คำนำ คูม่ ือผู้รบั บริการกิจกรรมการศึกษาตามอธั ยาศัยด้านสะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION) เป็นเอกสาร สาหรับให้ผู้รับบริการปฏิบัติกิจกรรมที่กาหนดไว้ในฐานการเรียนรู้สะเต็มศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ใหผ้ ู้รับบรกิ ารมีสมรรถนะด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ไดเ้ รียนรใู้ นองค์ความรู้และทักษะทาง คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สามารถนามาแก้ปัญหาในชีวิตจริง ผ่านกระบวนการออกแบบเชิง วิศวกรรมตามแนวทางสะเต็มศึกษา ซ่ึงกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยด้านสะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION) จะเป็นกิจกรรมท่ีทดสอบความรู้ความเข้าใจ และฝึกทักษะประสบการณ์ที่จาเป็นในฐานการ เรียนรู้สะเต็มศึกษาผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่สนุกสนานและท้าทายซ่ึงจะช่วยส่งเสริมให้ผู้รับบริการมีศักยภาพใน การเรียนรู้เพ่ิมข้ึน โดยกิจกรรมจะประกอบด้วยแบบทดสอบก่อนเรียน การแลกเปล่ียนเรียนรู้ท่ีเกิดจากการ ทางานร่วมกันในการรวบรวม ค้นหาข้อมูล สรรหาและเลือกวิธีการแก้ปัญหา วางแผนการทางาน ออกแบบ สร้างและทดสอบต้นแบบซ้าแล้วซ้าเล่าจนเกิดองค์ความรู้ที่สามารถแก้ปัญหาในกิจกรรมได้ตามเง่ือนไขและ ข้อจากัดต่าง ๆ ภายใต้การอานวยความสะดวกของผู้จัดกิจกรรม ท้ังนี้ ผู้รับบริการจะปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ที่ เกี่ยวข้องกับฐานการเรียนรู้สะเต็มศึกษา และกิจกรรมที่กาหนดจะมีเฉลยแนวคาตอบให้ผู้รับบริการได้ ตรวจสอบได้ด้วยตนเอง และแบบทดสอบหลังเรียนพรอ้ มเฉลยคาตอบ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้วหวังว่า คู่มือผู้รับบริการกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยด้าน สะเต็มศกึ ษา (STEM EDUCATION) จะเป็นประโยชน์ตอ่ ผ้รู บั บรกิ าร เม่อื ผ้รู ับบริการได้เรียนรู้จากคู่มือดงั กล่าว พร้อมไดท้ ดสอบและปฏิบัตกิ ิจกรรมตามคาแนะนาในเอกสารอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนแล้ว ผู้รับบริการจะประสบ ความสาเร็จในการเรียนรู้และปฏิบตั ิกจิ กรรมจากฐานการเรยี นรู้ได้อย่างมีคุณภาพ (นางยวุ ดี แจ้งกร) ผอู้ านวยการศนู ย์วทิ ยาศาสตร์เพ่ือการศึกษาสระแกว้ พฤษภาคม 2562
คำช้ีแจง กำรใช้คู่มือผูร้ ับบริกำรกิจกรรมกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั ด้ำนสะเตม็ ศกึ ษำ (STEM EDUCATION) คู่มือผู้รับบริการกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยด้านสะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION) น้ี จัดทาขึ้น เพ่ือให้ผู้รับบริการได้ใช้ประกอบกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ด้านสะเต็มศึกษา ซ่ึงประกอบไปด้วย ฐานการเรียนรู้ จานวน 1 ฐาน ได้แก่ ฐานการเรียนร้ทู ่ี 8 หอคอยหลอดกาแฟ คู่มือผู้รับบริการกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยด้านสะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION) น้ี กาหนดให้ ผู้รับบรกิ ารปฏิบัตดิ ังนี้ 1. ให้ผู้รับบริการทาแบบทดสอบก่อนเรียนตามท่ีแต่ละฐานการเรียนรู้กาหนด เพ่ือให้ ผู้รับบริการทราบความรู้พ้ืนฐานของคนในเรื่องท่ีจะเรียนรู้ตามฐานการเรียนรู้ และตรวจคาตอบจากเฉลย แบบทดสอบทา้ ยกิจกรรมการเรยี นรู้ 2. ให้ผู้รบั บริการปฏิบัติกจิ กรรมตามที่ฐานการเรียนรู้กาหนด ได้แก่ การแลกเปลยี่ นเรียนรู้ร่วมกัน การออกแบบและทากิจกรรมตามท่ีกาหนด ซ่ึงผู้รับบริการสามารถตรวจคาตอบจากเฉลยแนว คาตอบ หากผู้รับบริการทากิจกรรมไม่ถูกต้องให้กลับไปทบทวนเน้ือหาสาระในเร่ืองนั้นให้เข้าใจหลังทากิจกรร ม การเรียนรซู้ า้ อกี ครัง้ จนถูกตอ้ ง 3. เมื่อผู้รับบริการทากิจกรรมการเรียนรู้ครบทุกฐานการเรียนรู้แล้ว ให้ทาแบบทดสอบหลังเรียน และตรวจคาตอบจากเฉลยแบบทดสอบท้ายกจิ กรรมการเรียนรู้ ในการทากจิ กรรมการเรยี นรู้นี้ ผู้รับบริการจะต้องทากจิ กรรมให้ครบถว้ นทุกกจิ กรรมของฐาน การเรียนรู้ เพื่อให้การเรยี นรู้ของผเู้ รยี นมีประสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผล บรรลุวตั ถปุ ระสงค์ของแตล่ ะฐาน การเรียนรูต้ ามคู่มอื ผู้รับบริการกจิ กรรมการศึกษาตามอธั ยาศัยด้านสะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION)
สำรบัญ หนำ้ คำนำ ก คำช้แี จงกำรใช้ค่มู ือ ข สำรบัญ ค ฐำนกำรเรยี นรูท้ ่ี 8 หอคอยหลอดกำแฟ 1 กิจกรรมการเรยี นรทู้ ่ี 8 เรือ่ ง หอคอยหลอดกาแฟ 3 กจิ กรรมการทดสอบก่อนเรยี น เร่อื ง หอคอยหลอดกาแฟ 4 กิจกรรมการแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ เรอ่ื ง หอคอยหลอดกาแฟ 9 กจิ กรรมการสรา้ งหอคอยหลอดกาแฟ 9 กจิ กรรมการนาสิง่ ที่ไดเ้ รยี นรไู้ ปปฏบิ ตั แิ ละประยุกตใ์ ช้ 10 กิจกรรมการทดสอบหลงั เรยี น เร่ือง หอคอยหลอดกาแฟ 11 กิจกรรมการประเมนิ ความพึงพอใจของผูร้ บั บริการเร่ือง หอคอยหลอดกาแฟ 12 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น 12 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน
1 ฐานการเรยี นรทู้ ี่ 8 เร่ือง หอคอยหลอดกาแฟ
2 กจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่ 8 เร่ือง หอคอยหลอดกาแฟ แนวคิด เวลา 2 ช่ัวโมง หอคอย เป็นสิ่งก่อสร้างที่อาศัยหลักการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง สภาพสมดุลสถิต ซ่ึงหมายถึง สภาพ สมดุลของวัตถุ หรือ ส่ิงก่อสร้างท่ีอยู่นิ่ง ผู้รับบริการจะศึกษาเก่ียวกับความหมายของแรง และแรงที่กระทาต่อ วัตถุ แล้วทาให้วัตถุ แล้วทาให้วัตถุน้ันเกิดการเปล่ียนสภาพ แรงสองแรงท่ีกระทาต่อวัตถุ เม่ือแรงทั้งสองมีค่า เทา่ กนั กระทาตอ่ วัตถุในทศิ ทางตรงขา้ ม วตั ถุนน้ั กจ็ ะอยู่ในสภาพสมดลุ วัตถปุ ระสงค์ เม่ือสิ้นสุดแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้นแ้ี ล้ว ผูร้ ับบรกิ ารสามารถ 1. ผรู้ บั บริการทดลองและอธิบายปัจจยั ทีท่ าให้หอคอยสงู ตั้งอยไู่ ด้ 2. ผู้รับบรกิ ารออกแบบและสรา้ งหอคอยจากวสั ดทุ ี่กาหนดไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. ผู้รบั บริการคานวณงบประมาณในการสรา้ งหอคอยได้ เน้ือหา 1. สมบัติและโครงสร้าง 2. แรง,แรงโน้มถ่วง, นา้ หนัก, สมดุลของแรง ขั้นตอนการปฏิบัติกจิ กรรมของผรู้ บั บริการ กิจกรรมการทดสอบก่อนเรียน เรือ่ ง หอคอยหลอดกาแฟ คาช้ีแจง ใหผ้ รู้ ับบริการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน เรื่อง หอคอยหลอดกาแฟ ซ่งึ มขี ้อสอบทงั้ หมดจานวน 5 ขอ้ (เม่ือผูร้ ับบริการทาแบบทดสอบเสร็จเรียบรอ้ ยแล้ว ผูร้ ับบริการสามารถตรวจคาตอบไดต้ ามเฉลยคาตอบท้าย กจิ กรรม)
3 แบบทดสอบก่อนเรียน คะแนนทไ่ี ด้..............คะแนน เรอื่ ง หอคอยหลอดกาแฟ คะแนนเต็ม 5 คะแนน คาช้ีแจง 1. ให้ผ้รู ับบริการกาเครื่องหมาย X (กากบาท) หน้าข้อทีถ่ ูกต้องเพียงข้อเดยี ว 2. แบบทดสอบน้ีมีข้อสอบจานวน 5 ขอ้ ๆ ละ 1 คะแนน 3. เมือ่ ผรู้ บั บริการทาแบบทดสอบเสรจ็ เรียบร้อยแลว้ ผ้รู ับบรกิ ารสามารถตรวจคาตอบไดต้ ามเฉลย คาตอบทา้ ยกจิ กรรม 1. หอคอยหลอดกาแฟ เปน็ ส่ิงกอ่ สร้างท่อี าศยั หลักการทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องใด ก. สาร ค. อะตอม ข. สภาพสมดลุ สถติ ง. ธาตุ 2. การสรา้ งหอคอยหลอดกาแฟเช่ือมโยงกบั สะเตม็ ศึกษาด้านวทิ ยาศาสตร์เรื่องอะไร ก. การใชเ้ ทคโนโลยีในการสร้างหอคอย ค. แรง,แรงโนม้ ถว่ ง,การกระจายแรง ข. การออกแบบหอคอย ง. ความเปน็ กรด-เบสของสาร 3. การออกแบบสรา้ งหอคอยและการเลือกใช้วัสดอุ ุปกรณ์เชือ่ มโยงกบั สะเตม็ ศึกษาด้านใด ก. ดา้ นวิศวกรรมศาสตร์ ค. ด้านเทคโนโลยี ข. ด้านคณติ ศาสตร์ ง. ดา้ นวทิ ยาศาสตร์ 4. แรงโน้มถว่ งของโลก คืออะไร ค. แรงทีโ่ ลกดงึ ดูดวตั ถบุ นโลกไม่ให้หลดุ ลอยไปในอวกาศ ก. แรงท่ีกระทาต่อวตั ถุ ง. ชนดิ ของมวลวัตถุทเี่ คล่ือนท่ไี ด้ ข. แรงและการเคล่ือนที่ 5. การวัด การตัด การคานวณเชอื่ มโยงกับสะเตม็ ศกึ ษาดา้ นใด ก. ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ค. ด้านเทคโนโลยี ข. ด้านคณติ ศาสตร์ ง. ด้านวทิ ยาศาสตร์
4 กจิ กรรมการแลกเปลยี่ นเรียนรู้ เรื่อง หอคอยหลอดกาแฟ คาชแ้ี จง 1. ให้ผู้รบั บรกิ ารตอบคาถาม จานวน 2 ประเดน็ ดังน้ี ประเด็นท่ี 1 “ทา่ นคดิ วา่ มีปัจจัยใดบ้างท่ีมผี ลต่อการรับนา้ หนกั ของหอคอย” ประเด็นที่ 2 “ทา่ นคดิ วา่ มีแรงอะไรท่ีกระทาต่อหอคอยหลอดกาแฟ” 2. ผ้รู บั บริการและผจู้ ดั กิจกรรมสรุปผลการเรยี นรู้จากกิจกรรมการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ร่วมกนั เฉลยแนวการตอบ ประเดน็ ที่ 1 “ท่านคิดว่า มปี ัจจยั ใดบา้ งที่มผี ลต่อการรับนา้ หนักของหอคอย” ปจั จยั ท่มี ีผลตอ่ การรบั น้าหนกั ของหอคอย คือ ในการทาโครงสรา้ ง โดยนาวัสด/ุ อุปกรณ์ที่ กาหนดมาสรา้ งหอคอย การออกแบบสรา้ งหอคอยโดยการอาศัยรปู ทรงเรขาคณติ การเช่ือมต่อกนั แต่ ละจดุ ประเดน็ ที่ 2 “ท่านคิดวา่ มีแรงอะไรท่ีกระทาตอ่ หอคอยหลอดกาแฟ” แรงโน้มถ่วงของโลก
5 กจิ กรรมการให้ความรู้ เรื่อง หอคอยหลอดกาแฟ คาช้ีแจง 1. ใหผ้ รู้ ับบริการศกึ ษาใบความรู้ เร่ือง หอคอยหลอดกาแฟ 2. ผู้รบั บรกิ ารและผู้จัดกิจกรรมสรปุ ผลการเรยี นรู้กจิ กรรมการใหค้ วามรู้ เร่ือง หอคอยหลอดกาแฟ
6 ใบความรู้ เรอื่ ง หอคอยหลอดกาแฟ เนอ้ื หา เรือ่ ง หอคอยหลอดกาแฟ หอคอย เป็นสิ่งก่อสร้างท่ีอาศัยหลักการวิทยาศาสตร์เร่ือง สภาพสมดุลสถิต ซ่ึงหมายถึงสภาพสมดุล ของวัตถุหรอื สิ่งกอ่ สร้างท่ีอยู่น่งิ นักเรยี นจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความหมายของแรง และแรงที่กระทาต่อวตั ถแุ ล้ว ทาให้วตั ถนุ ้ันเกิดการเปล่ยี นสภาพ แรงสองแรงทก่ี ระทาต่อวตั ถุเม่ือแรงท้ังสองมคี า่ เท่ากันกระทาต่อวตั ถุในทิศ ตรงขา้ ม วัตถุน้ันกจ็ ะอยใู่ นสภาพสมดุล สาระการเรยี นรู้ แรง (force) หมายถึง ปรมิ าณท่ีกระทาต่อวัตถุแลว้ ทาใหว้ ตั ถุเปล่ียนแปลงจากสภาพเดิม แรงนี้ อาจจะสัมผสั กบั วัตถหุ รือไมส่ ัมผัสกับวตั ถุก็ได้ แรงดงึ แรงผลกั และแรงยก แรงพวกนี้กระทาบนพน้ื ผวิ ของวตั ถุ แตม่ แี รงบางชนดิ เชน่ แรงแม่เหลก็ แรงทางไฟฟา้ และแรงโนม้ ถ่วงจะไมก่ ระทาบนผวิ ของวัตถุ แตก่ ระทากบั เน้อื ของวตั ถทุ ุกตาแหน่ง เช่น น้าหนักของ วัตถกุ ็คือ แรงดึงดดู ของโลกทก่ี ระทากับวัตถโุ ดยไมต่ ้องสมั ผัสกบั ผิว ของวตั ถเุ ลย ผลของแรงลัพธต์ อ่ การเคลือ่ นทีข่ องวตั ถุ วตั ถตุ า่ ง ๆ เมื่อมีแรงมากระทา วัตถุจะมีการเปล่ียนแปลงสภาพเดิมใน 3 ลักษณะ คือ 1. มกี ารเปล่ียนแปลงตาแหนง่ 2. มกี ารเปลยี่ นแปลงความเรว็ 3. มีการเปล่ยี นแปลงรปู ร่างและขนาด เมอื่ แรงที่กระทบต่อวตั ถุแตกตา่ งกนั ย่อมทาใหผ้ ลของการเปลีย่ นแปลงแตกตา่ งกันไปด้วย ถ้าแรงที่ กระทามีคา่ มาก การเปลยี่ นแปลงซึง่ เป็นผลของแรงนัน้ ยอ่ มมกี ารเปลี่ยนแปลงมากดว้ ย ในชวี ติ ประจาวัน การทีว่ ตั ถมุ ีการเปลีย่ นแปลงตา่ ง ๆ จะเกิดจากอิทธพิ ลของแรง แรงที่พบตามธรรมชาตมิ ีอยู่ มากมายหลายชนิด ซง่ึ กม็ ีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของวตั ถุไดแ้ ตกตา่ งกัน ขอ้ ควรทราบ - แรงที่กระทาไปในทิศทางเดยี วกบั การเคลอ่ื นท่ี จะทาใหว้ ัตถุมีความเร็วเพมิ่ ข้ึน - แรงท่กี ระทาไปในทศิ ทางตรงข้ามกับการเคล่ือนที่ จะทาให้วัตถุมคี วามเร็วลดลง แรงโน้มถ่วงและสนามโนม้ ถ่วง แรงโนม้ ถ่วงของโลกคือแรงทีโ่ ลกดึงดดู วัตถบุ นโลกไมใ่ หห้ ลดุ ลอยไปในอวกาศ ซึง่ แรงโน้มถ่วงของ โลกที่มีผลต่อวัตถจุ ะมากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กบั ชนิดของมวลของวัตถแุ ละระยะหา่ งวตั ถกุ ับจดุ ศนู ย์กลางของ โลก มวลของสาร(Mass) คือปรมิ าณเนือ้ สาร ซงึ่ มีค่าคงตวั มหี น่วยเปน็ กิโลกรมั น้าหนัก (weight) คือแรงเนื่องจากแรงดึงดูดของโลกที่กระทาต่ิวตั ถุ มีหน่วยตามระบบเอสไอ คือ นวิ ตนั (N) W = mg W = แทน นา้ หนัก
7 M = แทน มวล G = แทน คา่ ความเร่งเนื่องจากแรงดึงดูดของโลก(9.8 m/s2) \"ทกุ อนภุ าคสสารนเ้ี อกภพดึงดูดทุกอนุภาคอื่นด้วยแรงซ่ึงแปรผนั ตรงกบั ผลคูณของมวลของอนุภาค และแปรผกผนั กับกาลงั สองของระยะหา่ งระหว่างอนุภาคทั้งสองนนั้ \" วัตถมุ มี วล m จะมีแรงโน้มถ่วงกระทาต่อวัตถุขนาดเทา่ กัน F = mg เมื่อ g = ความเร่งเนื่องจากแรงโนม้ ถว่ งของโลก = 9.81 m/s.s ถา้ m มีหนว่ ยเป็นกิโลกรมั F จะมหี น่วยเป็นนิวตนั แรง F นี้คอื ส่ิงทีเ่ รามกั เรยี กว่า \"นา้ หนัก\" (Weight) เน่อื งจาก g มีค่าเปลย่ี นแปลงไปตามตาแหนง่ ต่างๆ ของโลก แรง F จึงมีค่าเปล่ียนไปด้วยเลก็ นอ้ ย สนามโนม้ ถ่วง เมอื่ ปล่อยวตั ถุ วตั ถจุ ะตกสพู่ ื้นโลกเนื่องจากโลกมีสนามโน้มถ่วง (gravitational field) อยู่รอบโลก สนามโน้มถว่ งทาใหเ้ กิดแรงดึงดดู กระทาต่อมวลของวัตถทุ ง้ั หลาย แรงดงึ ดูดนี้เรยี กว่า แรงโน้มถว่ ง (gravitational force) แรงโน้มถ่วงและสนามโน้มถ่วงของโลก แรงโน้มถ่วงทีโ่ ลกกระทาต่อวัตถุบนโลกคือน้าหนกั (weight) ของวตั ถุนัน้ (น้าหนกั มีหน่วยเป็น นวิ ตนั ) สาหรบั วัตถุมวล บนผิวโลกจะมนี า้ หนักเท่ากับ มีทิศเขา้ สจู่ ุดศนู ยก์ ลางโลกโดยที่ผิวโลกขนาดของ มีคา่ ประมาณ 9.8 m/s2 ขอ้ สังเกต - W ไมไ่ ด้หมายถึงน้าหนักท่ีอ่านไดจ้ ากตาชงั่ - นา้ หนักและค่า g ข้ึนอยู่กับตาแหน่งของวตั ถุบนผวิ โลก และจะเปลย่ี นแปลงตามความสงู ต่าจากผิว โลกแรงโน้มถ่วงของโลกทกี่ ระทาตอ่ วัตถุก็คือ น้าหนัก (weight)ของวตั ถบุ นโลก หาได้จากสมการ W=mgเม่อื m เปน็ มวลของวัตถุท่มี ีหน่วยเป็น กโิ ลกรมั (kg) - g เปน็ ความเรง่ โน้มถ่วง ณ ตาแหน่งท่วี ตั ถุวางอยู่ มหี น่วยเปน็ เมตรต่อวนิ าทยี กกาลังสองและW เป็นน้าหนกั ของวตั ถุท่ีมหี นว่ ยเปน็ นิวตนั (N)
8 ผังมโนทัศน์ ช่ือกิจกรรม หอคอยหลอดกาแฟ แรง, แรงโนม้ ถ่วง, น้ำหนกั , สมดุลของแรง S : วทิ ยาศาสตร์ กำรใชเ้ ทคโนโลยี ในกำรสืบคน้ ขอ้ มูล กำรวดั และกำร เพ่ือนำมำใชอ้ อกแบบ คำนวณงบประมำณ M : คณติ ศาสตร์ T : เทคโนโลยี ในกำรสร้ำงชิ้นงำน E : วศิ วกรรมศาสตร์ กำรออกแบบเชิงวศิ วกรรม กำรใชอ้ ุปกรณ์ในกำรวดั ตดั และ ยดึ ติดวสั ดุในกำรสร้ำงชิ้นงำน
9 กิจกรรมการสรา้ งหอคอยหลอดกาแฟ คาช้แี จง 1. แบ่งผรู้ บั บริการออกเปน็ กลุม่ ๆ ละ 5 – 10 คน 2. ให้แตล่ ะกลุ่มทากิจกรรมการปฏบิ ตั กิ ารทาหอคอยหลอดกาแฟตามขัน้ ตอน ดงั นี้ ขน้ั ตอนที่ 1 สบื คน้ ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเกย่ี วกับการสร้างหอคอยหลอดกาแฟ ขนั้ ตอนที่ 2 ให้ผรู้ ับบริการสรา้ งหอคอยหลอดกาแฟ จากอุปกรณ์ท่ีกาหนดให้ โดยหอคอยมีความสูง ท่ีสุด และข้างบนสุดของหอคอย สามารถวางลูกปิงปองได้โดยไม่ตก แต่ละกลุ่มพยายามใช้หลอดกาแฟและไม้ เสียบลูกชิ้น ให้เหลือมากท่ีสุด เพราะหลอดกาแฟท่ีเหลือ 1 หลอด มีค่าเท่ากับ 1 คะแนน ไม้เสียบลูกช้ิน 1 แท่ง มีค่าเท่ากับ 2 คะแนน โดยให้เวลาในการสร้าง หอคอยหลอดกาแฟ 30 นาที หลังจากนั้นให้แต่ละกลุ่ม วิเคราะหห์ าความเชอื่ มโยง STEM เขียนลงในกระดาษบรฟุ๊ ดังน้ี 1) ชอ่ื กจิ กรรม 2) วาดรูปภาพสิง่ ประดิษฐ์ 3) หาความเชอ่ื มโยง STEM (ใช้หลกั การใดเข้ามาเกีย่ วขอ้ ง) ข้ันตอนท่ี 3 ทดสอบความแข็งแรง โดยการยกหอคอยขึ้นระดับอก แล้วปล่อยหอคอยลงพื้น ถ้า หอคอยไม่ล้ม และลูกปิงปองไม่ตกพื้น ให้ผู้รับบริการแต่ละกลุ่มส่งตัวแทน นาหอคอยหลอดกาแฟเข้าประกวด แข่งขนั กิจกรรมการระบปุ ญั หาและสรปุ ส่งิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรรู้ ว่ มกัน คาชแี้ จง 1. ให้ผู้รบั บริการแต่ละกลมุ่ ดาเนินการระบุปัญหาและสรุปสิ่งทไี่ ด้เรยี นรรู้ ่วมกัน 2. ผ้รู ับบริการและผู้จดั กิจกรรมสรุปผลการเรยี นรูจ้ ากกิจกรรมการระบปุ ัญหาและสรุปส่ิงทไี่ ด้เรียนรู้ รว่ มกนั เฉลยแนวคาตอบ ปญั หาและเง่ือนไข คือ การสร้างหอคอยท่ีมฐี านไม่แขง็ แรง จดุ เชื่อมไมเ่ ทา่ กัน ทรงตวั ไมไ่ ด้ กิจกรรมการนาสงิ่ ทีไ่ ดเ้ รียนรไู้ ปปฏบิ ตั ิและประยกุ ต์ใช้ คาชี้แจง 1. ให้ผ้รู บั บริการแต่ละคน ตอบคาถามในประเดน็ “ท่านจะนาความรู้ เรอ่ื ง หอคอยหลอดกาแฟ ไปปฏิบตั แิ ละประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจาวันอยา่ งไร” 2. ผรู้ บั บรกิ ารและผจู้ ดั กจิ กรรมสรปุ ผลการเรียนรจู้ ากกจิ กรรมการนาสิ่งท่ีได้เรียนรไู้ ปปฏิบัติและ ประยกุ ต์ใช้ร่วมกัน เฉลยแนวคาตอบ นาความรู้ เรือ่ ง หอคอยหลอดกาแฟไปปฏบิ ตั แิ ละประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวันอยา่ งไร 1. การประยุกต์ใช้วิทยุส่ือสารและหอคอยส่ือสาร เปน็ เครื่องส่งสัญญาณ 2. ใช้งานการส่อื สารเทคโนโลยี วิทยุกระจายเสยี ง คมนาคม นาทางและด้านอืน่ ๆ
10 กจิ กรรมการทดสอบหลงั เรียน เรอ่ื ง หอคอยหลอดกาแฟ คาชแ้ี จง ให้ผูร้ ับบรกิ ารทาแบบทดสอบหลังเรยี น เรือ่ ง หอคอยหลอดกาแฟ ซึ่งมขี ้อสอบทง้ั หมดจานวน 5 ขอ้ (เม่ือผรู้ ับบริการทาแบบทดสอบเสร็จเรยี บรอ้ ยแล้ว ผูร้ ับบรกิ ารสามารถตรวจคาตอบไดต้ ามเฉลยคาตอบท้าย กจิ กรรม) แบบทดสอบหลงั เรยี น คะแนนที่ได.้ .............คะแนน เรอื่ ง หอคอยหลอดกาแฟ คะแนนเต็ม 5 คะแนน คาช้ีแจง 1. ให้ผู้รับบรกิ ารกาเคร่ืองหมาย X (กากบาท) หนา้ ข้อที่ถูกต้องเพียงข้อเดียว 2. แบบทดสอบนีม้ ีขอ้ สอบจานวน 5 ข้อ ๆ ละ 1 คะแนน 3. เม่อื ผูร้ ับบริการทาแบบทดสอบเสร็จเรียบรอ้ ยแลว้ ผรู้ ับบรกิ ารสามารถตรวจคาตอบไดต้ ามเฉลย คาตอบท้ายกจิ กรรม 1. การสรา้ งหอคอยหลอดกาแฟเชอื่ มโยงกับสะเต็มศึกษาด้านวทิ ยาศาสตรเ์ รอ่ื งอะไร ก. การใช้เทคโนโลยใี นการสรา้ งหอคอย ค. แรง,แรงโน้มถว่ ง,การกระจายแรง ข. การออกแบบหอคอย ง. ความเปน็ กรด-เบสของสาร 2. การออกแบบสร้างหอคอยและการเลือกใช้วัสดุอุปกรณเ์ ชือ่ มโยงกับสะเตม็ ศึกษาด้านใด ก. ดา้ นวิศวกรรมศาสตร์ ค. ดา้ นเทคโนโลยี ข. ด้านคณติ ศาสตร์ ง. ดา้ นวิทยาศาสตร์ 3. การวดั การตดั การคานวณเชอ่ื มโยงกบั สะเต็มศึกษาดา้ นใด ก. ดา้ นวศิ วกรรมศาสตร์ ค. ดา้ นเทคโนโลยี ข. ด้านคณิตศาสตร์ ง. ด้านวทิ ยาศาสตร์ 4. หอคอยหลอดกาแฟ เป็นส่ิงกอ่ สรา้ งที่อาศัยหลกั การทางวทิ ยาศาสตรใ์ นเรื่องใด ก. สาร ค. อะตอม ข. สภาพสมดลุ สถิต ง. ธาตุ 5. แรงโนม้ ถว่ งของโลก คอื อะไร ค. แรงทโี่ ลกดงึ ดดู วัตถบุ นโลกไมใ่ ห้หลุดลอยไปในอวกาศ ก. แรงที่กระทาต่อวตั ถุ ง. ชนิดของมวลวัตถุทเี่ คลื่อนทีไ่ ด้ ข. แรงและการเคลอ่ื นท่ี
11 กิจกรรม การประเมินความพึงพอใจของผูร้ บั บรกิ ารเรื่อง หอคอยหลอดกาแฟ คาชแ้ี จง ใหผ้ ู้รบั บริการทาแบบประเมินความพงึ พอใจของผรู้ ับบริการ กจิ กรรมการศกึ ษาตามอัธยาศยั ด้านสะเตม็ ศกึ ษา (STEM EDUCATION) แบบประเมินความพงึ พอใจของผูร้ ับบริการ กจิ กรรมการศึกษาตามอธั ยาศยั ด้านสะเตม็ ศกึ ษา (STEM EDUCATION) ชือ่ -สกุล ผูร้ ับบริการ......................................................................................... ชื่อฐานการเรยี นร.ู้ .......................................................ชอ่ื – สกุล ผู้จดั กจิ กรรม ......................................................... วนั ท.ี่ ...........เดือน...........................พ.ศ................... เวลา..................น. ความพงึ พอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรม ประเดน็ ระดบั ความพงึ พอใจ 5 4 3 21 1. กิจกรรมตรงตามความถนัดและตอ้ งการของผู้รบั บริการ 2. ขั้นตอนการทากจิ กรรมมีความชดั เจน 3. สอ่ื /วสั ดุ/อปุ กรณ์ทีใ่ ชท้ ากิจกรรมมคี วามเหมาะสม 4. ระยะเวลาท่ีใชใ้ นการทากิจกรรมมีความเหมาะสม 5. ความรทู้ ่ีได้รบั สามารถนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ ได้ 6. ผ้รู บั ริการมคี วามสขุ /สนกุ ในการทากจิ กรรม ความพงึ พอใจในภาพรวมต่อการจัดกิจกรรม ระดบั 5 หมายถึง ระดบั 4 หมายถึง ระดับ 3 หมายถึง ระดบั 2 หมายถึง ระดบั 1 หมายถึง พงึ พอใจมากทสี่ ดุ พึงพอใจมาก พงึ พอใจปานกลาง พงึ พอใจน้อย พึงพอใจน้อยท่ีสุด ความรู้ประสบการณ์ที่ได้รับ ความคดิ เหน็ เพิม่ เติม .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... .........................................................................
12 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น 1. ข. สภาพสมดลุ สถติ 2. ค. แรง,แรงโน้มถว่ ง,การกระจายแรง 3. ก. ดา้ นวิศวกรรมศาสตร์ 4. ค. แรงท่ีโลกดึงดูดวัตถุบนโลกไม่ให้หลดุ ลอยไปในอวกาศ 5. ข. ด้านคณิตศาสตร์ เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 1. ค. แรง,แรงโนม้ ถ่วง,การกระจายแรง 2. ก. ด้านวิศวกรรมศาสตร์ 3. ข. ด้านคณิตศาสตร์ 4. ข. สภาพสมดุลสถติ 5. ค. แรงท่ีโลกดงึ ดดู วตั ถบุ นโลกไม่ใหห้ ลดุ ลอยไปในอวกาศ
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: