Course Syllabus คอมพิวเตอร์ ๖ รหัสวชิ ำ ว ๒๐๒๘๘ กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์ และเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ม.๓ นำงสำวพรทพิ ย์ ศีลแดนจันทร์ ตำแหนง่ ครู โรงเรียนทา่ ม่วงราษฎร์บารุง จังหวัดกาญจนบุรี สานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๘ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน
การวเิ คราะห์ความรู้ ทกั ษะกระบวนการ เจตคติการเรยี นรรู้ ายวชิ าและสมรรถนะการเรยี นรู้ หลกั สตู รทอ้ งถน่ิ จากตัวชว้ี ัดของหลักสูตรแกนกลาง กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 20288 รายวชิ า คอมพิวเตอร์ 6 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 จานวนชั่วโมง 20 ชั่วโมง ภาคเรยี นที่ 2 จานวน 0.5 หน่วยกติ การวิเคราะห์ K P A C ผลการเรียนรู้ ความรู้ ทกั ษะ/กระบวนการ คุณลักษณะ สมรรถนะ สาระท้องถิน่ / (Knowledge) (Skill)/(Process) (Attitude) (Competency) อัตลักษณท์ ้องถน่ิ / 1. เข้าใจความหมาย ความตอ้ งการทอ้ งถนิ่ และวเิ คราะห์ลกั ษณะ 1. โปรแกรมภาษาไพ 1. การวเิ คราะห์ 1. มีวินัย สมรรถนะหลกั - ความสามารถและ ของภาษาไพทอนกับ ทอน 2. การแกป้ ญั หา 2. ใฝเ่ รยี นรู้ สมรรถนะท่ี 7 ทกั ษะการ ทักษะของผ้เู รียนใน โปรแกรมภาษาอ่นื ๆได้ 3. การเขียน 3. มงุ่ มั่นในการ คดิ ข้นั สงู และนวัตกรรม ศตวรรษท่ี 21 - ความหมายของ โปรแกรม ทางาน สมรรถนะยอ่ ย (3Rs&7Cs) โปรแกรม คอมพิวเตอร์ ขอ้ ท่ี 1 รับรูข้ อ้ มูลขา่ วสาร - ลกั ษณะสาคัญของ ต่าง ๆ แลว้ สามารถจาแนก ภาษาไพทอน จัดหมวดหมู่ จดั ลาดบั - การเขยี นโปรแกรม ความสาคญั และ ไพทอนเบ้อื งต้น เปรียบเทยี บขอ้ มลู จาก ข้อมูลขา่ วสารนั้นได้ สมรรถนะรอง สมรรถนะที่ 8 การรเู้ ทา่ ทัน สอ่ื สารสนเทศ และดจิ ทิ ัล ข้อที่ 4 เลอื กและใช้ เทคโนโลยีทเี่ หมาะสมเพ่อื ลดขนั้ ตอนเวลา ทรพั ยากร ในการทางาน
การวเิ คราะห์ K P A C ผลการเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ/กระบวนการ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ สาระท้องถนิ่ / (Knowledge) (Skill)/(Process) (Attitude) (Competency) อัตลกั ษณท์ อ้ งถิ่น/ ความตอ้ งการทอ้ งถ่ิน 2. รู้และเข้าใจพ้นื ฐาน 1. ชนิดของขอ้ มูลตัว วเิ คราะห์, วางแผน, 1. มีวินัย สมรรถนะหลัก - ความสามารถและ การเขียนโปรแกรมด้วย แปร ออกแบบ, เขยี น 2. ใฝเ่ รียนรู้ สมรรถนะท่ี 7 ทกั ษะการ ทักษะของผูเ้ รียนใน ภาษาไพทอน 2. นิพจนแ์ ละตัว โปรแกรม, แก้ปญั หา 3. มุ่งมั่นในการ คดิ ขัน้ สูงและนวตั กรรม ศตวรรษท่ี 21 ดาเนินการ ทางาน ข้อที่ 2 ระบปุ ัญหาทเี่ กิด (3Rs&7Cs) 3. ฟังก์ชันแสดงผล ขน้ึ กบั ตนเองและคนใกล้ 4. ฟังก์ชันรับค่า ตัวอย่างชัดเจน แล้ว ต้ังสมมตฐิ านของปญั หาทจ่ี ะ เกดิ ขน้ึ ในสถานการณ์ต่าง ๆ และสามารถระบุขอ้ ดีและ ข้อจากดั ของวิธกี าร แก้ปญั หาได้ สมรรถนะรอง สมรรถนะที่ 2 คณิตศาสตร์ ในชวี ติ ประจาวัน ขอ้ ที่ 3 ถ่ายทอดความคดิ โดย ใชภ้ าษาและสญั ลกั ษณท์ าง คณิตศาสตร์ สือ่ สารและสอ่ื ความหมายใหเ้ ขา้ ใจตรงกัน วเิ คราะห์ข้อมูลและการแปล ความหมายข้อมูล ในสถานการณต์ ่างๆ 3.เขียนโปรแกรมอย่าง 1. ฟังก์ชันทาง วเิ คราะห์, วางแผน, 1. มวี ินัย สมรรถนะหลัก - ความสามารถและ ง่ายด้วยภาษาไพทอนได้ คณติ ศาสตร์ ออกแบบ, เขียน 2. ใฝ่เรยี นรู้ สมรรถนะที่ 7 ทกั ษะการ ทกั ษะของผเู้ รียนใน 2. ฟังกช์ ันจดั การกับ โปรแกรม, แก้ปัญหา 3. มุ่งม่ันในการ คดิ ขัน้ สงู และนวัตกรรม ศตวรรษที่ 21 ข้อความ ทางาน ขอ้ ท่ี 3 สามารถวางแผนการ (3Rs&7Cs) แกป้ ัญหา แล้วปฏิบตั ิตาม แผนการแกป้ ญั หาที่กาหนด ไวแ้ ละสามารถตรวจสอบ ทบทวนแผนการแก้ปญั หาท่ี กาหนดไว้จนบรรลุ วตั ถุประสงค์ โดยมีการ บนั ทกึ ผลการแก้ปญั หา
การวิเคราะห์ K P A C ผลการเรยี นรู้ ความรู้ ทักษะ/กระบวนการ คณุ ลกั ษณะ สมรรถนะ สาระทอ้ งถน่ิ / (ต่อ) (Knowledge) (Skill)/(Process) (Attitude) (Competency) อัตลกั ษณท์ ้องถ่นิ / ความตอ้ งการทอ้ งถ่ิน สมรรถนะรอง สมรรถนะที่ 2 คณิตศาสตร์ ในชีวติ ประจาวัน ขอ้ ที่ 4 แกป้ ญั หาทาง คณติ ศาสตร์ และเช่อื มโยง กบั สถานการณ์ ศาสตรอ์ ่ืนๆ ท่เี ก่ียวข้องกับ ชวี ติ จริงเกิดการเรยี นรู้ และแนวคิดใหมท่ ีซ่ บั ซ้อน ย่งิ ข้ึน 4. มคี วามเข้าใจเกย่ี วกบั 1. คาสั่งเลือกทา วิเคราะห,์ วางแผน, 1. มีวินยั สมรรถนะหลกั - ความสามารถและ การเลือกทาและคาส่ัง วนซ้าในไพทอน ออกแบบ, เขียน 2. ใฝ่เรยี นรู้ สมรรถนะท่ี 7 ทักษะการ ทกั ษะของผเู้ รียนใน โปรแกรม, แก้ปญั หา 3. ม่งุ ม่ันในการ คิดข้นั สูงและนวตั กรรม ศตวรรษท่ี 21 ทางาน ขอ้ ที่ 4 นาขอ้ คน้ พบทีไ่ ดจ้ าก (3Rs&7Cs) การแก้ปญั หาไปประยกุ ต์ใช้ ในสถานการณอ์ ่ืน ๆ สมรรถนะรอง สมรรถนะท่ี 3 การสบื สอบ ทางวิทยาศาสตรแ์ ละ จติ วิทยาศาสตร์ ข้อท่ี 4 สามารถเขยี นเพื่อ อธบิ ายความรูค้ วามเขา้ ใจ และความคดิ ของตน หรือ เพือ่ นาเสนอ ในรปู แบบ ตา่ งๆ ได้อยา่ งหลากหลาย 5. เขียนโปรแกรมทม่ี ี 1. คาส่งั วนซ้า วิเคราะห,์ วางแผน, 1. มีวินัย สมรรถนะหลกั - ความสามารถและ การตดั สนิ ใจและทาซา้ 2. คาสงั่ break ได้ 3. คาสง่ั continue ออกแบบ, เขยี น 2. ใฝเ่ รียนรู้ สมรรถนะที่ 7 ทักษะการ ทกั ษะของผเู้ รียนใน โปรแกรม, แก้ปัญหา 3. มุ่งมั่นในการ คิดขัน้ สงู และนวัตกรรม ศตวรรษท่ี 21 ทางาน ขอ้ ท่ี 5 ถา่ ยทอดความคิด (3Rs&7Cs) กระบวนการทางานใหผ้ ู้อื่นได้ และสามารถประเมินผลการ ทางานเพอื่ ปรับปรุงพฒั นางาน
การวเิ คราะห์ K P A C ผลการเรยี นรู้ ความรู้ ทักษะ/กระบวนการ คณุ ลกั ษณะ สมรรถนะ สาระทอ้ งถน่ิ / (ตอ่ ) (Knowledge) (Skill)/(Process) (Attitude) (Competency) อตั ลกั ษณท์ ้องถ่นิ / ความตอ้ งการทอ้ งถิน่ 6. มีความเขา้ ใจเกี่ยวกบั 1. ฟงั กช์ ัน วิเคราะห,์ วางแผน, การเขียนโปรแกรมแบบ 2. การเรียกใชฟ้ ังก์ชนั ออกแบบ, เขยี น สมรรถนะรอง ฟังกช์ ัน 3. เขียนโปรแกรมโดย โปรแกรม, แกป้ ญั หา ใชฟ้ งั ก์ชันได้ , นาเสนอ, ประเมิน สมรรถนะท่ี 8 การรูเ้ ทา่ ทนั ส่อื สารสนเทศ และดิจทิ ัล ข้อที่ 5 เลอื กและใช้ เทคโนโลยีทเ่ี หมาะสม ใน การแก้ปญั หาอย่าง สร้างสรรค์ได้ดว้ ยตนเองทา ใหเ้ กิดประโยชน์ต่อตนเอง และสังคม ไม่ทาให้ผู้อน่ื เดอื ดรอ้ น ไม่มผี ลกระทบต่อ สงิ่ แวดลอ้ ม และสามารถ แนะนาผู้อืน่ ได้ 1. มวี ินยั สมรรถนะหลัก - ความสามารถและ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ สมรรถนะที่ 7 ทักษะการ ทักษะของผู้เรียนใน 3. มุง่ ม่ันในการ คดิ ข้นั สงู และนวตั กรรม ศตวรรษท่ี 21 ทางาน ขอ้ ที่ 6 สามารถวเิ คราะหข์ ้อดี (3Rs&7Cs) ขอ้ เสยี ตามหลักการและทฤษฎี จากส่ิงที่ได้เรยี นรู้และศึกษา แล้วนาความรูท้ ไ่ี ดจ้ าก การศึกษาค้นควา้ มาสรปุ เป็น องค์ความร้ไู ด้ สมรรถนะรอง สมรรถนะที่ 1 การเรียนรู้ ภาษาไทยเพอื่ การส่ือสาร ขอ้ ที่ 2 พูดส่ือสาร มีศลิ ปะใน การพูดอยา่ งสรา้ งสรรค์ เหมาะสมตามรูปแบบการพดู สามารถใช้ถอ้ ยคาไดถ้ กู ตอ้ ง ตามหลักของการใชภ้ าษา และ ระดับภาษา สมรรถนะรอง สมรรถนะที่ 8 การรู้เทา่ ทนั ส่ือ สารสนเทศ และดจิ ิทลั ขอ้ ท่ี 3 เลือกวเิ คราะห์ วิพากษ์และประเมิน
การวเิ คราะห์ K P A C ผลการเรยี นรู้ ความรู้ ทักษะ/กระบวนการ คณุ ลกั ษณะ สมรรถนะ สาระทอ้ งถิ่น/ (ตอ่ ) (Knowledge) (Skill)/(Process) (Attitude) (Competency) อตั ลกั ษณ์ทอ้ งถ่ิน/ ความตอ้ งการทอ้ งถน่ิ จดุ ประสงค์ของการสอ่ื สาร กระบวนการ สรา้ ง และ บทบาทของสือ่ สารสนเทศ และเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั แบบ ตา่ ง ๆ อย่างเป็นผ้รู เู้ ทา่ ทัน ผลกระทบท่ีอาจจะเกิดกบั ตนเอง ผู้อนื่ และสังคม
คาอธิบายรายวชิ า (รายวชิ าพ้ืนฐาน) กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 20288 รายวิชา คอมพิวเตอร์ 6 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 จานวนช่วั โมง 20 ชัว่ โมง ภาคเรียนที่ 2 จานวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาความรู้และสามารถอธิบายขั้นตอนและเขียนโปรแกรมสั่งงานคอมพิวเตอร์ ใช้คาสั่งพืน้ ฐาน ใน การเขียนโปรแกรมออกแบบการสร้างชิ้นงานดว้ ยขั้นตอนการแก้ปัญหากาหนดและใช้งานตัวแปรใช้ โครงสร้าง แบบลาดับ เงอ่ื นไข และวนซ้าและสรา้ งชิ้นงานด้วยหลักการโปรแกรมจากจินตนาการอยา่ ง สรา้ งสรรค์ โดยใช้กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการกลุ่ม การคิดวิเคราะห์การแก้ปัญหาและการออกแบบ ด้วย โปรแกรมภาษา Python เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจใฝ่เรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง มีความรับผิดชอบ มีการทางานเป็น ระบบ เหน็ คณุ คา่ การใชเ้ ทคโนโลยีเพือ่ ใช้ในการทางานไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพประสิทธผิ ลและมีจรยิ ธรรม ผลการเรยี นรู้ 1. เข้าใจความหมายและวเิ คราะห์ลกั ษณะสาคัญของภาษาไพทอนกับโปรแกรมภาษาอ่นื ๆได้ 2. ร้แู ละเขา้ ใจพน้ื ฐานการเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน 3. เขยี นโปรแกรมอย่างง่ายด้วยภาษาไพทอนได้ 4. มีความเขา้ ใจเกีย่ วกับคาส่ังเลอื กทาและคาส่ังวนซ้าในไพทอน 5. เขียนโปรแกรมทมี่ กี ารตัดสินใจและทาซ้าได้ 6. มีความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การเขยี นโปรแกรมแบบฟังกช์ ัน รวม 6 ผลการเรียนรู้
โครงสร้างรายวชิ า กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 20287 รายวชิ า คอมพิวเตอร์ 5 ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 จานวนชวั่ โมง 20 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ 1 จานวน 0.5 หน่วยกิต หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั สมรรถนะ จานวน ท่ี ชว่ั โมง 1 แนะนาไพทอน 1. เขา้ ใจความหมายและ - ความหมายของโปรแกรม สมรรถนะหลกั 2 วิเคราะห์ลกั ษณะของ - ลักษณะสาคัญของภาษาไพ สมรรถนะท่ี 7 ทกั ษะการคดิ ขั้นสูง ภาษาไพทอนกบั ทอน และนวตั กรรม โปรแกรมภาษาอน่ื ๆได้ - การเขียนโปรแกรมไพทอน สมรรถนะยอ่ ย เบอื้ งต้น ข้อที่ 1 รับรู้ขอ้ มลู ขา่ วสารตา่ ง ๆ แล้วสามารถจาแนก จดั หมวดหมู่ จดั ลาดับความสาคัญ และ เปรียบเทยี บข้อมลู จากข้อมูล ข่าวสารนัน้ ได้ สมรรถนะรอง สมรรถนะท่ี 8 การรู้เท่าทนั สอ่ื สารสนเทศ และดจิ ิทัล ขอ้ ที่ 4 เลือกและใชเ้ ทคโนโลยที ่ี เหมาะสมเพือ่ ลดขน้ั ตอนเวลา ทรพั ยากร ในการทางาน 2 ตัวแปรและตัวดาเนนิ การ 2. รู้และเข้าใจพ้ืนฐาน 1. ชนิดของขอ้ มลู และตวั แปร สมรรถนะหลัก 2 การเขียนโปรแกรมด้วย 2. นพิ จนแ์ ละตวั ดาเนินการ สมรรถนะท่ี 7 ทักษะการคดิ ขัน้ สูง ภาษาไพทอน และนวตั กรรม ข้อท่ี 2 ระบุปัญหาทีเ่ กิดข้ึนกับ ตนเองและคนใกล้ตวั อย่างชัดเจน แลว้ ตั้งสมมติฐานของปญั หาท่ีจะ เกดิ ขึ้นในสถานการณ์ตา่ ง ๆ และ สามารถระบุข้อดีและขอ้ จากัดของ วธิ ีการแก้ปญั หาได้
หน่วย ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั สมรรถนะ จานวน ท่ี ชว่ั โมง 3. เขียนโปรแกรมอย่าง 1. ฟงั ก์ชันแสดงผล สมรรถนะรอง 3 คาสง่ั แสดงผลและรบั ค่า ง่ายด้วยภาษาไพทอนได้ 2. ฟังก์ชันรับค่า สมรรถนะที่ 2 คณิตศาสตร์ใน 4 ชีวิตประจาวนั 4 ฟงั กช์ ันทางคณติ ศาสตร์ 4. มีความเข้าใจเกย่ี วกับ สอบกลางภาค ข้อที่ 3 ถ่ายทอดความคิดโดยใช้ 2 และข้อความ คาสงั่ เลือกทาและคาส่งั 1. ฟงั กช์ ันทางคณติ ศาสตร์ ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ วนซ้าในไพทอน 2. ฟงั กช์ ันจดั การกบั ข้อความ สอ่ื สารและสื่อความหมายใหเ้ ข้าใจ ตรงกัน วเิ คราะหข์ อ้ มลู และการแปล ความหมายขอ้ มูล ในสถานการณต์ ่างๆ สมรรถนะหลกั สมรรถนะที่ 7 ทกั ษะการคิดขัน้ สูง และนวัตกรรม ข้อที่ 3 สามารถวางแผนการ แก้ปัญหา แล้วปฏิบตั ิตามแผนการ แกป้ ญั หาท่กี าหนดไว้และสามารถ ตรวจสอบ ทบทวนแผนการ แก้ปัญหาท่กี าหนดไว้จนบรรลุ วตั ถุประสงค์ โดยมกี ารบนั ทึกผล การแกป้ ญั หา สมรรถนะรอง สมรรถนะท่ี 2 คณติ ศาสตร์ใน ชีวิตประจาวนั ขอ้ ท่ี 4 แกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์ และเชื่อมโยงกับสถานการณ์ ศาสตรอ์ ืน่ ๆ ท่เี ก่ียวข้องกบั ชีวิตจริง เกิดการเรียนรู้ และแนวคดิ ใหมท่ ี่ซบั ซอ้ นย่ิงขน้ึ สมรรถนะหลกั สมรรถนะท่ี 7 ทกั ษะการคดิ ข้ันสูง และนวัตกรรม ขอ้ ที่ 4 นาข้อคน้ พบที่ได้จากการ แก้ปัญหาไปประยุกตใ์ ช้ใน สถานการณอ์ ื่น ๆ
หนว่ ย ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั สมรรถนะ จานวน ท่ี ชว่ั โมง สมรรถนะรอง (ต่อ) สมรรถนะที่ 3 การสบื สอบทาง วิทยาศาสตรแ์ ละจิตวทิ ยาศาสตร์ ขอ้ ท่ี 4 สามารถเขยี นเพอ่ื อธิบาย ความรู้ความเขา้ ใจ และความคดิ ของตน หรือเพ่อื นาเสนอ ใน รูปแบบตา่ งๆ ได้อยา่ งหลากหลาย 5 คาสงั่ เลือกทาและคาส่ัง 5. เขียนโปรแกรมทีม่ ีการ 1. คาส่ังเลอื กทา สมรรถนะหลกั 4 วนซ้า ตดั สินใจและทาซา้ ได้ 2. คาสง่ั วนซา้ สมรรถนะท่ี 7 ทกั ษะการคิดขน้ั สูง 3. คาสั่ง break และนวัตกรรม 4. คาสั่ง continue ข้อท่ี 5 ถา่ ยทอดความคดิ กระบวนการทางานให้ผอู้ ่นื ไดแ้ ละ สามารถประเมนิ ผลการทางานเพือ่ ปรบั ปรุงพฒั นางาน สมรรถนะรอง สมรรถนะที่ 8 การร้เู ทา่ ทนั ส่ือ สารสนเทศ และดิจทิ ัล ขอ้ ที่ 5 เลือกและใช้เทคโนโลยีที่ เหมาะสม ในการแก้ปัญหาอย่าง สรา้ งสรรคไ์ ด้ดว้ ยตนเองทาให้เกดิ ประโยชน์ต่อตนเองและสงั คม ไม่ ทาให้ผ้อู นื่ เดือดรอ้ น ไมม่ ี ผลกระทบตอ่ ส่งิ แวดลอ้ ม และ สามารถแนะนาผ้อู น่ื ได้ 6 การเรียกใช้ฟังก์ชัน 6. มคี วามเขา้ ใจเกีย่ วกับ 1. ฟังกช์ ัน สมรรถนะหลัก 6 สมรรถนะท่ี 7 ทักษะการคดิ ขนั้ สูง พารามเิ ตอร์และการคนื การเขียนโปรแกรมแบบ 2. การเรยี กใชฟ้ ังก์ชัน และนวัตกรรม ข้อท่ี 6 สามารถวเิ คราะห์ขอ้ ดขี อ้ เสีย คา่ จากฟังกช์ ัน ฟงั ก์ชัน ตามหลักการและทฤษฎีจากสิ่งทไ่ี ด้ เรยี นรู้และศึกษา แลว้ นาความรูท้ ไ่ี ด้ จากการศึกษาคน้ ควา้ มาสรปุ เปน็ องค์ ความร้ไู ด้
หนว่ ย ช่อื หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั สมรรถนะ จานวน ท่ี ชว่ั โมง สมรรถนะรอง สมรรถนะที่ 1 การเรยี นรู้ ภาษาไทยเพอ่ื การสือ่ สาร ขอ้ ท่ี 2 พดู สือ่ สาร มศี ลิ ปะในการพูด อยา่ งสรา้ งสรรค์ เหมาะสมตาม รปู แบบการพูด สามารถใชถ้ อ้ ยคาได้ ถูกต้องตามหลักของการใช้ภาษา และ ระดบั ภาษา สมรรถนะรอง สมรรถนะท่ี 8 การร้เู ทา่ ทนั สื่อ สารสนเทศ และดจิ ิทลั ขอ้ ที่ 3 เลอื กวิเคราะห์ วิพากษ์และ ประเมนิ จดุ ประสงค์ของการส่ือสาร กระบวนการ สร้าง และบทบาท ของสอื่ สารสนเทศและเทคโนโลยี ดจิ ทิ ัลแบบตา่ ง ๆ อย่างเป็นผู้รเู้ ท่า ทนั ผลกระทบทอ่ี าจจะเกดิ กบั ตนเอง ผู้อ่ืน และสงั คม สอบปลายภาค รวมตลอดภาค
แบบตรวจสอบสมรรถนะการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 20288 รายวชิ า คอมพิวเตอร์ 6 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 จานวนชว่ั โมง 20 ชว่ั โมง ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน 0.5 หนว่ ยกิต สมรรถนะ สมรรถนะหลกั สมรรถนะรอง ยอ่ ยขอ้ ที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 1 2 3 4 5 6
คำอธิบำยรำยวิชำ (รำยวิชำเพิ่มเติม) รายวชิ า คอมพิวเตอร์ 6 รหัสวชิ า ว 20288 กลมุ่ สาระวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรียนท่ี 2 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 จานวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ชว่ั โมง ศกึ ษาความรู้และสามารถอธิบายขน้ั ตอนและเขียนโปรแกรมส่ังงานคอมพวิ เตอร์ ใชค้ าส่ังพ้นื ฐาน ในการเขียน โปรแกรมออกแบบการสร้างชิ้นงานด้วยขั้นตอนการแก้ปัญหากาหนดและใช้งานตัวแปรใช้ โครงสร้างแบบลาดับ เงอ่ื นไข และวนซ้าและสร้างชิน้ งานดว้ ยหลกั การโปรแกรมจากจินตนาการอยา่ ง สร้างสรรค์ โดยใชก้ ระบวนการปฏิบัติ กระบวนการกลุม่ การคิดวเิ คราะห์การแกป้ ัญหาและการออกแบบ ดว้ ยโปรแกรม ภาษา Python เพ่อื ให้เกิดความรู้ความเข้าใจใฝ่เรยี นรู้เพ่ือการพฒั นาตนเอง มีความรับผิดชอบ มกี ารทางานเปน็ ระบบ เห็น คณุ ค่าการใชเ้ ทคโนโลยเี พื่อใชใ้ นการทางานไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพประสทิ ธผิ ลและมีจริยธรรม ผลการเรยี นรู้ 1. เข้าใจความหมายและวิเคราะห์ลักษณะสาคญั ของภาษาไพทอนกับโปรแกรมภาษาอนื่ ๆได้ 2. ร้แู ละเขา้ ใจพื้นฐานการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน 3. เขียนโปรแกรมอย่างง่ายดว้ ยภาษาไพทอนได้ 4. มคี วามเขา้ ใจเก่ยี วกบั คาส่ังเลือกทาและคาส่ังวนซา้ ในไพทอน 5. เขียนโปรแกรมท่ีมกี ารตัดสนิ ใจและทาซ้าได้ 6. มคี วามเข้าใจเกย่ี วกับการเขียนโปรแกรมแบบฟังก์ชัน รวม 6 ผลการเรยี นรู้ สมรรถนะ สมรรถนะหลกั /สมรรถนะย่อย สมรรถนะท่ี 7 ทกั ษะการคิดขั้นสงู และนวัตกรรม สมรรถนะยอ่ ยที่ 1-6
สมรรถนะรอง/สมรรถนะยอ่ ย สมรรถนะท่ี 1 การเรยี นรู้ ภาษาไทยเพอ่ื การสอ่ื สาร สมรรถนะยอ่ ยท่ี 1 สมรรถนะท่ี 2 คณิตศาสตรใ์ นชีวิตประจาวัน สมรรถนะย่อยที่ 3-4 สมรรถนะที่ 3 การสืบสอบทางวิทยาศาสตรแ์ ละจิตวทิ ยาศาสตร์ สมรรถนะยอ่ ยท่ี 3 สมรรถนะท่ี 8 การรเู้ ทา่ ทันส่ือสารสนเทศและดจิ ทิ ัล สมรรถนะย่อยท่ี 3-5
โครงสร้ำงหนว่ ยกำรเรยี นร/ู้ โครงสร้ำงรำยวชิ ำ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 20288 รายวชิ า คอมพิวเตอร์ 6 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 จานวน 20 ชว่ั โมง ภาคเรียนท่ี 2 จานวน 0.5 หน่วยกติ หน่วย ช่ือหนว่ ยกำรเรียนรู้ ผลกำรเรยี นรู้ สำระกำรเรียนรู้ สมรรถนะกำรเรยี นรู้ จำนวน ที่ ชั่วโมง 1 แนะนาไพทอน 1. เข้าใจความหมาย - ความหมายของ สมรรถนะหลัก 2 สมรรถนะท่ี 7 ทกั ษะการคดิ ขั้นสูงและ และวเิ คราะห์ โปรแกรม นวัตกรรม สมรรถนะยอ่ ย ลักษณะของภาษา - ลกั ษณะสาคญั ของ ขอ้ ท่ี 1 รับรูข้ ้อมลู ข่าวสารต่าง ๆ แลว้ ไพทอนกับโปรแกรม ภาษาไพทอน สามารถจาแนก จัดหมวดหมู่ จดั ลาดบั - การเขยี นโปรแกรม ภาษาอน่ื ๆได้ ไพทอนเบ้ืองต้น ความสาคญั และเปรียบเทยี บขอ้ มลู จากขอ้ มลู ข่าวสารนั้นได้ สมรรถนะรอง สมรรถนะที่ 8 การรเู้ ท่าทนั สื่อ สารสนเทศ และดจิ ทิ ัล ข้อที่ 4 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยที ี่ เหมาะสมเพื่อลดขน้ั ตอนเวลา ทรัพยากร ในการทางาน 2 ตัวแปรและตัว 2. รู้และเข้าใจ 1. ชนิดของข้อมลู และ สมรรถนะหลกั 2 ดาเนินการ พ้นื ฐานการเขยี น ตัวแปร สมรรถนะที่ 7 ทกั ษะการคดิ ขัน้ สูงและ โปรแกรมด้วยภาษา นวตั กรรม ไพทอน 2. นิพจนแ์ ละตัวดา ขอ้ ท่ี 2 ระบปุ ัญหาทเี่ กิดข้ึนกับตนเอง เนนิ การ และคนใกล้ตัวอย่างชัดเจน แลว้ ตั้งสมมตฐิ านของปญั หาที่จะเกิดขึน้ ใน สถานการณ์ต่าง ๆ และสามารถระบุ ขอ้ ดแี ละข้อจากดั ของวิธกี ารแก้ปญั หา ได้
หนว่ ย ชอื่ หนว่ ยกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ สำระกำรเรียนรู้ สมรรถนะกำรเรียนรู้ จำนวน ที่ ชั่วโมง สมรรถนะรอง (ต่อ) สมรรถนะที่ 2 คณติ ศาสตรใ์ น 4 ชีวิตประจาวัน 3 คาส่งั แสดงผลและ 3. เขียนโปรแกรม 1. ฟงั ก์ชันแสดงผล ข้อท่ี 3 ถา่ ยทอดความคิดโดยใชภ้ าษา 2 รับค่า อย่างง่ายด้วยภาษา 2. ฟังกช์ ันรับค่า และสัญลักษณท์ างคณติ ศาสตร์ ไพทอนได้ ส่อื สารและสือ่ ความหมายให้เข้าใจ ตรงกัน วิเคราะห์ข้อมูลและการแปล 4 ฟงั กช์ ันทาง 4. มคี วามเขา้ ใจ 1. ฟงั ก์ชันทาง ความหมายขอ้ มลู ในสถานการณ์ต่างๆ คณติ ศาสตร์และ เกยี่ วกบั คาส่งั เลือก คณิตศาสตร์ สมรรถนะหลกั ข้อความ ทาและคาสงั่ วนซา้ 2. ฟงั ก์ชันจัดการกับ สมรรถนะท่ี 7 ทักษะการคดิ ขน้ั สูงและ ในไพทอน ขอ้ ความ นวัตกรรม ขอ้ ที่ 3 สามารถวางแผนการแก้ปญั หา (ต่อ) แลว้ ปฏบิ ัติตามแผนการแก้ปัญหาท่ี กาหนดไว้และสามารถตรวจสอบ ทบทวนแผนการแก้ปญั หาที่กาหนดไว้ จนบรรลุวัตถปุ ระสงค์ โดยมกี ารบันทกึ ผลการแก้ปญั หา สมรรถนะรอง สมรรถนะที่ 2 คณติ ศาสตรใ์ น ชีวิตประจาวัน ข้อท่ี 4 แก้ปญั หาทางคณติ ศาสตร์ และ เชอื่ มโยงกับสถานการณ์ ศาสตรอ์ ่ืนๆท่ี เกีย่ วขอ้ งกับชีวิตจริงเกิดการเรียนรู้ และ แนวคิดใหม่ทีซ่ ับซ้อนยง่ิ ขึน้ สมรรถนะหลกั สมรรถนะท่ี 7 ทกั ษะการคดิ ขนั้ สูงและ นวตั กรรม ข้อท่ี 4 นาข้อคน้ พบทีไ่ ดจ้ ากการแกป้ ญั หา ไปประยุกต์ใชใ้ นสถานการณ์อ่นื ๆ สมรรถนะรอง สมรรถนะที่ 3 การสบื สอบทาง วิทยาศาสตร์และจติ วิทยาศาสตร์ ข้อที่ 4 สามารถเขยี นเพื่ออธิบายความรู้ ความเขา้ ใจ และความคดิ ของตน หรอื เพือ่ นาเสนอ ในรปู แบบตา่ งๆ ได้อยา่ ง หลากหลาย
หนว่ ย ชอ่ื หน่วยกำรเรยี นรู้ ผลกำรเรียนรู้ สำระกำรเรยี นรู้ สมรรถนะกำรเรียนรู้ จำนวน ท่ี 1. คาส่งั เลือกทา สมรรถนะหลกั ช่วั โมง 2. คาสง่ั วนซ้า 5 คาสง่ั เลอื กทาและ 5. เขียนโปรแกรมท่ี 3. คาสง่ั break 4 4. คาสั่ง continue คาสงั่ วนซา้ มีการตัดสนิ ใจและ สมรรถนะที่ 7 ทกั ษะการคิดข้นั สูงและ ทาซ้าได้ 1. ฟังกช์ ัน 2. การเรยี กใช้ฟังก์ชนั นวัตกรรม ข้อที่ 5 ถ่ายทอดความคดิ กระบวนการ ทางานใหผ้ ู้อ่นื ไดแ้ ละสามารถ ประเมนิ ผลการทางานเพ่ือปรับปรุง พฒั นางาน สมรรถนะรอง สมรรถนะท่ี 8 การรเู้ ท่าทันสือ่ สารสนเทศ และดจิ ิทลั ขอ้ ท่ี 5 เลือกและใชเ้ ทคโนโลยที ่ี เหมาะสม ในการแกป้ ัญหาอยา่ ง สร้างสรรค์ไดด้ ว้ ยตนเองทาให้เกดิ ประโยชน์ตอ่ ตนเองและสังคม ไมท่ าให้ ผอู้ น่ื เดอื ดรอ้ น ไม่มผี ลกระทบตอ่ สิง่ แวดลอ้ ม และสามารถแนะนาผูอ้ นื่ ได้ 6 การเรียกใช้ฟงั ก์ชัน 6. มคี วามเข้าใจ สมรรถนะหลกั 6 พารามิเตอร์และการ เก่ียวกบั การเขียน สมรรถนะท่ี 7 ทกั ษะการคิดขน้ั สูงและ คืนค่าจากฟังกช์ นั โปรแกรมแบบ นวัตกรรม ฟังก์ชัน ขอ้ ท่ี 6 สามารถวิเคราะหข์ ้อดีขอ้ เสีย ตามหลกั การและทฤษฎีจากส่งิ ทไี่ ด้ เรยี นรแู้ ละศกึ ษา แลว้ นาความรทู้ ีไ่ ดจ้ าก การศึกษาคน้ ควา้ มาสรปุ เป็นองค์ ความร้ไู ด้ สมรรถนะรอง สมรรถนะที่ 1 การเรยี นรู้ ภาษาไทย เพ่ือการสอื่ สาร ขอ้ ที่ 2 พดู สอื่ สาร มศี ลิ ปะในการพดู อยา่ งสร้างสรรค์ เหมาะสมตามรปู แบบ การพูด สามารถใช้ถ้อยคาไดถ้ ูกต้องตาม หลักของการใช้ภาษา และระดับภาษา
หนว่ ย ชอ่ื หน่วยกำรเรียนรู้ ผลกำรเรยี นรู้ สำระกำรเรียนรู้ สมรรถนะกำรเรยี นรู้ จำนวน ที่ ช่ัวโมง สมรรถนะรอง (ต่อ) สมรรถนะท่ี 8 การร้เู ทา่ ทนั สื่อ สารสนเทศ และดจิ ิทลั ข้อที่ 3 เลือกวเิ คราะห์ วิพากษแ์ ละ ประเมนิ จดุ ประสงค์ของการสื่อสาร กระบวนการ สร้าง และบทบาทของสื่อ สารสนเทศและเทคโนโลยดี ิจิทัลแบบ ตา่ ง ๆ อยา่ งเป็นผรู้ เู้ ทา่ ทันผลกระทบท่ี อาจจะเกดิ กบั ตนเอง ผู้อื่น และสังคม
รำยวิชำ คอมพวิ เตอร์ 6 โครงสรำ้ งเวลำเรยี น ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ่ี 3 รหัสวชิ ำ ว 20288 ภำคเรยี นท่ี 2 เวลำเรียน 20 ชว่ั โมง/ภำค เวลำเรียน 1 ชั่วโมง/สปั ดำห์ จำนวนหน่วยกติ 0.5 หนว่ ยกติ หนว่ ชอ่ื หนว่ ย ผลกำรเรียนรู้ สำระกำรเรียนรู้ สมรรถนะกำร เวลำ K คะแนน C ยที่ กำรเรยี น เรยี นรู้ (ชว่ั โมง) 2 PA 1 2 -1 1 1 แนะนาไพทอน 1. เข้าใจความหมาย ความหมายของโปรแกรม สมรรถนะหลกั 2 11 1 2 และวิเคราะหล์ ักษณะ ลักษณะสาคัญของภาษา สมรรถนะท่ี 7/1 2 2- ของภาษาไพทอนกบั ไพทอน สมรรถนะรอง 4 2 1 โปรแกรมภาษาอ่นื ๆได้ สมรรถนะที่ 8/4 2 1 11 2 การเขียนโปรแกรมไพทอน 2- 4 1 1 เบื้องต้น 1 21 1 41 2 ตวั แปรและตัว 2. รู้และเข้าใจพื้นฐาน ชนิดของขอ้ มลู และตัวแปร สมรรถนะหลกั 2 2 1 2- 1 ดาเนินการ การเขียนโปรแกรมด้วย นิพจนแ์ ละตัวดาเนนิ การ สมรรถนะท่ี 7/2 21 ภาษาไพทอน สมรรถนะยอ่ ย 1 1 สมรรถนะที่ 2/3 1 21 2 1 2- 1 3 คาส่ังแสดงผล 3. เขียนโปรแกรมอย่าง ฟงั กช์ ันแสดงผล สมรรถนะหลัก 1 21 1 และรับคา่ ง่ายด้วยภาษาไพทอน ฟงั ก์ชันรับค่า สมรรถนะท่ี 7/3 2- สมรรถนะย่อย ได้ สมรรถนะท่ี 2/4 4 ฟังก์ชันทาง 4. มีความเข้าใจ ฟังก์ชันทางคณติ ศาสตร์ สมรรถนะหลัก คณติ ศาสตร์ เกี่ยวกบั คาสงั่ เลือกทา ฟังก์ชันจดั การกับขอ้ ความ สมรรถนะท่ี 7/4 และขอ้ ความ และคาส่ังวนซา้ ในไพ สมรรถนะย่อย สมรรถนะที่ 3/4 ทอน 5 คาส่ังเลือกทา 5. เขียนโปรแกรมท่มี ี คาสัง่ เลือกทา สมรรถนะหลัก และคาสงั่ วนซา้ การตดั สนิ ใจและทาซา้ คาส่ังวนซ้า สมรรถนะที่ 7/5 ได้ คาสัง่ break สมรรถนะยอ่ ย สมรรถนะที่ 8/5 คาสัง่ continue
หนว่ ชื่อหน่วย ผลกำรเรยี นรู้ สำระกำรเรยี นรู้ สมรรถนะกำร เวลำ 2 คะแนน 2 ยท่ี กำรเรียน 6. มคี วามเขา้ ใจ ฟังกช์ ัน เรยี นรู้ (ชัว่ โมง) 1 1 21 6 การเรียกใช้ สมรรถนะหลัก 6 41 สมรรถนะท่ี 7/6 ฟังกช์ ัน เกยี่ วกับการเขียน การเรียกใช้ฟงั ก์ชนั สมรรถนะย่อย พารามเิ ตอร์ โปรแกรมแบบฟงั ก์ชัน สมรรถนะที่ 1/2 และการคืนค่า และ 8/3 จากฟงั ก์ชัน สอบกลางภาค 20 สอบปลายภาค 20 20 20 30 10 20 อัตรำสว่ นคะแนน คะแนนเก็บระหว่างภาค : คะแนนปลายภาค = 80 : 20 K : P : A : C = 20 : 30 : 10 : 20 รวม 100 คะแนน แผนกำรประเมินผลกำรเรยี นรู้และกำรมอบหมำยงำน การสอนรายวชิ า คอมพิวเตอร์ 6 ประจาภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 มีแผนการประเมนิ ผลการเรียนรู้ ดงั น้ี 1. ประเมนิ จากชิ้นงานหรืองานทมี่ อบหมาย 20 คะแนน 2. ประเมนิ จากการสอบปฏิบัติการ/การประเมินสภาพจริง 20 คะแนน 3. ประเมนิ จากการสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นของนักเรียน : จติ พิสัย 10 คะแนน 4. ประเมินจากการสอบยอ่ ย 2 ครงั้ ครัง้ ท่ี 1 (5 คะแนน) ครงั้ ท่ี 2 (5 คะแนน) รวม 10 คะแนน 5. ประเมนิ จากการสอบกลางภาค 20 คะแนน 6. ประเมินจากการสอบปลายภาค 20 คะแนน รวม 100 คะแนน ลงช่อื ......................................... ลงชื่อ........................................................... (นางสาวพรทพิ ย์ ศีลแดนจันทร์) (นางสาวหทัยรัตน์ อุ่มอารมย์) ครูผูส้ อน หัวหน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงชื่อ.......................................... ลงชอ่ื ......................................................... (นางวาสนา ศรีคาอา้ ย) (นางสาวแสงอรณุ ประสพกาญจน์) ผู้อานวยการโรงเรียนทา่ มว่ งราษฎรบ์ ารงุ รองผู้อานวยการฝ่ายบรหิ ารวชิ าการ
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: