Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มองกระจกแล้ววกมามองตัวเอง

มองกระจกแล้ววกมามองตัวเอง

Published by dog_2521, 2020-04-22 22:23:39

Description: มองกระจกแล้ววกมามองตัวเอง

Search

Read the Text Version

Áͧ¡ÃШ¡ áÅÇŒ Ç¡ÁÒÁͧµÑÇàͧ È.¹¾.àÊ¹Í ÍÔ¹·ÃÊØ¢ÈÃÕ

1

คำนำ มองกระจก แลววกมามองตัวเอง เปนบทความสวนหนึ่งของหนังสือ ๘ พฤษภาคม ๒๕๔๘ ครบรอบ ๘๔ ป นายแพทยเ สนอ อนิ ทรสขุ ศรี ทส่ี ำนกั สง เสรมิ และพทิ กั ษผ สู งู อายุ สำนกั งานสง เสรมิ สวสั ดภิ าพและพทิ กั ษเ ดก็ เยาวชน ผดู อ ยโอกาส และผสู งู อายุ ไดร บั อนญุ าตจากศาสตราจารยน ายแพทยเ สนอ อนิ ทรสขุ ศรี ใหน ำมา จดั พมิ พเ ผยแพรใ หค วามรูแกผูสงู อายุ และประชาชนทว่ั ไป สาระของบทความ กลาวถึงการเปล่ียนแปลงทางรางกายของผูสูงอายุ ในดานตาง ๆ ทั้งรางกาย และจิตใจ ท่ีเปนประโยชนตอผูอานใหรูเทาทัน เขาใจ และพรอ มรับในสิง่ ท่จี ะเกิดข้นึ เพือ่ การปฏิบตั ิตนอยา งเหมาะสมตอ ไปในวยั สงู อายุ สำนักสงเสริมและพิทักษผูสูงอายุ ขอขอบพระคุณศาสตราจารยนายแพทย เสนอ อินทรสุขศรี เปนอยางยิ่ง ทีไ่ ดก รุณาอนญุ าตใหนำบทความดงั กลา วจดั พิมพ และเผยแพรเพื่อเปนวทิ ยาทานตอ ไป สำนกั สง เสรมิ และพิทักษผ ูส ูงอายุ 3

มองกระจกแลววกมามองตวั เอง ศ.นพ.เสนอ อินทรสุขศรี เมอ่ื มอี ายุมากขึน้ และมากขึ้น ๆ ทุกวนั ใคร ๆ ท่ไี มไดพบปะกันมานานแลว หรอื พงึ่ จะรจู กั แลว สนทิ กนั มาบา ง ชา งชอบถามเสยี จรงิ ๆ วา เวลานอี้ ายเุ ทา ไหร พอบอกแลว เขาจะแกลงชมใหเราดีใจหรือเดาอายุเราผิดจริงก็ไมรู คนไหนคนน้ันจะตองบอกวา.. ไมเช่ือวาจะมีอายุมากถึงอยางน้ันแลว ถามตอวาปฏิบัติตัวอยางไรถึงยังดูเหมือน ๆ เดิม กี่ปก่ปี ม าเหน็ ก็เหมือนเดมิ ไมเ ปลี่ยนแปลงเลย พูดกันตามจริง ก็ชอบละที่เขาชมอยางน้ัน แตที่ไมเปล่ียนแปลงเลยน้ัน ไมได พลอยหลงเชื่อตามไปหรอก ตองแกลงพูดเลนวา ท่ีไมคอยจะเปล่ียนไปตามที่บอกนั้น กเ็ พราะมโี รคอยใู นตวั “โรคหนุมเรื้อรัง” คร้ันมีคนถามถึงอายุและบอกสภาพของตัวเองบอยเขา ก็คิดวาตองมองพิจารณา การเปลยี่ นแปลงสภาพของตัวเองเสยี ที “การเปลีย่ นแปลงของรา งกายของผสู งู อาย”ุ วนั น้ันสองกระจกมองพจิ ารณาตัวเอง กก็ ระจกเงาบานทส่ี อ งดอู ยทู กุ วนั เวลาหวผี ม ผดั หนา ทาแปง แตง ตวั กบ็ านนนั้ แหละ เมอ่ื แตงตวั เสรจ็ แลวก็แลวไป ไมไดใสใ จจองพิจารณาอยา งใด แตวันนั้นสองกระจกพิจารณานานหนอย ภาพที่เห็นในกระจกน้ันดูแลวรูสึก แปลกเปนพิเศษไปจากท่ีเคยมองเห็นมา นี่ใครกันนะหนาตาดูคุน ๆ วาเคยเห็นมากอน จองดูอีกใหแนวา อาว ภาพในกระจกน้ันตัวเราเองแหละไมยักเคยรูเคยเห็นหรอกวา ลกั ษณะสภาพตวั เรานเ่ี ปลย่ี นแปลงไปโดยทเ่ี ราพง่ึ จะเหน็ เมอ่ื สงั เกตและมองอยา งพจิ ารณา เมือ่ สัก 3 – 4 ป มาแลว ก็เคยมีความสำนึกและรูตวั วา มีอายมุ ากแลว เปน คนท่ี ใคร ๆ เขาเรียกวา คนแก ไดแ ลว แตม คี ำเรยี กปลอบใจ หรือไมแสลงหู ชวยบำรุงขวญั โดยเรียกกันวา ผูสูงอายุ แตถึงอยางไร ผมชอบที่เรียกกันวา “คนแก” อยางท่ีเรียกกัน มานานแสนนานแลว ดว ยความเขาใจกันไดดี 5

มาถึงวันนี้เมื่อมองดูสภาพของตัวจากกระจกเงาแลวก็รูดีวานี่เรามีอายุมากขึ้น ไปอีกแลวซีนะ พูดอยางชาวบานกันเองโดยไมตองพูดหลอกหลอนลวงกันใหเหลิงกัน ไดเ ลยวา แกข้นึ กวา เดมิ มองเห็นหนาของตัวเองจากกระจกเงาเพงพินิจสักหนอย ก็บอกไดแลววามีการ เปล่ยี นแปลงไปอยา งชดั เจนวา แกข ึ้นกวาเดิม ใบหนาท่ีเคยอวบอูมก็ดูเหมือนจะยุบลง (หรือตอบลง) กระดูกของโหนกแกม คาง และคว้ิ นนู ขน้ึ ผวิ ใบหนา แหง เหย่ี วยน หนา ผากยน เปน รว้ิ ๆ เหน็ ชดั เจน เชน เดยี วกบั ทบ่ี ริเวณหางตาจะมีผิวยน ๆ ตามทเี่ รยี กวา “รอยตนี กา” ผวิ หนา ซีด ๆ มีฝา จาง ๆ ขึน้ ที่ แกม ท้งั 2 ขาง ผมเองมีไฝเม็ดโตที่โหนกแกมขวา (แกลงเชิดชูไฝเม็ดน้ีวาเปนไฝเสนห) เวลานี้มี ขนาดโตเกอื บ ๆ เทาเมด็ ถ่งั แดง แตกอนเคยมสี ดี ำ เวลานี้มีสซี ีด ๆ และเหยี่ วฝอแบนลง ริมฝปากที่อิ่มเอิบงามดั่งคันศร (ชมตัวเอง) เวลานี้เหี่ยวยนยุบลง เวลาสวดมนต และออกเสียงพูด ตัวเองก็ไดยินและรูวาคำพูดไมคอยจะชัดถอยชัดคำ ลองผิวปากเปน เพลงตามที่เคยผิวปากในเวลาคร้ึมอกครึ้มใจอยางแตกอนโนน อยาวาแตจะผิวใหเปน เพลงเลย เสียงผิวยังไมมีเสียงดวยซ้ำย่ิงเปาปากอยางโกสมัยกอนย่ิงไมมีเสียง มีแตลม ผา นรมิ ฝป าก ฟู ๆ อา ว ลมื ใสฟ น ปลอม (ฟน หนา ของฟน บน) มนิ า พดู กไ็ มช ดั ผวิ ปาก เปา ปากกไ็ มไ ด ริมฝป ากตอนบนกด็ ูยบุ ไป พอเอาฟนปลอมใสแลว เออ – ดูหนาแลวเหมือนคนเดิมขึ้นมามากทีเดียว เอ - คนไมมีฟนน่ีหนามันผิดแปลกไปไดนะ ถาฟนหักทั้งหมดปากหนาคงจะผิดแปลก จากเดิมมากเชียวละ ตา มองดตู าตวั เองจากกระจก แลว นกึ ไดถ งึ ตำราแพทยม บี อกไวว า คนทแ่ี กแ ลว ถา ดูรอบขอบตาดำท่ชี ดิ สวนตาขาว รอบของตาดำจะเปน เสน สขี าวฝา ๆ โดยรอบ แตตา เราไมม ีขอบวงตาดำเปน สขี าวเลย เราคงยงั ไมแก หรอื แกไ มม ากซินะ ขนตาบน รวงไปเสียสว นมาก เหลอื ไมก เ่ี สน สว นขนตาลางไมเหลอื ใหเห็น ขนคว้ิ กร็ ว งไปบางเหมอื นกนั บางเสน งอกยาวออกไปมาก บางเสนหงอกเสยี ดวย หนวด เครา โกนทุกเชา ขนเครา – หลังโกนแลว โคนขนท่ีเหลือบางเสนก็เห็น มีหงอก 6

ขนจมูกน้ัน เห็นมีหงอกบางเสนมานานแลว แตเวลาน้ีเห็นวามีหงอกมากเสน กวา แตก อ น ตายงั มองเหน็ ดี แตก ม็ สี ายตายาวตอ งสวมแวน มานานปแ ลว เวลานตี้ อ งใหจ กั ษแุ พทย ตรวจบอย ๆ หมอเขาบอกวาสายตาคนเราอาจเปลี่ยนทุก ๆ 2 ป บางปจึงตองเปลี่ยน กระจกแวน ตาใหเ หมาะกบั สายตา เวลาอา นเขยี นหนงั สอื เวลานต้ี อ งการแสงสวา งมากกวา แตกอน ๆ หมอตาบอกวาเริ่มมีตอกระจกนิด ๆ แลว พอแกแลวทุกคนก็ไมพน ตอกระจก แลวแตใครจะเปนชาหรือเร็วเทานั้น แกแลวทั้งตัว มันก็เส่ือมไปหมดละ ผมมันหงอก ตามนั กห็ งอกไดนา รำคาญอยูท่วี า หัวตามนั มขี ี้ตาอยูเร่อื ย ก็คงเพราะมีทอนำ้ ตาอักเสบเลก็ ๆ นอย ๆ อยูเสมอตามสภาพของคนอายุมาก เช็ดข้ีตาออกทิ้งไปไมไดยากเย็นอะไร จึงไมมีปญหา หรือเดือดรอนอยางไร ดีแลวท่ีไมเกิดมีทอน้ำตาอุดตัน น้ำตาไหลเหมือนกับวารองไห อยตู ลอดวัน แลว เกดิ หนองเกดิ ฝข น้ึ ในทอ นำ้ ตา ไหน ๆ สอ งกระจกมองตาตวั เองแลว ก็ดูหูเสยี เลยเถอะ หู หูเวลาน้ีก็ผิดแปลกเปลี่ยนไปดวย หูขางซายท่ีเคยไดยินเสียงไมคอยชัด พูดไดวามีหูตึงมากอนแลวหลายป ตอนนี้มันตึงมากย่ิงข้ึน ลองเอามืออุดหูขวาไวแลว หซู า ยน้แี ทบจะไมไดย นิ เสียงคนพูดทพี่ ดู ดว ยวาพดู อะไรยังไง ตอ งพดู เสยี งดังมาก ๆ หขู า งขวากพ็ อจะไดย นิ ในเวลาพดู คยุ สนทนากนั ในระยะใกล ๆ ถา อยไู กลสกั หนอ ย ก็ฟงไมชัด เวลาฟงวิทยุหรือชมโทรทัศน มักจะขัดแยงกับพวกเด็ก ๆ ที่ชอบประทวงวา “เปดเสียงดงั อะไรนกั หนา” เรื่องไมไดยินเสียงหรือฟงคนพูดดวยไมไดยินชัดน้ี มันก็ทำใหรำคาญใจและ มีโมโหโทโสอยูในใจอยูแลว ไมร วู ากรรมเวรอะไรนกั หนา หขู างขวาที่พอจะชวยใหไ ดยนิ คนคุยหรือฟงเสียงอะไรไดพอรูเรื่อง อยู ๆ ก็เกิดมีขี้หูขึ้นมามากจนเต็มรูหู จนไปชิด เย่ือแกวหู ที่น้ีก็ไดเร่ือง มีเร่ืองสำคัญท่ีจะตองพูดคุยกันหรือมีประชุมกรรมการเก่ียวกับ ธุรกิจการงาน ใครเขาจะพูดจะถามหรืออกความเห็นอยางไร ไดยินเสียงเหมือนกระซิบ กระซาบ ฟงไมชัด จับความไมไดในที่สุดตองเดือดรอนถึงหมอหู ใหชวยแซะชวยคีบ หูออกจนเกลย้ี ง จึงไดยนิ ไดอยางเดิม (คอื ยังมีตึง ๆ อยู – แตไ ดยินเสียงดีขึน้ ) ข้หี ูเตม็ รหู ขู วาน้ี ตอนแรกหลังจากคบี ขี้หูออกเพยี งแค 2 – 3 อาทติ ย กเ็ ต็มหูอีก แตกห็ างไปหางไป จนหายไปเอง 7

หูคนเรา เม่ือมีอายุมากๆ ประสาทรับเสียงก็คอย ๆ เส่ือมไปทำใหหูตึง ฟงไมชัด คนทีจ่ ะพดู ดว ยตองพูดดัง ๆ หรือพูดซ้ำ ๆ ท่ีแปลกก็คือ ถาเปนเสียงสูงหรือแหลมจะไดยินเสียงชัดนอยกวาเสียงต่ำหรือ เสียงหาว บางทพี ูดเสียงตามธรรมดา ๆ จะไมไ ดยิน แต – ถา เปนเสยี งกระซบิ กลบั ไดยิน น่ีไงละทเี่ ราเคยเห็นหรือเคยไดยนิ คนพูดถึงปยู าตายายทแ่ี กมาก ๆ วา เวลาทพี่ ดู คยุ ดว ยไมไ ดย นิ เสยี งพดู หรอก ตอ งพดู ซำ้ ๆ หรอื พดู ดงั ๆ แตพ อพดู กระซบิ นนิ ทาเสยี งเบา ๆ เทา นั้นแหละคณุ เอย ไดย นิ เรานินทาชัดแจวเชยี วละ ผม เม่ือมองดูผมของตัวเองในกระจก ใจหายนิดหนอย (เพราะปลอบใจตัวเอง มากอนแลววา เรานี่ยังดีกวาเพ่ือนรุนเดียวกันหลายคนที่ผมเรายังมีเหลือมากกวา) ดูที่ ศีรษะแลวเห็นหนังศีรษะไดชัด ผมมีหงอกมากข้ึน โดยเฉพาะที่บริเวณขมับและตีนผม มีผมหงอกดูขาวชดั เอากระจกเล็กอีกบานหน่ึงสองมองดานหลังศีรษะซ่ึงนานปแลวไมไดเห็น หลังศีรษะของตัวใจหายวูบไปพักใหญ ศีรษะดานหลังนั้นมีผมบางมาต้ังแตหนุมแลว มาดตู อนนเ้ี หน็ ไดว า มนั บางจนเกอื บเหมอื นคนหวั ลา น แตก ต็ ดั สนิ ใจคดิ ไปวา เอาเถอะนา ยังดีท่ีมีผมหรอมแหรมอยูบางไมใชวาหมดจนเกล้ียง ชางมัน ถามองดานหนา มันไมมี ลักษณะเหมอื นคนหัวลา น หนาผากยงั ไมก วา งก็ดีแลว อยามองดดู า นหลังศีรษะก็แลว กนั วากันตามตำรา ตลอดทั่วหนังศีรษะที่มีผมหงอกนั้น ตามปกติแลวจะมีเสนผม ทั้งหมดประมาณ 1 แสน 1 หมนื่ เสน เวลาน้ผี มของเราคงจะมเี หลืออยสู กั 3 – 4 หมน่ื เสน เหน็ จะได เรือนรางและอิริยาบถ พิศดูรูปรางของตัวแลว จึงไดรูวาตัวเรานี้ผอมลงกวา แตกอนๆ แลวยังดูเต้ียลงดวย น้ำหนักตัวไมไดช่ังดูมาไดสักปกวา แตก็พอจะรูตัววา นำ้ หนกั ตวั ตอ งลดกวา เดมิ แน ๆ เพราะตวั มนั ผอมลงเนอื้ หนงั เหยี่ ว พงุ กย็ บุ ไปกวา แตก อ น ๆ กางเกงเกา ๆ ที่เคยสวมเม่ือ 10 กวาปมาแลว มันคับพุงมากตองเอาเก็บไวในตูเสื้อผา ก็เอาออกมาสวมอีกไดอยางสบายพุง เข็มขัดตองรนเขาไปอีก 1 – 2 รู แตกางเกงเกาน้ี สงั เกตไดว า เมอื่ สวมแลว ขากางเกงมนั ยาวกวา เดมิ ๆ สกั เกอื บ 1 นว้ิ ฟตุ เออ – นเ่ี ราผอมลง แลวเตยี้ ลงดว ยซินะ พศิ ดตู วั เองตอ อกี เอะ เรานมี้ สี ภาพอยใู นลกั ษณะหลงั โกงบา งแลว ซนิ ี่ รตู วั เหมอื นกนั วาระยะป 2 ปมาน้ี เวลาน่ัน ยืนเดินหรือแมแตเวลานอนเราไมไดยืดตัวไวใหตรง 8

เราเผลอกมหลังอยูในทาหลังคอมตามท่ีเรารูสึกสบายอยูตลอดเวลา ลองควารูปท่ีถายไว ตอนหลัง ๆ น้ีมาดูก็ เห็นไดวาเวลายืนใหใครถายรูปใหนั้น เรายืนหลังคอมเหมือน คนหลงั โกง เวลาเดิน แตกอน ๆ น้ัน เปนคนที่ชอบเดินเร็ว ๆ เดินชาไมเปน ถาเดินชา ๆ กลับรสู กึ เหน่ือยเรว็ แตสกั 2 – 3 ปมานี้ เดนิ เรว็ ไมไ ด ขนื เดนิ เรว็ หรอื จะทำอะไรที่จะตอ ง เปลยี่ นอริ ยิ าบถเรว็ ๆ ละกเ็ ปน เหนอื่ ยหอบ ใจสนั่ ขนึ้ มาทนั ที เวลาเดนิ จงึ ตอ งเดนิ ชา ๆ รีบรอนไมไ ด ต้ังแตอายุมากขึ้นน่ีใหยืนขาขางเดียวไมไดหรอก ยืนไดก็ไดแผล็บเดียว การทรงตัวไมดี ขืนยืนเปนลมเลยเชียว เวลานุงกางเกงใน กางเกงนอก สวมถุงเทา รองเทา ตองน่ังสวมน่ังใส เลิกยืนสวมใสมานานแลว นึกไปถึงเม่ือคร้ังเปนเด็ก คุณครู ลงโทษใหยืนขาเดียวหนาชั้นเรียน บางทีโทษหนักยืนขาเดียวคาบไมบรรทัด แลวยัง กางแขนดวย คร้ังนั้นยังยืนไดสบายมาก เวลาน้ีถาถูกลงโทษใหยืนขาเดียว คงไดลม แขนหกั ตะโพกหักไปแน ๆ เลย เวลานี้เวลาที่เดินไปแตละกาวก็เกือบเหมือนยืนขาเดียวพรอมกับเคลื่อนท่ี กลา มเนือ้ ขามนั หยอ นออ นกำลัง เวลาเดนิ ขาและเทา รบั น้ำหนักตัวไดไ มดพี อ แตล ะกาว ท่ีขายกข้ึนขางหนึ่ง จึงเหมือนยืนขาเดียว น้ำหนักตัวทำใหตัวเองเสียศูนยไป พอตัว เอนเอยี งไปดา นไหน ตวั กพ็ าลจะเซไปทางนน้ั ถา เดนิ เรว็ ซกั หนอ ย จงึ เหมอื นคนเมาเหลา เซไปเซมา เวลาเดินจึงตองทำจิตใจใหต้ังม่ันเดินกาวไปชา ๆ ทำยังกับเดินวางมาด ใครไมรจู ะไดน ึกวาเรายงั เดนิ ไดสมารต ผิวกาย ผิวหนังนซี่ ิท่ีมันฟอ งใหใคร ๆ เขารูวา เราพน ความเปน หนุมสาวมาแลว ละสายตา จากกระจกเงามามองผวิ กายของตวั เองโดยทว่ั ๆ มาปน ส้ี ภาพรา งกายของเราเปลย่ี นแปลงไป อยางเห็นไดชัด เม่ือใครไดเห็นผิวกายเราเพียงมองแวบเดียว เขาก็คงรูวาเราแกแลว พินจิ พจิ ารณาตวั เองก็รอู ยแู กใ จจะคดิ วาตัวยงั ไมแ กเ ห็นจะไมไ ด ก็ผวิ หนังท่ีมันเหีย่ ว ยน แหง บางเปน มนั หยอ นยาน นั่นแหละมันฟอ ง 9

มองคอตัวเองในกระจก หนังตั้งแตใตคางตรงลงมาตามแนวกลาง ๆ คอ มันยน หอยยอยเปนแนวลงมาเหมือนเหนียงไก อยางท่ีเขาพูดกันวา “คอเหนียงแดงไปหมด” มันเหมือนเหนียงไกจรงิ ๆ ดว ย ผิวหนังแหงมีร้ิวรอยแตกแยก มีลักษณะเรียกไดวา “ผิวรอยแตกงา” คือเหมือน ผวิ ของงาชา งเกา ๆ ความจรงิ ดแู ลว ผวิ หนงั ยน ๆ ดำ ๆ ทำใหน กึ ไปถงึ ผวิ เปลอื กมะมว งงอม มะมวงที่ยายหวงนกั หวงหนาใครมาเกบ็ มาแตะตอ งมะมว ง ท่ตี น แกไมไ ดเ ลย พอแกกเ็ ก็บ มะมวงบอกพวกเราเด็ก ๆ วาสุกแลวถึงคอยกิน สุกแลวก็ยังหวงไมกินและไมยอมใหใคร กนิ จนมะมว งงอมเรม่ิ เนา หวั ดำ นั่นแหละจงึ เอามะมว งมาบงั คับใหห ลาน ๆ กิน ผิวตอน หัวมะมวง เหีย่ ว ยน ดำ ไมชวนกนิ เลย พวกเราเรยี กกนั วา “มะมว งกระสือดดู ” ผิวหนัง ตามแขนขาและตามตัวของคนที่แกมาก ๆ ก็เกอื บเหมอื นผวิ มะมวงกระสอื ดดู น่ีแหละ ผิวหนังที่มองดู และเปนผิวหนังตัวเองนี้ ดูเหมือนจะมีสภาพอยางตำราที่ได เลาเรยี นมาเขาไปทกุ ที คอื มสี ภาพทแ่ี สดงถงึ การเกิดความเส่ือม ตามตำรา กลาวไวว า ... ผวิ หนงั ของคนทมี่ อี ายมุ ากขน้ึ นนั้ จะคอ ย ๆ บางลง ความยดื หยนุ มนี อ ยลง ผวิ จงึ ไมตึงไขมันใตผิวหนังก็มีลดนอยลงดวย ผิวหนังจึงหยอนเหี่ยวยน ตอมเหง่ือเส่ือมสลาย จำนวนตอมนอยลง เหง่ือออกนอย เมื่อมีเหง่ือออกนอย พออากาศรอนขึ้น เหง่ือนอย ความรอ นในรา งกายกร็ ะเหยออกไดไ มม ากพอ กจ็ ะรสู กึ วา อากาศรอ นมาก และเมอ่ื ไขมนั ใตผิวหนังมีนอยลงผิวหนังบางคนแกจึงทนตออากาศท่ีเปล่ียนแปลงเล็กนอยไมได ถา อากาศรอนขึน้ สกั หนอ ย กร็ สู ึกรอ นมาก แตพ ออากาศเย็นสักหนอ ย ก็หนาวมาก ตอ มนำ้ มนั ธรรมชาตขิ องผวิ หนงั พอแกแ ลว กจ็ ะลดจำนวนตอ มลง ตอ มเสอ่ื มไปมาก ผวิ หนงั กม็ นี ำ้ มนั นอ ย ผวิ หนงั จงึ แหง ไมเ ปน มนั ไมอ อ นนมุ เหงอื่ กอ็ อกนอ ยดว ย ผวิ กย็ ง่ิ แหง ในเมอื่ คนแกม ผี วิ แหง เวลาอาบนำ้ ถา อาบแชน ำ้ อยนู าน ๆ ฟอกสบมู าก ๆ อกี ดว ย น้ำมันบนผิวหนังจะถูกฟอกลางออกไปหมด พออาบน้ำเสร็จเช็ดตัวแลวผิวหนังที่ไมมี น้ำมันก็จะแหง ผิวตึง ๆ คันและเมื่อเกามาก ๆ ผิวหนังจะอักเสบ เปนแผล เกิดหนอง หรอื เกิดโรคผิวหนงั ตามมาไดมากโรค สีของผิวหนัง เกิดจากการมีสีในช้ันเซลลที่มีสีของผิวหนัง เม่ือคนเราอายุมากข้ึน เขาสสู ภาพคนแกส ีในเซลลผ ิวหนังจะลดนอยลง ผวิ คนแกจึงมีสซี ดี ๆ เหลือง ๆ แตก ็จะมี บางสวนบางแหงของผิวหนังท่ีจะมีหยอมหรือกลุมเซลลมีสีเพิ่มข้ึนกวาปกติ ผิวหนังน้ัน จงึ เห็นมีจุดสีน้ำตาลแกเปน จุด ๆ โดยมากเห็นไดท แี่ ขน ลำตัว และหนา ซ่งึ เปนลักษณะ ที่เรียกวา “ตกกระ” 10

ตรงกนั ขา ม ถา จะมกี ลมุ เซลลต อนใดทขี่ าดสี จดุ ทมี่ กี ลมุ เซลลข าดสกี จ็ ะเปน จดุ ขาว ผิวของคนแกจึงเห็นมีจุดขาว ๆ เกิดขึ้นไดทั่ว ๆ ไป ถามีผิวหนังมีจุดขาวเขามารวมกัน ผิวหนังก็จะมีหยอมขาวใหญข้ึน ถาผิวขาวนี้เกิดข้ึนเปนบริเวณกวางใหญ ผิวหนังจะ ดดู า งไป เราเรยี กกนั วา “ผวิ ดา งขาว” บางคนเมอ่ื แกแ ลว เปน โรคผวิ ดา งขาวเตม็ ทว่ั ตวั กม็ ี ผิวหนังบางแหง อาจหนาข้ึน บางท่ีผิวท่ีหนาและแหงนี้จะมีรอยแตกแยก บางทีอาจเห็นวามีหูดตามที่ตาง ๆ หรือบางท่ีเกิดเปนติ่งเล็ก ๆ งอกข้ึนมาจากผิวหนัง บางทีติ่งก็จะเกิดขึ้นหลายติ่งและหลายตำแหนง ต่ิงมีขนาดหัวเข็มหมุด หรือโตจนเทา ปลายนิว้ มือได เนื่องจากคนแกมีผิวบางกวาปกติ หลอดเลือดท่ีมาอยูท่ีผิวหนังจึงขึ้นมาอยูใกล ผวิ ของผิวหนงั เวลาทผ่ี วิ หนงั ถกู กระทบกระแทกเบา ๆ หรือแมแตการเกาหลอดเลือดฝอย จะแตก เลือดก็ออกมาอยูในผิวหนัง 2 – 3 วัน ตอมาเลือดจะเปล่ียนเปนสีดำ ผิวหนัง อาจเห็นมีสนี ้ำตาลแก เปน จ้ำๆ ลักษณะเชนนี้ ชาวบานเรียกกนั วา “พรายย่ำ” (ไมร วู า พรายอะไรมันมาชอบเหยียบมาย่ำใหผิวหนังคนแกชอกช้ำ) สังเกตคนแกดูเถอะทุกคน ย่งิ แกมากจะยิง่ เห็นวา ตามผวิ หนงั โดยมาก ตามแขนตามขา จะมีผวิ หนงั สดี ำเปน จำ้ ๆ หลายจำ้ นนั้ กเ็ พราะผวิ หนงั ตรงนนั้ กระทบกระแทกของแขง็ หรอื เพราะเกาบอ ย ๆ (ผวิ คนแก แหง และมกั คนั อยูตลอดเวลา) บางคนแขนขาดำดางไปหมด การที่มีผิวบางมีผลอีกอยางหนึ่ง คือ ปลายประสาทจะยิ่งมาอยูใกลตอนผิวของ ผิวหนังมากขึ้น ในเม่ือผิวหนังคนเราตองถูกตองสัมผัสสิ่งตาง ๆ อยูตลอดเวลา สัมผัส แมแ ตฝ นุ ละอองของตา ง ๆ ทปี่ ลวิ ปนมาในอากาศ หรอื อากาศเองทร่ี อ นและเยน็ อกี ทง้ั มด ไร แมลงตา ง ๆ ทมี่ าไตต อมกจ็ ะมรี ะคายเคอื งผวิ หนงั จงึ อาจมคี วามรสู กึ คนั ตลอดเวลาได คนแกเมื่อผิวหนังสัมผัสสิ่งตาง ๆ ก็จะคันไดงาย เม่ือคันก็เกา หลอดเลือดฝอยก็แตก ดงั กลาวมา และอาจเกิดผวิ หนังอักเสบไดแลวอาจรนุ แรงมากดว ย คิดไปถึงตัวเอง ต้ังแตยังหนุม (หรือยังไมแก) นึกขำอยูในใจทุกเวลาที่คนแกบน หรือบอกวา แสบหรือเจ็บเสียวตามผิวกายท่ีตรงนั้นตรงนี้ เจ็บเสียวแปลบเหมือนฟาแลบ หรือถกู ไฟฟาชอรต บางทผี วิ หนังบางแหงบางหยอมมนั เกิดแสบ ๆ เจบ็ ๆ เหมอื นถูกพริก หนังศีรษะเจ็บแปลปเปนแนวเสนจากทายทอยขึ้นไปถึงยอดศีรษะ หรือท่ีหนังศีรษะรูสึก เจบ็ แสบ เปนหยอมใหญค ลายกับถูกไฟลวก เวลานถี้ า จะมคี นแกม าบน บอกอยา งทวี่ า น้ี ไมข ำ หวั เราะไมอ อก เวรกรรมตามทนั มนั เกิดข้นึ กบั ตัวเองเรากเ็ ปน อยา งนนั้ ดว ย 11

อาการท่ีเกิดเชนนั้น ก็เพราะปลายประสาทมันอยูใกลผิวของผิวหนังมากขึ้น เม่ือปลายประสาทสัมผัสถูกรบกวนจากส่ิงใด หรือเกิดอักเสบของปลายประสาทมันก็จะ รสู กึ เจบ็ แสบอยา งทีว่ า แลว ยงั เรอื่ งการเกดิ “ตะครวิ ” ทข่ี า มกั จะเกดิ ตอนใกลร งุ ซง่ึ คนแกม กั พดู เปน เชงิ บน ใหเ ราทเี่ ปน ลกู หลานฟง อยบู อ ย ๆ พอกลางดกึ กำลงั หลบั เกดิ ตะครวิ ขน้ึ มาทขี่ า ตอ งสะดงุ ตื่นขึ้นมาเพราะปวดขามาก ลุกขึ้นมาบีบนวดขากันอยูบอย ๆ เราก็รับรูรับฟงแตไมออก ความเหน็ บนไปเถอะ บน ไดบ นไป ในใจคิดแตเ พียงวา คนแกก ต็ องปวดตองเมื่อย และ เปน ตะคริวบา ง ตามทีเ่ ขาเรยี กกนั วา โรคคนแกน ั่นแหละ ตะครวิ นนั้ กเ็ คยเปน ตงั้ แตเ ดก็ ๆ เมอื่ เวลาวงิ่ แขง หรอื วง่ิ ทางไกล เคยเปน เมอ่ื คณุ ครู ทำโทษใหวิ่งรอบสนามฟุตบอลเสียหลายรอบ เวลาเลนฟุตบอลทามกลางสายฝนก็เคย เกดิ ตะคริว ตะครวิ เกิดทนี่ อง นอ งตึงแขง็ เจบ็ ปวดมาก ๆ พอหยุดวิง่ นวดกันสักพกั กห็ าย แตกลางคืนนอนพักไมออกแรง หลับสบาย ไมเห็นวาเวลานอนจะเกิดตะคริว อยา งปูยา ตายายหรือคนแกเ ปน กัน พอถึงเวลาที่ตัวแก ก็โดนกับตัวเอง แลวก็เผลอบนถึงเปนตะคริวกลางดึก ใหล กู หลานฟง ฟง แลวมันก็ไมมีทที าจะต่ืนตกใจ มันจะคิดเหมอื นอยา งเราหรือเปลาไมร ู ตะครวิ เกิดบอยขึน้ เราก็เผลอบนบอยข้นึ พวกลกู หลานฟง ชนิ ไปเสยี แลว กลางดึกโดยมากตอนตี 4 ตี 5 ชอบเกดิ ตะคริว หลบั อยดู ี ๆ ตอ งสะดุง ต่ืนขึ้นมา เพราะปวดนอง บางทีนองซาย บางทีนองขวา ปวดเจ็บมาก ๆ บีบนวดอยูพักใหญ นองจึงคอ ยออ นและคลายปวด บางทีตื่นเชาข้ึนมาเชาตรู พอทำทาอยางบิดขี้เกียจ บิดตัวเหยียดเกร็งขาเทาน้ัน กเ็ กดิ ตะครวิ ระยะหลงั ๆ มาน้ี ถา เกดิ ตะครวิ ทกี่ ลา มเนอื้ นอ ง กไ็ มเ จบ็ ปวดมากและไมน าน นวด ๆ คลึง ๆ นอ ง จับปลายเทา ใหพ ับขน้ึ มาทางดานหนา แขง หรอื ยันปลายเทากบั เสา หรือสิ่งใดก็ได เพื่อใหเอ็นรอยหวายดึงรั้งกลามเน้ือนองท่ีหดเกร็งตัวใหยืดหยอนลง สกั ครูก็หาย แตตะคริวมันเกิดข้ึนที่กลามเนื้อสันหนาแขงนี่ซิ เจ็บปวดสาหัสยิ่งกวาเกิดท่ีนอง มากนกั หนา แลว มนั ยงั เกดิ ทกี่ ลา มเนอ้ื เลก็ ๆ ของนว้ิ เทา หรอื หลงั เทา พรอ ม ๆ กบั เกดิ ทน่ี อ ง และสนั หนา แขง ดวยละก็ เจบ็ ปวดสุดท่จี ะทน แทบวา น้ำตารวงเชยี ว 12

แลวก็มาคิดเพ่ือจะปฏิบัติตัวใหถูก อันที่จริงเราน่ีก็ไมไดน่ิงเฉย ไมไดนั่งนอนอยู ตลอดเวลา ไมไดเลนออกกำลังกาย แตก็เดินมาก เดินอยูทุกวัน กระแสเลือดไหลเวียน ที่ขาก็นาจะดี เลอื ดก็คงไมค ัง่ อยูทขี่ าหรอกนา ถาไมมหี ลอดเลือดขำขอดอยทู ข่ี า อาหาร การกินก็ไมไดอดอยากเลย ไมขาดสารอาหารอยางใด เอาละ ลองกินแคลเซียมและ อาหารที่มีแคลเซียมมาก ๆ เพิ่มดูซิ กลางคืนนอนสวมถุงเทาหมผาใหขาดและเทาอุน กแ็ ลว กัน แตก็นัน่ แหละ ตะครวิ มันจะเกิดเม่ือไหรม ันกเ็ กิด ถา มันไมเกิดก็ไมเกดิ จะทำทา บิดขีเ้ กยี จหรอื ทำยังไงมนั กไ็ มเ กดิ แตกอนคร้ังที่อายุไมมาก ยังไมแก นอนกลางคืนพอถึงกลางดึก หรือตอนเชาตรู ก็ไมเห็นจะเคยเกิดตะคริว วากันวาท่ีเกิดตะคริวก็เพราะตอนใกลรุงอากาศมันเย็นลง ขาถกู อากาศเยน็ จงึ เกดิ ตะครวิ แตเ มอื่ ตอนอายยุ งั ไมม ากกไ็ มช อบนอนหม ผา อยา งดกี ห็ ม แคหนาอกชอบใหมอื และเทา ถกู อากาศเยน็ เสยี อีกดว ย แตก ไ็ มเคยเปน ตะคริวกลางดกึ ความจริงอากาศเย็นมาก ๆ ก็เปนสาเหตุใหเกิดตะคริวได เพราะความเย็นทำให หลอดเลือดหดตัว และเลือดไปเลี้ยงกลามเน้ือนอยลงจึงเกิดตะคริว แตความเย็นท่ีเย็นลง มาตอนใกลร งุ นน้ั ไมเ ยน็ พอทจ่ี ะทำใหค นอายนุ อ ย ๆ เกดิ ตะครวิ แตถ า คนแกล ะกอ็ าจเกดิ ได เพราะคนเราอายุมาก ๆ แลว หลอดเลือดใหญเล็กทั้งหลาย เริ่มเสื่อมและแข็งบางแลว ไมมากก็นอย เมื่อถูกอากาศเย็นอยางเชน ขาถูกเย็นเล็กนอย หลอดเลือดท่ีแข็งอยูแลวก็ หดตัว รูของหลอดเลือดแข็งน้ันเล็กอยูแลวก็เลยเล็กมาก จนเลือดไปเล้ียงกลามเนื้อขา และเทาไมพอ จึงเกิดตะคริว คนแกท่ีไมสวมกางเกงขายาวไมหมผาที่ขา ปลอยใหขาถูก ความเยน็ เพียงเลก็ นอ ยกเ็ กดิ ตะครวิ บน เรอื่ งตะครวิ ทข่ี านมี่ ากไปแลว ซิ ยงั มเี รอ่ื งการเปลยี่ นแปลงในตวั ทต่ี อ งบน อกี มาก แตท่ีบนน้ีก็เพราะยอมรับการเปล่ียนแปลงไปของตัวน่ีละ ในเราก็รูวามันตองเปลี่ยนไป เพราะความเสือ่ ม แกแลวก็ตองเปน อยางน้ีแหละ ระบบทางเดินหายใจ นีก้ ม็ ีเร่ืองตองบน ดว ย จมกู ตอ งบน กอ น จมกู เรากผ็ ดิ แปลกเปลย่ี นไปเหมอื นตำราทเ่ี รยี นรมู า แตบ างอยา ง เปลีย่ นไปนอยมาก และบางอยา งก็มีแปลกเกินมา จมูกคนแกนั้นประสาทรับรูกลิ่นจะเสื่อมไป เวลาดมส่ิงที่มีกลิ่นจะรูกลิ่นนอย ถาประสาทรับกลนิ่ เสื่อมหมดก็จะไมร ูกล่นิ อยางใดเลย 13

จมกู คนแกม กั จะมเี ยอื่ บบุ วม ๆ ทำใหค ดั จมกู หายใจไมส ะดวก และหายใจทางปาก ชวยการหายใจ ลมผานปากผานคออยูนาน ปากคอจะแหง เวลานอนก็จะมีเสียงกรน เพราะจมกู คดั คิดถึงตัวเอง ก็ยังดีใจอยูท่ีวาจมูกยังพอจะไดกลิ่น รูวากลิ่นนั้นหอมหรือเหม็น แตก็มีเรื่องที่ขาดความสุขไปบางใน 4 – 5 ปมาน้ี โรคแพอากาศหรือโรคภูมิแพ ซึ่งแตไหนแตไรมาไมเคยเปน กเ็ กดิ มาเปนรำคาญเหลือหลาย อยดู ี ๆ ก็จามถี่ ๆ คดั จมูก น้ำมูกไหล ตอ งส่ังน้ำมูกทีม่ ีมากเหลอื เฟอ ตอ งเสียกระดาษทิชชูไ ปทลี ะมาก ๆ แลว อยู ๆ กห็ ายไปเสยี เฉย ๆ งนั้ แหละ เรม่ิ แตต น่ื เชา พอเขา หอ งนำ้ กจ็ ามเอาจามเอาแลว กห็ ายไปเอง กอนเขานอน กอนฝนจะตกมีลมพัดฝุนคลุง เวลาที่ไดกล่ินควันบุหรี่ กลิ่นปรุงอาหาร หรือเวลาขยนั จดั ตเู ส้ือผา คน หาหนงั สือเกา ๆ หรือปดกวาดพื้น ฯลฯ เปน ไดเรอื่ ง ไอจาม ขี้มูกไหลทันที ก็แพอากาศน่ีแหละ ถึงไดเปนหวัด เจ็บคอ ไซนัสอักเสบ มีไขตามมาบอยๆ เปนแตละทีก็นาน ๆ แลวตามดวยไอ ไอซ้ำซาก เจ็บอก เจ็บหนาทอง เวลาไอ น้ำมูก ก็ไหลออกไมได เพราะจมูกตันจึงไหลออกทางรูจมูกดานหลัง ลงไปกวนคอและโคนล้ิน เกิดระคายเคืองคอเลยไอไมยอมหยุดงา ย ๆ ไออยูน านจนหยุดไปเอง กลุมจรงิ ๆ นอนกรน – ก็คงตองมีละ เวลาหายใจคัด ก็หายใจทางปาก ตื่นนอนเม่ือใดก็มี คอแหง เสมอไมม ากกน็ อ ย กลองเสียง เมื่ออายุมาก ๆ ก็คอย ๆ เส่ือมไป ล้ินของกลองเสียงจะหดและตึง เสยี งทพี่ ูดจะเปลย่ี นไปเปนเสียงแหบหาว เอาละ เราน่ียังดีอยูหรอกท่ีเสียงพูดยังคงเหมือนเดิมหรือเกือบเหมือน ๆ เดิม อาจมเี สยี งผดิ ไปสกั นิด แหบไปสักหนอย กเ็ พราะเกดิ มาแพอากาศเอาตอนแกนีเ่ อง ปอดและหลอดลม เม่ือเปนผูสูงอายุก็ตองเสื่อมไปตามวัยดวย เนื้อปอดที่เสื่อม จะเปลยี่ นไปเปน เยอ่ื พงั ผดื มากขนึ้ มเี นอื้ ปอดดคี งเหลอื อยบู า งแตก ารกลายไปเปน พงั ผดื นี้ เม่ือมากข้ึน พังผืดหดตัว ปอดจะยืดตัวหดตัวไดไมดี ปอดก็ขยายตัวรับอากาศไมไดมาก เต็มที่ พอมีอายุมากข้ึนนี้เย่ือหุมปอดก็จะเหี่ยวแหงและทำใหปอดยิ่งยืดขยายพองตัวไมดี ทรวงอกก็แข็งและขยายมาก ๆ ไมได เวลาหายใจเขาก็ขยายลำบาก สภาพของการ เปลี่ยนแปลงที่วามา ก็ยิ่งทำใหปอดขยายตัวรับอากาศและหดตัวปลอยอากาศท้ิงไป ไมเต็มท่ี ปอดรับออกซิเจนเขากระแสเลือดนอย รางกายไมไดออกซิเจนพอ ทำใหตอง 14

หายใจเร็วขึ้น ถาจะตองออกแรงมากสักหนอย แมแตเดินเร็ว ๆ ก็จะเหนื่อยเร็ว จนอาจ หายใจหอบ หายใจเร็ว และหายใจไดลำบาก นอกจากนนั้ คนแกม กั จะมหี ลอดลมอกั เสบเรอื้ รงั หรอื บางคนมโี รคถงุ ลมพองดว ย ก็ยง่ิ มีหอบเหนอื่ ยไดม าก ๆ ทีนี้หันมามองตัวเอง 10 กวาปมาแลวท่ีเกิดโรคหลอดลมอักเสบเร้ือรัง และหลอดลมหดเกรง็ ตวั (สะปาสตกิ , บรองไคตสิ ) เวลาทจี่ ะรบี ทำอยา งไรทตี่ อ งการใหเ รว็ ๆ หรือเม่ือรีบรอนในการมีอิริยาบถอยางใด เชน รีบ ๆ เดิน จะมีอาการหายใจขัดและ หอบเหน่ือย ยิ่งถาเปนฤดูกาลใดหรือเมื่อใดที่มีแพอากาศดวยแลว เม่ือตองออกแรง มากขึ้นเพียงเล็กนอย หรือจิตใจรีบรอนอยากใหเกิดผลเร็ว ๆ ก็ยิ่งหอบหายใจขัดมาก แตถาฤดูกาลใด อากาศดี ไมมีมลพิษในอากาศมากนัก และเม่ือมีอาการแพอากาศนอย ไมรบี รอ นนกั ก็จะออกแรงมากไดบ า ง หรือเดนิ เร็ว ๆ เดนิ ไกล ๆ ไดโ ดยหอบเหน่ือยนอย เม่ือหอบหายใจขัด ถาไมมีอาการมากนัก หยุดพักน่ังน่ิง ๆ ชั่วครูเดียวก็หาย ก็อาการมากนักและหอบนาน กม็ ยี าพนคอท่หี มอใหไวแ ละหายใจเอายาผานเขา ทางเดิน หายใจ สกั ครูก็หายไปได นาน ๆ จึงจะกนิ ยาท่ีเปน ยาแกแพเ สียครั้งหนงึ่ เปนอันวา – ตอนนี้ตองมีภาระท่ีจะตองรักษาโรคแพอากาศและโรคหลอดลม อกั เสบเร้ือรงั หลอดลมหดรดั เกร็งตวั รักษาอยูเปนประจำเพิ่มเติมใหตัวอีกโรคหนึ่ง นอนหลบั ทนี กี้ ็คดิ ถึงเรื่องการพกั ผอนหลับนอนของตัว ตามตำราและไดเลาเรียนมาจากคุณครูทานส่ังสอนไว เปนท่ีรูอยูแกใจวา คนเรา ควรจะไดมีเวลานอนใหมากพอตามความตองการของรางกายเพื่อจะไดพักผอน อยางเต็มที่ ความตองการเวลานอนหลับในแตละวันเปนเวลานานเทาใดนั้น ก็ตอง แลวแตคนแลวแตอายุ เพศ อาชีพการงาน ชีวิตความเปนอยู สภาพของรางกาย ฯลฯ แตโ ดยเฉลี่ยแลว วนั หนึ่ง ๆ ควรไดห ลบั นอนราว ๆ 6 – 8 ชั่วโมง เปนประจำ มานึกถึงตัวดูบาง ดูเหมือนจะไมไดปฏิเสธตามที่เรียนมา แลวยังนอนไมตรงตาม เวลา และไมเ คยปฏิบัตติ วั อันควรปฏิบัติอยางใดเปนประจำเสยี อกี ดวย 15

ตง้ั แตเ ปน นกั เรยี นมธั ยมตอนปลาย มาเปน นกั เรยี นแพทยจ นเรยี นสำเรจ็ เปน แพทย ทำงานอาชีพแพทย เรื่อยมาจนมีอายุเขาสูวัยกลางคนและจนปลดเกษียณจากราชการ เวลาทไี่ ดน อน (หลบั หรอื ไมห ลบั กต็ าม) ในแตล ะวนั เอาแนน อนไมไ ดเ ลย พดู ไดเ พยี งแตว า “ชัว่ โมงนอน” ในแตล ะวนั นอย เวลาท่เี ปน นกั เรยี นแพทยกค็ ร่ำเครง อยกู บั ตำรา และการ เรียนจากคนไข นอนดกึ ตนื่ ค่ำมดื ทุกคืนจนเคยชนิ จนเปนหมอกย็ งั คงนอนดกึ อีตอนเปนหมอนี่แหละ ย่ิงซ้ำราย ไมเพียงแตนอนดึก แตเรื่องหลับนอน ไมเปนเวลาอีกดวย นอนก็ไมเปนเวลา ตื่นก็ไมเปนเวลา เมื่อสำเร็จไดเปนหมอใหม ๆ ถกู ปลกุ ถกู ตามตัวแทบทกุ คืนจากทางโรงพยาบาลหรือคนไขท อี่ ยูตามบา น ตอนกลางคนื กำลังจะนอนหรือนอนหลับแลวก็ตองตื่นมารับโทรศัพท ปรึกษาหรือเชิญไปดูคนไข ถามและตามทางโทรศัพทบอย ๆ นานเขาก็ชักจะใกลพบกับโรคประสาททุกที พอเสียง โทรศพั ทก รง๊ิ กรา งดงั ขน้ึ มาเปน ไดส ะดงุ คดิ ขน้ึ มาทนั ทเี ราโดนตาม อกี แลว เสยี งโทรศพั ทน น้ั เขาจะพดู กับใครก็คิดวาตองโทรศัพทถ ึงเราทุกทีไป ยคุ ทส่ี ำเรจ็ เปน หมอใหม ๆ ระหวา งน้นั ราว 4 – 5 ป ยุคที่การโทรศัพทมันวิปรติ เหลอื หลาย โทรศพั ทก บั เราไมก นิ เสน กนั เลย พดู ไดว า เรากบั โทรศพั ทน สี่ มพงษไ มต รงกนั จะไมใหเกดิ โมโหโกรธาไดยงั ไง ดูเอาเถอะ เวลาใครเขาตอโทรศัพทมาหาเรา เขาโทรมา ขอคำแนะนำ ขอความชวยเหลอื หรือใชงานเรา เขาตอ พดู กบั เราไดงา ย ๆ หนอย พอเรา มีธรุ ะจะตอ งใชโ ทรศพั ทบ า ง ตามธรรมดากไ็ มช อบใชม นั อยแู ลว เหน็ วา จำเปน จรงิ ๆ ถงึ จะใชพ ดู 2 – 3 คำ รเู รอ่ื งกนั แลว กเ็ ลกิ พดู ไมต ะบตี้ ะบนั บา พดู อยนู าน ๆ หรอก ตอ โทรศพั ทใ ชท ไี ร ตอ ไปเถอะ หมนุ เบอรโ ทร 5 หน 7 หน ก็ไมต ิด ยิง่ เรื่องดว นยิ่งตอ ไมติด พออดทนหมนุ ตอ เสยี ง กรง๊ิ – กรงิ๊ – เออ ไดพ ดู กนั เสยี ที เสยี งพดู มาจากคนรบั สาย “ตี้กอ” ตอ ผดิ แน..วางหูตอ ใหมอกี ..หมุน 2 คร้ัง ทีน้ตี ิดได เสยี งคนรับสาย.. “น้นั ท่ไี หน.. ฮัลโหล..นน้ั ที่ไหน” พธุ โธ – มนั ควรจะเปน คำพดู ของเราทถี่ ามอยา งนนั้ กลบั มาถามเราอกี แต. .ผดิ อกี .. ทางฝายรับนั้นดเุ รามาอีกวา .. “ตอผดิ แลว คุณ ตอ ใหมเ สียเถอะ” มนั ก็ตองเลิกคบเทา นน้ั .. ไมพดู แลว ตอ ผิดอยูนนั้ แหละ แลวถาเปนใครจะรูสึกอยางไรบางไหม ดึกมากแลว เพิ่งจะไดหลับไปสักไมเกิน ครึ่งชั่วโมงตองสะดุงตื่นข้ึนมาเพราะเสียงโทรศัพทดังล่ัน ไมมีใครรูสึก ไมมีใครไดยิน หรือไมมีใครอยากจะต่ืนข้ึนมารับโทรศัพท เราใจสั่นต้ัก ๆ คนไขของเราที่ผาตัด ตอนกลางวันจะเปนอยางไรละม้ัง หรือพวกญาติๆ จะแจงขาวรายที่ตองบอกใหรูดวน 16

คิดไปสารพัดลว นแตเ รื่องราย ๆ กระโดดควา โทรศัพทม ารบี บอกวาเราพูด พอไดย นิ เสียง คนที่โทรมาพูดเทานั้นแหละ อยากตะโกนตอวาเทวดาฟาดินดวยถอยคำไมละเอียด ใหย บั ไปเลย “ตอ ผดิ คะ ” ...เธอโทรศพั ทถ งึ สถานวี ทิ ยแุ หง หนง่ึ เพอ่ื จะขอฟง เพลง หรอื ขอให “ใครคนหนง่ึ ” ถาจะตอ งรับโทรศพั ทท่ี “ตอ ผดิ ” กลางดกึ เพยี งคนื ละ 2 ครัง้ ก็ไมตอ งนอนกันละ อารมณม นั หว่นั ไหวจติ ใจผดิ ผผู ิดคนเสยี สุขภาพจิตหมด รับโทรศัพทท่ีตอผิดในยามราตรีเวลาดึกด่ืนเชนน้ีอยูบอยคร้ัง ตามธรรมดา กไ็ มชอบโทรศพั ทนกั พอมาโดน “ตอ ผดิ ” อยางวานานเขา ความชิงชงั รังเกียจโทรศัพท ประทบั ใจมาจนถึงทุกวันนี้ เกลียดเขากระดูกดำเชยี วละ มีตนเหตุที่ทำใหการหลับนอนเอาความแนนอนไมได ก็เพราะในระยะเวลาที่ สำเร็จเปนหมอแลวน้ัน การตรวจรักษาไขยังนิยมเปนธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติกันมา แตโบราณกาลนานแสนนานตลอดมา จนถงึ เวลานั้นราว ๆ เมอ่ื สกั 50 กวา ปม าแลว คอื เม่ือคนเจ็บปวย ถาไมไดไปตรวจรักษาท่ีโรงพยาบาลก็จะนอนปวยอยูที่บานรักษากันเอง จนทนไมได หรือรำคาญใจมากท่ีไมหาย คิดขึ้นมาไดก็จะตามหมอมาตรวจรักษา หรือ บางทีเจ็บปว ยข้นึ มาไมวา หนักเบาแคไ หน กจ็ ะเชิญหมอไปตรวจรกั ษาถึงบา น ไมว า บาน จะอยูไกลหรอื ใกล ๆ บานหมอ ไมมืดคำ่ กไ็ มมาเชิญเสยี ดวย ไมม าหาหมอ ตอ งใหหมอไปหาอกี ดว ย หมอไมวาเปนหมอมีคลินิกของตัวหรือหมอท่ีประจำโรงพยาบาลตองมีกระเปายา พรอมท่ีจะควาไปดวยทันทีที่มีคนไขตามไปดูไข (เหมือนหมอคร้ังโบราณที่จะมีลวมยา) กระเปามีเครอื่ งตรวจหูฟง หลอดฉีดยา ยาฉีดตาง ๆ เมือ่ ตรวจคนไขแลวฉีดยาและใหยา จำเปน ชว งระยะคนื น้ันแลว กส็ ่ังใหญ าติตามมาเอายาท่ีบา นหรอื มาเอาวันรงุ ขนึ้ บน มาแลว วา “คนไขเ วลานนั้ กลางวนั เฉย กลางคนื ตาม” บางทอี ยไู กลแสนไกล ก็มาตาม ถือเอาวาเปนหมอประจำของตัวหรือใคร ๆ บอกวาหมอนี่ดี ใจดี รักษาเกง สงสารคนไข ก็มาตามมาปลุกไปดูไขเมื่อดึกแลว กวาจะไดกลับมาก็เกือบเชา ไมมี เวลานอนแลว หรอื นอนไมห ลับเสยี แลว เปน อนั วา คนื น้ันไมตองนอน มอี ยบู อ ย ๆ ทท่ี เุ รศจงั เลย นกึ สงสารสงั ขารของตวั เอง ญาตคิ นไขม าปลกุ กลางดกึ เชิญมาปลุกกลางดึกเชิญไปตรวจคนไขบานอยูไกลพอดู ไกลก็ไกลตองไปดูเขาใหได เขาตองการใหชวยเขา พอถึงบานคนไข พุธโธเอย มีหมอตรวจไขอยูแลว บางทีมีหมอ ที่เขาตามมาต้งั 3 – 4 คน เพราะพอคิดจะตามหมอพวกญาตแิ ตละคนรูจกั หมอคนไหน 17

กไ็ ปเชญิ มา ไมไ ดตกลงกนั วา จะเชญิ ใคร พอหมอมาพบกันตา งกเ็ กรงใจยดั เยียดใหคนใด คนหนงึ่ ตรวจไขท เี่ หลอื ไหน ๆ กพ็ บกนั กลางดกึ กพ็ ดู จาประสาหมอกนั ไดค ยุ กนั พกั ใหญ ญาตเิ ขาจงึ พาสงกลับบาน ออ เกือบเชา ขนื บน กเ็ สียคน รวมความวา เมื่อถูกตามไปตรวจไขเวลากลางคืน พอกลับถึงบานก็นอนไมหลับ เสียแลว หรือบานคนไขอยูไกลมากกวาจะกลับก็ใกลรุงสาง ไดเห็นแสงเงินแสงทองของ พระอาทิตยแลว อาบนำ้ แตงตวั เตรยี มไปทำงานเลย คืนน้ันกไ็ มไดนอนกนั ละ แลว ก.็ .สรปุ ไดว า ระหวา งทท่ี ำราชการนนั้ นอนดกึ ๆ มาตลอดเกอื บทกุ วนั มาทกุ ป นอนตี 1 ตี 2 ตน่ื เชา 6 โมงครึ่ง จนเปน นสิ ยั และกท็ นการนอนนอยไดอยางสบาย พอปลดเกษียณราชการแลว ตอมา 2 – 3 ป เปล่ียนนิสัยเวลานอนใหม มันเปล่ียนไปเอง เปลี่ยนเพราะอิสระไมทำราชการจึงไมตองหวงเร่ืองเวลาตองนอน เวลาตองต่ืนหรือจะเปนเพราะสภาพกำลังสังขารมันเปล่ียนไป ก็ไมไดกังวลที่จะตองหา สาเหตเุ พอื่ จะทำวจิ ยั พอ 2 ทุมกวา หรือไมเกิน 3 ทุม มันเกิดงวงอยางมากขึ้นมา งวงอยางจับใจ ทนงว งไมไ หวตอ งนอน หลบั ผลอ็ ยไปทนั ทที ห่ี วั ถงึ หมอน พอ 6 ทมุ ตนื่ ขนึ้ มา แลว อกี ชวั่ ครู กห็ ลับไดอกี จนถึงเวลาตี 4 ทนี ี้หลับ ๆ ตน่ื ๆ ตี 5 ครง่ึ ....ต่ืนนอน ตอ มา การหลบั นอนเปลย่ี นไปอกี เลก็ นอ ย พอ 2 ทมุ กวา ๆ หลบั แลว ทนี ี้ กต็ น่ื ทกุ ๆ 2 ช่ัวโมง ทกุ วนั นี้ นสิ ยั การหลบั นอน เรยี กไดว า มรี ะเบยี บและตรงตามเวลา เรม่ิ ตน ราว ๆ 3 ทมุ จะตองหลับ พอ 2 ยาม หรือ 6 ทุมจะต่นื ตน่ื แลวไมหลับตองนอนเลน ๆ คิดโนน คิดนี่ คิดถงึ ความหลัง หรอื ไมก็อา นหนังสือ พอถึงเวลาตี 1 กวา ๆ หรือตี 2 กวา ๆ จงึ งว งและ หลบั ตอ เวลาตี 5 ครึง่ ...ตื่น ต่ืนเปนประจำ ตี 5 คร่งึ แตก็มีบางคืนท่ีผิดระเบียบไป คือพอต่ืนขึ้นมาตอนตี 3 ต่ืนแลวไมหลับอีก พยายามทจ่ี ะหลบั กไ็ มห ลบั นอนหลบั ตานงิ่ ๆ ไปจนไดย นิ ไกข นั นกดเุ หวา รอ ง นกเขาขนั และกางเขนรองเจื้อยแจว ตี 5 ครึ่ง ก็ต่ืนตามปกติ ไมมีอาการหรือรูสึกผิดปกติอยางใด ทง้ั น้ัน คนแกเ องหรอื ใครตอ ใครมกั พดู กนั วา คนแกแ ลว ตอ งการเวลาในการนอนหลบั นอ ย จึงนอนไมคอยหลับ คนแกหลายคนท่ีมีปญหาอยางมากในเรื่องนอนหลับยากหรือ นอนไมหลบั อาจนอนไมหลับเลย หรอื หลับ ๆ ตน่ื ๆ หลายครั้งตลอดทั้งคนื หรอื ตั้งแต หวั ค่ำไมห ลับ ไปหลบั เอาตอนตี 3 ตี 4 หรอื หัวค่ำหลับไดสัก 2 ช่วั โมง ตน่ื แลวไมหลบั จนเชา 18

คนเราเม่ืออายุมากแลวตองการเวลานอนนอยลงบาง ก็เปนจริงแตไมใชถึงกับ นอนนอยมาก หรือนอนไมหลับ เม่ือรางกายเสียพลังงานไปมาก ๆ รางกายออนเพลีย รางกายก็จะสรางและสะสมพลังงานที่สูญเสียไปใหสมบูรณดังเดิม รางกายก็จะตอง พกั ผอน คือตองนอนหลบั การที่คนเรานอนหลับยากหรือนอนไดนอย ตามที่เรียกกันวา “นอนไมหลับ” นน้ั อาจเกดิ ไดจ ากสาเหตตุ า ง ๆ เชน สภาพแวดลอ มทร่ี บกวนใหไ มห ลบั เสยี งดงั , แสงสวา ง จามาก, อากาศรอนอบอาว หนาวเย็น อุปกรณเคร่ืองใชในการนอน แข็งหรือออนนุม เกินไป หรือไมสะอาด ฯลฯ ความเจ็บปวย ไขสูง ปวดเจ็บบาดแผล ฯลฯ แตสาเหตุ สวนใหญท่ีสำคัญซึ่งทำใหนอนไมหลับก็คือ “อารมณ” ผูที่อารมณเสียหรืออารมณไมดี วติ กกงั วล โลภ โกรธ เศรา เสียใจ อิจฉารษิ ยา ตื่นเตน ตกใจกลวั ฯลฯ เม่ือมีอารมณ ผดิ ปกติเชนน้ี กจ็ ะนอนไมห ลับ ย่ิงอารมณน นั้ เครียดมาก กย็ ง่ิ ไมหลับ คนแกท่ีนอนไมหลับ สวนมากก็เพราะมีอารมณไมดีตาง ๆ ทำใหคิดมากจึง นอนไมหลับ มคี นแกห ลายคนทบี่ อกวา กลางคนื นอนไมห ลบั นอนไดน อ ยมาก หรอื บอกใคร ๆ วา ตวั นอนไมห ลบั ทง้ั คนื แตต อนกลางวนั นน้ั ไดน อนบา ง บางคนนอนกลางวนั ไดม ากกลางคนื นอนไมหลับ ก็เพราะไดนอนมากตั้งแตกลางวันแลว แตคนแกมักไมยอมที่จะถือเอาวา นอนตอนกลางวันนั้น ก็เปนการนอนตามที่รางกายตองการแลว แลวเรียกการ นอนกลางวนั วา... “เอนหลงั ” ทีน้ีก็มาดูถึงการนอนหลับของตัวเองบาง ตามที่พูดกันวา.. คนแกแลวไมตองการ เวลานอนมากนั้น เราเช่ือผิดไปจากคำกลาวน้ันมาก เมอ่ื เรางวงมากและอยากนอนไมว า กลางวนั กลางคนื ถา ไดน อนกห็ ลบั คนแกบ างคนเหน็ มาแลว เมอื่ พาคณุ ยา คณุ ยายไปวดั คนแกหลายคนนั่งฟงเทศน ก็เห็นหลับตาฟงพระสวด เวลาฟงคงหลับบางละ คนแกท่ี ไมทำอะไร ถาใหน่ังเกาอ้ีสบาย ๆ ก็น่ังหลับได เราเองเขาสูสภาพที่เคยหัวเราะคนแก เขา ใหแ ลว นง่ั ตรงไหน เผลอ ๆ กจ็ ะหลบั หรอื อา นหนงั สอื สกั ครเู ทา นนั้ หนงั สอื ตกจากมอื น่ังเขียนหนังสือสะดุงต่ืนมาเห็นเปนเสนกราฟบนกระดาษแทนตัวอักษร น่ังตรงไหน เผลอหลับตาเลน ๆ โงกหลับไปแลว พาลจะตกจากเกาอีห้ ลายคร้ังหลายครามาแลวดว ย สะดงุ ต่ืนขึน้ มาตองรบี ควากระดาษทิชชมู าเช็ดปาก นำ้ ลายมันเปย ก ๆ แกม 19

ระหวา งทีม่ กี ารระบาดของไขหวดั นกน้ัน สว นเราเองเปน ... “ไขหลับนก” มากอน นานแลว และยงั เปนอยู เรอ่ื งการหลบั นอนไมค อ ยจะมปี ญ หาใหว ติ กกงั วลวนุ วายนกั หรอก เพราะนอนหลบั ไดม ากมเี วลาไดน อนกลางวนั ก็ยังหลบั มาก ๆ นาน ๆ อีก ไมห ลับกม็ เี หมือนกนั แตก็เปน ครง้ั เปน คราว มนั ไมหลบั เสยี เฉย ๆ อยางนั้นแหละ ไมมีสาเหตุ ถาไมหลับก็คิดเอาวารางกายไมตองการพักผอนนอนอิ่มพอแลวในเวลาน้ัน ถา รา งกายตอ งการพกั ผอ นมนั กห็ ลบั ไปเองแหละ มคี วามสำนกึ อยเู สมอวา ไมห ลบั กไ็ มห ลบั ไมเดือดรอน เวลานี้เรามีเวลาเปนของเราเองเหลือเฟอ งวงเมื่อใดก็มีเวลานอนจนได ไมตองกระวนกระวายใจ บางทียังคิดเสียดวยซ้ำไปวา..นอนไมหลับก็ดี เราพอใจไมหลับ เราจะไดอานหนังสือสนุก ๆ ควาหนังสือท่ีวางไวหัวนอนมาอาน พอจับหนังสืออานได ไมก บ่ี รรทัดหรอก มนั งว งแลว กห็ ลับทุกที บางทไี มห ลบั กบ็ อกตวั เองวา .. ตวั เราไมใ ชข องเรา เราจะใหห ลบั จะไดพ กั ผอ นบา ง ปรานถี งึ อยา งน้แี ลวยงั ไมหลบั ไมห ลบั อยา หลบั เดยี๋ วใชใ หทำงานตออีกละก็อยา บนนะ มีคนบนเรื่องนอนไมหลับและขอคำแนะนำการปฏิบัติใหนอนหลับ หรือบางคน ขอยากนิ ใหห ลบั ยงั แกลง พดู ทเี ลน ทจี รงิ กบั เขาอยบู อ ย ๆ (พดู เฉพาะกบั คนท่ี พดู เลน กนั ได. . เทานัน้ ) “นอนไมห ลับกด็ ีแลว เราจะไดร ูต วั วาเรายงั มชี ีวติ อยู ทนี ้ีถา ไมห ลบั ละกใ็ หด ใี จ เอาไวไ ด..บอกตัวเองไดเ ลย เรายังอยู เรายงั อยู” หรือบางครงั้ กพ็ ูดลอ เลน วา .. “คนกินไมไดนอนไมหลับ ตองถือวาเปนบุคคลมีคามีประโยชนตอครอบครัว และบานของตัวมาก เขาหากันนัก อยากไดมาเปนเขยหรือสะใภของบาน เหมาะสม สำหรับสภาพบานเมืองเวลาน้ีดวย กินไมไดก็ดีแลว เวลานี้อาหารมันแพงเหลือเกิน นอนไมหลับก็ดจี ะไดเ ฝาบา น ไมตอ งจา งยามหรือ ร.ป.ภ.” เอาละ เร่ืองหลับนอนนี้ เราไมมีปญหาอยางใดนัก งวงและนอนไดทุกเวลา ไมต อ งถงึ กบั นอนหรอก นง่ั กย็ งั หลบั ยานอนหลบั ไมเ คยคดิ ไมเ คยนกึ ถงึ เลย ไมเ คยคดิ วา จะตองใชยานอนหลบั อยางไหนทงั้ สิ้น เวลาทีอ่ ยากจะอยูดึก ๆ ไมอ ยากงวงนอนจะไดด ู ตำรา เขยี นหนงั สอื ตงั้ แตเปนนักเรียนน้นั ก็กนิ กาแฟกันจนเคย พอมาเรียนแพทยเมอื่ ใด ตองการดตู ำราดกึ ๆ เชน เวลาจะสอบสง่ั กาแฟดำรอ นมาด่มื ต้งั เหยอื ก กาแฟหมดเหยือก ก็หลับสนิทไปได จนกระท่ังทุกวันน้ี กาแฟพ่ึงไมไดเลยถาจะไมใหงวง ตรงกันขาม... พอนอนไมหลบั ด่ืมกาแฟแลว หลบั ดีเสยี ดว ย พลิ ึกจรงิ ๆ 20

อาหารการกิน เรอื่ งหลับนอนของคนแกก ็วา ไปแลว ทีนีก้ ็มาคิดถึงเรอ่ื งการกินอาหาร เวลานแ้ี มจ ะอายมุ ากแลว เรอ่ื งอาหารนก้ี ย็ งั อยใู นสภาพ “เจรญิ อาหาร” เหมอื นเดมิ ยงั คงมคี วามอยากอาหาร และกนิ ไดม าก แตเ ปลยี่ นไปจากเมอื่ ครง้ั ทอี่ ายยุ งั ไมม าก (จะให กินมากๆ อยางครง้ั เปนหนุมคงเปนไปไมไ ด) แมจะกินไดมาก กไ็ มกนิ อยา ง “คนตายอด ตายอยาก” ซ่ึงตอนเปนนักเรียนกนิ พรำ่ เพร่ือ วนั ละ 7 มอื้ คอื เชา สาย เทย่ี ง บาย เยน็ ค่ำ ดึก เวลานี้ลดมาเหลือ 3 ม้อื เหมอื นคนธรรมดา คือ กินอยางผอู ยางคนไดแลว มบี างระยะเวลาท่เี กิดฟนโยกคลอน ปวดฟน หรอื ฟน หักแตล ะซ่ี แตล ะครง้ั กท็ ำให กินไดนอยไป ความหิวความอยากอาหารยังคงมี แตมันเคี้ยวอาหารไมได กินไมได เพราะปวดฟน เมอ่ื กนิ อาหารลดไป บางทีนำ้ หนักตวั ลดลงมากไดเ หมือนกนั พอฟนท่ีผุฟนท่ีเสียนั้นหักหลุดไป ก็เร่ิมตนกินไดเหมือนอยางเดิมอีก ไมได คอยระวังเรื่องอาหารกับเขาหรอก กินทุกอยาง ไมเลือก กินมากกินนอยก็ไมคิด กินจน อิ่ม อมิ่ แลวก็หยุดกนิ มีคนคอยถามอยูบอย ๆ วา..ควบคุมอาหารหรือเปลา ก็บอกเขาตามจริงวา.. ควบคมุ อยูตลอดวนั ..ตลอดเวลา..ควบคมุ ไมใหลด (กลวั วา จะกินขาวปลาอาหารนอ ยไป) ฟนมันก็คอย ๆ หักไป เปนระยะ ๆ นาน ๆ ก็หักไปซ่ี 2 ซ่ี พอฟนหักไปเม่ือใด ทนั ตแพทยก ต็ อ งเดอื ดรอ นทจี่ ะตอ งทำฟน ปลอมเพมิ่ ใหท ลี ะซ่ี แผงฟน ปลอมกค็ อ ย ๆ โตขนึ้ ตามลำดับตามฟนที่หัก เวลาน้ีจำนวนฟนปลอมของฟนบนเกือบมีจำนวน ซ่ึงเทากับ ฟน แทแลว คงไมนานหรอกคงจะไดฟน ชดุ ท่ี 3 ครบชดุ แทนฟน แท การเปลี่ยนแปลงที่เปนเรื่องความเสื่อมโทรมของฟนในคนแกก็เปนอยางน้ีแหละ ฟนจะตอ งผุ หักหลุดไป หมดปากชาหรอื เรว็ กแ็ ลว แตแตละคนไป ระบบอวัยวะทางเดินอาหารของคนแก จะมีสภาพของความเสื่อมโทรม จึงทำให อาหารการกนิ และการยอยอาหารผดิ ปกติไป ฟนผุฟนหักและฟนมีจำนวนนอยซี่ลง ทำใหเค้ียวอาหารไมแหลกละเอียด อาหารแข็ง ๆ หรือเหนียว ๆ จะเค้ียวไดยาก อาหารท่ีไมแหลกละเอียดเมื่อกลืนลงสู กระเพาะอาหาร ลำไส จะยอยไดยากหรือยอยไมไดเ ลย 21

ตอ มน้ำลายของคนแก เม่อื เสื่อมไปกจ็ ะมนี ำ้ ลายออกมานอย นำ้ ลายแหง ปากคอ กแ็ หง อาหารเมอื่ เขาไปอยใู นปากจะขาดนำ้ ลายมาชวยคลกุ เคลา ใหเ ปย กมากพอ ทำให เคย้ี วลำบากกลนื ก็ลำบาก เพราะอาหารไมเปย ก แตผลเสียยิ่งกวานั้นก็คือ เมื่อมีน้ำลายนอย เวลาเค้ียวอาหาร ควรจะมีน้ำลาย ออกมามาก ๆ เพ่ือคลุกเคลาอาหาร และละลายเอาสารท่ีเปนรสอาหารออกมากระตุน ตอมรับรสอาหารท่ีล้ิน แตเม่ืออาหารแหงเพราะขาดน้ำลายละลายรสอาหารใหกระตุน ตอ มรับรส กนิ อาหารก็ไมรรู สเลย กินอาหารไมอรอ ย ย่ิงกวานั้น คนแกจะมีตอมรับรสที่ลิ้นเส่ือมไป รูรสไดไมดี ประสาทรับกล่ินใน จมูกเส่ือม จึงไมไดกล่ินอาหารที่อยูในปาก เม่ืออาหารไมไดรสไมไดกล่ิน ก็หมดความ อรอ ยไปเลย ความอยากอาหารกล็ ดลง แลว ยงั เคยี้ วพวกอาหารแขง็ ๆ เหนยี ว ๆ ไมไ ดเ สยี อกี ดวย กก็ ินอาหารไดน อ ยไปทกุ ที ในที่สดุ ก็เบอ่ื อาหารและเกิดโรคขาดสารอาหาร เราเองยงั บุญดี ถึงแมวาจะกินอาหารนอยกวา กอน ๆ แตก ็ไมมีเบอื่ อาหาร แตก ม็ ี ความผิดแปลกในการกินอาหารนี้เกิดข้ึนอยางหน่ึง คือ แตไหนแตไรมาชอบอาหาร รสเผ็ดพอประมาณ กินเผ็ดไดหายเผ็ดเร็ว แตเวลาน้ีกลัวอาหารรสเผ็ด เผ็ดนิดเดียว ก็เผ็ดมากเสียเหลือทน ล้ินมันรูรสผิดไปเสียดวย สวนมากไมคอยรูรสอยางใดดีพอ แตเผ็ดละก็รูรสดีมาก พอไดรสเผ็ดสักหนอยก็เผ็ดมากและเผ็ดนาน กินของหวานเทาใด กห็ ายเผ็ดยาก ความผิดปกติท่ีเกิดข้ึนอีกอยางหน่ึง ก็คือ ระหวางที่กำลังเคี้ยว ๆ อาหารอยูนั้น ถาเกิดข้ึนอะไรข้นึ มา หรอื เผลอพดู แลว มันจะสำลักแลว ตามดวยไอ ไอถ่ี ๆ นำ้ มกู นำ้ ตา ไหลเชียวละ รูสึกเหมือนกับวาเผลอกลืนอาหารในระหวางท่ีกลองเสียงปดไมสนิท หรือ บางทมี ีความรสู กึ วา เศษอาหารท่เี ผด็ ๆ หรือรสจดั ไปถูกโคนลิน้ แลว มนั จะตองไอ ไอถ่ีๆ จาม นำ้ มกู ไหลเปย กไปหมด เปน อยพู กั ใหญถ งึ จะหาย ทง้ั ๆ ทรี่ อู ยา งนนั้ เวลากนิ อาหาร กอ็ ดเผลอคิดเรอ่ื งโนน เรอ่ื งนี่ หรอื เผลอพดู ไมได มีสภาพที่ผิดแปลกไปอยูอยางหน่ึง ที่เปนการสำแดงเตือนใหรูวาตัวเราน่ีอายุ มากแลว และคงจะมีใครเปน อยา งนี้เหมอื นกัน คือ เวลาท่ีกำลังเค้ียวอาหารเปยก ๆ หรือ มนี ำ้ รวมอยดู ว ย เผลอ ๆ นำ้ ในปากมนั จะไหล หรอื ซมึ ออกมาทมี่ มุ ปาก เลอะแกม ตอ งรบี ควาผาเช็ดทนั ที 22

สภาพเชนนี้ก็เหมือนครั้งเราเปนเด็ก ไดเห็นคุณยาคุณยายเวลากินอาหารด่ืมน้ำ จะมีน้ำออกมาเปอนมุมปาก หรือเวลาเคี้ยวหมากจะมีน้ำหมากมาเลอะมุมปาก คุณยาคณุ ยายจะตอ งมีผาเช็ดนำ้ หมากประจำเชี่ยนหมาก เพื่อเช็ดปาก เช็ดแกมนี่แหละ สภาพดงั กลา วทว่ี า นเ้ี ปน เรอ่ื งธรรมดาทจี่ ะเกดิ ไดใ นคนแก เนอื่ งจากกลา มเนอื้ ปาก กลามเน้ือมุมปากและแกมหยอน เมื่อหุบปากไมแนน มุมปากก็ปดไมสนิท น้ำในปาก กร็ วั่ ไหลออกมาได ระบบทางเดินอาหารของคนแก นอกจากความเส่ือมในปากและฟนแลว กระเพาะอาหาร ลำไสเ ล็ก และลำไสใหญ ก็จะเปล่ียนแปลงไปเพราะความเส่อื มดวย กรดเกลอื ในกระเพาะอาหาร นำ้ ยอ ยของกระเพาะอาหารและลำไสก ม็ ลี ดนอ ยลงไป การเคลอื่ นไหวบบี รดั ตวั ทจ่ี ะรดี ใหอ าหารผา นจากกระเพาะอาหารลงสลู ำไส จนไปถงึ ทสี่ ดุ คือ ทวารหนักน้ันก็ไมแรงดีพอ พวกอาหาร ลม และน้ำผานไปตามแนวทางเดินอาหาร ไมไ ดด ี คนแกจ งึ มที อ งอดื เฟอ จกุ เสยี ด เรอ แนน อดึ อดั จนบางทหี นา มดื เปน ลมบอ ย ๆ ได นอกจากน้ัน เมื่ออาหารยอยแลว ก็ซึมผานลำไสเขากระแสเลือดไมดีพออีกดวย การเปล่ียนแปลงของทางเดินอาหารท่ีกลาวมา คนแกอาจมีเบ่ืออาหาร และเมื่อเจ็บปวย อยางใดแลว ก็จะยิ่งเบ่ืออาหารไมยอมกินอาหาร ในท่ีสุดก็จะเกิดโรคเลือดจางหรือ โรคขาดอาหาร มีบวมตามมือตามเทา และตามขอได ตับ ของคนแกก็อาจมีสภาพเสื่อมไปดวย ในเมื่อตับมีหนาท่ีตอการมีชีวิต ความเปนอยูหลายประการที่สำคัญอยางหน่ึงคือ ทำลายพิษตาง ๆ ท่ีเขาสูรางกาย โดยที่พิษนั้น ๆ เมื่อผานไปทางกระแสเลือด ก็จะตองผานตับ และตับจะทำลายพิษนั้น เมื่ออายุมากตับเส่ือมไปบาง พิษท่ีเขาสูรางกายแลวตับลดความสามารถในการทำลาย พิษไปมาก อันตรายกจ็ ะเกิดข้ึนแกช วี ติ ไดมาก ถงุ นำ้ ดี ของคนแก โดยทวั่ ๆ ไป กม็ กั มถี งุ นำ้ ดอี กั เสบเรอ้ื รงั มานาน ๆ การยอ ยอาหาร โดยเฉพาะการยอยไขมันจะเสียไป เมื่อกินอาหารท่ีมีน้ำมันมากสักเล็กนอยก็จะมีทองอืด ไดมาก บางทกี ม็ ีน่วิ เกิดในถุงนำ้ ดแี ละทอ น้ำดี รว มไปกบั มถี ุงน้ำดีอกั เสบเรอื้ รงั ดวย ตบั ออ น กม็ กั เสอื่ มไปดว ย และเมอื่ อายมุ ากขน้ึ ตบั ออ นทเี่ สอ่ื มไปมาก อาจทำให ตอมเอนโดกรีนในตบั ออนเสียไป กจ็ ะเกิดโรคเบาหวานได การขับถายอุจจาระ เปนภาวะหนาท่ีของระบบยอยอาหาร ซึ่งอาหารที่ยอยแลว จากลำไสเล็กคงเหลือเปนกากอาหารที่เขาไปรวมอยูในลำไสใหญและถูกขับถาย 23

ทิ้งออกไปจากรางกาย เรอื่ งถา ยอจุ จาระน้มี ักเปนปญหามากในคนแกท ่วั ไปโดยทมี่ กั จะมี ทอ งผกู ไดเสมอ ชั่วชีวิตที่ผานมาตั้งแตเด็ก ผมไมเคยที่จะมีทองผูกจนเปนปญหาแตอยางใด เรอ่ื งยาถา ยหรอื สวนอจุ จาระ พดู ไดว า เคยใชม านอ ยทสี่ ดุ แทบจะนบั ครง้ั ได รงุ เชา ตนื่ ขน้ึ มา ก็ถา ยทนั ทเี สรจ็ สน้ิ ไปเหมอื นกดปมุ สวิทซ กดปมุ ทเี ดยี วเกลย้ี ง แต 2 – 3 ปมานี้ ปญ หา เรื่องทองผูกเกิดมีบางเปนครั้งคราว บางทีถายวันเวนวัน ถายทีออยอ่ิงพอควร พอถาย วันเวนวันก็วิตก แตเปนสักครั้งสองครั้ง ก็กลับคืนเปนถายปกติ นาน ๆ จึงจะใชยา สวนทวารเสยี ที โดยทั่วไปยงั ถือวา ถา ยเปน ปกติ คนแกท ม่ี ที อ งผกู เปน ประจำ เพราะเคยจนเกดิ เปน นสิ ยั ผดิ ปกตมิ านาน นาน ๆ จงึ จะ ถายเสยี คร้งั หรือคนที่ตอ งหนั เขา พ่ึงยาถายจนเคยและใชทุกวันตอ ๆ มา วนั ไหนหยุดใช กจ็ ะไมถ า ยอจุ จาระ การทค่ี นแกม ที อ งผกู ไดม าก ๆ นนั้ กเ็ พราะสาเหตหุ ลายอยา งรวม ๆ กนั เม่ือมีอายุมากข้ึนการเคี้ยวอาหารท่ีแข็งจะเค้ียวไมไดดี จึงไมคอยจะกินผัก ผลไม หรือ อาหารท่ีมีกากมาก ๆ ไดนอย เคี้ยวอาหารพวกนี้ไมแหลกละเอียด จึงกินไดนอย หรือ ไมก ินเลย น้ำก็ด่ืมนอ ยมาก ออกกำลงั กายก็ไมค อ ยจะปฏิบัติ แมแตอ อกแรงอยา งใดกท็ ำ นอ ยมาก การพักผอ นนอนหลบั ก็มไี ดน อ ย เพราะนอนไมหลับ แลว ยังมจี ิตใจและอารมณ ไมค อ ยดเี สียอกี ดวย เลยพาลจะทองผูกเอางาย ๆ เม่อื มที องผูกมาก ๆ ทอ งผกู อยูน าน ๆ จะถา ยแตล ะคร้ังตอ งเบงถายอยนู านดวย ก็จะเกดิ รดิ สดี วงทวารหนกั ตามมา ระหวาง 2 ป ผานมาน้ี ตัวเองเคยคุยวาไมมีปญหาเรื่องทองผูกก็มีปญ หากับเขา บา งเลก็ ๆ นอ ย ๆ เนื่องจากมฟี น ผุ ฟนหกั ระหวา งนัน้ ก็มีปญหาทอ งผูกและตอ งพึง่ การ สวนอุจจาระบาง เม่ือไดฟนปลอมมาแทนฟนเดิมท่ีหักไปและเค้ียวอาหารไดดีก็ถาย เปนปกตโิ ดยท่วั ไปตลอดมาจนถึงทกุ วนั น้ี การถา ยอจุ จาระมไี ดเ ปนปกติ ยังไมเ กิดปญ หา อยางใดมากนกั สรุปวา ..การเปลี่ยนแปลงของรางกายเวลานก้ี ม็ บี างเลก็ ๆ นอ ย ๆ ยังโชคดี หรือ ภาษาชาวบานตองพูดวา “ยังบุญดี” ที่อายุมากแลว แตก็ยัง “กินได หลับสบาย ถายสะดวก” 24

โครงรา ง คนแกจะมีกระดูกโครงรางในสภาพเส่อื มเชน กนั กลามเน้อื ทั่วทัง้ ตัวก็เสอื่ มดวย กระดกู ทุกสวนทกุ แหง จะเสือ่ มไปตามอายุ เน่อื งจากการมีธาตุแคลเซยี มในกระดกู นอยลง พออายุมาก ๆ กระดูกก็จะบางเปราะ และหักไดงาย ๆ แคลเซียมที่ไดรับจาก อาหารท่กี นิ เขา ไป จะรับเขา เกบ็ ไวใ นกระดกู ไดนอ ย แตก ลบั ละลายตัวออกมาจากกระดูก เขามาสูกระแสเลือดไดมาก ถาอวัยวะใดเส่ือมไปตามอายุท่ีมากข้ึน แคลเซียมที่มีใน กระแสเลือดจะไปเกาะซอมแซมสวนท่ีเสื่อมของอวัยวะนั้น คลายกับวาเปนการชวยปะ สวนท่ีเสื่อมเอาไว ดังนั้นแคลเซียมก็อาจไปเกาะอยูที่กระดูกออน, เอ็น, ผนังหลอดเลือด หรอื ท่ีอวยั วะใดสวนไหนก็ได อวยั วะไหนมแี คลเซียมไปเกาะปะอยู ก็จะทำใหสวนนัน้ แขง็ คนแกจะมีหลอดเลือดแข็งเนื่องจากมีแคลเซียมมาเกาะ จึงเปนเหตุใหหลอดเลือดน้ัน มกี ารอุดตนั หรือหลอดเลือดแตกไดง า ย เมอื่ กระดกู บางลง ๆ กระดกู นน้ั กเ็ ลก็ ลงดว ย กระดกู ขา และกระดกู สนั หลงั บาง กจ็ ะ ยบุ ลงไดบ า ง ดงั นนั้ พอแกแ ลว ตวั กเ็ ตยี้ ลงไปกวา เดมิ และจะมหี ลงั โกง ตวั เอยี ง ขาโกง ได ก็รูตัวแลววาเราก็เปนอยางท่ีวานั้น เวลานี้สวนสูงลดลงกวาแตกอนเกือบ 2 น้ิวฟตุ ขายงั ไมโ กง สว นหลังนน้ั เวลาเผลอ ๆ เพลินตัว นั่งไมตรงยนื ไมตรง หลังมันก็ ทำทาจะคอ มลง เพราะมนั อยใู นทาสบาย พอรตู วั ก็พยายามยดื ตวั ใหต รงเสยี ทีหนึง่ ขอ ตาง ๆ บรรดาขอกระดูกตางก็เส่ือมไปเม่ืออายุมากขึ้น ๆ จะมีความเสื่อมเร็วหรือชา ก็แลวแตแตละคน น้ำลื่น ๆ ในขอ (ซ่ึงชาวบานเรียกวา ไขขอ) ท่ีทำใหขอลื่นชวยให กระดูกออนท่ีหัวของกระดูกท่ีประกอบเปนขอจะไมเสียดสีกันนั้น คนแกจะมีไขขอแหงไป กระดูกออนที่หัวกระดูกจะแตกและเส่ือมสลายไป เอ็นและพังผืดรอบขอจะหดตัวและตึง ขอฝดคือขอขยับเขย้ือนเคล่ือนไหวไมไดดี หัวกระดูกของขอจะกระทบถูไถกัน เวลาเคลือ่ นไหวขอจะเกิดเสียงจากกระดูกถไู ถกันและจะเจ็บปวดขอ 25

คนแกจงึ มักจะมปี วดขดั ขอเขา ปวดหลงั เอว ตน คอ และขอ ไหล คนแกม ีอาการ ปวดขอ ..มกั จะเรียกกันวา โรคขอเส่ือม (โดยท่ัวไปกม็ ขี ออกั เสบเร้ือรัง) ขอกระดูกตนคอ..เมื่อเกิดโรคขอเส่ือม นอกจากจะปวดเจ็บท่ีตนคออยางมาก ยังปวดราวมาถึงแขนจนถึงปลายมือ เน่ืองจากการอักเสบของขอ และกระดูกยุบตัวลง กดทปี่ ระสาทตอนโคนของประสาททมี่ าควบคมุ แขน ขอกระดูกท่ีบ้ันเอว..เม่ือเกิดโรคขอเสื่อม จะมีปวดมากที่กระเบนเหน็บ และมีปวด ไปตามแนวของประสาทขา คอื ปวดจากตะโพกลงไปจนถึงนอ งและเทา เน่ืองจากกระดกู บน้ั เอวกดทับประสาทขา เหมอื นอยา งขอกระดกู ตนคออกั เสบ ชาวบานมักจะพดู วา ..กระดกู ทับเสน เราเอง..เกิดลักษณะอาการของขอเสื่อมของขอตาง ๆ บางแลว แตไมมีอาการ เจ็บปวดมากนัก เปน ๆ หาย ๆ ในเรื่องของการปวดขอ กลามเน้ือ กลามเนื้อทั่วรางกายของคนแกก็เส่ือมลง เซลลกลามเน้ือจะเสื่อมลงสลายไป และมเี ยือ่ พังผืดงอกมาแทน กลา มเนอ้ื แตล ะมดั จะเหี่ยวและเลก็ ลง เมอื่ กลามเนอ้ื เสอื่ มและเลก็ ลง คนแกจ ึงไดมกี ำลังลดถอยไป ไมแ ข็งแรงเหมอื นครงั้ ยังหนุมสาว ทำงานหนักไมไหว เหนื่อยเร็ว เม่ือยลาปวดเม่ือยตามตัว อิริยาบถเชื่องชา ไมค ลอ งแคลว กลา มเนอื้ ไมแ ขง็ แรง การทรงตวั ไมด ี ถา เปลย่ี นทา อริ ยิ าบถเรว็ ๆ จะลม ไดง า ย เม่ือพลาดลม ตัวเอียงไปทางไหนก็ไมอาจย้ังตัวใหกลับคืนมาอยูทาปกติได ยั้งตัวไมอยู กจ็ ะลม ลงไปเลย ลมแตล ะทีก็จะเจ็บเน้อื เจ็บตัวไปนาน หรือไมกอ็ าจมีกระดูกหัก คนแกเมื่อลมแลว ถาไมมีกระดูกหักท่ีขอมือ มีมากดวยกันที่มักจะหักที่คอของ กระดกู ตน ขา (ชาวบานวา ..ตะโพกหัก) เราเองเวลานี้ กม็ ีลักษณะอาการเชนนน้ั เวลาเดินมันเซไปเซมาคลา ยคนเมาเหลา เพราะกลา มเนอ้ื ขาไมแ ขง็ แรง กา วเดนิ แตล ะกา วรา งมนั เหมอื นเสยี ศนู ย (กเ็ พราะยนื กา วเดยี ว ไมไดน่ันแหละ พอยกขาข้ึนจะกาวเดินมันก็ตองยืนขาเดียวขางหนึ่ง) เวลานี้จะลุกขึ้นน่ัง ลุกขนึ้ ยนื ตอ งลุกชา ๆ เดนิ เร็วอยา งแตก อ นไมไ ด ตองเดินชา ๆ ตองเดินวางมาดหนอย ๆ 26

การออกกำลังกาย เวลาน้ี จะใหเตะฟุตบอล เลนรักบี้ บาสเกตบอล วายน้ำหรือเลนกีฬาใดก็ตาม อยางครง้ั หนุม ๆ ไมไ ดแ ลว เพียงแคเดินเร็ว ๆ ก็ยงั จะลม เสียแลว แตก ็ไมไ ดนั่ง ๆ นอน ๆ หรอื อยนู ง่ิ หรอก ยงั คงเดนิ เดนิ ชา ๆ แตก เ็ ดนิ มากเหมอื นกนั เพยี งแตว า เดนิ ไกลนกั กไ็ มไ หว ระบบหวั ใจและเลอื ดไหลเวียน ทีนี้พิจารณาตัวเองถึงเรื่องหัวใจและเลือดไหลเวียนดูบาง มาดูถึงหัวใจและ หลอดเลอื ดคนแกก นั ดกู อ นวา เมอื่ แกแ ลว เสอื่ มไปตามอายจุ ะเกดิ การเปลย่ี นแปลงอยา งไรบา ง หัวใจ พอแกแลว เซลลกลามเน้ือหัวใจจะเสื่อมไปและเกิดเยื่อพังผืดข้ึนมาแทน เหมือนกลา มเน้ือรางกายนั้นเอง หวั ใจออกแรง คอื หดตัวไดน อ ยลง หวั ใจอาจโตขน้ึ กวา เดิมบาง แตก็ออนกำลัง ออกแรงไมไดมากเหมือนครั้งเปนหนุมสาว ออกแรงไมมากนัก กเ็ หนอื่ ย ลน้ิ หวั ใจกห็ นาแขง็ ทำหนา ทไ่ี มด เี หมอื นเดมิ หลอดหวั ใจกแ็ ขง็ นำเลอื ดมาเลย้ี ง กลา มเนอื้ หวั ใจไดน อ ยลง หลอดเลือดแดง ทั่วรางกายจะมีผนังหลอดเลือดแข็ง เนื่องจากมีการเสื่อม แลวมี แคลเซียมมาเกาะตามท่ีที่เส่ือม ถาหลอดเลือดแข็งที่หลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดไตและหลอดเลือดท่ีแขนขาก็อาจเกิดอันตรายจากการมีหลอดเลือดน้ัน ตีบตนั หรือแตก ซ่งึ เปน อนั ตรายตอชีวิตไดมาก หลอดเลือดดำ เม่ือเสื่อมอาจทำใหผนังหลอดเลือดยืดขยาย หลอดเลือดดำ จะขยายโตข้ึนและเกดิ หลอดเลือดดำขอด ซ่ึงจะเหน็ ไดเ สมอทขี่ า หลอดเลือดฝอย จะเปราะและแตกไดงาย ทผี่ วิ กายทั่ว ๆ ไป เมือ่ ผิวหนังตอนใด ถูกกระทบกระแทกหรือถูกกดรัด หลอดเลือดฝอยท่ีผิวหนังน้ันจะแตก มีเลือดออกมาอยู ใตผ ิวหนังเปน จ้ำ ๆ อาจแผข ยายออกไปไดเปนวงกวา ง หรือมเี ลือดมารวมอยทู ำใหบ วม มีลักษณะทีช่ าวบานเรยี กวา ฟกชำ้ ดำเขยี ว หรือหอเลอื ด 27

ไขกระดูก แหลงที่เปนตัวสรางเม็ดเลือด และเกล็ดเลือดก็เส่ือมไปตามอายุ อาจสรางเลือดไดนอยลง และถาขาดสารอาหารจากการเบื่ออาหารหรือเม่ือปวยเจ็บ อยางใด ท่ีทำใหไมอยากอาหารก็จะขาดสารอาหารที่จะสรางเลือด เลือดก็มีนอย.. ในกระแสเลือดซ่ึงมีเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือดเหลานี้จะมีจำนวน ลดนอยลง ถาเม็ดเลือดแดงลดนอ ยลงมาก กจ็ ะเกดิ โรคเลือดจาง ความดันโลหิต จะสูงขึ้นไดบางเม่ืออายุมากขึ้น ดังนั้นคนแกจึงมีความดันโลหิต สงู ขน้ึ กวา ทเี่ คยมมี าตงั้ แตค รง้ั ทย่ี งั อายนุ อ ย การทค่ี วามดนั โลหติ สงู ไดบ า งนนั้ เปน ผลจาก เมอ่ื อายุมาก ๆ หลอดเลอื ดทวั่ รา งกายก็แข็งไปบาง เมื่อมองดูตัวในเวลานี้ เทียบกับสภาพดังกลาวมาในตำรา ตัวเราเองก็มีการ เปลีย่ นแปลงทางระบบหัวใจ และหลอดเลือดบางอยเู หมือนกนั หัวใจผมเองเกิดความผิดปกติมานานกวา 10 ปแลวโดยที่เกิดมีหัวใจหองบน เตนมีจังหวะเร็วกวาหัวใจหองลาง หัวใจจึงเตนไมเปนจังหวะ ตรวจพบเขาโดยบังเอิญ เม่ือมีอาการหนามืดวูบหน่ึงแลวก็หายไป นาน ๆ เกิดข้ึนมาครั้งหน่ึงอาจหางกัน หลายช่ัวโมงหรือหลายวัน ไมมีอาการผิดปกติอยางอื่นใด หลังการตรวจหัวใจดวย เครอ่ื งมอื ตาง ๆ ก็พบไดวาสภาพของหัวใจดงั กลา วนั้น ทางการแพทยเ รยี กวา AF (Atrial Fibrilation) หมอทางโรคหัวใจบอกและใหการแนะนำวา ถาเปนเชนน้ีอยูนานตอไป จะเส่ียงตอการมีการอุดตันของหลอดเลือดสมอง หัวใจ และไตได ตองใชยาท่ีจะทำให หลอดเลอื ดเหลวใส ไมข น ไมเ หนยี วเอาไวต ลอดไป กเ็ ลยตอ งใชย ากนิ ใหเ ลอื ดเหลวใสทกุ วนั เปน ประจำตลอดมาถึงเวลาน้.ี . 10 กวา ปแลว เมอ่ื ไมก เี่ ดอื นมานี่ (ราวปลาย ๆ เดอื นมกราคม 2547) ใหเ ขาชว ยเจาะเลอื ดตรวจดู ความสมบรู ณข องเลอื ดและสารเคมบี างอยา ง ไปพรอ มกบั การตรวจ P.T. (ดคู วามเหลวใส ของเลือด เพื่อตรวจดูผลยากินประจำ) ซ่ึงตรวจเปนประจำอยูทุกเดือน ท่ีขอตรวจ ความสมบูรณของเลือดนั้นไมใชเพราะเกิดอาการผิดปกติอยางใด แตเห็นวา 3 – 4 ป แลว ไมไ ดตรวจก็ขอดูเสยี ที ปรากฏวามีเลือดจาง โดยไมเคยรูตัวเพราะไมเคยมีอาการผิดปกติเลย เลือดท่ี ตรวจน้ัน มีเม็ดเลือดแดง, เม็ดเลือดขาว, เฮโมโกลบิน มีจำนวนลดนอยไปทุกอยาง เกลด็ เลอื ดกล็ ดนอ ยอกี นอ ย เฮโมโกลบนิ นน้ั มเี พยี ง 9 กรมั % เลอื ดจางไปเพราะเหตใุ ดนน้ั หาเหตไุ มได 28

ไดเจาะไขกระดูก (จากกระดกู เชิงกราน) มาตรวจ ผลปรากฏวา ไขกระดูกทำหนาที่ผิดปกติ สรางเม็ดเลือดแดงไดมาก แตเปน เม็ดเลอื ดแดงตัวออนสว นมาก ตวั แกสมบูรณท่ีปลอ ยออกมาสกู ระแสเลอื ดมนี อ ย ตวั ออน จะถูกทำลายไปหมดเพราะสงออกมาไมไ ด ดังนั้นจึงเกดิ เลอื ดจาง หมอทางโลหติ วทิ ยาทชี่ ว ยตรวจรกั ษา บอกวา ถา ไมม อี าการผดิ ปกตไิ มซ ดี ไมเ หนอ่ื ย ก็ไมตองวิตกอยางใด เสริมสรางสุขภาพใหดีไวตามธรรมดา คอยตรวจดู C:B:C. เปนระยะ ๆ ไปก็แลวกัน ระหวางน้ีก็กินยา B6 B12 Folic Acid เพียงวันละนอย ๆ สว นธาตเุ หล็กไมต อ งกินยา กินอาหารกเ็ หลอื เฟอมีเหลก็ มากแลว ระยะหลัง ๆ 5 – 6 เดือนตอมา เฮโมโกลบินขน้ึ เปน 10.3 กรมั % อาการผิดปกติของระบบเลือดไหลเวียน นอกจากท่ีกลาวแลวก็ไมมีผิดปกติ อยา งอน่ื ใด ระบบขับถายปส สาวะ เมื่อแกแลวอวัยวะระบบขับถายปสสาวะก็มีการเส่ือมไป เหมือนอวัยวะอื่น ๆ ท้ังหลายโดยเสือ่ มไปตามวัย ไต จะขับปสสาวะในตอนกลางคืนมากข้ึน จึงทำใหถายมากขึ้นกวาแตกอน ๆ น้ำปสสาวะท่ีขับออกมามากน้ีจะเปนสวนที่เปนน้ำเสียสวนมาก แตสวนที่เปนของเสีย ขบั ถา ยออกมาไดน อ ย ตามปกตทิ ว่ั ไปคนเราจะถา ยปส สาวะในเวลากลางวนั ราว 3 – 4 ครง้ั กลางคืน (หลังหลับแลว) 1 ครั้ง แตเมื่ออายุมากข้ึน ในตอนกลางคืนจะถายบอยครั้งข้ึน อาจต่ืนข้ึนมาถาย 2 – 3 ครั้งหรอื บางทีถายทกุ ๆ 2 ชัว่ โมง กระเพาะปสสาวะ ของคนแก มักจะยืดหยอนและบีบรัดตัวขับใหปสสาวะออกมา ไดไมดีนัก เมื่อถายแตละคร้ังน้ำปสสาวะออกไมหมดกระเพาะปสสาวะ ยังมีปสสาวะ ตกคางอยูจำนวนหนึ่ง ไตขับปสสาวะออกมาไมเทาใดก็เต็มกระเพาะปสสาวะทำให เกดิ ปวดถายอีก การถา ยปส สาวะจึงยิง่ บอยขน้ึ มีอาการอยางหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นเม่ืออายุมาก ๆ ก็คือ การกล้ันปสสาวะไมอยู ชาวบานเรียกวา “ช้ำร่ัว” เกิดขึ้นเพราะกลามเนื้อหูรูดที่รัดอยูรอบทอปสสาวะท่ีจะกัน 29

ปสสาวะไมใหร่ัวไหลออกมาจากกระเพาะปสสาวะในเวลาไมถายปสสาวะ แตจะหยอน คลายตัวปลอยน้ำปสสาวะใหถายท้ิงออกมาในเวลาถาย กลามเนื้อหูรูดน้ียืดหยอนจึงหด รัดทอ ปสสาวะไดไมแ นน เพยี งนึกจะถา ยปส สาวะหูรดู กห็ ยอ น ปส สาวะกไ็ หลออกไดแลว โดยกล้ันไมได บางทีเพียงหัวเราะ จาม ไอ หรือเพียงตะโกนเสียงดังน้ำปสสาวะก็ ไหลราดออกมา ผูหญิงทีเ่ คยตงั้ ครรภค ลอดลูกมาหลายครัง้ จะเกดิ อาการชำ้ ร่วั น้ไี ดมาก ผูชายเมื่ออายุมากข้ึน ๆ ต้ังแตอายุ 55 ปขึ้นไป จะมีตอมลูกหมากโตไดทุกคน ถาโตมากๆ ตอมลูกหมากน้ันก็จะกดรัดทอปสสาวะออกยาก ถายไมออกตองเบงถาย มกี ารถา ยขัด ปวดถา ย ถา ยบอยข้นึ และจะมอี าการช้ำรวั่ ดวย ผูชายเม่ืออายุมากข้ึนจะมีตอมลูกหมากโต ถาโตขึ้นจนมีความผิดปกติในการ ถายปส สาวะ โดยมกี ารอุดตนั ทอปสสาวะ : ก็เรยี กไดวา “โรคตอมลูกหมากโต” ถา โต แตไมมีอาการของการอุดตันทอปสสาวะขับถายปสสาวะไดตามปกติ ก็ไมถือวาเปนโรค ตอ มลกู หมากโต อาจไมใ ชโ รค หรอื เปน โรคกไ็ ด แลว แตว า ตอ มโตแลว ทำใหก ารถา ยปส สาวะ ผิดปกติหรือไม โรคตอมลูกหมากโตตองรกั ษาดวยการผา ตัด ตวั เรานห้ี นมี นั ไมพ น เปน โรคนอี้ ยแู ละหาโอกาสเหมาะจะผา ตดั รกั ษาอยเู หมอื นกนั พอพรอมที่จะผาตัด เกิดตรวจเลือดพบวามีโลหิตจางเสียแลว หมอเขาบอกวาใหมี เลือดสมบูรณสักหนอยกอนเถอะ จึงคอยทำการผาตัด เราตองเชื่อหมอ ในใจอยากทำ เสยี ใหห าย เพราะรำคาญเรอื่ งถามบอ ย ๆ ยง่ิ กวา นน้ั บางทมี นั กลน้ั ปส สาวะไมอ ยเู สยี ดว ยซี ระบบตอ มไรท อ ตอมไรทอ พออายุมากขึ้นก็จะมีการเปล่ียนแปลงไปตามวัยที่สูงอายุ ตอมไรทอ ไดแก ตอมเพศ ตอมปจูอิตาร่ี ตอมไทรอยด ตอมแอดรีนัล และตอมไรทอในตับออน ตอมเหลาน้ีเมื่อเส่ือมก็จะมีการเปล่ียนไปของรางกายโดยท่ีอวัยวะทั่วท้ังรางกายจะมี อาการตา ง ๆ ผดิ ไปจากปกติ เมื่อพิจารณาตัวเองโดยท่ีไมไดใหแพทยตรวจ และไมมีอาการผิดปกติใหรูเห็น ไดชัดเจนวามีการเส่ือมของตอมไรทอตอมใด แตก็คิดวาเราแกแลว อายุมากแลว ถึงอยางไรก็คงจะตองมีตอมไรทอและรางกายมีการเปลี่ยนไปบาง แมจะไมเกิดปญหา มอี าการอยา งใดมากนกั 30

ระบบสมองและประสาท สมองของคนแกเมอ่ื มสี ภาพเส่ือมไป เซลลป ระสาทจะมจี ำนวนลดนอ ยไปตามอายุ หลอดเลอื ดทม่ี อี ยใู นสมองนนั้ กค็ งเกดิ หลอดเลอื ดแขง็ เหมอื น ๆ หลอดเลอื ดของอวยั วะอนื่ ๆ ดงั นน้ั หลอดเลอื ดสมองอาจเกดิ การอดุ ตนั หรอื แตกได ถา เกดิ สภาพเชน นน้ั กจ็ ะเกดิ อมั พาต ครง่ึ ซกี ตามปกตธิ รรมดาคนแกจ ะมเี ลอื ดสง มาเลยี้ งสมองไดน อ ยจงึ ทำใหร ะบบประสาทเสอ่ื ม สมองจึงทำหนาท่ีไมดีพอ คนแกจึงมีความรูสึกนึกคิดชา การตัดสินใจชา ความจำเส่ือม อวยั วะตาง ๆ เคล่ือนไหวไดชา ๆ อิรยิ าบถเชือ่ งชา การทำหนา ท่ีของกลา มเนอ้ื โครงราง และสมองไมส มั พันธก นั จึงมมี อื ส่ัน ขาส่ัน หรอื สน่ั ไปท้ังตวั การทรงตัวไมดี และกลามเนื้อยังไมแข็งแรงอีกดวย เมื่อมีการเปล่ียนอิริยาบถ อาจเปลีย่ นผิดทา ไดงายๆ เวลาลื่นลมตัวเอียงไปสกั หนอย ไมอาจฝนกลบั ทา ตามปกตไิ ด จะตองลมลงไปเลย การเคลอ่ื นไหวรา งกายบางทไี มส มั พนั ธก นั เชน ขณะทนี่ งั่ อยู เมอื่ คดิ วา จะลกุ ขนึ้ เดนิ สมองจะส่ังงานมายังรางกายใหลุกยืนแลวกาวเดินไป พอลุกยืนแลวจะออกเดินตาม สมองส่ัง สวนลำตัวจะเคล่ือนไป ขาไมกาวตาม ตัวย่ืนออกไปแลวโครงรางก็เสียศูนย เมอ่ื การทรงตัวไมด ีกอ็ าจลม ลงไปได กลา วแลววา ..เมอื่ คนแกลม ก็อาจมกี ระดูกที่สว นใดของรา งกายหกั มาคิดถึงตัว ก็ดีใจและพอใจมาก คิดวาเราน้ียังบุญดีนักหนาที่ระบบประสาท เวลาน้ีไมมีการเปลี่ยนแปลงจนเกิดปญหา ใหเกิดทุกขเกิดความลำบากยุงยากในชีวิต ถึงแมวา 5 – 6 ปท่ีผานไปแลว เคยประสบเคราะหกรรมมีเลือดออกเปนกอนเลือด ใตเ ยอ่ื หมุ สมองจนเกดิ อมั พาตของแขนขา ตอ งผา ตดั เปด กะโหลกศรี ษะ อมั พาตยงั มตี อ มา อีกเกือบปครึ่ง แตก็รอดมาอยูในสภาพผูสูงอายุตามปกติ ความรูสึกนึกคิด ความจดจำ ก็ยงั ดี ไมหลง ๆ ลืม ๆ และยงั อา นออกเขยี นได ที่ดียิ่งกวาน้ัน..ยังไมตองรบกวนใคร หรือทำใหผูอ่ืนเขาเดือดรอนเปนทุกขดวย ยังคงพงึ่ ตนเองได 31

เอะ..สองกระจกช่ัวแปบเดียว นึกถึงสภาพการเปลี่ยนแปลงของตัวเองเปรียบเทียบ กันที่กลาวไวในตำรามานานมากถึงอยางน้ีเชียวรึ ก็ยังปล้ืมอกปลื้มใจในตัวเองท่ียังไมมี การเปล่ียนแปลงไปจนหมดทุกลักษณะตามตำรา เอาละ..หมายความวาเราก็ยังไม แกม ากนกั หรอก ยังมคี วามเปน หนมุ เหลืออยบู า งละ แตว า ..ทบ่ี น ถงึ สภาพการเปลย่ี นแปลงของตวั ทรี่ ำพงึ เสยี เปน วรรคเปน เวรยาวยดื นนั้ ก็ลวนแตเปนเร่ืองรางกายการเปลี่ยนแปลงทางรางกายของคนแก (ใครอยากใชคำวา “ผสู งู อาย”ุ กต็ ามใจ) ทง้ั นน้ั ไหน ๆ กพ็ ดู ถงึ เรอ่ื งคนแกม าแลว งน้ั กบ็ นั ทกึ ถงึ การเปลย่ี นแปลง ทางจติ ใจของคนแกเอาไวกค็ งจะเหมาะ ออ..คิดข้ึนมาอีกวา..ถาง้ันก็เติมเรื่องความทุกขท่ีจะเกิดข้ึนเม่ือแกแลวอีกนิด ก็นาจะเปนการดีมีคามีประโยชนในเมื่อมีคนเขาสนใจอานพบเขา วากันเพียงยอ ๆ ตอจากน้ไี ปกแ็ ลวกัน “การเปลีย่ นแปลงของจติ ใจของผูส งู อายุ” ท่ีพูด ๆ มาแลวเปน เรอ่ื งสภาพรางกายของคนแก ทนี พ้ี ูดถึงเรอ่ื งการเปลยี่ นแปลง ทางจติ ใจบา ง แตเหน็ จะไมต อ งมาคิดถึงตวั เองใหยุง อีกละ เมอื่ มอี ายมุ ากขนึ้ ๆ จนเปน ผสู งู อายหุ รอื คนแก สภาพทางจติ ใจกจ็ ะเปลย่ี นแปลงไป ซึ่งเปลี่ยนผิดไปก็เนื่องจากความเส่ือมของสมอง นอกจากน้ันยังอาจมีสาเหตุอื่น ๆ มารวมเปนตน เหตดุ ว ย เชน สภาพความเปน อยูข องชวี ติ ตลอดมาตงั้ แตเ กดิ สภาพอาชพี ครอบครัว สภาพของส่ิงแวดลอมและการมีสขุ ภาพจิตดีไมดเี พียงใด การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ จะเกิดความเปล่ียนแปลงผิดแปลกไปทีละนอย ตามอายุท่ีเพิม่ ขนึ้ ๆ ความเจริญพัฒนาการทางจิตของคน ตามปกติจะเจริญไดเร็วดีและเจริญได เรว็ มากในระหวา งอายุ 30 ปแ รก พออายไุ ด 30 ปแ ลว ตอ ไปการเจรญิ ทางจติ จะมไี ดบ า ง แตแ ลวก็จะคอย ๆ ลดนอ ยลงไปจนถึงอายุ 50 – 65 ป แลว ตอจากน้ีก็เริ่มเส่อื มลง และ เสอ่ื มมากนอยเร็วหรือชา ตา งกนั ไปไดใ นแตละคน 32

การเรยี นรูของผสู งู อายุ ถาจะใหผูสูงอายุเลาเรียน ก็จะยังคงเรียนไดเสมอเปนไปไดอยางถูกตองตาม ท่ีพูดวา “คนเราไมแกเกินเรียน” แตการเลาเรียนของคนแกจะมีความแตกตาง บางประการไปจากเด็กคือ “ความกระตือรือรนในการเรียน” จะมีนอยกวาเด็ก “ความเขา ใจในวชิ าทเี่ รยี น” กเ็ ขา ใจไดช า และ “ความจำในวชิ าทเ่ี รยี น” ไมค อ ยจะจำได งายนัก ถาย่ิงเปนการเรียนวิชาใหม ๆ ท่ีไมเคยรูและไมเคยเรียนมากอนหรือถาไมเคยมี ฐานความรมู ากอ นเลยกจ็ ะยง่ิ เรยี นรไู ดช า เขาใจไดยาก และจำไมไ ดด เี ลย ความเชื่อถอื และยดึ มนั่ ของผสู งู อายุ ถา ไดเ ชอ่ื ถอื เรอ่ื งอะไรอยา งไหนอยา งใดแลว จะใหเ ลกิ เชอื่ หรอื มเี รอ่ื งอนื่ ทจี่ ะนำมา ลบลางความเชื่อถือเดิมท่ียึดมั่นอยูกอนแลวนั้นจะไมยอมไดงายนัก นิสัยเดิมท่ีมีอยู มานานมากจะใหเลิกไปเสีย แลวเปลี่ยนนิสัยใหมน้ันย่ิงยากมากหรือบางทีไมยอมเชื่อ ไมยอมที่จะเปล่ียนนิสัยที่เคยมีอยูแลวน้ันเลย คนแกจึงดูเหมือนวาจะเปนคนด้ือดึงและ มีทิฐิมาก มิหนำซ้ำยังจะพาลโกรธเคือง ไมพอใจ หรือนอยใจ เมื่อพยายามช้ีแจงจะ ใหเลิกเชื่อหรอื ใหเ ปล่ยี นนิสัยเดมิ นนั้ อกี ดว ย เชาวนปญ ญาของผสู งู อายุ นกั จติ วทิ ยาเคยทดสอบเชาวนป ญ ญาของคนอายตุ า ง ๆ ผลจากการทดสอบปรากฏวา ระยะต้ังแตเด็กเล็ก ๆ และเจริญเติบโตตอ ๆ มาจะมีคะแนนของเชาวนปญญาคอย ๆ เพิ่มข้ึนตามลำดับ พออายุได 15 ป และเริ่มจากอายุนี้ไปก็จะไดคะแนนเพ่ิมขึ้น อยางรวดเร็ว เมื่ออายุถึง 20 ป คะแนนจะไดสูงสุด และจากน้ีคะแนนสูงสุดจะดำรง เร่ือยไป พออายุเลย 50 ปไ ปแลว คะแนนเชาวป ญ ญาจะเร่มิ ตนคอย ๆ ลดลง แสดงวา คนเราถาอายมุ าก ๆ เชาวนปญ ญาก็จะลดนอยลงไปได 33

ความทรงจำของผสู งู อายุ เม่ืออายมุ ากข้นึ ๆ คนแกก จ็ ะมคี วามจำเสื่อมไป บางทพี ดู กันแลวเพียงชว่ั ครกู ล็ มื หรอื บางทที ำอะไร พดู อยา งไร พอถามถงึ กน็ กึ ไมอ อกแลว มอี ยบู อ ย ๆ ทคี่ ดิ วา จะทำอะไร เพียงชั่วขณะก็ลืมวาตัวจะทำอะไร เชน วาจะไปเอาขวดน้ำปลาในครัว พอเดินเขาไป ในครวั กน็ กึ ไมอ อกวา จะมาเอาสง่ิ ใดในครวั อกี อยา งหนง่ึ ทจ่ี ะเกดิ ไดบ อ ย ๆ เหมอื นกนั คอื นกึ ถงึ ชอื่ ของคนทจี่ ะพดู ถงึ ไมอ อก ทงั้ ๆ ทรี่ จู กั กนั ดพี บและพดู คยุ กนั อยเู สมอ แลว กม็ กั จะ พูดเปน เชิงบน ทไี่ ดย นิ กนั บอย ๆ วา ช่ืออะไรนะ.. มนั อยูท่ีริมฝปากน่ีแหละ บางทีพบกับ คนทร่ี จู กั กนั ดี และพดู คยุ กนั อยา งสนทิ สนมแตน กึ ไมอ อกวา ชอ่ื อะไร หรอื พดู คยุ กนั เสรจ็ แลว เม่ือเขาจากไป ถาจะมีคนถามวาคนที่คุยกันนั้นช่ืออะไรก็ลืมช่ือเขาแลว มีบางที เห็นเขาเดินเขามาหาก็รูแลววาเปนใครช่ืออะไร แตทักทายกันเสร็จเพียงครูเดียวน้ัน ก็ลมื วาช่อื อะไรเสยี แลว บางคนลืมเร่ืองที่ตัวพ่ึงจะทำไปเพียงช่ัวขณะจนเกิดลักษณะท่ีเรียกวา “ย้ำพูด ย้ำทำ” ลักษณะการลืมอยางนี้มักจะเห็นไดหรือมีเรื่องเลากันอยูเสมอถึงการปฏิบัติของ คนท่ีมีการลืมลักษณะน้ีอยางเชน คนแกน้ันพอค่ำลงกอนจะเขาหองนอน ปดประตู หนาตางบานชั้นลางแลวก็ขึ้นบันไดไปช้ัน 2 (บาน 2 ช้ัน) และเขานอน พอลงนอน เกิดคิดถึงเตาไฟในหองครัววาดับถานในเตาไฟหรือยัง ลุกข้ึนและรีบลงบันไดมาดูเพ่ือจะ ดบั ถาน ออ..ดับถานในเตาแลวลมื ไป นกึ วายงั ไมไดด บั ถาน เม่ือเดนิ ขนึ้ บนั ไดไปยังไมถึง ช้ันบนเกิดนึกข้ึนมาวาปดหนาตางหองขางลางหรือยัง ตองกลับเดินลงบันไดไปดู โธ..เราปดหมดแลวละลืมไป เอาละ สบายใจแลวขึ้นนอนเสียที.. พอเดินไปที่หองพระ.. เอะ..ใครมาจุดธูปเอาไว ออ..เราเองแหละ.. สวดมนตไหวพระแลวคิดวาสักครูจะมาดูวา ธปู ดบั ดหี รอื ยงั .. จรงิ ซิ เราดบั เทยี นแลว เดนิ ออกไป..ออกไปจะไปไหนนะ..คดิ ไมอ อกแลว .. ฯลฯ ลกั ษณะการหลง ๆ ลมื ๆ แบบน้ีเปนการย้ำคดิ ย้ำทำทอี่ าจเกิดกบั คนแก จนอาจ ทำใหม ีเวลาทจ่ี ะไดหลบั นอนนอยไป บางทกี จ็ ะรสู กึ รำคาญตัวเองไดมาก ๆ ดว ย เร่ืองความจำเปนของผูสูงอายุ จะมีลักษณะที่แปลกอยูอยางหนึ่ง คือ ถาเร่ืองใด หรอื เหตกุ ารณอ ยา งไรเกิดข้นึ ใหม ๆ หรือเกดิ ขนึ้ ในปจจบุ ันและเวลาผานไปชวั่ ระยะเวลา 34

ไมน านนกั มกั จำไมค อ ยไดแ ละลมื ไปแลว หรอื พดู คยุ กนั อยหู ยก ๆ ชว่ั สกั ครหู นงึ่ กล็ มื แลว แตเร่อื งราวหรือเหตกุ ารณท ่เี กดิ ขน้ึ กับตนหรือเคยรูเห็นมานาน ๆ หลายปแลว กลับจำได นึกออก หรือนึกข้ึนมาได บางทีจำไดอยางละเอียดถ่ีถวนเสียดวย เร่ืองเกา ๆ ตั้งแต คร้ังยงั เปน เดก็ กย็ งั จำได การจำหรือนึกถึงความหลังไดนี้จึงเห็นไดวา คนแกจะมีความพอใจและรูสึก เปน สขุ มาก ท่ีจะไดเลาเร่ืองเกา ๆ ตงั้ แตครงั้ ที่ตัวยงั เปน เดก็ หรอื เรือ่ งความหลังที่เกดิ ขนึ้ ของตัวเองใหพ วกลกู หลานฟง บางทกี เ็ ลาแลว เลา อีก ซำ้ แลว ซ้ำเลา โดยลมื แลว วา ตวั เอง เคยเลาแลว พวกลูกหลานฟงมาเสียหลายครั้งจนจำไดขึ้นใจ เผลอ ๆ พอเร่ิมเอย เรือ่ งเทา น้นั พวกลกู หลานก็เลา ตอเรอื่ งใหเ ลย การที่ผูสูงอายุจำถึงเร่ืองราวความหลังหรือเรื่องเกา ๆ ซึ่งผานพนมานานปไดดี จำเหตุการณตาง ๆ ตั้งแตคร้ังยังเปนเด็ก ซึ่งก็เปนเวลาหลายปมาแลวน้ี อาจมีคุณคาท่ี จะทำใหเกิดผลประโยชนไดมาก โดยท่ีเราจะไดรูเรื่องที่เกิดขึ้นหรือภาพของบานเมือง สมัยกอน ๆ ท่ีนานมาหลายป และปจจุบันนี้ลืมเลือนกันไปแลว เราจะรูไดจากความจำ ของคนแก เหมือนกับไดรูประวัติสภาพของสังคมความเปนอยู เร่ืองของประชาชน ผูคนพลเมอื ง การศึกษาวัฒนธรรม ความเจริญและความเส่ือมของสงั คมและถน่ิ ฐาน ฯลฯ ผูสูงอายุท่ีจำความหลังไดและมีความจัดเจนในชีวิตที่ผานมานาน จะไดใหคำแนะนำ ปรกึ ษา และเรยี นรเู ร่ืองแตค รัง้ กอนเกา ได แตเก่ียวกับการมีความจำท่ีเกิดในระยะเวลาปจจุบัน หรือในเวลาอันส้ัน ของคนอายุมาก ๆ แลวนี้ลืมไปไดงายๆ และประกอบกับความไมแนใจของตน คนแก จงึ มกั จะมลี กั ษณะของการ “ยำ้ พดู ยำ้ ทำ” อยา งเชน พดู คยุ กนั เมอ่ื พดู ไปแลว กล็ มื แลว วา ตัวพูดหรือยัง หรือไมแนใจวาผูรับฟงจะรับรูหรือไดยินหรือเปลาจึงพูดใหม แลวก็ลืมและ พดู ซ้ำอกี พูดเรอ่ื งเดยี วซ้ำ ๆ หลายครั้ง ผูฟ ง จะคดิ เหน็ ถงึ การพดู ซำ้ ๆ น้ันเปนสภาพบน จึงอาจคดิ วา ผูนั้นเปนคนแกขบ้ี น ดวยเหตุนี้พวกเด็ก ๆ ลูกหลาน หรือผูท่ีตองเก่ียวของดวยจึงมักจะคิดและนินทา กลาวหาวา พอแม ยายาย คนแกนั้นข้ีบน พูดซ้ำซากไมรูจบ ลูกหลานหรือคนในบาน ไมรูถึงสภาพตามความจริงของคนแกที่พูดซ้ำๆ จนตัวจำได แตบางคนก็ถึงกับดุวา ใหหยุดพูดเสียที หรือทำบ้ึงตึงไมพูดดวย ซ่ึงเปนเหตุใหคนแกนอยอกนอยใจและ เสยี ใจอยางมาก 35

การจำถึงเร่ืองความหลังไดดีของคนแกน้ี บางทีก็อาจเปนเหตุใหเกิดผลเสีย ไดมากเหมือนกัน คนแกบางคนเกิดความคิดถึงเร่ืองความหลังของตัว คิดถึงชีวิตต้ังแต เด็กมาจนโต คิดวาตลอดชีวิตท่ีผานมามีแตความผิดหวัง ไมเคยสมหวังในเร่ืองท่ี ตนปรารถนา คิดถึงความผิดหวังของตัววาไมควรจะทำ ตำหนิและกลาวโทษตัวเอง เสียดายเวลาเสียดายโอกาสที่ตัวปลอยท้ิงไปเองเพราะความอวดดี จำและคิดเร่ืองครั้งที่ ตนเปนเด็กเปนหนุมสาว แลวก็กลับมาคิดถึงสภาพของตัว คิดวาตัวแกแลว หวาดวิตก ในชีวิตความเปนอยู เฝาคิดแตวาตัวจะมีชีวิตอยูไดอีกไมนานนัก หวงหนาหวงหลัง หวงขาวของสมบัตทิ ี่อตุ สา หห ามาดว ยความเหน่อื ยมาก ดว ยความจำและนกึ ถงึ ชวี ติ แตเ กา กอ น กอ็ าจทำใหเ กดิ ความคดิ ตา ง ๆ ไดด งั กลา ว ทำใหค นแกเสยี สุขภาพจิตไดมาก การยอมรับเหตุผลหรือสภาพการณท่ีเกิดขึ้นใหมของผูสูงอายุ เร่ืองหรือ เหตกุ ารณอ ยา งใดทเี่ กดิ ขนึ้ ใหม ๆ หรอื เรอ่ื งทต่ี วั ไมเ คยไดร เู หน็ มากอ น ถา จะใหเ หน็ คนแก ยอมเช่ือยอมรับรูยอมเขาใจหรือยอมปรับตัวใหเขาไดกับสภาพเหตุการณ หรือ ความคดิ เหน็ ของคนอนื่ ทวั่ ไปนนั้ ไมใ ชง า ยนกั มกั จะมคี วามยงุ ยากและอาจเปน ปญ หามาก ถึงแมจะเปนเรื่องถูกตองและมีเหตุผลก็ยากท่ีจะยอมรับยอมเชื่อ เพราะคนแกเมื่อเชื่อแลว กจ็ ะยดึ มนั่ เช่อื ม่ันอยางสนิทเลกิ เชือ่ ไดย าก ถาถูกบังคับใหยอมรับ ยอมเช่ือ ยอมเขาใจ ในคำชี้แจงหรือเหตุการณนั้นแลว จะไมพอใจหงดุ หงดิ อารมณเ สียโดยขาดเหตผุ ลขนึ้ มาทนั ที ขอหวนกลับมาพูดถึงเร่ืองเก่ียวกับลักษณะในการจำของคนเราสักเล็กนอยกอน ทจี่ ะพูดถงึ ความลืม ๆ หลง ๆ ของคนแกต อไป คนเรามลี กั ษณะในการจำเปน 3 ลกั ษณะ คอื ลักษณะที่ 1 เม่ือไดเ ห็น ไดย นิ ไดส มั ผสั หรอื รสู กึ อยา งใดก็จะจำไดท ันที แตใ น เวลาตอ มาระยะหนง่ึ ก็อาจลมื เสยี หมด ลักษณะท่ี 2 เม่ือไดเ หน็ ไดย นิ ก็จำได แตจำไดไมน าน ช่วั เวลาสน้ั ๆ ก็ลมื ลักษณะที่ 3 จำเรือ่ งในอดตี ทผ่ี านมาไดดี ผูส งู อายจุ ะมลี ักษณะการจำในลักษณะ 1 และ 2 ไมด ี แตจะมกี ารจำในลกั ษณะ 3 ไดดี เหตุการณปจจุบันพบแลวจะลืมงายแลวจำไมได จำไดแตเรื่องท่ีเคยประสบมา ในอดตี ทีผ่ านพนมานานแลว 36

คนแกจ งึ ลมื เรอ่ื งทต่ี วั พง่ึ จะพดู ไปแลว ไมน านนกั จงึ พดู อกี ซำ้ ๆ ลมื ชอ่ื คนทร่ี จู กั กนั ดี ลมื เรอื่ งทต่ี นไดท ำไปแลว ในชวั่ เวลาไมน าน ลมื สง่ิ ของทตี่ วั มอี ยู ลมื ของทเ่ี กบ็ ไว นกึ ไมอ อก วา เอาไปไวท ่ไี หน ลมื เร่ืองที่นัดใครไว ฯลฯ จนถึงกับยำ้ พูดยำ้ ทำ ดงั ไดกลา วมาแลว คนแกเ มอ่ื อายมุ ากขน้ึ ๆ สมองกจ็ ะเสอื่ มมากขน้ึ ดว ย ความหลง ๆ ลมื ๆ กจ็ ะเพม่ิ ขน้ึ เหมอื นกนั ความจำจะคอ ย ๆ ลดนอ ยลงดว ย จนในทสี่ ดุ กจ็ ะหมดสน้ิ ความจำไป เมอ่ื มาถงึ ระยะน้ีคนแกจะไมส นใจในเรอ่ื งใด ไมสนใจส่ิงของทรัพยส ิน ไมสนใจตอวนั เวลาสถานที่ หรือเหตุการณอ ยา งใดกต็ ามทเ่ี กิดข้นึ จำไดแตเ ร่ืองเกา ในอดีต จึงพดู แตเ รื่องเกา ๆ ซ้ำ ๆ ไมวาใครที่มาพูดดวยก็จะพูดแตเร่ืองเกานั้นทุกทีไป แตถาพูดถึงเร่ืองปจจุบันอาจพูด ไมตรงความจรงิ หรอื พดู เกินความจรงิ เชน กินขาวแลวกบ็ อกวา ยังไมไ ดกิน ยงั ไมไดกนิ ก็วากินแลว บางทีทำใหคนอ่ืนเขาใจผิด เชน กินขาวแลวก็บอกวายังไมไดกิน แลวพูด ซ้ำเติมวาลูกหลานไมไดดูแลเอาใจใส ไมจัดหาอาหารใหกิน ปลอยใหอดอยากหิวโหย คงอยากใหต วั ตายเรว็ ๆ จะไดไ มต อ งมภี าระดแู ล... (เรยี กวา ..พดู ตอ เตมิ จนคนไดฟ ง สงสาร และนินทาวาไมเลี้ยงดพู อแม) บางทลี กู หลานเอาใจใสจ ดั อาหารใหก นิ อยา งสมบรู ณ กลบั กลา วหาวา พวกลกู หลาน คอยบังคับขเู ขญ็ ใหกินมาก ๆ ทัง้ ๆ ท่อี มิ่ แลว มันประชดประชนั หาวา เราวามันไมดแู ล เลย้ี งดู อยากใหก นิ ๆ เสยี จะไดต ายพน ๆ ไป ใคร ๆ ไดฟ ง แลว ลกู หลานเสยี หายหมดเลย ระยะตอ ๆ มา.. ความจำเร่ืองทั้งปจจุบันและความหลังครั้งอดีตจะลืมไปหมดส้ิน จำอะไรไมไ ดเ ลย พดู จาเลอะเลอื น ไมร จู กั บคุ คล ไมร ใู ครคอื ใคร ไมร เู วลาวา เวลาเทา ไหร สถานท่นี ั้น ๆ เปน ท่ีไหน ลมื ทุกอยา งหมด จำอะไรไมไดเ ลย หงดุ หงิด โกรธงาย ใจนอย หาวาใคร ๆ ขัดใจตัว กลางคืนนอนไมหลับหรือไมยอมนอน บางทีลุกข้ึนน่ังเฉย ๆ ตลอดเวลานานๆ หรือลุกขึน้ เดินไปเดินมา บางทีลกุ ขึน้ มากลางดกึ มาจัดตเู สอ้ื ผา ขา วของ เครื่องใช หรอื ร้อื คน สิง่ ของออกมาเต็มบา น มาถึงระยะน้ี ถายังมีกำลังแข็งแรงเดินไดดี พอลูกหลานเผลอ จะออกจากบาน และเดินเร่ือยไปโดยไมรูตัวและไมมีจุดหมาย เม่ือเปนเชนน้ีอาจมีอันตรายจากอุบัติเหตุ บนทองถนน รถยนตชนไดรับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตก็ได คนแกที่ไมรูตัวแลวหลบหนี หายไปจากบาน ลูกหลานออกตามหากันใหวุนวายไปหมด มักจะไดยิน พูดถึงหรือ มีขา วออกทางวทิ ยหุ รอื หนังสอื พมิ พบ อย ๆ บางทกี ็ไดรับอุบัตเิ หตุตาง ๆ 37

สวนคนแกทไ่ี มมีกำลังไมอ าจไปไหนได ก็จะไดแตน ัง่ ๆ นอน ๆ อยูก บั ที่ บางคน ท่จี ะถายปสสาวะ อุจจาระออกมาโดยไมรตู ัว มีลกั ษณะเหมือนทารกเล็ก ๆ แสดงใหรูว า.. มสี มองเสอ่ื มมากแลว การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจของผูสูงอายุ นอกจากจะมีไดตาง ๆ ดังกลาวมา ยังอาจมีลักษณะอาการท่ีผิดไปไดอีก เชน พออายุมากข้ึน เม่ือมีปญหาอยางใด เพยี งเลก็ นอยกไ็ มอาจแกปญหา คิดอา นไมไ ดถ กู ตอง ตดั สนิ ใจไมค อ ยได การคดิ คำนวณ งาย ๆ ก็คิดผิด เขาใจเรื่องใด ๆ ไดยาก มีความเชื่อถือผิด ๆ จนเกิดความหลงผิด ความคิดสบั สน คนแกบ างคนมนี สิ ยั เปลย่ี นแปลงผดิ ไปจากเดมิ กลายเปน คนเฉอื่ ยชา ไมส นใจใคร ไมสนใจเหตุการณเรื่องราวอยางใดท้ังน้ัน เก็บตัวอยูแตในบาน ไมอยากจะไปไหนๆ ไมตองการคบคาสมาคมกับใคร ไมชอบความสนุกสนาน จิตใจและอารมณเปลี่ยนไปได ตาง ๆ อาจระแวงสงสัยไปทุกอยาง คิดวาไมมีใครเอาใจใสตัว หวาดกลัวไปตาง ๆ บางคนจะซึมเศรา ไมพ ูดคุยกับใคร ฯลฯ อยา งไรกต็ าม คนแกถ งึ แมจ ะมอี ายมุ ากสกั เทา ใด โดยทวั่ ๆ ไป ตามปกติ กย็ งั คงมี สภาพของความเปน คนตอ งการไดร บั ปจจยั 4 ซ่ึงเปนสงิ่ จำเปนตอชวี ิต ยงั ตอ งการทจี่ ะมี ความสุขจากการกิน การนอน การขับถายของเสีย การเที่ยวเตร ตองการมีงานทำ มีงานอดิเรก มีเพ่ือน ตองการความสนุกสนาน รื่นเริงใจ ตองการมีคนท่ีรักตัว เคารพ นับถือตัว ตองการความมั่นคงของชีวิต ตองการคำเยินยอสรรเสริญ ตองการไดรับ ทกุ ส่งิ ทกุ อยางทค่ี นเราตอ งการ ไมไ ดผ ิดแปลกไปจากคนวยั ใดอ่ืนเลย ความทกุ ขของผสู ูงอายุ ไหน ๆ ก็รำพึงถึงตัวเอง เม่ือมีอายุมากข้ึนจนไดเปนคนแกกับใคร ๆ เขาก็ภูมิใจ อยูเหมือนกันท่ีมีบุญรอดมาจนเปนคนแกแทนปูยา ตายาย พอแม และคนแกอ่ืน ๆ ท่ีลวงลับไป แลวทิ้งตำแหนงน้ีเอาไวใหคนที่ยังอยูขางหลังรับชวงตอ ไดพูดถึงรางกาย และจิตใจที่เปล่ียนแปลงไปของคนเราเมื่อถึงเวลาแกเฒา ซึ่งก็เปนผลจาก “ความเสื่อม” ไปตามสภาพของสง่ิ มชี วี ติ อนั เปน เรอ่ื งปกตธิ รรมดาแท ๆ เมอื่ พดู มาถงึ นแ้ี ลว กน็ กึ ขนึ้ มาอกี วา 38

คนเราน้ีเม่ือแกแลว ผูท่ีใชชีวิตในวัยสุดทายนี้อยางเปนสุขก็มีมาก แตแกแลวยังมีชีวิตอยู เปน ทกุ ขก ็มีมาก และสมควรอยา งยงิ่ ท่ีจะใหความชว ยเหลอื ถาหากวาผูใดมีจิตใจอันดีงาม และปรารถนาท่ีจะใหความชวยเหลือคนแก ทม่ี คี วามทุกข กค็ วรจะไดร เู หตแุ หงทุกขข องคนแกเ สยี กอ น จะไดพนิ จิ พิจารณาแกไขหรอื ชวยเหลอื ใหถ ูกตองตามเหตุแหง ทกุ ข ดงั นน้ั ก็จะขอรำพงึ ถึงความทกุ ขของคนแกต อ ไปอกี เร่ืองหนง่ึ ประเทศไทยเวลานป้ี ระชากรเพม่ิ มากขนึ้ ๆ อยา งรวดเรว็ เนอ่ื งจากการสาธารณสขุ เจริญมากข้ึน ประชาชนไดรับการปองกันโรคเปนอยางดี และไดเรียนรูถึงสุขศึกษาท่ีจะ ชวยใหร ูจ กั การรักษาและเสรมิ สรา งตวั ใหม สี ุขภาพอนามัยดี ความรใู นการทจี่ ะใหค วาม ดูแลแม และเด็กเจรญิ กาวหนามาก ชวยใหเดก็ มีชีวติ รอดพน จากโรคตาง ๆ ทเ่ี คยทำลาย ชีวิตเด็กมาแลวจำนวนมากนั้นไดผลดีที่สุด เด็กจึงมีชีวิตเจริญเติบโตไปจนเปนผูใหญ ไดมากขึ้น การแพทยก็เจริญอยางมากท้ังดานวิชาการ ดานเทคโนโลยี และดานการ รักษาพยาบาล ฯลฯ ความเจริญในดานตาง ๆ ดังกลาวมา ประชาชนชาวไทยเวลาน้ี จึงอายุยืนกวา คนในสมยั กอนๆ เมือ่ 100 ปม าแลว คนเรามีอายอุ ยูไดโ ดยเฉล่ียราว ๆ 45 – 50 ป คนไทยเวลานี้ มีอายุโดยเฉลี่ยอยูไดถึง 60 – 65 ป (อายุเฉลี่ยของผูหญิงมากกวาชายเล็กนอย) แตค นอายุ 70 – 80 ป กย็ งั เหน็ มอี ยมู ากจนเปน ธรรมดา คนอายุ 100 ป กม็ ใี หร เู หน็ กนั ได คนมีอายุยืน 100 กวาป ก็มีขา วกันอยบู อ ย ๆ ประเทศไทยมีประชากรเวลานี้มากกวา 61 ลานคน มีผูสูงอายุ คือคนท่ีมีอายุ นับแต 60 ปข้ึนไป เปน จำนวนราว ๆ 5 – 6 ลา นคน นาคดิ วา อีกไมก ปี่ น ักประเทศไทย อาจมีผูสูงอายุ 7 – 8 ลา นคน ผูสูงอายุ ถาหากมีจำนวนเพ่ิมมากข้ึน ๆ ย่ิงมีมากเทาใดก็จะยิ่งมีปญหาตาง ๆ มากย่ิงขึ้น อาจเปนปญหาเฉพาะตัวผูสูงอายุ ปญหาในครอบครัว ปญหาเศรษฐกิจ การงาน ปญหาดา นสงั คมตลอดจนปญหาทางการแพทย สภาพชีวิตความเปนอยูของผูสูงอายุชนชาติใดบานเมืองใด จะชวยบอกใหรูถึง ศีลธรรม วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี นิสัยใจคอของชนชาติหรือสังคมน้ันได อีกทั้งอาจรูไดถึงความสัมพันธของผูสูงอายุกับคนในครอบครัว และการดูแลเอาใจใส ผูสูงอายุดีหรือไมเพียงใด ผูสูงอายุจะมีความสุขหรือความทุกขอยางไรนั้น สภาพชีวิต ความเปน อยขู องผสู ูงอายุ จะเปนเสมอื นภาพสะทอนชว ยใหร กู นั ไดอกี ดว ย 39

ผูสูงอายุชนชาติตะวันตก ดูเหมือนจะเปนผูสูงอายุท่ีมีความทุกขมากท่ีสุด ขนบธรรมเนียมประเพณีท่ีถือมน่ั วา จะตอ งเลี้ยงดูเอาใจใส พอ แม ปูย า ตายาย เม่อื ยาม แกเฒา และใหความเคารพนับถือทานอยางสูง ทานเหมือนรมโพธิ์รมไทรท่ีใหความ รมเย็นเปนสุขแกลูกหลาน ตองมีความกตัญูกตเวทีตอทาน การยึดม่ันในธรรมเนียม ประเพณีที่อบรมกันมาเชนนี้ของชาวไทยเรา (และชนชาติเอเชีย) ดูเหมือนจะไมมีในหมู ชนชาตติ ะวนั ตกนกั ลกู หลานของคนตะวนั ตก เมอื่ เตบิ โตขน้ึ มาตอ งดแู ลตวั เอง พอมงี านทำ หรือมีครอบครัวก็จะแยกครอบครัวไปอยูท่ีอื่น อาจไปอยูหางกันตางเมือง หรืออาจตาง ประเทศ ไปอยูเ ปนตัวของตัวเอง สรางครอบครัวมบี านของตวั ขน้ึ มาใหม นาน ๆ ก็จะได กลับมาเยี่ยมพอแม ญาติพ่ีนองเสียครั้งหน่ึง แลวก็ท้ิงใหพอแมหรือญาติผูใหญท่ีแกแลว อยกู ันตามลำพังตอไป บางทกี ท็ อดทงิ้ พอ แม คนแกไ วและไมต ิดตอมาอกี เลย พวกลูกหลานท่ีแยกครอบครัวไปอยูหางไกลกันเปนเวลานานจนลืมนึกถึงพอแม ไปเลยหรอื บางทีพอแมญ าติผูใหญต ายไปนานแลว พวกลูกหลานยงั ไมร ูวาตายแลวก็มี ตามสวนสาธารณะมักจะเห็นคนแกชายหญิงน่ังซึมอยูตามเกาอี้หรือมาน่ังในสวน น่ังเหมอตาลอยอยูคนเดียว เกาอี้มีหลายตัวที่อยูท่ัว ๆ ไป แตตัวไหนมีคนแกน่ังอยู ก็ไมคอยมีใครที่จะไปนั่งดวยยึดท่ีน่ังอยูคนเดียว บางทีก็มีคนแก 2 คน ตางก็ซึม ๆ หนาตาเหมือนคนมีทุกขใจ ไมคอยพูดคุยกัน บางทีอาจเห็นหญิงแกคนเดียว นั่งพูด รำพนั กบั ตนเองตามลำพังโดยไมส นใจใคร คนแกหลายคนท่ีมานั่งอยูในสวนสาธารณะทั้งวันตั้งแตเชา แลวเย็นก็กลับที่พัก บา นพกั อาจเปนหองเชา อยูค นเดยี ว หรอื เชา บานรวมอยูกับคนอนื่ ตางคนตา งอยูใ นหอง ของตวั ไมย ุงเก่ียว ไมส นใจใคร ตา งกไ็ มเ อาใจใสกัน คนแกบ างคนเดินไปมาบนทางเทา บนจูจ้ีอยูคนเดียวหนาหงิกหนางอ ไมยิ้มใหใครเลย เห็นแลวสังเวชสลดใจ ไมมีใครดูแล เลี่ยงดู ถูกทอดท้ิงใหอ ยูค นเดียว เคยมบี อย ๆ ท่นี อนตายอยใู นหอ งเชาหลายวันแลว จงึ มี คนรูกนั คนชาวตะวันตกหรือพวกฝรั่งนี้ไดเห็นชีวิตพวกคนแกของเขาแลว ตางจากคนแก ไทยเราอยางเทียบกันไมไดเลย ตองถือวาเปนบุญของคนไทยท่ีคนแกไทยเรามีสุขกวา คนแกช าตอิ น่ื ๆ หลายชาติ เรามศี ลี ธรรมและขนบประเพณที จี่ ะตอ งใหค วามเคารพนบั ถอื คนแก ตองมีความกตัญูกตเวที ใหอาหารดูแลเล้ียงดูและถือวาพอแมกับคนแก ในครอบครวั เปน รมโพธ์ริ ม ไทรใหค วามรม เย็นแกต นเสมอ 40

ปญหาทางอารมณและจิตใจของคนแกในครอบครัวไทย เรามีนอยกวาคนแก ในครอบครัวของชนชาติอ่นื หลายชาติ แต..ในเม่ือบานเมืองเจริญข้ึนอยางรวดเร็วมาก ประชากรก็เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ สภาพของสังคมไทยเราเปลี่ยนไป คนไทยนิยมและยอมรับเอาวัฒนธรรม ธรรมเนียม ประเพณีและสภาพชีวิตความเปนอยูอยางชนชาติตะวันตกหรือพวกฝร่ัง มาเปนของตัว มากขน้ึ ทุกที ความเปน ไทยคอย ๆ ถกู กลนื ตัวเองกล็ มื ไป และทิง้ ความเปนไทยของตวั ไปเกือบสิ้น ตอไปจึงนาคิดวา สภาพชีวิตความเปนอยูของคนแกชาติไทย เราก็คงมีสภาพ อยางคนแกทางตะวันตก คนแกเราจะมีทุกขมากข้ึนและมีปญหามากขึ้น จนกลายเปน ปญหาของประเทศชาตทิ ่ีจะตอ งชว ยเหลอื แกไข เมอื่ คนเรามีชีวิตผานเขา สวู ัยสูงอายุ ท่ีเราเรยี กกนั งา ย ๆ มาเปน เวลานานแลววา .. “คนแก” คนแกมักจะครุนคิดถึงชีวิตของตัวในอดีต ปจจุบัน และจะคิดไปถึงชีวิตตนใน อนาคต ความครุงคิดนี้อาจมีอยูตลอดทุกวัน ทุกเวลาเปนผลใหมีจิตใจเปนทุกข และ เสียสุขภาพจิตมากขึ้นทุกที ในเม่ือเฝาครุนคิดอยูโดยไมแกไข ไมขจัดและลืมความคิด เสยี บา ง การครุน คดิ ของคนแกมักจะคิดดังนี้ คดิ ถึงอดีต – คิดถงึ เรอ่ื งความหลังทผี่ านมาดวยความอาลยั อาวรณ เสียดายเวลา ทผ่ี า นไป นกึ ถึงความผิดในอดตี ของตัว คดิ ถงึ ปจจบุ นั – คดิ ถึงดว ยความวติ ก หวาดระแวง สงสยั เศราใจ คิดถึงอนาคต – คดิ ถงึ ดว ยความหวาดกลัว หวงหนา หว งหลัง “สาเหตุของความทุกขทีเ่ กดิ ขนึ้ กบั ผสู ูงอาย”ุ ความทุกขข องคนแกอาจมีไดเปน 3 สาเหตใุ หญ ๆ คือ 1. สาเหตเุ กยี่ วกบั งานอาชพี รายได เศรษฐกจิ และครอบครวั 2. สาเหตจุ ากความเจบ็ ปว ย 3. สาเหตุเกิดจากสภาพจติ และอารมณข องตวั เอง 41

1. ความทกุ ขจากเรือ่ งงานอาชพี รายได เศรษฐกิจ และครอบครวั อาจเกิดไดแ กส าเหตตุ าง ๆ เชน (1.) เม่ือตองหยุดทำงาน ไมมีงานทำ เน่ืองจากเกษียณอายุการงาน ถูกใหออกจากงานท่ีทำงาน ตองเลิกกิจการเพราะขาดทุน ตัวเองมีหน้ีสินลนพนตัว ไมไดทำงานตามความรูความสามารถของตน ออกจากงานแลวหางานทำใหมไมได เพราะตัวมีความรูความสามารถทำงานอยางเดียวโดยเฉพาะ เมื่อออกจากงานแลว ทำงานอยางอนื่ ไมไ ด เม่ือไมมีงานทำหรือไมมีงานใหมทำจึงขาดรายได หรือไดเงินพิเศษทำแตได รายไดนอ ยไมพอใช (2.) ทง้ั ๆ ทอ่ี ายมุ ากแลว ควรทจี่ ะไดห ยดุ การทำงาน หรอื ทำเพยี งงานเบาๆ แตยังไมอาจหยุดการทำงาน ยังตองทำงานหนัก เพ่ือหาเล้ียงครอบครัว หรือผูอื่นท่ี ตนยังตองรับผิดชอบ โดยลูกหลานหรือคนอื่นยังทำงานไมได หรือยังไมมีงานทำ หรือ ลกู หลานมปี ญ หาความเจบ็ ปว ยไมอ าจทจ่ี ะทำอาชพี ได ตวั จงึ จำเปน ตอ งทำงาน หยดุ ไมไ ด (3.) เม่ือเกษียณจากกิจการงาน หรือออกจากงานโดยถูกเลิกจาง หรือ ไมมีงานทำจากเหตุใดก็ตามแลวตองอยูคนเดียว ไมมีญาติพ่ีนอง หรือเปนโสด มาย หยาราง เม่อื เลิกทำงานตอ งอยูค นเดียว ขาดคนชวยเหลอื แบง เบาภาระการงาน ขาดคน รวมคิด คนรวมพูดคุยสนทนา หรือมีลูกหลาน แตลูกหลานก็แตงงานมีครอบครัวและ ยายครอบครัวไปอยูท่ีอื่น หรือพวกลูกหลานตองไปทำงานตางจังหวัดหางไกลกัน ไมมี ใครอยูคอยดูแล คนแกบางคนที่ลูกหลานทอดทิ้งใหอยูตามลำพังแลวไปอยูตางเมือง หรือตางประเทศ หรือปลอยใหอยูกับคนอ่ืนซ่ึงเขาก็ไมไดชวยเหลือดูแลแตอยางใดนัก และพวกลูกหลานทีจ่ ากไปก็ไมเคยทจี่ ะติดตอ มาเลย ไมร วู า ไปอยทู ่ไี หนเสียอกี ดวย (4.) ขาดเงนิ ทจ่ี ะจบั จา ยใชสอย ไมมีงานพเิ ศษทำ ขาดรายได ขาดคนชวย เลย้ี งดู มหี ลายคนทที่ ำงานมานานหลายป ไมเ คยคดิ ทจี่ ะสะสมเงนิ เอาไวใ ชเ มอ่ื อายมุ ากแลว พอเกษียณอายุการงานหรือหยุดทำงานก็ไมมีเงินสะสมที่จะใชเมื่อยามจำเปนหรือไมมี รายได อาจไดเงินบำเหน็จเม่ือเวลาออกจากงาน แตไมนานก็ใชหมด หรือไดเปนเงิน บำนาญก็เปนจำนวนนอยมาก แตละเดือนไมพอที่จะเปนคาใชจายท่ีจำเปนเสียอีกดวย และจะยิง่ ไดร บั ความทุกขลำบากมากข้ึน เม่ือไมมญี าติพ่นี องลกู หลานท่จี ะพง่ึ ไดบา ง 42

(5.) ขาดอาหาร อาหารการกินไมสมบูรณ ไมมีใครจัดหาอาหารใหกิน ตองหุงหาขาวปลาอาหารกินเอง ทั้ง ๆ ท่ีแกมาก หมดเรี่ยวแรง เน้ือตัวส่ันตลอดเวลา คนแกถูกไฟไหมน ้ำรอ นลวกจากการหุงหาอาหารกินเองนี้จะพบไดบอ ยๆ (6.) ขาดท่ีอยูอาศัย ไมมีบานของตนเอง คนท่ีทำงานราชการหรือ งานบริษัท แมจะมีรายไดมากพอควร ก็ยังมีคนเปนจำนวนมากที่ไมคิดจะมีบานเปนของ ตนเองตลอดเวลาที่อยูบานหลวง อยูบานเชาแตตนไมตองจายคาเชา ไมเก็บเงินสะสม มีเงินก็ใชจายไปตามสะดวกสบายพอออกจากงาน ไมมีบานของตัว ตองเชาบานอยูกัน ตองเสียเงินคาเชา ในท่ีสุดก็เดือดรอนทั้งครอบครัวท่ีตองใชจายเงินมากขึ้น ๆ บางคน เชา บา นอยแู ลว คา งคา เชา บา นกเ็ กดิ ทกุ ขย งุ ยากใจ บางคนตอ งขออาศยั บา นคนอน่ื เขาอยู และยง่ิ จะเพม่ิ ความทกุ ขม ากขน้ึ เมอ่ื จะไปขออาศยั บา นญาตหิ รอื บา นเพอ่ื นทเ่ี คยสนทิ สนม กนั มาอยางดี แตไมมีใครยอมใหอยอู าศัย (7.) นอกจากสาเหตุตาง ๆ ดังกลาวมาแลว มีอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำใหเพิ่ม ความทุกขมากยิ่งขึ้นไปอีก คือเร่ืองการมีหนี้สิน ผูสูงอายุบางคนท่ีกูหนี้ยืมสินเขามา ใชแ ลว ไมอ าจหาเงนิ มาใชห นไ้ี ด คา งหนเ้ี ขามานานจนเงนิ ทเ่ี ปน หนร้ี วมทง้ั ตน และดอกเบย้ี มากกวาเงินกูยืมหลายเทา ยิ่งอายุมากก็ย่ิงหาเงินมาใชหน้ีไมได จนบางทีก็เปนภัยตอ ชีวิตความเปนอยูข องตัวไดมาก 2. ความทุกขเนอื่ งจากโรคภยั ไขเจ็บ เม่ือคนเรามีอายุเขาสูวัยสูงอายุ ก็อาจพูดไดวามีโรคหลายโรคอยูในตัวแลว โดยเปนโรคทีเ่ กดิ จากความเสอ่ื มของรางกาย ทีช่ าวบา นเรียกกนั วา “โรคคนแก” น้นั เอง อยา งเชน ฟนหัก ตามัว หูตงึ ปวดเขา ปวดหลัง ปวดเอว ฯลฯ เหลานี้ เมือ่ เกิดขึ้นกบั ผใู ด กจ็ ะพูดวา เปน โรคคนแก เราควรจะไดรูและเขาใจวา คนแกเมื่อเจ็บปวยอยางใดแลว ไมใชจะเกิด โรคนน้ั โรคเดยี ว แตม โี รคหลายโรครว มดว ย เพราะมโี รคความเสอ่ื มอยกู อ นแลว หลายโรค โรคความเส่ือม (หรือ..โรคคนแก) ที่มีอยูแลวนั้น จะทำใหโรคท่ีเกิดข้ึนใหม เกิดปญหา มากยงิ่ ข้นึ โรคท่ีจะเกิดข้ึนกับผูสูงอายุมีไดมากเหมือนกัน โรคที่เกิดขึ้นและพบไดบอยๆ อาจมไี ดดังนี้ 43

(1.) อบุ ตั เิ หตตุ า ง ๆ ..เมอ่ื เกดิ ขน้ึ แลว จะทำใหม บี าดเจบ็ มบี าดแผล เสยี เลอื ด และกระดูกหัก อุบัติเหตุท่ีมีบอยก็คือ หกลม ไฟไหมน้ำรอนลวก อุบัติเหตุในหองน้ำ อบุ ัตเิ หตุในทองถนนจากยวดยานตา ง ๆ และกระดกู หัก (2.) โรคหวั ใจและหลอดเลือด.. มไี ด เชน โรคกลา มเนื้อหัวใจอักเสบเร้อื รงั โรคความดันโลหติ สงู โรคหลออดเลอื ดดำขอดท่ขี า โรคหลอดเลือดแขง็ ซึง่ มีอันตรายมาก เมือ่ เกิดหลอดเลือดแดงแขง็ ท่หี ลอดเลอื ดสมอง หวั ใจ ไต ตบั ออ น แขน ขา (3.) โรคระบบหายใจ ไดแ ก หลอดลมอักเสบเรอ้ื รัง โรคถงุ ลมพอง (4.) โรคเลือดจาง (5.) โรคขาดสารอาหาร (6.) โรคเบาหวาน (7.) โรคขอ เชน โรคเกาท โรคขอเสอื่ ม (8.) โรคเนื้องอก โรคมะเรง็ ของอวยั วะตา ง ๆ (9.) โรคอมั พาต และความพิการ (10.) โรคตา หู คอ จมูก (11.) โรคจิตในวัยสงู อายุ เม่ือผูสูงอายุเกิดโรคใดโรคหน่ึงแลวก็เทากับมีโรคหลายโรคเกิดขึ้น โดยมีโรคของ ความเสื่อมแทรกซอนอยดู ว ย เปนการเพ่ิมปญ หามากขึน้ กย็ งิ่ มที กุ ขม ากขน้ึ ผูสูงอายุเมื่อเจ็บปวยอยางใด ยอมไมอาจทนตอโรคไดดีอยางคนอายุนอยๆ โดยจะทนไมไดด เี มือมไี ขส งู เม่ือรา งกายขาดนำ้ ขาดอาหาร ขาดเกลอื แร ฯลฯ เมอ่ื มกี าร ขาดตาง ๆ ดังกลาว หรือมีไขสูงมาก ความตานทานโรคของรางกายจะยิ่งลดนอยลง โรคจะยิ่งหนักข้ึน ผูสูงอายุมักจะเกิดโรคแทรกซอนงายและโรคก็ย่ิงหนักมากขึ้นอีก เม่ือเกิดโรคแลว การหายจากโรคของผูสูงอายุยังหายไดชากวาคนอายุนอยอีกดวย จึงทำใหสญู เสยี เวลา เสยี การเงนิ ท่ีเปน คาใชจ า ยในการรกั ษาและอื่น ๆ มาก ก็ยอ มเปน ทุกขม ากย่งิ ขนึ้ ไปอีก เม่ือผูสูงอายุเจ็บปวยไมสบาย บางคนไมยอมท่ีจะบอกใครใหรูวาตัวปวย ตอเม่ือ อาการหนักมากแลว จึงจะบอกกลาวใหลูกหลานรูหรือลูกหลานสังเกตรูเอง การรักษา โรคน้จี งึ มกั จะไดเริ่มรักษากันกเ็ มื่อโรคเปน มากหรืออาการหนกั แลวเสมอ การทผี่ สู งู อายไุ มย อมบอกใครเมอ่ื ตวั เจบ็ ปว ยนน้ั มเี หตผุ ลตา ง ๆ เชน ตวั คดิ เอาเอง วาตัวไมสบายเล็กนอย หรือตัวเปนโรคธรรมดา ๆ ท่ีจะหายเองได ไมตองกวนใจ 44

บอกลูกหลาน หรอื ใครหรอก เจ็บปวยแคน บ้ี อกใหเขาหว งหรือรำคาญใจเปลา ๆ บางคน กค็ ิดวา .. “แกม ากแลว ถงึ รักษาหายได จะอยูรอดไปก็ไมน านหรอก” หรือบางคนคิดวา “รักษาแลวจะตองเสียเงินมากเสียดายเงิน” บางคนพูดบนแสดงความนอยใจ ความผิดหวัง หรือมีอารมณไมดีอยางใดอยูในใจโดยพูดวา.. “ปวยไขชางมันเถอะ ตายเสียไดกด็ ี จะไดพ นทุกขห มดเวรหมดกรรมไปเสยี ที” ความทุกขเม่ือเจ็บปวยที่จะเปนปญหาไดมากอยางหนึ่งก็คือมีโรคที่มีความพิการ เกิดขน้ึ อยางเชน มีอัมพาตเกิดข้ึน โดยท่ีชวยตวั เองไมได หรอื พอจะพง่ึ ตวั เองทำอะไร ๆ ไดบาง แตตองพ่ึงคนอื่นตองยุงยากลำบากมาก และถาขาดคนชวยเหลือดูแลก็จะเปน ทกุ ขอ ยา งมากยิง่ เมื่อยามเจ็บปวยแลว จะเกิดทุกขมากยิ่งขึ้นไปอีก ถาหากไรญาติขาดมิตร เปนโสดหรือมายไมมีลูกหลานที่จะชวยดูแล คอยพูดคุยใหกำลังใจ ไมมีใครมาเย่ียม ตอ งนอนปว ยอยดู ว ยความวา เหว หวาดระแวง เศรา เสยี ใจในตวั เอง กย็ ง่ิ เพมิ่ ทกุ ขม ากขน้ึ ความทุกขจะยิ่งยากข้ึนเม่ือเจ็บปวย ถาขาดเงินท่ีจะใชจายในการรักษาหรือ ขาดญาติพนี่ องลูกหลานทจี่ ะชวยเหลอื ทางการเงินอกี ดวย 3. ความทุกขเน่อื งจากจติ ใจและอารมณข องผูส ูงอายุเอง ความทุกขซ่ึงเกิดจากการมีจิตใจและอารมณผิดปกตินี้จะกอใหเกิด ความทกุ ขแกต นไดมาก แลวยังจะใหเกิดปญ หาในครอบครัวและสงั คมของตัวไดม ากดวย ผสู งู อายหุ รอื คนแกจ ะมคี วามทกุ ขค วามสขุ อยา งไร มากนอ ยแคไ หน ขน้ึ อยกู บั การมีสขุ ภาพจิตของคนแกเองวา มดี ีหรอื ไมดี เพียงใดเปนสำคัญ สขุ ภาพจิตของผูสูงอายุ มีรากฐานเริ่มมาแตเปนเด็กเล็ก ๆ แลว โดยที่ความทุกขใจจะมีตั้งแตเกิดและมีการสราง ขึ้นจากสภาพของครอบครัวคือสภาพของพอและแม ผูสูงอายุท่ีมีสุขภาพจิตไมดี มักจะ เกิดจากครอบครัวท่ีขาดความสุข พอแมขาดความรักใครปรองดองกัน มีแตความขัดแยง กันทะเลาะวิวาทกัน พอแมหยารางกัน หรือพอแมฝายใดฝายหน่ึงตายจากกันไปกอน เด็กท่ีขาดพอแมมาตั้งแตเล็ก เด็กท่ีขาดความรักขาดความดูแลเอาใจใสจากพอแม เด็กที่ มีแตความผิดหวังไมเคยไดรับส่ิงที่ตนปรารถนา มีแตความนอยเนื้อต่ำใจ ฯลฯ เหลานี้ ทำใหเด็กเร่ิมมีรากฐานของการขาดสุขภาพจิตท่ีดี ตอมาเม่ือเติบโตจนเปนผูใหญ และ เมื่อเขาสูวัยสูงอายุมักจะคิดไปถึงความหลงั แลว สรา งความทกุ ขใ จจากความนกึ คดิ เรอ่ื ง ความหลงั ใหต วั เอง ถา ไมอ าจปรบั ตวั ใหล มื หรอื ยอมรบั ในเรอื่ งของความหลงั โดยคดิ วา มนั เปน 45

เรอ่ื งทห่ี มดสนิ้ ไปแลว หรอื ผา นไปแลว ก็จะมีการแสดงออกดวยลักษณะคนเจาอารมณและ เกิดความทุกขใจไดอ ยา งมาก ผูสูงอายุท่ีมีความสุขใจ มักเปนคนมีสุขภาพจิตดี เปนคนท่ีเกิดมาจาก ครป รองดองดี ตวั เองก็ไดร ับความสำเรจ็ ในชีวติ การงาน หลกั ฐานมนั่ คง ครอบครัวดี มี ความภูมิใจในตัวเองในฐานะอาชีพและความเปนอยูของตัว สามารถปรับตัวใหเขาสังคม ไดด ี ผูสูงอายุทีม่ ที ุกขเนอ่ื งจากจติ ใจและอารมณของตน อาจมไี ดตา งๆ เชน ... ☺ นอยอกนอยใจในตัวเอง เม่ือคิดถึงความหลังคิดวาเม่ือคร้ังเปนเด็กน้ัน ตัวทำแตความไมดี ประพฤติไมเหมาะ ไมตั้งใจเลาเรียน ไมเชนนั้นเวลาน้ีก็จะเปนใหญ เปนโตไดดิบไดดีไปแลวหรือคิดวาตัวความรูก็ไมดี พอมีงานทำก็เกียจคราน เกะกะเกเร สรุ ยุ สุรา ย เวลามีเงนิ ไดมากกใ็ ชม ันจนหมด ไมเชนน้นั ร่ำรวยสบายไปแลว ไมม าลำบาก ยากจนอยูอยางน้ีหรอก อาจคิดเรื่องตาง ๆ ท่ีตนทำตัวไมดี มาถึงเวลานี้จึงมีแต ความผิดหวัง คิดไปแลวก็เสียใจ เสียดายในโชคชะตาของตัว คิดหนักเขา ๆ ก็เกิด ความเกลียดชงั ตัวเอง ☺ วิตกกังวลใจในสภาพของตัว โดยคิดไปวา เราน้ีแกแลว เมื่อเปนคนแก ก็คงจะไรความสามารถไปหมดทุกอยาง จะไปไหนมาไหนก็จะมีแตเช่ืองชา ยืดยาด ไมท นั คนอื่น จะทำอะไรก็มที ีทา งก ๆ เง่ิน ๆ ใครเห็นกค็ งนกึ ขนั จะตอ งอับอายขายหนา ใคร ๆ ไปหมด ☺ เศราสลด เสียใจ ในสภาพของการเปลี่ยนแปลงไปของรางกายและรูปราง ของตวั ซง่ึ เกดิ ความเสอ่ื มไป มองกระจกเหน็ หนา ตาตวั เองทไี รกย็ ง่ิ ใจหาย มหี นา แหง เหย่ี ว หนังยน ฟน หกั ผมบาง ตามวั หูตงึ เสียงแหบแหง ฯลฯ ผดิ ไปจากแตกอ น ๆ สารพดั ไมนาดู หนาตาเคยดูงาม ทาทีท่ีสงาไมเหลือไวใหเห็นเลย ยิ่งคิดย่ิงเปนทุกขสงสารตัว ย่งิ นัก ☺ เฝาแตคิดอยูตลอดเวลา ตัวกลายเปนคนไมมีคาไมมีประโยชนตอครอบครัว และสังคมอีกแลว พอแกเชนนี้ก็คงชวยอะไรใครไมไดหรือคงไมมีใครเขาอยากใหชวย เขาคงคิดวาแกแลวชวยอะไรไมไดหรอก ในที่สุดก็คิดเลยเถิดไปวาไมมีใครเขารูจักตัว ตัวขาดคนใหค วามเคารพนับถือหมดแลว ☺ เกิดความคิดวา ตัวแกแลว ใครตอใครแมแตพวกลูกหลานก็คงไมเอาใจใส ท่ีอยกู ับเขาทกุ วันนี้ พวกลกู หลานเขาคงรำคาญ คิดไปวาตัวทำใหพ วกเด็กตอ งหวงกังวล 46

จากการท่ีตองมาคอยเอาใจใสดูแลตัว แลวนึกตอไปอีกวา ตัวคงจะขัดขวางความสุข สะดวกสบาย ท่ีพวกเด็กเขาควรจะไดรับอยางเต็มที่ แตตองเสียเวลาใหกับตัว ลูกหลาน อาจเบ่อื หนายรำคาญที่ตวั จะตองพ่งึ เขาไปทกุ อยาง ☺ คิดวาตัวอายุมากแลว ผานโลกมามาก ตัวรูดีหมดทุกอยาง เม่ือตัวพูดหรือ ทำอยางไรแลวตองถูกเสมอ ความคิดความเห็นของตัวตองถูกหมด ไมยอมทีจะรับรูหรือ เห็นดวยกับความเห็นใคร โดยเฉพาะความเหน็ ของลกู หลาน หรอื เด็กรุนหลงั เมือ่ ตนพูด แนะนำออกความเห็น หรือทำอยางใดไปแลว ถา ลกู หลาน มคี วามเห็นมขี อ ขัดแยง หรือ สงสยั อยา งใด จะไมพ อใจและโกรธเคอื งอยา งมาก กลา วหาวา พวกเดก็ ไมเ คารพนบั ถอื ตวั ☺ เมื่อลูกหลานไมไดอยูรวมบาน ไมวาจะเปนเวลาเพียงช่ัวคราวหรือเปน เวลานาน ๆ โดยที่มภี ารกิจจะตองทำและตองไปคา งอยตู างเมอื งตา งจงั หวัด หรอื จำเปน ตองพาครอบครัวยายไปอยูท่ีอ่ืน เพื่อปฏิบัติงานของราชการ องคการ หรือบริษัท หรือ จำเปน ตอ งไปประกอบอาชพี อยา งใด ผสู งู อายไุ มย อมรบั สภาพความเปน จรงิ แตก ลา วหาวา พวกลกู หลานรำคาญและไมเ อาใจใสจ งึ ไดท อดทงิ้ ตวั และหนไี ปอยเู สยี หา งไกล ไมไ ดห ว ง และเหลียวแลตัวเลย ☺ เอาแตใ จตวั ไมยอมฟง ใคร ไมเ ช่ือใคร ไมเขาใจใคร ไมเ ขาใจลกู หลานตวั วา อยางไรจะตองเปน อยางนั้น ☺ ตลอดมาทุกวันทกุ เวลา เฝาแตคิดถึงปญ หาตาง ๆ ที่เกิดข้นึ กบั ตวั หรือคดิ วา อาจเกิดปญหาข้ึนมากับตัว ซ่ึงอาจจะเปนปญหาสวนตัว ปญหาครอบครัว ปญหาธุรกิจ การงาน ปญ หาทางเศรษฐกจิ การเงิน หรือปญหาสงั คม คิดไมต กคิดแลวคดิ อีก แลวเกบ็ ความทุกขไ วใ นใจตวั ไมพ ดู ไมบ อกหรือปรกึ ษาใคร ☺ เกิดความเศราสลด ซึม หงอยเหงา วาเหว โดยท่ีคิดอยูตลอดเวลา ถึงพวก ญาติพ่ีนองเพ่ือนสนิท คนที่เคยรูจักกันดีและคนอายุรุนราวคราวเดียวกันตางก็ลมหาย ตายจากกนั ไปทกุ ที คิดขึน้ มาแลว ก็เกดิ หวาดระแวง กังวลใจ และวติ กไปตางๆ วา ใกลจ ะ ถึงเวลาส้ินสดุ ของตนแลว เกดิ หว งหนา หว งหลงั คดิ ไปตา ง ๆ นา ๆ จนเกิดทกุ ขใ จ ☺ เก็บตวั อยแู ตในบาน ไมยอมไปไหน ไมค บหาสมาคมกบั ใคร แมแตญ าติและ เพ่ือนสนิทไมติดตอ ไมไปมาหาสูกันอยางแตกอน รูจักโลกภายนอกนอยลง ๆ ทุกที ไดพบเห็นผูคนนอยลง ๆ ขาดเพื่อน วาเหว เปลาเปลี่ยว เหมือนกับวาตัวอยูคนเดียว ในโลก 47

☺ แกแลวยังมีความโลภ อยากมีอำนาจเปนใหญเปนโต อยากไดเงินทอง ทรัพยสินสิ่งมีคามหาสมบัติ ยังคิดการใหญ แสวงลาภยศอิทธิพล ช่ือเสียง อิจฉาริษยา คนอ่นื กลวั ไปวาจะย่งิ ใหญกวาตวั ☺ ยังมีความตระหนี่ถ่ีเหนียว ช่ืนชมอยูกับเงินที่เก็บไว ไมยอมใชเงินเพ่ือบำรุง ความสุขในบ้ันปลายชีวิตของตัว ถาจะตองเสียเงินแมแตซ้ือหาของกินของใชสำหรับตัว ก็เสียดาย เมอื่ เจ็บปวยกก็ ลวั วาจะตอ งเสียเงนิ ไปเปนคารักษา ☺ ระแวงอยตู ลอดเวลาวา จะมคี นคอยปองรา ย หรอื อยากใหต วั ตายไปเสียเร็ว ๆ จะไดครองสมบตั ขิ องตน ☺ แกแ ลว ยังมีแตค วามหลงผิด เกลยี ดชงั อจิ ฉารษิ ยาคนอน่ื ☺ เฝาแตวิตกหวาดกลัววาตัวจะตองเจ็บปวยทรมาน กลัววาตัวจะตองตาย อาลยั อาวรณท รพั ยส มบัติท่หี ามาไว หวงใยลูกหลานท่อี ยูข างหลัง ที่กลาวมาน้ัน เปนเรื่องความผิดปกติของจิตใจและอารมณคนแก ซึ่งทำใหคนแก มที กุ ขมาก เมือ่ เกดิ อารมณ จติ ใจ ตามตัวอยา งดังกลาว สภาพจติ ใจของคนแก ยังอาจ มีไดตาง ๆ อีกมากท่ีจะทำใหเกิดทุกข มีสุขภาพจิตเสื่อมไปได ผูสูงอายุท่ีเกิดโรคจิต โรคประสาท เหตเุ พราะความทกุ ขจ ากจติ ใจ อารมณข องตวั นก้ี ม็ ไี ดม ากเหมอื นกนั ผูสูงอายุจะตองรูตองเขาใจและยอมรับสัจจะธรรมของชีวิตวา คนเราจะตองมี การเกิด แก เจ็บ และตาย ซึ่งไมอาจหนีพนธรรมชาติของชีวิต ถึงอยางไรเราก็จะตอง เปนคนแก ใคร ๆ กต็ องแกท้งั น้ัน แตเ รากค็ วรคดิ วาเราจะตอ งเปนคนแกท่มี ีความสุข เมื่อไดร ูถึงสาเหตทุ ี่ทำใหค นแกมที กุ ขแ ลว คนแกก ค็ วรทจี่ ะหาทางแกไ ข เตรยี มตัว ท่ีจะกระทำตัวใหมีความสุขในบ้ันปลายชีวิต คนในครอบครัว คนของสังคม รวมท้ัง ผมู หี นา ทใ่ี นการบรหิ ารงานประเทศ จะตอ งรว มมอื กนั ดแู ล และชว ยใหค นแกม คี วามสขุ ดว ย ผูท่ียังมีอายุนอย ยังไมแก ควรจะมีสำนึกเอาไวเสมอวาตัวก็จะตองเปนคนแก ในวนั หนา จะตองเตรียมตัวเตรียมใจท่ีจะรับสภาพคนแก และตองเปนคนแกท่ีมีความสุข ควรจะคิดเอาไวเสียกอนนาน ๆ กอ นจะถงึ เวลาทีจ่ ะตอ งเกษียณการงาน กอ นจะถงึ เวลา ท่ีจะทำการงานนอยลง คิดเสียกอนเม่ือจะตองหยุดงานอาชีพท่ีทำมาเปนประจำแลว จะมีงานอยางใดทำ เพ่ือใหตัวเองยังมีงานทำ ไมใชวาจะอยูนิ่ง ๆ เพราะการมีงานทำ จะชวยใหจ ิตใจเปนสุข รสู ึกวาตัวยังเปน คนมคี า มปี ระโยชน ไมว า เหว และยังคงมีรายได ใหต นไดใชจายเอง โดยไมต อ งพ่งึ ลกู หลานหรอื ใครอื่นมากนัก 48

เมื่อยังหนุมสาว ยังมีเรี่ยวแรงทำงาน ขยันทำกิจการงาน รูจักหาเงินรูจักใชเงิน รูจักการประหยัดและเก็บเงิน ตองมีเงินสะสมท่ีจะเก็บไวใชในวันขางหนาเม่ือแกแลว นอกจากน้ันตองคิดใหจงหนักวา.. “เราจะตองมีบานของเราเอง” ตองสรางบาน ใหม ่นั คง และสรา งครอบครวั ท่ดี ีทสี่ ุด ผูส ูงอายจุ ะตองมงี านทำบาง มีเงินพอใชของตน มเี พอ่ื นและเขา สงั คมได ยังตอ ง ทำตนเปน คนมคี า มปี ระโยชนต อ สงั คม เสรมิ สรา งสขุ ภาพจติ ใหด ี และเปน คนอารมณด เี สมอ “กอนเปนผูส ูงอายุ วางแผนชวี ิตเอาไวลางหนา เพ่ือจะไดเปนคนแกท ไ่ี มมที กุ ข เปนคนแกท ีม่ แี ตค วามสขุ กอนจากโลกน้ไี ป” “ลาโรงสงทา ย” รำพึงคำนึงคิดถึงตัวเองหลังสองกระจก กลายเปนนึกถึงเร่ืองสภาพของคนแก ทเี่ ปลย่ี นไป เพราะความเสอ่ื มของรา งกายและจติ ใจ แลว ยงั เลยไปถงึ เรอื่ งคนแกม ที กุ ขอ กี ดว ย ไปไกลมากพอดู หวนกลบั มาคำนึงถึงตวั เองอกี สักนดิ เถอะ หวนคิดไปถึงชีวิตท่ีผานมา 80 กวาป เขาระยะครบ 7 รอบอายุ แลวนึกขัน อะไรกนั เวลามนั ชา งผา นไปรวดเร็วเสียจริง ๆ แผลบ็ เดียวแท ๆ ดวยเวลาทั้งหมดที่ผานไปจนถึงเวลานี้ เกิดความคิดแตเพียงวา เราไดเกิดมา ในโลกน้ี เราไดทำหนาท่ีตามธรรมชาติชวี ิตครบถวนสมบรู ณแ ลว เราเกดิ เราเจรญิ เตบิ โต เราไดศ กึ ษาเลา เรยี น เรามอี าชพี การงานทำ เราสรา งชวี ติ มีฐานะมัน่ คง เราไดแตง งานมคี รอบครวั เอง เรามลี กู แลว มีหลาน.. และเวลานเ้ี ราแกแลว.. พดู ไดว า ..ไดทำหนาทต่ี ามธรรมชาติสมบรู ณแลว ที่สำคญั เราไดม ีลกู หลาน คือสรางชวี ติ ใหมข ้นึ มาแทนเราใหยงั คงมนษุ ยชาตใิ นโลกนตี้ อ ไป.. ไมส้นิ สดุ เปนบุญของเราอยางมากหนักหนาแลวท่ีตลอดชีวิตท่ีผานมาจนถึงวัยสูงอายุหรือ เรียกกันงาย ๆ วา เปนคนแกแลวในเวลานี้ เรามีชีวิตท่ีราบร่ืน มีความสุข แมวาจะเกิด ความทกุ ข ความยากลำบากอยางไร ก็ถอื วา ทกุ ขเลก็ นอย นอยกวา คนอ่ืน ๆ เขามากนัก ความทุกขนั้นถึงจะมี เราก็แกไขได หรือมันส้ินสุดไปเองได หรือเราทนท่ียอมรับมันได พูดไดวา..ไมมีทกุ ข 49

เราสรางตัวของเราเอง จะคิดอยางไรทำการอยางไร เราพบแตคนมีน้ำใจดี เมตตาสงสารเรา ใหความชวยเหลือสนับสนุนเรา เราสรางฐานะและครอบครัว ใหเ จรญิ กา วหนา มน่ั คง เรารบั ผดิ ชอบใหค วามรกั ใหค วามสขุ สบายแกท กุ คนในครอบครวั เราไดทำคุณทำประโยชนใหแกเพ่ือนมนุษยและสังคมมามากดวยความตั้งใจดี เราภูมิใจ ในตัวเราเองมากพอแลวที่ตลอดชีวิตมานี้เราคิดแตพยายามจะทำความดี ไมเคยท่ีจะคิด ทำใหใ ครตองเดือดรอ น ในชีวิต เรามีความรักที่จะใหคนไดอยางครบถวน โดยที่.. “เรารักตัวเรา เรารัก คนอื่น ๆ และเรารักสงั คมเรา” เวลาน้ีความสำนึกของเรามีอยางหน่ึงที่คงจะเหมือนความนึกคิดของคนแก ท้งั หลาย เปน ความนึกคิดทไ่ี มเคยเกิดขึ้นเลย มามอี ายุมากขน้ึ ๆ จงึ ไดค ิด เกดิ “วติ กกงั วล” ไปเองวา ยง่ิ อายมุ ากขน้ึ ยิ่งจะพบความเหงา เมอื่ ปลดเกษยี ณอายรุ าชการนน้ั ยงั มงี านทำสว นตวั มแี รงกายแรงใจทจี่ ะทำงานได ไมคิดอยา งใดอ่ืนเลย มาตอนนี้ มันคิดข้ึนมาเอง คิดวาวันขางหนาสักวันใดวันหนึ่ง เราอาจตอง หยุดทำงานตองอยูบาน พอรุงเชาพวกลูกหลานก็คงออกจากบานไปทำงานกันหมด เราตองอยูบานคนเดียวตลอดวัน พวกลูกหลานกวาจะกลับบานก็คงค่ำมืด ซ่ึงเราคง หลับไปแลว หรือเขา หองนอนแลว เราอยูคนเดียวเราจะทำอะไร จะพูดคุยกับใคร ถาอานหนังสือคงอานไดไมนาน เขยี นหนังสือก็ช่วั ครู ไมมลี กู หลานอา นใหฟ ง ไปไหน ๆ กค็ งไมไหวแลว คงเหงาพอดู แต..ชางมันเถอะ น่ันมันเรื่องวันขางหนา มันอาจไมเปนอยางนั้นก็ได เอาละ.. คอยคดิ แกเ หงาภายหลงั แตเ วลานี้ ก็เรมิ่ เหงาและรำคาญใจแลว ถาอยเู ฉย ๆ เพราะกลางวนั ใคร ๆ ก็ไป ทำงานหมด เด็กก็ไปโรงเรยี น เวลานท้ี กุ ๆ วนั กพ็ ยายามหลกี เลยี่ งความเงยี บเหงาวา เหว ยงั พยายามทำเหมอื น กับวายงั ทำงานอยเู หมอื นเดมิ ๆ ตั้งแตเ ชา ใหรถยนตม าสง โรงพยาบาลกรุงเทพ ขอหองทำงานสว นตัวเขา 1 หอ ง สำหรบั อา นหนงั สอื เขยี นหนงั สอื กนิ อาหารกลางวนั และงว งนอนเมอื่ ใดกน็ อนบนเกา อย้ี าว นอนอยางเปนสขุ เลย 50

ระหวางที่ไปถึงโรงพยาบาลกรุงเทพ ทักคนนั้น คุยคนน้ี ยั่วคนโนน เดินเลนไป ตามสะดวกท่ัวไป เม่ือยนักก็หลบเขาหอง เบ่ือหองก็ออกคุยกับใครตอใครท่ีผานไป ไมมีเหงา บาย 2 โมงคร่งึ รถยนตม าสงท่ีคลนิ กิ ไดเ วลาราวบา ย 3 โมง แมวาเวลานี้คนไขมาหาลดนอยไปกวาแตก อ นกส็ บายใจ มคี นไขก็ไดคุย คนไขเกากค็ ุยหยอกลอ เปนกันเอง ไมมีคนไข ก็นั่งเลนมองคลินิก และนึกถึงวาคลินิกน้ีไดใหความรู ความสุข ความตื่นเตนและสารพัดเหตุการณมาตั้ง 50 กวาปแลว คิดแลวก็มองดูคลินิกไดอยาง คร้มึ ใจ ตกเยน็ 6 โมงคร่ึง..ใกล ๆ ทุม ลูกหลานคนไหนวา ง เขากม็ ารับกลับบา น กนิ ขาว อาบน้ำ เขาหอ งนอน..หลับบาง ต่นื บา ง ก็ชา งมัน ไมมีอะไรจะตอ งหวง ตนื่ นอนตี 5 ครง่ึ วนั อาทติ ยต น่ื ตี 5 อาบนำ้ แตง ตวั เพอื่ ใหท นั ใสบ าตรเปน ประจำ เสาร – อาทติ ย ตอนเชา ไปอยูที่คลินิกครึง่ วัน ครึ่งวนั บาย – นอน หมดไปวนั หน่ึง ๆ ไมม ีเหงาไมมวี าเหว คิดถึงตัวแลวทุกวันน้ี ชีวิตก็ราบร่ืนดีแลวจะเอายังไงอีกในเม่ือ... “กินได นอน สบาย ถายสะดวก” อยแู ลว และเวลาน้ตี วั อายมุ ากแลว ก็ไดย ดึ มัน่ อยูกบั การปฏบิ ตั ิตวั 3 ประการ “อยาทำยุงมาก อยา พดู มาก อยา คิดมาก” เอาละ... มองตวั เองพอแลว 51


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook