องค์ความรู้ เร่อื งการปลกู ผกั ไม้เลอ้ื ย ในโครงการ ผักสวนครู มะระ Bitter melon โดยสานักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย จังหวัดพงั งา
มะระ จดั เป็นพนั ธุไ์ ม้เลือ้ ยเขตรอ้ น เป็นพืชผัก อาหารทีอ่ ย่คู ู่กับคนเอเชยี มาชา้ นาน โดยมะระแบง่ ออกเป็น 2 สายพนั ธทุ์ เี่ รารจู้ กั คุ้นเคยกนั ดี น่ันก็คอื มะระข้ีนก (ซ่งึ เราได้ กลา่ วไปแล้วในบทความก่อน ๆ) และ มะระจนี (ซง่ึ จะกลา่ วใน บทความนี้) ซ่งึ เปน็ ท่ีนยิ มนามารบั ประทานมากกวา่ มะระขีน้ ก มะระ ดีตรงท่สี ามารถเกบ็ ผลผลติ ได้นานหลาย คร้งั ก็มโี อกาสท่ีจะโดนราคาหรือขายราคาแพงได้ ซึ่งโดยปกติ แลว้ มะระจะแพงชว่ งทีป่ ลกู ชว่ งแล้งประมาณเดอื น เม.ย.-พ.ค. และเกบ็ ผลผลิตเมอ่ื เข้าฝนเพราะทายาก คอ่ นข้างเส่ียง คน ปลกู น้อย เพราะมะระที่ปลูกชว่ งร้อนต้นจะไมค่ ่อยโต แคระ แกรน็ เพลย้ี ไร ไวรัสก็ระบาดหนกั กบั อีกช่วงทีม่ ะระมกั จะมี ราคาแพงกค็ อื มะระทปี่ ลูกชว่ งปลายฝนตน้ หนาวนน้ั มกั จะมี ปญั หา ยอดไม่คอ่ ยเดนิ เถามักจะเหลอื ง เสี่ยงต่อเพล้ียไฟและ ไวรัส ตน้ โทรมเรว็ เกบ็ ผลผลิตได้ไมน่ าน จึงเปน็ ช่วงทม่ี โี อกาส โดนราคา
การปลูกมะระ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มะระเปน็ พืชทีป่ ลูกง่ายชอบอากาศรอ้ น เจริญเติบโตเดยี ว เปน็ พชื ปเี ดียว ลาตน้ เป็นเถาเลอ้ื ยยาว ประมาณ 2 – 3 เมตร ปลูกได้ตลอดปี แต่จะได้ผลดีในช่วง เดือนพฤศจกิ ายนถึงกุมภาพันธ์ ขึ้นไดใ้ นดินแทบทกุ ชนิด ความช้ืนในดนิ ตอ้ งเพยี งพอ แสงแดดเต็มทต่ี ลอดวนั อุณหภูมิมีพอเหมาะ 18 ถา้ อุณหภูมเิ ย็นจดั จะทาใหก้ าร เจรญิ เติบโตของตน้ มะระช้าลง ชาวสวนมักนิยมปลกู มะระ หลงั จากเกบ็ เกยี่ วขา้ วแล้ว หากมนี า้ เพียงพอสามารถปลูกได้ ปลี ะหลายคร้งั
การเตรยี มดิน การเตรยี มดนิ และการปลูก เตรียมแปลงปลูกโดย ขุดไถดินให้ลึกประมาณ 20 – 25 เซนติเมตร เพราะมะระเปน็ พชื ทมี่ รี ะบบรากลกึ ปานกลาง ปรบั สภาพของดนิ ใหม้ กี าร ระบายนา้ ไดด้ ีโดยใส่ปุย๋ คอก และใสป่ นู ขาวในกรณีดินเปน็ กรด ทาการยกรอ่ งและหยอดเมล็ดพนั ธุ์เปน็ หลมุ ๆ โดยหยอดหลมุ ละ 3 – 4 เมลด็ เมอ่ื ให้นา้ และเมล็ดงอกได้ 2 สัปดาห์ มะระ จะมีใบจริงแล้วจะถอนต้นท่ีอ่อนแอทงิ้ ไปใหเ้ หลือ 2 ต้นตอ่ หลุม ระยะปลูกระหว่างหลมุ ประมาณ 50 – 75 เซนติเมตร ระหว่างแถวประมาณ 1 เมตร ไมน่ ยิ มปลกู มะระโดยการยา้ ย กลา้ เพราะมะระอายุสนั้ และเมล็ดพันธุม์ ีขนาดใหญ่ ในพ้ืนที่ แปลงปลกู 1 ไรจ่ ะใชเ้ มล็ดพันธ์ปุ ระมาณ 2 – 4 ลิตร
การทาคา้ งปลกู มะระ การทาค้าง สามารถทาได้ 2 แบบ คอื แบบปกั ไมค้ ้างยาว 2–2.5 เมตร ทกุ หลมุ เอน ปลายเขา้ หากนั และมดั ไว้ด้วยกนั ใช้ไม้ค้างหรือเชอื กไนลอน ผูกขวาง ระยะ 40–50 เซนตเิ มตร หรอื ใชต้ าขา่ ยพลาสตกิ ตาหา่ งขึงแทน ด้านบนของค้างใชไ้ มค้ ้างพาดขวางมัดกนั ให้ แน่น เพอ่ื ปอ้ งกันการโคน่ ล้ม แบบปกั ไมค้ ้างผกู เปน็ ร้านสูงประมาณ 1.5–2 เมตร ขงึ ดว้ ยตาขา่ ยพลาสติก นอกจากนี้อาจใชค้ ้างธรรมชาติทีม่ ีอยู่แลว้ เชน่ ไม้ พ่มุ เลก็ ๆร้ัวบ้านซง่ึ เหมาะสาหรับการปลกู ผกั สวนครัว
การดแู ลรักษา การใหป้ ุย๋ หลงั ปลกู ประมาณ 1 อาทิตย์กจ็ ะเริ่มใหป้ ยุ๋ ใส่ ป๋ยุ ทุก 7 วันครัง้ โดยจะใชป้ ยุ๋ สตู ร 16-16-16 ในกรณที ยี่ อด แตกไมค่ ่อยดี ยอดไมเ่ ดิน ยอดตัน ก็จะใชป้ ุ๋ยสตู รตวั หน้าสูง อยา่ ง 25-7-7 พอยอดเดินดแี ลว้ กค็ อ่ ยมาใช้ 16-16-16 พอ มะระติดลกู แล้วเปลยี่ นมาใช้ 15-15-15 อัตราการให้ปุย๋ ตอนน้กี ็ประมาณ 5 กระสอบ/ครง้ั มะระถา้ ปุ๋ยไม่พอ ลกู จะ เล็ก ส่วนทางใบใชช้ ดุ ทนแล้ง+แวกซโี กร+ดนิ ดีฟู เพ่ือช่วยให้ ต้นเตบิ โตเร็ว เรง่ ตน้ เรง่ การแตกแขนง เถาเดินดี และใชธ้ าตุ อาหารเสรมิ รวม (เน้นแคลเซยี ม โบรอน สังกะส)ี พ่นทกุ 7 วนั
การพรวนดนิ การพรวนดนิ ในระยะแรกหลงั จากมะระเรมิ่ งอก ควรทาบอ่ ยๆ และกาจดั วชั พืชไปด้วย หากปลอ่ ยใหว้ ัชพชื ขนึ้ ในระยะแรกนี้ จะทาใหม้ ะระขาดน้า เพราะวัชพืชจะแย่ง นา้ แย่งปุ๋ย ในการพรวนดินตอ้ งระวงั ไมใ่ หก้ ระทบกระเทอื น รากของมะระ การห่อผล การห่อผล ในขณะทผี่ ลมะระยงั เล็กอยู่ กสิกรนยิ ม ห่อผลมะระดว้ ยกระดาษ ทัง้ น้ี เพ่อื ใหผ้ ลมีสีขาวนวลน่า รับประทาน และยงั เป็นการป้องกันแมลงมาเจาะทาลาย และยัง ปอ้ งกันยาฆ่าแมลงมาโดนผลอกี ดว้ ย ชาวสวนจะทาถุงขนาด 15 – 20 ซม. ห่อผลโดยท่ถี ุงนมี้ ปี ากเปิดท้ังดา้ นบนและดา้ นลา่ ง และใชไ้ ม้กลัดเหน็บกบั ขั้วผลกับถุงดา้ นบน
การเกบ็ เกี่ยว การเกบ็ เกีย่ ว เม่ือมะระอายไุ ดป้ ระมาณ 45 วนั จะ เริ่มเกบ็ ผลได้ การเกบ็ ผลควรเก็บทกุ ๆวัน ถา้ ปล่อยให้ผลแก่ ติดกับต้นจะทาให้ผลไมด่ ก ผลจะรว่ งมาก มกั นยิ มเก็บขณะท่ี ผลยงั อ่อนอยู่ ผลมสี ีเขยี ว ถา้ ผลเปลี่ยนเป็นสคี รมี และแตก แสดงว่าแกเ่ กินไป ซึ่งในผลแก่นจี้ ะมเี มือกสีแดงหุ้มเมลด็ แสดงว่าเมล็ดนีแ้ กเ่ ต็มท่ี สามารถเอาไปปลกู แล้วงอกได้ มะระ สามารถจะเกบ็ ทยอยไดป้ ระมาณ 10 ครง้ั ในครงั้ หลังๆผลที่ ได้จะมีขนาดเลก็
การเกบ็ เมล็ดพันธ์ุ การเก็บเมลด็ พันธุ์ ควรเลือกเกบ็ เมลด็ พนั ธจ์ุ ากตน้ แม่ท่แี ข็งแรง ผลใหญแ่ ละขนาดสมา่ เสมอ มีลายหยักทีผ่ วิ ของ ผลเปน็ ทางตรง ต้องควบคมุ การผสมละอองเกสร เพื่อปอ้ งกัน การกลายพนั ธ์ุ โดยวธิ ีคือเอาถงุ มาสวมดอกตัวเมียท่ีเพงิ่ ออกมาแต่ยงั ไมบ่ าน และคอยสังเกตดูเมื่อวนั ทด่ี อกบาน เอา เกสรตวั ผจู้ ากดอกในตน้ เดยี วกันมาจม้ิ ลงบนเกสรตวั เมยี และ สวมถงุ กระดาษไวอ้ ย่างเดมิ ควรทาเครือ่ งหมายหรือผกู ปา้ ยไว้ ดว้ ย เพ่อื ใหร้ ้วู ่าผลน้ีเพื่อจะเกบ็ ไวเ้ อาเมลด็ ไปทาพนั ธุ์ เม่อื ผล สุกจะแกะเอาเมล็ดออกจากผลล้างนา้ ให้สะอาด แลว้ เอาไปผึ่ง ให้แห้ง ไม่ควรใหโ้ ดนแดดจดั มากเกนิ ไป เก็บเมล็ดไว้ในทแี่ ห้ง และเห็น เพือ่ นาไปปลกู ต่อไป
ท่ีมา https://medthai.com http://www.vigotech.in.th https://www.plookphak.com https://medium.com ภาพประกอบจากอินเทอรเ์ นต็
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: