยฝ้าขาว (White patch). รอยฝ้าแดง (Red patch). ฝ้าขาวปนแดง. แผลเรื้อรัง (Ulceration) หรือก้อน (Mass)ก็ได้ มักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง อาจ จะเป็นเพราะผู้ชาย มีปัจจัยเสี่ยงมากกว่า เช่น ชอบสูบ บุหรี่ ดื่มสุรา ละเลยการตรวจสุขภาพร่างกาย อัตราการเกิด มะเร็งในช่องปากถูกจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของมะเร็ง ทั้งหมด ที่พบบ่อย คือมะเร็งของลำคอส่วนบน มะเร็งที่ลิ้น และริมฝีปาก
บุหรี่กับสุขภาพช่องปาก พฤติกรรมเสี่ยงที่สำคัญของโรคมะเร็งในช่องปาก คือ การสูบ บุหรี่และดื่มสุรา การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ร้อน จัดเกินไป และการละเลยต่อสุขภาพในช่องปาก ความร้อน ที่มาจากอาหาร ควันบุหรี่ และแอลกอออล์ จะทำให้เกิดการ ระคายเคือง ต่อเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก เนื้อเยื่อที่มักมีผลกระ ทบจากความร้อน คือบริเวณกระพุ้งแก้ม เพดาน และลำคอ เมื่อถูกระคายเคืองอยู่เป็นประจำ ทำให้เนื้อเยื่อเปลี่ยนแปลง ไปจากเดิม และอาจทำให้กลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ ความ เสี่ยงของการเป็นมะเร็ง เพิ่มในตามจำนวนบุหรี่ที่สูบต่อวัน และจำนวนปีที่สูบ การดื่มสุราก็
บุหรี่กับสุขภาพช่องปาก เช่นกันขึ้นกับปริมาณที่ดื่ม ยิ่งดื่มมากโอกาสเสี่ยงก็มีมาก ขึ้น ผู้ที่รับประทานอาหารร้อนจัดและดื่มสุรา จะมีโอกาส เป็นมะเร็งในช่องปาก มากกว่าคนทั่วไป 2 เท่า ผู้หญิงจะ มีโอกาสเป็นมะเร็งในช่องปาก ได้สูงกว่าผู้ชาย ที่มี พฤติกรรมเดียวกัน ถึง 3 เท่า การสูบบุหรี่และดื่มสุราเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งช่อง ปากมากที่สุดถ้าท่านเลิกสูบบุหรี่ ความเสี่ยงในการเกิด มะเร็งช่องปากจะลดลงอย่างรวดเร็วและภายหลังเลิกแล้ว 10 ปี ความเสี่ยงจะเหมือนผู้ที่ไม่เคยสูบุหรี่มาก่อน ผู้ที่กินหมาก และอมหมากไว้ที่กระพุ้งแก้มเป็นประจำ ปูน ที่ใช้ทานกับหมาก จะกัดเนื้อเยื่อในช่องปาก และเกิดการ ระคายเคืองจากความแข็งของหมากที่เคี้ยว ก็อาจทำให้ เซลล์ของเนื้เยื่อกระพุ้งแก้มเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ฟันก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ ผู้ที่ที่มีฟัน แตก ฟันบิ่น ขอบฟันที่คม จะบาดเนื้อเยื่อในช่องปาก โดยเฉพาะกระพุ้งแก้มและลิ้น ทำให้เป็นแผลเรื้อรังอยู่ นาน ๆ แผลนั้นอาจกลายเป็นมะเร็งได้ โดยเฉพาะผู้ที่ สุขภาพในช่องปากไม่ดี แปรงฟันไม่สะอาด มีหินปูน และคราบฟัน จะมีส่วนทำให้แผลกลายได้ง่ายขึ้น
บุหรี่กับสุขภาพช่องปาก หากเป็นมะเร็งในช่องปากแล้ว ขณะที่เป็นยังไม่มาก สามารถรักษาให้หายขาดได้ ในปัจจุบันวิธีการรักษาที่ เป็นที่ยอมรับและได้ผล คือ การผ่าตัด และ การฉายรังสี ซึ่งอาจจะใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง หรือใช้ทั้งสองอย่างร่วมกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ถึงแม้ว่าจะเป็นมะเร็งใน ช่องปากระยะที่เริ่มลุกลามแล้ว ยังมีคนไข้ส่วนหนึ่งซึ่ง แพทย์สามารถที่จะรักษาเพื่อควบคุมอาการของโรคได้ ค่อนข้างดี หากท่านพบว่ามีแผลในช่องปาก ที่ไม่หายเกิน 2 สัปดาห์ มีอาการเจ็บ มีเลือดออก หรือพบมีก้อนที่บริเวณลำคอโต ผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะหากพบมะเร็งช่อง ปากในระยะเริ่มต้นสามารถรักษาให้หายได้ อย่างไรก็ตามการป้องกันไม่ให้เกิดโรคเป็นสิ่งที่ดีที่สุด อาหารเพื่อสุขภาพสามารถป้องกันโรคมะเร็งช่องปากได้ ผลไม้สดจะช่วยลดความเสี่ยงได้ โดยเฉพาะวิตามิน A C และ E จึงควรรับประทานผลไม้สด และผักใบเขียวมาก ๆ และหมั่นตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุก 6 เดือน ท่านก็จะมีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งช่องปากน้อยลง
บุหรี่กับสุขภาพช่องปาก 1.ตั้งเป้าหมายให้แน่วแน่ เช่น กำหนดวันที่เลิก 2.ลงมือปฏิบัติ เช่น ทิ้งอุปกรณ์ในการสูบบุหรี่ หรืออาจใช้นิโคตินทดแทน เช่น หมากฝรั่ง 3.ห่างไกลจากสิ่งกระตุ้น เช่น เครื่องดื่มที่มีแอล กอออล์ หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดคนสูบบุหรี่ 4.ควรหยุดพักเมื่อรู้สึกเครียด เช่น เล่นกีฬา ฟัง เพลง 5.ออกกำลังกายอย่างน้อย วันละ 15-30 นาที เพราะทำให้สมองปลอดโปร่ง
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: