การปลูกกยุ ชาย กรมสงเสริมการเกษตร 2548
การปลกู กยุ ชา ย ยชา ยเปนพชื ผกั อยูใ นวงศ เดยี วกับหอม กระเทียม มีถิ่นกาํ เนดิ ในประเทศจนี นยิ มบริโภคในเอเซยี ทั่วไป เปน พืช ขามป มี 2 สายพนั ธุ คอื กยุ ชา ยใบ และกุยชายดอก ⇒ สภาพแวดลอมท่เี หมาะสม ในสภาพแวดลอ มทม่ี ชี วงแสงส้ัน อุณหภมู ิต่ํา กยุ ชา ยจะพักตวั หยุดชะงักการเจริญ การทาํ ลายระยะพักตัวสามารถทําไดโดยการ เพิ่มชว งแสง (เปดไฟในเวลากลางคืน) หรอื ผา นอณุ หภูมติ าํ่ เปน ระยะเวลานานในสภาพชวง แสงยาว จะกระตนุ ใหเ กิดการเจริญของดอก ในบางสายพันธตุ อ งการอณุ หภมู ิ ต่ํา สําหรบั การเจรญิ เตบิ โตของดอก อณุ หภูมทิ เี่ หมาะสําหรบั การเจรญิ เติบโต ของกุยชา ย คอื 20°ซ ⇒ สภาพดนิ ท่ีเหมาะสม กยุ ชายชอบดินท่ีรว นซุย มหี นาดนิ หนา อินทรียว ัตถุสูง ระบายนาํ้ ไดด ี คา pH ของดนิ อยรู ะหวาง 6.5 – 6.8 หนา ที่1
การปลูกกุยชาย Document Title ⇒ วิธีการปลกู 1. การปลกู โดยการเพาะเมลด็ (เมล็ดพนั ธหุ นกั 3–4 กรมั มีจาํ นวน 1,000 เมลด็ กอนเพาะควรแชเ มล็ด ในนํ้าผสมปุย โพแทสเซยี มไนเตรท ( 13 – 0 – 50 ) เขม ขน 0.1 % นาน 1 ช่วั โมง แลว นําออกมาใสในผา เปยก เกบ็ ในตเู ยน็ ดานลาง (5°ซ )เปนเวลา 3–5 วัน รักษาความช้ืนในวสั ดเุ พาะ สมํ่าเสมอ เพ่ือชว ยในการงอกของเมลด็ จงึ นาํ ออกมาผึง่ ใหผ วิ แหง การหยอด เมล็ดอาจใชถ าดเพาะและหยอดเมล็ด 3 – 5 เมลด็ ตอ หลมุ อณุ หภูมิท่ี เหมาะสมสําหรบั การงอกของเมลด็ อยรู ะหวาง 15 – 20°ซ เมลด็ จะงอกภายใน เวลา 7 – 14 วนั อายกุ ลา 55 – 60 วัน หลงั เพาะเมลด็ ระยะปลูก 12 – 20 ตนตอ ตารางเมตรหรือใชร ะยะปลกู 30 x 30 เซนตเิ มตร ขน้ึ อยกู บั สายพนั ธุแ ละความ อดุ มสมบรู ณของดนิ ใชจ ํานวนตนกลา 3 – 4 ตน ตอ หลุม 2. ปลกู โดยการแยกกอ ใชต นแมพ นั ธุอายุ 6 เดือนข้นึ ไป ขุดและ แยกกอปลูก กอนปลกู ควรตดั ใบออกไปบาง เพอื่ ลดการคายนาํ้ ตดั รากให เหลือยาว 1 – 2 เซนติเมตร ปลกู 3 – 4 ตน ตอหลมุ การปลกู กยุ ชายแตล ะ แปลงใชเวลา 3 ป หลังจากนน้ั ควรทาํ การแยกกอและเตรียมแปลงปลูกใหม ⇒ การใสปุย - หลังเตรยี มดนิ ควร ใสป ุยหมัก ปยุ คอกอัตรา 2 กิโลกรมั ตอ ตารางเมตร หนาท่ี2
Document Title การปลูกกุยชา ย - หลงั ยา ยปลกู 7 วนั ควรใส ปยุ 21–0 – 0 (แอมโมเนีย ซัลเฟต ) ในดนิ ที่เปน ดาง อัตรา 10กิโลกรัมตอไร หรอื 13 – 0 – 0 – 26 ( แคลเซียมไน เตรท ) ในดนิ ท่ีเปนกรด อตั รา 15 กิโลกรมั ตอ ไร - หลังยา ยปลกู ทุก 3 เดือน ใสป ุยหมัก/ปุยคอก อตั รา 1 กโิ ลกรัม ปยุ 13 – 13 – 21 อตั รา 25 กโิ ลกรัมตอ ไร และ 21 – 0 – 0 ในดิน ทเี่ ปน ดา ง อัตรา 1 กิโลกรมั ตอ ไรห รอื 13 – 0 – 26 ในดนิ ทเี่ ปนกรด อตั รา 15 กโิ ลกรมั ตอไร - หลงั การเก็บเกย่ี ว ใสปุย 21 – 0 – 0 ในดนิ ท่เี ปนดา ง อัตรา 10 กโิ ลกรมั ตอไร หรือ 13 – 0 – 26 ในดนิ ทเ่ี ปนกรดอตั รา 15กิโลกรัมตอ ไร - วธิ กี ารใสปุยหลังยา ยปลกู เจาะหลุมหางจากตน 10 เซนตเิ มตร ดานใดดานหน่งึ และใสอ ีกดานหนึง่ ในคร้ังตอ ไปสลับดา นกัน - ฉดี พนปุย เกลด็ หรอื ปุยนา้ํ ทมี่ ธี าตุอาหารหลกั และธาตอุ าหาร รอง ในรูป สารละลายทางใบ ทกุ ๆ สปั ดาห ⇒ การคลุมแปลงปลูก ควรใชว ัสดุคลุมแปลงปลูก เชนฟางขาวเพื่อลดอณุ หภมู ดิ นิ รักษา ความชนื้ และปองกันวชั พชื ถา ไมคลุมแปลงปลกู ควรพรวนดนิ ต้นื ๆ เพ่ือกาํ จัด วชั พืช หนา ที่3
การปลูกกุยชา ย Document Title ⇒ การใหนํ้า ควรใหน ้าํ สมํา่ เสมอ พชื จะชะงกั การเจริญในกรณที ่ขี าดนาํ้ และ การใหน า้ํ มากเกินไปอาจทําใหร ากและเหงาเนา ใบเหลืองตาย ระบบการใหน ํา้ ที่เหมาะสมคอื แบบนา้ํ หยด อาจจะใชร ะบบพน ฝอยหรอื ทดน้ําเขา แปลงแตค วรระวงั ในกรณีทใ่ี บเปยกโรคจะเขา ทําลายไดง า ย ⇒ การผลติ กุยชา ยขาว ระยะท่ีเหมาะสมสําหรับการ ผลิตกุยชายขาวคือ 3 เดือนหลังยาย ปลูก (90วนั ) เพื่อใหไดผ ลผลติ สงู นยิ มปลูกในเดือนกรกฎาคม เรมิ่ เกบ็ เกย่ี วใน เดือนตลุ าคม – มนี าคม - ใชม ีดทคี่ มตัดใบออกใหชดิ ดนิ ท้ังกอ ( ขายเปนกยุ ชา ยเขยี ว ) - ใชกระถางดนิ เผาครอบตน โดยใชก ระถางทรงกระบอก ขนาด ปากกวา ง 7 นว้ิ กน กระถางกวา ง 8 นว้ิ คลุมสงู 12 นิว้ ครอบใหชิดดนิ และปด ไมใ หแ สงผานเพ่อื ใหเปน กุยชา ยขาว ( ในประเทศจนี นิยมใชอ โุ มงคไ มไผป ด ดวยฟางหรอื กระดาษหนา ) - ทยอยครอบและเกบ็ เกีย่ ว ในปริมาณตามความตองการของ ตลาด - หลงั เกบ็ เก่ียว 1 เดอื น (ปลอ ยใหใ บเจรญิ ) ตดั ใบออกขายเปน กุยชา ยเขยี วและเริม่ ครอบใหมก ระถางใหม เพือ่ ผลติ กุยชา ยขาว หนา ท4ี่
การปลูกกุยชา ย Document Title ⇒ การเก็บเกี่ยว กุยชายเขยี ว สามารถเกบ็ เก่ยี ว 3 – 9 ครง้ั ตอ ป ข้ึนอยกู บั พันธุ สภาพแวดลอมและการดูแลรกั ษาระยะเวลาเกบ็ เกีย่ วท่ีเหมาะสมคอื เดอื น ตุลาคม – มีนาคม กุยชา ยขาว เกบ็ เกี่ยวหลงั จากใชก ระถางครอบหรือคลมุ แปลง ประมาณ 2 อาทิตย เกบ็ เก่ยี วเมอื่ ใบมรความยาว 20 เซนตเิ มตร ตัดโคนใบชิดดนิ ลางดวยนาํ้ เยน็ ตดั แตง สว นทถ่ี กู ทําลายโดยโรค แมลง หรอื แผลทเ่ี กดิ จากการขนสง และเศษวัชพืชอื่นทีป่ ลอมปนเกบ็ ไวในที่ รม ปอ งกนั แสงอาทิตยในระหวางเก็บรักษาและขนสง กยุ ชา ยดอก เกบ็ เกี่ยวระยะดอกตูม ตดั โคนกา นดอกยาว 30 – 40 เซนตเิ มตร ใบมอี ตั ราการหายใจและคายนาํ้ สูง ควรเกบ็ รักษาในท่มี ี อุณหภูมิตา่ํ ความชน้ื สัมพนั ทสูง โดยบรรจใุ นถงุ พลาสตกิ เก็บในอุณหภูมิ 0° องศาเซลเซยี ส ความชื้นสัมพนั ท 95 % เรยี บเรยี งโดย : รศ. นพิ นธ ไชยมงคล ผลติ และเผยแพรโดย : สาชาพชื ผกั มหาวทิ ยาลยั แมโ จ กลมุ สอื่ สง เสริมการเกษตร สาํ นกั พฒั นาการถา ยทอดเทคโนโลยี หนา ท5ี่
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: