อุปกรณส์ ำหรับเชอ่ื มตอ่ เครอื ข่ำยประเภท LANกำรด์ (lan)เครอื่ งพีซีจะเชื่อต่อกันเป็นระบบ LAN ข้ึนมานั้น แต่ละเครื่องต้องติดต้ังการ์ด LAN เครื่องรุ่นใหม่ๆอาจจะมีการด์ LAN ฝังตัวอยู่ในบอร์ดให้แล้ว (Lan Onboard) หรือในโน๊ตบุ๊คใหม่ๆก็มักจะมีพอร์ต LAN มาใหแ้ ล้ว โดยส่วนใหญ่จะมีความเร็ว 1000หรือ100เมกกะบติ (ถ้าเป็นรุ่นเก่าจะมีความเร็วเพยี ง 10 เมกกะบิตต่อวินาทีเท่านั้น) เรียกว่าเป็น Fast Ethernet และบางแบบก็อาจใช้ได้ท้ัง2 ความเร็วโดยสามารถปรับแบบอัตโนมัติแล้วแต่จะไปเช่ือมต่อกับอุปกรณ์ Hub หรือ Switch แบบใดการ์ด LAN รุ่นใหม่จะมีคุณสมบัติ Plug&Play หรือ PnP มักเสียบเข้ากับสล๊อตแบบ PCI (การ์ดรุ่นเก่าจะใช้กับสล๊อตแบบ ISA ซึ่งไม่ค่อยพบแล้ว จึงไม่ขอกลา่ วถึง) โดยมชี อ่ งด้านหลงั เครอื่ งให้เสยี บสายได้
ฮบั (hub)เป็นอปุ กรณ์ท่ีรวมสัญญาณท่ีมาจากอุปกรณ์รับส่งหลายๆ สถานี เข้าด้วยกัน ฮับเปรียบเสมือนเป็นบัสที่รวมอยู่ท่ีจุดเดียวกัน ฮับท่ีใช้งานอยู่ภายใต้มาตรฐานการรับส่งแบบอีเทอร์เน็ต หรือ IEEE802.3 ข้อมูลที่รับส่งผ่านฮับจากเคร่ืองหน่ึงจะกระจายไปยังทุกสถานีที่ต่ออยู่บนฮับน้ัน ดังนั้น ทุกสถานีจะรับสัญญาณข้อมูลท่ีกระจายมาได้ท้ังหมด แต่จะเลือกคัดลอกเฉพาะข้อมูลที่ส่งมาถึงตนเท่าน้ันการตรวจสอบขอ้ มูลจึงตอ้ งดทู ี่แอดเดรส(address)ทีก่ ากับมาในกล่มุ ของข้อมูลหรอื แพ็กเก็ตสวิตซ์(switch)เป็นอุปกรณ์รวมสัญญาณท่ีมาจากอุปกรณ์รับส่งหลายสถานีเช่นเดียวกับฮับ แต่มีข้อแตกต่างจากฮับ กล่าวคือ การรับส่งข้อมูลจากสถานี (อุปกรณ์) ตัวหน่งึ จะไม่กระจายไปยงั ทกุ สถานี (อปุ กรณ์) เหมือนฮบั ท้งั นีเ้ พราะสวติ ชจ์ ะรับกลุม่ ขอ้ มูล(แพ็กเกต็ ) มาตรวจสอบก่อน แล้วดูว่ามา แอดเดรสของสถานีปลายทางไปที่ใด สวิตช์จะนาแพ็กเก็ตหรือกลุ่มข้อมูลนั้นส่งต่อไปยังสถานี (อปุ กรณ์) เป้าหมายใหอ้ ยา่ งอัตโนมัติ สวิตช์จะลดปัญหาการชนกนั ของข้อมลู เพราะไม่ตอ้ งกระจายขอ้ มูลไปทุกสถานี และยังมีข้อดีในเรื่องการป้องกันการดักจบั ข้อมูลทกี่ ระจายไปในเครอื ขา่ ย
เรำเตอร์ (router)ในการเช่ือมโยงเครือข่ายหลายๆ เครือข่ายเข้าด้วยกัน หรือเช่ือมโยงอุปกรณ์หลายอย่างเข้าด้วยกัน ดังน้ันจึงมีเส้นทางการเข้าออกของขอ้ มูลไดห้ ลายเสน้ ทาง และแต่ละเส้นทางอาจใชเ้ ทคโนโลยีเครอื ขา่ ยท่ีตา่ งกัน อุปกรณ์จัดเส้นทางจะหาเส้นทางที่เหมาะสมให้การที่อุปกรณ์จัดหาเส้นทางเลือกเส้นทางได้ถูกต้องเพราะแต่ละสถานีภายในเครือข่ายมีแอดเดรสกากับ อุปกรณ์จัดเส้นทางต้องรับรู้ตาแหน่งและสามารถนาข้อมูลออกทางเส้นทางได้ถูกต้องตามตาแหน่งแอดเดรสท่ีกากับอยู่ในเส้นทางนั้น รวมท้ังการจัดรปู แบบและนาเสนอขอ้ มลู โดยกาหนด
สำย UTP (Unshield Twisted Pair)สายที่ใช้กับ LAN เรียกว่าสาย UTP (Unshield Twisted Pair) ซึ่งใช้หวั ต่อแบบ RJ-45 ซึ่งมีท้ังหมด 8 ขา สายแบบนี้ท่ีเข้าหัวไว้แล้วจะหาซ้อื ได้ตามรา้ นขายอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ทวั่ ไป หรอื จะซอ้ื แบบเปน็ ม้วนมาตัดเข้าหัวเองก็ได้ แต่ต้องมีเครือ่ งมือหรือคีมเข้าหัว RJ-45 โดยเฉพาะ มขี ้อจากัดคือ จะต้องยาวไมเ่ กิน 100 เมตร จากเครอื่ งไปยัง Switchแบ่งไดเ้ ปน็ 2 ประเภทตามลักษณะการใชง้ าน คอื• สายตรง (Straight-through Cable) คือสายปกตทิ ีใ่ ช้เชอื่ มระหว่างการ์ด LAN และ Hub / Switch• สายไขว้ (Crossover Cable) ใช้ต่อการ์ด LAN บนคอมพวิ เตอร์ 2 เคร่ืองหรือพอร์ตของ Hub หรือ Switch 2 ตัวโดยตรง เพ่อื เพ่ิมขยายพอรต์ ซ่ึงวธิ กี ารเข้าหัวจะตา่ งจากปกติ
แบบฝกึ หัด เครือข่ำย LAN แบบใชส้ ำย1. โครงกำร IEEE 802 เป็นโครงกำรเกี่ยวกับอะไร และจดั ตง้ั ข้นึ เพ่อื จุประสงคใ์ ดในปี ค.ศ. 1985 ทางสถาบัน IEEE ได้ริเร่ิมโครงการสาคัญโครงการหนึ่ง โดยตั้งชื่อโครงการนี้ว่า โครงการหมายเลข 802 หรือProject 802 โดยโครงการดังกล่าวจัดต้ังข้ึนเพือ่ ต้องการให้ผลิตภัณฑ์อุปกรณ์สื่อสารที่มาจากแหล่งผู้ผลิตต่าง ๆ สามารถส่ือสารให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน แต่โครงการน้ีมิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อนามาใช้ทดแทนมาตรฐาน OSI โมเดลท่ีทางหน่วยงาน ISO จดั ตั้งข้ึนแต่อย่างใด เนื่องจากโครงการหมายเลข 802 มีวัตถุประสงค์เพ่ือกาหนดหน้าท่ีและรายละเอียดของช้ันสื่อสารฟิสิคัล ดาต้าลิงก์และมสี ว่ นขยายเพ่มิ เติมบางสว่ นอกี เล็กนอ้ ย ที่นามาใชง้ านเพือ่ การเชอ่ื มตอ่ เครอื ขา่ ยท้องถ่ินเปน็ หลักสาคัญ2. จงสรุปกำรทำงำนของชน้ั ส่ือสำรยอ่ ย LLC และ MAC มำพอเข้ำใจ ลาดบั ชน้ั ย่อย LLC เป็นลาดับช้ันท่ีจัดการส่ือสารระหว่างอุปกรณ์บนลิงก์ของเครือข่าย โดย LLC น้ีจะถูกกาหนดข้ึนโดย IEEE 802.2 ซึ่งสนับสนุนการเชื่อมต่อในรูปแบบท้ังคอนเน็กชันเลส และคอนเน็กชันโอเรียนเต็ด เพ่อื บริการให้กับโปรโตคอลในลาดบั สงู ต่อไป ลาดับช้นั ยอ่ ย MAC เป็นลาดับชน้ั ย่อยท่ีจัดการเกีย่ วกับการเข้าถึงตัวกลางเพ่ือการสื่อสารบนเครือข่ายโดยรายละเอียดของ LLC และ MAC
3. MAC Address กบั กำรด์ เครือข่ำยมีควำมสัมพันธก์ ันอย่ำงไร การ์ดเครือข่ายมีลักษณะเป็นแผงวงจร ที่เสียบเข้ากับสล็อตภายในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ และถือเป็นส่วนสาคัญในการส่งแพ็กเก็ตจริงๆ ผ่านส่ือกลาง ซึ่งเครือข่ายท้องถิ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอีเทอร์เน็ต โทเค็นริง หรือ FDDI จาเป็นต้องใช้การ์ดเครือข่ายทั้งสิ้น โดยการ์ดเครือข่ายจะมีหมายเลยแมคแอดเดรสท่ีใช้อ้างอิงตาแหน่งที่อยู่เพื่อรับส่งข้อมูลบนเครือข่าย โดยชุดหมายเลขแมคแอดเดรสนี้จะถูกบรรจุไว้ในหน่วยความจารอมบนการเครือข่ายท่ีถูกบรรจุพร้อมเสร็จมาจากโรงงาน และเมื่อเร่ิมต้นทางาน ชุดหมายเลขแมคแอดเดรสนก้ี ็จะถูกคัดลอกไว้ในหนว่ ยความจาหลัก เพื่อนาไปใช้อา้ งองิ ตอ่ ไป4. จงบอกควำมแตกตำ่ งระหว่ำง MAC Address กบั IP Address IP Address ไอพี แอดเดรส คือ หมายเลขประจาเคร่ืองคอมพิวเตอร์ IP Address ย่อมาจากคาเต็มว่า InternetProtocal Address คอื หมายเลขประจาเคร่อื งคอมพวิ เตอรแ์ ตล่ ะเครอ่ื งในระบบเครอื ขา่ ยทใี่ ชโ้ ปรโตคอลแบบ TCP/IP MAC Address (Media Access Control Address) คือ หมายเลขของ Network Card(LAN , Wireless LAN) ซ่ึงหมายเลขจะไมซ่ ้ากนั โดยค่าหมายเลขนี้จะถูกกาหนดค่ามาจากโรงงานท่ีผลิต Network Card รูปแบบของค่า MAC Address จะอยู่ในรูปแบบของเลขฐานสิบหก ดังนี้ 01-23-45-67-89-ab หรือ 01:23:45:67:89:ab ซ่ึงด้านล่างจะเป็นตัวอย่างวิธีการดูค่า MACAddress บน Windows XP , Windows 7
5. อเี ทอร์เนต็ และ IEEE 802.3 มคี วำมสมั พันธก์ ันอย่ำงไร จงอธิบำย ปัจจุบันมาตรฐาน IEEE 802.3 ได้เข้ามาแทนที่มาตรฐานดั้งเดิมของอินเทอร์เน็ตอย่างสมบูรณ์แล้วกล่าวคือ คาว่าอนิ เทอร์เน็ตจะอ้างอิงถึงเครือข่ายที่ต้ังอยู่บนพน้ื ฐานของมาตรฐาน IEEE 802.3 แต่ในบางครง้ั อาจกล่าวได้ว่า IEEE 802.3 และอินเทอร์เน็ตมิใช่ส่ิงเดียวกัน ซึ่งในเชิงเทคนิคแล้วคาตอบน้ีถือว่าไม่ผิดแต่อย่างใด โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอินเทอร์เน็ตเป็นมาตรฐานดั้งเดมิ ของบริษัทซีร็อก แต่ในช่วงราวปี ค.ศ. 1985 ทาง IEEE ก็ได้เร่ิมพัฒนาโครงการ 802 ข้ึนมา และได้มีการประกาศนามาตรฐาน 802.3 ออกมาใช้ซึ่งมาตรฐาน IEEE 802.3 น้ันมีข้องแตกต่างเพียงเล็กน้อยในด้านรายละเอียดเมื่อเทียบกับมาตรฐานอินเทอร์เน็ตเดิมจากบริษัทซีร็อกซ์ ดังน้ันปัจจุบันจึงมักมีการใช้คาว่าอินเทอร์เน็ตและ IEEE 802.3 ร่วมกัน ซ่ึงหมายถึงเป็นคาท่ีสามารถใช้แทนความหมายเดียวกันได้ กลา่ วคอื อนิ เทอร์เน็ตจะอา้ งถงึ มาตรฐานของ IEEE 802.36. จงสรปุ มำตรฐำนกำรเชื่อมต่อเครอื ข่ำยแบบ Fast Ethemet มำพอเข้ำใจ ฟาสต์อินเทอร์เน็ตหรืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง จัดเป็นเวอร์ช่ันหน่ึงของอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็ว100Mbpsโดยยังคงรูปแบบเฟรมข้อมูลเดิม รวมทั้งวิธีเข้าถึงสื่อกลางแบบเดิม ฟาสต์อีเทอร์เน็ตจัดอยู่ในมาตรฐาน IEEE 802.3u โดยเป็นอินเทอร์เน็ตแลนท่ีมีความเร็วสูงกว่าอินเทอร์เน็ตแบบเดิม 10 Mbps ถึง 10 เท่า ฟาสต์อนิ เทอร์เน็ตสามารถนามาประยุกต์ใช้กับงานด้านกราฟกิดีไซน์ อมิ เมจโปรเซสซิง และระบบวดิ โี อ เน่ืองจากมีความเรว็ ในการสง่ ข้อมลู ท่ีสูงกว่าเดิมถงึ 10 เทา่ และถอื เป็นความโชคดีของ
อีเทอร์เน็ต ที่สามารถออกแบบให้มีความเร็วสูงข้ึนโดยไม่ยาก ด้วยการลดขนาดของ Collision Domain ลง ซ่ึงโดยปกติข้อกาหนดCollision Domain ของอีเทอร์เน็ตแลนแบบดั้งเดิมได้จากัดไว้บนระยะทางท่ี 2500 เมตร และข้อจากัดดังกล่าวได้ต้ังอยู่บนอัตราความเร็วที่ 10 Mbps ดว้ ยวธิ กี ารเข้าถงึ ข้อมลู แบบ CSMA/CD7.จงสรุปมำตรฐำนกำรเชอื่ มต่อเครอื ขำ่ ยแบบ Gigabit Ethemet มำพอเขำ้ ใจ Gigabit Ethernet (IEEE802.3z) เป็นมาตรฐานใหม่ของเทคโนโลยีเครือข่ายท้องถิ่น (LAN-Local Area-Network) ท่ีพฒั นามาจาก เครือข่ายแบบ Ethernet แบบเก่าที่มีความเร็ว 10 Mbps ให้สามารถรับส่งข้อมูลได้ท่ีระดับความเร็ว 1 Gbps ท้ังน้ีเทคโนโลยีน้ี ยังคงใช้กลไก CSMS/CD ในการร่วมใช้ส่ือเหมือนEthernet แบบเก่า หากแต่มีการพัฒนาและดัดแปลงให้สามารถรองรับความเร็วในระดับ 1 Gbps ได้ Gigabit Ethernet เป็นส่วนเพ่ิมขยายจาก 10 Mbps และ 100 Mbps Ethernet (มาตราฐานIEEE 802.3 และ IEEE802.3u ตามลาดับ) โดยที่มันยังคงความเข้ากันได้กับมาตราฐานแบบเก่าอย่าง100% Gigabit Ethernet ยังสนับสนุนการทางานใน mode full-duplex โดยจะเป็นการทางานในการเชื่อมต่อระหว่าง Switch กับ Switch และระหว่างSwitch กับ End Station ส่วนการเชื่อมต่อผ่าน Repeater, Hub ซ่ึงจะเป็นลักษณะของShared-media (ซึ่งใช้กลไก CSMA/CD)Gigabit Ethernet จะทางานใน mode Half-duplexซึ่งสามารถจะใชส้ ายสัญญาณไดท้ ้งั สายทองแดงและเสน้ ใยแก้วนาแสง
8. จงสรุปมำตรฐำนกำรเชอ่ื มต่อเครือขำ่ ยแบบ 10Gigabit Ethemet มำพอเข้ำใจ กิกะบิตอีเทอร์เน็ต เป็นไปตามมาตรฐานเครือข่าย 802.3ae ที่รองรับความเร็วสูงสุดท่ี 10 Gbps ได้พัฒนาและประกาศใช้อย่างสมบูรณ์เมื่อเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ.2002 โดยส่วนใหญ่ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียด แต่จะทางานในลักษณะฟูลดูเพล็กซ์บนเทคโนโลยีสายไฟเบอร์ออฟติกเท่านั้น และไม่ต้องการใช้โปรโตคอล CSMA/CD อกี ต่อไปนอกจากน้ี 10 กิกะบิตอีเทอร์เน็ต ไม่ได้ออกแบบเพ่ือใช้งานบนเครือข่ายแลนเท่านั้น แต่สามารถขยายเพ่ือใช้งานบนเครือข่ายแมน และเครือข่ายแวนดงั น้ันจะพบว่าการเชื่อมต่อเครอื ข่าย 10 กิกะบิตอเี ทอร์เน็ต ทาให้เราสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายความเรว็ สูงบนระยะทางไกลมากข้ึนได้ และยงั คงสามารถเชอื่ มตอ่ เขา้ กับเครอื ข่ายอเี ทอร์เน็ตแบบเดิมได้9. จงสรุปเครอื ขำ่ ยแบบโทเค็นบัสมลี ักษณะทำงกำยภำพเป็นแบบไหนและกำรเขำ้ ถึงขอ้ มูลเป็นแบบใด โทเคนบัสมีการต่อเชื่อมแบบเป็นเส้นตรง สถานีต่างๆ เช่ือมต่อเข้าท่ีจุดใดๆ แต่ในทางตรรกะ สถานีจะถูกจัดกลุ่มในลกั ษณะวง แตล่ ะสถานจี ะทราบหมายเลขท่ีอยู่ของสถานีที่อยู่ทางด้ายซ้ายและด้านขวา ของตนเองตลอดเวลา เมื่อเร่ิมต้นการทางานสถานีท่ีมีหมายเลขสูงสุดของวงน้ันๆ สามารถส่งเฟรมข้อมูลออกมาได้เป็นลาดับแรก หลังจากนั้นก็จะส่งเฟรม โทเคน ไปยังสถานีข้างเคยี งของตนเอง
Token Bus เป็นระบบเครือข่ายท่ี เปิดโอกาสให้สถานีต่างๆ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันส่งเฟรมข้อมูลของตนเองโดยสามารถคานวณระยะเวลาการรอคอยสูงสุดได้ล่วงหน้า ถ้าสมมุติให้มีสถานีจานวน A แห่งอยู่ในระบบ แต่ละสถานีใช้เวลาในการส่งเฟรมข้อมูลครั้งละ S วินาที เวลาสูงสุดที่แต่ละสถานีจะต้องรอคอย คือ A x S วินาที ผู้ท่ีอยู่ในวงการคอมพิวเตอร์สาหรับโรงงานจึงชอบแนวความคิดของระบบเครือข่ายแบบวงแหวน แต่ก็ไม่ชอบลักษณะการเช่ือมต่อทางกายภาพเพราะการเสียหายของเคเบิลท่ีจดุใดก็ตามจะทาให้ระบบทั้งระบบใช้การไม่ได้ ยิ่งกว่าน้ันการเดินสายเคเบิลแบบวงแหวนก็ไม่เหมาะกับลักษณะสายการผลิตภายในโรงงาน ผลท่ไี ดร้ บั คือ การพัฒนามาตรฐานใหม่เรยี กว่า IEEE 802.4 (ไอ อี อี อี 802.4) ที่นาจดุ เด่นของระบบ IEEE 802.3 (ไอ อี อี อี802.3)มารวมเขา้ กับความสามารถในการคานวณระยะเวลาการรอคอยสูงสดุ ไดล้ ว่ งหน้าของระบบวงแหวน10. จงสรปุ เครือข่ำยแบบโทเคน็ รงิ ลักษณะทำงกำยภำพเปน็ แบบไหนและกำรเขำ้ ถึงข้อมูลเปน็ แบบใด เป็นเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ที่บริษัทไอบีเอ็มได้พัฒนาข้ึนโดยการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท้ังหมดใช้รูปแบบวงแหวนโดยด้านหนึ่งเป็นตัวรับสัญญาณ และอีกด้านหน่ึงเป็นตัวส่งสัญญาณการเช่ือมต่อแบบนี้ทาให้คอมพวิ เตอร์ทุกเคร่ืองสามารถส่งข้อมูลถึงกันได้ โดยผ่านไปในเส้นทางวงแหวนนั้น การส่งผ่านข้อมูลจะเวียนไปในทิศทางเดียวกัน การติดต่อสื่อสารระหว่างกันน้ีจะมีการจัดลาดับให้ผลดั กันสง่ เพ่ือวา่ การรบั ส่งขอ้ มลู จะได้ไม่สบั สนและมรี ปู แบบท่ชี ดั เจน เครอื ข่ายโทเคน็ ริงท่ีใช้กนั อยใู่ นขณะน้มี ีความเร็ว
ในการรับส่งสัญญาณ 16 ล้านบิตต่อวินาทีข้อมูลจะไม่ชนกันเพราะการรับส่งมีลาดับแน่นอนข้อมูลท่ีรับส่งจะมีลักษณะเป็นชุดๆ แต่ละชุดมีการกาหนดตาแหน่งแน่นอนว่ามาจากสถานีใด จะส่งไปยังสถานีปลายทางที่ใด ดังนั้นถ้าสถานีใดพบข้อมูลท่ีมีการระบุตาแหนง่ ปลายทางมาเป็นของตวั เอง กส็ ามารถคดั ลอกขอ้ มูลนัน้ เขา้ ไปไดแ้ ละตอบรับวา่ ได้รับข้อมูลนั้นแล้ว11. จงสรุปหลกั กำรทำงำนของโทเค็น เป็นอย่ำงไร โทเค็น (Token) เป็นข้อมูลชุดหนึ่งที่ถูกส่งอยู่ในระบบเครือข่ายที่มี โทโปโลจี (Topology) แบบริง (Ring) ในโทโปโลจีแบบนี้ หากคอมพวิ เตอร์เคร่อื งใดในเครอื ข่ายต้องการส่งข้อมูลจะเก็บเอา โทเคน ไว้แล้วส่งข้อมูลของตนเองออกมา เพราะฉะน้ัน โทเคนเป็นเหมือนบตั รสทิ ธิ์ ใครมีโทเคนก็มีสิทธส์ิ ง่ ขอ้ มูล ใครไมม่ ีโทเคนกไ็ ม่มีบัตรสิทธ์ิส่งข้อมูลไม่ได้ เพราะในเครือข่ายแบบริง จะมี โทเคน เพียงชุดเดยี วเทา่ นั้น ทาให้คอมพิวเตอรท์ อี่ ยูใ่ นเครือข่ายลกั ษณะน้ี ส่งข้อมูลได้ไมช่ นกัน
12. จงสรปุ หลักกำรทำงำนของเครือขำ่ ยแบบ FDDI เป็นอย่ำงไร เครือข่ายความเร็วสูงรุ่นใหม่ Fiber Distributed Data Interface การเช่ือมต่อจะมีความเร็วประมาณ 100-200 เมกะบิตต่อวินาที เครือข่าย FDDI จะใช้สายใยแก้วนาแสงโดยแปลงจาก โทโปโลยีแบบวงแหวน เพียงแต่มีวงแหวน 2 วง นิยมใช้สาหรับงานด้านทต่ี อ้ งการเทคโนโลยสี ูง เชน่ วดี ทิ ัศนแ์ บบดจิ ิทลั , กราฟกิ ความละเอียดสงูขอ้ ดีความเร็วสูง มีเสถียรภาพ และความน่าเช่ือถือสูง เน่ืองจากมีวงแหวน 2 วง ถ้าวงใดวงหน่ึงเสียหาย การสื่อสารยังสามารถดาเนินต่อไปไดใ้ นวงแหวนที่เหลือข้อจากัด คา่ ใชจ้ ่ายสงู เนอื่ งจากใช้ใยแกว้ นาแสง
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: