สุดยอดบทสวด 12 ตาํ นาน “ พระปริตร ” รบั มหาพร 12 ประการ ยาขนานเอกทางพุทธศาสนา ผใู ดหมน่ั สวดพระปริตรเปนนิจ ผูน้นั จะรอดจากภัยพิบตั ิ ผอ นทกุ ขห นักใหเปนเบา!! ...ขอบพระคุณ... วิทยาลัยศาสนศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั มหิดล ทง้ั คณาจารยแ ละคณะศิษยเกา ทุกทาน ท่เี อ้อื เฟอ เน้ือมนตและคาํ แปล และคําแนะนาํ ท่ดี ีในการจดั ทําหนงั สือสวดมนตคร้ังนี้
คํานํา หนังสอื \"สุดยอดบทสวด 12 ตํานานพระปริตร\" เลม นี้ เกิดขน้ึ จากความตั้งใจของทีมงานเวบ็ ไซตส ยาม คเณศ ทตี่ อ งการรวบรวมเอกสาร บทสวดมนตร ธรรมะและหลักปรชั ญาอันลึกซง้ึ ในศาสนาพุทธ เขา ไว ดวยกนั แลวจดั ทําเปนเอกสารชนดิ PDF เพื่อเผยแพรบ นเครือขายอนิ เตอรเน็ต ใหศ าสนกิ ชนไดร บั ไป อาน ศึกษา ปฏิบัติ ใหเขาถึงซ่ึงบทสวดและธรรมะอนั เปนมงคล แมวาบทสวดมนตรและหนังสือธรรมะตา งๆ จะสามารถหาซอ้ื ไดต ามแผงหนงั สือทว่ั ไปก็ตาม แตใน ภาวะเศรษฐกจิ เชนน้ี การท่ีผศู รัทธาสามารถดาวนโ หลดไฟลหนงั สือมาอานไดฟรี โดยไมตอ งเสีย คาใชจ า ยใดๆ กย็ อ มสะดวก ประหยัด เกิดประโยชนสงู กวา สามารถเกบ็ ออมเงินในกระเปา เพ่ือนําไปทํา ทานและใชสรางประโยชนแ กสังคมไดมากข้นึ เว็บไซตสยามคเณศ และ สํานักพิมพส ยามคเณศ ไดด าํ เนินการผลิตสื่อเวบ็ ไซต ส่งิ พิมพต างๆ ที่เนน เผยแพรค วามรูเก่ียวกับเทพเจาและคําสอนในศาสนาพราหมณ-ฮินดู มาโดยตลอด แตผ ศู รัทธาทบี่ ชู า เทพเจา ฮนิ ดใู นประเทศไทยสวนใหญก ค็ อื พทุ ธศาสนิกชน ท่ีหันมาบชู าเทพเจา ของฮนิ ดดู วยความ ศรัทธาในพระบารมแี ละเพ่อื ขอพรใหเปน สริ ิมงคลแกต น และพทุ ธศาสนกิ ชนสว นใหญกย็ อมไมเปลี่ยน วถิ ีชวี ิตและความศรทั ธาไปนบั ถอื ศาสนาฮนิ ดู อีกท้งั ทีมงานสยามคเณศหลายๆ ทานก็นับถอื ศาสนา พทุ ธ การท่ีเวบ็ ไซตส ยามคเณศไดเ ผยแพรทั้งความรูในศาสนาพราหมณ-ฮนิ ดู และศาสนาพทุ ธควบคู กนั ไป โดยไมเกบ็ คาใชจา ยใดๆ กย็ อ มกอ ใหเกิดประโยชนกับผูศรัทธามากกวา เพราะเราเช่ือวา ธรรมะ คาํ สอนของทุกศาสนาในโลก เปน สงิ่ ทปี่ ระเสริฐย่งิ สมควรเผยแพรแ ละอนรุ ักษไวไมใ หส ญู หาย แมว า เทคโนโลยีจะกาวหนาไปเพียงใดก็ตาม โครงการรวบรวมบทสวดมนตร ธรรมะและปรัชญาในพทุ ธศาสนา จดั ทําเปน เอกสารและเผยแพรใน เวบ็ ไซตส ยามคเณศ จะเปน ภารกิจทีท่ ีมงานสยามคเณศกระทาํ อยางเครง ครดั ควบคไู ปกบั การเผยแพร ศาสนาพราหมณ- ฮนิ ดู ใหป ระชาชนชาวไทยผศู รัทธาไดม ที างเลอื กในการศกึ ษาตอ ไป ขอใหผอู านทุกทานจงมคี วามสุข...บุญรักษาครับ ...สยามคเณศ... สํานกั พิมพสยามคเณศ | เว็บไซต www.Siamganesh.com [email protected] | twitter.com/siamganesh
ยาวเิ ศษ มนตรม หัศจรรย !! 1. มงคลปรติ ร สวดบูชาใหพ นจาก ส่ิงอัปมงคลช่ัวรา ย 2. รัตนปริตร สวดบูชาใหพน จาก ความทุกขโศก 3. เมตตปริตร สวดบชู าใหพนจาก ความตกตาํ่ ในชีวิต 4. ขันธปรติ ร สวดบชู าใหพน จาก อสรพิษ สัตวราย 5. โมรปรติ ร สวดบูชาใหพ นจาก ผูคิดรา ย การฉอ โกง 6. วัฏฏกปริตร สวดบูชาใหพน จาก อคั คภี ยั 7. ธชัคคปริตร สวดบชู าใหพนจาก อันตรายจากความเสยี่ ง 8. อาฏานาฏยิ ปริตร สวดบูชาใหพน จาก อมนุษย ภูตผี วิญญาณราย 9. องั คุลีมาลปริตร สวดบชู าใหพ นจาก การแทงบุตร คลอดบตุ รงาย 10. โพชฌงั คปรติ ร สวดบชู าใหพ น จาก โรคราย สุขภาพแข็งแรง 11. อภัยปรติ ร สวดบชู าใหพนจาก ภยั พิบัติทัง้ ปวง ใหเกดิ ความสุขสวัสดิ์ 12. ชัยปริตร สวดบูชาใหพ นจาก ความพา ยแพ มชี ัยชนะเหนือความช่วั ราย เวบ็ ไซต www.Siamganesh.com [email protected] | twitter.com/siamganesh
พระปริตร มนตรปกปอ งคมุ ครอง \"บทสวดมนตรสิบสองตํานาน\" เดมิ ชอื่ วา \"พระปรติ ร\" หมายถึง \"เครอื่ ง คมุ ครอง\" อันเปน บทสวดมนตรที่มคี วามศักดิ์สิทธ์ิและสําคัญมากในพุทธศาสนา มใี ชมาต้ังแตสมยั พุทธกาล เปนการสวดพระพทุ ธวจนะ ใหคุมครองปองกนั ภัยแก ผูสวด ใหเ กดิ ความสขุ สวัสด์ิ ผอนภัยรายใหเปน เบา พระปรติ ร ท่ีใชสวดกัน มีอยู 2 แบบ คือ - จุลฺลราชปริตตฺ : ราชปริตรนอย 7 ตํานาน (พุทธมนตรเ จ็ดตํานาน) - มหาราชปริตตฺ : ราชปรติ รใหญ 12 ตาํ นาน (พุทธมนตรสิบสองตํานาน) พระปริตรนั้นมีปรากฏในพระไตรปฏก คือ - เมตตปรติ ร มใี นขุททกปาฐะ และสตุ ตนิบาต - ขันธปริตร มีในองั คตุ ตรนกิ าย จตุกกนิบาต และ ชาดก ทกุ นิบาต - โมรปริตร มใี นชาดก ทกุ นิบาต - อาฏานาฏิยปริตร มีในทฆี นกิ าย ปาฏิกวรรค - โพชฌังคปริตร มใี นสังยตุ ตนิกาย มหาวรรค - รัตนปริตร มใี นขทุ ทกปาฐะ และสุตตนิบาต - วฏั ฏกปริตร มใี นชาดก เอกนิบาต และจริยาปฏก - มงั คลปรติ ร มใี นขุททกปาฐะ และสุตตนบิ าต - ธชคั คปริตร มีในสังยุตตนิกาย สคาถวรรค - อังคุลิมาลปรติ ร มีในมชั ฌมิ นกิ าย มชั ฌมิ ปณ ณาสก เวบ็ ไซต www.Siamganesh.com [email protected] | twitter.com/siamganesh
นมัสการพระรตั นตรยั อมิ นิ า สักกาเรนะ พทุ ธงั อะภปิ ชู ะยามิ อมิ นิ า สักกาเรนะ ธมั มัง อะภิปชู ะยามิ อิมนิ า สักกาเรนะ สังฆงั อะภปิ ูชะยามิ ฯ กราบพระรตั นตรัย อะระหงั สมั มาสัมพทุ โธ ภะคะวา พทุ ธัง ภะคะวนั ตัง อะภิวาเทมิ (กราบ) สวากขาโต ภะคะวะตา ธมั โม ธมั มัง นะมสั สามิ (กราบ) สุปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ สงั ฆังนะมามิ (กราบ) นมัสการพระพุทธเจา นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสมั พุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สมั มาสัมพทุ ธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพทุ ธัสสะ ฯ ขอขมาพระรตั นตรยั วันทามิ พุทธงั สัพพะเมโทสงั ขะมะถะเม ภันเต วนั ทามิ ธมั มัง สพั พะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต วันทามิ สงั ฆงั สพั พะเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต ฯ
นมสั การไตรสรณคมน พุทธงั สะระณงั คจั ฉามิ | ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ | สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ทตุ ยิ ัมป พุทธัง สะระณงั คัจฉามิ ทุติยมั ป ธมั มงั สะระณงั คัจฉามิ ทุตยิ ัมป สังฆงั สะระณัง คัจฉามิ ตะตยิ มั ป พุทธัง สะระณัง คจั ฉามิ ตะตยิ ัมป ธมั มัง สะระณงั คัจฉามิ ตะติยัมป สังฆงั สะระณัง คัจฉามิ บทสรรเสริญพระพุทธคุณ อติ ปิ โส ภะคะวา อะระหัง สมั มาสัมพทุ โธ วชิ ชาจะระณะสัมปนโน สุคะโต โลกะวทิ ู อะนตุ ตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมนุสสานัง พทุ โธ ภะคะวาติ ฯ บทสรรเสรญิ พระธรรมคุณ สวากขาโต ภะคะวะตา ธมั โม สนั ทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหปิ ส สโิ ก โอปะนะยโิ ก ปจ จตั ตัง เวทิตพั โพ วิญหู ีติ ฯ บทสรรเสรญิ พระสังฆคุณ สุปะฏปิ นโน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ อุชุปะฏิปน โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ ญายะปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามจี ิปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทงั จัตตาริ ปรุ ิสะยุคานิ อฏั ฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทกั ขิเณยโย อญั ชะลกี ะระณโี ย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ฯ
พระคาถาขา ยเพชรพระพุทธเจา ชาโล มหาชาโล ชาลัง มหาชาลงั ชาลิเต มหาชาลิเต ชาลติ ัง มหาชาลติ งั มตุ เต มตุ เต สัมปต เต มุตตัง มุตตัง สัมปตตัง สตุ งั คะมิติ สุตงั คะมิติ มัคคะยีติ ทิฏฐิลา ทัณฑะลา มัณฑะลา โรคิลา กะระลา ทุพพะลา ริตติ รติ ติ กติ ติ กิตติ มิตติ มิตติ จติ ติ จติ ติ มตุ ติ มตุ ติ จุตติ จุตติ ธาระณี ธาระณีติ อทิ ัง ธาระณะ ปะรติ ตังฯ คาํ อธบิ าย : พระคาถาขายเพชรพระพทุ ธเจา นี้ มีความศักดสิ์ ทิ ธิย์ ง่ิ ยวด สืบทอด มาแตส มยั พทุ ธกาล โดยสมเดจ็ พระสัมมาสมั พทุ ธเจาไดพ ระราชทานใหพระ อานนทมหาเถระ ผูท่ีสวดภาวนาพระคาถาขายเพชรพระพุทธเจาอยูเปนนิตย จะ พนจากความยากลาํ บาก ความขัดสน ความเจบ็ ไขไดป ว ย ตลอดจนจะประสบ ความเจริญรุง เรืองในทกุ ๆ ดานของชวี ิต อกี ทง้ั พระคาถานีย้ ังสามารถใชสวดเพ่ือ ทํานา้ํ พระพุทธมนต ใชบริกรรมเพื่อเสกเปาใหหายจากการเจ็บปวย ใหแ คลว คลาดจากภยันตรายตางๆ ผูใดหม่ันสวดพระคาถาขายเพชรพระพุทธเจาทุกวัน ทกุ คืน อมนษุ ยและมนุษยผ ูคดิ ช่วั จะมิบังอาจกลา กลาํ้ กลาย
นมการสทิ ธิคาถา คําอธิบาย : พระนิพนธของสมเด็จพระมหาสมณเจากรมพระยาวชิรญาณวโรรส เนือ้ มนตคอื การนอบนอ มคณุ พระศรีรัตนตรยั และขออาํ นาจพระศรีรตั นตรัยให ปกปกรักษาผูสวดใหมีความปลอดภัย ทําลายอัปมงคลและผคู ิดรายใหส้ิน อีกทั้ง ขอใหดลบนั ดาลความสําเร็จใหเกิดข้นึ เมื่อประกอบกิจกรรมทง้ั ปวง โย จกั ขุมา โมหะมะลาปะกัฎโฐ | สามัง วะ พทุ โธ สคุ ะโต วิมุตโต มารสั สะ ปาสา วนิ ิโมจะยันโต | ปาเปสิ เขมัง ชะนะตัง วเิ นยยังฯ พุทธงั วะรนั ตัง สิระสา นะมามิ | โลกัสสะ นาถญั จะ วินายะกัญจะ ตันเตชะสา เต ชะยะสทิ ธิ โหตุ | สัพพันตะรายา จะ วนิ าสะเมนตุฯ ธัมโม ธะโช โย วยิ ะ ตสั สะ สัตถุ | ทัสเสสิ โลกัสสะ วสิ ุทธมิ ัคคัง นิยยานิโก ธัมมะธะรสั สะ ธารี | สาตาวะโห สนั ติกะโร สุจิณโณฯ ธมั มงั วะรันตัง สิระสา นะมามิ | โมหปั ปะทาลัง อุปะสันตะทาหงั ตนั เตชะสา เต ชะยะสทิ ธิ โหตุ | สพั พันตะรายา จะ วนิ าสะเมนตฯุ สทั ธมั มะเสนา สุคะตานุโค โย โลกสั สะ ปาปูปะกเิ ลสะเชตา สนั โต สะยัง สันตนิ โิ ยชะโก จะ สะวากขาตะธัมมัง วิทติ ัง กะโรตฯิ สงั ฆัง วะรนั ตัง สิระสา นะมามิ พุทธานุพทุ ธัง สะมะสีละทิฏฐิง ตันเตชะสา เต ชะยะสิทธิ โหตุ สพั พันตะรายา จะ วนิ าสะเมนตุฯ
1. มงคลปรติ ร (มงคลสตู ร) สวดบูชาใหพน จากส่ิงอัปมงคล เนอื้ มนตกลาวถงึ หลักปฏิบตั ทิ ่ชี วยสงเสรมิ ใหช ีวิตมแี ตส ิริมงคล มีความสุข ความเจริญสูงสดุ ถึง 38 ประการ เอวัมเม สตุ งั ฯ เอกงั สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนา ถะปณฑิกัสสะ อาราเม ฯ อะถะโข อญั ญะตะรา เทวะตา อะภิกกันตายะ รตั ติยา อะภิกกันตะวัณณา เกวะละกปั ปง เชตะวะนัง โอภาเสตวา เยนะ ภะคะวา เตนุ ปะสังกะมิ อปุ ะสงั กะมิตวา ภะคะวันตัง อะภวิ าเทตวา เอกะมันตัง อัฏฐาสิ ฯ เอกะ มันตัง ฐติ า โข สา เทวะตา ภะคะวันตงั คาถายะ อัชฌะภาสิ พะหู เทวา มะนุสสา จะ มงั คะลานิ อะจนิ ตะยงุ อากังขะมานา โสตถานัง พรหู ิ มงั คะละมตุ ตะมัง ฯ อะเสวะนา จะ พาลานัง ปณฑติ านัญจะ เสวะนา ปชู า จะ ปชู ะนยี านัง เอตัมมังคะละมตุ ตะมัง ฯ ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา อัตตะสมั มาปะณิธิ จะ เอตัมมังคะละมุตตะมงั ฯ พาหุสจั จัญจะ สิปปญจะ วนิ ะโย จะ สุสิกขิโต สุภาสิตา จะ ยา วาจา เอตมั มังคะละมุตตะมัง ฯ มาตาปตุอุปฏฐานัง ปุตตะทารสั สะ สังคะโห อะนากลุ า จะ กัมมันตา เอตัมมงั คะละมุตตะมัง ฯ ทานญั จะ ธมั มะจะริยา จะ ญาตะกานญั จะ สังคะโห อะนะวัชชานิ กมั มานิ เอตมั มังคะละมตุ ตะมัง ฯ
ขันตี จะ โสวะจสั สะตา สะมะณานัญจะ ทสั สะนัง กาเลนะ ธัมมะสากจั ฉา เอตมั มังคะละมตุ ตะมัง ฯ ตะโป จะ พรัหมะจะริยัญจะ อะรยิ ะสัจจานะ ทสั สะนงั นพิ พานะสัจฉิกิรยิ า จะ เอตมั มังคะละมุตตะมัง ฯ ผฏุ ฐัสสะ โลกะธมั เมหิ จติ ตัง ยสั สะ นะ กัมปะติ อะโสกัง วิระชงั เขมัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ เอตาทสิ านิ กัตวานะ สัพพัตถะมะปะราชติ า สพั พตั ถะ โสตถิง คัจฉันติ ตันเตสงั มังคะละมตุ ตะมันติ ฯ คาํ แปล มงคลปริตร : ขาพเจา (คือพระอานนทเถระ) ไดสดับมาแลวอยา งนี้ สมยั หนึ่ง สมเด็จพระผูมี พระภาคเจาเสด็จประทบั อยทู ี่เชตวันวิหาร อารามของอนาถบณิ ฑิกเศรษฐี ใกล เมืองสาวตั ถคี ร้ังน้ันแลเทพดาองคใ ดองคหนึ่ง ครั้งเมื่อราตรีปฐมยามลว งไปแลว มี รศั มีอันงามย่ิงนัก ยงั เชตวนั ทัง้ ส้ินใหสวา ง พระผมู ีพระภาคเจาเสด็จประทับอยู โดยท่ใี ด กเ็ ขา ไปเฝา โดยที่น้นั คร้ันเขา ไปเฝาแลว จึงถวายอภวิ าทพระผมู พี ระภาค เจา แลวไดยืนอยูใ นทา มกลางสวนขา งหนึ่ง ครั้นเทพดาน้ันยนื ในท่ีสมควรสวนขาง หนง่ึ แลวแล ไดท ูลพระผมู ีพระภาคเจา ดวยคาถาวา หมูเทวดาและมนษุ ยเปน อันมาก ผูหวังความสวัสดี ไดคิดหามงคลทงั้ หลาย ขอ พระองคจ งเทศนามงคลอันสงู สุด - ความไมคบชนพาลท้ังหลาย ๑ ความคบบณั ฑติ ท้ังหลาย ๑ ความบชู าชนควร บชู าทงั้ หลาย ๑ ขอน้ีเปนมงคลอันสงู สดุ , - ความอยใู นประเทศอันสมควร ๑ ความเปนผูมบี ุญอนั ทาํ แลว ในกาลกอ น ๑ ความตงั้ ตนไวช อบ ๑ ขอนี้เปนมงคลอันสงู สดุ , - ความไดฟ งแลวมาก ๑ ศิลปศาสตร ๑ วนิ ัยอันชนศึกษาดีแลว ๑ วาจาอันชน กลา วดแี ลว ๑ ขอน้เี ปนมงคลอนั สงู สดุ ,
- ความบํารงุ มารดาและบิดา ๑ ความสงเคราะหล ูกและเมยี ๑ การงานทง้ั หลายไม อากลู ๑ ขอ น้ีเปนมงคลอนั สงู สุด, - ความให ๑ ความประพฤตธิ รรม ๑ ความสงเคราะหญาติทั้งหลาย ๑ กรรม ทัง้ หลายไมมโี ทษ ๑ ขอนเ้ี ปน มงคลอันสูงสดุ , - ความงดเวน จากบาป ๑ ความสาํ รวมจากการด่ืมนา้ํ เมา ๑ ความไมป ระมาทใน ธรรมท้ังหลาย ๑ ขอ นเี้ ปน มงคลอันสูงสุด, - ความเคารพ ๑ ความไมจองหอง ๑ ความยินดดี ว ยของอันมีอยู ๑ ความเปนผรู ู อุปการะอนั ทา นทาํ แลวแกตน ๑ ความฟงธรรมโดยกาล ๑ ขอนเี้ ปนมงคลอัน สงู สุด, - ความอดทน ๑ ความเปน ผวู า งาย ๑ ความเห็นสมณะทงั้ หลาย ๑ ความเจรจา ธรรมโดยกาล ๑ ขอน้เี ปน มงคลอันสูงสุด, - ความเพยี รเผากิเลส ๑ ความประพฤติอยา งพรหม ๑ ความเหน็ อรยิ สัจท้งั หลาย ๑ ความทําพระนิพพานใหแ จง ๑ ขอ นีเ้ ปนมงคลอันสูงสุด, - จติ ของผใู ดอนั โลกธรรมท้ังหลายถกู ตองแลว ยอมไมหวั่นไหว ไมมีโศก ปราศจากธลุ เี กษม ขอ นเ้ี ปน มงคลอันสูงสุด, - เทพดาและมนุษยท ั้งหลายกระทาํ มงคลทัง้ หลายเชน นแี้ ลว เปนผไู มพายแพใ นท่ี ทั้งปวง ยอ มถึงความสวสั ดใี นทีท่ ง้ั ปวง ขอนั้นเปนมงคลอันสูงสุดของเทพดาและ มนุษยท ง้ั หลายเหลา นน้ั แล.
2. รตั นปรติ ร (รตั นสตู ร) สวดบชู าใหพน จากความทุกข เนื้อมนตสรรเสริญคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ การตัง้ จิตของ อาราธนาเอาคุณความดีของพระรัตนตรยั น้ันมาปกปก รักษาตน ชว ย ทาํ ลายความทุกขโ ศกใหส้ินไป และขออาํ นวยความสุขสวัสดแิ์ กต น ยานีธะ ภตู านิ สะมาคะตานิ ภมุ มานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข สัพเพ วะ ภตู า สุมะนา ภะวนั ตุ อะโถป สักกัจจะ สุณนั ตุ ภาสติ ัง ตัสมา หิ ภตู า นิสาเมถะ สัพเพ เมตตัง กะโรถะ มานุสยิ า ปะชายะ ทิวา จะ รตั โต จะ หะรนั ติ เย พะลิง ตสั มา หิ เน รักขะถะ อปั ปะมตั ตา ฯ ยังกิญจิ วติ ตัง อธิ ะ วา หรุ งั วา สัคเคสุ วา ยงั ระตะนัง ปะณีตงั นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ อทิ มั ป พทุ เธ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวตั ถิ โหตุ ฯ ขะยงั วิราคงั อะมะตัง ปะณตี ัง ยะทชั ฌะคา สักยะมนุ ี สะมาหิโต นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ อิทัมป ธมั เม ระตะนัง ปะณตี ัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวณั ณะยี สจุ ิง สะมาธมิ านันตะรกิ ัญญะมาหุ สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ อทิ ัมป ธัมเม ระตะนัง ปะณตี งั เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ เย ปคุ คะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสฏั ฐา จตั ตาริ เอตานิ ยคุ านิ โหนติ เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ อทิ มั ป สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ เย สปุ ปะยุตตา มะนะสา ทฬั เหนะ นกิ กามโิ น โคตะมะสาสะนมั หิ เต ปต ตปิ ตตา อะมะตัง วิคัยหะ ลทั ธา มุธา นิพพุตงิ ภุญชะมานา อทิ มั ป สงั เฆ ระตะนงั ปะณีตงั เอเตนะ สัจเจนะ สวุ ัตถิ โหตุ ฯ ยะถินทะขีโล ปะฐะวิง สโิ ต สิยา จะตพุ ภิ วาเตภิ อะสัมปะกมั ปโ ย ตะถูปะมงั สัปปุริสัง วะทามิ โย อะรยิ ะสจั จานิ อะเวจจะ ปสสะติ อิทัมป สงั เฆ ระตะนงั ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวตั ถิ โหตุ ฯ เย อะริยะสัจจานิ วภิ าวะยันติ คัมภรี ะปญเญนะ สุเทสิตานิ กิญจาป เต โหนติ ภุสัปปะมัตตา นะ เต ภะวงั อฏั ฐะมะมาทิยนั ติ อิทมั ป สงั เฆ ระตะนัง ปะณีตงั เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ สะหาวัสสะ ทัสสะนะสัมปะทายะ ตะยัสสุ ธัมมา ชะหิตา ภะวันติ สักกายะทฏิ ฐิ วจิ ิกจิ ฉิตัญจะ สีลัพพะตัง วาป ยะทัตถิ กิญจิ จะตหู ะปาเยหิ จะ วปิ ปะมุตโต ฉะ จาภิฐานานิ อะภัพโพ กาตุง อทิ มั ป สงั เฆ ระตะนงั ปะณตี งั เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ กิญจาป โส กมั มงั กะโรติ ปาปะกัง กาเยนะ วาจายุทะ เจตะสา วา อะภัพโพ โส ตัสสะ ปะฏิจฉะทายะ อะภัพพะตา ทิฏฐะปะทสั สะ วตุ ตา อิทัมป สังเฆ ระตะนงั ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สวุ ตั ถิ โหตุ ฯ
วะนัปปะคมุ เพ ยะถา ผุสสติ ัคเค คิมหานะมาเส ปะฐะมัสมงิ คมิ เห ตะถูปะมงั ธมั มะวะรัง อะเทสะยิ นพิ พานะคามิง ปะระมงั หติ ายะ อิทมั ป พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สวุ ัตถิ โหตุ ฯ วะโร วะรัญู วะระโท วะราหะโร อะนตุ ตะโร ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ อทิ มั ป พทุ เธ ระตะนัง ปะณีตงั เอเตนะ สัจเจนะ สุวตั ถิ โหตุ ฯ ขณี ัง ปรุ าณัง นะวัง นตั ถิ สัมภะวัง วริ ัตตะจิตตายะตเิ ก ภะวัสมงิ เต ขีณะพีชา อะวริ ุฬหฉิ นั ทา นพิ พนั ติ ธีรา ยะถายมั ปะทีโป อทิ มั ป สงั เฆ ระตะนงั ปะณตี ัง เอเตนะ สัจเจนะ สวุ ตั ถิ โหตุ ฯ ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานวิ ะ อันตะลิกเข ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชติ ัง พทุ ธัง นะมัสสามะ สุวตั ถิ โหตุ ฯ ยานีธะ ภตู านิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อนั ตะลิกเข ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตงั ธมั มัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ ฯ ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภมุ มานิ วา ยานวิ ะ อนั ตะลิกเข ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปชู ิตงั สังฆงั นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ ฯ คาํ แปล รตั นปริตร : - หมภู ูตประจาํ ถิ่นเหลาใด ประชุมกันแลว ในนครน้ีกด็ ี เหลา ใดประชมุ กันแลวใน อากาศก็ดี ขอหมูภูตทั้งปวงจงเปนผดู ใี จและจงฟงภาษิตโดยเคารพ เพราะเหตุนั้น แล ทา นภตู ทง้ั ปวงจงต้ังใจฟง กระทําไมตรีจติ ในหมูม นุษยชาติ ประชุมชนมนษุ ย เหลา ใด ยอ มสังเวยทงั้ กลางวันกลางคืน เพราะเหตุนนั้ แล ทา นทง้ั หลาย จงเปน ผู ไมประมาท รักษาหมูม นุษยเ หลา น้นั
- ทรัพยเ คร่ืองปลมื้ ใจ อันใดอันหนึ่ง ในโลกน้หี รือโลกอ่นื หรือรัตนะอันใด อัน ประณีตในสวรรค รตั นะอันน้ันเสมอดวยพระตถาคตเจา ไมม ีเลย แมอ นั นี้ เปน รตั นะ อันประณีตในพระพุทธเจา ดว ยคาํ สัตยนี้ ขอความสวัสดจี งมี - พระศากยมุนเี จา มีพระหฤทัยดาํ รงม่ัน ไดบ รรลธุ รรมอันใดเปนท่ีสนิ้ กิเลส เปน ท่ี ส้ินราคะ เปนอมฤตธรรมอันประณตี ส่ิงไรๆ เสมอดวยพระธรรมนั้นยอ มไมม ี แม อันน้ีเปนรตั นะอันประณตี ในพระธรรม ดวยคําสัตยน ี้ ขอความสวัสดจี งมี - พระพุทธเจา ผูประเสริฐสุด ทรงสรรเสรญิ แลวซ่ึงสมาธอิ ันใด วา เปนธรรมอัน สะอาด บัณฑติ ทง้ั หลายกลาวซงึ่ สมาธิอันใด วาใหผ ลโดยลําดบั สมาธิอน่ื เสมอ ดวยสมาธิน้นั ยอมไมม ี แมอ ันนี้ เปน รัตนะอันประณีตในพระธรรม ดว ยคําสัตยน้ี ขอความสวัสดีจงมี - บคุ คลเหลา ใด ๘ จําพวก ๔ คู อันสตั บุรษุ ทัง้ หลายสรรเสรญิ แลว บุคคลเหลา นั้น เปนสาวกของพระสุคต ควรแกทักษิณาทาน ทานท้ังหลาย อันบุคคลถวายในทาน เหลา นัน้ ยอ มมีผลมาก แมอ ันนี้ เปนรัตนะอันประณีตในพระสงฆ ดว ยคําสัตยน ้ี ขอความสวัสดีจงมี - พระอริยบุคคลทง้ั หลายเหลาใด ในศาสนาพระโคดมเจา ประกอบดีแลว มีใจ มัน่ คง มีความใคร ออกไปแลว พระอริยบคุ คลทัง้ หลายเหลานั้น ถึงพระอรหตั ผลท่ี ควรถงึ หยั่งเขาสูพระนพิ พาน ไดซ่ึงความดับกิเลส โดยเปลา ๆ แลวเสวยผลอยู แม อนั น้ี เปน รตั นะอันประณีตในพระสงฆ ดว ยคําสัตยนี้ ขอความสวัสดีจงมี - เสาเขื่อนทีล่ งดินแลว ไมห ว่นั ไหวดวยพายุ ๘ ทศิ ฉันใด ผใู ด เล็งเห็นอริยสจั ทัง้ หลาย เราเรยี กผูนั้นวา เปน สตั บุรษุ ผูไมห วน่ั ไหวดว ยโลกธรรม อปุ มาฉันน้ัน แมอันน้ีเปน รัตนะอันประณีตในพระสงฆ ดว ยคาํ สัตยน้ี ขอความสวัสดีจงมี
- พระโสดาบันจาํ พวกใด กระทาํ ใหแ จงอยู ซ่ึงอรยิ สัจท้ังหลายอันพระศาสดาผมู ี ปญญาอันลึกซึ้งแสดงดีแลว พระโสดาบันจําพวกนั้น ยังเปน ผูประมาทก็ดี ถึง กระนั้น ทานยอมไมถือเอาภพที่ ๘ (คอื เกิดอีกอยางมาก๗ ชาต)ิ แมอ นั น้ี เปน รตั นะอันประณีตในพระสงฆ ดว ยคําสตั ยน ้ี ขอความสวสั ดีจงมี - สกั กายทิฏฐิ วิจิกจิ ฉา สีลัพพตปรามาส อนั ใดอันหน่ึงยังมีอยู ธรรมเหลานนั้ อัน พระโสดาบนั ละไดแลว พรอมดวยทสั สนะสมบตั ิ (คือโสดาปต ตมิ รรค) ทเี ดียว อนึง่ พระโสดาบันเปนผพู นแลว จากอบายทัง้ ๔ ไมอาจเพื่อจะกระทาํ อภิฐานทงั้ ๖ (คอื อนันตริยกรรม ๕ และการเขา รีต) แมอ ันนี้ เปน รัตนะอันประณตี ในพระสงฆ ดว ยคาํ สัตยน ี้ ขอความสวสั ดีจงมี - พระโสดาบันนั้น ยงั กระทาํ บาปกรรม ดวยกายหรอื วาจาหรือใจไดบา ง (เพราะ ความพล้ังพลาด) ถงึ กระนัน้ ทา นไมค วรเพือ่ จะปกปดบาปกรรมอันน้ัน ความเปน ผู มีทางพระนพิ พาน อันเห็นแลว ไมค วรปกปดบาปกรรมนน้ั อนั พระผมู พี ระภาค เจาตรัสแลว แมอนั น้ี เปนรัตนะอันประณตี ในพระสงฆ ดวยคําสตั ยนี้ ขอความ สวัสดีจงมี - พมุ ไมใ นปา มยี อดอันบานแลว ในเดือนตนคิมหะแหงคมิ หฤดูฉนั ใด พระผมู พี ระ ภาคเจาไดทรงแสดงพระธรรมใหถงึ พระนพิ พาน เพ่ือประโยชนแกส ัตวทงั้ หลาย มี อปุ มาฉนั น้ัน แมอ ันน้ี เปน รัตนะอนั ประณีตในพระพุทธเจา ดว ยคาํ สัตยน้ี ขอ ความสวัสดีจงมี - กรรมเกา ของพระอรยิ บคุ คลเหลา ใดสิ้นแลว กรรมสมภพใหมย อมไมม ี พระ อรยิ บุคคลเหลาใด มีจิตอันหนา ยแลวในภพตอไป พระอริยบุคคลเหลาน้นั มีพืช สนิ้ ไปแลว มีความพอใจงอกไมไ ดแลว เปน ผมู ปี ญ ญา ยอมปรินิพพานเหมอื น ประทีปอันดบั ไป ฉะนั้น แมอันนี้ เปนรตั นะอันประณตี ในพระสงฆ ดว ยคําสตั ยนี้ ขอความสวัสดีจงมี
- ภตู ประจําถิ่นเหลา ใด ประชุมกนั แลวในพระนครกด็ ี เหลา ใดประชุมกันแลวใน อากาศก็ดี เราทั้งหลาย จงนมัสการพระพทุ ธเจา ผมู าแลวอยา งน้ัน ผอู ันเทพดา และมนษุ ยบ ชู าแลว ขอความสวสั ดีจงมี - ภตู ประจําถ่ินเหลาใด ประชมุ กันแลวในพระนครน้ีก็ดี เหลา ใดประชุมกันแลวใน อากาศก็ดี เราทง้ั หลาย จงนมสั การพระธรรมอันมาแลวอยางนัน้ อันเทพดาและ มนุษยบ ชู าแลว ขอความสวสั ดีจงมี - ภูตประจําถิ่นเหลา ใด ประชมุ กันแลว ในพระนครน้ีก็ดี เหลาใดประชมุ กนั แลว ใน อากาศก็ดี เราท้งั หลาย จงนมัสการพระสงฆผ มู าแลว อยางนั้น ผูอนั เทพดาและ มนษุ ยบ ูชาแลว ขอความสวัสดีจงม.ี
3. เมตตปรติ ร (กรณียเมตตสูตร) สวดบูชาใหพ น จากความตกต่ํา ชวี ิตเจรญิ รุงเรืองขนึ้ เนื้อมนตก ลา วถึงอานุภาพของพระพุทธเจาทีไ่ ดแผเ มตตาไว และการ เทศนาเรอื่ งการแผเมตตาใหแ กพ ระภกิ ษจุ าํ นวน 500 รปู เมอื่ การตงั้ จิตแผ เมตตาเปน ผล ยอ มสง ผลใหผ ูสวดรอดพนจากความตกตํา่ เกิดไฟสองทาง ใหช วี ติ มแี ตแ สงสวา มคี วามกา วหนา กะระณยี ะมตั ถะกุสะเลนะ ยันตงั สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจจะ สักโก อชุ ู จะ สุหชุ ู จะ สุวะโจ จัสสะ มุทุ อะนะติมานี สันตุสสะโก จะ สุภะโร จะ อัปปะกิจโจ จะ สลั ละหุกะวตุ ติ สันตินทริโย จะ นิปะโก จะ อัปปะคัพโภ กเุ ลสุ อะนะนุคทิ โธ นะ จะ ขุททัง สะมาจะเร กิญจิ เยนะ วญิ ู ปะเร อุปะวะเทยยงุ สุขโิ น วา เขมโิ น โหนตุ สัพเพ สัตตา ภะวนั ตุ สขุ ติ ัตตา เย เกจิ ปาณะภูตัตถิ ตะสา วา ถาวะรา วา อะนะวะเสสา ทีฆา วา เย มะหันตา วา มชั ฌิมา รัสสะกา อะณุกะถูลา
ทิฏฐา วา เย จะ อะทฏิ ฐา เย จะ ทูเร วะสนั ติ อะวทิ ูเร ภตู า วา สมั ภะเวสี วา สพั เพ สตั ตา ภะวนั ตุ สขุ ิตัตตา นะ ปะโร ปะรงั นิกุพเพถะ นาติมญั เญถะ กัตถะจิ นัง กิญจิ พยาโรสะนา ปะฏิฆะสัญญา นาญญะมัญญัสสะ ทกุ ขะมิจเฉยยะ มาตา ยะถา นิยัง ปตุ ตงั อายสุ า เอกะปุตตะมะนุรักเข เอวัมป สัพพะภูเตสุ มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง เมตตัญจะ สพั พะโลกัสมิง มานะสมั ภาวะเย อะปะริมาณัง อุทธัง อะโธ จะ ติรยิ ัญจะ อะสัมพาธัง อะเวรงั อะสะปตตัง ติฎฐญั จะรัง นสิ ินโน วา สะยาโน วา ยาวะตสั สะ วิคะตะมทิ โธ เอตัง สะติง อะธฏิ เฐยยะ พรหั มะเมตัง วหิ ารงั อิธะมาหุ ทิฏฐญิ จะ อะนุปะคัมมะ สสี ะวา ทัสสะเนนะ สมั ปนโน กาเมสุ วเิ นยยะ เคธัง นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติฯ
คาํ แปล กรณียเมตตปรติ ร : กลุ บตุ รผฉู ลาด พึงกระทํากิจที่พระอรยิ เจาผบู รรลุแลว ซึ่งพระนพิ พานอันเปนท่ี สงบระงับไดกระทาํ แลว กุลบุตรน้ังพึงเปนผูองอาจ ซ่ือตรงและประพฤตติ รงดี เปน ผูทีว่ า งา ยสอนงาย ออ นโยน ไมมมี านะอันย่ิง เปนผูสันโดษยินดีในสิ่งที่ตนมีอยู เปนผูเลี้ยงงาย เปน ผมู ีกิจธุระนอ ย เปน ผปู ระพฤติทาํ ใหกายและจิตเบา มตี า หู จมูก ลนิ้ กาย ใจ อันสงบนิง่ มปี ญญาฆา กเิ ลส เปน ผไู มคะนอง กาย วาจา ใจ และ ไมพวั พนั ในสกุลท้ังหลาย ไมพึงกระทํากรรมท่ที านผูรูท้งั หลายติเตยี น ผูอน่ื วาทํา แลว ไมดี พึงแผเมตตาจิตวา ขอสัตวทั้งหลายทัง้ ปวง จงเปนผูม ีสขุ มีจติ เกาะพระ นพิ พานแดนอันพนจากภัยทั้งหลาย และจงเปนผทู ําตนใหถึงความสขุ ทกุ เมอื่ เถิด ขอสตั วท ้ังหลายท้ังปวงทั้งหมดโดยไมมเี หลอื ทง้ั ทม่ี ีตัณหาเคร่ืองทําใจใหสะดุง อยู และผมู นั่ คงคือไมมีตัณหาแลว ท้งั ทีม่ กี ายยาว ใหญปานกลาง หรือกายสน้ั หรือ ผอม อว น เปน ผทู เี่ ราเห็นแลวก็ดี ไมไดเ หน็ กด็ ี อยใู นท่ีไกลหรือในที่ไมไกล ทั้งที่ เกิดมาในโลกนแี้ ลว และท่ียังกาํ ลังแสวงหาภพเปน ทีเ่ กิดอยูดี จงเปน เปนผูทาํ ตน ใหถ งึ ความสุขเถดิ สัตวอื่นอยาพึงรังแกขม เหงสัตวอ ื่น อยาพึงดูหมิ่นใครในทใ่ี ด ๆ เลย ไมควรปรารถนาใหกันและกันมคี วามทกุ ข เพราะความกร้วิ โกรธ และเพราะ ความเคียดแคนกันเลย มารดายอมตามรักษาบตุ รคนเดยี วผูเกดิ ในตน ดว ยชีวติ ฉนั ใด กุลบุตรพงึ เจริญ เมตตาจติ ในใจไมมีประมาณ ในสัตวทั้งปวงทั้งหลายแมฉนั นั้น บุคคลพึงเจริญ เมตตาใหม ใี นใจไมมปี ระมาณ ไปในโลกท้ังสน้ิ ท้งั เบื้องบน เบือ้ งต่าํ เบือ้ งขวาง การเจรญิ เมตตาจิตนี้เปนธรรมอันไมแ คบ ไมม เี วร ไมม ีศตั รู ผูเจริญเมตตาจิตนัน้ จะยนื อยกู ็ดี เดนิ ไปกด็ ี น่ังอยกู ด็ ี นอนอยูก็ดี เปนผปู ราศจากความงวงเพยี งใด ก็ สามารถตัง้ สติไวไ ดเพยี งน้ัน บณั ฑิตทัง้ หลายกลา วถึงกิริยาอยางน้ีวา เปน การ เจรญิ พรหมวิหารในศาสนานี้ บุคคลผทู ่ีมีเมตตา ไมเขาถงึ ความเหน็ ผดิ เปนผูม ีศีล ถึงพรอมแลวดวยความเห็นคอื ปญญา นาํ ความหมกมุนในกามทง้ั หลายออกได แลว ยอ มไมเ ขา ถึงความเขา ไปนอนในครรภเ พื่อเกิดอีกโดยแทแ ลฯ
4. ขนั ธปริตร สวดบูชาใหพนจากอสรพิษสัตวรา ยทั้งปวง เนอ้ื มนตกลาวถึงการแผเมตตาใหสตั วร ายทัง้ ปวง เชน งู ตะขาบ แมงปอง เสอื จระเข เหยี่ยว แรง กา ฯลฯ นิยมสวดเม่อื เขาปา ใหเ กดิ ความแคลว คลาดปลอดภัย วิรปู ก เขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิ เม ฉพั ยาปุตเตหิ เม เมตตงั เมตตัง กณั หาโคตะมะเกหิ จะ อะปาทะเกหิ เม เมตตงั เมตตัง ทปิ าทะเกหิ เม จะตปุ ปะเทหิ เม เมตตัง เมตตัง พะหปุ ปะเทหิ เม มา มงั อะปาทะโก หิงสิ มา มงั หงิ สิ ทปิ าทะโก มา มงั จะตปุ ปะโท หิงสิ มา มงั หิงสิ พะหปุ ปะโท สัพเพ สตั ตา สพั เพ ปาณา สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา สพั เพ ภทั รานิ ปสสันตุ มา กญิ จิ ปาปะมาคะมา อปั ปะมาโณ พทุ โธ | อปั ปะมาโณ ธมั โม | อัปปะมาโณ สังโฆ ปะมาณะวันตานิ สิรงิ สะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที อณุ ณานาภี สะระพู มูสกิ า กะตา เม รกั ขา กะตา เม ปะรติ ตา ปะฏิกกะมนั ตุ ภตู านิ โสหงั นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง สมั มาสัมพุทธานังฯ
คาํ แปล ขันธปริตร : ความเปน มติ รของเรา จงมีแกพญางทู งั้ หลาย สกลุ วิรปู กขดว ย ความเปน มิตรของเรา จงมีกับพญางูทั้งหลาย สกลุ เอราบทดว ย ความเปน มิตรของเรา จงมแี กพญางูทั้งหลาย สกลุ ฉัพยาบุตรดวย ความเปน มติ รของเรา จงมีแกพญางทู ั้งหลาย สกุลกณั หาโคตมกะดว ย ความเปน มติ รของเรา จงมีกับสัตวท ้งั หลาย ทไ่ี มม ีเทาดว ย ความเปน มิตรของเรา จงมีกบั สัตวทัง้ หลาย ทม่ี สี องเทาดว ย ความเปน มติ รของเรา จงมีกบั สัตวท งั้ หลาย ที่มสี เ่ี ทา ดวย ความเปน มิตรของเรา จงมีกบั สัตวท ั้งหลาย ทมี่ หี ลายเทาดวย สตั วไมม เี ทาอยาเบียดเบียนเรา สัตวส องเทา อยาเบยี ดเบยี นเรา สตั วส เี่ ทา อยา เบยี ดเบียนเรา สตั วห ลายเทาอยาเบียดเบียนเรา ขอสรรพสัตวที่มชี ีวติ ทั้งหลาย ทีเ่ กิดมาทงั้ หมดจนสิน้ เชงิ ดว ย จงเห็นซึ่งความเจริญทั้งหลายท้ังปวงเถิด โทษลามกใดๆ อยาไดม าถงึ แลว แกสัตวเ หลา นั้น พระพทุ ธเจา ทรงพระคุณ ไมมปี ระมาณ พระธรรม ทรงพระคุณ ไมมปี ระมาณ พระสงฆ ทรงพระคุณ ไมม ีประมาณ สัตวเล้ือยคลานท้ังหลาย คอื งู แมลงปอง ตะเข็บ ตะขาบ แมงมมุ ตกุ แก หนู เหลา น้ี ลว นมปี ระมาณ ความรกั ษา อันเรากระทําแลว การปองกนั อันเรากระทาํ แลว หมสู ัตวท งั้ หลายจงหลกี ไปเสีย เราน้นั กระทํานอบนอม แดพระผมู ีพระภาคเจา อยู กระทาํ นอบนอ ม แดพระสัมมาสมั พุทธเจา เจ็ดพระองคอยู
5. โมรปริตร สวดบชู าใหพ นจากกับดักและผคู ิดราย เนอ้ื มนตกลาวถึงพระโพธิสัตวเมอ่ื ครัง้ เสวยพระชาตเิ ปนพญานกยงู พุทธา นุภาพใหพระโพธิสัตวรอดพนจากบวงของนายพรานนานถงึ 12 ป สวดบูชา เปน ประจําเพื่อใหรอดพนจากผูคิดการราย รอดพนจากกบั ดัก อุบายและ การฉอ โกง อเุ ทตะยญั จกั ขุมา เอกะราชา หะรสิ สะวณั โณ ปะฐะวปิ ปะภาโส ตัง ตงั นะมัสสามิ หะริสสะวณั ณัง ปะฐะวปิ ปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วหิ ะเรมุ ทิวะสัง เย พราหมะณา เวทะคุ สพั พะธมั เม เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยนั ตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธยิ า นะโม วิมุตตานงั นะโม วมิ ุตตยิ า อมิ ัง โส ปะริตตงั กตั วา โมโร จะระติ เอสะนา ฯ อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะวัณโณ ปะฐะวปิ ปะภาโส ตัง ตงั นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คตุ ตา วิหะเรมุ รัตติง เย พราหมะณา เวทะคุ สพั พะธัมเม เต เม นะโม เต จะ มงั ปาละยันตุ นะมัตถุ พทุ ธานัง นะมัตถุ โพธยิ า นะโม วมิ ตุ ตานงั นะโม วิมุตตยิ า อมิ งั โส ปะริตตงั กตั วา โมโร วาสะมะกปั ปะยีติ ฯ
คาํ แปล โมรปรติ ร : พระอาทติ ยเปน ดวงตาของโลก เปน เอกราช มสี เี พียงดังสีแหงทอง ยงั พน้ื ปฐพีให สวา ง อทุ ยั ขึ้นมา เพราะเหตนุ ้ัน ขาขอนอบนอ มพระอาทิตยนั้น ซึ่งมีสีเพยี งดังสี แหง ทอง ยงั พ้นื ปฐพีใหสวาง ขาทั้งหลาย อนั ทา นปกครองแลวในวนั น้ี พึงอยูเปน สุขตลอดวัน พราหมณท ้งั หลายเหลา ใด ผถู ึงซึ่งเวทในธรรมท้ังปวง พราหมณท ้ังหลายเหลาน้นั จงรบั ความนอบนอ มของขา อน่ึง พราหมณท้ังหลาย เหลา น้นั จงรักษาซึ่งขา ฯ ความนอบนอมของขา จงมแี ดพระพุทธเจาท้งั หลาย ความนอบนอมของขา จงมี แดพ ระโพธิญาณ ความนอบนอมของขา จงมแี ดท า นผูพนแลว ทั้งหลาย ความ นอบนอมของขา จงมีแดวิมตุ ติธรรม นกยูงน้ันไดกระทําปริตรอันนแ้ี ลว จึงเทยี่ ว ไป เพื่ออันแสวงหาอาหาร ฯ พระอาทิตยน ้เี ปน ดวงตาของโลก เปนเอกราช มีสีเพียงดังสีแหงทองยังพื้นปฐพีให สวา ง ยอ มอัสดงคตไป เพราะเหตนุ ้ัน ขาขอนอบนอมพระอาทติ ยนั้น ซึ่งมีสีเพยี ง ดังสีแหงทอง ยงั พ้ืนปฐพใี หสวาง ขาทั้งหลาย อันทานปกครองแลวในวนั นี้ พึงอยู เปน สขุ ตลอดคืน พราหมณท ้ังหลายเหลา ใด ผูถงึ ซึง่ เวทในธรรมท้ังปวง พราหมณ ท้งั หลายเหลานนั้ จงรบั ความนอบนอมของขา อนึ่ง พราหมณท้ังหลายเหลา นัน้ จงรักษาซ่ึงขา ฯ ความนอบนอมของขา จงมแี ดพระพุทธเจาทัง้ หลาย ความนอบนอ มของขา จงมีแดพ ระโพธิญาณ ความนอบนอ มของขา จงมีแดท านผูพนแลว ทงั้ หลาย ความนอบนอมของขา จงมีแดว มิ ุตตธิ รรม นกยงู น้นั ไดก ระทําปรติ รอันนี้แลว จงึ สําเร็จความอยแู ล ฯ
6. วัฏฏกปริตร สวดบูชาใหพน จากอัคคภี ัย เนือ้ มนตก ลาวถงึ พระโพธิสัตวเ ม่อื ครัง้ เสวยพระชาตเิ ปน ลกู นกคมุ ทปี่ ด เปา ไฟปา ท่ีกําลังลกุ ลามใหดบั โดยแบพลนั ใชสวดเพอ่ื ปองกนั อคั คภี ยั อัตถิ โลเก สลี ะคุโณ | สัจจัง โสเจยยะนุททะยา เตนะ สจั เจนะ กาหามิ | สจั จะกิรยิ ะมะนุตตะรัง อาวชั ชิตวา ธมั มะพะลัง | สะริตวา ปุพพะเก ชิเน สัจจะพะละมะวัสสายะ | สจั จะกิรยิ ะมะกาสะหัง สนั ติ ปกขา อะปตตะนา | สันติ ปาทา อะวัญจะนา มาตา ปต า จะ นิกขันตา | ชาตะเวทะ ปะฎิกกะมะ สะหะ สัจเจ กะเต มยั หงั | มะหาปชชะลโิ ต สขิ ี วัชเชสิ โสฬะสะ กะรีสานิ | อทุ กงั ปตวา ยะถา สขิ ี สัจเจนะ เม สะโม นัตถิ | เอสา เม สัจจะปาระมตี ิ ฯ คําแปล วัฏฏกปริตร : คณุ แหง ศีลมอี ยูใ นโลก ความสัจ ความสะอาดกาย และความเอ็นดูมีอยใู นโลก ดวยคําสัจน้ัน ขาพเจา จกั กระทาํ สัจจะกิรยิ าอนั เยีย่ ม ขา พเจา พิจารณาซง่ึ กําลงั แหง ธรรมและระลึกถึงพระชนิ เจา ทั้งหลายในปางกอน อาศยั กาํ ลงั แหงสจั จะ ขอกระทําสัจจะกิรยิ า ปกท้ังหลายของขา มอี ยู แตบินไมไ ด เทา ท้งั หลายของขามีอยู แตเดินไมไ ด มารดาและบิดาของขา ออกไปหาอาหาร ดูกอ นไฟปา ขอทานจงหลีกไป ครน้ั เมื่อสจั จะ อันเรากระทําแลว เปลวไฟอนั รุงเรืองใหญไดห ลกี ไป พรอมกบั คําสัตย ประหนึ่งเปลวไฟอันตกถึงนาํ้ ส่ิงไรเสมอดว ยสจั จะของเราไมมี นเ้ี ปนสจั จะบารมขี องเราดังนแ้ี ล
7. ธชคั คปริตร (ธชัคคสูตร) สวดบชู าใหพน จากอนั ตรายจากความเส่ยี ง การตกจากที่สงู การตอ งเส่ียงชวี ิต เน้อื มนตกลาวถึงเม่อื ครั้งสงครามระหวางเทวดาและอสูร ทาวสกั กะเหน็ วาเหลา เทวดาเกดิ ความหวาดกลัวอสูรรา ย ทาวสกั กะจึงชี้ใหเ หลา เทวดามองข้นึ ไปบนยอดธงรบของพระองค เพอื่ ใหเกดิ กาํ ลงั ใจ ปลุกใจใหเ หลาเทวดาเกดิ ความหา วหาญ เหลาเทวดาสรู บกบั อสรู และ ไดรบั ชยั ชนะในทส่ี ดุ สมเดจ็ พระสมั มาสมั พุทธเจา แนะนาํ ใหเหลา ภิกษุไปปฏิบัติธรรมตามปา เขา เมื่อเหลาภิกษุเกดิ ความหวาดกลัวอันตรายไปปา พระพทุ ธองคก็แนะใหระลกึ ถงึ ยอดธงรบ ของทา วสกั กะอยเู สมอ ธงรบนั้นกค็ ือสญั ลักษณของพระรตั นตรยั ทม่ี ีชยั เหนอื ทุกสรรพสงิ่ อานภุ าพของพระคาถาบทนี้จงึ ปกปอ งคมุ ครองใหผูสวดเกิดความฮกึ เหิมและแคลวคลาดจาก ภยนั ตรายทั้งปวง เอวัม เม สตุ งั ฯ เอกงั สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถยิ งั วหิ ะระติ เชตะวะเน อะนา ถะปณ ฑกิ ัสสะ อาราเม ฯ ตตั ระ โข ภะคะวา ภิกขู อามันเตสิ ภิกขะโวติ ฯ ภะทนั เตติ เต ภกิ ขู ภะคะวะโต ปจ จัสโสสงุ ฯ ภะคะวา เอตะทะโวจะฯ ภูตะปุพพัง ภิกขะเว เทวาสรุ ะสังคาโม สะมปุ พยฬุ โห อะโหสิ ฯ อะถะโข ภิกขะเว สักโก เทวานะมนิ โท เทเว ตาวะตงิ เส อามันเตสิ สะเจ มาริสา เทวานงั สังคา มะคะตานัง อปุ ปช เชยยะ ภะยัง วา ฉมั ภิตัตตัง วา โลมะหังโส วา มะเมวะ ตสั มิง สะมะเย ธะชัคคัง อุลโลเกยยาถะ มะมัง หิ โว ธะชคั คงั อุลโลกะยะตัง ยัมภะวิ สสะติ ภะยัง วา ฉมั ภติ ัตตัง วา โลมะหังโส วา โส ปห ิยยสิ สะติ โน เจ เม ธะชัคคงั อลุ โลเกยยาถะ อะถะ ปะชาปะติสสะ เทวะราชสั สะ ธะชคั คัง อุลโลเกย ยาถะ ปะ ชาปะติสสะ หโิ ว เทวะราชัสสะ ธะชัคคัง อุลโลกะยะตัง ยมั ภะวสิ สะติ ภะยงั วา ฉมั ภิตัตตัง วา โลมะหงั โส วา โส ปะหยิ ยิสสะติ โน เจ ปะชาปะติสสะ เทวะราชสั สะ ธะชคั คัง อุลโลเกยยาถะ อะถะ วะรณุ ัสสะ หิโว เทวะราชัสสะ ธะชคั คัง อลุ โล กะยะตัง ยมั ภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉัมภิตัตตัง วา โลมะหังโส วา โส ปะหยิ ยสิ สะติ โน เจ วะรณุ ัสสะ เทวะราชัสสะ ธะชัคคัง อุลโล เกยยาถะ อสี านสั สะ หิโว เทวะ ราชสั สะ ธะชัคคัง อุลโลกะยะตัง ยมั ภะวสิ สะติ ภะยัง วา ฉัมภติ ตั ตัง วา โลมะหงั โส วา โส ปะหยิ ยิสสะตีตฯิ
ตงั โข ปะนะ ภกิ ขะเว สักกัสสะ วา เทวานะ มินทัสสะ ธะชัคคงั อลุ โลกะยะตงั ปะชา ปะตสิ สะ วา เทวะราชัสสะ ธะชัคคัง อุลโลกะยะตัง วะรุณสั สะ วา เทวะราชัสสะ ธะชัคคงั อุลโลกะยะตัง อสี านสั สะ วา เทวะราชัสสะ ธะชคั คงั อุลโลกะยะตงั ยัมภะวิ สสะติ ภะยงั วา ฉัมภิตตั ตงั วา โลมะหังโส วาโส ปะหยิ เยถาป โนป ปะหิยเยถะ ตัง กิสสะเหตุ สักโก หิ ภิกขะเว เทวานะมินโท อะวีตะราโค อะวีตะโทโส อะวีตะโมโห ภริ ุ ฉัมภี อตุ ราสี ปะลายตี ิฯ อะหญั จะ โข ภิกขะเว เอวัง วะทามิ สะเจ ตุมหากงั ภกิ ขะเว อะรญั ญะคะตานัง วา รกุ ขะมลู ะคะตานงั วา สุญญาคาระคะตานงั วา อุปปชเชยยะ ภะยงั วา ฉมั ภติ ตั ตงั วา โลมะหังโส วา มะเมวะ ตัสมงิ สะมะเย อันุสสะเรยยาถะ อิตปิ โส ภะคะวา อะระหงั สมั มาสมั พุทโธ วิชชาจะระณะสมั ปนโน สุคะโต โลกะวิทู อะนตุ ตะโร ปรุ สิ ะทัมมะ สาระถิ สตั ถา เทวะมะนุสสานัง พทุ โธ ภะคะวาติ มะมัง หิ โว ภิกขะเว อะนุสสะระตงั ยมั ภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉัมภิตัตตัง วา โลมะหงั โส วา โส ปะหิยยสิ สะติ โน เจ มัง อะ นุสสะเรยยาถะ อะถะ ธมั มัง อะนุสสะเรยยาถะ สวากขาโต ภะคะวะตา ธมั โม สันทิฏฐิ โก อะกาลโิ ก เอหปิ ส สโิ ก โอปะนะยิโก ปจจตั ตงั เวทติ ัพโพ วญิ หู ีติ ธมั มงั หิโว ภิกขะเว อะนุสสะระตัง ยัมภะวสิ สะติ ภะยัง วา ฉัมภิตัตตงั วา โลมะหงั โส วา โส ปะหยิ ยิสสะติ โน เจ ธมั มัง อะนุสสะเรยยาถะ อะถะ สงั ฆัง อะนุสสะเรยยาถะ สุปะฏิ ปน โน ภะคะวะโต สาวะ กะสงั โฆ อุชุปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะ ปะฏิ ปน โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจปิ ะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อฏั ฐะ ปรุ สิ ะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหเุ นยโย ปาหเุ นยโย ทกั ขิเณยโย อญั ชะลกี ะระณะโย อะนุตตะรงั ปญุ ญักเขตตัง โลกัสสาติ สงั ฆัง หิ โว ภิกขะเว อะนุสสะระตงั ยัมภะวิสสะติ ภะยัง วา ฉมั ภิตัตตัง วา โลมะหังโส วา โส ปะหิยยสิ สะติ ตงั กิสสะ เหตุ ตะถา คะโต หิ ภิกขะเว อะระหัง สัมมาสัมพทุ โธ วี ตะราโค วีตะโทโส วตี ะโมโห อะภิรุ อจั ฉัมภี อะนุตราสี อะปะ ลายีติฯ อิทะมะโวจะ ภะคะวา อทิ ัง วตวานะ สุคะโต อะถาปะรงั เอตะทะโวจะ สัตถา อะรญั เญ รุกขะมูเล วา สญุ ญาคาเรวะ ภกิ ขะโว อะนุสสะเรถะ สมั พทุ ธงั ภะยัง ตุมหากะ โน สิยา โน เจ พุทธงั สะเรยยาถะ โลกะ เชฏฐัง นะราสะภงั อะถะ ธัมมงั สะเรยยาถะ นิยยานิ กงั สเุ ทสิตัง โน เจ ธัมมงั สะเรยยาถะ นยิ ยานิกัง สเุ ทสติ ัง อะถะ สังฆงั สะเรยยาถะ ปุญญักเขตตัง อะนุตตะรงั เอวมั พุทธัง สะรันตานัง ธมั มัง สังฆัญจะ ภิกขะโว ภะยัง วา ฉัมภติ ัตตงั วา โลมะหงั โส นะ เหสสะตตี ิ ฯ
อธิบาย ธชัคคปริตร : พระพุทธเจา ไดตรัสสอนพระภิกษทุ ง้ั หลายใหร ะลกึ ถงึ พระคุณของพระพุทธเจา พระ ธรรม และพระสงฆ โดยทรงนําเอาเร่อื งสงครามระหวางพวก เทวดา และพวกอสูร เมือ่ ครง้ั กาํ ลงั ติดพนั กนั ในสมยั กอน มาตรสั เปน ตัวอยา งวา ในสงครามคร้งั น้นั ไดมีพระอินทร หรอื ทาวสกั กะ ผเู ปน ใหญของพวกเทวดาทั้งหลาย ไดตรสั แนะนาํ ใหพ วกเทวดาทีเ่ ขาสงคราม ถาเกิดความหวาดกลัว กใ็ หดยู อดธงท่ี งอน รถ เพอื่ ใหหายหวาดกลัว หานความครั่นคราม หายความสยดสยองตอขา ศึก ซึง่ มี มลู เหตมุ าจากการแยง ทีอ่ ยกู ันบนสวรรค เพราะแตเดมิ น้ัน เทวโลกบนยอดเขาสเุ มรุ เปน ที่อยขู องเทวดาพวกหนึ่ง เรียกวา เนวาสิกเทวบุตร (เทวบตุ รผอุ ยูป ระจํา) มที า ว เวปจิตตเิ ปนหัวหนา ตอ มา เมือ่ \"มฆะมาณพ\" ชาวบานอจลคามในอาณาจกั ร มคธ ผู บําเพญ็ วตั ตบท ๗ ประการ กับภรรยา 4 คน ไดช ักชวนเพื่อนอีก 32 คน รว มกันสราง กุศลกรรมตางๆ ครนั้ ตายลง มฆะมาณพกบั พวกเพ่ือน 32 คน และภรรยา 3 คน (ขาด นางสุชาดา) ไดไปเกิดในเทวโลกบนยอดเขาสเุ มรุ ทพ่ี วกเนวาสิกเทวบุตรอยู มฆะ มาณพไปเกดิ เปนพระอินทร คอื ทาวสักกะ ผูเปนใหญ ของเทวดา สว นนายชา งของ มฆะมาณพไปเกิดเปน วิสสุกรรมเทวบตุ ร นายชา งเทวดา ภรรยา ๓ คน คือ นางสุธัม มา นางสุนันทา นางสุจิตรา ก็ไปเกิดเปนมเหสีของพระอนิ ทร ฝา ยเนวาสกิ เทวบุตร เมื่อเหน็ พวกเทวดามาเกดิ ใหม ก็จัดเคร่ืองดืม่ พวกน้าํ เมา (เรยี กวา ทิพพปานะบา ง คนั ธปานะบาง) เล้ียงตอนรับผูมาใหม แตทา วสกั กะ นัด หมายมใิ หพวกพอ งของตนรวมด่มื พวกเนวาสิกเทวบุตร พากันดมื่ ฝา ยเดียวจนเมา มาย นอนหลบั ไหล อยตู ามภาคพ้ืน ทาวสกั กะ จงึ บอกแกพ วกของตนวา เราไม ตองการใหราชสมบตั ิ ณ ท่ีนี้ เปนสาธารณะแกพ วกเนวาสิกเทวบุตร จงึ ส่งั ใหพรรค พวกของตน จบั พวกเทวบุตรขีเ้ มา ขวา งลงไปในมหาสมุทร ณ เชิงเขาพระสุเมรุ พอ ตกลงมาถึงกลางชว งเขา พวกเนวาสิกเทวบตุ รไดสติ จงึ ปรารภกันวา แตนไ้ี ปเราจะไม ด่มื สุรากันอีกแลว แตนั้นมาพวกเนวาสิกเทวบตุ ร จงึ มนี ามใหมวา \"อสรุ า\" แปลวา ผู ไมดม่ื สุรา และดว ยบุญญานุภาพของพวกเนวาสิกเทวบตุ ร จงึ ดลบันดาลใหมอี สูรภภิ พ เกิดขน้ึ ณ เบื้องลา งเขาพระสุเมรุ มีตนไมชอ่ื จิตตปาลี (แปลวาตนแคฝอย) เกิดขน้ึ เปนตน ไมป ระจําพิภพของอสูร
สว นเทวโลกบนยอดเขาสเุ มรุ ก็กลายเปน สุทัศนเทพนคร ของพระอินทร กับพรรค พวกผูเปน สหาย มีวมิ าน มีอุทยาน มสี ระโบกขรณี มเี วชยนั ตป ราสาท เวชยันตราชรถ และอ่นื ๆ เกดิ ข้ึนดวยอานุภาพของ ทาวสักกะกับมเหสี และเทวดา32 องค ซงึ่ สราง กศุ ลรวมกันมา ตั้งแตนน้ั สวรรคช ั้นน้จี ึงมนี ามวา ดาวดงึ สเทพนคร(นครของเทวดา ๓๒ องค) ทานกลา ววา เทพนครกับอสรู นครนน้ั มี สมบัติเทา เทียมเสมอกัน สวนนางสุชาดา ภรรยาอีกคนหนึ่งของ มฆะมาณพ น้ัน เมื่อภรรยา ทงั้ ๓ คนเขาสรา ง กุศลกัน ตนเองกม็ ไิ ดรวมสรางดวยเพราะคิดเสียวา ตัวเปนภรรยา เมื่อสามีทาํ แลวก็ เทา กบั ตนเองทําดวย จึงสาละวนอยูกบั การแตง ตัว มิไดขวนขวายกอ สรา งการกุศลใด ครัน้ ตายลงจึงไปเกิดเปนนกยาง วันหนึง่ พระอนิ ทรทรงราํ พงึ วา เม่ือครัง้ เรากอสรา งส่ิง กศุ ลอยูเ มอื งมนษุ ย เคยมภี รรยา 4 คน บดั นี้มาเกิดอยูรวมกัน 3 คน แลวนางสุชาดา อกี 1 คนไปอยูท ไ่ี หน เม่ือตรวจดู ไปก็ทรงทราบวา นางสุชาดาไปเกิดเปนนกยาง จึงลงมาแนะนาํ ใหรักษาศลี มิใหก ินปลาเปน ใหก ินแตป ลาตาย เม่ือหาปลาตายกินไมไ ด นางนกยางนน้ั กอ็ ด อาหาร และซูบผอมลงแลวกต็ ายไปเกิดเปน ธิดาชางหมอ พระอินทร ก็ลงมาแนะนําให รักษาศีล ครั้นนางสน้ิ ชพี ในชาตินนั้ ก็ไปเกิดเปน ธิดาผูงดงามของทา วเวปจิตติ ราชา แหง อสูร ผเู ปนศตั รูคูแคนกับทาวสักกะ ครน้ั เจรญิ วัยบดิ าก็งานสยุมพรใหพ ระธดิ า เลือกคคู รอง พอดีพระอินทรทรงทราบ จึงแปลงองคเปนอสูรแกม ายืนอยทู า ยสดุ ของที่ ชุมนมุ แลวดว ยบุพเพสนั นิวาส นางกโ็ ยนพวงมาลยั มาใหอ สูรชรา คือทา วสักกะ ท่ี ชุมนุมก็อลเวงพวกอสรู หนุมกห็ าวา นางไปเลือกอสูรแกไมคูควรกัน พระอนิ ทรผเู ปน อสรู แกปลอมก็อมุ นางพาไปขนึ้ เวชยันตร าชรถ ซึง่ มาตลเี ทวบตุ รนาํ มาซมุ รอไว พากนั เหาะหนไี ปยงั สทุ ศั นเทพนคร ซง่ึ เปนมูลเหตุอีกเรือ่ งหน่งึ ท่ีทําใหพ วกอสรู แคนเคอื ง พวกเทวดามาก ต้ังแตน ้ันมา คร้นั ถึงฤดูท่ีตนจิตตปาลี ตนไมประจําพิภพอสูร ผลิดดอกบาน พวกอสรู ก็ รําลึกถงึ ตนปารฉิ ตั รทีเ่ คยเปน ของตน อสูรกย็ กทพั มารบกบั เทวดาพวกของพระอนิ ทร เปน สงครามประจาํ ฤดกู าลและผลัดกันแพ - ชนะ ดวยเหตนุ ี้ทาวสักกะผเู ปนราชาแหง เทวดาทัง้ หลาย จึงตรสั แนะนาํ ใหเ ทวดาทัง้ หลายท่เี ขา สงครามดูยอดธงของพระองค ถา ไมเหน็ กใ็ หดยู อดธงของเทวราช อีก 3 องค ซง่ึ มาในกองทัพคือ
เทวราชผูมพี ระนามวา ปชาบดี เทวราชผูมีนามวา วรณุ และเทวราชผมู ีนามวา อสี าน ซึ่งพระอรรถกถรจารย (พระพทุ ธโฆสฯ) อธิบายวา เทวราชพระนามวา ปชาบดี นั้นมี ผิวพรรณและอายเุ ทากันกับทาวสักกะ และประทับนง่ั มา ณ อาสนะเปน อนั ดบั 2 สว น เทวราช วรุณ และอีสาน ก็อยเู ปนอนั ดับ 3 และ 4 ถัดไป พระพทุ ธเจาไดท รงยกเอาเรอ่ื งสงครามระหวางเทวดากบั อสุร และคําตรัสแนะนาํ ของ ทา วสักกะที่ตรัสแกท วยเทพเปน แนวเปรยี บเทียบ แลวตรัสสอนใหภ ิกษุท้ังหลาย ผู ปฏบิ ตั กิ ัมมฏั ฐาน หรอื สมาทานธุดงต ไปอยตู ามโคนไม หรอื ในอาคารท่สี งดั ใหระลึก ถงึ พระพุทธเจา พระธรรม และพระสงฆ เพ่อื ระงับความกลัว ความครั่นคราม และ ความสยดสยอง เชน ขอ ความในธชัคคปริตร ซง่ึ พระอรรถกถาจารยกลาวไวว า อานุภาพของพระปรติ รบทนแ้ี ผไ ปทั่วอาณาจักรเขตแสนโกฏิจักรวาฬ ผทู รี่ ะลึกพระ ปริตรนแี้ ลวแลว รอดพนจากทกุ ขท ่เี กิดจากภยั มยี ักษและโจร เปนตน นบั ไมถ ว น ผูมี จิตเล่ือมใส ระลึกถงึ พระปริตรน้ี ยอมจะไดหลกั พึง่ พิงได ( คําอธิบายนี้ มาจากหนงั สือสวดมนต ฉบบั อบุ าสก อุบาสิก: วัดเกตุมดีศรีวราราม)
8. อาฏานาฏยิ ปรติ ร สวดบชู าใหพ นจาก อมนษุ ย เนอ้ื มนตก ลา วถงึ คุณงามความดีของพระพุทธเจา 7 พระองคในอดตี และ การอาราธนาพทุ ธานภุ าพเหลานน้ั มาคมุ ครองใหผ ูส วดรอดพนจาก อันตราย ใหเ กิดความสุข ความสงบ เหลา อมนุษยท ัง้ หลายไมเ บียดเบียน วปิ สสสิ สะ นะมัตถุ จักขุมนั ตสั สะ สิรีมะโต สขิ สิ สะป นะมัตถุ สัพพะภูตานุกัมปโน เวสสะภุสสะ นะมัตถุ นะหาตะกัสสะ ตะปสสิโน นะมัตถุ กะกสุ ันธัสสะ มาระเสนปั ปะมทั ทโิ น โกนาคะมะนัสสะ นะมัตถุ พราหมะณสั สะ วสุ ีมะโต กสั สะปสสะ นะมตั ถ วปิ ปะมตุ ตัสสะ สพั พะธิ อังคีระสัสสะ นะมตั ถุ สักยะปตุ ตัสสะ สริ ีมะโต โย อิมัง ธัมมะมะเทเสสิ สัพพะทกุ ขาปะนูทะนงั เย จาป นพิ พุตา โลเก ยะถาภูตงั วิปสสิสุง เต ชะนา อะปสณุ า มะหนั ตา วตี ะสาระทา หติ ัง เทวะมะนุสสานัง ยงั นะมัสสันติ โคตะมัง วชิ ชาจะระณะสัมปนนัง มะหันตัง วีตะสาระทงั วชิ ชาจะระณะสมั ปนนัง พุทธัง วันทามะ โคตะมันติ
คาํ แปล อาฏานาฏยิ ปริตร : ความนอบนอมของขาพเจา จงมแี ดพ ระวิปสสีพุทธเจา ผมู ีจักษุ ผูมีสิริ ความนอบนอ มของขาพเจา จงมีแดพระสิขพี ทุ ธเจา ผมู ีปกติอนเุ คราะหแกสตั วท้งั ปวง ความนอบนอมของขา พเจา จงมแี ดพ ระเวสสะภูพทุ ธเจา ผมู ีกเิ ลสอันลางแลว ผมู ตี บะ ความนอบนอ มของขาพเจา จงมีแดพระกกุสันธพุทธเจา ผยู ่ํายเี สยี ซงึ่ มารและเสนามาร ความนอบนอมของขา พเจา จงมแี ดพ ระโกนาคมนะพุทธเจา ผูมีบาปอนั ลอยเสยี แลว ผมู พี รหมจรรย อันอยูจบแลว ความนอบนอมของขา พเจา จงมแี ดพระกสั สปพุทธเจา ผพู นแลว จากกเิ ลสทั้งปวง ความนอบนอ มของขา พเจา จงมแี ดพระองั ครี สพทุ ธเจา ผเู ปนโอรสแหงศากยราช ผมู ีสริ ิ พระพทุ ธเจาพระองคใ ด ไดทรงแสดงแลว ซงึ่ ธรรมน้ี เปน เคร่ืองบรรเทาเสยี ซงึ่ ทกุ ขทั้งปวง อนึ่ง พระพทุ ธเจา ทั้งหลายเหลา ใด ท่ดี บั กิเลสแลวในโลก เห็นแจง ธรรมตามเปนจริง พระพุทธเจา ท้งั หลายเหลาน้ัน เปน ผไู มมีความสอ เสียด เปนผใู หญ ผปู ราศจากความคร่ันครามแลว เทพยดาและมนษุ ยท ั้งหลาย ผูนอบนอมอยู ซ่ึงพระพทุ ธเจาพระองคใด ผูเปนโคตมโคตร ผูเปน ประโยชนเกื้อกูลแกเ ทพยดาและมนุษยทั้งหลาย ถึงพรอ มแลวดว ยวิชชาและจรณะ เปนผูใหญ ผูมีความคร่ันครา มปราศจากไปแลว ขาพเจาทั้งหลาย ขอนมัสการพระพุทธเจา พระองคน ั้น ผถู ึงพรอ มแลวดว ยวชิ ชา และจรณะเปนอันดีแลวแล
9. อังคุลีมาลปริตร สวดบูชาใหพ น จากการแทง บุตร ใหคลอดบุตรงา ย เนือ้ มนตกลา วถึงสจั าธษิ ฐานของพระองคลุ ิมาลเถระ ท่ีตัง้ ขน้ึ เพ่ือชวยหญิง มคี รรภคนหนง่ึ ใหคลอดบตุ รไดง า ย นอกเหนือจากการคลอดบุตรงา ยแลว ยังมอี านภุ าพแกไ ขปญหาเฉพาะหนา อยา งปจ จุบนั ทันดวน คลายปญ หาจาก เหตุการณฉ บั พลันสดุ วิสัย ปะรติ ตงั ยมั ภะณันตสั สะ อทุ ะกมั ป วินาเสติ โสตถินา คัพภะวฏุ ฐานัง เถรัสสังคุลิมาลสั สะ กปั ปฏฐายิ มะหาเตชัง นิสินนฏั ฐานะโธวะนัง สัพพะเมวะ ปะริสสะยัง ยญั จะ สาเธติ ตงั ขะเณ โลกะนาเถนะ ภาสติ ัง ปะรติ ตันตัมภะณามะ เห ฯ ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชวี ติ า โวโรเปตาฯ เตนะ สจั เจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คพั ภัสสะ คาํ แปล อังคลุ ิมาลปรติ ร : แมน นํ้าที่ใชล างท่นี งั่ ของพระองคุลิมาลเถระ ยังสามารถบันดาลใหภยนั ตรายท้งั ปวงมลายส้ินไปได พระปรติ รบทใดๆ อันพระโลกนาถทรงภาษติ แดพระองคุลมิ าล เถระแลว กย็ อ มบนั ดาลใหก ารคลอดบุตรเกิดสริ ิสวัสด์ิ เกดิ ความปลอดภยั ดกู รนอ งหญิง ตงั้ แตท ่ีอาตมาไดก ําเนิดในชาติอรยิ ะแลว ก็มิไดปลงชพี ของสตั วใดเลย และดวยความสตั ยจริงนั้นเอง กข็ อความสขุ สวัสด์ิจงมแี กเ ธอ และขอความสขุ สวสั ด์จิ งมีแกลูกในครรภของเธอดวยเถดิ
10. โพชฌังคปริตร สวดบชู าใหพนจากโรคราย หายเจบ็ ปว ย สขุ ภาพแข็งแรง เนื้อมนตก ลาวถงึ พระธรรมทีเ่ ปน องคแหง การตรสั รู 7 ประการ ไดแก สติ ธัมมวจิ ยะ วิรยิ ะ ปต ิ ปสสัทธิ สมาธิ และ อุเบกขา มีอานภุ าพรกั ษาอาการ เจ็บปว ยเปนไขใหม ลายสิ้น โพชฌังโค สะติสังขาโต ธมั มานัง วจิ ะโย ตะถา วิรยิ ัมปต ิ ปส สัทธิ โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร สะมาธเุ ปกขะโพชฌังคา สัตเตเต สพั พะทัสสนิ า มุนนิ า สัมมะทักขาตา ภาวิตา พะหลุ ีกะตา สงั วัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธยิ า เอเตนะ สัจจะวชั เชนะ โสตถิ เต โหนตุ สัพพะทา เอกัสมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปง คลิ าเน ทกุ ขิเต ทิสวา โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ เต จะ ตัง อะภินนั ทิตวา โรคา มจุ จิงสุ ตังขะเณ เอเตนะ สัจจะวชั เชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา เอกะทา ธัมมะราชาป เคลัญเญนาภิปฬิโต จนุ ทตั เถเรนะ ตญั เญวะ ภะณาเปตวานะ สาทะรัง สัมโมทติ วา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส เอเตนะ สัจจะวชั เชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ปะหนี า เต จะ อาพาธา ติณณันนัมป มะเหสินัง มัคคาหะตะกเิ ลสาวะ ปต ตานุปปตตธิ มั มะตงั เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ
คาํ แปล โพชฌงั คปรติ ร : โพชฌงค 7 ประการ คือ สติสัมโพชฌงค ธรรมะวิจะยะสมั โพชฌงควริ ิยะสัม โพชฌงค ปติสัมโพชฌงค ปสสัทธสิ มั โพชฌงคส มาธิ อุเบกขาสมั โพชฌงค เหลา นี้ อนั พระมุนีเจา ผูทรงเหน็ ธรรมท้งั ปวง ตรัสไวช อบแลว อนั บุคคลมาเจรญิ และทําให มากแลวยอมเปนไปเพื่อความรยู ่ิง เพือ่ ความตรัสรูแ ละเพ่ือพระนิพพานดวยการ กลา วคาํ สัจนี้ ขอความสวัสดี จงมแี กท า นทุกเมอ่ื ในสมยั หน่ึง พระโลกนาถเจา ทอดพระเนตรพระโมคคลั ลานะ และพระกัสสปะเปน ไขไ ดรับความลําบากถงึ ทกุ ขเวทนาแลว ทรงแสดงโพชฌงค 7 ประการใหทานท้งั สองฟง ทานทั้งสองกเ็ พลดิ เพลนิ พระธรรมเทศนานัน้ หายโรคในบัดดล ดวยการ กลา วคาํ สัจนี้ ขอความสวัสดี จงมแี กท านทุกเมื่อครง้ั หนึ่งแมพระธรรมราชาเอง ทรงประชวรเปน ไขร ับสั่งใหพ ระจุนทเถระ แสดงโพชฌงคนั้นถวายโดยความ เคารพ กท็ รงบันเทงิ พระหฤทยั หายจากพระประชวรนั้นโดยพลนั ดวยการกลา ว คําสัจนี้ ขอความสวัสดี จงมแี กท า นทกุ เมื่อ กอ็ าพาธท้ังหลายนนั้ อนั พระมหาฤๅษี ทัง้ 3 องค หายแลว ไมก ลับเปนอีก ดุจดังกเิ ลสอนั มรรคกําจัดแลว ถงึ ซ่ึงความไม เกิดอีก เปนธรรมดาฉะนั้นดว ยการกลา วคาํ สัตยนี้ ขอความสวสั ดี จงมีแกท า นทกุ เม่อื เทอญ
11. อภัยปรติ ร สวดบูชาใหพ นจากภยั พิบตั ิทงั้ ปวง เนื้อมนตม ีอานภุ าพเพ่ือแกลางรา ย เหตุราย ฝนราย ทาํ ลายส่งิ อปั มงคลทง้ั ปวงใหมลายสนิ้ ยนั ทุนนิมิตตงั อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สทั โท ปาปคคะโห ทสุ สุปนัง อะกันตัง พทุ ธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปคคะโห ทสุ สุปนงั อะกันตัง ธมั มานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ ยนั ทนุ นิมติ ตัง อะวะมงั คะลัญจะ โย จามะนาโป สะกณุ ัสสะ สทั โท ปาปคคะโห ทุสสุปนงั อะกันตัง สังฆานุภาเวนะ วนิ าสะเมนตุ ฯ คําแปล อภัยปรติ ร : นิมิตอันเปนลางชวั่ รา ยอนั ใด ส่งิ อวมงคลอนั ใด เสียงนกท่ไี มชอบใจอันใด สิ่งทน่ี า ตกใจอันใด บาปรา ย เคราะหรายอนั ใด ฝน รา ยอนั ใด สิ่งไมพึงปรารถนาอันใด ที่มีอยู ขอส่ิงเหลา นน้ั จงถึงความพินาศไป ดว ยอานุภาพแหง พระพทุ ธเจา ฯ นมิ ิตอันเปนลางช่วั รายอนั ใด ส่งิ อวมงคลอนั ใด เสียงนกทไี่ มชอบใจอนั ใด ส่ิงท่ีนา ตกใจอันใด บาปรา ย เคราะหรา ยอนั ใด ฝน รายอนั ใด สิ่งไมพึงปรารถนาอนั ใด ที่มีอยู ขอส่ิงเหลา นัน้ จงถึงความพินาศไป ดว ยอานภุ าพแหง พระธรรมเจา ฯ นิมิตอันเปน ลางชัว่ รายอันใด สิ่งอวมงคลอนั ใด เสยี งนกท่ไี มช อบใจอันใด ส่ิงทน่ี าตกใจอนั ใด บาปราย เคราะหร ายอนั ใด ฝน รา ยอันใด สิ่งไมพึงปรารถนาอันใด ทม่ี อี ยู ขอส่ิงเหลา นั้นจงถึงความพินาศไป ดว ยอานภุ าพแหง พระสังฆเจา ฯ
12. ชัยปริตร สวดบูชาใหพ นจาก ความพายแพ เน้ือมนตกลา วถึงอานุภาพของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา มงคลแหง ชีวิต สวดเปน ประจาํ เพื่อขอชัยชนะจากส่งิ เลวราย ใหเกดิ ความสุขความเจริญ มะหาการุณโิ ก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปเู รตวา ปาระมี สัพพา ปตโต สัมโพธมิ ุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวชั เชนะ โหตุ เม ชะยะมงั คะลัง ฯ ชะยันโตโพธิยา มเู ล สักยานงั นนั ทิ วัฑฒะโน เอวัง อะหัง วิชะโย โหมิ ชะยัสสุ ชะยะมงั คะเล อะปะราชิตะ ปล ลังเก สเี ส ปะฐะวิโปกขะเร อะภเิ สเก สัพพะพทุ ธานัง อัคคปั ปตโต ปะโมทะติ ฯ สุนกั ขัตตัง สมุ ังคะลงั สุปะภาตัง สุหุฏ ฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สยุ ิฏฐงั พรัหมะ จารสิ ุ ปะทกั ขณิ ัง กายะกัมมัง วาจากมั มัง ปะทกั ขิณัง ปะทกั ขณิ ัง มะโนกมั มัง ปะณิธีเต ปะทักขิณา ปะทกั ขิณานิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม ฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รกั ขันตุ สัพพะ เทวะตา สัพพะธมั มานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวนั ตุ เม ฯ ภะวะตุ สพั พะมังคะลัง รกั ขันตุ สัพพะ เทวะตา สพั พะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวนั ตุ เม ฯ
คําแปล ชัยปรติ ร : พระพทุ ธเจา เปนผเู ปนทพ่ี ง่ึ ของสัตว ทรงประกอบแลวดว ยพระมหากรุณา บําเพญ็ บารมีทั้งหลายทงั้ ปวงใหเต็ม เพอื่ ประโยชนเ ก้ือกลู แกสรรพสัตวท้งั หลาย เปนผถู ึง ความตรัสรูช อบอนั สูงสดุ ดวยการกลา วคําสัตยจริงนี้ ขอชยั มงคลจงมแี กทานเถิด ขอทา นจงมีชัยชนะในมงคลพธิ ี เหมอื นพระจอมมนุ ีทรงชนะมารทโี่ คนตนโพธิ์ แลวถึงความเปน ผูเลศิ ในสรรพพุทธาภิเษก ทรงบนั เทิงพระทยั อยูบนบลั ลังกทมี่ าร ไมอาจจะผจญได เปนจอมมหาปฐพี ทรงเพิ่มพูนความดี แกเ หลาประยูรญาติศาก ยวงศฉะน้นั เทอญ เวลาที่บุคคลและสตั วป ระพฤติดีประพฤตชิ อบ ช่อื วาฤกษดี มงคลดี สวางดี รุงแจง ดี และขณะดี ครยู ามดี ชอื่ วา บูชาดแี ลวในผปู ระพฤตอิ ยางประเสริฐทัง้ หลาย กายกรรมอันเปน มงคลสูงสุด วจีกรรมอนั เปนมงคลสูงสุด มโนกรรมอันเปน มงคล สงู สุด ความปรารถนาอันตง้ั ไวเพ่ือสิ่งอันเปนมงคลสูงสุด บุคคลและสตั วท้ังหลาย ทํากรรมอันเปนมงคลสูงสุด ยอ มไดประโยชนท ง้ั หลายอัน เปนมงคลสูงสุดแล ฯ ขอใหท กุ ส่ิงอันเปนมงคลทง้ั ปวง จงมีแกท า น ขอเทวดาทัง้ หลายท้ังปวง จงปกปก รกั ษาทา นดวยอานภุ าพแหงพระพุทธเจา ขอความสวสั ดจี งมแี กทาน ตลอดกาลทุกเมื่อเถดิ ฯ ขอใหทกุ ส่ิงอันเปนมงคลทง้ั ปวง จงมีแกทาน ขอเทวดาทัง้ หลายท้ังปวง จงปกปก รักษาทานดวยอานุภาพแหงพระธรรมเจา ขอความสวัสดีจงมีแกทา น ตลอดกาลทุกเมื่อเถดิ ฯ ขอใหทุกสิ่งอันเปน มงคลทั้งปวง จงมแี กทา น ขอเทวดาทั้งหลายทั้งปวง จงปกปก รกั ษาทานดว ยอานุภาพแหงพระสังฆเจา ขอความสวัสดจี งมีแกท า น ตลอดกาลทกุ เม่อื เถดิ ฯ
คาถาแผเมตตาใหสรรพสัตวทัง้ หลาย สัพเพ สตั ตา อะเวรา โหนตุ อพั พะยาปช ฌา โหนตุ อะนฆี า โหนตุ สขุ ี อัตตานัง ปะริหะรันตุ สัตวทั้งหลายท้งั ปวง ท่เี ปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทงั้ สิ้น จงเปน สขุ เปนสขุ เถิด อยา ไดม เี วรแกก ันและกันเลย จงเปนสุขเปน สุขเถิด อยาไดเบยี ดเบยี นซงึ่ กนั และกันเลย จงเปนสขุ เปน สุขเถิด อยาไดม ีความทุกขกายทกุ ขใ จเลย จงมีความสขุ กาย สขุ ใจ รักษาตนใหพ นจากทุกขภยั ทั้งสิ้นเทอญ คาถาแผเ มตตาแกตนเอง อะหัง สุขิโต โหมิ อะหัง นทิ ทกุ โข โหมิ อะหัง อะเวโร โหมิ อะหัง อพั ยาปช โฌ โห มิ สุขี อัตตานัง ปะรหิ ะรามิ ขอใหขาพเจา มีความสขุ ขอใหข า พเจาปราศจากความทุกข ขอใหขาพเจา ปราศจากเวร ขอใหข า พเจาปราศจากอุปสรรคอันตรายทงั้ ปวง ขอใหข า พเจาจงมี ความสุขกายสุขใจ รกั ษากายวาจาใจใหพ นั จากความทุกขภยั ทงั้ ปวงเถิด
คาถาแผเ มตตาพรหมวิหารสี่ บทเมตตา สัพเพ สตั ตา สตั วท ้ังหลายท่ีเปน เพ่ือนทกุ ข เกิด แก เจบ็ ตาย ดวยกันท้ังสิ้น อะเวรา โหนตุ จงเปนผูไมม ีเวรแกกนั และกันเถดิ อพั ยาปช ฌา โหนตุ จงเปนผูไมเบียดเบยี นซ่ึงกันและกัน อะนีฆา โหนตุ จงเปน ผูไมมที กุ ขกาย ทกุ ขใจเถดิ สขุ ี อัตตานงั ปะริหะรนั ตุ จงเปน ผูมีสุข พนจากทกุ ขภ ัยทั้งส้ินเถิด บทกรุณา สัพเพ สัตตา สตั วท ง้ั หลายท่เี ปน เพื่อนทกุ ข เกิด แก เจบ็ ตาย ดว ยกันทั้งส้ิน สพั พะทกุ ขา ปะมุจจันตุ จงพนจากทุกขเถิด บทมทุ ิตา สพั เพ สตั ตา สตั วทัง้ หลายทเ่ี ปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจบ็ ตาย ดวยกันทง้ั สิ้น มา ลัทธะสัมปต ติโต วิมุจจันตุ จงอยาไปปราศจากสมบตั ิอนั ตนไดแลว เถิด บทอเุ บกขา สัพเพ สตั ตา สตั วทง้ั หลายที่เปน เพื่อนทกุ ข เกิด แก เจบ็ ตาย ท้งั ส้ิน กมั มัสสะกา เปนผมู ีกรรมเปนของของตน กมั มะทายาทา เปน ผูร ับผลของกรรม กัมมะโยนิ เปน ผมู ีกรรมเปนกาํ เนดิ กัมมะพันธุ เปนผมู ีกรรมเปนเผา พนั ธุ กัมมะปะฏิสะระณา เปน ผมู ีกรรมเปนทพ่ี ึ่งอาศยั ยงั กัมมัง กะริสสันติ กระทาํ กรรมอนั ใดไว กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา ดีหรือช่ัว ตสั สะ ทายาทา ภะวสิ สนั ติ จักเปน ผูรบั ผลของกรรมน้นั
คาถาแผส ว นกศุ ล อทิ ัง เม มาตาปต ูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปตะโร ขอสว นบุญน้ีจงสําเร็จแกม ารดา บดิ าของขา พเจา ขอใหม ารดา บดิ าของขา พเจา มคี วามสขุ อทิ งั เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอสว นบุญน้ีจงสาํ เรจ็ แกญาติทัง้ หลายของขาพเจา ขอใหญาติทงั้ หลายของขา พเจามีความสุข อิทัง เม ครุ ูปช ฌายาจริยานงั โหตุ สขุ ติ า โหนตุ คุรูปช ฌายาจริยา ขอสวนบุญน้ีจงสาํ เร็จแกค รูอปุ ชฌายอาจารยข องขา พเจา ขอใหครอู ปุ ชฌายอาจารยของขาพเจามคี วามสขุ อทิ ัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขติ า โหนตุ สัพเพเทวา ขอสวนบุญนี้จงสําเรจ็ แกเ ทวดาทงั้ หลายทั้งปวง ขอใหเทวดาท้งั หลายทง้ั ปวงมีความสขุ อิทงั สัพพะเปตานงั โหตุ สุขิตา โหนตุ สพั เพ เปตา ขอสวนบุญนี้จงสาํ เรจ็ แกเ ปรตทง้ั หลายทั้งปวง ขอใหเ ปรตท้ังหลายทั้งปวงมีความสขุ อิทงั สพั พะเวรนี ัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สพั เพเวรี ขอสวนบุญน้ีจงสาํ เร็จแกเจากรรมนายเวรท้ังหลายทงั้ ปวง ขอใหเ จากรรมนายเวรท้งั หลายทง้ั ปวงมีความสขุ อิทงั สพั พะสตั ตานัง โหตุ สุขติ า โหนตุ สัพเพ สัตตา ขอสว นบุญน้ีจงสําเรจ็ แกสัตวท ั้งหลายทงั้ ปวง ขอใหสตั วท ้งั หลายท้ังปวงมีความสขุ ทว่ั หนากันเทอญ
www.SiamGanesh.com สยามคเณศ ดอทคอม เวบ็ ไซตขอ มูลความรูเรื่ององคเ ทพ
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: