องค์ความรู้ เร่ืองการปลกู ผกั ไม้เล้ือย ในโครงการ ผักสวนครู มันเทศ Sweet potato โดยสานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จังหวัดพังงา
หวั มันเทศ มนั เทศจะลงหวั ในระดับความลกึ ไม่ เกิน 9 นิ้วโดยหัวของมันเทศจะเกดิ จากการขยายตวั ของราก ซ่ึงเนื้อเย่ือภายในรากทเี่ รียกว่า \"พาเรนไคมา\" (Parenchyma) เปน็ ส่วนท่สี ะสมแปง้ รากท่ีขยายตัวเปน็ หวั ขนึ้ มาอาจจะเกดิ จากรากของลาตน้ ทีใ่ ช้ปลูก หรอื อาจเกิด จากรากท่ีเกิดจากขอ้ ของลาตน้ ท่เี ล้ือยทอดไปตามพ้นื ดนิ กไ็ ด้ ดงั นั้นต้นมันเทศหนง่ึ ตน้ อาจจะมหี วั ไดห้ ลายหัว หรอื มากกว่า 50 หวั โดยลกั ษณะของหวั สว่ นมากจะมลี กั ษณะ เปน็ รปู ทรงกระบอก หวั เรยี ว ท้ายเรียว สว่ นตรงกลางป่อง ออก และสีผิวของหัวและสีของเนื้อในหัวจะแตกตา่ งกันไป ตามสายพันธุ์ โดยอาจจะเป็นสีแดง สีเหลอื ง สีขาว หรอื สี นวล และมักจะมรี ากแขนงเกดิ ในรอ่ งของหัว ผวิ ของหวั อาจจะเรียบหรอื ขรุขระ หัวมันเทศนอกจากจะให้อาหาร จาพวกแป้งแลว้ ยังอดุ มไปด้วยวติ ามินเอ (โดยเฉพาะในหัวสี เหลอื ง) วติ ามินบี และวติ ามนิ ซอี ีกดว้ ย
การปลกู มนั เทศ สภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสม การปลูกมนั เทศใหล้ งหัวได้ดนี ัน้ ปจั จัยที่ไมค่ วร มองขา้ มกค็ อื เร่ืองของโครงสร้างของดิน ถึงแม้วา่ มนั เทศจะ สามารถปลูกได้ในดนิ เกือบทกุ ชนดิ แต่ดินรว่ นปนทรายมี ความเหมาะสมทีส่ ุด สภาพดนิ ที่ปลกู มีผลต่อการลงหัวของมนั หรอื รูปทรงของหัวมันในสภาพดินปลกู ทม่ี ีโครงสรา้ งของดินแขง็ ดนิ แน่น และมกี ารระบายนา้ ไมด่ ี ควรจะมีการปรับปรุงแก้ไข กอ่ นที่จะลงมือปลูก สาหรบั พืน้ ทดี่ นิ ทข่ี าดความอุดมสมบรู ณ์ กอ่ นปลกู ควรใส่ปุ๋ยคอก เชน่ มูลวัว มลู ไก่ ฯลฯ ในอตั รา 1-2 ตัน หรอื ใส่ปยุ๋ คอกพรอ้ มกบั การเตรยี มแปลงเลย
วิธีการเตรยี มแปลงปลกู ให้ไถดะก่อน 1 คร้ัง และตากดนิ ไวป้ ระมาณ 7-10 วัน จากนนั้ ไถพรวนแปลง 1-2 รอบ หรอื ใช้โรตาร่ตี ดิ รถไถตี ดินให้ดนิ มคี วามละเอยี ดย่ิงขึ้น หลงั จากน้ันให้ยกรอ่ งแปลง ปลกู ขึน้ เปน็ รปู สามเหลยี่ ม กวา้ งประมาณ 50-80 เซนติเมตร สูง 30-50 เซนตเิ มตร (ความสูงของแปลงย่ิงมีความสงู ยงิ่ ส่งผล ตอ่ การลงหวั มันดี) ส่วนความยาวของแปลงปลกู ขึน้ อยู่กับ สภาพพน้ื ที่ เตรียมท่อนพันธ์ุมนั เทศอยา่ งไร ในการตดั ท่อนพันธ์ุ ควรจะตัดใหม้ ีความยาวราว 30 เซนตเิ มตร จะไมล่ ดิ ใบท้งิ หรอื ลดิ ทง้ิ ก็ได้ เนือ่ งจากยอดมนั เปน็ พืชทแ่ี ตกยอดออกมาใหมไ่ ดง้ า่ ย ถา้ ลิดใบทง้ิ กจ็ ะทาให้ เสยี เวลา แต่ยอดมนั เทศเมอื่ ลงปลกู จะตง้ั ตัวไดเ้ รว็ กว่าไม่ลดิ ใบ เมอื่ ตดั ทอ่ นพนั ธม์ุ าแล้วควรจะมดั รวมกันเปน็ ท่อนหรอื เปน็ กา เอาใบตองหรอื กระสอบปยุ๋ ห่อมดั เอาไว้ หลังจากน้นั ใหน้ า มัดท่อนพนั ธุว์ างไวใ้ นที่ร่ม รดน้า เชา้ -เยน็ ประมาณ 2-3 วัน ยอดทอ่ นพนั ธก์ุ ็จะมรี ากงอกออกมาตามข้อ แสดงวา่ ทอ่ นพันธ์ุ พรอ้ มปลูกลงแปลงแลว้ ถา้ จะใหด้ ี ทอ่ นพันธุ์มันเทศทีจ่ ะตดั ควรจะตัดจากตน้ ทม่ี ีอายุไม่เกิน 45 วัน
ระยะปลูกระหวา่ งตน้ ประมาณ 20-30 เซนติเมตร หากใช้จอบขดุ ปลกู บนสันร่อง หลมุ ทปี่ ลกู ควรมคี วามลกึ ประมาณ 10-15 เซนติเมตร ควรจะวางยอดทอ่ นพนั ธุท์ ามมุ 45 องศา ฝงั ลึก ลงดนิ 2-3 ข้อ ของทอ่ นพันธุม์ นั เทศ และใหข้ ้อโผลพ่ ้นดิน ขึ้นมา ประมาณ 2-3 ข้อ หลงั จากนั้น กลบดนิ ให้แนน่ เลก็ น้อยเพ่ือไมใ่ ห้ท่อนพนั ธโ์ุ ยกคลอน หากปลกู แบบใช้ไม้ ปลายแหลมกระทุง้ นา จะปลูกทอ่ นพนั ธุม์ ันเทศให้เป็นคบู่ น สันร่องโดยใช้ไม้แหลมกระทงุ้ นาไปก่อน ทามุม 45 องศา จากนนั้ เสยี บทอ่ นพนั ธล์ุ งดิน 2-3 ขอ้ ของท่อนมนั เทศ ใน พืน้ ที่ปลูกมนั เทศสายพนั ธ์ุตา่ งประเทศ 1 ไร่ จะใช้ท่อนพันธ์ุ มนั เทศ ประมาณ 11,000-12,000 ยอด ซึ่งพบวา่ เป็น จานวนทีใ่ ห้ผลผลติ ต่อไรค่ อ่ นข้างดี
วธิ ีการปลูกมันเทศในถุงพลาสตกิ และกระถางบรโิ ภคใน ครัวเรือน สาหรบั คนท่มี พี นื้ ทนี่ อ้ ย เปน็ ทย่ี อมรับกนั ท่วั ไปวา่ ในปจั จบุ นั นี้ การปลูก มันเทศในประเทศไทยได้มกี ารเปลีย่ นแปลงพนั ธ์ุ ได้มกี ารนา พันธุ์มนั เทศจากต่างประเทศมาปลูกในเชงิ พาณิชยก์ ันมาก ข้นึ อาทิ มันเทศเน้ือสีเหลือง เนอ้ื สมี ่วงและเนอื้ สสี ม้ จาก ประเทศญี่ปุ่น ไตห้ วัน เกาหลีใต้ เปน็ ตน้ โดยแตล่ ะสายพันธุ์ ล้วนมคี ุณคา่ ทางอาหารแตกตา่ งกนั จากข้อมลู พบว่า “มนั เทศเน้ือสีสม้ ” เป็นแหล่งของสารเบต้าแคโรทนี เมื่อ รบั ประทานแลว้ จะเปลย่ี นเปน็ วิตามินเอ จะช่วยในการ เจรญิ เติบโตของรา่ งกาย เสรมิ สร้างภมู ิคมุ้ กนั ของร่างกาย ช่วยบารุงสายตา ป้องกนั โรคตาบอดกลางคนื ลดความเสี่ยง โรคมะเร็ง นอกจากนั้น ยังอดุ มไปด้วยวติ ามนิ ซีและทา หนา้ ที่เป็นสารตา้ นอนมุ ลู อสิ ระอีกด้วย และใน “มันเทศเนอื้ สีม่วง” จะมีสารแอนโทไซยานินสงู มีฤทธใ์ิ นการต่อตา้ น อนุมลู อสิ ระ ชะลอความเส่ือมของเซลล์ ลดอตั ราเสือ่ มของ การเกิดโรคหวั ใจและเสน้ เลือดอดุ ตัน ชะลอความเส่ือมของ ดวงตา ยับย้งั เชอื้ อีโคไลซง่ึ เป็นเชอื้ ท่เี ป็นสาเหตุของอาหาร เปน็ พษิ และท้องรว่ ง ทีส่ าคญั เปน็ มันเทศท่มี ีรสชาตอิ รอ่ ย
การดแู ลรักษา การจดั ระบบนา้ ในแปลงปลูกมันเทศ โดยปกติทวั่ ไปสาหรับเกษตรกรท่ปี ลกู มันเทศท่ัว ประเทศมกั จะไม่ให้ความสาคัญในเรอ่ื งของระบบนา้ ในแปลง ปลกู ถ้าปลกู ในช่วงฤดฝู นอาจจะพ่ึงเพียงน้าฝนจากธรรมชาติ เทา่ น้ัน ถ้าปลกู ในฤดูแล้งอาจจะมีการใหน้ ้าแบบทว่ มแปลง บา้ งเท่านนั้ แตก่ ารปลกู มนั เทศสมยั ใหมค่ วรจะมีการจดั ระบบ น้าทด่ี ี ในแปลงปลูกมนั เทศสายพนั ธ์ุตา่ งประเทศของสวนคุณ ลี จะมกี ารวางระบบนา้ แบบสปรงิ เกลอร์ ซ่งึ มีรัศมีกระจายน้า ได้ 3-5 เมตร
การใหน้ ้ามันเทศ ในช่วงสัปดาห์แรกหลงั จากที่ปลูกทอ่ นมนั เทศลงดิน ไปแลว้ จะต้องมีการให้นา้ อยา่ งสมา่ เสมอ โดยเฉพาะ 3 วัน แรก จะตอ้ งใหท้ กุ วัน เชา้ -เย็น ให้ครั้งละประมาณ 1-2 ชัว่ โมง (กรณที ่ใี หร้ ะบบน้าแบบสปริงเกลอร์) หลังจากนั้น จะให้นา้ วัน เว้นวนั หรอื 3 วัน หรือ 5 วัน หรอื 7 วนั ต่อครงั้ แต่การใหน้ า้ นั้นต้องสังเกตจากความชื้นของดินเปน็ หลัก เนื่องจากสภาพพืน้ ทปี่ ลูกในแตล่ ะพ้นื ทจี่ ะไมเ่ หมือนกนั หลังจากมนั เทศอายไุ ด้ 2 เดือน ก็จะเรม่ิ หา่ งน้า เปน็ การบงั คบั ทางหนึ่งท่ใี หต้ ้นมนั เทศลงหวั ไดด้ ี อาจจะให้เดือนละ 2-4 ครั้ง ตามความเหมาะสมกบั สภาพดินของแต่ละพ้นื ที่ และควรฉีด ปุย๋ ทางใบควบคกู่ ันไป เชน่ สตู ร 0-52-34 ทุกๆ 10-15 วนั เพอ่ื ใหก้ ารลงหัวดมี ากข้นึ
การเกบ็ เกี่ยวมนั เทศ ความจรงิ แล้ว อายกุ ารเก็บเกีย่ วมันเทศเกอื บทกุ สายพนั ธุ์ จะเฉลยี่ อย่ทู ี่ 100-140 วัน หลงั จากปลกู ทอ่ นพันธุ์ ลงไป ในขณะเดียวกนั มปี จั จยั อน่ื ท่เี กีย่ วขอ้ งประกอบดว้ ย เช่น ฤดูกาลปลกู ความสมบูรณ์ของตน้ สายพันธุ์ที่ปลูก เป็น ตน้ ถ้ามกี ารบารุงรกั ษาทีด่ ี จะใหผ้ ลผลติ ไดเ้ ฉล่ยี 3,000- 4,000 กิโลกรมั ต่อพืน้ ท่ปี ลูก 1 ไร่
ทม่ี า http://thaifarmer.lib.ku.ac.th https://medthai.com ภาพประกอบจากอินเทอรเ์ นต็
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: