คู่มือฐานการเรียนรู้ห้องสมุด

คำนำ คู่มือประจำฐาน / กิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษาฐานการเรียนรู้/กจิ กรรม หลักการทรงงาน 23 ขอ้ คูม่ ือฐานการเรยี นรู้ห้องสมุด เลม่ นี้ จัดทำข้นึ เพอื่ ใชป้ ระกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในคาบเรียนรู้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองอดุ รธานี เพื่อใช้ เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และเป็นคู่มือให้ผู้เรียนได้ใชป้ ระกอบการเรียนรู้ในกิจกรรมการเรียนรูฐ้ านหอ้ งสมุด ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือฐานการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงฐานการเรียนรู้หอ้ งสมุดเล่มนี้ จะเป็น ประโยชน์ต่อผ้เู รียน ครู และผู้ท่ีสนใจอยา่ งแน่นอน ผ้าขนหนแู ปลงร่างสื่อประกอบการฝึกอบรมพับผ้าขนหนเู ปน็ ของเล่น เปน็ เอกสารประกอบการจัดกจิ กรรมส่งเสรมิ การ อ่านการเรียนรู้ ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี”จงั หวัดอุดรธานี ประกอบด้วยเนื้อหาการพับผ้าขนหนเู ป็นรปู สัตว์ตา่ งๆ โดยใชผ้ า้ ขนหนูเช็ดหนา้ ผืนเลก็ ส่ีเหลี่ยมด้านเท่า นำมาพบั จบั ม้วน วาด ตดั ต่อ ตกแต่งตามจนิ ตนาการ และสามารถนำไปใช้ สำหรับเลน่ กับเด็กเพื่อสง่ เสริมพฒั นาการและสง่ เสรมิ ความสัมพนั ธ์ในครอบครัวได้เปน็ อย่างดี หรอื ผู้สนใจใช้ศึกษาด้วยตนเอง นำความรไู้ ปใชก้ ิจกรรมสำหรบั เดก็ เพอ่ื เป็นการเพิ่มเวลารู้และประสบการณส์ ำหรับเดก็ ได้ หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกุมารี”จงั หวดั อดุ รธานี ตุลาคม 2565

สารบัญ หนา้ เรือ่ ง 2 4 รปู แบบการขบั เคลอ่ื นหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 10 ความหมายของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (Sufficiency Economy) 17 ใบความรู้เร่ือง ผ้าขนหนแู ปลงร่าง 18 แบบบันทกึ ผลการเรียนรู้ 21 แบบทดสอบก่อนเรยี นฐานการเรยี นรู้ห้องสมุด 24 แบบทดสอบหลงั เรียนฐานการเรียนรู้หอ้ งสมดุ 25 บันทึกการเรียนรู้ 26 ใบงานฐานการเรียนรหู้ ้องสมดุ 27 แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 28 แบบถอดบทเรยี นฐานการเรยี นร้หู อ้ งสมดุ กิจกรรมผา้ ขนหนแู ปลงรา่ ง 29 แบบประเมนิ ความพงึ พอใจวทิ ยากรประจำฐานการเรียนร้หู อ้ งสมดุ แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ ฐานห้องสมุด 30 บญั ชลี งเวลาการใชฐ้ านหอ้ งสมุด ท่ีมาของฐานการเรยี นรู้ 31 ภาพกจิ กรรม 32 -1-

ฐานการเรยี นรู้ห้องสมุด กจิ กรรมผ้าขนหนแู ปลงร่าง 1.ทต่ี ้ังฐานการเรยี นรู้ ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี จังหวดั อุดรธานี 2.เจา้ ของฐานการเรยี นรู้ กศน.อำเภอเมอื งอุดรธานี 3.ครวู ทิ ยากรประจำฐาน นางสาวนงนุช วงศห์ นองแวง บรรณารักษ์ 4.ผ้เู รยี นแกนนำทเ่ี ปน็ วิทยากรประจำฐาน ............................................................................................................. ............................................................................................................... ............................................................................................................... -2-

รปู แบบการขับเคลื่อนหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สู่ฐานการเรยี นร้/ู กิจกรรมการเรยี นรศู้ ูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย อำเภอเมอื งอุดรธานี .......................................................................................................................................................... รูปแบบการขับเคลื่อน หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สู่ฐานการเรียนรู้ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยอำเภอเมืองอุดรธานี เริ่มจากการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเข้าสู่ศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมอื งอุดรธานีแล้วศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองอุดรธานีตั้ง คณะกรรมการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ เมืองอุดรธานีซึ่งมีหน้าที่รบั ผิดชอบในการสร้างความเขา้ ใจใน หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แก่ผู้เรียน ครูและบุคลากร ทางการศึกษาของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองอุดรธานีเพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจ และครูนำ ความรู้มาบูรณาการกับแผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อนำสู่ห้องเรียนทกุ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ทุกรายวิชา โดยศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองอุดรธานีมีนโยบายให้ครูผู้สอนบูรณาการ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่ ห้องเรียน บทเรยี น และผเู้ รยี นสามารถถอดบทเรียน และสามารถนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ ตอ่ ตนเอง ครอบครวั และสังคมได้ ทัง้ สามารถแนะนำ ใหค้ วามรแู้ ก่ผทู้ ี่สนใจ โดยมุ่งเน้นใหเ้ กดิ ผลกับผูเ้ รียนอย่างย่ังยืนจนเป็น วถิ ีชีวิต -3-

แผนภมู กิ ารขับเคล่ือนหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สู่ฐานการเรียนรู้ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอเมอื งอุดรธานี …………………………………………………………………………………………… -4-

เศรษฐกิจพอเพยี ง ความหมายของเศรษฐกิจพอเพยี ง (Sufficiency Economy) เศรษฐกจิ พอเพียง หมายถึง ปรชั ญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชดำรัส ชีแ้ นะแนวทางท่ีควรดำรง อยู่และปฏิบัติตนแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 30 ปี ตงั้ แตก่ ่อนเกดิ วิกฤตเศรษฐกจิ 2550 ใหใ้ ช้เป็นแนวทางการ แกไ้ ข เพื่อใหร้ อดพ้นวิกฤต และสามารถดำรงอยไู่ ด้อย่างม่ันคง และย่ังยนื ภายใต้ความเปล่ียนแปลงตา่ ง ๆ ลักษณะของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1. เป็นวิถกี ารดำเนนิ ชีวติ ท่ใี ชค้ ุณธรรมกำกบั ความรู้ 2. เปน็ การพฒั นาตัวเอง ครอบครวั องค์กร สงั คม ประเทศชาติ ใหก้ ้าวหน้าไปพร้อมกับความสมดลุ มนั่ คง ย่งั ยืน 3. เป็นหลกั คิดและหลกั ปฏิบัติ เพ่อื ใหค้ นส่วนใหญพ่ อมีพอกนิ พอใช้ สามารถพ่งึ ตนเองได้ เพือ่ ใหค้ นกบั คนในสังคม สามารถอยู่รว่ มกันอย่างสนั ตสิ ุข เพื่อให้คนกับธรรมชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ยั่งยืน และให้แต่ละคนดำรงตนอย่างมีศักดิ์ศรีและรากเหง้าทาง วฒั นธรรม องคป์ ระกอบปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง ประกอบดว้ ย 2 3 4 คอื 2 เงอื่ นไข 3 หลักการ 4 มิติ คือ ก่อนที่จะลงมือทำกิจกรรม ใด ๆ นั้นต้องมี เงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้การตัดสินใจ และการกระทำเป็นไปพอเพียง จะต้องอาศัยทั้งคุณธรรมและความรู้ ดังนี้ เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วยการฝึกตนให้มีความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน มีความ รอบคอบ และความระมดั ระวงั ทีจ่ ะนำความร้ตู ่าง ๆ เหลา่ นัน้ มาพจิ ารณาใหเ้ ชอื่ มโยงกนั เงื่อนไขคุณธรรม ท่จี ะตอ้ งสรา้ งเสริมให้เป็นพน้ื ฐานจิตใจของคนในชาติ ประกอบด้วย ดา้ นจติ ใจ คือการตระหนักใน คุณธรรม รู้ผิดชอบชั่วดี ซื่อสัตย์สุจริต ใช้สติปัญญาอย่างถูกต้องและเหมาะสมในการดำเนินชีวิต และด้านการกระทำ คือมี ความขยนั หมน่ั เพียร อดทน ไม่โลภ ไมต่ ระหนี้ รจู้ กั แบง่ ปัน และรบั ผิดชอบในการอยู่รว่ มกับผ้อู ื่นในสงั คมระหว่างดำเนินการให้ ใช้ 3 หลกั การเปน็ ตัวกำกบั ในการทำกิจกรรม คอื ความพอประมาณ หมายถงึ ความพอดตี ่อความจำเปน็ และเหมาะสมกบั ฐานะของตนเอง สังคม สง่ิ แวดลอ้ ม รวมทั้ง วัฒนธรรมในแต่ละท้องถนิ่ ไมม่ ากเกนิ ไป ไม่น้อยเกนิ ไป และตอ้ งไมเ่ บยี ดเบยี นตนเองและผอู้ ่นื ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจดำเนินการเรื่องต่าง ๆ อย่างมีเหตุผลตามหลักวิชาการหลักกฎหมาย หลัก ศีลธรรมจริยธรรม และวัฒนธรรมที่ดีงาม โดยพิจารณาจากเหตุปัจจยั ที่เกี่ยวขอ้ ง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดวา่ จะเกดิ ขึ้นจาก การกระทำน้ัน ๆ อย่างรอบร้แู ละรอบคอบ ระบบภูมิคุ้มกนั ในตัวทด่ี ี หมายถงึ การเตรียมตัวให้พร้อมรบั ตอ่ ผลกระทบและการเปลย่ี นแปลงในดา้ น ตา่ ง ๆ ไมว่ า่ จะเป็นดา้ นเศรษฐกิจ สังคม สง่ิ แวดล้อม และวัฒนธรรม เพอื่ ใหส้ ามารถปรบั ตัวและรับมือไดอ้ ย่างทันท่วงที เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่เป็นทั้งแนวคิด หลักการ และแนวทางปฏิบัติตนของแต่ละบุคคลและองค์กร โดย คำนึงถึงความพอประมาณกับศักยภาพของตนเอง และสภาวะแวดลอ้ ม ความมีเหตุมีผลและการมีภมู คิ ุ้มกันท่ีดีในตัวเอง โดยใช้ ความรู้อย่างถูกหลักวิชาการด้วยความรอบคอบและระมัดระวังควบคู่ไปกับการมีคุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต ไม่เบียดเบียนกัน แบ่งปัน ชว่ ยเหลือซง่ึ กนั และกัน และร่วมมือปรองดองกันในสงั คม ซง่ึ จะช่วยเสริมสรา้ งสายใยเชือ่ มโยงคนใน -5-

ภาคสว่ นต่าง ๆ ของสงั คมเขา้ ดว้ ยกนั สร้างสรรคพ์ ลงั ในทางบวก นำไปสู่ความสามคั คี การพัฒนาทส่ี มดุลและย่งั ยนื พรอ้ มรบั ตอ่ การเปล่ยี นแปลงภายใตก้ ระแสโลกาภิวัฒนไ์ ด้ การนำเศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยกุ ต์ใช้ ตอ้ งคำนงึ ถงึ 4 มิติ ดงั น้ี ดา้ นวัตถุ ลดรายจา่ ย / เพิ่มรายได้ / ใช้ชีวิตอยา่ งพอควร / คิดและวางแผนอย่างรอบคอบ / มภี มู คิ ุ้มกนั / ไม่เสี่ยงเกนิ ไป / การเผือ่ ทางเลอื กสำรอง ดา้ นสงั คม ชว่ ยเหลือเก้อื กลู / รูร้ กั สามคั คี / สร้างความเขม้ แขง็ ให้ครอบครัวและชมุ ชน ดา้ นสิง่ แวดล้อม รู้จกั ใช้และจดั การอย่างฉลาดและรอบคอบ / เลือกใช้ทรัพยากรทีม่ อี ยู่อย่างรคู้ า่ และเกดิ ประโยชน์ สงู สุด / ฟืน้ ฟูทรพั ยากรเพื่อใหเ้ กดิ ความย่ังยืนสงู สดุ ดา้ นวฒั นธรรม รกั และเหน็ คณุ ค่าในความเปน็ ไทย เอกลักษณ์ไทย / เหน็ ประโยชนแ์ ละคุ้มคา่ ของภมู ปิ ัญญาไทย ภูมิปัญญาท้องถ่ิน / รู้จกั แยกแยะและเลือกรบั วฒั นธรรมอนื่ ๆ

-6- 6.ความเปน็ มา วถิ ชี ีวิต การเรยี นรู้ การทำงานของคนไทยในยุคปัจจุบันท่ีเปลี่ยนไป รูปแบบการทำงาน มักจะไม่นั่งทำงาน อ่านหนงั สือ ประชุม หรือทำงานกลุ่มตามสถานท่ีสาธารณะ มากขึ้นไม่วา่ จะเป็นร้านกาแฟ ห้องสมุด หรือตาม co-Working Space ต่างๆ ด้วยเหตุผลหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตอ้ งการพื้นที่ในการสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆที่เอื้อต่อการเกิดแนวคิดใหม่ๆในการทำงาน หรือบางครั้งจะรู้สึกว่ามีสมาธิมากกว่าที่บ้าน ที่โรงเรียน หรือที่ทำงานแต่พื้นที่ลักษณะเช่นนี้ที่มีให้บริการในปัจจุบันยังเป็น ข้อจำกัดในการเข้าถงึ ของหลายๆคนไมว่ ่าจะเป็นเร่ืองของระยะเวลา การเปิด-ปิดบรกิ าร ค่าใช้จา่ ย หรอื ถ้าเปิดให้ใช้บริการฟรี สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆหรือบรรยากาศ อาจยงั ไม่ตอบโจทย์สำหรับการทำงานหรือการอ่านหนงั สอื อยา่ งมีสมาธิรวมไปถึง ความปลอดภัยต่างๆในการเดนิ ทางไปใช้บรกิ ารในสถานที่เหล่าน้นั ประกอบกับสภาพสงั คมท่ีเปลี่ยนแปลงไปทำให้รูปแบบการ เรียนรู้ของผู้รับบริการห้องสมุดเปลี่ยนไปด้วยคนปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการค้นคว้าหาความรู้มากขึ้นด้วยเหตุนี้ ห้องสมุดประชาชนจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริการให้การเรยี นรู้ต้องพัฒนาให้มรี ูปแบบที่หลากหลายเป็นไปตาม ความต้องการของผู้รับบรกิ ารทกุ ช่วงวัยยงิ่ ข้นึ จากแนวคิดดังกล่าวนำสกู่ ารพัฒนาแหล่งเรยี นรู้ให้มีลักษณะเป็นศูนย์การเรียนรู้ co-Learning Space ซึง่ สำนกั งาน กศน.เปน็ หนว่ ยงานทม่ี ภี ารกจิ หลักในการจดั การศึกษาตามอธั ยาศัยใหก้ ับประชาชนทุกช่วง วัยและมีแหลง่ เรยี นรู้ให้บรกิ ารหลากหลายรูปแบบหอ้ งสมุดประชาชนก็เป็นหน่งึ ในแหลง่ เรียนร้ทู ี่ให้บรกิ ารประชาชนควบคู่กับ ภารกิจอื่นๆของ กศน.จึงถึงเวลาแล้วทีจ่ ะพัฒนาให้เป็นแหล่งเรยี นรู้สำหรับทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ ได้มีโอกาสเข้าถงึ ไดง้ ่าย สามารถตอบทุกโจทย์ปัญหาความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ ( co-Learning Space)หรือ พื้นที่แหล่งการเรียนรู้ร่วมกันจึงเกิดขึ้นภายใต้แนวคิดที่ว่า การให้ที่มากกว่าแค่เพียง “พื้นท่ี” แต่ยังเป็นสถานที่ที่สร้างแรง บันดาลใจและแสดงถงึ การแบ่งปัน ที่ไมเ่ พยี งแค่แบ่งปันพน้ื ทส่ี ำหรับทกุ คนใหไ้ ดป้ ระโยชน์รว่ มกันแตท่ กุ คนที่มายงั ได้ความรู้และ แรงบนั ดาลใจกลบั ไปดว้ ยเสมอ จากกรอบแนวคดิ น้ี ห้องสมดุ เฉลิมราชกุมารี อดุ รธานี ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมือง อุดรธานี จึงจัดกิจกรรมโครงการส่งเสรมิ การอา่ นสง่ เสรมิ การเรยี นรู้ ศูนย์การเรยี นรูต้ ้นแบบ ( co-Learning Space) กจิ กรรมผา้ ขนหนูแปลงร่าง ซึ่งเป็นการสง่ เสริมการเรยี นรใู้ ห้นกั ศึกษาและประชาชน ในสังคมปัจจุบัน ส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การเรียนรู้และพัฒนาสมรรถนะอาชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพยี ง

-7- 7.วัตถุประสงค์ 1. เพอ่ื ใหผ้ ้เู รียนมคี วามรเู้ รอื่ งการพับผ้าเปน็ ต๊กุ ตา นำความรู้ท่ไี ด้รับไปปรบั ใช้ในชวี ิตประจำวนั 2. เพอ่ื ให้ผู้เรยี นรจู้ ักการใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ 3. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นได้เข้าใจหลักการเป้าหมายตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถถอด บทเรียน 2 3 4 ได้อยา่ งถกู ต้อง 4. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงไปปรบั ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจำวันได้ อยา่ งถูกตอ้ ง 5. เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนเกิดความตระหนกั ถงึ ความสำคัญของการพ่งึ ตนเอง มีจิตสำนึกที่ดใี นเรือ่ งหลักปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพียง และกา้ วทันต่อยคุ โลกาภวิ ัฒน์ 8.ประโยชน์ทีค่ าดว่าจะไดร้ บั 1. ผู้เรียนมคี วามรเู้ รอ่ื งการพับผ้าเป็นตุ๊กตา สามารถนำไปปรบั ใช้ไปปรบั ใช้ในชีวติ ประจำวนั 2. ร้จู ักการใชเ้ วลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ 3. เข้าใจหลักการเป้าหมายตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4. สามารถนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งไปปรบั ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวันได้ 5. ผู้เรียนเกิดความตระหนกั ถงึ ความสำคัญของการพึง่ ตนเอง มจี ิตสำนกึ ท่ดี ีในเรื่องหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง และกา้ วทันต่อยุคโลกาภวิ ฒั น์ 9.ขั้นตอนและวิธกี ารใช้ฐาน 1.ลงชอ่ื เข้าร่วมกิจกรรมประจำฐาน 2. วดั ผลและประเมินผลก่อนการเรยี นรู้ 3. ศึกษาใบความรู้ ชมสื่อการเรียนรู้ ชมการสาธิต ฝกึ ปฏิบัติเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง 4. บนั ทึกผลการศึกษาฐานการเรียนรู้ 5. วัดผลและประเมนิ ผลหลงั การเรยี นรู้ ทำใบงานการเรียนรู้ 6.ร่วมกนั ถอดบทเรยี น กับวทิ ยากร ผ้เู รียนท่เี ป็นวิทยากรประจำฐานการเรยี นรู้ และครวู ิทยากรประจำฐานการเรียนรู้ 7. ประเมนิ ผลความพึงพอใจฐานการเรยี นรู้ -8-

10. สอื่ การเรียนรู้ -ใบความร้เู รอ่ื งผ้าขนหนแู ปลงร่าง -คลปิ ส่ือการสอนทางช่องยทู ูป 11.แหลง่ เรียนรู้ หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกุมาร”ี จงั หวัดอดุ รธานี 12.การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ ีการวดั ผลและประเมนิ ผล - สงั เกตุพฤติกรรมรายบุคคล -ให้ผ้เู รียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน และหลงั เรยี น เร่ืองผา้ ขนหนูแปลงร่าง - มอบหมายใบงาน -ความสำเร็จของชน้ิ งาน เครื่องมอื วดั ผลและประเมนิ ผล - แบบสงั เกตุพฤตกิ รรมรายคน -แบบทดสอบกอ่ นเรียนเรอื่ งผ้าขนหนูแปลงร่าง - แบบทดสอบหลงั เรยี นเรือ่ งผ้าขนหนแู ปลงรา่ ง - ใบงานเรือ่ งผา้ ขนหนแู ปลงรา่ ง เกณฑก์ ารวัดผลประเมินผล - ผเู้ รยี นมผี ลการประเมณิ พฤติกรรมผา่ นเกณฑ์คิดเป็นรอ้ ยละ 70 - ผู้เรียนมคี ะแนนในการแบบทดสอบหลังเรยี นเรื่องผ้าขนหนูแปลงรา่ ง ดขี นึ้ กว่าแบบทดสอบกอ่ นเรียน และมี ผลคะแนนคิดเป็นรอ้ ยละ 60 ข้นึ ไป - ผ้เู รียนตอบคำถามใบงาน เรือ่ งผา้ ขนหนูแปลงร่างได้ถกู ตอ้ ง คดิ เป็นร้อยละ 60 ขน้ี ไป

ภาคผนวก

ใบความรู้เร่อื ง ผา้ ขนหนูแปลงรา่ ง













แบบบนั ทึกผลการเรยี นรู้ ฐานการเรยี นร้หู ้องสมุดกิจกรรมผา้ ขนหนูแปลงรา่ ง 1. หัวข้อเรื่องในการจัดกจิ กรรม ………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. อปุ กรณใ์ นการพบั ผ้าเป็นตกุ๊ ตา ………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. ข้นั ตอนการพับผา้ ขนหนูเป็นตุ๊กตา ………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..

แบบทดสอบก่อนเรียนฐานการเรยี นรูห้ อ้ งสมุด กิจกรรมผา้ ขนหนูแปลงรา่ ง ชื่อ-สกุล ................................................................................................. ตำบล ..................................อำเภอ.....................................จังหวัด.....................เบอรโ์ ทรติตตอ่ ..................... 1. การพบั ผ้าขนหนูเปน็ ของเลน่ สามารถนำไปเล่นเพ่อื ส่งเสริมด้านใดได้บ้าง ก สง่ เสรมิ ความสมั พันธ์ในครอบครวั ข ส่งเสริมจนิ ตนาการ ค เพ่อื เป็นกิจกรรมเพ่มิ เวลารแู้ ละประสบการณ์ ง ถูกทุกขอ้ 2. ข้อใดจัดเป็นวัสดุอุปกรณ์การพบั ผ้าขนหนูเปน็ ของเลน่ ก ผ้าขนหนูเช็ดหน้าขนาด 12X12 ข ยางรัดผม ค ผ้าสักหลาด ง.ถูกทุกขอ้ 3. ข้อใดจัดเป็นวัสดุอุปกรณ์การพับผ้าขนหนูเป็นของเล่นที่สามารถลดตน้ ทุนได้ ก ซ้อื ตาตุ๊กตาสำเร็จรูป ข ซื้อของประดับตกแตง่ ค ใช้กระดาษนิตยสารสีที่อ่านแลว้ มาตัดตกแตง่ ง ถกู ทกุ ข้อ 4. การพับผ้าขนหนูเป็นของเล่นสามารถทำโดยวิธีใดบ้าง ก พับ ข มัด ค วาด ง ถูกทุกข้อ

5.การพับผ้าขนหนูเปน็ ของเลน่ เหมาะกับใครบ้าง ก ผู้ปกครอง ข เดก็ ประถมวัย ค ครูเด็กประถมวัย ง ถกู ทุกข้อ 6.ข้อใดจดั เป็นวัสดุอุปกรณ์การพับผ้าขนหนเู ปน็ ของเล่น ก ลวดกำมะหย่ี ข สีไม้ ค กาวลาเทก็ ซ์ ง ถกู ทุกขอ้ 7. ข้อใดจัดเปน็ วัสดุอุปกรณ์การพับผ้าขนหนูเปน็ ของเล่นท่ีต้องใช้ดว้ ยความระมัดระวัง ก กรรไกร ข ผ้าขนหนู ค กระดาษ ง ยางรัดผม 8. ต๊กุ ตานก ( )พับไม่เป็น ( )พับเป็น

9. ตุ๊กตานกฮูก ( )พับไม่เป็น ( )พับเป็น 10. ตุ๊กตาแมว ( )พับไม่เป็น ( )พับเป็น

แบบทดสอบหลังเรียนฐานการเรียนรู้หอ้ งสมดุ กจิ กรรมผ้าขนหนแู ปลงรา่ ง ช่ือ-สกลุ ................................................................................................. ตำบล ..................................อำเภอ.....................................จงั หวดั .....................เบอร์โทรติตต่อ..................... 1.กำรพบั ผำ้ ขนหนูเป็นของเลน่ สำมำรถนำไปเลน่ เพือ่ ส่งเสริมดำ้ นใดไดบ้ ำ้ ง ก ส่งเสริมควำมสมั พนั ธ์ในครอบครัว ข ส่งเสริมจินตนำกำร ค เพอ่ื เป็นกิจกรรมเพมิ่ เวลำรู้และประสบกำรณ์ ง ถูกทุกขอ้ 2.ขอ้ ใดจดั เป็นวสั ดอุ ปุ กรณ์กำรพบั ผำ้ ขนหนูเป็นของเล่น ก ผำ้ ขนหนูเช็ดหนำ้ ขนำด 12X12 ข ยำงรดั ผม ค ผำ้ สกั หลำด ง.ถูกทุกขอ้ 3. ขอ้ ใดจดั เป็นวสั ดุอุปกรณก์ ำรพบั ผำ้ ขนหนูเป็นของเล่นที่สำมำรถลดตน้ ทุนได้ ก ซ้ือตำตกุ๊ ตำสำเร็จรูป ข ซ้ือของประดบั ตกแต่ง ค ใชก้ ระดำษนิตยสำรสีที่อ่ำนแลว้ มำตดั ตกแต่ง ง ถกู ทุกขอ้ 4.กำรพบั ผำ้ ขนหนูเป็นของเล่นสำมำรถทำโดยวิธีใดบำ้ ง ก พบั ข มดั ค วำด ง ถกู ทุกขอ้

5.กำรพบั ผำ้ ขนหนูเป็นของเล่นเหมำะกบั ใครบำ้ ง ก ผปู้ กครอง ข เด็กประถมวยั ค ครูเดก็ ประถมวยั ง ถกู ทุกขอ้ 6.ขอ้ ใดจดั เป็นวสั ดุอุปกรณ์กำรพบั ผำ้ ขนหนูเป็นของเล่น ก ลวดกำมะหยี่ ข สีไม้ ค กำวลำเทก็ ซ์ ง ถูกทกุ ขอ้ 7. ขอ้ ใดจดั เป็นวสั ดุอุปกรณก์ ำรพบั ผำ้ ขนหนูเป็นของเล่นท่ีตอ้ งใช้ดว้ ยควำมระมดั ระวงั ก กรรไกร ข ผำ้ ขนหนู ค กระดำษ ง ยำงรัดผม 8. ตุ๊กตำนก ( )พบั ไม่เป็น ( )พบั เป็น

9. ตุ๊กตำนกฮูก ( )พบั ไม่เป็น ( )พบั เป็น 10. ต๊กุ ตำแมว ( )พบั ไม่เป็น ( )พบั เป็น

บันทึกการเรียนรู้ 1.ช่ือเรื่อง/ประเด็นทีไ่ ด้รบั มอบหมายจากครูผสู้ อน ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................ 2.วิธีการดำเนนิ งาน/ ศกึ ษาขอ้ มูล ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................ 3.ความรทู้ ีไ่ ดร้ ับจากการค้นคว้า ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................ 4. สรปุ การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง (ความรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะต่าง ๆ ในการเรียนรูร้ วมถงึ ชนิ้ งาน) ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. 5.ขอ้ เสนอแนะ ซกั ถาม (คำแนะนำของผู้เข้าอบรม) ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................ ลงชือ่ ....................................................................... ( นางสาวนงนชุ วงศห์ นองแวง) บรรณารักษ์ วนั ท.่ี ..........เดอื น................................พ.ศ. ...........

ใบงานฐานการเรียนร้หู ้องสมดุ กิจกรรมผา้ ขนหนูแปลงรา่ ง 1.จากการเรียนรูจ้ ากฐานการเรียนรู้หอ้ งสมุด กจิ กรรมผา้ ขนหนแู ปลงร่าง ผ้เู รียนสามารถนำความรู้ไปปรบั ใช้ใน ชวี ติ ประจำวันได้อย่างไรบ้าง ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 2.จงอธบิ ายแนวคิดเรื่องหลกั ปรชั ญาของเศรษกิจพอเพียงทไ่ี ด้รบั จากการเรียนร้จู ากฐานการเรยี นรหู้ อ้ งสมุด กจิ กรรม ผา้ ขนหนูแปลงรา่ ง ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... 3.จงบอกประโยชน์ท่ีได้รบั จากการเรยี นรู้จากฐานการเรียนรหู้ อ้ งสมดุ กจิ กรรมผ้าขนหนแู ปลงรา่ ง ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................

แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ท่ี ชอ่ื -สกลุ มีความตง้ั ใจใน มคี วาม ตรงตอ่ เวลา ความสะอาด ผลสำเร็จของ รวม การทำงาน รับผดิ ชอบ เรยี บรอ้ ย งาน 20 คะแนน 4 321 432 143 21 432 14321 ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 4 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพร่องเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18-20 ดีมาก 14-17 ดี 10-13 พอใช้ ต่ำกวา่ 10 ปรับปรุง

แบบถอดบทเรยี นฐานการเรียนร้หู อ้ งสมดุ กิจกรรมผา้ ขนหนแู ปลงร่าง ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผูเ้ รยี นมหี ลกั คดิ หลักปฏบิ ัตดิ ังนี้ คณุ ธรรม ความรู้ พอประมาณ มภี ูมิคมุ้ กนั มเี หตผุ ล ผลลพั ธ์ที่เกดิ ความสมดุลพรอ้ มรับการเปลี่ยนแปลง สง่ิ แวดล้อม วัฒนธรรม วตั ถุ สงั คม

แบบประเมนิ ความพงึ พอใจวทิ ยากรประจำฐานการเรียนรูห้ ้องสมุด กจิ กรรมผ้าขนหนแู ปลงรา่ ง วนั ท่ี ..................... เดือน...................... พ.ศ. ....................... สถานทจ่ี ัด หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ ารี”จงั หวดั อดุ รธานี ขอ้ มลู พื้นฐานของผปู้ ระเมนิ ความพงึ พอใจ เพศ ( ) ชาย ( ) หญงิ อาย.ุ ..........ปี วุฒิการศึกษา......................อาชพี .................................... คำช้ีแจง ๑. แบบประเมินความพงึ พอใจ ๒. โปรดแสดงเครอ่ื งหมาย √ ในช่องว่างระดบั ความพึงพอใจตามความคดิ เห็นของทา่ น ระดับความพึงพอใจ หมาย ข้อ รายการประเมนิ ความพึงพอใจ มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย เหตุ ๑ การเตรยี มตัวและความพรอ้ มของวทิ ยากร ทส่ี ดุ กลาง ท่ีสุด ๒ วทิ ยากรมคี วามรูค้ วามสามารถในเร่อื งที่ถา่ ยทอด ๓ วิทยากรมีเทคนิคการถ่ายทอดใชส้ ่อื เหมาะสม ๔ วิทยากรมีบคุ ลกิ ภาพท่เี หมาะสม ๕ วทิ ยากรเปิดโอกาสใหม้ ีส่วนรว่ มและซกั ถาม ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ ............................................................................................................................................................................ หมายเหตุ สถานศกึ ษาสามารถปรบั เปลีย่ นได้ตามความเหมาะสม

แบบประเมินความพงึ พอใจ ฐานหอ้ งสมุด โครงการ สง่ เสรมิ การอา่ นสง่ เสรมิ การเรยี นรู้ ศนู ยก์ ารเรียนร้ตู น้ แบบ ( co-Learning Space) กจิ กรรมผา้ ขนหนูแปลงรา่ ง ระหว่างวันที่ ........................................................... พ.ศ. ............................ สถานที่จดั ห้องสมุดประชาชน “เฉลมิ ราชกุมารี”จังหวดั อดุ รธานี ข้อมูลพนื้ ฐานของผปู้ ระเมินความพึงพอใจ เพศ ( ) ชาย ( ) หญิง อาย.ุ ..........ปี วฒุ กิ ารศึกษา......................อาชีพ............................... คำช้ีแจง ๑. แบบประเมินความพงึ พอใจ มี ๔ ตอน ๒. โปรดแสดงเคร่ืองหมาย √ ในช่องว่างระดบั ความพึงพอใจตามความคดิ เหน็ ของท่าน ระดบั ความพงึ พอใจ หมาย ข้อ รายการประเมนิ ความพึงพอใจ มาก มาก ปาน น้อย น้อย เหตุ ทสี่ ุด กลาง ท่ีสุด ตอนท่ี ๑ ความพงึ พอใจดา้ นเน้ือหา ๑ เน้ือหาตรงตามความต้องการ ๒ เนื้อหาเพยี งพอตอ่ ความต้องการ ๓ เน้ือหาปจั จุบนั ทนั สมัย ๔ เนอื้ หามีประโยชนต์ ่อการนำไปใชใ้ นการพฒั นาคุณภาพชวี ติ ตอนท่ี ๒ ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจัดกจิ กรรมการอบรม ๕ การเตรียมความพร้อมกอ่ นอบรม ๖ การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวตั ถปุ ระสงค์ ๗ การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา ๘ การจัดกิจกรรมเหมาะสมกบั กลุม่ เป้าหมาย ๙ วิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกบั วัตถปุ ระสงค์ ตอนที่ ๓ ความพงึ พอใจตอ่ วิทยากร ๑๐ วิทยากรมคี วามรู้ความสามารถในเรื่องท่ถี ่ายทอด ๑๑ วทิ ยากรมีเทคนิคการถ่ายทอดใช้ส่อื เหมาะสม ๑๒ วิทยากรเปิดโอกาสใหม้ สี ว่ นรว่ มและซักถาม ตอนท่ี ๔ ความพงึ พอใจดา้ นการอำนวยความสะดวก ๑๓ สถานท่ี วัสดุ อปุ กรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก ๑๔ การส่ือสาร การสร้างบรรยากาศเพ่อื ใหเ้ กิดการเรยี นรู้ ๑๕ การบรกิ าร การช่วยเหลือและการแกป้ ญั หา ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะอน่ื ๆ ............................................................................................................................................................................ หมายเหตุ สถานศึกษาสามารถปรบั เปลยี่ นไดต้ ามความเหมาะสม

บญั ชลี งเวลาการใช้ฐานหอ้ งสมดุ โครงการ สง่ เสรมิ การอ่านส่งเสริมการเรยี นรู้ ศูนย์การเรียนร้ตู น้ แบบ ( co-Learning Space) กิจกรรมผ้าขนหนูแปลงรา่ ง จำนวน ๑ ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวนงนุช วงศ์หนองแวง วันที่ ………………………………………… ณ ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี”จงั หวัดอดุ รธานี ท่ี ช่ือ-สกุล ลายมอื ชื่อ เวลามา ลายมือชอ่ื เวลากลับ หมายเหตุ ลงชื่อ..........................................................วทิ ยากรผ้สู อน (นางสาวนงนชุ วงศห์ นองแวง) บรรณารกั ษ์

ทีม่ าของฐานการเรียนรู้ ชอื่ ฐานการเรยี นรู้ ห้องสมุด กจิ กรรมผา้ ขนหนูแปลงร่าง สาระการดำเนินชีวิต วิชาเศรษฐกจิ พอเพียง ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย รหัสวิชา ทช31001 บทท่ี 1 ความพอเพยี ง สาระสำคญั เศรษฐกจิ พอเพียงเปน็ ปรัชญาทีย่ ึดหลักทางสายกลาง ทีช่ ้ีแนวทางดาํ รงอยูแ่ ละปฏิบัตขิ องประชาชน ในทกุ ระดับ ตง้ั แต่ครอบครวั ไปจนถึงระดับรฐั ทง้ั ในการพัฒนาและบรหิ ารประเทศ ใหด้ ําาเนนิ ไปในทางสาย กลางมีความพอเพียง และมี ความพร้อมทีจ่ ะจัดการต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ซ่งึ จะตอ้ งอาศยั ความรู้รอบคอบ และ ระมัดระวงั ในการวางแผน และดาํ าเนนิ การทุกข้นั ตอน เศรษฐกจิ พอ เพียงไม่ใชเ่ พ่ือการประหยัด แตเ่ ปน็ การดาํ าเนนิ ชีวติ อยา่ ง สมดุลและย่ังยนื เพื่อให้สามารถอยไู่ ด้แม้ในโลก โลกาภวิ ัตน์ท่ีมีการแขง่ ขันสงู มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานที่ 4.1 มีความรู้ความเข้าใจ เจตคติท่ดี ีเก่ยี วกับปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง และสามารถ ประยกุ ตใ์ ช์ในการดาํ เนนิ ชีวติ ได้อยา่ งเหมาะสม ตัวช้วี ัด 1.อธบิ ายความเปน็ มา ความหมายและ หลกั แนวคดิ ของปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพยี ง 2. รูเ้ ขา้ ใจและวิเคราะหแ์ นวคดิ หลกั การปรัชญาของเศรษฐกจิ สาระการเรยี นรู้ /ขอบข่ายเนอ้ื หา เรอ่ื งที่ 1 ความเป็นมา ความหมาย หลกั แนวคิด เรื่องที่ 2 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง เรือ่ งที่ 3 การจดั การความรู้ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 5 ดา้ น 1.ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 ประการ 1.รกั ชาติ ศาสนา กษัตริย์ 2.ซอื่ สตั ยส์ จุ ริต 3. มวี นิ ัย 4.ใฝ่เรียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6.มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8.มีจิตสาธารณะ

ภาพกิจกรรมการถอดบทเรยี น

ภาพกจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ภายในฐาน

ว่าที่ร้อยตรี ศุภกั ษร พรหมมลู ทป่ี รกึ ษา นางประคอง หาไชย นายเกษมแก้วดวง ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอเมืองอดุ รธานี นายอภเิ ชษฐ์ ผาจวง ครูชำนาญการพิเศษ ครู นางสาวนงนุช วงศ์หนองแวง ครูผู้ชว่ ย นายสุวิช ทองพทิ กั ษ์ น.สสุกัญญา โคโตศร คณะผู้จดั ทา นางสาวเกษร ชยั พิมพา นางสาวเสาวคนธ์ ศรีชนะ บรรณารกั ษ์ นายนาวนิ พงษ์เผอื ก ครู กศน.ตำบล นางสรุ ตั นก์ ญั ญา คามงคล ครู กศน.ตำบล ครู กศน.ตำบล ครู กศน.ตำบล ครู กศน.ตำบล ครู กศน.ตำบล