เดียวดาย... ..ใคนำพบูดางไเดร้ื่.อ.ยงืนเรคานไมล่ะสจุาดมคาวราถมอรธู้ิสบึกาคยนอลอะกอมย่าาเงป็!น!...
ความรักเป็นบ่อเกิดของความสุขแล้วถ้าคุณรักแต่ไม่แสดงออก!รักแต่ไม่มี เวลา!รักแต่ไม่เคยเอาใจใส่!แบบนี้แล้วมันยังจะมีความสุขอยู่ไหม..แล้วมันยัง คงเรียกว่าความรักได้อยู่รึเปล่า?? เดียวดายเป็นเรื่องสั้นที่ได้พูดถึงครอบครัว นึงที่มีพ่อแม่ลูกก็ถือว่าสมบูรณ์แบบแต่คำว่าสมบูรณ์แบบของใครหลายๆคน ไม่เหมือนกัน!ปัญหาบางเรื่องถ้ามันเกิดขึ้นซ้ำๆบางครั้งก็ยากที่จะแก้ไขบางคนก็ เลือกวิธีแก้ปัญหาที่แตกต่างออกไปบทสรุปสุดท้ายของครอบครัวนี้จะเป็นยังไง โปรดติดตามได้เลยจ้า.. เขียนโดย นางสาววิมพ์วิภา อินศรี ครอบครัวอาจจะเป็นเกราะกำบังของใครหลายๆคนแต่สำหรับ บางคนแล้ว\"ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซนที่ดีที่สุดเสมอไป..
เพล้ง!!!!เสียงดังสนั่นบ้านฉันเดาว่าต้องเป็นแจกันใบที่5แล้ว แน่ๆเลยเวลาที่แม่โมโหทะเลาะกับพ่อทีไรก็จะชอบปาสิ่งของ ตกแตกเสียงดังโครมครามเป็นประจำเห้ออออมันน่าเบื่อซะ จริงๆชลธิชาได้แต่บ่นพึมพำอยู่ในห้องนอนเพียงลำพังแต่ แล้วจู่ๆก็ได้ยินเสียง เพี๊ยะ!!!เสียงนี้เหมือนจะไม่สิ่งของแตกนะ ชลธิชาแง้มประตูแอบดูว่าที่มาของเสียงนี้คืออะไรภาพที่เห็น คือแม่เธอใช้ฝ่ามือตบไปที่ใบหน้าของพ่ออย่างแรงใบหน้า ของพ่อก็หันไปตามแรงที่กระทบสีหน้าของพ่อนั้นไม่ได้บ่ง บอกถึงความรู้สึกใดๆแต่นัยดากับแข็งกร้าวขบกรามแน่นพอ จะเดาออกว่าเจ็บไม่น้อยเลยทีเดียว คุณมันตาแก่หนังเหนียว ชั้นตบคุณแค่นี้ไม่รู้สึกเจ็บหรอก ทำไมเงียบทำไมไม่มีอะไรจะ พูดเลยหรอ ผมพูดไปแล้วมีประโยชน์อะไรล่ะคุณเคยฟังที่ผม อธิบายบ้างมั้ย?? เหอะคำอธิบายของคุณงั้นหรอรำภาแสะยิ้ม(แม่ของชลธิ ชา)มันก็คือคำแก้ตัวดีๆนั่นเอง รุ่งโรจน์(พ่อของชลธิชา)เงย หน้าขึ้นคิ้วยกขมวดพร้อมหลับตาแล้วพูดว่าคุณก็เป็นซะแบบ นี้เราแต่งงานกันมาตั้ง10กว่าปีแล้วมีลูกด้วยกัน1คนแต่คุณไม่ เคยที่จะเชื่อใจและยอมรับฟังผมเลยเอะอะ อะไรก็คิดเองเออเองคุณทำตัวแบบนี้ไม่คิดว่ามันจะน่าเบื่อไป หน่อยรึไงโถ่เว้ย ปังงง!!!
เสียงพ่อฉันเอามือชกกับผนังห้องแล้วทุกอย่างก็เงียบลงราวกับลมพายุ ที่พัดผ่านมาแล้วก็ผ่านไปแม่ฉันยืนนิ่งตัวสั่นเทาน้ำใสๆค่อยไหลผ่าน ม่านตาพร้อมกับพูดอย่างช้าๆว่าฉันจะไม่สร้างความรำคาญให้คุณอีก เชิญคุณไปเสพสุขหาเศษหาเลยข้างนอกได้เต็มที่!!!แล้วแม่ก็เดินเข้าห้อง ไปส่วนพ่อฉันนั้น เดินไปหยิบกุญแจรถแล้วสักพักฉันก็ได้ยินเสียง เครื่องยนต์สตาร์ทแล้ววิ่งออกไปด้วยความเร็วที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ตอนนี้เวลาราวๆประมาณ5ทุ่มหลังจากที่พ่อกับแม่ทะเลาะกันเสร็จ ภายในบ้านก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฉันที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างปล่อยความ คิดไปตามสายลมที่พัดโชยมากระทบบนใบหน้าฉันแล้วก็ค่อยๆพัดผ่าน ไปตามปกติแล้วตอนนี้ฉันควรจะรู้สึกสดชื่นสบายใจที่ได้นั่งชมจันทร์ แล้วยังมีสายลมพัดผ่านแต่กลับกันฉันกลับรู้สึกอ้างว้างเหงาหงอยเดียว ดายไร้ชีวิตชีวาสายลมที่พัดผ่านมาก็ทำให้รู้สึกเหน็บหนาวจนจับใจส่วน แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมานั้นเหมือนเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาที่ไม่ สามารถจับต้องได้เสมือนอยู่ในที่ไกลแสนไกลและไม่อาจพานพบเจอ พอรุ่งสางพระอาทิตย์ก็มาแทนที่ดวงจันทร์ก็ค่อยๆจางหายไปในโลกนี้ ช่างไม่มีอะไรแน่นอนเลยจริงๆ
ในขณะที่ฉันกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่นั้นจู่ๆก็ได้ยินเสียงแม่เคาะประตู ก๊อก ก๊อกๆๆลูกนอนรึยังแม่เอานมมาให้ ยังค่ะแม่เปิดประตูเข้ามาได้ เลยค่ะหนูไม่ได้ล้อค พอแม่เปิดประตูเข้ามาก็เดินมานั่งบนเตียงกับฉัน แล้วพูดว่า ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะหนูนอนไม่หลับใช่มั้ยดื่มนมก่อนจะ ได้หลับง่ายขึ้น ฉันดื่มนมที่แม่ยื่นมาให้ แม่เอามือลูบหัวฉันแล้วยิ้มให้ อย่างอ่อนโยนภาพในตอนนี้ช่างดูอบอุ่นและสวยงามมากจริงๆแต่แล้ว แม่ก็พูดขึ้นมาว่า เป็นเพราะแม่กับพ่อทะเลาะกันอีกแล้วใช่มั้ยลูกถึง นอนไม่หลับทำตัวไร้ชีวิตชีวาแบบนี้ แต่ลูกไม่ต้องคิดมากแล้วนะแม่จะ จบเรื่องทุกอย่างนี้เอง ฉันรู้สึกว่าแม่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็ก น้อย ตอนนี้ลูกก็เริ่มโตแล้วต่อไปต้องดูแลตัวเองดีๆนะแม่ดึงตัวฉันเข้า มากอดไว้ในอ้อมอกเหมือนฉันจะได้ยินเสียงสะอื้นของแม่อ้อมกอด ครั้งนี้ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆพร้อมกับคำพูดที่แม่พูดกับฉันที่ผ่านมาเมื่อ กี้แล้วยิ่งทำให้ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจราวว่าตนนั้นกำลังจะสูญเสีย อะไรที่สำคัญมากๆไป
ตี้ดดดด ตี้ดดๆฉันที่งัวเงียสดุ้งตื่นมาดูเวลา ตี3 แล้วหรอเนี่ยแล้วฉัน หลับไปตอนไหนละแม่กลับห้องไปตั้งแต่เมื่อไหร่??? ตี้ดๆๆๆโอ้ ยยยยเสียงนี้ที่ทำให้ฉันสดุ้งตื่นนี่นาใครมันเป็นประสาทมาบีบแตร รถที่หน้าบ้านฉันเวลานี้เนี่ยฉันรีบลุกไปดูที่หน้าต่าง ตึก ตึก ตึก ตึก ภาพที่ฉันเห็นทำให้หัวใจฉันเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาเงาของผู้ หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่งผมยาวสลวยลงมาถึงกลางหลังในมือเขาถือ กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไว้1ใบและกำลังก้าวขึ้นรถเก๋งสีดำก่อนที่รถ จะเลื่อนออกไปผู้หญิงคนนั้นได้เลื่อนกระจกรถลงแล้วเงยหน้าขึ้น มามองที่หน้าต่างตรงที่ฉันยืนมองอยู่สายตาประสานกันเหมือน กำลังต้องการที่จะพูดอะไรออกมาแต่ก็พูดไม่ออกจนรถเก๋งสีดำคัน นั้นค่อยๆขับเคลื่อนออกไป ไกลเรื่อยๆจนลับสายตาและแล้ว สายตาที่ฉันจ้องเมื่อกี้ก็ได้หายไปแล้วเหลือไว้เพียงแต่ความมืดมิด และบรรยากาศอันหนาวเย็นในยามกลางคืน ฉันแทบจะหยุด หายใจแล้วพูดออกมาช้าๆว่าแม่ไปแล้ว!หรือนี่คือคำตอบ
ของคำพูดและการกระทำที่แม่พูดภาพที่ฉันเห็นเมื่อกี้นั้นก็เป็นตัวช่วย ยืนยันคำตอบที่ฉันคิดจู่ๆน้ำใสๆค่อยๆไหลผ่านม่านตาลงมาและร่วง ลงพื้นอย่างเงียบเชียบเหมือนกับฉันในตอนนี้ที่บ้านทั้งหลังมีเพียงฉันที่ นั่งตัวสั่นเทาอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมอันมืดมิดตามลำพังพ่อก็ยังไม่กลับมาแม่ ก็ออกไปแล้วความนึกคิดต่างถาโถมเข้ามาโจมตีความรู้สึกฉันทำให้ฉัน รู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนอยู่ตัวคนเดียวเหมือนไม่มีใครต้องการฉันทำไมที่ที่ ฉันอยู่ในตอนนี้มันช่างโหดร้ายขนาดนี้กันนะฉันควรจะออกไปจากที่ แห่งนี้แล้วไม่ต้องกลับมาอีก!คิดได้แบบนี้แล้วฉันลุกขึ้นเปิดตู้เสื้อผ้าพับ เสื้อและกางเกงใส่กระเป้จนเต็มฉันรูดซิปลงแล้วสพายมันไว้ข้างหลังฉัน ยืนคิดทบทวนอยู่สักพักยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหลฉันจึงตัดสินใจเอามือปาด น้ำตาแล้วเปิดประตูก้าวเท้าเดินออกจากบ้านมาด้วยความสั่นเทาฉัน ค่อยๆเดินตามถนนมาเรื่อยๆโดยไม่หันกลับไปมองทางที่จากมาจน กระทั่งฉันเดินมาได้ไกลจนถึงป้ายรถเมล์จึงได้หยุดพักและนั่งมองออก ไปเห็นถนนเห็นผู้คนที่ตื่นเช้าเตรียมตัวมาขึ้นไปทำงานฉันมองผู้คนเดิน ผ่านไปผ่านมาต่างก็เป็นคนแปลกหน้าคงถึงเวลาที่จะต้องเริ่มต้นชีวิต ใหม่ด้วยตัวฉันเองแล้วสินะฉันคิดแล้วก็ได้ฝืนยิ้มออกมาทั้งน้ำตา!
ฉันไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นยังไงดีสิ่งแรกที่ฉันคิดในตอนนี้คือจะไปอยู่ ที่ไหนดีที่ที่ไม่มีใครรู้จักฉัน ปิ๊ งงง!ต่างจังหวัดใช่แล้วความคิดแวบเข้า มาในหัวฉันต้องไปต่างจังหวัดแค่นี้ก็ไม่มีใครรู้จักฉันแล้วพ่อก็คงหา ฉันไม่เจอหรอกแต่จู่ๆก็ดันกังวลว่าถ้าฉันหนีออกมาแบบนี้พ่อจะทำ ยังไงจะเป็นห่วงฉันจนไม่สบายมั้ย ไม่หรอกพวกเค้าทั้งสองไม่ได้ สนใจฉันสักหน่อยพอฉันคิดเองตอบเองแล้วก็ได้สลัดความคิดเหล่า นั้นทิ้งไปแล้วก้าวเท้าขึ้นรถเมล์ ไปสถานีขนส่งค่ะ พอฉันบอกกับคน ขับรถแล้วก็เดินไปหาเบาะที่ว่างฉันเลือกนั่งริมหน้าต่างมองออกไป เห็นทิวทัศน์ต่างๆผ่านไปสักครู่รถก็ได้แล่นออกมาจนใกล้จะถึงสถานี ขนส่งแล้วฉันเตรียมตัวที่จะกดกริ่งลงแต่ยังไม่ทันกดรถก็ค่อยๆ เคลื่อนช้าลงๆจนจอดสนิทที่สถานีขนส่งฉันรีบเดินลงจากรถเพราะ กลัวว่าจะซื้อตั๋วไปเชียงรายไม่ทัน ใช่ค่ะสถานที่ที่ฉันเลือกจะไปก็คือ จังหวัดเชียงรายนั่นเอง
พอลงจากรถฉันรีบมุ่งตรงไปซื้อตั๋วรถและทราบว่ารถจะออกในอีก ครึ่งชั่วโมงพอดีเลยตอนนี้เวลา11.30แล้วฉันรู้สึกหิวนิดๆแล้วไปหา อะไรรองท้องใกล้ๆแถวนี้ก็ยังทัน ฉันจึงเดินไปร้านบะหมี่ที่อยู่ใกล้ๆ สถานีขนส่งนี้ เอาบะหมี่เกี๊ยวต้มยำพิเศษที่นึงค่ะ ฉันสั่งบะหมี่จากพ่อค้าแล้วมานั่ง รอที่โต้ะผ่านไปไม่ถึง5นาทีบะหมี่ชามโตๆกำลังร้อนๆก็ถูกยกมา เสิร์ฟตรงหน้าฉันแล้วสีสันมันหน้ากินมากแค่มองก็ให้ความรู้สึกที่ เหนียวหนึบของเส้นบะหมี่กลมกล่อมของตัวเกี๊ยวที่สอดใส่หมูสับ อย่างละมุนอ่อนนุ่มไปกับตัวหมูแดงที่ถูกสไลด์เป็นแผ่นบางๆพอดีคำ ตบท้ายด้วยความรู้สึกที่เผ็ดแซ่บนัวของน้ำซุปที่มีสีแดงตามฉบับ ต้มยำ ส่วนผสมหลากหลายชนิดขนาดนี้พอมาอยู่รวมในชามเดียวกัน แล้วกลับเข้ากันได้ดีลงตัวอย่างเหมาะสมต่างจากครอบครัวของฉัน ในตอนนี้ซะจริงๆเลยพออยู่รวมก็ต้องมีเรื่องให้แต่ละฝ่ายหนักใจ ตลอดจนตอนนี้ต่างระหกระเหินไปคนละทางคิดไปคิดมาแล้วช่าง อิจฉาบะหมี่ชามนี้จริงๆที่
สามารถอยู่รวมกันได้อย่างลงตัวแต่ไม่เป็นไรให้สีสันที่งดงามรสชาติที่ แสนจะอร่อยและกลมกล่อมนี้ช่วยปลอบประโลมความรู้สึกโศกเศร้า ภายในใจฉันทิ้งไปให้หมด พอฉันกินจนเกลี้ยงแล้วก็เหลือบมองเวลา ตายแล้ววว!!!ถึงเวลารถออกแล้วนี่ฉันตกใจมากรีบลุกขึ้นควักสตางค์ แบงค์50วางบนโต้ะแล้วรีบวิ่งมาที่จุดขึ้นรถทันทีโชคยังเข้าข้างฉันรถ กำลังจะออกพอดี ฉันรีบขึ้นรถและไปนั่งตำแหน่งตามเลขในตั๋วแต่ฉัน ดันได้ตำแหน่งที่ไม่ได้นั่งข้างหน้าต่างนี่สิปัญหาใหญ่เพราะฉันเป็นคน ขี้เมารถมากๆอย่างน้อยถ้านั่งตรงริมหน้าก็ได้รับลมยังพอช่วยได้ เอาวะ!!เป็นไงเป็นกันฉันพูดอ้ำๆอึ้งๆขอสลับที่กับพี่ผู้ชายที่ได้นั่งริม หน้าต่าง ไม่นึกเลยว่าพี่เค้าจะยอมสละที่นั่งและยอมแลกกับฉันช่าง เป็นสุภาพบุรุษซะจริงๆเลยฉันรีบยกมือไหว้ขอบคุณพี่เค้าทันที รถแล่น มาได้สักพักฉันที่ได้ที่นั่งสมใจแล้วก็ได้นั่งเหม่อลอยมองออกไปนอก หน้าต่างฟังเสียงผู้คนในรถพูดกันเจี้ยวจ้าวๆพอรถเริ่มแล่นออกจากตัว เมือง
แล้วภายในรถก็เริ่มสงบทุกคนที่คุยกันเมื่อกี้ต่างพากันงีบหลับไปส่วน ฉันได้แต่นั่งมองออกไปนอกหน้าต่างโดยที่ไม่ได้คิดอะไรเลยปล่อยไป ตามสายลมจะนำพาฉันก้มมองนาฬิกาตอนนี้เวลา15.00น.แล้วอีก ประมาณ17.00น.ก็น่าจะถึงเชียงรายฉันจึงหลับตาลงปล่อยวางความ คิดทุกอย่างเหลือไว้เพียงสมองที่โล่งๆและฉันก็หลับไปในที่สุด ฉัน สดุ้งตื่นมาดูเวลานี่16.30แล้วหรอเนี่ยอีกสักก็น่าจะถึงที่หมายปลาย ทางแล้วแหละฉันจึงนึกขึ้นได้ว่าควรเสาะหาที่พักไว้ดีกว่าฉันจึงได้ เสิร์ชหาข้อมูลหอพัก บ้านเช่า อพาทเมนต์ต่างๆ แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนที่ ถูกใจฉันเลย จนเวลาล่วงเลยมาถึง17.05น.เสียงรถเบรกดังเอี๊ยดดด!!!ก่อนที่ จะจอดหยุดนิ่ง \"ขณะนี้ถึงที่หมายปลายทางแล้วขอให้ผู้โดยสาร ทุกท่านเช็คอุปกรณ์สัมภาระของท่านก่อนลงจากรถด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ\"เสียงประกาศตามสายภายในรถได้ดังขึ้นฉันจึงหยิบ กระเป๋าขึ้นมาสพายแล้วเดินลงจากรถบิดขี้เกียจไปสองสามที เห้อออ ถึงสักทีสินะเชียงราย!!
ว่าแต่ฉันจะไปอยู่ที่ไหนดีล่ะเนี่ยนี่ก็ใกล้จะมืดค่ำแล้วด้วย หอพักราคาถูกๆและ คุณภาพพอรับได้นี่จะมีมั้ยนะฉันนั่งกุมขมับคิ้วขมวดอย่างคนคิดไม่ตก ฉันจึงลุก ขึ้นเดินไปซื้อน้ำในร้านค้าขายของชำข้างๆแล้วลองถามแม่ค้าดูว่าแถวนี้มีห้อง พักรายวันราคาถูกๆบ้างมั้ยเพราะฉันกะว่าจะพักที่นี่แค่คืนแล้วพรุ่งนี้จะนั่งรถ ไปอำเภอแม่สรวยต่อใช่แล้วแหละที่นั่นจะเป็นสถานที่ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ของฉัน พอคิดเสร็จแล้วฉันก็ถามเลยทันทีว่า ขอโทษนะคะป้าแถวนี้มีห้องเช่า รายวันราคาถูกๆบ้างมั้ยคะ ป้าแกตอบมาว่า หนูเป็นคนต่างจังหวัดหรอมาคน เดียวแล้วพ่อแม่ไปไหนล่ะเป็นเด็กผู้หญิงมาคนเดียวตามลำพังแบบนี้ไม่ดีนะ อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ??? เอิ่มมฉันคิดในใจว่าฉันควรจะตอบคำถามไหนก่อนดีนะ แต่ฉันก็เลือกที่จะตอบแค่คำถามเดียวคือ อายุ18แล้วค่ะค่าน้ำนี่20บาทใช่มั้ยคะ ฉันยื่นเงินให้แล้วรีบผละตัวออกมา ฉันอดที่จะหงุดหงิดไม่ได้ทำไมต้องถามถึง ครอบครัวฉันด้วยฉันเดินเตะฝุ่นอยู่บนฟุตบาทไปเรื่อยๆแหงนหน้ามองฟ้า พระอาทิตย์ก็ใกล้จะลับขอบฟ้าแล้วฉันยังหาที่พักไม่ได้เลยแล้วคืนนี้จะนอนไหน ล่ะเนี่ยฉันทำหน้านิ่วคิ้วขมวดมาหลายชั่วโมงแล้วนะเห้อออในขณะที่คิดไม่ตก อยู่นั้นฉันก็เหลือบไปเห็นนักเรียนกลุ่มนึงเหมือนกำลังรอขึ้นรถฉันจึงรีบเดินไป ถามว่ารู้จักห้องพักราคาถูกๆบ้างมั้ยแต่ฉันคิดว่าต้องรู้จักแน่ๆเพราะเด็ก นักเรียนวัยรุ่นสมัยนี้ติดเพื่อนเบื่อครอบครัวชอบอยู่หอพักกันสะส่วนใหญ่ทำไม ฉันถึงคิดแบบนี้น่ะหรอก็เพราะฉันพึ่งจะอายุ18และพึ่งเจอปัญหาครอบครัวที่ น่าเบื่อแบบนั้นมานั่นเอง
พอประมวลความคิดเรียบร้อยเสร็จสัพก็ตรงดิ่งไปถามเด็กนักเรียนกลุ่มนั้น ทันทีว่า ขอโทษนะคะน้องพี่ขอรบกวนถามนิดนึงนะว่าแถวๆนี้มีห้องพักราย วันราคาถูกๆบ้างมั้ย และแล้วคำตอบที่ฉันได้ก็อยู่ตรงหน้าแล้ว สิ่งที่เห็นคือ ห้องแถวสีฟ้าเรียงยาวต่อๆกันสภาพจะเรียกว่าเก่าเลยก็ว่าได้บรรยากาศค่อน ข้างอึมครึมเงียบๆอาจจะเพราะว่าตอนนี้เวลา1ทุ่มแล้ว ใช่ที่นี่แน่นะนอนได้ จริงๆใช่มั้ยฉันหันกลับมามองกลุ่มเด็กนักเรียนที่พาฉันมา ใช่สิพี่ที่นี่น่ะราคา ถูกสุดแล้ว150บาทต่อคืนเองงั้นพวกเราไปก่อนนะพูดเสร็จเด็กกลุ่มนั้นก็พา กันเดินกลับไปเหลือเพียงฉันที่ยืนขาสั่นขนแขนก็เริ่มจะลุกชูชันอยู่คนเดียว เอาวะไหนๆมาแล้วก็ยังดีกว่านอนข้างถนนแล้วกัน ฉันหยิบมือถือขึ้นมาด้วย มืออันสั่นเทาเล็กน้อยกดโทรเบอร์**********เพื่อที่จะแจ้งให้เจ้าของห้องพัก เอากุญแจมาให้แล้วจ่ายเงินค่าพัก ฉันยืนรอประมาณ10นาทีก็มีแสงไฟหน้า รถมอไซต์ส่องมาทางฉันค่อยๆขับเข้ามาใกล้เรื่อยๆแล้วก็จอดอยู่ตรงหน้าฉัน เจ้าของมอไซต์นั้นพูดว่า เธอใช่มั้ยที่โทรมาเรื่องเช่าห้องเมื่อกี้ ฉันรับตอบไป ว่าใช่ค่ะหนูเองขอเช่าแค่คืนเดียวค่ะ แล้วป้าแกก็ยื่นกุญแจมาให้ฉันแล้วพูด ว่าเหลือแค่ห้องเบอร์8นะ ค่าเช่า150บาท เดินตรงไปเลี้ยวขวาห้องเบอร์จะ อยู่ด้านในสุดในห้องไม่มีอาหารมีแค่น้ำเปล่าให้1ขวด ฉันรีบยื่นเงินให้แล้วป้า แกก็สตาร์ทรถแล้วขับออกไปทันที
ฟิ่ วววววเสียงลมพัดมากระทบที่ตัวฉันเอาอีกแล้วนะทำไมช่วงนี้รู้สึกว่าฉัน จะถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังบ่อยเกินไปแล้ว!!!เดี๋ยวก็คงชินไปเอง ฉันได้แต่กำ มือถือในมือไว้แน่นจนเหงื่อออกค่อยๆเดินไปตามทางที่เจ้าของห้องพักบอก และแล้วฉันก็ถึงห้องเบอร์8ที่ฉันต้องนอนค้างในคืนนี้ก่อนที่ฉันจะไขกุญแจ เข้าไปก็ได้มองดูรอบๆว่าพอจะมีคนที่มาพักบ้างมั้ยแต่ก็ไม่เห็นอะไรเลยมืด ไปหมดอีกทั้งยังรู้สึกวังเวงชวนให้ขนลุกอีกด้วยฉันจึงรีบเปิดเข้าไปหาสวิต เปิดไฟแล้วล้อคห้องโดยเร็วทันทีที่ไฟฟ้าสว่างฉันก็ได้เห็นสภาพภายในห้อง ได้ชัดเจนขึ้นอืมมมมก็สมกับราคาแหละ150บาทจะเอาอะไรมากมายฉันจึง รีบไปอาบน้ำและล้มตัวนอนบนเตียงที่แข็งทื่อด้วยการที่นั่งรถมาไกลบวกกับ การเดินหาหอพักเป็นชั่วโมงทั้งยังใช้ความคิดอันหนักหน่วงอีกจึงทำให้ฉัน ผลอยหลับไปได้อย่างง่ายดาย จู่ๆกลางดึกฉันก็ฝันและทำให้สดุ้งตื่นมาเหงื่อ ไหลเต็มตัวในฝันฉันฝันเห็นภาพเหตุการณ์ในคืนวันนั้นที่ยืนมองแม่หายไป จนลับสายตา!!ฉันดูเวลาตีสามแล้วหรอเนี่ยเวลาช่างตรงกับเหตุการณ์จริงใน คืนวันนั้นซะจริงๆเลยฉันได้แต่นอนกอดตัวเองเอาไว้พยายามลืมมันไปให้ หมด จนในที่สุดห้องที่มืดมิดก็มีแสงเล็กๆจากพระอาทิตย์สาดส่องเข้ามาก ระทบบนเปลือกตาน้อยๆของฉันทำให้รู้สึกว่านี่คงเป็นเช้าวันใหม่แล้ว ฉันจึง ลุกขึ้นไปอาบน้ำแปรงฟันแล้วเตรียมออกจากห้องนี้ทันที
พอเดินออกมาถึงได้รู้ว่าที่นี่ในเวลากลางวันแบบนี้ก็ไม่ได้น่ากลัวเหมือน ตอนกลางคืนนี่นา หลังออกมาจากที่นั่นฉันก็เดินมาที่ขนส่งโชคดีที่ห้องพัก ไม่ไกลจากขนส่งมากนักและในตอนนี้ฉันก็นั่งอยู่บนรถตู้ประจำทางเพื่อไป ลงที่อำเภอแม่สรวยเรียบร้อยแล้วหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นดีหวังว่าฉันจะ สามารถใช้ชีวิตอยู่ตัวคสงนเดียวได้ฉันได้แต่นั่งภาวนาเงียบๆในใจขณะที่ รถก็แล่นไปเรื่อยๆจนถึงที่หมายปลายทางฉันก้าวขาลงจากรถและนั่งรถ สองแถวไปยังหอพักศิริกิต อพาทเมนต์ ในทันทีหอพักนี้ฉันได้โทรจองไว้ ล่วงหน้าแล้วถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวค่าเช่ารายเดือน1800ค่าน้ำ50บาทต่อ เดือนถึงแม้ว่าจะอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองโดดเดี่ยวสองข้างทางมีแต่ต้นไม้ เขียวขจีปกคลุมไปนิดนึงก็ตาม แต่ฉันก็ชอบนะร่มรื่นดีเหมาะกับการมาพัก ผ่อนและอยากอยู่เงียบๆคนเดียวแบบฉัน สวัสดีค่ะฉันชื่อชลธิดาที่โทรมา จองห้องพักไว้เมื่อตอนกลางวันค่ะฉันพูดกับเจ้าของหอพักพร้อมยื่นบัตร ประชาชนให้ สวัสดีค่ะ ศิริกิต อพาทเมนต์ยินดีต้อนรับค่ะค่าชำระก่อนเข้า พักโดยรวมแล้ว1850บาทคุณชลธิชาสามารถอยู่ได้ตลอด1เดือนค่ะ เจ้าของหอพูดจบก็ยื่นคีย์การ์ดห้องเบอร์108ให้กับฉัน ฉันรับคีย์การ์ดมา แล้วก็รีบเดินขึ้นห้องเพราะตอนนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยล้ามากๆร่างกายต้องการ พักผ่อนยาวๆ
ส่วนทางด้านรุ่งโรจน์พ่อของชลธิชานั้นหลังจากที่ทะเลาะกับรำภาภรรยาของ เขาเสร็จแล้วนั้นก็ได้รีบออกมาที่ไซส์งานตรวจงานและวางแพลนแบบ โครงสร้างต่างๆ(เขาทำอาชีพผู้รับเหมาก่อสร้าง)เพื่อที่จะเร่งให้เสร็จโดยเร็วจึง ได้กลับบ้านดึกๆทุกวันจนทำให้มีปากเสียงกับรำภาบ่อยมากเขาตั้งใจว่าถ้าปิด จ็อบงานนี้สำเร็จเขาจะหยุดลาพักร้อนให้กับตัวเองและพาครอบครัวไปเที่ยว ด้วยกัน เอ้ก กี้ เอ้ก เอ้กกกกเสียงไก่ขันแสงแดดรุ่งอรุณในยามเช้าสาดส่องลง มากระบนใบหน้าของเขา เช้าแล้วสินะแบบแพลนก็เสร็จพอดีเดี๋ยวรอให้คน งานมาแจกแจงงานเรียบร้อยแล้วค่อยกลับไปอาบน้ำและงีบสักแปปปนึง รุ่งโรจน์วางแผนจัดลำดับสิ่งที่ต้องทำอยู่ในใจสมองก็พาลคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืน ที่ถกเถียงกับรำภาเขากังวลว่าทำไมรอบนี้รำภาพูดจาแปลกอีกทั้งตาข้างขวาก็ กระตุกตั้งแต่เมื่อคืนตอนตีสามและเช้านี้ก็ยังกระตุกอีกจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมั้ย นะ หัวหน้าสวัสดีครับเสียงคนงานกล่าวทักทายจึงทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์ และสลัดความคิดนั้นทิ้งส้ะ อ่าๆสวัสดีๆนี่คือแบบแพลนที่ต้องทำในวันนี้ ช่วย กันเร่งมือหน่อยพวกเราจะได้หยุดพักเร็วๆถ้าไม่มีไรแล้วทุกคนแยกย้ายไป ทำงานได้ แจกแจงงานคนงานเสร็จรุ่งโรจน์ก็มุ่งตรงกลับมาบ้านทันทีที่ไข กุญแจเปิดประตูก้าวเท้าเข้าบ้านปุ้บบ้านทั้งบ้านเงียบผิดปกติเป็นอย่างมาก ทำให้เขาเริ่มรู้สึกกังวลใจขึ้นมาอีกแล้วจึงได้รีบไปดูห้องนอนของรำภาสิ่งที่เห็น คือห้องที่ว่างเปล่าไร้ตัวบุคคลเจ้า
เจ้าของห้องเสื้อผ้าไม่หลงเหลือสักชิ้นเขาตัวสั่นไปหมดในหัวสับสนว่าเกิด อะไรขึ้น แล้วหันตัวกลับไปหาชลธิชาลูกสาวของตนแต่พอเปิดประตูเข้าไป ปุ้บทำให้เขาถึงขั้นเข่าทรุดลงกับพื้นในห้องเงียบสงบสิ่งของต่างๆยังอยู่แต่ เสื้อผ้าของลูกสาวเขานั้นไม่อยู่แล้วความรู้สึกเจ็บแปลบเจ้ามาในอกจน ทำให้หายใจแทบไม่ออกน้ำใสๆค่อยๆไหลและหล่นลงพื้นทีละหยดนี่สินะน้ำ ลูกผู้ชายเขารีบโทรหาชลธิชาทันที ขออภัยค่ะหมายเลขที่ท่านเรียกไม่ สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ ตุ้ด ตุ้ด ตุ้ด มือไม้สั่นไปหมดกดโทรออกเบอร์รำ ภา ตู้ดดดด ตู้ดดด ฮัลโหลสวัสดีครับนี่ใครครับฮัลโหลลลลที่รักมีคนโทรมา หาคุณแต่ไม่ยอมพูดผมวางสายละนะกลัวเป็นพวกโรคจิต ตุ้ด สายถูกตัดทิ้ง ไปแล้วเสียงผู้ชายในสายเมื่อครู่เป็นใครกันแล้วคำที่เรียกว่าที่รักคืออะไรเขา มึนงงและสับสนมากการที่เขาตรากตรำทำงานหนักทุกวันจนแทบไม่มีเวลา พักจะทำให้เขาเสียผู้หญิงที่รักมากที่สุดทั้งสองคนไปเขานั่งครุ่นคิดอยู่นาน ว่าควรทำยังไงดีแต่จู่ๆก็เกิดอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกดวงตาเริ่ม พล่าเลือนก่อนที่ทุกอย่างจะมืดมิดและดับวูบลงเขาฟุบลงพื้นหมดสติไป วัน เวลาผ่านไปนานแค่ไหนเขาก็ยังคงนั่งอยู่ภายในห้องที่มืดมิดเงียบสงัดลม หนาวพัดโกรกผ่านทางช่องหน้าต่างลงมากระทบบนตัวเขาทำให้เขารู้สึก เหน็บหนาวเงียบเหงายังคงอาลัยอาวรณ์
รอคอยว่าสักวันภรรยาและลูกจะกลับมาหาเขา ก้มมองดูนาฬิกาที่ข้อมือตอนนี้เวลาตีสามครุ่นคิด อยู่ในใจเหม่อมองออกไปนอกหน้ าต่างคืนนี้ ท้องฟ้ ามืดมิดไร้ซึ่งดวงดาวแม้แต่พระจันทร์ก็ยัง ถูกความมืดบดบังจนแทบจะมองไม่เห็นแสง เขามองออกไปภายในเจ็บปวดรวดร้าวเหลือคณา ทั้งรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างและเดียวดายภรรยาอัน เป็ นที่รักบัดนี้ได้ไปปลูกต้นรักบนกระถางต้นไม้ อันใหม่แล้วส่วนลูกสาวอันเป็ นแก้วตาดวงใจก็ได้ หนีหายไร้การติดต่อออกไปไกลแสนไกลทำได้แค่ เพียงหวังอย่างไม่มีความหมายเฝ้ ารออยู่ ท่ามกลางความมืดมิดอย่างเดียวดาย
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: