Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเรียนรูู้แบบ STEM ศึกษา

การเรียนรูู้แบบ STEM ศึกษา

Published by chunukulpong2562, 2021-09-08 15:10:23

Description: การเรียนรูู้แบบ STEM ศึกษา

Search

Read the Text Version

แบบสรุปกิจกรรมการเรียนรแู้ บบ STEM ศกึ ษา โครงการยกระดบั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น ปกี ารศกึ ษา 2563 โรงเรียนวัดหนัง สานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษากรุงเทพมหานคร --------------------------------------------- 1. ชอื่ กิจกรรม : การเรียนรู้แบบ STEM ศกึ ษา ชื่อโครงการ : ยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นกล่มุ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละ ชอ่ื กลมุ่ งาน เทคโนโลยี : บริหารงานวิชาการ 2. วตั ถุประสงคข์ องกิจกรรม 2.1 เพื่อให้ผู้เรียนมที กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การคิดวิเคราะห์ และความคิด สร้างสรรค์ 2.2 เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นมผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นสูงขึน้ 3. เปา้ หมายความสาเรจ็ /ตัวชี้วดั ความสาเร็จ โรงเรียนวดั หนงั บริหารงบประมาณและแผนงานไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพและถูกต้องตาม ระเบยี บของทางราชการ ร้อยละ 100 4. ขน้ั ตอนดาเนินงาน 4.1 ขั้นเตรยี มการ (P) 4.1.1 เสนอโครงการเพื่ออนมุ ตั ิ 4.1.2 แต่งตัง้ คณะกรรมการดาเนนิ งาน 4.1.3 ประชมุ คณะกรรมการดาเนินงาน 4.2 ขน้ั ดาเนินการ (D) 4.2.1 จัดทาแผนปฏิบัติการประจาปี 4.2.2 จัดทาปฏทิ ินปฏิบัตงิ านประจาปี 4.2.3 ดาเนินโครงการ/กิจกรรมทกี่ าหนดตามแผนปฏบิ ตั ิการ 4.3 ขั้นตดิ ตามและประเมินผล (C) นิเทศ กากบั ตดิ ตามผลการดาเนินกิจกรรม 4.4 ขน้ั นาผลไปพฒั นา (A) สรุปรายงานผลการดาเนินโครงการ

5. ผลการดาเนินงาน การดาเนินงานกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ stem ศึกษา มีการจัดกิจกรรมแบบบูรณการใน กิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน ได้แก่ 5.1 กิจกรรม EM ball นักเรียนเกิดทักษะการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา คือ ความรู้เก่ียวกับ คุณสมบัติของวัสดุที่นามาทา EM ball เกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากการทดลอง ประสิทธิภาพของ EM ball (Science) ซึ่งเป็นการนาความรมู้ าจากการสืบเสาะความรู้จากแหล่งการ เรียนรู้ต่างๆ เช่น ผู้ปกครอง หนังสือในห้องสมุด Internet คณะครู และปราชญ์ชาวบ้าน เป็นต้น (Technology) มีการออกแบบรูปร่างรูปทรงและขนาดของ EM ball ท่ีเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ มากท่ีสุดในการนาไปใช้งาน (Engineer) จากการใช้หลักการทางคณิตศาสตร์ในการช่ัง ตวง วด วัสดุ และ EM ball ที่ได้ (Mathematic) 5.2 กิจกรรมแข่งขันเครื่องร่อน นักเรียนเกิดทักษะการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา คือ ความรู้ เกี่ยวกบั เครอื่ งร่อนรูปแบบตา่ งๆ หลกั การสรา้ งเครอื่ งร่อน วัสดทุ ่ีเหมาะสมในการนามาทาเคร่ืองร่อน การใช้กระบวนการทักษะทางวิทยาศาสตร์ในการศึกษาประสิทธิภาพของเครื่องร่อนแบบต่างๆ (Science) ซึ่งเป็นความรู้ที่ได้จากการสืบเสาะหาความรูจ้ ากรายการโทรทัศน์ Internet รุ่นพ่ีท่ีเคยทา เครื่องร่อนประกวด ครูผู้สอน เป็นต้น (Technology) มีการออกแบบรูปร่างที่เหมาะสมของเคร่ือง ร่อนท่ีมีประสิทธิภาพตามต้องการ (Engineer) โดยใช้หลักการทางคณิตศาสตร์ในการวัด การบันทึก สถติ ริ ะยะเวลาในการรอ่ นในอากาศ (Mathemtic) 5.3 กิจกรรมลดเวลาเรียนเพม่ิ เวลารู้ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง ลูกข่างมหัศจรรย์ นักเรียน เกิดทักษะการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา คือ การศึกษาคุณสมบัติและประโยชน์การนาวัสดุที่นามาทา ลูกข่าง ได้แก่ ฝาขวดน้า ไม้จิ้มฟัน และไม้เสียบลูกชิ้น (Science) โดยศึกษาข้อมูลจากหนังสือใน หอ้ งสมดุ หนังสือเรียนวชิ าวทิ ยาศาสตรช์ ัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 Internet (Technology) แลว้ ออกแบบ ลักษณะของลูกข่างมีการเปรยี บเทียบประสทิ ธิภาพของลูกข่าง ที่สามารถหมุนอย่ไู ด้นานที่สดุ โดยไม่ล้ม (Engineer) ด้วยการวัดความยาวไม้เสียบลูกชิ้น การวัดระยะห่างจากฝาขวดให้อยู่ตรงจุดศูนย์กลาง ของฝาขวดน้า การจับเวลาการหมนุ ของลูกข่าง (Mathemtic) 5.4 การสร้างสรรค์ผลงานท้ายบทเรียนในวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 กิจกรรม แปลงโฉมเส้ือเก่าเป็นถุงผ้าใส่ของแสนเก๋ โดยนักเรียนเกิดทักษะการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา คือ การศึกษาคุณสมบัติของเส้ือชนิดต่างๆ ท่ีนามาทาถุงผ้า ประโยชน์ของการนาวสั ดุท่ีใช้แล้วกลับมาใช้ ใหม่ (Science) โดยการสืบค้นความรู้จากหนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1-2 Internet ผู้ปกครอง ครูผู้สอน (Technology) มาออกแบบเสื้อให้กลายเป็นถุงผ้าท่ีสามารถใช้งานได้ จริง (Engineer) ด้วยข้ันตอนการเปล่ียนเส้ือให้กลายเป็นถุงผ้า เช่น การวัดความยาวของปลายเสื้อ การวดั ความยาวของหูหิว้ (Mathemetic)

5.5 กจิ กรรมขยะแปลงร่าง การประดษิ ฐ์ชุดกันเปื้อนจากถุงบรรจุนมโรงเรียน ในวิชาการงาน อาชีพ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 นกั เรียนเกิดทกั ษะการเรียนรูแ้ บบสะเต็มศกึ ษา คอื การศกึ ษาคุณสมบัติ ของถุงบรรจุนมโรงเรียน ท่ีทาจากพลาสติกยืด มีความเหนียว สามารถกันน้าได้ และมีสีสันสวยงาม จากการสกรีนถุงนมคุณสมบัติของวัสดุท่ีนามายึดถุงนมให้ติดกัน มีความแข็งแรงทนทาน (Science) โดยสืบค้นข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ เช่น สอบถามผู้ปกครอง ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ และ Internet (Technology) แล้วเปลี่ยนถุงบรรจุนมโรงเรียนเป็นชุดกันเป้ือน โดยการออกแบบรูปรา่ งที่ เหมาะสมต่อการใช้งาน มีการทดลองนาไปใช้งานจริง (Engineer) ซ่ึงในข้ันตอนการประดิษฐ์ชุดกัน เปือ้ นมกี ารวัดความยาว ของวัสดุเพอ่ื ประกอบใหเ้ ปน็ รปู รา่ ง (Mathemtic) การบูรณาการการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศกึ ษาในกิจกรรมดังกลา่ ว ทาใหน้ กั เรียนสามารถ เกิดการเรียนรู้จากหลักการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาไปพร้อมกับการทากิจกรรม นักเรียนทุกคนจึงเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ฝึกการคิด การวิเคราะห์ การเรียนรู้จาก ประสบการณ์ตรงที่หลากหลาย เป็นการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองที่คงทนอยู่ในตัวของผู้เรียนตาม เปา้ หมายของกิจกรรม

6. ผลการประเมินโครงการ (ประเมนิ ระดบั ความพึงพอใจ ความรคู้ วามเข้าใจ และการนาไปใช้) ระดับการประเมิน 5 = มากท่สี ดุ 4 = มาก 3 = ปานกลาง 2 = นอ้ ย 1 = น้อยที่สุด เกณฑก์ ารประเมนิ รายการ 54 3 21 มากทีส่ ุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยท่สี ดุ การประเมนิ ด้านบริบทหรอื สภาวะแวดล้อม (Context Evaluation : C) 1.หลักการ วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการมีความเหมาะสมและสอดคล้องกัน  2.การกาหนดเป้าหมาย วิธีการดาเนินการและระยะเวลาดาเนินการ  มีความเหมาะสมและปฏิบัติจริงได้ 3.การจัดบรรยากาศในการดาเนินงานเหมาะสมและสอดคล้องกับ  การดาเนินโครงการ 4.การประสานงานในด้านต่างๆทาให้เกิดความร่วมมือในการดาเนินโครงการ  5.วิธีการดาเนินงานเหมาะสมและปฏิบัติได้  การประเมินปัจจัยเบอื้ งต้นหรอื ปจั จัยป้อน (Input Evaluation : I) 6.จานวนบุคลากรที่ร่วมดาเนินโครงการ/กิจกรรม มีความเหมาะสมและเพียงพอ  7.วัสดุอุปกรณ์ เคร่ืองมือที่ใช้ในการดาเนินโครงการ/กิจกรรมมีความเหมาะสมและ  เพียงพอ 8.งบประมาณเพียงพอและเหมาะสม  การประเมนิ กระบวนการ (Process Evaluation : P) 9.การศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการ  10.การวางแผนดาเนินโครงการ/กิจกรรม  11.การปฏิบัติงานตามโครงการ/กิจกรรมในหน้าท่ีท่ีแต่ละคนรับผิดชอบ  12.การดาเนินงานเป็นไปตามท่ีกาหนดไว้ในโครงการ/กิจกรรม  13.การนิเทศติดตามกากับการดาเนินโครงการ/กิจกรรมเป็นไป  ตามขั้นตอนที่กาหนดทุกระยะ 14.การวิเคราะห์ผลอย่างต่อเน่ือง  การประเมินผลผลิต (Product Evaluation : P)  15.การจัดทาโครงการ/กิจกรรมตามขั้นตอนโดยละเอียด  และผ่านการอนุมัติจากผู้บริหารและกรรมการสถานศึกษา  16.ผลการดาเนินงานบรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ/ กิจกรรม  17.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกาหนดการ เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ 18.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีความหลากหลายและมีการบูรณาการที่เป็นประโยชน์  19.การนาผลการประเมินมาพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้  อย่างต่อเน่ือง 20.ผลการเรียนรู้ตามโครงการ/กิจกรรม สามารถนาไปประยุกต์ 35 24 21 0 0 4.00 ใช้ในชีวิตประจาวันได้ ดี รวม เฉล่ีย ระดบั คุณภาพ

7. คาช้แี จงงบประมาณ จานวน 1,000 บาท 8. ปัญหาและอุปสรรค ปัญหาอปุ สรรค สาเหตุของปัญหาอปุ สรรค ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข 1. ดา้ นงบประมาณ ไมม่ ี ไม่มี 2. ดา้ นบคุ ลากร ไม่มี ไม่มี 3. ด้านวสั ดุ/อปุ กรณ์ ไมม่ ี ไมม่ ี 4. ด้านบริการและ - ครผู ู้สอนในแต่ละกลุ่มสาระฯ หรือ - ในขน้ั ตอนการประชุมกรรมการ ประสานงาน กิจกรรมการจัดการเรยี นรูต้ ่างๆ ยังเก็บ ดาเนินงาน ควรมีการทบทวนหลักการ รายละเอยี ดได้ไม่ครบถว้ น ของสะเต็มศกึ ษาทกุ คร้งั เพอ่ื ใหค้ รผู ู้สอน สามารถเกบ็ รายละเอียดได้ครบถว้ น - ครผู ู้สอนบางท่านขาดแนวคดิ ใน - มกี ารแลกเปลี่ยนเรยี นรู้กิจกรรมท่ี การบรู ณาการการจัดการเรียนรู้แบบ ครผู ู้สอนในสาระการเรยี นรูต้ ่างๆ สะเตม็ ศกึ ษาไปใชใ้ นการจัดกิจกรรม สามารถนาไปประยุกต์ใช้ หรือบรู ณา จริงในชัน้ เรียน การในการจดั กิจกรรมการเรียนรไู้ ด้ - การเกบ็ ขอ้ มูลการจดั กิจกรรมการ - มีเอกสารบันทกึ ผลการทากจิ กรรมให้ เรยี นรเู้ ป็นเพียงการบอกเล่า ขาด นกั เรียนสะท้อนออกมาเปน็ แผนผงั ร่องรอยการเรียนรู้ของผเู้ รียน ความคดิ สะเต็มศกึ ษา เพ่ือใหน้ กั เรยี น สามารถนาหลกั การสะเตม็ ศึกษาไป เชือ่ มโยงและประยกุ ตใ์ ช้ใน ชวี ิตประจาวันได้จริง

9. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ควรจัด PLC ในหัวขอ้ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้แบบสะเตม็ ศึกษาเพิม่ เตมิ ลงชอื่ ................................................................. (นางนนั ทพร แกว้ กญั ญาติ) ผู้ประเมนิ ผล วันที่ 31 / มีนาคม / 2564

กจิ กรรม EM ball

กจิ กรรมการแขง่ ขนั เครื่องรอ่ น

กจิ กรรมลกู ข่างมหศั จรรย์

กจิ กรรมสรา้ งสรรคผ์ ลงาน “แปลงโฉมเส้อื เกา่ เป็นถงุ ผา้ ใบใหม่”

กจิ กรรมขยะแปลงร่าง การประดษิ ฐช์ ุดกนั เปื้อนจากถงุ บรรจนุ มโรงเรยี น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook