คอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ การใชง้ านอินเตอรเ์ น็ต วิทยาลยั สารพดั ชา่ งสระบรุ ี อาจารยจ์ กั รนิ ทองดี
คอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชพี การใชง้ านอินเตอรเ์ น็ต การใชง้ านอินเตอรเ์ นต็ ความหมายของอนิ เทอรเ์ นต็ อินเทอร์เน็ต (Internet) มาจากคำว่า Inter Connection Network หมายถึง เครือข่ายของ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกัน ลักษณะของระบบอินเทอร์เนต็ เป็นเสมือนใยแมง มุม ทคี่ รอบคลมุ ทวั่ โลก ในแต่ละจดุ ทเี่ ช่อื มตอ่ อินเทอร์เนต็ นั้น สามารถส่ือสารกันได้หลายเส้นทาง โดย ไม่กำหนดตายตัว และไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งไปตามเส้นทางโดยตรง อาจจะผา่ น จุดอนื่ ๆ หรือ เลอื กไปเสน้ ทางอ่ืนได้หลาย ๆ เส้นทาง ดงั รูป วิทยาลยั สารพดั ชา่ งสระบรุ ี อาจารยจ์ กั รนิ ทองดี
คอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชพี การใชง้ านอินเตอรเ์ นต็ พัฒนาการของอินเทอรเ์ น็ต อนิ เทอร์เนต็ ในปัจจบุ นั ถกู พัฒนามาจากโครงการวิจยั ทางการทหารของกระทรวงกลาโหมของ ประเทศ สหรัฐอเมริกา คือAdvanced Research Projects Agency (ARPA) ในปี1969 โครงการนี้ เปน็ การวจิ ัยเครือข่ายเพื่อ การสื่อสารของการทหารในกองทัพอเมริกา หรืออาจเรียกสั้นๆ ได้ว่า ARPA Net ในปี ค.ศ. 1970 ARPA Net ได้มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นโดยการเชื่อมโยงเครือข่ายร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของ อเมริกา คือ มหาวิทยาลัยยูทาห์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ซานตาบาบารา มหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนียที่ลอสแองเจลิส และสถาบันวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และหลังจากน้ันเป็นต้น มากม็ ีการใช้ อินเทอร์เน็ตกนั อยา่ งแพรห่ ลายมากขึ้น สำหรับในประเทศไทย อินเทอร์เน็ตเริ่มมีการใชค้ รั้งแรกในปี พ.ศ. 2530 ที่มหาวิยาลัยสงขลา นครินทร์ โดยได้รับความช่วยเหลือจากโครงการ IDP (The International Development Plan) เพ่ือใหม้ หาวทิ ยาลยั สามารถติตอ่ ส่ือสารทาง อีเมลกับมหาวิทยาลัยเมลเบริ ์นในออสเตรเลียได้ ได้มีการติดตั้งระบบอีเมลขึ้นครั้งแรก โดยผ่านระบบ โทรศัพท์ ความเร็วของโมเดม็ ท่ีใช้ในขณะน้ันมคี วามเรว็ 2,400 บิต/วินาที จนกระทั่งวนั ท่ี 2 มิถุนายน พ.ศ. 2531 ได้มีการส่งอีเมลฉบับแรกที่ติดต่อระหว่างประเทศไทยกับมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จึงเปรียบเสมือนประตูทางผ่าน (Gateway) ของไทยที่เชื่อมต่อไปยัง ออสเตรเลียในขณะน้ัน ในปี พ.ศ. 2533 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ได้ เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของสถาบันการศึกษาของรัฐ โดยมี ชื่อว่า เครือข่ายไทยสาร (Thai Social/Scientific Academic and Research Network : ThaiSARN) ประกอบด้วย มหาวิยาลัย ส ง ข ล า น ค ร ิ น ท ร ์ จ ุ ฬ า ล ง ก ร ณ ์ ม ห า ว ิ ท ย า ล ั ย ส ถ า บ ั น เ ท ค โ น โ ล ย ี แ ห ่ ง เ อ เ ชี ย (AIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพือ่ ให้บริการอินเทอรเ์ นต็ ภายในประเทศ เพอ่ื การศกึ ษาและวจิ ยั ในปี พ.ศ. 2538 ได้มีการบริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์ขึ้น เพื่อให้บริการแก่ประชาชน และ ภาคเอกชนต่างๆ ที่ต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยมีบริษัทอินเทอร์เน็ตไทย แลนด์ (Internet Thailand) เป็นผใู้ ห้บริการอนิ เทอร์เนต็ วิทยาลยั สารพดั ชา่ งสระบรุ ี อาจารยจ์ กั รนิ ทองดี
คอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชพี การใชง้ านอนิ เตอรเ์ นต็ (Internet Service Provider: ISP) เป็นบริษัทแรก เมื่อมีคนนิยมใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น บริษัทท่ี ให้บรกิ ารอินเทอรเ์ นต็ จึงได้ก่อต้ังเพม่ิ ขึน้ อีกมากมาย การทำงานของอินเทอรเ์ น็ต การสื่อสารข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์จะมีโปรโตคอล (Protocol) ซึ่งเป็นระเบียบวิธีการสื่อสารที่ เป็นมาตรฐานของการเชื่อมต่อกำหนดไว้ โปรโตคอลที่เป็นมาตรฐานสำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เนต็ คอื TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) เครื่องคอมพวิ เตอรท์ ุกเครอ่ื งทีเ่ ชือ่ มต่อเข้ากับเครอื ข่ายอินเทอร์เนต็ จะตอ้ งมหี มายเลขประจำเคร่ือง ท่ี เรียกว่า IP Address เพ่ือเอาไว้อา้ งองิ หรือติดตอ่ กบั เคร่ืองคอมพิวเตอร์อนื่ ๆ ในเครอื ข่าย ซง่ึ IP ในที่นี้ ก็คือ Internet Protocol ตัวเดียวกับใน TCP/IP นั่นเอง IP address ถูกจัดเป็นตัวเลขชุดหนึ่งขนาด 32 บิต ใน 1 ชดุ น้จี ะมตี วั เลขถกู แบง่ ออกเป็น 4 สว่ น สว่ นละ 8 บติ เทา่ ๆ กัน เวลาเขียนก็แปลงให้เป็น เลขฐานสิบกอ่ นเพอื่ ความงา่ ยแล้วเขียนโดยค่ันแต่ละส่วนด้วยจดุ (.) ดงั น้นั ในตวั เลขแตล่ ะส่วนนจ้ี ึงมีค่า ได้ไม่เกิน 256 คือ ตั้งแต่ 0 จนถึง 255 เท่านั้น เช่น IP address ของเครื่องคอมพิวเตอร์ของสถาบัน ราชภัฎสวนดุสิต คือ 203.183.233.6 ซึ่ง IP Address ชุดนี้จะใช้เป็นที่อยู่เพื่อติดต่อกับเครื่อง คอมพวิ เตอรอ์ ืน่ ๆ ในเครอื ข่าย วทิ ยาลยั สารพดั ชา่ งสระบรุ ี อาจารยจ์ กั รนิ ทองดี
คอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชพี การใชง้ านอนิ เตอรเ์ น็ต การใช้งานอนิ เตอรเ์ น็ต เมื่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเชื่อมโยงเครือข่ายทั่วโลกให้สามารถติดต่อถึงกันได้หมดจนกลายเป็น เครือข่ายของโลก ดังนั้นจึงมีผู้ใช้งานบนเครือข่ายนี้จำนวนมาก การใช้งานเหล่านี้เป็นสิ่งที่กำลังได้รับการ กล่าวถึงกันทั่วไป เพราะการเชื่อมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทำให้โลกไร้พรมแดน ข้อมูลข่าวสารต่างๆ สามารถสื่อสารถึงกันได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างการใช้งานบนอินเทอรเ์ นต็ ทีจ่ ะกล่าวต่อไปนีเ้ ป็นเพียงตัวอย่าง ท่แี พรห่ ลายและใชก้ ันมากเทา่ น้ัน ยังมีการประยุกตง์ านอื่นทไ่ี ดร้ บั การพัฒนาขน้ึ มาใหม่ตลอดเวลา 1) ไปรษณยี ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail : E-mail) เป็นการสง่ ข้อความติดต่อกันระหว่างบุคคลกับ บคุ คลหรือกลมุ่ บุคคลก็ได้ หากเปรยี บเทยี บไปรษณียอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์กบั ไปรษณียธ์ รรมดาจะพบว่าโดย หลักการนั้นไม่แตกต่างกันมากนัก ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์เปลี่ยนบุรุษไปรษณีย์ให้ เป็นโปรแกรม เปลี่ยนเส้นทางเป็นระบบเครือข่าย และเปลี่ยนรูปแบบการจ่าหน้าซองจดหมายให้เป็นการจ่าหน้า แบบอ้างอิงระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยใช้ที่อยู่ของไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (email address) การส่ง จดหมายอิเล็กทรอนกิ ส์นนั้ มรี ูปแบบทงี่ ่าย สะดวก และรวดเร็ว วทิ ยาลยั สารพดั ชา่ งสระบรุ ี อาจารยจ์ กั รนิ ทองดี
คอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ การใชง้ านอนิ เตอรเ์ น็ต หากต้องการส่งข้อความถึงใครก็สามารถเขียนเป็นเอกสาร แล้วจ่าหน้าซองที่อยู่ของผู้รับ ระบบจะนำส่ง ให้ทันทีอย่างรวดเร็ว ลักษณะของที่อยู่จะเป็นชื่อรหัสผู้ใช้และชื่อเครื่องประกอบกันเช่น [email protected] การติดต่อบนอินเทอร์เน็ตนี้ ระบบจะหาตำแหน่งให้เองโดยอัตโนมัติ และนำส่งไปยัง ปลายทางได้อยา่ งถกู ต้อง การรับส่งไปรษณยี อ์ เิ ล็กทรอนกิ สก์ ำลังเปน็ ที่นิยมกนั อย่างแพร่หลาย 2) การโอนย้ายแฟ้มข้อมูลระหว่างกัน (File Transfer Protocol : FTP) เป็นระบบที่ทำให้ ผู้ใช้สามารถ รับส่งแฟ้มข้อมูลระหว่างกันหรอื มีสถานีให้บริการเก็บแฟ้มข้อมูลที่อยู่ในที่ต่างๆ และให้บริการ ผู้ใช้สามารถ เขา้ ไปคดั เลือกนำแฟม้ ข้อมลู มาใช้ประโยชนไ์ ด้ เชน่ โปรแกรม cuteFTP โปรแกรม wsFTP เป็นตน้ วิทยาลยั สารพดั ชา่ งสระบรุ ี อาจารยจ์ กั รนิ ทองดี
คอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชพี การใชง้ านอินเตอรเ์ น็ต 3) การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในที่ห่างไกล (telnet) การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้ากับเครือข่าย ทำให้เรา สามารถติดต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นสถานีบริการในที่ห่างไกลได้ถ้าสถานีบริการนั้นยินยอม ทำให้ผู้ใช้ สามารถนำข้อมูลไปประมวลผลยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเครือข่ายเช่นนักเรียนในประเทศไทยส่ง โปรแกรมไปประมวลผลท่ีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ท่ีบริษทั ในประเทศญี่ปุน่ ผ่านทางระบบเครือข่ายโดยไม่ ตอ้ งเดินทางไปเอง 4) การเรียกค้นข้อมูลข่าวสาร (search engine) ปัจจุบันมีฐานข้อมูลข่าวสารที่เก็บไว้ให้ใช้งานจำนวนมาก ฐานข้อมูลบางแห่งเกบ็ ข้อมูลในรปู ส่ิงพมิ พ์อเิ ล็กทรอนิกส์ท่ีผู้ใชส้ ามารถเรียกอา่ น หรือนำมาพิมพ์ ฐานข้อมลู วิทยาลยั สารพดั ชา่ งสระบรุ ี อาจารยจ์ กั รนิ ทองดี
คอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชพี การใชง้ านอินเตอรเ์ น็ต นี้จึงมีลักษณะเหมือนเป็นห้องสมดุ ขนาดใหญ่อยู่ภายในเครือข่ายที่สามารถค้นหาข้อมูลใดๆ ก็ได้ ฐานข้อมูล ในลกั ษณะนเ้ี รยี กว่า เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web : WWW) ซง่ึ เปน็ ฐานขอ้ มลู ท่ีเช่อื มโยงกนั ทั่วโลก 5) การอ่านจากกลุ่มข่าว (usenet) ภายในอินเทอร์เนต็ มีกลุ่มข่าวเป็นกลุ่มๆ แยกตามความสนใจ แต่ละกลุ่ม ข่าวอนุญาตให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่งข้อความไปได้ และหากผู้ใดต้องการเขียน โต้ตอบก็สามารถเขียนตอบได้ กล่มุ ขา่ วนจ้ี ึงแพรห่ ลายและกระจายขา่ วได้รวดเรว็ 6) การสนทนาบนเครือข่าย (chat) เมื่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อถึงกันได้ทั่วโลก ผู้ใช้จึงสามารถใช้ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นตัวกลางในการติดต่อสนทนากันได้ ในยุคแรกใช้วิธีการสนทนากันด้วยตัวหนังสือ วิทยาลยั สารพดั ชา่ งสระบรุ ี อาจารยจ์ กั รนิ ทองดี
คอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชพี การใชง้ านอินเตอรเ์ น็ต เพ่อื โต้ตอบกันแบบทนั ทีทันใดบนจอภาพ ต่อมามีผู้พัฒนาให้ใช้เสียงได้ จนถึงปัจจบุ นั ถ้าระบบส่ือสารข้อมูล มคี วามเรว็ พอ ก็สามารถสนทนาโดยท่เี หน็ หน้ากันและกันบนจอภาพได้ 7) การบริการสถานีวิทยแุ ละโทรทศั นบ์ นเครือข่าย เป็นการประยกุ ต์เพอ่ื ให้เห็นว่าเป็นส่งิ ทเี่ กิดขน้ึ ได้ ปัจจุบัน มีผู้ตั้งสถานีวิทยุบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหลายร้อยสถานี ผู้ใช้สามารถเลือกสถานีที่ต้องการและได้ยินเสียง เหมือนการเปิดฟังวิทยุ ขณะเดียวกันก็มีการส่งกระจายภาพวีดิทัศน์บนเครือข่ายด้วย แต่ปัญหายังอยู่ที่ ความเร็วของเครือขา่ ยที่ยังไม่สามารถรองรับการส่งขอ้ มลู จำนวนมาก ทำให้คุณภาพของภาพวดี ทิ ัศน์ยังไมด่ ี เท่าท่ีควร วทิ ยาลยั สารพดั ชา่ งสระบรุ ี อาจารยจ์ กั รนิ ทองดี
คอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชพี การใชง้ านอินเตอรเ์ น็ต จรยิ ธรรมในการใชง้ านอินเทอร์เน็ต จรยิ ธรรม (Ethics) ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตคือ หลกั ศีลธรรมจรรยาที่กาํ หนดขึน้ เพอ่ื ใชเ้ ปน็ เเนวปฏบิ ตั หิ รอื ควบคุมการใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ ซงึ่ เป็นหลกั เกณฑท์ ป่ี ระชาชนใชใ้ นการตดั สินใจเพพ่อื กระทํา ในสิง่ ทถ่ี ูกต้องเเละหลกี เลี่ยงการกระทําความผิดตอ่ ผู้อนื่ ผใู้ ช้ควรระมัดระวังเเละปฏิบตั ิตามคาํ แนะนําในด้าน ตา่ งๆ ดงั ต่อไปนี้ เลย 1.ด้านมารยาท ผู้ใช้งานน้ันควรระลึกเสมอวา่ ผใู้ ช้อินเทอร์เนต็ เป็นมนุษย์มคี วามรสู้ ึกตา่ งๆเหมอื กับตน ผใู้ ชจ้ ึงควรยดึ ถือมารยาทในการปฏิบัติในการดาํ เนนิ ชวี ิต เชน่ - ควรศกึ ษาเเละปฏิบตั ิตามกฎ กตกิ า มารยาทในการใช้เวบ็ ตา่ งๆ ตามทีผ่ ุใ้ หบ้ ริการกําหนดไว้ - ควรคํานึงถึงคุณภาพของข้อมลู ทจ่ี ะอัปโหลดไปไว้บนอนิ เทอร์เน็ตว่ามีประโยชน์หรือไม่ อยา่ งไร - ควรใชอ้ ินเทอร์เน้ตใหเ้ กิดประโยชน์มากกวา่ การทาํ ให้เกดิ ความเสยี หายตอ่ ตนองเเละผอู้ ืน่ - ควรใช้อนิ เตอรเ์ นต็ อย่างคุ้มคา่ เเละประหยดั เวลา - ควรมีความรใู้ นเรือ่ งทเ่ี เสดงความคดิ เห็นเเละเเสดงความคิดเหน็ อยา่ งเปน็ กลาง วิทยาลยั สารพดั ชา่ งสระบรุ ี อาจารยจ์ กั รนิ ทองดี
คอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชพี การใชง้ านอินเตอรเ์ น็ต - ไมค่ วรเเอบอ้างหรือนาํ ข้อมลู ของผอู้ ่ืนมาใช้ก่อนไดร้ บั อนุญาติ และหากนาํ ข้อมลู ของผู้อื่นมาก็ควรมี อา้ งอิงหรรื ะบุขอ้ อย่างชัดเจน - ไมโ่ กหก ไมห่ ลอกลวง ไมห่ วงั ผลกาํ ไร และไมใ่ สร่ า้ ยผู้อ่ืน - ไมส่ ่งเสรมิ การกระทําความผดิ ใดๆบนอินเทอรเ์ นต็ - ไมส่ ่งเสริมให้เกดิ ความเเตกเเยกหรอื ทะเลาะกันบนอินเทอรเ์ น็ต - ไมใ่ ช้อินเทอร์เนต็ เป็นชอ่ งทางในการทดลองความรใู้ นทางท่ีผดิ - ไม่นําเร่ืองของผูอ้ ื่นมาเปน็ หัวขอ้ ในการสนทนาทางอนิ เทอร์เน็ต - ไม่สร้างความเดือดร้อนหรอื ความลาํ คาญใหเ้ เก้ผู้อื่น เชน่ การโฆษณา 2.ด้านภาษา ภาษาทางอนิ เทอร์เนต็ เเบ่งเปน็ 2 ประเภทใหญๆ่ ภาษาเเรก คือ ภาษาท้องถ่ิน ภาษาท่ี สอง คอื ภาษาอังกฤษ ตังอย่างหลกั การใช้ภาษาในอินเทอร์เน็ตเชน่ - พิมพภ์ าษาให้ถูกต้องทง้ั ในด้านตัวสะกดเเละรปู แบบ - ใชภ้ าษาทีส่ ุภาพเเละใชใ้ ห้ถูกต้องตามกาละเทศะ - ไม่ใช้ภาษาท่ีก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในการสื่อความหมาย หรอื ความหมายกาํ กวมไม่หมาะสม - ควรเลอื กใช้ภาษาทสี่ น้ั ชดั เจน เเละกะทดั รดั - ก่อนการสง่ ข้อมลู ผู้ใช้ควรอา่ นทบทวนข้อมลู หรือข้อความท่ีตอ้ งการสง่ ก่อนลิส่งข้อมูลนั้น วิทยาลยั สารพดั ชา่ งสระบรุ ี อาจารยจ์ กั รนิ ทองดี
คอมพิวเตอรส์ ารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ การใชง้ านอนิ เตอรเ์ น็ต 3.ด้านความปลอดภยั เน่อื งจากอินเทอร์เนต็ เปน็ เครอื ขา่ ขนาดใหญ่ทีม่ ผี ู้ใช้หลากหลาย ส่งผลให้ อินเทอรเ์ นต็ เปน็ ชอ่ งทางในการกอ่ อาชญากรรมหรอื การกระทาํ ผดิ กฎหมายต่างๆ ตวั อย่างการใช้งาน อินเทอร์เนต็ เพ่อื ให้เกิดความปลอดภัย เชน่ - ควรระลึกไว้เสมอว่าไมม่ คี วามลบั ในอนิ เทอร์เนต็ ขอ้ มลู ทกุ อย่างมีการเชื่อมต่อผ่านเครอื่ ขา่ ย คอมพวิ เตอรไ์ ปไมม่ ที ี่สิ้นสุด - ผ้ใู ช้อนิ เทอรเ์ น็ตทกุ คนสมทารถแสดงขอ้ มลู ใดๆก็ได้ ดังน้นั ข้อมลู ทเ่ี เสดงอาจไม่ใชข้ ้อมูลจริง - ควรตรวจสอบเวบ็ ไซตห์ รือไฟลข์ ้อมลู ก่อนอปั โหลดเเละดวน์โหลด ข้อมูลนัน้ ทุกครงั้ ก่อนใช้งาน เพืก่ นั ไวรสั เขา้ คอมพิวเตอร์ - ไม่เปดิ เผยขอ้ มลู ส่วนตัวของตนเองหรอื ผู้อืน่ เชน่ หมายเลขบัตรประชาชน - ไม่หลงเช่อื ข้อความหรือขอ้ มูลของผ้อู ่ืนท่ีไมม่ ีเเหลง่ ข้อมูลท่ชี ดั เจน - ไม่เปดิ หรือดาวน์โหลดเว็บไซตท์ ี่ส่งมาจากเเหล่งข้อมลู ทไี่ ม่น่าเชือ่ ถอื วทิ ยาลยั สารพดั ชา่ งสระบรุ ี อาจารยจ์ กั รนิ ทองดี
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: