Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กีฬาว่ายน้ำ

กีฬาว่ายน้ำ

Published by pkphone36620, 2023-07-07 04:06:03

Description: การว่ายน้ำคือการออกกำลังกายอย่างหนึ่งที่ต้องใช้ทุกส่วนของร่างกาย

Search

Read the Text Version

ประวัติกีฬาว่ายน้ำ

สารบัญ 01 ประวัติกีฬาว่ายน้ำ 02 อันตรายจาการว่ายน้ำ 03 ผลดีจากการว่ายน้ำ 04 วิธีว่ายน้ำ

ประวัติกีฬาว่ายน้ำ ประวัติกีฬาว่ายน้ำ เริ่มมีการ แข่งขันครั้งแรก พ.ศ. 2416 (ค.ศ. 1873) ที่วูลิช บาร์ท ใกล้กับกรุง ลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยกติกา การแข่งขันจะว่ายแบบใดก็ได้ ขอให้ถึง เส้นชัยเป็นพอ และหลังจากการ แข่งขันครั้งนี้จบลง ประชาชนก็สนใจ กีฬาว่ายน้ำมากขึ้น จนถูกบรรจุในการ แข่งขันโอลิมปิกครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2436 (ค.ศ. 1893) จวบจนทุกวันนี้

สำหรับกีฬาว่ายน้ำใน ประเทศไทย มีการจด ทะเบียนสมาคมว่ายน้ำ สมัครเล่นแห่งประเทศไทย ต่อกรมตำรวจเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2502 โดยมี พล.ร.ท.สวัสดิ์ ภูติอนันต์ เป็นนายกสมาคมฯ คนแรก ก่อนที่จะเข้ามาเป็นสมาชิก ของสหพันธ์ว่ายน้ำ นานาชาติ ปี 2504

อย่างไรก็ตาม ปี 2548 สมาคมว่ายน้ำ สมัครเล่นแห่งประเทศไทย ก็ได้เปลี่ยนชื่อ เป็น สมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็น ผู้สนับสนุนกีฬาทางน้ำหลายชนิดทั้งว่าย น้ำ, กระโดดน้ำ, โปโลน้ำ และระบำใต้น้ำ ส่วนการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำใน ปัจจุบัน มีการแข่งขันกันหลากหลาย ประเภท แยกประเภทการแข่งขันจากท่าการ ว่าย, ระยะทาง, การว่ายคนเดียวหรือการ ว่ายเป็นทีม (ว่ายผลัด) ด้วยเหตุนี้เอง จึง สามารถกระจายการชิงเหรียญทองในการ แข่งขันไปได้มาก อย่างโอลิมปิก 2012 ครั้งล่าสุด มีการชิงเหรียญทองกันถึง 34 เหรียญกันเลยทีเดียว

สำหรับท่าการว่ายในการแข่งขันว่ายน้ำ มีอยู่ 4 ท่าด้วยกัน ได้แก่ - ท่าฟรีสไตล์ เป็นท่าว่ายอย่างไรก็ได้ ขอให้ ต่างจากท่าผีเสื้อ ท่ากบ และท่ากรรเชียง ซึ่งส่วน มากที่เห็นกันคือ การสาวมือว่ายสลับกันไปมา ซ้ายขวา - ท่าผีเสื้อ เป็นการว่ายแบบคว่ำหน้า มือ ทั้งสองข้างจะต้องยกเหนือน้ำพร้อมกัน - ท่ากบ เป็นท่าว่ายแบบคว่ำหน้า มือทั้ง สองข้างต้องพุ้งไปข้างหน้าพร้อมกัน ส่วน ข้อศอกอยู่ใต้ผิวน้ำ พร้อมกับเตะเท้าไปด้านหลัง ด้วย ถือว่าเป็นท่าที่ว่ายได้ช้าที่สุด - ท่ากรรเชียง เป็นท่าว่ายแบบนอนหงาย มือสองข้างสลับกันสาวน้ำ เพื่อให้เคลื่อนตัวไป ข้างหน้า

กติกากีฬาว่ายน้ำ จะกำหนดเสียก่อนว่า การแข่งขันแบบนี้ จะว่ายด้วยท่าอะไร และมีระยะทางเท่าใด ซึ่งผู้เข้าแข่งขันก็ จะต้องว่ายตามที่กำหนดไว้ ใครเข้าเส้นชัยได้เป็นคนแรก จะเป็นผู้ชนะ เช่น การแข่งขันฟรีสไตล์ 100 เมตร ผู้เข้า แข่งขันจะต้องว่ายด้วยท่าฟรีสไตล์ ในระยะทาง 100 เมตร แต่ว่า ระยะทางที่ยาวที่สุดของสระว่ายน้ำ คือ 50 เมตร ฉะนั้น ผู้แข่งขันจึงต้องว่ายกลับตัว 1 ครั้ง เป็นการ ว่ายไปกลับ 1 รอบ จึงจะได้ระยะทาง 100 เมตร เรื่องการปล่อยตัวก่อนการว่าย กรรมการจะเป่า เสียงนกหวีดยาว เพื่อให้นักว่ายน้ำขึ้นบนแท่นกระโดด ต่อ มาเมื่อกรรมการจะบอกว่า \"เข้าที่\" ผู้แข่งขันจึงก้าวไปยืน ที่ปลายแท่นกระโดด รอกรรมการให้สัญญาณปล่อยตัว เป็นเสียงปืน ออด หรือนกหวีด จึงสามารถปล่อยตัวได้ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในท่าว่ายกรรเชียงกับท่าผลัด ผสม จะไม่ปล่อยตัวจากแท่น แต่จะปล่อยตัวจากสระว่าย น้ำแทน สำหรับการว่ายผลัด ผู้แข่งขันกระโดดลงสระหลัง จากที่เพื่อนร่วมทีมจะว่ายแตะขอบสระไปแล้วเท่านั้น หาก เพื่อนร่วมทีมยังไม่แตะขอบสระ แล้วกระโดดลงไป จะถูก ปรับแพ้ทันที

ประโยชน์ของกีฬาว่ายน้ำ - ช่วยทำให้สุขภาพแข็งแรง กล่าวคือ การว่ายน้ำก็ เปรียบเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง ทำให้สุขภาพแข็ง แรง มีโอกาสเจ็บป่วยยากขึ้น - ช่วยรักษาความปลอดภัยของชีวิต กล่าวคือ กีฬา ว่ายน้ำสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย เช่น ช่วย เหลือคนที่จมน้ำ หรือช่วยเหลือตัวเองในขณะที่ตกน้ำ เป็นต้น - ทำให้รู้สึกสดชื่น-คลายเครียด กล่าวคือ การว่าย น้ำเป็นกีฬาที่อยู่กับน้ำทั้งร่างกาย จะช่วยให้ร่างกายมีความ สดชื่น ส่งผลให้คลายเครียดจากปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต ประจำวันได้ แม้ว่ากีฬาว่ายน้ำจะไม่ได้เป็นกีฬาแบบเผชิญหน้า เหมือนกีฬาชนิดอื่น แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือ ความ ตื่นเต้นเร้าใจในการแข่งขัน ไม่แพ้กีฬาชนิดอื่นอย่าง แน่นอน

อันตรายจากโรคใน สระว่ายน้ำ 1. ท้องร่วงจาก : Cryptosporidium เชื้อตายยากแม้ใส่น้ำยาคลอรีน ก็ อยู่ได้เป็นวัน, E.coli, Giardia, Norovirus, Salmonella, Shigella, viral gastroenteritis. 2. การติดเชื้อผิวหนัง หู ตา : หูดข้าวสุก (molluscum contagiosum), conjunctivitis (adenovirus), Pseudomonas dermatitis, otitis externa, cercarial dermatitis. 3. การติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ : Legionella, Mycobacterium avium complex (MAX). 4. Neurologic infections : aseptic meningitis (enterovirus), Naegleria. 5. Wound infections : Vibrio parahaemolyticus, Vibrio vulnificus. 6. อื่นๆ : hepatitis A (viral), leptospirosis. การป้องกันสำหรับผู้ที่ลงเล่นน้ำ พยายามอย่ากลืนหรือหายใจให้น้ำเข้าจมูก ปาก ก็จะลดโอกาสการ ได้รับเชื้อโรคต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น. ขณะเดียวกัน เพื่อลดโอกาสการนำเชื้อโรคลงสู่สระน้ำ ผู้ลงเล่นควรล้างตัวให้สะอาดก่อน ลงสระน้ำ และลดการปล่อยสิ่งคัดหลัง เช่น น้ำมูก น้ำลาย ลงสระ ยิ่งถ้าป่วย โดยเฉพาะอุจจาระร่วง ไม่ควรลงสระเลย.

ผลดีของการว่ายน้ำ 1. ช่วยลดน้ำหนัก การว่ายน้ำสามารถทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ถึง 367 แคลอรี่ ใช้เวลาเพียง 30 นาทีซึ่งพอๆ กับการเดินเร็ว การปั่ นจักรยาน หรือการวิ่งเหยาะๆ นั่นเอง 2. ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความเชื่อมั่นในตนเอง การสำรวจความคิดเห็นของนักว่ายน้ำ จำนวน 74,000 คน พบว่าร้อยละ 74 มีความคิดเห็นว่าการว่ายน้ำ ช่วยผ่อนคลายจากความเครียด และความกดดันและรู้สึกสดชื่นเมื่อได้ว่ายน้ำ 3. ช่วยให้อารมณ์ดี การศึกษาอีกชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่านักว่ายน้ำ ไม่ว่าจะอยู่ในระดับใดมักจะไม่ค่อยมีความเครียด ความกดดัน ความหดหู่ ความโกรธ และความสับสนเมื่อพวกเขาได้ว่ายน้ำ เนื่องจากการว่ายน้ำทำให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมนเซโรโทนินที่ทำให้อารมณ์ดี 4. ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง การว่ายน้ำเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับการเสริมสร้างกล้ามเนื้อของคุณ และการว่ายน้ำยังเป็นการออกกำลังกายที่ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ออกกำลังกาย ในราคาแพงอีกด้วย 5. ว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่เสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บน้อยมาก เนื่ องจากน้ำช่วยในการลอยตัวและยังช่วยลดการเคลื่ อนไหว และความตึงของกระดูกข้อต่อและกล้ามเนื้อลงด้วย การว่ายน้ำจึงมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บน้อยกว่าการออกกำลังกายประเภทอื่ นๆ 6. ช่วยให้นอนหลับสบาย การว่ายน้ำช่วยให้นอนหลับสบายมีแนวโน้วนอนหลับได้ดีกว่าผู้ที่ไม่ออกกำลังกายเลย 7. ว่ายน้ำไม่มีเหงื่อ เมื่ อคุณว่ายน้ำจะไม่รู้สึกร้อนจนเกินไปหรือไม่รู้สึกว่ามีเหงื่ อ เพราะน้ำรอบๆ ตัวคุณจะทำให้คุณเย็นลง 8. ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ดีต่อหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นหากคุณว่ายน้ำเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดสารพัดโรค เช่น ความดันโลหิต โรคหัวใจ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหลอดเลือดสม

วีธีว่ายน้ำ รียนรู้ขั้นตอนการวาดแขนในน้ำ ดาวน์โหลดบทความ 1. 2. 1 3. วางมือและจัดท่าเริ่มต้นให้ดี. การเริ่มวาดแขนนั้น มือควรผ่อน คลายและนิ้วเรียงชิดติดกัน วาดมือลงในน้ำโดยให้นิ้วมือแตะลง น้ำในระยะเหนือต่อศีรษะ 15 นิ้ว ฝ่ามือบิดออกจากลำตัว 45 องศาโดยให้นิ้วชี้และนิ้วกลางแตะผิวน้ำก่อน ข้อมือหักลงใน ตำแหน่งที่ยังอยู่สูงกว่านิ้วมือ และข้อศอกยกอยู่เหนือข้อมือ มือ ควรจ้วงลงไปให้น้ำกระเด็นน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะที่มือข้าง หนึ่งอยู่ในน้ำให้เหยียดแขนอีกข้างออกไปสัก 4 นิ้ว[2] [3] เมื่อมืออยู่ในน้ำ ให้กดมือลงและบิดออกโดยกางนิ้วออกเล็ก น้อย เรียกว่าการเป็นส่วนหนึ่งไปกับน้ำหรือการทำความคุ้น ชินกับน้ำ หากต้องการว่ายให้ดีโดยใช้เทคนิคของมือ สามารถใช้แผ่น ช่วยว่ายสวมที่มือเพื่อช่วยให้สังเกตได้ชัดว่ามือลงไปในน้ำ และยกพ้นน้ำถูกต้องหรือไม่ หลีกเลี่ยงการวาดมือลงในน้ำในระยะแค่เหนือต่อศีรษะเล็ก น้อย จะทำให้ว่ายไปได้ช้าและเสียงจังหวะได้ อย่าใช้แขนตีน้ำ ให้ใช้มือวาดลงไปในน้ำตามจังหวะการ เคลื่ อนไหวและการวาดแขนในน้ำ 4. 5.

วาดแขนลงในน้ำให้ถูกต้อง. แขนจะต้องทำหน้าที่เป็นคานขณะที่จะ วาดลงน้ำ ขณะที่วาดแขนลงน้ำ ลำตัวจะหมุนไปฝั่ งเดียวกับแขนที่ วาด ให้แขนท่อนล่างและมือวาดลงในน้ำในทิศลงและไปด้านหลัง โดยศอกงอประมาณ 45 องศา ข้ศอกควรยกสูงเหนือน้ำขณะกำลัง จะวาดแขนลงน้ำ เคลื่อนตัวไปด้านหน้าด้วยการวาดแขนลงน้ำอย่าง นุ่มนวล ขั้นตอนนี้ควรเกิดขึ้นจากการวาดแขนที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตามอย่า เร็วเกินไป เพราะจะทำให้เคลื่อนไปได้ไม่เร็วจากแรงต้านของน้ำ ดึงมือและแขนท่อนล่างลงตรงกลางลำตัวของร่างกาย ขณะวาดแขนใต้น้ำ. ในจังหวะนี้ของการวาดแขนลงไปในน้ำ ให้ทำมือเป็นเหมือนใบพายแล้ววาดผ่านน้ำให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ เป็นการเริ่มทำให้ตัวพุ่งไปด้านหน้าโดยใช้การ วาดแขน เป็นส่วนแรกของขั้นตอนในการพุ่งตัวไปด้านหน้า แขนท่อนบนจะหุบเข้ามาด้านในหาอกและซี่โครง ข้อศอกจะ งอเป็นมุม 90 องศา เมื่อมือวาดไปถึงจุดกึ่งกลางของลำ ตัวให้วาดดันน้ำไปด้านหลัง[4] เก็บแขนให้อยู่ชิดลำตัวไปถึงใต้ลำตัวแทนการวาดแขนอยู่ ด้านข้างลำตัว

ใช้แขนออกแรงผลักไปในทิศขึ้น, ออก และไปด้านหลังในขั้นตอนการวาดดันน้ำ ไปด้านหลัง. เป็นส่วนที่สองของขั้นตอน ในการพุ่งตัวไปด้านหน้าซึ่งสามารถเพิ่ม ความเร็วในการวาดมือลงน้ำได้ ขณะที่มือ ลงไปถึงตรงกลางลำตัวให้หยุดดึงน้ำแล้ว ให้ออกแรงผลักน้ำแทน ออกแรงผลักน้ำ ในทิศออกและขึ้นจนแขนท่อนบนอยู่ใน แนวเดียวกับต้นขา จังหวะการวาดน้ำช่วง นี้จะเป็นช่วงที่เร็วที่สุดและเป็นช่วงที่มี แรงพุ่งตัวไปข้างหน้าได้มากที่สุด

ยกข้อศอกขึ้นจากผิวน้ำจนกระทั่งพ้นน้ำ. ขณะ ผ่อนแรงแขนนี้แขนจะไม่ทำให้ตัวพุ่งไปด้าน หน้าแต่จะช่วยสร้างสมดุลให้แขนอีกข้างที่ ออกแรงดึงน้ำอยู่ใต้น้ำ เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้อง ผึกเทคนิคการปล่อยแขนนี้จนมือพ้นน้ำ ใน ช่วงสุดท้ายของการวาดแขนนี้ ให้มือวาดมา ด้านหน้าในแนวเดียวกับหัวไหล่ที่พ้นจากผิวน้ำ นิ้วมือควรเรียงห่างกันเล็กน้อยรวมถึงมือควร อยู่ห่างออกไปจากลำตัวกว่าแขนท่อนบน แขน ท่อนบนควรผ่อนคลายและวาดไปให้กว้างด้วย หมุนแขนท่อนบนให้ไปด้านหน้าให้ดี ไม่ ออกแรงหมุนลงในช่วงท้ายก่อนจะวาดลงน้ำ อีกครั้ง

เตะแบบขาเหยียดตรงแล้วโบกขึ้นลงใต้ ผิวน้ำ. แม้การเตะขาจะมีส่วนสำคัญต่อ ความเร็วในการว่ายเพียงร้อยละ 10-15 แต่ เป็นส่วนสำคัญในการว่ายท่าฟรีสไตล์ โดยให้ สะโพกอยู่ในแนวเดียวกับผิวน้ำแล้วเตะน้ำ อย่างรวดเร็ว พยายามให้มีแรงต้านของน้ำ ให้น้อยที่สุดขณะพุ่งตัวไปด้านหน้า ช่วงการ เคลื่อนไหวของการเตะควรเป็นช่วงแคบๆ ขาท่อนล่างไม่ควรใช้ในการเตะน้ำเพราะจะ ทำให้เสียการทรงตัวได้ เตะโดยใช้แรงจากสะโพกและต้นขา. ไม่ ออกแรงเตะจากเข่าซึ่งเรียกกันว่าเตะแบบ ถีบจักรยานเพราะจะทำให้มีแรงต้านน้ำมาก ขึ้น โดยอาจงอเข่าเล็กน้อยขณะเตะได้แต่ไม่ ควรออกแรงเตะจากตรงเข่า[5]

ใช้การเตะเท้า 2 จังหวะ. การเตะเท้าจังหวะ 2 ครั้งจะใช้พลังงานน้อยลง ใช้กับการว่ายน้ำ ระยะไกลและปานกลาง โดยเตะขา 1 ข้างต่อ การวาดแขน 1 รอบ การวาดแขน 1 รอบนั้น หมายถึงการวาดแขนของแขน 1 ข้าง เตะขา หนึ่งข้างในจังหวะเดียวกันกับการวาดแขน ลงใต้น้ำของแขนข้างตรงข้าม (การวาดแขน ลงใต้น้ำคือจังหวะที่แขนเริ่มดึงน้ำในทิศ เข้าหาตรงกลางลำตัว) หากสามารถ จินตนาการได้ว่าแขนกับขาสองข้างสัมพันธ์ กันอย่างไรขณะเดิน แขนแกว่งไปด้านหน้า พร้อมขาข้างตรงข้าม ก็เช่นเดียวกับการเตะ ขาที่สัมพันธ์กับการวาดแขน[6] [7] [8] เตะขา 6 จังหวะคือจะต้องเตะ 3 ครั้งต่อการ วาดแขนข้างหนึ่ง 3 รอบ โดยจังหวะที่3ของ รอบการเตะจะเริ่มเมื่อนำมือกลับมาที่เดิม เป็นการเตะที่เร็วยิ่งขึ้นซึ่งจะใช้ในนักว่ายน้ำที่ ว่ายได้ค่อนข้างเร็วแล้ว

เหยียดนิ้วเท้าให้ชี้ออก. หากนิ้วเท้าไม่ชี้ไปด้าน หลังขณะเตะจะทำให้เกิดแรงต้านน้ำมากขึ้นจาก เท้าเปล่า โดยนิ้วเท้านั้นควรบิดเข้าด้านในหากัน สองข้าง แล้วนิ้งโป้งเท้าสองข้างอยู่เกือบชิดกัน ขณะเตะ เมื่อนิ้วเท้าเหยียดได้แล้ว ให้เตะขยับข้อ เท้าไปมา หากมีปัญหาความยืดหยุ่นของข้อเท้า น้อยอาจใช้เป็นตีนกบที่ความยาวปานกลางใน การฝึกเตะแทนได้. สามารถใช้เทคนิคการว่ายฟรีสไตล์ของทั้งแขน และขาร่วมกันได้ง่ายขึ้นโดยการใช้ตีนกบช่วยให้ พุ่งไปด้านหน้าได้มากขึ้น แต่การใช้แค่ตีนกบ เพียงอย่างเดียวก็จะช่วยฝึกการใช้นิ้วเท้าขณะ ว่ายได้[9]

จัดทำโดย ด.ช.ธนภูมิ ยมจันทร์ ด.ช.ธนโชติ วงษ์สุวรรณ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook