Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore น้ำเต้า

น้ำเต้า

Published by dog_2521, 2020-06-10 07:10:22

Description: น้ำเต้า

Search

Read the Text Version

สง่ เสริมการอา่ นออนไลน์ รวบรวมขอ้ มลู โดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอครุ ะบรุ ี กศน.อาเภอครุ ะบรุ ี สานักงาน กศน.จงั หวดั พงั งา นา้ เต้า น้าเตา้ ชอ่ื สามัญ Bottle gourd, Calabash gourd, Flowered gourd, White flowered gourd น้าเตา้ ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Lagenaria siceraria (Molina) Standl. (ชื่อพอ้ งวทิ ยาศาสตร์ Lagenaria leucantha Rusby, Lagenaria vulgaris Ser.) จัดอยู่ในวงศ์แตง (CUCURBITACEAE) สมนุ ไพรนา้ เตา้ มีชื่อทอ้ งถนิ่ อ่นื ๆ วา่ มะ น้าเต้า (ภาคเหนือ), คิลสู า่ คูลสู า่ (กะเหรยี่ ง- แมฮ่ อ่ งสอน), ลนุ้ ออก แผละลนุ ออ้ ก (ลวั้ ะ), Dudhi Lauki (อินเดีย), หมากนา้ , นา้ โตน่ เปน็ ตน้

ลกั ษณะของต้นนา้ เตา้ ต้นน้าเตา้ มถี ิ่นกา้ เนิดทางทวีปแอฟรกิ าตอนใต้ โดยจัดเป็นไม้เถาลม้ ลกุ อายุปเี ดียว หรอื อาจขา้ มปี เล้ือยตามพ้นื ดนิ หรือไต่พันกับตน้ ไมอ้ ่นื ลา้ ต้นแข็งแรง ลา้ ตน้ มมี อื ส้าหรับใช้ยดึ เกาะตน้ ไม้อื่น ๆ ตามเถามีขนยาวสขี าว ขยายพนั ธโ์ุ ดยใชเ้ มล็ด ชอบ ดินร่วนระบายนา้ ได้ดี สามารถพบได้ทัว่ ทุกภาคของประเทศไทย น้าเต้านน้ั มอี ยู่ หลายสายพันธุ์ เชน่ นา้ เตา้ ทีล่ กั ษณะเปน็ น้าเต้าทรงเซียน ชนดิ นนี้ ยิ มน้ามาท้าเป็น เครือ่ งประดับ เราจะเรยี กวา่ \"นา้ เตา้ พืน้ บ้าน\" หรอื อกี ชนิดมีลักษณะของผลคลา้ ย กับนา้ เตา้ พน้ื บา้ น แตเ่ นื้อ ตน้ และใบมีรสขม ก็จะเรียกว่า \"นา้ เตา้ ขม\" (ชนดิ นี้หา ได้ยากและนา้ มาใช้ท้าเป็นยาเท่าน้นั ) แตถ่ ้าผลมีลกั ษณะกลมเกล้ียงไมม่ ีคอขวดจะ เรียกว่า \"น้าเตา้ \" หรอื หากผลกลมยาวเหมือนงาชา้ งจะเรยี กว่า \"น้าเตา้ งาชา้ ง\" เปน็ ตน้ ใบนา้ เตา้ ใบเปน็ ใบเด่ียว ออกเรยี งสลบั กัน ลกั ษณะของใบเปน็ รูปหา้ เหลีย่ ม ขอบ ใบหยกั เวา้ เป็นแฉก 5-7 แฉก โคนใบเว้าเขา้ ถงึ เสน้ กลางใบ เสน้ ใบด้านล่างนนู เดน่ ชดั ใบมขี นตลอดท้ังใบและกา้ นใบ กา้ นใบยาวประมาณ 5-30 เซนตเิ มตร มี ต่อมเทยี ม 2 ต่อม ซ่งึ อยตู่ รงรอยต่อระหวา่ งกา้ นใบกับแผ่นใบ

ดอกนา้ เตา้ ออกดอกเป็นดอกเด่ยี วตามซอกใบ ดอกเพศผู้และดอกเพศเมยี จะอยู่ บนตน้ เดียวกนั กลีบดอกเป็นสีขาว โดยดอกเพศผู้ (รูปท่ี 2) กา้ นดอกจะยาว ประมาณ 5-25 เซนติเมตร มีกลีบรองดอกเช่อื มติดกนั เป็นรปู ระฆัง ปลายแยกเป็น แฉกแหลม 5 แฉก ยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร ส่วนกลีบดอกเป็นสขี าวมี 5 กลบี ไมต่ ิดกัน ลกั ษณะเปน็ รปู ไขก่ ลับ มีขนาดกวา้ งประมาณ 2-4 เซนตเิ มตรและ ยาวประมาณ 2.5-5 เซนติเมตร กลบี ดอกมีขน มลี กั ษณะบางและยน่ มเี กสร 3 กา้ น กา้ นเกสรไม่ตดิ กัน อับเรณเู ป็นสีขาวอยู่ชิดกัน สว่ นดอกเพศเมยี (รูปท่ี 3) มี ลักษณะท่ัวไปคล้ายกบั ดอกเพศผู้ แต่ตา่ งกนั ทีจ่ ะมีผลเลก็ ๆ ติดอยทู่ ีโ่ คนดอก โดย กา้ นดอกจะสน้ั และแข็งแรง ยาวประมาณ 2-5 เซนติเมตร และกา้ นจะยาวขึ้นเมอ่ื รังไขเ่ จรญิ เติบโตไปเปน็ ผล ดอกไม่มเี กสรเพศผเู้ ทียม มรี ังไข่ยาวประมาณ 2.5-3 เซนตเิ มตร มีขนสขี าว ทอ่ รงั ไข่ส้นั ปลายแยกเป็นแฉกหนา ๆ 3 แฉก[1],[2],[3] ผลนา้ เตา้ หรอื ลกู น้าเต้า ผลน้าเตา้ มีรูปร่างและขนาดที่แตกตา่ งกันออกไปตาม สายพนั ธุ์ เช่น ทรงกลม ทรงกลมซ้อน ทรงกลมหวั จุก ทรงยาว ทรงแบน เป็นรูป กระบอง หรือเปน็ รปู ขวด มคี วามยาวต้งั แต่ 10-100 เซนติเมตร แต่โดยทัว่ ไปแล้ว ผลจะมลี กั ษณะกลมโต มีขนาดประมาณ 15-20 เซนตเิ มตร คอดกว่ิ บริเวณยอด โคนข้ัวคอดคดงอ

หรอื ขดเป็นวงผิวผลเกลยี้ ง เรยี บ และเนียน เปลอื กผลแข็งและทนทาน ผลออ่ น เป็นสีเขยี ว ก้านผลยาว ภายในผลมเี มลด็ จ้านวนมาก วางตวั แนวรัศมี เมล็ดมี ลักษณะเป็นรูปทรงแบนป้านคล้ายเลบ็ มอื สว่ นปลายมีตง่ิ ยื่น 2 ขา้ ง เปน็ สีขาวหรอื สีน้าตาลอ่อน และมีแถบสีน้าตาลเข้มพาดตามยาวของเมลด็ คณุ ค่าทางโภชนาการของใบน้าเต้าออ่ นตอ่ 100 กรัม พลงั งาน 27 แคลอรี คารโ์ บไฮเดรต 4.1 กรมั โปรตนี 5.1 กรมั ไขมนั 0 กรมั ใยอาหาร 1.5 กรัม นา้ 90.1 % วติ ามินเอ 15,400 หน่วยสากล วติ ามินบี 1 0.05 มลิ ลิกรมั วติ ามนิ บี 2 0.06 มิลลกิ รมั วติ ามนิ ซี 95 มลิ ลิกรัม ธาตุแคลเซียม 56 มลิ ลกิ รมั ธาตเุ หลก็ 11.5 มลิ ลกิ รัม ธาตฟุ อสฟอรัส 140 มลิ ลกิ รัม แหล่งทีม่ า : กองโภชนาการ กรมอนามัย. ตารางแสดงคุณค่าอาหารไทยในสว่ นทีก่ ินได้ 100 กรมั

คุณค่าทางโภชนาการของผลน้าเตา้ ออ่ น ต่อ 100 กรัม พลงั งาน 10 แคลอรี คาร์โบไฮเดรต 2.2 กรัม โปรตนี 0.3 กรัม ไขมนั 0 กรัม ใยอาหาร 1.7 กรมั น้า 96.8 % เถ้า 0.3 กรัม วิตามนิ เอ 391 หน่วยสากล วติ ามินบี 1 0.02 มลิ ลิกรมั วิตามนิ บี 2 0.04 มิลลกิ รัม วติ ามนิ บี 3 0.1 มิลลิกรัม วติ ามนิ ซี 12 มิลลิกรมั ธาตุแคลเซียม 14 มลิ ลิกรมั ธาตุเหล็ก 0.1 มลิ ลกิ รัม ธาตฟุ อสฟอรสั 1 มลิ ลกิ รัม แหลง่ ท่มี า : กองโภชนาการ กรมอนามัย. ตารางแสดงคณุ คา่ อาหารไทยในสว่ นทีก่ ินได้ 100 กรัม. ข้อควรระวัง : การรับประทานผลน้าเต้าสกุ จะท้าใหอ้ าเจียน มีอาการปวดทอ้ ง ท้องเดนิ จึงใหใ้ ช้ผลอ่อนเปน็ ยาแทน

แหล่งทพี่ บ น้าเต้า (bottle gourd) จะเหน็ วา่ น้าเต้าสามารถปลูกท่ีใดก็ไดท้ ่มี ี ความอดุ มสมบรู ณ์ของดนิ และถา้ นา้ ไป ปลกู กจ็ ะขึ้นอยู่กบั ผทู้ ี่ปลกู ว่ามีการ ดูแลรักษามาก น้อยเท่าใด นยิ มใชเ้ มล็ดในการขยายพันธ์ุ การปลกู นา้ เต้า (bottle gourd) จะตอ้ งเตรยี มดนิ ใหม้ กี ารไถพรวน และยกรอ่ งแปลงปลกู กว้าง ประมาณ 4 เมตร จะนิยมขุดหลมุ ปลูกให้กวา้ ง 15-20 เซนติเมตร ลกึ 2-3 เซนติเมตร ขดุ กลมุ ห่างกัน 2 เมตร แล้วนา้ ปยุ๋ คอกหรือป๋ยุ หมักมารองกน้ หลมุ หลงั จากน้นั กห็ ยอดเมล็ดลงในหลมุ ปลกู ที่เตรยี มไว้ ในพน้ื ทปี่ ลูก 1 ไร่ จะใช้ เมลด็ น้าเต้าจ้านวน 1.5 กโิ ลกรมั หยอดหลุมละ 2-3 เมล็ด กลบด้วยดนิ รว่ นให้ มีความหนาประมาณ 1-2 เซนตเิ มตร น้าฟางข้าวแห้งหรือหญา้ คาคลุมบนหลมุ เพือ่ รักษาความชื้นในดินใหม้ ากทสี่ ุด หลังจากนั้นรดน้าใหช้ ่มุ ไปเรอื่ ย ๆ ประมาณ 7- 10 วนั จนกว่านา้ เตา้ จะงอก หมนั่ ดแู ลหากต้นน้าเต้าข้นึ มา ทง้ั หมดใหถ้ อนทิ้งใหเ้ หลอื เพียง 2 ต้นกพ็ อ เพ่ือให้เจรญิ เตบิ โตเต็มท่ี

การดแู ลรักษา น้าเตา้ (bottle gourd) หลังการปลูก น้าเตา้ เปน็ พชื ท่มี ีระบบราก ตนื้ ตอ้ งการความชนื้ ปานกลาง หลังจากต้นโตให้รดน้าประมาณ 3-5 วนั /ครัง้ แตก่ ข็ นึ้ อยู่กบั สภาพของ ดนิ ปลูก ว่ามีความแห้งแลง้ เพียงใด ถ้าอากาศร้อน มาก ๆ ดนิ ปลูกเรม่ิ แหง้ กต้ อ้ งรดน้าใหถ้ ่ขี นึ้ แตต่ ้องคอยดไู ม่ใหด้ นิ แฉะมาก เกนิ ไป อาจทา้ ให้เกิดโรครากเน่า หลงั ปลกู ไปได้ประมาณ 25-30 วนั หรอื เร่ิมมี ใบจรงิ 4-5 ใบ จงึ เร่มิ ใส่ปยุ๋ สูตร 16-20-0 ในอตั รา 20 กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ ใส่ บรเิ วณโคนตน้ ไมค่ วรพรวนดนิ ให้ลึกเกินไป เพราะอาจเกิดความเสียหายตอ่ ระบบรากไปจนถึงตน้ เลยทีเดียว การกา้ จัดวัชพชื ควรจะมกี ารก้าจัดวัชพืชใหน้ ้าเต้า อย่าง สม่้าเสมอและตอ่ เนื่องในชว่ งทีน่ ้าเตา้ ยงั เลก็ อยู่ เม่ือเจริญเตบิ โตเตม็ ทจี่ ะคลุม พ้ืนทีป่ ลูกท้ังหมด จะช่วยลดการกา้ จดั วชั พชื ลงไดบ้ ้างบางสว่ น โรคและแมลง นา้ เตา้ มโี รคและแมลงรบกวนคอ่ นขา้ งนอ้ ย เน่ืองจาก ใบของน้าเต้ามีกลน่ิ เหม็น แมลงไมช่ อบ มขี ้อควรระวงั อย่างเดียวคอื เร่ืองของการ ให้นา้ อยา่ แฉะเกนิ ไปจนท้าใหเ้ กดิ โรคราก-โคนเน่า การเกบ็ เกย่ี วผลผลติ นา้ เตา้ (bottle gourd) หลังจากปลูกไปแล้วประมาณ 55-60 วัน ก็ เริ่มเก็บเก่ียวผลผลติ ใหเ้ ราเลอื กผลทเี่ หมาะทจ่ี ะน้ามารับประทานมากที่สดุ ให้ สงั เกตในชว่ ง หลังดอกบาน 6-7 วนั ให้เรม่ิ ทยอยเกบ็ จะเก็บในลกั ษณะวันเว้นวนั ท้าเชน่ นี้ไปจนหมดผลผลิต

การใช้ประโยชน์ของน้าเต้า (bottle gourd) ผลน้าเต้าสามารถนา้ มารบั ประทานกับน้าพรกิ ผัดกบั หมแู ละไข่ แกงสม้ สรรพคุณทางยา ใบ แกต้ วั รอ้ น แก้รอ้ นในกระหายนา้ แก้เรมิ เปน็ ต้น คุณสมบตั ิในการใชร้ ักษาโรคของนา้ เตา้ (bottle gourd) 1. โรคเบาหวาน 2. ท่อปัสสาวะอักเสบ 3. โรคปอดอักเสบ จะใช้สว่ นที่เปน็ เปลอื กสดรับประทาน 4. แก้ปวดฝีในเดก็ โดยใชน้ ้าเตา้ หน่ั เปน็ ชนิ้ ๆ ผสมขงิ ต้มเป็นนา้ ซุป รบั ประทาน 5. โรคลกู อัณฑะบวมให้ใช้ลกู นา้ เตา้ มาตม้ รบั ประทาน 6. โรคทางลา้ คอให้ใชล้ ูกนา้ เตา้ ท่ีแก่ ๆ ตัดจกุ แลว้ ใสน่ า้ ไวร้ บั ประทานเปน็ โรคประจ้าจะสามารถป้องกันรักษาโรคทางล้าคอได้

ขอบคุณข้อมลู ภาพ https://medthai.com https://xn--72c9acray9etb5a2i5d.blogspot.com


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook